00:00:35 → 00:00:36 เริ่มต้นรายการเหมือนเดิมค่ะ
00:00:36 → 00:00:38 ช่วงนี้หมอคุยข่าว
00:00:38 → 00:00:39 สนับสนุนโดย
00:00:39 → 00:00:43 ออลวิเต้นวัตกรรมเพื่อความกระจ่างใสจากประเทศเกาหลี
00:00:43 → 00:00:45 อยากสวย อยากใส อยากผิวดีเป็นผิวแบบ
00:00:45 → 00:00:47 ในอุดมคติของทุกคน
00:00:47 → 00:00:49 ให้ออลวิเต้ดูแลคุณนะคะ
00:00:49 → 00:00:52 แต่อันนี้ไปใกล้ๆค่ะคุณหมอขาเป็นเรื่องราวของสาว
00:00:52 → 00:00:56 จีนแล้วก็เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เราจะคุยในวันนี้ก็คือเรื่องของน้ำตาล
00:00:56 → 00:00:58 สาวจีนไม่ระบุชื่อนะคะ
00:00:58 → 00:01:00 รายนึงอายุ18ปีอยู่ที่เซี่ยงไฮ้นะคะ
00:01:01 → 00:01:03 คือเธอเนี่ยชอบทานชานมไข่มุกมาก
00:01:03 → 00:01:07 วันอยู่วันนึงเนี้ยเธอถูกหามส่งโรงพยาบาลเพราะว่ามีอาการโคม่า
00:01:07 → 00:01:09 ซึ่งสืบไปสืบมาอะอาการที่เป็นก็คือ
00:01:09 → 00:01:11 อยู่ๆก็นอนแน่นิ่งหมดสติ
00:01:11 → 00:01:14 อยู่ในห้องครอบครัวก็เลยพาไปส่งโรงพยาบาลนะคะ
00:01:14 → 00:01:15 ก็ไปตรวจ
00:01:15 → 00:01:17 เจอระดับปริมาณน้ำตาลในเลือด
00:01:18 → 00:01:21 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ปกติถึง25เท่า
00:01:22 → 00:01:23 คุณหมอที่เซี่ยงไฮ้ก็เลย
00:01:23 → 00:01:26 สอบถามครอบครัวว่าพฤติการกินน้องเป็นยังไง
00:01:26 → 00:01:27 อันดับแรกคือน้องเนี่ยอ้วนน้ำหนัก
00:01:27 → 00:01:29 ตัว125กิโล
00:01:29 → 00:01:32 สองก็คือน้องทานชานมไข่มุกทุกวัน
00:01:32 → 00:01:34 วันละสองแก้วเป็นอย่างต่ำ
00:01:34 → 00:01:36 ทุกวัน1เดือนเต็มๆ
00:01:36 → 00:01:38 ที่หยุดอยู่บ้านแล้วก็ทานนะคะ
00:01:38 → 00:01:40 ช่วงที่เป็นข่าวเนี่ยเธอยังอยู่ในICUแล้ว
00:01:40 → 00:01:43 ก็ยังคงต้องฟอกไตอย่างต่อเนื่อง
00:01:43 → 00:01:45 หลังจากนั้นเราไม่ได้อัพเดทอาการต่อแล้วว่าเป็นยังไง
00:01:45 → 00:01:46 แต่จะบอกว่า
00:01:46 → 00:01:48 อายุ18คุณหมอ
00:01:49 → 00:01:50 เลยทำให้รู้สึกว่า
00:01:50 → 00:01:54 ไอน้ำตาลในเลือดเนี่ยมันน่ากลัว มันอันตรายขนาดนี้เลยหรอคะ
00:01:54 → 00:01:57 งั้นเรามาคุยกันดีกว่าว่าเจ้าภาวะน้ำตาลในเลือด
00:01:57 → 00:02:00 สูง แล้วมันคืออะไร อาการมันเป็นยังไงคะคุณหมอขา
00:02:00 → 00:02:04 คือจริงๆระยะแรกๆของคนที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเนี่ย
00:02:05 → 00:02:06 ก่อนจะเป็นเบาหวาน
00:02:06 → 00:02:08 บางทีเนี่ย ไม่มีอาการอะไร
00:02:08 → 00:02:10 งั้นก็คือสาเหตุที่ทำให้คนอะไม่รู้ว่าตัวเอง
00:02:11 → 00:02:14 กำลังคลืบคลานเข้าสู่โรคเบาหวานเวลาเราไป
00:02:14 → 00:02:15 ตรวจน้ำตาลเนี่ย
00:02:15 → 00:02:17 ถ้าปกติคือ70ถึง100
00:02:19 → 00:02:21 ถ้าเกิดว่าประมาณ90กว่าๆเนี่ย
00:02:21 → 00:02:22 คนไข้ส่วนใหญ่สมมุติว่าพอ
00:02:22 → 00:02:24 เจาะน้ำตาลมาได้90กว่าๆคนไข้ก็จะ
00:02:25 → 00:02:26 ยังนิ่งนอนใจอยู่
00:02:26 → 00:02:29 ฉันรอด ฉันรอด ก็ยังไม่ได้ใส่ใจแต่ว่าจริงๆแล้วเนี้ย
00:02:30 → 00:02:33 อย่าได้นอนใจเพราะว่าอย่าลืมว่าในขณะที่คุณไปเจาะ
00:02:33 → 00:02:34 เลือดเนี่ยนั่นคือคุณ
00:02:34 → 00:02:37 อดอาหารนานอย่างน้อยเนี้ยคือ8ชั่วโมง
00:02:37 → 00:02:39 แต่ว่ามันไม่ใช่ในชีวิตประจำวันจริงๆของเรา
00:02:39 → 00:02:41 ไม่ใช่น้ำตาลสะสมที่แท้จริง
00:02:41 → 00:02:42 ใช่ ไม่ใช่น้ำตาลสะสมที่แท้จริง
00:02:43 → 00:02:45 แต่ว่าจริงๆแล้วเนี้ยภาวะน้ำตาลในเลือดสูงนะมัน
00:02:45 → 00:02:47 เป็นอะไรที่ค่อยเป็นค่อยไป
00:02:47 → 00:02:48 แรกไม่มีอากร
00:02:48 → 00:02:50 เราไม่เห็นความผิดปกติ
00:02:50 → 00:02:52 หรือแม้กระทั่งคุณเป็นเบาหวานแล้วเนี้ย
00:02:52 → 00:02:55 มันยังไม่มีอาการไรให้เห็นเลยคุณแนนบางที
00:02:55 → 00:02:57 คือจะมีก็ต่อเมื่อ
00:02:57 → 00:02:58 น้ำตาลจะต้องสูงมากๆ
00:02:59 → 00:03:01 ยิ่งถ้าคนเป็นนานๆอาจจะไม่มีอาการผิดปกติให้เรา
00:03:01 → 00:03:03 รู้เลยว่าตอนเนี้ย
00:03:03 → 00:03:04 น้ำตาลในเลือดมันสูงนะ
00:03:05 → 00:03:07 หรือบางทีเนี่ยมีอาการนิดหน่อย บางทีเราไม่ได้สังเกตุ
00:03:08 → 00:03:09 ยกตัวอย่างเช่น
00:03:09 → 00:03:10 ปัสสาวะบ่อย
00:03:10 → 00:03:12 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงกลางคืน
00:03:12 → 00:03:14 ถ้าคุณปัสสาวะบ่อยช่วงกลางคืนเนี่ย
00:03:14 → 00:03:15 ต้องนึกถึงแล้วว่าเรา
00:03:16 → 00:03:19 มีปัญหาน้ำตาลในเลือดสูงหรือเปล่าบางทีก็อาจจะมีอาการ
00:03:19 → 00:03:20 หิวน้ำบ่อย
00:03:20 → 00:03:23 หรืออีกอันนึงอาการที่พบบ่อยคืออ่อนเพลีย
00:03:24 → 00:03:25 หรือปวดศรีษะ
00:03:25 → 00:03:28 อาการง่ายๆพวกนี้แหละบางทีอาจจะเป็นอาการ
00:03:28 → 00:03:31 เตือนอย่างนึงของการที่เรามีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
00:03:31 → 00:03:33 แล้วถ้าเราไม่ได้เช็คหรือเราไม่ได้ใส่ใจ
00:03:34 → 00:03:35 มันก็อาจจะนำไปสู่คือ
00:03:35 → 00:03:37 เป็นแล้วไม่รู้ตัว อาจจะเป็นเหมือนน้องรายเนี้ย
00:03:38 → 00:03:39 พอเราเป็นแล้วเราไม่รู้ตัว
00:03:39 → 00:03:40 ก็ยังกินน้ำตาลเข้าไปอีก
00:03:40 → 00:03:41 ถูก
00:03:41 → 00:03:43 ทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงจนกระทั่งเกิดภาวะ
00:03:44 → 00:03:45 เป็นกรดในเลือด
00:03:46 → 00:03:46 แล้วก็ทำให้เกิด
00:03:47 → 00:03:47 ปัญหา
00:03:47 → 00:03:50 อย่างในรายเนี่ยได้คือจนกระทั่งถึงโคม่าได้เลย
00:03:51 → 00:03:52 คนไข้ก็จะมีอาการมากมาย
00:03:52 → 00:03:56 อาจจะเริ่มจากลมหายใจมีกลิ่นก่อน ก็จะมีกลิ่นคล้ายๆกับผลไม้
00:03:56 → 00:03:58 บางทีเขาอาจจะมีอาการหายใจสั้น มีปากแห้ง
00:03:59 → 00:04:02 มีอาการอ่อนเพลีบมาก คลื่นไส้อาเจียน น้ำหนักลด
00:04:02 → 00:04:03 สับสน
00:04:03 → 00:04:05 เช่นเวลาเรามีแผลก็มีแผลหายช้า
00:04:06 → 00:04:08 หรือบางทีมีติดเชื้อบริเวณผิวหนังหรือตก
00:04:08 → 00:04:09 ขาวซ้ำๆ
00:04:10 → 00:04:12 มีการอักเสบในช่องคลอดบ่อยๆ
00:04:12 → 00:04:13 เนี้ยบางทีต้องนึกถึง
00:04:14 → 00:04:15 หรือบางทีรูขุมขนอักเสบ
00:04:15 → 00:04:16 หรือบางคนคุณแนน
00:04:16 → 00:04:18 เป็นสิวบริเวณคาง
00:04:18 → 00:04:20 เจอของหวานเข้าไปหน่อยสิวขึ้น
00:04:21 → 00:04:22 บาบงทีเขาเรียกว่าอันเนี้ย
00:04:22 → 00:04:23 มันเป็นเบาหวานของผิวหนัง
00:04:24 → 00:04:28 หรือบางทีอาจจะมาด้วยเรื่องปัญหาเกี่ยวกับดวงตาเลยก็ได้
00:04:28 → 00:04:31 หรือบางทีเนี่ยเบาหวานอาจจะเกิดจากโรค
00:04:31 → 00:04:32 อื่นๆ
00:04:32 → 00:04:33 เช่นตับอ่อนอักเสบ
00:04:33 → 00:04:35 มะเร็งตับอ่อน
00:04:36 → 00:04:37 ไทรอยด์ทำงานไม่ปกติ
00:04:38 → 00:04:40 หรืออาจจะเป็นโรคที่มีภาวะ
00:04:40 → 00:04:42 เกี่ยวกับพวกฮอร์โมนคอร์ติซอลในเลือด
00:04:42 → 00:04:43 ผิดปกติ
00:04:43 → 00:04:45 เป็นกลุ่มที่เราเรียกว่าคุชชิ่ง
00:04:45 → 00:04:47 ก็อาจจะมาด้วยเรื่องของน้ำตาลสูงได้
00:04:47 → 00:04:49 คนไข้อาจจะมีเนื้องอกบางอย่าง
00:04:49 → 00:04:50 อยู่ๆก็
00:04:50 → 00:04:51 ทำให้มีภาวะ
00:04:51 → 00:04:52 น้ำตาลในเลือดสูง
00:04:52 → 00:04:55 หรือบางกรณีคนไข้ที่ต้องรับประทานยาบางอย่าง
00:04:56 → 00:04:58 บางทีเนี่ยมันมาจากยาที่เรารับประทาน
00:04:58 → 00:05:01 นะยกตัวอย่างเช่นยาในกลุ่มของโรคหัวใจบางอย่าง
00:05:02 → 00:05:03 ยาสเตียรอยด์
00:05:03 → 00:05:04 ยาคุมกำเนิดบางอย่าง
00:05:05 → 00:05:06 หรือในกลุ่มคนที่มีความเครียด
00:05:07 → 00:05:08 กินเยอะ
00:05:08 → 00:05:10 ขี้เกียจ ไม่ออกกำลังกายก็เหมือนกัน
00:05:10 → 00:05:12 พวกนี้ถ้าเป็นไม่มากเนี่ย มันรักษาได้
00:05:12 → 00:05:13 มันสามารถจะควบคุม
00:05:14 → 00:05:15 ระดับน้ำตาลให้ปกติได้
00:05:16 → 00:05:18 หรือว่าอาจจะต้องรับประทานยาบางอย่าง
00:05:18 → 00:05:20 ด้วยเพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาล
00:05:20 → 00:05:21 ก็สามารถที่จะ
00:05:21 → 00:05:22 ช่วยได้
00:05:22 → 00:05:24 เอาจริงๆโรคเบาหวานมันเป็น
00:05:24 → 00:05:26 โรคเรื้อรังใช่มั้ยคะคุณหมอขา
00:05:26 → 00:05:28 เราก็ต้องดูแลกันไปตลอดชีวิต แต่ว่าอย่าปล่อยให้
00:05:29 → 00:05:30 ระดับน้ำตาลในเลือด
00:05:30 → 00:05:32 สูงแบบเรืัอรังต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ
00:05:32 → 00:05:35 แบบที่คุณหมอบอกเพราะว่ามันอาจจะก่อให้เกิดโรค
00:05:35 → 00:05:37 อื่นที่มันร้ายแรงกว่าตามมานะคะ
00:05:38 → 00:05:41 อยากสุขภาพดีก็พยายามหลีกเลี่ยงน้ำตาล
00:05:41 → 00:05:43 เพื่อจะได้ไม่เพิ่มปริมาณน้ำตาลในเลือดให้เราแบบว่า
00:05:43 → 00:05:45 เจ็บป่วยกันนะคุณผู้ชม
00:05:45 → 00:05:46 งั้นเดี๋ยวช่วงหน้าเรื่อง
00:05:46 → 00:05:49 ของเบาหวานบอกแล้วว่ามันเบาใจไม่ได้
00:05:49 → 00:05:51 เดี๋ยวกลับมาคุยกันพักซักครู่ก่อนค่ะ