00:00:04 → 00:00:06 [เพลง]
00:00:06 → 00:00:09 สวัสดีครับผมวีระพงษ์ทวีศักดิ์ดิฉันสุด
00:00:09 → 00:00:12 ที่ราภรณ์ปริและนี่คือศัลยกรรมความ
00:00:12 → 00:00:16 สุขรายการที่ฟังแล้วทำให้คุณมีความสุขมาก
00:00:16 → 00:00:19 ขึ้นมีความทุกข์น้อยลง
00:00:19 → 00:00:23 คุณผู้ฟังคะรายการศัลยกรรมความสุขวันนี้
00:00:23 → 00:00:26 เราอยากคุยถึงประโยคว่า thank you
00:00:26 → 00:00:28 teacher
00:00:28 → 00:00:32 [เพลง]
00:00:32 → 00:00:35 คุณผู้ฟังได้ยินประโยคนี้แล้วคิดถึงอะไร
00:00:35 → 00:00:38 คะ
00:00:38 → 00:00:40 ระหว่างที่คุณผู้ฟังคิดอยู่
00:00:40 → 00:00:44 ถามพี่วีแล้วกันว่าพี่วีได้ยินประโยคนี้
00:00:44 → 00:00:51 แล้วคิดถึงอะไรคะ
00:00:51 → 00:00:55 ผมนึกถึงบรรยากาศของการเรียนวิชาภาษา
00:00:55 → 00:00:56 อังกฤษ
00:00:56 → 00:00:58 ตอนที่หมด
00:00:58 → 00:01:02 มันเป็นประโยคที่ผมชื่นชอบมากเลยเพราะ
00:01:02 → 00:01:05 อะไรเพราะว่ามันเป็นประโยคที่บอกว่าวิชา
00:01:05 → 00:01:08 ภาษาอังกฤษได้จบลงแล้วในวันนี้
00:01:08 → 00:01:12 ฉันจะได้เลิกเรียนแล้วเพราะว่าสมัยสมัย
00:01:12 → 00:01:16 เป็นเด็กประถมเนี่ยกับมัธยมเป็นเด็กประถม
00:01:16 → 00:01:18 เนี่ยไม่ชอบวิชาภาษาอังกฤษเลย
00:01:18 → 00:01:20 แล้วเรียนไม่รู้เรื่องเลย
00:01:20 → 00:01:23 แต่ว่าพอได้ยินปุ๊บเนี่ยมันจะนึกถึงเลย
00:01:23 → 00:01:27 ว่าพอจบปุ๊บหัวหน้าห้องจะบอกว่า Stand Up
00:01:27 → 00:01:29 แล้วทุกคนก็จะพูดว่า thank you teacher
00:01:29 → 00:01:33 แล้วมันจะมีมันเป็นช่วงเวลาของความมีความ
00:01:33 → 00:01:39 สุขว่าช่วงเวลาที่เราไม่ชอบจบลงแล้ว
00:01:39 → 00:01:40 ใช่เลยค่ะ
00:01:40 → 00:01:44 ก็ประโยคนี้เนี่ยถ้าถ้าเป็นพี่อ้อยนะ
00:01:44 → 00:01:48 เพื่อให้จะนึกถึงเด็กเล็กๆประถมค่ะแล้วก็
00:01:48 → 00:01:51 อย่างที่พี่บีพูดเลยก็คือเรียนภาษาอังกฤษ
00:01:51 → 00:01:54 จบในชั่วโมงนั้นละหัวหน้าฉันก็ Stand Up
00:01:54 → 00:01:58 และทุกคนก็จะพูดพร้อมกันว่า thank you
00:01:58 → 00:02:02 teacher ต้องช้าๆแบบนี้ด้วยนะเพราะว่า
00:02:02 → 00:02:05 ทุกคนในห้องต้องพูดพร้อมกันนะคะเด็กเขาก็
00:02:05 → 00:02:07 เลยต้องช้าๆแล้วมันก็เลยกลายเป็นแบบ
00:02:07 → 00:02:12 บรรยากาศของแบบเด็กๆความสดใสอะไรอย่าง
00:02:12 → 00:02:15 เงี้ยกลับคืนมาแล้วก็เป็นบรรยากาศน่ารักๆ
00:02:15 → 00:02:16 นะคะ
00:02:16 → 00:02:19 เออเรื่องๆเราวันนี้ที่เราอยากชวนคุย
00:02:19 → 00:02:23 เนี่ยนะคะก็เป็นเพราะประโยคนี้ล่ะค่ะอืม
00:02:23 → 00:02:28 เป็นเรื่องที่เอ่อพี่อ้อยเนาะไปๆเรียนรู้
00:02:28 → 00:02:31 นะคะเมื่อสัก 2 สัปดาห์ที่แล้ว
00:02:31 → 00:02:36 ก็ไปเรียนรู้กับกลุ่มโค้ชวิทยากร
00:02:36 → 00:02:38 ฟาซิลิเทเตอร์ influencer อะไรอย่างนี้นะ
00:02:39 → 00:02:42 คะเราจะมี section ไปเจอกัน 2 วันในการ
00:02:42 → 00:02:47 ที่เราจะไปแลกเปลี่ยนเครื่องมือใหม่ๆกัน
00:02:47 → 00:02:50 ก็จะไปรวมตัวกัน
00:02:50 → 00:02:55 คราวนี้มีโค้ชคนนึงค่ะเขาก็ไปกับครอบครัว
00:02:55 → 00:02:59 นะคะก็จะมีสามีแล้วก็มีลูก 2 คน
00:02:59 → 00:03:01 ลูกคนเล็กเนี่ยผู้หญิง 6 ขวบ
00:03:01 → 00:03:07 เอง 6 ขวบเองค่ะแล้วก็เอ่อที่ระหว่างที่
00:03:07 → 00:03:09 เรามีโอกาสทานอาหารเที่ยงอะไรอย่างนี้ก็
00:03:09 → 00:03:13 คุยได้คุยกันนะคะก็คุยพบว่า
00:03:13 → 00:03:15 ลูกคนเล็กเนี่ยลูกสาวเนี่ย
00:03:15 → 00:03:18 มีความใฝ่ฝันอยากเป็นครู
00:03:18 → 00:03:23 แล้วพอรู้ว่าแม่มามาเรียนแล้วก็แม่ก็สอน
00:03:23 → 00:03:26 ด้วยแล้วก็มีคนที่คนอื่นสอนด้วยเนี่ยหนู
00:03:26 → 00:03:30 อยากมาด้วยหนูอยากมาสอนค่ะ
00:03:30 → 00:03:35 เราก็เลยคุยกันว่าอ้าวงั้นก็ให้สอนสิเออ
00:03:35 → 00:03:40 ตกลงจะสอนกี่นาทีดียังไงดีแม่กับลูกก็ตก
00:03:40 → 00:03:43 ลงกันบอกว่าสอน 5 นาทีพอ
00:03:43 → 00:03:46 เราก็บอกว่าโอเคหลังทานข้าวเที่ยงเนี่ยมา
00:03:46 → 00:03:48 สอนเลยนะ
00:03:48 → 00:03:52 เราประมาณไปกันประมาณ 10 กว่าคนค่ะ
00:03:52 → 00:03:54 ทุกคนก็ไปรอ
00:03:54 → 00:03:58 ครูตัวน้อย 6 ขวบก็มาเธอสอน
00:03:58 → 00:04:03 การออกเสียงคำศัพท์ที่เป็น Adjective
00:04:03 → 00:04:09 แล้วสำเนียงเธอเนี่ยดีมากๆเลยเวลาเธอพูด
00:04:09 → 00:04:13 Adjective 1 คำพวกเราก็พูดตามนะคะก็ใช้
00:04:13 → 00:04:15 เวลา 5 นาที
00:04:15 → 00:04:19 พอ 5 นาทีจบนะคะพวกเราก็เลยบอกว่า
00:04:19 → 00:04:23 โอ้โหแบบคุณครูสอนเก่งมากเลยพวกเรามา
00:04:24 → 00:04:27 ขอบคุณคุณครูกันเถอะแล้วพวกเราที่มีอายุ
00:04:27 → 00:04:32 ตั้งแต่ 30 ถึง 67 ต่างก็เปล่งเสียงออกมา
00:04:32 → 00:04:36 ว่า thank you teacher สิ่งที่เราได้
00:04:36 → 00:04:41 รับคือสายตาที่แบบโอ้โหเปล่งประกายแล้วก็
00:04:41 → 00:04:44 รอยยิ้มของหนูน้อยวัย 6 ขวบที่มีความสุข
00:04:44 → 00:04:48 มากที่เด็กนักเรียนวัยเก่าขอบคุณด้วย
00:04:48 → 00:04:51 ประโยคนี้ค่ะ
00:04:51 → 00:04:54 เรื่องนี้มันทำให้พี่อ้อยเรียนรู้ว่า
00:04:54 → 00:05:00 เออจริงๆพอเราอายุเยอะขึ้นน่ะเราชอบเป็น
00:05:00 → 00:05:05 คนสอนเพราะเราเป็นผู้ใหญ่เราต้องสอนเด็ก
00:05:05 → 00:05:08 ทำไมเราไม่ให้เด็กสอนเราบ้างอ่ะนะคะจริงๆ
00:05:08 → 00:05:13 แล้วเนี่ยมันไม่ใช่ว่าผู้ใหญ่เท่านั้นที่
00:05:13 → 00:05:16 จะสอนเด็กเด็กเนี่ยเขามีอะไรบางอย่างหรือ
00:05:16 → 00:05:21 ที่ที่จะบอกว่าเขามีความเปิดกว้างกว่าเรา
00:05:21 → 00:05:24 เช่นถ้าสมมุติว่าเราถามเด็กว่าคุณอยาก
00:05:24 → 00:05:26 เป็นหนูอยากเป็นอะไร
00:05:26 → 00:05:30 นายกบ้างล่ะตำรวจทหารพยาบาลอะไรก็ตาม
00:05:30 → 00:05:33 เนี่ยเขาไม่มีขีดจำกัด
00:05:33 → 00:05:35 แต่ว่าถ้าถามผู้ใหญ่
00:05:35 → 00:05:37 พี่บีอยากเป็นอะไรคะ
00:05:37 → 00:05:41 เนี่ยพอถามผู้ใหญ่ปุ๊บเราจะคิดเยอะเราจะ
00:05:41 → 00:05:45 คิดว่าอันนั้นมันจะเป็นไปได้ไหม
00:05:45 → 00:05:50 ตอบยากก็จะนิ่งไปแล้วก็จะคิดว่าฉันพูดไม่
00:05:50 → 00:05:54 เก่งฉันไม่ได้จบสาขานี้ฉันไม่ชอบพูดต่อ
00:05:54 → 00:06:02 หน้าผู้คนชั้นนี่ชั้นนู้นภาษาอังกฤษ
00:06:02 → 00:06:06 ก็เลยมองว่าจริงๆแล้วคนเราอ่ะเรียนรู้ได้
00:06:06 → 00:06:10 จากทุกสิ่งไม่ว่ารอบตัวทุกเรื่องเลยแล้ว
00:06:10 → 00:06:13 ก็รวมทั้งเด็กๆด้วยที่ฟังเรื่องนี้แล้ว
00:06:13 → 00:06:15 คิดยังไงคะ
00:06:15 → 00:06:19 ผมนึกถึงเลยว่ามันน่าสนใจอยู่ 2 ประเด็น
00:06:19 → 00:06:23 ประเด็นที่ 1 ก็คือว่าการที่พี่อ้อยพร้อม
00:06:23 → 00:06:25 เพื่อนๆซึ่งเป็นวิทยากรซึ่งเป็นผู้ใหญ่
00:06:25 → 00:06:28 เนี่ยมีความรู้สึกว่าอยากจะขอบคุณแล้วก็
00:06:28 → 00:06:30 พูดคำว่า thank you teacher เนี่ยนะ
00:06:30 → 00:06:33 พร้อมๆกันเนี่ยมันเป็นคำพูดว่า thank you
00:06:33 → 00:06:35 ที่หมายถึง Thank You
00:06:35 → 00:06:38 เป็นคำพูดขอบคุณ Thank You ขอบคุณแต่ว่า
00:06:38 → 00:06:41 เราพูดคำว่าขอบคุณซึ่งหมายถึงว่าเรารู้
00:06:41 → 00:06:44 สึกว่าขอบคุณครูตัวน้อยนั้นจริงๆจริงๆ
00:06:45 → 00:06:48 แล้วมันทำให้ผมนึกย้อนกลับไปว่าในสมัยที่
00:06:48 → 00:06:50 เราเป็นเด็กแล้วเวลาที่เราพูดคำว่า thank
00:06:50 → 00:06:54 you teacher เนี่ยเราพูดคำว่าขอบคุณแต่
00:06:54 → 00:06:55 เราไม่ได้หมายถึงขอบคุณ
00:06:55 → 00:06:59 เราไม่ได้หมายความว่า
00:06:59 → 00:07:02 จริงใจนั่นเอง
00:07:02 → 00:07:05 แล้วเราพูดถึงคำว่าขอบคุณนะ
00:07:05 → 00:07:09 คะดีใจว่าเย้ไม่ต้องเรียนแล้วพอแล้ววัน
00:07:09 → 00:07:10 นี้
00:07:10 → 00:07:12 เฮ้ยอันนี้อันนี้เป็นอันที่ 1 นะประเด็น
00:07:12 → 00:07:16 ที่ 2 ซึ่งผมคิดถึงเลยนะที่พี่อ้อยล่าบอก
00:07:16 → 00:07:19 ว่าหลายครั้งเนี่ยเราเรียนรู้จักเด็กได้
00:07:19 → 00:07:22 แล้วเด็กเป็นครูเราเนี่ยมันจะให้ผมนึกถึง
00:07:22 → 00:07:23 เคสๆอย่างเงี้ย
00:07:23 → 00:07:26 มีวันนึงเนี่ยผมไปเป็นวิทยากรคือผมเป็น
00:07:26 → 00:07:29 วิทยากรบรรยายสารพัดนะแล้วก็กลับทุกกลุ่ม
00:07:29 → 00:07:32 มีอยู่ครั้งหนึ่งก็ไปบรรยายเรื่องเกี่ยว
00:07:32 → 00:07:35 กับสื่อนี่แหละให้กับเด็กแบบ
00:07:35 → 00:07:37 ประถม
00:07:37 → 00:07:39 แล้วเวลาที่เราไปบรรยายเรื่องเข้าทางสื่อ
00:07:39 → 00:07:41 เรื่องอะไรอย่างนี้นะเราก็จะพูดถึงเรื่อง
00:07:41 → 00:07:44 ของสอนเด็กเรื่องเกี่ยวกับ
00:07:44 → 00:07:46 ค่านิยม
00:07:46 → 00:07:48 ของสมัยนี้นู่นนี่นั่นอะไรอย่างนี้แต่
00:07:48 → 00:07:51 ความที่เราบรรยายเรื่องนี้จนเป็นธรรมชาติ
00:07:51 → 00:07:56 เราลืมนึกไปครับว่าเด็กในวัยนั้นที่เราไป
00:07:56 → 00:07:59 สอนวันนั้นน่ะคำว่าค่านิยม
00:07:59 → 00:08:02 เขามันไม่เข้าใจเขาไม่เข้าใจ
00:08:02 → 00:08:06 วันนี้ผู้ใหญ่หลายๆคนยังไม่เข้าใจนะคะมัน
00:08:06 → 00:08:08 เป็นคำที่เราก็คุณชินดูนะ
00:08:08 → 00:08:14 แต่ว่าเอาเข้าจริง
00:08:14 → 00:08:17 วันนั้นเราก็สอนเรื่องนี้แล้วก็พูดไป
00:08:17 → 00:08:19 เนี่ยแบบอัตโนมัตินะ
00:08:19 → 00:08:23 แล้วมีเด็กคนหนึ่งยกมือถาม
00:08:23 → 00:08:28 อาจารย์ครับค่านิยมหมายถึงอะไร
00:08:28 → 00:08:30 ไปไม่เป็นเลยนะ
00:08:30 → 00:08:34 [เพลง]
00:08:34 → 00:08:38 แล้วเราไม่เคยมีความถามว่าจะมีคนที่ไม่
00:08:38 → 00:08:41 เข้าใจคำนี้แล้วพอคนที่ถามเป็นเด็ก
00:08:41 → 00:08:46 แล้วเราจะต้องตอบคำนี้ถ้าเปิดพจนานุกรมหา
00:08:46 → 00:08:50 ความหมายเลยนะและอ่านให้ฟังเลยนะน่าจะงง
00:08:50 → 00:08:50 ขึ้น
00:08:50 → 00:08:53 [เสียงหัวเราะ]
00:08:53 → 00:08:56 ตอบสำหรับเด็กเราจะตอบยังไง
00:08:56 → 00:09:00 ยิ่งแย่เข้าไปอีกชั้นนึงผมก็
00:09:00 → 00:09:02 วิธีที่ผมใช้ตอนนั้นก็คือเอาเข้าจริงๆตอน
00:09:02 → 00:09:04 นั้นไม่รู้จะตอบยังไงนะ
00:09:04 → 00:09:07 วิธีที่ผมใช้ก็คือผมก็เลยถามเด็กนักเรียน
00:09:07 → 00:09:10 ในชั้นว่ามีใครอยากจะอธิบายให้เพื่อนฟัง
00:09:10 → 00:09:10 ไหม
00:09:10 → 00:09:13 [เสียงหัวเราะ]
00:09:13 → 00:09:14 ก็คือ
00:09:15 → 00:09:25 มีครับ
00:09:25 → 00:09:31 ข้อที่ไอ้คนเขานิยมกว่าจะเยอะ
00:09:31 → 00:09:37 นะก็คือค่านิยมก็คือใครนิยมอันนี้นิยมไป
00:09:37 → 00:09:41 ก็แล้วแต่อะไรบางอย่างที่คนนิยมกว่าเยอะๆ
00:09:41 → 00:09:42 เนี่ย
00:09:42 → 00:09:44 ก็กลายเป็นค่ายเดียว
00:09:44 → 00:09:46 โห
00:09:46 → 00:09:48 เนี่ยพอพี่อ้อยพูดถึงว่าเด็กบางครั้งก็
00:09:48 → 00:09:49 เป็นครูเรา
00:09:49 → 00:09:52 แล้วเราก็เป็นอย่างนี้จริงๆวันนั้นเนี่ย
00:09:52 → 00:09:54 เด็กคนนั้นเป็นครูผมเลย
00:09:54 → 00:10:00 อย่างนี้พี่บีจำแม่นเลยจำแม่นเลย
00:10:00 → 00:10:03 พอมาฟังเรื่องของพี่อ้อยวันนั้นเนี่ยวัน
00:10:03 → 00:10:08 นั้นผมลืม thank you teacher ไปเลย
00:10:08 → 00:10:11 thank you teacher แต่มีอีกประเด็น
00:10:11 → 00:10:12 หนึ่งที่สำคัญนะพี่อ้อย
00:10:12 → 00:10:15 ที่
00:10:15 → 00:10:19 พอผมพูดถึงว่าตอนที่เราเป็นเด็กเราไม่ชอบ
00:10:19 → 00:10:22 เรียนภาษาอังกฤษแล้วเรียนไม่รู้เรื่องเลย
00:10:22 → 00:10:24 แล้วก็มันทำให้เราไม่สนุก
00:10:24 → 00:10:27 พอไม่สนุกไม่รู้เรื่องปุ๊บ
00:10:27 → 00:10:30 ทุกครั้งเวลาที่จบคลาสเนี่ยเราพูดว่า
00:10:30 → 00:10:32 thank you แต่เราไม่หมายถึง Thank You
00:10:32 → 00:10:34 เราหมายถึงความยินดีที่เราจะไม่ต้องเรียน
00:10:34 → 00:10:39 วิชานี้แล้วในวันนี้แต่ว่าจุดเปลี่ยนมัน
00:10:39 → 00:10:40 อยู่ตรงไหนรู้ไหม
00:10:40 → 00:10:45 อยากรู้ค่ะแล้วมันทำให้ผมด้วยว่าแล้วเรา
00:10:45 → 00:10:47 เคยรู้สึกว่า thank you teacher สักคน
00:10:47 → 00:10:51 หนึ่งอย่างจริงๆ
00:10:51 → 00:10:54 เป็นครูที่สอนภาษาอังกฤษตอนที่ผมเรียน
00:10:54 → 00:10:58 สมัยนั้นเป็นเขาเรียกว่าหมอหนึ่ง
00:10:58 → 00:11:00 ก็คือ
00:11:00 → 00:11:05 ประมาณเทียบกับม 2 สมัยนี้
00:11:05 → 00:11:08 ก็คือเป็นมัธยมต้นละกันนะ
00:11:08 → 00:11:10 จากการที่เราเรียนภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง
00:11:10 → 00:11:14 เลยอ่ะแล้วเราก็เรียนแบบงงๆๆเลยนะมีอยู่
00:11:14 → 00:11:17 วันหนึ่งมีครูคนหนึ่งยังจำชื่อคุณครูได้
00:11:17 → 00:11:20 เลยนะขอเอ่ยชื่อคุณครูแทนคำขอบคุณนะเขา
00:11:20 → 00:11:22 ชื่อ Master Second
00:11:22 → 00:11:24 เขาก็
00:11:24 → 00:11:26 เป็นครูที่ดุมาก
00:11:26 → 00:11:29 ดุมากแต่มีอยู่วันหนึ่งเรียนเนี่ยเขาก็
00:11:29 → 00:11:32 เดินเข้ามาในห้องวิชาภาษาอังกฤษนะและเขา
00:11:32 → 00:11:35 ไม่เขาไม่เริ่มสอนด้วยการสอนอะไรเลย
00:11:35 → 00:11:39 เขาก็หันหันหลังให้เราหันหน้าเข้ากระดาษ
00:11:39 → 00:11:45 แล้วเขาก็ตีกระดานกระดานใช้ช็อคนี่นะแล้ว
00:11:45 → 00:11:48 เขาก็ตีช่องตีตารางตีช่องตีตารางเป็นช่อง
00:11:48 → 00:11:52 ๆๆแล้วก็มีบรรทัดๆแล้วเขาก็ค่อยๆเติมเข้า
00:11:52 → 00:11:53 ไปในแต่ละช่อง
00:11:53 → 00:11:57 เรื่อง Verb คือเขาเขียนๆๆๆๆๆเสร็จปุ๊บ
00:11:57 → 00:12:00 คือกว่าเขาจะเขียนตารางเสร็จน่ะ
00:12:00 → 00:12:03 มันป่าเข้าไปครึ่งชั่วโมงด้วยความงงว่า
00:12:03 → 00:12:06 เฮ้ยทำไมไม่สอนล่ะ
00:12:06 → 00:12:08 แล้วไม่พูดไม่จาก็หันหลังเขียนอยู่อย่าง
00:12:08 → 00:12:11 นั้นน่ะเขียนอยู่ครึ่งชั่วโมงเขียนเสร็จ
00:12:11 → 00:12:15 ปุ๊บหันกลับมาอธิบาย
00:12:15 → 00:12:16 ตารางนั้น
00:12:16 → 00:12:19 เกี่ยวกับเรื่อง verb นะครับ verb to be
00:12:19 → 00:12:21 Verb to the verb to have อะไร
00:12:21 → 00:12:23 เนี่ยเค้าเขียนเต็มไปหมดเลย
00:12:23 → 00:12:25 แล้วก็หันหลังมาอธิบาย
00:12:25 → 00:12:28 พี่อ้อยเชียงใหม่ครับว่าตารางนั้นจากวัน
00:12:28 → 00:12:32 นั้นเนี่ยทำให้ผมเข้าใจภาษาอังกฤษแบบทะลุ
00:12:32 → 00:12:34 เลย
00:12:34 → 00:12:38 คือนึกถึง thank you teacher นี่ก็คือ
00:12:38 → 00:12:43 Thank You Master เสกสรรค์เลย
00:12:43 → 00:12:47 เพราะว่ามันพลิกจากเด็กคนหนึ่งที่ไม่ชอบ
00:12:47 → 00:12:49 เรียนภาษาอังกฤษเลยนะ
00:12:49 → 00:12:52 จากวันนั้นเนี่ยชอบเรียนวิชาภาษาอังกฤษ
00:12:52 → 00:12:55 มากเพราะว่าพอเราเรียนเข้าใจปุ๊บแล้วมัน
00:12:55 → 00:12:59 เรียนสนุกมากแล้วทำให้เราแบบชอบภาษา
00:12:59 → 00:13:02 อังกฤษไปเลยแล้วจากเดิมสมัยก่อนตอนประถม
00:13:02 → 00:13:05 นะวิชาภาษาอังกฤษนะคะแนนจะต่ำเตี้ยเรียน
00:13:05 → 00:13:06 ดีมาก
00:13:06 → 00:13:09 แต่อยากวันนั้นเนี่ยพอพลิกสถานการณ์เป็น
00:13:09 → 00:13:10 เข้าใจปุ๊บ
00:13:10 → 00:13:13 หลังจากนั้นเป็นต้นมาเนี่ยตอนเรียนมัธยม
00:13:13 → 00:13:15 ต้นมัธยมปลายเนี่ย
00:13:15 → 00:13:19 วิชาภาษาอังกฤษเนี่ยทุกเทอมนะครับไม่มี
00:13:19 → 00:13:21 เทอมไหนไม่ได้ A เลย
00:13:21 → 00:13:23 คือโหมันสุด
00:13:23 → 00:13:29 กลายเป็นได้ A ตลอดจากตารางนั้นเลย
00:13:29 → 00:13:32 แล้วกลายเป็นว่าสมัยก่อนตอนเรียนง่ายมาก
00:13:32 → 00:13:35 แต่ว่าภาษาอังกฤษนั้นเนี่ยกลายเป็นว่า
00:13:35 → 00:13:37 หลังจากวันนั้นเนี่ยเราเรียนภาษาอังกฤษ
00:13:37 → 00:13:41 ด้วยความสนุกสนานนะแล้วจด Lecture แบบโห
00:13:41 → 00:13:42 สนุกมาก
00:13:42 → 00:13:47 ฟังเรื่องของพี่วีนึกถึงประโยคนึงค่ะ
00:13:47 → 00:13:50 คือก่อนที่จะบอกประโยคนั้นมีความรู้สึก
00:13:50 → 00:13:56 ว่าครูที่สอนภาษาอังกฤษแล้วลูกศิษย์บอก
00:13:56 → 00:13:59 เบื่อหน่ายไม่อยากเรียนด้วยเนี่ย
00:13:59 → 00:14:03 ครูคนนั้นอาจจะไม่ได้เรียนรู้จากลูกศิษย์
00:14:03 → 00:14:07 ว่าลูกศิษย์ไม่เข้าใจต้องการอะไรอยากรู้
00:14:07 → 00:14:10 อยากเคลียร์ตรงไหนหรืออะไรอย่างนี้นะคะใน
00:14:10 → 00:14:14 ขณะที่ Master เสกสรรค์คงตกผลึกแล้วว่า
00:14:14 → 00:14:17 ตารางนั้นแหละใช้เวลาไปครึ่งชั่วโมงนั่น
00:14:17 → 00:14:20 แหละแต่สุดท้ายแล้วอีกครึ่งชั่วโมง
00:14:20 → 00:14:22 เหลือเฟือสำหรับที่จะทำให้ลูกศิษย์เข้าใจ
00:14:22 → 00:14:26 ได้มันก็เลยมีประโยชน์นึงเขาบอกว่า
00:14:26 → 00:14:28 ครูแต่ครูในที่นี้เนี่ยพี่อ้อยอาจจะไม่
00:14:28 → 00:14:30 ได้หมายถึงอาชีพครูอย่างเดียวแต่หมายถึง
00:14:30 → 00:14:33 ว่าจริงๆตัวทุกคนทุกคนน่ะก็มีความเป็นครู
00:14:33 → 00:14:36 พ่อแม่ก็มีความเป็นครู
00:14:36 → 00:14:39 เอ่อวิทยากรต่างๆก็มีความเป็นครูทุกคนน่ะ
00:14:39 → 00:14:41 หัวหน้าก็มีความเป็นครูนะคะเพราะว่าต้อง
00:14:41 → 00:14:44 สอนงานเขาบอกว่า
00:14:44 → 00:14:46 ครูที่ดีค่ะ
00:14:46 → 00:14:50 ครูที่ดีเนี่ยคือครูที่พร้อมจะเรียนรู้
00:14:50 → 00:14:52 จากสิ่ง
00:14:52 → 00:14:54 เพราะฉะนั้นสิทธิ์อาจจะเป็นลูกน่าจะเป็น
00:14:54 → 00:14:57 ลูกอาจจะเป็นใครก็ตามนะแล้วก็ไม่ใช่แค่
00:14:57 → 00:14:59 พร้อมที่จะเรียนรู้จากศิษย์แต่ว่าเรียน
00:15:00 → 00:15:03 รู้จากถูกบทเรียนในชีวิตเพราะฉะนั้นครู
00:15:03 → 00:15:06 ที่ดีคือครูที่พร้อมจะเรียนรู้จากศิษย์
00:15:06 → 00:15:10 และเรียนรู้จากทุกบทเรียนในชีวิตอันนี้
00:15:10 → 00:15:14 คือนึกถึง Master sixon เลยโอ้โหใช่เลย
00:15:14 → 00:15:17 ตอนนี้ผมอยากชวนคุณผู้ฟังด้วยนะว่า
00:15:17 → 00:15:21 คุณฟังลองนึกถึงชีวิตของเราเองเราเคย
00:15:21 → 00:15:25 เรียนรู้อะไรจากใครสักคนหนึ่งหรือจากเหตุ
00:15:25 → 00:15:29 การณ์สักเหตุการณ์นึงแล้วนั่นน่ะสิ่งนั้น
00:15:29 → 00:15:33 คือครูอาจจะเป็นคนตัวคนก็ได้นะหรืออาจจะ
00:15:33 → 00:15:35 เป็นเหตุการณ์สังเกตการณ์ที่เราเคยเรียน
00:15:35 → 00:15:39 รู้เนี่ยแล้วพอเราเรียนรู้เสร็จแล้วบางที
00:15:39 → 00:15:42 เราลืมไปแล้วเราก็ไม่ได้รู้สึกขอบคุณเขา
00:15:42 → 00:15:45 อ่ะเราไม่ได้ Thank You เขาอ่ะแล้วเราก็
00:15:45 → 00:15:49 บางทีเราก็ลืมๆไปเลยแล้วพอเรานึกถึงใน
00:15:49 → 00:15:51 นั้นมันจะทำให้ผมคิดว่านะ
00:15:51 → 00:15:53 การที่เรานึกถึงเนี่ย
00:15:53 → 00:15:55 มันจะทำให้เราเข้าใจ
00:15:55 → 00:15:58 สถานการณ์หรือว่ามันจะทำให้เรามีชีวิต
00:15:58 → 00:16:02 อยู่อย่างอย่างมีความสุขขึ้นน่ะใช่ค่ะมี
00:16:02 → 00:16:07 เลยค่ะพี่วีคืออะไรฮะก็คือที่ในเหตุการณ์
00:16:07 → 00:16:10 ที่เป็นไปเรียนรู้นี่แหละนะคะที่
00:16:10 → 00:16:36 นครชัยศรี
00:16:36 → 00:16:41 เราก็ร่ำลากันแล้วเราก็ร่ำลาครูอาจารย์
00:16:41 → 00:16:45 ทั้งหลายคนทั้งหลายขึ้นรถค่ะขึ้นรถขับออก
00:16:45 → 00:16:49 มาค่ะแล้วก็เปิด Google นะคะเอ่อพี่อ้อย
00:16:49 → 00:16:54 ไปกับน้องเป็นคนนึงนะคะที่สนิทกันน้องก็
00:16:54 → 00:16:57 ขับรถออกมาคุยกันสนุกสนานค่ะไปตามเส้นทาง
00:16:57 → 00:17:02 Google บอกพอออกมาปุ๊บปรากฏว่า 3 เลนค่ะ
00:17:02 → 00:17:05 เหลือเลนเดียวมันอู้หูติดมากเลยมันเป็น
00:17:05 → 00:17:08 ถนนที่กำลังทำอยู่ค่ะแล้วก็ค่อยๆกระดึ๊บ
00:17:08 → 00:17:10 กระดึ๊บผ่านไป 10 นาทีค่ะ
00:17:10 → 00:17:12 น้องบอกว่า
00:17:12 → 00:17:15 น้องๆเรียกแม่อ้อยน้องบอก
00:17:15 → 00:17:16 แม่อ้อย
00:17:16 → 00:17:18 กระเป๋าเราล่ะ
00:17:18 → 00:17:22 [เสียงหัวเราะ]
00:17:22 → 00:17:25 เราลืมกระเป๋าของเราทั้งสองคนนี้ไปฝากที่
00:17:25 → 00:17:27 เฟิร์นแบบเรียนโอ๊ยตื่นเต้นกินข้าวกัน
00:17:27 → 00:17:32 อย่างเดียวออกมา 10 นาทีปรากฏว่าเนาะไม่
00:17:32 → 00:17:35 เป็นไรแม่อ้อยเดี๋ยวเปิด Google ใหม่กลับ
00:17:35 → 00:17:36 ไปที่โรงแรม
00:17:36 → 00:17:40 ปรากฏว่าข้างหน้าอีกประมาณ
00:17:40 → 00:17:43 10 กว่าเมตรอ่ะค่ะเป็นทางเลี้ยวย้อนกลับ
00:17:43 → 00:17:45 ไปที่โรงแรม
00:17:45 → 00:17:50 โชคดีจังเลยนะคะก็เลี้ยวย้อนเข้าไปปรากฏ
00:17:50 → 00:17:53 ว่าทางเส้นทางที่ลีโอย้อนเข้าไปเนี่ยเป็น
00:17:53 → 00:17:57 เส้นทางถนนคอนกรีตอย่างดีเลยลดน้อยก็วิ่ง
00:17:57 → 00:18:01 แป๊บเดียวเข้าไปถึงโรงแรมไปเอากระเป๋า
00:18:01 → 00:18:03 พอขาออกมา
00:18:03 → 00:18:06 แม่อ้อยเราไปทางเมื่อกี้กันเถอะเราไม่
00:18:06 → 00:18:10 เชื่อ Google แล้วเราตรงนั้นน่ะโอ้โหแบบ 3
00:18:10 → 00:18:12 เรียนมาเรียนเดียวแล้วดินอะไรฝุ่นตลบไป
00:18:12 → 00:18:16 หมดเลยพอขากลับแล้วก็ย้อนกลับด้านหลังเรา
00:18:16 → 00:18:19 วิ่งฉลุยกลับมาอย่างสบายมากเลยค่ะเราบอก
00:18:19 → 00:18:23 ว่า thank you teacher เพราะว่าขอบคุณ
00:18:23 → 00:18:26 ที่เราลืมกระเป๋าแล้วก็ได้เรียนรู้จาก
00:18:26 → 00:18:29 น้องบอกไม่เป็นไรหรอกกลับไปเอาพอกด Google
00:18:29 → 00:18:32 ปุ๊บเราได้เส้นทางใหม่โอ้โหที่ดีกว่าเดิม
00:18:32 → 00:18:35 เยอะแยะไปหมดเลยก็เลยได้เรียนรู้ค่ะว่า
00:18:35 → 00:18:40 จริงๆแล้วเนี่ยทุกปัญหาทุกอุปสรรคอ่ะมัน
00:18:40 → 00:18:44 มีทางออกแหละแต่เราอย่าไปแบบแย่เลยอ่ะ
00:18:44 → 00:18:46 ทำไมเราลืมอย่างนี้เราแบบอะไรอย่างเงี้ย
00:18:46 → 00:18:49 นะคะความรู้สึกนั้นไม่มีเลยเพราะว่าเรา
00:18:49 → 00:18:52 รู้สึกว่าไม่เป็นไรเราไปเอาได้แล้วเราก็
00:18:52 → 00:18:55 เจอเส้นทางใหม่ที่ดีกว่านักเรียนถามทาง
00:18:55 → 00:18:58 กลับกรุงเทพฯด้วยเส้นทางนั้นที่ดีกว่า
00:18:58 → 00:19:01 เส้นทางขรุขระที่ 3 แน่นเหลือ 1 เลนโอ้โห
00:19:01 → 00:19:06 ฉันโชคดีมากๆขอบคุณคุณครูที่ทำให้ฉันลืม
00:19:06 → 00:19:10 กระเป๋าและได้เส้นทางใหม่ค่ะว่าอันนี้
00:19:10 → 00:19:13 เนี่ยจริงๆแล้วอันนี้คือต้องบอกว่าสิ่ง
00:19:13 → 00:19:15 ที่เกิดขึ้นเนี่ยจากประเด็นที่เราบอกว่า
00:19:15 → 00:19:17 thank you teacher ในนั้นแล้วมันก็ทำ
00:19:17 → 00:19:20 ให้เราเห็นเลยว่าในชีวิตเราเนี่ยเรา
00:19:20 → 00:19:22 เราเจออะไรเยอะแยะมากมายนะ
00:19:22 → 00:19:25 ถ้าเราไม่ได้ถ้าเราปล่อยแบบเพลินๆแบบไม่
00:19:25 → 00:19:28 รู้ตัวนะสิ่งเหล่านั้นมันจะทำให้เราแบบ
00:19:28 → 00:19:33 ขุ่นมัวทุกข์ใจ
00:19:33 → 00:19:35 อย่างนี้แต่ในความเป็นจริงอันนี้คือ
00:19:35 → 00:19:37 Concept ของรายการเลยว่าที่จริงแล้วสิ่ง
00:19:37 → 00:19:39 ที่เราเจอเนี่ย
00:19:39 → 00:19:42 ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีนะเราสามารถที่จะ
00:19:42 → 00:19:44 ชีวิตเราจะดีขึ้นหรือแย่ลงขึ้นอยู่กับ
00:19:44 → 00:19:48 วิธีคิดกับ mindset ที่เราใช้ในการเผชิญ
00:19:48 → 00:19:51 สิ่งนั้นแล้วก็ถ้าเป็นอย่างนั้นปุ๊บเนี่ย
00:19:51 → 00:19:55 ชีวิตเราจะเปลี่ยนเลยนะเพราะหลังจากวัน
00:19:55 → 00:19:57 นั้นเป็นต้นมาที่เราเข้าใจเรื่องนี้นะเรา
00:19:57 → 00:20:00 เจออะไรก็ได้
00:20:00 → 00:20:02 สิ่งนั้นแหละถึงแม้ว่าคนทั่วไปจะบอกว่า
00:20:02 → 00:20:07 ไม่ดีไม่เสียเวลามันไม่ชอบมันร้อนมันก็
00:20:07 → 00:20:09 ตามทีมเนี่ยแต่ถ้าเราเผชิญกับสิ่งนั้น
00:20:09 → 00:20:13 ใหม่ด้วยมุมคิดด้วยแง่คิดใหม่นะชีวิตเรา
00:20:13 → 00:20:16 จะเปลี่ยนตั้งแต่วันนั้นเลยความทุกข์เรา
00:20:16 → 00:20:19 จะน้อยลงเลย
00:20:20 → 00:20:23 ทุกอย่างที่เจอเนี่ยคือครูหมดเลยใช่ค่ะ
00:20:23 → 00:20:29 แล้วเราจะสามารถพูดคำนี้ใหม่คือพี่วีถ้า
00:20:29 → 00:20:33 เราคุณมัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
00:20:33 → 00:20:38 เราจะลืมที่จะเรียนรู้เป็นบทเรียน
00:20:38 → 00:20:42 แต่ถ้าเราไม่คุณมัวและเราก็เราก็จะมีอีก
00:20:42 → 00:20:47 มุมหนึ่งที่ไงฉันได้เรียนรู้
00:20:47 → 00:20:50 ผมก็เลยมีความรู้สึกว่าชอบชอบตอนนี้มาก
00:20:50 → 00:20:52 ที่เราพูดถึง thank you teacher เพราะ
00:20:52 → 00:20:55 ว่ามันจะทำให้เรารู้สึกว่าเราเรามีครู
00:20:55 → 00:21:00 เยอะมากใช่ค่ะแล้วก็ถ้าเราเจอครูอย่าลืม
00:21:00 → 00:21:02 Thank You เขาด้วย
00:21:02 → 00:21:04 แล้วเมื่อไหร่ก็ตามที่เราขอบคุณเขาได้
00:21:04 → 00:21:06 นั่นหมายความว่าเราเห็นคุณค่าของเขาจริงๆ
00:21:06 → 00:21:09 หลายครั้งเราเรียนรู้แต่เราไม่รู้ตัวนะ
00:21:09 → 00:21:12 แล้วเราก็เลยลืมเราไม่เห็นค่าเราก็เลยลืม
00:21:12 → 00:21:16 แล้วก็ไม่ได้ขอบคุณเพราะฉะนั้นอันนี้ครับ
00:21:16 → 00:21:18 คุณผู้ฟังครับผมชื่อว่าเราจะมีประสบการณ์
00:21:18 → 00:21:20 แบบนี้ในชีวิตเยอะมาก
00:21:20 → 00:21:24 เจออะไรก็ได้เราต้องเรียนรู้แล้วเมื่อ
00:21:24 → 00:21:27 ไหร่ที่เราเรียนรู้จากอะไรจากใคร
00:21:27 → 00:21:31 สิ่งนั้นคนนั้นหรือเหตุการณ์นั้นหรือว่า
00:21:31 → 00:21:35 ถูกชิ้นนั้นคือครูของเราซึ่งเราก็จำเป็น
00:21:35 → 00:21:37 ที่จะต้องที่จริงเป็นหน้าที่นะที่เราจะ
00:21:37 → 00:21:41 ต้องเราไม่ขอบคุณเขาก็ได้นะเพราะการที่
00:21:41 → 00:21:44 เราจะขอบคุณเขาหรือไม่เนี่ยเขาเข้าจริงๆ
00:21:44 → 00:21:49 เขาไม่ได้เขาไม่ได้อะไรเลยแต่ว่าคนที่
00:21:49 → 00:21:53 กล่าวคำขอบคุณต่างหากที่ได้ที่ได้เพราะ
00:21:53 → 00:21:54 ว่าเราเป็นคนได้
00:21:54 → 00:21:58 ผมเชื่อว่าอันนี้จะกลายเป็นแล้วโดย
00:21:58 → 00:22:01 บังเอิญนะครับอันนี้จะกลายเป็นคำว่า
00:22:01 → 00:22:04 ขอบคุณเนี่ยตอนนี้ผมกำลังออกแบบกระบวนการ
00:22:04 → 00:22:06 กระบวนการหนึ่งซึ่งจะไปพัฒนาเด็กนักเรียน
00:22:06 → 00:22:08 ในโรงเรียน
00:22:08 → 00:22:11 แล้วเป็นค่ายที่ต้องใช้เวลาหลายวันนะผม
00:22:11 → 00:22:14 พึ่งจะเสนอไอเดียนี้ไปเลยและผู้บริหารก็
00:22:14 → 00:22:17 เห็นด้วยว่าทั้งค่ายนี้เนี่ยผมจะสอน
00:22:17 → 00:22:19 เรื่องเดียว
00:22:19 → 00:22:22 คือเรื่องว่าขอบคุณนี่แหละ
00:22:22 → 00:22:25 เพราะว่าเรามีความเชื่อว่าถ้าใครสักคน
00:22:25 → 00:22:29 หนึ่งสามารถที่จะขอบคุณอะไรได้
00:22:29 → 00:22:32 นั่นหมายความว่าเขาเห็นคุณค่าของสิ่งนั้น
00:22:32 → 00:22:35 แล้วมันจะเป็นสิ่งที่จะทำให้เขามีความ
00:22:35 → 00:22:38 กตัญญูรู้คุณและสำคัญที่สุดเนี่ย
00:22:38 → 00:22:41 สุดท้ายเลยจริงๆนะก่อนที่จะจบวันนี้เนี่ย
00:22:41 → 00:22:43 พี่อ้อยรู้ไหมครับว่าการที่เตรียมค่าย
00:22:43 → 00:22:46 นั้นทำให้ผมพบความจริงอย่างหนึ่งว่าเราจะ
00:22:46 → 00:22:48 ต้องเมื่อกี้เราพูดว่าเราจะต้องขอบคุณทุก
00:22:48 → 00:22:51 อย่างเลยใช่ไหมครับที่เราได้เรียนรู้แต่
00:22:51 → 00:22:54 สิ่งสำคัญที่สุดที่เราจะต้องขอบคุณคือที่
00:22:54 → 00:22:58 ผมจะไปสอนเด็กในค่ายนะตัวเราคือตัวเราใช่
00:22:58 → 00:23:00 เมื่อไหร่ก็ตามที่เด็กเนี่ยสามารถที่จะ
00:23:00 → 00:23:03 ขอบคุณตัวเองได้เนี่ยหมายความว่าอะไรหมาย
00:23:03 → 00:23:04 ความว่า
00:23:04 → 00:23:09 เขาจะต้องมีความภูมิใจในตัวเองแล้วก็เห็น
00:23:09 → 00:23:12 ว่าตัวเองดีเห็นคุณค่าของตัวเอง
00:23:12 → 00:23:16 แล้ว 2-3 เรื่องนี้ครับพี่อ้อยจากที่มี
00:23:16 → 00:23:19 โอกาสได้ตระเวนไปบรรยายในสถานศึกษาเยอะ
00:23:19 → 00:23:22 แยะมากมายนะเพราะว่านี่คือประเด็นใหญ่ของ
00:23:22 → 00:23:24 คนในยุคนี้เลย
00:23:24 → 00:23:30 คือว่าไม่ไม่ภาคภูมิใจในตัวเอง
00:23:30 → 00:23:34 ไม่เห็นคุณค่าในตัวเองทำให้
00:23:34 → 00:23:36 เขาก็จะมี
00:23:36 → 00:23:41 พฤติกรรมหรือมีปฏิกิริยาหรือมีแสดงกับ
00:23:41 → 00:23:44 กริยาอะไรบางอย่างซึ่งก็จะไม่คือคนที่ไม่
00:23:45 → 00:23:49 เคารพตัวเองเขาก็จะทำทุกอย่างที่เสียๆหาย
00:23:49 → 00:23:53 ๆต่อตัวเองเพราะฉะนั้น
00:23:53 → 00:23:56 คำว่าขอบคุณคำเดียวนี่แหละแล้วก็ขอบคุณคน
00:23:56 → 00:23:59 ที่เป็นครูเนี่ยแล้วจริงๆเราก็ต้องไม่ลืม
00:23:59 → 00:24:03 ว่าแท้ที่จริงตัวเราเองก็เป็นคนที่เราจะ
00:24:03 → 00:24:05 ต้องขอบคุณและตัวเราเองประสบการณ์ของเรา
00:24:05 → 00:24:08 เองนี่แหละคือสิ่งที่เราจะต้องเรียนรู้
00:24:08 → 00:24:11 เพราะฉะนั้นก็คุณผู้ฟังครับรายการ
00:24:11 → 00:24:14 ศัลยกรรมความสุขในวันนี้นะครับ thank you
00:24:14 → 00:24:17 teacher ก็หมดหมดเวลาลงแล้วนะครับเราจะ
00:24:17 → 00:24:20 พบกันใหม่ในตอนหน้าครับวันนี้ผมวีระพงษ์
00:24:20 → 00:24:23 ทวีศักดิ์และพี่อ้อยก็ต้องลาไปก่อนครับ
00:24:23 → 00:24:27 สวัสดีครับสวัสดีค่ะ
00:24:27 → 00:24:30 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น
00:24:30 → 00:24:46 ของไทย pdasport card spotify google
00:24:46 → 00:24:50 [เพลง]