00:00:48 → 00:00:52 สวัสดีค่า ได้เวลาของรายการคุยกับหมออัจจิมาแล้วนะคะ
00:00:52 → 00:00:56 คนรักสุขภาพทั้งหลายต้องมารวมกันหน้าจอตอนนี้
00:00:56 → 00:00:57 ห้ามพลาดค่ะ
00:00:57 → 00:01:01 ใช่ค่ะ เราก็ยังคงเกาะติดเรื่องของการดูแลสุขภาพ
00:01:01 → 00:01:02 ใช่แล้วค่ะ
00:01:02 → 00:01:06 แล้วก็เป็นประจำหลายคนจะงงว่าเอ๊ะ..ทำไมช่วงนี้เรายืนห่างกันนะคะคุณหมอขา
00:01:06 → 00:01:07 รักกัน ต้องห่างกันค่ะ
00:01:07 → 00:01:12 ใช่ค่ะ เราต้องห่างกันอย่างน้อยสักเมตรนึงนะคะ ป้องกันเอาไว้นั่นเองนะคะ
00:01:12 → 00:01:16 ว่าแต่ว่าสัปดาห์นี้คุณหมอขาเราจะนำเสนอเรื่องของใครดีคะเนี่ย
00:01:16 → 00:01:17 เรื่องของไข้
00:01:17 → 00:01:23 เรื่องของไข้ โอ้โหวันนี้น่าสนใจแน่นอน แล้วก็เกาะติดสถานการณ์มากๆแบบนี้
00:01:23 → 00:01:26 คุณผู้ชมก็ต้องเกาะติดหน้าจออย่าลุกหนีไปไหนกันและกันนะคะ
00:01:26 → 00:01:31 ช่วงแรกก็มีข่าวที่น่าสนใจมาอัพเดตกัน ซึ่งบอกเลยว่า
00:01:31 → 00:01:33 โอโห เป็นข่าวที่ต้องดูเลยค่ะ
00:01:33 → 00:01:35 พลาดไม่ได้เด็ดขาด งั้นเริ่มกันเลย
00:01:41 → 00:01:43 คุณผู้ชมขาช่วงหมอชวนคุยของเราในวันนี้
00:01:43 → 00:01:47 จะคุยกันถึงเรื่องของคนมีไข้ เรื่องของไข้
00:01:47 → 00:01:48 คุณจะเป็นไข้หรือไม่
00:01:48 → 00:01:51 หรือว่าใครที่เป็นไข้ โอ๊ย..เริ่มงงละเนี่ย
00:01:51 → 00:01:54 แต่ทุกวันนี้เราตื่นมาพร้อมกับอาการนอยอะค่ะคุณหมอ
00:01:54 → 00:01:56 แล้วก็รู้สึกเอ๊ะ ตัวร้อน
00:01:56 → 00:01:59 ใช่ ฉันตัวร้อนแน่เลยฉันต้องรีบไปหยิบปรอทมาวัด
00:01:59 → 00:02:02 เพราะฉะนั้นแล้ววันนี้เราต้องคุยเรื่องนี้กันแบบละเอียดอีกแล้ว
00:02:02 → 00:02:04 เรื่องของไข้นะคะ
00:02:04 → 00:02:07 เรามาทำความรู้จักกับคำว่าไข้ก่อนดีกว่าคุณหมอ
00:02:07 → 00:02:09 ไข้ก็คือตัวร้อน / อาการคือตัวร้อน
00:02:09 → 00:02:14 ใช่ คือเป็นอาการในกรณีที่ร่างกายเนี่ยมีอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ
00:02:14 → 00:02:16 งั้นอุณหภูมิปกติมันต้องอยู่ยังไง เท่าไหร่
00:02:16 → 00:02:22 ประมาณสัก 37 องศา แล้วก็มันก็จะมีการบวกลบได้ขึ้นอยู่กับการวัดว่าวัดแบบไหน
00:02:22 → 00:02:28 แล้วก็ไข้เนี่ยความรุนแรงก็จะต่างกันไปอีกขึ้นอยู่กับสาเหตุเพราะบางทีเนี่ยมันไม่ได้มาด้วยไข้อย่างเดียว
00:02:28 → 00:02:32 ไข้แล้วก็มีเหงื่อออก บางคนก็ไข้แล้วหนาวสั่น
00:02:32 → 00:02:35 ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ครั่นเนื้อครั่นตัว
00:02:35 → 00:02:39 บางทีก็รู้สึกเอ๊ะ..มีไข้หรือเปล่าไม่รู้แต่ว่ามันเบื่ออาหาร
00:02:39 → 00:02:41 ไม่อยากจะทานอะไร / ค่ะ
00:02:41 → 00:02:46 ซึ่งสาเหตุก็จะมีได้จากหลายอย่างโดยส่วนมากก็จะเป็นการติดเชื้อ / ค่ะ
00:02:46 → 00:02:48 การอักเสบการติดเชื้อของร่างกายเนี่ย
00:02:48 → 00:02:51 ก็จะเป็นตัวนึงที่ทำให้ร่างกายเนี่ยพยายาม
00:02:51 → 00:02:56 ที่จะแสดงอาการออกมาเป็นการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิ
00:02:56 → 00:03:00 ซึ่งมันเป็นกระบวนการที่สำคัญของร่างกาย
00:03:00 → 00:03:04 ที่เป็นตัวบอกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น
00:03:04 → 00:03:08 คือเมื่อไหร่ถ้าไม่มีไข้เนี่ย ไม่ดีนะคะคุณแนน
00:03:09 → 00:03:14 ซึ่งถามว่ากรณีเนี้ยมันมีความหลากหลายของการเป็นไข้ไม่เป็นไข้
00:03:14 → 00:03:19 อายุเป็นปัจจัยนึงที่สำคัญที่ส่งผลกระทบต่ออุณหภูมิของร่างกายปกติ
00:03:20 → 00:03:24 เพราะว่าในแต่ละอายุจะมีอุณหภูมิของร่างกายที่แตกต่างกัน
00:03:24 → 00:03:29 โดยปกติแล้วเนี่ยก็จะอยู่ประมาณสักช่วงไม่เกิน 37.2 องศา
00:03:29 → 00:03:32 36.6 - 37.2 องศา
00:03:32 → 00:03:35 แต่ว่าในกลุ่มของผู้ใหญ่หรือคนสูงอายุเนี่ย
00:03:35 → 00:03:40 บางทีเนี่ยร่างกายเขาอุณหภูมิค่อนข้างไปทางต่ำ
00:03:40 → 00:03:43 ค่อนข้างไปทาง 36.2 องศา
00:03:43 → 00:03:47 เพราะฉะนั้นเวลาวัดไข้สมมุติเขามีการติดเชื้ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น
00:03:47 → 00:03:51 อาจจะวัดเหมือนไม่มีไข้ แต่จริงๆแล้วมี
00:03:51 → 00:03:54 เพราะฉะนั้นในกลุ่มของคนไข้สูงอายุ
00:03:54 → 00:03:56 บางทีอาจจะไม่ได้มาด้วยไข้
00:03:56 → 00:03:58 บางทีอาจจะมาด้วยอาการอื่น ยกตัวอย่างเช่น
00:03:58 → 00:04:01 เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย
00:04:01 → 00:04:08 โดยผู้สูงอายุเนี่ยภูมิต้านทานเขาไม่ปกติเขาอาจจะมีอาการเหล่าเนี้ยมาแสดงก่อนที่จะมีอาการไข้
00:04:08 → 00:04:11 ก่อนที่จะมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดหรืออะไรทั้งหลายแหล่
00:04:11 → 00:04:14 บางทีนอกจากไข้ไม่ขึ้นแล้วตัวเย็นด้วยซ้ำ
00:04:14 → 00:04:19 คือจริงๆแล้วไข้เนี่ยถือว่าเป็น detector ที่สำคัญอันนึง
00:04:19 → 00:04:22 ของร่างกาย มีอะไรผิดปกติปุ๊บไข้ขึ้น
00:04:22 → 00:04:26 ไม่มีปุ๊บ อาจจะภูมิต้านทานไม่ดี / ค่ะ
00:04:26 → 00:04:28 อย่างเช่นในผู้สูงอายุเป็นต้น
00:04:28 → 00:04:31 นอกจากเรื่องของอายุแล้วมีอะไรอีก เพศ
00:04:31 → 00:04:35 ผู้หญิงกับผู้ชายเนี่ยผู้หญิงจะมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในร่างกายได้มากกว่า
00:04:35 → 00:04:36 มีความ sensitive มากกว่า
00:04:36 → 00:04:39 นอกจากฮอร์โมนสวิงแล้วอุณหภูมิยังสวิงอีกหรอคะผู้หญิง
00:04:39 → 00:04:43 หมอว่าส่วนนึงก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับฮอร์โมนเนี่ยแหละ
00:04:43 → 00:04:45 ผู้หญิงจะขี้หนาวกว่าผู้ชายคุณแนนลองสังเกตดีๆ / จริงค่ะ
00:04:45 → 00:04:48 Metabolism อะไรพวกนี้มันลิงค์กันหมดเลย
00:04:48 → 00:04:54 มันก็เป็นสาเหตุนึงที่ทำให้บางทีเนี่ยการ sensitive ต่ออุณหภูมิในผู้หญิงเนี่ยจะมากกว่าผู้ชาย
00:04:54 → 00:04:58 อีกกลุ่มนึงคืออาหาร สมมุติว่าคุณรับประทานอาหารร้อน
00:04:58 → 00:05:00 ร่างกายเราก็จะร้อนหรอคะ
00:05:00 → 00:05:06 ร่างกายเราก็จะร้อนไปด้วย ความร้อนอาหารกลุ่มพวกพริก ขิง ข่า อะไรที่มันแบบเผ็ดๆ
00:05:06 → 00:05:08 แนนนึกว่าคุณหมอหมายถึงชาบู หมูกระทะไม่ใช่
00:05:08 → 00:05:11 พริกร้อนด้วย แล้วก็อาหารร้อนๆด้วย
00:05:11 → 00:05:13 ตำแหน่งที่ใช้วัดไข้อีก
00:05:13 → 00:05:16 ตำแหน่งก็มีผลกับอุณหภูมิเช่นเดียวกัน
00:05:16 → 00:05:19 ใช่ ตำแหน่งเนี่ยแหละมีผลคุณแนน
00:05:19 → 00:05:24 แนนต้องถามคุณหมอแล้วค่ะว่าเราสามารถวัดไข้ได้ที่ตำแหน่งไหนบ้างในร่างกายเรา
00:05:24 → 00:05:27 จริงๆแล้วที่ดีก็จะมีตำแหน่งในหู ตำแหน่งทวารหนักอันนี้เป็นหลักเลย
00:05:27 → 00:05:30 แล้วก็มีในปากใต้ลิ้น
00:05:30 → 00:05:34 แล้วก็มีรักแร้ คุณแนนจะเห็นว่ามันไม่มีทีผิวหนัง
00:05:34 → 00:05:35 ไม่มีเลย
00:05:35 → 00:05:36 มันมีแบบสแกนที่ผิวหนัง
00:05:36 → 00:05:40 ที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ตามตึก คุณคะไม่ได้มาตรฐานทางการแพทย์นะคะคุณ
00:05:40 → 00:05:42 ใช่ แต่ว่ามันเป็น Streaming เฉยๆ
00:05:42 → 00:05:46 ที่ทำได้เสร็จอย่างรวดเร็วและก็ไม่แพร่การติดเชื้อกับคนอื่น
00:05:46 → 00:05:48 ถูกต้อง กันการติดเชื้อ
00:05:48 → 00:05:50 จุดไหนแม่นยำสุดมันบอกไหมคะคุณหมอ
00:05:50 → 00:05:56 คือจริงๆแล้วเนี่ยตำแหน่งของหูทวารหนักเนี่ยอุณหภูมิเมื่อเป็นไข้จะต้องเกิน 38 องศา
00:05:56 → 00:05:58 จะเห็นว่าอุณหภูมิมันค่อนข้างสูง
00:05:58 → 00:06:00 กว่าตรงตำแหน่งอื่นๆ
00:06:00 → 00:06:04 ถ้าเกิดว่าเป็นปากก็จะอยู่ประมาณ 37.8
00:06:04 → 00:06:07 ถ้าเกิดว่าเป็นรักแร้จะ 37.2
00:06:07 → 00:06:08 โอ้โห มาตรฐาน
00:06:08 → 00:06:13 เพราะว่าเวลาที่มันเข้าใกล้ส่วนแกนกลางของร่างกายเนี่ยอุณหภูมิมันก็จะเริ่มสูงขึ้น
00:06:13 → 00:06:18 หูทวารหนักเนี่ยเข้าใกล้มากกว่าอุณหภูมิก็คือต้องเกิน 38 คือจะถือว่าเป็นไข้
00:06:18 → 00:06:23 การวัดไข้อีกคือมันก็จะมีรายละเอียดของแต่ละอันวิธีการอีกคุณแนน
00:06:23 → 00:06:26 สมมุติว่าวัดไข้ในปากแต่คุณไปวางอยู่บนลิ้น
00:06:27 → 00:06:29 ก็ไม่ใช่ / ผิดตำแหน่ง
00:06:29 → 00:06:31 กระพุ้งแก้มอะไรอย่างงี้ก็ไม่ใช่
00:06:31 → 00:06:34 มันก็จะมีวิธีรายละเอียดของการวัดไข้ในแต่ละตำแหน่ง
00:06:34 → 00:06:39 คือถ้าวัดทางไปใส่ไปใต้ลิ้นและเขาก็จะมีเวลาในการวัด
00:06:39 → 00:06:43 วิธีวัดทางรักแร้หนีบเทอร์โมมิเตอร์
00:06:43 → 00:06:50 ลองสังเกตุดีๆคุณแนนไอตัววัดเทอร์โมมิเตอร์เนี่ยต้องดูก่อนว่าปรอทมันอยู่ด้านล่างหรือเปล่า
00:06:51 → 00:06:54 เพราะไอเทอร์โมมิเตอร์พวกนี้เนี่ยบางทีปรอทมันอยู่ด้านบน
00:06:54 → 00:07:00 คือไอตัวปรอทข้างในตัววัดข้างในบางทีมันขึ้นไปอยู่ข้างบน
00:07:00 → 00:07:05 วัดอ่าวค่ามันก็ไม่ถูก คือต้องดูก่อนคุณแนนเห็นไหมสมัยเด็กๆพยาบาลเขาชอบสะบัด
00:07:05 → 00:07:09 ต้องสะบัดก่อน สะบัดเสร็จแล้วก็เสียบใต้รักแร้
00:07:09 → 00:07:11 แล้วก็ส่วนทางทวารหนัก
00:07:11 → 00:07:14 คือไม่ต้องกลัวเนี่ยผู้ใหญ่เขาไม่ค่อยวัดทางนี้
00:07:14 → 00:07:15 ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กเนอะคุณหมอ
00:07:15 → 00:07:18 ใช่ ส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็กเขาก็จะวัดทางทวารหนัก
00:07:18 → 00:07:22 โดยส่วนใหญ่แล้วเนี่ยถ้าเป็นผู้ใหญ่เขาก็จะหนึ่งใต้ลิ้น
00:07:22 → 00:07:26 หรือสองรักแร้ แต่ว่าดีที่สุดก็คือวัดทางหู
00:07:26 → 00:07:31 โดยส่วนใหญ่ทางหูสมัยเนี่ยกลายเป็นว่าอุณหภูมิทางหูมันจะเป็นวัดเทอร์โมมิเตอร์แบบดิจิทัล
00:07:31 → 00:07:33 ใช่ เขามาติ๊ดอยู่แถวนี้
00:07:33 → 00:07:38 ที่สำคัญคือมันต้องเปลี่ยน คือไม่ใช่แบบใช้อันเดิมตลอดอย่างเงี้ยไม่ได้
00:07:38 → 00:07:42 ทางผิวหนังเนี่ยนอกจากจะใช้แบบที่ส่องเป็น Infrared แล้วเนี่ย
00:07:42 → 00:07:44 ก็จะมีอีกวิธีนึงคือแผ่นแปะ / อ๋อหรอคะ
00:07:44 → 00:07:47 เป็นเทอร์โมมิเตอร์แบบแผ่นแปะก็พอใช้ได้
00:07:47 → 00:07:51 แผ่นแปะแบบเด็กๆเขาใช้กัน แผ่นแปะขนาดเล็กและจะมีตัวเลขแสดงอุณหภูมิอยู่
00:07:51 → 00:07:54 ก็พอใช้ได้ คือเป็นการบอกอุณหภูมิของผิวหนัง
00:07:54 → 00:07:56 นี่ค่ะ พอคุณผู้ชมฟังคุณหมอพูดกันแล้ว
00:07:56 → 00:07:59 เริ่มนอย เริ่มไปหาปรอทที่บ้าน
00:07:59 → 00:08:01 เอ๊ ฉันวัดผิดวิธีตลอดไม่น่าค่าไม่ขึ้น
00:08:01 → 00:08:04 จะพยายามทำให้ไข้ขึ้นให้ได้สิคะคุณขา
00:08:04 → 00:08:09 เพราะฉะนั้นเมื่อกี้เราทราบไปแล้วว่าตำแหน่งของการวัดไข้มีตรงไหนบ้าง
00:08:09 → 00:08:13 แล้วก็อุณหภูมิของแต่ละตำแหน่งถ้าเกินเท่าไหร่ถึงจะบอกว่าเราเป็นไข้
00:08:13 → 00:08:18 แต่คุณผู้ชมรู้ไหมคะว่าการเตรียมตัวก่อนวัดไข้ก็มีอีกค่ะคุณ
00:08:18 → 00:08:21 ไม่ใช่เดินทะเล่อทะล่ามาปุ๊บนั่งแล้ววัด ไม่ใช่
00:08:21 → 00:08:25 เราจะเตรียมตัวยังไงเพื่อให้ผลออกมาได้แม่นยำที่สุดนะคะ
00:08:25 → 00:08:28 พักสักครู่เดี๋ยวกลับมาคุยกันต่อช่วงหน้าค่ะ
00:08:30 → 00:08:32 มาคุยกันต่อกับเรื่องของไข้นะคะ
00:08:32 → 00:08:37 และช่วงนี้ของเราสนุบสนุนโดย Ortisine ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมดูแลรูปร่าง
00:08:37 → 00:08:42 เมื่อกี้เราค้างเอาไว้คุณหมอขาว่าก่อนที่เราจะทำการวัดอุณหภูมิในร่างกาย
00:08:42 → 00:08:44 ต้องเตรียมตัวก่อนด้วย
00:08:44 → 00:08:46 เราต้องเตรียมตัวยังไงบ้างคะ
00:08:46 → 00:08:50 ก็ต้องอยู่ในภาวะปกติ คือถ้าสมมุติว่าเรากำลัทำกิจกรรมอะไรบางอย่าง
00:08:50 → 00:08:58 ยกตัวอย่างเช่น ออกกำลังกายมา ไม่ได้เพราะว่าอุณหภูมิของคุณจะขึ้น
00:08:58 → 00:09:02 สูบบุหรี่ เพิ่งสูบบุหรี่เสร็จวัดทันที ไม่ได้เหมือนกัน
00:09:02 → 00:09:05 รับประทานอาหารเครื่องดื่มร้อนๆ
00:09:05 → 00:09:10 แล้วก็วัดอุณหภูมิในปากไม่ได้ อันนี้ต้องทิ้งไว้ 20 - 30 นาที
00:09:12 → 00:09:14 เพิ่งอาบน้ำมา / อาบน้ำก็ไม่ได้
00:09:14 → 00:09:18 คุณอาบน้ำอุ่นมากำลังแบบโอ้โห สบายเลย
00:09:18 → 00:09:21 แล้วก็มาวัด ไม่ได้นะ
00:09:21 → 00:09:23 ต้องให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้
00:09:23 → 00:09:26 อีกอันนึงคุณหมออันนี้เรื่องจริงเจอมากับตัว
00:09:26 → 00:09:30 พี่สาวเเนนเดินตากแดดแล้วเข้าตึกแล้วเจอเครื่อง Infrared
00:09:30 → 00:09:33 เจอไข้ 39 เขาบอกเข้าตึกไม่ได้
00:09:33 → 00:09:35 ใช่ ไม่งั้นต้องรอก่อน
00:09:35 → 00:09:37 อันนี้คือเตรียมตัวฝั่งคนไข้
00:09:37 → 00:09:41 เตรียมตัวฝั่งผู้วัดไข้ก็ต้องเตรียมเหมือนกันคุณแนน
00:09:41 → 00:09:43 อย่างที่บอกเทอร์โมมิเตอร์มีหลายแบบ
00:09:43 → 00:09:46 แบบที่ต้องสัมผัสตัวคนไข้เนี่ยต้องทำความสะอาด / ค่ะ
00:09:46 → 00:09:47 เช็ดแอลกอฮอล์
00:09:47 → 00:09:53 หรือถ้าอย่างที่หูเนี่ยเขาก็จะเปลี่ยน เพื่อจะไม่ทำให้เกิดการแพร่เชื้อไปกับเทอร์โมมิเตอร์นั่นแหละ
00:09:53 → 00:09:56 ใช้ซ้ำกันไม่ได้เด็ดขาด / ถูกต้อง
00:09:56 → 00:10:00 ทีนี้มาถึงขั้นตอนของการวัดไข้กันบ้าง มันต้องมีขั้นตอนอีกหรอคะ
00:10:00 → 00:10:05 เราทำเหมือนยุ่งยากมากเลยนะ แต่ว่าจริงๆแล้วขั้นตอนมันไม่ยุ่งยาก
00:10:05 → 00:10:07 มันไม่ได้ยุ่งยากขนาดนั้นนะคะ
00:10:07 → 00:10:12 แต่ว่ามันก็ต้องมีขั้นตอนเพื่อจะให้มันมีความแม่นยำ
00:10:12 → 00:10:15 หรือว่าถ้าคุณทำเองที่บ้าน คุณก็ควรจะรู้ว่า
00:10:15 → 00:10:18 คุณควรที่จะปฏิบัติตัวแบบไหนในการวัดเพื่อให้เกิดความแม่นยำ
00:10:18 → 00:10:21 แนนว่าอันนี้จำเป็นนะคะคุณหมอ ยิ่งในช่วงนี้ด้วยอะ
00:10:21 → 00:10:24 ใช่ แล้วก็อย่าลืมทำความสะอาดก่อนทุกครั้ง / ค่ะ
00:10:24 → 00:10:28 คราวนี้การวัดช่องทางในปาก ทำไมเราบอกว่าเด็กเนี่ย
00:10:28 → 00:10:30 ส่วนใหญ่เราวัดทางทวารหนัก หมายถึงเด็กเล็กนะคะ
00:10:30 → 00:10:32 ที่ยังสื่อสารไม่ได้
00:10:32 → 00:10:35 เพราะว่าบางทีเด็กเนี่ยพอคุณใส่อะไรเข้าไปในปากมันจะเคี้ยว
00:10:35 → 00:10:37 กัด แล้วทำให้แตก
00:10:37 → 00:10:41 สำหรับผู้ใหญ่เนี่ยใช้ตัวเทอร์โมมิเตอร์วัดในปากได้
00:10:41 → 00:10:45 แล้วก็อย่าลืมทำความสะอาดทุกครั้ง เน้นย้ำเลยสำคัญ
00:10:45 → 00:10:47 แล้วก็ส่วนถ้าเป็นหู
00:10:47 → 00:10:53 บางทีเด็กเราจะใช้วัดในหู เวลาที่ใส่เทอร์โมมิเตอร์เข้าไปเนี่ยต้องสอดเข้าไปในช่องหู
00:10:53 → 00:10:56 คือบางคนเอาไปแหย่ไว้ตรงข้างนอก
00:10:56 → 00:11:00 แต่ว่าจริงๆแล้วมันต้องเอาใส่เข้าไปในช่องหู
00:11:00 → 00:11:02 มันรู้สึกเลยว่าหูเราถูกอุดกั้นด้วยอะไรสักอย่าง
00:11:02 → 00:11:06 ใช่ เพราะว่ามันต้องเอาใส่เข้าไปในรูหู
00:11:06 → 00:11:10 พอเอาใส่เข้าไปในรูหูเสร็จปุ๊บก็ต้องกดวัดอุณหภูมิแล้วก็อ่านค่า
00:11:10 → 00:11:11 อันนี้คือใส่ในหู
00:11:11 → 00:11:16 รักแร้อย่างที่บอกสะดวก ง่ายก็จริง แต่ผลจะไม่ค่อยเเม่นยำมาก
00:11:16 → 00:11:18 เหมือนกับว่าเพราะมันเป็นการวัดข้างนอก
00:11:18 → 00:11:21 มันก็เหมือนกับวัดทางหน้าผากบางทีอาจจะไม่ได้แม่นยำมาก
00:11:21 → 00:11:27 ที่สำคัญคือนานพอ ไม่ใช่เสียบปุ๊บออกมาวัดดูอ่าวยังไม่ทันจะขึ้นเลย
00:11:27 → 00:11:31 อย่างน้อยคุณแนนรู้ไหมนานเท่าไหร่ต้อง 4 นาที
00:11:31 → 00:11:33 ถึงจะอ่านค่าได้นะคะ
00:11:33 → 00:11:37 โดยปกติทั่วไปเนี่ยการอ่านค่าที่วัดได้
00:11:37 → 00:11:42 ตรงตำแหน่งเนี่ยถ้าอุณหภูมิปกติของรักแร้เนี่ยจะต่ำกว่าวัดทางช่องปาก
00:11:42 → 00:11:46 โดยปกติก็ประมาณสัก 0.6 องศา เพราะฉะนั้นถ้าวัดตรงนี้ต้องบวกไปอีกประมาณ 0.6
00:11:46 → 00:11:50 ถึงจะรู้ว่ามีไข้ไม่มีไข้
00:11:50 → 00:11:53 ต่อไปคือการวัดทางทวารหนัก
00:11:53 → 00:11:56 อันนี้นิยมมากในกลุ่มของพวกเด็กแรกเกิด
00:11:56 → 00:12:01 เด็กเล็ก แต่ว่าจริงๆแล้วอันนี้ต้องมีผู้เชี่ยวชาญทำ
00:12:01 → 00:12:04 เทอร์โมมิเตอร์ที่จะต้องผ่านเข้าไปเนี่ยจะต้องผ่านการฆ่าเชื้อ
00:12:04 → 00:12:10 แล้วจะต้องมีปิโตรเลียมเจลลี่ หรือพวกกลุ่มของวาสลินเพื่อช่วยทำให้ลดการเสียดสี
00:12:10 → 00:12:13 ส่วนใหญ่พวกนี้ถ้าวัดก็ประมาณ นาที / ค่ะ
00:12:13 → 00:12:16 ให้ปรอทหยุดนิ่งก่อนแล้วคุณค่อยอ่านค่าที่ได้
00:12:16 → 00:12:21 ก็นี่แหละค่ะ คือไม่ใช่ว่าเอะอะจะวัดตรงไหนใช้วิธีอะไรก็ได้
00:12:21 → 00:12:24 มันมีวิธีการของมันเพื่อที่จะได้อ่านค่าได้ผลชัดเจน
00:12:24 → 00:12:27 ทีนี้ถ้าเราทำตามขั้นตอนที่คุณหมอบอกถูกหมดแล้ว
00:12:27 → 00:12:31 ผลออกมาเรียบร้อยคุณหมอคะหนูเป็นไข้
00:12:31 → 00:12:33 รักษายังไงดีคะเนี่ย
00:12:33 → 00:12:37 คือจริงๆแล้วการรักษาอาการไข้เนี่ยก็จะประกอบไปด้วยหนึ่งการรักษาตามอาการ
00:12:37 → 00:12:38 ซึ่งก็จะให้ยาลดไข้
00:12:38 → 00:12:43 โดยส่วนใหญ่แล้วยาลดไข้ที่รับประทานได้ปลอดภัยก็จะเป็นกลุ่มยา PARACETAMOL
00:12:43 → 00:12:46 คือไม่ได้ปลอดภัยที่สุดแต่ก็ถือว่าปลอดภัยกว่าตัวอื่นๆ
00:12:46 → 00:12:50 ทีนี้ก็จะเอาไว้ใช้ลดไข้ลดอาการปวดศรีษะได้
00:12:50 → 00:12:54 อีกอันนึงก็คือการเช็ดตัว การเช็ดตัวจะเป็นการลดอุณหภูมิ
00:12:54 → 00:12:58 ในร่างกายผ่านทางผิวหนังได้ดีคือผ่านทางน้ำอย่างนี้นะคะ
00:12:58 → 00:13:02 ที่ว่าที่สำคัญคือต้องหาว่าอาการไข้เนี่ยมาจากไหน
00:13:02 → 00:13:06 คุณมีอาการอะไรที่จะทำให้เกิดไข้ขึ้นมา
00:13:06 → 00:13:09 ติดเชื้อแบคทีเรียไหม ติดเชื้อไวรัสไหมนะคะ
00:13:09 → 00:13:13 หรือติดเชื้ออะไรก็ตามที่มันส่งผลทำให้มีความผิดปกติของร่างกาย
00:13:13 → 00:13:15 จริงๆแล้วเนี่ยต้องหาแพทย์เลยอันนี้
00:13:15 → 00:13:19 เราต้องสังเกตอาการอื่นๆที่เรามีด้วย อย่างเช่น ปวดศรีษะรุนแรง
00:13:19 → 00:13:23 ปวดศรีษะร่วมกับมีการอาเจียนรุนแรง
00:13:23 → 00:13:27 บางทีต้องนึกถึงพวกอาการไข้ที่มาจากการอักเสบภายในส่วนของสมอง
00:13:27 → 00:13:31 คอแข็งอย่างนี้นะคะ หรือปวดท้อง ท้องแข็ง
00:13:31 → 00:13:35 บางทีไส้ติ่งแตกก็ได้หรือบางทีเราปล่อยให้เป็นไข้อยู่นานๆ
00:13:35 → 00:13:38 บางทีแล้วอาจจะเกิดผลแทรกซ้อนของมันได้
00:13:38 → 00:13:44 ยกตัวอย่างเช่นคนไข้อาจจะมีภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มของผู้สูงอายุ
00:13:44 → 00:13:49 น้ำเนี่ยสำคัญมากๆเพราะน้ำจะส่งผลทำให้เกิดมีปัญหาของสมดุลเกลือแร่
00:13:49 → 00:13:52 สมดุลเกลือแร่จะส่งผลถึงการทำงานของร่างกาย
00:13:52 → 00:13:54 โดยเฉพาะอาจจะส่งผลทำให้เกิดการทำงานของระบบประสาท
00:13:54 → 00:13:57 อาจจะมีอาการซึม อาจจะมีอาการประสาทหลอน
00:13:57 → 00:13:59 หรืออาจจะนำไปสู่อาการชักได้
00:13:59 → 00:14:02 ซึ่งถือว่าเป็นภาวะอาการแทรกซ้อนที่รุนแรง
00:14:02 → 00:14:05 และโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเกิดกับเด็กเล็กๆ
00:14:05 → 00:14:09 หรือผู้สูงอายุที่มีภูมิต้านทานร่างกายบกพร่องอยู่แล้ว
00:14:09 → 00:14:11 อันเนี่ยต้องระวัง
00:14:11 → 00:14:16 งั้นกรณีที่เราปล่อยให้มีการปัญหาอยู่นานๆอาจจะทำให้เกิดมีการติดเชื้อในกระแสเลือด
00:14:16 → 00:14:19 แล้วบางทีอาจจะสายเกินกว่าที่เราจะไปแก้ไขได้ทัน
00:14:19 → 00:14:24 หาต้นตอว่าอาการไข้เนี่ยเกิดมาจากสาเหตุอะไร
00:14:24 → 00:14:27 รีบรักษาให้ตรงจุดจะได้ป้องกันภาวะแทรกซ้อน
00:14:27 → 00:14:29 โอ้โห วันนี้ครบถ้วน
00:14:29 → 00:14:34 หวังว่าอาการนอยจากการมาคอยวัดไข้ตัวเองทุกวัน ทุกเวลาคงจะหายไปนะคะ
00:14:34 → 00:14:39 ขอให้ทุกคนแข็งแรงๆนะคะ แล้วก็คลาดแคล้วจากเจ้าโควิด19กันด้วย
00:14:39 → 00:14:42 ใครที่อยากจะติดตามรายการย้อนหลังนะคะ
00:14:42 → 00:14:47 กับตอนอื่นๆซึ่งมีหลายเรื่องเหลือเกินที่คุณหมอนำเสนอกันไปหลายร้อยตอนมากๆ
00:14:47 → 00:14:52 ฝาก Subscribe ในยูทูปชาแนลของเรากันหน่อยค่ะ เสิร์ชชื่อรายการคุยกับหมออัจจิมา
00:14:52 → 00:14:54 อย่าลืมกดกระดิ่งรอตอนใหม่ๆไว้ด้วยนะคะ
00:14:54 → 00:14:57 วันนี้หมดเวลาแล้วขอตัวไปวัดไข้ เอ้ย
00:14:57 → 00:15:00 ไม่ใส่สิ ขอตัวไปออกกำลังกายทานอาหารดีๆ
00:15:00 → 00:15:03 จะได้แข็งแรงนะคะ เจอกันใหม่สัปดาห์หน้า
00:15:03 → 00:15:06 คุณหมอและแนนลาไปก่อน สวัสดีค่า