00:00:00 → 00:00:03 โอเคเรามาที่หัวข้อของเรากันดีกว่าค่ะคุณ
00:00:03 → 00:00:07 หมอคะว่าภาวะเลือดข้นเนี่ยคืออะไรมันยัง
00:00:07 → 00:00:10 ไงมันถึงเรียกได้คำจำกัดความว่าเลือดข้น
00:00:10 → 00:00:13 คะคุณหมอสกะทิไม่ใช่อันนั้นต้มยำกุ้งอัน
00:00:13 → 00:00:17 นั้นข้นไขมันเหรอวไม่ใช่เลือดข้นบางคนก็
00:00:17 → 00:00:20 อาจจะตีเป็นเหมือนนมข้นหวานเอออย่างงเป่า
00:00:20 → 00:00:24 แบบว่าหนืดๆเทางนั้นอะไรเงี้ยจริงๆแล้ว
00:00:24 → 00:00:27 ภาวะเลือดข้นก็คือมันมีส่วนผสมส่วนประกอบ
00:00:27 → 00:00:31 ในเลือดอย่างหนึ่งอย่างใดนะครับที่แบบมี
00:00:31 → 00:00:34 ปริมาณมากกว่าพลาสม่าหรือน้ำเลือดอนะครับ
00:00:34 → 00:00:38 ถ้าเกิดในมุมของเอ่อหมอโรคเลือดเองเนี่ย
00:00:38 → 00:00:41 ก็ส่วนประกอบนั้นก็คือเม็ดเลือดแดงนะครับ
00:00:41 → 00:00:45 ที่ปริมาณเยอะนะครับถ้าเทียบอัตราส่วนกับ
00:00:45 → 00:00:49 น้ำเลือดนะครับพลาสม่าที่เป็นเ่อส่วนใสๆ
00:00:49 → 00:00:52 อ่ะนะครับสใสเหลืองๆอ่ะนะครับเพราะฉะนั้น
00:00:52 → 00:00:56 ถามว่าจะมีปริมาณเท่าไหร่ที่แบบดูแล้วอ
00:00:56 → 00:01:00 มันก็ต้องไปหาสาเหตุแล้วนะครับก็คืออ่า
00:01:00 → 00:01:02 มันก็จะมีหน่วยเวลาเราไปตรวจสุขภาพประจำ
00:01:02 → 00:01:06 ปีเนี่ยมันก็จะมีการตรวจค่าความสมบูรณ์
00:01:06 → 00:01:09 ของเม็ดเลือดใช่มยครับมันจะมีค่านึงที่
00:01:09 → 00:01:12 ชื่อว่าฮีมาโตคินะครับตัวเนี้ยถ้าเกิดมาก
00:01:12 → 00:01:16 กว่า 45% นะครับจาก 100% ก็คือเมเลดแดง 45
00:01:16 → 00:01:21 แล้วก็พลาสม่าอีก 55 เนาะถ้าเกิดเกิน 45
00:01:21 → 00:01:24 นะครับมีเลดแดงเกิน 45 เนี่ยก็ถือว่าเออ
00:01:24 → 00:01:28 ก็อาจจะต้องไปหาสาเหตุและว่ามีปัญหาเลือด
00:01:28 → 00:01:33 ข้นผิดปกติอะไรหรือเปล่าออือค่ะออแล้วคือ
00:01:33 → 00:01:37 ถ้าอย่างงี้เนี่ยเราจะไปหาสาเหตุที่คือ
00:01:37 → 00:01:40 บางทีอ่ะเราเป็นเหมือนคนที่เลือดข้นเนี่ย
00:01:40 → 00:01:42 ยังใช้ชีวิตได้เป็นปกติมั้ยหรือว่ามันจะ
00:01:42 → 00:01:46 มีสัญญาณอะไรที่เอ่อผู้คนที่มีภาวะเนี้ย
00:01:46 → 00:01:48 จะรับรู้ได้ด้วยตัวเองมั้ยคะหรือต้องไป
00:01:48 → 00:01:52 เจอการตรวจสุขภาพอะไรเงี้ยหรือเปล่าอ่า
00:01:52 → 00:01:55 สำหรับโรคเลือดข้นน่ะนะครับมันก็จะมีหลาย
00:01:55 → 00:01:58 มุมเหมือนกันมุมแรกก็คืออ่ามันไม่ได้เป็น
00:01:58 → 00:02:03 อ่าโรคนะครับเป็นแค่ภาวะชั่วขณะนึงนะครับ
00:02:03 → 00:02:07 เช่นเอ่อตัวคนไข้มีภาวะขาดน้ำเพราะว่าไม่
00:02:07 → 00:02:11 สบายทานอะไรไม่ได้เลยมีภาวะขาดน้ำจากเสีย
00:02:11 → 00:02:14 น้ำจากไข้สูงหนาวสั่นอะไรเงี้ยครับหรือ
00:02:14 → 00:02:18 ว่าท้องเสียก็มีภาวะขาดน้ำรุนแรงอันนี้ก็
00:02:18 → 00:02:21 จะทำให้เลือดข้นได้้วเหมือนกันนะครับแต่
00:02:21 → 00:02:24 มันเป็นภาวะเลือดข้นชั่วขณะถ้าเกิดทาน
00:02:24 → 00:02:27 อาหารดื่มน้ำหรือว่าเ่อแอดมิเข้าโรง
00:02:28 → 00:02:31 พยาบาลแล้วก็ได้น้ำเกลืออือภาวะเลือดข้น
00:02:31 → 00:02:35 ก็จะดีขึ้นนะครับกับอีกอ่าฝั่งนึงก็คือ
00:02:35 → 00:02:39 ฝั่งที่เป็นโรคละอันเนี้ยก็ต้องหาสาเหตุ
00:02:39 → 00:02:43 ว่าเอ่อสาเหตุมาจากอะไรได้บ้างอะไรเงี้ย
00:02:43 → 00:02:48 นะครับโดยทั่วไปแล้วเนี่ยเ่อถ้าเกิดคนไข้
00:02:48 → 00:02:51 มาแบบแข็งแรงดีเจอโดยบังเอิญด้วยการตรวจ
00:02:51 → 00:02:55 สุขภาพนะครับไม่ได้แบบมีภาวะเ่อขาดน้ำมา
00:02:56 → 00:03:00 ก่อนนะครับก็คงจะต้องถามเอ่อปัญหาแบบง่าย
00:03:00 → 00:03:04 ๆนะครับไม่ไม่ดูน่ากลัวมากนะครับเชื่อม
00:03:04 → 00:03:07 ครับว่าคนที่สูบบุหรี่ก็เลือดข้นได้อ่า
00:03:07 → 00:03:10 เหรอฮะอ้าเพราะว่าอะไรหรอคะคุณบนิโคติน
00:03:10 → 00:03:14 หรืออะไรก็ใช้องค์ความรู้ที่คุยกันมาตอน
00:03:14 → 00:03:18 ต้นชั่วโมงนะฮะก็เ่อเ่อถามว่าพยานามีผล
00:03:18 → 00:03:21 ยังไงต่อระบบร่างกายใช่มั้ยก็คือทำให้เ่อ
00:03:21 → 00:03:25 เมเเลอแดงไม่สามารถที่จับกับออกซิเจนได้
00:03:25 → 00:03:28 ใช่มั้ครับก็เลยทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน
00:03:28 → 00:03:31 แล้วก็เสียชีวิตแบบกทันหันได้ครับบุหรี่
00:03:31 → 00:03:35 ก็เหมือนกันตัวควันตัวสารที่อยู่ในบุหรี่
00:03:35 → 00:03:38 อครับเขาก็จะไปเกาะกับเม็ดเลือดแดงทำให้
00:03:38 → 00:03:42 การแลกเปลี่ยนน่ะไม่ค่อยดีทีเนี้ยเอ่ออาจ
00:03:42 → 00:03:45 จะไม่ได้รุนแรงขนาดเหมือนพวกไยานายแต่ก็
00:03:45 → 00:03:48 เ่อมีผลแบบนี้ได้เหมือนกันทีนี้ร่างกาย
00:03:48 → 00:03:52 เนี่ยพอเอ่อประมวลและว่าเออเม็ดเลือดแดง
00:03:52 → 00:03:57 ไม่สามารถที่จะนำพาออกซิเจนได้เต็มที่
00:03:57 → 00:04:00 เหมือนเดิมสิ่งนึงที่เขาทำได้ก็คือคือ
00:04:00 → 00:04:02 สร้างไม้เลือดแดงเข้ามาเยอะๆนะครับเพื่อ
00:04:02 → 00:04:05 เอามาใช้แลกเปลี่ยนปกติสมมุติว่าไมเลือด
00:04:05 → 00:04:10 แดง 1 ตัวอาจจะอ่อรับออกซิเจนมาได้เ่า 2
00:04:10 → 00:04:12 หน่วยเงี้ยครับพอสู่บุหรี่ก็เหลือแค่
00:04:12 → 00:04:15 หน่วยเดียวใช่มั้ยครับเพราะฉะนั้นทางทาง
00:04:15 → 00:04:18 ออกของร่างกายก็คือต้องสร้างเพิ่มขึ้นมา
00:04:18 → 00:04:22 เท่าตัวนะครับเพื่อให้ร่างกายสามารถที่จะ
00:04:22 → 00:04:26 เอาออกซิเจนอไปส่งสมองไปส่งหัวใจไปส่ง
00:04:26 → 00:04:29 อวัยวะปลายทางได้ปกติเพราะฉะนั้นคนที่สุุ
00:04:29 → 00:04:33 บุหี่เนี่ยก็จะมีการสะสมสารแล้วก็ทำให้
00:04:33 → 00:04:36 ร่างกายอ่าสร้างเม็ดเลือดแดงเนี่ยค่อยๆ
00:04:36 → 00:04:39 เพิ่มทีละนิดทีละนิดทีละนิดแบบไม่รู้ตัว
00:04:39 → 00:04:42 เพราะฉะนั้นพอเช็คอัพตสุขภาพประจำปีนะ
00:04:42 → 00:04:47 ครับก็วทำไมเลือดข้นขึ้นนะก็เ่อถ้าลองไป
00:04:47 → 00:04:51 หยุดบุหรี่นะครับสัก 3-6 เดือนนะครับค่า
00:04:51 → 00:04:54 เ่อความเข้มข้นของเลือดเนี่ยก็จะค่อยๆลด
00:04:54 → 00:04:57 ลงนะครับอันนี้เจอได้เรื่อยๆเหมือนกันนะ
00:04:57 → 00:05:00 ครับสำหรับสาเหตุนี้นะครับอ๋อออพอบุหรี่
00:05:00 → 00:05:04 แล้วขออีกนิดนึงค่ะแอลกอฮอล์มีผลมั้ยมัน
00:05:04 → 00:05:07 มาคู่กันออลแอลกอฮอล์ทำให้เลือดข้นได้
00:05:07 → 00:05:11 เหมือนกันแต่ออกไปในขาเอ่อเหมือนเป็นยายา
00:05:11 → 00:05:14 เค้าเรียกยาขับปัสสาวะเนาะถ้าเกิดใครดื่ม
00:05:14 → 00:05:17 แอลกอฮอล์เนี่ยจะรู้ว่าพอดื่มไปได้สักพัก
00:05:17 → 00:05:20 เนี่ยโหเข้าห้องน้ำประจำใช่ๆเพราะว่ามัน
00:05:20 → 00:05:22 อ่ามีฤทธิ์เป็นเหมือนยาขับปัสาวะเพราะะ
00:05:22 → 00:05:25 นั้นก็ทำให้เลือดข้นได้เหมือนกันเพราะว่า
00:05:25 → 00:05:29 อ่อแล้วขับปัสสาวะออกไปก็เหมือนกับขับไป
00:05:29 → 00:05:32 จากร่างกายเพราะฉะนั้นพลาสมาหรือน้ำเลือด
00:05:32 → 00:05:36 ส่วนใสๆเนี่ยก็จะลงไปลดลงไปแล้วก็
00:05:36 → 00:05:38 ส่วนของแมดเลือดแดงเนี่ยไม่ได้เพิ่มขึ้น
00:05:39 → 00:05:41 ไม่ได้เพิ่มขึ้นเหมือนบุหรี่แต่เขาอยู่
00:05:41 → 00:05:43 เท่าเดิมนั่นแหละแต่พลาสม่าหรือน้ำน้ำน้ำ
00:05:43 → 00:05:47 เลือดอเ่อลดลงไปเองก็เลยทำให้กลายเป็น
00:05:47 → 00:05:51 เลือดข้นก็ต้องดื่มน้ำเยอะๆนะครับเพื่อ
00:05:51 → 00:05:52 ให้
00:05:52 → 00:05:55 เ่อเลือดกลับมาอยู่ในระดับปกติแต่ก็ไม่
00:05:55 → 00:05:59 ได้แบบข้นจนแบบอันตรายน่ากลัวอะไรนะครับ
00:05:59 → 00:06:03 แต่ก็ข้นกว่าปกติถ้าเทียบกับตอนที่ยังไม่
00:06:03 → 00:06:06 ได้ดื่มนะครับเหมือนคลองเหมือนคลองที่มัน
00:06:06 → 00:06:09 แห้งระหว่างน้ำขึ้นน้ำลงเประมาณนั้นมั้ย
00:06:09 → 00:06:13 ฮะประมาณนั้นเลยครับเออนะครับแล้วก็คนที่
00:06:13 → 00:06:17 เ่ออยู่ในที่สูงๆนะครับที่สเมีการศึกษา
00:06:17 → 00:06:20 ว่าคนที่อยู่อันเนี้ยเป็นการศึกษาที่
00:06:20 → 00:06:23 อเมริกาเพราะว่าอเมริกาเาจะมีตึกสูงเยอะ
00:06:23 → 00:06:27 ใช่มั้ยครับคนที่แบบอยู่ตึกสูงแบบ 50
00:06:27 → 00:06:29 ชั้นขึ้นไปอะไรเงี้ยครับแล้วก็อยู่ตรง
00:06:29 → 00:06:34 นั้นนานๆก็มีโอกาสที่จะเลือดข้นได้เหมือน
00:06:34 → 00:06:37 กับคนที่เป็นเอ่อคนที่อยู่บนเขาสูงๆอะไร
00:06:38 → 00:06:40 เงี้ยครับก็ถ้าเกิดตรวจเลือดเนี่ยความ
00:06:40 → 00:06:43 เข้มข้นของเลือดเนี่ยจะสูงกว่าคนที่อยู่
00:06:43 → 00:06:48 ตีนเขาอยู่หรืออยู่อยู่พื้นลบพื้นที่ลาบ
00:06:48 → 00:06:53 ค่ะเหตุผลก็เพราะว่าบนที่สูงนะครับเอ่อ
00:06:53 → 00:06:56 ความเข้มข้นของออกซิเจนน้อยเหมือนกันเลย
00:06:56 → 00:06:58 นะครับเหมือนกับสูบบุหรี่เลยนะครับร่าง
00:06:58 → 00:07:01 กายก็เลยต้องสร้างเลือดแดงเพิ่มขึ้นมา
00:07:01 → 00:07:05 เพื่อเอาไว้แลกเปลี่ยนได้มากขึ้นนะครับ
00:07:05 → 00:07:08 เหมือนคล้ายๆกับคนที่เวลาไปเที่ยวภูเขา
00:07:08 → 00:07:12 สูงหรือเป็นไปไปปีนเขาไปไต่เขาขึ้นที่สูง
00:07:12 → 00:07:16 โดยที่ร่างกายไม่พร้อมนี่ก็ได้รับผลกระทบ
00:07:16 → 00:07:18 จากภาวะนี้ด้วยเหมือนกันมั้ยครับใช่ครับ
00:07:18 → 00:07:21 เพราะฉะนั้นเราจะสังเกตว่าเวลาเราขึ้นเขา
00:07:21 → 00:07:25 สูงๆนะเอ๊ะทำไมคนพื้นที่นี่แบบอคล่อง
00:07:25 → 00:07:28 แคล่วว่องไวอะไรเงี้ยครับส่วนนึงก็คือ
00:07:28 → 00:07:30 ร่างกายเปรับสมดุ
00:07:30 → 00:07:33 อแต่เราเป็นนักท่เที่ยวไม่เคยขึ้นพื้นที่
00:07:33 → 00:07:37 สูงขนาดนี้ก็ทำให้แบบรู้สึกมึนเหมือน
00:07:37 → 00:07:40 เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอออกซิเจนขึ้นสมอง
00:07:40 → 00:07:43 ไม่ไม่พออะไรเงี้ยครับก็จะแบบมีง่วงๆอะไร
00:07:44 → 00:07:46 เงี้ยครับได้ด้วยเหมือนกัน
00:07:46 → 00:07:50 อเออครับก็ต่อมานะครับก็อันนี้ก็เป็นสาย
00:07:50 → 00:07:55 ที่อ่าเจอได้ปกติอ้อมีอันนึงครับคือโรค
00:07:55 → 00:07:59 อ้วนคนอ้วนครับคนอนเลจะมีปัญหาอันนึงก็
00:07:59 → 00:08:04 คือเวลานอนนะครับก็จะมีภาวะเอ่อทางเดิน
00:08:04 → 00:08:09 หายใจเอ่ออุดกั้นนะครับครับมันอเสียงจาก
00:08:09 → 00:08:11 การกลนะครับจากการที่
00:08:11 → 00:08:17 อ่าต่อมอะไรต่างๆตรงคอหรือว่าตรงเ่อเนื้อ
00:08:17 → 00:08:21 ไขมันตรงโคนลิ้นอะไรต่างๆบล็อกทางเดินหาย
00:08:21 → 00:08:23 ใจนะครับเพราะฉะนั้นพอร่างกายได้รับ
00:08:23 → 00:08:28 ออกซิเจนน้อยลงนะครับก็หรือตัวเอ่อร่าง
00:08:28 → 00:08:32 กายของคนที่ที่น้ำหนักเยอะๆ BMI เกิน 35
00:08:32 → 00:08:36 เนี่ยเราจะสังเกตว่าเ่อซี่โครงโครงล่าง
00:08:36 → 00:08:39 เนี่ยเเท่าเดิมแต่สิ่งที่มากกว่าคนอื่นๆ
00:08:39 → 00:08:43 ก็คือมีไขมันนะครับมากเพราะฉะนั้นการหาย
00:08:43 → 00:08:48 ใจอะไรต่างๆเนี่ยก็จะอ่าไม่ไม่สะดวก
00:08:48 → 00:08:51 เหมือนกับคนที่อ่า BMI น้อยกว่านะครับ
00:08:51 → 00:08:55 หรืออ่าไขมันในช่องท้องเยอะก็ดันกระบังลม
00:08:55 → 00:08:58 ขึ้นมาเพราะฉะนั้นพื้นที่ของตัวปอดจริงๆ
00:08:58 → 00:09:01 เนี่ยก็จะเล็กกว่าคนที่ BMI น้อยๆนะครับ
00:09:01 → 00:09:05 เพราะฉะนั้นพอปอดเล็กอ่าก็เหมือนกับคนที่
00:09:05 → 00:09:08 อยู่ที่สูงหรือว่าคนสบบุหรี่เลยนะก็คือพอ
00:09:08 → 00:09:11 พื้นที่ปอดน้อยแลกเปลี่ยนออกซิเจนน้อย
00:09:11 → 00:09:14 ร่างกายก็ต้องพยายามสร้างเม็ดเลือดขึ้นมา
00:09:14 → 00:09:16 เพิ่มแทนนะครับจะได้แลกเปลี่ยนได้มากขึ้น
00:09:16 → 00:09:19 นะครับวนมาบ่อยขึ้นอะไรเงี้ยเพราะงั้นคน
00:09:19 → 00:09:24 ที่ BMI สูงๆก็จะมีค่าของความเข้มข้นของ
00:09:24 → 00:09:29 เลือดเนี่ยสูงกว่าอ่าคนที่บน้อยๆนะครับอื
00:09:29 → 00:09:35 อืครับค่ะก็แสดงว่าอาการเ่อภาวะเ่อเลือด
00:09:35 → 00:09:38 ข้นเองเนี่ยเอ่อมันไม่ไม่ส่งผลดีต่อผู้
00:09:38 → 00:09:44 ที่เผชิญภาวะนั้นในในลักษณะที่เหมือนกับ
00:09:44 → 00:09:48 ว่าเอ่อไม่ได้ไม่ได้เป็นคนที่อยู่ในพื้น
00:09:48 → 00:09:50 เพเป็นคนคนที่อยู่ที่สูงอยู่แล้วอะไร
00:09:50 → 00:09:52 เงี้ยที่ไม่มีความพุ้นชินอยู่แล้วคนที่
00:09:53 → 00:09:55 แบบทั่วไปอย่างคนเราเนี่ยถ้าไปเจอภาวะนี้
00:09:55 → 00:09:59 มันก็ส่งผลอันตรายต่อต่อร่างกายมากน้อย
00:09:59 → 00:10:03 แค่ไหนครับคุณหมอใช่ครับก็ถ้าคนไข้ความ
00:10:03 → 00:10:05 เข้มเคลื่อนเลือดสูงเนี่ยเ่าหมอก็จะ
00:10:05 → 00:10:08 พยายามซักหาเรื่องพวกนี้นะครับเพราะว่า
00:10:08 → 00:10:11 เอ่อก็ถือเป็นอีกอันนึงที่สะท้อนนะครับ
00:10:11 → 00:10:15 ว่าเอ่อตัวของคนไข้เองอาจจะมีปัจจัย
00:10:16 → 00:10:18 เสี่ยงหรือปัญหาอะไรอยู่นะครับก็จะได้รับ
00:10:18 → 00:10:22 คำแนะนำไปนะครับแต่ถ้าเกิดหาและอ่าบุหรี่
00:10:22 → 00:10:25 ก็ไม่สูบไม่ได้อยู่ที่สูงแล้วก็ไม่ได้
00:10:25 → 00:10:30 อ้วนมากนะครับไม่ได้เป็นเอ่อโรคถุงลมโป่ง
00:10:30 → 00:10:33 พองที่เ่อการแลกเปลี่ยนออกซิเจนไม่ดีก็ทำ
00:10:33 → 00:10:37 ให้เลือดข้นเหมือนกันนะแล้วก็เอ่อไม่ได้
00:10:37 → 00:10:41 เ่อดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ใช้หยาขับปัสสาวะ
00:10:41 → 00:10:45 นะครับแล้วอยู่ดีเลือดข้นนะฮะก็ต้องไปา
00:10:45 → 00:10:48 สาเหตุอื่นนะครับสาเหตุถัดมานะครับก็คือ
00:10:48 → 00:10:52 เริ่มเป็นสาเหตุของโรคและโรคที่เ่อมีการ
00:10:52 → 00:10:56 สร้างเม็ดเลือดแดงมากผิดปกตินะครับก็
00:10:56 → 00:11:00 อันดับ 1 เลยนะครับที่อ่าเจอได้บ่อยที่
00:11:00 → 00:11:03 สุดก็คือสร้างมาจากไขกระดูกนะครับโรคในไข
00:11:03 → 00:11:06 กระดูกที่สร้างผิดปกตินะครับเพราะฉะนั้น
00:11:06 → 00:11:09 การวินิจฉัยก็อาจจะต้องเจาะแลบเพิ่มนะ
00:11:09 → 00:11:14 ครับดูเรื่องของยีนนะครับว่ามียีนตัวที่
00:11:14 → 00:11:16 เจอได้บ่อยตัวเนี้ยอืมันมีการ Mutation
00:11:17 → 00:11:21 หรือการไกลพันไปมยเพราะว่า 95% ของคนที่
00:11:21 → 00:11:24 มีโรคเอ่อเลือดข้นแล้วมาจากไขกระดูกเนี่ย
00:11:24 → 00:11:28 ก็จะมียีนตัวเนี้ยผิดปกตินะครับแล้วก็อ่า
00:11:28 → 00:11:32 อันที่ 2 นะครับก็ส่งไปอ่าทำอันเดอร์ซาว
00:11:32 → 00:11:35 ดูไตนิดนึงนะครับเพราะจริงๆแล้วเนี่ยมัน
00:11:35 → 00:11:38 จะอ่าร่างกายเนี่ยจะมีฮอร์โมนอยู่ตัวนึง
00:11:38 → 00:11:42 นะครับที่เอ่อสร้างจากไตแล้วก็ไปกระตุ้น
00:11:42 → 00:11:45 ให้เ่อไขกระดูกเนี่ยสร้างเเลือดแดงให้
00:11:45 → 00:11:48 เยอะๆนะครับเพราะฉะนั้นคนที่เป็นไตวายนะ
00:11:48 → 00:11:53 ครับหรือใครที่ครอบครัวมีเอ่อคนที่เป็น
00:11:53 → 00:11:56 ต้องฟอกไตนะครับก็จะรู้ว่าเอ่อพอเป็นเอ่อ
00:11:56 → 00:12:00 ไตวายเนี่ยจะต้องฉีดยากระตุ้นเม็ดเลือก
00:12:00 → 00:12:03 แดงนะครับก็เหตุผลเพราะว่าพอไตทำงานไม่ดี
00:12:03 → 00:12:06 แล้วไอ้ตัวสารตัวเนี้ยที่ร่างกายต้อง
00:12:06 → 00:12:08 สร้างเองจากไตเนี่ยมันก็พร่องไปด้วยนะ
00:12:08 → 00:12:13 ครับเพราะฉะนั้นในทางกลับกันถ้าเกิดอ่า
00:12:13 → 00:12:16 เลือดข้นเยอะก็แสดงว่ามีการสร้างไม้เลือด
00:12:16 → 00:12:19 แดงเยอะก็แสดงว่าสารตัวเนี้ยที่สร้างจาก
00:12:19 → 00:12:23 ไตเนี่ยมันสูงมากขึ้นนะครับก็ต้องไปดูที่
00:12:23 → 00:12:27 ไต่ว่ามีเนื้องอกมั้ยนะครับเพราะว่าพอไต
00:12:27 → 00:12:30 มีเนื้องอกนะครับก็เหมือนกพื้นที่เยอะใช่
00:12:30 → 00:12:33 มั้ยครับพอพื้นที่ไตเยอะก็สร้างไอ้สารตัว
00:12:33 → 00:12:35 เนี้ยขึ้นมาเยอะแล้วก็ไปกระตุ้นให้ไข
00:12:35 → 00:12:38 กระดูกเนี่ยสร้างไม่เลือดแดงขึ้นมาเยอะนะ
00:12:38 → 00:12:42 ครับเพราะฉะนั้นเอ่อนานๆจะเจอทีนะครับส่ง
00:12:42 → 00:12:45 ไปทำออร์สาแล้วก็อ่าเจอสาเหตุว่าเป็น
00:12:45 → 00:12:49 เนื้องอกที่ไต่อก็ต้องตัดเอามาตรวจเอามา
00:12:49 → 00:12:54 รักษากันนะครับอืออืออืค่ะเออก็มีผลกระทบ
00:12:54 → 00:12:56 ค่อนข้างที่จะเอาจริงๆมันไม่ใช่ไม่ใช่
00:12:56 → 00:12:59 เรื่องเล่นๆเลยนะครับค่ะ
00:12:59 → 00:13:02 เร่มน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆนะครับอืใช่ฮะมัน
00:13:02 → 00:13:05 จะน่ากลัวได้กว่านี้อีกมั้ยฮะมันถามต่อ
00:13:05 → 00:13:08 เลยนี้อันที่น่ากลัวที่สุดก็คือปัญหามา
00:13:08 → 00:13:10 จากอยู่ในไข่กระดูกนั่นแหละครับเพราะว่า
00:13:10 → 00:13:14 โรคกลุ่มเนี้ยอ่ามันโอเคถ้าถ้าเกิดตรวจ
00:13:14 → 00:13:19 ได้เจอนะครับก็เอ่อสามารถที่จะเ่อทานยา
00:13:19 → 00:13:23 เพื่อที่จะลดปริมาณลงได้นะครับแต่ถ้าเกิด
00:13:23 → 00:13:26 ตรวจเจอช้านะครับสิ่งที่ตามมาก็คือเวลาไข
00:13:26 → 00:13:30 กระดูกผิดปกติเนี่ยไม่ได้ผิดปกติในการ
00:13:30 → 00:13:33 สร้างเม็ดเลือดแดงที่เยอะขึ้นผิดปกติ
00:13:33 → 00:13:36 อย่างเดียวบางทีเขาก็สร้างพวกเก็บเลือด
00:13:36 → 00:13:39 หรือสร้างเม็ดลือดขาวที่ผิดปกติด้วยนะ
00:13:39 → 00:13:41 ครับสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือตัวเกล็ด
00:13:41 → 00:13:45 เลือดนี่แหละที่สร้างผิดปกติทีนี้พอเกล็ด
00:13:45 → 00:13:47 เลือดที่เป็นปกติเนี่ยออกมาในระบบเลือด
00:13:47 → 00:13:51 เนี่ยมีโอกาสสูงมากที่จะไปรวมตัวกันและ
00:13:51 → 00:13:54 กลายเป็นลิ่มเลือดนะครับอเพราะฉะนั้น
00:13:54 → 00:13:59 เนี่ยคนที่เลือดข้นที่มาจากอ่าไขกระดูก
00:13:59 → 00:14:02 ผิดปกตินะครับเป็นโรคในไขกระดูกเนี่ยจะมี
00:14:02 → 00:14:06 อยู่ 2 แบบนะครับที่ตรวจที่ที่ที่เจอนะ
00:14:06 → 00:14:09 ครับ 1 ก็คือเจอโดยบังเอิญจากการตรวจ
00:14:09 → 00:14:11 สุขภาพประจำปีเพราะฉะนั้นแนะนำเลยนะครับ
00:14:11 → 00:14:16 ว่าถ้าถ้าถ้าตรวจสุขภาพประจำปีแล้วเจอ
00:14:16 → 00:14:20 เลือดเลือเอ่อเลือดข้นเกินเกณฑ์เนี่ยไป
00:14:20 → 00:14:23 ปรึกษาหมอโรคเลือดหน่อยนะครับเพราะว่าเจอ
00:14:23 → 00:14:26 แบบเนี้ยดีกว่ากับเจอแบบรูปแบบที่ 2 นะ
00:14:26 → 00:14:27 ครับก็คือ
00:14:27 → 00:14:31 เอ่อเจอตอนที่มันเกิดปัญหาขึ้นแล้วถามว่า
00:14:31 → 00:14:34 ปัญหาจากอะไรก็คือไม่ได้ปัญหาจากเม็ด
00:14:34 → 00:14:37 เลือดแดงที่เยอะนะครับปัญหาจากตัวเก็ด
00:14:37 → 00:14:40 เลือดที่ผิดปกติเนี่ยแหละมันไปเกิดลิ่ม
00:14:40 → 00:14:43 เลือดเกิดขึ้นแล้วก็ไปอุดอุดสมองแล้วก็
00:14:43 → 00:14:47 เป็นอัมพาตมาหรือว่าอุดหัวอุดเส้นเลือดไป
00:14:47 → 00:14:50 เลี้ยงหัวใจแล้วก็เป็นโรคหัวใจมาทีนี้พอ
00:14:50 → 00:14:53 เอ่อเป็นโรคหัวใจขาดเลือดหรือว่าเป็น
00:14:53 → 00:14:56 อัมพฤกษ์อัมพาตมาแล้วหมอเคเจาะตรวจนะแล้ว
00:14:56 → 00:14:59 เคก็เจอว่าเอ๊ะทำไมความคิดเข้มข้นของ
00:14:59 → 00:15:03 เลือดขึ้นไป 50% อ่าก็สุดท้ายก็มาเจออ่า
00:15:03 → 00:15:07 ตรวจไปตรวจมาก็มาเจอว่าโอเคก็เป็นโรคในไข
00:15:07 → 00:15:11 กระดูกอันนี้แหละอืแล้วก็ทำให้เกิดลิ่ม
00:15:11 → 00:15:14 เลือดแล้วก็ไปอุดตันอวัยวะสำคัญแล้วก็ทำ
00:15:14 → 00:15:18 ให้เอ่อแย่ลงนะครับเพราะฉะนั้นคนที่เจอ
00:15:18 → 00:15:24 โดยแบบเจ็บป่วยแล้วนะครับก็ก็จะเอ่อทรมาน
00:15:24 → 00:15:26 หน่อยนะครับถ้าเกิดเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต
00:15:26 → 00:15:29 หรือว่าเป็นโรคหัวใจใช่มั้ครับมันก็การ
00:15:29 → 00:15:31 ใช้ชีวิตมันก็ไม่เหมือนเดิมแล้วนะครับ
00:15:31 → 00:15:35 เพราะฉะนั้นเ่อการตรวจสุขภาพประจำปีก็
00:15:35 → 00:15:38 เป็นสิ่งที่สำคัญนะครับอือื
00:15:38 → 00:15:42 ค่ะเมื่อสักครู่ทวนกันนิดนึงคุณหมอบอกว่า
00:15:42 → 00:15:45 สาเหตุที่ทำให้เลือดข้นน่ะก็มีบุหรี่
00:15:45 → 00:15:49 แอลกอฮอล์ความอ้วนอยู่ที่สูงมาที่หัวข้อ
00:15:49 → 00:15:52 เราวันนี้ที่บอกว่าเอ๊ะดื่มน้ำน้อยทำ
00:15:52 → 00:15:54 เลือดข้นจริงหรือเปล่าอันนี้ก็เป็นส่วน
00:15:54 → 00:15:56 หนึ่งมั้ยตีตีตีความได้ว่าไม่จริงหรือมัน
00:15:57 → 00:15:59 มันจริงแล้วมันมันก็มีความจริงอยู่ในั้น
00:15:59 → 00:16:03 คะอาจจะเพิ่มขึ้นจากระดับปกติของเรานิด
00:16:03 → 00:16:06 นึงนะครับค่ะเพราะว่าพอเราดื่มน้ำน้อยใช่
00:16:06 → 00:16:11 มั้ยครับอเอ่าตัวปริมาณพลาสม่าเราก็จะ
00:16:11 → 00:16:13 พร่องลงแต่จริงๆแล้วเนี่ยกลไกของร่างกาย
00:16:13 → 00:16:16 เนี่ยค่อนข้างฉลาดครับเพราะฉะนั้นถ้าเกิด
00:16:16 → 00:16:19 เราดื่มน้ำน้อยเนี่ยเขาก็จะไปลดการสูญ
00:16:19 → 00:16:24 เสียน้ำจากตรงอื่นแทนเช่นปัสสาวะน้อยลง
00:16:24 → 00:16:30 อ่าค่ะหรือเอ่ออุจจาระน้อยลงมีการดูดน้ำ
00:16:30 → 00:16:33 ดูดน้ำในอุจจาระในลำไส้ครับมากขึ้นครับก็
00:16:33 → 00:16:36 เลยทำให้อุจจาระแข็งเป็นก้อนแข็งอะไร
00:16:36 → 00:16:39 เงี้ยครับมาเพราะนั้นเก็จะมีกลไก
00:16:39 → 00:16:43 เอ่อเพิ่มลดน้ำในตัวเนี่ยดูดีอยู่แล้วนะ
00:16:43 → 00:16:46 ครับเพราะฉะนั้นถามว่าดื่มน้ำน้อยลงทำให้
00:16:46 → 00:16:50 เลือดข้นจนอันตรายมก็อ่าไม่ใช่นะครับ
00:16:50 → 00:16:54 แต่อันตรายแบบเ่อที่หมอเล่าให้ฟังนะครับ
00:16:54 → 00:16:57 ก็คือลิ่มเลือดอุดตันสมองหรือว่าเลือดไป
00:16:57 → 00:17:01 เลี้ยงเอ่อหัวใจไปเลี้ยงสมองไม่พอคงจะไม่
00:17:01 → 00:17:05 ได้ขนาดนั้นแต่อาจจะมีผลอื่นๆเช่นอ่าการ
00:17:05 → 00:17:08 ดื่มน้ำน้อยลงอาจจะทำให้เป็นนิ่วในไตแล้ว
00:17:08 → 00:17:13 ก็ทำให้เกิดการอุดตันของเอ่อระบบทางเดิน
00:17:13 → 00:17:17 ปัสสาวะทำให้ไตบวมน้ำอะไรเงี้ยครับอืค่ะ
00:17:17 → 00:17:21 หรือท้องผูกนะครับพอท้องผูกบ่อยๆนะครับ
00:17:21 → 00:17:24 ไม่มีการขับถ่ายทุกวันนะครับก็มีโอกาสการ
00:17:24 → 00:17:27 เกิดมะเร็งลำไส้ได้มันจะไปอันตรายแบบ
00:17:27 → 00:17:30 อย่างอื่นแทนะครับ
00:17:30 → 00:17:36 ค่ะมันก็มันก็เอ่อมันก็ไม่ดีทั้งนั้นเลย
00:17:36 → 00:17:39 จะว่าไปแล้วเออการการที่อยู่ในภาวะที่
00:17:39 → 00:17:43 เลือดมันมันข้นนะฮะไม่ทั้งทั้งภาวะที่ั้
00:17:43 → 00:17:45 จากตัวเราเองพฤติกรรมของเราเองหรือว่าอาจ
00:17:45 → 00:17:49 จะสาเหตุสิ่งแวดล้อมอื่นๆด้านอื่นๆนะครับ
00:17:49 → 00:17:55 ปัจจัยอื่นๆซึ่งแน่นอนว่าเอ่อถ้าถ้าเราจะ
00:17:55 → 00:17:58 พอจะรู้ตัวตัวเองมยครับว่าเราอยู่ในภาวะ
00:17:58 → 00:18:01 ที่เอ้ยเอ้ยเลือดมันมันมันอยู่ในภาวะ
00:18:01 → 00:18:04 เลือดข้นอยู่หรือเปล่าณขณะนั้นหรือว่ามัน
00:18:04 → 00:18:06 มันจะต้องตรวจด้วยทางการแพทย์อย่างเดียว
00:18:07 → 00:18:10 เท่านั้นครับคุณหมอเอ่อเอาง่ายๆเลยนะครับ
00:18:10 → 00:18:13 ถ้าเกิดสมมุติว่าในกลุ่มคนไข้ที่แบบเลือด
00:18:13 → 00:18:17 ข้นแบบ 45 -50% นะครับค่ะเอ่อสิ่งนึงที่
00:18:17 → 00:18:22 เขาจะเล่าให้ฟังเค้าก็จะบอกว่าเวลาเอ่อ
00:18:22 → 00:18:26 ออกกำลังกายหรือว่าเวลาใช้แรงเยอะๆเนี่ย
00:18:26 → 00:18:29 เ้าจะเหมือนแบบเอ่อเหมือนเหมือนออกซิเจน
00:18:29 → 00:18:33 ไปถึงสมองไม่พอเจะรู้สึกง่วงหนาวง่วงนอน
00:18:33 → 00:18:37 ตลอดอะไเงี้ยครับหรือว่าเ่อมีอาการมึนหัว
00:18:37 → 00:18:43 นะครับแล้วก็ถัดมาก็คือในเรื่องของเ่อผิว
00:18:43 → 00:18:47 หนังพอเลือดเลือดเลือดข้นมากๆเนี่ยเก็เ่า
00:18:47 → 00:18:50 จะมีคนทักเนี่ยนะว่าเทำไมหน้าแดงตัวแดง
00:18:50 → 00:18:54 อะไรเงี้ยนะครับแล้วเวลาเลือดเ่าเม็ด
00:18:54 → 00:18:57 เลือดค่อนข้างเยอะเนี่ยก็อาจจะทำให้การ
00:18:57 → 00:19:00 ไหลเวียนบริเวณหนังไม่ค่อยดีอาจจะทำให้มี
00:19:00 → 00:19:04 ผิวแห้งได้คันยุบยิตามตัวอะไรเงี้ยครับ
00:19:04 → 00:19:07 อันนี้ก็เป็นสิ่งที่เอ่อแสดงให้เห็นแล้ว
00:19:07 → 00:19:11 ว่าเอ้ยมันเ่ามีความผิดปกติแล้วนะครับ
00:19:11 → 00:19:14 ก่อนที่จะไปเจาะเลือดแล้วตรวจเจอนะครับก็
00:19:14 → 00:19:18 จะเริ่มมีอ่าระบบการรับรู้ตัวทางสมองนะ
00:19:18 → 00:19:22 ครับเริ่มรู้สึกอ่าการหายใจไม่อิ่มนะครับ
00:19:22 → 00:19:27 ตัวแดงคันผิวแห้งอะไรเงี้ยครับอาจะไปลอง
00:19:27 → 00:19:30 เช็คดูก่อนนะครับว่าว่าอในเลือดแดงเ่อ
00:19:30 → 00:19:34 เยอะกว่าปกติจริงหรือไม่นะครับครับค่ะโอ
00:19:34 → 00:19:38 แล้วเมื่อกี้นอกจากไอ้ตัวภาวะเลือดข้น
00:19:38 → 00:19:42 เนี่ยมันจะนำไปสู่การที่มีกิเกล็ดเลือด
00:19:42 → 00:19:46 ผิดปกติแล้วเนี่ยนะคะมันนำไปสู่โรคอื่นๆ
00:19:46 → 00:19:49 ได้อีกั้คะคุณหมอมันจะแบบดูน่ากลัวขึ้นไป
00:19:49 → 00:19:54 อีกได้มั้ยอ่าถ้าเป็นในขาของโรคเ่อในไข่
00:19:54 → 00:19:57 กระดูกอนะครับที่ปกติแน่นอนละครับว่าเอ่อ
00:19:57 → 00:20:00 ที่เล่าให้ฟังว่ามันเป็นความผกติของยีน
00:20:00 → 00:20:03 ที่เอ่อเกิดการไกลพันขึ้นนะครับซึ่ง
00:20:03 → 00:20:07 อันเนี้ยมันก็จะคาดเดาไม่ได้ว่าเ่าใครจะ
00:20:07 → 00:20:09 เกิดหรือจะไปเกิดกับใครแล้วมันก็ไม่ได้
00:20:09 → 00:20:13 เป็นโรคพันธุกรรมด้วยนะครับเป็นแบบเกิด
00:20:13 → 00:20:16 ขึ้นมาเองเหมือนอุบัติเหตุอ่ะนะครับซึ่ง
00:20:16 → 00:20:21 เอ่อโอกาสที่จะกลายไปเป็นลิวคีเมียหรือ
00:20:21 → 00:20:24 มะเร็งเมเลือดขาวเนี่ยก็จะมีได้ลดหลังกัน
00:20:24 → 00:20:27 ไปถ้าเกิดเป็นในกลุ่มโรคที่เลือดข้นก็
00:20:27 → 00:20:31 โอกาสเป็นลิวคีเมียได้ประมาณสัก 5-10 per
00:20:31 → 00:20:35 มะเร็งมลึดขาวนะครับก็อนั้นก็น่ากลัวที่
00:20:35 → 00:20:38 สุดแหละนะครับแล้วก็ในส่วนอื่นๆนะครับก็
00:20:38 → 00:20:42 คือถ้าเกิดไม่ได้เป็นเอ่อโรคทางไขกระดูก
00:20:42 → 00:20:46 นะครับแต่เป็นโรคที่อ่าเลือดข้นจริงๆนะ
00:20:46 → 00:20:51 ครับอ่าถ้ามีปัญหาร่วมกับโรคประจำตัวเช่น
00:20:51 → 00:20:55 ความดันเบาหวานนะครับซึ่งกลุ่มพวกเนี้ยก็
00:20:55 → 00:20:58 จะมีโอกาสที่จะเป็นเอ่อเส้นเลือดอุดตัน
00:20:58 → 00:21:01 ได้ง่ายอยู่แล้วใช่มั้ยครับแล้วยังมี
00:21:01 → 00:21:03 เรื่องเ่อความเข้มข้นของเลือดสูงอีกนะ
00:21:03 → 00:21:07 ครับโอกาสที่เกิดเป็นธรรมพฤกษ์อัมพาตโรค
00:21:07 → 00:21:11 หัวใจนะครับหรือว่าเ่อลิ้มเลือดอุดปอด
00:21:11 → 00:21:13 อะไรเงี้ยครับก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ด้วย
00:21:13 → 00:21:15 เหมือนกันเพราะฉะนั้นก็
00:21:15 → 00:21:20 เอ่อนอกจากตรวจเจอว่าเป็นโรคเลือดข้นแล้ว
00:21:20 → 00:21:23 ก็ต้องไปคุมโรคความเสี่ยงอื่นๆนะครับโรค
00:21:23 → 00:21:26 ความดันโรคไขมันแล้วก็โรคเบาหวานให้ดี
00:21:26 → 00:21:29 ด้วยนะครับอื
00:21:29 → 00:21:33 ก็ต้องเอ่อต้องป้องกันในเรื่องการควบคุม
00:21:33 → 00:21:36 หลายๆอย่างที่มันเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพโดย
00:21:36 → 00:21:38 เฉพาะเรื่องเกี่ยวกับความเค็มความหวาน
00:21:38 → 00:21:42 อะไรเงี้ยคุณหมอนะใช่เลยครับออันนี้กำลัง
00:21:42 → 00:21:45 บอกวิธีป้องกันใช่มั้ยคะคุณหมออืมีวิธี
00:21:45 → 00:21:49 ป้องกันอื่นๆอีกมั้ยคะอ่าสำหรับถ้าเกิด
00:21:49 → 00:21:53 เป็นภาวะปกตินะครับอ่าอันดับ1ึเลยถ้าเกิด
00:21:53 → 00:21:58 เรารู้และว่าอ่าถ้าเป็นเลือดข้นจากบุหรี่
00:21:58 → 00:22:02 นะครับก็ลดละเลิกนะครับดีที่สุดนะครับอัน
00:22:02 → 00:22:05 ที่ 2 ก็คือถ้าเป็นเลือดข้นจากแอลกอฮอล์
00:22:05 → 00:22:10 นะครับก็อ่าแนะนำก็ให้เพลาๆลงนะครับหรือ
00:22:10 → 00:22:14 ว่าอย่าชงเข้มมากนะครับอย่าชงเข้มมากนะ
00:22:14 → 00:22:18 เอ่อให้ดีกรีของแอลกอฮอล์ลดลงหน่อยนะครับ
00:22:18 → 00:22:21 ดื่มน้ำเยอะๆนะครับหรือถ้าเกิดเอ่อคนที่
00:22:21 → 00:22:24 อยู่ที่สูงอะไรเงี้ยโออันนี้ก็ห้ามไม่ยาก
00:22:24 → 00:22:29 ห้ามไม่ได้นะครับก็คงจะต้องเอ่อให้ให้รู้
00:22:29 → 00:22:33 ว่าโอเคก็เ่อที่เลือดข้นหาทุกอย่างแลละหา
00:22:33 → 00:22:36 สาเหตุอื่นไม่ได้ะคิดว่าน่าจะมาจากสาเหตุ
00:22:36 → 00:22:39 นี้นะครับอ่าในประเทศไทยยังไม่เจอเคสแบบ
00:22:39 → 00:22:43 นี้นะฮะจะเจอที่ต่างประเทศมากกว่านะครับ
00:22:43 → 00:22:47 ค่ะแล้วก็ถ้าเกิดอ่าสุดท้ายแล้วไปเจอใน
00:22:47 → 00:22:50 สายโลกเช่นเป็นเนื้องอกที่ไตนะครับเป็น
00:22:50 → 00:22:54 ความปกติในไขกระดูกอก็รักษากับแพทย์เฉพาะ
00:22:54 → 00:22:58 ทางรักษาตรงนั้นให้ดีให้หายนะครับแล้วก็
00:22:58 → 00:23:01 ควบคุมโรคให้ได้อันนี้ก็เป็นคำแนะนำแต่
00:23:01 → 00:23:04 สำหรับเอ่อคำถามนะครับที่ถามในเรื่องของ
00:23:04 → 00:23:08 ว่าดื่มน้ำน้อยทำให้เลือกข้นอันตรายมนะ
00:23:08 → 00:23:12 ครับก็เ่าร่างกายเนี่ยเฉลาดเพยายามปรับ
00:23:12 → 00:23:16 อยู่ะแต่แต่ถ้าเกิดเราดื่มน้ำน้อยมากจริง
00:23:16 → 00:23:20 ๆเนี่ยก็จะสนผลเสียกับอ่าอวัยวะอื่นๆมาก
00:23:20 → 00:23:25 กว่านะครับค่ะอือืเอ๊ะคุณหมอคะการรักษา
00:23:25 → 00:23:28 ภาวะเลือดข้นเนี่ยคุณผู้ฟังจากทางบ้านทง
00:23:28 → 00:23:32 ถามมาว่าต้องพึ่งยาในการรักษาหรือรักษา
00:23:32 → 00:23:37 ด้วยวิธีอะไรคะอครับถ้าเกิดเป็นช่วงแรกๆ
00:23:37 → 00:23:39 นะครับที่เรายังไม่รู้ว่าวินิจฉัยอะไรนะ
00:23:39 → 00:23:44 ครับแล้วเราก็กลัวนะครับที่อ่าไอ้ภาวะ
00:23:44 → 00:23:48 เลือดข้นเนี่ยจะมีปัญหากับคนไข้เช่นเอ่อ
00:23:48 → 00:23:51 ระดับความเข้มข้นของเลือดเ่าจากปกติเนี่ย
00:23:51 → 00:23:54 ไม่ควรเกิน 45% ใช่่มั้ยครับบางคนมาแบบ
00:23:54 → 00:23:58 60% เงี้ยซึ่งเอ่อถ้าเกิดเกิน 50 หรือ
00:23:58 → 00:24:01 เกิน 48 เนี่ยอันนี้ไม่ดีนะครับเพราะ
00:24:01 → 00:24:05 ฉะนั้นทางเดียวที่จะช่วยลดได้ก็คือดึง
00:24:05 → 00:24:08 เลือดออกนะครับก็คือเหมือนทำบริจาคเลือดน
00:24:08 → 00:24:13 นะครับดึงออกนะครับครั้งละ 500 ซีซีเวลา
00:24:13 → 00:24:17 บริจาคเลือดก็จะใช้ประมาณ 5 450 -550
00:24:17 → 00:24:21 ซีซีใช่มั้ยฮะอันนี้ก็ดึงดึงวันละถุงเลย
00:24:21 → 00:24:25 ฮะดึงๆดึงแล้วก็เจาะเลือดดูจนกว่าเ่า
00:24:25 → 00:24:29 ระดับเลือดเนี่ยจะลงมาตกว่า 45 ได้ยิ่งดี
00:24:30 → 00:24:33 หรือว่าต่ำกว่า 48 นะครับเพราะว่าเ่า
00:24:33 → 00:24:37 อย่างที่บอกถ้าเกิดเรายังเ่อรอการวินิฉัย
00:24:37 → 00:24:41 เนี่ยแล้วบังเอิญไปเป็นโรคเกี่ยวกับเ่อไข
00:24:41 → 00:24:45 กระดูกนะครับการปล่อยให้คนไข้มีระดับความ
00:24:45 → 00:24:48 เข้มคดเลือดสูงๆแบบเนี้ยก็อันตรายของเขา
00:24:48 → 00:24:50 ด้วยเหมือนกันเดี๋ยวเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต
00:24:50 → 00:24:54 เดี๋ยวเป็นโรคหัวใจเดี๋ยหรือว่าเ่อตัวปอด
00:24:54 → 00:24:56 อุดลิ้มเลือดอุดตันปอดเงี้ยครับก็ทำให้คน
00:24:57 → 00:24:59 ไข้เสียชีวิตหรือทุกสภาพได้เหมือนกันก็
00:24:59 → 00:25:02 ต้องรักษาเบื้องต้นก่อนแต่พอเรารู้
00:25:02 → 00:25:06 วินิจฉัยแล้วนะครับว่าโอเคเป็นสาเหตุมา
00:25:06 → 00:25:09 จากไขกระดูกผิดปกติในการสร้างเม็ดเลือด
00:25:09 → 00:25:13 แดงมากเกินไปเราก็มียาทานนะครับเพื่อให้
00:25:13 → 00:25:17 ลดปริมาณเ่าของเม็ดเลือดแดงเนี่ยลงนะครับ
00:25:17 → 00:25:21 ก็ทานยาไปเรื่อยๆถามว่าทานนานแค่ไหนก็ทาน
00:25:21 → 00:25:25 ไปเรื่อยๆนะครับทานไปตลอดชีวิตได้นะครับ
00:25:25 → 00:25:28 แล้วก็นัดติดตามแพทย์ตลอดแล้วก็ในส่วน
00:25:28 → 00:25:32 ส่วนของคนที่เอ่อมีปัญหาความผิดปกติในไข่
00:25:32 → 00:25:35 กระดูกนะครับก็ยาอีกตัวนึงที่จะได้ทาน
00:25:35 → 00:25:38 เพิ่มก็คือแอสไพรินหรือยาละลายลิ่มเลือด
00:25:38 → 00:25:41 นะครับเพราะอย่างที่เล่าให้ฟังว่าความผิด
00:25:41 → 00:25:44 ปกติของเม็ดเลือดเนี่ยไม่ได้ผิดปกติแค่
00:25:44 → 00:25:46 เม็ดเลือดแดงอย่างเดียวเก็ดเลือดก็ผิด
00:25:46 → 00:25:49 ปกติด้วยมีโอกาสที่จะเกิดลิ่มเลือดได้
00:25:49 → 00:25:52 ง่ายกว่าคนที่เ่อไม่ได้เป็นโรคนี้นะครับ
00:25:52 → 00:25:55 เพราะฉะนั้นการทานยาละลายลิ่มเลือดก็จะ
00:25:55 → 00:25:59 ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดเอ่อเส้นเลือด
00:25:59 → 00:26:02 อุดตันในสมองหรือว่าเ่อหัวใจเป็นอัมพฤกษ์
00:26:02 → 00:26:06 อัมพาเป็นโรคหัวใจได้นะครับค่ะอืแต่คุณ
00:26:06 → 00:26:10 โ๊กพูดอยู่รอบนึงตอนเช้าเอ่อตอนต้นๆนะ
00:26:10 → 00:26:14 ครับที่บอกว่าพวกไขมันทำให้เลือดข้นได้ม
00:26:14 → 00:26:19 ใช่มั้ยครับฮะค่ะถ้าเกิดเปิดเวลามีข่าวก็
00:26:19 → 00:26:22 จะเห็นเอ่อบางครั้งนะครับที่ตามข่าว
00:26:22 → 00:26:25 อินเทอร์เน็ตมันก็จะเห็นมีอ่าภาพข่าวที่
00:26:25 → 00:26:29 แบบเลือดของคนที่เจาะมาแล้วเหมือนแบบเป็น
00:26:29 → 00:26:34 นมผสมอยู่ๆเหืๆสีขาวๆอะไรเงี้ยครับก็เอ่อ
00:26:34 → 00:26:37 ถ้าเลือดข้นสายนั้นน่ะนะครับก็จะเป็นข้น
00:26:37 → 00:26:40 แบบอ่าไขมันคอเลสเตอรอลหรือไตรกีซาไลน์
00:26:40 → 00:26:45 สูงนะครับอันนี้ก็จะต้องไปหาสาเหตุทางโรค
00:26:45 → 00:26:48 ทางฝั่งตับหรือตับอ่อนหรือพวกเบาหวานและ
00:26:48 → 00:26:52 นะครับโกไขมันทางนู้นและในการที่เอ่อร่าง
00:26:52 → 00:26:57 กายมีเอ่อไขมันพวกเนี้ยเยอะเกินไปนะครับ
00:26:57 → 00:26:59 ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเนี่ยเนี่ยก็จะมีทั้ง
00:26:59 → 00:27:02 อ่าเป็นโรคทางพันธุกรรมที่สร้างไขมันนี้
00:27:03 → 00:27:06 เยอะๆก็มีเหมือนกันนะครับหรือจะเป็นภาวะ
00:27:06 → 00:27:10 ที่แบบผิดปกติสับพันธ์นะครับเอ่อในคนไข้
00:27:10 → 00:27:14 บางกลุ่มนะครับก็อาจจะมีแบบการสร้าง
00:27:14 → 00:27:19 ไตกีสไลมากขึ้นนะครับออ่าก็อันนั้นก็จะ
00:27:19 → 00:27:23 คุณหมอที่ดูแลก็จะเป็นคุณหมอเอ่อตมไร้ท่อ
00:27:23 → 00:27:26 แล้วนะครับที่ดูแลเบาหวงเบาหวานไทรรอยด์
00:27:26 → 00:27:30 อะไรเงี้ยครับเขก็จะมารับช่วงต่อเลือดข้น
00:27:30 → 00:27:34 แบบสายเป็นน้ำนมนะครับโอสายเป็นน้ำนมฟัง
00:27:34 → 00:27:37 ชื่อดูอ่อนแบบดูดูละมุนน่ะแต่มันไม่ละมุน
00:27:37 → 00:27:42 เลยอ่ะค่ะคุณหมอใช่ครับเพราะว่าเอ่อคนไข้
00:27:42 → 00:27:46 บางคนก็ไม่ได้รู้ตัวว่าเ่อเลือดข้นแบบ
00:27:46 → 00:27:49 นั้นนะครับเขาอาจจะเ่อมาด้วยอาการอย่าง
00:27:49 → 00:27:54 เช่นมาด้วยเอ่อตรงตะตุ่มหรือตรง N1 หาย
00:27:54 → 00:27:58 เนี่ยมันมีการตกผลึกของอะไรบางอย่างสีขาว
00:27:58 → 00:28:01 ๆนะก็คือไขมันนี่แหละตกผลึกอยู่แล้วก็
00:28:01 → 00:28:05 เอ๊ะทำไมมีขาวๆเจาะเลือดดูโหแต่ีสลาย
00:28:05 → 00:28:09 เนี่ยปกติไม่คนเกิน 150 ใช่มั้ยฮะส่วน
00:28:09 → 00:28:11 ใหญ่คนไข้ที่เป็นหนักขนาดเนี้ยขึ้นเป็น
00:28:11 → 00:28:14 1000 เลยฮะอ 1000 กว่า 2,000 อะไรเงี้ย
00:28:14 → 00:28:18 ครับค่ะอืก็ต้องไปหาโรคต่างๆเลยครับโรค
00:28:18 → 00:28:22 ทางเนื้องอกโรคทางระบบต่อมไร้ท่อต่างๆนะ
00:28:22 → 00:28:26 ครับอืค่ะเมื่อสักครู่คุณหมอพูดถึงกรณี
00:28:26 → 00:28:29 เลือดข้นแล้วก็ต้องมีการดุูดเลือดของคน
00:28:29 → 00:28:31 ที่มีภาวะเลือดข้นเนี่ยออกเลือดตัวเนี้ย
00:28:31 → 00:28:36 คือต้องทิ้งเลยหรือเอาไปใช้ได้ต่อหรือมัน
00:28:36 → 00:28:38 เอ่อมันเป็นยังไงต่อได้คะเพราะว่าเอ่อ
00:28:38 → 00:28:43 เหมือนกับว่าเวลาคนที่มีภาวะเลือดข้นถ้า
00:28:43 → 00:28:45 ส่งเลือดไปให้คนอื่นถ้าถ้าไปใช้ต่อเนี่
00:28:45 → 00:28:48 เขาคมีกระบวนการยังไงบ้างคะคุณหมอโอเป็น
00:28:48 → 00:28:51 คำถามที่ดีมากเลยนะครับเพราะมีคนไข้
00:28:51 → 00:28:54 เหมือนกันพอหมอแนะนำว่าต้องเอาเลือดออกเ
00:28:54 → 00:28:56 ก็ถามเหมือนกันว่าอย่างนี้เ้าไปบริจาค
00:28:56 → 00:29:00 เลือดดีกว่าไนะครับคือถ้าเกิดอ่าตอนนั้น
00:29:00 → 00:29:03 น่ะยังไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไรนะครับ
00:29:03 → 00:29:05 ก็แนะนำ
00:29:05 → 00:29:09 ว่าไม่ควรส่งต่อให้คนอื่นใช้นะครับต้อง
00:29:09 → 00:29:12 ทิ้งอย่างเดียวนะครับเพราะว่าถ้าเกิดความ
00:29:12 → 00:29:16 ผิดปกติอย่างที่บอกนะครับว่าเ่อถ้าเกิด
00:29:16 → 00:29:19 เป็นโรคที่สร้างเผ็ดปกติจากไข่กระดูกโดย
00:29:19 → 00:29:23 ตรงนะครับค่ะเอ่อตัวเลือดแดงเนี่ยอ่ะไม่
00:29:23 → 00:29:26 เท่าไหร่นะครับแต่ตัวเกล็ดเลือดเนี่ยจะ
00:29:26 → 00:29:30 ไม่ปกตินะครับเพราะฉะนั้นถ้าเกิดเ่อมีคน
00:29:30 → 00:29:36 ได้รับเก็ดเลือดของเราไปใช้แล้วเ่อหมอที่
00:29:36 → 00:29:39 รักษาหรือทุกคนที่รักษาคนไข้ที่เอาเกล็ด
00:29:39 → 00:29:42 เลือดไปใช้เนี่ยเขาก็มีความคาดหวังว่า
00:29:42 → 00:29:45 เกล็ดเลือดเนี้ยก็จะต้องไปช่วยคนไข้ของ
00:29:45 → 00:29:48 เขาได้ถูกมั้ยฮะเพราะฉะนั้นพอเกล็ดเลือด
00:29:48 → 00:29:52 เนี่ยคุณภาพไม่ได้อืสิ่งที่ตามมาก็คืออาจ
00:29:52 → 00:29:58 จะไปทำเอ่อให้คนไข้ที่รับเลือดเอ่อของเรา
00:29:58 → 00:30:01 ไปเนี่ยอ่ามีปัญหาได้นะครับอาจจะอันตราย
00:30:01 → 00:30:04 ถึงชีวิตก็ได้เพราะฉะนั้นคำแนะนำที่ดีที่
00:30:04 → 00:30:08 สุดก็คือว่าเอ่ออย่าอย่าส่งต่อไอ้
00:30:08 → 00:30:11 ผลิตภัณฑ์จากเลือดพวกเม็ดเลือดต่างๆเนี่ย
00:30:11 → 00:30:14 ให้คนอื่นเลยนะครับเพราะว่ามันเป็นเ่า
00:30:14 → 00:30:18 เม็ดเลือดที่ไม่ได้สมบูรณ์แล้วก็คุณภาพ
00:30:18 → 00:30:22 อาจจะไม่ได้ตามที่ผู้รับต้องการเพราะนั้น
00:30:22 → 00:30:25 ก็จะทิ้งอย่างเดียวเลยครับแต่ถ้าเกิดเอ่อ
00:30:25 → 00:30:30 สาเหตุมาจากปัญญหาอื่นนะครับเช่นที่สูง
00:30:30 → 00:30:35 สูบบุหรี่อะไรเงี้ยครับก็ถ้าเกิดเจอก็ก็
00:30:35 → 00:30:40 ยังแนะนำว่าไม่ไม่ให้ไปให้เลือดเหมือนกัน
00:30:40 → 00:30:43 นะครับเพราะว่าอะไรเพราะว่าต่อให้
00:30:43 → 00:30:47 เอ่อไปดึงเลือดออกหรือไปเ่อบริจาคเลือดนะ
00:30:47 → 00:30:50 ครับร่างกายก็ต้องพยายามสร้างเม็ดเลือดนะ
00:30:50 → 00:30:53 ครับกลับเข้ามาชดเทยให้ตัวเองเนี่ยเพียง
00:30:53 → 00:30:57 พออยู่ดีเพราะฉะนั้นคำถามก็คือตัวเองยัง
00:30:57 → 00:31:00 ไม่เพียงพอเลยใช่มั้ยฮะร่างกายก็เลยสร้าง
00:31:00 → 00:31:03 เยอะเพราะฉะนั้นสิ่งที่ดีที่สุดก็คือเป็น
00:31:03 → 00:31:07 รถบุหรี่นะครับเป็นควบคุมรคอะไรต่างๆดี
00:31:07 → 00:31:11 กว่านะครับแล้วก็การบริจาคเลือดเนี่ยเขา
00:31:11 → 00:31:15 ก็จะมีเกณฑ์สำหรับผู้รับบริจาคผู้ให้
00:31:15 → 00:31:19 บริจาคนะครับว่าเ่าจะต้องไม่มีโรคนี้จะ
00:31:19 → 00:31:22 ต้องอ่ามีสุขภาพแข็งแรงอะไรต่างๆด้วยนะ
00:31:22 → 00:31:25 ครับเพราะฉะนั้นคนที่มีภาวะเลือดข้นที่
00:31:25 → 00:31:28 เป็นภาวะผิดปกติจริงๆอ่ะนะครับครับส่วน
00:31:28 → 00:31:32 ใหญ่ก็จะไม่ค่อยพร้อมที่จะบริจาคเลือด
00:31:32 → 00:31:38 อยู่แล้วครับอืครับผมอย่างเอ่อกรณีของของ
00:31:38 → 00:31:40 เลือดเลือดข้นนะครับคุณหมอ
00:31:40 → 00:31:44 เอ่อถ้าเราถ้าถ้าเป็นกรณีเลือดจางหรือว่า
00:31:44 → 00:31:48 โลหิตจางเขาให้กินพวกอะไรนะธาตุเหล็กกิน
00:31:48 → 00:31:51 เ่อเครื่องในสัตว์กินตับอะไรเงี้ยเสริม
00:31:51 → 00:31:53 เข้าไปใช่มั้ยอย่างเลือดข้นละครับมัน
00:31:53 → 00:31:55 เรื่องอาหารมันมันสามารถช่วยได้มั้ยหรือ
00:31:55 → 00:31:59 ว่าการการดื่มการกินอะไรมันจะช่วยเอิ่ใน
00:31:59 → 00:32:02 จุดนี้บ้างได้มั้ครับสำหรับเลือดข้นนะ
00:32:02 → 00:32:05 ครับก็คงจะต้องไปดูสาเหตุก่อนแล้วนะครับ
00:32:05 → 00:32:09 ว่าเกิดจากอะไรนะครับโดยทั่วไปแล้วเนี่ย
00:32:09 → 00:32:10 ถ้าเกิด
00:32:10 → 00:32:15 อ่าเราแก้แบบง่ายๆเลยนะครับก็คงจะต้องดึง
00:32:15 → 00:32:19 เลือดออกนะครับค่ะหรือดื่มน้ำเยอะขึ้น
00:32:19 → 00:32:22 หน่อยบางบางบางครั้งในบางรายก็อ่าดึง
00:32:22 → 00:32:24 เลือดออกแล้วต้องให้น้ำเกลือด้วยเพื่อจะ
00:32:24 → 00:32:28 ได้เจือกางลงนะครับครับอืแต่ถ้าเกิดใน
00:32:28 → 00:32:32 ส่วนของอาหารการกินเนี่ยก็จะไม่มีตัวที่
00:32:32 → 00:32:35 จะไปลดปริมาณนะครับเพราะว่าเหตุผลนึงถาม
00:32:35 → 00:32:40 ว่าเอ่อถ้าไม่ได้เป็นความมีกติในไขกระดูก
00:32:40 → 00:32:44 นะครับเป็นความมีกติจากระบบการแลกเปลี่ยน
00:32:44 → 00:32:47 ออกซิเจนเองนะครับที่ทำให้เกิดเลือดข้น
00:32:47 → 00:32:52 ได้เนี่ยถ้าเกิดเรายิ่งไปอ่าดึงเลือดออก
00:32:52 → 00:32:56 หรือไปลดปริมาณเลือดอ่ะใช่เช่นให้ยาไปกด
00:32:56 → 00:32:59 กันสร้างเม็ดเลือดนะครับยิ่งเป็นผลเสีย
00:32:59 → 00:33:02 กับตัวคนไข้เข้าไปอีกเลยนะครับเพราะว่า
00:33:02 → 00:33:06 แทนที่เขาจะเ่ามีเม็ดเลือดลำเลี้ยง
00:33:06 → 00:33:08 ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองหรืออวัยวะสำคัญของ
00:33:08 → 00:33:11 เขาเนี่ยได้เพียงพอแต่กลายเป็นว่าทำให้
00:33:12 → 00:33:16 เา้าเนี่ยเอ่ออยู่ในจุดที่ขาดอ่าร่างกาย
00:33:16 → 00:33:19 ขาดออกซิเจนเงี้ยครับก็ทำให้อวัยวะปลาย
00:33:19 → 00:33:22 ทางเสื่อมได้ด้วยเหมือนกันก็จะเป็น
00:33:22 → 00:33:26 อันตรายมากกว่านะครับแต่ถ้าเกิดในขาของ
00:33:26 → 00:33:29 อ่าโลหิตจางนะครับก็ตรงกันข้ามกันเลยครับ
00:33:29 → 00:33:33 ก็คือเม็ดเลือดน้อยเกินไปนะครับอือก็
00:33:33 → 00:33:36 โลหิตจางโหอันนี้ก็เป็นอีกเรื่องนึงที่
00:33:36 → 00:33:39 น่าคุยต่อนะครับอยากให้พี่ขวัญเป็นอีก
00:33:39 → 00:33:44 เรื่องใหญ่ว่าตอนิกลางในในวัยเจริญพันธ
00:33:44 → 00:33:48 น่ะโหมีเคส study ให้ฟังเยอะมากเลยนะค่ะ
00:33:48 → 00:33:53 ครับอืแต่สำหรับวันนี้เนี่ยคือถือว่า
00:33:53 → 00:33:55 สำหรับภาวะเลือดข้นเนี่ยคุณหมออยากจะฝาก
00:33:55 → 00:33:58 อะไรกับคุณผู้ฟังที่ฟังอยู่วันนี้อาจจะ
00:33:58 → 00:34:01 แบบเอ๊ะชันเลือดข้นหรือเปล่าเอามือทาบอก
00:34:01 → 00:34:04 กังวลและเอ่อคุณหมอขอฝากปิดท้ายตรงนี้นิด
00:34:04 → 00:34:08 นึงค่ะยินดีเลยครับสำหรับเลือดข้นนะครับ
00:34:08 → 00:34:12 ผมว่าอ่าอาจจะเป็นคำที่ไม่ได้เกิดขึ้นกาก
00:34:12 → 00:34:16 ตัวเองนะครับค่ะจะเป็นมาจากคุณหมอหรือว่า
00:34:16 → 00:34:20 เอ่อคนอ่าคนที่ดูแลนะครับเห็นค่าแลบแล้ว
00:34:20 → 00:34:23 ผิดปกติแล้วก็พูดขึ้นมาว่าเ้ยทำไมเลือด
00:34:23 → 00:34:27 ข้นจังนะครับสิ่งที่อยากให้เอ่อ
00:34:27 → 00:34:32 ไปติดตามต่อโดยเฉพาะคนที่มีอายุ 40 ปี
00:34:32 → 00:34:36 ขึ้นไปนะครับควรที่จะไปเ่อปรึกษาแพทย์
00:34:36 → 00:34:39 เฉพาะทางนะครับเพื่อที่จะได้หาคำตอบนะ
00:34:39 → 00:34:42 ครับว่าทำไมเลือดข้นเพราะอย่างที่เล่าให้
00:34:42 → 00:34:46 ฟังนะครับว่าคนไข้ที่มีภาวะเลือดข้นที่
00:34:46 → 00:34:49 เป็นความผิดปกติจากไข่กระดูกนะครับครับ
00:34:49 → 00:34:53 อ่าแล้วมีเราเจอได้อยู่ 2 แบบนะครับก็คือ
00:34:53 → 00:34:56 แบบที่ 1 ก็คือตรวจสุขภาพประจำปีแล้วเจอ
00:34:56 → 00:35:00 โดยบังเอิญตอนนั้นยังแข็งแรงดีอยู่ก็การ
00:35:00 → 00:35:03 รักษาเนี่ยมันก็ไม่ได้มีอะไรมากมายถูก
00:35:03 → 00:35:06 วินิจฉัยได้ก็ทันยาลดเม็ดเลือดเอานะครับ
00:35:06 → 00:35:11 อ่าแค่นั้นเองแต่ถ้าเกิดในกลุ่มคนที่เจอ
00:35:11 → 00:35:15 แบบเ่อเป็นอัมพฤกษ์อัมพาเป็นโรคหัวใจขาด
00:35:15 → 00:35:19 เลือดนะครับอือเอ่อเจอแบบนั้นน่ะมันก็ทำ
00:35:19 → 00:35:20 ให้ชีวิตมัน
00:35:20 → 00:35:24 เอ่อยากที่จะดำเนินชีวิตเหมือนกันนะเพราะ
00:35:24 → 00:35:30 ว่าเอ่อการเจอเอ่อภาวะเลือดข้นโดยที่แบบ
00:35:30 → 00:35:33 มีภาวะแทรกซ้อนมาเรียบร้อยแล้วนะครับการ
00:35:33 → 00:35:38 รักษาก็ก็ก็ต้องทำด้วยทั้งตัวเลือดข้นการ
00:35:38 → 00:35:41 รักษาทั้งฝั่งภาวะแทรซ้อนก็ต้องทำด้วยนะ
00:35:41 → 00:35:45 ครับก็เจอคนไข้หลายคนเหมือนกันนะครับที่
00:35:45 → 00:35:49 เ่อตรวจสุขภาพประจำปีแล้วหมอทักแล้วคน
00:35:49 → 00:35:52 นู้นคนนี้ก็ทักแล้วว่ามีภาวะเลือดข้นแต่
00:35:52 → 00:35:56 ไม่ได้ไปหาต่อว่าคืออะไรเพราะคิดว่ายัง
00:35:56 → 00:35:59 แข็งแรงอยู่อะไรเงี้ยนะครับค่ะมาอีกมาอีก
00:35:59 → 00:36:03 2-3 ปีถัดมาอ่ะเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตริ่ม
00:36:03 → 00:36:05 เลือดอุดปันอะไรเงี้ยก็ไม่คุ้มกันนะครับ
00:36:05 → 00:36:08 เพราะะนั้นก็ทุกครั้งที่ตรวจสุขภาพประจำ
00:36:08 → 00:36:13 ปีแล้วคุณหมอทักอะไรนะครับอยากให้ไปหา
00:36:13 → 00:36:17 สาเหตุให้เจอนะครับบางครั้งเนี่ยชื่อมัน
00:36:17 → 00:36:20 ดูไม่น่ากลัวเลยนะเลือดข้นเลือดข้นอะไร
00:36:20 → 00:36:23 เงี้ยดื่มน้ำก็น่าจะหายอะไรเงี้ยแต่จริงๆ
00:36:23 → 00:36:27 แล้วมันมันมีโรคที่อันตรายซ่อนอยู่ตรง
00:36:27 → 00:36:31 นั้นเราถ้าเกิดหาเจอไววภาวะแทรกซ้อนอะไร
00:36:31 → 00:36:32 ต่างๆ
00:36:32 → 00:36:37 ก็ก็จะไม่เกิดขึ้นนะครับค่ะครับอืก็ถือ
00:36:37 → 00:36:40 ว่าถ้าคุณหมอทักอะไรในการตรวจสุขภาพประจำ
00:36:40 → 00:36:43 ปีเนี่ยก็อย่าชะล่าใจแล้วก็รีบไปรับการ
00:36:43 → 00:36:46 รักษาที่หรือว่าไปตรวจที่ละเอียดมากขึ้น
00:36:46 → 00:36:49 แล้วก็รับการรักษาเป็นขั้นเป็นตอนต่อไป
00:36:49 → 00:36:52 อันตรายก็อาจจะลดน้อยลงหรือว่าแทบจะไม่
00:36:52 → 00:36:55 เป็นอะไรเลยก็ได้ใช่มั้ยคะคุณหมอครับถูก
00:36:55 → 00:36:58 ต้องครับค่ะสำหรับวันนี้ขอบคุณขคุณหมอมาก
00:36:58 → 00:37:01 เลยนะคะขอบคุณครับคุณหมอครับครับยินดี
00:37:01 → 00:37:06 ครับสวัสดีครับสวัสดีค่ะนายแพทย์กรทัศอชิ
00:37:06 → 00:37:09 อชิรรุจิกรนะคะอายุรศาสตร์โรคเลือดศูนย์
00:37:09 → 00:37:14 อายุรกรรมโรงพยาบาลวิมุติ