00:00:00 → 00:00:12 [เพลง]
00:00:12 → 00:00:16 สำหรับสัปดาห์นี้นะคะเราจะมารู้จักกับโรค
00:00:16 → 00:00:18 ที่เป็นภัยใกล้ตัวและเป็นภัยยุคใหม่ของ
00:00:18 → 00:00:22 พวกเราด้วยค่ะนั่นก็คือโรคกลัวการขาด
00:00:22 → 00:00:25 โทรศัพท์มือถือค่ะหรือว่าโมโฟเบียเป็น
00:00:25 → 00:00:29 อย่างไรไปฟังพร้อมๆกันค่ะโรคกลัวการขาด
00:00:29 → 00:00:31 โทรศัพท์มือถือหรือ
00:00:31 → 00:00:36 noia ย่อมาจาก No mobile pH fia เป็น
00:00:36 → 00:00:39 กลุ่มอาการกลัวกังวลใจและวิตกกังวลกับการ
00:00:39 → 00:00:42 ไม่มีโทรศัพท์ใช้และรู้สึกว่าโทรศัพท์
00:00:42 → 00:00:45 เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเป็นอาการหวาดกลัว
00:00:45 → 00:00:48 เมื่อต้องดำรงชีวิตอยู่โดยไม่มีโทรศัพท์
00:00:48 → 00:00:51 มือถือหรือไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือไม่ว่า
00:00:51 → 00:00:54 จะเป็นการลืมพกโทรศัพท์มือถือติดตัว
00:00:54 → 00:00:56 โทรศัพท์มือถือแบตเตอรี่หมดหรือการอยู่
00:00:56 → 00:00:59 บริเวณที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์จะทำให้ผู้
00:00:59 → 00:01:02 ที่มีภาวะนี้รู้สึกกระวนกวายใจหงุดหงิด
00:01:03 → 00:01:07 เครียดมีเหงื่อออกตัวสั่นหรือคลื่นไส้
00:01:07 → 00:01:09 ทั้งนี้พฤติกรรมนี้อาจส่งผลกระทบต่อการ
00:01:09 → 00:01:13 เรียนการทำงานความสัมพันธ์ต่อคนรอบข้าง
00:01:13 → 00:01:15 หรือการใช้ชีวิตประจำวันด้านต่าง
00:01:15 → 00:01:20 ๆแล้วคุณผู้ชมทราบหรือไม่คะว่าการใช้
00:01:20 → 00:01:23 โซเชียลมีเดียของคนไทยมีการศึกษาวิจัยพบ
00:01:23 → 00:01:27 แล้วว่ามีผลกระทบทางจิตใจของคนไทยค่ะ
00:01:27 → 00:01:30 สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
00:01:30 → 00:01:34 เปิดเผยว่าสถิติการใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัล
00:01:34 → 00:01:39 ของคนไทยเมื่อปีที่ผ่านมามากถึงร้อยละ 76
00:01:39 → 00:01:42 และไม่เคยหยุดใช้โซเชียลมีเดียแม้แต่วัน
00:01:42 → 00:01:46 เดียวขณะที่ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าและสุขภาวะ
00:01:46 → 00:01:49 ทางจิตอื่นๆมีแนวโน้มพบเห็นในสังคมมาก
00:01:49 → 00:01:53 ขึ้นโดยผลสำรวจพบข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง
00:01:53 → 00:01:55 เกือบ 5,000 คนคนส่วนใหญ่ใช้อุปกรณ์
00:01:55 → 00:02:00 ดิจิทัลเพื่อทำงานและเรียนหนังสือ 5-6 ชม
00:02:00 → 00:02:04 ต่อวันและเพื่อความบันเทิง 3-4 ชมต่อวัน
00:02:04 → 00:02:06 เรียกว่าแทบทั้งวันจะอยู่ติดกับโทรศัพท์
00:02:06 → 00:02:09 มือถือตลอดเวลาอีกทั้งยังพบการใช้
00:02:09 → 00:02:13 โทรศัพท์มือถือขณะรับประทานอาหารหรือพูด
00:02:13 → 00:02:17 คุยกับเพื่อนและครอบครัวคิดเป็น 4 ใน 5
00:02:17 → 00:02:20 ของกลุ่มตัวอย่างและร้อยละ 62 ไม่จำกัด
00:02:20 → 00:02:25 เวลาการใช้งานนอกจากนี้จากผลสำรวจยังพบ
00:02:25 → 00:02:29 ว่าพฤติกรรมการใช้อุปกรณ์ดิจิทัลของคนไทย
00:02:29 → 00:02:32 ล้วนแต่ส่งผลต่อสังคมสุขภาพกายไปจนถึง
00:02:32 → 00:02:35 สุขภาพจิตที่เชื่อมโยงไปถึงการพบผู้ป่วย
00:02:35 → 00:02:39 โรคซึมเศร้าโรคสมาธิสั้นหรือปัญหาสุขภาพ
00:02:39 → 00:02:43 จิตอื่นๆที่เพิ่มมากขึ้นแล้วคุณผู้ชมทราบ
00:02:43 → 00:02:47 ไหคะว่าการสำรวจเรื่องของการใช้โทรศัพท์
00:02:47 → 00:02:50 มือถือในเรื่องการใช้โซเชียล Media นั้น
00:02:50 → 00:02:54 มีผลกระทบต่อสุขภาพจิตของคนไทยโดยการ
00:02:54 → 00:02:58 สำรวจข้อมูลกลุ่มเด็กและวัยรุ่นอายุต่ำ
00:02:58 → 00:03:01 กว่า 18 ปีจำนวนสะสม
00:03:01 → 00:03:03 [เพลง]
00:03:03 → 00:03:08 5388 รายของกรมสุขภาพจิตผ่านแอปพลิเคชัน
00:03:08 → 00:03:11 mental Health checkin ระหว่างวันที่
00:03:11 → 00:03:14 12 กุมภาพันธ์
00:03:14 → 00:03:17 2565 ถึง 14 ตุลาคม
00:03:18 → 00:03:21 2567 พบกลุ่มเด็กและวัยรุ่นเสี่ยงซึม
00:03:21 → 00:03:24 เศร้าถึง
00:03:24 → 00:03:27 5189 รายคิดเป็นรอยละ
00:03:27 → 00:03:32 10.28 เสี่งทำร้ายเองจำนวน
00:03:32 → 00:03:35 8771 รายคิดเป็นร้อยละ
00:03:35 → 00:03:40 17.4 จากการสำรวจของกรมสุขภาพจิตนะคะพบ
00:03:40 → 00:03:43 ว่าเด็กและเยาวชน 1 ใน 7 มีปัญหาเรื่อง
00:03:44 → 00:03:48 ของภาวะซึมเศร้าแม้ว่าคนส่วนใหญ่ของคนวัย
00:03:48 → 00:03:52 นี้จะใช้ช่องทางสื่อโซเชียล Media เป็น
00:03:52 → 00:03:54 ช่องทางหลักในการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับ
00:03:55 → 00:03:58 สุขภาพจิตแต่ก็ยังเผชิญกับความท้าทายใน
00:03:58 → 00:04:01 การเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือและ
00:04:01 → 00:04:04 พบเจอปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่อาจส่งผลกระทบ
00:04:04 → 00:04:07 ทางลบต่อจิตใจสะท้อนให้เห็นว่าเด็กและ
00:04:07 → 00:04:10 เยาวชนคือวัยที่ได้รับผลกระทบจาก
00:04:10 → 00:04:14 เทคโนโลยีดิจิทัลมากที่สุดดังนั้นแล้วการ
00:04:14 → 00:04:17 ปลูกฝังภูมิคุ้มกันการใช้งานดิจิทัลใน
00:04:17 → 00:04:20 กลุ่มเด็กและเยาวชนควรเป็นเรื่องแรกที่
00:04:20 → 00:04:24 ต้องรีบทำทราบเรื่องราวผลสำรวจของคนไทย
00:04:24 → 00:04:27 แล้วนะคะเรามารู้กันดีกว่าว่าโรคกลัวการ
00:04:27 → 00:04:30 ขาดมือถือมีสาเหตุมาจากอะไร
00:04:30 → 00:04:33 สาเหตุของโรคกลัวการขาดโทรศัพท์มือถือ
00:04:33 → 00:04:37 หรือโนโมโฟเบียยังไม่รู้แน่ชัดแต่จากการ
00:04:37 → 00:04:40 ศึกษาคาดว่าอาจเกิดจากหลายปัจจัยรวมกัน
00:04:40 → 00:04:43 หรืออาจเกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีที่
00:04:43 → 00:04:47 เพิ่มมากขึ้นทำให้เกิดความกังวลเมื่อไม่
00:04:47 → 00:04:50 ได้ใช้โทรศัพท์มือถือซึ่งความกังวลเหล่า
00:04:50 → 00:04:54 นี้จะแสดงอาการออกมาทางการกระทำต่างๆเช่น
00:04:54 → 00:04:57 นำโทรศัพท์มือถือมาไว้ใกล้ตัวตลอดเวลา
00:04:57 → 00:05:00 ตั้งแต่เวลาตื่นจนถึงเวลานอนและยังต้อง
00:05:00 → 00:05:02 บอกอีกว่าการใช้โทรศัพท์มือถือบ่อยจนเกิน
00:05:02 → 00:05:05 ไปรวมถึงการวางท่าทางที่ไม่เหมาะสมขณะใช้
00:05:05 → 00:05:09 โทรศัพท์มือถือเช่นการก้มหน้าเพ่งจอใกล้ๆ
00:05:09 → 00:05:12 เป็นเวลานานหรืออยู่ในท่าที่ถือและใช้มือ
00:05:12 → 00:05:14 ถือนานๆอาจก่อให้เกิดโรคหรืออาการป่วย
00:05:15 → 00:05:17 หลายอย่างตามมาได้เช่นปวดเกร็งบริเวณคอ
00:05:18 → 00:05:21 บ่าไล่จอประสาทตาเสื่อมหมอนรองกระดูกที่
00:05:21 → 00:05:24 คอเสื่อมก่อนไวเส้นประสาทสันหลังบริเวณคอ
00:05:24 → 00:05:27 ถูกกดทับจนเป็นเหตุให้เกิดอาการชาที่แขน
00:05:27 → 00:05:30 หรือไม่มีแรงเป็นต้นนอกจากนี้ผู้ที่นั่ง
00:05:30 → 00:05:32 หรือนอนเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นระยะเวลา
00:05:32 → 00:05:35 นานยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนการเดิน
00:05:35 → 00:05:37 เล่นโทรศัพท์มือถือหรือเล่นระหว่างเดิน
00:05:37 → 00:05:40 ทางอาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหรือได้
00:05:40 → 00:05:43 รับอันตรายต่อร่างกายและทรัพย์สินอีก
00:05:43 → 00:05:48 ด้วยขอบคุณนะคะสำหรับการรับชมรายการ TNN
00:05:48 → 00:05:51 Health ค่ะและอย่าลืมค่ะกด Subscribe กด
00:05:51 → 00:05:54 ไลคกดแชร์ในทุกช่องทางออนไลน์ของ TNN
00:05:54 → 00:05:58 ช่อง 16 ค่ะเพื่อที่จะไม่พลาดการรับชมราย
00:05:58 → 00:06:05 การสดคลิปวดีโอที่น่าสนใจของทาง TNN นะคะ