00:00:35 → 00:00:37 มาค่ะคุณผู้ชมขา เริ่มต้นรายการในวันนี้มี
00:00:37 → 00:00:40 ข่าวพร้อมคุยกันแล้วในช่วงหมอคุยข่าวนะคะ
00:00:40 → 00:00:42 ช่วงนี้สนับสนุนโดย
00:00:42 → 00:00:46 ออลวิเต้นวัตกรรมเพื่อความกระจ่างใสจากรปะเทศเกาหลี
00:00:46 → 00:00:48 ออลวิเต้จัดไปนะคะ
00:00:48 → 00:00:50 จะได้มีผิวสวยใสเหมือนคนเกาหลี
00:00:52 → 00:00:54 มาค่ะก่อนที่เราจะพูดถึงเรื่องของการ
00:00:54 → 00:00:56 กินไขมันให้ผมในวันนี้
00:00:56 → 00:00:58 เราจะมาพูดถึงของสิ่งนึงซึ่งเป็น
00:00:58 → 00:01:00 อาหารเช้าที่ได้รับความนิยม
00:01:00 → 00:01:02 แต่กินตัวนี้ไม่น่าจะผอมได้
00:01:02 → 00:01:04 นั้นคือปาท่องโก๋นะคะคุณหมอ
00:01:05 → 00:01:07 เป็นคำเตือนนะคะจาก
00:01:07 → 00:01:10 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์นะคะเขาบอกว่า
00:01:10 → 00:01:11 เนี้ยหลังๆมี
00:01:11 → 00:01:13 คนมาแชร์ข้อมูลในโซเชี่ยลมีเดียนะคะ
00:01:13 → 00:01:15 ว่าการทานปาท่องโก๋มากๆ
00:01:16 → 00:01:19 ก็อาจจะทำให้เกิดโรคมะเร็ง
00:01:19 → 00:01:21 เพราะในปาท่องโก๋นั้นจะมี
00:01:21 → 00:01:23 เจ้าสารอะคริลาไมด์ตัวนี้
00:01:24 → 00:01:25 ที่ก่อให้เกิดมะเร็งนะคะ
00:01:25 → 00:01:27 ก็เลยอยากจะมาถามคุณหมอว่า
00:01:27 → 00:01:31 เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงรึเปล่าแล้วเจ้าสารอะคริลาไมด์เนี้ยมันคืออะไร
00:01:31 → 00:01:33 มันทำให้เกิดมะเร็งได้จริงมั้ยคะคุณหมอ
00:01:33 → 00:01:34 คือจริงๆต้องบอกว่า
00:01:34 → 00:01:36 สารอะคริลาไมด์เนี่ยเป็ฯสารก่อมะเร็ง
00:01:37 → 00:01:38 คือเขาพบว่าสารอะคริลาไมด์เนี่ย
00:01:39 → 00:01:41 สามารถที่จะก่อมะเร็งได้ในหนูทดลอง
00:01:41 → 00:01:43 แต่ว่าในมนุษย์เนี่ยเขา
00:01:43 → 00:01:44 จัด
00:01:44 → 00:01:47 ว่าเป็นสารที่มีความเป็นไปได้สูง
00:01:47 → 00:01:49 ว่าสามารถจะก่อให้เกิดมะเร็งในมนุษย์
00:01:51 → 00:01:53 ซึ่งมันเกิดขึ้นได้ยังไงอะคะสารตัวเนี้ย
00:01:53 → 00:01:55 คืออะคริลาไมด์เนี่ยมันเป็นสารพิษที่
00:01:55 → 00:01:56 ก่อตัวขึ้นในอาหาร
00:01:57 → 00:01:58 ที่ผ่านความร้อน
00:01:58 → 00:02:00 คือในกลุ่มอาหารที่เป็นอาหารธัญพืช มันฝรั่ง
00:02:01 → 00:02:03 หรืออาหารที่มีแป้งสูงเช่นปาท่องโก๋
00:02:04 → 00:02:05 หรือกาแฟ
00:02:06 → 00:02:09 ที่ผ่านการแปรรูปนะคะแล้วผ่านความร้อนสูงๆ
00:02:10 → 00:02:11 สูงกว่า120องศา
00:02:11 → 00:02:13 ความร้อนประมาณเนี้ยเขาจะใช้ในการพวก
00:02:14 → 00:02:16 ทอด ย่าง ปิ้ง หรือทอดนานๆ
00:02:16 → 00:02:17 ยิ่งนาน
00:02:18 → 00:02:21 ความร้อนก็จะยิ่งกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาระหว่าง
00:02:21 → 00:02:22 ตัวน้ำตาลกับ
00:02:22 → 00:02:23 กรดอะมิโน
00:02:23 → 00:02:26 ซึ่งจะมีกรดอะมิโนตัวนึงคือกรดอะมิโนแพสพาจีน
00:02:26 → 00:02:30 ซึ่งกรดอะมิโนแพสพาจีนกับน้ำตาลเนี่ยเวลาที่มันผ่าน
00:02:30 → 00:02:32 ความร้อนเนี้ยมันจะทำให้เกิดปฏิกิริยาขึ้นมาแล้ว
00:02:33 → 00:02:34 ก่อให้เกิดเป็นสาร
00:02:34 → 00:02:35 อะคริลาไมด์เกิดขึ้น
00:02:36 → 00:02:37 ไม่ใช่แต่ปาท่องโก๋คุณแนน
00:02:37 → 00:02:39 อาหารฝรั่งที่ชอบๆกันนะ
00:02:39 → 00:02:42 คือมันฝรั่งทอดที่แบบอร่อยๆ
00:02:42 → 00:02:43 ของโปรดเลยค่ะคุณหมอ
00:02:44 → 00:02:45 ลักษณะเดียวกับ
00:02:45 → 00:02:47 ตัวปาท่องโก๋ของบ้านเรางี้นี่เอง
00:02:47 → 00:02:49 คือถ้าเป็นไทยก็เป็นปาท่องโก๋
00:02:50 → 00:02:51 ถ้าเป็นเมืองนอกก็ต้องมันฝรั่งหละ
00:02:52 → 00:02:54 ยังมีตัวอื่นๆอีกไหมคะ
00:02:54 → 00:02:56 ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในกลุ่มพวกเนี้ยละค่ะ
00:02:56 → 00:02:58 พวกขนมปังปิ้ง บิสกิต
00:02:58 → 00:03:00 แครกเกอร์อะไรที่แบบเอาเข้าไปอบ
00:03:00 → 00:03:01 ความร้อน
00:03:02 → 00:03:03 เข้าไปอบความร้อนนานๆ
00:03:03 → 00:03:05 ก็จะทำให้เกิดตัวอะคริลาไมด์เกิดขึ้น
00:03:07 → 00:03:08 แบบเนี้ยที่คุณหมอ
00:03:08 → 00:03:11 พูดมาเนี้ยมันเป็นทั้งอาหารและขนมที่พวกเราชอบทานอะ
00:03:11 → 00:03:14 เราจะมีวิธีอะไรที่จะให้ร่างกายเราลด
00:03:14 → 00:03:16 การรับสารอะคริลาไมด์ได้มากน้อยแค่ไหน
00:03:16 → 00:03:18 คือต้องบอกว่าถ้าเป็ฯมันฝรั่งเนี่ย
00:03:18 → 00:03:19 เขาจะให้เอา
00:03:19 → 00:03:20 ัมันฝรั่งมาลวด
00:03:20 → 00:03:22 น้ำก่อนเพื่อจะลด
00:03:22 → 00:03:24 ปริมาณอะคริลาไมด์ในมันฝรั่ง
00:03:24 → 00:03:27 หรือเอาไปผ่านพวกกรดเช่นกรดซิตริก
00:03:27 → 00:03:31 ซิตริก แอซิดหรือแลคติกก่อนที่จะไปปรุงอาหารลดได้เยอะเลย80เปอร์เซ็นต์
00:03:31 → 00:03:33 ถ้าเกิดเราเป็นอบเนี่ย
00:03:33 → 00:03:36 เราอาจจะเติมพวกกรดเกลืออย่างเช่นเกลือแคลเซียม
00:03:36 → 00:03:37 แคลเซียมคาร์บอเนต
00:03:37 → 00:03:41 แคลเซียมซัลเฟตอย่างเงี้ยเราก็จะช่วยลดการฟองตัวได้
00:03:41 → 00:03:43 ถ้าสมมุติว่าเป็นขนมปังพวกบิสกิตทั้งหลาย
00:03:43 → 00:03:45 เราก็อาจจะปรับอุณหภูมิ
00:03:45 → 00:03:46 ให้น้อยลง
00:03:46 → 00:03:49 ก็อาจจะเอาเอนไซม์อื่นๆที่มาช่วยลดการ
00:03:49 → 00:03:50 ฟองตัวของอะคริลาไมด์
00:03:51 → 00:03:52 หรือทางที่ดีอะ
00:03:52 → 00:03:54 เรารู้ว่ามันเกิดในกลุ่มที่ต้องมีแป้ง
00:03:54 → 00:03:56 สูงใช่ไหมคุณแนนก็
00:03:56 → 00:03:57 งดอาหารพวกที่
00:03:57 → 00:04:00 เป็นมีแป้งสูง ไขมันสูง แคลอรี่สูงไปเลย
00:04:00 → 00:04:03 แล้วเราก็ไปเน้นเอาพวกผัก ผลไม้แทน
00:04:03 → 00:04:05 หรืออาหารทอดเราก็อย่าไปทานซะ
00:04:05 → 00:04:07 ก็จะช่วยละความเสี่ยงต่อการรับ
00:04:08 → 00:04:09 สารก่อมะเร็งนี้ไปได้
00:04:09 → 00:04:11 นี่ไงYou are What you eat อย่างแท้จริงนะคะ
00:04:12 → 00:04:12 จากข่าวที่
00:04:13 → 00:04:14 อาจจะเป็นการแพร่
00:04:14 → 00:04:17 กระจายกันในโซเชี่ยลวันนี้เราได้ข้อเท็จจริงแล้วว่า
00:04:17 → 00:04:19 การทานอาหารทอดหรือว่าของที่มาจาก
00:04:19 → 00:04:22 แป้งหรือมันหรืออะไรที่ผ่านความร้อนสูงๆ
00:04:22 → 00:04:24 ก่อให้เกิดสารอะคริลาไมด์ซึ่ง
00:04:24 → 00:04:26 ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง
00:04:26 → 00:04:28 คือเราจะบอกว่าจริงๆแล้วแค่อาหาร
00:04:28 → 00:04:30 แป้งสูงเนี้ย
00:04:30 → 00:04:31 มันก็แย่อยู่แล้ว
00:04:31 → 00:04:33 ใช่ยังไปโทษไปผ่านความร้อนอีก
00:04:33 → 00:04:36 แป้งแล้วไปบวกความร้อนขึ้นมาอีกเนี้ย
00:04:37 → 00:04:40 ก็เลือกรับประทานจะได้อายุยืนยาวนะคะ
00:04:41 → 00:04:44 ก็อยากอายุยืนก็ต้องเลือกกินดีอยู่ดี
00:04:44 → 00:04:46 เช่นเดียวกันกับช่วงหน้าถ้าอยากผอม
00:04:46 → 00:04:48 ก็ต้องลองทานไขมันดู
00:04:49 → 00:04:51 แต่จะเป็นไขมันแบบไหนที่กินแล้ว
00:04:51 → 00:04:54 ผอม ช่วงหน้ามาติดตามกันพักซักครู่ก่อนค่ะ