00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:08 Voice ในการที่เราจะประเมินว่าสัตว์
00:00:08 → 00:00:10 เลี้ยงเนี่ยอยู่ในภาวะฉุกเฉินที่วิกฤต
00:00:10 → 00:00:12 หรือเปล่าเนี่ยเราเราอาจจะต้องสังเกตจาก
00:00:12 → 00:00:14 ตัวเราซึ่งเป็นเจ้าของที่เราอยู่ใกล้ชิด
00:00:14 → 00:00:16 กับตัวเขามากที่สุดก่อนเลยการหายใจเราพอ
00:00:16 → 00:00:18 จะสังเกตได้เช่นหายใจมีเสียงดังๆแต่ไม่
00:00:18 → 00:00:20 ใช่การกรนเหมือนสนักพันธุ์หน้าสั้นนะมัน
00:00:20 → 00:00:23 หายใจที่ผิดปกติหรือว่าจนทำให้เห็นว่า
00:00:23 → 00:00:24 เยื่อเมือกเป็นสีม่วงๆอย่างที่บอกอันนี้
00:00:25 → 00:00:27 ก็เป็นลักษณะที่อ้าปากหายใจเราพอจะบอกได้
00:00:27 → 00:00:30 ว่าโอเคนะระบบการหายใจเผิดปกติแล้วต้องพา
00:00:30 → 00:00:32 ไปพบคุณหมอแล้วกรณีที่มีบาตแผลขนาดใหญ่
00:00:32 → 00:00:35 แล้วเลือดไหลกดห้ามเลือดแล้วก็เลือดก็ไม่
00:00:35 → 00:00:39 หยุดอ่ะอย่างงี้รีบไปเลยไม่ต้องรอจนถึง
00:00:39 → 00:00:43 เช้าฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัย
00:00:43 → 00:00:47 ฟังรายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพร
00:00:47 → 00:00:50 ค่ะ This Is Toy PBS podcast วันนี้
00:00:50 → 00:00:53 นะคะรายการของเราค่ะจะคุยกันถึงเรื่องของ
00:00:53 → 00:00:56 ถ้าเกิดว่าสัตว์ของเราตกอยู่ในภาวะวิกฤต
00:00:56 → 00:01:00 เนี่ยเราจะต้องทำยังไงนะคะเราเราจะต้อง
00:01:00 → 00:01:02 ประเมินอะไรยังไงหรือเปล่านะเดี๋ยวพูดคุย
00:01:02 → 00:01:05 กับผู้ช่วยศาสตราจารย์นายสัตวแพทย์ดรรดิ์
00:01:05 → 00:01:07 รุ่งเรืองกิ่นไกรฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่ง
00:01:07 → 00:01:10 เสริมภาพลักษณ์องค์กรคณะสัตวแพทยศาสตร์
00:01:10 → 00:01:12 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยค่ะสวัสดีค่ะ
00:01:12 → 00:01:14 อาจารย์โอมค่ะสวัสดีครับคุณสุรีพรครับ
00:01:14 → 00:01:16 สวัสดีครับคุณผู้ฟังทุกท่านด้วยครับอ่ามา
00:01:16 → 00:01:20 เจอกันวันนี้มาคุยกันเรื่องของภาวะวิกฤต
00:01:20 → 00:01:23 ครับวันนี้ดูซีเรียสดูจริงจังกับหัวข้อ
00:01:23 → 00:01:26 ของเรานะคะเอาแหละคืออย่างเวลาที่เราเจ็บ
00:01:27 → 00:01:29 ป่วยเรายังพอพูดได้บอกได้ใช่มั้ยคะว่าเรา
00:01:29 → 00:01:32 แบบเออไม่ไหวแล้วนะมันแบบยังไงแต่ถ้าเกิด
00:01:32 → 00:01:35 เป็นสัตว์เลี้ยงโหอาจารย์เขาจะสื่อสารยัง
00:01:35 → 00:01:38 ไงอ่ะสิ่งที่สำคัญต้องเจ้าของต้องใช้ส
00:01:38 → 00:01:44 ความสังเกตอือือก็เรียกว่าดูผิดปกติแปลก
00:01:44 → 00:01:47 ไปจากเดิมแต่เราไม่รู้ว่าเาป่วยหนักหรือ
00:01:47 → 00:01:50 เปล่าถึงขั้นวิกฤตหรือเปล่าแล้วเราจะ
00:01:50 → 00:01:53 สังเกตยังไงคืออ่ะถ้าเกิดมันดูผิดปกติ
00:01:53 → 00:01:55 แหละครับแต่อันนี้มันอาจจะไม่วิกฤตก็ได้
00:01:55 → 00:01:59 นะครับแต่มันอาจจะมีบางอย่างก็วิกฤตได้
00:01:59 → 00:02:01 แล้วเราจะต้องสังเกตอะไรยังไงบ้างมั้ยคะ
00:02:01 → 00:02:04 ครับต้องต้องต้องเรียนว่าการป่วยของสัตว์
00:02:04 → 00:02:06 เลี้ยงเนี่ยคือการป่วยของคนเนี่ยมันก็บาง
00:02:06 → 00:02:08 ทีเราก็จะบอกได้อย่างที่คุณสุรีพรบอกนะ
00:02:08 → 00:02:10 ว่าเอ๊ะเอ๊ะตอนเนี้ยรู้สึกว่าเราจะไม่ไหว
00:02:10 → 00:02:13 แล้วจะแย่แล้วอะไรลักษณะแบบนี้บอกพอจะพอ
00:02:13 → 00:02:15 จะพอบอกได้แต่ว่าถ้าเป็นสัตว์เลี้ยงเนี่ย
00:02:15 → 00:02:18 เไม่สามารถบอกเราได้เลยแล้วระดับของการ
00:02:18 → 00:02:21 เจ็บป่วยก็จะมีความแตกต่างกันเพราะว่าเรา
00:02:21 → 00:02:24 อาจจะต้องดูก่อนว่าเอ๊ะลักษณะการป่วยแบบ
00:02:24 → 00:02:26 เนี้ยการเจ็บป่วยแบบเนี้ยจำเป็นที่จะต้อง
00:02:26 → 00:02:29 คือคือถ้าเกิดเกิดกลางคืนเนี่ยคือในกรณี
00:02:29 → 00:02:31 เกิดกลางวันเนี่ยมันคคงไม่ค่อยน่าห่วง
00:02:31 → 00:02:33 อะไรเท่าไหร่เพราะว่าโอเคเราจะเป็นมาก
00:02:33 → 00:02:36 เป็นน้อยถ้าเราคิดว่าเราจะพาไปหาคุณหมอ
00:02:36 → 00:02:39 ได้เนี่ยเราก็เซตเวลาได้แต่ในกรณีกลางคืน
00:02:39 → 00:02:42 บางครั้งถ้ามันเป็นไม่มากเราอาจจะมองว่า
00:02:42 → 00:02:45 เอ๊ะเราปล่อยจนถึงรุ่งเช้าปฐมพยาบาลไป
00:02:45 → 00:02:47 ก่อนแล้วถึงพรุ่งตอนเช้าแล้วค่อยพาไปหา
00:02:47 → 00:02:50 คุณหมอก็จะสะดวกทั้งเจ้าของทั้งทั้งตัว
00:02:50 → 00:02:53 สัตว์ด้วยแต่ในบางครั้งเราไม่รู้เอ๊ถึง
00:02:54 → 00:02:56 เวลาแล้วหรือยังที่เราต้องพาไปเป็นตอน
00:02:56 → 00:02:59 2:00 นอย่างเงี้ยแล้วเอ๊ะทำไงอ่ะสภาพแบบ
00:02:59 → 00:03:02 นี้ไปยังไงดีจะไปควรจะต้องไปตอนนี้หรือ
00:03:02 → 00:03:06 เปล่าหรือว่าเอ๊ะ 800 นพรุ่งนี้รอออกไปทำ
00:03:06 → 00:03:08 งานก็พาไปทีเดียวเลยก็ได้ตรงนี้แหละเป็น
00:03:08 → 00:03:11 เป็นเป็นพ์ที่สำคัญซึ่งต้องต้องเรียนว่า
00:03:11 → 00:03:13 ในการที่เราจะประเมินว่าสัตว์เลี้ยงเนี่ย
00:03:14 → 00:03:16 อยู่ในภาวะฉุกเฉินที่วิกฤตหรือเปล่าเนี่ย
00:03:16 → 00:03:19 เราเราอาจจะต้องต้องสังเกตจากจากตัวเรา
00:03:19 → 00:03:21 ซึ่งเป็นเจ้าของที่เราอยู่ใกล้ชิดกับตัว
00:03:21 → 00:03:23 เขามากที่สุดก่อนเลยซึ่งมันมันมีหลักใน
00:03:23 → 00:03:27 การประเมินอยู่ไม่กี่ข้อเราจะใช้ตัวย่อ
00:03:27 → 00:03:30 ภาษาอังกฤษฮะ a b c d อือนี่เป็นหลัก
00:03:30 → 00:03:33 การที่คล้ายกันทั้งในคนทั้งในสัตว์เลี้ยง
00:03:33 → 00:03:37 ค่ะหลัก a b c d เอาแบบง่ายๆเลยนะครับ
00:03:37 → 00:03:40 ตัวตัว a เนี่ยก็หมายถึง Airway มาจากคำำ
00:03:40 → 00:03:43 ว่า Airway Airway หมายถึงท่อทางเดินหาย
00:03:43 → 00:03:45 ใจอื Airway ทางเดินหายใจก็คือว่าเราต้อง
00:03:45 → 00:03:49 ประเมินว่าสัตว์เนี่ยสามารถหายใจผ่านท่อ
00:03:49 → 00:03:51 ทางเดินหายใจท่อทางเดินหายใจที่พูดถึงคือ
00:03:51 → 00:03:56 ตั้งแต่จมูกช่องปากคอหอยหลอดลมไปจนถึงปอด
00:03:56 → 00:03:59 นะครับเราก็จะประเมินว่าเาสามารถหายใจได้
00:03:59 → 00:04:03 โดยปลอดจากสิ่งต่างๆที่มาขัดขวางมากีด
00:04:04 → 00:04:06 ขวางหรือมาอุดตันเหล่านั้นอยู่หรือเปล่า
00:04:06 → 00:04:08 เช่นสิ่งที่อุดตันที่พูดถึงก็ได้แก่พวก
00:04:08 → 00:04:14 ของเหลวเช่นน้ำมูกเสมหะหรือว่าน้ำรวมถึง
00:04:14 → 00:04:17 เศษอาหารหรือวัสดุแปลกปลอมที่เข้าไปกีด
00:04:17 → 00:04:20 ขวางทางเรือนหายใจที่อาจจะทำให้ท่อทางเรน
00:04:20 → 00:04:23 หายใจมันตีบตันทำให้อากาศผ่านไปไม่ได้ใน
00:04:23 → 00:04:25 กรณีที่มีแบบมีลักษณะตัวเอ่อตัวนี้เนี่ย
00:04:25 → 00:04:28 เราก็จะมองว่าอโอเคนะนี่ถือเป็นภาวะวิกฤต
00:04:28 → 00:04:31 แล้วออคือคือการหายใจที่มันแบบติดขัดหรือ
00:04:31 → 00:04:33 แบบอะไรอย่างงี้ใช่มั้ยดูดูมันไม่ได้แบบ
00:04:33 → 00:04:36 ว่าใช่ครับหายใจได้ปกติคืออันแรกคืออย่าง
00:04:36 → 00:04:39 ที่บอกว่าตัว A คือแวคือท่อทางเดินหายใจ
00:04:39 → 00:04:42 ไงฮะอืไล่ลงมาใช่ครับว่ามีอะไรไปขวางหรือ
00:04:42 → 00:04:44 เปล่าถ้ามีอะไรไปขวางนั่นคือถือว่าเป็น
00:04:44 → 00:04:46 ภาวะวิกฤตและอ้าแล้วอย่างหมาหน้าสั้น
00:04:46 → 00:04:50 อย่างเงี้ยค่ะเอาจจะแบบตงสหายใจคือปกปกติ
00:04:50 → 00:04:53 เาหายใจยากอยู่แล้วอ่ะฮะเอ่อต้องต้องต้อง
00:04:53 → 00:04:56 เรียนว่าตัวตัว a ที่พูดถึงเนี่ยคือตัว
00:04:57 → 00:05:01 ทางช่องทางส่วนตัว B ตัวที่ 2
00:05:01 → 00:05:06 ตงทาช่องทางคือตัว b คือคือการหายใจซึ่ง
00:05:06 → 00:05:09 ข้อ 1 กับข้อ 2 นี่จะมีความเกี่ยวข้องกัน
00:05:09 → 00:05:12 คือถ้าท่อทางเดินหายใจในข้อ 1 ในตัว a
00:05:12 → 00:05:14 เนี่ยมันมีอะไรกีดขวางมันอาจจะส่งผลให้
00:05:14 → 00:05:18 เกี่ยวกับการการหายใจในตัวตัวข้อที่ 2
00:05:18 → 00:05:21 คือตัว B เนี่ยมันอาจจะยากไปกว่าเดิมด้วย
00:05:21 → 00:05:23 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเนี่ยอย่างที่บอกว่า
00:05:24 → 00:05:27 ถ้าเป็นสุนัขพันธุหน้าสั้นๆอทั้งท่อทาง
00:05:27 → 00:05:30 เดินหายใจและการหายใจเนี่ยมันอาจจะไม่ไม่
00:05:30 → 00:05:33 ไม่ปกติเท่ากับในสัตว์พันธุ์ที่หน้ายาวๆ
00:05:33 → 00:05:38 อยู่แล้วทีนี้เราจะสังเกตได้ไงว่าเอ่อ
00:05:38 → 00:05:41 ความผิดปกติในข้อที่ 2 หรือตัว B ที่เกิด
00:05:41 → 00:05:43 ขึ้นเนี่ยเป็นยังไงบ้างอันแรกคือต้องดู
00:05:43 → 00:05:46 ว่าเขาหายใจได้เองปกติหรือเปล่าคือถ้าหาย
00:05:46 → 00:05:49 ใจหอบนิดๆหน่อยๆเนี่ยถือว่าเป็นภาวะที่
00:05:49 → 00:05:52 ยังไม่ใช่ภาวะวิกฤตแต่เป็นภาวะที่อ่าอาจ
00:05:52 → 00:05:56 จะเหนื่อยมากกว่าปกติหรือว่าดูดูดูมีความ
00:05:56 → 00:05:59 รุนแรงมากกว่าปกติแต่ถ้าเมื่อไรก็ตามที่เ
00:05:59 → 00:06:04 หายใจโดยปกติไม่ได้หายใจเองไม่ได้หรืออาจ
00:06:04 → 00:06:08 จะมีปัญหาเรื่องหายใจโดยที่หอบมากๆหายใจ
00:06:08 → 00:06:11 เร็วกับหายใจหอบอาจจะมีความแตกต่างกันหาย
00:06:11 → 00:06:15 ใจออกหอบหายใจแบบตื้นๆแล้วถี่ๆหายใจเข้า
00:06:15 → 00:06:18 ออกแบบเร็วๆๆๆลักษณะแบบนั้นอันนี้ถือว่า
00:06:18 → 00:06:20 เป็นความผิดปกติและบางรายอาจจะสังเกตได้
00:06:20 → 00:06:25 ว่าเขาจะมีการอ้าปากหายใจอสังเกตจากท้อง
00:06:25 → 00:06:27 ปกติเวลาหายใจเนี่ยท้องก็จะมีการขยับเล็ก
00:06:27 → 00:06:30 ๆน้อยๆแต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่ใช้ช่อง
00:06:30 → 00:06:34 ท้องช่วยในการหายใจนั่นแสดงว่าการหายใจ
00:06:34 → 00:06:37 เขาไม่ปกติแล้วจะสังเกตไงว่าท้องเแฟบแล้ว
00:06:37 → 00:06:40 ก็โปร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเพราะปกติการ
00:06:40 → 00:06:43 หายใจจะไม่ได้หายใจด้วยช่องท้องขนาดนั้นอ
00:06:43 → 00:06:46 อืนะครับบางครั้งอาจจะแสดงอาการหายใจหาย
00:06:46 → 00:06:48 ใจไม่ออกเหมือนมีอะไรขวางๆอยู่หายใจแล้ว
00:06:48 → 00:06:52 มีแบบเสียงแบบติดขัดติดขัดหรืออาจจะมีการ
00:06:52 → 00:06:55 หายใจแบบกระแทกกระแทกลักษณะแบบนี้แหละถือ
00:06:55 → 00:06:57 ว่าเป็นลักษณะที่ถือว่าค่อนข้างวิกฤตแล้ว
00:06:57 → 00:06:59 เหมือนกับแบบเพยายามจะขย่อนอะไรออกมาหรือ
00:06:59 → 00:07:03 เปล่าถ้าสมมุติมีอะไรติดด้วยมันอขวางทาง
00:07:03 → 00:07:05 ซึ่งซึ่งซึ่งต้องบอกว่าการหายใจเนี่ยโอ
00:07:05 → 00:07:07 มันเป็นมันเป็นอะไรที่ที่ค่อนข้าง
00:07:07 → 00:07:10 ซัฟเฟอร์มากๆถ้าเกิดว่าหายใจไม่ได้เนี่ย
00:07:10 → 00:07:13 โอกาสที่จะเสียชีวิตภายใน 2-3 นาทีนั้น
00:07:13 → 00:07:16 เป็นไปได้สูงมากเลยอุ้ยนะครับถ้าใจไม่ได้
00:07:16 → 00:07:19 เลยวิกฤแล้วมันมีมั้ยคะที่แบบว่าจากที่ดู
00:07:19 → 00:07:22 เหมือนจะไม่วิกฤตอ้าวอยู่ๆเริ่มค่อยๆแย่
00:07:22 → 00:07:26 ลงเรื่อๆจากการที่แบบว่ามีอะไรไปอยู่ใน
00:07:26 → 00:07:29 ระบบทางเดินหายใจเป็นท่ออะไรพวกเนี้ยหรือ
00:07:29 → 00:07:32 ฮการแสดงการหายใจออกมาในแบบ a กับ B แบบ
00:07:32 → 00:07:35 นี้ึนี่ในในใน 2 ข้อที่พูดถึงแล้วเนี่ย
00:07:35 → 00:07:38 ถ้าเกิดว่าปล่อยทิ้งเอาไว้อย่างที่บอกว่า
00:07:38 → 00:07:40 ถ้าเราเจอมีอะไรมีการกกีดขวางช่องท่อทาง
00:07:41 → 00:07:43 เดินหายใจแล้วหรือว่าทำให้เกิดมีการหายใจ
00:07:43 → 00:07:46 ที่ยากโดยหายใจด้วยช่องท้องหรือว่ามีมี
00:07:46 → 00:07:49 ลักษณะหายใจถี่ๆสั้นๆกระแทกกระแทกเราเรา
00:07:49 → 00:07:52 จะถือว่านั่นเป็นภาวะวิกฤตแล้วซึ่งถ้า
00:07:52 → 00:07:54 ปล่อยทิ้งไว้บางครั้งเราอาจจะบอกไม่ได้
00:07:54 → 00:07:56 ว่าระยะเวลาเท่าไหร่ถึงจะแบบโอทำให้เค
00:07:56 → 00:07:59 เสียชีวิตแต่ว่าตรงนั้นน่ะจะบอกว่าเป็น
00:07:59 → 00:08:01 เป็นสิ่งที่จำเป็นแล้วก็ต้องรีบพาไปพบคุณ
00:08:01 → 00:08:03 หมอโดยเร่งด่วนแล้วล่ะถ้าเกิดมี 2 กรณี
00:08:03 → 00:08:07 แบบนี้โอ้โหทำอะไรก่อนได้มั้คะเอ่ออาจจะ
00:08:07 → 00:08:09 ต้องดูก่อนว่ามีอะไรขวางช่องทางการหายใจ
00:08:09 → 00:08:14 ของเขาหรือเปล่ามีมีพวกเศษอาหารหรือมี
00:08:14 → 00:08:17 วัตถุหรืออะไรต่างๆหรือมีน้ำมูกน้ำมูกนี่
00:08:17 → 00:08:20 ก็อาจจะต้องมีวิธีการใช้ตัวเอ่อลูกยางที่
00:08:20 → 00:08:25 ดูดอืดูดจมูกดูดเสมหะดูดออกมาหรือว่าถ้า
00:08:25 → 00:08:28 เกิดมีเห็นอะไรติดขวางอาจต้องพยายามหยิบ
00:08:28 → 00:08:30 ออกแต่ว่าถ้าเกิดเป็นชิ้นใหญ่หรือขวางมาก
00:08:30 → 00:08:33 ๆอาจจะทำไม่ได้บางบ้านเนี่ยจะใช้วิธีการ
00:08:33 → 00:08:36 บางบ้านเขจะมีไอ้ตัวที่ให้ออกซิเจนที่
00:08:36 → 00:08:39 เป็นท่อแล้วก็มีน้ำรักษณะแบบนั้นน่ะอาจจะ
00:08:39 → 00:08:41 เอามาช่วยครอบแล้วก็ทำให้เขหายใจได้สะดวก
00:08:41 → 00:08:44 ขึ้นแล้วระหว่างที่นระหว่างนั้นก็พาไปพบ
00:08:44 → 00:08:48 คุณหมอโอ้โหมันเกิดเป็นช่วงกลางดึกอย่าง
00:08:48 → 00:08:51 ที่อาจารย์บอกแล้วก็จะไปรู้คือเ้าเรียก
00:08:51 → 00:08:53 อะไรอ่ะคลินิกไหนยังไงอะไรอย่างเงี้ย
00:08:53 → 00:08:55 โอ้โหไม่ใช่ง่ายเลยนะเนี่ยคลินิกที่เปิด
00:08:55 → 00:08:59 24 ชมเดี๋ยวนี้ปัจจุบันมีเยอะจะบอกว่าจะ
00:08:59 → 00:09:01 จะชอบพูดว่ามันสมัยก่อนสมัยก่อนนี่คือดู
00:09:01 → 00:09:03 แล้วรู้อายุอะไเลยนะครับนะสมัยก่อนน่ะไม่
00:09:03 → 00:09:07 ค่อยมีจะมีที่ที่บางโรงพยาบาลใหญ่ๆเท่า
00:09:07 → 00:09:10 นั้นแต่ว่าตอนนี้เนี่ยที่โรงพยาบาลสัตว์
00:09:10 → 00:09:13 ที่จุฬาก็มีคลินิกฉุกเฉินที่เปิดในช่วง
00:09:13 → 00:09:16 กลางคืนแต่ประเด็นคือเราอาจจะมองว่ามัน
00:09:16 → 00:09:18 จำเป็นที่เราต้องพาไปกลางคืนหรือเปล่าถ้า
00:09:18 → 00:09:20 เกิดว่าจำเป็นน่ะโอเคเดี๋ยวนี้มีมีหลาย
00:09:20 → 00:09:24 ที่เสิร์ชในอินเทอร์เน็ตจะพอบอกได้เลยโรง
00:09:24 → 00:09:27 พยาบาลสัตว์ 24 ชมจะมีโชว์ให้เห็นโรง
00:09:27 → 00:09:29 พยาบาลสัตว์ใกล้ฉันอะไรประมาณเนี้ยจะจะ
00:09:29 → 00:09:31 เห็นได้ค่อนข้างชัดจะพอบอกได้ถ้าเป็น
00:09:31 → 00:09:34 เมื่อก่อนเนี่ยลำบากมากๆอืเดี๋ยวนี้
00:09:34 → 00:09:37 เดี๋ยวนี้ความความสะดวกมีมากขึ้นมีมาก
00:09:38 → 00:09:39 ขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะฮะก็เดี๋ยวนี้
00:09:40 → 00:09:42 อุตสาหกรรมในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงหรือว่า
00:09:42 → 00:09:43 แบบอะไรที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเ่ะมัน
00:09:43 → 00:09:47 ขยายวงแบบใช่เติบโตขึ้นเยอะมากเพราะ
00:09:47 → 00:09:50 ฉะนั้นก็มีโรงพยาบาลคลินิกรองรับกันอยู่
00:09:50 → 00:09:52 แล้วใช่เพราะเดี๋ยวนี้เลี้ยงลูกเหมือนกับ
00:09:52 → 00:09:54 เป็นเป็นเด็กคนนึงในบ้านอยู่นะเป็นสมาชิก
00:09:54 → 00:09:56 คนนึงในบ้านใช่ๆนะครับดูแลดีกว่าเมื่อ
00:09:57 → 00:10:00 ก่อนเยอะได้เห็นน้องที่อยู่ฮะคอนโดมคะรู้
00:10:00 → 00:10:04 ราอเพราะว่าเดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะเป็นคอนโด
00:10:04 → 00:10:08 ไม่ว่าจะเป็นเอ่อสถานที่ที่แบบอำนวยความ
00:10:08 → 00:10:11 สะดวกให้เกี่ยวกับสาเลี้ยงเราเราจะเเจะ
00:10:11 → 00:10:15 มองถึงถึงเพ friendly ค่ะมีความเป็นกัน
00:10:15 → 00:10:18 เองกับสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะเป็นเดี๋ยวนี้
00:10:18 → 00:10:23 จะเห็นว่าคลินิกโรงพยาบาลเพช Shop สปา
00:10:23 → 00:10:26 อะไรต่างๆที่ให้ความอำนวยความส่งให้กับ
00:10:26 → 00:10:29 สัตว์เลี้ยงเนี่ยมีเยอะมากๆคอนโดก็มีการ
00:10:29 → 00:10:31 ปรับนะว่าทางเดินอาจจะขึ้นแล้วกลัวจะตก
00:10:31 → 00:10:34 เดี๋ยวนี้ก็จะทำเป็นอะไรที่กั้นที่จะมี
00:10:34 → 00:10:37 ความปลอดภัยสำหรับสัตว์เลี้ยงมากขึ้นสี
00:10:37 → 00:10:40 เหรออ่าเผื่อเนิสัยเขชอบตะกรุยสีลักษณะ
00:10:40 → 00:10:43 ของผนังที่ทำก็ทำแบบดีขึ้นที่สามารถเช็ด
00:10:43 → 00:10:45 แล้วก็แก้ไขได้เพราะเมื่อก่อนพอมีการ
00:10:45 → 00:10:47 ตะกรุยเสร็จปุ๊บโอ้โหต้องทาสีใหม่ทำแบบ
00:10:47 → 00:10:51 เละๆเทะๆเลยอออุปกรณ์โซฟาเดี๋ยวนี้ก็ทำ
00:10:51 → 00:10:54 แบบว่าทนทานต่อรอยขีดขวนรอยเล็บอะไร
00:10:54 → 00:10:58 ประมาณนั้นเพื่อพวกเขาโดยเฉพาะใช่ครับเออ
00:10:58 → 00:11:01 นะแต่ว่าในการประเมินภาวะวิกฤตเนี่ยที่
00:11:01 → 00:11:04 เมื่อกี้อาจารย์โอมบอกว่ามันมี a b c d
00:11:05 → 00:11:07 เมื่อกี้ a กับ B ไปแล้วนะยังเหลือ C กับ
00:11:07 → 00:11:10 D ครับ a กับ B ก็น่ากลัวแล้วเนาะโอโห
00:11:10 → 00:11:12 ไม่ไหวใจจะขาดแล้วเอาจริงๆคือไม่มานั่ง
00:11:12 → 00:11:16 ประเมินแน่ว่ามีอะไรอยู่ในคอมยอจมูกอะไร
00:11:16 → 00:11:19 พาไปก่อนแล้วหลายๆคนเป็นแบบนั้นฮะใช่ครับ
00:11:20 → 00:11:23 ในในตัว C อ่ะตัว C ก็คือ circulation
00:11:23 → 00:11:25 circulation ก็คือระบบไหลเวียนส่วนใหญ่
00:11:25 → 00:11:27 เราก็จะพูดถึงระบบไหลเวียนเลือดนะครับ
00:11:27 → 00:11:29 ระบบไหลเวียนเลือดเนี่ยเราอาจต้องดูว่ามี
00:11:29 → 00:11:32 อัตราการเต้นของหัวใจที่ปกติหรือเปล่า
00:11:32 → 00:11:36 สม่ำเสมอหรือเปล่ามีชีพจรที่แปลกไปหรือ
00:11:36 → 00:11:38 เปล่าที่อาจจะเต้นไม่สม่ำเสมอหรือมากหรือ
00:11:38 → 00:11:40 น้อยหรือจำนวนครั้งถี่กว่าปกติมั้ยอะไร
00:11:40 → 00:11:44 อย่างเงี้ยซึ่งต้องบอกว่าในการจับชีพจรใน
00:11:44 → 00:11:47 คนเนี่ยเราก็จะจับที่ข้อมือบริเวณนิ้ว
00:11:47 → 00:11:50 โป้งออตรงท้ายของของนิ้วโป้งใช่มั้ยเราก็
00:11:51 → 00:11:54 จะพอบอกได้แต่ในสัตว์เลี้ยงเนี่ยสิ่งที่
00:11:54 → 00:11:59 เราสามารถทำได้คือบริเวณลำคอบริเวณคอเอา
00:11:59 → 00:12:02 ตรงขากรรไกรตรงบริเวณกรามขากรรไกรของแต่
00:12:02 → 00:12:05 ละข้าง 2 ข้างค่ะแตะเข้าไปที่โคนนะครับ
00:12:05 → 00:12:08 ซึ่งอต้องต้องเรียนว่าต้องอาศัยความชำนาญ
00:12:09 → 00:12:11 เพราะบางทีเนี่ยถ้าเกิดว่าเจอสัตว์ที่แบบ
00:12:11 → 00:12:15 ป่วยๆรแล้วก็ค่อนข้างที่แบบมีมีปัญหาการ
00:12:15 → 00:12:18 เต้นของใจได้ดีที่ควรแล้วเนี่ยไปจับมัน
00:12:18 → 00:12:21 เบาอยู่แล้วแล้วถ้าเราไม่ชำนาญไม่คุ้นเรา
00:12:21 → 00:12:24 ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเอ๊ะมันมีสัญญาณชีพ
00:12:24 → 00:12:27 ปกติอยู่หรือเปล่าอ้อหรอตรงคอก็จับได้จุด
00:12:27 → 00:12:30 นึงนะครับตรงขากไกคนของขากรไกรขากรรไก
00:12:30 → 00:12:33 ล่างกับอีกจุดนึงคือบริเวณขาหนีบขาหลัง
00:12:33 → 00:12:36 ทางด้านในด้านในนะครับตรงบริเวณขาหนีบอนะ
00:12:36 → 00:12:38 ครับตรงนั้นก็เป็นจุดที่ที่สามารถบอกได้
00:12:38 → 00:12:41 นะครับในการเวลาหัวใจที่บีบตัวปุ๊บหัวใจ
00:12:41 → 00:12:45 บีบตัวส่งเลือดผ่านไปก็จะมีชีพจรปึ๊บให้
00:12:45 → 00:12:48 เรารู้สึกตัวรู้สึกได้ว่าเอ่อตอนนี้หัวใจ
00:12:48 → 00:12:52 บีบตัว 1 ครั้งซึ่งต้องเรียนว่าถ้าเป็นไป
00:12:52 → 00:12:56 ได้อยากจะให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงฝึกการจับ
00:12:56 → 00:13:00 ชีพจรค่ะอ๋อตอนปกติที่บ้านอยู่เลยนะครับ
00:13:00 → 00:13:02 เราจะได้ทราบว่าโอเคนะตำแหน่งตรงนี้นะค่ะ
00:13:02 → 00:13:04 ตำแหน่งตรงนี้เป็นตำแหน่งที่พจแล้วลองจับ
00:13:04 → 00:13:07 ดูว่าใน 1 นาทีหัวใจเต้นกี่ครั้งมีเาส
00:13:08 → 00:13:11 ปึ๊บๆออกมากี่ครั้งออ๋อถ้าเกิดไม่แน่ใจ
00:13:11 → 00:13:14 ว่ายังไงเนี่ยเวลาที่พาสัตว์เลี้ยงเราไป
00:13:14 → 00:13:16 ฉีดวัคซีนหรือไปหาหมอหรืออะไรก็แล้วแต่
00:13:16 → 00:13:18 เนี่ยตรวจสุขภาพเนี่ยเราอาจจะถามคุณหมอไป
00:13:18 → 00:13:21 เลยก็ได้ให้คุณหมอสอนจับเลยสอนเออสอนจับ
00:13:21 → 00:13:23 ไปเลยอะไรเพราะเป็นประโยชน์นะครับเพราะ
00:13:23 → 00:13:26 บางทีเราจะจะบอกได้ว่าการบีบตัวของหัวใจ
00:13:26 → 00:13:30 ของสัตว์ตัวนั้นน่ะอืมีความถี่มากน้อย
00:13:30 → 00:13:33 ขนาดไหนเพราะว่าโดยปกติแล้วอย่างในคนเรา
00:13:33 → 00:13:37 ก็ก็ประมาณ 60-80 ครั้งเป็นปกติใช่มั้ยใน
00:13:37 → 00:13:39 สุนัขก็ประมาณเนี้ยในสุนัขก็ประมาณ 60
00:13:39 → 00:13:42 แต่ว่าเลนสจะกว้างขึ้นอยู่กับสายพันธุ์
00:13:42 → 00:13:44 ขึ้นอยู่กับชนิดของสัตว์ด้วยเช่นประมาณ 60
00:13:44 → 00:13:48 - 120 เพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าเราลองเช็คดู
00:13:48 → 00:13:50 ว่าโอเคมันอยู่ในเลนตรงนี้เราก็จะทราบได้
00:13:50 → 00:13:53 เป็นค่ามาตรฐานของของไอ้เจ้าเจ้าตูบเจ้า
00:13:53 → 00:13:55 ตูบตัวเนี้ยโอเคเท่าที่ผ่านมาหัวใจเต้น
00:13:55 → 00:13:59 อยู่ประมาณ 85 ครั้งต่อนาทีอ่าโอเบอกได้
00:13:59 → 00:14:02 เป็นค่ามาตรฐานของแต่ละตัวทีนี้ถ้าเกิด
00:14:02 → 00:14:05 ว่ามีความผิดปกติแล้วลองไปจับเพาส์ดู
00:14:05 → 00:14:08 โอ้โหมันเต้นทีมาเป็น 160 ครั้งอ่าเนี่ย
00:14:08 → 00:14:12 เรารู้แล้วมันมีมีปัญหาแลหรือว่าเอ๊ะทำไม
00:14:12 → 00:14:15 วันนี้สภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่มีอัตราการ
00:14:15 → 00:14:18 เทนหัวใจมันช้ามากลึดเต้นแบบไม่สม่ำเสมอ
00:14:18 → 00:14:21 อะไรต่างๆเหล่านี้มันพอจะบอกได้นะครับทำ
00:14:21 → 00:14:23 ให้เป็นมาตรฐานเลยแต่ละตัวคือก็ลองจับดู
00:14:24 → 00:14:26 ตอนที่เคคปกตินะไม่ใช่เค้าไปออกกำลังกาย
00:14:26 → 00:14:29 ไปวิ่งมากลับมาเหนื่อยหอบแพงๆนี่โอ้โหโพุ
00:14:29 → 00:14:32 กฉูดเลยอาจารย์แล้วทำไมเไม่ทำเครื่องมือ
00:14:32 → 00:14:36 เหมือนแบบเวลาเราไปตรวจวัดชีพจรความดันใด
00:14:36 → 00:14:38 ๆอ่ะที่เเราจะมีที่สอดแขนแล้วก็แบบอ่ะ
00:14:39 → 00:14:42 เครื่องก็วืดแล้วก็น่าสนใจมากน่าจะเป็น
00:14:42 → 00:14:45 นวัตกรรมที่เรามาทำเนาะเฮ้ยจะได้ใช้
00:14:45 → 00:14:47 ประโยชน์ได้จะได้เช็คความเช็คเอ่อ
00:14:47 → 00:14:50 อุณหภูมิเอ่อไม่ใช่เชอูมิเช็คความดันของ
00:14:50 → 00:14:53 เลือดแล้วก็วัดชีพจรซึ่งถ้าเกิดว่าทำขาย
00:14:53 → 00:14:56 แล้วมีตามบ้านน่าจะดีเลยแต่ไม่ใช่เอาไป
00:14:56 → 00:14:59 ผูกตรงคอนะอันนไม่ได้แต่อาจจะต้องใช้ใช้
00:14:59 → 00:15:01 ตำแหน่งอื่นเพราะอย่างเมื่อกี้ที่บอกว่า
00:15:01 → 00:15:04 เออตำแหน่งที่จะจะวัดก็คือตรงบริเวณโคนขา
00:15:04 → 00:15:07 ขากรรไกล่างตรงบริเวณคอเออเอาเอาอุปกรณ์
00:15:07 → 00:15:11 ไปรัดตรงนั้นไม่ได้อันนั้นก็คงไม่ดีแต่
00:15:11 → 00:15:14 อีกอย่างนึงครับเชิญก่อนครับเิอ๋อคือจะ
00:15:14 → 00:15:16 บอกว่าเดี๋ยวไม่ใช่ว่าพอบอกแบบนี้ไอเดีย
00:15:16 → 00:15:18 ไปเอ้ยเอาของคนมาใช้ไม่ได้นะจ๊ะของมัน
00:15:18 → 00:15:21 เอ่อตำแหน่งที่ที่จะแสดงเพสมันจะไม่
00:15:21 → 00:15:24 เหมือนมันจะแตกต่างกันที่เราจะสามารถวัด
00:15:24 → 00:15:26 ได้มันจะแตกต่างกันอยืมของคนมาตรงเ่อข้อ
00:15:26 → 00:15:32 พับตรงขาญมากด้วยกว่าจะแบบพันรอบนี่อาจจะ
00:15:32 → 00:15:35 รำคาญได้คือซึ่งซึ่งคิดว่าวิธีการปรับ
00:15:35 → 00:15:37 เนี่ยก็น่าจะทำได้เพียงแต่ว่ามันอาจจะไม่
00:15:37 → 00:15:40 ไม่ไม่ไม่เอ่อไม่ดู practical เท่าไหร่
00:15:40 → 00:15:43 แต่ว่าสิ่งที่เราสามารถทำได้คือตัวเจ้า
00:15:43 → 00:15:46 ของนี่แหละที่เราจะเป็นตัวเป็นคนเช็คไม่
00:15:46 → 00:15:48 แน่นะคะวันนึงอาจจะมีขึ้นได้เพราะว่าจาก
00:15:48 → 00:15:52 รายการของเราที่มีแนวคิดเออน่าทำเนออะไร
00:15:52 → 00:15:54 ประมาณนี้เเมื่อกี้ที่บอกว่านอกนอกจากการ
00:15:54 → 00:15:56 ที่ดูการเต้นหัวใจแล้วเนี่ยในหัวข้อ
00:15:56 → 00:15:59 circulation เนี่ยสีของเยื่อเมื่อเก็พอ
00:15:59 → 00:16:03 จะบอกได้เยื่อเมือกที่พูดถึงคือบริเวณ
00:16:03 → 00:16:07 เหงือกนะครับใบหัวทางด้านในค่ะนะครับตรง
00:16:07 → 00:16:09 ตรงสีตรงนี้แหละบางบางคนจะบอกว่าตรงที่
00:16:09 → 00:16:12 อวัยเพทของสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจุ๊ดจูจุ๋ม
00:16:12 → 00:16:15 ใช้คำแบบแบบดูไม่ไม่น่าไม่น่ากลัวไม่
00:16:15 → 00:16:17 น่าเกียดเท่าไหร่ตรงนั้นจะเป็นตัวที่บอก
00:16:17 → 00:16:19 ได้เพราะปกติแล้วเนี่ยสีของเยื่อเมือกจะ
00:16:19 → 00:16:23 เป็นออกเป็นสีชมพูสีชมพูสดๆอ่าถ้าปกติแดง
00:16:23 → 00:16:25 อ่อนๆนะครับแต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีสี
00:16:25 → 00:16:30 แดงเข้มหรือสีออกซีดจนถึงขาวหรืออาจจะมี
00:16:30 → 00:16:33 สีเหลืองในกรณีดีซ่านตรงนี้ก็จะเป็นตัว
00:16:33 → 00:16:36 ที่เราสามารถตรวจเช็คได้ในกรณีที่ที่มีสี
00:16:36 → 00:16:39 แดงเข้มมากๆบางครั้งนะจนถึงเป็นสีม่วงๆ
00:16:39 → 00:16:41 เนี่ยนั่นเป็นตัวบ่งว่ามันมีปัญหาเรื่อง
00:16:41 → 00:16:46 การขาดเลือดค่ะนะครับการที่เอ่อการขาด
00:16:46 → 00:16:48 ออกซิเจนแล้วเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกายได้
00:16:48 → 00:16:51 ไม่ดีสีของยื่อเมื่อก็จะเข้มผิดปกติ
00:16:51 → 00:16:55 รักษณาแบบนั้นอ๋อครับก็จะต้องแบบอ่าดูตรง
00:16:55 → 00:16:59 เอ๊ตรงหูก็มันก็จะมีสีอยู่ทางด้านในอาจจะ
00:16:59 → 00:17:01 มองได้ระดับนึงแต่ว่าอาจจะไม่ไม่ไม่ชัด
00:17:01 → 00:17:03 เจนเท่าไหร่แต่เมื่อกี้เอย่างที่บอกว่า
00:17:03 → 00:17:05 ตัวเยื่อเมือกบริเวณเหงือกเนี่ยจะเห็นได้
00:17:05 → 00:17:09 ชัดแต่ว่าไปเจอสุนัขตัวที่เหงือกดำก็อาจ
00:17:09 → 00:17:12 จะมองยากนิดนึงลิ้นพอจะบอกได้แต่ไปเจอ
00:17:12 → 00:17:15 สุนัขลิ้นดำก็จะลำบากอีกเออไปทำอะไรมา
00:17:15 → 00:17:19 เนี่ยลูกคือได้บอกว่าบริเวณอวัเพทของตัว
00:17:19 → 00:17:21 เมียทางด้านในก็พอที่จะเปิดดูแล้วก็จะพอ
00:17:21 → 00:17:25 เห็นสีลักษณะที่บ่งได้ว่ามันเป็นความความ
00:17:25 → 00:17:29 เข้มกว่าปกติไมหรือซีดหรือว่ามีมีมีมี
00:17:29 → 00:17:32 เอ่อมีเยื่อเมือกที่เป็นสีแสดงว่าการไหล่
00:17:32 → 00:17:35 วิเไม่ไม่ปกติได้หรือเปล่าพอจะบอกได้นะ
00:17:35 → 00:17:39 ครับออืก็ดูจากทั้งการหายใจใดๆดูแบบว่า
00:17:39 → 00:17:44 อ่าถ้าจะให้ชัดเจนก็เหงือกอวัยวเพศนะคะจะ
00:17:44 → 00:17:47 ได้ดูว่าสีมันเปลี่ยนไปมครับผมแต่ยังไม่
00:17:47 → 00:17:51 หมดเท่านี้มีตัวดีตัวดีเนี่ยมาจากคำว่า
00:17:51 → 00:17:53 disability ability ก็คือความสามารถที่
00:17:53 → 00:17:57 จะใช้การได้ทำงานได้ิคือไม่ดังนั้นอตัว
00:17:57 → 00:18:01 dis หมายถึงการไร้สมรรถภาพของร่างกายไร้
00:18:01 → 00:18:04 สมรรถภาพของร่างกายนี่หมายถึงเอ่อการทำ
00:18:04 → 00:18:06 งานของเราจะประเมินการทำงานของระบบประสาท
00:18:06 → 00:18:10 เช่นเายืนได้ปกติมยถ้าทางการยืนหรือจับ
00:18:11 → 00:18:13 ยืนแล้วล้มซึ่งอย่างเงี้ยถ้าเกิดกรณี
00:18:13 → 00:18:17 อย่างเงี้ยมีประวัติเช่นโดนอะไรหล่นใส่
00:18:17 → 00:18:21 ศีรษะอุ้ยหรือโดนตีตรงเนี้ยรหรือว่าอาจจะ
00:18:21 → 00:18:25 โดนตีที่ที่หัวหรือที่หลังทำให้กระแส
00:18:25 → 00:18:29 ประสาทที่มาจากสมองไปยังขาไปยังไปยังปลาย
00:18:29 → 00:18:32 ทางด้านท้ายๆเนี่ยทำงานได้ไม่ปกติยืนไม่
00:18:32 → 00:18:34 ได้หรืออาจจะมีภาวะของการเหยียดเกร็งมี
00:18:34 → 00:18:37 การภาวะการชักหรือการเกร็งลักษณะแบบนี้ก็
00:18:37 → 00:18:40 ถือเป็นความผิดปกติที่เราถือเป็นวิกฤต
00:18:40 → 00:18:43 แล้วจะบอกว่า a b c d เนี่ยโมีหลาย
00:18:43 → 00:18:45 เรื่องมีหลายอันมากๆเลยบางครั้งจะบอกว่า
00:18:45 → 00:18:50 มีเจอ 1 ใน 1 ใน 4 เหตุการณ์ที่ผิดปกติ
00:18:50 → 00:18:53 แล้วเราก็ถือเป็นภาวะผิดปกติภาวะวิกฤต
00:18:53 → 00:18:56 ภาวะฉุกเฉินที่เราควรต้องรีบพาไปพบคุณหมอ
00:18:56 → 00:18:59 อย่างเร่งด่วนคือถ้าเราเห็นก็ยังพอจะช่วย
00:18:59 → 00:19:01 เหลือได้แต่ถ้าไม่เห็นเนี่ยโอ้โหเนาะใช
00:19:01 → 00:19:05 ครับเฮ้คือก็เห็นหลายๆเคสแหละที่แบบว่า
00:19:05 → 00:19:09 บางทีโดนคนอื่นกระทำมาอย่างที่เนี่ยตัวดี
00:19:09 → 00:19:13 เนี่ยอแล้วมันแบบโอ้โหโดนโดนยิ่งมีปัญหา
00:19:13 → 00:19:15 เกี่ยวกับเรื่องระบบประสาทสมองอะไต่างๆ
00:19:15 → 00:19:17 แล้วเนี่ยโอ้โหเห็นแล้วนั่งสงสารโนั่น
00:19:17 → 00:19:20 อยากเห็นในข่าวที่โดนที่ที่มีการตีตีสนั
00:19:20 → 00:19:24 ตีหัวตีแล้วก็ร้องชักแล้วก็เกร็งแล้วก็
00:19:24 → 00:19:28 เสียชีวิตอูมันทรมานอ่ะเอาเอาแค่เราบางที
00:19:28 → 00:19:30 ปวดหัวเรายังรู้สึกแบบโอ้โหจะไม่ไหวเลย
00:19:30 → 00:19:32 ใช่มั้ยใช่แล้วเบอกเราไม่ได้แต่เขาร้องเ
00:19:33 → 00:19:35 อาจจะร้องร้องเรียกให้เราช่วยได้อะไร
00:19:35 → 00:19:37 อย่างเงี้ยแต่ว่านึกแล้วก็น่าสงสารเออ
00:19:37 → 00:19:39 อย่าใจร้ายกันเลยเนาะต้องเอาใจเสเอาใจใส่
00:19:39 → 00:19:42 อืจริงๆเอาแหละทีนี้เอาจะต้องพาไปละ
00:19:42 → 00:19:47 ฉุกเฉินคำว่าฉุกเฉินเร่งด่วนวิกฤตไปในทัน
00:19:47 → 00:19:50 ใดอ่าครับเออเราแบบผมว่าหลายๆท่านน่ะคุณ
00:19:51 → 00:19:53 สุพรก็อาจจะสงสัยเอ๊ะเมื่อกี้ที่บอกว่า
00:19:53 → 00:19:55 ประเมินมาแล้ว a b CD แล้วเนี่ยโอเค
00:19:55 → 00:19:57 ทฤษฎีเป็นแบบนี้แบบนี้แต่ในทางปฏิบัติ
00:19:57 → 00:19:59 จริงอ่ะมีสถสถานการณ์ไหนล่ะที่จะบอกว่า
00:19:59 → 00:20:03 มันฉุกเฉินอือาจจะสงสัยอย่างบางทีเ้าไป
00:20:03 → 00:20:07 กินอะไรก็ไม่รู้แหละอาจจะเป็นพิษกับเค้า
00:20:07 → 00:20:10 อย่างเงี้ยฮะนั่นนัต้องดูด้วยว่าคือคือ
00:20:10 → 00:20:12 บางครั้งเนี่ยถ้าเกิดว่าเราเห็นสิ่งที่
00:20:12 → 00:20:16 เค้ากินเราเห็นว่าเค้ากำลังเพิ่งจะอยู่
00:20:16 → 00:20:19 เอ่อกินไอ้สิ่งเหล่านั้นมาหรือเพิ่งจะ
00:20:19 → 00:20:21 เห็นซองหรือเห็นอะไรต่างๆแล้วแสดงอาการ
00:20:21 → 00:20:26 เช่นอาเจียนแล้วก็โอหออกมามีมีลักษณะการ
00:20:26 → 00:20:28 อาเจียนแบบเกร็งช่องท้องจนกระทั่งว่ามี
00:20:28 → 00:20:31 ของเหลวแปลกๆไหลออกมาทางทาทางทางปากมีอาจ
00:20:31 → 00:20:33 จะออกมาอย่างลักษณะแบบนั้นอย่างงั้นพอบอก
00:20:34 → 00:20:36 พอบอกได้แต่ว่าสิ่งที่สำคัญคือต้องเก็บ
00:20:36 → 00:20:42 ซองเก็บของเหลวของใช้คำว่า Content ที่
00:20:42 → 00:20:44 ที่เคอาเจียนออกมาเพื่อจะเอาไปตรวจด้วย
00:20:44 → 00:20:47 ว่ามันจะมีปัญหาอะไรมีมีมีมีเป็นเป็น
00:20:47 → 00:20:50 กลุ่มไหนเพราะว่าในการที่จะใช้ยาอาจจะมัน
00:20:50 → 00:20:53 ก็จะมีความแตกต่างกันว่าจะใช้ยาที่ต้าน
00:20:53 → 00:20:55 ลิกของแต่ละอย่างบางครั้งเนี่ยเห็นกิน
00:20:56 → 00:20:58 เข้าไปปุ๊บหลายๆคนก็ใช้วิธีการอ่าเอาแหละ
00:20:58 → 00:21:01 วิ่งไปในครัวหยิบไข่มาเอาไข่ขาวเอาไข่แดง
00:21:01 → 00:21:04 ออกไข่ขาวกรอกใส่ปากเลยทั้งอันที่ 1 คือ
00:21:04 → 00:21:06 เพื่อกระตุ้นให้เคอาเจียนก็ได้หรืออาจจะ
00:21:06 → 00:21:09 เป็นตัวที่เคลือบท่อทางเดินอาหารของเขา
00:21:09 → 00:21:12 แต่บางครั้งต้องดูด้วยว่าถ้าเขากินสารกัด
00:21:12 → 00:21:16 กร่อนสารกัดกร่อนเช่นยาน้ำยาล้างห้องน้ำ
00:21:16 → 00:21:18 หึเผลอกินเข้าไปอย่างเงี้ยการที่ทำให้
00:21:18 → 00:21:21 อเจนออกมามันยิ่งทำให้เป็นมากขึ้นการป้อน
00:21:21 → 00:21:24 ไข่ขาวเข้าไปเพื่อให้เคลือบทางเดินอาหาร
00:21:24 → 00:21:29 เป็นวิธีผฐมพยาบาลก่อนพาไปพบสัแพทย์ที่ดี
00:21:29 → 00:21:31 ทีเดียวครับแต่สิ่งสำคัญคือต้องพาไปพบ
00:21:31 → 00:21:33 สัตวแพทย์โดยเร็วอืบางทีเขาอาจจะไม่รู้
00:21:33 → 00:21:36 หรอกเาก็ไปกัดเล่นไปอะไรอย่างเงี้ยไม่ได้
00:21:36 → 00:21:39 ตั้งใจอ่ะแต่ว่าแบบกระป๋องขวดยาอะไรที่
00:21:39 → 00:21:40 เราทิ้งไว้อย่างเงี้ยใช่ครับยาบางอย่าง
00:21:40 → 00:21:43 บางทีไม่รู้อ่ะเห็นว่าสุนัขก็เอ้ยเป็น
00:21:43 → 00:21:46 เป็นเๆๆๆเก็บกัดเล่นไปกลืนเข้าไปอะไรต่าง
00:21:46 → 00:21:50 ๆจนกระทั้งมีผลต่อร่างกายเโหเยื่อเมือก
00:21:50 → 00:21:54 ม่วงเขียวเลยอย่างงี้ก็ก็ก็มีอมีอันไหน
00:21:54 → 00:21:57 ที่สังเกตก็ยากมั้ยคะอาจารย์การการหายใจ
00:21:57 → 00:21:58 อ่ะการหายใจพอจะจะช่วยได้เราเราพอจะ
00:21:58 → 00:22:00 สังเกตได้เช่นหายใจมีเสียงดังๆแต่ไม่ใช่
00:22:01 → 00:22:03 การกรนเหมือนสุนัขพันธุ์หน้าสร้างนะมัน
00:22:03 → 00:22:06 หายใจที่ที่ที่ผิดปกติหรือว่าจนทำให้เห็น
00:22:06 → 00:22:08 ว่าเยื่อเมือกเป็นสีม่วงๆอย่างที่บอกอัน
00:22:08 → 00:22:10 นี้ก็เป็นลักษณะที่อ้าปากหายใจเราพอจะบอก
00:22:10 → 00:22:12 ได้ว่าโอเคนะระบบการหายใจเผิดปกติแล้ว
00:22:12 → 00:22:16 ต้องพาไปพบคุณหมอแล้วนะครับบางครั้งกรณี
00:22:16 → 00:22:19 ที่มีบาดแผลขนาดใหญ่แล้วเลือดไหลกดห้าม
00:22:19 → 00:22:21 เลือดแล้วก็เลือดก็ไม่หยุดออย่างเงี้ยรีบ
00:22:21 → 00:22:24 ไปเลยไม่ต้องรอจนถึงเช้าออเดี๋ยวเลือดหมด
00:22:24 → 00:22:27 ตัวใช่บางครั้งคือการที่ช่องท้องขยาย
00:22:27 → 00:22:30 อย่างรวดเลวท้องบวมโป่งขึ้นมาอาจจะเกิด
00:22:30 → 00:22:35 การการบิดของกระเพาะอาหารหรือมีการการ
00:22:36 → 00:22:39 เอ่อของที่ได้แปลกๆที่ทำให้ทำให้เลือดออก
00:22:39 → 00:22:42 ในช่องท้องแล้วก็เลือดคั่งแล้วก็จน
00:22:42 → 00:22:44 กระทั่งช่องๆขยายลักษณนั้นก็เป็นอันตราย
00:22:44 → 00:22:46 ที่ที่ต้องต้องรีบพาไปพบคุณหมอโดยเร่ง
00:22:46 → 00:22:49 ด่วนเลยอืบางครั้งอาจจะเห็นเจ้าหมาเจ้า
00:22:50 → 00:22:53 แมวเจ้าหมาเจ้าเหมียวยืนฉี่ลงไปกระบะทราย
00:22:53 → 00:22:55 แล้วก็พยายามเบ่งแล้วก็ร้องแต่ไม่มี
00:22:55 → 00:22:58 ปัสสาวะออกมาอืลักษณะแบบนั้นคือการ
00:22:58 → 00:23:01 ปัสสาวะไม่ได้ก็เป็นสิ่งที่ต้องระมัด
00:23:01 → 00:23:02 ระวังแล้วก็ต้องถือว่าเป็นภาวะวิกฤตที่
00:23:02 → 00:23:05 ต้องรีบไปพาคุณหมอเพราะว่าถ้าปัสสาวะไม่
00:23:05 → 00:23:06 ได้เนี่ยมันก็จะปัสสาวะก็จะคั่งอยู่ใน
00:23:06 → 00:23:09 กระเพาะปัสสาวะแล้วของเสียก็จะถูกดูดกลับ
00:23:09 → 00:23:12 เข้าไปในในในกระแสเลือดสภาพของเลือดเป็น
00:23:12 → 00:23:15 กรดเลือดเป็นพิษต่างๆก็จะมีอออันนี้ก็
00:23:15 → 00:23:18 ต้องเป็นสิ่งที่ฉุกเฉินที่ต้องรีบรีบพาไป
00:23:18 → 00:23:22 พบคุณหมอโดยเร่งด่วนค่ะนะครับกรณีที่ตัว
00:23:22 → 00:23:25 ร้อนจัดๆอือ่าตัวร้อนเนี่ยบางทีเราเราเคย
00:23:25 → 00:23:28 บอกกันไวว่าอุณหภูมิปกติของสุนัขแมวจะ
00:23:28 → 00:23:31 ประมาณ 102 องศฟาเรนไฮต์หรือ 37 นิดๆแต่
00:23:31 → 00:23:33 บางครั้งถ้าเกิดอุณหภูมิมันสูงขึ้นจากไม่
00:23:33 → 00:23:35 ว่าจะเป็น heat Stroke หรือว่าเป็นภาวะ
00:23:35 → 00:23:37 ไข้น้ำนมหรืออะไรก็ได้ที่ทำให้ไข้
00:23:37 → 00:23:40 อุณหภูมิได้ร่างกายสูงมากๆเกิน 105 องศ
00:23:40 → 00:23:43 ฟาเรนไฮต์เนี่ยรีบพาไปพวกคุณหมอเลยแต่
00:23:43 → 00:23:45 เบื้องต้นเราอาจจะใช้วิธีการเอาผ้าชุบน้ำ
00:23:45 → 00:23:48 ธรรมดาเช็ดตัวเพื่อลดอุณหภูมิของเขาคแต่
00:23:48 → 00:23:52 ทีเนี้ยระหว่างการเช็ดตัวเช็ดตามซอกซอกขา
00:23:52 → 00:23:55 หน้าตามท้องตามหัวตามลำตัวเช็ดย้อนๆขนให้
00:23:55 → 00:23:58 โดนผิวหนังซึ่งถ้าเกิดทำไปแล้วสัก 5 นาที
00:23:58 → 00:24:01 10 นาทีแล้ววัดอุณหภูมิเอ๊ะยังไม่ลดยัง
00:24:01 → 00:24:03 สูง 105 106 เหมือนเดิมอะไรอย่างเงี้ย
00:24:03 → 00:24:05 ถือว่าไม่มีปัญหาและแต่ถ้าเกิดเช็ดตัวลง
00:24:05 → 00:24:08 ไปแล้วอุณหภูมิลดลงอ้าเป็นเหลือ 103 104
00:24:08 → 00:24:11 103 แล้วลดลงมาอ่ะอย่างงั้นอาจจะพอจน
00:24:11 → 00:24:14 กระทั่งว่ารอจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นแล้วลอง
00:24:14 → 00:24:16 เช็คดูอีกแต่แต่ระหว่างนั้นคงต้องมีการ
00:24:16 → 00:24:18 เช็ดตัวอยู่เรื่อยๆแล้วก็หมั่นประเมิน
00:24:18 → 00:24:21 สถานการณ์เป็นระยะระะถ้าอุณหภูมิไม่ลดรีบ
00:24:21 → 00:24:24 พาไปหาคุณหมอเลยค่ะดึกก็ต้องไปนะครับจะ
00:24:24 → 00:24:28 ได้สบายใจออ่านะฮะถ่ายเป็นเลือดเจียนเป็น
00:24:28 → 00:24:30 เลือดอลักษณะแบบเนี้ยยิ่งต้องรีบพาไปตั้ง
00:24:30 → 00:24:33 แต่เนิ่นๆเลยเลือดสดๆแดงๆเลยลักษณะแบบ
00:24:33 → 00:24:36 นั้นก็คืออาจจะเกิดเกิดไม่ว่าจะเป็นมีการ
00:24:36 → 00:24:40 ฉี่ขาดของท่อทางเดินอาหารตอนท้ายๆตอนปลาย
00:24:40 → 00:24:43 หรือว่าได้รับสารพิษที่ทำให้เกิดยาเบื่อ
00:24:43 → 00:24:45 หนูที่ทำให้เลือดไม่แข็งตัวอันนี้ก็คือ
00:24:45 → 00:24:47 อันตรายซึ่งไม่ควรปล่อยไว้ก็ต้องพาไปหา
00:24:47 → 00:24:50 คุณหมอแล้วก็ได้รับยาแก้ไขแอนติโดดอย่าง
00:24:50 → 00:24:53 ทันท่วงทีแล้วก็เร่งด่วนคหลักตั้แบบเนี้ย
00:24:53 → 00:24:57 แม่สุนัขที่ตั้งครรภ์โอตัวที่ใกล้ค้อเต็ม
00:24:57 → 00:25:00 ที่แล้ว 2 เดือนแล้วมีน้ำถุงน้ำคล่ำน้ำ
00:25:00 → 00:25:04 คร่ำแตกออกมาเป็นน้ำสีเขียวๆเอ๊ะออกมา
00:25:04 → 00:25:06 ตั้งสักพักนึงแล้ว 15 นาทีแล้วยังไม่มี
00:25:06 → 00:25:09 ลูกออกมานี่ถือว่าผิดปกติพาไปพวกคุณหมอ
00:25:09 → 00:25:13 เลยอาจจะต้องพทำการผ่าตัดมีมีขามีจมูกมี
00:25:13 → 00:25:16 หัวโผล่ออกมาโผล่ออกมาตั้ง 10 กว่านาที
00:25:16 → 00:25:19 แล้วยังไม่คลอดอันนี้ก็ถือว่าผิดปกติต้อง
00:25:19 → 00:25:22 รีบพาไปหาคุณหมอเลยแต่ถือว่าเป็นวิกฤตและ
00:25:22 → 00:25:26 อขาเหยียดเกรงชักแอันนั้นก็เป็นอีกอันนึง
00:25:26 → 00:25:29 อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับราอืเนี่ยการได้รับ
00:25:29 → 00:25:31 สารพิษอย่างที่คุณคุณคุณสุรีพรได้ได้พูด
00:25:31 → 00:25:34 ไปแล้วก็เป็นสิ่งที่ต้องรีบพาไปหาคุณหมอ
00:25:34 → 00:25:37 เพื่อจะได้แก้ไขอย่างเร่งด่วนค่ะนะครับอ
00:25:37 → 00:25:41 สัตว์หมดสติไม่รู้ตัวเอ๊ะทำไมนอนอยู่นิ่ง
00:25:41 → 00:25:44 ๆเดินๆมาสักแป๊บนึงแล้วหมดสติล้มลงไปเลย
00:25:44 → 00:25:46 แล้วนอนนิ่งๆไม่ใช่การนอนแล้วไปไปเรียกก็
00:25:46 → 00:25:49 ไม่ไม่ไม่ตื่นไม่ลุกไม่ใช่นอนขี้เซาแต่
00:25:49 → 00:25:52 ว่าลักษณะแบบนั้นถ้าเกิดว่าียงไม่ได้คง
00:25:52 → 00:25:54 ต้องรีบรีบพาไปพบคุณหมอแลว่าอาจจะมีปัญหา
00:25:55 → 00:25:56 เกี่ยวกับเรื่องระบบไหลเวียนเลือดหรือ
00:25:56 → 00:25:58 เปล่าระบบประสาทหรหรือเปล่าหรือการหายใจ
00:25:58 → 00:26:01 ผิดปกติอะไรต่างๆเหล่านี้นะครับเยอะเลยจะ
00:26:01 → 00:26:04 บอกว่าอจะบอกว่าสิ่งต่างๆที่ได้พูดมาทั้ง
00:26:04 → 00:26:06 หมดเนี่ยอันนี้เป็นแค่ตัวอย่างตัวอย่าง
00:26:06 → 00:26:08 กลุ่มนึงเท่านั้นเองถ้าเกิดว่าเจอความผิด
00:26:08 → 00:26:11 ปกติ 1 หรือ 2 ข้อไม่ต้องรอให้แบบว่าโอห
00:26:11 → 00:26:14 7-8 ข้อร่วมกันถึงจะพาไปหาคุณหมอนะครับ
00:26:14 → 00:26:16 เพราะฉะนั้นไปได้เลยนะข้อใดข้อนึงก็ไม่
00:26:16 → 00:26:19 ไหวแล้วค่ะต้องรับสายให้ทันท่วงทีีแล้วก็
00:26:19 → 00:26:21 มีสติที่สำคัญอย่าลืมมีสตินะครับใช่ค่ะ
00:26:21 → 00:26:23 โอหวันนี้ก็เต็มที่เลยนะเดี๋ยวขอบคุณ
00:26:23 → 00:26:26 อาจารย์โอมค่ะสดีครับเอาล่ะค่ะคุณผู้ฟัง
00:26:26 → 00:26:28 หมดเวลาแล้วค่ะพบกันใหม่ครั้งหน้านะคะวัน
00:26:28 → 00:26:30 นี้ลาไปก่อนสวัสดี
00:26:30 → 00:26:34 ค่ะ This Is Toy PBS podcast นวดเป็น
00:26:34 → 00:26:36 กิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดได้
00:26:36 → 00:26:39 เป็นอย่างดีแต่มีอาการหรือโรคอะไรที่ห้าม
00:26:39 → 00:26:42 นวดเด็ดขาดแพทย์หญิงกิตยาสศรเลิศฟ้าแพทย์
00:26:42 → 00:26:45 อายุรกรรมฝ่ายการแพทย์ AI มาเล่าให้ฟัง
00:26:45 → 00:26:48 ครับไม่ใช่ทุกคนนะที่เหมาะกับการนวดถ้าไป
00:26:48 → 00:26:52 ใช้สถานบริการที่ไม่ได้มาตรฐานหรือว่าเจอ
00:26:52 → 00:26:55 บุคลากรหรือคนนวดที่ไม่มีความรู้ดีพอ
00:26:55 → 00:26:58 เนี่ยนวดบริเวณที่ไม่ควรนวดเนี่ยสภาพร่าง
00:26:58 → 00:27:00 กายไม่เหมาะสมกับการนวดก็อาจจะสร้างอาการ
00:27:00 → 00:27:04 บาดเจ็บได้หรือเหตุการณ์คาดฝันอันตรายถึง
00:27:04 → 00:27:07 ชีวิตอย่างเช่นอามีข่าวอ่าหญิงแค่วัย 37
00:27:07 → 00:27:10 ปีเสียชีวิตเพราะว่าไปนวดจับเส้นกับหมอ
00:27:10 → 00:27:13 นวดตัวเองเนี่ยเป็นโรคหัวใจอยู่แล้วมี
00:27:13 → 00:27:16 อาการหน้ามืดขณะนวดแพทย์ระบุว่าเส้นเลือด
00:27:16 → 00:27:18 ไปเลี้ยงหัวใจตีบก็เลยเสียชีวิตอีกตัว
00:27:18 → 00:27:22 อย่างนึงผู้ชายอายุ 37 ปีอาชีพโฟแมนนะ
00:27:22 → 00:27:25 เสียชีวิตในร้านนวดหลังเข้ารับบริการนวด
00:27:25 → 00:27:28 เพียง 30 นาทีเท่านั้นหนังจการนวดผ่านไป
00:27:28 → 00:27:31 30 นาทีเ้าก็มีอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่
00:27:31 → 00:27:35 ออกแล้วก็หมดสติไปสาเหตุการตายเนี่ยเกิด
00:27:35 → 00:27:38 จากลิ่มเลือดในหลอดเลือดอุดตันขั้วปอด
00:27:38 → 00:27:41 ทั้ง 2 ข้างทำให้หายใจไม่ออกค่ะโดยลิ่ม
00:27:41 → 00:27:44 เลือดดังกล่าวเนี่ยนะเกิดขึ้นบริเวณจุดฟก
00:27:44 → 00:27:47 ช้ำที่ขาซึ่งบาดเจ็บอยู่แล้วจากการเตะ
00:27:47 → 00:27:51 ฟุตบอลเขาก็ไปนวดไงพอนวดไปก็กระตุ้นให้ทำ
00:27:51 → 00:27:54 ให้ลิ่มเลือดดังกล่าวเนี่ยไหลไปตามเส้น
00:27:54 → 00:27:57 เลือดแล้วก็ไปอุดตาที่ขั้วปอด 2 ข้างสส่ง
00:27:57 → 00:28:00 ผลให้หายใจไม่ออกแล้วก็เสียชีวิตคราวนี้
00:28:00 → 00:28:03 เราจะมาดูกลุ่มที่ใครไม่ควรนวดแผนไทย
00:28:04 → 00:28:06 เพราะว่าการนวดแผนไทยเมีผลกระทบต่อระบบ
00:28:06 → 00:28:09 ไหลเวียนเลือดแล้วก็กล้ามเนื้อเพราะ
00:28:09 → 00:28:11 ฉะนั้นอาจจะไม่เหมาะสมกับผู้ที่มีโรค
00:28:11 → 00:28:14 ประจำตัวบางชนิดผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ
00:28:14 → 00:28:16 เบาหวานความดันอยู่แล้วที่ยังควบคุมอาการ
00:28:16 → 00:28:19 ให้อยู่ในระยะปกติไม่ได้เนี่ยอย่างความ
00:28:19 → 00:28:22 ดันเนี่ยบางคนเป็นไม่ทราบว่าเป็นด้วยซ้ำ
00:28:22 → 00:28:24 นะพวกเนี้ยอาจจะเกิดอันตรายกับผู้ป่วยโรค
00:28:24 → 00:28:27 หัวใจเนื่องจากว่าการนวดแผนไทยเนี่ยทำให้
00:28:27 → 00:28:30 อัตราการเต้นของหัวใจจเนี่เปลี่ยนแปลง
00:28:30 → 00:28:33 นั้นผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบลอดเลือดหัว
00:28:33 → 00:28:38 ใจอะไรพวกนี้นะควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุก
00:28:38 → 00:28:43 ครั้ง This Is Toy PBS
00:28:43 → 00:28:46 podcast ติดตามรายการทางเว็บไซต์และ
00:28:46 → 00:28:49 แอปพลิเคชันของ Thai PBS podcast
00:28:49 → 00:28:52 spotify South Cloud Google podcast
00:28:52 → 00:28:54 Apple podcast และ YouTube Channel
00:28:55 → 00:28:59 Thai PBS podcast H PBS podcast
00:28:59 → 00:29:01 View the world via The
00:29:01 → 00:29:11 [เพลง]
00:29:11 → 00:29:14 Voice