00:00:03 → 00:00:07 med cmu podcast fung for
00:00:07 → 00:00:10 Hell ัง for Health
00:00:10 → 00:00:13 podcast รายการที่จะมาพูดคุยเรื่องราว
00:00:13 → 00:00:16 ของสุขภาพและแบ่งปันประสบการณ์จากแพทย์
00:00:16 → 00:00:20 ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆของคณะแพทยศาสตร์
00:00:20 → 00:00:22 มหาวิทยาลัย
00:00:22 → 00:00:28 เชียงใหม่เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัว
00:00:28 → 00:00:32 เราสวัสดีค่ะขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ฟัง
00:00:32 → 00:00:35 for Health podcast อยู่กับดิฉันฟ้า
00:00:35 → 00:00:38 ธัญญลักษณ์สดสวยนักประชาสัมพันธ์คณะ
00:00:38 → 00:00:41 แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ผู้ฟังทุก
00:00:41 → 00:00:44 ท่านคะเรื่องที่จะมาพูดคุยกันเป็นเรื่อง
00:00:44 → 00:00:47 เกี่ยวกับการได้ยินค่ะเราจะมาพูดคุยถึง
00:00:47 → 00:00:50 การตรวจการได้ยินค่ะว่ามีความสำคัญแล้วก็
00:00:50 → 00:00:52 มีประโยชน์ยังไงบ้างแล้วเราจะสังเกตได้
00:00:52 → 00:00:55 ยังไงคะว่าเรามีการได้ยินที่ผิดปกติหรือ
00:00:55 → 00:00:59 เปล่าใครบ้างที่เหมาะกับการตรวจการได้ยิน
00:00:59 → 00:01:01 นะคะรวมรวมถึงวิธีการตรวจในปัจจุบันและ
00:01:01 → 00:01:04 การรักษาในปัจจุบันเป็นยังไงบ้างค่ะผู้
00:01:04 → 00:01:06 ที่จะมาให้ข้อมูลกับเราท่านคือรอง
00:01:06 → 00:01:10 ศาสตราจารย์แพทย์หญิงสนทรชาสินอาจารย์
00:01:10 → 00:01:14 ประจำภาควิชาโสดสนาสิกวิทยาคณะแพทยศาสตร์
00:01:14 → 00:01:16 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะสวัสดีค่ะอาจารย์
00:01:16 → 00:01:19 หมอค่ะสวัสดีค่ะค่ะวันนี้เป็นเรื่องที่
00:01:19 → 00:01:22 น่าสนใจมากๆเลยค่ะหลายคนคิดว่าเรื่องการ
00:01:22 → 00:01:25 ได้ยินอาจจะไม่ได้สำคัญสักเท่าไหร่หรือ
00:01:25 → 00:01:27 ว่าไกลตัวเราหรือเปล่าเพราะว่าเราอาจจะ
00:01:27 → 00:01:30 ได้ยินชัดอยู่อ่าใช่มาพูดคุยกับอาจารย์
00:01:30 → 00:01:34 หมอถึงเรื่องตรวจการได้ยินค่ะว่ามันสำคัญ
00:01:34 → 00:01:36 แล้วก็มีประโยชน์มากกว่าที่เราคิดก่อน
00:01:36 → 00:01:38 อื่นนะคะอยากให้อาจารย์ช่วยพูดถึงการตรวจ
00:01:38 → 00:01:42 สมรรถภาพการได้ยินค่ะว่าคืออะไรอ๋อค่ะคือ
00:01:42 → 00:01:44 จริงๆคำว่าตรวจสมรรถภาพการได้ยินนี่มันจะ
00:01:44 → 00:01:47 ดูเป็นทางการนิดนึงเนาะแต่ว่าความจริงก็
00:01:47 → 00:01:50 คือตรวจระดับการได้ยินนั่นแหละตรวจว่าเรา
00:01:50 → 00:01:53 ได้ยินปกติดีมยหรือว่ามีการได้ยินบกพร่อง
00:01:53 → 00:01:57 ละเนาะซึ่งการตรวจมันก็จะแบ่งหลักๆเป็น 2
00:01:57 → 00:02:00 ประเด็นนั้นก็คือเป็นแค่การตรวจคัดกกรอง
00:02:00 → 00:02:02 เฉยๆหรือว่าเป็นการตรวจเพื่อให้ได้
00:02:02 → 00:02:05 วินิจฉัยเลยเนาะซึ่งบางทีการตรวจคัดกรอง
00:02:05 → 00:02:08 เนี่ยก็จะเป็นการตรวจที่ไม่ไม่ซับซ้อนมาก
00:02:08 → 00:02:10 นะคะแต่ว่าถ้าเป็นการตรวจเพื่อวินิจฉัย
00:02:10 → 00:02:14 เลยเนี่ยบางทีอาจจะเพราะว่าอ่าตัวบุคคล
00:02:14 → 00:02:16 แต่ละท่านเองมีอาการก็เลยต้องมาตรวจเพิ่ม
00:02:16 → 00:02:18 เติมที่โรงพยาบาลเพื่อได้วินิจฉัยเนาะ
00:02:18 → 00:02:20 หรือว่าบุคคลนั้นเนี่ยตรวจคัดกรองแล้ว
00:02:20 → 00:02:23 ตรวจไม่ผ่านก็มาตรวจวินิจฉัยเพิ่มค่ะ
00:02:23 → 00:02:25 เหมือนเป็นจุดที่เราต้องสังเกตตัวเองก่อน
00:02:25 → 00:02:27 เหมือนกันที่จะมาถึงการวินิจฉัยที่โรง
00:02:27 → 00:02:30 พยาบาลใช่มยคะใช่ใช่ๆค่ะจริงๆัดกรองง่ายๆ
00:02:30 → 00:02:34 เลยก็อย่างเช่นบางทีอ่ะเอานิ้วถูเนาะถู
00:02:34 → 00:02:36 นิ้วแล้วได้ยินมยเนาะเปกติถ้าสมมุติคนเรา
00:02:36 → 00:02:39 ได้ยินดีเนี่ยเวลาถูนิ้วเราก็จะได้ยินละ
00:02:39 → 00:02:41 ได้ยินเสียงถูนิ้วเนาะถ้าสมมุติเอ๊ะเรา
00:02:41 → 00:02:43 ไม่ได้ยินเสียงถูนิ้วเนี่ยแสดงว่าอาจจะมี
00:02:43 → 00:02:45 การได้ยินบกพร่องหรือเปล่าแต่ทั้งนี้ทั้ง
00:02:45 → 00:02:48 นั้นในการตรวจคัดกรองมันก็หลายปัจจัยเนาะ
00:02:48 → 00:02:50 เช่นเสียงสิ่งแวดล้อมมันดังบางทีเราก็อาจ
00:02:50 → 00:02:53 จะไม่ได้ยินสัญญาณเสียงที่ให้มาก็ได้
00:02:53 → 00:02:55 เสียงถูนิ้วเหรอคะเป็นยังไงคะใช่ค่ะก็คือ
00:02:55 → 00:02:58 ถูนิ้วเราถูนิ้วถูนิ้วธรรมดาใช่ผู้ฟังท่า
00:02:58 → 00:03:01 ไหนที่ได้ยินก็คือใช่ถ้าได้ยินก็แสดงว่า
00:03:01 → 00:03:05 น่าจะปกติดีค่ะค่ะแต่ถ้าสมมุติว่าถูนิ้ว
00:03:05 → 00:03:07 แล้วไม่ได้ยินก็อาจจะต้องดูว่าอ่ะมีการ
00:03:07 → 00:03:08 เสียการได้ยินจริงมั้ยหรือว่าจริงๆเป็น
00:03:08 → 00:03:11 เพราะปัจจัยอื่นๆด้วยอะไเงี้ยค่ะในทุกๆปี
00:03:11 → 00:03:13 เองเขาก็มีการรณณรงค์เกี่ยวกับเรื่องของ
00:03:13 → 00:03:16 วันการได้ยินอาจารย์พพูดถึงวันนี้สักนิด
00:03:16 → 00:03:19 นึงค่ะอ๋อค่ะปกติวันการได้ยินโลกเนาะจะ
00:03:19 → 00:03:22 เป็นวันที่ 3 มีนาคมของทุกปีนะคะซึ่งทาง
00:03:22 → 00:03:25 องค์การออนามัยโลกเขาก็กำหนดให้วันเนี้ย
00:03:25 → 00:03:28 เป็นวันการได้ยินโลกแต่ละปีเขาก็จะมี
00:03:28 → 00:03:31 เหมือนเป็นธีมเนาะเป็นแกนหลักว่าปีนี้
00:03:31 → 00:03:34 อยากจะรณรงค์เรื่องอะไรค่ะอย่างปีเนี้ย
00:03:34 → 00:03:37 อ่าการรณรงค์ของปีปี
00:03:37 → 00:03:41 2567 เนี่ยเนาะหรือ 2024 เนี่ยค่ะก็คือ
00:03:41 → 00:03:44 เขาจะรณรงค์เรื่องการเปลี่ยนมุมมองนะคะมา
00:03:44 → 00:03:46 ทำให้การดูแลหูและการได้ยินถ้วนหน้าเป็น
00:03:46 → 00:03:49 จริงกันเถอะอย่างเงี้ยเนาะก็จะมีราย
00:03:49 → 00:03:52 ละเอียดเล็กๆน้อยๆทั้งการดูแลหูแล้วก็การ
00:03:52 → 00:03:56 ที่เราอยู่ร่วมในสังคมเดียวกันกับผู้ที่
00:03:56 → 00:03:58 มีการได้ยินบกพร่องเนี่ยเราต้องทำตัว
00:03:58 → 00:04:01 ปฏิบัติตัวยังไงบ้างเนาะไม่ให้เรู้สึกว่า
00:04:01 → 00:04:05 เมีปัญหาเนาะค่ะค่ะก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรม
00:04:05 → 00:04:07 ที่น่าสนใจมากๆซึ่งทางคณะแพทย์ของเราก็จะ
00:04:07 → 00:04:10 มีนิทัศการที่จะจัดขึ้นในวันที่ 4 มีนาคม
00:04:10 → 00:04:13 ที่จะถึงนี้ด้วยนะคะแต่ผู้ฟังที่กำลังฟัง
00:04:14 → 00:04:16 podcast อยู่วันนี้เรามาให้ข้อมูลเบื้อง
00:04:16 → 00:04:19 ต้นกันก่อนนะคะใครอยากจะลงดีเทลมาร่วม
00:04:19 → 00:04:23 กิจกรรมได้นะคะจะได้มาคัดกรองด้วยใช่ใช่
00:04:23 → 00:04:25 ค่ะในงานก็จะมีการตรวจหูเนาะแล้วก็มี
00:04:26 → 00:04:29 เสวนานะคะว่ามีคนที่มีปัญหาเรื่องการได้
00:04:29 → 00:04:32 ยินพอเาแก้ไขการได้ยินแล้วอ่าชีวิตเเป็น
00:04:32 → 00:04:34 ยังไงบ้างอะไรเงี้ยค่ะก็จะเป็นการพูดคุย
00:04:34 → 00:04:38 เสวนากันค่ะอค่ะเพราะฉะนั้นค่ะตอนนี้ผู้
00:04:38 → 00:04:40 ฟังหลายท่านที่ฟัง podcast อยู่เชื่อว่า
00:04:41 → 00:04:43 ต้องเป็นผู้ที่ชื่นชอบการฟังนิดนึงแล้วก็
00:04:43 → 00:04:46 ต้องให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องของหูมาก
00:04:46 → 00:04:49 ๆนะคะเราจะสังเกตตัวเองได้ยังไงคะคุณหมอ
00:04:49 → 00:04:53 ว่าเรามีการได้ยินที่ผิดปกติอยู่อ่าโอเค
00:04:53 → 00:04:57 ถ้าอันแรกสุดเลยที่บอกได้ง่ายสุดก็คือตัว
00:04:57 → 00:05:00 เราเองเนาะบางทีตัวเราเองอาจจะสังเกตว่า
00:05:00 → 00:05:01 เอ๊ะทำไมเสียงนี้เราเคยได้ยินแต่ตอนนี้
00:05:01 → 00:05:04 มันได้ยินลดลงหรือว่าตัวเราเองสังเกตว่า
00:05:04 → 00:05:06 เวลาเราพูดคุยกับคนอื่นแล้วเหมือนเราฟัง
00:05:06 → 00:05:09 ไม่ค่อยถนัดละฟังยากขึ้นละอันนี้ก็เป็น
00:05:09 → 00:05:11 ตัวเราเองสังเกตเองเนาะในแง่ของการได้ยิน
00:05:11 → 00:05:14 เลยค่ะอีกอันนึงที่อาจจะเป็นสัญญาณเตือน
00:05:14 → 00:05:16 เนาะสัญญาณเตือนว่าเอ๊ะอาจจะมีการได้ยิน
00:05:16 → 00:05:20 ลดลงหรือเปล่าก็คือมีเสียงรบกวนในหูเนาะ
00:05:20 → 00:05:22 มีเสียงรบกวนในหูเช่นบางคนอาจจะรู้สึกว่า
00:05:22 → 00:05:24 มีเสียงเหมือนเสียงจิงหรีดเสียงเครื่อง
00:05:24 → 00:05:26 จักรเสียงเครื่องยนต์เสียงหึ่งๆอะไรเงี้ย
00:05:26 → 00:05:29 ค่ะดังอยู่ข้างในหูตลอดเวลาเวลาที่เรามี
00:05:29 → 00:05:32 เสียงกลัวในหูเนี่ยเกิน 90% ของคนมีเสียง
00:05:32 → 00:05:33 กลัวในหูคือพอไปตรวจการได้ยินเพื่อ
00:05:33 → 00:05:37 วินิจฉัยปุ๊บจะพบว่ามีการได้ยินที่ลดลง
00:05:37 → 00:05:39 เนาะอันนี้ก็เป็นอีกสัญญาณเตือนนึงเนาที่
00:05:39 → 00:05:42 ตัวเราเองอาจจะรู้สึกได้เองนะคะอีกอันนึง
00:05:42 → 00:05:45 ก็คืออาจจะเป็นสิ่งที่เพื่อนๆรอบข้างหรือ
00:05:45 → 00:05:48 ผู้ร่วมงานบอกเราเนาะว่าเอ๊ะทำไมเรียก
00:05:48 → 00:05:51 แล้วไม่ค่อยหันใช่มั้ยเรียกแล้วไม่ค่อย
00:05:51 → 00:05:53 หันหรือว่าเอ๊ะทำไมเปิดทีวีดังจังเลยแบบ
00:05:53 → 00:05:56 อ่าเพื่อนๆเราแบบรู้สึกว่าเราเปิดทีวีดัง
00:05:56 → 00:05:58 เกินไปอะไรอย่างเงี้ยค่ะทั้งๆที่เราเอง
00:05:58 → 00:06:00 ไม่ได้รู้สึกว่ามันดังดังมากเนาะหรือว่า
00:06:00 → 00:06:04 ถ้าเป็นในเด็กๆเลยบางทีอาจจะอ่าพูดช้าพูด
00:06:04 → 00:06:07 ไม่ชัดเนาะไม่ตอบสนองต่อเสียงอะไรงี้อัน
00:06:07 → 00:06:10 นี้ก็เป็นสิ่งที่พอจะสังเกตได้นะคะสังเกต
00:06:10 → 00:06:14 ได้ทั้งตัวเราเองแล้วก็คนรับข้างที่มีการ
00:06:14 → 00:06:16 สังเกตกับเรานั่นเองนะคะหรือว่าผู้สูง
00:06:16 → 00:06:20 อายุที่บ้านหรือไม่ใช่เฉพาะผู้สูงอายุอาจ
00:06:20 → 00:06:24 จะเป็นวัยรุ่นวัยทำงานที่ชอบใส่หูฟังแล้ว
00:06:24 → 00:06:27 ก็เปิดเสียงดังๆจนเคยชินก็มีโอกาสเกิด
00:06:27 → 00:06:31 ขึ้นได้เช่นใช่โาขึ้นได้ค่ะก็มาถึงในข้อ
00:06:31 → 00:06:34 ถัดไปก็คือเรื่องของผู้ที่ควรจะตรวจการ
00:06:34 → 00:06:38 ได้ยินเนี่ยมีใครที่เข้าขายที่จะต้องมา
00:06:38 → 00:06:41 ตรวจบ้างค่ะอาจารย์อก็หลักๆเลยก็คือคนที่
00:06:41 → 00:06:44 เริ่มมีอาการเนาะอาการได้แก่อะไรบ้างก็
00:06:44 → 00:06:46 คืออย่างที่กล่าวไปเมื่อกี้ใช่มั้ยคะว่า
00:06:46 → 00:06:48 ตัวเราสังเกตเองไม่ว่าจะเป็นรู้สึกว่าไดด
00:06:48 → 00:06:51 ยิ้นลดลงหรือว่ามีเสียงรบกวนในหูเนาะหรือ
00:06:51 → 00:06:53 ว่าตัวเพื่อนรอบข้างนี่แหละสังเกตว่าเอ้ย
00:06:53 → 00:06:55 เราเหมือนได้ยินลดลงหรือว่าอ่าบุตรหลาน
00:06:55 → 00:06:58 ลูกของเราหรือว่าอ่าเด็กๆอ่าของของเราเ
00:06:58 → 00:07:01 ค่ะรู้สึกว่าเอ๊ะเค้าเรียกไม่คอยหันพูด
00:07:01 → 00:07:03 ช้าพูดไม่ชัดเนาะอันนี้ก็ควรจะตรวจการได้
00:07:03 → 00:07:07 ยินละอีกอันนึงก็คือว่าถ้าเราทำงานอยู่ใน
00:07:07 → 00:07:10 ที่ที่ต้องอ่าอยู่กับเสียงดังตลอดเนาะ
00:07:10 → 00:07:13 เช่นบางทีเราทำงานในโรงงานสัมผัสเสียงดัง
00:07:13 → 00:07:15 จากเครื่องจักเครื่องยนต์อะไรอย่างเงี้ย
00:07:15 → 00:07:18 ค่ะเสียงดังระดับที่เวลาเสียงเครื่องยนต์
00:07:18 → 00:07:21 มันดังมากๆเนี่ยมันดังขนาดไหนที่ที่รบกวน
00:07:21 → 00:07:23 การฟังของเราก็คือดังจนถึงต้องตะโกนคุย
00:07:23 → 00:07:27 กันหรือว่าดังจนรู้สึกว่าปวดหูอันนี้ก็จะ
00:07:27 → 00:07:30 เป็นสิ่งที่เสียงมันดังเกินไปซึ่งโดยปกติ
00:07:30 → 00:07:32 เวลาทำงานในโรงงานหรือทำงานสัมผัสกับ
00:07:32 → 00:07:34 เครื่องจักรเครื่องยนต์ที่สัมผัสเสียงดัง
00:07:34 → 00:07:37 เนี่ยค่ะเราก็จะมีการให้ใส่อุปกรณ์ป้อง
00:07:37 → 00:07:39 กันอยู่ละซึ่งถึงแม้จะใส่อุปกรณ์ป้องกัน
00:07:39 → 00:07:42 เองก็ตามเนี่ยก็แนะนำว่ายังไงเขาก็จะให้
00:07:42 → 00:07:45 เช็คการได้ยินเป็นระยะอยู่แล้วนะคะเพราะ
00:07:45 → 00:07:48 ว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงในอาชีพโดยตรงด้วยนะคะ
00:07:48 → 00:07:50 ถึงแม้ว่าจะมีอุปกรณ์เซฟแล้วแต่ยังไงก็
00:07:50 → 00:07:54 ตามมีโอกาสก็คือควรจะพบคุณหมอใช่เป็น
00:07:54 → 00:07:56 ประจำนะคะถึงเรื่องของการตรวจการได้ยิน
00:07:56 → 00:08:00 นั่นเองค่ะสำหรับวิธีวิีการรักษาใน
00:08:00 → 00:08:02 ปัจจุบันค่ะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น
00:08:02 → 00:08:05 แบบนี้วิธีการรักษาเราเป็นยังไงบ้างคะ
00:08:05 → 00:08:08 ต้องบอกอย่างงี้ก่อนว่าโดยปกติแล้วอ่าการ
00:08:08 → 00:08:10 สูญเสียการได้ยินมันก็มีหลายรูปแบบเนาะ
00:08:10 → 00:08:13 อ่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการนำเสียงไม่ดี
00:08:13 → 00:08:17 เกิดจากการที่มีปัญหาตัวช่องหูเองตัวอ่า
00:08:17 → 00:08:20 เยื่อเยื่อแก้วหูเนาะหรือว่าตัวกระดูกหู
00:08:20 → 00:08:22 ชั้นกลางซึ่งพวกเนี้ยโดยมากเนี่ยเราใช้
00:08:22 → 00:08:25 การผ่าตัดซ่อมแซมได้แต่ว่าการสูญเสียการ
00:08:25 → 00:08:27 ได้ยินอีกแบบนึงก็คือเป็นการสูญเสียการ
00:08:27 → 00:08:29 ได้ยินบริเวณหูชั้นในเนาะหรือว่าตัว
00:08:29 → 00:08:32 ประสาทหูเนี่ยซึ่งเป็นอันที่เจอบ่อยนะคะ
00:08:32 → 00:08:34 หูชั้นในมันจะเหมือนเป็นตัวเซ็นเซอร์รับ
00:08:34 → 00:08:37 เสียงเนาะตัวเส้นประสาทก็คือส่งต่อเสียง
00:08:37 → 00:08:39 ที่ได้รับจากเซ็นเซอร์นั้นไปยังระบบสมอง
00:08:39 → 00:08:41 การสูญเสียการได้ยินชนิดเนี้ยไม่ว่าจะ
00:08:41 → 00:08:43 เป็นปัญหาตรงหูชั้นในหรือว่าตัวเส้น
00:08:43 → 00:08:46 ประสาทหูเนี่ยตรงเนี้ยยังไม่ได้มียาหรือ
00:08:46 → 00:08:49 ว่าอะไรเข้าไปรักษาซึ่งโดยมากเนี่ยอ่าโรค
00:08:49 → 00:08:52 ที่มักเกี่ยวกับการมีปัญหาบริเวณหูชั้นใน
00:08:52 → 00:08:55 หรือปสาหูก็ยกตัวอย่างเช่นการสูญเสียการ
00:08:55 → 00:08:57 ได้ยินจากเสียงดังเนาะได้ยินเสียงดังเป็น
00:08:57 → 00:08:59 ระยะเวลานานแล้วค่อยๆทำลายตัวรับเสียงใน
00:08:59 → 00:09:03 หูชั้นในหรือว่าในคนผู้สูงอายุเนาะเริ่ม
00:09:03 → 00:09:05 มีความเสื่อมตามวัยที่เราเรียกว่าเป็น
00:09:05 → 00:09:07 ประสาทหูเสื่อมก็เป็นความเสื่อมตรงนี้นะ
00:09:07 → 00:09:10 คะเนาะเพราะฉะนั้นเนี่ยในจุดเนี้ยโดยมาก
00:09:10 → 00:09:12 เนี่ยยังไม่ได้มียาอะไรไปแก้ไขเพียงแต่
00:09:12 → 00:09:15 ว่าถ้าเสียการได้ยยินจนถึงเกณฑ์ในระดับ
00:09:15 → 00:09:19 นึงเราก็จะใช้การฟื้นฟูการได้ยินด้วยการ
00:09:19 → 00:09:21 ใส่เครื่องช่วยฟังนะแต่ว่าต้องถึงเกณฑ์
00:09:21 → 00:09:23 ก่อนเนาะซึ่งคุณหมอเจะพิจารณาดูอีกทีว่า
00:09:23 → 00:09:26 อันนี้ถึงเกณฑ์การสูญเสียการได้ยินหรือ
00:09:26 → 00:09:29 ยังนะคะต้องใช้เครื่องช่วยฟังหรือยังค่ะ
00:09:29 → 00:09:32 ในกรณีที่บางคนมีการสเสียการได้ยินแบบมาก
00:09:32 → 00:09:34 ๆเลยเช่นแบบหูหนวกเนาไม่ได้ยินเลยทั้ง
00:09:34 → 00:09:37 ข้างเค่ะโดยมากเนี่ยพวกเเหมือนเซ็นเซอร์
00:09:37 → 00:09:39 รับเสียงในหูชั้นในก็จะทำงานได้ไม่ดีแล้ว
00:09:39 → 00:09:41 ล่ะถึงแม้เราจะใส่เครื่องช่วฟังคือการ
00:09:41 → 00:09:43 เปิดลำโพงเข้าไปในหูเนี่ยเนาเราก็จะได้
00:09:43 → 00:09:45 ยินไม่ชัดอยู่ดีเพราะฉะนั้นเนี่ยเราก็จะ
00:09:45 → 00:09:48 ดูอ่ะถ้าหูหนวกนะใส่เครื่องชื่อฟังไม่ได้
00:09:48 → 00:09:50 ผลนะก็จะนำไปสู่เรื่องการผ่าตัดฝั่ง
00:09:50 → 00:09:53 ประสาทหูเทียมก็จะเป็นอีกอีกอีกการรักษา
00:09:53 → 00:09:56 แบบนึงทั้งหมดทั้งมวก็ขึ้นอยู่กับการ
00:09:56 → 00:10:00 วินิจฉัยโดยแพใช่ค่ะคนไหนที่จะต้องเหมาะ
00:10:00 → 00:10:03 กับการรักษาขั้นตอนไหนนะคะแล้วพูดถึงโรง
00:10:03 → 00:10:06 พยาบาลของเรานิดนึงค่ะว่ามีผู้ป่วยในช่วง
00:10:06 → 00:10:09 วัยไหนคะที่มาได้รับการรักษาแล้วต้องใช้
00:10:09 → 00:10:11 เครื่องช่วยฟังแล้วเครื่องช่วยฟังเนี่ยทำ
00:10:11 → 00:10:15 ให้ชีวิตของเเนี่ยสามารถใช้ชีวิตได้
00:10:15 → 00:10:18 ปกติจริงๆก็จะมีอ่าผู้ป่วยทุกกลุ่มช่วง
00:10:18 → 00:10:20 อายุเนาะต้องเรียนอย่างงี้ว่าทุกกลุ่ม
00:10:20 → 00:10:22 ช่วงอายุแต่ว่าที่เจอบ่อยๆในแง่ของการใช้
00:10:22 → 00:10:25 เครื่องช่วยฟังก็จะเป็นผู้สูงอายุนะคะใน
00:10:25 → 00:10:27 เด็กเล็กๆก็มีเหมือนกันเพราะว่าเดี๋ยวนี้
00:10:27 → 00:10:30 ในเด็กเรามีการตรวจคัดกการได้ยินะเราก็จะ
00:10:30 → 00:10:32 รู้ว่าเอ้ยเด็กแรกคอคนนี้มานะปรากฏว่า
00:10:32 → 00:10:34 ตรวจคัดกรองการได้ยินไม่ผ่านก็จะมีการ
00:10:34 → 00:10:36 ตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมแล้วปรากฏว่าอ้าวเ
00:10:36 → 00:10:38 สูเสียการได้ยินจริงก็จะมีการใช้เครื่อง
00:10:38 → 00:10:41 ช่วยฟังเนาะในกลุ่มอ่าวัยที่เด็กโตขึ้นมา
00:10:41 → 00:10:44 หน่อยหรือวัยทำงานก็จะมีอยู่บ้างปะปายนะ
00:10:44 → 00:10:46 คะแต่ว่าถ้าบ่อยที่สุดในแง่ของเครื่อง
00:10:46 → 00:10:48 ช่วยฟังก็จะเป็นอ่าผู้ใหญ่วัยชราเนาะผู้
00:10:48 → 00:10:52 สูงอายุค่ะคทำให้การใช้ชีวิตดีขึ้นเพียง
00:10:52 → 00:10:54 แต่ว่าต้องบอกอย่างนี้ค่ะว่าบางคนเนี่ยพอ
00:10:54 → 00:10:57 เสื่อมปราสาทหูเสื่อมไปได้จนถึงระดับนึง
00:10:57 → 00:10:59 เนาะแบบเช่นเสื่อมเยอะๆมากๆมาเนี่ยบางที
00:10:59 → 00:11:03 เครื่องช่วยฟังเนี่ยอาจจะได้ผลไม่ดีนักอ
00:11:03 → 00:11:05 นะคะถ้าหูหนวกเลยบางทีเนี่ยเหมือน
00:11:05 → 00:11:07 เซ็นเซอร์รับเสียงมันไม่เหลือเนาะบางที
00:11:07 → 00:11:08 ใส่เครื่องช่วยฟังบางทีก็จะรู้สึกว่าเอ๊ย
00:11:08 → 00:11:11 ได้ยินไม่ชัดอยู่ดีนะคะแต่ว่าโดยมากเราก็
00:11:11 → 00:11:13 จะค่อยๆดูกันไปทีละขั้นตอนเนาะเริ่มจาก
00:11:14 → 00:11:16 การใช้เครื่องช่วยฟังก่อนัแหละถ้าใช้แล้ว
00:11:16 → 00:11:18 ได้ผลไม่ดีเราก็จะมีการปรับเครื่องก่อน
00:11:18 → 00:11:21 ให้เหมาะสมกับระดับการได้ยินเขมากขึ้นดู
00:11:21 → 00:11:24 ว่าปรับไปใช้ไปดีมั้ยหรือไม่ดียังไงแล้ว
00:11:24 → 00:11:27 ก็มาดูกันอีกทีนึงค่ะค่ะก็มาถึงช่วงสุด
00:11:27 → 00:11:29 ท้ายของรายการแล้วค่ะอยากให้อาจารย์ทิ้ง
00:11:29 → 00:11:32 ท้ายถึงความสำคัญของเรื่องการตรวจการได้
00:11:32 → 00:11:35 ยินค่ะค่ะจริงๆเรื่องของการตรวจการได้ยิน
00:11:35 → 00:11:38 เนี่ยเนาะถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเริ่มมี
00:11:38 → 00:11:41 อาการหรือว่าตัวเพื่อนๆรอบข้างเราสังเกต
00:11:41 → 00:11:44 เนาะว่าเราน่าจะมีอ่าปัญหาการได้ยินละก็
00:11:44 → 00:11:47 แนะนำมาตรวจจริงๆอันที่สำคัญกว่าเรื่อง
00:11:47 → 00:11:49 การตรวจอีกอันนึงก็คือจะเป็นเรื่องของการ
00:11:49 → 00:11:52 ป้องกันแล้วก็การดูแลรักษาหูของตัวเอง
00:11:52 → 00:11:56 อย่างเวลาเราได้ยินเสียงดังเยอะๆเนาะ
00:11:56 → 00:11:58 เสียงดังเยอะๆไม่ได้จำเพาะว่าเป็นเรื่อง
00:11:58 → 00:12:00 ของการการทำงานในที่มีเครื่องจักรเครื่อง
00:12:00 → 00:12:05 ยนต์ดังๆหมายรวมถึงการที่อ่าใช้หูฟังเนาะ
00:12:05 → 00:12:07 ใช้หูฟังเป็นระยะเวลานานๆด้วยเพราะว่า
00:12:07 → 00:12:10 เดี๋ยวเนี้ยเวลาฟังเพลงหรือว่าเวลาการ
00:12:10 → 00:12:12 ประชุมทุกอย่างก็ออนไลน์หมดเนาะอ่าเพราะ
00:12:12 → 00:12:15 ฉะนั้นเนี่ยหูฟังเป็นเหมือนเป็นอันที่
00:12:15 → 00:12:18 อุปกรณ์ที่ใช้ใช่อุปกรณ์ที่ใช้บ่อยมาก
00:12:18 → 00:12:20 ขึ้นนะใช้บ่อยมากขึ้นเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:12:20 → 00:12:22 เวลาเราฟังลองสังเกตดูอย่างคุณฟ้าลอง
00:12:22 → 00:12:24 สังเกตดูก็ได้ว่าเวลาเราฟังหูฟังไปเรื่อย
00:12:24 → 00:12:26 ๆเนี่ยเอ๊ะทำไมเหมือนเราต้องเพิ่มระดับ
00:12:26 → 00:12:28 เสียงให้มันดังขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆเหมือน
00:12:28 → 00:12:30 ตอนแรกฟังมันก็ยังโอเคนะแต่ฟังไปเรื่อยๆ
00:12:30 → 00:12:32 มันไม่ฟังเพลงไม่ค่อยมันละเราต้องเพิ่ม
00:12:32 → 00:12:35 ระดับเสียงใช่เนาะเพราะฉะนั้นเนี่ยจริงๆ
00:12:35 → 00:12:39 แล้วเนี่ยแนะนำว่าเวลาเราฟังหูฟังเนาะแนะ
00:12:39 → 00:12:42 นำว่าเปิดระดับเสียงไม่เกิน 60% ของระดับ
00:12:42 → 00:12:45 ความดังทั้งหมดค่ะนะอันนี้จะเป็นวิธีการ
00:12:45 → 00:12:47 รักษาหูอันที่ 1 เนาะอีกอันนึงก็คือว่า
00:12:47 → 00:12:51 ฟังไปแล้วควรจะมีการพักหูบ้างเนาะโดยปกติ
00:12:51 → 00:12:54 ก็แนะนำว่าฟังประมาณ 60 นาทีแล้วก็พักหู
00:12:54 → 00:12:55 พักหูอาจจะสัก 5 นาทีก็ได้ก็คือถอด
00:12:55 → 00:12:58 อุปกรณ์ฝั่งนั้นออกประมาณ 5 นาทีพักออก
00:12:58 → 00:13:00 พักก่อนเนาะเพราะฉะนั้นเนี่ยเปิดระดับ
00:13:00 → 00:13:04 ความดังไม่เกิน 60% แล้วก็ฟังไป 60 นาที
00:13:04 → 00:13:06 แล้วก็ค่อยพักหูหลังจากนั้นค่อยกลับมาฟัง
00:13:06 → 00:13:09 ใหม่ค่ะอันนี้ก็เป็นวิธีการดูแลเบื้องต้น
00:13:09 → 00:13:12 ง่ายๆนะคะซึ่งทุกคนสามารถทำได้เราเริ่ม
00:13:12 → 00:13:15 ป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆดีกว่านะคะเพราะว่า
00:13:15 → 00:13:17 การที่เราป้องกันเรื่องหูเนี่ยเป็นสิ่ง
00:13:17 → 00:13:20 ที่สำคัญมากๆเลยค่ะอาจารย์แล้วเราไม่ควร
00:13:20 → 00:13:22 จะมองข้ามเลยอย่างที่อาจารย์พูดถึงว่า
00:13:22 → 00:13:25 ยิ่งในปัจจุบันเราใช้หูฟังเป็นอีกหนึ่ง
00:13:25 → 00:13:29 สิ่งสำคัญเลยบางคนใส่่ใส่แทบจะตลอดเวลา
00:13:29 → 00:13:32 เลยนะคะแล้วก็เปิดเพลงฟังเราได้เคล็ดลับ
00:13:32 → 00:13:34 ดีๆค่ะเกี่ยวกับเรื่องของระดับเสียง
00:13:35 → 00:13:37 ประมาณ 60 ไม่เกินนี้ค่ะคือเปิดไม่เกิน
00:13:37 → 00:13:40 60% ของระดับความดังทั้งหมดเนี่ยเนาะ
00:13:40 → 00:13:42 แล้วก็ฟังประมาณ 60 นาทีใช่ด้วย 60 นาที
00:13:42 → 00:13:47 ก็จง่ายนะคะ 60 60 แล้วก็พัก 5 นาทีรู้
00:13:47 → 00:13:49 สึกว่าวันนี้เป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่ามากๆ
00:13:49 → 00:13:51 เลยที่เราได้มาพูดคุยกันถึงเรื่องใกล้ตัว
00:13:51 → 00:13:53 นะคะต้องขอบพระคุณอาจารย์หมอมากๆค่ะค่ะ
00:13:53 → 00:13:56 ยินดีค่ะค่ะสำหรับวันนี้สวัสดีค่ะค่ะ
00:13:56 → 00:14:00 สวัสดีค่ะ cmu podcast
00:14:00 → 00:14:07 เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัว
00:14:08 → 00:14:11 เรา