00:00:06 → 00:00:11 ถ้ามีสัญญาณผิดปกติก็อาจจะรวมกันได้ว่า
00:00:11 → 00:00:14 เป็นผู้ป่วยฉุกเฉินผู้ป่วยฉุกเฉินคือคน
00:00:14 → 00:00:18 ถ้าได้รับการบาดเจ็บโอเคแหละเป็นฉุกเฉิน
00:00:18 → 00:00:22 หรือป่วยกะทันหันนะที่มีภาวะคุกคามต่อ
00:00:22 → 00:00:25 ชีวิตเลยนะหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเร่ง
00:00:25 → 00:00:29 ด่วนผู้ป่วยมีโอกาสเสียชีวิตได้สูงหรือทำ
00:00:29 → 00:00:33 ให้การบาดเจ็บนั้นรุนแรงขึ้นหรือเกิดภาวะ
00:00:33 → 00:00:35 แทรกซ้อนขึ้นอย่างฉับไวจำเป็นต้องได้รับ
00:00:35 → 00:00:38 การตรวจรักษาอย่างทันท่วงทีเพื่อป้องกัน
00:00:38 → 00:00:42 การเสียชีวิตหรืออาการเจ็บป่วยบาดเจ็บที่
00:00:42 → 00:00:43 รุนแรงขึ้น
00:00:43 → 00:00:45 [เพลง]
00:00:45 → 00:00:48 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัพเดททุกโรคภัยฟังราย
00:00:48 → 00:00:55 การโรงหมอกิตฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:55 → 00:00:57 สวัสดีค่ะคุณผู้ฟังค่ะขอต้อนรับเข้าสู่
00:00:57 → 00:01:00 รายการโรงหมอทาง Thai PBS port ค่าแชร์
00:01:00 → 00:01:03 วันนี้มาพบกันนะคะคุยกันถึงเรื่องของ
00:01:03 → 00:01:07 สัญญาณอะไรที่ผิดปกติแล้วก็เราต้องไปพบ
00:01:07 → 00:01:10 แพทย์ทันทีนะคะมีสัญญาณอะไรบ้างที่เราจะ
00:01:10 → 00:01:12 ปล่อยไว้ไม่ได้นะคะเดี๋ยวคุยกับแพทย์หญิง
00:01:12 → 00:01:15 กิตติยาศรีเลิศฟ้าแพทย์อายุรกรรมฝ่ายการ
00:01:15 → 00:01:17 แพทย์ AIA ค่ะสวัสดีค่ะคุณหมอคะสวัสดีค่ะ
00:01:17 → 00:01:21 ค่ะแล้วคำว่าสัญญาณผิดปกติเนี่ยนะคะไม่
00:01:21 → 00:01:24 แน่ใจว่าเราจะใช้คำว่าฉุกเฉินหรืออะไร
00:01:24 → 00:01:27 อย่างนี้ได้หรือเปล่ามันก็คือถ้ามีสัญญาณ
00:01:27 → 00:01:32 ผิดปกติก็อาจจะรวมกันได้ว่าเป็นผู้ป่วย
00:01:32 → 00:01:36 ฉุกเฉินจริงๆเมื่อกี้น้องลีบอกสัญญาณดี
00:01:36 → 00:01:38 ปกติเนี่ยเราพาตัวเองไปหาหมอไม่ได้หรอก
00:01:38 → 00:01:42 ถูกไหมสัญญาณผิดปกตินี่น่าจะไม่ไหวแล้วนะ
00:01:42 → 00:01:46 ต้องคนอื่นมาแล้วนะแค่เนี้ยก็คือเป็นผู้
00:01:46 → 00:01:49 ป่วยฉุกเฉินแล้วเนี่ยมันเป็นยังไงผู้ป่วย
00:01:49 → 00:01:52 ฉุกเฉินเนี่ยคือเอ่อคนอ่าถ้าได้รับการบาด
00:01:52 → 00:01:56 เจ็บก็โอเคแหละเป็นฉุกเฉินเหรียญหรือป่วย
00:01:56 → 00:02:00 กะทันหันนะที่มีภาวะคุกคามต่อชีวิตเลยนะ
00:02:00 → 00:02:03 หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนผู้
00:02:03 → 00:02:06 ป่วยมีโอกาสเสียชีวิตได้สูง
00:02:06 → 00:02:10 หรือทำให้การบาดเจ็บนั้นรุนแรงขึ้นหรือ
00:02:10 → 00:02:14 เกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นอย่างฉับไวจำเป็น
00:02:14 → 00:02:17 ต้องได้รับการตรวจรักษาอย่างทันท่วงที
00:02:17 → 00:02:20 เพื่อป้องกันการเสียชีวิตหรืออาการเจ็บ
00:02:20 → 00:02:24 ป่วยบาดเจ็บที่รุนแรงขึ้นเพราะฉะนั้นมัน
00:02:24 → 00:02:26 ก็จะสอดคล้องกับคำว่าสัญญาณที่ผิดปกติ
00:02:26 → 00:02:31 แล้วก็ต้องไปหาหมอทันคำว่าทันทีนะคะไม่
00:02:31 → 00:02:34 ใช่ว่าคือฉุกเฉินหมายความว่าปล่อยไว้แบบ
00:02:34 → 00:02:36 เออมันก็มีอะไรแหละแต่ว่าเรารอได้ไม่ใช่
00:02:36 → 00:02:39 นะคะทันทีคำว่าทันทีเสี่ยงต่อการเสีย
00:02:39 → 00:02:43 ชีวิตใช่คุณหมอบอกอืมแล้วอย่างนี้มันจะมี
00:02:43 → 00:02:46 สัญญาณอะไรบ้างที่แบบว่าค่ะเอ้ยต้องหาหมอ
00:02:46 → 00:02:49 แล้วนะไม่ไหวแล้วนะอ่ะสัญญาณผิดปกติพวก
00:02:49 → 00:02:52 นี้ก็จะเป็นสัญญาณทั้งสมองนะเกี่ยวกับ
00:02:52 → 00:02:56 เอ่อระบบหายใจระบบระบบไหลเวียนเลือดหรือ
00:02:56 → 00:03:00 ว่าระบบหัวใจอาการฉุกเฉินวิกฤตที่ที่
00:03:00 → 00:03:04 สำคัญที่สุดก็คืออันที่ 1 นะการรับรู้สติ
00:03:04 → 00:03:09 เปลี่ยนไปบอกเวลาสถานที่คนที่คุ้นเคยผิด
00:03:09 → 00:03:11 อย่างเฉียบพลัน
00:03:11 → 00:03:17 การรับรู้สตินะการบอกเวลาสถานที่ผิดปกติ
00:03:17 → 00:03:21 ทั้งที่จริงๆต้องบอกได้ต้องคุยได้ไม่ใช่
00:03:21 → 00:03:24 คุยกันอยู่แล้วเป็นปุ๊บปั๊บสมมุติว่าปลุก
00:03:24 → 00:03:27 คุณพ่อคุณแม่ตื่นนอนมาเอ๊ะทำไมการรับรู้
00:03:27 → 00:03:32 สติเปลี่ยนไม่รู้เรื่องไม่ใช่คนคุ้นเคย
00:03:32 → 00:03:37 และหรือไปพบสภาพหมดสติไม่รู้สึกตัวไม่หาย
00:03:37 → 00:03:41 ใจแล้วหัวใจหยุดเต้นนะคำชีพจรเป็นก็หัวใจ
00:03:41 → 00:03:43 หยุดเต้นไม่ตอบสนองต่อการเรียกหรือการ
00:03:43 → 00:03:46 กระตุ้นไม่มีชีพจรแล้วเนี่ยจำเป็นต้องได้
00:03:46 → 00:03:49 รับการกู้ชีพทันทีนะคะสำคัญมากการรับรู้
00:03:49 → 00:03:53 นะฮะต่อไปอันที่ 2 ระบบหายใจเป็นยังไงหาย
00:03:53 → 00:03:55 ใจเร็ว
00:03:55 → 00:03:59 แรงลึกหอบเหนื่อยรุนแรงนะฮะหายใจติดขัด
00:03:59 → 00:04:04 ค่ะหายใจมีเสียงดังผิดปกติอืมพูดได้แค่
00:04:04 → 00:04:07 สั้นๆหรือร้องไม่ออกออกเสียงไม่ได้สำลัก
00:04:07 → 00:04:11 ขุดทางเดินหายใจมีอาการเขียวคล้ำอันนี้
00:04:11 → 00:04:14 ที่พบบ่อยๆก็รับประทานอาหารอยู่อ่ะเออ
00:04:14 → 00:04:20 อะไรติดคออย่างเงี้ยลูกชิ้นติดคออ่า
00:04:20 → 00:04:24 เนื้อทานเนื้อสเต็กค่ะอะไรติดคออย่าง
00:04:24 → 00:04:27 เงี้ยไปนั่งอยู่ด้วยกันเนี่ยคือมีบ่อยๆนะ
00:04:27 → 00:04:31 ที่มีข่าวอ่ะใช่ๆที่แทนที่มันจะคอหลอด
00:04:31 → 00:04:35 อาหารดันไปหลอดลมซะงั้นใช่อันนี้อยู่ดีๆ
00:04:35 → 00:04:38 นั่งๆอยู่ด้วยกันดีๆเนี่ยมีอาหารสำหรับ
00:04:38 → 00:04:41 อุดทางเดินหายใจ
00:04:41 → 00:04:45 หรืออย่างคนที่แพ้อย่างที่บอกแพ้กุ้ง
00:04:45 → 00:04:49 แพ้แพ้ยาหรืออะไรเนี่ยรับประทานเข้าไป
00:04:49 → 00:04:51 แป๊บเดียวเนี่ยอยู่ดีๆก็หายใจ
00:04:51 → 00:04:56 เร็วแรงหอบหายใจติดขัดหายใจเสียงดังอัน
00:04:56 → 00:04:59 นี้คือสัญญาณผิดปกติของระบบหายใจคืออัน
00:04:59 → 00:05:02 นี้คนที่อยู่ข้างๆต้องสังเกตเลยนะเฮ้ยแบบ
00:05:02 → 00:05:04 ทำไมอยู่ๆเพราะว่ามันบางคนเนี่ยแบบคือ
00:05:04 → 00:05:07 หน้าฟุบลงไปเลยนะใช่ยังไม่ทันจะแบบหันไป
00:05:07 → 00:05:10 เห็นเลยแบบหันมาอีกทีปุ๊บไปแล้วอ่ะมัน
00:05:10 → 00:05:10 เร็วมาก
00:05:11 → 00:05:14 ต้องระวังนะคะต่อไประบบไหลเวียนเลือดคือ
00:05:14 → 00:05:19 ตัวเย็นซี่เหงื่อแตกช่วงเอ่อท่วมตัวหมด
00:05:19 → 00:05:22 สติชั่ววูบหรือมีอาการวูบเมื่อลุกขึ้นยืน
00:05:22 → 00:05:26 อันนี้เป็นอาการระบบไหลเวียนค่ะต่อไประบบ
00:05:26 → 00:05:29 หัวใจก็มีเจ็บเนอะ 6 เฉียบพลันรุนแรงอ่า
00:05:30 → 00:05:33 อันนี้ก็แสดงถึงเส้นเลือดหัวใจตีบเส้น
00:05:33 → 00:05:37 เลือดหัวใจอุดตันอันนี้ระบบหัวใจต่อไป
00:05:37 → 00:05:41 ระบบสมองก็มีแขนขาอ่อนแรงครึ่งซีกปาก
00:05:41 → 00:05:47 เบี้ยวลิ้นแข็งพูดไม่ชัดค่ะพูดลำบากแบบ
00:05:47 → 00:05:49 ปัจจุบันทางด่วนหรือมีอาการชักต่อเนื่อง
00:05:49 → 00:05:53 ไม่หยุดอันนี้บางคนเขาเขาบอกได้เลยนะอัน
00:05:53 → 00:05:59 นี้คนไข้เองเขาบอกเฮ้ยๆเขาเริ่มมีมีอาการ
00:05:59 → 00:06:02 แบบนี้เขาสังเกตตัวเองอันนี้วันนี้มันมี
00:06:02 → 00:06:06 คลิปของโรงพยาบาลนึงที่เขาที่เขาผลิตออก
00:06:06 → 00:06:08 มาเคยๆได้ดู
00:06:08 → 00:06:10 เขาเป็นผู้ช่วยพยาบาลอยู่แล้วเขามีอาการ
00:06:10 → 00:06:12 แบบนั้นเขาบอกได้เลยแล้วเขาพยายามที่จะ
00:06:12 → 00:06:17 โทรเรียกแฟนเขามาซึ่งๆมาช่วยทัน
00:06:17 → 00:06:22 แล้วว่ามันมีผิดปกติค่ะเริ่มเริ่มไม่มี
00:06:22 → 00:06:25 แรงปากเบี้ยวพูดไม่ชัดด้วยเขาเขารู้เลย
00:06:25 → 00:06:27 อ๋อค่ะ
00:06:27 → 00:06:30 ต่อไปบาดเจ็บจากอุบัติเหตุต่างๆอันนี้อัน
00:06:30 → 00:06:34 นี้ก็ง่ายหน่อยที่เป็นสัญญาณผิดปกติบาด
00:06:34 → 00:06:36 เจ็บจากอุบัติเหตุอุบัติเหตุจราจรตกจาก
00:06:36 → 00:06:40 ที่สูงได้รับบาดเจ็บต่อสมองกระดูกสันหลัง
00:06:40 → 00:06:44 ไฟฟ้าช็อตถูกไฟฟ้าแรงสูงอันนี้ก็ง่ายเนาะ
00:06:44 → 00:06:47 ต่อไปถูกทำร้ายร่างกายถูกยิงถูกแทงที่
00:06:47 → 00:06:52 ศีรษะลำตัวอวัยวะสำคัญอวัยวะฉีกขาดเสีย
00:06:52 → 00:06:56 เลือดมากอ่าฮะการได้รับสารพิษยาพิษสัตว์
00:06:56 → 00:07:00 ที่มีพิษกัดต่อยหรือการได้รับยามากเกิน
00:07:00 → 00:07:01 ขนาด
00:07:01 → 00:07:05 ไฟไหม้มีแผลไฟไหม้บริเวณฝ้า
00:07:05 → 00:07:10 บาดเจ็บต่อดวงตาจากอุบัติเหตุสารพิษ
00:07:10 → 00:07:15 การคนที่มีตั้งครรภ์อยู่แล้วมีชักตกเลือด
00:07:15 → 00:07:17 มีน้ำเดินค่ะ
00:07:17 → 00:07:21 ฉุกเฉินน่ะค่ะอาการอันตรายที่คนไม่ค่อย
00:07:21 → 00:07:24 นึกถึงอีกอย่างนึงนะคือไข้สูงหนาวสั่นไข้
00:07:24 → 00:07:28 สูงหนาวสั่นเป็นอาการของการติดเชื้อใน
00:07:28 → 00:07:33 กระแสเลือดคนที่ซันไข้สูงเลยเนี่ย
00:07:33 → 00:07:36 สงสัยว่ามีการติดเชื้อในกระแสเลือดทั้ง
00:07:36 → 00:07:40 ที่ไม่ได้อยู่ในห้องแอร์เย็นๆจัดๆเลย
00:07:40 → 00:07:44 อาจจะเกิดภาวะช็อคไปแล้วหรือว่า
00:07:44 → 00:07:50 ซึ่งคนอันนี้คนสูงอายุเนี่ยอาจจะผ่านอาจ
00:07:50 → 00:07:53 จะผ่าน process นี้ไปไม่เข้าไข้สูงหนาว
00:07:53 → 00:07:56 สั่นอาจจะไปเรื่อยๆตัวเย็นไปเลย
00:07:56 → 00:07:59 ไม่ได้มีแบบให้เห็น
00:07:59 → 00:08:04 คนสูงอายุนะแต่ตัวเย็นไปเลยค่ะ
00:08:04 → 00:08:06 ต่อไปเรื่องของการปวดท้องแบบไหนที่ที่
00:08:06 → 00:08:10 เป็นสัญญาณผิดปกติปวดท้องเพราะว่าใครก็
00:08:10 → 00:08:13 เป็นกันได้นะอันนี้ใช่ปวดท้องยังไงปวด
00:08:13 → 00:08:15 ท้องรุนแรงมากแล้วต่อเนื่องกันเกิน 6
00:08:15 → 00:08:18 ชั่วโมงโอ้ย 2 ชั่วโมงก็ไม่ไหวแล้วใน 1
00:08:18 → 00:08:21 ชั่วโมงก็จะไม่ไหวแล้วมีไข้แล้วก็อาเจียน
00:08:21 → 00:08:24 รุนแรงร่วมด้วยมีเลือดออกที่ทางเดินอาหาร
00:08:24 → 00:08:27 ถ้าเลือดออกส่วนบนก็มีอาเจียนอาจจะถ้ามาก
00:08:27 → 00:08:32 ก็อาจจะเป็นเลือดหรืออาเจียนมีสีดำค่ะถ้า
00:08:32 → 00:08:36 ทายก็ถ่ายดำหรือถ่ายเป็นเลือดสดเอ่อด่วน
00:08:36 → 00:08:39 มั้ยอ่ะโดนสิ
00:08:39 → 00:08:43 ปวดร้าวทะลุหลังปวดท้องอ่ะปวดท้องปวดท้อง
00:08:43 → 00:08:48 มากทะลุปวดเกร็งทั้งท้องอึ้ยอันนี้น่าจะ
00:08:48 → 00:08:50 มีอ่ะซึ่ง
00:08:50 → 00:08:54 เป็นโรคที่ต้องรักษาเร่งด่วนเนื่องจาก
00:08:54 → 00:08:58 อะไรเช่นสาเหตุจากกระเพาะทะลุจ้ากระเพาะ
00:08:58 → 00:09:01 ทะลุไส้ติ่งอักเสบไส้ติ่งแต่เนี่ยปวด
00:09:01 → 00:09:08 เกร็งทั้งท้องเนี่ยถ้าได้จริงแตกแล้ว
00:09:08 → 00:09:11 ท่อน้ำดีอุดตัน
00:09:11 → 00:09:13 ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน
00:09:13 → 00:09:14 นะคะ
00:09:14 → 00:09:17 ถ้าปวดท้องน้อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ก็
00:09:17 → 00:09:20 อะไรแล้วก็มีเลือดออกทางช่องคลอดเช่นแผง
00:09:20 → 00:09:23 บุตรท้องนอกมดลูกอะไรแบบนี้ค่ะ
00:09:23 → 00:09:26 ช็อกโกแลตซีสต์แตกอะไรประมาณนี้ซึ่งมี
00:09:26 → 00:09:28 โอกาสเกิดขึ้นได้อันนี้คือเรื่องของปวด
00:09:28 → 00:09:34 ท้องค่ะ
00:09:34 → 00:09:37 คือจะปล่อยไว้แบบว่าเออเดี๋ยวรอเช้าก่อน
00:09:37 → 00:09:40 เดี๋ยวไม่ไหวนะคะ
00:09:40 → 00:09:43 แต่บางทีเนี่ยด้วยความฉุกเฉินอย่างนี้ค่ะ
00:09:43 → 00:09:47 มันก็จะยังไงดีจะไปโรงพยาบาลก็ไม่มีใครพา
00:09:47 → 00:09:50 ไปเพราะว่าจะให้ขับรถเองไปเองก็คงจะไม่
00:09:50 → 00:09:54 ได้อันนี้ก็ต้องพึ่งกลับรถฉุกเฉินรถกู้
00:09:54 → 00:09:57 ชีพฉุกเฉินถ้าคนยังอยู่ในครอบครัวที่มี
00:09:57 → 00:10:00 หลายๆคนนะคะถ้ามีอาการสัญญาณผิดปกติดัง
00:10:00 → 00:10:03 กล่าวเนี่ยไปโรงพยาบาลได้เลยให้ใครพาไปก็
00:10:03 → 00:10:06 ได้อ่านะคะคราวนี้ถ้าไม่อยู่ในฐานะที่
00:10:06 → 00:10:10 สามารถจะขับรถไม่เป็นอ่ะคนในบ้านขับรถไม่
00:10:10 → 00:10:12 เป็นหรือเราขับรถไม่ไหว
00:10:12 → 00:10:17 ก็เรียกเอ่อรถฉุกเฉินรถฉุกเฉินเนี่ยก็มี
00:10:17 → 00:10:21 ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติก็คือ
00:10:21 → 00:10:25 1669 ค่ะหรือในกทมอย่างเดียวก็คือเป็น
00:10:25 → 00:10:28 อ่าศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน
00:10:28 → 00:10:31 กรุงเทพมหานครหรือของศูนย์เอราวัณ 1646
00:10:31 → 00:10:35 อ๋อซึ่งเขาจะให้บริการเนี่ยผู้ป่วย
00:10:35 → 00:10:37 ฉุกเฉินนะฮะเขาจะเป็นศูนย์กลางในการ
00:10:37 → 00:10:40 ประสานความช่วยเหลือด้านการแพทย์ในภาวะ
00:10:40 → 00:10:43 ฉุกเฉินทุกประเภทค่ะนะ
00:10:43 → 00:10:47 เป็นบริการรถพยาบาลฉุกเฉินพร้อมทีมกู้ชีพ
00:10:47 → 00:10:48 ระดับต่างๆ
00:10:48 → 00:10:51 เพื่อให้ความช่วยเหลือแล้วก็ลำเลียงผู้
00:10:51 → 00:10:54 บาดเจ็บแล้วก็ผู้ป่วยไปยังศาลพยาบาลที่
00:10:54 → 00:10:55 เหมาะสม
00:10:55 → 00:10:59 ก็มีมีอยู่ 2 เบอร์คือถ้าสถาบันการแพทย์
00:10:59 → 00:11:02 ฉุกเฉินแห่งชาติจะ 1669 ที่เราคุ้นเคยก็
00:11:02 → 00:11:05 คือทั่วประเทศทั่วประเทศเลยนะคะแล้วก็ถ้า
00:11:05 → 00:11:09 ในกรุงเทพฯก็ 1646 ของศูนย์เอราวัณนี้ก็
00:11:09 → 00:11:13 แต่ว่าในรถกู้ชีพเนี่ยก็จะมีอุปกรณ์ที่
00:11:13 → 00:11:15 แตกต่างกันออกไปนะคะระดับความรุนแรงของ
00:11:15 → 00:11:18 ผู้ป่วยซึ่งเราก็ต้องแจ้งให้เขารู้ใช่ไหม
00:11:18 → 00:11:20 คะว่ามีอะไรบ้างอย่างเงี้ยใช่มั้ยคะใช่
00:11:20 → 00:11:23 เพราะจะมีรถกู้ชีพระดับต่างๆไม่เหมือนกัน
00:11:23 → 00:11:26 สิ่งที่ช่วยชีวิตในรถก็ไม่เหมือนกันค่ะ
00:11:26 → 00:11:30 เพราะฉะนั้นการแจ้งเหตุและคุยกับสายด่วน
00:11:30 → 00:11:34 เนี่ยสำคัญมากโอ้โหจะจ้ะจะต้องรีบคุยกัน
00:11:34 → 00:11:37 ขนาดไหนก็ต้องคุยนะคะท่านผู้ฟังก็จะต้อง
00:11:37 → 00:11:41 มีสติอ่ะๆข้อควรรู้ก่อนก่อนโทรแจ้งสาย
00:11:41 → 00:11:47 ด่วนนะ 1 เมื่อพบเหตุตั้งสติค่ะสติ
00:11:47 → 00:11:50 รู้จักไหมสติอย่าไปโมโหเขาจะซักอะไรนัก
00:11:50 → 00:11:54 หนาสติฟอร์มยาจะโมโหเขาเราจะต้องทราบข้อ
00:11:54 → 00:11:55 มูลดังนี้
00:11:55 → 00:11:58 ข้อที่ 2 ให้ข้อมูลว่าเกิดเหตุอะไรเกิด
00:11:58 → 00:12:02 เหตุอะไรมีสัญญาณชีพคนไข้เป็นยังไงมีผู้
00:12:02 → 00:12:06 ป่วยและผู้บาดเจ็บในลักษณะใดก็มันฉุกเฉิน
00:12:06 → 00:12:09 มันก็ตอบ
00:12:09 → 00:12:13 ข้อที่ 3 บอกสถานที่จ้าไม่งั้นไปไม่ถูก
00:12:13 → 00:12:17 จ้าบอกสถานที่เกิดเหตุเส้นทางจุดเกิดเหตุ
00:12:17 → 00:12:21 ให้ชัดเจนข้อที่ 4 บอกเพศช่วงอายุอาการ
00:12:21 → 00:12:26 จำนวนผู้บาดเจ็บเพศอายุอายุนี่สำคัญไง
00:12:26 → 00:12:29 สมมุติว่าถ้าสูงอายุเยอะเนี่ยก็ความ
00:12:29 → 00:12:32 เสี่ยงมันก็จะเยอะใช่ไหม
00:12:32 → 00:12:35 ข้อ 5 บอกระดับความรู้สึกตัวของผู้ป่วย
00:12:35 → 00:12:38 ด้วยยังรู้สึกตัวไหมยังคุยได้อยู่หมดสติ
00:12:38 → 00:12:40 ไปแล้วค่ะ
00:12:40 → 00:12:43 ข้อ 6 ข้อ 6 บอกความเสี่ยงที่จะเกิดซ้ำ
00:12:43 → 00:12:44 เช่น
00:12:44 → 00:12:48 ตอนนี้แจ้งอยู่นี่อยู่กลางถนนนะจ๊ะหรือ
00:12:48 → 00:12:51 อยู่บริเวณมีรถติดแก๊สอะไรอยู่ด้วยบอก
00:12:51 → 00:12:53 ความเสี่ยงซ้ำที่อาจจะเกิดซ้ำขึ้นเช่น
00:12:53 → 00:12:57 อยู่มุมทางโค้งอะไรแบบนี้อันตรายซ้ำได้
00:12:57 → 00:13:01 ข้อที่ 7 บอกชื่อผู้แจ้งเบอร์โทรศัพท์ที่
00:13:01 → 00:13:06 สามารถติดต่อได้ค่ะข้อที่ 8 ช่วยเหลือ
00:13:06 → 00:13:09 เบื้องต้นตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ถ้า
00:13:09 → 00:13:10 เจ้าหน้าที่เขาแนะนำอะไรช่วยหรือเบื้อง
00:13:10 → 00:13:16 ต้นคนไข้ไปก่อนค่ะ
00:13:16 → 00:13:20 ก็รีบมาในทันใดที่สุดแล้วข้อที่ 9 รอทีม
00:13:20 → 00:13:23 กู้ชีพมารับผู้ป่วยเพื่อนำส่งโรงพยาบาล
00:13:23 → 00:13:26 เพราะฉะนั้นอย่าลืมว่าการแจ้งข้อมูล
00:13:26 → 00:13:30 เบื้องต้นเนี่ยมีความสำคัญมากเป็นจุด
00:13:30 → 00:13:34 เริ่มต้นที่สำคัญของการช่วยเหลือขั้นแรก
00:13:34 → 00:13:36 ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยฉุกเฉินมีโอกาสรอดและ
00:13:36 → 00:13:38 ปลอดภัยมากขึ้น
00:13:38 → 00:13:42 อยู่ที่คุณนะคะมองหน้าเขาอยู่ที่คนแจ้ง
00:13:42 → 00:13:45 เหตุด้วยไงพูดรู้เรื่องอ่ะป่าวคือแล้วถ้า
00:13:45 → 00:13:48 เกิดเราบอกเขาถ้าคุณสั่นอย่างเดียวคุณไม่
00:13:48 → 00:13:52 มีสติเลยไม่ได้เคยเจอเหตุการณ์นะแล้วมัน
00:13:52 → 00:13:55 ตกใจแล้วมันสั่นนะเห็นเลื่อนก็ตกใจไปแล้ว
00:13:55 → 00:13:59 อ่ะครึ่งนึงแล้วอ่ะคือแบบมือที่สั่นคือ
00:13:59 → 00:14:03 อันนี้เพื่อนมาเล่าให้ฟังเออเราแบบตกใจไง
00:14:03 → 00:14:04 เรายังไม่ทันได้สังเกตตัวเองหรอกแต่
00:14:04 → 00:14:07 เพื่อนสังเกตว่ามือเราสั่นตอนที่กดเบอร์
00:14:07 → 00:14:11 ขอความช่วยเหลือได้จะต้องพูดพูดรู้เรื่อง
00:14:11 → 00:14:15 พูดไม่รู้เรื่องให้คนอื่นมาพูดมันตกใจ
00:14:15 → 00:14:20 ข้อมูลเดี๋ยวค่อยมาถามได้ไหมมาก่อนไม่ได้
00:14:20 → 00:14:22 เพราะว่าอย่างที่บอกรถกู้ชีพเขามีหลาย
00:14:22 → 00:14:25 ระดับเอาๆไม่ใช่
00:14:25 → 00:14:29 ไม่ได้อีกแล้วบุคลากรประจำรถนี่ก็มีมี
00:14:29 → 00:14:34 หลายหลายประเภทด้วยอ้อหรอใช่ก็คือถ้า
00:14:34 → 00:14:37 ฉุกเฉินแบบถึงขั้นต้องมีเครื่องออกซิเจน
00:14:37 → 00:14:39 หรือการช่วยในเรื่องแบบกู้ชีพเดี๋ยวนั้น
00:14:39 → 00:14:42 หายใจหรืออะไรอย่างนี้ก็ต้องเป็นใช่เลย
00:14:42 → 00:14:45 ใช่ไหม
00:14:45 → 00:14:47 แบบนี้
00:14:47 → 00:14:50 มันมีปัจจัยหลายอย่างอีกเหมือนกันนะในการ
00:14:50 → 00:14:52 ที่จะเข้ามาช่วยเหลืออย่างแบบฉุกเฉินน่ะ
00:14:52 → 00:14:55 เจนสมมุติว่าบังเอิญบ้านเราอยู่ในซอยแคบ
00:14:55 → 00:14:59 หรือแบบอ่าอีกโอ้โหนี่ไงคุณจะต้องอธิบาย
00:14:59 → 00:15:02 ให้ๆรู้เรื่องหรืออยู่เป็นคอนโด
00:15:02 → 00:15:04 อพาร์ทเม้นท์หรืออะไรอย่างเงี้ยแล้วเรา
00:15:04 → 00:15:08 อยู่ข้างบนชั้นสูงเงี้ยค่ะอ่ะเปลเข้าได้
00:15:08 → 00:15:11 ไหมลิฟต์ไม่น่าได้เนาะเนี่ยต้องลงบันได
00:15:11 → 00:15:14 คือถ้าเขาเตรียมการมาได้ดีเนี่ยมันก็จะ
00:15:14 → 00:15:16 เข้าถึงตัวผู้ป่วยเร็วอืม
00:15:16 → 00:15:20 แค่เนี้ยเอ่อสัญญาณชีพหรือว่า
00:15:20 → 00:15:23 มีเวลาเหลือพอสมควรนะเราก็จะเล่าให้ฟัง
00:15:23 → 00:15:26 ว่าเดี๋ยวนี้มันมีเรื่องของ Stroke fast
00:15:26 → 00:15:29 track คือการช่วยเหลือผู้ป่วยหลอดเลือด
00:15:29 → 00:15:32 สมองเขาเรียกสโตร์ fast track อีกอีก
00:15:32 → 00:15:35 กลุ่มนึงก็คือในเรื่องของโรคกล้ามเนื้อ
00:15:35 → 00:15:38 หัวใจค่ะเลือดเฉียบพลันก็จะมี
00:15:38 → 00:15:40 ในเรื่องของ fast track ของหลอดเลือดหัว
00:15:40 → 00:15:44 ใจทีนี้เราเอาเรื่องของของหลอดเลือดสมอง
00:15:44 → 00:15:45 ก่อน
00:15:45 → 00:15:47 ที่เราเจอกันบ่อยๆ
00:15:48 → 00:15:50 คือตอนนี้มีหลายโรงพยาบาลที่มี fast
00:15:50 → 00:15:53 track ของเรื่องนี้ท่านท่านผู้ฟังลองไป
00:15:53 → 00:15:56 search ดูทั้งโรงพยาบาลเอกชนแล้วก็โรง
00:15:56 → 00:15:59 พยาบาลของสังกัดกรุงเทพฯ
00:15:59 → 00:16:01 มีบริการนี้อยู่
00:16:01 → 00:16:04 เพราะอะไรเพราะว่าโหลดโรคของหลอดเลือด
00:16:04 → 00:16:07 สมองเนี่ยมันมีได้ทั้งตีบหลอดเลือดสมอง
00:16:07 → 00:16:09 ตีบแต่
00:16:09 → 00:16:13 อุดตันอุดตันไปเลยเพราะว่าอะไรเพราะว่า
00:16:13 → 00:16:14 สมองเนี่ย
00:16:14 → 00:16:16 เมื่อทำงานผิดปกติเนี่ย
00:16:16 → 00:16:19 สมองเนี่ยทนต่อการขาดเลือดได้ในเวลาจำกัด
00:16:19 → 00:16:24 การรักษาผู้ป่วยสมองขาดเลือดจะต้องสิ่ง
00:16:24 → 00:16:26 สำคัญที่จะต้องให้
00:16:26 → 00:16:29 สมองที่ขาดเลือดรักษาให้เร็วที่สุดฟื้น
00:16:29 → 00:16:31 ตัวเร็วที่สุดนะคะ
00:16:31 → 00:16:34 โดยถ้าในเรื่องของหลอดเลือดอุดตันเนี่ยนะ
00:16:34 → 00:16:37 จะต้องให้ยาละลายลิ่มเลือดเข้าเส้นเนี่ย
00:16:37 → 00:16:41 ภายใน 4.6 4.5 ชั่วโมง 4 ชั่วโมงครึ่ง
00:16:42 → 00:16:45 อ่ะหลังเกิดเหตุซึ่งจริงๆท่านผู้ฟังตอนไป
00:16:45 → 00:16:49 พบคนไข้เนี่ยไม่รู้กี่ชั่วโมงแล้วอ่ะที่
00:16:49 → 00:16:53 คนไข้มีอาการน่ะเออเข้าใจไหมมันไม่ใช่
00:16:53 → 00:16:56 เป็นปุ๊บแล้วนะไปอีก 4.5 ชั่วโมงนะ
00:16:56 → 00:16:59 คนไข้มีอาการตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้แต่
00:16:59 → 00:17:03 ว่าการให้ยาละลายลิ่มเลือดจะต้องถ้าให้ผล
00:17:03 → 00:17:07 ดีนะคือ 4 ชั่วโมงครึ่งก่อนที่จะ
00:17:07 → 00:17:11 หลังจากเกิดเหตุหลังจะเกิดอาการหรือว่า
00:17:11 → 00:17:14 เดี๋ยวนี้เขามีวิธีใส่สายสวนเอาก้อนเลือด
00:17:14 → 00:17:17 ที่อุดตันจากเส้นเลือดสมองออกต้องภายใน 6
00:17:17 → 00:17:21 ชั่วโมงอ๋อมีระยะเวลาในการที่ดีที่สุดที่
00:17:21 → 00:17:24 ทำให้คนให้ฟื้นตัวเร็วเพราะถ้าเรทเวลาไป
00:17:24 → 00:17:27 จากนั้นเนี่ยการฟื้นตัวมันก็เป็นไปตาม
00:17:27 → 00:17:28 %
00:17:28 → 00:17:32 ของช่วงเวลาที่เจอช้าเจอช้าการฟื้นตัวของ
00:17:33 → 00:17:35 สมองก็ช้าอันนี้มันมีฟ้าแสงมันดียังไง
00:17:35 → 00:17:38 fast track ของหลอดเลือดสมองเนี่ยก็จะ
00:17:38 → 00:17:41 เริ่มตั้งแต่การรับผู้ป่วยจากบ้านเลยนะฮะ
00:17:41 → 00:17:44 แล้วก็การนำผู้ป่วยเข้าสู่กระบวนการรักษา
00:17:44 → 00:17:48 ที่ที่ห้องฉุกเฉิน
00:17:48 → 00:17:54 แล้วก็เข้าขอผู้ป่วยหนักแล้วก็อ่าไปทำอ่า
00:17:54 → 00:17:58 ฉีดยาอะไรลิ่มเลือดหรือราก
00:17:58 → 00:18:02 ไอ้เส้นเลือดที่อุดตันออกมาลากครอสอ่ะนะ
00:18:02 → 00:18:05 จนกระทั่งถึงระยะการฟื้นฟูสภาพร่างกาย
00:18:05 → 00:18:08 แล้วก็เตรียมความพร้อมก่อนกลับบ้านซึ่ง
00:18:08 → 00:18:11 อันนี้มันจะเป็นเฉพาะของหลอดเลือดสมองคือ
00:18:11 → 00:18:13 เหมือนเป็น fast track สำหรับช่องทาง
00:18:13 → 00:18:16 พิเศษที่จะแบบไม่ต้องมานั่งแบบว่าเออกรอก
00:18:16 → 00:18:19 ประวัติยินยอมโทรหาญาติหรืออะไรอย่างนี้
00:18:19 → 00:18:22 ไปเลยรักษาเลยไม่ต้องมาดูว่าสิทธิ์อะไร
00:18:22 → 00:18:24 ยังไงใช่ไหมใช่
00:18:24 → 00:18:26 เพราะว่าแบบ
00:18:26 → 00:18:29 คือบางทีแล้วเราจะรู้ได้ไงคะว่าแบบคน
00:18:29 → 00:18:31 เนี้ยแบบเกี่ยวกับเรื่องของเส้นเลือดเรา
00:18:31 → 00:18:33 แบบก็ก็อย่างที่บอกเหมือนกันอย่างที่บอก
00:18:33 → 00:18:35 มีเอ่อ
00:18:35 → 00:18:41 ชาครึ่งซีกเอ่อลิ้นแข็งพูดไม่ชัดอันนั้น
00:18:41 → 00:18:44 ถ้าเห็นทันทีก็ได้ทันทีใช่แต่บางทีถ้า
00:18:44 → 00:18:48 เกิดสมมุติแบบเขาแบบหมดสติไปแล้วหรือว่า
00:18:48 → 00:18:52 คนไข้เป็นความดันเป็นเบาหวานอะไรที่
00:18:52 → 00:18:54 เสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองอยู่แล้วอะไร
00:18:54 → 00:18:57 ประมาณนี้แต่เขามีในเรื่องของ
00:18:57 → 00:18:58 ของ
00:18:58 → 00:19:02 Stroke จริงๆว่าอาการอะไรที่จะต้องนึก
00:19:02 → 00:19:05 ถึงตรงนี้และตามตาม fast track ตรงนี้
00:19:05 → 00:19:10 ถ้าสนใจก็เราต้องมาคุยกันอีกทีนึงแต่ไม่
00:19:10 → 00:19:13 ได้สนใจอย่างเดียวเอาแค่ว่าวัดว่ามันเป็น
00:19:13 → 00:19:16 ยังไงถึงสงสัยสโต๊คสงสัยว่าจะต้องเข้า
00:19:16 → 00:19:18 fast track ยังไงอันนี้อันนี้เล่าให้
00:19:18 → 00:19:21 ฟังคร่าวๆแสดงว่ามันมีรายละเอียดเยอะว่า
00:19:21 → 00:19:24 มันมีเรื่องนี้อยู่แล้วมันก็ให้บริการผู้
00:19:24 → 00:19:28 ป่วยแล้วก็ผู้ป่วยฟื้นตัวอย่างรวดเร็วเอา
00:19:28 → 00:19:30 งี้ดีกว่าเพราะว่ามันมันเร่งด่วนนะมันมัน
00:19:30 → 00:19:33 มีระยะเวลาของมันอยู่แค่แบบ 4 ชั่วโมง
00:19:33 → 00:19:36 ครึ่งค่ะกับ 6 ชั่วโมงใช่ไหมคะไม่เกิน
00:19:36 → 00:19:39 ชั่วโมงโหแล้วก็อยู่ต้องอยู่ในสถานที่ที่
00:19:39 → 00:19:42 มีคุณหมอที่เชี่ยวชาญดังนี้นะอ่อยมันมี
00:19:42 → 00:19:45 ข้อจำกัดจังเลยเนาะอ่านั่นแหละแต่มันก็มี
00:19:45 → 00:19:47 แล้วแหละเอางี้ดีกว่าก็ถือว่ามันมีทาง
00:19:47 → 00:19:50 เลือกของคนไทยอ่ะแล้วอีกอันนึงในเรื่อง
00:19:50 → 00:19:52 ของสโต๊คคือเรื่องหลอดเลือดสมองก็เป็น
00:19:52 → 00:19:55 เรื่องของหลอดเลือดหัวใจอุดตันหรือตี่ค่ะ
00:19:55 → 00:19:57 หกมาก
00:19:57 → 00:19:59 คือเจ็บหน้าอกโลกหัวใจนี่มันจะเป็นยังไง
00:19:59 → 00:20:05 เจ็บแบบตื้อๆหนักเจ็บบริเวณกลางหน้าอกนะ
00:20:05 → 00:20:10 แล้วก็ร้าวไปที่แขนซ้ายคอหรือกรามไม่ใช่
00:20:10 → 00:20:13 เจ็บจี๊ดๆเจ็บจี๊ดๆเจ็บเครียดทะเลาะกับ
00:20:13 → 00:20:17 แฟนเจ็บหัวใจแบบนั้นไม่ใช่มันเจ็บคนละ
00:20:17 → 00:20:20 อย่างอันนี้เจ็บหัวใจขาดเลือดเนี่ยมันจะ
00:20:20 → 00:20:22 เป็นอีกอย่างหนึ่งส่วนใหญ่ก็จะเจอในผู้
00:20:22 → 00:20:24 สูงอายุไหมคะถ้าเป็นลักษณะไม่จำเป็นยาก
00:20:24 → 00:20:28 ใช่ที่เล่นเทนนิสเล่นแบบ
00:20:28 → 00:20:33 ล้มลงกลางสนามค่ะอ่ะอันนั้นใช่นี่ขนาด
00:20:33 → 00:20:37 แข็งแรงเลยนะขนาดแข็งแรงโอ้โหก็ถ้าหลอด
00:20:37 → 00:20:39 เลือดหัวใจอุดตามมันยังไงมันจะต้องเข้า
00:20:39 → 00:20:42 ฟ้าแสงยังไงก็คือจะต้องรีบเปิดหลอดเลือด
00:20:42 → 00:20:45 ให้เร็วที่สุดนะคะด้วยการใช้ยาละลายลิ่ม
00:20:45 → 00:20:48 เลือดเหมือนกันนะคะแล้วก็รักษาด้วยการ
00:20:48 → 00:20:51 ขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูนหรือว่าใส่
00:20:51 → 00:20:55 ขดลวดค้ำยันค่ะคือเอาไปเอกซเรย์ฉีดสีหลอด
00:20:55 → 00:20:59 เลือดหัวใจนั่นแหละแล้วก็ทำบอลลูนนะคือ
00:20:59 → 00:21:01 ต้องเข้าฝาแฝดให้เร็วที่สุดแต่สำหรับ
00:21:01 → 00:21:05 อย่างคนที่เป็นเอ่อคาสนามเป็นมันวิ่งๆ
00:21:05 → 00:21:09 อยู่แล้วล้มไปพวกนี้เป็นลมหมดสติทันที
00:21:09 → 00:21:13 เนี่ยก็คือจะต้องกู้ชีพเบื้องต้นเลย
00:21:14 → 00:21:16 ก็จะต้องใช้เครื่องกระตุกหัวใจชนิด
00:21:16 → 00:21:19 อัตโนมัติ aed ซึ่งเราเห็นไหมตอนนี้มันมี
00:21:19 → 00:21:21 ตามห้างบางห้างจะมีเครื่องกระตุกหัวใจ
00:21:21 → 00:21:24 ชนิดอะตอมนัสเขาเรียกอัตโนมัติเรียกว่า
00:21:24 → 00:21:30 aed อยู่ซึ่งพวกนี้จะต้องใช้สำหรับคนที่
00:21:30 → 00:21:32 ล้มลงไปเลยเนี่ยมันจะมีหัวใจเต้นผิด
00:21:33 → 00:21:35 จังหวะเป็นเครื่องกระตุกหัวใจ
00:21:35 → 00:21:38 ต้องถ้าทำได้ทันภายใน 2 นาทีเนี่ยโอ้ยจะ
00:21:38 → 00:21:42 มีโอกาสรอดแล้วก็รู้สึกตัวดีถึง 71% 2
00:21:42 → 00:21:45 นาทีเอง 2 นาทีให้เวลาน้อยจังก็หัวใจมัน
00:21:45 → 00:21:48 เต้นผิดจังหวะมันไม่รอนะกว่าจะวิ่งไปเอา
00:21:48 → 00:21:50 เครื่องนี้ซึ่งไม่รู้ล้มอยู่ตรงไหนถูก
00:21:50 → 00:21:55 ต้องเอามาอีกโหยมันฟ้าจริงๆนะใช่
00:21:55 → 00:21:59 อันนี้ถ้าๆเราถ้าเรารู้
00:21:59 → 00:22:02 อาการพวกเนี้ยเราตาม fast track ได้
00:22:02 → 00:22:06 เนี่ยมันก็จะเป็นประโยชน์กับคนไข้ได้เร็ว
00:22:06 → 00:22:10 ฟื้นตัวเร็วรักษาเร็ว
00:22:10 → 00:22:13 คือกำลังมองว่าถ้าเรารู้ตัวหมายถึงว่าเรา
00:22:13 → 00:22:15 อาจจะมีโรคประจำตัวบางอย่างอยู่ที่นำ
00:22:15 → 00:22:18 เสี่ยงไปสู่อะไรพวกนี้มันก็ยังพอที่จะแบบ
00:22:18 → 00:22:22 ตามทางไม่ได้แต่ว่าถ้าอยู่ๆอย่างที่เรา
00:22:22 → 00:22:24 วิ่งๆอยู่อย่างนี้ค่ะเล่นกีฬาเตะฟุตบอล
00:22:24 → 00:22:28 อยู่ปุ๊บๆๆไปเลยอย่างนี้ทั้งที่แบบเราก็
00:22:28 → 00:22:31 แข็งแรงแล้วก็เล่นกีฬาออกกำลังกายเราไม่
00:22:31 → 00:22:33 รู้ว่าสภาพร่างกายข้างในเราอ่ะมันเป็นยัง
00:22:33 → 00:22:36 ไงเพราะฉะนั้นตัวสุขภาพเป็นประจำทุกปี
00:22:36 → 00:22:41 ก็คือดูระดับไขมันเขาคอเลสเตอรอล
00:22:41 → 00:22:45 ไตรกลีเซอไรด์แล้วก็คลื่นหัวใจค่ะอะไร
00:22:45 → 00:22:48 ประมาณนี้มีความเสี่ยงอะไรเราจะได้แบบมี
00:22:48 → 00:22:52 ความสามารถก่อนเออรู้ก่อนใช่เพราะว่าถ้า
00:22:52 → 00:22:56 แบบอย่างที่ๆๆรู้จักกันนะคะอันนี้เพิ่งๆ
00:22:56 → 00:23:00 จะเสียไปแบบปัจจุบันมากเลยอื้มไปไปเดิน
00:23:00 → 00:23:05 ตลาดค่ะแล้วก็กลับมาที่รถแล้วก็ล้มปุ๊บไป
00:23:05 → 00:23:06 เลย
00:23:06 → 00:23:09 ล้มปุ๊บส่งอะไรอยู่เสร็จที่สโตร์อีกไม่
00:23:09 → 00:23:13 รู้ว่าคือท้ายสุดแล้วเห็นบอกว่ามีการ
00:23:13 → 00:23:16 ชันสูตรนะคะว่าสาเหตุจากอะไรกันแน่ว่าตอน
00:23:16 → 00:23:17 นี้ยังไม่ทราบข้อมูลเหมือนกันว่าเพิ่ง
00:23:18 → 00:23:21 เกิดขึ้นคือพอล้มปุ๊บ
00:23:21 → 00:23:24 เขาก็รีบนำส่งโรงพยาบาลคือแต่ไม่รู้ว่า
00:23:24 → 00:23:27 เขาล้มไปตอนไหนนะไอ้ตรงช่วงระยะเวลาตรง
00:23:27 → 00:23:31 นี้คือไม่รู้พอมีคนมาเห็นก็รีบนำส่งโรง
00:23:31 → 00:23:35 พยาบาลเข้าห้องไอซียูไม่นานเป็นข่าวร้าย
00:23:35 → 00:23:39 เลยอ่ะคือมันแบบแป๊บๆอ่ะแล้วก็คือไม่รู้
00:23:39 → 00:23:42 ตัวขนาดส่งเร็วเร็วหรือเปล่าไม่แน่ใจ
00:23:42 → 00:23:44 เพราะว่าเราไม่รู้ว่าเขาล้มไปตอนไหนคนที่
00:23:44 → 00:23:46 มาเห็นน่ะไม่รู้ว่าเขาล้มไปนานมากน้อยแค่
00:23:46 → 00:23:49 ไหนแล้วแต่ตอนที่ไปโรงพยาบาลเนี่ยชีพจร
00:23:49 → 00:23:54 ยังมียังมีอยู่อืออะไรประมาณนี้ก็คือมัน
00:23:54 → 00:24:00 ต้องแล้วแต่ด้วยว่าเออการอุดตันเออเส้น
00:24:00 → 00:24:03 เลือดหัวใจที่ตีบเนี่ยมันกี่เส้นอืมเส้น
00:24:03 → 00:24:06 เดียว 2 เส้น 3 เส้นว้าย
00:24:06 → 00:24:10 มันไม่ได้มีอาการแบบว่าเออตีบแล้วเริ่ม
00:24:10 → 00:24:13 แบบมันไม่ค่อยอย่างนั้นน่ะสิมันไม่มันไม่
00:24:13 → 00:24:16 มันไม่ค่อยตามสเต็ปเหมือนกันทุกคนอยู่ๆก็
00:24:16 → 00:24:19 คนที่รอดเนี่ยยังมีเพื่อนคนนึงเป็นหมอ
00:24:19 → 00:24:22 เนี่ยเขาก็เล่นกีฬาอยู่นี่แหละเขาไม่ได้
00:24:22 → 00:24:24 เป็นโรคหัวใจอยู่ดีๆเขาก็ล้มฟุบไปเนี่ย
00:24:24 → 00:24:27 เขาเล่นไม่แน่ใจว่าเล่นเทนนิสหรือเปล่า
00:24:27 → 00:24:30 แต่เพื่อเพื่อนน่ะคนที่อยู่ข้างเคียง
00:24:30 → 00:24:33 สมมุติว่าเป็นเนี่ยเป็นหมออยู่ด้วยอ่ะรู้
00:24:33 → 00:24:36 จักวิธีช่วยเหลือได้เร็วเนี่ยค่ะถ้าถ้า
00:24:36 → 00:24:38 หัวใจหยุดเต้นหรืออะไรอ่ะต้องกู้ชีพตรง
00:24:38 → 00:24:43 นั้นปั๊มหัวใจกันตามรถกู้ชีพได้เร็วเนี่ย
00:24:43 → 00:24:46 มันมีโอกาสรอดก็สูงค่ะอืม
00:24:46 → 00:24:49 แต่ไม่ได้มีคุณหมออยู่ข้างกายเราอยู่ตลอด
00:24:49 → 00:24:52 เวลาพอดีใช่มั้ยเพราะฉะนั้นการเรียนรู้
00:24:52 → 00:24:56 เรื่องการเอ่อทำช่วยเหลือชีวิตเบื้องต้น
00:24:56 → 00:25:00 เนี่ยก็สำคัญตอนนี้ก็ไปเรียนถึงในระดับ
00:25:00 → 00:25:03 ประถมศึกษาอย่างเงี้ยเข้าไป
00:25:03 → 00:25:08 สอนอยู่มันตั้งโรงเรียนใช่ไหมใช่ๆเพราะ
00:25:08 → 00:25:10 ว่าหน่วยงานองค์กรหลายๆหน่วยงานเห็นเขาก็
00:25:10 → 00:25:13 มีเรียนเรื่องนี้พวกนี้อยู่กันว่าแบบหรือ
00:25:13 → 00:25:15 การใช้เครื่องอะไรอย่างนี้มันมีคู่มือ
00:25:15 → 00:25:17 อยู่นะคะแต่ตอนนั้นถ้าจะช่วยชีวิตคนเราคง
00:25:17 → 00:25:20 ไม่มานั่งทำยังไงมานั่งอ่านคงไม่ใช่แต่
00:25:20 → 00:25:24 ถ้ารู้ไว้ก่อนได้ก็น่าจะดีค่ะแล้วก็ฝาก
00:25:24 → 00:25:28 ด้วยนะคะถ้ารถพยาบาลเปิดเสียงไซเรนนะคะขอ
00:25:28 → 00:25:31 ทางนะคะวิงวอนควรจะให้ด้วยค่ะหลบให้ด้วย
00:25:31 → 00:25:35 ค่ะนะคะเขาจะเบี่ยงยังไงหรืออะไรยังไงคือ
00:25:35 → 00:25:38 ขอให้ได้เขาได้แบบไปเร็วที่สุดค่ะเพราะ
00:25:38 → 00:25:41 ว่าความฉุกเฉินเนาะค่ะชีวิตของคนซึ่งเรา
00:25:41 → 00:25:45 ก็ไม่รู้ว่าในในรถเนี่ยเขาเป็นอะไรค่ะแต่
00:25:45 → 00:25:46 ฉุกเฉินแน่นอนแหละค่ะไม่งั้นเค้าคงไม่
00:25:46 → 00:25:50 เปิดสัญญาณเสียงไซเรนให้แบบลบน้อยลบน้อย
00:25:50 → 00:25:52 ลบหน่อยแปลออกมาแล้วนะคะ
00:25:52 → 00:25:55 ลดน้อยอะไรอย่างนี้นะคะอันนี้ก็เป็น
00:25:55 → 00:25:58 เรื่องของสิ่งที่ผิดปกติเราต้องรีบไปหา
00:25:58 → 00:26:00 หมอทันทีที่คุณหมอฝากไว้นะคะขอบคุณคุณหมอ
00:26:00 → 00:26:03 ค่ะสวัสดีค่ะเอาล่ะค่ะหมดเวลาแล้วนะคะพบ
00:26:03 → 00:26:06 กันใหม่ครั้งหน้ากับรายการโรงหมอทาง Thai
00:26:06 → 00:26:09 PBS podcast ค่ะวันนี้ขอบคุณที่ติดตาม
00:26:09 → 00:26:13 รับฟังนะคะลาไปก่อนค่ะสวัสดีค่ะ
00:26:13 → 00:26:16 ทำไมคนเอเชียจึงเสี่ยงเป็นเบาหวานและโรค
00:26:16 → 00:26:18 อ้วนได้ง่ายกว่าฝรั่งและการอ้วนตั้งแต่
00:26:18 → 00:26:21 เด็กมีผลอย่างไรนายแพทย์เสถียรพงษ์
00:26:21 → 00:26:23 จันทะวิบูลย์ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรง
00:26:23 → 00:26:26 พยาบาลราชวิถีมาเล่าให้ฟังครับ
00:26:26 → 00:26:29 กลุ่มที่เป็นโรคอ้วนก็คือกลุ่มที่ดัชนี
00:26:29 → 00:26:32 มวลกายเนี่ยเกิน 25 ขึ้นไปนะครับหรือว่า
00:26:32 → 00:26:34 ใช้ค่าเขาเรียกค่า Body Mass Index
00:26:34 → 00:26:36 b&bmi นะครับก็คือเป็นน้ำหนักเป็น
00:26:36 → 00:26:39 กิโลกรัมหารด้วยส่วนสูงเป็นเมตรยกกำลัง 2
00:26:39 → 00:26:42 นะครับถ้าเกิดเกิน 25 ขึ้นไปเนี่ยถือว่า
00:26:42 → 00:26:46 เป็นโรคอ้วนแล้วก็กลุ่มที่เกิน 30 ขึ้นไป
00:26:46 → 00:26:49 เนี่ยเรียกว่าเป็นโรคอ้วนอันตรายมีผลกับ
00:26:49 → 00:26:52 คุณภาพชีวิตมีผลกับอายุขัยโดยตรงคนไทย
00:26:52 → 00:26:54 อย่างน้อยนะครับอย่างน้อย 20.8 ล้านคน
00:26:54 → 00:26:57 เนี่ยมีภาวะอ้วนหรือเป็นโรคอ้วนอันนี้
00:26:57 → 00:27:00 เป็นตัวเลขตั้งแต่ปี 2557 แล้วผมคิดว่า
00:27:00 → 00:27:03 ปัจจุบันเนี่ยน่าจะเกินนี้ไปละหรือถ้าพูด
00:27:03 → 00:27:05 ง่ายๆคือจริงๆคือคนไทย 1 ใน 3 เนี่ยเป็น
00:27:05 → 00:27:08 โรคอ้วนยิ่งในคนเอเชียหรือว่าอย่างคนไทย
00:27:08 → 00:27:10 เราเองเนี่ยน้ำหนักไม่เยอะมากนะครับแบบ
00:27:10 → 00:27:13 ดัชนีมวลกายเยอะนิดหน่อยนะครับมันมีความ
00:27:13 → 00:27:16 เสี่ยงที่จะเป็นเบาหวานได้เร็วกว่าฝรั่ง
00:27:16 → 00:27:18 นะครับพูดง่ายๆคือจริงๆถ้าตัดชิ้นมันกลาย
00:27:18 → 00:27:21 ประมาณ 27-28 ขึ้นไปเนี่ยคนเอเชียแบบเรา
00:27:21 → 00:27:23 เนี่ยเริ่มเสี่ยงเป็นเบาหวานละพอเราจะมอง
00:27:23 → 00:27:25 ว่าคนเอเชียเนี่ยอ้วนต่อมักจะเป็นอ้วนลง
00:27:25 → 00:27:28 พุงด้วยแล้วก็มักจะไขมันในช่องท้องเยอะ
00:27:28 → 00:27:31 แขนขาเล็กส่วนฝรั่งเนี่ยเขาอาจจะอ้วนจริง
00:27:31 → 00:27:34 ๆแต่ว่าเขาจะแขนขาใหญ่โตอาจจะไม่ใหญ่มาก
00:27:34 → 00:27:37 เมื่อเทียบสัดส่วนนะครับเด็กอ้วนหรือว่า
00:27:37 → 00:27:39 วัยรุ่นอ้วนเนี่ยปัจจุบันถือว่าเป็นปัญหา
00:27:39 → 00:27:43 ที่ทั่วโลกเจอคล้ายๆกันไม่ว่าจะในยุโรป
00:27:43 → 00:27:45 อเมริกามารวมถึงบ้านเราเองด้วยพูดจริงๆก็
00:27:45 → 00:27:48 คือเด็กที่อ้วนหรือว่าวัยรุ่นที่อ้วน
00:27:48 → 00:27:51 เนี่ยมันก็จะมีปัญหาเรื่องพฤติกรรมการกิน
00:27:51 → 00:27:54 พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ผิดปกติพอโตขึ้นมา
00:27:54 → 00:27:56 เนี่ยเขาก็แสดงเขาก็จะเป็นผู้ใหญ่ที่อ้วน
00:27:56 → 00:27:58 ไม่ได้ดูน่ารักหรือว่าอะไรนะครับตอนเป็น
00:27:58 → 00:28:01 ผู้ใหญ่มันก็จะมีความเสี่ยงที่จะมีโรค
00:28:01 → 00:28:04 ประจำตัวตามมาอีกมากมายถ้าอายุน้อยโรค
00:28:04 → 00:28:07 ประจำตัวเยอะตั้งแต่ต้นเนี่ยเราก็ไม่มี
00:28:07 → 00:28:10 ข้อจำกัดของชีวิตเยอะตั้งแต่แรกแล้วอายุ
00:28:10 → 00:28:12 ไม่เยอะ 18-19 ปีเป็นเบาหวานตั้งแต่ตอน
00:28:12 → 00:28:15 นี้ก็มีโอกาสที่จะสุขภาพเสียเยอะอาจจะ
00:28:15 → 00:28:18 เป็นเบาหวานขึ้นตาหรือเป็นเบาหวานลงไต
00:28:18 → 00:28:21 พอน้ำหนักเยอะเนี่ยร่างกายจะมีเหมือนภาวะ
00:28:21 → 00:28:24 อักเสบจากการที่เซลล์ไขมันมันหลั่งสาร
00:28:24 → 00:28:27 อักเสบออกมาตลอดเวลามันก็จะมีผลเช่นเพิ่ม
00:28:27 → 00:28:30 โอกาสในการเป็นมะเร็งเต้านมมะเร็งลำไส้
00:28:30 → 00:28:33 ใหญ่มะเร็งถุงน้ำดีมะเร็งกระเพาะรวมถึงใน
00:28:33 → 00:28:35 ผู้หญิงวัยรุ่นเนี่ยเจอค่อนข้างเยอะ
00:28:35 → 00:28:38 ปัจจุบันคือพอน้ำหนักเยอะเนี่ยจะมีปัญหา
00:28:38 → 00:28:42 เรื่องของสมดุลฮอร์โมนเพศทำให้มีปัญหาก็
00:28:42 → 00:28:45 คือประจำเดือนไม่มาหรือว่าประจำเดือนมา
00:28:45 → 00:28:48 มากผิดปกตินะครับซึ่งสุดท้ายก็จะไปส่งผล
00:28:48 → 00:28:52 เรื่องของการมีบุตรในอนาคตอาจจะมีบุตรยาก
00:28:52 → 00:28:56 หรือว่ามีความเสี่ยงที่ตั้งครรภ์แล้วจะมี
00:28:56 → 00:29:06 ภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ได้
00:29:06 → 00:29:09 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น
00:29:09 → 00:29:13 ของไทยพีแบสถ์ spotify Sound Google
00:29:13 → 00:29:15 podcast
00:29:15 → 00:29:18 และ YouTube Channel Thai PBS
00:29:18 → 00:29:23 portcute
00:29:23 → 00:29:29 [เพลง]