00:00:00 → 00:00:03 ตั้งแต่เรามีสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส
00:00:03 → 00:00:05 โควิด 19 นะครับแล้วก็มักจะได้ยินว่า
00:00:05 → 00:00:08 ไวรัสเนี่ยมันไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันเรา
00:00:08 → 00:00:11 ก็จะเริ่มได้ยินคำว่าระบบภูมิคุ้มกันบ่อย
00:00:11 → 00:00:14 ติดหูมากยิ่งขึ้นนะครับหรือเวลาที่เราไม่
00:00:14 → 00:00:17 สบายอ่อนแอเป็นหวัดอะไรเงี้ยคนก็มักจะพูด
00:00:17 → 00:00:19 ว่าโอ้โหเนี่ยแสดงว่าภูมิตกซึ่งไอ้ภูมิตก
00:00:19 → 00:00:22 เนี่ยมันก็ย่อมาจากภูมิคุ้มกันนั่นเอง
00:00:22 → 00:00:25 ครับเคยสงสัยไหมว่าไอ้ระบบภูมิคุ้มกัน
00:00:25 → 00:00:27 เนี่ยจริงๆแล้วมันคืออะไรกันแน่นะครับวัน
00:00:27 → 00:00:29 นี้ผมข้าวก็สมบูรณ์แล้วก็ท็อปทูโทนนะครับ
00:00:29 → 00:00:33 จะมาชวนทุกคนไปทำความรู้จักทำความเข้าใจ
00:00:33 → 00:00:35 กับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายนะครับว่า
00:00:36 → 00:00:38 เฮ้ยมันสำคัญกับเรายังไงแล้วจะมีวิธีอะไร
00:00:38 → 00:00:41 บ้างอ่ะที่จะดูแลและก็ทำให้ระบบภูมิคุ้ม
00:00:42 → 00:00:44 กันของเนี่ยมัน Strong ครับ This is
00:00:44 → 00:00:45 that
00:00:45 → 00:00:50 are you for you
00:00:50 → 00:00:54 port Cash สุขภาพที่ใช้วิทยาศาสตร์ไข
00:00:54 → 00:00:57 ปัญหาตั้งแต่หัวจดเท้า
00:00:57 → 00:01:00 ระบบภูมิคุ้มกันนะครับมันคือกลไกของร่าง
00:01:00 → 00:01:03 กายของเรานะครับที่ทำหน้าที่ในการ Monitor
00:01:03 → 00:01:07 ต่อต้านต่อสู้ป้องกันสิ่งแปลกปลอมหรือ
00:01:07 → 00:01:09 สิ่งอะไรก็ตามที่สามารถจะทำอันตรายให้กับ
00:01:09 → 00:01:12 ร่างกายของเรานะครับเปรียบเทียบแล้วเนี่ย
00:01:12 → 00:01:15 ระบบภูมิคุ้มกันมันก็คือกองทัพทหารเลยฮะ
00:01:15 → 00:01:18 ที่จะคอยปกป้องเรานะครับขึ้นชื่อว่ากอง
00:01:18 → 00:01:23 ทัพทหารนะครับกองทัพก็คือต้องมีทหารหลัก
00:01:23 → 00:01:26 หลายหมู่เหล่านะครับและก็ต้องมีอาวุธหลาก
00:01:26 → 00:01:29 หลายชนิดด้วยนะครับเพื่อไปต่อสู้กับสิ่ง
00:01:30 → 00:01:32 แปลกปลอมหรือว่าเชื้อโรคที่มันมีเยอะแยะ
00:01:32 → 00:01:35 มากมายหลากหลายนั่นเองนะครับแล้วสิ่งแปลก
00:01:35 → 00:01:38 ปลอมเนี่ยมันคืออะไรได้บ้างล่ะสิ่งแปลก
00:01:38 → 00:01:41 ปลอมนะครับมันคืออะไรก็ตามนะครับที่ร่าง
00:01:41 → 00:01:45 กายบอกว่าไม่ใช่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่าง
00:01:45 → 00:01:49 กายในภาวะปกติครับยกตัวอย่างเช่นเชื้อโรค
00:01:49 → 00:01:53 ฝุ่นละอองเกสรดอกไม้ขนสัตว์นะครับเซลล์
00:01:53 → 00:01:56 ของคนอื่นที่เราปลูกถ่ายเข้ามาในร่างกาย
00:01:56 → 00:01:59 ของเราก็เป็นสิ่งแปลกปลอมหรือแม้กระทั่ง
00:01:59 → 00:02:01 เซลล์มะเร็งครับซึ่งจริงๆแล้วเนี่ยมันคือ
00:02:01 → 00:02:04 เดิมเนี่ยเป็นเซลล์ของเราแต่เป็นเซลล์ของ
00:02:04 → 00:02:07 เราที่ไม่ Healthy อีกต่อไปร่างกายก็ถือ
00:02:07 → 00:02:09 ว่าอันนั้นเนี่ยคือสิ่งแปลกปลอมเหมือนกัน
00:02:09 → 00:02:12 ที่ร่างกายของเราต้องต่อสู้แล้วก็กำจัด
00:02:12 → 00:02:15 เมื่อกี้บอกไปว่าระบบภูมิคุ้มกันมันก็คือ
00:02:15 → 00:02:18 กองทัพทหารนะครับแล้วถ้าหาเนี่ยมันคือใคร
00:02:18 → 00:02:22 หลักๆแล้วถ้าหากก็คือเม็ดเลือดขาวนั่นเอง
00:02:22 → 00:02:25 พูดถึงได้ข่าวเนี่ยจะคุ้นหูกันมากยิ่ง
00:02:25 → 00:02:27 ขึ้นนะครับเม็ดเลือดขาวหรือว่าทหารของ
00:02:27 → 00:02:30 ร่างกายเราเนี่ยมันถูกสร้างมาจากไหนสร้าง
00:02:30 → 00:02:33 มาจากไข่กระดูกครับทุกคนเพราะถูกสร้างมา
00:02:33 → 00:02:36 แล้วเนี่ยเม็ดเลือดขาวบางส่วนเนาะไม่ใช่
00:02:36 → 00:02:39 ทุกชนิดนะครับจะถูกไปเหมือนกับไปเทรนไป
00:02:39 → 00:02:42 บ่มพอให้มันเติบโตแข็งแรงมากขึ้นในต่อม
00:02:42 → 00:02:46 ไทมัสนะครับหลังจากที่มันถูกเทรนแล้วก็มี
00:02:46 → 00:02:49 เลือดขาวชนิดอื่นๆนะครับก็ถูกส่งไปกระจาย
00:02:49 → 00:02:51 ทั่วร่างกายเลยไปอยู่ตามต่อมน้ำเหลือง
00:02:51 → 00:02:55 ต่างๆนะครับรวมถึงมาด้วยเพราะฉะนั้นม้าม
00:02:55 → 00:03:57 แล้วก็ต่อมน้ำเหลืองนะครับก็เป็น
00:03:57 → 00:03:59 จะใช้ความหนาเป็นตัวปกป้องแล้วนะครับก็
00:04:00 → 00:04:02 ยังมีอาวุธของมันด้วยนะครับก็อย่างเช่น
00:04:02 → 00:04:04 เหงื่อครับในน้ำเหงื่อของเรานั้นก็จะมี
00:04:04 → 00:04:07 สารเคมีบางอย่างนะครับที่สามารถจะฆ่า
00:04:07 → 00:04:09 เชื้อโรคได้นะครับเพราะว่าอาจจะมีค่าความ
00:04:09 → 00:04:12 เป็นกรดด่างที่ไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบ
00:04:12 → 00:04:15 โตของเชื้อโรคบางประเภทได้นะครับนอกจาก
00:04:15 → 00:04:18 ผิวหนังแล้วนะครับไล่จากหัวจดเท้าไล่มา
00:04:18 → 00:04:21 เจอตาครับตาก็เป็นช่องเปิดที่สิ่งแปลก
00:04:21 → 00:04:23 ปลอมจะเข้าได้ในตาก็จะมีน้ำตานะครับที่
00:04:23 → 00:04:27 คอยชะเอาเชื้อโรคหรือว่าฝุ่นละอองออกไป
00:04:27 → 00:04:30 ก่อนที่จะเข้ามานะครับในจมูกนะครับก็มีขน
00:04:30 → 00:04:33 จมูกมีเยื่อบุจมูกมีเมือกต่างๆนะครับที่
00:04:33 → 00:04:38 โอ้โหหล่อเลี้ยงตามผิวรอบๆทางเดินหายใจ
00:04:38 → 00:04:41 ทั้งหมดเลยนะครับเพื่อจะดักรอเชื้อโรค
00:04:41 → 00:04:45 ฝุ่นละอองหรือว่าคอยดักจับนะครับยิ่งเป็น
00:04:45 → 00:04:47 เมื่อเนี่ยคอยดักจับฝุ่นละอองเกาะเอาไว้
00:04:47 → 00:04:50 ไม่ให้มันทะลุทะลวงเข้าไปส่วนที่ลึกกว่า
00:04:51 → 00:04:53 นั้นนะครับแล้วก็ไหลเข้าสู่เส้นเลือดแล้ว
00:04:53 → 00:04:56 ก็แพร่กระจายไปทั่วร่างกายได้นะครับปาก
00:04:56 → 00:04:59 ของเรานะครับก็เป็นอีกหนึ่งด่านปราการของ
00:04:59 → 00:05:02 ระบบภูมิคุ้มกันนะครับตั้งแต่น้ำลายเลยฮะ
00:05:02 → 00:05:05 จะมีเอนไซม์ในการจัดการกับสิ่งแปลกปลอมนะ
00:05:05 → 00:05:07 ครับกระเพาะอาหารเองนะครับก็มีน้ำกรดน้ำ
00:05:07 → 00:05:10 ย่อยเอนไซม์ต่างๆที่สามารถจะฆ่าเชื้อโรค
00:05:10 → 00:05:12 ได้รวมไปถึงลำไส้ด้วยนะครับก็จะหลั่ง
00:05:12 → 00:05:15 เอนไซม์ที่สามารถจะฆ่าเชื้อโลกได้เช่นกัน
00:05:15 → 00:05:18 ครับแม้กระทั่งช่องคลอดของมนุษย์เรานี้นะ
00:05:18 → 00:05:20 ครับก็จะมีสารคัดหลั่งบางอย่างที่สามารถ
00:05:20 → 00:05:23 ที่จะป้องกันไม่ให้สิ่งแปลกปลอมทะลุทะลวง
00:05:23 → 00:05:26 เข้ามาได้นอกจากนี้นะครับตามส่วนต่างๆของ
00:05:26 → 00:05:28 ร่างกายของเรานะครับจะมีสิ่งที่เรียกว่า
00:05:28 → 00:05:30 Normal Flora นะครับซึ่งเป็นจุลินทรีย์
00:05:30 → 00:05:33 ท้องถิ่นนะครับซึ่งปกติแล้วเนี่ยเวลามัน
00:05:33 → 00:05:35 อยู่กับเราเนี่ยมันก็ไม่สร้างอันตรายกับ
00:05:35 → 00:05:38 ร่างกายของเรานะครับแต่มันเนี่ยสามารถที่
00:05:38 → 00:05:41 จะคอยแย่งกินอาหารแล้วก็จัดการกับ
00:05:41 → 00:05:44 จุลินทรีย์อื่นๆที่อยู่นอกร่างกายเวลาที่
00:05:44 → 00:05:46 มันบุกรุกเข้ามาได้ก็ช่วยป้องกันอันตราย
00:05:46 → 00:05:49 ให้กับร่างกายเราทำอ้อมได้ด้วยครับนั่น
00:05:49 → 00:05:52 คือด่านที่ 1 นะครับเป็นอ่าเป็นด่านนอก
00:05:52 → 00:05:55 สุดที่เป็นกำแพงป้องกันร่างกายของเราจะ
00:05:55 → 00:05:57 ไฮโดรเจนหรือว่าสิ่งแปลกปลอมนั่นเองฮะ
00:05:57 → 00:05:59 เมื่อไหร่ก็ตามที่สิ่งแปลกปลอมมันสามารถ
00:05:59 → 00:06:02 ที่จะทะลุทะลวงด่านแรกมาได้นะครับแล้วก็
00:06:02 → 00:06:04 มุดเข้ามาจนถึงเส้นเลือดของเราแล้วนะครับ
00:06:04 → 00:06:08 มันก็จะเจอกับทหารด่านที่ 2 ครับทหารด่าน
00:06:08 → 00:06:12 นี้ครับเป็นทหารแก๊งที่ชอบจับกินนะครับ
00:06:12 → 00:06:16 เป็นมนุษย์ตัวใหญ่ๆแล้วก็คอยจับกินสิ่ง
00:06:16 → 00:06:18 แปลกปลอมนะครับชื่อทางวิทยาศาสตร์เรียก
00:06:18 → 00:06:21 มันว่าเม็ดเลือดขาวกลุ่มฟาโกไซต์นะครับก็
00:06:21 → 00:06:24 คือพวกแมคโครฟาทนั่นเองฮะที่เวลาที่เจอ
00:06:24 → 00:06:27 สิ่งแปลกปลอมเมื่อไหร่นะครับมันก็จะวิ่ง
00:06:27 → 00:06:29 เข้าไปด้วยความที่มันตัวใหญ่เนี่ยครับมัน
00:06:29 → 00:06:33 ก็จะอ้าปากโอบล้อมแล้วก็กินสิ่งแปลกปลอม
00:06:33 → 00:06:35 นั้นเข้าไปในร่างกายของมันพร้อมกับ
00:06:35 → 00:06:38 แซกริฟายหรือว่าสละชีวิตของมันให้ตายตาม
00:06:38 → 00:06:40 ไปด้วยแล้วก็กลายเป็นหนองนั้นเองนะครับ
00:06:40 → 00:06:43 โดยทหารกลุ่มนี้นะครับมันก็จะจัดการกับ
00:06:43 → 00:06:46 เชื้อโรคหรือว่าสิ่งแปลกปลอมไม่เลือกหน้า
00:06:46 → 00:06:49 เลยนะครับแบบไม่จำเพาะเจาะจงเวลามันเจอ
00:06:49 → 00:06:51 อะไรก็ตามนะครับที่มันเป็นสิ่งที่บอกแล้ว
00:06:51 → 00:06:53 ว่าไม่ใช่ส่วนหนึ่งของร่างกายเป็นสิ่ง
00:06:53 → 00:06:55 แปลกปลอมนี่หว่าเหมือนจะวิ่งเข้าไปแล้วก็
00:06:55 → 00:06:58 attack แล้วก็ส่งสัญญาณเรียกเพื่อนมา
00:06:58 → 00:07:01 ช่วยลุงสกรรมแล้วก็จัดการกับสิ่งแปลกปลอม
00:07:01 → 00:07:04 ทันทีนะครับโดยเจ้าทหารกลุ่มนี้นะครับมัน
00:07:04 → 00:07:07 ก็จะเสื่อมไปตามวัยเนาะยิ่งเราแก่มากขึ้น
00:07:07 → 00:07:10 เนี่ยมันก็จะทำงานได้แย่ลงแย่ลงไปเรื่อยๆ
00:07:10 → 00:07:13 นั่นเองครับสมมุติว่าไอ้เจ้าสิ่งแปลกปลอม
00:07:13 → 00:07:15 หรือว่าเชื้อโรคมันกล้าแกร่งมากสามารถที่
00:07:15 → 00:07:18 จะเล็ดลอดจากไอ้เจ้าทหารยัดกลุ่มนี้นะ
00:07:18 → 00:07:21 ครับไม่โดนกลืนกินไปก่อนเนี่ยมันก็จะมา
00:07:21 → 00:07:24 เจอกับทหารกลุ่มสุดท้ายนะครับเป็นทหารที่
00:07:24 → 00:07:27 มีอาวุธทรงอนุภาพมากที่สุดเลยนะครับคือ
00:07:27 → 00:07:30 เหมือนกับอาวุธของพวกมันเนี่ยคือสไนเปอร์
00:07:30 → 00:07:33 ครับสามารถที่จะยิงได้อย่างจำเพาะเจาะจง
00:07:33 → 00:07:35 กับพาราโตรเจนหรือว่าสิ่งแปลกปลอมนะครับ
00:07:35 → 00:07:38 ไอ้เจ้าสไนเปอร์ที่ผมว่าเนี่ยมันก็คือ
00:07:38 → 00:07:40 แอนตี้บอดี้นั่นเองนะครับเชื่อว่าทุกวัน
00:07:40 → 00:07:43 นี้หลายๆคนคุ้นหูกับ antibodia แล้วแหละ
00:07:43 → 00:07:46 ว่ามันเป็นสิ่งที่ร่างกายนั้นสร้างขึ้นมา
00:07:46 → 00:07:48 เพื่อจัดการกับเชื้อโรคนั่นเองครับดูซิ
00:07:48 → 00:07:50 ว่าแอนติบอดีสร้างได้ยังไงนะครับสมมุติ
00:07:51 → 00:07:53 ว่าสิ่งแปลกปลอมมันหลุดรอดเข้ามาแล้วนะ
00:07:53 → 00:07:57 ครับจะไปเจอกับเม็ดเลือดขาวกลุ่มแรกนะ
00:07:57 → 00:07:59 ครับเราเรียกมันว่าเม็ดเลือดขาวเซลล์ B
00:07:59 → 00:08:02 นะครับ bim4 size แม้แต่ข่าวกลุ่มนี้นะ
00:08:02 → 00:08:05 ครับพอมันไปเจอกับสิ่งแปลกปลอมปุ๊บนะครับ
00:08:05 → 00:08:08 สิ่งที่มันจะทำนะครับมันก็จะสร้างเม็ด
00:08:08 → 00:08:10 เลือดขาวอีกตัวนึงชื่อว่า plasmale นะ
00:08:10 → 00:08:13 ครับเจ้าพาสม่าเซลล์เนี่ยก็จะทำหน้าที่ใน
00:08:13 → 00:08:14 การสร้าง
00:08:14 → 00:08:17 ซึ่ง antibody เนี่ยมันคือสไนเปอร์ที่
00:08:17 → 00:08:20 จำเพาะเจาะจงกับเชื้อโรคหรือว่าสิ่งแปลก
00:08:20 → 00:08:23 ปลอมแต่ละชนิดนะครับเท่านั้นยังไม่พอนะ
00:08:23 → 00:08:25 ครับในเลือดขาวชนิด B หรือว่า b-in ก็จะ
00:08:25 → 00:08:28 สร้างเม็ดเลือดขาวชนิดมีอีกตัวหนึ่งทำใน
00:08:28 → 00:08:31 ที่ในการจดจำข้อมูลของไอ้เจ้าสิ่งแปลก
00:08:31 → 00:08:33 ปลอมนี้ด้วยหรือว่าแอนติเจนมีด้วยนะครับ
00:08:33 → 00:08:36 ว่าสิ่งแปลกปลอมตัวนี้เราเคยเจอแล้วนี่
00:08:36 → 00:08:38 หว่าเพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่าในครั้งหน้าใน
00:08:38 → 00:08:40 อนาคตถ้าเราเจอไอ้เจ้าสิ่งแปลกปลอมตัวนี้
00:08:40 → 00:08:43 อีกเนี่ยร่างกายก็จะรีบสร้าง Plasma sale
00:08:43 → 00:08:45 เราก็สร้างแอนติบอดี้ออกมาจัดการกับสิ่ง
00:08:45 → 00:08:47 แวดล้อมตรงนี้ได้อย่างทันท่วงทีนะครับ
00:08:47 → 00:08:49 นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องฉีด
00:08:49 → 00:08:52 วัคซีนเพราะว่าการฉีดวัคซีนนะครับคือเป็น
00:08:52 → 00:08:55 การ introduce antigen หรือว่าสิ่งแปลก
00:08:55 → 00:08:58 ปลอมที่ไม่ได้มีพิษมากหรือว่าพิษมันทุเลา
00:08:58 → 00:09:00 ลงไปแล้วเพื่อให้ร่างกายเนี่ยคุ้นเคยกับ
00:09:00 → 00:09:03 มันเราก็เคยเจอมาก่อนพอร่างกายเคยเจอมา
00:09:03 → 00:09:05 ก่อนนะครับก็จะสร้าง Memory Cell เอาไว้
00:09:05 → 00:09:07 คอยจดจำเพราะมันเจออีกครั้งนึงในอนาคต
00:09:07 → 00:09:10 เนี่ยครับก็จะรีบสร้างแผนเต็มที่ออกมาต่อ
00:09:10 → 00:09:12 สู้ได้ทันท่วงทีครับนอกจากจะมีเม็ดเลือด
00:09:12 → 00:09:15 ขาวกลุ่ม B แล้วครับมีเม็ดเลือดขาวกลุ่ม
00:09:15 → 00:09:17 ทีด้วยนะครับเรียกว่า T cell หรือว่า
00:09:17 → 00:09:20 Tree นะครับไอ้เจ้าเม็ดเลือดขาวประเภท
00:09:20 → 00:09:23 นี้ต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอมไม่ได้ด้วย
00:09:23 → 00:09:26 antibody แต่ว่าต่อสู้ด้วยการเข้าไปจับ
00:09:26 → 00:09:29 แล้วก็หลั่งสารอะไรออกมาบางอย่างนะครับ
00:09:29 → 00:09:31 เป็นลักษณะเป็นถุงนะครับเจ้าเม็ดได้ขาว
00:09:31 → 00:09:34 ชนิด T Cell นะครับไม่ได้สร้าง antibody
00:09:34 → 00:09:36 มาเพื่อฆ่าเชื้อโรคนะครับแต่ว่ามันจะ
00:09:36 → 00:09:38 สร้างสารเคมีอะไรบางอย่างมาในรูปแบบของ
00:09:38 → 00:09:41 ถุงแล้วก็ทะลุทะลวงเข้าไปในเซลล์ของเชื้อ
00:09:41 → 00:09:44 โรคนะครับแล้วก็จะปล่อยสารเคมีตัวนี้ครับ
00:09:44 → 00:09:47 เข้าไปเพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตหรือว่า
00:09:47 → 00:09:50 ทำให้เชื้อโรคนี้มันแตกหรือว่ามันตายได้
00:09:50 → 00:09:52 นะครับโดยเจ้ากลุ่มเม็ดเลือดขาวชนิด T
00:09:52 → 00:09:55 เนี่ยครับก็มี Memory Cell ของมันด้วยนะ
00:09:55 → 00:09:59 ครับซึ่งก็จะช่วยทำให้จดจำเชื้อโรคต่างๆ
00:09:59 → 00:10:02 ได้แม่นยำแล้วก็รวดเร็วมากยิ่งขึ้นนะครับ
00:10:02 → 00:10:04 เวลาเจออีกรอบนึงก็จะได้สร้างเม็ดเลือด
00:10:04 → 00:10:07 ขาวทั้งชิ้น B และชนิดถี่ได้อย่างรวดเร็ว
00:10:07 → 00:10:10 มากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะแม้ว่าเม็ดเลือดขาว
00:10:10 → 00:10:12 กลุ่ม B และ T นะครับจะจัดการกับสิ่งแปลก
00:10:12 → 00:10:13 ปลอมหรือว่าเชื้อโรคแบบจำเพาะเจาะจงนะ
00:10:13 → 00:10:16 ครับแตกต่างกับพวกแม็คโครฟาสที่ไม่ว่าจะ
00:10:16 → 00:10:19 เป็นใครหน้าไหนก็ฉาบฝ่าด่านแล้วก็จัดการ
00:10:19 → 00:10:21 ได้หมดนะฮะแต่การจัดการใช้รูปแบบเฉพาะ
00:10:21 → 00:10:23 เจาะจงเนี่ยมีประสิทธิภาพสูงกว่านะครับ
00:10:23 → 00:10:25 เพราะฉะนั้นไม่ได้ขายกลุ่มนี้จึงมีความ
00:10:25 → 00:10:28 สำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายของเรา
00:10:28 → 00:10:31 อย่างมากเลยนะครับเรารู้จักไปแล้วนะว่า
00:10:31 → 00:10:33 ระบบภูมิคุ้มกันของเราเนี่ยมีทหารทั้งหมด
00:10:33 → 00:10:36 3 ด่านเนอะด่านที่ 1 ด่านที่ 2 ด่านที่ 3
00:10:36 → 00:10:39 นะครับทีนี้เวลาที่แบคทีเรียหรือว่าไวรัส
00:10:39 → 00:10:40 ที่มักจะเป็นตัวร้ายที่ทำให้เราไม่สบาย
00:10:40 → 00:10:43 บุกรุกเข้ามาในร่างกายร่างกายของเราจะจัด
00:10:43 → 00:10:45 การกับมันยังไงนะครับแน่นอนไม่ว่าจะเป็น
00:10:45 → 00:10:47 แบคทีเรียหรือว่าไวรัสบุกรุกเข้ามานะครับ
00:10:47 → 00:10:50 ร่างกายของเราเนี่ยก็จะตอบสนองโดยเกิด
00:10:50 → 00:10:53 อาการบางอย่างไม่ว่าจะเป็นมีไข้นะครับ
00:10:53 → 00:10:57 อาเจียนตัวสั่งตัวล้อนะครับทั้งหมดทั้ง
00:10:57 → 00:11:00 มวลที่ร่างกายเราตอบสนองเป็นการทำเพื่อ
00:11:00 → 00:11:02 ต่อสู้กับทั้งแบคทีเรียหรือว่าไวรัสทั้ง
00:11:02 → 00:11:04 สิ้นนะครับแล้วมันยากมากที่เราจะวินิจฉัย
00:11:04 → 00:11:08 หรือบอกว่าเฮ้ยตอนนี้เราป่วยเพราะว่าติด
00:11:08 → 00:11:10 เชื้อจากแบคทีเรียหรือว่าไวรัสนะครับดี
00:11:10 → 00:11:13 ที่สุดก็คือการเจาะเลือดแล้วเอาไปตรวจ
00:11:13 → 00:11:15 วิเคราะห์ถึงจะรู้นะครับสิ่งที่แตกต่าง
00:11:15 → 00:11:17 กันระหว่างแบคทีเรียกับไวรัสเนี่ยครับคือ
00:11:17 → 00:11:19 แบคทีเรียเนี่ยตัวใหญ่กว่าไวรัสมากนะครับ
00:11:19 → 00:11:22 แบบที่นี่ขนาดเป็นลักษณะไมครอนไซม์ในขณะ
00:11:22 → 00:11:24 ที่ไวรัสเนี่ยเล็กกว่าแบคทีเรียถึงประมาณ
00:11:24 → 00:11:28 1,000 เท่าเลยนะครับแบคทีเรียสามารถที่
00:11:28 → 00:11:31 จะแบ่งตัวแล้วก็เพิ่มจำนวนได้เองนะครับใน
00:11:31 → 00:11:34 ขณะที่ไวรัสไม่สามารถที่จะเพิ่มจำนวนได้
00:11:34 → 00:11:37 ครับทุกคนไวรัสเนี่ยจะต้องมุดเข้าไปใน
00:11:37 → 00:11:40 เซลล์ใดเซลล์หนึ่งของร่างกายของเรานะครับ
00:11:40 → 00:11:43 แล้วก็ไปจูนแล้วก็ล้างสมองเซลล์นะครับให้
00:11:43 → 00:11:46 ใช้เป็นโรงงานในการผลิตไวรัสให้ครับเพราะ
00:11:46 → 00:11:48 ไวรัสจากเครื่องจำนวนได้เยอะถึงจุดนึง
00:11:48 → 00:11:50 ด้วยครับมันก็จะทำลายเซลล์แล้วก็แพร่
00:11:50 → 00:11:52 กระจายออกมาทั่วร่างกายของเรานั่นเองนะ
00:11:52 → 00:11:54 ครับนี่คือความแตกต่างของแบคทีเรียก็
00:11:54 → 00:11:57 ไวรัสเวลาที่มันบุกรุกเข้ามาในร่างกายของ
00:11:57 → 00:11:59 เรานะครับพอร่างกายเราเจอแบคทีเรียนะครับ
00:11:59 → 00:12:03 ถ้าหาทั้งหลายเนี่ยก็จะโจมตีแบคทีเรียทัน
00:12:03 → 00:12:05 ทีนะครับอาหารกลุ่มไหนที่เป็นการโจมตีแบบ
00:12:05 → 00:12:08 มุ่งเป้าเนี่ยนะครับก็จะสร้าง antibody
00:12:08 → 00:12:11 หรือว่าสร้างสารพิเศษเพื่อที่จะไปทำลาย
00:12:11 → 00:12:13 เซลล์แบคทีเรียนะครับทั้งเซลล์มีเซลล์ที
00:12:13 → 00:12:15 ก็จะมาร่วมกันทำงานนั่นแต่งเมื่อไหร่ก็
00:12:15 → 00:12:17 ตามถ้าเกิดว่าเหล่าทหารเนี่ยสู้แบคทีเรีย
00:12:17 → 00:12:19 ไม่ได้มันมีเยอะเกินไปนะครับสิ่งที่จะ
00:12:19 → 00:12:21 ช่วยได้คือแอนตี้ไบติคส์หรือว่ายา
00:12:21 → 00:12:24 ปฏิชีวนะนะครับทีนี้สำคัญมากๆเลยนะครับ
00:12:24 → 00:12:28 เราไม่ควรจะกินยาปฏิชีวนะทันทีเวลาที่เรา
00:12:28 → 00:12:30 รู้สึกว่าเราไม่สบายมีไข้หรือว่ารู้สึก
00:12:30 → 00:12:33 ว่าโดน attack จากเชื้อโรคนะครับจนกว่า
00:12:33 → 00:12:36 คุณหมอจะวินิจฉัยว่าเราติดเชื้อแบคทีเรีย
00:12:36 → 00:12:39 ถามว่าทำไมแบคทีเรียเนี่ยมันเพิ่มจำนวน
00:12:39 → 00:12:42 ได้เร็วมากครับมันก็จะมีตัวที่เก่งมัน
00:12:42 → 00:12:45 สามารถที่จะอัพเลเวลได้เร็วนะครับแล้วตัว
00:12:45 → 00:12:47 ที่อยู่รอดแล้วก็สามารถที่จะรอดพ้นรอด
00:12:47 → 00:12:49 ชีวิตจากแอนตี้บาร์ติคเนี่ยมันสามารถจะ
00:12:49 → 00:12:52 พัฒนาเป็นเชื้อดื้อยาได้แล้วถ้าร่างกาย
00:12:52 → 00:12:54 ของเราเนี่ยเกิดอาการดื้อยาแล้วนะครับตอน
00:12:54 → 00:12:57 นี้โลกของเรานะครับมีชนิดของ antibatic
00:12:57 → 00:12:59 ที่จำกัดนะครับถ้าเกิดร่างกายของเราเนี่ย
00:12:59 → 00:13:02 ดื้อแอนตี้บาติกเยอะๆต่อไปเนี่ยก็จะไม่
00:13:03 → 00:13:05 เหลืออาวุธไว้ต่อสู้กับแบคทีเรียนั่นเอง
00:13:06 → 00:13:09 นะครับนั่นคือข้อระวังของการดูแลตัวเอง
00:13:09 → 00:13:12 เวลาที่เกิดดัดทีเดียว Infection นะครับ
00:13:12 → 00:13:16 ทีนี้ต่างกันครับไวรัสเนี่ยเวลาที่เราโดน
00:13:16 → 00:13:18 attack ด้วยไวรัสเนี่ยนะครับคุณหมอเขา
00:13:18 → 00:13:20 มักจะบอกว่าโหการรักษาเนี่ยมันยากกว่าถาม
00:13:20 → 00:13:22 ว่าทำไมมันยากเพราะว่าไวรัสมันซ่อนตัว
00:13:22 → 00:13:25 อยู่ในเซลล์เนาะมันไม่สามารถที่จะกินยา
00:13:25 → 00:13:27 เข้าไปแล้วก็โจมตีไวรัสได้นะครับแล้ว
00:13:27 → 00:13:29 แอนตี้ไบโอติกเนี่ยก็ฆ่าไวรัสไม่ได้ครับ
00:13:29 → 00:13:32 เพราะอย่างที่บอกไวรัสตัวเล็กมากแล้วก็มี
00:13:32 → 00:13:34 โครงสร้างที่แตกต่างจากแบคทีเรียคือไวรัส
00:13:34 → 00:13:37 เนี่ยไม่มีเซลล์วอร์มมาห่อหุ้มฮะซึ่งไอ้
00:13:37 → 00:13:39 เจ้าแอนติบาติกเนี่ยมันจะทำลายเซลล์วอร์ม
00:13:39 → 00:13:41 แล้วทำให้เซลล์แตกนะครับเพราะฉะนั้นก็
00:13:41 → 00:13:43 ทำลายไวรัสไม่ได้เวลาติดเชื้อจากไวรัส
00:13:43 → 00:13:46 วิธีที่ดีที่สุดเนี่ยครับคือการที่เรา
00:13:46 → 00:13:49 ต้องรอเวลาให้ร่างกายของเราระบบภูมิคุ้ม
00:13:49 → 00:13:53 กันของเราเนี่ยครับมันต่อสู้กับไวรัสด้วย
00:13:53 → 00:13:55 ตัวเองนะครับตอนแรกเราอาจจะพ่ายแพ้กับมัน
00:13:55 → 00:13:58 แต่สักพักนึงเนี่ยระบบภูมิคุ้มกันเหล่า
00:13:58 → 00:14:01 ทหารเนี่ยจะค่อยๆ Recover แล้วก็ค่อยๆรวบ
00:14:01 → 00:14:05 รวมพลังมาค่อยๆสู้ค่อยๆสู้จนถึงจุดนึง
00:14:05 → 00:14:08 เนี่ยกองทัพทหารของเรามากพอที่จะจัดการ
00:14:08 → 00:14:11 กับไวรัสเราก็จะหายจากอาการต่างๆเวลาที่
00:14:12 → 00:14:14 เราไม่สบายนั่นเองนะครับเพราะฉะนั้นหลาย
00:14:14 → 00:14:16 คนคงอยากรู้ว่าเราจะ Boost ระบบ imoo
00:14:16 → 00:14:19 หรือว่าระบบภูมิคุ้มกันของเราได้ยังไงอ่ะ
00:14:19 → 00:14:21 ที่ทำให้มันแข็งแรงแล้วก็ต่อสู้กับเชื้อ
00:14:21 → 00:14:23 โรคได้ดีที่สุดนะครับวิธีที่เราจะเพิ่ม
00:14:23 → 00:14:25 ภูมิคุ้มกันร่างกายของเราให้ดีที่สุดนะ
00:14:25 → 00:14:28 ครับคือทำยังไงก็ได้ให้เราแก่ช้าที่สุด
00:14:28 → 00:14:31 ครับทุกคนแก่ใช้สื่อก็คือทำยังไงก็ได้ให้
00:14:31 → 00:14:33 เราลดไปเราชอบ Age ของเราให้ได้มากที่สุด
00:14:33 → 00:14:38 นะครับถ้าใครเคยฟัง top2 ตอนเอจก็จะรู้
00:14:38 → 00:14:40 ว่าวิธีการลดอายุของเราทำให้เราแก่ช้าสุด
00:14:40 → 00:14:44 ก็คือการที่เราต้องกินดีนอนดีออกกำลังกาย
00:14:44 → 00:14:46 ดีแล้วก็อารมณ์ดีครับ 4 วิธีเนี่ยครับ
00:14:46 → 00:14:49 วิธีเบสิคที่เราพร่ำบอกเสมอเนี่ยเป็นวิธี
00:14:49 → 00:14:52 ที่ดีที่สุดในการบูสระบบภูมิคุ้มกันของ
00:14:52 → 00:14:55 ร่างกายของเรานะครับแน่นอนกินดีครับกิน
00:14:55 → 00:14:57 อาหารให้หลากหลายนะครับสารอาหารไม่ว่าจะ
00:14:57 → 00:14:59 เป็น macconut หรือว่า micronutin ที่
00:14:59 → 00:15:02 หลากหลายนะครับเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ใน
00:15:02 → 00:15:04 การสร้างเม็ดเลือดขาวคือทหารของเรานะครับ
00:15:04 → 00:15:06 ให้แข็งแรงแล้วก็มีเยอะมากเพียงพอที่จะไป
00:15:06 → 00:15:09 ต่อสู้กับเชื้อโรคนั่นเองครับเรื่องนอนก็
00:15:09 → 00:15:10 เป็นเรื่องสำคัญมากนะครับมีงานวิจัยนะ
00:15:10 → 00:15:13 ครับเขาเคยทดลองดูครับแบ่งคนเป็น 2 กลุ่ม
00:15:13 → 00:15:16 กลุ่มนึงนอนเยอะกลุ่มนึงนอนน้อยแล้ว 2
00:15:16 → 00:15:18 กลุ่มนี้ต้องไปฉีดวัคซีนต่อต้านเชื้อหวัด
00:15:18 → 00:15:21 นะครับก็ไปเจอว่ากลุ่มที่นอนเยอะเนี่ย
00:15:21 → 00:15:24 ครับหลังจากฉีดวัคซีนเข้าไปแล้วเนี่ยร่าง
00:15:24 → 00:15:26 กายสามารถที่จะสร้างทหารหรือว่าเม็ดเลือด
00:15:26 → 00:15:30 ขาวออกมาได้เยอะกว่ากลุ่มที่นอนน้อยเพราะ
00:15:30 → 00:15:32 ฉะนั้นการนอนก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากนะครับ
00:15:32 → 00:15:36 ลองสังเกตดูช่วงไหนคุณนอนน้อยอดนอนช่วง
00:15:36 → 00:15:38 นั้นคุณจะป่วยง่ายนะครับแน่นอนนอนเยอะๆก็
00:15:39 → 00:15:41 จะช่วยให้พุงมันกลับมาแข็งแรงได้อย่างรวด
00:15:42 → 00:15:44 เร็วนะครับการออกกำลังกายช่วยได้เยอะมากๆ
00:15:44 → 00:15:47 ครับถามว่าทำไมฮะออกกำลังกายยิ่งพวก
00:15:47 → 00:15:49 คาร์ดิโอวัสก็ได้นะครับทำให้ระบบไหลเวียน
00:15:49 → 00:15:53 เลือดเราดีนะครับก็จะทำให้ทหารของเรา
00:15:53 → 00:15:55 เนี่ยมันโลดแล่นไปทั่วร่างกายได้อย่างรวด
00:15:55 → 00:15:58 เร็วสามารถที่จะมอนิเตอร์แล้วก็ตรวจตาว่า
00:15:58 → 00:16:01 เมื่อสิ่งแปลกปลอมได้อย่างทันท่วงทีนะ
00:16:01 → 00:16:02 ครับพอเจอปุ๊บเนี่ยก็สามารถที่จะส่ง
00:16:02 → 00:16:05 สัญญาณแล้วก็เคลื่อนรวมพลกันได้เร็วนั่น
00:16:05 → 00:16:07 เองนะครับเป็นเหตุผลว่าทำไมถ้าหัวใจเรา
00:16:07 → 00:16:10 แข็งแรงระบบภูมิคุ้มกันของเราก็จะแข็งแรง
00:16:10 → 00:16:12 ตามไปด้วยนะครับแล้วการออกกำลังกายก็ช่วย
00:16:12 → 00:16:14 ให้เรานอนหลับพักผ่อนได้อย่างดีนะครับ
00:16:14 → 00:16:17 แล้วก็ไม่เครียดด้วยเพราะยิ่งถ้าเครียด
00:16:17 → 00:16:19 เนี่ยนะครับหรือว่าเราอารมณ์ไม่ค่อยดี
00:16:19 → 00:16:21 เนี่ยมีฮอร์โมนความเครียดเยอะๆฮอร์โมน
00:16:21 → 00:16:24 ความเครียดมันจะมากดการสร้างแล้วก็การ
00:16:24 → 00:16:26 เพิ่มของเม็ดเลือดขาวระบบภูมิคุ้มกันของ
00:16:26 → 00:16:29 เราเนี่ยมันก็จะไม่ดีตามไปด้วยนั่นเองนะ
00:16:29 → 00:16:31 ครับหลายคนอาจจะได้อยากได้ทางลัดว่าเฮ้ย
00:16:31 → 00:16:35 เราสามารถที่จะฉีดเม็ดเลือดขาวเข้าไปหรือ
00:16:35 → 00:16:37 ว่าทำให้เม็ดเลือดขาวของเราเนี่ย Active
00:16:37 → 00:16:40 กับปกติได้ไหมมันจะดีไหมคำตอบคือเม็ด
00:16:40 → 00:16:42 เลือดขาว Active มากเกินไปเนี่ยก็ไม่ดีนะ
00:16:42 → 00:16:43 ครับเพราะว่าทำให้เราเป็นโรคได้เหมือนกัน
00:16:43 → 00:16:47 นะเคยได้ยินไหมโรคแพ้ภูมิตัวเองนะครับโรค
00:16:47 → 00:16:49 กลุ่มนี้คือกลุ่มที่เม็ดเลือดขาวมัน
00:16:49 → 00:16:51 Active มากเกินไปนะครับเพราะฉะนั้นการ
00:16:51 → 00:16:54 ที่เรามีสุขภาพดีหรือระบบภูมิต้านทานที่
00:16:54 → 00:16:57 ดีไม่ใช่ว่าต้องมีทหารเยอะๆ Over นะครับ
00:16:57 → 00:16:59 แต่มันคือเราสามารถที่จะสร้างทหารได้
00:16:59 → 00:17:03 เพียงพอเวลาที่เราจำเป็นต้องใช้ทหารต่อ
00:17:03 → 00:17:05 สู้กับสิ่งแปลกปลอมนะครับเพราะฉะนั้นใคร
00:17:05 → 00:17:08 ก็ตามที่อยากให้ระบบภูมิต้านทานของตัวเอง
00:17:08 → 00:17:11 เนี่ยมันดีขึ้นนะครับอยากจะ Bruce imoon
00:17:11 → 00:17:15 บอกเลยว่าไม่มีทางลัดครับมีแต่การใช้
00:17:15 → 00:17:18 ชีวิตให้ Healthy ด้วยการกินดีนอนดี
00:17:18 → 00:17:21 อารมณ์ดีแล้วก็ออกกำลังกายดีเพียงเท่านี้
00:17:21 → 00:17:26 ครับ emu ของคุณก็จะดีครับ
00:17:26 → 00:17:29 ครับ
00:17:29 → 00:17:33 are you for you