00:00:00 → 00:00:02 คุณหมอขาอย่างที่โอ๊คเกริ่นเลยค่ะว่า
00:00:02 → 00:00:05 โอ้โหแต่ละอาการเนี่ยเวลาป่วยขึ้นมาเนี่ย
00:00:05 → 00:00:08 ผู้ป่วยเนี่ยจะแยกออกด้วยได้ด้วยตัวเอง
00:00:08 → 00:00:11 หรือเปล่าว่าเราน่ะป่วยเป็นไข้หวัดหรือ
00:00:11 → 00:00:15 ไข้หวัดใหญ่ rsv หรือโควิดกันแน่ถ้าจำมี
00:00:15 → 00:00:18 ความแยกแตกต่างกันอย่างไรเกี่ยวกับอาการ
00:00:18 → 00:00:22 ของแต่ละโรคคะคุณหมอขาอ๋ออนี้ขออนุญาต
00:00:22 → 00:00:24 เรียนเพื่อให้เข้าใจง่ายๆนะคะครับไม่ว่า
00:00:24 → 00:00:28 จะเป็นไข้หวัดใหญ่หรือไม่ว่าจะเป็นโควิด-
00:00:28 → 00:00:32 19 หรือว่าเป็น rsv นะครับทั้ง 3 โรค
00:00:32 → 00:00:35 เนี้ยอาการเนี่ยมันจะคล้ายๆกันค่ะครับ
00:00:35 → 00:00:37 แล้วก็ผมขออนุญาตแบ่งอาการเพื่อให้ทุกคน
00:00:38 → 00:00:40 เข้าใจง่ายขึ้นนะครับเอ่ออาการติดเชื้อ
00:00:40 → 00:00:43 ทางเดินหายใจเนี่ยผมจะแบ่งเป็นอาการติด
00:00:43 → 00:00:45 เชื้อทางเดินหายใจส่วนบนก็คืออาการเป็น
00:00:46 → 00:00:48 ไม่หนักใช่มั้ยครับก็อาจจะมีน้ำมูกไอเจ็บ
00:00:48 → 00:00:51 คอมีไข้อันนี้เขาคเรียกว่าการติดเชื้อทาง
00:00:51 → 00:00:54 เดินหายใจส่วนบนก็จะติดเชื้ออยู่ในช่อง
00:00:54 → 00:00:57 โพงจมูกหรืออยู่ในลำคอใช่มั้ยครับอครับ
00:00:57 → 00:01:00 แต่ทั้ง 3 เชื้ออย่างที่เรียนไปครับไม่
00:01:00 → 00:01:04 ว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่โควิดแล้ว
00:01:04 → 00:01:08 ก็ rsv เนี่ยค่ะถ้าสมมุติอาการเป็นหนัก
00:01:08 → 00:01:11 ขึ้นสามารถไปติดเชื้อทางเดินหายใจส่วน
00:01:11 → 00:01:15 ล่างก็คือตั้งแต่ปอดแล้วก็
00:01:15 → 00:01:18 เอ่อท่อหลอดลมครับถ้าติดลงไปในเชื้อทาง
00:01:18 → 00:01:20 เดินหายใจส่วนล่างอาการก็จะเป็นหนักก็จะ
00:01:20 → 00:01:23 เป็นปลอดอักเสบอาจจะต้องนอนโรงพยาบาล
00:01:23 → 00:01:25 ออกซิเจนในเลือดอาจจะต่ำลงครับหายใจ
00:01:25 → 00:01:28 เหนื่อยมากขึ้นอาการเป็นหนักขึ้นจนถึง
00:01:28 → 00:01:30 ขั้นบางคนอาจจะต้องใส่ใส่ท่อช่วยหายใจ
00:01:30 → 00:01:33 ครับอันนี้ผมขอแบ่งอาการให้เข้าใจง่ายๆ
00:01:33 → 00:01:38 ก่อนส่วนจะแบ่งว่าอาการแบบไหนเป็นโรคติด
00:01:38 → 00:01:40 เชื้อไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่หรือโควิด-
00:01:40 → 00:01:44 199 หรือ rsv เนี่ยแยกค่อนข้างยากครับ
00:01:44 → 00:01:46 เพราะอาการมันเหมือนกันแต่เดี๋ยวเนี้ย
00:01:46 → 00:01:49 เทคโนโลยีมันทันสมัยมากขึ้นครับเราจะมี
00:01:49 → 00:01:53 การตรวจทางน้ำลายหรือในเอ่อสารคัดหลังใน
00:01:53 → 00:01:56 พวงจมูกเนี่ยสามารถแยกได้ว่าเป็นเชื้อ
00:01:56 → 00:01:58 อะไรครับเดี๋ยวเนี้ยเทคโนโลยีมันดีขึ้น
00:01:58 → 00:02:01 มากแล้วก็ราคาถูกขึ้นเข้าถึงได้ครับก็ทำ
00:02:01 → 00:02:05 ให้สามารถแยกโรคได้ว่าอตอนเนี้ยติดเชื้อ
00:02:05 → 00:02:07 อะไรอยู่เพราะว่าการรักษาก็แตกต่างกันไป
00:02:07 → 00:02:10 ตามแต่ละเชื้อครับค่ะอ๋อที่เราเห็นเป็น
00:02:10 → 00:02:16 ตัวเทสเทสที่มันมีเอ่อที่มันมี 3 3 ช่อง
00:02:16 → 00:02:18 3 ตัวอะไรใช่มั้ยฮะที่เป็นตัวนั้นหรือ
00:02:18 → 00:02:22 เปล่าคุณหมอใช่ครับที่ที่อย่างที่บอกครับ
00:02:22 → 00:02:25 มี 3 ตัวอย่างไขหวัดใหญ่ตอนนี้ถ้าจะลงกัน
00:02:25 → 00:02:28 อีกให้หวัดใหญ่เอ่อถ้าผมเปรียบเทียบ
00:02:28 → 00:02:31 เหมือน 3 ตัวเนี้ยก็เป็นผู้ร้ายคนละตัว
00:02:31 → 00:02:33 ใช่มั้ยครับแต่ผู้ร้ายคนละตัวก็มีหลายสี
00:02:33 → 00:02:36 แบบผู้ร้ายอ่ะผมผมสมมุติแล้วกันนะครับไข้
00:02:36 → 00:02:40 วาใหญ่สมมติเป็นผู้ร้าย a นาย a ก็มีแบบ
00:02:40 → 00:02:43 ผู้ร้ายนาย a ที่ใส่เสื้อสีม่วงใส่เสื้อ
00:02:43 → 00:02:46 สีเขียวแต่ก็ยังเป็นผู้ร้ายยี่ห้อ A อยู่
00:02:46 → 00:02:49 ค่ะอ่ะครับประมาณนั้นครับส่วน rsc ก็
00:02:49 → 00:02:52 เหมือนกันก็มีแบบแยกย่อยลงไปอีกเป็นแต่ก็
00:02:52 → 00:02:54 ยังเป็นผู้ร้ายที่ชื่อนาย B แต่แค่ใส่
00:02:54 → 00:02:57 เสื้อคนละสีเป็นพวกคนละสีเป็นอยู่ในกลุ่ม
00:02:57 → 00:03:00 ใน B เหมือนกันค่ะประมาณนี้ครับหมายถึง
00:03:00 → 00:03:03 ว่าแต่แนวทางการรักษาเนี่ยของแต่ละผู้
00:03:03 → 00:03:07 ร้ายเนี่ยจะคล้ายๆกันครับ
00:03:07 → 00:03:13 อืแสดงว่าเหมือถ้าผมลองลองถามคุณหมอดูนะ
00:03:13 → 00:03:18 แสดงว่าเจ้าไข่หวัดไข้หวัดใหญ่ rsv หรือ
00:03:18 → 00:03:22 แม้แต่โควิดเนี่ยมันเป็นการติดเชื้อของ
00:03:22 → 00:03:25 ไวรัสถูกต้องมั้ยฮะถ้าถ้าเป็นไ้หวัดเป็น
00:03:25 → 00:03:27 แต่เป็นตัวคนละตัวกันหรือว่ามันเป็นตัว
00:03:27 → 00:03:30 เดียวกันแต่ว่าส่งผลคนละแบบครับคุณหมออ๋อ
00:03:30 → 00:03:33 อย่างที่เรียนไปครับหมายถึงว่าเป็นคนละ
00:03:33 → 00:03:37 ยี่ห้อแต่อาการคล้ายกันใช่ครับคนละยี่ห้อ
00:03:37 → 00:03:40 สิ่งอาการน่ะอาการแสดงเนี่ยอาจจะคล้ายๆ
00:03:40 → 00:03:43 กันแต่มีสิ่งนึงที่มันแตกต่างกันบ้าง
00:03:43 → 00:03:46 อย่างเช่นระยะฟักตัวถ้าเป็นไข้หวัดใหญ่
00:03:46 → 00:03:48 สายพระไข้หวาดใหญ่เนี่ยครับที่ตอนเนี้ย
00:03:48 → 00:03:51 ระบาดค่อนข้างเยอะในหน้าฝนเนี่ยครับส่วน
00:03:51 → 00:03:55 ใหญ่ระยะฟักสวันเนี่ย 1-3 วันแล้วการแพร่
00:03:55 → 00:03:57 กระจายเนี่ยถ้าสมมุติบางคนได้รับเชื้อมา
00:03:57 → 00:04:00 ยังไม่มีอาการก่อน 1 วันเนี่ยก็สามารถ
00:04:00 → 00:04:03 กระจายโรคให้คนอื่นได้ครับค่ะส่วนอย่าง
00:04:03 → 00:04:06 โควิดเนี่ยระยะฟักตัวจะนานหน่อยอาจจะเป็น
00:04:06 → 00:04:09 5-7 วันระยะฟักตัวอาการก็จะคล้ายๆไข้
00:04:09 → 00:04:12 หวาดใหญ่เหมือนกัน rsv ระยะฟักตัวเนี่ย
00:04:12 → 00:04:16 4-7 วันก็จะใกล้ๆกับโควิดครับแต่สุดท้าย
00:04:16 → 00:04:19 แล้วเนี่ยอทั้งส่วนใหญ่อ่ะครับโรคติด
00:04:19 → 00:04:22 เชื้อทางเดินหายใจเนี่ยถึงจะไม่มีอาการ
00:04:22 → 00:04:25 1-2 วันส่วนใหญ่นะครับก็สามารถกระจายโรค
00:04:25 → 00:04:27 ให้คนอื่นได้ครับค่ะครับ
00:04:28 → 00:04:32 อ๋อค่ะอาการ 1-2 วันครับที่คุณหมอบอกว่า
00:04:32 → 00:04:36 เมื่อช่วงเนี้ยด้วยความที่เข้าหน้าฝนหน้า
00:04:36 → 00:04:39 ฝนเนี่ยกับโรคทระบบทางเดินหายใจเนี่ยมี
00:04:39 → 00:04:42 ความเชื่อมโยงกันแล้วก็เอ่อจะเป็นตัว
00:04:42 → 00:04:45 กระตุ้นให้เป็นโรคเหล่าเนี้ยได้ง่ายขึ้น
00:04:45 → 00:04:48 ใช่มั้ยคะแล้วก็ถ้าอย่างกรณีของโอ๊คเนี่ย
00:04:48 → 00:04:51 ที่เสียงเซ็กซี่ขนาดเยค่ะคุณหมอเนื่องจาก
00:04:51 → 00:04:55 ว่าติดมาจากลูกสาวอันเนี้ยเด็กๆเนี่ยเามี
00:04:55 → 00:04:58 ความอ่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องโรคทางเดินหาย
00:04:58 → 00:05:01 ใจมากมากกว่าผู้ใหญ่หรือเปล่าคะอ๋อขอ
00:05:01 → 00:05:04 อนุญาตครับอย่างงี้ครับพอดีเวลาเป็นวัย
00:05:04 → 00:05:06 เด็กนักเรียนใช่มั้ยครับส่วนใหญ่ก็ต้องไป
00:05:06 → 00:05:09 เรียนที่โรงเรียนแล้วก็ต้องเจอคนมากมายใน
00:05:09 → 00:05:12 การศึกษาหลายๆงานวิจัยอ่ะครับมีศึกษามา
00:05:12 → 00:05:15 แล้วส่วนใหญ่คนในบ้านที่จะติดเนี่ยจนไป
00:05:15 → 00:05:17 ถึงคนสูงอายุเนี่ครับส่วนใหญ่จะเริ่มติด
00:05:18 → 00:05:20 มาจากเด็กเพราะว่าเด็กอ่ะไปอยู่ในห้อง
00:05:20 → 00:05:23 เรียนอยู่กับคุณครูและจำนวนเด็กที่อยู่
00:05:23 → 00:05:27 ด้วยกันค่อนข้างเยอะก็เลยทำให้ทำให้ส่วน
00:05:27 → 00:05:30 ใหญ่ทุกโรคติดเชื้อเนี่ยในหน้าฝลส่วน
00:05:30 → 00:05:32 ใหญ่่เลยเริ่มมาจากเด็กเพราะเด็กกลับบ้าน
00:05:32 → 00:05:35 มาก็เลยมาหาคุณพ่อคุณแม่ใช่มั้ยครับก็เลย
00:05:35 → 00:05:38 นำตัวโรกเนี่ยมาติดคุณพ่อคุณแม่เสร็จแล้ว
00:05:38 → 00:05:40 พอคุณแม่คุณคุณพ่อคุณแม่บางทีเสาร์
00:05:40 → 00:05:43 อาทิตย์กลับไปหาคุณตาคุณยายคุณตาคุณยายก็
00:05:43 → 00:05:45 เลยติดอีกทีส่วนใหญ่มักจะเป็นแบบนี้ครับ
00:05:45 → 00:05:48 เหตุการณ์ครับค่ะ
00:05:48 → 00:05:52 อืเพราะว่าเดเี้ยนะครับอย่างเด็กด็เล็กๆ
00:05:52 → 00:05:54 อย่างเงี้ยครับบางทีเขายังไม่โตพอเรื่อง
00:05:55 → 00:05:58 ความสะอาดอย่างเงี้ยเด็กเขาก็อาจจะแบบเล
00:05:58 → 00:06:02 เล่อแบบไม่ได้รล้างมือมีเพื่อนไม่สบายก็
00:06:02 → 00:06:05 แบบเข้าไปคุกคีก็เลยทำให้ติดง่ายกว่าไว
00:06:05 → 00:06:11 อื่นๆครับครับเอ่อช่วงนี้ก็ก็เห็นคนเป็น
00:06:11 → 00:06:14 อาการเหล่าเนี้ยค่อนข้างเยอะเลยถ้าถ้าคุณ
00:06:14 → 00:06:17 หมอจะให้ความกังวลให้แบบ
00:06:17 → 00:06:22 เอ่ออันไหนที่มันที่มันรุนแรงน่ากังวลมาก
00:06:22 → 00:06:26 กว่ากันติดตัวไหนที่แล้วมันจะส่งผลต่อ
00:06:26 → 00:06:28 ร่างกายมากกว่ากันมันมันมีลำดับเลเวลของ
00:06:28 → 00:06:31 ตัวตัวชเชื้อมั้ยครับคุณหมอฮะอ๋ออันนี้ผม
00:06:31 → 00:06:34 ขออนุญาตเรียนอีกครั้งนึงก็คือจริงๆแล้ว
00:06:34 → 00:06:36 อ่ะทั้ง 3 เชื้อเนี่ยครับหมายถึงว่าความ
00:06:36 → 00:06:39 รุนแรงสามารถได้ตั้งแต่เล็กน้อยจนถึง
00:06:39 → 00:06:41 รุนแรงมากสุดท้ายแล้วมันไม่เกี่ยวกับ
00:06:41 → 00:06:44 เชื้อครับมันเกี่ยวกับอาการที่เป็นมาก
00:06:44 → 00:06:48 กว่าผมเรียกว่าเพื่อให้ทุกคนที่มาฟังราย
00:06:48 → 00:06:51 การสุขภาพดี 22:00 นอ่ะเข้าใจง่ายนะก็
00:06:51 → 00:06:55 แบ่งว่าถ้าถ้าอาการเป็นหนักอย่างเช่น
00:06:55 → 00:06:57 เดี๋ยวเนี้ยผมคิดว่าบางบ้านอ่ะก็จะมี
00:06:57 → 00:06:59 เคลื่อนวาออกซิเจนปลายนิ้วเพราะเดี๋ยวนี้
00:06:59 → 00:07:03 สสั่งออนไลน์ราคาก็ไม่แพงพอมีใครเคยลอง
00:07:03 → 00:07:06 ใช้ที่บ้านมยครับเดี๋ยวนี้ Apple Watch
00:07:06 → 00:07:09 บางทีก็วัดออกซิเจนในเลือดได้ถ้าออกซิเจน
00:07:09 → 00:07:11 ในเลือดต่ำเมื่อไหร่เนี่ยอันเนี้ยคือ
00:07:11 → 00:07:14 สัญญาณอันตรายสีแดงนะครับเพราะว่าเป็น
00:07:14 → 00:07:18 ค่อนข้างหนักและแสดงว่าปกติอ่ะครับปอดอ่ะ
00:07:18 → 00:07:20 เป็นหน้าที่ทำหน้าที่การแลกเปลี่ยน
00:07:20 → 00:07:22 ออกซิเจนในเลือดใช่มั้ยครับถ้าแสดงว่าปอด
00:07:22 → 00:07:25 ทำงานแสดงว่าถ้าออกซิเจนลดลงเนี่ยแสดงว่า
00:07:25 → 00:07:28 ปอดเริ่มทำงานไม่ดีและอันเนี้ยเริ่มบ่ง
00:07:28 → 00:07:30 ชี้และว่าอาการอาการแบบเนี้ยควรจะไปโรง
00:07:30 → 00:07:33 พยาบาลน่าจะมีภาวะปอดอักเสบและแต่ถ้า
00:07:33 → 00:07:38 อาการยังเป็นแค่ไข้เล็กน้อยเอ่อมีน้ำมูด
00:07:38 → 00:07:40 นิดหน่อยอันนี้ก็อาจจะเป็นอาการเล็กน้อย
00:07:40 → 00:07:44 ก็ถ้าถ้าสมมุติว่าไม่ได้เป็นหนักมากแบบ
00:07:44 → 00:07:48 ไม่ได้มีไข้สูง 39 40 ค่ะแล้วก็ไม่มี
00:07:48 → 00:07:51 หน้ามืดมีแค่ไอจามเล็กน้อยอย่างเงี้ยครับ
00:07:51 → 00:07:53 อันนี้ก็คืออาการเล็กน้อยไม่น่ากังวลเท่า
00:07:53 → 00:07:58 อาการที่เรียนมาข้างต้นครับค่ะอ๋อเออแต่
00:07:58 → 00:08:01 หลายๆคนนะคะคนรอบตัวขวัญนี่แหละค่ะคุณหมอ
00:08:01 → 00:08:06 ยังไงพวคือเอ่อพอมีประสบการณ์จากโควิดมา
00:08:06 → 00:08:08 อ่าครับเป็นครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 พอ
00:08:09 → 00:08:12 ครั้งที่ 3 เริ่มเรียนรู้ก็คือหลังจากเ่า
00:08:12 → 00:08:14 ใช้ชุดตรวจโควิดเสร็จปึ๊บอ๋อรักษาตาม
00:08:14 → 00:08:19 อาการซื้อยากินเองเลยอันเนี้ยมันใช่วิธี
00:08:19 → 00:08:22 ที่ควรทำมยหรือจริงๆแล้วเราควรต้องทำยัง
00:08:22 → 00:08:26 ไงบ้างคะครับอ๋อเดี๋ยวขอเรียนนิดนึงครับ
00:08:26 → 00:08:29 ถ้าสมมติอาการถ้าสมมุติว่าเป็นหนุ่มสาว
00:08:29 → 00:08:33 แข็งแรงวยทำงานใช่มั้ยครับอายุน้อยแล้ว
00:08:33 → 00:08:37 โรคประจำตัวไม่มีก็พอจะทำแบบที่คุณขวัญ
00:08:37 → 00:08:41 บอกได้ครับไปถึงว่าก็อยู่บ้านแล้วก็เก็บ
00:08:41 → 00:08:44 ตัวเพราะว่าถ้าเราไปออกสังคมภายนอกปุ๊บ
00:08:44 → 00:08:47 อาจจะมีคนอื่นติดเราเพิ่มครับอันนี้อาจจะ
00:08:47 → 00:08:49 พอได้แต่เงื่อนไขต้องบอกก่อนนะครับว่า
00:08:49 → 00:08:52 อาการเล็กน้อยเท่านั้นค่ะแล้วก็ไม่มี
00:08:52 → 00:08:55 อาการที่รุนแรงที่จะเสี่ยงเป็นรุนแรง
00:08:55 → 00:08:59 อย่างที่บอกครับไข้สูงปวดหัวมากนหน้ามืด
00:08:59 → 00:09:02 อย่างเงี้ยครับอนี้ก็พอจะรักษาอยู่ที่
00:09:02 → 00:09:04 บ้านตัวเองได้ครับเพราะเดี๋ยวนี้ตอนเนี้ย
00:09:04 → 00:09:07 ไปร้านสะดวกซื้อหรือว่าเข้าห้างตอนนี้ก็
00:09:07 → 00:09:10 มีการตรวจชุดโควิดเบื้องต้นได้แต่อันนี้
00:09:10 → 00:09:13 ผมแอบขออนุญาตเพิ่มเติมนิดนึงต้องระวัง
00:09:13 → 00:09:15 นิดนึงครับปกติอ่ะชุดตรวจพวกเเราต้องแหย่
00:09:15 → 00:09:18 จมูกตัวเองใช่มั้ยครับบางครั้งอ่ะเราแหย่
00:09:18 → 00:09:22 ไม่ลึกพอบางทีผลตรวจบางทีมันอาจจะเป็นผล
00:09:22 → 00:09:25 ลบลวงได้นะครับผมเจอมาค่อนข้างเยอะพอดีผม
00:09:25 → 00:09:28 เป็นอายุแพทย์โติดเชื้อก็คือเคยเจอว่าที่
00:09:28 → 00:09:31 บ้านนะครับตรวจผลเป็นลบแต่พอมาตรวจที่โรง
00:09:31 → 00:09:34 พยาบาลตรวจได้วิธีที่มาตรฐานนะครับผลเป็น
00:09:34 → 00:09:37 บวกครับบางทีเข้าใจครับเวลาเราแหย่ตัวเอง
00:09:37 → 00:09:39 เราก็ไม่อยากแหย่ึกเรากลัวเจ็บบางทีมัน
00:09:39 → 00:09:43 อาจจะตรวจไม่เจอได้ในบางครั้งครับค่ะออ
00:09:43 → 00:09:48 มันเป็นความแบบกังวลของคนที่แบบแหย่อ่า
00:09:48 → 00:09:50 เขาเรียกว่าสายคั้นหลังใช่มั้ยคุณหมอในใน
00:09:50 → 00:09:53 พรงจมูกใช่ครับผมใช่มแล้วก็อาจจะแหย่ไม่
00:09:53 → 00:09:55 ได้ถูกวิธีก็มันก็เลยอาจจะทำให้เกิดผลลบ
00:09:56 → 00:09:58 ลวงได้ครับส่วนใหญ่มักจะแหย่ไม่ถูกวิธี
00:09:58 → 00:10:01 ครับเออมันไม่เหมือนสมัยก่อนนะคุณหมอพี่
00:10:01 → 00:10:05 ขวัญเอ่อพี่ขวัญเอ่อจำได้มยตอนตอน
00:10:05 → 00:10:09 เรา 3 คนน่ะเอาตอน 3 คนดีกว่า 3 ไอ 3 คน
00:10:09 → 00:10:13 เรา 3 คนตอนเด็กๆอ่ะออเอ่อเราเต็มที่ก็
00:10:13 → 00:10:16 คือรู้ว่าถ้าเราจามหรือว่ามีน้ำมูกจมูก
00:10:16 → 00:10:19 น้ำมูกไหลอะไรเงี้ยฟึดๆๆๆน่ะเราตีเป็นแค่
00:10:19 → 00:10:22 เราเป็นหวัดแค่นั้นเองเพียวๆเลยแต่เดี๋ยว
00:10:22 → 00:10:25 เนี้ยมันมันมันอาจจะตีอย่างงั้นไม่ได้
00:10:25 → 00:10:28 แล้วมันอาจจะต้องมีการเทสอย่างที่คุณหมอ
00:10:28 → 00:10:31 บอกคือการตรวจสารคัหลังเพื่อดูว่ามันป่วย
00:10:31 → 00:10:34 เป็นอะไรกันแน่เนาะซึ่งๆเออมันก็พอยุค
00:10:34 → 00:10:38 สมัยมันมันพัฒนาขึ้นระบบสาธารณสุขเรามี
00:10:39 → 00:10:42 วิวัฒนาการมากขึ้นก็ก็สามารถที่จะแบบระบุ
00:10:43 → 00:10:45 ได้ว่าเราจะต้องเผชิญกับโรคอะไรแล้วก็
00:10:45 → 00:10:48 รักษากันยังไงนะครับถือว่าเป็นจุดดีมยคุณ
00:10:48 → 00:10:51 หมอแบบนี้วิีวิฒนาการดีครับเพราะว่า
00:10:51 → 00:10:56 เดี๋ยวนี้ด้วยเเนื่องจากเทคโนโลยีมันดี
00:10:56 → 00:10:59 ขึ้นราคาถูกขึ้นเป็นราคาที่ทุกคนเข้าครับ
00:10:59 → 00:11:02 ทำให้ทุกคนนะครับสามารถดูแลตัวเองได้ดี
00:11:02 → 00:11:06 ขึ้นครับอืเป็นอย่างที่พูดจริงๆครับผมอื
00:11:06 → 00:11:10 ซึ่งสมัยก่อนแสดงว่ามันอาจจะมีแบบว่าเอ้ย
00:11:10 → 00:11:11 อาจจะไม่ใช่แค่หวัดอย่างเดียวแต่เพียงแต่
00:11:12 → 00:11:15 ว่าเอ่อเราอาจจะไม่รู้เรากระบวนการความ
00:11:15 → 00:11:18 รู้จักเกี่ยวกับตัวโรคเองมันรู้จักเอ้ย
00:11:18 → 00:11:20 เราเป็นหวัดอย่างเงี้เป็นหวัดกินยาอย่าง
00:11:20 → 00:11:22 งี้ตามอาการอย่างงี้ไม่ต้องไปหาหมออะไร
00:11:22 → 00:11:24 อย่างงี้ใช่มั้ยแต่ถ้าไปหาหมอจริงๆแล้ว
00:11:24 → 00:11:28 มันน่าจะจะใช้วิธีการรักษาที่ที่ได้ถูก
00:11:28 → 00:11:31 ต้องตรงตามโรคนั้นๆมาก
00:11:31 → 00:11:34 กว่าใช่เลยครับพูดถูกเลยครับหมายถึงว่าพอ
00:11:34 → 00:11:37 มาตรวจที่โรงพยาบาลชุดตรวจของที่โรง
00:11:37 → 00:11:40 พยาบาลก็ดีกว่าที่ซื้อจากร้านสะดวกซื้อ
00:11:40 → 00:11:42 หรือร้านยาใกล้บ้านอยู่แล้วครับหมายถึง
00:11:42 → 00:11:45 ว่าถ้าสามารถเราสามารถรู้ว่าเอ๊ะอันนี้
00:11:45 → 00:11:47 เป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ใช่มั้ยครับเราก็จะ
00:11:47 → 00:11:51 มียาจำเพาะใชครับต่อไข้อหวัดใหญ่ชื่อ
00:11:51 → 00:11:54 โอเซลทวียเป็นยากินครับแต่อย่างถ้าเป็น
00:11:54 → 00:11:56 โควิดอย่างเงี้ยใช่มั้ยครับตอนนี้เราก็มี
00:11:56 → 00:12:00 ยายาถ้าเป็นยารุ่นใหม่ๆก็จะจะเป็น
00:12:00 → 00:12:02 เมานหรือเป็น
00:12:02 → 00:12:05 ิวหรือถ้าสมมุติอาการเป็นหนักขึ้นก็อาจจะ
00:12:05 → 00:12:08 เป็นยาฉีกที่ชื่อเลดวียครับส่วน rfp
00:12:09 → 00:12:14 เนี่ยยาจำเพาะยังในคนคนที่เป็นคนภูมิปกติ
00:12:14 → 00:12:17 ทั่วไปอ่ะครับยารักษายังไม่ชัดเจนอันนี้
00:12:17 → 00:12:20 ผมขออนุญาตลงเฉพาะเคสที่เป็นผู้ป่วยปกติ
00:12:20 → 00:12:22 นะครับมันจะมีเคสผู้ป่วยเปลี่ยนถ่ายอย่าง
00:12:23 → 00:12:25 เงี้ยมันจะมียาเฉพาะขออนุญาตไม่ลงราย
00:12:25 → 00:12:29 ละเอียดลึกไปครับผมค่ะครับผม
00:12:29 → 00:12:32 ถ้าอย่างเ่อเมื่อก่อนอย่างเงี้ยค่ะเอ่อคน
00:12:32 → 00:12:34 ทั่วไปอย่างขวัญกับโอ๊คเนี่ยที่โอ๊คบอก
00:12:34 → 00:12:38 ว่าเราจะรู้จักว่าแค่ไข้หวัดแหละจริงๆแต่
00:12:38 → 00:12:41 จริงๆแล้วตัว rsv เนี่ยมันมีมาตั้งแต่
00:12:41 → 00:12:44 อดีตแล้วหรือเปล่าคะคุณหมอหรือว่าหวัด
00:12:44 → 00:12:46 ใหญ่หวัดใหญ่ก็น่าจะมีตั้งแต่อดีตแล้ว
00:12:46 → 00:12:48 แหละแต่ว่าสำหรับโควิดเราเพิ่งรู้จักกัน
00:12:48 → 00:12:53 แต่ว่าถ้าในส่วนของการรักษาของไข้หวัด
00:12:53 → 00:12:56 ใหญ่ rsv แล้วก็ไข้หวัดธรรมดาเนี่ยกลุ่ม
00:12:56 → 00:12:59 ของการใช้ยาก็จะแตกต่างกันออกไปใช่มั้ยคะ
00:13:00 → 00:13:03 จใช่ครับกลุ่มของการใช้ญาตจะแตกต่างกัน
00:13:03 → 00:13:06 ออกไปแต่ที่สมัยก่อนน่ะบางทีเราตรวจพบ
00:13:06 → 00:13:08 จำนวนเชื้อไม่พูขออนุญาตครับหมายถึงว่า
00:13:08 → 00:13:10 บางคนมีอาการแต่เราตรวจไม่เจอเพราะว่า
00:13:10 → 00:13:14 เทคโนโลยีในเมื่อ 10 ปีก่อนหรือเมื่อ
00:13:14 → 00:13:16 อดีตกาลนะครับเราไม่มีเทคโนโลยีที่ทัน
00:13:16 → 00:13:19 สมัยเหมือนปัจจุบันที่เราสามารถตรวจบทูย
00:13:19 → 00:13:22 ได้ง่ายขึ้นครับเนื่องจากปัจจุบันนะครับ
00:13:22 → 00:13:26 ครับเมื่อ 10 10-20 ปีก่อนมันสามารถตรวจ
00:13:26 → 00:13:28 ได้แล้วแต่เนื่องจากราคาที่ค่อนข้างสูง
00:13:28 → 00:13:32 มากก็เลยทำทำให้บางทีเราอาจจะไม่เจอผู้ย
00:13:32 → 00:13:34 เพราะเราตรวจไม่ได้เนื่องจากเรื่องราคา
00:13:34 → 00:13:37 ด้วยอะไรอย่างเงี้ยครับแล้วก็เรื่องเทส
00:13:37 → 00:13:40 อุปกรณ์ที่มันต้องทำหลายขั้นตอนซึ่งแตก
00:13:40 → 00:13:42 ต่างจากในปัจจุบันซึ่งเทคโนโลยีเนี่ยมัน
00:13:42 → 00:13:46 ถูกแพคเจเข้ามาในกล่องกระดาษเล็กๆง่ายๆทำ
00:13:46 → 00:13:48 ให้ตรวจได้ง่ายขึ้นครับมันก็เลยเป็นเหตุ
00:13:48 → 00:13:50 ผลว่าเดี๋ยวนี้เราจับผู้ยได้มากขึ้น
00:13:50 → 00:13:53 เนื่องจากเทคโนโลยีทางการแพทย์มันดีขึ้น
00:13:53 → 00:13:57 มากๆครับอืค่ะก็เลยทำให้เวลาเราจับผู้
00:13:57 → 00:13:59 ร้ายได้พอเรารู้ว่าผู้ร้ายเป็นไข้หวัด
00:14:00 → 00:14:03 ใหญ่่เรามียาจำเพาะเจาจงเราก็จะให้ยาได้
00:14:03 → 00:14:05 ตรงโรคมากขึ้นเราจับได้เป็นโควิดแล้วก็มี
00:14:05 → 00:14:08 ยารักษาโควิดครับประมาณนี้ครับ
00:14:08 → 00:14:12 ค่ะแล้วเราจับผู้ร้ายได้ได้มากขึ้นได้ได้
00:14:12 → 00:14:15 ละเอียดขึ้นแล้วเรามีวิธีป้องกันผู้ร้าย
00:14:15 → 00:14:18 มั้ยคะเป็นแบบวัคซีนหรืออะไรอย่างเงี้ย
00:14:18 → 00:14:22 ค่ะอ๋อมีเช่นกันครับอ่าผมจะพูดผู้ร้ายที
00:14:22 → 00:14:25 ละคนก่อนนะครับเริ่มจากไข้หวาดใหญ่นะครับ
00:14:25 → 00:14:28 ไข้หวาดใหญ่ตอนเนี้ยเราก็มีวัคซีนไม่ว่า
00:14:28 → 00:14:31 จะเป็นวัคซีน 3 สายพันธุ์หรือ 4 สาย
00:14:31 → 00:14:34 พันธุ์ครับหถึงว่าที่ที่รัฐบาลส่งเสริม
00:14:34 → 00:14:40 การป้องกันก็คือะรัฐบาลก็กังวลในคนไข้ที่
00:14:40 → 00:14:44 อย่างที่เรียนครับถ้าถ้าเป็นคนหนุ่มสาว
00:14:44 → 00:14:46 อย่างพี่โอ๊คกับพี่ขวัญอย่างเงี้ยครับ
00:14:46 → 00:14:48 เวลาเป็นก็อาจจะเป็นเล็กน้อยเป็นแข็งแรง
00:14:48 → 00:14:51 ดีไม่มีโรคประจำตัวแต่ถ้าคนไหนที่อายุ
00:14:51 → 00:14:54 เกิน 65 หรือเด็กเล็กน้อยกว่า 2 ขวบหรือ
00:14:54 → 00:14:56 คนที่มีโรคประจำตัวเยอะๆอย่างเช่นโรคหัว
00:14:56 → 00:14:59 ใจโรคปอดหรือโรคหลอดเลือดสมองครับเวลาติด
00:15:00 → 00:15:02 เชื้อโรคพวกเก็จะเป็นหนักกว่าคนอื่นครับ
00:15:02 → 00:15:05 อันนี้ก็เลยเป็นยิ่งเหตุสำคัญว่าจริงๆ
00:15:05 → 00:15:08 แล้วอ่ะเขาอยากให้ฉีดของคนกลุ่มเสี่ยง
00:15:08 → 00:15:11 ก่อนแต่จริงๆแล้วทุกคนควรฉีดถ้าทุกคนมี
00:15:11 → 00:15:14 ภูมิคุ้มกันโอกาสแต่ละคนติดก็จะยากขึ้น
00:15:14 → 00:15:17 ใช่ไหมครับพอคนติดน้อยลงการกระจายโรคก็
00:15:17 → 00:15:19 น้อยลงตรงไปตรงมาครับเหมือนอารมณ์ประมาณ
00:15:19 → 00:15:22 ว่าถ้าคนเป็นโรคน้อยลงการกระจายของโรคก็
00:15:23 → 00:15:28 ร้อยลงตรงไปตรงมาครับอค่ะครับอืมเอ่อแล้ว
00:15:28 → 00:15:32 แล้วแล้วอย่างแล้วทำไมถึงการการกระจายตัว
00:15:32 → 00:15:35 หรือว่าการแพร่ระบาดของเชื้อพวกเนี้ยมัน
00:15:35 → 00:15:39 มันติดกันง่ายจังครับมันอยู่อยู่อยู่ใกล้
00:15:39 → 00:15:42 กันใกล้ชิดกันอะไรเงี้ยมันถึงถึงติดง่าย
00:15:42 → 00:15:45 กันมันจะไม่แบบมันมันง่ายขนาดนั้นเพราะ
00:15:45 → 00:15:49 ว่าเอ่ออะไรความแออัดหรือเปล่าหรือว่าใน
00:15:49 → 00:15:52 เรื่องของสภาพแวดล้อมภูมิอากาศเป็นมัน
00:15:52 → 00:15:54 เกี่ยวข้องกันมั้ยฮะอ๋อเกี่ยวข้องครับ
00:15:54 → 00:15:57 อย่างที่พี่โอ๊คเข้าใจถูกแล้วครับหมายถึง
00:15:57 → 00:15:59 ว่าพอเราอยู่ใกล้ชิดกันใช่มั้ยครับอย่าง
00:15:59 → 00:16:02 ที่เรียนตัวโรกพวกเนี้ยมันจะอยู่ในช่อง
00:16:02 → 00:16:04 โพรงจมูกหรือสารคัดหลังใช่มั้ยครับเวลา
00:16:04 → 00:16:07 เราจามสารคัดหลังบางทีเราจามเอามือปิด
00:16:07 → 00:16:09 อย่างนี้ใช่มั้ยครับสมมุติอย่างผมชอบเดิน
00:16:09 → 00:16:13 ทางรถไฟฟ้าบางทีมือเราจามเสร็จแล้วเราจาม
00:16:13 → 00:16:15 ใส่มือสารคัดหลังเราอยู่ที่มือแล้วเราก็
00:16:16 → 00:16:19 ไปจับตามตามเสารถไฟฟ้าที่นั่งอย่างเงี้ย
00:16:19 → 00:16:21 ครับแล้วคนที่มานั่งต่ออะไรอย่างเงี้ยก็
00:16:21 → 00:16:25 จะติดต่อแล้วรถไฟฟ้าช่วงช่วงชั่วโมงเร่ง
00:16:25 → 00:16:28 ด่วนอย่างเงี้ยครับคนก็เยอะอากาศหายใจลด
00:16:28 → 00:16:32 กันจจามบกันก็ทำให้ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
00:16:32 → 00:16:35 ครับอันนี้ผมพูดถึงทั้ง 3 ตัวครับไม่ว่า
00:16:35 → 00:16:39 จะเป็นไข้หวัดใหญ่โควิดหรือ rsv อ่ะครับ
00:16:39 → 00:16:42 อือช่องทางในการกระจายโรคมันคล้ายๆกัน
00:16:42 → 00:16:44 เพราะว่ามันเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ
00:16:44 → 00:16:47 เหมือนกันครับก็อย่างที่บอกครับถ้าดีสุด
00:16:47 → 00:16:50 ขอแนะนำเพิ่มครับถ้าถ้าคนไหนรู้ว่าตัวเอง
00:16:50 → 00:16:54 ป่วยถ้าเป็นไปได้แนะนำให้อยู่ที่บ้านรอจน
00:16:54 → 00:16:57 กว่าอาการดีขึ้นและไคร้ลงค่อยกลับมาทำงาน
00:16:57 → 00:17:00 ครับเพราะเนื่องจากถ้ายังมีอาการอยู่แล้ว
00:17:00 → 00:17:03 เรายังเดินทางรถไฟฟ้าหรือไปที่คนแออาดมาก
00:17:03 → 00:17:06 ๆมันก็จะกระจายให้คนอื่นติดเพิ่มขึ้นครับ
00:17:06 → 00:17:10 เมื่อคนติดเพิ่มขึ้นก็ยิ่งกระจายไปเหมือน
00:17:10 → 00:17:12 เหมือนถ้าจะพูดยังไงดีก็คือ
00:17:13 → 00:17:16 เหมือนเหมือนเหมือนคนที่เป็นโรคอ่ะกระจาย
00:17:16 → 00:17:21 ตั้งไปเรื่อยๆครับามทนติดเชื้อครับเออค่ะ
00:17:21 → 00:17:25 เออไอ้ไอคำว่าดีขึ้นหรือว่าพ้นระยะการ
00:17:25 → 00:17:29 แพร่เชื้อแล้วเนี่ยมันมันมีมีากำหนดมั้ย
00:17:29 → 00:17:33 ครับเพราะว่าเราบางทีอ่ะหลายๆคนน่ะผมว่า
00:17:33 → 00:17:37 นะโดยเฉพาะแบบเอกชนน่ะพี่ขวัญเนาะมันก็มี
00:17:37 → 00:17:40 ข้อจำกัดในวันลาคุณหมอเดี๋ยวเนี้ยใช่มัน
00:17:40 → 00:17:44 จะมีมันจะมีค่าเอ้ยรู้ได้ยังไงว่าว่าเอ้ย
00:17:45 → 00:17:47 โอเคแล้วไม่ไม่ไม่แพ้เชื่อให้ใครได้แล้ว
00:17:47 → 00:17:49 เมื่อกี้เรามีระยะฟักตัวไงถ้าเป็นไข้หวัด
00:17:50 → 00:17:54 ใหญ่อ่ะ 1-3 วันโควิด 5-7 ใช่ม rsv 4-7
00:17:54 → 00:17:56 แต่ว่าเมื่อไหร่มันจะหมดระยะการแพร่ระบาด
00:17:56 → 00:18:00 ได้อ่ะคะออผมผมว่าพอดีเชื้อโรคอ่ะมันมี
00:18:00 → 00:18:03 หลายตัวใช่มั้ครับแต่ผมขออนุญาตสรุปรวมๆ
00:18:03 → 00:18:07 ให้เห็นภาพง่ายๆส่วนใหญ่เขนับไขลง 24 ชม
00:18:07 → 00:18:10 และไม่มีอาการทางเดินหายใจเนี่ยครับก็
00:18:10 → 00:18:12 สามารถกลับมาทำงานได้แล้วไม่มีอาการทาง
00:18:12 → 00:18:15 เดินหายใจสัก 1-2 วันแต่โดยค่าเฉลี่ย
00:18:15 → 00:18:18 เชื้อโรคทั้ง 3 ตัวเยครับเขาเฉลี่ยตั้ง
00:18:18 → 00:18:21 แต่วันแรกที่มีอาการส่วนใหญ่อยู่ที่ 5
00:18:21 → 00:18:24 เอ่อถ้าเป็นค่ายหวัดใหญ่อ่ะประมาณ 5 วัน
00:18:24 → 00:18:29 ครับโควิดประมาณ 5 วันแต่ i อจเกือบถึง 10
00:18:29 → 00:18:32 วันครับโอหจริงปฮะเนี่ยแต่หมายถึงว่าแต่
00:18:32 → 00:18:35 อย่างที่เรียนครับแนะนำว่าเข้าใจครับ
00:18:35 → 00:18:38 เนื่องจากวันลามีจำกัดส่วนใหญ่เนี่ยครับ
00:18:38 → 00:18:44 ถ้าไข้ลงแล้ว 24 ชมแล้วก็ไม่มีอาการทาง
00:18:44 → 00:18:46 เดินหายใจแล้วอันนี้ผมว่าก็กลับมาทำงาน
00:18:46 → 00:18:49 ได้ครับพี่ขวัญโชคดีนะผมเพิ่งไคร่ลงวัน
00:18:49 → 00:18:54 ก่อนใครลงแล้วอาการทางเดนหายใจหมดครับค่ะ
00:18:54 → 00:18:56 ก็เลยอาจารย์ทางเดินหายใจขอถามนิดนึง
00:18:56 → 00:18:58 อาจารย์ทางเดินหายใจหมายหมายความว่ายังมี
00:18:58 → 00:19:02 น้ำมมีใช่ครับก็ยังมีน้ำมูกอยู่มีน้ำมูก
00:19:02 → 00:19:05 จามหรือไอค่อนข้างเยอะอย่างเงี้ยครับการ
00:19:05 → 00:19:07 การไอหรือจามอย่างเงี้ครับมันเป็นการ
00:19:07 → 00:19:13 เพิ่มละอองฝอยในในอากาศใช่มครับสมมุติมี
00:19:13 → 00:19:17 ใครเดินผ่านไปอย่างเงี้ยก็อาจจะสูดอละออง
00:19:17 → 00:19:19 ฝอยนั้นก็เลยทำให้ติดเชื้อได้เขาเคยมีการ
00:19:19 → 00:19:22 ศึกษาว่าหลังจากจามเนี่ยครับถ้าอยู่ใน
00:19:22 → 00:19:24 อากาศห้องนิ่งๆอ่ะครับละอองอยยเอยู่ได้
00:19:24 → 00:19:29 3-5 ชมครับออก่อนที่มันจะตกถึงพื้นครับ
00:19:29 → 00:19:32 ใช่เพราะว่าจริงๆแล้วเราเข้าไปในห้องเรา
00:19:32 → 00:19:35 ก็ไม่สามารถสังเกตเห็นละอองฝอยหรือว่า
00:19:35 → 00:19:39 เอ่อเข้าไปในสถานที่ต่างๆเราก็จะมองไม่
00:19:39 → 00:19:42 เห็นอยู่แล้วแล้วอ่าต้องยอมรับสำหรับส่วน
00:19:42 → 00:19:45 ตัวนะคะคุณหมอเอ่อที่มองเห็นเนี่ยหลังจาก
00:19:45 → 00:19:49 โควิดซาลงอ่าระดับนึงแล้วเนี่ยการใช้
00:19:49 → 00:19:53 แอลกอฮอล์ค่อนข้างห่างตัวออกไปมากเอ่อตรง
00:19:53 → 00:19:55 เนี้ยการใช้แอลกอฮอล์หรือว่าการสวมหน้า
00:19:55 → 00:19:59 กากอนามัยเนี่ยสำหรับโรคทางเดินหายใจ
00:19:59 → 00:20:01 เนี่ยช่วยได้กี่เปอร์เซ็นต์มากน้อยแค่ไหน
00:20:01 → 00:20:04 เราควรยกกาดสูงเหมือนเดิมยคะในสถานการณ์
00:20:04 → 00:20:07 ตอนเค่ะนี้ขออนุญาตเรียนครับพอดีตอนเนี้ย
00:20:07 → 00:20:10 มันกลายเป็น
00:20:10 → 00:20:13 เอ่อ New era และคือตอนเยคือผมว่าสำคัญ
00:20:13 → 00:20:16 สุดครับคนที่เป็นโรคอ่ะควรอยู่บ้านแล้วก็
00:20:16 → 00:20:19 ใส่หน้ากากเพราะว่าสมมติสมมตินะครับ
00:20:19 → 00:20:22 สมมุติว่ามีคน 10 คนอยู่ในห้องเรารู้แล้ว
00:20:22 → 00:20:25 ว่านาย A 1 ใน 10 คนเนี้ยเป็นโรคถ้าเรา
00:20:25 → 00:20:28 รีบแยกนาย a ออกไปอ่ะครับแล้วใส่หน้ากาก
00:20:28 → 00:20:32 เราแยกนเอออกไปเลยอ่ะอีก 9 คนก็ไม่ติดอัน
00:20:32 → 00:20:34 นี้พี่โอ๊กับพี่ขวัญเข้าใจผมใช่มั้ยครับ
00:20:34 → 00:20:36 ก็ไม่ถึงไม่มีแหล่งของคนที่เป็นโรคและโรก
00:20:36 → 00:20:40 ก็จะไม่ติดต่ออันเนี้ยสำคัญสุดครับคือ
00:20:40 → 00:20:43 สำคัญสุดก็คือคนที่เป็นเนี่ยใส่หน้ากาก
00:20:43 → 00:20:46 คือการศึกษาศึกษามาแล้วครับว่าสำคัญสุดก็
00:20:46 → 00:20:49 คือคนที่เป็นโรคเนี่ยถ้าใส่หน้ากากการ
00:20:49 → 00:20:52 แพร่กระจายก็ลดลงเพราะว่าตรงไปตรงมาครับ
00:20:52 → 00:20:54 ออนกับพี่โอ๊คครับหมายถึงว่าคนที่แพร่
00:20:54 → 00:20:57 กระจายก็คือคนเป็นโรคคนที่ใสป้องกันน่ะ
00:20:57 → 00:21:00 ป้องกันมันไม่ได้ป้องกันได้ดีเท่ากับคน
00:21:00 → 00:21:03 ที่เป็นโรครัใส่ครับมันมีการศึกษามาแล้วอ
00:21:03 → 00:21:06 ไม่ว่าจะเป็นโรคทางเดินหายใจตัวไหนครับอ
00:21:06 → 00:21:09 ค่ะก็คือเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบต่อ
00:21:09 → 00:21:12 สังคมสำหรับคนที่เป็นโรคคนผู้ป่วย
00:21:12 → 00:21:15 อันเนี้ยคุณต้องระมัดระวังตัวเองด้วยการ
00:21:15 → 00:21:18 สมหน้ากากอนามัยใช้เจลแอลกอฮอล์หรือฉีด
00:21:18 → 00:21:21 แอลกอฮอล์อย่างสม่ำเสมอเพราะว่าบางทีเอ่อ
00:21:21 → 00:21:24 ยอมรับว่าคนเราบางทีเ่อลดหน้ากากลงมาอาจ
00:21:24 → 00:21:27 จะไปจับเ่อสารคัดหลั่งแล้วก็เผลอไผได้
00:21:27 → 00:21:29 อันเนี้ยก็ถือว่าเป็นความรับผิดชอบต่อ
00:21:29 → 00:21:31 สังคมที่เราจะอยู่ร่วมกันแล้วก็เราจะไม่
00:21:31 → 00:21:35 เป็นคนที่เผยแพร่โลกให้กับเอ่อคนอื่นๆ
00:21:35 → 00:21:38 หรือคนที่อยู่ด้วยกันตรงเนี้ยค่ะแต่ว่า
00:21:38 → 00:21:42 ถ้ามันพลาดไปเป็นแล้วเนี่ยวิธีการรักษา
00:21:42 → 00:21:45 ของ 3 อย่างมันก็อาจจะไม่เหมือนกันแต่
00:21:45 → 00:21:49 วิธีการที่เขาจะพอจะดูแลตัวเองมีลักษณะ
00:21:49 → 00:21:52 นอกจากยาปกติแล้วเนี่ยการรับประทานน้ำ
00:21:52 → 00:21:56 มะนาวหรือสมุนไพรอะไรเี่พอจะช่วยได้มั้ย
00:21:56 → 00:21:58 คะคุณหมออันนี้ขออนุญาตครับพอดีผมเป็น
00:21:58 → 00:22:01 แพทย์แผปจจุบันการศึกษาไม่ว่าจะเป็นน้ำ
00:22:01 → 00:22:04 มะนาวหรือสมุนไพรอ่ะครับตอนนี้ยังไม่มี
00:22:04 → 00:22:07 การศึกษาทางแพทย์แผนปัจจุบันว่าจะทำให้
00:22:07 → 00:22:10 อาการเหล่าเนี้ดีขึ้นครับค่ะครับอืเพราะ
00:22:10 → 00:22:14 ว่าที่บางทีเราก็บอกยากใช่มั้ยครับบางที
00:22:14 → 00:22:17 จริงๆสมมุตินะครับสมมุติพี่ขวัญพี่โอ๊ค
00:22:17 → 00:22:18 เป็นใช่มั้ยครับอย่างที่พี่โอ๊คเพิ่งเป็น
00:22:19 → 00:22:20 มาเนี่ยเหมือนลูกติดจากลูกใช่มั้ยครับพี่
00:22:21 → 00:22:23 โอ๊คบางทีพี่โอ๊คไม่ทำอะไรเลยอ่ะมันก็ดี
00:22:23 → 00:22:26 ขึ้นเพราะพี่ไม่ได้ลองไม่ทำอะไรเลยผมพูด
00:22:26 → 00:22:28 ถูกมั้ยครับแต่บางทีพี่โอ๊ไปกินน้ำมะนาว
00:22:29 → 00:22:31 หรือน้ำอุ่นอย่างเงี้ยพี่โอ๊คก็เลยอาจจะ
00:22:31 → 00:22:35 คิดว่าสิ่งที่ทำอ่ะมันทำให้ดีขึ้นจริงๆ
00:22:35 → 00:22:37 แล้วถ้าพี่โอ๊คไม่ทำอะไรเลยมันก็อาจจะ
00:22:37 → 00:22:39 เหมือนกันเข้าเข้าใจผมใช่มั้ยครับเข้าใจ
00:22:39 → 00:22:42 เข้าใจเข้าใจเขจริงๆแล้วเม็เลือดขาวอ่ะ
00:22:42 → 00:22:46 ครับเมของพี่ขวัญกับพี่โอ๊คอ่ะยังหมายถึง
00:22:46 → 00:22:49 ว่ายังเป็นวายหนุ่มสาวร่างกายกำยำมีเม็ด
00:22:49 → 00:22:52 เลือดขาวที่แข็งแรงค่ะก็สามารถกำจัดเชื้อ
00:22:52 → 00:22:55 ได้ครับอืแต่คนที่น่ากังวลอย่างที่เรียน
00:22:55 → 00:22:59 ครับคนคนกลุ่มที่เป็นคนที่ปบางไม่ว่าจะ
00:22:59 → 00:23:02 เป็นเด็กอายุน้อยกว่า 2 ปีหรือผู้ใหญ่ที่
00:23:02 → 00:23:05 อายุมากกว่า 65 ปีหรือเป็นโรคหัวใจโรคเบา
00:23:05 → 00:23:09 หวานโรคความดันโลหิตสูงโรคปอดหรือโรคเส้
00:23:09 → 00:23:12 เลือสมองติดคนพวกเนี้ยน่ากังวลเพราะว่า
00:23:12 → 00:23:15 เขาอาจจะไม่ได้แข็งแรงเท่ากับพี่ขวัญกับ
00:23:15 → 00:23:17 พี่โอ๊ครับเวลาติดเขาอาจจะเป็นหนักกว่า
00:23:18 → 00:23:22 ครับอ๋อเอออย่างยิ่งเด็กเล็กๆเขาแบบคอะไร
00:23:22 → 00:23:26 นะเขาทำเอ่อไอ้เรื่องน้ำมงน้ำมูกเนี่ยเขา
00:23:26 → 00:23:29 ทำเองไม่เป็นนะขากซะลงซเดเองสั่งน้ำมูก
00:23:29 → 00:23:33 เองเนี่ยค่อนข้างยากซึ่งการไม่เอาของพวก
00:23:33 → 00:23:35 นี้ออกอ่ะบ่อยๆมันก็จะทำให้มันค้างอยู่ใน
00:23:35 → 00:23:38 ร่างการซึ่งมันโอกาสหายตัวฟื้นตัวเร็วมัน
00:23:38 → 00:23:42 ก็น้อยน้อยกว่าคนที่เป็นวัยวัยผู้ใหญ่ใช่
00:23:42 → 00:23:48 มั้ยฮะใช่ครับเอออืมีคำถามจากทางบ้านค่ะ
00:23:48 → 00:23:51 เอ่อถามมาทาง LINE official ค่ะพี่
00:23:51 → 00:23:55 พูนสุขบอกว่าตัวคุณพูนสุขเองและสามีอายุ
00:23:55 → 00:23:58 76 ปีเท่ากันไม่เคยเป็นโควิดเลยฉีด
00:23:58 → 00:24:02 วัคซีนโควิดมา 4 เข็มและไม่เคยเป็นไข้
00:24:02 → 00:24:05 หวัดใหญ่แต่ว่าโอเคตัวตัวคุณสามีอ่ะมีการ
00:24:05 → 00:24:08 ฉีดป้องกันแต่ตัวคุณพี่พูนสุขเนี่ยไม่ได้
00:24:09 → 00:24:12 ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แต่ทั้งคู่เนี่ยชอบ
00:24:12 → 00:24:17 ไปเที่ยวเอ่อแล้วก็มีการโดยที่ไปเที่ยวนะ
00:24:17 → 00:24:20 คะแต่ว่าใส่แมสเป็นใส่หน้ากากอนามัยเป็น
00:24:20 → 00:24:25 ประจำเอ่อแล้วก็ถามว่าลักษณะแบบเนี้ยตัว
00:24:25 → 00:24:28 ตัวเผิดปกติไหม
00:24:28 → 00:24:33 คือเอ๊ะทำไมคือเหมือนกว่าคนเอ่อถ้าระยะ
00:24:33 → 00:24:36 ของการแพร่ระบาดของโควิดที่ตลอดตั้งแต่
00:24:36 → 00:24:40 เอ่อปี 63 ใช่มั้ยคะเอ่อจนถึงตอนเนี้ย
00:24:40 → 00:24:42 เา้าไม่เคยเป็นโควิดเลยทั้งๆที่ใช้ชีวิต
00:24:42 → 00:24:45 ค่อนข้างปกติแต่ว่าสวมหน้ากากอนามัยเนี่ย
00:24:45 → 00:24:48 มันถือว่าเป็นเรื่องปกติมั้ยหรือจริงๆ
00:24:48 → 00:24:50 แล้วบางคนเป็นโควิดก็อาจจะไม่ได้รู้ตัว
00:24:51 → 00:24:54 เพราะแข็งแรงมากไม่ไม่ไม่มีอาการอย่าง
00:24:54 → 00:24:56 เงี้มีมั้ยคะคุณหมออ๋ออาจจะเป็นไปได้ครับ
00:24:56 → 00:25:00 บางทีอาจจะรับเชื้อมาแต่อาการเป็นไม่เยอะ
00:25:00 → 00:25:04 บางทีก็เป็นไปได้บางทีบางคนอย่างที่ที่
00:25:04 → 00:25:08 พี่ขวัญพูดถูกครับบางคนร่างกายแข็งแรงมาก
00:25:08 → 00:25:10 อาการอาจจะเล็กน้อยมากจนอาจจะไม่ได้ทัน
00:25:10 → 00:25:13 สังเกตตัวเองครับค่ะอแต่ผมก็ยังแนะนำนะ
00:25:13 → 00:25:16 ครับเพราะว่าวัคซีนไข้หวัดใหญ่เนี่ยควร
00:25:16 → 00:25:18 เฉียดปีละครั้งเพราะว่าพอครบปีปุ๊บอ่ะ
00:25:18 → 00:25:23 ครับภูมิคุ้มกันจะค่อยๆลดลงครับค่ะอใชว่า
00:25:23 → 00:25:26 หมายถึงโควิดก็เช่นกันก็ควรจะฉีตีละครั้ง
00:25:26 → 00:25:28 เพราะว่าขนาดอันนี้ขออนุญาตนะนะครับผมไม่
00:25:28 → 00:25:31 ได้อวยตัวเองนะคือร่างกายผมแข็งแรงมากผม
00:25:31 → 00:25:34 ยังต้องฉีดทุกปีเลยครับค่ะครับคุณหมอ
00:25:34 → 00:25:37 เพราะว่าเออคุณพี่พูนสุขกับเอ่อสามีเนี่ย
00:25:37 → 00:25:42 อายุก็เอ่อเยอะพอสมควรนะคะ 76 ปีถ้าถ้า
00:25:42 → 00:25:45 คุณหมอแนะนำก็คือทั้ง 2 ท่านควรฉีดวัคซีน
00:25:45 → 00:25:48 ป้องกันทั้งตัวไข้หวัดใหญ่แล้วก็โควิด
00:25:48 → 00:25:50 ประจำทุกปีใช่มั้ยคะเสียงครับอย่างที่
00:25:50 → 00:25:56 เรียนครับอ๋อเออนะครับเอ่ออย่างอย่าง
00:25:56 → 00:25:59 เรื่องของการ
00:25:59 → 00:26:03 พอดีว่าก็ก็สงสัยว่ามันไอ้พวกเชื้อโรคพวก
00:26:03 → 00:26:06 เยครับเชื้อโรคเอ่อเกี่ยวกับระบบทางเนิ
00:26:06 → 00:26:11 หายใจอ่ะเขาจะอาศัยตอนที่ที่เราอะไรนะเรา
00:26:11 → 00:26:14 อ่อนแอภูมิเราภูมิเราพูร้ายจะมาตอนเรา
00:26:14 → 00:26:19 อ่อนแอนี่แหละโอ๊ใช่มั้ยใช่มั้ยใช่เพราะ
00:26:19 → 00:26:22 นอนไม่พอเครียดเมื่อไหร่เนี่ยมาเลยเออ
00:26:22 → 00:26:24 แล้วเราจะทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงอยู่
00:26:24 → 00:26:27 เสมอเนี่ยทำได้ยังไงมั้ยครับคุณหมออ๋อ
00:26:27 → 00:26:29 อย่างที่เรียนครับหมายถึงนอนให้เพียงพอ
00:26:29 → 00:26:33 นอน 7-8 ชมใช่มั้ยครับออกกำลังกายสัปดาห์
00:26:33 → 00:26:39 ละ 150 นาทีต่อสัปดาห์แล้วก็หมั่นอัปเดต
00:26:39 → 00:26:42 ฉีดวัคซีนทุกปีครับเหมือนเหมือนครับ
00:26:42 → 00:26:44 เปรียบเทียบครับผม่ะชอบคอมพิวเตอร์เนาะก็
00:26:44 → 00:26:47 เหมือนว่าเราอัปเดตแอนตี้ไวรัสเราทุกปี
00:26:47 → 00:26:50 ครับถ้าเราไม่อัปเดตปุ๊บเหมือนถ้าผมขอ
00:26:50 → 00:26:54 อนุญาตเปรียบเทียบผู้ร้ายเหมือนค้าศึกค้า
00:26:54 → 00:26:57 ศึกล้อมประเทศเราแล้วถ้าเราไม่อัปเดตทหาร
00:26:57 → 00:27:00 เราเลยค่าศึกก็เข้ามาง่ายครับประมาณนี้
00:27:00 → 00:27:04 ครับก็แนะนำว่าให้อัปเดตทุกปีครับอ๋อต้อง
00:27:04 → 00:27:08 อัปเดตวัคซีนทุกปีัใหญ่เนี่ยปีละครั้ง
00:27:08 → 00:27:10 ครับแล้วก็โควิดก็แนะนำปีละครั้งเช่นกัน
00:27:10 → 00:27:13 ครับเพราะว่าอพอครบไป 1 ปีแล้วภูมิคุ้ม
00:27:14 → 00:27:17 กันเราก็จะลดลงไปตามระยะเวลาครับครับค่ะ
00:27:17 → 00:27:21 อ๋อเออ 1 ปีเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมที่จะ
00:27:21 → 00:27:24 กระตุ้นภูมิภูมิคุ้มกันให้เรามีภูมิคุ้ม
00:27:25 → 00:27:28 กันป้องกันต่อเชื้อโรคพวกนี้ครับค่ะแต่ก็
00:27:28 → 00:27:31 มีคุณผู้ฟังบางส่วนค่ะคุณหมอคะก็มีความ
00:27:32 → 00:27:36 ห่วงกังวลถึงกรณีผลข้างเคียงจากวัคซีนที่
00:27:36 → 00:27:39 เอ่ออย่างวัคซีนใหม่ๆอย่างโควิดอย่าง
00:27:39 → 00:27:43 เงี้ยค่ะเขาก็เอ๊ะฉีดมากไปันจะมีอาการ
00:27:43 → 00:27:45 อะไรหรือเปล่าอะไรอย่างเงี้ยค่ะความห่วง
00:27:45 → 00:27:48 กังวลตรงนี้ในบทวิจัยที่ออกมาล่าสุด
00:27:48 → 00:27:52 สำหรับวัคซีนโควิดเนี่ยมีอะไรที่ต้องเอ่อ
00:27:52 → 00:27:55 สังเกตสังกาเป็นพิเศษมั้ยคะอันนี้ขอ
00:27:55 → 00:27:58 อนุญาตเรียนอีกนิดนึงครับวัคซีนโควิดตอน
00:27:58 → 00:27:59 นี้เนี่ยของประเทศไทยจะเหลือแค่ยี่ห้อ
00:27:59 → 00:28:03 เดียวและแต่ขออนุญาตครับหมายถึงว่าคนที่
00:28:03 → 00:28:05 น่ากังวลสุดตรงไปตรงมาครับหมายถึงว่าคน
00:28:05 → 00:28:09 ที่ฉีดวัคซีนเคยฉีดวัคซีนโควิดมาก่อนแล้ว
00:28:09 → 00:28:11 แพ้อย่างรุนแรงแบบต้องนอนโรงพยาบาลผืนลอก
00:28:12 → 00:28:16 ทั้งตัวแพ้แบบรุนแรงมากจนฉีดไม่ได้เนี้ย
00:28:16 → 00:28:19 ถึงน่ากังวลครับแต่ลองมองกลับกันนะครับ
00:28:19 → 00:28:22 ถ้าไม่ฉีดวัคซีนโควิดแล้วติดโควิดขึ้นมา
00:28:22 → 00:28:26 แล้วเป็นโควิดลงปอดแล้วทำให้เกิดพังผืดใน
00:28:26 → 00:28:30 ปอดผมคิดว่าอาจจะหมายถึงว่าเทียบกันน่ะ
00:28:30 → 00:28:33 ประโยชน์ที่ได้รับมันมากกว่าผลเสียงที่จะ
00:28:33 → 00:28:35 เกิดขึ้นโอกาสที่จะแพ้เนี่ยมันมีการศึกษา
00:28:35 → 00:28:39 มาแล้วมันน้อย้อยมากครับหมายถึงว่าเหมือน
00:28:39 → 00:28:42 โอกาสที่จะแพ้เนี่ยมันเหมือนเหมือนถูกหวย
00:28:42 → 00:28:46 รางวัลที่ 1 อ่ะครับไม่อยากถูกเลยอ่ะอออ
00:28:46 → 00:28:49 จริงจริงเข้าใจครับแต่หมายถึงว่าประโยชน์
00:28:49 → 00:28:52 ที่ได้รับมันมากกว่านั้นเยอะค่ะผมลอง
00:28:52 → 00:28:56 เทียบโอกาสโอกาสที่เราจะติดโควิดกับโอกาส
00:28:56 → 00:28:58 ที่เราจะถูกหวยรางวัลที่ 1 อะไรเกิดขึ้น
00:28:58 → 00:29:02 เยอะกว่ากันครับโอกาสโควิดสิคะคุณหมอใช่
00:29:02 → 00:29:05 ครับก็ก็อย่างที่เรียนครับเพราะว่าอย่าง
00:29:05 → 00:29:07 ที่บอกไปว่าโอกาสที่เราติดโควิดเยอะกว่า
00:29:07 → 00:29:10 ก็แสดงว่าการฉีดวัคซีนเนี่ยมันได้
00:29:10 → 00:29:12 ประโยชน์มากกว่าผลเสียที่จะเกิดเพียงเล็ก
00:29:12 → 00:29:15 น้อยเท่านั้นก็คือถ้าเราฉีดวัคซีนเนี่ย
00:29:15 → 00:29:17 โอกาสที่จะเป็นโรครุนแรงเนี่ยค่อนข้าง
00:29:17 → 00:29:22 น้อยมากครับค่ะอืครับคุณหมอขาขวัญสงสัย
00:29:22 → 00:29:24 นิดนึงเพราะว่าวัน 2 วันเมื่อวานนี้แหละ
00:29:24 → 00:29:27 ไปฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่สสายพันธุ์มาแล้ว
00:29:27 → 00:29:31 ก็ก็จะมีขึงที่ถามว่าแพ้ไข่หเป่าหรือไข
00:29:31 → 00:29:34 ขาวจะไม่ค่อยแม่นตัวเองเหมือนกันแล้วถ้า
00:29:34 → 00:29:38 คนที่เขาแพ้สิ่งอาหารชนิดนั้นน่ะค่ะเขามี
00:29:38 → 00:29:41 วิธีการป้องกันตัวเองยังไงได้บ้างคะจริงๆ
00:29:41 → 00:29:45 แล้ววัคซีนค่าว่าดใหญ่ตัวใหม่ๆอ่ะครับมัน
00:29:45 → 00:29:47 แทบจะอันนี้ขออนุญาตครับอันนี้พี่ขวัญไป
00:29:47 → 00:29:51 ฉีที่ไหนครับผมเอ่อเป็นครับเอ่อเป็นเป็น
00:29:51 → 00:29:55 ของที่ทางอสมทจัดมาให้อ่ะค่ะอันนี้ไม่แน่
00:29:55 → 00:29:59 ใจว่าเอ่อทางหน่วยงานอะไรมาให้บริการ
00:29:59 → 00:30:02 เดี๋ยวนี้เดี๋ยวนี้จริงๆแล้วครับถ้าไม่
00:30:02 → 00:30:05 ได้แพ้ไข่แบบรุนแรงนะครับีได้เพราะว่าคือ
00:30:05 → 00:30:08 อันนี้ขออนุญาตนะครับคือตอนเนี้ยวัคซีน
00:30:08 → 00:30:11 มันอัปเดตมาเรื่อยและจนถึงปัจจุบันอย่าง
00:30:11 → 00:30:13 ปีที่แล้วผมไปเรียนกรมควบคุมลโลกที่
00:30:13 → 00:30:16 อเมริกาใช่มั้ยครับไม่ถพวัคซีนเนี่ยจริงๆ
00:30:16 → 00:30:19 แล้วอ่ะเดิมสมัยเมื่อ 102 ปีก่อนเนี่ยเขา
00:30:19 → 00:30:23 เพราะเลี้ยงจากเซลล์ไข่ไก่ครับค่ะมันก็
00:30:23 → 00:30:26 เลยเป็นเหตุผลว่าเอ๊ถ้าแพ้ไข่ไก่มันก็อาจ
00:30:26 → 00:30:28 จะมีเปลือเจือปนในวัคซีนมันก็เลยเป็นเหตุ
00:30:28 → 00:30:31 ผลว่าเอ๊ะถ้าแพ้ไข่ไก่ก็ต้องระวังในการ
00:30:31 → 00:30:33 ฉีดวัคซีนนะแต่เดี๋ยวเนี้ยเทคโนโลยีมัน
00:30:33 → 00:30:37 ล้ำสมัยมากครับค่ะเดี๋ยวเนี้ยก็คือมัน
00:30:37 → 00:30:41 เพาะเลี้ยงโดยที่บางทีมันไม่ได้ใช้เซลล์
00:30:41 → 00:30:44 ไข่ไก่เหมือนแต่ก่อนแล้วอ่ะครับค่ะอืออ
00:30:44 → 00:30:47 แต่แต่แต่ผมก็เข้าใจครับเวลาเวลาฉีด
00:30:47 → 00:30:50 วัคซีนเาก็ต้องถามเพื่อเพื่อแบบเพื่อความ
00:30:50 → 00:30:53 ปลอดภัยของคนที่ได้รับวัคซีนครับแต่
00:30:53 → 00:30:56 เดี๋ยวเนี้วัคซีนรุ่นใหม่ๆแล้วถ้าไม่ได้
00:30:56 → 00:31:00 แพ้ไข่ไก่อย่างรุนแรงก็ฉีได้ครับค่ะอืแต่
00:31:00 → 00:31:02 แต่ถ้าสมัยก่อนน่ะอีกเรื่องนึงนะครับแต่
00:31:02 → 00:31:06 ตอนเนี้ยมันมันนานมากแล้วครับค่ะคุณคุณ
00:31:06 → 00:31:11 หมอขอขอถามอีกสักนิดนึงอย่างกรณีเรื่อง
00:31:11 → 00:31:13 ของอาการเราเป็นหวัดเนี่ยเราเป็นกันเป็น
00:31:13 → 00:31:16 ประจำทุกปีเป็นโลกประจำเป็นโลกที่ใครๆก็
00:31:16 → 00:31:20 เป็นอ่ะนะคุณหมอเอ่อเพียงแต่ว่าเพียงแต่
00:31:20 → 00:31:24 ว่าเบื้องต้นเราสามารถรับประทานยาเองได้
00:31:24 → 00:31:27 ใช่มั้ยครับรับประทานยาเองได้อย่างเช่น
00:31:27 → 00:31:30 เราก็อาอาจจะกินยารสค่ายยาพาราอะไรอย่าง
00:31:30 → 00:31:34 เงี้ยแต่แต่มันมันจะมีข้อสังเกตต่อมยคุณ
00:31:34 → 00:31:37 หมอว่ากินไปเอ้ยทำไมมันยังไม่หายะทีชาว
00:31:37 → 00:31:40 บ้านเขากินกันเอ่อเขารักษาตัวเองกัน 2
00:31:40 → 00:31:43 วัน 3 วันะเขาก็หายกันะอะไรเงี้ยแบบเนี้ย
00:31:43 → 00:31:47 ถ้าแบบสักพักนึงแล้วมันยังไม่หายจริงๆอ่ะ
00:31:47 → 00:31:49 สิ่งที่เราควรจะทำต่อไปมันคืออะไรครับคุณ
00:31:49 → 00:31:52 หมออ๋อนี้ขออนุญาตนะครับถ้าสมมุติว่าไข้
00:31:52 → 00:31:55 ไม่ลงไปใน 24 ชมถึง 48 ชมผมแนะนำว่าคนไป
00:31:55 → 00:31:58 โรงพยาบาลและไม่รู้ว่ามันเภาวะแทรกซ้อนม
00:31:58 → 00:32:01 ครับพี่โอครับไปถึงว่าจริงๆแล้วควรจะไป
00:32:01 → 00:32:04 ให้สถานพยาบาลหรือคุณหมอตรวจะเพราะว่า
00:32:04 → 00:32:07 อย่างที่เรียนครับหมายถึงว่า 24-48 ชมง
00:32:08 → 00:32:10 ถ้าเราไม่เป็นหนักมันควรจะเริ่มดีขึ้นและ
00:32:10 → 00:32:13 แต่ถ้ามันไม่ดีขึ้นก็ควรจะไปสถานพยาบาล
00:32:13 → 00:32:16 ใกล้บ้านครับเพื่อเช็คดูกับคุณหมอว่ามี
00:32:16 → 00:32:19 ภาวะแทรกซ้อนหรือเปล่าหรือว่าจริงๆแล้ว
00:32:19 → 00:32:22 ที่เราเป็นเนี่ยมันไม่ใช่โรคนี้เป็นโรค
00:32:23 → 00:32:26 อื่นครับอครับค่ะแทรกซ้อนคืออะไรครับคุณ
00:32:26 → 00:32:28 หมอภาว่าะแทรกซ้อนแอย่างที่เรียนครับหมาย
00:32:28 → 00:32:31 ถึงว่าถ้าอาการหนักขึ้นเพราะว่าอย่างที่
00:32:31 → 00:32:34 เรียนไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่ rsv หรือ
00:32:34 → 00:32:36 โควิดใช่มั้ยครับตอนแรกมันจะติดเทางเดิน
00:32:36 → 00:32:39 หายใจส่วนบนแต่ถ้าอาการมันเป็นหนักขึ้น
00:32:39 → 00:32:43 บางทีมันอาจจะไหลหมายถึงว่าติดเพิ่มขึ้น
00:32:43 → 00:32:46 ลงไปในปอดส่วนล่างก็คือเป็นการติดเชื้อ
00:32:46 → 00:32:48 ทางเดินหายใจส่วนล่างและอาการหนักขึ้น
00:32:48 → 00:32:52 ครับอันนี้ต้องน่ากังวลครับอือือย่างงี้
00:32:52 → 00:32:54 นี่เองเพราะว่าตรงไปตรงมาครับเวลาเชื้อ
00:32:54 → 00:32:57 โรคจะติดอ่ะครับเวลาเราหายใจเราสูดอากาศท
00:32:57 → 00:33:01 ทางจมูกกับผลมมันผ่านคอใช่มั้ยครับยังไง
00:33:01 → 00:33:04 โ่มันก็ต้องผ่านจากทางข้างบนไปก่อนครับอื
00:33:04 → 00:33:07 ยังไงก็ต้องเป็นทางเดือนส่วนบนแล้วค่อยลง
00:33:07 → 00:33:10 มาส่วนล่างครับตรงไปตรงมาครับมีอีกข้อ
00:33:10 → 00:33:14 สงสัยนึงที่หลายๆคนถกเถียงกันเป็นประจำนะ
00:33:14 → 00:33:19 คุณหมอพี่ขวัญค่ะเอ่อระหว่างเป็นหวัดแล้ว
00:33:19 → 00:33:23 กินยาเลยกับเป็นหวัดแล้วไม่กินยาเดี๋ยว
00:33:23 → 00:33:28 เขาก็อหายเองได้เลือกทางเลือกโอไหนดีครับ
00:33:28 → 00:33:33 เอออออันนี้ผมจะบอกก่อนครับคือคือคนที่คน
00:33:33 → 00:33:36 ที่ต้องกินยาก่อนผมจะแบ่งแบ่งแบ่งคนเป็น 2
00:33:36 → 00:33:39 กลุ่มนะครับคนที่เลือกทางว่าจะกินยาก็ได้
00:33:39 → 00:33:42 ไม่กินยาก็ได้อันเนี้ยจะเป็นคนในกลุ่มที่
00:33:42 → 00:33:46 แข็งแรงดีอื่างร่างกายกรรมยงอย่างเช่นคุณ
00:33:46 → 00:33:49 ขวัญกับคุณโอ๊คนะครับแต่อีกกลุ่มนึงอ่ะ
00:33:49 → 00:33:52 ที่ควรจะต้องกินยาแน่ๆก็คือคนที่เป็น
00:33:52 → 00:33:55 กลุ่มเปาะบางไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือว่าเป็น
00:33:55 → 00:33:58 ผู้ใหญ่ที่อายุมากกว่า 65 ปี
00:33:58 → 00:34:02 มีโรคประจำตัวเป็นโรคปอดโรคหัวใจโรคความ
00:34:02 → 00:34:05 ดันโลหิตสูงไขมันสูงอย่างเงี้ยครับเยเป็น
00:34:05 → 00:34:09 คนที่เป็นกลุ่มเปอบางควรจะได้รับยาเพราะ
00:34:09 → 00:34:11 ว่าอย่างที่เรียนครับคือภูมิภูมิกันเขา
00:34:11 → 00:34:16 ไม่ได้ดีอืแขเท่าพี่ขวัญกับพี่โอ๊คที่
00:34:16 → 00:34:19 สามารถใช้เม็ดเลือกขาวกำจัดได้แต่ข้อดีนะ
00:34:19 → 00:34:22 ถ้าสมมุติถึงถึงเม็ดเลือกขาวของพี่ขวัญ
00:34:22 → 00:34:26 กับพี่โอ๊คพี่โอ๊คเนี่ยแข็งแรงมากอ่ะก็
00:34:26 → 00:34:28 จรริงแต่หมายถึงว่าข้อดีอีกอย่างนึงถ้า
00:34:28 → 00:34:31 พี่ขวัญกับพี่โอ๊กกินยาฆ่าเชื้อเนี่ยฆ่า
00:34:31 → 00:34:35 เชื้อไวรัสเนี่ยข้อดีก็คือลดระยะเวลา
00:34:35 → 00:34:39 กระจายของโลกทำให้อาการหายเร็วขึ้น 1 หาย
00:34:39 → 00:34:42 เร็วขึ้นแล้วก็ทำให้คนที่เราต้องรอบตัว
00:34:42 → 00:34:44 เราที่เราต้องสัมผัสหรือคอนแทคเนี่ยติด
00:34:45 → 00:34:47 เชื้อเราได้โอกาสติดเชื้อลดลงเพราะว่าเรา
00:34:47 → 00:34:52 กินยาไวรัสแล้วอันนี้อีกข้อดีออเออออัน
00:34:52 → 00:34:54 นี้คกระจ่างหรือเปล่าครับผมไม่แน่ใจพอจะ
00:34:54 → 00:34:56 จะเป็นไกด์ไลน์ให้คุณผู้ฟังได้นะคุณหมอ
00:34:56 → 00:34:59 เพราะว่าอันนี้ก็ก็มีแบบเอ้ยกินทำไม
00:34:59 → 00:35:02 เดี๋ยวมันก็หายเองอ๋อมันจะได้ไขข้อถ้า
00:35:02 → 00:35:05 แข็งแรงคุณไม่กินก็ได้แต่แต่ก็ต้องยอมรับ
00:35:05 → 00:35:07 ในเรื่องของอาการที่มันจะเกิดขึ้นสักนิด
00:35:07 → 00:35:10 นึงแต่ว่าถ้าถ้ากลุ่มเปราะบางสูงอายุเด็ก
00:35:10 → 00:35:13 อย่าเงี้ยยังไงก็ต้องกินนะเพื่อเพราะว่า 1
00:35:13 → 00:35:16 คือดูแลตัวเองก็ไม่รู้แหละสุขภาพเราขนาด
00:35:16 → 00:35:18 ไหนอะไรอย่างเงี้ยเอ่อแล้วก็เชื้อมันจะ
00:35:18 → 00:35:21 รุนแรงต่อร่างกายของเราขนาดไหนอีกักคำถาม
00:35:21 → 00:35:24 ต่อเนื่องครับคุณหมอเอ่อ
00:35:24 → 00:35:30 ระหว่างรู้ตัวว่าเหมือนจะเป็นกินยาดักกับ
00:35:30 → 00:35:33 กินยาเมื่อเป็นแล้วแบบไหนถูกต้องกว่ากัน
00:35:33 → 00:35:37 ครับอโออย่างที่บอกครับเหมือนอารมณ์
00:35:37 → 00:35:39 ประมาณว่ายาฆ่าเชื้อเหมือนอาวุธทำลายล้าง
00:35:39 → 00:35:42 ใช่มั้ยครับไปถึงเรายังไม่รู้ว่ามีมีผู้
00:35:43 → 00:35:46 ร้ายอะไรอยู่ผู้รคนไหนอ่ะเออกาจยิงอาวุธ
00:35:46 → 00:35:48 ผมว่าอันเนี้ยเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำครับสุด
00:35:48 → 00:35:51 ท้ายแล้วยังไงอ่ะเราต้องรู้ก่อนว่ามีผู้
00:35:51 → 00:35:54 ร้ายเราถึงจะใช้อาวุธครับค่ะอืเพราะเนี่ย
00:35:55 → 00:35:57 ๆถ้าตรงไปตรงมาครับอาวุธเป็นเหมือนดาบ 2
00:35:57 → 00:36:00 คมใช่มั้ยครับหมายถึงว่าเหมือนเรากาดยิง
00:36:00 → 00:36:03 ไปบางทีมันอาจจะโดนผู้บริสุทธิ์ก็ได้ครับ
00:36:03 → 00:36:06 อือ๋อยังไงก็ควรจะจับผู้ร้ายก่อนครับหมาย
00:36:06 → 00:36:08 ถึงว่าควรจะรู้ว่าเป็นแน่ๆต้องเจอตัวก่อน
00:36:08 → 00:36:12 ใช่มั้ยต้องเจอร่องรอยก่อนถึงจะใช้กำลัง
00:36:12 → 00:36:15 ส่งเข้าไปจัดการบางอย่างเหมือนกันครับค่ะ
00:36:15 → 00:36:19 ออเหรอฮะแล้วถ้าอย่างนี้เวลาเรากินยาก่อน
00:36:19 → 00:36:22 กินยาดักแล้วแบบเหมือนไปทำร้ายผู้
00:36:22 → 00:36:25 บริสุทธิ์ก็คือร่างกายเราเองนี่แหละมันจะ
00:36:25 → 00:36:28 ส่งผลยังไงได้บ้างถ้า
00:36:28 → 00:36:31 ชเราอยากกินยาดักค่าไวรัสของไข้วัดใหญ่
00:36:31 → 00:36:34 ไอ้ยาไข้วัดใหญ่มันดีไดีผลข้างเคียงมันก็
00:36:34 → 00:36:36 มีบ้างเล็กน้อยก็คืออาจจะทำให้คลื่นไส้
00:36:37 → 00:36:39 เวียนหัวค่ะจริงๆถ้าเราไม่เป็นโรคเราก็ไป
00:36:39 → 00:36:42 กินกินยาไปก็ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นเพราะว่า
00:36:42 → 00:36:44 ไม่มีเชื้อโรคใช่มครับเราก็ได้ผลข้าง
00:36:45 → 00:36:47 เคียงมาแทนผมก็เลยไม่แนะนำไงครับอย่างที่
00:36:47 → 00:36:49 ร่างกายเราก็เป็นเหยื่อไงครับเหยื่อของ
00:36:49 → 00:36:53 โดนอาวุธอค่ะเกิดเวียนศีรษะคลื่นไส้
00:36:53 → 00:36:56 อาเจียนที่อาจจะเป็นผข้างเคียงได้บ้างจาก
00:36:56 → 00:36:58 ยาคา
00:36:58 → 00:37:02 ค่ะอ๋อยาโควิดก็คล้ายๆกันครับก็จะมีอาการ
00:37:02 → 00:37:04 อย่างที่เรียนไปครับคล้ายๆยาไข้หวัดใหญ่
00:37:04 → 00:37:07 เหมือนกันคลื่นไส่อาเซียนครับเท่ากับเรา
00:37:07 → 00:37:10 อ่ะไปรับผลข้างเคียงยาโดยที่ไม่จำเป็น
00:37:10 → 00:37:14 ครับค่ะครับคุณหมอคะขอความรู้อีกเรื่อง
00:37:14 → 00:37:16 นึงอันเนี้ยโอเคเราคุยกันเรื่องไข้หวัด
00:37:16 → 00:37:20 ใหญ่แต่เผอิญว่าขวัญมีคนรู้จักเคยเป็นไข้
00:37:21 → 00:37:25 หวัดใหญ่เทียมมันครับมันต่างกันยังไงแล้ว
00:37:25 → 00:37:28 วิธีการรักษาต่างกับไข้หวัดใหญ่มั้ย
00:37:28 → 00:37:32 มีมีวิธีการไข้หวัดใหญ่เทียมค่ะไข้หวัด
00:37:32 → 00:37:34 เทียมไข้หวัดใหญ่
00:37:34 → 00:37:38 เทียมเพ่งเพิ่งเคยได้ยินครับมันน่าจะเป็น
00:37:38 → 00:37:41 ศัพท์ผมอันนี้ขออนุญาตเรียนครับปกติเวลา
00:37:41 → 00:37:44 ผมเรียนใช่มยผมก็จะเรียกทับลับไปเลยวัน
00:37:44 → 00:37:46 เนี้ที่คุยจะคุยเป็นภาษาไทยแต่ผมอ่ะเพิ่ง
00:37:46 → 00:37:52 เคยได้ยินไข้หวัดไข้หวัดใหญ่เทียมใช่ๆมีๆ
00:37:52 → 00:37:55 มีมีคนรู้จักเป็นนี่แหละคุณหมอเอ่อผมไม่
00:37:55 → 00:37:57 แน่ใจว่าอาจจะเป็นไวรัสอื่นๆอันนี้ขอ
00:37:57 → 00:38:00 อนุญาตครับปกติไข้หวัดใหญ่ในในที่คนไทย
00:38:00 → 00:38:03 เรียกกันน่ะจะเรียกว่า influenza ไวรัสผม
00:38:03 → 00:38:05 เดานะอันนี้พอดีผมเพิ่งเคยได้ยินคำนี้
00:38:06 → 00:38:07 เหมือนกันไขหวาดใหญ่เทียมน่าจะเป็นเชื้อ
00:38:07 → 00:38:11 ไวรัสอื่นๆครับค่ะอไม่ใช่ influenza
00:38:11 → 00:38:16 ไวรัสครับค่ะได้เอ่ออย่างเช่นพารา
00:38:16 → 00:38:19 influenza ไวรัสก็จะมี A B C อย่าง
00:38:19 → 00:38:21 เงี้ยครับไม่รู้ว่าอันนี้เขาเลยเรียกไ
00:38:21 → 00:38:23 หวัดใหญ่เทียมหรือเปล่าอันนี้เพิ่งเคยได้
00:38:23 → 00:38:26 ยินเหมือนกันครับได้เดี๋ยวเดี๋ยวอาจจะ
00:38:26 → 00:38:29 เก็บเรื่องนี้ไว้คุยในโอกาสถัดไปะกันแต่
00:38:29 → 00:38:34 ว่าสำหรับในเรื่องของฤดูฝนเนี่ยโอเคมัน
00:38:34 → 00:38:37 อาจจะมีความเสี่ยงที่จะทำให้ระบบทางเดิน
00:38:37 → 00:38:40 หายใจเนี่ยเอ่อเป็นโรคได้ง่ายขึ้นแล้วฤดู
00:38:40 → 00:38:43 อื่นๆนะคะมันจะลดน้อยถอยลงลงไปมั้ยหรือ
00:38:44 → 00:38:48 ว่าความเสี่ยงมันจะแค่พอๆกันหรือว่าต่ำลง
00:38:48 → 00:38:52 นิดหน่อยฤดูไหนเสี่ยงเป็นโรคทางเดินหายใจ
00:38:52 → 00:38:55 น้อยที่สุดอ่ะคะอ๋อนี้ขออนุญาตนะครับตรง
00:38:55 → 00:38:58 ไปตรงมาครับอันนี้ส่วนใหญ่เนี่ยโรคทาง
00:38:58 → 00:39:01 เดินหายใจจะเป็นหนักหน้าฝนเพราะว่าเชื้อ
00:39:01 → 00:39:04 โรคมันชอบความชื้นกับอากาศเย็นๆใช่มั้ย
00:39:04 → 00:39:07 ครับพหน้าร้อนประเทศไทยก็ร้อนเหลือเกิน
00:39:07 → 00:39:10 ครับหมายถึงว่าแม้กระทั่งผมเองครับแค่ยืน
00:39:10 → 00:39:12 กลางแดดผมยังไม่ไหวเลยเชื้อโรคก็อยู่ไม่
00:39:12 → 00:39:15 ได้เหมือนกันครับอแล้วหน้าหนาวล่ะเราเรา
00:39:15 → 00:39:16 เคยหนาวใช่มั้ยคะคุณ
00:39:16 → 00:39:21 หมอเคยสิครับเออหมายถึงว่าที่เรียนนิดนึง
00:39:21 → 00:39:24 ที่เป็นหน้าผนเพราะว่ามันเป็นอุณหภูมิที่
00:39:24 → 00:39:27 เหมาะสมที่เชื้อไวรัสเจริญเติบโตดีครับ
00:39:27 → 00:39:30 หมายถึงเชื้อไวรัสที่ทางเดินหายใจอ่ะชอบ
00:39:30 → 00:39:35 อากาศแบบหน้าฝนครับค่ะอืหน้าหนาวหน้าหนาว
00:39:35 → 00:39:39 ก็มีเชื้อเหมือนกันคือหน้าฝนถ้าประเทศไทย
00:39:39 → 00:39:42 อ่ะครับหน้าฝนเยอะสุดค่ะหน้าหนาวรองลงมา
00:39:42 → 00:39:46 แต่ประเทศไทยผมอยากจะเรียนว่าประเทศเรามี
00:39:46 → 00:39:48 หน้าหนาวจริงๆ
00:39:48 → 00:39:55 ครับแต่ร้อนร้อนร้อนร้อนกับร้อนมาก
00:39:55 → 00:39:58 เออค่ะเอาเรื่องจริงมาพูดเล่นส
00:39:58 → 00:40:01 ละก็โลกมันก็เปลี่ยนแปลงไปนะสภาพโลกร้อน
00:40:01 → 00:40:05 โลกเออแต่แต่สภาพอากาศแบบเนี้ยคือเอ่อ
00:40:05 → 00:40:08 หน้าหนาวก็แทบจะไม่เห็นะแต่ว่าน่าเชื่อนะ
00:40:09 → 00:40:12 เรื่องของโรคภัยมันก็ก็ก็ยังมีอยู่ให้
00:40:12 → 00:40:14 เห็นแบบเออโรคโดยเฉพาะเรื่องการระบาดโรค
00:40:14 → 00:40:17 ทางเดินหายใจอะไรอย่าเงี้ยคุณหมอแต่อย่าง
00:40:17 → 00:40:19 อย่าที่เรียนครับแบบตอนเเทคโนโลยีมันทัน
00:40:19 → 00:40:22 สมัยขึ้นใช่มั้ยครับเออเราอ่ะมีแอร์ทุก
00:40:22 → 00:40:26 ที่เลยประเทศไทยที่เราทำงานครับใช่ๆเพราะ
00:40:26 → 00:40:28 ว่าแอร์มันอาการอากาศเย็นเชื้อโรคหมายถึง
00:40:28 → 00:40:31 เย็นเราก็บางทีก็ชื้นด้วยบางทีเราเปิด
00:40:31 → 00:40:33 แอร์อุณหภูมิบางทีหนาวมากคนไทยก็จะปับให้
00:40:33 → 00:40:36 มันครับจริงๆความชื้นมันสัมพันธ์กับ
00:40:36 → 00:40:40 อุณหภูมิอากาศถ้าสมมุติว่าอากาศมันเย็น
00:40:40 → 00:40:43 ไม่พออ่ะครับคือเย็นสบายตัวแต่เย็นไม่พอ
00:40:43 → 00:40:46 คือสมมติสมมติสัก 27 28 เนี่ยความชื้น
00:40:46 → 00:40:49 สัมผัสในอากาศก็จะเยอะขึ้นมันก็ถ้าถ้า
00:40:49 → 00:40:52 เปรียบเทียบมันก็คล้ายๆความชื้นสัมผัสใน
00:40:52 → 00:40:56 อากาศมันเพิ่มขึ้นเราเปิดแอร์เย็นๆเลย 19
00:40:56 → 00:40:58 20 อย่างเงี้ยครับความชื้นสัมผัสก็น้อย
00:40:58 → 00:41:00 ลงอันนี้มันตรงไปตรงมาพอความชื้นสัมผัส
00:41:01 → 00:41:04 น้อยลงความชื้นในอากาศก็น้อยลงครับอืครับ
00:41:04 → 00:41:07 ค่ะเพราะว่าโรกโรคโรคเชื้อโรคทางเดินหาย
00:41:07 → 00:41:12 ใจเนี่ยชอบอากาศที่เย็นๆเอื่อยๆแล้วก็
00:41:12 → 00:41:16 ชื้นเยอะๆครับอืครับคุณหมคุณหมอเอ่ะต่อ
00:41:16 → 00:41:19 เลยพี่หวันเชิญพี่พี่ขอนิดนึงมีผู้ฟังถาม
00:41:19 → 00:41:22 มาว่าเป็นหวัดกินน้ำเย็นได้มั้ย
00:41:22 → 00:41:26 อ่ากินได้มั้ยผมชอบนะเอายอมรับผมชอบกิน
00:41:26 → 00:41:29 จริอันนี้คนไหนกินได้คนไหนกินไม่ได้บ้าง
00:41:29 → 00:41:34 คะปกติอ่ะครับที่เราเจ็บคออ่ะมันจะมีปล
00:41:34 → 00:41:37 ประสาทไปเลี้ยงที่คอใช่มั้ยครับแต่การที่
00:41:37 → 00:41:41 เรากินกินน้ำเย็นจัดเนี่ยมันจะไปกระตุ้น
00:41:41 → 00:41:44 ไปประสาทให้ทำงานหมายถึงว่าที่เรารู้
00:41:44 → 00:41:46 สัมผัสว่าเย็นร้อนอะไรอย่างเงี้ยมันเกิด
00:41:46 → 00:41:48 จากการกระตุ้นปลายประสาทใช่มั้ยครับแต่
00:41:48 → 00:41:50 การกินน้ำเย็นมากๆเนี่ยมันเป็นการกระตุ้น
00:41:50 → 00:41:53 ปลายประสาทก็อาจจะทำให้เจ็บคอเยอะขึ้นแต่
00:41:53 → 00:41:56 ไม่ได้ทำให้โรคขายช้าลงนะครับคือถ้าชอบ
00:41:56 → 00:42:00 กินน้ำเย็นได้มอ๋อเจ็บคอเยอะขึ้นอืออผม
00:42:00 → 00:42:03 เนี่ยเป็นคนนึงที่ชอบต่อให้เป็นหรือไม่
00:42:03 → 00:42:07 เป็นน่ะก็ขอนดื่มน้ำเย็นให้มันชื่นใจ
00:42:07 → 00:42:10 หน่อยยอมเจ็บคออ้อครับแต่แต่ถึงว่ากินได้
00:42:10 → 00:42:13 มั้ยกินได้มันไม่ได้ทำให้โรคหายช้าลงแต่
00:42:13 → 00:42:16 หมายถึงว่าอาจจะเจ็บพอเพราะว่าช่วงตอนที่
00:42:16 → 00:42:18 เราไม่สบายอ่ะครับเส้นประสาทมันถูก
00:42:18 → 00:42:21 กระตุ้นได้ง่ายขึ้นแล้วเราใช้อุณหภูมิที่
00:42:21 → 00:42:24 มันสูงกว่าปกติมันเอ้ยเย็นกว่าปกติมันก็
00:42:24 → 00:42:27 อาจจะทำให้รู้สึกเจ็บคอมากขึ้นนะครับ
00:42:27 → 00:42:30 เพราะในในความความจริงสำหรับผมนะผมดื่ม
00:42:30 → 00:42:33 น้ำปกติหรือน้ำอุ่นน่ะตอนเป็นหวัดอ่ะผมก็
00:42:33 → 00:42:36 ไม่ได้รู้สึกว่ามันจะหายเร็วขึ้นแต่อย่าง
00:42:37 → 00:42:39 ใดผมก็เลยรู้สึกว่าเออก็ก็ดื่มน้ำเย็น
00:42:39 → 00:42:42 ปกติคือไม่ได้เย็นจัดแบบใส่น้ำแข็งโจุกๆ
00:42:42 → 00:42:44 อะไรก็แค่ให้มันเย็นแหละให้มันชื่นใจัก
00:42:44 → 00:42:47 หน่อยให้มันแบบเอ่อมีอุณหภูมิที่มันเย็น
00:42:47 → 00:42:49 กว่าปกติสักนิดนึงก็ก็เหมือนกับว่ามันกิน
00:42:49 → 00:42:53 อะไรก็ง่ายขึ้นกินแล้วมันก็เอ่อให้เรา
00:42:53 → 00:42:56 เอ่อลิ้นของเรามันชูรสในการที่จะรับ
00:42:56 → 00:42:58 ประทานอะไรที่มันไปสู้กับกับสิ่งที่เป็น
00:42:59 → 00:43:01 เชื้อโรคภายในร่างกายได้ดีขึ้นอ๋ออันนี้
00:43:01 → 00:43:04 ก็ทำได้แล้วแต่คนแล้วแต่ความชอบใช่มั้ยฮะ
00:43:04 → 00:43:07 ใช่ชอบแล้วแต่อย่างที่บอกว่าถ้ากินอะไร
00:43:08 → 00:43:10 เย็นจัดร้อนจัดมันก็กระตุ้นเส้นประสาทได้
00:43:10 → 00:43:13 ง่ายขึ้นมันก็อาจจะทำให้ขายขอมากกว่าครับ
00:43:13 → 00:43:16 แต่ไม่ได้เกี่ยวกับจะหายช้าหายเร็วครับอื
00:43:16 → 00:43:19 ครับอีกทักคำถามครับคุณหมอครับเรื่องของ
00:43:19 → 00:43:21 เอ่อเขาบอกว่าถ้าเป็นหวัดจริงๆแล้วเนี่ย
00:43:21 → 00:43:23 หรือว่าเป็นอาการของมีอาการแบบเนี่ยคัด
00:43:23 → 00:43:25 จมูกอะไรแล้วเนี่ยหรือเหมือนจะเป็นหวัด
00:43:26 → 00:43:27 เนี่ยกินวิตามินซีก็ได้ใชช่วยได้เหมือน
00:43:27 → 00:43:31 กันอันนี้เป็นข้อมูลที่ใช้ได้มั้ครับข้อ
00:43:31 → 00:43:35 มูลวิตามินซีคือยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่า
00:43:35 → 00:43:39 วิตามินซีจะช่วยทำให้ดีขึ้นหรือแย่ลงนะ
00:43:39 → 00:43:43 ครับแต่ถ้าถ้าคิดคือไม่ได้มีหลักฐานว่าจะ
00:43:43 → 00:43:45 ทำให้ดีขึ้นหรือแย่ลงครับถ้าเรากินใน
00:43:45 → 00:43:50 ปริมาณที่เหมาะสมนะครับอือที่เขาบอกว่า
00:43:50 → 00:43:52 มันจะช่วยอะไรนะเขาเรียกว่าอะไรกระตุ้น
00:43:52 → 00:43:55 ภูมิหรอใช่มั้ยผมผมใช้คำถูกป่ะไม่แน่ใจ
00:43:55 → 00:43:59 เอ่อเป็นคือยังไม่มีการศึกษาเรื่องเกี่ยว
00:43:59 → 00:44:02 กับว่ากินวิตามินซีแล้วจะทำให้การติด
00:44:02 → 00:44:05 เชื้อไวรัสลดลงยังไม่มีครับผมหมายถึงว่า
00:44:05 → 00:44:08 เคยมีคนทำหลายคนแล้วแต่ผลการศึกษายังไม่
00:44:08 → 00:44:13 ได้เป็นผลบวกว่ามันได้ผลครับอืครับออแต่
00:44:13 → 00:44:17 แต่คำเหล่าเนี้ยเอามาเป็นคำโฆษณาจนหลายๆ
00:44:17 → 00:44:22 คนเข้าใจว่าเอ่อกินวิตามินซีทุกวันวันละ
00:44:22 → 00:44:25 1,000 มิลลิกรัมหรือจำนวนแถนั้นเถ่านี้
00:44:25 → 00:44:28 มันจะช่วยทำให้เอ่อต่อต้านหวัดร่างกาย
00:44:28 → 00:44:30 แข็งแรงมากขึ้นเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ
00:44:30 → 00:44:34 น้อยลงอันเนี้ยหลายๆคำมันก็เป็นคำทางการ
00:44:34 → 00:44:37 ตลาดที่เอามาชูตรงนี้แต่ว่าตอนนี้คุณหมอ
00:44:37 → 00:44:40 กำลังบอกว่าเราไม่ได้มีบทเอ่อผลงานวิจัย
00:44:40 → 00:44:42 เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างชัดเจนใช่มั้ยคะ
00:44:42 → 00:44:45 อ่าผมให้มองอย่างนี้ดีกว่าครับปกติอ่ะ
00:44:45 → 00:44:47 มนุษย์ทุกคนร่างกายมนุษย์ทุกคนต้องการ
00:44:47 → 00:44:52 วิตามินซีอย่างพอเพียงเพียงพอค่ะแต่ถ้า
00:44:52 → 00:44:55 สมมุติว่าวิตามินซีไม่เพียงพอเราก็เกิด
00:44:55 → 00:44:58 โรคใช่มั้ยครับน่าจะมองบมาก
00:44:58 → 00:45:03 น้มันต่อคือร่างกายก็ต้องวิตามิซีใน
00:45:03 → 00:45:07 ปริมาณระดับนึงเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงแค่
00:45:07 → 00:45:10 นั้นพอครับแต่ถ้าเราขาวิตามินซีร่างกาย
00:45:10 → 00:45:13 เราก็เป็นโรคมากไปก็เป็นโรคค่ะผมว่าน่าจะ
00:45:13 → 00:45:16 หมายถึงแบบนั้นมากกว่าครับค่ะเพราะฉะนั้น
00:45:16 → 00:45:20 ถ้าใครแบบเอ้ยกินผักผลไม้น้อยหรือว่ากิน
00:45:20 → 00:45:24 กินอาหารที่เรื่องของวิตามินอาจจะตกลงไป
00:45:24 → 00:45:27 อันนี้เสริมด้วยวิตามินไม่แปลกช่วยได้แต่
00:45:28 → 00:45:30 ถ้าใครกินอาหารครบ 5 หมู่อยู่แล้วกินผัก
00:45:30 → 00:45:33 ผลไม้ดีแล้วผลไม้ผักสดอะไรเงี้ยผลไม้สุด
00:45:33 → 00:45:37 เอ่อก็ก็น่าจะได้รับสารอาหารสารวิตามิน
00:45:37 → 00:45:39 วิตามินพวกเนี้ยครบถ้วนอยู่แล้วก็อาจจะ
00:45:39 → 00:45:42 จำเป็นน้อยหรือไม่จำเป็นเลยก็ได้ใช่มคุณ
00:45:42 → 00:45:46 หมออ๋อใช่ครับถ้าคิดว่ากินอาหารครบ 5
00:45:46 → 00:45:49 หมู่แล้วเพียงพอแล้วการกินวิตามินซีเสริม
00:45:49 → 00:45:53 อาจจะไม่จำเป็นครับครับอแต่แต่พี่โอ๊คพูด
00:45:53 → 00:45:55 ถูกครับหมายถึงว่าถ้าใครคิดว่ากินอาหาร
00:45:55 → 00:46:00 ไม่เพียงพอจะกินเสริมก็โอเคครับครับอืค่ะ
00:46:00 → 00:46:03 อืเป็นยังไงบ้างคะผู้ป่วยโอ๊คชัดเจนมาก
00:46:03 → 00:46:06 ขึ้นมั้ยคะก็เดี๋ยวต้องไปทำอะไรให้มันหาย
00:46:06 → 00:46:09 เจ็บคอเมื่อกี้ตะโกนไปเยอะคุยกับคุณหมอ
00:46:09 → 00:46:12 แล้วมันสนุกดีเออมันก็แบบอยากคุยให้มัน
00:46:12 → 00:46:14 รู้เรื่องหน่อยตัวพูดในลำคอแล้วมันไม่
00:46:14 → 00:46:18 ค่อยได้ยินเออนะครับก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง
00:46:18 → 00:46:20 เรื่องที่แบบเอาเรื่องที่ใกล้ตัวแหละครับ
00:46:20 → 00:46:22 คุณหมอมามาพูดคุยกันแล้วก็วันนี้คุณหมอ
00:46:22 → 00:46:24 ช่วยให้เราได้คำตอบได้เยอะเๆเลยแล้วคุณ
00:46:24 → 00:46:27 ผู้ฟังก็ก็ได้ได้ข้อมูลที่ที่เอาไประมัด
00:46:28 → 00:46:30 ระวังตัวนะใครใครที่ยังไม่เป็นก็ระมัด
00:46:30 → 00:46:31 ระวังตัวใครที่เป็นแล้วก็จะได้ดูแลตัวเอง
00:46:32 → 00:46:35 ได้ดีขึ้นค่ะมีคำถามสุดท้ายเลยค่ะยังไง
00:46:35 → 00:46:38 ครับพี่ขวัญถามมีคุณผู้ฟังถามมาว่าใส่แมส
00:46:38 → 00:46:41 ล้างมือหมดโควิดไปแล้วจริงๆตอนนี้ยังไม่
00:46:41 → 00:46:44 หมดโควิดนะคะคุณผู้ฟังการใส่แมสล้างมือ
00:46:44 → 00:46:48 ยังจำเป็นอยู่มยมากจำเป็นมากแค่ไหนในมุม
00:46:48 → 00:46:52 มองของคุณหมอคะอ๋อผมว่าตรงไปตรงมาเลยครับ
00:46:52 → 00:46:55 จริงๆสุขภาพอนามัยที่ดีเนี่ยก็ยังสำคัญ
00:46:55 → 00:46:59 เสมอครับไม่ว่าจะมีครับวิดเพะว่าการที่
00:46:59 → 00:47:04 เราใส่แสการที่เราล้างมืออย่างสม่ำเสมอ
00:47:04 → 00:47:07 อย่าเงี้ยมันก็ลดการที่เราจะติดโรคมาก
00:47:07 → 00:47:10 ขึ้นสมมุตินะครับสมมุติเราไปอ่าอย่างผม
00:47:10 → 00:47:12 เดินทาง BTS อย่างเงี้ยครับสมมุติผมเดิน
00:47:13 → 00:47:14 ทาง BTS แล้วผมจะกินข้าวอย่างเงี้ยผมก็
00:47:14 → 00:47:17 ต้องล้างมือก่อนเพราะบางทีเราเอามือจากใน
00:47:18 → 00:47:20 ในห้องโดยสาร BTS บางทีเราก็ไม่รู้ว่าตรง
00:47:20 → 00:47:24 ก่อนหน้าเยเคยมีคนไม่สบายมาจับหรึเปล่า
00:47:24 → 00:47:26 หรืออะไรอย่างงี้หรือเปล่าการที่เราล้าง
00:47:26 → 00:47:29 มือหมั่นรักษาความสะอาดอย่างเงี้ยครับบาง
00:47:29 → 00:47:33 ทีครับสมมติสมมตินะครับสมมุติผมเดินทาง
00:47:33 → 00:47:36 BTS เสร็จผมถือแฮมเบอร์เกอร์
00:47:36 → 00:47:38 แฮมเบอร์เกอร์ก็คือกินมือเปล่าใช่มั้ย
00:47:38 → 00:47:41 ครับบางทีอาจจะมีเชื้อโรคผมกินข้าวปากผม
00:47:41 → 00:47:44 ก็อาจจะเป็นเป็นไข้หวัดใหญ่หรือโควิดก็
00:47:45 → 00:47:47 ได้แต่ถ้าผมล้างมือเชื้อโรคมันก็หายไปจาก
00:47:47 → 00:47:50 ล้างมือหรือใช้แอลกอฮอล์แล้วความปลอดภัย
00:47:50 → 00:47:53 ก็มีมากขึ้นครับตรงไปตรงมาครับยังไงก็ยัง
00:47:53 → 00:47:57 แนะนำให้ทำครับแล้วก็อย่างที่ที่บอกสำคัญ
00:47:57 → 00:48:00 สุดคือคนเป็นโรคเนี่ยไม่ควรจะมาที่แอร์
00:48:00 → 00:48:02 อัดเพราะว่ามันจะเสี่ยงต่อการกระจายคน
00:48:02 → 00:48:05 อื่นแต่ก็เป็นเรื่องที่ดีเหมือนกันหมาย
00:48:05 → 00:48:08 ถึงว่าถึงสำคัญสุดคือการที่ให้คนที่เป็น
00:48:08 → 00:48:10 โรคเนี่ยใส่แมสอันนี้สำคัญก็จริงแต่บางที
00:48:10 → 00:48:14 เราบังคับทุกคนไม่ได้การที่เใส่แมสป้อง
00:48:14 → 00:48:17 กันตัวคนตัวเราเองจคนอื่นเี้ครับมันก็
00:48:17 → 00:48:20 ป้องกันได้แต่มันไม่ป้องกันได้ดีเท่าคน
00:48:20 → 00:48:23 ที่เป็นโรคเนี่ยใส่แมสครับค่ะครับแต่หมาย
00:48:23 → 00:48:26 ถึงว่ามันลดการติดลดเปอร์เซ็นต์การติดได้
00:48:26 → 00:48:30 ครับครับค่ะก็นะครับวันนี้ขอบคุณคุณว่า
00:48:30 → 00:48:33 ถ้าไปสถานที่แอร์อัดก็ให้ใส่หน้ากากอย่าง
00:48:33 → 00:48:36 เช่น BTS ครับเหมือนแบบผมเดินทาง VT ทุก
00:48:36 → 00:48:40 วันก็เลยก็เลยแนะนำว่าถ้าไปที่ไารหรือ
00:48:40 → 00:48:43 อะไรอย่างเงี้ยครับก็แนะนำให้ใส่หน้ากาศ
00:48:43 → 00:48:47 อนามัยครับก็จะลดอากาศการติดเชื้อทางเดิน
00:48:47 → 00:48:50 หายใจได้ครับค่ะครับวันนี้ขอบคุณคุณหมอ
00:48:50 → 00:48:53 มากเลยครับโอ้โหคุยสนุกมากเลยตอนแรกคุย
00:48:53 → 00:48:56 คุณหมอว่าไม่รู้จะถึงคุณหมอกลัวว่าจะถึง 1
00:48:56 → 00:48:58 ชั่วโมงร่าเ่าใช่มยงก็แตะๆนะคุณหมอนะตอน
00:48:58 → 00:49:02 แรกผมนึกว่าประมาณ 15 นาทีครับขอบคุณมาก
00:49:02 → 00:49:06 ขอโทษทีที่พาคุณหมอมาคุยยาวเลยเอ๊ทำไมถึง
00:49:06 → 00:49:08 ว่าจะอยู่ใน YouTube YouTube อยู่ครับ
00:49:08 → 00:49:11 เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมส่งไปให้นะครับเดี๋ยว
00:49:11 → 00:49:13 พรุ่งนี้จะมีการอัพขึ้น YouTube ด้วยครับ
00:49:13 → 00:49:15 สำหรับใครที่อยากฟังย้อนหลังก็ฟัง YouTube
00:49:15 → 00:49:17 ได้เช่นกันกับ
00:49:17 → 00:49:20 m. ช่วยส่งมาใน Line ด้วยนะครับผมได้เลย
00:49:20 → 00:49:22 ครับคุณหมอครับขอบคุณมากเลยครับวันนี้
00:49:22 → 00:49:25 ครับครับครับขอบคุณพี่ขวัญสสวัสดีครับ
00:49:25 → 00:49:27 สวัสดี
00:49:27 → 00:49:32 ครับครับผมก็เป็นเอ่อนายแพทย์นะครับกันธร
00:49:32 → 00:49:35 เจริญพจน์นะครับอายุรแพทย์โรคติดเชื้อ
00:49:35 → 00:49:37 ในายแพทย์ชำนาญการโรงพยาบาลเจริญกรุง
00:49:37 → 00:49:40 ประชารักษ์ครับ