00:00:00 → 00:00:03 This Is tha PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:08 Voice การที่เสษอาหารติดคอผมแบ่งเป็น 2
00:00:08 → 00:00:10 แบบก่อนแล้วกันถ้าติดในหลอดอาหารอันเนี้ย
00:00:10 → 00:00:13 สามารถหายใจใช้ชีวิตได้แบบอาจจะทรมานนิด
00:00:13 → 00:00:16 นึงมีอะไรทิ่มๆในคอเนาะแต่อันที่ 2 อัน
00:00:16 → 00:00:18 นี้อันตรายแล้วคือถ้ามันหล่นลงไปที่ที่
00:00:18 → 00:00:20 เราไม่อยากจะให้หล่นคือไปอุดกั้นบริเวณ
00:00:20 → 00:00:23 เอ่อกล่องเสียงหรือบริเวณเอ่อหลอดลมเรานะ
00:00:23 → 00:00:25 ครับแบบที่ 1 คืออุดกั้นบางส่วนพอรอได้
00:00:25 → 00:00:28 เช่นเคนไข้ยังพอออกเสียงได้อีกอันนึงคือ
00:00:28 → 00:00:30 กลุ่มที่เค้าเรียกว่า compete ชก็คือมัน
00:00:30 → 00:00:33 อุดแบบสมบูรณ์แบบอันเนี้ยเขาจะไม่ไม่
00:00:33 → 00:00:35 สามารถออกเสียงได้เลยแล้วก็แป๊บเดียวคือ 4
00:00:35 → 00:00:38 นาทีก็จะขัดอากาศแล้วก็เสียชีวิตหรือมสติ
00:00:38 → 00:00:39 ได้
00:00:39 → 00:00:44 เลยฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทยฟัง
00:00:44 → 00:00:47 รายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:47 → 00:00:49 This Is Toy PBS
00:00:50 → 00:00:52 podcast สวัสดีค่ะคุณผู้ฟังคะขอต้อนรับ
00:00:52 → 00:00:55 เข้าสู่รายการโรงหมอทางไย PBS podcast
00:00:55 → 00:00:58 ค่ะวันนี้พบกันเช่นเคยติดตามสาระของเราใน
00:00:58 → 00:01:00 วันนี้กันได้นะคะเพราะว่าเป็นเรื่องที่
00:01:00 → 00:01:02 อยากให้คุณผู้ฟังตั้งใจฟังเป็นเรื่องใกล้
00:01:02 → 00:01:06 ตัวจริงๆนะคะกับสิ่งแปลกปลอมติดคอทำอย่าง
00:01:06 → 00:01:08 ไรวันนี้เราจะคุยกับนายแพทย์ชัยธวัฒน์
00:01:08 → 00:01:11 ชื่อลือชาแพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉินศูนย์การ
00:01:11 → 00:01:14 แพทย์กาญจนาภิเษกคณะแพทยศาสตร์ศิริราช
00:01:14 → 00:01:17 พยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดลค่ะสวัสดีค่ะคุณ
00:01:17 → 00:01:20 หมอคะครับสวัสดีครับค่ะวันนี้คุยกันมา
00:01:20 → 00:01:23 เป็นเป็นเรื่องราวที่ใกล้ตัวมากดูจากข่าว
00:01:23 → 00:01:26 บ้างบางทีตัวเองก็เจอเหตุการณ์แบบนี้บ้าง
00:01:26 → 00:01:30 กับอะไรที่มันแบบติดคอเป็นสิ่งแปลกปปลอม
00:01:30 → 00:01:32 บ้างเป็นจากอาหารบ้างหรืออะไรพวกนี้เนี่ย
00:01:32 → 00:01:34 ค่ะเดี๋ยวถามคุณหมอก่อนเลยว่าเรื่องของ
00:01:34 → 00:01:37 อ่าสิ่งแปลกปลอมติดคอหรืออะไรต่างๆเหล่า
00:01:38 → 00:01:40 นี้เนี่ยมันมีความเสี่ยงในการเป็นอันตราย
00:01:40 → 00:01:43 ถึงแก่ชีวิตมากน้อยแค่ไหนคะจริงๆสิ่งแปลก
00:01:43 → 00:01:45 ปลอมเนี่ยมันก็เวลาเรากลืนอาหารเข้าไปนะ
00:01:45 → 00:01:48 เดี๋ยวอธิบายอ่ากลไกการกลืนอาหารของคนเรา
00:01:48 → 00:01:51 ให้ฟังคร่าวๆก่อนนะครับก็พอเราคนเรา
00:01:51 → 00:01:54 เคี้ยวข้าวใช่มั้ยครับเคี้ยวเสร็จปุ๊บก็
00:01:54 → 00:01:57 กลืนผ่านตรงบลนคอหอยผ่านลงไปปุ๊บอาจจะมี
00:01:57 → 00:02:00 ทางแยกทั้งหมด 2 ทางครับผมทางแยกนึงคือไป
00:02:00 → 00:02:03 หลอดอาหารตามปกตินะครับมันก็กลืนลงไปผ่าน
00:02:03 → 00:02:05 กระเพาะถูกมั้ยครับแต่ทางที่ 2 เนี่ยเป็น
00:02:05 → 00:02:07 ทางที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้นคือทางที่ลง
00:02:07 → 00:02:11 ไปหลอดลมซึ่งตอนเนี้ยมันมีของที่เป็นตัว
00:02:11 → 00:02:14 ประตูกั้นบางประตูกั้นจะเรียกว่าบางมก็
00:02:14 → 00:02:17 เป็นคล้ายๆแผ่นๆนึงนะครับก็เรียกว่าตัว
00:02:17 → 00:02:19 กล่องเสียงเนี่ยจะคอยปิดเปิดอยู่สมมุติ
00:02:19 → 00:02:21 ว่าเรากลืนอาหารปุ๊บกล่องเสียงก็จะปิด
00:02:21 → 00:02:23 อาหารก็จะลงไปหลอดอาหารแต่ถ้าสมมุติเผลอ
00:02:23 → 00:02:26 พลั้งหรือว่ามีความผิดปกติหรือมีความ
00:02:26 → 00:02:27 เสื่อมสภาพไปเนี่ยไอ้กล่องเสียงเยมันทำ
00:02:27 → 00:02:31 งานไม่ได้หรือว่ามันเผลอเปิดปุ๊บแล้วไอ้
00:02:31 → 00:02:34 อ่อตัวเศษอาหารหรือตัวสิ่งปัดปลอมเนี้ย
00:02:34 → 00:02:36 มันเข้าไปตรงหลอดหลอดลมเนี่ยอันนี้เรื่อง
00:02:36 → 00:02:38 ใหญ่เลยอันเนี้ยต้องเป็นหน้าที่ผมที่ต้อง
00:02:38 → 00:02:40 จริงๆไม่ใช่หน้าที่ผมเป็นหน้าที่ของเอ่อ
00:02:40 → 00:02:44 คุณผู้ฟังทุกคนที่สามารถเอ่อเจอประสบแล้ว
00:02:44 → 00:02:46 ก็ช่วยเหลือชีวิตเขาได้นะครับเพราะว่าถ้า
00:02:46 → 00:02:49 มันเอ่อติดที่บริเวณหลอดลมแล้วก็เอาไม่
00:02:49 → 00:02:51 ออกเนี่ยก็จะย้อนกลับไปเหมือนเทปที่แล้ว
00:02:51 → 00:02:54 เหมือนว่าที่ว่าเอ่อคนเราขัดอากาศหายใจจะ
00:02:54 → 00:02:56 เป็นอย่างไรอ้าเหมือนกันเลยครับก็จะทำให้
00:02:56 → 00:02:59 อย่างที่มีเคยเอ่อเคยที่ผมกล่าวไปเทปที่
00:02:59 → 00:03:02 แล้วเป็นการการทดลองแล้วก็เป็นที่เค้า
00:03:02 → 00:03:05 หลักฐานวิชาการว่า 4 นาทีถ้าเราขาดอากาศ 4
00:03:05 → 00:03:08 นาทีก็จะอันตรายถึงแก่ชีวิตหมดสติแล้วก็
00:03:08 → 00:03:10 กลายเป็นเจ้าหญิงนิทานแล้วก็สุดท้ายก็
00:03:10 → 00:03:13 เสียชีวิตได้นะครับผมเพราะฉะนั้นในวินาที
00:03:13 → 00:03:16 ชีวิต 4 นาทีนี้ที่มีอะไรไปอุดกั้นทาง
00:03:16 → 00:03:19 เดินหายใจจากการที่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไป
00:03:19 → 00:03:22 จะด้วยการที่เอ่อรู้เทมาถึงการหยิบเข้าไป
00:03:22 → 00:03:26 หรือจังหวะบังเอิญจริงๆที่แทนที่จะไปลง
00:03:26 → 00:03:29 หลอดอาหารมันเข้ามาที่หลอดลมซึ่งมันอยู่
00:03:29 → 00:03:32 ลงมาเส้นเดียวกันแล้วมันแยกทางเดินแบบนี้
00:03:32 → 00:03:37 ถูกมั้ยคะทางกายภาพก็เลยทำให้งกายภาพอ๋อ
00:03:37 → 00:03:40 เวลาที่เรากินอะไรเข้าไปหรือมีการเอาอะไร
00:03:40 → 00:03:42 เข้าไปเนี่ยมันมีความเสี่ยงในการที่จะ
00:03:42 → 00:03:45 เข้าไปที่หลอดลมได้มันฟังดูเหมือนจะคนละ
00:03:45 → 00:03:47 คนละคนละระบบกันเลยเนาะทางเดินหายใจกับ
00:03:47 → 00:03:49 ทางเดินอาหารแต่จริงๆเนี่ยตรงบริเวณคอเรา
00:03:49 → 00:03:52 เนี่ยครับห่างกันนิดเดียวเองแเป็นเอื้อม
00:03:52 → 00:03:54 มือไม่ถึงเอื้อมมือด้วยสั้นมากใชว่า
00:03:54 → 00:03:56 เอื้อมมือยังไกลไปเลยครับนิดเดียวใกล้กัน
00:03:56 → 00:03:59 ใกล้กันมากใชใช้คำว่าเอื้อมมือยังไกลก็
00:03:59 → 00:04:02 แสดงว่าอ่าไอ้ที่แผ่นที่อุดที่ปิดเอาไว้
00:04:02 → 00:04:05 ปิดกั้นเอาไว้คือตัวสำคัญเลยในช่วงจังหวะ
00:04:05 → 00:04:08 นั้นที่แบบในในระหว่างที่เรากินอะไรเข้า
00:04:08 → 00:04:11 ไปคือเอาอะไรใส่เข้าปากแหละไม่ไม่ได้เน้น
00:04:11 → 00:04:13 เฉพาะแค่เรื่องของการกินอย่างเดียวใช่มั้
00:04:13 → 00:04:17 คะเพราะว่าคือการหายใจมันก็ส่วนหนึ่งกิน
00:04:17 → 00:04:20 อาหารเข้าไปมันก็เป็นอีกเส้นเส้นนึงคือ
00:04:20 → 00:04:22 จริงๆมันคนละเส้นนั่นแหละใช่ครับทีนี้คุณ
00:04:22 → 00:04:25 หมอบอกว่านี่ 4 นาทีเนี้ยมันอันตรายถึง
00:04:25 → 00:04:29 ชีวิตมันระยะเวลา 4 นาทีมันสั้นมากเลยนะ
00:04:30 → 00:04:32 ก็จริงๆแล้วคนร่างกายคนเรามันก็ฉลาดนะ
00:04:32 → 00:04:36 ครับมันไม่ถึงขั้นว่าอเอาเริ่มก่อนว่ากอะ
00:04:36 → 00:04:38 การที่เสษอาหารติดคอผมแบ่งเป็น 2 แบบก่อน
00:04:38 → 00:04:40 แล้วกันก็อย่างที่บอกถ้าติดในหลอดอาหาร
00:04:40 → 00:04:42 อันเนี้ยจะเป็นเป็นแค่เร่งดดเช่นก้างปลา
00:04:42 → 00:04:45 ติดคอรู้สึกว่าเ้ยมีอะไรทิ่มๆในหลอดอาหาร
00:04:45 → 00:04:47 แต่ว่าเรายังสามารถหายใจใช้ชีวิตได้แบบ
00:04:47 → 00:04:50 อาจจะทรมานนิดนึงมีอะไรทิ่มๆในคอเนาะแต่
00:04:50 → 00:04:52 อันที่ 2 อันเนี้ยอันเนี้ยอันตรายแล้วคือ
00:04:52 → 00:04:54 ถ้ามันหล่นลงไปที่ที่เราไม่อยากจะให้หล่น
00:04:54 → 00:04:57 คือไปอุดกั้นบริเวณเอ่อกล่องเสียงหรือ
00:04:57 → 00:04:59 บริเวณเอ่อหลอดลมเราอันเนี้ยครับซึ่งไอ้
00:04:59 → 00:05:02 อุดกั้นบริเวณหลอดลมก็แบ่งเป็น 2 แบบอีก
00:05:02 → 00:05:05 นะครับแบบที่ 1 คืออุดกั้นบางส่วนถ้าอุด
00:05:05 → 00:05:08 กั้นบางส่วนเนี่ยอาจจะพอรอได้เช่นเคนไข้
00:05:08 → 00:05:10 ยังพอออกเสียงได้เจะทำท่าอย่างงี้ครับเจะ
00:05:10 → 00:05:12 จับจับบริเวณที่คอหรือว่าทุบหน้าอกว่า
00:05:12 → 00:05:15 เฮ้ยมีอะไรติดอยู่ในในคอเรานะอะไรอันนี้
00:05:15 → 00:05:17 สิ่งที่ที่ต้องสังเกตนะครับผมแล้วก็อีก
00:05:17 → 00:05:20 อันนึงคือกลุ่มที่อันเนี้ยน่าน่ากลัวที่
00:05:20 → 00:05:21 สุดคือกลุ่มที่เค้าเรียกว่า Complete
00:05:21 → 00:05:23 obstruction ก็คือมันอุดแบบสมบูรณ์แบบ
00:05:23 → 00:05:26 อันเนี้ยเขาจะไม่ไม่สามารถออกเสียงได้เลย
00:05:26 → 00:05:29 แล้วก็อันเนี้ยแป๊บเดียวคือ 4 นาทีก็จะ
00:05:29 → 00:05:31 เหมือนกลับไปสู่เรื่องเดิมเลยก็คือขัดขัด
00:05:31 → 00:05:34 อากาศแล้วก็เสียชีวิตหรือหมดสติได้เลยคือ
00:05:34 → 00:05:38 มันมันจังหวะจริงๆเนาะมันไม่มีใครบอกได้
00:05:38 → 00:05:42 อ่ะคือแบบยิ่งถ้าเกิดว่ามาอุดกั้นแบบ 100%
00:05:42 → 00:05:44 แบบนี้ทำอะไรไม่ได้เลยอ่ะบางทีอย่างที่
00:05:44 → 00:05:46 บอกมันจะอาจจะอุดกั้นบางส่วนก่อนแต่พอมัน
00:05:46 → 00:05:49 ค่อยๆขยับไอไปไอมาแล้วมันไอไม่ออกมันก็ลง
00:05:49 → 00:05:51 ค่อยๆลงไปลึกๆก็กลายเป็นอุดกั้นจนสมบูรณ์
00:05:51 → 00:05:54 แบบอ่ะครับแต่คือร่างกายโดยกนไกปกติอ่ะ
00:05:54 → 00:05:57 เวลาที่มันมีอะไรเข้าไปมันก็จะต้องพยายาม
00:05:57 → 00:06:00 ที่จะเอามันออกมาเนาะจะไอจะพยายามที่จะ
00:06:00 → 00:06:03 อ่าขากหรืออะไรออกมาอย่างเงี้ยมันก็เป็น
00:06:03 → 00:06:05 เรื่องปกติเนาะอุ้ยถ้าอย่างงี้แล้วไม่ไอ
00:06:05 → 00:06:08 สิไม่งั้นเดี๋ยวมันขยับได้นะคะอันนี้ก็
00:06:08 → 00:06:11 คืออ่ะเป็นกลไกของร่างกายตามธรรมชาติอ่ะ
00:06:11 → 00:06:15 นะคะแต่ทีนี้สิ่งที่คุยกับคุณหมอวันนี้ก็
00:06:15 → 00:06:17 คือว่ามันมีอยู่ 2 ส่วนติดในหลอดอาหารยัง
00:06:17 → 00:06:19 ไม่เท่าไหร่เพราะว่าอันนี้ก็เจอบ่อยเขา
00:06:19 → 00:06:22 ถึงบอกว่าเวลาที่รับประทานอาหารอยู่ไม่
00:06:22 → 00:06:25 ควรที่จะคุยหรือว่าอะไรอะไรอย่างเงี้นะคะ
00:06:25 → 00:06:28 ที่ผู้ใหญ่โบร่ำโบราณบอกเออเคี้ยวอาหารก็
00:06:28 → 00:06:31 อยคุยเนาะให้เคี้ยวอาหารไปมันอาจจะเป็น
00:06:31 → 00:06:33 กุศโลบายอย่างหนึ่งที่เป็นเรื่องที่
00:06:33 → 00:06:35 เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยอเนาะว่ามันอาจจะ
00:06:36 → 00:06:40 ไปหล่นในหลอดลมได้ซึ่งเราไม่รู้หรอกว่า
00:06:40 → 00:06:42 อาหารแค่บางส่วนหรือนิดนึงหรืออะไรอย่าง
00:06:42 → 00:06:44 เงี้ยมันจะทำให้ถึงแก่ชีวิตได้เพราะว่า
00:06:44 → 00:06:47 อย่างคุณหมอบอกว่าอย่างผู้สูงอายุก็มี
00:06:47 → 00:06:49 ความเสี่ยงเด็กก็มีความเสี่ยงเพราะว่าอ่ะ
00:06:49 → 00:06:53 ผู้สูงอายุก็ร่างกายสภาพอะไรต่างๆมันก็
00:06:53 → 00:06:57 เสื่อมไปตามตามวัยอยู่ะมันอาจจะได้เหมือน
00:06:57 → 00:07:01 กันใช่มก็ในในเค้าเรียกว่าฐานข้อมูล
00:07:01 → 00:07:04 ประชากรที่เกิดเสียชีวิตจากเอ่อสิ่งแปอุด
00:07:04 → 00:07:06 กั้นอุดอุดกลั้นนะครับก็จะแบ่งเป็น 2
00:07:06 → 00:07:09 ช่วงอายุใหญ่ๆ 2 ช่วงอายุใหญ่ๆก็คือเป็น
00:07:09 → 00:07:11 เด็กไปเลยประมาณแบบประมาณน้อยกว่า 7 ขวบ
00:07:11 → 00:07:13 นะครับเด็กเล็กๆอใช่เพราะว่าเขาอย่างที่
00:07:13 → 00:07:16 บอกเาจับอะไรเข้าปากได้ค่อนข้างง่ายมากนะ
00:07:16 → 00:07:19 ครับก็สประสบการณ์ที่เจอมาก็ตั้งแต่ฝาขวด
00:07:19 → 00:07:22 น้ำหรือว่าพวกของเล่นนะครับแล้วก็อาหาร
00:07:22 → 00:07:24 พวกเนี้ยเขาจับเข้าปากแล้วอย่างที่บอก
00:07:24 → 00:07:26 อย่างที่บอกว่าไอ้ตัวฝากล่องเยทยังทำงาน
00:07:26 → 00:07:29 ไม่ค่อยดีอย่างเงี้ยก็พลาดไปลงที่หลอดลม
00:07:29 → 00:07:31 นะครับส่วนผู้ใหญ่ส่วนอีกอันนึงคือกลุ่ม
00:07:31 → 00:07:33 ผู้สูงอายุก็ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปเลยกลุ่ม
00:07:33 → 00:07:35 นี้ก็ก็เกิดค่อนข้างบ่อยนะครับก็อย่าง
00:07:35 → 00:07:38 เช่นบางทีก็ฟันปลอมหลุดหลุดหลุดลงไปอะไร
00:07:38 → 00:07:41 เงี้ยพูดๆอยู่ฟันปอมหล่นลงไปอย่างเงี้ย
00:07:41 → 00:07:43 ครับแล้วก็อาหารเหมือนกันก็บางทีคนไข้ที่
00:07:43 → 00:07:45 เป็นผู้ป่วยติดเตียงหรือผู้ป่วยที่มี
00:07:45 → 00:07:48 ปัญหาเรื่องระบบประสาทการกลืนเขจะไม่ค่อย
00:07:48 → 00:07:51 ดีเท่าเท่าคนปกติอย่างพวกเราก็กบางทีกลืน
00:07:51 → 00:07:54 ไปกลืนมาฝาปิดเปิดปิดๆเปิดๆไม่ถูกต้องก็
00:07:54 → 00:07:57 ลงหลอดลมได้ก็กลุ่มเนี้ยเป็นประชากรที่
00:07:57 → 00:07:59 น่าเป็นห่วงที่สามารถเกิดขึ้นเอ่อเกิด
00:07:59 → 00:08:03 สิ่งปปลอมอุดตันที่ลำคอได้ตลอดเวลาจำว่า
00:08:03 → 00:08:05 ตลอดเวลาเลยนะครับบางบางทีนั่งๆกินข้าว
00:08:05 → 00:08:07 อยู่เห็นต่อหน้าเงี้ยป๊บุเกิดอาการเลย
00:08:07 → 00:08:09 เนี่ยครับแต่ว่าไม่ต้องกลัวครับวันนี้ผม
00:08:10 → 00:08:12 จะมาสอนว่าเราสามารถคอนเซปเดิมครับผมใช้
00:08:12 → 00:08:15 แค่สติสมอง 2 มือสามารถช่วยเหลือคนไข้ได้
00:08:15 → 00:08:18 ครับสติสมอง 2 มือใช่ครับฟังดูเหมือนแบบ
00:08:18 → 00:08:21 ว่าไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรให้ให้ยุ่งยาก
00:08:21 → 00:08:23 เลยอ่ะแต่เดี๋ยวก่อนอันนี้ขอสงสัยนิดนึง
00:08:23 → 00:08:27 คืออย่างผู้สูงอายุอ่ะค่ะเป็นฟันปลอมติด
00:08:27 → 00:08:30 คอฟันปลอมที่ว่าเนี่ยเป็นเป็นแบบที่เขาค
00:08:30 → 00:08:32 ทำเป็นแบบซี่ๆอะไรอย่างงี้รือเปล่าคะหรือ
00:08:32 → 00:08:34 ว่าเเป็นแบบก็ได้ได้หมดเลยครับก็บางทีบาง
00:08:34 → 00:08:36 ทีเา้าก็ทำเป็นแผงๆแบบไม่ได้เป็นแบบนึก
00:08:36 → 00:08:39 ภาพฟันฟอมที่เป็นแบบอ้าๆได้ใช่มครับอัน
00:08:39 → 00:08:42 นี้อาจจะบางคนเทำเป็นแค่แผงเดียวนึกออก
00:08:42 → 00:08:44 มั้ยครับมันก็เราก็ลงไปแบบลงไปตรงๆอ่ะก็
00:08:44 → 00:08:47 อุดกั้นแล้วอะไรอย่างเงี้ยเฮ้ยใช่ๆมันจะ
00:08:47 → 00:08:50 ลงไปสว่าฟันฟันซี่ๆถามว่าอุดกั้นมั้ยก็
00:08:50 → 00:08:52 ถ้ามันลงไปลึกๆมันก็ตันได้นะครับแต่มัน
00:08:52 → 00:08:54 อาจจะไม่ได้ถึงขั้นแบบเป็น compete
00:08:54 → 00:08:56 obstruction ที่ผมบอกอาจะอุดตันบางส่วน
00:08:56 → 00:08:58 อะไรเงี้ยครับอือ๋อมันอาจจะไปทำไปโดนกับ
00:08:58 → 00:09:01 ไอ้แผ่นปิดตรงนั้นแล้วมันอาจจะไปค้างอยู่
00:09:01 → 00:09:04 แล้วก็มีมีช่องแผ่นปิดเนี่ยเผยอคือมันไม่
00:09:04 → 00:09:08 ปิดสุดก็ก็เป็นไปได้ประมาณนั้นครับโอ้โห
00:09:08 → 00:09:11 มันทรมานน่าดูเลยอ่ะเรื่องเรดดครับอันนี้
00:09:11 → 00:09:13 ต้องต้องมาที่ห้องห้องฉุกเฉินเลยครับใช่
00:09:13 → 00:09:14 อ้าเราต้องสังเกตยังไงมั้ยอ่ะอ้าขอข้อ
00:09:15 → 00:09:18 สังเกตก่อนได้มว่าถ้าอย่างเด็กมีอะไรติด
00:09:19 → 00:09:21 คอผู้สูงอายุมีอะไรติดคอเพราะเาก็เป็น
00:09:21 → 00:09:24 กลุ่มเสี่ยงที่ค่อนข้างที่จะตลอดเวลาที่
00:09:24 → 00:09:26 คุณหมอบอกหรือแม้กระทั่งเอาตัวเรานี่แหละ
00:09:26 → 00:09:29 นะจะมีข้อสังเกตยังไงสมมุติเรานั่งกิน
00:09:29 → 00:09:32 ข้าวอยู่ป้อนข้าวเด็กอยู่หรืออ่าเล่นกัน
00:09:32 → 00:09:34 อยู่หรืออะไรอย่างเงี้ยมันมีอะไรที่แบบ
00:09:34 → 00:09:36 ผิดปกติที่เราแบบสังเกตได้มั้ยครับขั้น
00:09:36 → 00:09:39 ตอนที่ 1 เลยก็กลุ่มนี้เขาอย่างที่บอกถ้า
00:09:39 → 00:09:42 เริ่มติดแบบพาเชียวหรือติดแบบบางส่วนเข้า
00:09:42 → 00:09:46 ไปก่อนเขาจะรร่างกายก็ฉลาดก็จะไอจับที่คอ
00:09:46 → 00:09:48 บ้างเอาามือทุบที่หน้าอกเขาก็จะพูดเป็น
00:09:48 → 00:09:51 เสียงแหบๆออกมาเสียงออกมาแบบเหมือนพูดได้
00:09:51 → 00:09:53 ไม่สุดนะครับก็จะบอกเฮ้ยอะไรติดคออะไรติด
00:09:53 → 00:09:54 คออะไรอย่างเงี้ยครับอย่างเงี้ยเราต้อง
00:09:54 → 00:09:57 เริ่มสังเกตแล้วแบบอแบบว่าอย่างเงี้ยเป็น
00:09:57 → 00:10:01 ทรานที่ว่าเมีสิ่งไปปอมติดที่คอค่ะครับ
00:10:01 → 00:10:04 แล้วก็สักพักนึงถ้ามันค่อยๆลงลึกไปหรือ
00:10:04 → 00:10:06 เราเราอาจจะชะล่าใจไม่ได้เข้าไปดูเนี่ยย
00:10:06 → 00:10:08 มันจะค่อยๆลงลึกก็จะไม่มีเสียงไม่มีเสียง
00:10:08 → 00:10:11 เนี่ยสักพักนึงก็เข้าจหมดสติได้ฉะนั้นผม
00:10:11 → 00:10:13 ว่าก็กลับมาที่เดิมถ้าเรามีสติแล้วเห็น
00:10:13 → 00:10:15 ว่าเขาเริ่มมีอาการจับที่คอมีอาการทุบ
00:10:15 → 00:10:17 บริเวณที่หน้าอกหรือไอพยายามไออะไรออกมา
00:10:17 → 00:10:19 สักอย่างนึงอ่ะผมว่ามันเห็นเนาะเหมือนคน
00:10:19 → 00:10:22 เราสเราสำลักน้ำอ่ะครับคุณรีนึกออกมั้ย
00:10:22 → 00:10:23 ครับแล้วเราสำลักน้ำแล้วแบบมันก็จะไอเยอะ
00:10:23 → 00:10:26 ๆเยะๆแต่เนี้ยไอจนผิดสังเกตหน้าแดงจนหน้า
00:10:26 → 00:10:28 ม่วงเลยอย่างเงี้ครับอย่างเงี้ยคืออย่า
00:10:28 → 00:10:30 เงี้ยผมว่าน่าจะต้องเป็นเป็นต้องรีบเข้า
00:10:30 → 00:10:33 เข้าให้การช่วยเหลือแหละอก็งั้นขออนุญาต
00:10:33 → 00:10:35 เริ่มเริเริ่มสอนวิธีการช่วยเหลือเลยนะ
00:10:35 → 00:10:37 ครับก็จะแบ่งเป็นผู้ใหญ่กับเด็กก่อนนะ
00:10:37 → 00:10:40 ครับอเอ่อผมผมตีว่าเกินถ้าเป็นเด็กเกิน 7
00:10:40 → 00:10:42 ขวบหรือ 8 ขวบอ่ะครับก็จะเป็นเริ่มเริ่ม
00:10:42 → 00:10:44 ร่างร่างกายโตแล้วจะอาจจะทำแบบเหมือนผู้
00:10:44 → 00:10:46 ใหญ่ได้ค่ะขออนุญาตไปสอนแบบผู้ใหญ่ก่อนนะ
00:10:46 → 00:10:50 ครับผู้ใหญ่ก็คือเราจะทำการวิธีเป็น hd
00:10:50 → 00:10:52 Man นะครับ HD Man ฟังดูเหมือนอุ๊ยทำไม
00:10:52 → 00:10:55 ดากจังเลยไม่ยากครับไม่ยากก็คือสมมุติมี
00:10:55 → 00:10:57 คนไข้อย่างที่บอกไปนั่งอยู่กนั่งอยู่ข้าง
00:10:57 → 00:11:00 ๆเราคุณคุณยายเราเฮ้ยน่าจะกลืนอะไรสัก
00:11:00 → 00:11:02 อย่างนึงแล้วติดคอแล้วยายพูดเสียงแหมๆะ
00:11:02 → 00:11:05 เราที่มีกำลังวังชาอยู่ใช่มั้ครับก็เอ่อ
00:11:05 → 00:11:08 ถ้าเป็นท่านั่งคนั่งกินข้าวอยู่อย่าง
00:11:08 → 00:11:10 เงี้ยก็โอบเอาตัวเราเนี่ยครับโอบไปด้าน
00:11:10 → 00:11:12 หลังโเข้าด้านหลังครับจากด้านหลังนะครับ
00:11:12 → 00:11:15 โอบเข้าไปที่ที่ตัวของคุณยายหรือคนไข้ที่
00:11:15 → 00:11:18 เราสงสัยว่ามีสิ่งแบบปอุดกั้นนะครับใช้
00:11:18 → 00:11:21 มือด้านถนัดนะครับกำกำโดยเอานิ้วโป้งไว้
00:11:21 → 00:11:24 ข้างในแล้วก็กำลงไปนะครับนิ้วโป้งไว้ข้าง
00:11:24 → 00:11:27 ในแล้วกำลงไปแล้วก็เอาเอาตัวไอ้ตัวกำกำ
00:11:27 → 00:11:30 หมัดเราเนี่ยครับไปบเวนตรงลิ้นปี่ลิ้นปี่
00:11:30 → 00:11:33 คือถ้าไล่ตรงชายโครงขึ้นมาเนี่ยไล่ขึ้นมา
00:11:33 → 00:11:35 เรื่อยๆปึ๊บมันจะมาชนกันตรงกลางพอดีตรง
00:11:35 → 00:11:39 เนี้ยครับน้งจะบุมๆลงไปนิดนึงใช่ครับถูก
00:11:39 → 00:11:42 ต้องเอาเงี้ยวางลงไปที่บริเวณไอ้ตรงบุมๆ
00:11:42 → 00:11:44 เนี่ยครับครับแล้วก็เอามือข้างที่ไม่ถนัด
00:11:44 → 00:11:49 นะครับก็ขับมามามาประคองอ่าตัวกำกำกำ
00:11:49 → 00:11:52 กำปั้นเราแล้วก็ตอนเนี้ยถ้าเราจะอยู่ที่
00:11:52 → 00:11:54 ถ้าเราจะโอบไว้กับคนคนไข้อยู่ข้างหลังใช่
00:11:55 → 00:11:57 มยแล้วก็มือกำอยู่ที่บริเวณลิ้นปีของคน
00:11:57 → 00:11:59 ไข้แล้วก็กระทุ้งเลยครับกระทุ้งทุ้งไปไป
00:12:00 → 00:12:03 เ่อขึ้นไปทด้านหลังและขึ้นบนปึกแบบนี้มัน
00:12:03 → 00:12:06 จะเกิดแรงดันที่เราออกจากบริเวณหมัดเนี่ย
00:12:07 → 00:12:10 ขึ้นไปไปที่หลหลอดอาหารเอ่อหลอดลมเราหลอด
00:12:10 → 00:12:11 ลมเราเป็นหลอดที่เป็นมีลมอยู่อ่ะครับ
00:12:11 → 00:12:14 เพราะพอเราออกแรงปุ๊บลมเนี้ยแรงเก็จะดด
00:12:14 → 00:12:18 ดันดันลมให้มันปปล่อยเ่อตัวออาหารที่มัน
00:12:18 → 00:12:21 ติดติดอยู่ออกมาเรียกว่า her Man คือ
00:12:21 → 00:12:23 เหมือนกแบบว่าก็ต้องทุบเข้าไปกทุงจะไม่
00:12:23 → 00:12:26 ไม่ใช่ทุเป็นกระทุ้งแบบกระทุ้งเข้าไปคือ
00:12:26 → 00:12:29 อย่าทำตรงบริเวณกระดูกนะครับมันจะลงธง
00:12:29 → 00:12:31 กระดูกที่คงมาชนกันมันจะหวำลงไปนิดนึง
00:12:31 → 00:12:34 ตรรงเนี้ยเอาเอาตรงสันมือเอ่อตรงสันหมัด
00:12:34 → 00:12:37 ที่ที่เรากำไว้นะครับนิ้วโป้งตรงนิ้วโป้ง
00:12:37 → 00:12:41 ที่มันที่ที่เรากำไว้ครับจบเอ่อเอ่อจรดไป
00:12:41 → 00:12:42 ตรงบริเวณนั้นแล้วก็เอามืออีกอันนึง
00:12:43 → 00:12:45 ประคองไว้แล้วก็ดันขึ้นไปออมันจะเกิดแรง
00:12:45 → 00:12:47 ดันใช่กระทุ้งกระทุงใช่ว่ากระทุ้งถูกต้อง
00:12:47 → 00:12:49 ครับกระทุ้งขึ้นไปกระทุ้งไปเรื่อยๆประมาณ
00:12:49 → 00:12:52 5-6 ครั้งเขาจะถ้าถ้าเราทำได้ถูกต้องไอ้
00:12:52 → 00:12:55 ตัวสิ่งแปอมเมันก็จะปุ๊บออกมาตามแรงดัน
00:12:55 → 00:12:57 ที่เราออกที่เราส่งไปครับผมออแต่ถ้าสมมติ
00:12:58 → 00:13:00 ว่ากดยังไงก็ไม่ออกไม่ออกสักอย่างที่ผม
00:13:00 → 00:13:02 บอกถ้ามันไม่ออกเนี่ยมันจะค่อยๆลงลึก
00:13:02 → 00:13:04 เรื่อยๆถ้าลงลึกเรื่อยๆก็คือจะเห็นว่าคน
00:13:04 → 00:13:07 ไข้ไม่พูดแล้วก็จะพูดไม่มีเสียงค่ะถ้าแบบ
00:13:07 → 00:13:09 นี้ก็กลับมากลับมาเหมือนเดิมเลยก็คือ
00:13:09 → 00:13:11 อย่างเงี้ยแสดงว่ากระทุ้งไม่น่าออกและสัก
00:13:11 → 00:13:13 พักนึงเขาอาจจะอาจจะหมดสติไปก็เริ่มต้น
00:13:13 → 00:13:16 เป็น CPR หรือหรืออะไรได้เลยก็จริงๆขอโทษ
00:13:16 → 00:13:18 ครับผมลืมไปก็ตั้งสติแล้วก็ถ้าเจอแบบ
00:13:18 → 00:13:20 เนี้ยถ้าเราทำอะไรไม่ถูกก็ 1669 นะครับ
00:13:20 → 00:13:23 สายด่วนฉุกเฉินเหมือนกันให้เขามาช่วย
00:13:23 → 00:13:26 เหมือนกันว่าแบบเฮ้ยฉันไม่แน่ใจว่าอันนี้
00:13:26 → 00:13:28 คืออะไรคืออาการสิ่งแปองที่คอหรือเปล่า
00:13:28 → 00:13:30 ทำไมแม่ฉันไอหน้าเขียวแบบนี้อะไรอย่าง
00:13:30 → 00:13:33 เงี้ครับใช่ก็โทรตั้งแต่เนิ่นๆเลยหรือถ้า
00:13:33 → 00:13:35 เราช่วยแล้วไม่ออกอาจจะให้ใครสักคนนึงโทร
00:13:35 → 00:13:38 ให้เราระหว่างที่เราช่วยก็ได้ครับผมค่ะ
00:13:38 → 00:13:40 โอ๊ยแต่มันเวลามันสั้นมากสั้นมากครับมัน
00:13:40 → 00:13:43 สั้นมากต้องมีสติผมว่ามันมันจะเลื่อนไหล
00:13:43 → 00:13:46 ลงมาแบบอุดกั้นผมผมเลยมองว่าถ้าแบบถ้าเรา
00:13:46 → 00:13:48 ตั้งเราเราเรามีสติผมก็โทรก่อนเลยดีกว่า
00:13:48 → 00:13:50 แล้วเราก็รีบโทรไปช่วยไปเลยดีกว่าระหว่าง
00:13:50 → 00:13:53 เนี้ย 4 นาทีนี้เผื่อเขาจะได้เอารถพยาบาล
00:13:53 → 00:13:56 อะไมาช่วยเราอีกทีนึงครับค่ะก็แสดงว่าใน
00:13:56 → 00:13:58 ช่วงเวลานั้นเนี่ยจะโทรอย่างเดียวไม่ได้
00:13:58 → 00:14:01 คือเราต้องช่วยก่อนครับคือยังไงก็ได้ในใน
00:14:01 → 00:14:04 ระหว่างนั้นโหยืดเวลากว่านี้หน่อยไม่ได้
00:14:04 → 00:14:07 เหรเป็นกลไกร่างกายครับผมร่างกายเรา 4
00:14:07 → 00:14:10 นาทีที่มีค่าเอาเวลานะเอาจริงๆนะต่อให้
00:14:10 → 00:14:13 คุณหมอบอกว่าเอ้ยมันต้องมีสตินะหรือเมัน
00:14:13 → 00:14:16 อารามตกใจแล้วก็เป็นห่วงอ่ะเตัวเองเนาใช่
00:14:16 → 00:14:20 มมันโอยขอยืดเวลาได้มั้ยคะมีอะไรต้องกด
00:14:20 → 00:14:23 หยุดเวลาเออได้มั้ยอ่ะอันนี้คือเทคนิค
00:14:23 → 00:14:26 วิธีการในการที่จะช่วยเบื้องต้นนะของคน
00:14:26 → 00:14:30 ที่อ่ะอายุเเด็กตั้งแต่ 7 ขวบขึ้นไปจนถึง
00:14:30 → 00:14:32 ผู้สูงอายุก็ใช้วิธีเนี้ยผู้ใหญ่ครับผม
00:14:32 → 00:14:34 ที่เรารู้สึกว่ามองเเป็นเริ่มเป็นผู้ใหญ่
00:14:34 → 00:14:37 แล้วใช้วิธีนี้อก็วิธีนี้ใช่วิธีเดียวเลย
00:14:37 → 00:14:39 ใช่มั้ยคะวิธีเดียวครับก็จริงๆอีกวิธีนึง
00:14:39 → 00:14:41 แต่ส่วนตัวผมไม่ค่อยแนะนำคือถ้าอยู่คน
00:14:41 → 00:14:44 เดียวถ้าอยู่คนเดียวแล้วแล้วติดคอไม่มี
00:14:44 → 00:14:46 ใครช่วยกระทุ้งเราทำไงล่ะเอให้ทายเทำเให้
00:14:46 → 00:14:49 ทำไงเราเหรอเราทำยังไงใช่มั้ยอยู่คนเดียว
00:14:49 → 00:14:50 สมมติคนรีอยู่คนเดียวแล้วอะไรติดคอแล้ว
00:14:50 → 00:14:55 มันไอไม่ออกไอไม่ตายอยู่ตรงนั้นมแต่บาย
00:14:55 → 00:14:58 บายพินัยกรรมเลยใช่มั้ยเออเขียเขียน
00:14:58 → 00:15:01 Facebook ลเลยค่ะ 4 นาทีขอเวลาเขียน
00:15:01 → 00:15:02 Facebook แป๊บเดียวค่ะไม่ได้ครับไม่ได้
00:15:02 → 00:15:07 จริงเบอกว่าให้หาขอบโต๊ะหรือว่าเอ่อตัว
00:15:07 → 00:15:09 เก้าอี้ที่มันเป็นเป็นมุมขึ้นมาอย่าง
00:15:09 → 00:15:11 เงี้ยแล้วก็ตัวเองอ่ะดันดันตัวเองอ่ะชน
00:15:11 → 00:15:14 กับบริเวณตรงไอ้ตรงล้ลิ้นปีที่ว่าเมื่อ
00:15:14 → 00:15:17 กี้ครับตรงชนเข้าไปเพื่อให้ไอ้ตัวเก้าอี้
00:15:17 → 00:15:19 หรือโต๊ะเนี่ยส่งแรงดันแทนกำกับหมัดเรา
00:15:19 → 00:15:22 เพราะว่าที่ไม่ไม่ไม่ encourage ให้ให้
00:15:22 → 00:15:23 ใช้หมัดตัวเองเพราะว่าร่างกายเราจะแบบมัน
00:15:24 → 00:15:27 จะไม่ทำให้ตัวเองเจ็บอ่ะครับจะไม่กล้าเเร
00:15:27 → 00:15:29 บอกว่าให้ใช้เอาตัวตัวเราอ่ะกระทุ้งกโต๊ะ
00:15:29 → 00:15:31 ไปประมาณนั้นเดี๋ยวนะเรายังกระทุ้งตัวเอง
00:15:32 → 00:15:34 ไม่ได้แล้วเราจะเอาตัวไปกระทุ้งกับกับ
00:15:34 → 00:15:37 เก้าอี้เหรอเอออันนี้ผมก็ไม่ค่อยแนะนำก็
00:15:37 → 00:15:39 จริงหาเรียกร้องเรียกขอความช่วยเหลือดี
00:15:39 → 00:15:41 กว่าครับตอนนั้นให้คนมาช่วยดีกว่าอูยอยู่
00:15:41 → 00:15:44 คนเดียวลำบากอันนี้ก็พยายามค่อยๆเคี้ยวๆ
00:15:44 → 00:15:48 ค่อยๆกลืนหรืออะไรที่แบบเนาะกลับมาจริงๆ
00:15:48 → 00:15:50 ก็ที่ผมบอกตั้งแต่เคปที่แล้วอย่างที่บอก
00:15:50 → 00:15:54 พวชสำคัญสุดครับคือคือถ้าเราป้องกันดีๆ
00:15:54 → 00:15:56 ไม่ให้เอ่อคนเฒ่าคนแก่เราหรือตัวเราเอง
00:15:56 → 00:15:59 แบบไม่พูดไประหว่างกินอย่างเงี้ยหรือทำทำ
00:15:59 → 00:16:02 เป็นอาหารบดๆให้คนเ่าคนแก่เป็นคนให้กิน
00:16:02 → 00:16:04 อย่างเงี้ยเขาก็จะโอกาสที่จะสำลักหรือว่า
00:16:04 → 00:16:07 ติดคอก็น้อยครับผมออใช่เพราะว่าบางทีฟัน
00:16:07 → 00:16:10 เฟิร์นอะไรเไม่ดีนะเคี้ยวอาหารที่แบบเอ
00:16:10 → 00:16:13 เป็นอาหารอ่อนๆก็บางทีเรากตันยูอยากให้
00:16:13 → 00:16:15 แม่พ่อแม่เราได้กินสิ่งดีๆแต่บางทมันมัน
00:16:15 → 00:16:18 แข็งมันเป็นแบบเป็นก้อนเป็นเป็นเนื้อเป็น
00:16:18 → 00:16:20 อะไรอย่าเงี้ยมันก็เคี้ยวยากใช่อเข้าใจ
00:16:20 → 00:16:23 อันนี้แต่ว่าก็ก็ต้องระวังแหละเพราะว่าพอ
00:16:23 → 00:16:25 เวลาที่มันเกิดเหตุอะไรไม่คาดฟันขึ้นมา
00:16:25 → 00:16:28 มันมันแค่แป๊บเดียวจริงๆนะนี่ถึงบอกไงว่า
00:16:28 → 00:16:30 ขอเวลาเพิ่มเพิ่มได้มั้ยอ่ะ 4 นาทีมันจะ
00:16:30 → 00:16:32 ไปทันยังไงถ้าคุณผู้ฟังนึกภพไม่ออกก็ลอง
00:16:32 → 00:16:34 เสิร์ชคำว่า hem Man หรือว่าวิธีการช่วย
00:16:34 → 00:16:36 เหลือผู้ป่วยสิ่งที่สิ่งไปปอมอุดตันที่คอ
00:16:36 → 00:16:39 ก็ได้ครับก็มีคลิปให้ดูเยอะแยะเลยครับผม
00:16:39 → 00:16:41 ทำไม่ยากใช้แค่มือเราและความกล้าครับผม
00:16:41 → 00:16:43 ความเหมือนเดิมเหมือนเหมือน CPR ต้องกล้า
00:16:43 → 00:16:46 ครับผมต้องกล้าใช่มั้ยเออเามีสอนมั้ยอ่ะ
00:16:46 → 00:16:51 วิธีการไปช่วยระทุ้งคนที่แบในตอนนี้ในตอน
00:16:51 → 00:16:54 นี้ถ้าเอ่อในหลักสูตรอะไรการช่วยเหลือ
00:16:54 → 00:16:57 ช่วยชีวิตสำหรับประชาชนยังไม่แน่ใจว่า
00:16:57 → 00:17:01 บรรจุไปแต่ว่ามี CPR แน่ๆ 1 อันอืแต่ว่า
00:17:01 → 00:17:05 บางบางบางหลักสูตรก็ก็ก็ใส่เข้าไปนะครับ
00:17:05 → 00:17:07 ไอ้การช่วยเหลือตัวเนี้ยครับโอ๊ยถ้างั้น
00:17:07 → 00:17:10 ฝากเลยดีกว่าเนาะเผื่อมีใครที่เป็นผู้
00:17:10 → 00:17:13 หลักผู้ใหญ่บ้านเมืองฟังหน่อยเอาบรรจุลง
00:17:13 → 00:17:15 ไปเลยมันเป็นเรื่องใกล้ตัวมากเป็นเรื่อง
00:17:15 → 00:17:17 ที่เกิดขึ้นได้เพราะว่าอ้าเท่าที่ดูข่าว
00:17:17 → 00:17:20 เนี่ยเนี่ยอย่างผู้สูงอายุท่านนึงนั่งๆ
00:17:20 → 00:17:22 กินข้าวอยู่หน้าฟุ่มลงไปเลยอะไรอย่าง
00:17:22 → 00:17:24 เงี้ยนะคะซึ่งมันก็ต้องไปหาสาเหตุที่แท้
00:17:24 → 00:17:26 จริงแหละว่าอะไรมันก็เป็นไปได้ที่ว่าอาจ
00:17:27 → 00:17:29 จะเป็นเรื่องของอาหารติดคอหรือเปล่าบางที
00:17:30 → 00:17:33 เราเอาอาหารมาให้นั่งนั่งนั่งรับประทาน
00:17:33 → 00:17:35 อยู่เนี่ยเราก็ไปทำอย่างอื่นอะไรอย่างงี้
00:17:35 → 00:17:38 ใช่มั้ยคะไม่ทันได้ระวังอย่างเงี้ยมัน
00:17:38 → 00:17:41 จังหวะมันนิดเดียวจริงๆนะเออบรรจุเลยค่ะ
00:17:41 → 00:17:44 อะไรที่มันจำเป็นบรรจุในหลักสูตรให้ได้
00:17:44 → 00:17:46 เรียนเลยเพราะว่าเอาแค่ CPR เบื้องต้น
00:17:46 → 00:17:49 เนี่ยจำได้ว่าสมัยตัวเองนี่ไม่มีนะสมัยผม
00:17:49 → 00:17:52 ก็ไม่มีผมก็มาเรียนตอนตอนเข้าเข้าเป็นนัก
00:17:52 → 00:17:54 ศึกษาแพทย์ใช่มั้ยคะแล้วก็เนี่ยเพิ่งจะ
00:17:54 → 00:17:58 ได้มาเอ่อเรื่องของการ CBR ที่มีความจริง
00:17:58 → 00:18:01 จังมากขึ้นไม่ไม่ไม่นานมานี้เนาะไม่ไม่
00:18:01 → 00:18:03 นานมานี้แล้วก็มีเพจริงๆเอ่อแพทย์ศาส
00:18:03 → 00:18:06 ฉุเฉินจะเกิดขึ้นมาประมาณ 15-16 ปีเครับ
00:18:06 → 00:18:11 พวกเราก็คอยช่วยดันคอยเอ่อหาทีมสอนแล้วก็
00:18:11 → 00:18:13 ให้ให้ความรู้เแล้วให้เขาไปกระจายความรู้
00:18:13 → 00:18:15 ต่อเหมือนกันก็พยายามทำงอยู่เพราะตอนนี้
00:18:15 → 00:18:17 ก็เห็นว่าหลายหน่วยงานเนาะก็เข้าไปเรียน
00:18:17 → 00:18:20 รู้ใช่มั้ยคะส่งคนเข้าไปเรียนแล้วก็มีตัว
00:18:20 → 00:18:24 หุ่นมาไว้สำหรับในการเอ่อ CP ไม่จำเป็น
00:18:24 → 00:18:25 ต้องเป็นแพทย์สอนนะครับเพราะอย่างที่บาง
00:18:25 → 00:18:27 คนเป็นพยาบาลเป็นผู้ช่วยผมก็สอนเหรือกู้
00:18:27 → 00:18:30 ภัยเงี้ยสอนเเเก็ไปสอนตามชุมชนต่อได้อือๆ
00:18:30 → 00:18:32 เฮ้ยแล้วอย่างเงี้ยอาหารติดคอเราจับข้า
00:18:32 → 00:18:35 นอนแล้ว CPR ไม่ได้หรออันนี้ก็คือกลุ่ม
00:18:35 → 00:18:37 ที่อย่างที่ผมบอกถ้าเราช่วยไปสักพักนึง
00:18:37 → 00:18:39 แล้วมันไม่ออกแล้วมันลงไปเรื่อยๆจนเหมด
00:18:39 → 00:18:42 สติก็ CBR ครับต้องหมดสติก่อนหรอถ้าไม่
00:18:42 → 00:18:46 หมดสติเราจับคือเห็นแล้วเฮ้ยไม่กระทุ้งละ
00:18:46 → 00:18:49 จับนอน CPR เลยอ่ะได้ป่ะก็มีมีบางบางท่าน
00:18:50 → 00:18:52 อาจารท่านก็สอนว่าถ้าไม่ชัวร์รู้สึกว่า
00:18:52 → 00:18:54 มันก็เป็นการเพิ่มเพชเชอร์ในเพิ่มดันใน
00:18:54 → 00:18:56 ช่องอกเหมือนกันก็อาจจะทำให้ไอ้สิ่งปๆเ
00:18:56 → 00:18:59 มันขึ้นมาเหมือนกันแต่อันนั้นคือที่บอก
00:18:59 → 00:19:02 มันต้องจะบอกว่ารอหมดสติแล้วค่อยทำผมก็
00:19:02 → 00:19:04 ไม่รู้จะพูดไงแต่ว่าแต่ว่ามันจะเป็นสเต็ป
00:19:04 → 00:19:06 อครับก็คือทำแบบนี้ก่อนกระทุ้งก่อน
00:19:06 → 00:19:08 กระทุ้งไม่ออกแล้วคนไข้เริ่มเริ่มตาร้าย
00:19:08 → 00:19:10 เริ่มเขียวแล้วเริ่มไม่ดีแล้วเริ่มเริ่ม
00:19:10 → 00:19:13 หมดสไม่หายใจอย่าเงี้ยก็ก็ CBR ไปเอาเป็น
00:19:13 → 00:19:15 ว่าทำตามขั้นตอนค่ะอันนี้คือถามเพราะว่า
00:19:15 → 00:19:18 สงสัยว่าเอ้ยมันถ้าเกิดอย่างเงี้ยเราข้าม
00:19:18 → 00:19:20 ขั้นตอนมันก็อาจจะไม่ไม่ดีมันใช่ๆเพราะ
00:19:20 → 00:19:23 ว่าเอาจริงๆแค่เวลากินอะไรไปอ่ะเรานอนดู
00:19:23 → 00:19:27 ซีรีส์หรือว่านอนดูทีวีอ่ะมันก็กรดไหล
00:19:27 → 00:19:29 ย้อนเข้ามาได้แล้วนะมันก็คือมันคือมันไม่
00:19:29 → 00:19:30 เหมาะอ่ะมันไม่ใช่ท่าที่เหมาะในการที่จะ
00:19:30 → 00:19:33 ช่วยชีวิตน่ะเพราะฉะนั้นก็อันนี้คือข้อ
00:19:33 → 00:19:37 สงสัยนะคแต่ว่าทำตามที่คุณหมอบอกว่าดึงส
00:19:37 → 00:19:40 สติเลยแล้วก็เอามือโอบก่อนข้างหลังนะคะ
00:19:40 → 00:19:44 แล้วก็เอานิ้วโป้งไว้ข้างในก่อนแล้วก็เอา
00:19:44 → 00:19:46 4 นิ้วเนี่ยมันคุมเหมือนกำปั้นนั่นแหละ
00:19:46 → 00:19:48 ปกติกำปั้นเรานิ้วโป้งอยู่ข้างนอกใช่มั้ย
00:19:48 → 00:19:51 คะอ่าอันยนิ้วโป้งอยู่ข้างในนะคะถนัดมือ
00:19:51 → 00:19:54 ไหนเอานิ้วโป้งกำกำกำมือนั้นกำมือนั้นนะ
00:19:54 → 00:19:58 คะแล้วก็เอ้าเอ่อเอาไว้ตรงลิ้นปี่ครับใช่
00:19:58 → 00:20:01 มั้ยคะแล้วอีกมือนึงนะคะก็เอาไว้คอย
00:20:01 → 00:20:04 กระทุ้งแรงๆนิดนึงอันนี้เป็นการช่วยเหลือ
00:20:04 → 00:20:06 ผู้ใหญ่ก็ยังมีเด็กอีกนะครับเด็กที่น้อย
00:20:06 → 00:20:11 กว่า 7 ปีอก็แนะนำจะมีถ้าเคยเอ่อเลื่อนใ
00:20:11 → 00:20:14 เลื่อนใน Facebook ดูก็จะมีจะมีเอ่อเป็น
00:20:14 → 00:20:17 ตำรวจที่เขาช่วยที่เขาเหมือนเขาสายตรวจ
00:20:17 → 00:20:19 อยู่ก็มีแม่สักคนนึงครับแบบเอาลูกมา
00:20:19 → 00:20:22 ปิกนิกแล้วก็ช่วยหน่อยลูกหมดสติไปแล้วก็
00:20:22 → 00:20:24 ให้เขาให้ข้อมูลว่าเหมือนลูกลูกจะกินอะไร
00:20:24 → 00:20:27 สักอย่างเข้าไปแล้วมันติดของถ้าดูคลิป
00:20:27 → 00:20:29 นั้นน่ะผมว่าเาทำได้ค่อนข้างดีเลยนะครับอ
00:20:29 → 00:20:34 ขตอแรกดนอยก 7 ขบจะเป็นวที่เราอุ้มได้ภาพ
00:20:34 → 00:20:37 เด็กน้อยเนาที่เราอุ้มได้ก็เราจะเอาเขอ่ะ
00:20:37 → 00:20:40 คว่ำลงไว้ที่ไวไว้ตรงที่ตักเราคว่ำลงนะ
00:20:40 → 00:20:43 ครับแล้วก็มือเชยๆหัวเด็กจะตกเพราะว่า
00:20:43 → 00:20:45 เด็กจะเริ่มแบบเหมือนจะหมดสติอะไรอย่าง
00:20:45 → 00:20:47 เงี้ยเนาเด็กจะหัวตกก็เชยๆหัวเขานิดนึงนะ
00:20:47 → 00:20:50 ครับแล้วก็เอาตัวเขาอ่ะลาบไปกับหน้าตัก
00:20:50 → 00:20:54 เราแล้วก็เอาบริเวณเสันมือฝามือด้านล่าง
00:20:54 → 00:20:59 ครับเออเอ่อเ้าเรียกอะไรกระทุ้งตีกระทุ้ง
00:20:59 → 00:21:02 ที่หลังเหมนกระแทกไประหว่างสบักอ่ะครับผม
00:21:02 → 00:21:06 ระหว่างสบักตรงกลางระหว่างสบัก 1 2 3 4
00:21:06 → 00:21:09 5 แล้วก็หงายดูหงายมือมาดูอย่างที่บอก
00:21:09 → 00:21:11 อันเนี้ยจะเป็นการเพชเชอร์เพิ่มเพิ่มแรง
00:21:11 → 00:21:15 ดันในช่องเอ่อตัวหลอดหลอดหลอดลมเหมือนกัน
00:21:15 → 00:21:18 ครับผมทำให้ไอ้สิ่งแบบปงที่อุดตั้นอุด
00:21:18 → 00:21:20 กั้นอยู่เนี่ยมันก็อาอาจจะออกมาได้เราก็
00:21:20 → 00:21:21 จะดูเราก็จะพลิกคนไข้มาตอนแรกอยู่คว่ำใช่
00:21:21 → 00:21:24 มั้ยครับก็จะหงายมาแล้วก็แล้วก็มาดูว่า
00:21:24 → 00:21:26 เฮ้ยในในปากมีมันอะไรลูกชิ้นหรือว่าไอ้
00:21:26 → 00:21:29 ที่มันติดคอเนี่ยออกมารือยังที่ยังไม่ออก
00:21:29 → 00:21:32 ก็ก็ก็เป็นท่าที่ 2 ก็คือจะใช้นิ้ว 2
00:21:32 → 00:21:35 นิ้วอ่ะไปตรงบริเวณลิ้นปี่ที่เดิมตรงที่
00:21:35 → 00:21:37 เราทำเมื่อกี้ของผู้ใหญ่ครับก็มาในเด็กก็
00:21:37 → 00:21:39 เหมือนกันชายโครงเข้ามาตรงกลางแต่เด็กตัว
00:21:39 → 00:21:42 น้อยเนาะถ้าจะใช้กำปั้นไม่ไหวแตกแน่นอนนะ
00:21:42 → 00:21:46 ฮะก็จะเหลือแค่ 2 นิ้วดันไปที่บริเวณลิ้น
00:21:46 → 00:21:49 ปี่ตรงนั้นนะครับดันดันเฉียงเอ่อดันดันไป
00:21:49 → 00:21:52 ทางข้างบนแล้วก็ไปข้างหลังเหมือนกัน 1 2
00:21:52 → 00:21:55 3 4 5 เป็นจังหวะเหมือนกันครับให้ให้
00:21:55 → 00:21:58 สลับกันหน้าหลังหน้าหลังหน้าหลังแต่ว่า
00:21:58 → 00:22:00 จังหวะที่เราจะดูว่าอาหารออกมาให้ดู
00:22:00 → 00:22:02 จังหวะที่พลิกมาด้านด้านหน้าให้ยังนอน
00:22:02 → 00:22:05 หงายแล้วใช่มคะแต่คือยังยังอยู่บนตักเรา
00:22:05 → 00:22:07 อยู่เราก็นั่งอยู่บนเก้าอี้ปกตินี่แหละ
00:22:07 → 00:22:10 แล้วก็ใช่ครับแนะนำว่าทำเป็นท่าแต่ถ้า
00:22:10 → 00:22:12 เกิดว่าสงสัยหรืออะไรยังไงเนี่ยคือเสิร์ช
00:22:12 → 00:22:16 หาได้เลยมีให้ดูท่านผู้ฟังนึกภาพตามไม่
00:22:16 → 00:22:18 ออกนี่ลองลองเสิร์ชดูได้เลยครับใช่คือ
00:22:18 → 00:22:22 เป็นห่วงว่าบางทีมันเป็นเนี่ยเป็นฟังดู
00:22:22 → 00:22:24 แล้วมันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาจริงๆนะแล้ว
00:22:24 → 00:22:26 เมื่อไหร่ก็ได้แล้วเกิดกับใครก็ได้อีกไม่
00:22:26 → 00:22:29 ได้เจาะจงแต่วิธีการช่วยอ่ะมันจะมีความ
00:22:29 → 00:22:33 แตกต่างกันของเด็กเล็กเลยกับผู้ใหญ่กับคน
00:22:33 → 00:22:35 ที่โตแล้วอย่างเงี้ยใช่มั้ยคะเพราะฉะนั้น
00:22:35 → 00:22:38 เราต้องพยายามแบบเหมือนกับว่าดูบ่อยๆย้ำ
00:22:38 → 00:22:41 บ่อยๆหรือว่าถ้าไปฝึกได้หรือถ้ามีแบบเอ่อ
00:22:41 → 00:22:45 ทางหน่วยแพทย์พยาบาลอะไรที่เป็นเรื่องของ
00:22:45 → 00:22:48 กู้ชีพฉุกเฉินอะไรอย่างเงี้ยถ้าเขาจะมี
00:22:48 → 00:22:50 สอนส่วนตัวผมมองว่าปีละครั้งอ่ะปีละครั้ง
00:22:51 → 00:22:54 น่าจะเหมาะในการแบบรีในการทบทวนแต่ละองค์
00:22:54 → 00:22:57 กรในสถานยิ่งิในสถานศึกษาครับเออสอนคุณ
00:22:57 → 00:23:01 ครูสอนอย่างเงี้ยบุคลากรนะคือไม่เจอก็ดี
00:23:01 → 00:23:03 แต่ถ้ามันเจอล่ะแล้วถ้าเกิดเจอกับคนใน
00:23:03 → 00:23:06 ครอบครัวเราอย่างน้อยคือใน 4 นาทีเนี้ย
00:23:06 → 00:23:09 มันมีค่ามากที่เราจะช่วยก่อนใช่มั้ยคะถ้า
00:23:09 → 00:23:11 เกิดมันช่วยได้ทันหรืออะไรเงี้ยเคก็กลับ
00:23:11 → 00:23:13 มาได้เป็นปกติแล้วอย่างที่มีเป็นภาพข่าว
00:23:13 → 00:23:16 ที่ว่ามีคนผู้ใหญ่เขไปอุ้มเด็กแล้วก็แบบ
00:23:17 → 00:23:18 คือไม่ได้เป็นกระทุ้งอ่ะแต่จับเด็กแบบ
00:23:18 → 00:23:20 เหมือนกระแทกกระแทกอ่ะไปโอบอยู่ด้านหลัง
00:23:20 → 00:23:23 แล้วแบบเค้าเรียกว่าอะไรดีเหมือนยกเด็ก
00:23:23 → 00:23:25 ขึ้นลงขึ้นลงขึ้นลงอย่างเงี้ยโถ้าขึ้นลง
00:23:25 → 00:23:27 อย่างงั้นอาจจะอาจอาจจะไม่ได้วิธีที่ถูก
00:23:27 → 00:23:29 ต้องครับมันไม่ออกหรอกครับมันต้องใช้มัน
00:23:29 → 00:23:32 ต้องใช้แรงดันที่มันกระทุ้งไปที่หลอดหล
00:23:32 → 00:23:34 เฉพาะอย่างงั้นถ้าถ้าขยับขึ้นลงอย่าเงี้
00:23:34 → 00:23:36 มันก็เหมือนมันก็เหมือนคนไม่ไม่ไม่ไม่ออก
00:23:36 → 00:23:38 มาหรอกครับจริถ้าแค่เหมือนก็เป็นแค่การ
00:23:38 → 00:23:41 เขย่าเฉยๆใช่มั้ใช่ก็อาจจะก็อ่าจะเป็น
00:23:41 → 00:23:44 ทีเซอร์ต่อไปว่ามันเป็นอีกหนึ่งวิธีการ
00:23:44 → 00:23:46 ช่วยช่ชีวิตคนที่บางทีเราก็เป็นความเข้า
00:23:46 → 00:23:48 ใจผิดของคนทั่วไปเราที่อาจจะต้องต้องปรับ
00:23:49 → 00:23:51 ปรุงเหมือนกันนะครับจริงๆในที่ที่ที่คุณ
00:23:51 → 00:23:53 รีบอกมาจะเป็นกลุ่มคนจมน้ำที่ผมเคยเจอนะ
00:23:53 → 00:23:55 จับมากระทุ้งกระทุ้งเขย่าๆอย่างเงี้ยมาก
00:23:55 → 00:23:59 กว่าเออแต่ว่าเดี๋ยวนะใกล้ๆใกล้หมดเวลา
00:23:59 → 00:24:02 แล้วอันนี้ขอนิดนึงว่าอะไรที่เจอบ่อยที่
00:24:02 → 00:24:06 สุดที่จะเป็นสาเหตุให้มีความเสี่ยงได้กับ
00:24:06 → 00:24:10 ไปการมีสิ่งแปลกปลอมอุดกั้นหลอดลมแบบ
00:24:10 → 00:24:13 เนี้ยอะไรที่เจอบ่อยในเด็กกับผู้ใหญ่เนี่
00:24:13 → 00:24:15 ผู้ใหญ่น่าจะเป็นอาหารเนาะใช่ครับอครับ
00:24:15 → 00:24:17 ผู้ใหญ่จะเป็นอาหารแล้วก็เป็นเป็นกลุ่มคน
00:24:17 → 00:24:19 ที่มีความเสี่ยงที่มีโรคที่ผมบอกว่าทำให้
00:24:19 → 00:24:23 เเกลืนได้ไม่ไม่ปกติเท่าคนทั่วๆไปอเป็น
00:24:23 → 00:24:25 เด็กนี่ได้หมดเลยเด็กเป็นวัยที่เราอยาก
00:24:25 → 00:24:27 รู้อยากเห็นนี่ได้หมดเลยผมไม่รู้จะยังไง
00:24:27 → 00:24:30 มันตั้งแต่ของเลตั้งแต่วัสดุเครื่องใช้
00:24:30 → 00:24:33 ทั่วไปที่บ้าหรืออาหารนะครับได้หมดเลย
00:24:33 → 00:24:34 เด็กนี้เด็กนี่ยิน่าสงสารเลยเพราะว่าเ
00:24:34 → 00:24:36 หยิบเหยิบกินหมดแล้วก็อีกอันนึงเรื่อง
00:24:36 → 00:24:38 ความไม่แข็งแรงของตัวอวัยวะที่เขายัง
00:24:38 → 00:24:40 กำลังเติบโตอยู่บางทียังไม่แข็งแรงยังปิด
00:24:40 → 00:24:43 เปิดไม่ไม่ไม่ถูกต้องอะไเงี้ยครับใช่ครับ
00:24:43 → 00:24:45 แล้วเไม่เคี้ยวด้วยนะใช่เกลืนกลืนเลยนั่น
00:24:45 → 00:24:48 แหละครับก็ฝากย้ำก็สติสมองแล้ว 2 มือครับ
00:24:48 → 00:24:50 แล้วก็อาจจะต้องฝึกฝนมีการทบทุนบ่อยๆก็จะ
00:24:50 → 00:24:52 สามารถช่วยเหลือชีวิตคนไข้กลุ่มดีได้ครับ
00:24:52 → 00:24:55 อือันนี้ก็เป็นแนวทางไว้นะคะแล้วก็ได้
00:24:55 → 00:24:58 เรียนรู้กันไปแบบเอ่อเบื้องต้นนะคะในการ
00:24:58 → 00:25:00 ช่วยชีวิตแบบที่ถูกต้องถูกหลักวิธีการ
00:25:01 → 00:25:04 ด้วยนะคะอ่าก็คุยกันมาเพลินๆแป๊บเดียวหมด
00:25:04 → 00:25:05 เวลาแล้วนะคะขอบคุณคุณหมอชวัฒน์ค่ะที่มา
00:25:05 → 00:25:07 ร่วมพูดคุยในรายการของเรานะคะขอบคุณค่ะ
00:25:07 → 00:25:10 สวัสดีค่ะขอบคุณมากครับยินดีมากครับเอา
00:25:10 → 00:25:12 ล่ะค่ะคุณผู้ฟังคะหมดเวลาแล้วนะคะพบกัน
00:25:12 → 00:25:14 ใหม่ครั้งหน้ากับรายการโรงหมอทางไทย PBS
00:25:14 → 00:25:17 podcast ค่ะขอบคุณที่ติดตามรับฟังนะคะ
00:25:17 → 00:25:20 แล้วพบกันใหม่สวัสดีค่ะ This Is Toy
00:25:20 → 00:25:23 PBS podcast อาการวูบสาเหตุและปัจจัย
00:25:23 → 00:25:25 เสี่ยงมีอะไรได้บ้างรองศาสตราจารย์นาย
00:25:25 → 00:25:28 แพทย์กรกิจชัยเจนกิจจากวิทยาลัย
00:25:28 → 00:25:30 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา
00:25:30 → 00:25:34 มหาวิทยาลัยมหิดลมาเล่าให้ฟังครับจริงๆ
00:25:34 → 00:25:38 อาการวูบเนี่ยเป็นอาการแสดงออกของนักกีฬา
00:25:38 → 00:25:40 หรือคนไข้นะครับส่วนใหญ่ก็จะมาด้วยเรื่อง
00:25:40 → 00:25:43 หมดสติสาเหตุส่วนหนึ่งเนี่ยมาจากการที่
00:25:43 → 00:25:46 สมองของเราเนี่ยมีการขาดเลือดนะครับจาก
00:25:46 → 00:25:49 สาเหตุบางอย่างทำให้คนไข้หรือนักกีฬา
00:25:49 → 00:25:52 เนี่ยมีอาการเวียนศีรษะปวดศีรษะนะครับ
00:25:52 → 00:25:54 หรือบางท่านก็อาจจะมีการอ่อนแรงแล้วก็หมด
00:25:54 → 00:25:56 สติเป็นลักษณะที่เส้นเลือดไปเลี้ยงสมอง
00:25:56 → 00:26:00 น้อยลงนะครับแต่จริงๆจะมีสาเหตุอยู่ 3
00:26:00 → 00:26:02 อย่างครับอย่างแรกเนี่ยมีคนศึกษาว่าเขา
00:26:02 → 00:26:05 เชื่อว่ามันเกิดจากการที่มันมีการเปลี่ยน
00:26:05 → 00:26:08 ท่าทางเร็วๆนะครับหรือบางกรณีเนี่ยพบว่า
00:26:08 → 00:26:10 มีการศึกษาพอาจจะเกิดจากการที่มีความ
00:26:10 → 00:26:13 เครียดอดนอนเป็นปัจจัยทางจิตใจทำให้เกิด
00:26:13 → 00:26:16 อาการวูบได้นะครับซึ่งสาเหตุหลักๆทางการ
00:26:16 → 00:26:18 แพทย์เนี่ยบางครั้งยังยังหาคำอธิบายที่
00:26:18 → 00:26:20 เป็นวิทยาศาสตร์ได้ยากแต่เกิดขึ้นได้ใน
00:26:20 → 00:26:22 กลุ่มนึงที่เราเจอได้เนี่ยก็เป็นกลุ่มที่
00:26:22 → 00:26:25 เกิดจากหลังจากการออกกำลังกายหนักๆนะครับ
00:26:25 → 00:26:27 ในกลุ่มเมีคำอธิบายว่าเนื่องจากเวลาเรา
00:26:27 → 00:26:29 ออกกำลังกายหนักๆเนี่ยปกติเราออกกำลังกาย
00:26:29 → 00:26:31 เนี่ยเส้นเลือดเนี่ยเราต้องฉีดสูบฉีด
00:26:31 → 00:26:34 เลือดเพื่อไปเลี้ยงวต่างๆนะครับหลังจาก
00:26:34 → 00:26:36 นั้นเราก็จะมีเลือดวิ่งไหลกลับหัวใจทีนี้
00:26:36 → 00:26:39 เวลาเราหยุดออกกำลังกายเร็วๆออกมาหนักๆ
00:26:39 → 00:26:42 เนี่ยเลือดที่วิ่งไหลกลับจากร่างกายเนี่ย
00:26:42 → 00:26:44 เฉพาะยิ่งจากกรณีที่กล้ามเนื้อมันบีบกลับ
00:26:44 → 00:26:47 มันลดลงอย่างเร็วนะครับมันทำให้เลือด
00:26:47 → 00:26:49 เนี่ยมันเข้าสู่หัวใจน้อยในขณะเดียวกัน
00:26:49 → 00:26:51 มันก็เลยทำให้เลือดออกไปน้อยลงทุกท่านลอง
00:26:51 → 00:26:53 นึกภาพเหมือนปั๊มน้ำเครับถ้าเรามีปั๊มน้ำ
00:26:53 → 00:26:55 เนี่ยแล้วทุกท่านปั๊มน้ำไว้ท่านต้องมี
00:26:55 → 00:26:57 แหล่งเก็บน้ำถูกมั้ยครับเมื่อไรก็ตามท่าน
00:26:57 → 00:27:00 แหล่งกน้ำมันพร่องลงน้อยไปปั๊มน้ำทำงาน
00:27:00 → 00:27:03 ได้ลดลงมันก็ไม่มีน้ำปั๊มออกอันนี้ก็เป็น
00:27:03 → 00:27:05 คำอธิบายในในปัจจัยอันที่ 2 ก็คือหยุดออก
00:27:05 → 00:27:08 กำลังกายเร็วๆแล้ววูนะครับอันที่ 3 เนี่ย
00:27:08 → 00:27:11 ก็เป็นกลุ่มที่เกิดจากการที่มีโรคประจำ
00:27:11 → 00:27:14 ตัวนะครับเช่นโรคหัวใจนะครับหรือมีปัญหา
00:27:14 → 00:27:17 เกี่ยวกับเรื่องของต่างๆที่เกี่ยวกับการ
00:27:17 → 00:27:20 บีบตัวของเส้นเลือดก็จะทำให้การบีบตัวมี
00:27:20 → 00:27:22 ปัญหาซึ่งกลุ่มนี้ก็จะเกิดอาการวูบได้
00:27:22 → 00:27:23 ครับเราพบว่าอย่างงี้ครับในกลุ่มคนที่ออก
00:27:23 → 00:27:26 กำลังกายทั่วไปเนี่ยถ้ามีอาการวูบขึ้นมา
00:27:26 → 00:27:28 ได้เนี่ยก็มีปัจจัยกระตุ้นได้นะครับยกตัว
00:27:28 → 00:27:32 อย่างเช่นมีภาวะอดนอนมาอ่านะครับอดนอนนะ
00:27:32 → 00:27:35 ครับหรือบางท่านเนี่ยมีการทำงานหนักมา
00:27:35 → 00:27:37 ก่อนเนาะนะครับผมมีเคสตัวอย่างเช่นเราเคย
00:27:38 → 00:27:40 มีนักวิ่งที่ร่างกายแข็งแรงครับปรากฏใน
00:27:40 → 00:27:42 วันนั้นเนี่ยก่อนหน้านั้นนะครับมีการทำ
00:27:42 → 00:27:45 งานหนักนะอย่างเช่นก็คือต่อเวรในเวลาหลาย
00:27:45 → 00:27:47 หลายครั้งเป็นคุณหมออีกนะแล้วก็หลังจาก
00:27:47 → 00:27:50 นั้นเนี่ยก็มีในเรื่องของการอดนอนนะครับ
00:27:50 → 00:27:53 ก็เป็นปัจจัยกระตุ้นนึงทำให้เกิดวูบได้นะ
00:27:53 → 00:27:56 ในอันดับต่อมานะครับในกลุ่มที่มีประวัติ
00:27:56 → 00:27:59 นะครับมีโรคหัวใจในครอบครัวนะหรือมีคน
00:27:59 → 00:28:02 เสียชีวิตกระทันหันนะครับเนี่ยยกลุ่มนี้
00:28:02 → 00:28:04 เองก็อาจจะเป็นกลุ่มเสี่ยงหนึงที่อาจจะ
00:28:04 → 00:28:07 เป็นกลุ่มที่อาจจะมีโรคซ่อนเร้นโรคหัวใจ
00:28:07 → 00:28:09 ซ่อนเร้นได้นะครับหรือกลุ่มที่ไม่เคยมี
00:28:10 → 00:28:12 อาการแต่มีประวัติเคยวูบมาก่อนเช่นเวียน
00:28:12 → 00:28:15 ศีรษะง่ายๆนะครับทุกท่านบางทนท่านอาจจะ
00:28:15 → 00:28:18 เคยเป็นลูกนั่งเร็วๆเวียนศีรษะนะครับหรือ
00:28:18 → 00:28:20 ในบางท่านถ้ายิ่งเคยมีประวัติว่าเวลามี
00:28:20 → 00:28:22 เรื่องเครียดนะหรือมีเรื่องวิตกกังวลต่าง
00:28:22 → 00:28:24 ๆก็มีอาการเวียนศีรษะกลุ่มนี้ก็เป็นกลุ่ม
00:28:25 → 00:28:28 ที่มีปัจจัยเสี่ยงครับ
00:28:28 → 00:28:32 This Is Toy PBS
00:28:32 → 00:28:35 podcast ติดตามรายการทางเว็บไซต์และ
00:28:35 → 00:28:38 Application ของ Thai PBS podcast
00:28:38 → 00:28:41 spotify soundcloud Google podcast
00:28:41 → 00:28:44 Apple podcast และ YouTube Channel
00:28:44 → 00:28:48 Thai PBS podcast Thai PBS podcast
00:28:48 → 00:28:50 View the world via The
00:28:50 → 00:28:57 [เพลง]
00:28:57 → 00:29:01 Voice อ