00:00:00 → 00:00:03 กลับเข้าสู่ช่วงที่ 2 นะคะของ pnn Health
00:00:03 → 00:00:06 ค่ะคราวนี้ค่ะนวัตกรรมของวัคซีนอีกค่ะ
00:00:06 → 00:00:09 อาจารย์คือก็มีนะคะมีข่าวลือออกมาหรือ
00:00:09 → 00:00:12 กระแสออกมาว่าเนี่ยเป็นแบบแผ่นแปะบ้าง
00:00:12 → 00:00:15 เป็นหยอดตาหยอดจมูกหยอดถูกอะไรสารพัดเลย
00:00:15 → 00:00:19 ค่ะอาจารย์มีความเผ็ดยังไงคะก็มันยังอยู่
00:00:19 → 00:00:21 ในขั้นตอนการทดลองอยู่เลยนะครับพวกนี้
00:00:21 → 00:00:24 เนี่ยคือเราออกมาก็ตื่นเต้นได้นะครับแต่
00:00:24 → 00:00:26 ว่ากว่าที่จะออกมาเป็นวัคซีนที่ใช้จริงนะ
00:00:26 → 00:00:29 จะใช้เวลานานมากหลายๆเดือนบางทีเป็นปีเลย
00:00:29 → 00:00:32 นะครับวัคซีนแผ่นแปะเนี่ยนะครับก็มีออกมา
00:00:32 → 00:00:34 ทดลองแต่ว่ายังไม่ถึงขั้นว่าทดลองกับคน
00:00:34 → 00:00:35 เยอะๆอย่างนี้
00:00:35 → 00:00:38 วัคซีนที่พ่นจมูกนะครับก็เริ่มมีการทดลอง
00:00:38 → 00:00:43 มากขึ้นตรงนี้ก็เขามีเหตุผลเพราะว่า
00:00:43 → 00:00:45 วัคซีนที่พ่นจมูกนะครับมันจะกระตุ้นภูมิ
00:00:45 → 00:00:48 ต้านทานตรงเฉพาะที่คือบริเวณจมูกด้วยซึ่ง
00:00:48 → 00:00:49 เป็นบริเวณที่เชื้อมันจะเข้าไปนะครับดัง
00:00:49 → 00:00:53 นั้นเนี่ยถ้าเราฉีดวัคซีนชนิดนี้ข้อดีของ
00:00:53 → 00:00:55 มันก็คือเราอาจจะมีภูมิคุ้มกันหมู่ที่แท้
00:00:55 → 00:00:57 จริงหมายความว่าเราจะฉีดเสร็จปุ๊บเราก็
00:00:57 → 00:00:59 ไม่แพร่ด้วยนะครับเมื่อเทียบกับวัคซีน
00:00:59 → 00:01:01 ชนิดฉีดก็กล้ามซึ่งจะไม่มีภูมิคุ้มกัน
00:01:01 → 00:01:04 เฉพาะที่หรืออาจจะมีแต่น้อยนะครับดังนั้น
00:01:04 → 00:01:07 เวลาที่ติดเข้าไปก็อาจจะแพร่ได้แต่แต่ก็
00:01:07 → 00:01:08 ดีกว่าไม่ฉีด
00:01:08 → 00:01:11 ขอถามอีกนิดนึงค่ะอาจารย์แล้วในเรื่องของ
00:01:11 → 00:01:13 วิธีบริหารวัคซีนหรือฉีดวัคซีนที่บอกว่า
00:01:13 → 00:01:16 ข้าวกล้ามและก็เข้าสักทีเนี่ยหรือว่าใต้
00:01:16 → 00:01:19 ผิวหนังนะคะรวมจะไปถึงว่าเป็น intral
00:01:19 → 00:01:21 dormal หรือฉีดที่เยื่อบุผิวหนังตรงนี้
00:01:21 → 00:01:25 ค่ะคือยังไงคะอาจารย์มันมีที่มาจากการที่
00:01:25 → 00:01:28 เรารู้นะครับว่าเซลล์กลุ่มที่ตอบสนองต่อ
00:01:28 → 00:01:30 วัคซีนหรือภูมิต้านทานพวกนี้มันจะเยอะ
00:01:30 → 00:01:32 อยู่ใต้อยู่ตรงผิวหนังหรือเขาเรียกว่า
00:01:32 → 00:01:34 intra demall หรือในผิวหนังนั่นแหละ
00:01:34 → 00:01:36 ครับดังนั้นถ้าเกิดเราฉีดวัคซีนเข้าไปให้
00:01:36 → 00:01:38 Excel พวกนี้เลยเนี่ยนะครับมันก็น่าจะมี
00:01:38 → 00:01:41 การตอบสนองที่ดีมากนะครับเราจากการศึกษา
00:01:41 → 00:01:43 ที่ผ่านๆมายกตัวอย่างเช่นการฉีดวัคซีนพิษ
00:01:43 → 00:01:47 สุนัขบ้าที่ฉีดเข้าบริเวณนี้มันใช้ปริมาณ
00:01:47 → 00:01:49 วัคซีนน้อยนะครับแต่ว่าได้ผลค่อนข้างที่
00:01:49 → 00:01:52 จะดีนะครับจึงเป็นที่มาของการที่ทำยังไง
00:01:52 → 00:01:55 ที่จะได้ประหยัดวัคซีนมีวัคซีนให้เพียงพอ
00:01:55 → 00:01:58 กับคนทั่วโลกนะครับรวมทั้งผลข้างเคียงมัน
00:01:58 → 00:02:00 น่าจะน้อยกว่าเนื่องจากว่าปริมาณวัคซีน
00:02:00 → 00:02:02 ที่เราใช้มันน้อยกว่าด้วยนะครับแต่ปัญหา
00:02:02 → 00:02:05 ของวิธีนี้ก็คือว่าเราต้องเก็บข้อมูลนะ
00:02:05 → 00:02:08 ครับคือถ้าเราไม่เก็บข้อมูลปัจจุบันเรา
00:02:08 → 00:02:10 อยู่ในยุคของข้อมูลคนเราจะไม่สามารถเชื่อ
00:02:10 → 00:02:13 ได้ถ้าไม่มีข้อมูลอย่างเวทีโลกอย่างนี้นะ
00:02:13 → 00:02:16 ครับถ้าเราไปบอกว่าเราทดลองกับคนไทยนะฉีด
00:02:16 → 00:02:18 ปุ๊บภูมิต้านทานมันดีแต่เราไม่มีงานวิจัย
00:02:18 → 00:02:20 เป็นสม่ำเสมอคำพูดของเราอย่างนี้นะครับก็
00:02:20 → 00:02:24 ไม่มีใครเชื่อเราถูกไหมครับดังนั้นผมคิด
00:02:24 → 00:02:26 ว่าควรที่จะต้องผลักดันงานวิจัยของไทยตรง
00:02:26 → 00:02:28 นี้ออกมาให้ดีที่สุดครับผม
00:02:28 → 00:02:31 และอีกคำถามนึงค่ะที่เชื่อว่าหลายๆท่าน
00:02:31 → 00:02:34 ตั้งใจฟังมากคือลูกหลานของเราเด็กเล็กนะ
00:02:34 → 00:02:36 คะเด็กเล็กและยิ่งกว่าเด็กปัจจุบันที่เขา
00:02:36 → 00:02:40 จะมีเรื่องของภูมิแพ้อากาศหอบหืดนะคะอยาก
00:02:40 → 00:02:41 ทราบเหลือเกินค่ะอาจารย์ว่าเรื่องของ
00:02:41 → 00:02:45 วัคซีนกับเด็กกลุ่มนี้จะยังไงดีคะผมต้อง
00:02:45 → 00:02:48 บอกก่อนเลยว่ามันจะมีเด็กกลุ่มหนึ่งนะ
00:02:48 → 00:02:49 ครับที่มีโอกาสเสี่ยงในการเป็นโควิด
00:02:49 → 00:02:51 รุนแรงนะครับกลุ่มพวกนี้ก็จะเป็นเด็กที่
00:02:51 → 00:02:53 มีความผิดปกติที่พูดมานี่แหละครับมีภูมิ
00:02:53 → 00:02:56 แพ้รุนแรงโรคหอบหืดหรือบางคนเป็นเขาเรียก
00:02:56 → 00:02:59 ว่าเป็น CP เอ่อ Server pulsary ก็คือ
00:02:59 → 00:03:01 เด็กที่เอ่อเดินไม่ค่อยได้อะไรอย่างนี้
00:03:01 → 00:03:03 สมองมีปัญหาพัฒนาการที่มีปัญหาเด็กกลุ่ม
00:03:03 → 00:03:06 นี้ก็จะเป็นโรครุนแรงได้นะครับเด็กอายุ
00:03:06 → 00:03:09 เด็กอ้วนๆอย่างนี้ก็จะเป็นง่ายขึ้นดัง
00:03:09 → 00:03:11 นั้นจึงเป็นที่มาของการที่บอกว่าเราจะ
00:03:11 → 00:03:12 ต้องฉีดวัคซีนให้เด็กกลุ่มนี้ด้วยเพื่อ
00:03:12 → 00:03:14 ป้องกันไม่ให้เขาเป็นหนักนะครับนอกเหนือ
00:03:14 → 00:03:17 จากนี้คือเด็กเวลาไปโรงเรียนก็ทำตัวได้
00:03:17 → 00:03:19 ไม่เหมือนทุกแบบผู้ใหญ่ถูกไหมครับคือเด็ก
00:03:19 → 00:03:22 นี้ก็จะให้เขาล้างมือตลอดเวลาไม่เล่นกับ
00:03:22 → 00:03:24 เพื่อนมันคงเป็นไปไม่ได้อ่ะครับดังนั้น
00:03:24 → 00:03:26 โรงเรียนก็จะเป็นแหล่งแพร่ที่ดีมากแล้ว
00:03:26 → 00:03:28 เขาแพร่ไปไหนครับแพทย์เราก็เอากลับมาอยู่
00:03:28 → 00:03:30 ที่บ้านครับจะอยู่ที่บ้านก็แค่ให้พ่อแม่
00:03:30 → 00:03:33 หรือว่าคนสูงอายุอย่างนี้ก็มีโอกาสที่จะ
00:03:33 → 00:03:36 เกิดปัญหาตามมาในอนาคตดังนั้นเนี่ยจึง
00:03:36 → 00:03:38 เป็นที่มาของการที่ผลักดันการฉีดวัคซีนใน
00:03:38 → 00:03:41 กลุ่มเด็กอายุขนาดน้อยๆอย่างนี้ครับผมคือ
00:03:41 → 00:03:44 เราอยากจะพูดง่ายๆว่าประชากรกลุ่มนี้เป็น
00:03:44 → 00:03:47 ประชากรกลุ่มที่ไม่สามารถดูแลคอนโทรลตัว
00:03:47 → 00:03:50 เองให้มีวินัยในการดูแลตัวเองได้ดังนั้น
00:03:50 → 00:03:53 ก็เลยอ่ะให้เขาฉีดเพื่อที่ว่าจะได้ป้อง
00:03:53 → 00:03:56 กันความรุนแรงที่เกิดขึ้นในตัวเขาเองและ
00:03:56 → 00:04:00 ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคค่ะจะเพราะ
00:04:00 → 00:04:02 ว่าคุณพ่อคุณแม่เนี่ยส่วนใหญ่ก็ห่วงแล้ว
00:04:02 → 00:04:04 ก็อย่างที่บอกค่ะว่าข่าวลือในเรื่อง
00:04:04 → 00:04:08 วัคซีนทำให้เขากลัวว่าจะเป็นผลระยะยาวตรง
00:04:08 → 00:04:11 จุดนี้อาจารย์มองยังไงบ้างคะคนที่เขา
00:04:11 → 00:04:13 กังวลเนี่ยเขาก็บอกว่าวัคซีนตัวนี้จะมีผล
00:04:13 → 00:04:15 ในอนาคตแต่เราต้องบอกก่อนเลยว่าวัคซีนมัน
00:04:15 → 00:04:17 อยู่ในร่างกายได้ไม่เกินอาทิตย์นึงนะครับ
00:04:17 → 00:04:20 ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนอะไรก็แล้วแต่ MMA
00:04:20 → 00:04:22 หรือเติมเชื้อตายหรือจะเป็นของ
00:04:22 → 00:04:25 astrasantic Johnson ตัวไหนก็แล้วแต่นะ
00:04:25 → 00:04:27 ครับหรือวัคซีนอินเดียวัคซีนฟรีพวกนี้มัน
00:04:27 → 00:04:29 เข้าไปในร่างกายมันอยู่เฉพาะที่แล้วมันก็
00:04:29 → 00:04:31 อยู่แค่ไม่เกินอาทิตย์นึงแล้วมันก็หายไป
00:04:31 → 00:04:33 แล้วดังนั้นมันจะไม่ได้แบบต่อเนื่องระยะ
00:04:33 → 00:04:36 ยาวอย่างที่คนเข้าใจกันนะครับหรือบางคนก็
00:04:36 → 00:04:39 กลัวว่าฉีดไป 3-4 ชนิด 5 เข็มอย่างนี้มัน
00:04:39 → 00:04:41 จะไปตีกันในร่างกายเราหรือเปล่าคือไม่นะ
00:04:41 → 00:04:43 ครับเพราะว่าพวกนี้มันอยู่ชั่วคราวแล้ว
00:04:43 → 00:04:45 มันก็หายไปเท่านั้นเองนะครับอ่านี้ก็เลย
00:04:45 → 00:04:47 อยากจะให้เข้าใจตรงนี้ไว้ส่วนหนึ่งด้วย
00:04:47 → 00:04:50 แล้วจริงๆแล้วในฐานะแพทย์ด้วยกันก็คือมัน
00:04:50 → 00:04:51 เป็นมัลติบัชราเวลหลายปัจจัยด้วยใช่ไหม
00:04:51 → 00:04:54 การที่พัฒนาการของเด็กคนหนึ่งๆเนี่ยจะ
00:04:54 → 00:04:55 เป็นอย่างไรใช่ไหมคะมันไม่ใช่แค่เรื่อง
00:04:55 → 00:04:57 ราวของการฉีดวัคซีนหรือเปล่าถูกต้องครับ
00:04:57 → 00:05:00 ก็เคยมีคนโทษว่าการฉีดวัคซีนทำให้เป็น
00:05:00 → 00:05:04 ออทิซึมเด็กออทิสติกก็จริงๆเนี่ยมันงาน
00:05:04 → 00:05:07 วิจัยพวกนี้ถ้าเราลงไปอ่านจริงๆแล้วเนี่ย
00:05:07 → 00:05:09 เพราะว่าคำกล่าวอ้างของเขาแล้วก็วิธี
00:05:09 → 00:05:11 ระเบียบการทดลองของเขามันไม่ค่อยถูกต้อง
00:05:11 → 00:05:14 เท่าไหร่นะฮะซึ่งก็เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยดี
00:05:14 → 00:05:17 เท่าไหร่นะครับแสดงว่าอาจารย์อยากจะให้คำ
00:05:17 → 00:05:19 แนะนำในการเลือกว่าอย่างเรื่องราวเรายก
00:05:19 → 00:05:22 ตัวอย่างเป็นวัคซีนเราจะมีการคัดกรองหรือ
00:05:22 → 00:05:26 ใช้พินิจพิจารณายังไงดีคะว่าหลักการในการ
00:05:26 → 00:05:29 ที่แอดข้อมูลนี้น่าเชื่อถืออยากให้
00:05:29 → 00:05:30 อาจารย์แนะนำค่ะก่อนอื่นเลยนะครับต้องบอก
00:05:30 → 00:05:33 ว่าเวลาที่เราได้ยินข่าวอะไรมาสักอย่าง
00:05:33 → 00:05:35 เนี่ยนะครับเราต้องเช็คให้ดีก่อนว่า 1 มี
00:05:35 → 00:05:38 ข้อมูลอะไรสนับสนุนบ้างนะครับไม่ว่าข้อ
00:05:38 → 00:05:40 มูลอันนั้นเนี่ยถ้าเกิดว่าคนพูดเป็นระดับ
00:05:40 → 00:05:44 นักวิทยาศาสตร์รองเบลล์เป็น CEO บริษัทยา
00:05:44 → 00:05:47 นะครับเป็นด็อกเตอร์ด้านอะไรก็แล้วแต่ถ้า
00:05:47 → 00:05:50 เขาไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนอัน
00:05:50 → 00:05:52 นี้เชื่อไม่ได้นะครับโลกเราอยู่ด้วยข้อ
00:05:52 → 00:05:54 มูลนะครับถ้าเรามีข้อมูลเนี่ยเชื่อได้ถ้า
00:05:54 → 00:05:57 เราไม่มีข้อมูลปุ๊บสิ่งต่อไปที่เราควรจะ
00:05:57 → 00:05:59 ต้องฟังก็คือผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้เชี่ยว
00:05:59 → 00:06:01 ทางด้านไหนนะครับยกตัวอย่างเช่นสมมุติว่า
00:06:01 → 00:06:04 ผมเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องปอดแล้วจะให้ผม
00:06:04 → 00:06:07 ไปอธิบายเรื่องหลุมสิวอย่างนี้คุณก็เชื่อ
00:06:07 → 00:06:10 ผมไม่ได้ถูกไหมครับก็ต้องไปเชื่อคุณหมอ
00:06:10 → 00:06:12 ทางด้านผิวหนังนี่วัคซีนก็เหมือนกันนะ
00:06:12 → 00:06:14 ครับคนที่ออกมาพูดเรื่องเกี่ยวข้องกับ
00:06:14 → 00:06:17 วัคซีนเรื่องเกี่ยวข้องกับโควิดต่างๆถ้า
00:06:17 → 00:06:20 เขาเป็นคุณหมอทางด้านโรคติดเชื้ออันนี้
00:06:20 → 00:06:22 เชื่อถือได้ถูกไหมครับแต่ถ้าเป็นด้านอื่น
00:06:22 → 00:06:24 ๆก็จะต้องฟังหูไว้หูเหมือนกันนะครับอัน
00:06:24 → 00:06:27 ที่เชื่อไม่ได้เลยก็คือคนที่ไม่มีความ
00:06:27 → 00:06:29 เกี่ยวข้องอะไรทั้งสิ้นเกี่ยวข้องกับโรค
00:06:29 → 00:06:29 พวกนี้
00:06:29 → 00:06:32 เนื่องจากว่าข้อแรกคือเขาไม่ทราบด้าน
00:06:32 → 00:06:34 ทฤษฎีนะครับด้านปฏิบัติเขาก็ไม่ได้ทำงาน
00:06:34 → 00:06:37 กับคนไข้กลุ่มนี้นะครับนอกเหนือจากนี้เขา
00:06:37 → 00:06:39 ก็ไม่มีข้อมูลสนับสนุนใดๆทั้งสิ้นนะครับ
00:06:39 → 00:06:42 ดังนั้นแบบนี้คือเชื่อไม่ได้ครับผมก็ขอ
00:06:42 → 00:06:46 อนุญาตทวนสอบนะคะเป็น 3 ลำดับลำดับแรกคือ
00:06:46 → 00:06:49 ขอให้เชื่อถือข้อมูลข้อมูลคำว่าในที่ข้อ
00:06:49 → 00:06:50 มูลในที่นี้คือข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่
00:06:50 → 00:06:53 ไม่ใช่คำกล่าวอ้างแต่ถ้าหากเราไม่มีจริงๆ
00:06:53 → 00:06:57 หรือมีน้อยเราก็เลื่อนมาดูผู้เชี่ยวชาญคำ
00:06:57 → 00:07:00 ว่าผู้เชี่ยวชาญคือเชี่ยวชาญในสาขานั้น
00:07:00 → 00:07:02 จริงๆถ้าเป็นภาษาชาวบ้านก็นะจ๊ะจริงๆนะ
00:07:02 → 00:07:06 ต้องเขาต้องเชื่อทันจริงๆคือเขาอยู่ในฟิว
00:07:06 → 00:07:10 หรือว่าในแวดวงการทำงานตรงนั้นนะคะและ
00:07:10 → 00:07:12 ลำดับต่อไปโอเคข้อมูลทั่วๆไปที่คุณได้รับ
00:07:12 → 00:07:15 มาพักเอาไว้ก่อนอาจจะตั้งเป็นสมมติฐาน
00:07:15 → 00:07:17 อย่างที่เราบอกไปในช่วงที่แล้วใช่ไหมคะ
00:07:17 → 00:07:18 อาจารย์
00:07:18 → 00:07:22 ขอบคุณนะคะสำหรับการรับชมรายการ TNN
00:07:22 → 00:07:25 Health ค่ะและอย่าลืมค่ะกด Subscribe กด
00:07:25 → 00:07:28 ไลค์กดแชร์ในทุกช่องทางออนไลน์ของ TNN
00:07:28 → 00:07:32 ช่อง 16 ค่ะเพื่อที่จะไม่พลาดการรับชมราย
00:07:32 → 00:07:35 การสดคลิปวีดีโอที่น่าสนใจของทาง TNN นะ
00:07:35 → 00:07:37 คะ