00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world By The
00:00:05 → 00:00:08 Voice ตัวแมลงวันเนี่ยเขาจะมีขนเยอะมาก
00:00:08 → 00:00:11 เลยทุกครั้งที่เขาไต่บนอาหารเนี่ยเท้าจะ
00:00:11 → 00:00:14 มีลักษณะเหมือนกาวเหนียวยิ่งเป็นปัจจัย
00:00:14 → 00:00:17 ที่ส่งเสริมนะคะไม่ว่าจะขนลำตัวเท้าหรือ
00:00:17 → 00:00:19 ว่าปากเนี่ยก็จะช่วยนำพาเชื้อโรคแพร่
00:00:19 → 00:00:22 กระจายไปได้เวลาเรากินเนี่ยเราจะมีริมฝี
00:00:22 → 00:00:25 ปากเราจะมีฟันแต่แมลงวันเนี่ยปากเขาจะ
00:00:25 → 00:00:26 เป็นลักษณะฟองน้ำอย่างเดียวทุกครั้งที่
00:00:26 → 00:00:30 เขาจะทานอาหารเขาจะต้องสำลอกหรือพ่นน้ำ
00:00:30 → 00:00:32 ย่อยออกมาเพื่อย่อยอาหารก่อนที่จะดูดกลับ
00:00:32 → 00:00:35 เข้าไปทานเสร็จปุ๊บสำรอกออกมาบนอาหารหรือ
00:00:35 → 00:00:37 ว่าถ่ายอุจจาระบนอาหารแล้วก็หลายๆครั้ง
00:00:37 → 00:00:40 แมลงวันจะชอบสะบัดปีกสะบัดขาอยู่บนจาน
00:00:40 → 00:00:43 อาหารทุกครั้งที่เขาสะบัดเชื้อโรคหรือผง
00:00:43 → 00:00:46 เชื้อโรคต่างๆจะกระจายลงสู่อาหารของเรา
00:00:46 → 00:00:48 เลย
00:00:48 → 00:00:52 ค่ะฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทยฟัง
00:00:52 → 00:00:56 รายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:56 → 00:00:59 This Is tha PBS podcast วันนี้เรา
00:00:59 → 00:01:02 จะมาคุยกันถึงเรื่องของอันตรายจากแมลงวัน
00:01:02 → 00:01:04 หัวเขียวนะคะซึ่งเราอาจจะเคยเห็นในชีวิต
00:01:04 → 00:01:07 ประจำวันกันอยู่แล้วเนาะทั้งตัวเล็กตัว
00:01:07 → 00:01:09 ใหญ่นะคะแล้วก็บางทีเราก็จะเห็นเป็นแมลง
00:01:09 → 00:01:12 วันหัวเขียวอาจจะเห็นอยู่บ้างหลังๆมานี้
00:01:12 → 00:01:15 นะคะเออแล้วตรงนี้มันมีผลกระทบกับเรา
00:01:15 → 00:01:17 อย่างไรมีอันตรายยังไงบ้างเดี๋ยวคุยกับ
00:01:17 → 00:01:20 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดรธันวดีคล่องแคลว
00:01:20 → 00:01:23 อาจารย์ประจำภรรควิชาปรสิทธิ์วิทยาและกีต
00:01:23 → 00:01:27 วิทยาคณะสาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล
00:01:27 → 00:01:30 ค่ะสวัสดีค่ะอาจารย์คะสวัสดีค่ะค่ะคุยกัน
00:01:30 → 00:01:33 เรื่องของสัตว์สัตว์เอิต้องแเป็นแมลงเนาะ
00:01:33 → 00:01:37 ชนิดนึงที่แบบว่าเราเจอเค้าบ่อยมากนะคะ
00:01:37 → 00:01:40 เวลาที่แบบไปตามร้านอาหารบ้างก็มีหรือถ้า
00:01:40 → 00:01:44 จะเห็นบ่อยๆเลยก็แถวแนวๆอ่าที่เป็นขยะ
00:01:44 → 00:01:47 อะไรแบบเนี้ยจะเจอเยอะนะคะแต่วันนี้เราจะ
00:01:47 → 00:01:51 มาคุยกันที่แบบเป็นละเอียดไปกว่านั้นนะคะ
00:01:51 → 00:01:53 นอกจากที่เราจะเจอเค้าตรงตรงนี้แะบางที
00:01:53 → 00:01:56 เรายังเจอเขาแม้อยู่ในตึกสูงก็ได้นะคะ
00:01:56 → 00:01:58 เดี๋ยวถามอาจารย์นิดนึงก่อนค่ะว่า
00:01:58 → 00:02:01 พฤติกรรมของแมลงวันหัวเขียวเนี่ยเป็นยัง
00:02:01 → 00:02:05 ไงคะอาจารย์ค่ะแมลงวันหัวเขียวเนี่ยก็คือ
00:02:05 → 00:02:07 เป็นแมลงที่เราเห็นส่วนใหญ่ก็เห็นทั่วไป
00:02:07 → 00:02:10 เนาะลำตัวก็จะมีสีเขียวนะคะตาสีแดงแต่
00:02:11 → 00:02:13 หลายท่านอาจจะยังไม่รู้เนาะว่าแมลงวันหัว
00:02:13 → 00:02:15 เขียวเนี่ยจะแบ่งเป็นทั้งเพศผู้และเพศ
00:02:15 → 00:02:17 เมียนะคะทั้งเพศผู้และเพศเมียเนี่ย
00:02:18 → 00:02:20 ต้องการอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตเช่นแป้ง
00:02:20 → 00:02:23 แล้วก็น้ำตาลเพื่อการดำรงชีวิตนะคะแต่ว่า
00:02:24 → 00:02:26 เมื่อเขาต้องการพัฒนาระบบสืบพันธุ์นะคะ
00:02:26 → 00:02:29 หรือว่าต้องการวางไข่เขาจะต้องการแหล่ง
00:02:29 → 00:02:33 อาหารโปรตีนนะคะเพื่อการพัฒนาเนาะดังนั้น
00:02:33 → 00:02:37 ออ่าแหล่งอาหารง่ายๆสำหรับแมลงวันเนี่ย
00:02:37 → 00:02:40 เราก็มักจะพบที่บริเวณที่เป็นขยะนะคะหรือ
00:02:40 → 00:02:45 ว่าอ่ามูลสัตว์หรือว่าซากสิ่งปฏิกุลต่างๆ
00:02:45 → 00:02:47 ที่มีการทิ้งอย่างไม่เหมาะสมนะคะก็จะเป็น
00:02:47 → 00:02:50 แหล่งพอพันธุของแมลงวันหัวเขียวค่ะคือ
00:02:50 → 00:02:53 เป็นที่ที่ชอบเลยเราจะเจอได้บ่อยแต่ว่า
00:02:53 → 00:02:56 เวลาเราเจอเราก็จะเจอหลายๆแบบเหมือนกันนะ
00:02:56 → 00:02:59 คะมีตัวเล็กตัวใหญ่อย่างแมลงวันหัวเขียว
00:02:59 → 00:03:02 มันมีมีหัวสีอื่นอีกมั้ยคะนอกจากสีเขียว
00:03:02 → 00:03:05 จริงๆจริงๆแล้วนะคะแมลงวันหัวเขียวเนี่ย
00:03:06 → 00:03:08 มีหลายสีแต่ว่าเวลาที่เราไปร้านอาหารแล้ว
00:03:08 → 00:03:12 เราเห็นแมลงวันที่มีหน้าตาหลากหลายเนี่ย
00:03:12 → 00:03:14 จริงๆแล้วบ้านเราอ่ะมีทั้งแมลงวันหัว
00:03:14 → 00:03:16 เคี้ยวนะคะแล้วก็มีทั้งแมลงวันบ้านแล้วก็
00:03:16 → 00:03:20 แมลงวันหลังลายซึ่งหน้าตาก็จะหลากหลายนะ
00:03:20 → 00:03:23 คะหลายรูปแบบบางตัวก็จะมีสีเขียววาว์วบาง
00:03:23 → 00:03:27 ตัวก็จะเป็นสีดำสีเท่านะคะแต่ว่าชีววิทยา
00:03:27 → 00:03:30 พื้นฐานก็จะค่อนข้างคล้ายคลึงกันอค่ะอือื
00:03:30 → 00:03:32 แต่ถ้าเห็นเป็นลักษณะแบบนี้เราก็คือเรียก
00:03:32 → 00:03:35 แมลงวันหมดเลยเราจะไม่ได้สามารถแยกออกได้
00:03:35 → 00:03:38 ว่าเอออันนี้เป็นสายพันธุ์อะไรนะคะก็อัน
00:03:38 → 00:03:40 นี้ก็เป็นเป็นสิ่งที่เราจะได้เรียนรู้กัน
00:03:40 → 00:03:42 ในวันนี้คืออย่างที่บอกว่าแมลงวันหัว
00:03:42 → 00:03:45 เขียวเนี่ยเคกินได้ทุกอย่างที่เป็นสิ่ง
00:03:45 → 00:03:48 ปฏิกูลเศษอาหารอะไรก็ได้ใช่ค่ะของเน่า
00:03:48 → 00:03:52 เสียอะไรเขาก็ไปอ่ามโดยเฉพาะของเน่าเสีย
00:03:52 → 00:03:55 เนี่ยจะมีการปล่อยเขาเรียกว่า Organic
00:03:55 → 00:03:58 compound หรือสารที่ดึงดูดแมลงหวัเป็น
00:03:58 → 00:04:01 พิเศษมากกว่าพวกของที่สดๆอ่ะค่ะดังนั้น
00:04:01 → 00:04:04 แมลงวันก็เลยจะชอบตอมของเน่าเสียของเน่า
00:04:04 → 00:04:06 เสียก่อนจะส่งกลิ่นเนี่ยมันจะเกิดจาก
00:04:06 → 00:04:09 ปฏิกิริยาของพวกแบคทีเรียหรือเชื้อโรค
00:04:09 → 00:04:12 ต่างๆเนี่ยดังนั้นทุกครั้งที่แมลงวันน่ะ
00:04:12 → 00:04:15 มากินอาหารหรือตอมอาหารเน่าเสียพวกเนี้ย
00:04:15 → 00:04:18 ก็จะนำพาเชื้อโรคแพร่กระจายไปด้วยอ่ะค่ะ
00:04:18 → 00:04:20 อืคือในตัวของเขามีเชื้อโรคอยู่แล้วด้วย
00:04:20 → 00:04:23 หรือเปล่าเชื้อโรคเนี่ยมาจากอาหารเน่า
00:04:23 → 00:04:26 เสียหรืออาหารที่แมลงวันไปกินหรือไป
00:04:26 → 00:04:28 เยี่ยมเยียนนะคะตัวแมลงวันเนี่ยถ้าดูใต้
00:04:29 → 00:04:32 กล้องจุัเราจะเห็นว่าเขาจะมีขนเยอะมากเลย
00:04:32 → 00:04:36 แล้วก็ปากเขาจะมีลักษณะเหมือนฟองน้ำทุกคน
00:04:36 → 00:04:39 ลองจินตนาการว่าเวลาเราเอาฟองน้ำอ่ะไปซับ
00:04:39 → 00:04:41 น้ำนะคะแล้วน้ำนั้นมีเชื้อโรคอันเนี้ยก็
00:04:41 → 00:04:44 จะสามารถแพร่เชื้อโรคได้รวมถึงเท้าของ
00:04:44 → 00:04:46 แมลงวันถ้าทุกท่านเคยเห็นเนาะทุกครั้งที่
00:04:46 → 00:04:49 เขาไต่บนอาหารเนี่ยเท้าจะมีลักษณะเหมือน
00:04:49 → 00:04:52 กาวเหนียวเพราะฉะนั้นก็คือยิ่งเป็นปัจจัย
00:04:52 → 00:04:55 ที่ส่งเสริมนะคะไม่ว่าจะขนลำตัวเท้าหรือ
00:04:55 → 00:04:57 ว่าปากเนี่ยก็จะช่วยนำพาเชื้อโรคแพร่
00:04:57 → 00:05:00 กระจายไปได้ค่ะอืแสดงว่ากลิ่นของอาหารที่
00:05:00 → 00:05:03 มันเน่าเสียมันดึงดูดใจมากกว่าแล้วก็แบบ
00:05:03 → 00:05:06 สามารถดูดซับเชื้อโรคจะจุลินทรีย์
00:05:06 → 00:05:09 แบคทีเรียหรืออะไรก็แล้วแต่บนอาหารมาได้
00:05:09 → 00:05:12 ่อใช่ค่ะพอแมลงวาได้กลิ่นเน่าเขาก็ไปตอม
00:05:12 → 00:05:15 อาหารบนอาหารนั้นก็จะมีเชื้อโรคต่างๆแมลง
00:05:15 → 00:05:18 วันก็จะได้รับเชื้อโรคติดตามตัวไปด้วยอ่ะ
00:05:18 → 00:05:22 ค่ะค่ะคือมันก็เกาะมาตามขากับตรงที่ฟอง
00:05:22 → 00:05:25 น้ำปากที่เป็นฟองน้ำเอย่างงั้นใช่มคะอือ
00:05:25 → 00:05:28 ดูน่ากลัวเหมือนกันเนาะถ้าเกิดอยากเห็น
00:05:28 → 00:05:31 ภาพจะขยายอาจจะไปหาดูในในโลกออนไลน์ได้
00:05:31 → 00:05:34 เนาะเพราะว่าน่าจะมีอยู่เยอะนะคะแต่เรา
00:05:34 → 00:05:37 เคยเห็นขาแมลงวันเ่ะแบบเวลาเขาคจะตอมเจะ
00:05:37 → 00:05:39 อะไรเค้าก็จะเหมือนจะถู
00:05:39 → 00:05:43 ถูเป็นพฤติกรรมจริงๆแล้วถ้าเปรียบเทียบ
00:05:43 → 00:05:46 กับคนเวลาเรากินเนี่ยเราจะมีริมฝีปากเรา
00:05:46 → 00:05:48 จะมีฟันแต่แมลงวันเนี่ยปากเขาจะเป็น
00:05:48 → 00:05:50 ลักษณะฟองน้ำอย่างเดียวเพราะฉะนั้นทุก
00:05:50 → 00:05:53 ครั้งที่เขาจะทานอาหารเขาจะต้องสำลอกหรือ
00:05:53 → 00:05:56 พ่นน้ำย่อยออกมาเพื่อย่อยอาหารก่อนที่จะ
00:05:56 → 00:05:58 ดูดกลับเข้าไปกระบวนการนี้ก็เป็นสิ่ง
00:05:58 → 00:06:01 หนึ่งที่ทำให้ให้แมลงวันอ่ะแพร่เชื้อโรค
00:06:01 → 00:06:04 มาสู่เราได้นะคะแล้วก็ถัดไปก็คือเวลาเขา
00:06:04 → 00:06:08 ทานอ่ะค่ะทานเสร็จปุ๊บบางทีก็คือเรียก
00:06:08 → 00:06:10 ง่ายๆก็คือสำรอกออกมาบนอาหารหรือว่าถ่าย
00:06:10 → 00:06:12 อุจจาระบนอาหารไปด้วยอันนี้ก็ทำให้เชื้อ
00:06:12 → 00:06:15 โรคออกมาด้วยแล้วก็หลายๆครั้งถ้าเราเห็น
00:06:15 → 00:06:18 เนาะแมลงวันจะชอบแต่งตัวเนาะก็คือการ
00:06:18 → 00:06:21 สะบัดปีกสะบัดขาอยู่บนจานอาหารเราแล้วก็
00:06:21 → 00:06:23 อยากให้ทุกท่านจินตนาการว่าทุกครั้งที่
00:06:23 → 00:06:27 เขาสะบัดเชื้อโรคหรือผงเชื้อโรคต่างๆจะ
00:06:27 → 00:06:30 กระจายลงสู่อาหารของเราค่ะค่ะแล้วเราก็
00:06:30 → 00:06:32 กินอาหารอันนั้นเข้าไปบางทีเราอาจจะไม่
00:06:32 → 00:06:35 รู้ว่าเมาเกาะก่อนหน้านี้แล้วใช่หรือว่า
00:06:35 → 00:06:38 แค่การเกาะนิดเดียวเนี่ยเชื้อโรคก็สามารถ
00:06:38 → 00:06:40 ลงสู่อาหารที่เรากินได้ใช่มั้ยคะอาจารย์
00:06:41 → 00:06:44 ต้องคิดว่าประเทศไทยเป็นเมืองร้อนเนาะ
00:06:44 → 00:06:47 เชื้อโรคอ่ะต่อให้จะมีปริมาณน้อยที่หล่น
00:06:47 → 00:06:50 ลงบนอาหารอ่ะค่ะโดยเฉพาะพวกแบคทีเรียหรือ
00:06:50 → 00:06:53 ไวรัสบางครั้งด้วยอุณหภูมิและความชื้นที่
00:06:53 → 00:06:55 เหมาะสมของประเทศไทยจะทำให้เขาแบ่งตัว
00:06:55 → 00:06:58 อย่างรวดเร็วพอแบ่งตัวอย่างรวดเร็วคนรับ
00:06:58 → 00:07:00 ประทานเข้าไปก็จะเกิดอาการละท้องเสียบ้าง
00:07:00 → 00:07:03 ปวดท้องบ้างเงี้ยค่ะอืแต่เชื้อโรคนี้
00:07:03 → 00:07:06 สามารถจะแบบพอเกาะอยู่บนเอ่อแมลงวันเสร็จ
00:07:06 → 00:07:10 ปึ๊บพอมาอาหารแต่มันก็ยังมีเชื้อบางอย่าง
00:07:10 → 00:07:13 ที่ังอยู่กับตัวเขาอยู่แล้วก็บินไปตรงจุด
00:07:13 → 00:07:17 อื่นหรือเขาไปเอาสิ่งปฏิกูลไปไปกินไปอะไร
00:07:17 → 00:07:19 ก็เพิ่มเข้ามาอีกได้เหมือนกันใช่ค่ะ
00:07:19 → 00:07:21 พฤติกรรมของแมลงวันก็จะทำซ้ำๆตอมอาหาร
00:07:21 → 00:07:25 เน่าเสียตอมขยะไปเรื่อยๆอ่ะค่ะแล้วยิ่ง
00:07:25 → 00:07:28 ถ้าไปเจอในแหล่งที่มีการจัดการขยะที่ไม่
00:07:28 → 00:07:30 ดีอ่ะค่ะทิ้งขยะเอาไว้ปล่อยเน่าเสียไม่
00:07:30 → 00:07:33 เก็บไม่กำจัดให้ถูกวิธีอันนี้ก็ยิ่งส่ง
00:07:33 → 00:07:35 เสริมให้มีแหล่งเชื้อโรคให้แมลงวันเนี่ย
00:07:35 → 00:07:39 ไปตรอมไปตอมเนาะแล้วก็แพร่กระจายออกไปอีก
00:07:39 → 00:07:41 เออน่าสนใจมากเอ้แต่บางทีเคยเห็นนะคะ
00:07:41 → 00:07:44 อย่างเช่นแบบอาหารบางอ่าเค้าเรียกอะไรนะ
00:07:44 → 00:07:46 เป็นเศษอาหารที่ผูกอยู่ในถุงไม่ได้เอาไป
00:07:46 → 00:07:49 ทิ้งแต่มันก็จะมีหนอนกระดึ๊บกระดึ๊บเมัน
00:07:49 → 00:07:51 มาจากไหนคะอย่าบอกนะว่าจริงๆแล้วมันมี
00:07:51 → 00:07:56 แมลงวันมาเคยตอมอ่าแมลงวันนะคะจะค่อนข้าง
00:07:56 → 00:07:59 รวดเร็วเนาะเวลาเค้ามีประสาทสัมผัสประสาท
00:07:59 → 00:08:02 รับกลิ่นค่อนข้างเร็วแล้วเขาก็บินเก่งบาง
00:08:02 → 00:08:05 ทีเราคลาดสายตาจากขยะหรืออาหารแป๊บเดียว
00:08:05 → 00:08:08 เขาก็มาวางไข่แล้วเราก็เคยเห็นในสื่อ
00:08:09 → 00:08:11 ออนไลน์หลายๆครั้งเนาะที่มีการแชร์กันว่า
00:08:11 → 00:08:14 เอ๊ะซื้อไก่ทอดมาซื้ออะไรมาตั้งทิ้งไว้
00:08:14 → 00:08:16 แป๊บเดียวแล้วมีไข่แมลงวันเช่นเดียวกัน
00:08:17 → 00:08:20 ค่ะขยะที่เราไม่กำจัดไม่รีบปิดปักถุง
00:08:20 → 00:08:22 อย่างรวดเร็วแมลงวันก็จะมาไข่อย่างรวด
00:08:22 → 00:08:25 เร็วแล้วก็ด้วยความร้อนอุณหภูมิของบ้าน
00:08:25 → 00:08:28 เราอ่ะค่ะไข่แมลงวันสามารถฟักเป็นตัวได้
00:08:28 → 00:08:31 ใช้เวลาแบบครึ่งวัน 12 ช่วโมงก็ฟักออกมา
00:08:31 → 00:08:35 เป็นตัวแล้วอ่ะขนลุกไปด้วยในตัวนิดนึงนะ
00:08:35 → 00:08:38 คะเออมันค่อนข้างจะรวดเร็วแล้วก็มันแบบ
00:08:38 → 00:08:40 สามารถแพร่เชื้ออะไรต่างๆเหล่านี้ได้ง่าย
00:08:40 → 00:08:43 มากเลยแล้วก็ที่เรากินอาหารแล้วท้องเสีย
00:08:43 → 00:08:46 มันก็อาจจะมาจากส่วนตรงนี้ด้วยหลายๆงาน
00:08:46 → 00:08:49 วิจัยอ่ะค่ะค่อนข้างชี้ไปในทางเดียวกัน
00:08:49 → 00:08:52 ว่าในแหล่งที่มีการระบาดของโรคท้องร่วง
00:08:52 → 00:08:55 เนี่ยค่ะถ้าเขาควบคุมหรือลดจำนวนประชากร
00:08:55 → 00:08:58 แมลงวันแล้วเคสหรือโรคท้องร่วงมันก็ลดลง
00:08:58 → 00:09:02 ด้วยอ่ะค่ะดังนั้นเขาก็เลยคิดว่าแมลงวัน
00:09:02 → 00:09:05 เนี่ยเป็นพาหะสำคัญในการแพร่กระจายเชื้อ
00:09:05 → 00:09:08 ก่อโรคท้องร่วงไปสู่คนนะค่ะอืซึ่งทุกวัน
00:09:08 → 00:09:10 นี้มันก็ยังมีอยู่นะแล้วบ้านเราก็อากาศ
00:09:10 → 00:09:12 นี่เหมาะสมเดี๋ยวเยละเดี๋ยวละเดี๋ยวใกล้
00:09:12 → 00:09:16 ละนะคะสภาพอากาศนี่พอถึงความเหมาะสมปุ๊บ
00:09:16 → 00:09:19 ทีนี้แหละเราก็ต้องระมัดระวังกันมากขึ้น
00:09:19 → 00:09:22 ทีนี้สิ่งที่อยากจะถามอาจารย์เพิ่มคือใน
00:09:22 → 00:09:27 แมลงวันหัวเขียวเนี่ยอ่ะเพศเมียก็วางไข่
00:09:27 → 00:09:32 ได้ตัวนึงสามารถวางไขได้กี่ฟองคะถ้าจาก
00:09:32 → 00:09:36 งานวิจัยนะคะค่อนข้างหลากหลายเนาะเราพูด
00:09:36 → 00:09:39 ตรงๆเลยก็คือขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของ
00:09:39 → 00:09:42 เขาคถ้าเขาคอยู่ในแหล่งที่มีอาหารสมบูรณ์
00:09:42 → 00:09:45 อุณหภูมิเหมาะสมความชื้นเหมาะสมเาสามารถ
00:09:45 → 00:09:47 วางไข่ได้มากที่สุดตามที่มีรายงานน่ะ
00:09:47 → 00:09:51 สามารถ 200 ฟองหรือ 150 ฟองก็ได้อ่ะต่อ 1
00:09:51 → 00:09:54 ครั้งนะคะแต่ว่าแมลงวันหัวเขียวตัวเมีย 1
00:09:54 → 00:09:56 ตัวเนี่ยวางไข่ได้มากกว่า 1 ครั้งอยู่
00:09:56 → 00:10:01 แล้วออคือวงวงจรชีวิตเอยู่ได้ประมาณคือ
00:10:01 → 00:10:05 อาจจะยาวกว่ายุงเนาะอ่าค่อนข้างยาวอ่ะ
00:10:05 → 00:10:09 เพราะว่าเป็นแมลงที่ค่อนข้างตัวใหญ่เนาะ
00:10:09 → 00:10:12 แล้วก็รบกวนถ้าในชีวิตประจำวันเราเห็นอ่ะ
00:10:12 → 00:10:14 สิ่งที่เราทำอย่างมากก็คือปัดไล่นะคะแต่
00:10:14 → 00:10:17 ยุงเนี่ยถ้าเราเห็นเราตบเพราะฉะนั้นยุง
00:10:17 → 00:10:20 อายุสั้นกว่าอยู่แล้วเออแมลงวันก็ได้แต่
00:10:20 → 00:10:24 ปัดไปใช่เออแต่เคยไปไปที่นึงค่ะต่างๆ
00:10:24 → 00:10:27 จังหวัดแล้วมันเป็นแบบภูเขาลำธารอะไร
00:10:27 → 00:10:30 อย่างเงี้ยแล้วเวลาเอาอาหารมาตั้งปุ๊บ
00:10:30 → 00:10:32 เนาะหูแบบบินมาเป็นฝูงเลยค่ะจะแบบตกใจมาก
00:10:32 → 00:10:34 แล้วมันมีแต่แบบเนี่ยเหมือนน่าจะเป็นแมลง
00:10:35 → 00:10:37 วันหัวเขียวตอนนั้นรู้สึกมันหัวโตๆหลายๆ
00:10:37 → 00:10:39 ตัวอย่างเงี้ค่ะเฮ้ยมันเยอะมากเลยค่ะ
00:10:39 → 00:10:42 อาจารย์นี้แสดงว่า 1 ตัวเพศเมีย 1 ตัว
00:10:42 → 00:10:46 เนี่ย 200 ฟองใช่ฟักได้ภายใน 12 ชมงใช่
00:10:46 → 00:10:50 ค่ะโอ้โหตัวเล็กนิดเดียวนี่ไปเอาที่เก็บ
00:10:50 → 00:10:54 ไข่ไว้ขนาดนี้ได้ยังไงเี่อ่าคือในแมลงวัน
00:10:54 → 00:10:57 หัวเขียวอ่ะค่ะเขาจะมีตัวเมียเนาะเขาจะมี
00:10:57 → 00:11:02 ถุงเก็บสเปิร์มอ่ะค่ะดังนั้น
00:11:02 → 00:11:08 อั้เรยๆึดยเฉี่วิจว่าตัวเมีย 1 ตัวสามารถ
00:11:08 → 00:11:12 วางไข่ได้ประมาณ 4-5 ครั้ง 4-5 ครั้งใช่
00:11:12 → 00:11:15 เพราะฉะนั้นถ้าจินตนาการว่าถ้าเราไม่จัด
00:11:15 → 00:11:17 การแหล่งเพะพันธุ์ของเขาหรือเราไม่ควบคุม
00:11:17 → 00:11:20 ประชากรแมลงวันเนี่ยจะมีการเพิ่มจำนวน
00:11:20 → 00:11:23 อย่างรวดเร็วนะคะแล้วก็วงจรชีวิตของแมลง
00:11:23 → 00:11:27 วันหัวเขียวเนี่ยจากไข่ไปเป็นตัวเต็มวย
00:11:27 → 00:11:29 อ่ะอุณหภูมิประเทศไทยเนี่ยใช้เวลาประมาณ
00:11:29 → 00:11:32 แค่ 7 วันหรือ 1 สัปดาห์โอคิดดูว่าใน 1
00:11:32 → 00:11:35 สัปดาห์อ่ะมีแมลงวันออกมาละ 200 ตัวจาก
00:11:36 → 00:11:39 จากไข่ 1 แม่นะคะแล้วก็ถ้า 200 ตัวนั้นไป
00:11:39 → 00:11:43 ผสมพันธุ์อีกวางไข่อีกถ้าจาก 200 ตัวมี
00:11:43 → 00:11:46 เป็นเพศเมียสัก 100 ตัวเเขาก็สามารถวาง
00:11:46 → 00:11:49 ไข่กันเอา 100 ไปคูณอีก 200 ก็แบบเยอะแยะ
00:11:49 → 00:11:52 มหาศาลนะค่ะบันเทิงเลยทีนี้แล้วจะอยากจะ
00:11:52 → 00:11:56 จับทำหมจังเลยให้มันไม่แพร่ขยายพันธุ์คือ
00:11:56 → 00:11:59 เพราะว่าพอนึกภาพออกเลยว่าจำนวนเยอะขนาด
00:11:59 → 00:12:02 นี้แล้ววงจรชีวิตเตัวเต็มไวเนี่ยมันแค่
00:12:02 → 00:12:05 สัปดาห์เดียวอ่ะแล้วตัวนึงสามารถจะวางไข่
00:12:05 → 00:12:08 ได้อย่างเพศเมียเนี่ยแล้วครั้งนึงออกมา
00:12:08 → 00:12:11 เพศเมียไม่รู้กี่ตัวก็เลยไม่แปลกใจว่าที่
00:12:11 → 00:12:14 ที่ไปไปพักรีสอร์ทนั้นน่ะทำไมถึงแมลงวัน
00:12:14 → 00:12:16 หัวเขียวเนี่ยมันเยอะมากเพราะว่าตรงนั้น
00:12:16 → 00:12:19 อุดมสมบูรณ์ในอาหารการกินหรือเก็บไม่เป็น
00:12:19 → 00:12:22 ที่ไม่ถูกสลักษณะก็เลยทำให้เขาแบบมีแหล่ง
00:12:22 → 00:12:25 อาหารเติบโตได้เ้าไม่บินไปไหนเลยใช่มั้ย
00:12:25 → 00:12:28 คะเไม่คิดจะไปไหนเลยใช่มั้ยคะส่วนใหญ่อ่ะ
00:12:28 → 00:12:31 ค่ะเจะบินไม่ค่อยไกลจากแหล่งเพาะพันธุ์
00:12:31 → 00:12:35 แล้วก็ออ่าในหลายๆงานวิจัยอ่ะก็จะชี้ให้
00:12:35 → 00:12:37 เห็นว่าแหล่งเพาะพันธุ์ของแมลงวันเนี่ย
00:12:37 → 00:12:41 มักเกิดจากการรักษาสุขอนามัยที่ไม่ดีของ
00:12:41 → 00:12:44 ครัวเรือนหมายความว่าก็เกิดจากการทิ้งขยะ
00:12:44 → 00:12:46 ไม่เป็นที่เป็นทางจัดการขยะไม่ดีอ่ะค่ะ
00:12:46 → 00:12:49 ดังนั้นแมลงวันก็เลยเกิดซ้ำๆอยู่ที่เดิม
00:12:49 → 00:12:51 แล้วก็เพิ่มจำนวนเยอะๆเงี้ยค่ะไม่ค่อยไป
00:12:51 → 00:12:54 จากแหล่งพอพันธ์เท่าไหร่อือันนี้โดยสภาพ
00:12:54 → 00:12:58 ที่แบบโดยทั่วไปแต่โชคดีอยู่ตึกสูงๆอยู่
00:12:58 → 00:13:00 คอนโดอยู่อยู่อพาร์ตเม้นต์อยู่อะไรอย่าง
00:13:00 → 00:13:03 งี้การเผชิญกับแมลงวันหัวเขียวเนี่ยอาจจะ
00:13:03 → 00:13:07 ดูน้อยลงไปหรือเปล่าก็น้อยลงอ่ะค่ะถ้า
00:13:07 → 00:13:11 สมมุติว่าอยู่ในที่ที่เป็นห้องปิดหรือว่า
00:13:11 → 00:13:13 มีมุงลวดอะไรอย่างเงี้ยค่ะความเสี่ยงมัน
00:13:13 → 00:13:17 ก็ลดลงอยู่แล้วแต่อย่างไรก็ตามเนาะด้วย
00:13:17 → 00:13:21 สภาพอากาศบ้านเราร้อนชื้นหลายๆท่านที่
00:13:21 → 00:13:25 อยู่บนตึกสูงก็ชอบเปิดห้องระบายอากาศนะคะ
00:13:25 → 00:13:28 รวมไปถึงการที่อยู่ตึกสูงเนี่ยบางท่านมี
00:13:28 → 00:13:32 พฤติกรรมไม่ค่อยจัดการขยะให้ดีเนาะเก็บ
00:13:32 → 00:13:34 ไว้เยอะๆแล้วค่อยไปทิ้งทีเดียวอันเนี้ยก็
00:13:34 → 00:13:37 จะเป็นตัวที่ดึงดูดแมลงวันหัวเขียวให้ไป
00:13:37 → 00:13:40 เยี่ยมเยียนได้นะคะเพราะว่าในหลายๆงาน
00:13:40 → 00:13:42 วิจัยบอกเลยว่าแมลงวันหัวเขียวสามารถบิน
00:13:42 → 00:13:46 ขึ้นตึกสูงได้อ่ะเขาสามารถบินแล้วก็เกาะ
00:13:46 → 00:13:48 พักแล้วก็บินต่ออ่ะค่ะจนกว่าเขาจะเจอ
00:13:48 → 00:13:51 แหล่งอาหารหรือที่ที่เขาแบบอยากทานอาหาร
00:13:51 → 00:13:53 เงค่ะเขาไม่สามารถที่จะแบบเคือเขาสามารถ
00:13:53 → 00:13:56 ต้านกระแสลมของตึกสูงได้ด้วย่ะคะแบบตาม
00:13:56 → 00:14:00 เข้ามาหรืออะไรอย่างเงี้ยบางทีเคือบิน
00:14:00 → 00:14:03 เข้าฮอว์อ่ะค่ะก็คือบินเข้าทางเข้าปกติ
00:14:03 → 00:14:07 ประตูแล้วก็ค่อยๆตามกลิ่นไปในชั้นต่างๆ
00:14:07 → 00:14:11 เงี้ค่ะหรือว่าการบินแนวดิ่งก็มีบันทึก
00:14:11 → 00:14:14 เหมือนกันนะค่ะอโอ้โหเธอได้สามารถหลายทิศ
00:14:14 → 00:14:16 ทางมากความสามารถล้นเหลือเพราะฉะนั้นแม้
00:14:16 → 00:14:19 กระทั่งตึกสูงก็มีความเสี่ยงที่แมลงวัน
00:14:19 → 00:14:20 หัวเขียวอาจจะขึ้น
00:14:20 → 00:14:24 ไปเพาะพันหรือว่าแบบแพร่กระจายทำให้เกิด
00:14:24 → 00:14:27 โรคอะไรต่างๆเหล่านี้ได้เหมือนกันต้องยอม
00:14:27 → 00:14:30 รับว่าแมลงวันเนี่ยเป็นแมลงที่บินเก่ง
00:14:30 → 00:14:33 ชื่อภาษาอังกฤษเขาก็เลยมาจากทักษะการบิน
00:14:33 → 00:14:37 ของเขาก็คือไฟลายค่ะอ่ะเออใช่ๆๆชื่อภาษา
00:14:37 → 00:14:40 อังกฤษเแบบว่ามีคำว่า Fly ด้วยเออน่าสนใจ
00:14:40 → 00:14:42 มากเ้าแล้วอย่างงี้คือสิ่งที่อาจารย์เป็น
00:14:42 → 00:14:45 ห่วงคืออย่างเช่นที่อาจารย์บอกว่าเอ่อ
00:14:45 → 00:14:47 อย่างอยู่ตึกสูงหรือแม้กระทั่งผู้ป่วยติด
00:14:47 → 00:14:49 เตียงหรืออะไรต่างๆเหล่านี้ก็ค่อนข้างที่
00:14:49 → 00:14:53 จะต้องต้องดูแลเป็นพิเศษใช่มั้ยคะอืมใน
00:14:53 → 00:14:57 ประเทศไทยนะคะในในช่วงที่ผ่านมาเราจะเห็น
00:14:57 → 00:15:00 ข่าวรบโรคหนอนแมลงวันค่อนข้างเยอะหรือว่า
00:15:00 → 00:15:04 ไมอินะคะโรคหนอนแมลงวันเนี่ยมักจะเกิดกับ
00:15:04 → 00:15:07 ผู้ป่วยที่ดูแลตัวเองไม่ได้แล้วถูกอ่า
00:15:07 → 00:15:10 ทิ้งไว้สุขอนามัยไม่ดีนะคะไม่ว่าจะเป็น
00:15:10 → 00:15:13 สุขอนามัยช่องปากหรือว่ามีแผ่กดทับอื่นๆ
00:15:13 → 00:15:16 เงค่ะแล้วเนื่องด้วยประเทศไทยเนาะอย่าง
00:15:16 → 00:15:19 ที่ทุกท่านทราบว่ามีแมลงวันเยอะอยู่แล้ว
00:15:19 → 00:15:23 เกือบทุกที่อต่อให้ปกติเราจะมองไม่เห็น
00:15:23 → 00:15:25 แต่ถ้ามีอาหารหรือมีกลิ่นดึงดูดเขาก็
00:15:25 → 00:15:29 พร้อมจะบินมาหาทันทีเนาะดังนั้นผู้ป่วย
00:15:29 → 00:15:32 ที่ดูแลตัวเองไม่ได้อ่ะค่ะแล้วถูกปล่อย
00:15:32 → 00:15:36 ทิ้งไว้ในบ้านที่ไม่มีมุ้งหรือว่าไม่มี
00:15:36 → 00:15:39 มุ้งลวดอย่างเงี้ยค่ะก็จะส่งกลิ่นเนาะดึง
00:15:39 → 00:15:43 ดูดแมลงวันให้มาวางไข่ตามบาดแผรต่างๆเง
00:15:43 → 00:15:45 ค่ะอันเนี้ยเป็นเรื่องที่น่ากังวลเหมือน
00:15:45 → 00:15:48 กันคือมามาวางไข่ตามบาดแผลเราได้ใช่ค่ะ
00:15:48 → 00:15:51 ผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้นะคะถ้า
00:15:51 → 00:15:55 เป็นคนปกติแมลงวันมาเราขยับเราปัดแต่ว่า
00:15:55 → 00:15:58 ผู้ป่วยทุพลภาพเนาะสมมุติเป็นผู้ป่วยอ่า
00:15:58 → 00:16:01 ติดเตียงนอนอัมพฤษอำมพาตอย่างเงี้ยค่ะเขา
00:16:01 → 00:16:04 ก็จะบางทีก็นอนอ้าปากฟันไม่ได้แปลงอย่าง
00:16:04 → 00:16:08 เงี้ยก็จะมีส่งกลิ่นแมลงวันเขาจะต้องการ
00:16:08 → 00:16:11 แหล่งวางไข่ที่เป็นแหล่งอุณหภูมิเหมาะสม
00:16:11 → 00:16:14 ชื้นนะคะแล้วก็มีโปรตีนเพราะฉะนั้นในช่อง
00:16:14 → 00:16:17 ปากเนี่ยค่ะก็ค่อนข้างเหมาะสมก็เลยมามา
00:16:17 → 00:16:22 บินมาเพื่อมาวางไข่ไม่ได้จะมาอ่าเอาอะไร
00:16:22 → 00:16:25 ในแบบที่ที่คนป่วยกินไปหรืออะไรแบบในช่ป
00:16:25 → 00:16:29 วางมาวางไข่เฉยๆใช่หรือบางครั้งผู้ป่วยก็
00:16:29 → 00:16:31 อาจจะทานอาหารแล้วไม่ได้ทำความสะอาดช่อง
00:16:31 → 00:16:34 ปากหรือเปล่ามีเศษอาหารอย่างเงี้ยค่ะแมลง
00:16:34 → 00:16:37 วันก็จะมาวางไข่เนาะถ้าเป็นแมลงวันหัว
00:16:37 → 00:16:40 เขียวเนี่ยจะวางไข่แต่ก็มีแมลงวันบาง
00:16:40 → 00:16:44 กลุ่มนะคะที่สามารถหย่อนหนอนได้เลยคือมา
00:16:44 → 00:16:46 ปุ๊บแทนที่จะออกเป็นไข่ก็คือหย่อนเป็น
00:16:46 → 00:16:49 หนอนลงลงบนเนื้อเยื่อได้เลยอย่าเงี้ยค่ะเ
00:16:49 → 00:16:53 จริงอ่ะจริงค่ะอุ๊ยแสดงว่ามันก็มีหลาย
00:16:53 → 00:16:55 ชนิดที่มันพร้อมจะมามีมีหลายถ้าเกิดว่า
00:16:55 → 00:16:59 แบบตรงนั้นไม่สะอาดขึ้นมาหรืออะไรแม้
00:16:59 → 00:17:01 กระทั่งแผลกดทับก็มาเป็นที่วางไข่ของมัน
00:17:01 → 00:17:04 ได้ใช่ค่ะเนื่องจากแผลกดทับเนี่ยไม่ไม่
00:17:04 → 00:17:08 ได้มีการอ่าไหลเวียนของเลือดที่ดีเนาะ
00:17:08 → 00:17:11 แล้วบางทีก็เกิดเป็นแผลอ่ะค่ะแล้วแผล
00:17:11 → 00:17:14 เนี่ยบางทีมีการติดเชื้อซ้ำโดยแบคทีเรีย
00:17:14 → 00:17:17 อย่างเงี้ยแล้วก็เลยเกิดส่งกลิ่นน่ะค่ะ
00:17:17 → 00:17:19 แล้วแมลงวันเขาก็จะดึงดูดกับสิ่งพวกเนี้ย
00:17:19 → 00:17:22 แล้วก็มาวางไข่อุ๊ยทำไมจมูกเขาดีจังเลย
00:17:22 → 00:17:26 เนาะดีมากค่ะดีมากคือแบบว่าแค่แบบแม้
00:17:26 → 00:17:28 กระทั่งแผลกดทับหรืออะไรก็แล้วแต่นิด
00:17:29 → 00:17:31 หน่อยๆนี่คือไม่ใช่แค่ขยะละไม่ใช่แค่สิ่ง
00:17:31 → 00:17:34 ปฏิกูละแต่กับตัวเราเคก็สามารถมาวางไข่ใน
00:17:34 → 00:17:37 ตัวเราได้ใช่ค่ะออไม่แปลกใจเพราะว่าเวลา
00:17:37 → 00:17:40 อย่างที่แบบจะเห็นตามข่าวเวลาที่แบบตามศพ
00:17:40 → 00:17:43 อะไรอย่างเงี้ยเนาะเขาก็มาวางไข่ได้
00:17:43 → 00:17:46 เหมือนกันใช่ค่ะอย่างที่ย้ำว่าแมลงวันเพศ
00:17:46 → 00:17:49 เมียเนี่ยเขาจะต้องการแหล่งอาหารโปรตีนใน
00:17:49 → 00:17:52 การวางไข่เพราะฉะนั้นแหล่งอาหารโปรตีนไหน
00:17:52 → 00:17:56 ที่เหมาะสมเขาจะประเมินว่าต้องมีโปรตีน
00:17:56 → 00:17:59 หรือปริมาณเนื้อเพียงพอให้ลูกเขาเเนี่ย
00:17:59 → 00:18:02 200 ฟองเนี่ยเติบโตเพราะฉะนั้นก็แผลนะคะ
00:18:02 → 00:18:08 แผลสดๆหรือว่าซากศพนะคะถ้าสมมุติใกล้ครัว
00:18:08 → 00:18:10 เรือนของเรามีซากสัตว์อย่างเงี้ยที่เสีย
00:18:10 → 00:18:12 ชีวิตแล้วเราไม่ทำการฝัฝังกล่มให้ดีก็
00:18:12 → 00:18:15 เป็นแหล่งเพาพันธุ์ของแมลงวันเช่นกันเออ
00:18:15 → 00:18:17 แต่เคยเคยเห็นเหมือนกันที่แบบว่ามีสุนัข
00:18:17 → 00:18:21 แบบอืดบวมคือแบบว่ากลุ่มแมลงวันหวงขิว
00:18:21 → 00:18:24 เป็นฝูงใหญ่ๆเลยอ่ะแล้วแบบว่าพอเวลาเรา
00:18:24 → 00:18:26 เดินเข้าไปใกล้มันแตกคือแล้วเสียงมันแบบ
00:18:26 → 00:18:30 ไอ้นี่มากเลยนะมันก็อุ๊ยขนลุกเหมือนกัน
00:18:30 → 00:18:32 แล้วก็ยังมีจุดที่ต้องเป็นกังวลอย่าง
00:18:32 → 00:18:36 เดี๋ยวนี้ก็แบบพวกกล่องพัสดุไปรษณีย์ก็ไป
00:18:36 → 00:18:40 ก็สามารถอีกหรอคะคือในต่างประเทศนะคะในใน
00:18:40 → 00:18:42 บ้านเราเนี่ยยังไม่มีรายงานเนาะแต่ว่าใน
00:18:42 → 00:18:45 ต่างประเทศเนี่ยเคยเห็นเหมือนกันว่าอบาง
00:18:45 → 00:18:48 ทีเขาส่งพัสดุหรือบางทีเป็นอาหารอ่ะค่ะ
00:18:48 → 00:18:52 อืออาหารแล้วเขาส่งชิปปิ้งเนาะแล้วมีการ
00:18:52 → 00:18:55 รั่วซึมของสิ่งที่อยู่ข้างในอย่างเช่นบาง
00:18:55 → 00:19:00 ทีอ่ะส่งอาหารกระป๋องหรือส่งพวกซีฟู้ดนะ
00:19:00 → 00:19:03 คะใส่กล่องไปอย่างเงี้ยแล้วมีพัสดุกล่อง
00:19:03 → 00:19:07 เนี่ยมีการเลอะสารพวกเนี้ยก็จะทำให้แมลง
00:19:07 → 00:19:09 วันน่ะถูกดึงดูดมาแล้วบางทีอ่ะเขาเข้าใจ
00:19:09 → 00:19:13 ว่าอ๋ออันนี้คือแหล่งโปรตีนเขาก็วางไข่จน
00:19:13 → 00:19:17 บางทีคนไม่เห็นจากไข่พัฒนาไปเป็นหนอนอ่ะ
00:19:17 → 00:19:19 ค่ะแล้วก็พัฒนาไปเป็นดักแด้ติดอยู่กับ
00:19:19 → 00:19:23 กล่องอย่างเงี้ยดักแด้เหรอคะใช่อ่ามดงวัน
00:19:23 → 00:19:27 คือบางไข่ไข่ไข่มาเป็นเป็นหนอนค่ะหนอนจาก
00:19:27 → 00:19:29 นั้นจะเข้าดักแดกดักแดกแล้วก็เป็นตัวเต็ม
00:19:29 → 00:19:32 วัยอันนี้คือวงจรของเขาเพราะฉะนั้นหลายๆ
00:19:32 → 00:19:35 ครั้งพวกกล่องพัสดุเนี่ยจะจะพบดักแด้มาก
00:19:35 → 00:19:39 กว่าอุยใระยะเวลาแค่สัปดาห์เดียวมาอีก
00:19:40 → 00:19:43 แล้วเป็นฝูงนึงเออแรงวันหัวเขียวต่าง
00:19:43 → 00:19:45 ประเทศกับบ้านเราต่างกันมั้ยคะ
00:19:45 → 00:19:49 อ่ามชนิดอ่ะค่ะสปีชีเนี่ยจะแตกต่างกันแต่
00:19:49 → 00:19:53 ว่าอวงจรชีวิตจะคลายคึงกันก็คือมี 4 ระยะ
00:19:53 → 00:19:56 เหมือนกันมีไข่ตัวหนอนดักแด้ตัวเต็มวย
00:19:56 → 00:19:58 เหมือนกันนะคะแต่ว่าต้องเข้าใจว่าต่าง
00:19:58 → 00:20:00 ประเทศเนี่ยอุณหภูมิความชื้นไม่ได้เหมือน
00:20:00 → 00:20:03 กับบ้านเราดังนั้นระยะเวลาในการเจริญเติบ
00:20:03 → 00:20:08 โตอาจจะยยาวกว่าบ้านเรานะคะแล้วก็อถ้าให้
00:20:08 → 00:20:11 พูดตรงๆก็คือแมลงวันในประเทศไทยเนี่ยค่อน
00:20:11 → 00:20:14 ข้างอยู่ใกล้ชิดกับคนมากๆเนื่องจาก
00:20:14 → 00:20:18 ว่าคนส่วนใหญ่ก็จะชินกับการมีแมลงวันอยู่
00:20:18 → 00:20:21 ในครัวเรือนโดยไม่ได้กำจัดอะไรมากเพราะ
00:20:21 → 00:20:23 ฉะนั้นแมลงวันก็เกิดการปรับตัวที่ไม่ได้
00:20:23 → 00:20:26 กลัวคนมากเขาก็ยิ่งมาอยู่ใกล้ชิดกับคนมาก
00:20:27 → 00:20:29 อ่ะค่ะสำหรับประเทศไทยนะคะแล้วก็มีแนว
00:20:29 → 00:20:32 โน้มที่จะนำเชื้อโรคมาสู่คนมากออดูฟังดู
00:20:32 → 00:20:34 เหมือนเป็นสายสัมพันธ์อันดีอยู่ใกล้ชิด
00:20:34 → 00:20:36 กับเรานะคะแต่ไม่แต่ไม่ควรจะอยู่แบบเอ้า
00:20:36 → 00:20:39 แต่อย่างงี้จะกำจัดไงคะเพราะว่าเขาก็แบบ
00:20:39 → 00:20:41 โอหบินเก่งแล้วเดี๋ยวนี้เขาฉลาดนะคะ
00:20:41 → 00:20:43 อาจารย์อันนี้ยืนยันได้เพราะว่าเอ่อเห็น
00:20:43 → 00:20:47 มากับตาแล้วก็ลองมากับตัวเองแล้วคือไอ้
00:20:47 → 00:20:49 ที่ดักแมลงวันที่เป็นก้านไม้อย่าเงี้ยค่ะ
00:20:49 → 00:20:53 ตามร้านอาหารหรืออะไรเงี้ยเค้าไม่มานะคะ
00:20:53 → 00:20:56 เค้าไม่เไม่มาติดกลับง่ายๆหรือแม้กระทั่ง
00:20:56 → 00:20:59 บางทีนั่งทนั่งนั่งกินอาหารกันอยู่เนี่ย
00:20:59 → 00:21:03 เอ่อเราแบ่งเอ่ออาหารส่วนนึงอ่ะไปอีกมุม
00:21:03 → 00:21:05 นึงเพื่อให้เค้าบินไปมุมนู้นไม่ต้องมา
00:21:05 → 00:21:07 อยู่ตรงช่วงที่ที่เรานั่งกินอยู่อย่าง
00:21:07 → 00:21:10 เงี้ยเค้าไม่ไปนะคะอาจารย์เหมือนเขาฉลาดเ
00:21:10 → 00:21:12 อยู่ตรงกับเราเหมือนสายสัมพันธ์ดีมากอยู่
00:21:12 → 00:21:15 ใกล้ๆชิดแต่ตรงที่เราไปวางไว้ให้เนี่ยไม่
00:21:15 → 00:21:18 บินไปเลยนะอาจารย์เอ้ยพฤติกรรมเค้ามันแบบ
00:21:18 → 00:21:22 เหมือนพัฒนาพัฒนามั้ยคือแมลงวันเนี่ยเป็น
00:21:22 → 00:21:24 แมลงที่ค่อนข้างปรับตัวเก่งอ่ะค่ะเพราะ
00:21:24 → 00:21:27 ฉะนั้นถ้าเขาอยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบไหนซ้ำๆ
00:21:27 → 00:21:30 อ่ะเขาจะมีเขาเรียกว่าวิวัฒนาการของเขา
00:21:30 → 00:21:33 อ่ะสามารถพอเขาอยู่กับคนแล้วรู้สึกว่าคน
00:21:33 → 00:21:35 ไม่ได้เป็นอันตรายเขาก็จะอยู่กับคนไป
00:21:35 → 00:21:39 เรื่อยๆหรือว่าแหล่งอาหารอย่างเงี้ยเา้า
00:21:39 → 00:21:41 จะถูกดึงดูดกับกลิ่นที่มากกว่าเพราะ
00:21:41 → 00:21:44 ฉะนั้นถ้าเราแบ่งอาหารไปมีปริมาณน้อยกว่า
00:21:44 → 00:21:46 กับจานหลักเก็จะอยู่กับจานหลักเพราะกลิ่น
00:21:46 → 00:21:49 มันดึงดูดกว่าไงคะคือแค่นี้เลยเออน่าคุย
00:21:49 → 00:21:51 กับอาจารย์ก่อนหน้านี้เนาะเราจะได้แบบลอง
00:21:51 → 00:21:55 ไปทดลองพิสุดอ๋อคือเพราะว่าปริมาณน้อยเก็
00:21:55 → 00:21:59 เลยไม่ไปอืแล้วไอ้พวกการกาวดักอะไรพวกนี้
00:21:59 → 00:22:02 มันก็ไม่ไม่ค่อยช่วยแล้วนะเดี๋ยวเนี้ย
00:22:02 → 00:22:06 เหมือนเค้ารู้อ่ะใช่ค่ะคือกาวดักเนี่ยมี
00:22:06 → 00:22:08 ประสิทธิภาพในระดับหนึ่งแต่ว่าต้องเข้าใจ
00:22:08 → 00:22:11 ว่าเวลาเราใช้กาวดักนานๆไปมันก็แห้งไงง
00:22:11 → 00:22:14 ค่ะมันก็เลยไม่ติดเนาะแล้วก็กาวดักเนี่ย
00:22:14 → 00:22:17 จริงๆมีหลายประเภทนะคะในตลาดถ้าลองไปดู
00:22:17 → 00:22:20 มันจะมีกาวดักบางประเภทที่ใส่สารเคมีบาง
00:22:20 → 00:22:22 อย่างที่ดึงดูดเข้าไปอย่างเช่นฟีโรโมน
00:22:22 → 00:22:25 เพื่อดึงดูดแมลงวันให้มากขึ้นหรือว่าถ้า
00:22:25 → 00:22:28 กาวดักราคาถูกมันก็จะเป็นกาวเหนียวอย่าง
00:22:28 → 00:22:30 เดียวอืถ้าเป็นาเหนียอย่างเดียวเนี่ยจะ
00:22:30 → 00:22:33 เหมาะสำหรับอ่าจับแมลงวันหรือควบคุม
00:22:33 → 00:22:36 ประชากรแมลงวันในพื้นที่ที่มีแมลงวันเยอะ
00:22:36 → 00:22:40 ๆบินชนกันไปชนกันมาแต่ก็ยังมีข้อจำกัดอีก
00:22:40 → 00:22:42 ถ้าสมมุติเราใช้แผ่นกาวเหนียวหรือว่า
00:22:42 → 00:22:44 ตะเกียบกาวเนี่ยที่มีปริมาณน้อยเกินไป
00:22:44 → 00:22:49 แมลงวันก็จะเต็มแถบเกาเลวแล้วก็ดักไม่ได้
00:22:49 → 00:22:52 อยู่ดีอ่ะค่ะเพราะฉะนั้นในหลายๆงานวิจัย
00:22:52 → 00:22:55 หรือการศึกษาเขาย้ำเลยว่าสิ่งที่สำคัญที่
00:22:55 → 00:22:59 สุดในการควบคุมประชากรแมลงวันก็คือต้อง
00:22:59 → 00:23:01 กำจัดแหล่งเพาาะพันธุ์ของเขาแหล่งเพาะ
00:23:01 → 00:23:04 พันธุ์ของเแหล่งเพาะพันธุ์อย่างที่กล่าว
00:23:04 → 00:23:07 ในตอนต้นก็คือพวกแหล่งเศษอาหารขยะมูลฝอย
00:23:07 → 00:23:11 มูลสัตว์ซากสัตว์ต่างๆอันเนี้ยคือ 1 ลด
00:23:11 → 00:23:15 แหล่งเพาะพันธุ์ 2 ลดการเข้าถึงของแมลง
00:23:15 → 00:23:17 วันไปสู่แหล่งอาหารอย่างเช่นถ้าเราทาน
00:23:17 → 00:23:20 อาหารในครัวเรือนปรุงอาหารเสร็จเราควรจะ
00:23:20 → 00:23:24 ใช้มุ้งครอบอาหารหรือว่าบ้านเราเนี่ยถ้า
00:23:24 → 00:23:28 เป็นมีแมลงวันเยอะๆแนะนำให้ติดมุ้งลวด
00:23:28 → 00:23:31 หรืออะไรเพื่อป้องกันแมลงวันเข้าถึงอาหาร
00:23:31 → 00:23:36 นะคะแล้วก็การทิ้งขยะควรจะมีฝาปิดเนาะ
00:23:36 → 00:23:40 แล้วก็สิ่งที่สำคัญอีกอันก็คือพยายามหลีก
00:23:40 → 00:23:44 เลี่ยงนะคะปัจจัยใดๆก็ตามที่จะทำให้แมลง
00:23:44 → 00:23:48 วันเข้าถึงตัวเราได้ง่ายๆเนาะอือๆหรือการ
00:23:48 → 00:23:51 ขยายแพร่พันธุ์ของเขาอะไรต่างๆเหล่านี้
00:23:51 → 00:23:55 ตากอาหารก็คือเดี๋ยวนี้ก็มีเป็นเหมือนแบบ
00:23:55 → 00:23:57 เอ่อเค้าเรียกอะไรเหมือนแบบที่ต่าอาหาร
00:23:57 → 00:23:59 ที่มีมีเป็นเหมือนมุ้งอะไรอย่างงี้ใช่
00:23:59 → 00:24:02 มั้ยคะเอก็ก็สะดวกดีเหมือนใชค่ะแต่สิ่ง
00:24:02 → 00:24:05 ที่น่าห่วงคือหลายๆท่านยังมีความคิดที่
00:24:05 → 00:24:08 ผิดเกี่ยวกับการกำจัดแมลงวันเข้าใจว่า
00:24:08 → 00:24:11 ต้องการกำจัดแมลงวันอย่างรวดเร็วจึงใช้
00:24:11 → 00:24:15 สารเคมีค่ะสเปรยใช่แล้วก็หลายๆครั้งที่
00:24:15 → 00:24:18 เราเห็นในสื่อออนไลน์มีการสเปรย์ยาฆ่า
00:24:18 → 00:24:24 แมลงในพวกปลาแห้งหรือวยหรือปลาแดดเดียว
00:24:24 → 00:24:27 มันมาตอมเออไม่ได้ฉีดแมลงวันนะคะฉีดปลา
00:24:27 → 00:24:33 ที่ปาแล้วู้ความสะดุงอหแล้วก็เกิดอารอัน
00:24:33 → 00:24:37 นี้ก็น่าเป็นห่วงนะคะเพราะว่าการใช้ยาฆ่า
00:24:37 → 00:24:40 แมลงเนี่ยจะส่งผลกระทบอยู่แล้วไม่ว่าจะ
00:24:40 → 00:24:42 ส่งผลกระทบต่อสัตว์เลี้ยงหรือสิ่งแวดล้อม
00:24:42 → 00:24:45 รอบข้างนะคะเพราะฉะนั้นการใช้ระยะยาว
00:24:45 → 00:24:48 เนี่ยไม่แนะนำอีกทั้งแมลงวันสามารถดื้อยา
00:24:48 → 00:24:51 ฆ่ามแมลงได้ด้วยถ้าสมมุติเราใช้ยาเดิมซ้ำ
00:24:51 → 00:24:54 ๆนะคะแมลงวันก็จะดื้อยาเนาะแต่ถ้าสมมุติ
00:24:54 → 00:25:01 ว่าไม่ไหวละแมลงวันปัญหาหนักเลย
00:25:01 → 00:25:06 อำการใช้ยาแง่ะได้ค่ะแต่้เป็นระยะเวลานาน
00:25:06 → 00:25:08 เนาะต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมแล้วก็ผล
00:25:08 → 00:25:11 กระทบอย่างอื่นด้วยแม้กระทั่งตัวเราอาจจะ
00:25:11 → 00:25:14 ได้รับสารเคมีตรงนั้นแมลงวันอาจจะตายเร็ว
00:25:14 → 00:25:16 ค่ะแต่เราจะค่อยๆตายผั่นส่งได้เพเรารับ
00:25:16 → 00:25:20 สารเคมีพวกเนี้ยมาตลอดเพราะงั้นคือต้นทาง
00:25:20 → 00:25:22 ดีที่สุดเลยเหมือนที่อาจารย์บอกคือกำจัด
00:25:22 → 00:25:25 แหล่งเพาะพันธุ์ค่ะแมลงวันต่างๆเหล่านี้
00:25:25 → 00:25:28 ที่แบบเศษอาหารสิ่งปฏิกูลหรือแบบทำความ
00:25:28 → 00:25:31 สะอาดบ้านให้มันแบบสะอาดอ่ะไม่ได้มีขยะ
00:25:31 → 00:25:34 หรือมีอะไรหรือถ้าเกิดมีโรงเรือนมีขยะ
00:25:34 → 00:25:37 หรืออะไรอย่างเงี้ยก็กำจัดให้ดีใช่ค่ะการ
00:25:37 → 00:25:40 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเราแล้วก็การกำจัด
00:25:40 → 00:25:42 ขยะที่เหมาะสมเนี่ยจะเป็นการควบคุม
00:25:42 → 00:25:45 ประชากรแมลงวันอย่างยั่งยืนแล้วก็ลดการ
00:25:45 → 00:25:48 ใช้สารเคมีหรืออะไรก็ตามที่ส่งผลกระทบต่อ
00:25:48 → 00:25:51 สุขภาพของเราแล้วก็สิ่งแวดล้อมด้วยอค่ะ
00:25:51 → 00:25:53 เพราะว่ามันนำมาซึ่งโรคเยอะแยะมากมายเลย
00:25:53 → 00:25:56 นะคะที่เกี่ยวกับแมลงวันนะคะวันนี้ได้รู้
00:25:56 → 00:25:58 จักแมลงวันหัวเขียวมากขึ้นแลแล้วก็รู้สึก
00:25:58 → 00:26:01 ว่าเออสิ่งที่เราเจอเราเรามีวิธีะมีแนว
00:26:01 → 00:26:03 ทางในการที่จะกำจัดและป้องกันแล้วนะคะก็
00:26:03 → 00:26:05 น่าจะเป็นแนวทางให้สำหรับคุณผู้ฟังด้วย
00:26:05 → 00:26:08 วันนี้ต้องขอบคุณนะคะสำหรับอาจารย์ธันวดี
00:26:08 → 00:26:10 ค่ะที่มาร่วมพูดคุยในรายการโรงหมอของเรา
00:26:10 → 00:26:12 นะคะขอบคุณค่ะอาจารย์คาขอบคุณค่ะค่ะ
00:26:12 → 00:26:15 สวัสดีค่ะสวัสดีค่ะหมดเวลาแล้วค่ะคุณผู้
00:26:15 → 00:26:17 ฟังพบกันใหม่ครั้งหน้ากับรายการโรงหมอทาง
00:26:17 → 00:26:19 ไทย PBS podcast นะคะวันนี้ลาไปก่อนค่ะ
00:26:19 → 00:26:20 สวัสดี
00:26:21 → 00:26:25 ค่ะ This Is tha PBS podcast เส้นผม
00:26:25 → 00:26:27 และเส้นขนของเราร่วงเป็นปกติอยู่แล้วแต่
00:26:27 → 00:26:30 หากร่วงอาจเกิดปัญหาจากโรคบางอย่างได้
00:26:30 → 00:26:32 แพทย์หญิงชินวนัสเลขวัตประชาสัมพันธ์
00:26:32 → 00:26:35 สมาคมแพคผิวหนังแห่งประเทศไทยมาบอกให้รู้
00:26:35 → 00:26:39 ครับเวลาเราคาวะผมโรคปกติเนี่ยเส้นผมเรา
00:26:39 → 00:26:41 จะไม่ได้ร่วงพร้อมกันมันเหมือนมันจะทยอย
00:26:41 → 00:26:44 ผลัดกันร่วงอย่างเงี้ยค่ะเพราะว่าในแต่ละ
00:26:45 → 00:26:49 กลุ่มผมเนี่ยมันก็จะใช้เวลาสักประมาณ 3 -
00:26:49 → 00:26:53 5 ปีเวลาที่เอ่อยาวขึ้นมาแล้วก็หลุดร่วง
00:26:53 → 00:26:56 นะคะดังนั้นมันจะทยอยทยอยกันแต่เวลาพอมี
00:26:56 → 00:26:59 ภาวะนี้เกิดขึ้นมาเนี่ยมันจะมีภูมิคุ้ม
00:26:59 → 00:27:02 กันที่ไปต้านรากผมตัวเองทำให้มันเกิดการ
00:27:02 → 00:27:05 อักเสบบริเวณนั้นแล้วก็เลยทำให้เส้นผม
00:27:05 → 00:27:08 บริเวณนั้นเนี่ยมันเหมือนแทนที่มันจะใช้
00:27:08 → 00:27:11 ระยะเวลา 3 ปีในการหลุดร่วงมันอาจจะใช้
00:27:11 → 00:27:13 เวลาแค่แป๊บเดียวแล้วก็ร่วงไปเลยทำให้เรา
00:27:13 → 00:27:17 เห็นเป็นวงๆอ่ะค่ะเพราะว่าถ้ามันมันเลย
00:27:17 → 00:27:20 เหมือนมันจู่โจมแค่ตรงนั้นจุดนั้นแต่ใน
00:27:20 → 00:27:23 บางคนถ้าสมมุติว่าเป็นเยอะๆหรือว่าเป็น
00:27:23 → 00:27:27 ภาวะของโรคที่มีความรุนแรงมากขึ้นน่ะนะคะ
00:27:27 → 00:27:30 ก็อาจจะร่วงหมดสีศีษะได้เช่นเดียวกันนะคะ
00:27:30 → 00:27:33 ก็เลยอาจจะทั้งหย่อมก็ได้นะคะหรือว่าร่วม
00:27:33 → 00:27:36 หมดศีรษะหรือบางทีอาจจะมีขนตามร่างกาย
00:27:36 → 00:27:39 เนี่ยร่วงร่มด้วยก็ได้ค่ะค่ะโอกาสการที่
00:27:39 → 00:27:42 จะเป็นโรคนะคะก็คือประมาณสัก
00:27:42 → 00:27:45 0.2% ของประชากรทั้งหมดน่ะนะคะจริงๆ
00:27:45 → 00:27:48 โอกาสไม่ได้เยอะเลยแต่ว่าก็อาจจะขึ้นอยู่
00:27:48 → 00:27:51 กับหลายปัจจัยค่ะเช่นอาจจะมีภาวะทาง
00:27:51 → 00:27:55 กรพันธ์บ้างหรือในบางคนก็คือเอ่ออาจจะมี
00:27:55 → 00:27:58 ภาวะอะไรกระตุ้นบางอย่างทำให้เป็นได้
00:27:58 → 00:28:01 ได้ง่ายมากขึ้นนะค่ะดังนั้นก็ต้องรักษา
00:28:01 → 00:28:04 สุขภาพให้ดีค่ะแต่ในกลุ่มคนที่อาจจะมี
00:28:04 → 00:28:08 ความเสี่ยงมากขึ้นเช่นในคนที่มีโรคภาวะ
00:28:08 → 00:28:12 ภูมิต้านตัวเองอยู่แล้วเช่นกรณีเช่นเอ่อ
00:28:12 → 00:28:15 โรค sle นะคะหรือในกรณีที่เป็นโรค
00:28:15 → 00:28:19 ไทรรอยด์นะคะหรือในบางครั้งถ้ามีภาวะโรค
00:28:19 → 00:28:23 เลือดจางหรือขาดไวตามินดีหรือมีภาวะผิด
00:28:23 → 00:28:26 ปกติทั้งตาทางหูบางอย่างเนี่ยก็อาจจะมี
00:28:26 → 00:28:29 โอกาสเสี่ยงที่ทำให้เป็นภาวะนี้เนี่ยได้
00:28:29 → 00:28:32 ง่ายขึ้นนิดหน่อยค่ะออแต่ไม่ได้แบบต้อง
00:28:32 → 00:28:34 เป็นทุกรายนะคะไม่ใช่ว่าอุ๊ตายแล้วฉัน
00:28:34 → 00:28:37 เป็นโรคไทรอยด์เดี๋ยวฉันจะต้องร่วงแน่ๆก็
00:28:37 → 00:28:39 ไม่อยากให้คิดอย่างงั้นนะคะก็จะไม่ขนาด
00:28:39 → 00:28:42 นั้นค่ะเพียงแต่ว่าคือทคนที่เป็นโรค
00:28:42 → 00:28:45 ไทรรอยด์ก็อาจจะพบว่ามันมีความสัมพันธ์
00:28:45 → 00:28:49 กันกับภาวะโรคผมร่วงเป็นหย่อนได้ค่ะบางคน
00:28:49 → 00:28:52 ตายแล้วทำไมแบบผมร่วงออกมาเยอะมากหรือว่า
00:28:52 → 00:28:55 บางทีจับทีนึงร่วงออกมาเป็นกระจุกกระจุ
00:28:55 → 00:28:58 เลยอันนี้หมอว่าก็เป็นสัญญาณบงชีว่าเอ๊
00:28:58 → 00:29:01 เราอาจจะร่วงผิดปกติอาจจะต้องไปพบแพทย์นะ
00:29:01 → 00:29:04 อะไรอย่างเงี้ยค่ะถ้าในช่วงต้นๆก็อาจจะ
00:29:04 → 00:29:07 รักษาได้ง่ายกว่าเวลาถ้าเราปล่อยให้ร่วง
00:29:07 → 00:29:10 หมดศีรษะไปแล้วเนี่ยเป็นระยะเวลาหลาย
00:29:10 → 00:29:13 เดือนหรือเป็นปีอันนั้นก็อาจจะรักษายาก
00:29:13 → 00:29:15 ขึ้น
00:29:15 → 00:29:20 ค่ะ This Is Thai PBS
00:29:20 → 00:29:23 podcast ติดตามรายการของ Thai PBS
00:29:23 → 00:29:25 podcast ได้ทางเว็บไซต์
00:29:25 → 00:29:28 www.thaipbs.or.th
00:29:28 → 00:29:31 com Application Thai PBS podcast
00:29:31 → 00:29:34 รวมถึงฟังผ่าน podcast ช่องทางอื่นๆ
00:29:34 → 00:29:38 spotify YouTube Apple podcast และ
00:29:38 → 00:29:40 soundcloud
00:29:40 → 00:29:43 [เพลง]