00:00:00 → 00:00:03 This is Thai PBS podcast view the
00:00:03 → 00:00:06 world by the voice
00:00:06 → 00:00:08 >> คือโรคลิ้นหัวใจอ่ะค่ะหากปล่อยทิ้งไว้
00:00:08 → 00:00:11 เนี่ยทำให้กล้ามเนื้อหัวใจมันโตผิดปกติ
00:00:11 → 00:00:14 ได้เหมือนกันวัยเด็กอาจจะเจอได้ในกรณีที่
00:00:14 → 00:00:17 เขาอาจจะได้รับสารพิษหรือสารเคมีบางอย่าง
00:00:17 → 00:00:20 ที่ไปกระตุ้นทำให้เกิดความปกติเช่นคุณแม่
00:00:20 → 00:00:23 ที่สูบบุหรี่แต่พอในวัยผู้สูงอายุหรือผู้
00:00:23 → 00:00:26 ใหญ่อ่ะค่ะมันจะเกิดเริ่มมีอายุเพิ่มมาก
00:00:26 → 00:00:31 อย่างเช่นคนไข้มีการติดเชื้อในช่องคอ
00:00:31 → 00:00:33 ทำ
00:00:33 → 00:00:37 ตามซึ่งระยะเวลามันไม่ได้เกิดทันทีทันใด
00:00:37 → 00:00:40 ค่ะก็จะใช้ระยะเวลาประมาณ 10-20 ปีอย่าง
00:00:40 → 00:00:43 เงี้ยอาการโดยส่วนใหญ่ถ้าคนไข้ความผิด
00:00:43 → 00:00:45 ปกติของลิ้นไม่รุนแรงมากคนไข้แทบไม่มี
00:00:45 → 00:00:48 อาการเลยค่ะ
00:00:48 → 00:00:51 >> ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟังราย
00:00:51 → 00:00:55 การโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงษ์สถิตพรค่ะ
00:00:55 → 00:00:58 >> This is Thai PBS Podcast
00:00:58 → 00:01:00 >> คุณผู้ฟังคะเราจะคุยกันถึงเรื่องของโรค
00:01:00 → 00:01:04 ลิ้นหัวใจอันตรายที่แอบซ่อนนะคะมันเป็น
00:01:04 → 00:01:07 สิ่งที่หลายคนอาจจะมองข้ามอยู่แต่จริงๆ
00:01:07 → 00:01:10 แล้วมันก็อาจจะมีภาวะส่งผลกระทบต่อการไหล
00:01:10 → 00:01:12 เวียนของโลหิตแล้วก็การทำงานของหัวใจโดย
00:01:12 → 00:01:15 ตรงด้วยนะคะทีนี้มันอันตรายที่แอบซ่อน
00:01:15 → 00:01:18 อย่างไรคุยกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.
00:01:18 → 00:01:22 อรจุมานากรจากภาควิชาการพยาบาลศัลยศาสตร์
00:01:22 → 00:01:24 คณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดลค่ะ
00:01:24 → 00:01:26 สวัสดีค่ะอาจารย์คะ
00:01:26 → 00:01:27 >> สวัสดีค่ะ
00:01:27 → 00:01:28 >> วันนี้เรามาคุยกันอีกเรื่องนึงที่บอกว่า
00:01:28 → 00:01:31 เป็นอันตรายที่แอบซ่อนฟังดูแล้วก็น่า
00:01:31 → 00:01:34 กังวลใจน่ากลัวอยู่เหมือนกันน่ะนะคะว่า
00:01:34 → 00:01:36 เอ๊ะพอมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับหัวใจโรค
00:01:36 → 00:01:40 ลิ้นหัวใจอะไรแบบเนี้ยก็จะเออเราเป็นหรือ
00:01:40 → 00:01:43 เปล่าเอ๊ะเรายังไงนะคะโรคลิ้นหัวใจคือ
00:01:43 → 00:01:47 อะไรนะคะมีประเภทมีอาการอะไรยังไงบ้าง
00:01:47 → 00:01:48 เดี๋ยววันนี้อาจารย์ได้ช่วยให้ข้อมูลใน
00:01:49 → 00:01:49 เรื่องนี้ค่ะ
00:01:49 → 00:01:52 >> ก่อนอื่นก็ต้องรู้หน้าที่เนาะคือโรคลิ้น
00:01:52 → 00:01:55 หัวใจอ่ะค่ะลิ้นเนี่ยทำหน้าที่นะคะควบคุม
00:01:55 → 00:01:58 การไหลของเลือดค่ะให้ไปในทิศทางเดียวที
00:01:59 → 00:02:02 นี้เมื่อไหร่ก็ตามที่ลิ้นหัวใจอ่ะค่ะจะทำ
00:02:02 → 00:02:05 หน้าที่เปิดปิดหากมีความผิดปกติเกิดขึ้น
00:02:05 → 00:02:08 ก็จะส่งผลต่อระบบไหลเวียนโลหิตซึ่งความ
00:02:08 → 00:02:10 ผิดปกติของลิ้นหัวใจอ่ะค่ะก็จะมีทั้งลิ้น
00:02:10 → 00:02:12 หัวใจตีบและลิ้นหัวใจรั่วค่ะ
00:02:12 → 00:02:15 >> ส่วนใหญ่ที่จะได้ยินบ่อยๆคือโรคลิ้นหัวใจ
00:02:15 → 00:02:18 รั่วอันนี้ได้ยินบ่อยมากกว่ากว่าตีบ
00:02:18 → 00:02:18 >> ค่ะ
00:02:18 → 00:02:21 >> 2 อันนี้มันต่างกันใช่มั้ยคะตีบกับรั่ว
00:02:21 → 00:02:22 >> ต่างกันค่ะอื
00:02:22 → 00:02:25 >> ตีบกับรั่วจะต่างกันเพราะมันจะทำให้เกิด
00:02:25 → 00:02:28 การเปลี่ยนแปลงทางพญาิสภาพ
00:02:28 → 00:02:29 ต่างกันค่ะ
00:02:29 → 00:02:33 >> แต่ว่าโดยภาพรวมมันคือโรคลิ้นหัวใจแต่ว่า
00:02:33 → 00:02:36 มันจะรั่วหรือมันจะตีบก็ขึ้นอยู่กับบุคคล
00:02:36 → 00:02:37 อย่างนั้นถูกมั้คะ
00:02:37 → 00:02:37 >> ใช่ค่ะ
00:02:37 → 00:02:38 >> อ๋อ
00:02:38 → 00:02:41 >> หรือบางทีลิ้นนึงอ่ะค่ะอาจจะตีบและรั่วใน
00:02:41 → 00:02:43 ลิ้นเดียวกันก็ได้นะคะ
00:02:43 → 00:02:46 >> มีภพเยอะมั้ยคะแบบกรณีแบบนี้อค่ะ
00:02:46 → 00:02:47 >> ก็มีค่ะ
00:02:47 → 00:02:47 >> อื
00:02:47 → 00:02:50 >> บางบางรายก็คือตีบก็ตีบเลยบางรายก็รั่วก็
00:02:50 → 00:02:53 รั่วเลยแต่ก็อาจจะมีบางคนที่ลิ้นเดียวอ่ะ
00:02:53 → 00:02:55 ค่ะสามารถตีบและรั่วได้
00:02:55 → 00:02:58 >> อืก็น่าสนใจตรงที่ว่าเราไม่รู้เลยเพราะ
00:02:58 → 00:03:00 มันอยู่ข้างในใช่มั้คะ
00:03:00 → 00:03:02 >> ค่ะหัวใจก็จะแบ่งออกเป็น 4 ห้องนะคะดัง
00:03:02 → 00:03:06 นั้นลิ้นหัวใจของเราอ่ะค่ะก็จะมีที่แบ่ง
00:03:06 → 00:03:09 ระหว่างห้องเนี่ยเป็น 2 ลิ้นอย่างซีกขวา
00:03:09 → 00:03:12 ก็จะมีลิ้นที่กั้นระหว่างห้องหัวใจขวาบน
00:03:12 → 00:03:13 ล่าง 1 ลิ้น
00:03:13 → 00:03:16 >> ซีกซ้ายก็กั้นระหว่างหัวใจบนล่างอีก 1
00:03:16 → 00:03:18 ลิ้นลิ้นและอีก 2 ลิ้นก็เป็นลิ้นที่กั้น
00:03:18 → 00:03:21 ระหว่างข้องหัวใจกับหลอดเลือดค่ะเป็น
00:03:21 → 00:03:24 ประตูเปิดปิดควบคุมทิศทางให้เลือดน่ะค่ะ
00:03:24 → 00:03:27 ไหลไปในทิศทางเดียวไม่ให้ไหลย้อนกลับแต่
00:03:27 → 00:03:29 เมื่อไหร่ก็ตามที่มีความผิดปกติเกิดขึ้น
00:03:29 → 00:03:32 จะทำให้เลือดไหลย้อนกลับได้ปกติอ่ะค่ะ
00:03:32 → 00:03:35 เลือดใช่มั้ยคะก็จะเข้าห้องหัวใจเข้าสู่
00:03:35 → 00:03:37 หัวใจซีกขวา
00:03:37 → 00:03:39 >> แล้วหลังจากนั้นก็จะไปฟอกที่ปอด
00:03:39 → 00:03:43 >> พอฟอกที่ปอดเสร็จก็จะเข้าสู่หัวใจซีกซ้าย
00:03:43 → 00:03:45 แล้วก็ไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่าง
00:03:45 → 00:03:46 กายอื
00:03:46 → 00:03:49 >> แต่ล้นหัวใจรั่วค่ะบางอย่างอ่ามันกลับ
00:03:49 → 00:03:52 เข้ามาซีกขวาเสร็จไปที่ปอดเสร็จพอมาซีก
00:03:52 → 00:03:55 ซ้ายอ่ะพอซีกซ้ายมันไม่ไประบบไหลเวียน
00:03:55 → 00:03:58 ทั้งหมดมันกลับไหลย้อนกลับไปที่ปอดได้
00:03:58 → 00:04:00 อย่างเงี้ยค่ะถ้าลิ้นหัวใจที่ข้างซ้ายมัน
00:04:00 → 00:04:01 ผิดปกติ
00:04:01 → 00:04:04 >> ไม่ว่ายังไงมันมีโอกาสที่จะเกิดได้ทั้ง 2
00:04:04 → 00:04:05 ข้างทั้งซ้ายและขวา
00:04:05 → 00:04:06 >> ใช่ค่ะ
00:04:06 → 00:04:08 >> อ้าวอย่างงี้เราจะสังเกตยังไงคะอาจารย์
00:04:08 → 00:04:11 โอกาสที่คนจะเป็นโรคลิ้นหัวใจเนี่ยประเภท
00:04:11 → 00:04:14 กลุ่มไหนแล้วก็วัยไหนคะอาจารย์แล้วก็
00:04:14 → 00:04:15 อาการมันเป็นยังไงบ้างอ่ะคะ
00:04:15 → 00:04:19 >> ถ้าจำแนกตามวัยเนี่ยวัยเด็กอาจจะเจอได้ใน
00:04:19 → 00:04:22 กรณีที่เป็นความผิดปกติแตกกำเนิดเลยนะคะ
00:04:22 → 00:04:25 อันนั้นก็คือคลอดออกมาเนี่ยคุณหมอจะทราบ
00:04:25 → 00:04:27 ว่าคนไข้มีความผิดปกติของลิ้นหัวใจหรือ
00:04:27 → 00:04:30 เปล่าทีนี้แต่พอในวัยผู้สูงอายุหรือผู้
00:04:30 → 00:04:33 ใหญ่อ่ะค่ะมันจะเกิดเมื่ออายุอ่าเริ่มมี
00:04:33 → 00:04:36 อายุเพิ่มมากขึ้นเรียกว่าสาเหตุที่เกิด
00:04:36 → 00:04:40 เนี่ยคือเกิดตามหลังอย่างเช่นอ่าคนไข้มี
00:04:40 → 00:04:43 การติดเชื้อในช่องอ่าในช่องคอแล้วแต่การ
00:04:43 → 00:04:46 ติดเชื้อแบคทีเรียอย่างเงี้ยค่ะแล้วมันทำ
00:04:46 → 00:04:50 ให้เชื้อเนี่ยเอ่อเกิดอ่าไปทำความผิดปกติ
00:04:50 → 00:04:53 ที่ลิ้นหัวใจตามมาได้ซึ่งระยะเวลามันไม่
00:04:53 → 00:04:56 ได้เกิดทันทีทันใดอ่ะค่ะก็จะใช้ระยะเวลา
00:04:56 → 00:04:59 ประมาณ 10-20 ปีอย่างเงี้ยถึงจะอ่าปรากฏ
00:04:59 → 00:05:03 อาการของลิ้นหัวใจที่มีปัญหาได้ดังนั้น
00:05:03 → 00:05:06 อาการโดยส่วนใหญ่อ่ะถ้าจะให้ตรวจนะค่ะ
00:05:06 → 00:05:09 เริ่มแรกถ้าคนไข้ความผิดกติของลิ้นไม่
00:05:09 → 00:05:11 รุนแรงมากคนไข้แทบไม่มีอาการเลยค่ะ
00:05:11 → 00:05:15 >> จะมีอาการก็ต่อเมื่อพบความผิดปกติของลิ้น
00:05:15 → 00:05:17 ที่ค่อนข้างรุนแรงแล้ว
00:05:17 → 00:05:19 >> มาเจอตอนที่เ่อระยะรุนแรงแล้วอย่างเงี้ย
00:05:19 → 00:05:22 การรักษามันจะไปดูค่อนข้างจะยากมั้คะ
00:05:22 → 00:05:25 อย่างงี้การรักษาถ้าแพทย์วินิจฉัยว่า
00:05:25 → 00:05:29 รุนแรงนะคะก็อาจจะต้องพิจารณาว่าจำเป็นจะ
00:05:29 → 00:05:33 ต้องผ่าตัดซ่อมแซมหรือเปลี่ยนลิ้นหัวใจมย
00:05:33 → 00:05:36 อย่างลิ้นหัวใจเออติกอ่ะค่ะโดยส่วนใหญ่
00:05:36 → 00:05:40 สาเหตุเราก็จะมับพบในผู้สูงอายุแล้วเพราะ
00:05:40 → 00:05:42 ว่าสาเหตุมันเกิดจากพออายุที่เพิ่มมาก
00:05:42 → 00:05:45 ขึ้นน่ะค่ะมันก็จะจะมีสการเสื่อมตามวัย
00:05:45 → 00:05:48 ของลิ้นก็จะมีแคลเซียมมาเกาะที่ลิ้นหัวใจ
00:05:48 → 00:05:48 อย่างเงี้ย
00:05:48 → 00:05:51 >> แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้สูงอายุทุกคนจะ
00:05:51 → 00:05:54 ต้องมีโอกาสเป็นอะไรอย่างงี้ขึ้นอยู่กับ
00:05:54 → 00:05:56 บุคคลในการใช้ชีวิตมาหรืออะไรแบบนี้ด้วย
00:05:56 → 00:05:58 อ่ะเนาะอาจารย์
00:05:58 → 00:06:00 >> ใช่ค่ะก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมสุขภาพ
00:06:00 → 00:06:04 ไลฟ์สไตล์การรับประทานอาหารประวัติอ่าโรค
00:06:04 → 00:06:06 ร่วมอย่างเช่นคอเลสเตอรอลสูงหรือเปล่า
00:06:06 → 00:06:07 อย่างเงี้ยค่ะ
00:06:07 → 00:06:09 >> ค่ะอาจารย์คะแล้วอย่างงี้อาการที่ว่า
00:06:09 → 00:06:13 เนี่ยอ่ามีอะไรที่เราแบบพอสังเกตก่อนได้
00:06:13 → 00:06:15 มั้คะอาจารย์เพราะว่ารู้อีกทีนึงมัน
00:06:15 → 00:06:18 รุนแรงไปแล้วอ่ะมันจริงๆสัญญาณในร่างกาย
00:06:18 → 00:06:21 มันน่าจะมีอะไรเตือนอยู่บ้างแต่เราแค่ไม่
00:06:21 → 00:06:23 คิดไม่เอะใจอย่างี้มั้ยคะ
00:06:23 → 00:06:26 >> มีค่ะอย่างเช่นอาจจะเริ่มมีอาการเหนื่อย
00:06:26 → 00:06:29 ง่ายเวลาที่ออกแรงเยอะๆ
00:06:29 → 00:06:30 >> อ๋อ
00:06:30 → 00:06:34 >> หรือบางรายอาจจะมีอาการใจสั่นจากความปกติ
00:06:34 → 00:06:38 ของลิ้นหัวใจแล้วทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนก็
00:06:38 → 00:06:41 คือมีหัวใจเต้นผิดจังหวะตามมาค่ะปกติ
00:06:41 → 00:06:42 จังหวะก็จะสม่ำเสมอ
00:06:42 → 00:06:43 >> อ่า
00:06:43 → 00:06:46 >> ทีผิดจังหวะแบบนี้ก็คือจะเป็นที่เรียกว่า
00:06:46 → 00:06:49 หัวใจห้องบนเต้นเร็วแบบสั่นพริ้วจังหวะก็
00:06:49 → 00:06:52 จะไม่สม่ำเสมอค่ะคนไข้ก็จะรู้สึกว่ามัน
00:06:52 → 00:06:55 รู้สึกใจสั่นหัวใจเต้นเร็วอย่างเงี้ยเกิด
00:06:55 → 00:06:57 ขึ้นได้ค่ะในบางราย
00:06:57 → 00:06:59 >> อืทั้งๆที่ว่าไม่ได้มีอะไรให้ตื่นเต้นแต่
00:07:00 → 00:07:03 หัวใจมันเต้นเร็วขึ้นเองแบบนั้นหรือเปล่า
00:07:03 → 00:07:04 อ๋อ
00:07:04 → 00:07:06 >> ค่ะใช่ค่ะเป็นไปได้
00:07:06 → 00:07:06 >> อ่าเหนื่อยง่าย
00:07:06 → 00:07:09 >> แต่ส่วนใหญ่ที่มาอย่างที่บอกใช่เวลา
00:07:09 → 00:07:13 สมมุติเคยทำงานได้เท่านี้อ่าอยู่ดีๆเริ่ม
00:07:13 → 00:07:15 แบบออกแรงได้แบบพอออกแรงแล้วรู้สึก
00:07:15 → 00:07:17 เหนื่อยง่ายอะไรอย่างเงี้ยค่ะหายใจลำบาก
00:07:17 → 00:07:18 อย่างเงี้ย
00:07:18 → 00:07:19 >> ค่ะ
00:07:19 → 00:07:22 >> บางคนเคยขึ้นบันไดได้ 1 ชั้นอ่ะ
00:07:22 → 00:07:24 >> ต่อมาอาจจะขึ้นได้แบบเออขึ้นบันได 1 ชั้น
00:07:25 → 00:07:26 แล้วเริ่มรู้สึกเหนื่อยอย่างเงี้ยก็ได้
00:07:26 → 00:07:26 ค่ะ
00:07:26 → 00:07:30 >> อืออือันนี้ในกรณีที่เป็นคนที่แบบว่าอ่า
00:07:30 → 00:07:33 สุขภาพโดยปกติทั่วไปหรือว่าแบบอ่ะมีบางคน
00:07:33 → 00:07:37 อาจจะมีโรคเรื่องของเอ่อ NCD อยู่ด้วย
00:07:37 → 00:07:39 อะไรอย่างี้ด้วยมั้ยคะที่คือพอพอมันฟังดู
00:07:39 → 00:07:42 แล้วอาการบางอย่างมันเราจะไม่ได้นึกถึง
00:07:42 → 00:07:44 ลิ้นหัวใช
00:07:44 → 00:07:46 >> อาจารย์บางอย่างมันคลุมเครือมันก็เข้าได้
00:07:46 → 00:07:49 กับโรคอื่นๆด้วยแต่หากมีอาการแบบเนี้ยก็
00:07:50 → 00:07:53 อาจจะต้องอ่าคำคิดนิดนึงว่าเอ๊ะจากเรา
00:07:53 → 00:07:56 ปกติมันมีความผิดปกติอะไรที่เกิดขึ้นกับ
00:07:56 → 00:07:58 เราหรือเปล่าอย่างเงี้ยค่ะถ้าจะให้ชัดยัง
00:07:58 → 00:08:00 ไงก็คือต้องมาตรวจ
00:08:00 → 00:08:03 >> เพื่อที่จะดูว่าหัวใจของเราอ่ะค่ะลิ้นของ
00:08:03 → 00:08:05 เรามันผิดปกติมั้ยอ่ะค่ะ
00:08:05 → 00:08:08 >> ค่ะอ้าอาจารย์ไปตรวจก็เจอเดี๋ไม่ตรวจก็
00:08:08 → 00:08:09 เจอ
00:08:09 → 00:08:11 >> หลายคนเลยบอกว่าไม่ไปตรวจดีกว่าจะได้ไม่
00:08:11 → 00:08:14 เจออะไรแบบนี้นะคะอ่ะแต่ไม่ได้นะมัน
00:08:14 → 00:08:16 อันตรายถึงชีวิตเลยมั้ยคะอาจารย์ถ้าเกิด
00:08:16 → 00:08:18 แบบเราปล่อยทิ้งไว้อย่างเงี้ยค่ะ
00:08:18 → 00:08:21 >> อันตรายค่ะเพราะมันเป็นสาเหตุทำให้เกิด
00:08:21 → 00:08:23 ภาวะหัวใจล้มเหลวตามมาได้
00:08:24 → 00:08:27 >> เสี่ยงนะเนี่ยแล้วยิ่งถ้าเกิดอายุมากๆมาก
00:08:27 → 00:08:29 ๆนี่ประมาณซักเริ่มเท่าไหร่ที่เราจะเริ่ม
00:08:29 → 00:08:33 แบบเฮ้ยต้องเอะใจละเอ้ยเริ่มตรวจมากขึ้น
00:08:33 → 00:08:34 กว่าเดิมอ่ะคะอาจารย์สักประมาณอายุเท่า
00:08:35 → 00:08:35 ไหร่ดี
00:08:35 → 00:08:39 >> จริงๆ 65 น่าจะเริ่มตรวจเหมือนกันนะคะ
00:08:39 → 00:08:44 เพราะบางทีจะเจอในแบบ 70 อย่างเงี้ยจะเจอ
00:08:44 → 00:08:49 ถ้าหัวใบบางอายุไม่ได้มากแต่เป็นสาเหตุ
00:08:49 → 00:08:52 อย่างอื่นก็ทำให้มีปัญหาตามมาได้นะคะ
00:08:52 → 00:08:56 >> อือ่าทีนี้ต้องมาแยกประเภทว่าเราจะเป็น
00:08:56 → 00:09:00 ลิ้นหัวใจตีบหรือรั่วจากการเอ่อตรวจ
00:09:00 → 00:09:03 วินิจฉัยก่อนใช่มั้ยคะอ๋อค่ะ
00:09:03 → 00:09:05 >> องั้นแสดงว่า 2 อาการนี้ทั้งหัวใจรั่วหัว
00:09:05 → 00:09:09 ใจตีบเนี่ยอาการคือเหนื่อยง่ายหายใจลำบาก
00:09:09 → 00:09:11 เอ่อใจสั่นอะไรพวกอย่างเงี้ยคือมันก็
00:09:11 → 00:09:13 เหมือนๆกันหรอคะในตอนแรกแต่ว่าแค่ต้องไป
00:09:13 → 00:09:16 ตรวจแยกอีกทีนึงว่ามันเป็นยังไงอ๋อ
00:09:16 → 00:09:19 >> อาการของโรคการรุนแรงของโรคจะเหมือนกัน
00:09:19 → 00:09:22 แต่ว่าต้องแยกจากการตรวจวินิจฉัยก็คือการ
00:09:22 → 00:09:24 ตรวจเอคโคอือ
00:09:24 → 00:09:24 >> ฮึ
00:09:24 → 00:09:26 >> ที่บอกว่าคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจอ่ะค่ะจะ
00:09:27 → 00:09:29 เป็นตัวบอกว่าลิ้นหัวใจของเรายังทำหน้า
00:09:29 → 00:09:32 ที่ได้ดีมยมีปัญหาตีบหรือรั่วหรือเปล่า
00:09:32 → 00:09:36 >> ค่ะอ่าทีนี้ถ้าสมมุติว่าคุณผู้ฟังมีอาการ
00:09:36 → 00:09:40 แล้วอ่ะนะคะอ่าแล้วก็รู้สึกว่าสงสัยเพราะ
00:09:40 → 00:09:43 ว่าปกติเนี่ยเออฉันทำงานได้ประมาณนี้แหละ
00:09:43 → 00:09:46 แต่ว่าเอ้ยไม่ได้ไม่ค่อยได้แล้วเดินบันได
00:09:46 → 00:09:48 เริ่มเหนื่อยมันมีอาการอย่างที่อาจารย์
00:09:48 → 00:09:51 แบบเอ๊มันเอะใจอ่ะค่ะเนี่ยเดินเข้าไปหา
00:09:51 → 00:09:54 คุณหมอเสร็จปุ๊บเนี่ยค่ะอาจารย์คะเค้าจะ
00:09:54 → 00:09:56 วินิจฉัยเ้าจะประเมินหรือว่าเขาจะดูอะไร
00:09:56 → 00:09:58 ยังไงเบื้องต้นก่อนคะ
00:09:58 → 00:10:00 >> อ่าคุณหมออาจจะซักประวัติะนะคะซักประวัติ
00:10:00 → 00:10:04 แล้วก็อาจจะตรวจร่างกายทีนี้ถ้าตรวจร่าง
00:10:04 → 00:10:06 กายความผิดปกติของลิ้นหัวใจเนี่ยอาจจะ
00:10:07 → 00:10:10 ตรวจฟังเสียงหัวใจที่พบว่ามันมีเสียงค่ะ
00:10:10 → 00:10:12 ที่ภาษาทางการแพทย์เราจะได้เรียกว่าได้
00:10:12 → 00:10:14 ยินเสียงเมอ
00:10:14 → 00:10:17 >> ซึ่งเสียงฟู่นี่เกิดจากการไหลวนของเลือด
00:10:17 → 00:10:19 ที่มันไม่ได้ไปในทิศทางเดียวอ่ะค่ะมันมี
00:10:19 → 00:10:22 การไหลย้อนกลับที่ผ่านลิ้นมันก็จะเกิด
00:10:22 → 00:10:25 เป็นเสียงฟู่เกิดขึ้นคือคุณหมอก็จะใช้
00:10:25 → 00:10:28 สเตสโทสโคปมาฟังเสียงหัวใจเราอ่ะค่ะอัน
00:10:28 → 00:10:29 นั้นคือคัดกรองเบื้องต้น
00:10:29 → 00:10:32 >> แต่ถ้าแบบเอ๊ะคุณหมอเริ่มเอ๊ะแล้ว
00:10:32 → 00:10:33 >> อ่าเอ๊ะ
00:10:33 → 00:10:36 >> เอ๊ะถ้าจากประวัตินะแล้วก็ประวัติเคยมี
00:10:36 → 00:10:38 อาการหอบเหนื่อยหายใจลำบากหรือบางท่านก็
00:10:38 → 00:10:41 อาจจะมีปัญหาแบบเข้าออกโรงพยาบาลด้วยภาวะ
00:10:41 → 00:10:44 น้ำท่วมปอดอย่างเงี้ยแล้วตรวจร่างกายเจอ
00:10:44 → 00:10:47 เสียงฟู่คุณหมอก็อาจจะตรวจวินิจฉัยเพิ่ม
00:10:47 → 00:10:50 เติมเพื่อยืนยันโดยการตรวจอ่าคลื่นเสียง
00:10:50 → 00:10:52 สะท้อนหัวใจต่อค่ะ
00:10:52 → 00:10:56 >> อย่างถ้าคนที่อาจจะไม่ได้มีอะไรอย่าง
00:10:56 → 00:10:58 เงี้ยแต่ว่ารู้สึกแบบอยากจะไปตรวจหรือ
00:10:58 → 00:11:00 อะไรเงี้ยก็ได้ใช่มั้ยคะคือแบบไปก่อน
00:11:00 → 00:11:01 >> ได้ค่ะ
00:11:01 → 00:11:02 >> ไปก่อนได้อ
00:11:02 → 00:11:03 >> อ๋อ
00:11:03 → 00:11:07 >> หรือบางทีนะคะอ่าผลเชยเบื้องต้นน่ะค่ะก็
00:11:07 → 00:11:10 อาจจะเห็นได้อย่างเช่นอาจจะเห็นว่ามันมี
00:11:10 → 00:11:14 เงาหัวใจที่โตขึ้นอย่างเงี้ยพอเงาหัวใจโต
00:11:14 → 00:11:16 คุณหมอเห็นความผิดปกติคุณหมอก็อาจจะสงสัย
00:11:16 → 00:11:19 ว่ามันมีความผิดปกติอะไรเกี่ยวกับหัวใจ
00:11:19 → 00:11:19 หรือเปล่า
00:11:19 → 00:11:20 >> อื
00:11:20 → 00:11:22 >> ก็อาจจะได้รับการวินิจฉัยต่อเพิ่มเติมได้
00:11:23 → 00:11:23 ค่ะ
00:11:23 → 00:11:25 >> บางทีอาจจะไม่ได้เป็นไม่ได้เป็นอย่างนี้
00:11:25 → 00:11:28 อาจจะไปเจออย่างอื่นแทนก็เป็นไปได้ก็ตรวจ
00:11:28 → 00:11:28 ทีเดียว
00:11:28 → 00:11:31 >> ค่ะใช่ค่ะเพราะว่าอ่าโรคลิ้นหัวใจอ่ะค่ะ
00:11:31 → 00:11:34 หากปล่อยทิ้งไว้เนี่ยมันก็เป็นสาเหตุทำ
00:11:34 → 00:11:37 ให้กล้ามเนื้อหัวใจมันโตผิดปกติได้เหมือน
00:11:37 → 00:11:38 กันค่ะ
00:11:38 → 00:11:40 >> คือมันโตโตจากปกติที่มันควรจะเป็นหมายถึง
00:11:40 → 00:11:43 ว่ามันแบบบวมหรือว่ามันมีการอักเสบข้างใน
00:11:43 → 00:11:44 หรืออะไรอย่างี้มั้คะ
00:11:44 → 00:11:48 >> มันโตเนื่องจากปกติอ่ะค่ะอ่าเลือดอย่าง
00:11:48 → 00:11:50 เช่นถ้าเป็นห้องหัวใจห้องซ้ายเนี่ยจะพบ
00:11:50 → 00:11:53 ความผิดปกติบ่อยที่สุดก็คือลิ้นหัวใจ
00:11:53 → 00:11:56 ไมทอลหรือลิ้นหัวใจเออติกอ่ะค่ะแต่เมื่อ
00:11:56 → 00:11:59 ไหร่ก็ตามที่มันมีปัญหาอติหรือรั่วเนี่ย
00:11:59 → 00:12:02 มันทำให้เลือดไม่ไหลไปทางเดียวใช่มั้ยคะ
00:12:02 → 00:12:05 มีการไหลย้อนกลับอย่างเงี้ยพอไหลย้อนกลับ
00:12:05 → 00:12:08 สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คืออาจจะมีบางส่วน
00:12:08 → 00:12:10 ที่ทำให้เลือดน่ะค่ะไหลไปเลี้ยงส่วนต่างๆ
00:12:10 → 00:12:12 ของร่างกายลดลงอ
00:12:12 → 00:12:15 >> พอไหลไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายลดลงหัว
00:12:15 → 00:12:19 ใจก็พยายามปรับตัวที่จะทำยังไงเพื่อที่จะ
00:12:19 → 00:12:21 คงไว้ให้ปริมาณเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้
00:12:21 → 00:12:23 เพียงพอก็จะมีการปรับตัวของเซลล์กล้าม
00:12:23 → 00:12:26 เนื้อหัวใจอ่ะค่ะก็จะทำให้หัวใจห้องร่าง
00:12:26 → 00:12:29 กายเนี่ยมันขยายขนาดโตขึ้นเพื่อที่เรา
00:12:29 → 00:12:32 หวังว่ามันจะเพิ่มแรงในการบีบมันก็เลยจะ
00:12:32 → 00:12:35 มีปัญหากล้ามเนื้อหัวใจโตได้หากมีความ
00:12:35 → 00:12:37 เป็นปกติของลิ้นแล้วไม่ได้รับการรักษาใน
00:12:38 → 00:12:39 เบื
00:12:39 → 00:12:42 ค่ะโอ้ยอันตรายทุกอย่างเลยอันนี้มันมัน
00:12:42 → 00:12:44 สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ใช่มั้คะ
00:12:44 → 00:12:45 อาจารย์
00:12:45 → 00:12:47 >> คือเด็กที่เป็นตั้งแต่กำเนิด
00:12:47 → 00:12:50 >> เด็กที่เป็นแต่กำเนิดเนี่ยเราเรียกว่า
00:12:50 → 00:12:55 เป็นอ่า mult factory disอเดอร์ก็คือมี
00:12:55 → 00:12:59 ปัญหาความผิดปกติของยีนทางพันธุกรรมบาง
00:12:59 → 00:13:03 ส่วนนะคะร่วมกับปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อม
00:13:03 → 00:13:05 ที่ส่งผลอย่างเช่นถ้าเป็นนายเด็กที่มี
00:13:05 → 00:13:08 ปัญหาโรคหัวใจอ่ะค่ะบางทีช่วงที่คุณแม่
00:13:08 → 00:13:10 ตั้งครรภ์น่ะค่ะเอาจจะได้รับสารพิษหรือ
00:13:10 → 00:13:13 สารเคมีบางอย่างที่ไปกระตุ้นทำให้เกิด
00:13:13 → 00:13:16 ความปกติเช่นคุณแม่ที่สูบบุหรีมันเหมือน
00:13:16 → 00:13:18 มีปัจจัยหลายอย่างที่เข้ามาเกี่ยวข้องไม่
00:13:18 → 00:13:21 ใช่แค่ปัญหาทางยีนความผิดปกติอย่างเดียว
00:13:21 → 00:13:22 อ่ะค่ะ
00:13:22 → 00:13:24 >> ความผิดปกติมันก็จะไปเกิดกับเด็ก
00:13:24 → 00:13:27 >> ไม่ได้หมายความว่าต้องส่งต่อลูกทุกคนนะคะ
00:13:27 → 00:13:27 >> ค่ะ
00:13:27 → 00:13:29 >> เพราะว่ามันมันยังไม่ได้อย่างข้อมูลทาง
00:13:29 → 00:13:31 การแพทย์ตอนนี้ยังไม่ได้บอกว่าโรคลิ้นหัว
00:13:31 → 00:13:35 ใจเป็นโรคทางพันธุกรรมที่ส่งต่อเป็นแบบ
00:13:35 → 00:13:38 ไหนเพียงแต่ว่าเราตรวจพบว่ามันอาจจะมียีน
00:13:38 → 00:13:40 ความผิดปกติบางตัวแต่ที่สำคัญก็คือปัจจัย
00:13:40 → 00:13:43 ทางด้านสิ่งแวดล้อมดังนั้นถ้าเราแนะนำคุณ
00:13:43 → 00:13:45 แม่ให้หลีกเลี่ยงปัจจัยนี้หรือการเตรียม
00:13:45 → 00:13:48 ตัวในคณะตั้งครรภ์อย่างดีก็อาจจะไม่เกิด
00:13:48 → 00:13:49 เลยค่ะ
00:13:49 → 00:13:52 >> โอกาสมันอาจจะน้อยแต่ไม่ใช่ว่ามันไม่มี
00:13:52 → 00:13:55 แต่ทางที่ดีคืออย่าเกิดกับลูกเราหรือเรา
00:13:55 → 00:13:57 น่าจะดีกว่าใช่มั้ยคะ
00:13:57 → 00:14:00 >> สิ่งสำคัญก็คือต้องเตรียมตัวขณะตั้งครรภ์
00:14:00 → 00:14:03 แล้วก็ถ้าตั้งครรภ์แล้วก็ต้องมาพบคุณหมอ
00:14:03 → 00:14:05 เป็นระยะมาตรวจตามนัดค่ะ
00:14:05 → 00:14:08 >> ค่ะเต้องรอโตก่อนแล้วค่อยผ่าตัดหรือว่า
00:14:08 → 00:14:09 ยังไงมั้ยคะ
00:14:09 → 00:14:12 >> อ่าคุณหมอก็จะประเมินตามพญาทิสภาพอ่ะค่ะ
00:14:12 → 00:14:15 โดยส่วนใหญ่บางทีก็จะรอให้เด็กโตหน่อย
00:14:15 → 00:14:17 แล้วก็เข้ารับการผ่าตัดคือบางทีช่วงแรกก็
00:14:17 → 00:14:20 อาจจะยังไม่ได้มีอาการมากค่ะเอาจจะเริ่ม
00:14:20 → 00:14:22 มีอาการอย่างเช่นพอโตขึ้นแล้วมีปัญหา
00:14:22 → 00:14:24 เรื่องการแบบดูดนมแล้วเหนื่อยอย่างเงี้ย
00:14:25 → 00:14:26 หรือออกกำลังกายแล้วเหนื่อยพอเด็กที่อยู่
00:14:26 → 00:14:28 ในวัยรุ่นอะไรอย่างเงี้ยดังนั้นคุณหมอก็
00:14:28 → 00:14:31 จะประเมินเป็นร่ะค่ะว่าควรจะเข้ารับการ
00:14:31 → 00:14:35 ผ่าตัดเมื่อไหร่การรักษานะคะอ่าเบื้องต้น
00:14:35 → 00:14:38 เนี่ยถ้าลิ้นหัวใจสามารถซ่อมแซมได้คุณหมอ
00:14:38 → 00:14:41 จะเลือกซ่อมแซมก่อนแต่ถ้าดูแล้วซ่อมไม่
00:14:41 → 00:14:45 ได้ก็จะต้องจบด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้น
00:14:45 → 00:14:48 หัวใจซึ่งเปลี่ยนลิ้นหัวใจก็จะมีแยกไปอีก
00:14:48 → 00:14:51 นะคะว่าจะเป็นลิ้นหัวใจชนิดเนื้อเยื่อ
00:14:51 → 00:14:54 หรือลิ้นหัวใจชนิดโลหะค่ะ
00:14:54 → 00:14:56 >> ถ้าเนื้อเยื่อต้องเอามาจากไหนอ่ะคะ
00:14:56 → 00:14:58 >> ถ้าเป็นแบบเนื้อเยื่อนะคะก็อาจจะเป็นนะ
00:14:58 → 00:15:02 เยื่อบุหัวใจของหมูหรือว่าอ่าเนื้อเยื่อ
00:15:02 → 00:15:05 เยื่อบุหัวใจของวัวนะคะแล้วก็เขาก็จะเอา
00:15:05 → 00:15:08 มาเย็บติดกับโครงสร้างที่เป็นลักษณะพิเศษ
00:15:08 → 00:15:12 หรืออาจจะเป็นเนื้อเยื่อของคนที่บริจาค
00:15:12 → 00:15:15 อวัยวะอ่ะค่ะที่ลิ้นหัวใจเขายังสมบูรณ์
00:15:15 → 00:15:18 >> ก็เอาสามารถที่จะเอามาผ่าตัดเปลี่ยนได้
00:15:18 → 00:15:21 >> ถ้าเป็นเด็กแล้วก็มีปัญหาที่ลิ้นหัวใจอ่า
00:15:21 → 00:15:25 ฝั่งซีกซ้ายไม่าalตีบอ่ะค่ะการรักษาที่
00:15:25 → 00:15:28 ไม่ต้องผ่าตัดก็อาจจะมีวิธีนึงก็คือการ
00:15:28 → 00:15:31 ใส่สายสวนเข้าไปแล้วก็ถ่างขยายด้วยบอลลูน
00:15:31 → 00:15:33 ได้แต่ต้องเฉพาะลิ้นตีบนะคะ
00:15:33 → 00:15:34 >> ออ
00:15:34 → 00:15:37 >> พอลิ้นมันตีบอ่ะค่ะแล้วก็ใช้อ่าแรงดัน
00:15:37 → 00:15:39 บอลรูนตรงนั้นน่ะไปถ่างขยายให้ลิ้นมัน
00:15:39 → 00:15:42 เปิดออกได้อันนี้ก็จะเป็นวิธีที่ใช้
00:15:42 → 00:15:45 สำหรับเด็กแต่ว่าพอเป็นผู้ใหญ่อ่ะค่ะการ
00:15:45 → 00:15:48 ใช้วิธีแบบนั้นน่ะอาจเบื้องต้นอาจจะใช้
00:15:48 → 00:15:51 ได้แต่มันมีโอกาสติดซ้ำพอเป็นผู้ใหญ่ที่
00:15:51 → 00:15:54 เข้ามาโดยส่วนใหญ่ก็จะลงท้ายด้วยการผัด
00:15:54 → 00:15:58 >> อุ๊ยแล้วมันอยู่ในข้างในเรามันไม่ได้มีผล
00:15:58 → 00:16:01 ข้างเคียงหรือว่ามันจะแบบเป็นผังผืดหรือ
00:16:01 → 00:16:02 มีอะไรอย่างี้เลยใช่มั้ครับ
00:16:02 → 00:16:06 >> อ่าไม่มีค่ะแต่ว่าไอ้อายุการทำงานก็จะ
00:16:06 → 00:16:09 ต่างกันนะคะอย่างลิ้นหัวอ่าลิ้นหัวใจที่
00:16:09 → 00:16:11 เปลี่ยนเป็นแบบเนื้อเยื่อเนี่ยจะมีอายุ
00:16:11 → 00:16:14 การใช้งานสั้นกว่าอาจจะอยู่ได้ประมาณ
00:16:14 → 00:16:18 10-15 ปีในขณะที่ลิ้นหัวใจที่เป็นโลหะก็
00:16:18 → 00:16:22 จะอยู่นานหน่อยก็คือเกิน 15 ปีขึ้นไปแต่
00:16:22 → 00:16:24 ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการควบคุม
00:16:24 → 00:16:27 ปัจจัยเสี่ยงอะไรต่างๆด้วยนะคะการดูแลตน
00:16:27 → 00:16:28 เองของคนไข้
00:16:28 → 00:16:31 >> อันนี้หลังจากผ่าตัดแล้วเต้องดูแลตัวเอง
00:16:31 → 00:16:32 ยังไงบ้างคะอาจารย์
00:16:32 → 00:16:35 >> หลังจากผ่าตัดนะคะก็จะมียาตัวนึงที่คนไข้
00:16:35 → 00:16:39 จะต้องได้รับก็คือยาในกลุ่มต้านการแข็ง
00:16:39 → 00:16:43 ตัวของเลือดที่รู้จักกันในชื่อวอฟินวอฟิน
00:16:43 → 00:16:46 เนี่ยสำหรับคนไข้ที่ผ่าตัดซ่อมแซมหรือว่า
00:16:46 → 00:16:49 เปลี่ยนเป็นเนื้อเยื่อค่ะเขาจะมีความ
00:16:49 → 00:16:51 เสี่ยงต่ำต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตันที่
00:16:51 → 00:16:54 ลิ้นหัวใจโดยส่วนใหญ่คุณหมอก็จะให้รับ
00:16:54 → 00:16:58 ประทานยาวอฟินในช่วง 3 เดือนแรก
00:16:58 → 00:17:02 >> นะคะหลังจากนั้นอ่ะก็ทานในกลุ่มยาต้านอ่า
00:17:02 → 00:17:04 การก่อกลุ่มของเกล็ดเลือดความเสี่ยงของ
00:17:04 → 00:17:06 การเกดเลือดออกก็จะน้อยลงละ
00:17:06 → 00:17:09 >> แต่ว่าถ้าเป็นคนไข้ที่ผ่าตัดลิ้นหัวใจที่
00:17:09 → 00:17:10 เป็นโลหะค่ะ
00:17:10 → 00:17:12 >> เนื่องจากมันเป็นโลหะเนาะมันเป็นสิ่งแปลก
00:17:12 → 00:17:15 ปลอมในร่างกายเวลาที่เลือดไหลผ่านน่ะค่ะ
00:17:15 → 00:17:18 โอกาสที่มันจะมีลิ่มเลือดไปเกาะมันจะสูง
00:17:18 → 00:17:22 ดังนั้นคนไข้ก็ต้องกินยาวอฟินไปตลอดชีวิต
00:17:22 → 00:17:26 ค่ะซึ่งยาวอฟินน่ะค่ะขอบเขตของการรักษา
00:17:26 → 00:17:29 มันค่อนข้างแคบก็คือว่าหลังจากผ่าตัดคน
00:17:29 → 00:17:32 ไข้ต้องมาตรวจตามนัดเพื่อติดตามค่าผลแลบ
00:17:32 → 00:17:35 ถ้าค่าผลแลบต่ำต่ำเกินน่ะค่ะมันก็จะส่งผล
00:17:35 → 00:17:39 ให้ลิ่มเลือดไปเกาะที่ลิ้นหัวใจได้ลิ้น
00:17:39 → 00:17:41 หัวใจเทียมอ่ะนะคะพอเกาะที่ลิ้นหัวใจ
00:17:41 → 00:17:44 เทียมลิ้นหัวใจเทียมก็ทำหน้าที่ผิดปกติ
00:17:44 → 00:17:47 อย่างเงี้ยก็เป็นอันตรายต่อคนไข้แต่ว่า
00:17:47 → 00:17:51 ถ้าระดับยาไม่อยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมมันสูง
00:17:51 → 00:17:53 เกินอย่างเงี้ยค่ะคนไข้ก็จะเสี่ยงต่อภาวะ
00:17:53 → 00:17:55 เลือดออกง่ายได้เหมือนกันค่ะ
00:17:55 → 00:17:58 >> โอ้โหต้องดูแลตัวเองอย่างดีเลย
00:17:58 → 00:18:01 >> ใช่ค่ะเาต้องมาตรวจอ่าตามที่คุณหมอนัท
00:18:01 → 00:18:04 สม่ำเสมอเพื่อติดตามค่าที่เราเรียกว่าค่า
00:18:04 → 00:18:05 INR ค่ะ
00:18:05 → 00:18:07 >> เดี๋คุณหมอก็จะเป็นคนประเมินว่าค่าอยู่ใน
00:18:07 → 00:18:11 เกณฑ์เกณฑ์ที่กำหนดมยไม่มากไม่น้อยเกินไป
00:18:11 → 00:18:12 อื
00:18:12 → 00:18:15 >> แล้วเขาก็จะต้องปรับยาให้เหมาะสมให้อยู่
00:18:15 → 00:18:16 ในเกณฑ์ที่กำหนดน่ะค่ะ
00:18:16 → 00:18:19 >> ค่ะอาจารย์คะอย่างงี้ก็แสดงว่าถ้าบอกว่า
00:18:19 → 00:18:22 โรคลิ้นหัวใจจะรักษาได้หายหรือไม่ไหายมั้
00:18:22 → 00:18:27 เนี่ยมันก็จะบอกว่ามันไม่หายก็ไม่เชิงคือ
00:18:27 → 00:18:28 บอกว่าดีขึ้น
00:18:28 → 00:18:30 >> ถ้าเปลี่ยนแล้วเราก็มองว่ามันก็หายนะคะ
00:18:30 → 00:18:34 อาการอาการต่างๆมันก็จะน้อยลงแต่ว่าเราก็
00:18:34 → 00:18:36 ต้องดูแลตัวเองต่อเนื่องที่สำคัญก็คือการ
00:18:36 → 00:18:38 รับประทานยาตัวเนี้ยค่ะเป็นสิ่งสำคัญ
00:18:38 → 00:18:40 สำหรับคนไข้
00:18:40 → 00:18:42 >> เพื่อให้การทำหน้าที่ของลิ้นมันเปิดปิด
00:18:42 → 00:18:45 ได้สะดวกเลือดไหลผ่านได้สะดวกอ่ะค่ะ
00:18:45 → 00:18:47 >> อืคือถ้าร่างกายของเราเลือดมันไหลเวียน
00:18:47 → 00:18:51 ได้ดี flow มันก็ปกติไม่มีปัญหาแต่ว่าตี
00:18:51 → 00:18:54 ตันตรงไหนเนี่ยเป็นเรื่องใหญ่อีกอีกและ
00:18:54 → 00:18:56 ใช่มั้คะแต่มันอยู่ที่ไหนแค่นั้นเอง
00:18:56 → 00:18:59 >> สาเหตุนึงที่แต่ก่อนเราเจอบ่อยจากความผิด
00:18:59 → 00:19:02 ปกติของลิ้นหัวใจอ่ะค่ะก็คือการติดเชื้อ
00:19:02 → 00:19:04 เชื้อแบคทีเรียซึ่งโดยส่วนใหญ่จะอยู่ใน
00:19:04 → 00:19:07 ช่องคออ่ะค่ะซึ่งเชื้อเนี้ยหากไม่ได้รับ
00:19:07 → 00:19:10 การรักษาที่ถูกต้องหลังจากนั้นมันก็จะ
00:19:10 → 00:19:13 เกิดเป็นภาวะที่เรียกว่าไข้รูมติแล้วพอ
00:19:13 → 00:19:17 ไข้รูมติอ่า 10-20 ปีมันทำให้เกิดโรคหัว
00:19:17 → 00:19:20 ใจตามมาได้ดังนั้นแถบจะแนะนำอ่ะค่ะในเด็ก
00:19:20 → 00:19:22 วัยเล็กๆนะคะหรือผู้ใหญ่อยากให้แนะนำใน
00:19:22 → 00:19:25 เรื่องของการรักษาสุขภาพช่องปากของตัวเอง
00:19:25 → 00:19:29 อ่ะค่ะให้สะอาดหากมีปัญหาฟันผุอย่างเงี้ย
00:19:29 → 00:19:32 นะคะต้องรีบพบพันธกรรมโดยด่วนเพื่อป้อง
00:19:32 → 00:19:35 ต้องกันโรคหัวใจที่อาจจะเกิดขึ้นตามมานะ
00:19:35 → 00:19:38 คะแล้วก็ถ้าเป็นคนไข้ที่ตรวจพบเป็นโรค
00:19:38 → 00:19:42 ลิ้นหัวใจในระยะแรกแล้วนะคะซึ่งอาการมัน
00:19:42 → 00:19:45 ไม่ได้มีมากมายเลยเธอแทบจะไม่มีอาการก็
00:19:45 → 00:19:48 แนะนำให้ไปตรวจตามนัดอย่างสม่ำเสมออ่ะค่ะ
00:19:48 → 00:19:51 เพื่อได้ที่คุณหมอจะได้อ่าตรวจวัดความผิด
00:19:51 → 00:19:53 ปกติของลิ้นหัวใจว่าจากในระยะเริ่มแรกมัน
00:19:54 → 00:19:56 มีการดำเนินของโรคที่เพิ่มขึ้นหรือเปล่า
00:19:56 → 00:19:59 ถ้ามียานะคะก็แนะนำให้รับประทานยาอย่าง
00:19:59 → 00:20:01 ต่อเนื่องเพราะเราจะเจอว่าจะมีคนไข้ให้
00:20:01 → 00:20:05 บางคนที่อ่าอาการไม่ได้เป็นมากพอรับการ
00:20:05 → 00:20:08 รักษาแล้วอ่ะค่ะคนไข้หายไปจากโรงพยาบาล
00:20:08 → 00:20:11 กลับมาอีกทีก็คือว่าลิ้นหัวใจมันตีบหรือ
00:20:11 → 00:20:12 รั่วรุนแรงแล้วอ่ะค่ะ
00:20:12 → 00:20:15 >> อือันนี้ต้องไปแผนกไหนคะ
00:20:15 → 00:20:17 >> อายุรกรรมโรคหัวใจได้ค่ะ
00:20:17 → 00:20:20 >> วันนี้ต้องขอบคุณอาจารย์อรชุมาที่มาร่วม
00:20:20 → 00:20:22 พูดคุยในรายการโรงหมอกับเราค่ะขอบคุณค่ะ
00:20:22 → 00:20:23 อาจารย์ขา
00:20:23 → 00:20:25 >> ค่ะสวัสดีค่ะสวัสดีค่ะ
00:20:26 → 00:20:27 >> หมดเวลาแล้วค่ะคุณผู้ฟังคะพบกันใหม่ครั้ง
00:20:28 → 00:20:31 หน้ากับรายการโรงหมอทางไทย PBS พcสนะคะ
00:20:31 → 00:20:33 วันลาไปก่อนค่ะสวัสดีค่ะ
00:20:33 → 00:20:36 >> This is Thai PBS podcast
00:20:36 → 00:20:38 >> อะไรบ้างที่อาจเป็นปัจจัยทำให้เกิดโรค
00:20:38 → 00:20:40 สะเก็ดเงินลักษณะหรืออาการของโรคนี้เป็น
00:20:40 → 00:20:43 อย่างไรรักษาหายขาหรือไม่แพทย์หญิง
00:20:43 → 00:20:46 กมลรัตน์สุนันทวณิตจากสถาบันโรคผิวหนัง
00:20:46 → 00:20:49 กรมการแพทย์มาเล่าให้ฟังครับ
00:20:49 → 00:20:51 >> ก็ต้องบอกว่าโรคสะเก็ดเงินเนี่ยจริงๆแล้ว
00:20:51 → 00:20:53 มันนับเป็นการอักเสบชนิดนึงของร่างกายกับ
00:20:53 → 00:20:55 ของผิวหนังอ่ะค่ะมันเป็นการอักเสบเรื้อ
00:20:55 → 00:20:58 รังชนิดนึงนะคะสาเหตุเนี่ยจริงๆเนี่ยบอก
00:20:58 → 00:21:01 ไม่ได้เลยว่ามีสาเหตุที่แท้จริงเกิดจาก
00:21:01 → 00:21:03 อะไรแต่ส่วนใหญ่แล้วเนี่ยคนไข้ที่เป็น
00:21:03 → 00:21:06 สะเก็ดเงินน่ะค่ะอาจจะมีกรรมพันธ์อะไรบาง
00:21:06 → 00:21:08 อย่างที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดแล้วพอ
00:21:09 → 00:21:11 กรรมพันธ์ที่ที่เรามีความเสี่ยงเนี่ยไป
00:21:11 → 00:21:13 เจอสิ่งกระตุ้นที่เหมาะสมมันก็จะแสดง
00:21:13 → 00:21:16 อาการโรคขึ้นมาได้เช่นบางคนอาจจะมีสิ่ง
00:21:16 → 00:21:18 กระตุ้นจากการติดเชื้ออะไรบางอย่างความ
00:21:18 → 00:21:20 เครียดการนอนน้อยพักผ่อนน้อยอะไรพวกเนี้ย
00:21:20 → 00:21:23 ค่ะก็เลยทำให้โรคเห่อขึ้นมาในครอบครัวสาย
00:21:23 → 00:21:26 ตรงเป็นโรคสะเก็ดเงินน่ะค่ะก็ต้องบอกว่า
00:21:26 → 00:21:28 มีความเสี่ยงที่จะเป็นมากกว่า
00:21:28 → 00:21:30 >> ครอบครัวอื่นๆที่เขาไม่มีประวัติโรคจะ
00:21:30 → 00:21:32 เก็บเงินเลยแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้
00:21:32 → 00:21:34 100% ค่ะผู้ป่วยหลายคนเนี่ยไม่ได้มี
00:21:34 → 00:21:36 ประวัติครอบครัวอะไรมาก่อนเป็นคนแรกของ
00:21:36 → 00:21:39 ครอบครัวเลยก็มีค่ะเพราะฉะนั้นเนี่ยการ
00:21:39 → 00:21:41 ถ่ายทอดทางพันธุกรรมเนี่ยมันไม่ได้ 100%
00:21:41 → 00:21:44 ค่ะจริงๆสะเก็ดเงินมีหลักๆประมาณ 3-4
00:21:44 → 00:21:47 ชนิดนะคะที่เราเห็นบ่อยๆเนี่ยจะเป็น
00:21:47 → 00:21:50 สะเก็ดเงินชนิดผื่นหนาก็จะเป็นลักษณะของ
00:21:50 → 00:21:54 ผื่นแดงขอบเขตชัดมีขุยอะไรพวกเนี้ยค่ะ
00:21:54 → 00:21:56 แล้วผื่นพวกเนี้ยจะเกิดขึ้นกระจัดกระจาย
00:21:56 → 00:21:59 ทั่วร่างกายจุดที่มันชอบเนี่ยจะเป็นจุด
00:21:59 → 00:22:02 ที่ที่มีการเสียดสีค่อนข้างเยอะเช่นข้อ
00:22:02 → 00:22:05 ศอกเข่าอะไรพวกเนี้ยค่ะเพราะว่าสะเก็ด
00:22:05 → 00:22:07 เงินเนี่ยมันถูกกระตุ้นจากสิ่งเหล่านี้
00:22:07 → 00:22:10 ได้ง่ายค่ะหรือบางคนอาจจะมีอาการที่หนัง
00:22:10 → 00:22:13 ศีรษะเป็นๆหายๆมาก่อนก็ได้ค่ะอันเนี้ย
00:22:13 → 00:22:15 กลุ่มสะเก็ดเงินชนิดผืนหนาเนี่ยเป็นชนิด
00:22:15 → 00:22:18 ที่เราเจอเยอะสุดอันถัดมาก็จะเป็นกลุ่ม
00:22:18 → 00:22:20 สะเก็ดเงินที่เรียกว่าชนิดหยดน้ำมันจะ
00:22:20 → 00:22:23 เป็นจุดเล็กๆผื่นไม่ได้หนาไม่ได้ใหญ่มาก
00:22:23 → 00:22:26 เป็นชนิดที่สัมพันธ์กับการติดเชื้ออะไร
00:22:26 → 00:22:28 บางอย่างมาก่อนเช่นมีการติดเชื้อไข้หวัด
00:22:28 → 00:22:32 คออักเสบมาก่อนแล้วก็เกิดผืนขึ้นมาค่ะอัน
00:22:32 → 00:22:35 ถัดมาก็คือเป็นสะเก็ดเงินชนิดตุ่มหนอง
00:22:35 → 00:22:39 อันเนี้ยจะมีอาการค่อนข้างรุนแรงนิดนึง
00:22:39 → 00:22:39 อ่ะค่ะ
00:22:39 → 00:22:40 >> อื
00:22:40 → 00:22:42 >> กับอีกชนิดนึงชนิดสุดท้ายเจอไม่ได้บ่อย
00:22:42 → 00:22:44 มากแต่ว่าก็เป็นกลุ่มที่อาการรุนแรงกว่า
00:22:44 → 00:22:47 ชนิดอื่นๆก็คือเป็นสะเก็ดเงินชนิดผื่นแดง
00:22:47 → 00:22:50 ทั่วตัวเลยแทบจะไม่มีผิวปกติเลยค่ะโดยที่
00:22:50 → 00:22:53 ผู้ป่วยกลุ่มเนี้ยอาจจะมีผื่นอย่างอื่นมา
00:22:53 → 00:22:55 ก่อนเช่นผืนสะเก็ดเงินแบบผื่นหนามาก่อนก็
00:22:55 → 00:22:58 ได้หรือเป็นผื่นสะเก็ดเงินชนิดตุ่มหนองมา
00:22:58 → 00:23:01 ก่อนก็ได้ค่ะหรือในบางรายที่ไม่เคยมีผืน
00:23:01 → 00:23:04 เลยก็ยังเจอว่าการแสดงอาการของโรคเนี่ย
00:23:04 → 00:23:06 เกิดทั่วตัวตั้งแต่ครั้งแรกเลยก็มีเหมือน
00:23:06 → 00:23:09 กันค่ะเอาจริงๆเลยถ้าจะนับแค่เอาความ
00:23:09 → 00:23:11 เครียดอย่างเดียวแล้วกระตุ้นให้เกิดโรคจะ
00:23:11 → 00:23:13 เก็ดเงินหรือเปล่านี่ต้องบอกตามตรงว่าอาจ
00:23:13 → 00:23:15 จะไม่ใช่ความเครียดเนี่ยหรือว่าการพัก
00:23:15 → 00:23:17 ผ่อนน้อยเนี่ยบางทีเราเลือกไม่ได้เราหลีก
00:23:17 → 00:23:19 เลี่ยงไม่ได้เรามีงานต้องทำอะไรเงี้ยค่ะ
00:23:19 → 00:23:21 แต่สิ่งที่เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ก็
00:23:21 → 00:23:24 คือการสูบบุหรี่การดื่มเครื่องดื่ม
00:23:24 → 00:23:26 แอลกอฮอล์ที่เยอะเกินไปอะไรพวกเนี้ยค่ะ
00:23:26 → 00:23:28 เพราะว่าการสูบบุหรี่
00:23:28 → 00:23:30 การดื่มคนแอลกอฮอล์ที่เยอะเกินไปอะไรพวก
00:23:30 → 00:23:33 เนี้ยค่ะก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งกระตุ้นที่ทำ
00:23:33 → 00:23:36 ให้เกิดเหมือนสวิตช์เปิดให้เกิดโรคสะเก็ด
00:23:36 → 00:23:38 เงินขึ้นมาค่ะ
00:23:38 → 00:23:40 [เพลง]
00:23:40 → 00:23:44 >> This is Thai PBS Podcast
00:23:44 → 00:23:47 ติดตามรายการของ Thai PBBS Podcast ได้
00:23:47 → 00:23:49 ทางเว็บไซต์ www.thaipspodcast.com
00:23:49 → 00:23:52 thaippbspodcast.com
00:23:52 → 00:23:55 แอปพลิเคช Thai PBBS Podcast รวมถึงฟัง
00:23:55 → 00:24:00 ผ่านพcastช่องทางอื่นๆ Spotify YouTube
00:24:00 → 00:24:03 Apple Podcast และ Soundcloud เ้า
00:24:03 → 00:24:06 [เพลง]