00:00:00 → 00:00:03 ม.ค
00:00:03 → 00:00:04 [เพลง]
00:00:04 → 00:00:06 [ปรบมือ]
00:00:06 → 00:00:15 [เพลง]
00:00:15 → 00:00:19 ก็สวัสดีค่ะกลับมาเจอกันอีกครั้งนะคะใน
00:00:19 → 00:00:22 รายการพบหมอเด็กจุฬาภรณ์รายการที่จะมอบ
00:00:23 → 00:00:25 ทั้งสาระและความรู้เกี่ยวกับสุขภาพเด็ก
00:00:25 → 00:00:28 แก่คุณแม่มือใหม่และผู้ปกครองทุกๆท่านค่ะ
00:00:28 → 00:00:33 ในวันนี้เราจะมาพูดคุยกันในหัวข้อภาวะชัก
00:00:33 → 00:00:37 จากไข้สูงเนื้อหาจะน่าติดตามขนาดไหนไปติด
00:00:37 → 00:00:44 ตามกันได้เลยค่ะ
00:00:44 → 00:00:47 สวัสดีค่ะแผ่นเองหรือพรเกษมลาวัลย์ค่ะ
00:00:47 → 00:00:51 สวัสดีค่ะถ้าหญิงเขาไทยโซจีนี้คุณค่ะพวก
00:00:51 → 00:00:53 เราเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขากุมารเวชศาสตร์
00:00:53 → 00:00:54 ค่ะ
00:00:54 → 00:00:57 ข่าวนี้เราสองคนนะคะก็จะมาแชร์ความรู้
00:00:57 → 00:01:01 เกี่ยวกับเรื่องอ่าใครชักกันนะคะค่ะแน่
00:01:01 → 00:01:04 นอนว่าทุกวันนี้นะคะคือพ่อแม่หลายคนมี
00:01:04 → 00:01:07 ความกังวลว่าอะไรคือใครชักนะคะแล้วก็หนู
00:01:07 → 00:01:10 เป็นปัญหาหลักๆเลยพี่เราข้อแม่มาหาหมอค่ะ
00:01:10 → 00:01:13 พี่คลินิกผู้ป่วยนอกค่ะที่โรงพยาบาลน่ะ
00:01:13 → 00:01:15 มันจะมีคำถามอะไรเขาถามเกี่ยวกับให้อยาก
00:01:15 → 00:01:18 จะทราบว่าคุณอย่างไรและข้อไหนเจอคำถาม
00:01:18 → 00:01:22 ประเภทไหนมามาบ้างค่ะที่เจอหนักๆส่วนใหญ่
00:01:22 → 00:01:24 ก็จะเป็นแบบว่าคุณพ่อแม่ทางแล้วเออเด็กมี
00:01:24 → 00:01:27 ไข้ชักมายอ่ะค่ะเรามีโอกาสจะเป็นลมชักใน
00:01:27 → 00:01:31 อนาคตหรือเปล่าส่วนตัวนะคุณหมอและคือเคย
00:01:31 → 00:01:33 เจอเหมือนกันว่าถามว่าเองเนี่ยมีไข้แล้ว
00:01:33 → 00:01:36 ชักน่าจะส่งผลต่อระดับสติปัญญาในอนาคต
00:01:36 → 00:01:39 หรือว่าพัฒนาการช้าแต่หรือเปล่าแล้วก็มี
00:01:39 → 00:01:42 คำถามที่ส่วนใหญ่คำว่าแม่จะกังวลนี้ส่วน
00:01:42 → 00:01:44 ก็คือขณะที่น้องยังมีอาการชักอยู่เนี่ย
00:01:44 → 00:01:47 ค่ะมันว่าคุณแม่เนี่ยอาจจะแบบตกใจไม่ได้
00:01:47 → 00:01:50 สติไม่รู้ว่าจะต้องพาไปโรงพยาบาลเลยหรือ
00:01:50 → 00:01:53 ว่ามีการรักษาเบื้องต้นให้คุณพ่อแม่ช่วย
00:01:53 → 00:01:56 ดูแลก่อนที่จะพามาโรงพยาบาลหรือเปล่าค่ะ
00:01:56 → 00:01:59 วันนี้เราก็จะมาให้ความรู้กับเรื่องไข้
00:01:59 → 00:02:02 ชักทั้งหมดกันค่ะ
00:02:02 → 00:02:07 [เพลง]
00:02:07 → 00:02:11 ถ้าสำหรับภาวะชักจากไข้สูงหรือว่าคุณพ่อ
00:02:11 → 00:02:13 คุณแม่เรียกกันว่าไข้ชักหรือว่าภาษา
00:02:13 → 00:02:15 อังกฤษทางการแพทย์ที่เรียกว่าเซ็ตไฟล์ข้อ
00:02:15 → 00:02:18 500 ชาติหรือว่าเฟฟายซีชอร์ค่ะวันนี้เรา
00:02:18 → 00:02:22 ก็จะมาเรียนรู้กันค่ะว่าใครชักเนี่ยอาจ
00:02:22 → 00:02:25 เป็นภาวะที่อ่านสามารถอธิบายทางการแพทย์
00:02:25 → 00:02:28 ว่าอะไรหรือว่ามีสาเหตุอะไรหรือว่ามี
00:02:28 → 00:02:32 อาการอย่างไรค่ะอืมนอกจากนี้นะคะเราก็จะ
00:02:32 → 00:02:36 มารู้กันถึงว่าเราจะรักษายังไงคะแล้วก็
00:02:36 → 00:02:39 เวลาแบบพยากรณ์โลกของโลกนี้จะเป็นยังไงนะ
00:02:39 → 00:02:41 ว่าเด็กมีไข้ชักขึ้นมาเนี่ยเราต้องจัดการ
00:02:41 → 00:02:44 ยังไงบ้างเป็นที่พยาบาลเรื่องต้นค่ะนอก
00:02:44 → 00:02:47 จากนั้นก็คือเอามารู้เกี่ยวกับข้องการ
00:02:47 → 00:02:50 ป้องกันการเกิดโรคซ้ำได้ค่ะ
00:02:50 → 00:02:53 ขาดภาวะไข้ชั้นสมัยก็จะเกิดในเด็กกลุ่ม
00:02:53 → 00:02:55 อายุประมาณ 6 เดือนถึง 5 ปีค่ะเพราะเขา
00:02:55 → 00:02:58 เชื่อว่าเด็กกลุ่มอายุเนี่ยสมองอย่าง
00:02:58 → 00:03:01 พัฒนาได้ไม่เต็มที่ค่ะเมื่อมีการติดเชื้อ
00:03:01 → 00:03:03 โดยเฉพาะการติดเชื้อที่อุณหภูมิร่างกาย
00:03:03 → 00:03:07 เกิน 38 องศาค่ะเขาก็จะมีไข้แล้วก็จะต้อง
00:03:07 → 00:03:11 ให้เกิดอาการชักตามมาได้ค่ะหาซึ่งสาเหตุ
00:03:11 → 00:03:13 ของไข้ชักเป็นอย่างที่หมอบอกไปนะคะสวยก็
00:03:13 → 00:03:16 ให้เกิดจากการติดเชื้อค่ะและถ้าถ้าคุณ
00:03:16 → 00:03:19 ค่ายอะไรก็จะกระตุ้นให้เกิดในการชักเกิด
00:03:19 → 00:03:26 ขึ้นมาค่ะ
00:03:26 → 00:03:29 ค่าต่อไปเรากำลังพูดถึงลักษณะของอาจารย์
00:03:29 → 00:03:32 ชักค่ะคุณพ่อคุณแม่จะสงสัยว่าเองแล้วจะ
00:03:32 → 00:03:34 รู้ได้ไงว่าลูกกำลังชักอยู่บางทีก็เห็น
00:03:35 → 00:03:38 แค่ว่าเขานิ่งไปแล้วเรียกไม่ตอบสนองเนี่ย
00:03:38 → 00:03:41 ค่ะวันนี้เราจะมาอธิบายว่าลักษณะของอาการ
00:03:41 → 00:03:44 ชักที่เกิดขึ้นได้เนี่ยมีลักษณะยังไงบ้าง
00:03:44 → 00:03:47 ค่ะหลักๆที่จะเป็นนะคะก็จะเจอได้ว่าเด็ก
00:03:47 → 00:03:49 อาจจะมีอาการเกร็งกระตุกค่ะอาจจะเป็นทั้ง
00:03:49 → 00:03:52 ทั่วทั้งร่างกายหรือว่าแค่บางส่วนของร่าง
00:03:52 → 00:03:55 กายก็ได้ค่ะหรืออย่างที่เสาที่จะได้บ่อย
00:03:55 → 00:03:58 ก็คือมีการเกือกตาหรือว่ามีตากระตุกค่ะ
00:03:59 → 00:04:02 อาจจะเป็นด้านใดด้านหนึ่งหรือว่าอ่าขยับ
00:04:02 → 00:04:05 ไปมาได้ค่ะและอาจจะมีอาการอะไรได้อีกบ้าง
00:04:05 → 00:04:09 นะคะอาการอื่นๆที่พบได้เค้าเฉพาะช่วงที่
00:04:09 → 00:04:11 เด็กกำลังชักอยู่ค่ะคือเด็กเขาจะเรียก
00:04:11 → 00:04:14 แล้วไม่รู้สึกตัวค่ะไม่มีการตอบสนองค่ะ
00:04:14 → 00:04:17 แล้วก็อาจจะพบแบบมีปัสสาวะอุจจาระนาดรวม
00:04:17 → 00:04:21 หน่วยได้ค่ะนอกจากนี้นะคะเวลาเขาชักเซ็ต
00:04:21 → 00:04:23 ว่าน่าจะเป็นกระจกเรียบร้อยแล้วเนี่ยอ้ะ
00:04:23 → 00:04:26 เขาจะอ่อนแรงไปเลยค่ะแล้วก็มีอาการอ่อน
00:04:26 → 00:04:29 เพลียหลังชักได้ค่ะค่ะ
00:04:29 → 00:04:35 [เพลง]
00:04:35 → 00:04:38 มาถึงต้องจดนี้นะคะเพราะว่าคุณแม่หลายๆคน
00:04:38 → 00:04:41 อาจจะสงสัยว่าเองขณะที่ลูกเราฉากอย่าง
00:04:41 → 00:04:43 เงี้ยแต่ลักษณะของไข้ชัดธรรมดาหรือว่า
00:04:43 → 00:04:46 เป็นลมชักค่ะวันนี้เดี๋ยวทางหมอน่าจะ
00:04:46 → 00:04:49 อธิบายว่าใครช้างมีลักษณะอย่างไรแล้วก็
00:04:49 → 00:04:52 แยกจากลมชักอย่างไรเรื่องลงทะเบียนจะให้
00:04:52 → 00:04:55 หมดอ่าน้องไปไทยผู้ต่อให้นะคะได้เลยค่ะ
00:04:55 → 00:04:59 โอเคค่าขาเรื่องแข็งไข้ฉากนะคะลักษณะหลัก
00:04:59 → 00:05:01 ๆเนี่ยจะมีเด็กก็จะมีอาการเกร็งกระตุกค่ะ
00:05:01 → 00:05:04 เสนอจะเป็นถ้วยทั้งตัวค่ะอาจจะมีอาการฟ้า
00:05:04 → 00:05:08 เหลือบได้ลักษณะอาจการชักนำเสนอน่าจะเป็น
00:05:08 → 00:05:12 ไม่นานไม่เกิน 1 นาทีค่ะแล้วก็หลังจากชัด
00:05:12 → 00:05:14 เนี่ยเด็กก็จะตื่นรู้ตัวเรื่องตอบสนองดี
00:05:14 → 00:05:18 ค่ะที่สำคัญเนี่ยมักจะไม่มีการชักซ้ำภาย
00:05:18 → 00:05:21 ใน 24 ชั่วโมงขณะไทยให้ชัดมันกันลักษณะ
00:05:21 → 00:05:25 แบบนี้เองเนอะซึ่งเราถ้าเกิดว่าเด็กเป็น
00:05:25 → 00:05:28 ลมชาร์จอย่างเงี้ยค่ะจะมีลักษณะยังไงที่
00:05:28 → 00:05:31 แตกต่างจากให้ชักเหรอคะถ้าสำหรับเด็กที่
00:05:31 → 00:05:34 เป็นมีประวัติเข้าได้กับลงชาติเนี่ยค่ะ
00:05:34 → 00:05:36 ส่วนใหญ่เนี่ยเขาก็จะมีชักมาก่อนไม่ใช่
00:05:36 → 00:05:39 ช้างแรกในชีวิตนะคะหรือว่าเป็นการชักที่
00:05:39 → 00:05:42 แบบไม่ได้มีปัจจัยกระตุ้นอะไรอ่ะก็คือฉาก
00:05:42 → 00:05:45 แล้วก็มีแบบไม่ได้มีไข้ไม่ได้อะไรนะอื่นๆ
00:05:45 → 00:05:46 พรค่ะ
00:05:46 → 00:05:50 ถ้าสมุดว่ามันเกิดการชักครั้งนั้นเป็นการ
00:05:50 → 00:05:53 ชักครั้งแรกในชีวิตของเขาน่ะคะก็ถ้าเป็น
00:05:53 → 00:05:56 การชักครั้งแรกค่ะก็อาจจะต้องเองและมี
00:05:56 → 00:05:59 ประวัติครอบครัวเป็นโรคลมชักและก่อนไหมก็
00:05:59 → 00:06:02 อาศัยการตรวจร่างกายทาโบะประสาทค่ะแล้วก็
00:06:02 → 00:06:06 เหมือนกันตัวติดตามพัฒนาการอันต่อไปที่
00:06:06 → 00:06:08 นี้คืออาจจะต้องอาศัยคุณหมอควรและแพร่
00:06:08 → 00:06:11 ระบบประสาทจะตรวจเพิ่มเติมรายการใช้คลื่น
00:06:11 → 00:06:15 สมองไฟฟ้าอย่างนี้ค่ะเพื่อใช้ในการแยกโรค
00:06:15 → 00:06:17 ต่อไปว่ามันเพราะเป็นไข้ชาร์จหรือว่าเป็น
00:06:17 → 00:06:21 โรคลมชักกันแน่ค่ะก็มีข้อแตกต่างกันเยอะ
00:06:21 → 00:06:24 เหมือนกันนะคะอ่ะตั้ง
00:06:24 → 00:06:29 [เพลง]
00:06:29 → 00:06:33 ค่าเราก็มาดูกันนะคะว่าเรารักษาภาวะไข้
00:06:33 → 00:06:36 ชักได้ยังไงนะคะอันดับแรกเลยค่ะเราต้องไป
00:06:36 → 00:06:39 รักษากันที่สาเหตุนะคะว่าให้มันเกิดจาก
00:06:39 → 00:06:41 อะไรแน่นอนว่ามันเกิดจากการติดเชื้อแล้ว
00:06:41 → 00:06:45 ก็เกิดจากการที่มีไข้สูงใช่ไหมคะก็เราก็
00:06:45 → 00:06:48 คือต้องรักษาภาวะไข้คะก็คือ 1 เช็ดตัวลด
00:06:48 → 00:06:52 ไข้ค่ะกินยาลดไข้เค้าให้ไข้ลดลงเพื่อป้อง
00:06:52 → 00:06:55 กันการเกิดใครที่ไปกระตุ้นให้เกิดการชัก
00:06:55 → 00:06:58 ครับดูหน่อยค่ะนอกจากนั้นเนี่ยเราก็ต้อง
00:06:58 → 00:07:00 อาศัยการกรวดร่างกายค่ะระบบประสาทเพิ่ม
00:07:00 → 00:07:03 เติมค่ะเจาะเลือดเพิ่มเติมเพื่ออาจหา
00:07:03 → 00:07:06 สาเหตุที่อาจจะเป็นสิ่งอื่นๆที่ทำให้เกิด
00:07:06 → 00:07:09 อื่นดาชาค่ะได้ค่ะอย่างเช่นแบบภาวะเกลือ
00:07:09 → 00:07:12 แร่ผิดปกติในร่างกายทั้งว่าน้ำตาลต่าง
00:07:12 → 00:07:15 เป็นต้นห่วงเราได้งอนเหมือนก็ขอเรียนย้ำ
00:07:15 → 00:07:18 นิดหน่อยนะคะหัวใจของการรักษาไข้ชัดนะคะ
00:07:18 → 00:07:20 ที่สำคัญที่อยากให้คุณว่าเขาไม่เข้าใจก็
00:07:20 → 00:07:23 คือต้องรักษาอ่านเรื่องการติดเชื้อฮะก็
00:07:23 → 00:07:27 คือมีแต่ตัวรถค่ายไม่เด็กนี้ไข้ค่ะแล้วก็
00:07:27 → 00:07:29 ทานยาลดไข้หรือที่เราเรียกกันชื่อคุณหัว
00:07:30 → 00:07:32 เคยยางพาราเซตตามอลค่ะก็เคยทานได้ถี่มาก
00:07:32 → 00:07:35 ที่สุดก็คือประมาณทุก 4-6 ชั่วโมงค่ะแล้ว
00:07:35 → 00:07:38 ก็เช็ดตัวลดไข้บ่อยๆอาจจะวัดอุณหภูมิร่าง
00:07:38 → 00:07:42 กายก่อนเช็ดตัวแล้วก็หลังเช็ดตัวค่ะแต่
00:07:42 → 00:07:44 ถ้าขณะที่พาส่งโรงพยาบาลแล้วเด็กยังมี
00:07:45 → 00:07:47 อาการชักอยู่ค่ะคุณหมอที่โรงพยาบาลอาจจะ
00:07:47 → 00:07:50 พิจารณาให้ยาหยุดชักค่ะซึ่งยาอยู่ฉากนี้
00:07:50 → 00:07:53 ค่ะอาจจะต้องให้ทางหลอดเลือดหรือว่าให้
00:07:53 → 00:07:56 ทางอ่านทวารหนักค่ะขานอกจากนี้นะคะเรื่อง
00:07:56 → 00:08:00 การตรวจเพิ่มเติมอื่นๆเช่นการเจาะไข่สระ
00:08:00 → 00:08:02 หลังเพื่ออันนานไทยสรั่งมาตรวจหรือว่าการ
00:08:02 → 00:08:05 อ่านเอกซเรย์สมองนะคะทั้งสองอย่างนี้
00:08:05 → 00:08:08 สัญญาจะอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ค่ะซึ่ง
00:08:08 → 00:08:11 เป็นไรนะเราจะมาทำก็คือในกรณีที่เด็ก
00:08:11 → 00:08:14 เนี่ยก็มีอาการชักที่เข้าได้จากเข้าได้
00:08:14 → 00:08:17 กับภาวะลมชักค่ะหรือว่ามีตรวจร่างกายทาง
00:08:17 → 00:08:21 ระบบประสาทและพบความผิดปกติค่ะอ่านอกจาก
00:08:21 → 00:08:23 นี้คุณพ่อแม่บางคนอาจจะได้ยินคำว่า ezy
00:08:23 → 00:08:25 นะเว้ยคือเรื่องของลูกของเราเนี่ยจำเป็น
00:08:25 → 00:08:28 จะต้องทำ eec ไหมค่ะอยากให้คุณหมอเราไป
00:08:28 → 00:08:31 ไทยช่วยอธิบายเรื่อง AEC ให้ฟังหน่อยค่ะ
00:08:31 → 00:08:34 ก็เพิ่มเติมนะคะเรื่องของอิน GA in G
00:08:34 → 00:08:37 ย่อมาจากอะไรอ่ะคะคืออิเล็กโทร Enfa
00:08:37 → 00:08:40 โลแกรมค้าโดยที่ภาษาไทยเราเรียกว่าการ
00:08:40 → 00:08:43 ตรวจคลื่นไฟฟ้าสมองเพราะแม่มาขอเนี่ยก็
00:08:43 → 00:08:46 บอกว่าเวลาลูกชักหรือว่ามีไข้ชักแล้วก็
00:08:46 → 00:08:49 คือขอให้คุณหมอส่งตรวจทุกเคสเลยจริงๆแล้ว
00:08:49 → 00:08:51 เนี่ยเป็นความเชื่อที่ผิดนะคะว่าอินจริงๆ
00:08:51 → 00:08:54 ว่าใช้บอกได้ว่าเป็นลมชักรถเป็นไข้ชัด
00:08:54 → 00:08:57 จริงๆอย่างไม่ถูกต้องสักทีเดียวครับเพราะ
00:08:57 → 00:09:00 ว่าตามคำแนะนำของ American Academy Of
00:09:00 → 00:09:03 The check ครับปี 2011 ค่ะที่เราเรียก
00:09:03 → 00:09:05 ว่า AP เนี่ยเขาแนะนำว่าจะส่งตัวเนี่ย
00:09:05 → 00:09:08 เมื่อกรณีที่หมอเขาสงสัยเท่านั้นคะว่าคน
00:09:08 → 00:09:11 เนี้ยเข้ากับภาวะลมชักค่ะมีเด็กประเภทไหน
00:09:11 → 00:09:14 บ้างนะคะที่กูหมอเขาจะปลงชีวิตว่าให้ส่ง
00:09:14 → 00:09:16 ตรวจได้แล้วก็ขึ้นหนึ่งเนี่ยเดี๋ยวพรุ่ง
00:09:16 → 00:09:18 นี้ทักซ้ำมาหลายรอบเลยค่ะหรือว่าถ้าเป็น
00:09:18 → 00:09:21 ชาครั้งแรกเนี่ยจะเป็นรูปแบบการชักที่ไม่
00:09:21 → 00:09:24 ได้เหมือนกับที่เก่าไปข้างต้นก็จะชักแปลก
00:09:24 → 00:09:27 ๆเนี่ยเด้อกว่านั่งการเนี่ยระบบประสาทพบ
00:09:27 → 00:09:30 ความผิดปกติค่ะนอกจากนี้นะถ้าเกิดวันนี้
00:09:30 → 00:09:33 อาจจะมีผู้อาการล่าช้าระดับสติปัญญาผิด
00:09:33 → 00:09:36 ปกติไปยังไงก็อาจจะเป็นข้อมูลชีวิตที่
00:09:36 → 00:09:38 สามารถทำให้สั่งตรวจเรื่องของอินทรีย์
00:09:38 → 00:09:45 หรือขึ้นไปฟ้าสมองได้ค่ะคือ
00:09:45 → 00:09:50 [เพลง]
00:09:50 → 00:09:53 ข้ามาถึงการพยากรณ์โลกของภาวะให้ชากันค่ะ
00:09:53 → 00:09:56 ในสังคมไทยเนี่ยมักจะมีความเชื่อว่าโดย
00:09:56 → 00:09:59 เด็กที่มีอาการชักแล้วเนี่ยจะไม่ฉลาดจะ
00:09:59 → 00:10:03 ส่งผลกระทบกับสมองตอนโตค่ะคุณพ่อคุณแม่ใน
00:10:03 → 00:10:06 ก็จะมีความกังวลมากเลยจะมาทำอาสากับหมอ
00:10:06 → 00:10:10 ที่คลินิกบ่อยๆเลยเวลาลูกมีภาวะชักค่ะค่ะ
00:10:10 → 00:10:13 ก็สำหรับภาวะไข้ชักนะคะก็คือคอแนะนำเลย
00:10:13 → 00:10:16 ว่ามันไม่ส่งผลต่อคือระดับสติปัญญาค่ะ
00:10:16 → 00:10:19 น้องก็คือลูกก็คือคะเกล็ดแล้วก็อาจจะ
00:10:19 → 00:10:22 รักษาตามรั่วไปแล้วก็โตมาเป็นเด็กปกติค่ะ
00:10:22 → 00:10:26 ยกเว้นเนาะในรายที่คุณนายน้องมากกว่า 30
00:10:26 → 00:10:29 นาทีคะจนส่วนอย่างนะถ้าชักนานๆมันจะทำให้
00:10:29 → 00:10:32 สมองขาดออกซิเจนแล้วก็เกิดเหมือนผลกระทบ
00:10:32 → 00:10:35 กับสมองต่อมาในระยะยาวได้เนี้ยค่ะแต่ส่วน
00:10:35 → 00:10:38 ใหญ่แล้วถ้าเด็กชักนานขนาดนี้ค่ะมากกว่า
00:10:38 → 00:10:40 30 นาทีเนี่ยส่วนใหญ่แล้วมันจะไม่ใช่ปะ
00:10:40 → 00:10:43 ภาวะไข้ชักธรรมดาเราจะมียามดูเนี่ยซ่อน
00:10:43 → 00:10:48 อยู่ซึ่งอาจต้องตรวจสากันต่อไปค่ะเฮ้ยค่ะ
00:10:48 → 00:10:52 ค่ะ
00:10:52 → 00:10:54 [เพลง]
00:10:54 → 00:10:58 สำหรับการชัก 3 นะคะเด็กเนี่ยมีโอกาสชัก
00:10:58 → 00:11:01 ฟังแรกประมาณ 1 ใน 3 คะหรือว่าเป็นตัวเลข
00:11:01 → 00:11:04 เปอร์เซ็นต์กลมๆก็คือประมาณ 30% ค่ะนับ
00:11:04 → 00:11:07 จากครั้งแรกที่มีอาการฉากค่ะซึ่งเขาจะชัก
00:11:07 → 00:11:10 ได้ไปจนถึงประมาณ 5-6 ขวบค่ะหลังจากอายุ
00:11:10 → 00:11:13 นี้เนี่ยอาจารย์ทักษะน้อยลงมากแล้วค่ะยก
00:11:13 → 00:11:16 เว้นเด็กบางกลุ่มเช่นในกลุ่มที่มีประวัติ
00:11:16 → 00:11:19 ครอบครัวเป็นไข้ชักหรือว่าอ่าเด็กที่มี
00:11:19 → 00:11:22 อาการทางผิดปกติอื่นๆนะคะเขาอาจจะมีอาการ
00:11:22 → 00:11:25 ชักได้นานกว่าอ่ะค่ะ
00:11:25 → 00:11:28 สำหรับคำถามที่ว่าเอ๊ะถ้าเกิดว่าเป็นไข้
00:11:28 → 00:11:31 ชักครั้งแรกนะคะแล้วก็มีโอกาสพัฒนาไปเป็น
00:11:31 → 00:11:35 ลมชักนำมีโอกาสบักน้อยแค่ไหนเงินค่ะแต่จะ
00:11:35 → 00:11:37 บอกเลยว่าความเสี่ยงเนี่ยก็คือค่อนข้าง
00:11:37 → 00:11:40 ต่ำมากคือเทียบเท่ากับเหมือนเด็กทั่วไป
00:11:40 → 00:11:42 เลยหมายความว่ายังไงก็หมายความว่าเทียบ
00:11:43 → 00:11:45 กับเด็กที่เคยเป็นไข้ชักแล้วครั้งแรกกับ
00:11:45 → 00:11:48 เด็กที่ไม่เคยมีไข้ราชักเลยเนี่ยความ
00:11:48 → 00:11:50 เสี่ยงในการพัฒนาไปเป็นโรคลมชักนะคือเท่า
00:11:50 → 00:11:54 กันค่ะแต่ถ้าไหนว่างที่มีโอกาสที่มีความ
00:11:54 → 00:11:56 เสี่ยงมากขึ้นที่เป็นไข้ชักแล้วจะพัฒนาไป
00:11:56 → 00:11:59 ต่อเป็นโรคลมชักเนี่ยเป็นใครบ้างก็คือ
00:11:59 → 00:12:02 อย่างที่เคยพูดไปเลยก็คือหนึ่งเนี่ยตอน
00:12:02 → 00:12:05 ที่มีอาการจะตรวจร่างกายกับเปิดความผิด
00:12:05 → 00:12:08 ปกติตามทางระบบประสาทค่ะหรือว่า a ภาวะ
00:12:08 → 00:12:10 เรื่องของแบบเวลาชักในเขาดูชักไม่เหมือน
00:12:10 → 00:12:12 เค้าว่าให้ชักนะรูปแบบการชักมันผิดเก็บ
00:12:12 → 00:12:15 ปกติไปค่ะหรือมีประวัติโรคลมชักใน
00:12:15 → 00:12:18 ครอบครัวค่ะแล้วก็ติดตามอาการไปพบว่า
00:12:18 → 00:12:22 พัฒนาการชนะหรือว่าปรับสติปัญญาผิดปกติไป
00:12:22 → 00:12:25 เลยเนี้ยค่ะก็ผมมีมีเสียงที่เขาจะจะพัฒนา
00:12:25 → 00:12:29 ไปเป็นลงชักได้นะบทค่ะค่ะอ่ะ
00:12:29 → 00:12:32 [เพลง]
00:12:32 → 00:12:34 ถ้า
00:12:34 → 00:12:38 ขาดก็หมายถึงวิธีการปฐมพยาบาลนะคะว่าลูก
00:12:38 → 00:12:41 เราห้องและมีอาการชักแล้วอ่ะค่ะอย่างแรก
00:12:41 → 00:12:44 เลยสิ่งที่สำคัญอย่างที่พ่อแม่ทุกคนคน
00:12:44 → 00:12:47 ต้องมีไว้ชัดก็คือตั้งสติค่ะเพราะว่าสติ
00:12:47 → 00:12:50 ในช่วงเวลาทำทุกอย่างได้อย่างมั่นใจพจน์
00:12:50 → 00:12:52 ต้องรวดเร็วกันเยาว์ก็พันท์เหตุการณ์นี้
00:12:52 → 00:12:55 ไปได้นะคะขาอย่างนั่งเลยถ้าเกิดลูกเรา
00:12:55 → 00:12:57 ชาร์จเนี่ยเราต้องพาเขาไปในที่ที่ปลอดภัย
00:12:57 → 00:13:00 ค่ะก็คือไม่เป็นที่สูงข้องและเขาชักเกร็ง
00:13:00 → 00:13:03 เย็นๆอาจจะแบบหล่นลงมาได้ก็แนะนำให้วางไป
00:13:03 → 00:13:06 บนพื้นบ้างแล้วถ้าเกิดว่าเด็กเนี่ยเขาไม่
00:13:06 → 00:13:09 ได้สติหรือว่าไม่รู้สึกตัวแนะนำว่าให้วาง
00:13:09 → 00:13:11 ลงบนพื้นแล้วก็นอนตรงแล้วก็บิตคองไปด้าน
00:13:11 → 00:13:14 ข้างค่ะเพื่อป้องกันการสำลักในการโอนการ
00:13:14 → 00:13:17 ถ่ายเลือนหายไปหรือว่าเขาแต่ว่าเค้ากิน
00:13:17 → 00:13:19 อะไรอยู่แล้วมีอะไรอยู่ในป่าเกิดของอ่า
00:13:19 → 00:13:22 ฝากเนี่ยถ้าเกิดเขาเจ็บของออกมาจากปาก
00:13:22 → 00:13:25 เค้าได้ในก็คือให้ช่วยหยิบออกมาค่ะแต่ถ้า
00:13:25 → 00:13:28 เกิดว่าเด็กเข้ากับฟันเนี้ยแล้วก็มันมี
00:13:28 → 00:13:31 กันแบบกับฟันเกิดขึ้นเลยนะคะพ่อแม่บางคน
00:13:31 → 00:13:33 อย่างคือมีความเชื่อว่าจะมาช่วยงานฝาก
00:13:33 → 00:13:36 แล้วก็เอาช้อนอ่ะใส่เข้าไปในปากเลยนะคะ
00:13:36 → 00:13:38 เพื่อว่าไอ้เด็กจะต้องกัดเองนะเดี๋ยวนี้
00:13:38 → 00:13:41 ขาดอะไรเนี่ยเป็นความเชื่อที่ผิดเลยค่ะ
00:13:41 → 00:13:44 ผิดนะคะทำไม่ถูกเพราะว่ายิ่งเราพยายามที่
00:13:44 → 00:13:47 จะรั้งบอกว่าเปิดฝากเด็กแล้วก็ใส่ช้อน
00:13:47 → 00:13:49 เข้าไปแล้วชื่อในขณะที่เด็กเขาชักอยู่
00:13:49 → 00:13:51 เงี้ยมาทำให้เกิด 1 การอบการทางเดินหายใจ
00:13:51 → 00:13:54 ค่ะเนาะกันอย่างเนี้ยอาจจะทำให้เกิดแบบ
00:13:54 → 00:13:58 บาดแผลแล้วช้อนบาทกับอวัยวะในช่องปากได้
00:13:58 → 00:14:00 เป็นความเชื่อที่ผิดนะคะที่การใส่ทองไป
00:14:00 → 00:14:04 ไม่ควรถามเนาะพอเด็กชักเสร็จพืชพรรณยังไง
00:14:04 → 00:14:06 ก็ไม่เช็ดตัวเลยรถค่ายแล้วก็ถ้าเกิดอื่น
00:14:06 → 00:14:09 แล้วก็ให้กินยานุชไทยคะแล้วก็รีบพามาโรง
00:14:09 → 00:14:12 พยาบาลมาพบกุมารแพทย์ค่ะ
00:14:12 → 00:14:17 [เพลง]
00:14:17 → 00:14:20 ขาดก็หมายถึงส่วนสุดท้ายนะคะในการป้องกัน
00:14:20 → 00:14:24 ไม่ให้เกิดใครชัก 3 นะคะอ่ะหลักอย่างที่
00:14:24 → 00:14:27 มาบอกหลักสำคัญของการเกิดไข้ช้าหน่อยก็
00:14:27 → 00:14:29 คือมีสาเหตุมาจากการมีไข้นะคะเพราะฉะนั้น
00:14:29 → 00:14:32 เนี่ยการที่เราจะป้องกันเนี่ยก็คือต้อง
00:14:32 → 00:14:36 ป้องกันถ้าใครค่ะโดยการให้ยาลดไข้อ่ะหรือ
00:14:36 → 00:14:40 ว่าเช็ดตัวลดไข้ค่ะแล้วก็อาจจะต้องพาอ่า
00:14:40 → 00:14:42 เด็กเนี่ยไปโรงพยาบาลเพื่อให้คุณหมอเนี่ย
00:14:42 → 00:14:45 หาสาเหตุของไข้แล้วก็ให้การรักษาให้ถูก
00:14:45 → 00:14:48 ต้องค่ะในเด็กบางกลุ่มที่นี่อาการมีไข้
00:14:48 → 00:14:52 ชักซ้ำเป็นบ่อยๆนะคะในกุมารแพทย์บางถ้า
00:14:52 → 00:14:54 เนี่ยอาจจะพิจารณาให้ยากันชักกินตั้งแต่
00:14:54 → 00:14:57 เด็กเริ่มมีไข้เลยค่ะซึ่งอ่านในส่วนนี้
00:14:57 → 00:15:03 เนี่ยก็คือครึ่งอยู่กับเคสแต่ละเคสไปค่ะ
00:15:03 → 00:15:06 ค่าเป็นไงบ้างคะวันนี้ก็เนื้อหาครบถ้วน
00:15:06 → 00:15:10 เลยนะคะก็อาจคิดว่าเรื่องชาติไหนก็ไม่น่า
00:15:10 → 00:15:12 กลัวอย่างที่คิดนะคะก็หวังว่าคุณพ่อคุณ
00:15:12 → 00:15:15 แม่ผู้ปกครองเนี่ยจะสามารถนำความรู้ที่
00:15:15 → 00:15:18 เราได้แชร์ไปเนี่ยไปให้การพยาบาลเบื้อง
00:15:18 → 00:15:21 ต้นก่อนที่จะพาลูกมาโรงพยาบาลได้ค่ะก็
00:15:21 → 00:15:23 เม้นต์ยังมีปีนึงแล้วกันนะคะสำหรับการ
00:15:23 → 00:15:26 ปฐมพยาบาลเบื้องต้นนะสิ่งที่ต้องมีอย่าง
00:15:26 → 00:15:29 แรกเลยก็คือสติค่ะแล้วก็อย่าลืมดูแล
00:15:29 → 00:15:31 เรื่องของทางเป็นหายไปแล้วก็ป้องการป้อง
00:15:31 → 00:15:34 กันการพลัดตกโอ้นี่มาที่จะทำงานการชักค่ะ
00:15:34 → 00:15:37 แล้วก็นั้นยังอีกทีนึงก็คือไม่ให้เอาช้อน
00:15:37 → 00:15:40 ใส่เข้าไปในปากนะคะก็คือไม่ได้ช่วยอะไรนะ
00:15:40 → 00:15:44 คะค่ะก็วันนี้เรื่องของไข้ชักแล้วก็จบลง
00:15:44 → 00:15:48 แล้วน้องรบกวนทุกประเด็นเนอะก็ขอลาไปก่อน
00:15:48 → 00:15:51 นะคะแล้วก็ถ้าหากว่าผู้ปกครองท่านได้ค่ะ
00:15:51 → 00:15:54 มีข้อสงสัยหรืออยากจะปรึกษาเพิ่มเติมกก็
00:15:54 → 00:15:56 ให้ปรึกษาคุณละแพทย์ใกล้ตัวท่านได้เลยนะ
00:15:56 → 00:16:00 คะคะซอยด้วยค่ะจำ
00:16:00 → 00:16:06 [เพลง]
00:16:06 → 00:16:07 [ปรบมือ]
00:16:07 → 00:16:17 [เพลง]