00:00:00 → 00:00:03 วันนี้นะคะก็อยากจะนำเรื่องของการปวดตาม
00:00:03 → 00:00:07 ข้อต่อต่างๆปวดเออปวดมีอะไรปวปวดตามปวด
00:00:07 → 00:00:11 หัวปวดปปวดตัวปวดใจวันที่ 14 ไม่มีใครให้
00:00:11 → 00:00:15 ดอกไม้ผม 16 ครับผม 16 ผมไปปวดใจวันที่ 16
00:00:15 → 00:00:19 อ๋อใช่อันนั้นปวดใจยิ่งกว่าครับๆค่ะแต่
00:00:19 → 00:00:22 ว่าวันนี้จะชวนกันคุยเรื่องกับเกี่ยวกับ
00:00:22 → 00:00:25 การปวดข้อปวดข้อแบบไหนมันถึงเรียกว่าปวด
00:00:25 → 00:00:30 ข้อแบบรูมาตอยเอ๊ะปวดเก๊าทตรงข้อหัวเข่าอ
00:00:30 → 00:00:32 เกาเนี่ยเป็นแค่หัวเข่าได้แค่นั้นหรือ
00:00:32 → 00:00:34 เป่าเกาเป็นแค่ผู้ชายหรือเป่าเพราะส่วน
00:00:34 → 00:00:38 ใหญ่เนี่ยก็จะได้มักจะได้ยินทั่วๆไปว่า
00:00:38 → 00:00:40 ผู้ชายจะปวดเก๊ามากกว่าผู้หญิงแล้วผู้
00:00:40 → 00:00:44 หญิงล่ะเป็นได้หรือเปล่าอันนี้นะคะมาชวน
00:00:44 → 00:00:47 พูดคุยไขคำตอบกันนะคะกับนายแพทย์ทิวัฒน์
00:00:47 → 00:00:51 สุรพันธ์ค่ะแพทย์เฉพาะทางสาขาศัลยศาสตร์
00:00:51 → 00:00:53 ออทิกอนุสาขา
00:00:53 → 00:00:57 จุลศัลยกรรมและศัลยกรรมทางมือนะคะโรง
00:00:57 → 00:01:00 พยาบาลไทยนครินทร์ตอนนี้คุณหมออยู่ในกับ
00:01:00 → 00:01:02 เราแล้วค่ะสวัสดีค่ะคุณหมอสวัสดีครับคุณ
00:01:02 → 00:01:04 หมอครับสวัสดีครับสวัสดีครับสวัสดีครับ
00:01:04 → 00:01:07 ค่ะค่ะสวัสดีค่ะคุณหมอสัญญาณชัดเจนค่ะวัน
00:01:07 → 00:01:09 นี้ขอบคุณคุณหมอมากเลยนะคะที่ให้เกียรติ
00:01:09 → 00:01:14 กับบการสุขภาพดี 22:00 นนะคะครับครับค่ะ
00:01:14 → 00:01:16 คุณหมอขาเบื้องต้นเลยค่ะเพราะว่าขวัญ
00:01:16 → 00:01:20 สงสัยมากบางคนเบอกว่าเอ๊ะปวดตามข้อปวดตาม
00:01:20 → 00:01:24 ข้อเนี่ยมันมีได้แบบหลายโรคมมีโรคอะไร
00:01:24 → 00:01:26 บ้างที่พูดมา 2 โรคเมื่อสักครู่เนี่ย
00:01:26 → 00:01:30 รูมาตอยกับเก๊าทเนี่ยมันเหมือนหรือตัต่าง
00:01:30 → 00:01:34 กันแบบไหนยังไงบ้างคะคุณหมอครับคือทั้ง 2
00:01:34 → 00:01:36 โรกเนี่ยอยู่ในกลุ่มที่เเรียกว่าข้อ
00:01:36 → 00:01:39 อักเสบนะครับค่ะก็อักเสบเนี่ยในความหมาย
00:01:39 → 00:01:42 นี้ก็คือมีกระบวนการอักเสบอย่างชัดเจนนะ
00:01:42 → 00:01:45 ครับปัจจุบันเนี่ยคำว่าอักเสบเนี่ยเป็น
00:01:45 → 00:01:49 อันเป็นคำที่เราใช้ในการนิยามโรคหลายโรค
00:01:49 → 00:01:51 ที่เป็นสมุฏฐานโรคมากมายเลยนะครับเพราะ
00:01:51 → 00:01:54 ฉะนั้นการเข้าใจกระบวนการอักเสบเนี่ยจะทำ
00:01:54 → 00:01:57 ให้เราเข้าใจทั้ง 2 โรคนี้ได้อย่างดีนะ
00:01:57 → 00:02:00 ครับค่ะทีนี้คำว่าอักเสบของ 2 ข้อเนี่ย
00:02:00 → 00:02:05 ถ้าเข้าใจอย่างง่ายนะครับก็คือมีอาการปวด
00:02:05 → 00:02:09 บวมแดงและร้อนนะครับอ่าประมาณนี้ครับทั้ง
00:02:09 → 00:02:12 2 โรคมีอาการคล้ายคึงกันแต่ถ้าในในความ
00:02:12 → 00:02:15 เห็นของแพทย์แล้วเนี่ยโรคเก๊าเนี่ยจะ
00:02:15 → 00:02:18 เรียกว่าแดงแดงจัดเลยนะฮะถ้าคนคนไข้มา
00:02:18 → 00:02:22 ด้วยภาวะเฉียบพันธเนี่ยเรียกว่าแดงแดง
00:02:22 → 00:02:26 เหมือนผลมมะเขือเทศอ่ะครับโขนาดนั้นเลยสี
00:02:26 → 00:02:28 มันบ่งบอกชัดเจนเลยเนาะสีบ่งบอกชัดเจนเลย
00:02:28 → 00:02:31 ครับในขณะที่ถ้าเป็นรูอยเนี่ยจะแดงเลื่อๆ
00:02:31 → 00:02:35 นะครับแล้วก็ไม่ไม่ทำดูก็จะไม่ไม่อุ่นไม่
00:02:35 → 00:02:39 ร้อนเท่ากับโลกเก๊าเลยครับอค่ะเก๊านี่
00:02:39 → 00:02:41 เป็นเฉพาะที่หัวเขามั้ยคะคุณหมอหรือเป็น
00:02:42 → 00:02:46 ที่ข้ออื่นๆได้หรือเปล่าคะครับอ่าผมจะพูด
00:02:46 → 00:02:48 ในลักษณะที่เป็นลักษณะทั่วไปก่อนนะครับ
00:02:48 → 00:02:51 เพราะว่าโรคภัยไข้เจ็บเราเนี่ยบางครั้ง
00:02:51 → 00:02:55 มันก็มีความแตกต่างไปจากเอ่อลักษณะทั่วไป
00:02:55 → 00:02:58 คือมีรายละเอียดบ้างแต่เอาว่าที่ลักษณะ
00:02:58 → 00:03:02 ทั่วไปนะครับโรคเเป็นโรคในเพศชายนะครับ
00:03:02 → 00:03:06 อัตราส่วนคือ 9 ต1คือเดินมา 10 คนนี่เป็น
00:03:06 → 00:03:09 ผู้ชาย 9 คนผู้หญิงคนเดียวนะฮะนะฮะในขณะ
00:03:09 → 00:03:12 เดียวกันรูมาตอยเนี่ยเป็นโรคของเพศหญิงนะ
00:03:12 → 00:03:17 ครับเดินมา 4 คนนี่เป็นเพศหญิง 3 ผู้ชาย 1
00:03:17 → 00:03:19 นะครับเพราะฉะนั้นเนี่ยแทบจะบอกเลยว่าถ้า
00:03:19 → 00:03:23 เราเจอผู้ชายแล้วปวดอ่าตำแหน่งนะครับก็
00:03:23 → 00:03:26 ชัดเจนนะครับส่วนใหญ่เก๊าทเนี่ยเป็นเป็น
00:03:26 → 00:03:30 ตรงเเรระยางนะฮะหรือว่าขานะครับค่ะส่วน
00:03:30 → 00:03:32 ใหญ่เอาว่าชัดเจนเนี่อยู่ที่เท้าเลยครับ
00:03:32 → 00:03:36 นะฮะส่วนรูมาตอยเนี่ยโดยทั่วไปนะครับถ้า
00:03:36 → 00:03:39 เอาแบบลักษณะทั่วไปเนี่ยจะเป็นที่ส่วนบน
00:03:39 → 00:03:44 นะครับและยางส่วนบนก็คือนิ้วมือนะครับข้อ
00:03:44 → 00:03:48 มือประมาณนี้ครับอือันนี้พูดถึงลักษณะ
00:03:48 → 00:03:50 ทั่วไปที่ชัดเจนนะครับแต่ว่ารายละเอียดจะ
00:03:50 → 00:03:54 มีอย่างมากกว่านี้อีกครับครับครับเชิญถาม
00:03:54 → 00:03:57 ได้เลยครับฮะครับคุณหมอครับก็มันมันมีราย
00:03:58 → 00:04:00 ละเอียดที่ค่อนข้างที่จะบ่งบบอกได้ชัดชัด
00:04:00 → 00:04:03 เจนพอสมควรแต่ทีเนี้ยไอ้ทั้ง 2 ทั้ง 2
00:04:03 → 00:04:06 โรคอ่ะแบ่งแยกกันก่อนก็ได้รูมาตอยกับตัว
00:04:06 → 00:04:10 เก๊าเองเนี่ยมันมีมันมีปัจจัยการเกิดมั้ย
00:04:10 → 00:04:13 คุณหมอมันมันเกิดมาทั้ง 2 อย่างมันเกิดมา
00:04:13 → 00:04:15 เหมือนกันมั้ยเกิดจากสาเหตุเดียวกันมั้ย
00:04:15 → 00:04:19 หรือว่าแตกแตกต่างกันครับคุณหมออันนี้เรา
00:04:19 → 00:04:21 เราต้องเข้าใจเรื่องสมุฏฐานของมันนะครับ
00:04:21 → 00:04:25 สมุฏฐานเนี่ยจะนำไปสู่การรักษาแล้วก็การ
00:04:25 → 00:04:29 ดำเนินชีวิตที่ถูกต้องบรรเทาหรือบำบัดโรค
00:04:29 → 00:04:35 ได้นะครับอือเอ่อเราพบว่าอ่าเก๊าทเนี่ย
00:04:35 → 00:04:37 เอาเอาเก๊าทก่อนแล้วกันนะครับเป็นเรื่อง
00:04:37 → 00:04:41 ของความผิดปกติของการเผาผลาญอือาหารนะ
00:04:41 → 00:04:44 ครับการเผาผลาญคือเราคิดอย่างนี้นะครับ
00:04:44 → 00:04:46 เวลาเรารับประทานอาหารเข้าไปเนี่ยจะต้อง
00:04:46 → 00:04:48 มีการเผาผลาญการสันดาบเพื่อให้เกิดพลัง
00:04:48 → 00:04:52 งานใช้ดำเนินชีวิตเนี่ยปรากฏว่าในส่วนของ
00:04:52 → 00:04:54 สารที่เค้าเรียกพิวรีนน่ะนะครับครับทั้ง
00:04:54 → 00:04:57 อยู่มาจากอาหารหรือจากอยู่ในเซลล์ก็ตาม
00:04:57 → 00:05:00 เนี่ยมีกระบวนการที่ผิด
00:05:00 → 00:05:03 ผิดปกติไปอืนะครับคืออาหารก็อาจจะทานมาก
00:05:03 → 00:05:07 ไปคือพิวรีนนะครับกับอีกอันนึงพิวรีนที่
00:05:07 → 00:05:10 มากไปมาจากความผิดปกติของการสันดาบหรือ
00:05:10 → 00:05:14 การเผาผ่านก็เลยเกิดภาวะที่ทำให้ทั้ง 2
00:05:14 → 00:05:18 ตัวทั้งกินกับการสร้างที่ผิดไปเนี่ยเกิด
00:05:18 → 00:05:21 ยูริกมากขึ้นอืเพราะฉะนั้นจะเกิดคำคำพูด
00:05:21 → 00:05:25 อันนึงก็คือภาวะยูริกสูงในกระแสเลือดนะ
00:05:26 → 00:05:30 ครับซึ่งอันนี้เนี่ยนำไปสู่การตกกรของ
00:05:30 → 00:05:34 ยูริกอผลึกยูริกที่ข้อนะครับอันนี้แหละ
00:05:34 → 00:05:38 ครับคือต้นเหตุนะครับอืส่วนรูมาตอยเนี่ย
00:05:38 → 00:05:41 ผมผมพยายามคิดอยู่นะครับว่าอธิบายยังไง
00:05:41 → 00:05:44 ให้เข้าใจง่ายๆเราเข้าใจโลกอันนึงที่
00:05:44 → 00:05:47 เรียกภูมิแพ้ใช่มั้ยฮะภูมิแพ้ผมพยายามดัด
00:05:47 → 00:05:50 แปลงว่ารูมาตอยน่าจะเป็นแพ้ภูมินะฮะแพ้
00:05:50 → 00:05:52 ภูมิคำว่าแพ้ภูมิก็คือแพ้ภูมิตัวเองอ่ะ
00:05:52 → 00:05:56 ครับภูมิแพ้เรายกตัวอย่างเราแพ้อยู่อแพ้
00:05:56 → 00:06:00 อาหารแพ้ยาแพ้อะไรแต่รูมาตอยเนี่ยเป็นโรค
00:06:00 → 00:06:05 ของภูมิต้านทานเราที่แพ้ตัวเองนะฮะอ๋อค่ะ
00:06:05 → 00:06:08 ครับเนื่องจากว่าสมุทรฐานก็ยังมาคิดกัน
00:06:08 → 00:06:12 ว่าเอ๊ะทำไมถึงเกิดขึ้นเาก็อธิบายย้อน
00:06:12 → 00:06:14 กลับไปว่าเอ๊ะมันมีกระบวนการอะไรที่ทำให้
00:06:14 → 00:06:17 ร่างเอ่อภูมิต้านทานของเราผิดเพี้ยนไปก็
00:06:17 → 00:06:20 คืออาจจะมีครั้งหนึ่งนะครับอาจจะมีเชื้อ
00:06:20 → 00:06:23 ไวรัสเชื้อแบคทีเรียหรือสิ่งแปลกปลอมเอา
00:06:24 → 00:06:25 ไว้เป็นสิ่งแปลกปลอมนะครับที่เข้ามาใน
00:06:25 → 00:06:28 ร่างกายตนไกลร่างกายธรรมชาติเนี่ยมีภูมิ
00:06:29 → 00:06:31 อยู่แล้วอืคือภูมิต้านทานนะครับที่จะต่อ
00:06:31 → 00:06:34 ต้านต่อสู้กับสิ่งที่แปลกปลอมแต่ปรากฏว่า
00:06:34 → 00:06:39 วันดีคดีผลผลที่เกิดนะฮะผลจากการต่อสู้
00:06:39 → 00:06:41 นั่นน่ะก็มีการสร้างเ้าเรียกว่าภูมิต้าน
00:06:42 → 00:06:44 ทานขึ้นมาแอนติบอดี้อะไรอย่างเงี้ยนะครับ
00:06:44 → 00:06:47 ก็เลยปรากฏว่ามันจำพวกเดียวกันไม่ได้ก็
00:06:47 → 00:06:51 เลยมาโจมตีอวัยวะต่างๆนะฮะตอยถ้าพูดถึง
00:06:51 → 00:06:54 จึงค่อนถ้าพูดภาษาชาวบ้านก็ดุดุกว่าเกา
00:06:54 → 00:06:58 ครับอดุกว่าเก๊านะคะครับๆๆแล้วอย่างอย่าง
00:06:58 → 00:07:03 เก๊าครับเอมันมันมันเกิดจากกระบวนการเผผ
00:07:03 → 00:07:06 ในร่างกายจนทำให้ร่างกายมันเกิดเรียกว่า
00:07:06 → 00:07:10 กดกดยูรที่มันสูงทีเนี้ยผมอ่ะเคยได้ยินมา
00:07:10 → 00:07:12 คือผมไม่ใช่ผมคนเดียวหรอกเชื่อว่าหลายๆคน
00:07:12 → 00:07:15 ก็เคยได้ยินมาคุณที่เป็นเก๊าทกันเนี่ย
00:07:15 → 00:07:18 เพราะคุณกินไก่เยอะกินเบียร์เยอะกิน
00:07:18 → 00:07:21 เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เยอะมันถึงทำให้คุณ
00:07:21 → 00:07:24 มียูริกสูงจริงๆแล้วเนี่ยเพราะกินพวกนี้
00:07:25 → 00:07:27 เยอะเกินไปจริงๆหรือว่ามันเป็นกระบวนการ
00:07:27 → 00:07:30 ความผิดพลาดปกติภายใน
00:07:30 → 00:07:33 อ่าใช่ครับคำคำคำถามนี้ดีมากนะครับปรากฏ
00:07:33 → 00:07:36 ว่าเค้าพบว่าจริงๆ 90% เนี่ยเป็นเรื่อง
00:07:36 → 00:07:41 ของการผิดปกติของการขจัดหรือกำจัดอ่าตัว
00:07:41 → 00:07:44 ยูริกออกจากร่างกายก็คือไปทางทางไตอ่ะนะ
00:07:44 → 00:07:47 ครับ 90% เลยนะฮะที่เหลือเนี่ยเป็นเรื่อง
00:07:47 → 00:07:50 ของการสร้างมากขึ้นก็คือการกินส่วนนึงอ่ะ
00:07:50 → 00:07:53 นะฮะหรืออะไรที่มันเข้าไปนะครับเพราะ
00:07:53 → 00:07:57 ฉะนั้นแต่แต่จะจะพูดว่าอย่างงั้นก็เลยบอก
00:07:57 → 00:07:59 ว่าเอ๊ะเราละเลยว่าอยังกินอะไรต่อไปใช่
00:07:59 → 00:08:02 มั้ยฮะคุณโอกจริงๆแล้วมันก็มีความสำคัญ
00:08:02 → 00:08:05 เพราะว่าตัวนี้เนี่ยก็คือตัวที่ทำให้เกิด
00:08:05 → 00:08:10 การชักนำนำไปสู่อาการของเก๊าทนะครับอ๋ออ
00:08:10 → 00:08:13 ค่ะคือไม่ใช่ว่าไม่ใช่ว่าเกิดจากกระบวน
00:08:13 → 00:08:17 การผลิตที่กิอ่าไม่ใช่การกินอย่างเดียวนะ
00:08:17 → 00:08:20 ครับแต่ถ้าเราเป็นส่วนน้อยด้วยไปกินซะ
00:08:20 → 00:08:22 ด้วยมันก็ยิ่งเพิ่มโอกาสใช่ครับใช่ครับ
00:08:22 → 00:08:26 อ๋อแล้วก็มีปัจจัยอาจจะเอาว่าบางรายอาจจะ
00:08:26 → 00:08:30 เกี่ยวกับกรมพรนะครับอืคือแล้วก็อันนี้
00:08:30 → 00:08:32 ที่ผมจะพูดต่อนะครับจะได้เลยเรื่องของ
00:08:32 → 00:08:35 ปัจจัยผมผมพยายามศึกษาเนี่ยปรากฏว่า
00:08:35 → 00:08:39 ปัจจัยร่วมนะครับปัจจัยเสี่ยงร่วมอบุหรี่
00:08:39 → 00:08:42 นะครับบุหรี่เดี๋ยวนี้ผมผมคิดว่าบุหรี่
00:08:42 → 00:08:45 เนี่ยเป็นอันตัวที่แทรกเป็นยาดำในโลกมาก
00:08:45 → 00:08:48 มายนะครับในในในในทางกระดูกในในทางสาขา
00:08:48 → 00:08:51 กระดูกและข้อเนี่ยก็เป็นตัวแทรกในโลกอะไร
00:08:51 → 00:08:53 มากมายเพราะงั้นผมคิดว่าถ้าเลี่ยงบุหรี่
00:08:53 → 00:08:55 ได้นะครับรวมทั้งบุหรี่เทียมบุหรี่อะไร
00:08:55 → 00:08:59 ต่างๆที่ปัจจุบันเ่อแพะหลายนะครับควรหลีก
00:08:59 → 00:09:01 เลี่ยงเลยครับถ้ารักรักชีวิตตัวเองนะครับ
00:09:01 → 00:09:06 อันที่ 2 คือภาวะออ้วนหรือน้ำหนักเกินนะ
00:09:06 → 00:09:08 ครับ 2 อันนี้เป็นปัจจัยร่วมทั้งคู่เลยนะ
00:09:08 → 00:09:10 ครับฮะๆครับ
00:09:10 → 00:09:15 อ๋อมีมีผลทั้งเรื่องหลักหๆหลักมันมีผล
00:09:15 → 00:09:18 เกี่ยวเนื่องกันไปเกี่ยวเนื่องกันมามันทำ
00:09:18 → 00:09:22 ให้เกิดเอ่อเรื่องของยูริกที่มันมันสูง
00:09:22 → 00:09:25 ขึ้นเรืๆแล้วก็ทำให้ยูริกตกตะก่อนอ๋อคือ
00:09:26 → 00:09:30 โรกเกเนี่ยจะต้องจะต้องมียูริกสูในเลือด
00:09:30 → 00:09:33 บวกกับตกตะกรทำให้ข้ออักเสบคือถ้ายูริก
00:09:33 → 00:09:37 สูงแต่ไม่มีอาการของข้อก็ไม่เรียกเก๊าทนะ
00:09:37 → 00:09:41 ครับอ๋อครับอคือเราเราพบว่าคนไข้ที่มี
00:09:41 → 00:09:44 ยูริกสูงเนี่ย 70% นะครับไม่มีอาการของเ
00:09:44 → 00:09:49 เลยออในขณะที่ 30% เนี่ยก็มีมีมีอาการของ
00:09:49 → 00:09:53 เกนะครับแสดงว่ายูริกเนี่ยมันมีอยู่ใน
00:09:53 → 00:09:56 ร่างกายในการเ่าผ่านของร่างกายของอยู่
00:09:56 → 00:10:01 แล้วครับแล้วก็ยิ่งถ้าเราไปกินอะไรที่มัน
00:10:01 → 00:10:05 มียูริกเพิ่มขึ้นครับมันก็ยิ่งเพิ่มโอกาส
00:10:05 → 00:10:07 เป็นได้ใชครับก็เพิ่มโอกาสแล้วร่วมกับ
00:10:07 → 00:10:09 ปัจจัยอย่างที่ว่านะครับก็จะมีความเสี่ยง
00:10:09 → 00:10:12 มากขึ้นอีกคือก็หมายความว่าจะทำให้ยิ่งมี
00:10:12 → 00:10:15 โอกาสจะอเป็นเกาทมากขึ้นก็คือมีโอกาสที่
00:10:15 → 00:10:18 ยูริกที่มาจากการเผาผลาญของพิวรีนเนี่ยนะ
00:10:18 → 00:10:21 ฮะอาหารพิวรีนเอ่อหรือสารพิวรีนเนี่ยตก
00:10:21 → 00:10:23 ตะกอนในข้อนะครับต้องเป็นที่ข้อด้วยนะ
00:10:23 → 00:10:26 ครับอือืค่ะอย่างงี้ไม่กินเลยใช่มั้ยคุณ
00:10:26 → 00:10:29 หมอไม่กินไก่ไม่กินไม่กิเออหรือมันต้อง
00:10:29 → 00:10:33 ไม่กินหเวลาผมรักษาอยู่นะครับผมก็ผมมักจะ
00:10:33 → 00:10:37 เอาเค้าเรียกว่ารายการอาหารที่อๆที่บอก
00:10:37 → 00:10:39 ว่าความเสี่ยงนะครับแต่จริงๆในข้อเท็จ
00:10:39 → 00:10:42 จริงแล้วเนี่ยมันก็มีหลากหลายนะครับสัตว์
00:10:42 → 00:10:45 ปีกอะไรอย่างที่เราคุ้นเคยนะครับเครื่อง
00:10:45 → 00:10:48 ในอะไรต่างๆที่ที่คุณโอ๊คงคงเคยได้ยิน
00:10:48 → 00:10:50 เนี่ยเราก็พบว่าบางคนก็ยังทานได้นะครับผม
00:10:50 → 00:10:55 เองผมก็มักจะให้แนวทางว่าเออถ้ามักจะทาน
00:10:55 → 00:10:58 แล้วเป็นก็ควรจะเลี่ยงอ่ะนะครับแต่ว่าถ้า
00:10:58 → 00:11:01 ยังไม่ปรากดอาการก็อาจจะทานได้บ้างนะครับ
00:11:01 → 00:11:04 ไม่งั้นจะงดอาหารไปหลายอย่างเออมันมันมัน
00:11:04 → 00:11:06 มีในผักผักด้วยใช่มั้ยคุณหมอใช่ครับผัก
00:11:06 → 00:11:10 เนี่ยก็จะเป็นเนี่ยนะครับเป็นผักอ่ะผมยก
00:11:10 → 00:11:12 ตัวอย่างนะครับแต่ไม่ใช่อย่างที่พูดนะฮะ
00:11:12 → 00:11:14 ไม่ต้องไปกลัวว่าจะมีทุกข์ทานไม่ได้นะ
00:11:14 → 00:11:19 คน้าผักหวานผักบุ้งจีนอ่ากฐินชะอมสะตอผัก
00:11:19 → 00:11:23 ขมหน่อไม้หน่อไม้ฝรั่งกะหล่ำสะเดาแตงกวา
00:11:23 → 00:11:26 นะครับโดยเฉพาะพวกที่เป็นยอดอ่อนของพวก
00:11:26 → 00:11:30 นี้นะครับอเชิญครับโอ้โหค่ะเมื่อกี้เรา
00:11:30 → 00:11:32 พูดถึงเก๊าทกันใช่มั้ยคะคุณหมอที่มันมี
00:11:32 → 00:11:34 ความเชื่อมโยงเกี่ยวกับเรื่องของกรพันธ์
00:11:34 → 00:11:38 ด้วยแล้วก็เปัจจัยในในร่างกายด้วยอาหารก็
00:11:38 → 00:11:41 เสริมเข้าไปอีกทำให้ถ้าจะเป็นเก๊าก็เป็น
00:11:41 → 00:11:45 ได้แต่ถ้าในฟากของรูมาตอยล่ะคะที่คุณหมอ
00:11:45 → 00:11:47 บอกว่ามันเป็นสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่าง
00:11:47 → 00:11:51 กายกรรมพันธ์มีความเกี่ยวเนื่องที่จะทำมา
00:11:51 → 00:11:55 ให้เราส่งต่อรูมาตอยจากรุ่นสู่รุ่นมั้ยคะ
00:11:55 → 00:12:00 ครับใช่ครับใช่ครับอืคือโรคโลกของเมื่อ
00:12:00 → 00:12:02 กี้ที่พูดนะฮะเรียกว่าแพ้ภูมิตัวเองเนี่ย
00:12:02 → 00:12:05 นะครับพบว่าปัจจัยเนี่ยก็คืออะไรก็ตามที่
00:12:05 → 00:12:08 ทำให้มีความเสี่ยงที่จะแพ้ภูมิได้ง่าย
00:12:09 → 00:12:12 เนี่ยพบว่าทางกรมพรเนี่ยนะฮะอ่าฮอร์โมนนะ
00:12:12 → 00:12:14 ครับอย่างที่พูดนะเป็นในผู้หญิงเนี่ยก็จะ
00:12:14 → 00:12:17 มีเกี่ยวกับฮอร์โมนเพศหญิงนะครับสิ่งแวด
00:12:17 → 00:12:20 ล้อมที่จะกระตุ้นให้เกิดภูมิต้านทานอ่า
00:12:20 → 00:12:23 หมายถึงความผิดเพี้ยนของภูมิต้านทานในการ
00:12:23 → 00:12:26 การสัมผัสหรือการอยู่ในสภาพแวดล้อมต่างๆ
00:12:26 → 00:12:29 แล้วรวมทั้งภาวะความเครียดด้วยนะครับอ่า
00:12:29 → 00:12:32 นี้เก็ความเครียดทางกายภาพความเครียดทาง
00:12:32 → 00:12:34 อารมณ์จิตใจเนี่ยก็เป็นการกระตุ้นก็คือ
00:12:34 → 00:12:36 จริงๆแล้วมันเนื่องจากพอเราพูดถึงภูมิ
00:12:36 → 00:12:38 ต้านทานใช่มเพราะฉะนั้นภูมิต้านทานมันมี
00:12:38 → 00:12:41 ความเชื่อมโยงทั้งทางร่างกายและจิตนะครับ
00:12:41 → 00:12:45 อารมณ์นะครับเนี่ยฮะคือปัจจัยอันนี้พูด
00:12:45 → 00:12:49 ถึงทางรูมาตอยเลยนะครับซึ่งปัจจัยจะมี
00:12:49 → 00:12:51 หลายหลากหลายมากนะครับสุดท้ายก็คือทำให้
00:12:52 → 00:12:56 ภูมิต้านทานลดลงครับค่ะพออาการแบบภูมิ
00:12:56 → 00:12:59 ต้านทานมันลดลงเนี่ยส่วนใหญ่เนี่ยลักษณะ
00:12:59 → 00:13:02 อาการของภูมิต้านทานลดลงเนี่ยเป็นแบบฉับ
00:13:02 → 00:13:05 พลันหรือว่าแบบค่อยเป็นค่อยไปแล้วกว่าจะ
00:13:05 → 00:13:09 รู้ตัวเนี่ยเป็นในระยะที่เอ่ออาจจะเลยเลย
00:13:09 → 00:13:13 ระยะกลางระยะท้ายหรือว่าเป็นภบในระยะแบบ
00:13:13 → 00:13:16 ไหนคคุณหมอครับๆอ่ะเราพูดถึงการดำเนินของ
00:13:16 → 00:13:19 โลกอนะฮะการดำเนินของโลกเนี่ยอย่างโลก
00:13:19 → 00:13:21 เก๊าทเนี่ยนะครับก็คืออย่างที่พูดเนี่ย
00:13:21 → 00:13:24 เป็นที่ระยางส่วนร่างเป็นเอาว่าส่วนใหญ่
00:13:24 → 00:13:26 เนี่ยเป็นนิ้วโป้งเท้านะครับตะตุ่มอะไร
00:13:26 → 00:13:29 ต่างๆเนี่ยพวกนี้เป็นเฉียบพันธุนะครับ
00:13:29 → 00:13:32 ครับการวินิจฉัยไม่ค่อยยุ่งยากนะครับนะฮะ
00:13:32 → 00:13:35 ไม่ค่อยยุ่งยากอ่อผมลืมพูดไปนะฮะถ้าผู้
00:13:35 → 00:13:38 หญิงเนี่ยเพศหญิงมักจะพบว่าหลังจากมี
00:13:38 → 00:13:42 ประจำเดือนนะฮะหมดแล้วนะครับวก็คืออเจิญ
00:13:42 → 00:13:45 เกิน 50 อะไรประมาณนี้นะครับก็จะเป็น
00:13:45 → 00:13:47 เพราะฉะนั้นผู้หญิงที่มียังไม่หมดประจำ
00:13:47 → 00:13:48 เดือนเนี่ยโอกาสที่จะเป็นเก๊าทหรือ
00:13:48 → 00:13:51 วินิจฉัยว่าเป็นเก๊าทเนี่ยโอกาสที่จะผิด
00:13:51 → 00:13:53 พลาดก็มากหมายถึงวินิจฉัยผิดออนะครับ
00:13:53 → 00:13:57 เพราะว่าส่วนใหญ่มักจะพบในวัยเอ่อหลังจาก
00:13:57 → 00:14:00 หมดประจำเดือนส่วนรมตเนี่ยบางทีการ
00:14:00 → 00:14:02 วินิจฉัยยากนะครับเนื่องจากว่าบางครั้ง
00:14:02 → 00:14:05 มันไม่ได้ไม่เหมือนเกอ่ะนะครับมาแบบชัดๆ
00:14:05 → 00:14:08 เลยอ่ะถ้าภาษาแพทย์เราเนี่ยวินิจฉัยง่าย
00:14:08 → 00:14:10 อะไรเงี้ยรูมาตอยบางทีอย่างที่คุณขวัญบอก
00:14:10 → 00:14:14 ่ะฮะมาอาการคนไข้อ่อนเพลียนะครับยังไม่มา
00:14:14 → 00:14:17 เรื่องข้อยังมีเลยนะครับอ่อนเพลียเพลียมี
00:14:17 → 00:14:22 ไข้ต่ำๆนะครับนะครับแล้วก็เรื่องของข้อ
00:14:22 → 00:14:24 เนี่ยอาจจะมาแบบบางครั้งก็ยังไม่ชัดเจน
00:14:25 → 00:14:27 แต่ผมกำลังพูดว่าเอาว่าที่ชัดเจนนะครับ
00:14:27 → 00:14:30 คือคนไมาด้วยเรื่องของการคลอดติดในตอน
00:14:30 → 00:14:34 เช้าคลอดติดคอดติดตอนเช้ายังไงคะคุณหมอ
00:14:34 → 00:14:38 อ่าอ่าก็คือเราจะเคยเจอบ่อยๆใช่มั้ยบางคน
00:14:38 → 00:14:40 สูงอายุอ่าข้อติดแต่อันนั้นส่วนใหญ่น่าจะ
00:14:40 → 00:14:43 เป็นโรคข้อเสื่อมนะครับพวกนั้นเนี่ยมีการ
00:14:43 → 00:14:46 ตัดสินที่เวลาประมาณ 30 นาทีในการเคลื่อน
00:14:46 → 00:14:49 ไหวนะครับความหมายคือถ้าตื่นเช้าขึ้นมา
00:14:49 → 00:14:52 เนี่ยเอ๊ะ 30 นาทียังลุกไม่ได้เลยนะครับ
00:14:52 → 00:14:57 ปวดนะครับหมายถึงติดและปวดนะครับค่ะก็บ่ง
00:14:57 → 00:15:00 ว่าเอ๊ะอาจจะเป็นอาการเลเริ่มต้นของโรค
00:15:00 → 00:15:03 ข้อรูตแต่จริงๆมีอย่างอื่นอีกนะครับก็คือ
00:15:03 → 00:15:07 เป็นลักษณะข้อเล็กๆอืนะครับข้อเล็กๆของ
00:15:07 → 00:15:10 มืออจริงๆนิ้วเท้าก็ด้วยแต่ว่ามือจะเด่น
00:15:10 → 00:15:13 กว่าก็คือพูดง่ายๆก็คือนิ้วข้อนิ้วตรง
00:15:13 → 00:15:15 บริเวณที่เราเรียกว่าสันมือนะครับสันหมัด
00:15:15 → 00:15:18 เนี่ยไล่ไปจนถึงปลายนิ้วแต่มักจะไม่ค่อย
00:15:18 → 00:15:21 พบตรงข้อปลายนิ้วนะครับเป็นทั้งสันมือ
00:15:21 → 00:15:24 แล้วก็อีกข้อนึงถัดไปนะครับอแล้วก็จะมี
00:15:24 → 00:15:28 ลักษณะเป็นกระสวยนะฮะบวมๆนิดนึงไม่ไม่แดง
00:15:28 → 00:15:32 จัดเหมือนอ่าเกานะครับแล้วก็เป็นพอพัฒนา
00:15:32 → 00:15:34 ต่อไปนะครับอันนี้พูดถึงว่ามันชัดเจนนะ
00:15:34 → 00:15:37 ครับก็จะเป็นลักษณะสมบทกันคือเป็นข้างนึง
00:15:37 → 00:15:40 เดี๋ยวก็เป็นอีกข้างนึงนะครับอพอพอนึกภาพ
00:15:40 → 00:15:43 ออกแล้วนะฮะตอนเช้าตื่นขึ้นมาเนี่ยครึ่ง
00:15:43 → 00:15:46 ชั่วโมงบางคนชั่วโมงนึงแล้วยังขยับไม่ได้
00:15:46 → 00:15:48 เลยเพราะปวดนะครับเพราะปวดนะครับไม่ใช่
00:15:48 → 00:15:52 ขี้เกียจนะฮะเพราะปวดตรงบริเวณข้อเล็กข้อ
00:15:52 → 00:15:55 น้อยของมือนะครับนิ้วมือนะครับแล้วก็อาจ
00:15:55 → 00:15:59 จะมีคนไข้อาจจะบอกว่ามีรุมๆเหมือนมีค่าย
00:15:59 → 00:16:02 นะครับแล้วก็อุ่นๆนะครับแต่ไม่เวลาอุ่น
00:16:02 → 00:16:05 นี่ไม่อุ่นจัดเหมือนรงเก๊าอย่างที่ผมพูด
00:16:05 → 00:16:07 อีกทีนะเก๊าทนี่มันชัดเลยนะครับแต่
00:16:07 → 00:16:11 รูมาตอยจะเป็นแบบอุ่นๆพอพอให้คลำได้อ่ะนะ
00:16:11 → 00:16:14 ครับอือครับคุณโอ๊เชิญเลยครับเออมันโอโห
00:16:14 → 00:16:17 มันมันมันเจาะจงนะต้องเป็นตนตอนเช้าซะ
00:16:17 → 00:16:20 ด้วยใช่เออนะครับมันถึงขั้นที่แบบเขา
00:16:20 → 00:16:23 เรียกว่าอะไรนะเอ่อข้อนั้นมันมันค้าง
00:16:23 → 00:16:25 เหมือนเหมือค้างมั้ยถ้าผมผมจินตนาการ
00:16:25 → 00:16:29 เคื่อนไหวยากใชครับเคลื่อนไหวยากอจะมีอ
00:16:29 → 00:16:32 อย่างนะครับผมก็จะถามอันนี้พูดถึงเวลา
00:16:32 → 00:16:35 ตรวจคนไข้หรือซักประวัติเนี่ยก็คือคุณป้า
00:16:35 → 00:16:39 คุณลุงเอ่อหลังจากติดแล้วเนี่ยใช้เวลา
00:16:39 → 00:16:41 ประมาณเท่าไหร่แกก็บอกครึ่งชั่วโมง
00:16:41 → 00:16:43 ชั่วโมงไปแล้วถึงจะเริ่มขยับได้เอาว่า
00:16:44 → 00:16:46 ส่วนใหญ่จะบอกเลยสายๆจะเริ่มขยับได้เพราะ
00:16:46 → 00:16:50 ฉะนั้นมันก็จะทำให้โมีกิจกรรมอะไรมากขึ้น
00:16:50 → 00:16:53 ได้ครับประมาณเครับเพราะมันมีเหตุผลมั้ย
00:16:53 → 00:16:56 คุณหมอทำไมมันมันเป็นลักษณะของธรรมชาติ
00:16:56 → 00:16:59 ของเขาเลยนะครับก็คือมีการอักเสบนะครับ
00:16:59 → 00:17:04 แล้วก็มีการยึดติดอ่าคำถามนี้ก็ดีนะฮะตัว
00:17:04 → 00:17:07 โลกเองมันเริ่มจากเยื่อหุ้มข้อนะครับคือ
00:17:07 → 00:17:09 จริงๆเมื่อกี้ที่พูดไปแล้วนะรูมาตอยเนี่ย
00:17:10 → 00:17:14 อเป็นโรคภูมิแพ้ภูมิใช่มั้ยครับมันก็จะไป
00:17:14 → 00:17:16 เค้าเรียกว่าโจมตีหรือไปกระจัดกระจายอยู่
00:17:16 → 00:17:20 ตามข้ออวัยวะต่างๆนะครับโรคข้อเป็นอันนึง
00:17:20 → 00:17:23 ที่ชัดเจนแต่จริงๆเนี่ยมันไปบริเวณอื่น
00:17:23 → 00:17:25 ด้วยนะครับตรงข้อเนี่ยเอาเฉพาะตรรงข้อนะ
00:17:26 → 00:17:29 ครับมาตรงที่เยื่อหุ้มข้อเยื่อหุ้มข้อคือ
00:17:29 → 00:17:32 ส่วนที่อยู่ใกล้ตรงบริเวณที่ข้อจะต้องมี
00:17:32 → 00:17:34 การเคลื่อนไหวใช่มั้ยฮะมันก็เลยทำให้มี
00:17:34 → 00:17:37 การยึดติดตรงนั้นแล้วก็เป็นลักษณะของโลก
00:17:37 → 00:17:40 ด้วยเลยเลยเกินใช้เวลานานเกินกว่าครึ่ง
00:17:40 → 00:17:44 ชั่วโมงครับอืเออมันเป็นลักษณะพิเศษเฉพาะ
00:17:44 → 00:17:47 ลักษนะเลยนะครับเป็นลักษณะเฉพาะคนมีโรค
00:17:47 → 00:17:49 อันนึงที่คงเคยได้ยินใช่มั้ยฮะโรคเข่า
00:17:49 → 00:17:54 เสื่อมโรคท่อเสื่อมอันนั้นเนี่ยคือคือ
00:17:54 → 00:17:57 เวลาคุณคุณลุงคุณย่าคุณยายเนี่ยเวลาลุก
00:17:57 → 00:17:59 เนี่ยจริงๆไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลยฮะฮะถ้า
00:17:59 → 00:18:01 เป็นโรคคอดเสื่อมนะฮะนี่คือข้อข้อที่จะ
00:18:01 → 00:18:04 ใช้ในการวินิจฉัยแยกโรกอันนั้นเขาก็จะแบบ
00:18:04 → 00:18:09 ขยับเขยื้อนได้ขยับนิดนึงเหมือนรถเก่าๆฮะ
00:18:09 → 00:18:12 บาร์พออะไรปุ๊บก็เร็วไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
00:18:12 → 00:18:14 ก็ลุกได้แต่รูมาตอยไม่นะครับเกินครึ่ง
00:18:14 → 00:18:16 ชั่วโมงแสดงว่ามันต้องมีอาการแบบค่อนข้าง
00:18:16 → 00:18:19 ที่จะใช่อันนี้เป็นเป็นอันที่จะใช้ในการ
00:18:19 → 00:18:21 แยกเลยนะครับอมันค่อนข้างจะทรมานแล้วก็
00:18:21 → 00:18:24 ปวดในช่วงขนาดนั้นมากเลยมั้ยคุณใช่ครับ
00:18:24 → 00:18:27 ใช่ครับจนกว่าจะเริ่มเคลื่อนไหวก็จะเริ่ม
00:18:27 → 00:18:29 บรรเทานะครับจนเื่อหนวยไปเรื่อยๆคนไข้จะ
00:18:29 → 00:18:32 บอกอย่างงี้นะพอสายๆนะเดี๋ยวป้าก็ลุกได้
00:18:32 → 00:18:34 แล้วอะไรอย่างเงี้ยครับอืมันมันมันเลยทำ
00:18:35 → 00:18:37 ให้เขาไม่ค่อยที่
00:18:37 → 00:18:41 จะหาหมอใช่ครับไม่ไม่เคลื่อนไหวซึ่งก็
00:18:41 → 00:18:43 ซึ่งก็เป็นอันอันที่จะทำให้ภาวะของโลกก็
00:18:44 → 00:18:46 จะยิ่งลำบากมากขึ้นนะครับในการเคลื่อนไหว
00:18:46 → 00:18:50 นะครับออค่ะความดุของรูมาตอยความดุของ
00:18:50 → 00:18:53 รูมาตอยเออมันดุมันดุที่ว่าเนี่ยมันดุ
00:18:53 → 00:18:56 ขนาดขนาดไหนมันเป็นถ้าเรียกเ้าเรียกว่า
00:18:56 → 00:18:59 เป็นโรคที่ไปตามระบบนะฮะ systemic ที่
00:18:59 → 00:19:02 ภาษาทางแพทย์เราเนี่ยเอาเอาตั้งแต่นะครับ
00:19:02 → 00:19:06 คุณโอ๊คผิวหนังนะครับไปตาตาแห้งปากแห้ง
00:19:06 → 00:19:09 อือทางหัวใจเนี่ยคือหมายถึงว่าไอ้สาร
00:19:09 → 00:19:12 เมื่อกี้ที่ผมพูดนะครับสารไอ้ๆภูมิแพ้
00:19:12 → 00:19:14 เนี่ยนะครับที่มันสร้างขึ้นมามันกระจัด
00:19:14 → 00:19:17 กระจายไปตามกระแสเลือดเอือๆเพราะฉะนั้นไ
00:19:17 → 00:19:19 ตรงไหนที่มีเลือดนะครับอ่าหัวใจเป็นไอ้
00:19:19 → 00:19:22 เยื่อบุมหัวใจเส้นเลือดก็มีลักษณะเค้า
00:19:22 → 00:19:25 เรียกเส้นเลือดอักเสบนะครับอปอดก็มีเยื่อ
00:19:25 → 00:19:29 หุ้มปอดหรือผนังมีแผลเป็นมีพังผืดในปอด
00:19:29 → 00:19:34 อืออือครับค่ะเอ่อไตอีกนะไตก็ทำให้ระบบ
00:19:34 → 00:19:38 เส้นเลือดระบบไตเสื่อมลงเหมือนจกระดูกเอง
00:19:38 → 00:19:40 ก็ตามเนี่ยปรากฏว่าทำให้กระดูกพรุนด้วยนะ
00:19:40 → 00:19:43 ฮะอะไรประมาณเนี้ยครับรวมทั้งไปเกี่ยว
00:19:43 → 00:19:47 ข้องกับระบบอ่าเส้นประสาทส่วนปลายนะครับ
00:19:47 → 00:19:50 ก็คือบางคนเนี่ยอาจจะมาด้วยเรื่องอาการชา
00:19:50 → 00:19:53 เนื่องมาจากไอ้ตัวผลของการอักเสบเนี่ยไป
00:19:53 → 00:19:58 ทำให้ออ่าเส้นประสาทมีการบวมการกดทับอนะ
00:19:58 → 00:20:01 ครับหรืออีกอันนึงนะครับครับถ้าคนไข้รุน
00:20:01 → 00:20:04 แรงมากเนี่ยมาลักษณะของการผิดรูปนะครับ
00:20:04 → 00:20:06 เนื่องมาจากอย่างที่เมื่อกี้พูดอ่ะนะครับ
00:20:06 → 00:20:10 ก็คือข้อถูกทำลายอย่างรุนแรงนะครับผิดรูป
00:20:10 → 00:20:13 ถ้าคุณโอ๊คเห็นคนไข้บางคนนี้น่าสงสารมาก
00:20:13 → 00:20:16 ครับนิ้วนิ้วหรือมือเนี่ยผิดรูปพิการน่ะ
00:20:16 → 00:20:18 นะครับเออผมเหมือนเคยเห็นในอินเทอร์เน็ต
00:20:18 → 00:20:21 ใช่ครับผิดผิดรูปในละครในหนังอะไรเงี้ย
00:20:21 → 00:20:23 ครับแล้วบางครั้งนี่ก็ทำให้เส้นเอ็นก็ผิด
00:20:23 → 00:20:27 รูปก็เส้นเอ็นก็เกิดการขาดการอ่าฉี่ขาด
00:20:27 → 00:20:29 ได้เพราะมันไปบาด
00:20:29 → 00:20:33 อเพราะฉะนั้นรุนแรงครับค่ะการดำเนินโรค
00:20:33 → 00:20:36 จากเริ่มต้นไปกว่าจะผิดรูปเนี่ยเอ่อใช้
00:20:36 → 00:20:39 เวลานานมั้ยคะคุณหมอแล้วก็กรณีที่ปายปี
00:20:39 → 00:20:44 ครับปีกรณีที่คุณหมอบอกว่าอ่าคนไข้หรือ
00:20:44 → 00:20:47 ที่สอบประวัติมาส่วนใหญ่เนี่ยเขาจะกว่าจะ
00:20:47 → 00:20:51 ขยับเขยื้อนได้นี่ก็ใส่สายสิ่งเนี้ยคือ
00:20:51 → 00:20:54 มันทำให้คนไข้ไม่ไม่ตื่นตัวที่จะมาพบ
00:20:55 → 00:20:57 แพทย์หรือเปล่าที่แบบเหมือนกับว่าเ้าไม่
00:20:57 → 00:20:59 เป็นเดี๋ยวสายๆก็ขยับได้ได้อะไรอย่าเงี้ย
00:20:59 → 00:21:02 ค่ะอ่ะไม่ล่ะครับอันนั้นอันนั้นจริงๆะ
00:21:02 → 00:21:04 ส่วนใหญ่ก็จะมาเหมือนกันนะครับคือเพียง
00:21:04 → 00:21:05 แต่ว่าอ
00:21:05 → 00:21:09 อ่าบางทีอาจจะอาการอาจจะยังไม่คือถ้า
00:21:09 → 00:21:11 อาการแบบอย่างที่ผมพูดนะมาแบบเต็มรูปแบบ
00:21:11 → 00:21:15 ออนะฮะมีไข้มีปวดอ่าอะไรนะฮะข้อเล็กข้อ
00:21:15 → 00:21:19 น้อยบวมแดงนะครับแล้วก็หลังจากนั้นก็รวด
00:21:19 → 00:21:20 เร็วคือมาแบบเต็มรูปแบบเนี่ยอันนี้ส่วน
00:21:21 → 00:21:23 ใหญ่จะมาหาแพทย์เลยอย่างที่ว่านะครับแต่
00:21:23 → 00:21:27 ถ้ามาแบบอาการแบบค่อยๆคืบคานนะฮะคือๆู
00:21:27 → 00:21:29 มาตอยผมพูดนิดนึงนะครับไม่ใช่ว่าทุกคนจะ
00:21:29 → 00:21:31 รุนแรงเหมือนกันหมดนะครับเป็นความโชคดี
00:21:31 → 00:21:34 ของโลกอะนะที่คนส่วนใหญ่แล้วเนี่ยไม่รุน
00:21:34 → 00:21:37 แรงมากอะนะครับเพียงแต่อาจจะมีกลุ่มที่
00:21:37 → 00:21:40 เรียกว่าเอาว่ารุนแรงเนี่ยรุนแรงทั้งเข้า
00:21:40 → 00:21:43 ไปในทุกระบบอย่างที่เมื่อกี้ผมพูดอ่ะนะ
00:21:43 → 00:21:45 ครับทั้งปอดทั้งไตทั้งอะไรบางคนพวกเนี้ย
00:21:45 → 00:21:48 รุนแรงขนาดทำให้เสียชีวิตแล้วอายุสั้นได้
00:21:48 → 00:21:51 นะครับอืแต่ว่าพวกนี้เป็นส่วนน้อยนะครับ
00:21:51 → 00:21:53 10 20% อะไรเท่านั้นเองนะครับที่เหลือ
00:21:53 → 00:21:56 เนี่ยเป็นกลุ่มที่เ้าเรียกว่าไม่รุนแรงนะ
00:21:56 → 00:21:59 ครับการดำเนินของโลกไม่รุนแรงหรืออาจจะมี
00:21:59 → 00:22:03 รุนแรงก็มีสลับสลับแรงบ้างเบาบ้างอะไร
00:22:03 → 00:22:05 อย่างเงี้ยนะครับเพราะงั้นก็เป็นความโชค
00:22:05 → 00:22:09 ดีที่ไม่รุนแรงในในส่วนใหญ่นะครับแล้ว
00:22:09 → 00:22:11 อะไรมันจะเป็นปัจจัยทำให้มันรุนแรงหรือ
00:22:11 → 00:22:15 ไม่รุนแรงคุณหมออ่าตรงนี้ก็คือตรงนี้ไม่
00:22:15 → 00:22:18 ปัจจัยตรงนี้บอกยากนะครับเพราะว่าเพียง
00:22:18 → 00:22:21 แต่ว่าเราทางแพทย์เราก็จะใช้อาศัยการ
00:22:21 → 00:22:24 ดำเนินของโลกเนี่ยในการแยกอนะครับหมายถึง
00:22:24 → 00:22:28 ว่าคือลุงตอยเนี่ยจะมีลักษณะของการรักษา
00:22:28 → 00:22:32 หรือยุทธวิธีในการรักษาคืออืวินิจฉัยให้
00:22:32 → 00:22:35 ได้ตั้งแต่ต้นนะครับแล้วให้การรักษาโดย
00:22:35 → 00:22:39 เร็วเพื่อที่จะลดความพิการนะครับอ
00:22:39 → 00:22:41 ปัจจุบันเนี่ยความเข้าความก้าวหน้าทางการ
00:22:41 → 00:22:44 ใช้ยาอะไรต่างๆเนี่ยถ้าเราพบว่าเป็นกลุ่ม
00:22:44 → 00:22:46 ที่รุนแรงเนี่ยและใช้ยาที่เหมาะสมก็จะยับ
00:22:46 → 00:22:50 ยั้งคือไม่ได้ทำให้หายนะครับแต่ยับยั้ง
00:22:50 → 00:22:53 ความพิการหรือภาวะที่จะทำให้คนไข้อายุ
00:22:53 → 00:22:57 สั้นลงได้ได้มากเลยนะครับเพราะฉะนั้นตรง
00:22:57 → 00:22:59 นี้เนี่ยไม่มีปัจจัยที่ที่ชัดเจนว่าเอ๊ะ
00:22:59 → 00:23:02 เป็นอะไรแต่ว่าเราสามารถติดตามได้ว่า
00:23:02 → 00:23:05 กลุ่มเนี้ยนะครับรุนแรงนะครับก็มีเรื่อง
00:23:05 → 00:23:08 ของทางแพทย์ซึ่งอันนี้อันนี้จะรายละเอียด
00:23:08 → 00:23:11 นิดนึงออนะเช่นบอกว่ามีปวดนานเท่าไหร่ปวด
00:23:11 → 00:23:13 เร็วอาการดำเนินโรคเร็วหรือการทำลายรวด
00:23:13 → 00:23:16 เร็วไอ้กลุ่มนี้นี่แะครับจะเฝ้าติดตามมาก
00:23:16 → 00:23:18 แต่กลุ่มที่ไม่ไม่รุนแรงเนี่ยมันจะบอก
00:23:18 → 00:23:21 อยู่ในตัวฮะทันยาบางทีไม่ต้องใช้ยาที่
00:23:21 → 00:23:23 รุนแรงไม่ต้องใช้ยาที่ซับซ้อนน่ะนะครับ
00:23:23 → 00:23:25 พูดอย่างงี้ก็จะหายได้ง่ายอะไรแล้วก็
00:23:26 → 00:23:29 ลักษณะการอักเสบอะไรก็จะเทาได้เร็วกลุ่ม
00:23:29 → 00:23:32 นี้ก็จะอาจจะเบาใจและคนไข้ก็สบายใจด้วยนะ
00:23:32 → 00:23:37 ครับออค่ะคุณหมอขาขวัญเคยได้ยินมาว่า
00:23:37 → 00:23:40 ลักษณะอากาศอุณหภูมิเนี่ยมันมีผลต่อโรค
00:23:40 → 00:23:44 อย่างกรณีรูมาตอยเนี่ยอากาศเย็นเนี่ยมัน
00:23:44 → 00:23:46 จะกำเริบหรือปวดได้มากขึ้นเก๊าเป็นอย่าง
00:23:46 → 00:23:50 กับรูมาตอยมั้ยคะอากาศเย็นอากาศหนาวก็เพะ
00:23:50 → 00:23:53 ว่าบางคนก็อาจจะพบในอากาศที่อาจจะอุ่นๆ
00:23:53 → 00:23:55 หน่อยนะครับแล้วก็ความชื้นน้อยอะไรประมาณ
00:23:55 → 00:23:58 นี้นะครับมีส่วนนะครับเออเก๊าอีกอันนึง
00:23:58 → 00:24:01 ที่ที่เราพบนะครับก็คือบางครั้งเนี่ยอ่า
00:24:01 → 00:24:04 การบาดเจ็บเล็กๆนะครับหรือการใช้งานมากๆ
00:24:04 → 00:24:06 โดยเฉพาะอย่างที่พูดก็คือระยางส่วนล่าง
00:24:07 → 00:24:09 ของเท้าเท้าหรือนิ้วเท้านะครับอันเนี้ย
00:24:10 → 00:24:13 อาจจะเป็นตัวชักนำทำให้ให้เกิดอาการได้
00:24:13 → 00:24:18 ง่ายขึ้นนะครับอือืมค่อนข้างที่จะค่อน
00:24:18 → 00:24:21 ข้างที่จะเอ่อเป็นอะไรที่มันความทรมาน
00:24:21 → 00:24:25 เนี่ยถือว่าเป็นเป็นเป็นตัวแบบตัวทำให้คน
00:24:25 → 00:24:28 ที่ป่วยเนี่ยมันมันไม่สนุกเอไม่ใช่ไม่
00:24:28 → 00:24:31 สนุกมันไม่สนุกมันไม่สนุกอยู่แล้วมันมัน
00:24:31 → 00:24:33 ทุก์มันทุกข์ทรมานนะคุณหมอนะในการที่จะ
00:24:33 → 00:24:37 เป็นโรคนี้ทุรฮฮะอืซึ่งซึเอ่อคนเราเนี่ย
00:24:37 → 00:24:40 เอ่อในการเป็นเก๊าทหรือไม่ไม่ไม่ว่าจะ
00:24:40 → 00:24:44 เป็นรูมาตอยเองเนี่ยมันมันมันมันเป็นแล้ว
00:24:44 → 00:24:46 มันจะเป็นต่อไปเรื่อยๆเลยมั้ยคุณหมอแล้ว
00:24:46 → 00:24:49 มันก็ทวีความรุนแลขึ้นมั้ยฮะครับๆคำถามดี
00:24:49 → 00:24:51 ๆนะคืออันนี้ก็เหมือนกับว่าเราอยากจะรู้
00:24:51 → 00:24:53 ชะตาชีวิตเราจะเป็นยังไงใช่มั้ยถ้าเป็น
00:24:53 → 00:24:56 โลก 2 โลกนี้เนี่ยคือเก๊าเนี่ยเอาว่า
00:24:56 → 00:24:59 อย่างที่เมื่อกี้พูดอ่ะนะครับถ้าเรา
00:24:59 → 00:25:03 สามารถลดปัจจัยอ่ายูริคสูงใช่มั้ยครับ
00:25:03 → 00:25:05 ครับโดยที่อาจจะมาจากเหตุอะไรต่างๆว่าไป
00:25:05 → 00:25:09 แล้วเนี่ยถ้าเราลดยูริคได้ในลักษณะที่พอ
00:25:09 → 00:25:12 สมควรนะครับเราพบว่าบางทีความรู้สึก
00:25:12 → 00:25:14 เหมือนหายขาดนะครับผมจริงๆไม่หายนะครับ
00:25:15 → 00:25:17 แต่ว่ามันเหมือนหายอ่ะครับเพราะฉะนั้น
00:25:17 → 00:25:21 พยากรณ์โลกหรือการดำเนินของโลกค่อนข้างดี
00:25:21 → 00:25:23 นะครับถ้าดูแลดีนะครับเพราะว่าเรื่องของ
00:25:23 → 00:25:26 การลดกดยูนิคเนี่ยเดี๋ยวนี้ก็มียาอะไร
00:25:26 → 00:25:29 ต่างๆที่จะมาช่วยได้มากนะนะครับเมื่อกด
00:25:29 → 00:25:32 ยูริกไม่ไปตกตะกอนในโลกเอ่อในในค้อโทษนะ
00:25:32 → 00:25:36 ครับก็จะไม่ปรากฏอาการของเกแน่นอนนะครับ
00:25:36 → 00:25:40 ส่วนรูมาตอยเนี่ย
00:25:40 → 00:25:44 เอ่อครับการดำเนินของโลกนะครับก็เดี๋ยวนะ
00:25:44 → 00:25:47 ฮะเมื่อกี้คำถามว่าเอ่อเดี๋ยวคุณโอ๊คอีก
00:25:48 → 00:25:50 ทีนะฮะมันมันจะมันจะแบบเป็นแล้วมันจะเป็น
00:25:50 → 00:25:53 ต่อไปเรื่อยนันใช่ไหนตัวรูมาตอยเนี่ยเรา
00:25:53 → 00:25:56 พบว่าถ้าการดำเนินของโลกเนี่ยก็ไม่หาย
00:25:56 → 00:25:59 เหมือนกันนะครับถ้าจะใช้แบบภาษาทางแพทย์
00:25:59 → 00:26:03 เราก็คือไม่เคียวไม่หายแก็พูดอ่ะนะครับ
00:26:03 → 00:26:07 ถ้าเราสามารถอ่าติดตามโลกได้เนี่ยก็สงบ
00:26:08 → 00:26:10 สงบได้นะครับหรือ้ากลุ่มที่รุนแรงเมื่อ
00:26:10 → 00:26:13 กี้ที่พูดเนี่ยก็อาจจะทำให้มันไม่รุนแรง
00:26:13 → 00:26:18 ได้นะครับแต่ยังไงไม่หายนะครับอืไม่หาย
00:26:18 → 00:26:21 ค่ะออไม่หายแต่สงบได้นะคะคุณได้ใช่ครับ
00:26:21 → 00:26:25 ใช่ครับไม่หายแต่สงบได้แล้วอะไรเป็น
00:26:25 → 00:26:28 สัญญาณสังเกตว่าเค้ากำลังจะกลับมาถ้าคน
00:26:28 → 00:26:31 ที่อยู่ในสถานการณ์ที่สงบแล้วปวดใหม่หรือ
00:26:31 → 00:26:35 ว่ามือบวมหรือว่าอะไรคะสัญญาแรกๆก็จะใช้
00:26:35 → 00:26:38 การติดตามจริงๆก็คือการติดตามรวมทั้งการ
00:26:38 → 00:26:41 ตรวจทางห้องห้องห้องปฏิบัติการห้องแลบ
00:26:41 → 00:26:43 อะไรอย่างที่ว่าผลเลือดอะไรต่างๆเนี่ย
00:26:43 → 00:26:45 เป็นตัวช่วยนะครับที่เหลือก็เป็นอาการของ
00:26:45 → 00:26:49 คนไข้นี่แหละครับก็คือที่สำคัญก็คืออัน
00:26:49 → 00:26:52 นี้เราพูดถึงกลุ่มที่เอาว่าซีเรียสหรือ
00:26:52 → 00:26:54 เป็นมากอะนะครับก็ควรจะต้องติดตามใกล้ชิด
00:26:54 → 00:26:57 นะครับกลุ่มที่ว่าไม่ค่อยซีเรียสแต่บางที
00:26:57 → 00:26:59 ค่อนข้างดีนะครับครับพยากรณ์โลกค่อนข้าง
00:26:59 → 00:27:01 ดีก็คือดูเหมือนกับที่เมื่อกี้พูดว่าไม่
00:27:01 → 00:27:05 หายขาดแต่ก็สงบได้นะครับอเราใช้คำว่าสงบ
00:27:05 → 00:27:08 เป็นระยะนะครับครับสงบส่วนกลุ่มที่รุนแรง
00:27:08 → 00:27:11 เนี่ยอันนี้ยอมรับว่าคนไข้ที่เป็นอาจจะ
00:27:11 → 00:27:14 ต้องยอมเสียสละมาพบแพทย์ใกล้ชิดหน่อยนะ
00:27:14 → 00:27:17 ครับเราก็จะติดตามอาการที่จะบ่งชี้เมื่อ
00:27:17 → 00:27:20 กี้ที่พูดนะฮะคืออาการและอาการแสดงที่จะ
00:27:20 → 00:27:22 ที่ปรากฏตามข้อหรืออาการที่คนไข้แจ้ง
00:27:23 → 00:27:25 เนี่ยร่วมกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการก็
00:27:25 → 00:27:28 จะแยกออกมาว่าเป็นกลุ่มที่รุนแรงแล้วก็
00:27:28 → 00:27:30 ติดตามอย่างใกล้ชิดแล้วก็เมื่อเมื่อมี
00:27:30 → 00:27:33 ความรุนแรงก็จะมีการให้ยาที่จะเค้าเรียก
00:27:33 → 00:27:36 ว่าปฏิสัมพันธ์กับตัวอาการนี่แหละครับ
00:27:36 → 00:27:41 เพื่อให้มันสงบครับอืเอ่อระหว่างการรักษา
00:27:41 → 00:27:44 เก๊ากับรูมาตอยก็ค่อนข้างมันมันไม่เหมือน
00:27:44 → 00:27:47 กันไม่ยาก็คนละตัวกันเลยใช่มั้ยคุณหมออ่า
00:27:47 → 00:27:50 มีตัวที่ร่วมกันอ่าคุณพคงคยได้ยินคำว่า
00:27:50 → 00:27:52 เอ็นเสดใช่มั้ยฮะเดี๋ยวผมขออนุญาตพูด
00:27:52 → 00:27:55 เพราะว่าจะได้พวกเราจะชาวบ้านผู้ผู้ฟัง
00:27:55 → 00:27:57 ทางบ้านจะได้เข้าใจเอเสนะครับก็คือยาต้าน
00:27:57 → 00:28:00 กันอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยเนี่ยเป็นยา
00:28:00 → 00:28:02 ที่พื้นฐานเลยที่ค่อนข้างจะเรียกว่า
00:28:02 → 00:28:06 เบื้องต้นทั้ง 2 ตัวอครับใช้ในทั้งทั้ง
00:28:06 → 00:28:10 เก๊าทและรูมาตอยแต่รูมาตอยจะมีความซับ
00:28:10 → 00:28:12 ซ้อนก็คือว่าเนื่องจากอย่างที่พูดอ่ะนะ
00:28:13 → 00:28:15 ครับมีความรุนแรงในระดับต่างกันเนี่ยก็จะ
00:28:15 → 00:28:19 มีกลุ่มยาที่เ้าเรียกว่าช่วยปรับพฤติกรรม
00:28:19 → 00:28:22 ความรุนแรงของโลกนะครับระดับดับถัดไปถ้า
00:28:22 → 00:28:25 ยังรุนแรงอีกก็จะมีเค้าเรียกสารชีวภาพอัน
00:28:25 → 00:28:27 นี้เป็นชื่อยาทั้งนั้นเลยนะครับเป็นขั้น
00:28:27 → 00:28:30 บันดาแต่จริงๆถ้าคนไข้ที่รุนแรงเราจะใช้
00:28:30 → 00:28:33 ร่วมกันเลยนะครับแนวแนวทางการรักษา
00:28:33 → 00:28:35 ปัจจุบันเนี่ยใช้ร่วมกันเลยจะไม่รอทีละ
00:28:35 → 00:28:38 สเต็ปีก็เพื่อที่จะบรรเทาหรือลดความพิการ
00:28:38 → 00:28:42 ของโลกแต่ตัวเก๊าทจะนอกจากเอเสแล้วก็ที่
00:28:42 → 00:28:45 เมื่อกี้พูดเนี่ยก็จะมีะยาอ่าตัวอักเสบ
00:28:46 → 00:28:48 อีกชื่ออีกตัวนึงนะครับแล้วก็อีกตัวนึงก็
00:28:48 → 00:28:51 คือเมื่อโรคสงบก็คือจะให้ยาลดกดยูริกไป
00:28:51 → 00:28:56 ด้วยเนี่ยครับอืประมาณนี้อือๆก็ต้องมีการ
00:28:56 → 00:29:01 ก็คือจริงๆแล้วตามอาการแล้วก็รักษาตาม
00:29:01 → 00:29:06 เอ่อความรุนแรงกันไปก็จะมีวิธีการซึ่งพอ
00:29:06 → 00:29:10 รักษาไปรักษาอย่างเอ่อกรณีเก๊าทเนี่ยมัน
00:29:10 → 00:29:15 ก็คือเอ่อไม่ให้ยูริกมันเพิ่มสูงขึ้นจนทำ
00:29:15 → 00:29:17 ให้ร่างกายเราเจ็บไข้ได้ป่วยใช่มั้ยคุณ
00:29:17 → 00:29:20 หมอใใช่ครับคือระดับที่เหมาะสมนะครับ
00:29:20 → 00:29:25 ซึบมีเกาะไปตามนะครับออถ้าควบคุมิได้ก็
00:29:25 → 00:29:28 คือโอเคสำหรับเก๊าใช่ใช่ครับใช่ครับก็จะ
00:29:28 → 00:29:31 ลดลงไปเยอะแต่แต่อันนี้ผมพูดนะครับอันนี้
00:29:31 → 00:29:34 เป็นเรื่องสถิติทั้งนั้นเลยนะเพบว่าเก๊าท
00:29:34 → 00:29:38 บางคน 20% ไม่มียูริคสูงก็มีนะคุณออเนี่ย
00:29:38 → 00:29:41 ไอ้ไอเรื่องทางสถิติเนี่ยเป็นเรื่องที่มา
00:29:41 → 00:29:43 พูดกันอยู่อันนี้ก็เราก็ต้องฟังอ่ะนะครับ
00:29:43 → 00:29:46 คือไม่มียูริคสูงก็มีนะครับจะมีอยู่
00:29:46 → 00:29:50 ประมาณ 20% อันนี้ตัวเลขอาจจะปรับสูงต่ำ
00:29:50 → 00:29:54 ตามอะไรเค้าเรียกอ่ารายงานการวิจัยแต่ละ
00:29:54 → 00:29:56 ที่อ่ะนะครับแต่ว่าเพราะฉะนั้นเราก็ต้อง
00:29:56 → 00:30:00 ติดตามอาการเป็นสำคัญด้วยนะครับออครับ
00:30:00 → 00:30:03 เข้าใจแล้วคือคือถเมื่อกี้ผมผมพูดแล้วอนะ
00:30:03 → 00:30:05 ครับปวดมุมแดงร้อนนะครับตำแหน่งที่เหมาะ
00:30:05 → 00:30:09 สมนะครับอืออาการมีลักษณะการทานอาหารร่วม
00:30:09 → 00:30:12 ด้วยมั้ยอะไรนะครับหรือมีลักษณะที่ทำให้
00:30:13 → 00:30:16 มีการผลิตของตัวพิวรีนมากขึ้นมานะครับ
00:30:16 → 00:30:19 โอเคอย่างงี้ก็ก็คงต้องรักษาเลยนะครับไม่
00:30:19 → 00:30:21 ใช่ว่ายูริกสูงอย่างเดียวอย่างที่พูดอ่ะ
00:30:21 → 00:30:26 นะครับเข้าใจแล้วไม่สูง 20% ก็เจออ๋อเกาอ
00:30:26 → 00:30:30 อ่าอพอได้แนวทางแล้วนะฮะอ่าได้เลยครับคุณ
00:30:30 → 00:30:34 หมอโอเคครับอ่ะเชิญคำถามต่อเลยครับค่ะคุณ
00:30:34 → 00:30:37 หมอคะครับสำหรับในส่วนของรูมาตอยเนี่ยที่
00:30:37 → 00:30:40 คุณหมอบอกว่าเป็นการอักเสบบริเวณข้อส่วน
00:30:40 → 00:30:43 ใหญ่ก็จะเป็นบริเวณส่วนบนบริเวณข้อนี้อ่า
00:30:43 → 00:30:46 ละยางส่วนบนแขนยส่วนบนอ่าแขนนะครับโทษแขน
00:30:46 → 00:30:50 แล้วมือนะครับมือค่ะอืครับนอกจากข้อนิ้ว
00:30:50 → 00:30:54 มือที่เป็น 2 แบบเอ่อข้อแล้วเนี่ยเหบบแขน
00:30:54 → 00:30:57 อ๋อมีแขนเนี่ยตรงข้อ 2 อะไรอย่าเงี้ยเป็น
00:30:57 → 00:31:00 ได้ด้วยมั้ยคะมีครับคือคือคือถ้าเด่นก็
00:31:00 → 00:31:03 คือปลายข้อเล็กๆปลายนิ้วอ่ะนะครับอย่าง
00:31:03 → 00:31:06 ที่พูดอ่ะนะครับมีอาการบวมแล้วก็เป็นรูปก
00:31:06 → 00:31:09 สวยนะครับครับแล้วก็เป็นสมมาสนะครับคือ
00:31:09 → 00:31:12 เป็นอีกข้างนึงคือบางทีแทิเดียวพร้อมกัน
00:31:12 → 00:31:15 ก็ได้คือซ้ายขวาหรือมาอีกสักพักนึงข้าง
00:31:15 → 00:31:17 ซ้ายก่อนเดี๋ยวมาข้างขวาเพราะคือจะมี
00:31:17 → 00:31:20 ลักษณะสมมาตคือมาเป็นคู่นะครับเพราะ
00:31:20 → 00:31:24 ฉะนั้นข้อศอกก็มีอ่าเมื่อกี้ลืมพูดไปก็
00:31:24 → 00:31:28 คืออ่ารูมาตอยเนี่ยจะมีก้อนหรือตุกกลุ่ม
00:31:28 → 00:31:31 นูนนะครับคล้ายๆอ่าเหมือนเก๊าเหมือนกัน
00:31:31 → 00:31:34 แต่ลักษณะจะต่างกันกลุ่มนูนในเก๊าทจะเป็น
00:31:34 → 00:31:38 ลักษณะไอ้ตัวยูริกตกตะกอนครับแต่ตัวกุ
00:31:38 → 00:31:41 ตุ่มนูนหรือก้อนนะครับตามข้อศอกของของ
00:31:41 → 00:31:44 รูมาตอยเป็นลักษณะผลจากการอักเสบลครับ
00:31:44 → 00:31:47 เยื่อบุมันมันหนาตัวขึ้นนะครับอ่าประมาณ
00:31:47 → 00:31:51 นี้ครับอครับผมอย่างๆอย่างเก๊าทเนี่ยมี
00:31:51 → 00:31:53 เรื่องของอาหารเกี่ยวข้องรูมาตอยมีอาหาร
00:31:53 → 00:31:57 ต้องห้ามมั้ยคุณหมอรูมาตอยใช่มั้ยครับใช่
00:31:57 → 00:32:01 มีจะเป็นลักษณะไม่มีไม่มีชัดเจนนะครับ
00:32:01 → 00:32:04 เข้าใจว่าน่าจะเป็นอันผมผมผมผมจะโยงอย่าง
00:32:04 → 00:32:07 งี้ว่าเมื่อกี้ที่ว่าแพ้ภูมินะครับเพราะ
00:32:07 → 00:32:10 ฉะนั้นเนี่ยมันมันกลายเป็นว่าอะไรก็ตาม
00:32:10 → 00:32:13 ที่เป็นสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เกิดอืไอ้ไอ
00:32:13 → 00:32:15 ตรงเนี้ยเหนี่ยวนำนะครับตรงนี้มันน่าจะ
00:32:15 → 00:32:16 เป็นลักษณะงั้นมากกว่าเพราะฉะนั้นไม่มี
00:32:17 → 00:32:20 อาหารเจาะจงที่ที่เราจะแนะนำว่าเลี่ยงนะ
00:32:20 → 00:32:23 ครับครับมีคุณผู้ฟังสอบถามมาครับคุณหมอ
00:32:23 → 00:32:27 ครับอันนี้น่าสนใจเลยทีเดียวเอ่อคนเดียว
00:32:27 → 00:32:30 เนี่ยสามารถเป็นได้ทั้งเก๊าทและก็รูมาตอย
00:32:30 → 00:32:36 ได้หรือเปล่าคุณหมอเคำถามนี้ดีนะครับเอเอ
00:32:36 → 00:32:37 ก็ต้องอยู่ที่ว่า
00:32:37 → 00:32:42 อ่าตัวปัจจัยนั้นน่ะมาร่วมกันไว้นะครับอื
00:32:42 → 00:32:45 เพราะว่าอย่างที่พูดนะฮะตัวตัวรูมาตอย
00:32:45 → 00:32:49 เป็นโรคปัจการเกิดใช่มตนาเกิดแล้วถ้าเกิด
00:32:49 → 00:32:53 มีภาวะของยูริกสูงซึ่งยูริกสูงเนี่ยโอ้โห
00:32:53 → 00:32:55 มันมีช่องทางนำอย่างที่ว่ามาแล้ว่ะนะครับ
00:32:55 → 00:32:58 คือพิลีเนี่ยมันเป็นกระบวนการที่อยู่เป็น
00:32:58 → 00:33:01 สารที่อยู่ในเซลล์อยู่ในอะไรส่วนต่างๆ
00:33:01 → 00:33:04 เมื่อมีการผลิตมากขึ้นมายูริกสูงปุ๊บนะ
00:33:04 → 00:33:09 ครับประกอบกับยูริกตกตะกรที่ข้ออืก็เป็น
00:33:09 → 00:33:13 ได้แต่อันเรียกว่าคนไข้แบบนี้ก็คนเป็น
00:33:13 → 00:33:15 ส่วนน้อยนะครับคุณน้อยมากใช่มยที่จะเป็น
00:33:15 → 00:33:19 แบบแบบๆพร้อมๆกันใช่ครับเอต่อเนื่องคำถาม
00:33:19 → 00:33:21 ต่อเนื่องครับถ้าเป็นรูมาตอยที่มีอาการ
00:33:21 → 00:33:24 รุนแรงหรือมีอาการหนังเนี่ยคนไข้เนี่ยจะ
00:33:24 → 00:33:28 มีอายุสั้นหรือว่าอายุยืนได้อีกกี่ปีคุณ
00:33:28 → 00:33:29 หมอ
00:33:29 → 00:33:33 ออกี่ปีใช่มั้ยครับตรงนี้ยังไม่มีคือคือ
00:33:33 → 00:33:37 ความรุนแรงของมันเนี่ยอยู่ที่ว่ามันไปอ่า
00:33:37 → 00:33:40 เกี่ยวข้องอวัยวะส่วนไหนใช่มั้ยครับโทษนะ
00:33:40 → 00:33:44 ครับเช่นเราพบว่าบางครั้งเนี่ยอยกตัว
00:33:44 → 00:33:47 อย่างนะครับไปเกี่ยวเราพบว่าบางรายเนี่ย
00:33:47 → 00:33:50 ไปขึ้นไปถึงมีการเคลื่อนตัวของกระดูกข้อ
00:33:50 → 00:33:53 ที่ 1 กับข้อที่ 2 ตรงบริเวณกระดูกคอเลย
00:33:53 → 00:33:55 นะครับเหรอฮะไอ้ตรงเนี้ยก็อาจจะไปกระทบ
00:33:55 → 00:33:59 กับอ่าการกดไขสันหลังอะไรต่างๆไอ้อย่าง
00:33:59 → 00:34:01 เงี้ยสมมุติว่าถ้าคนไข้มีปัญหาไม่ได้รับ
00:34:01 → 00:34:04 การรักษาถูกต้องก็จะเป็นอัมพาตแล้วก็เสีย
00:34:04 → 00:34:07 ชีวิตได้อนะครับอันนี้อันนี้เจอแต่ไม่มาก
00:34:07 → 00:34:10 นะครับแล้วแต่จุดใช่มั้ยแล้วแต่จุดแล้ว
00:34:10 → 00:34:15 แต่จุดใช่ครับหรือถ้าไปส่วนของปอดส่วนของ
00:34:15 → 00:34:19 หัวใจนะครับแล้วก็มีความรุนแรงทำให้เกิด
00:34:19 → 00:34:23 ความล้มเหลวนะครับของปอดและหัวใจนะครับก็
00:34:23 → 00:34:26 จะทำมอายุสั้นตรงนี้ไม่บอกไม่ได้ชัดเจนนะ
00:34:26 → 00:34:29 ครับว่าว่ามันจะอายุุเท่าไหร่แค่ไหนนะ
00:34:29 → 00:34:32 ครับเพียงแต่ว่าอยู่ที่ว่ามันไปกระทบส่วน
00:34:32 → 00:34:35 ไหนที่สำคัญนะครับถ้าส่วนไหนที่สำคัญที่
00:34:35 → 00:34:38 อย่างที่เราพูดอ่ะนะครับหัวใจปอดอายุอาจ
00:34:38 → 00:34:41 จะสั้นสั้นลงได้มากนะครับแต่ถ้าเป็นส่วน
00:34:41 → 00:34:45 อื่นคือก็คือมีการกระจายไปตามหลายๆอวัยวะ
00:34:46 → 00:34:49 ก็อาจจะไม่ได้สั้นมากมายนะครับแต่ว่าก็
00:34:49 → 00:34:52 สั้นกว่าคนอายุขทั่วไปนะครับประมานี้คุณ
00:34:52 → 00:34:55 ผู้ฟังก็ยังถามมาเพิ่มเติมอีกสักหน่อย
00:34:55 → 00:34:59 เชิญครับก็ถามมาว่าแล้วรูมาตอยเนี่ยเอ่อ
00:34:59 → 00:35:02 มีวิธีป้องกันไม่ให้เป็นได้มคุณหมอหรือ
00:35:02 → 00:35:05 ว่าถ้าเป็นแล้วเนี่ยรักษาหายได้มั้ยคุณ
00:35:06 → 00:35:09 หมอย้ำตรงนี้อีกครั้งก็ครับมีวิธีป้องกัน
00:35:09 → 00:35:12 มั้ยใช่มั้ยครับหปัจจุบันอย่างที่ที่ผม
00:35:12 → 00:35:15 เรียนคุณโอ๊คอ่ะนะครับสมุฏฐานเนี่ยยังไม่
00:35:15 → 00:35:17 รู้เลยอ๋อไม่รู้ว่ามันต้นเหตจากว่ามันมา
00:35:17 → 00:35:22 จากอะไรแต่คาดว่านะครับก็คือเราได้อ่า
00:35:22 → 00:35:25 กระทบหรือสัมผัสสิ่งแปลกปลอมทั้งนั้นเลย
00:35:25 → 00:35:29 นะครับไวรัสหรืออาจจะเราพบว่าอาจจะครั้ง
00:35:29 → 00:35:32 หนึ่งเคยมีการติดเชื้อไวรัสอะไรมากมายนะ
00:35:32 → 00:35:35 ครับอะไรแล้วก็แบคทีเรียก็ตามแล้วมัน
00:35:35 → 00:35:39 สร้างภูมิต้านทานที่กลับมาทำทำทำร้ายตัว
00:35:39 → 00:35:42 เราอ่ะนะครับเพราะฉะนั้นวิธีเลี่ยงท่าก็
00:35:42 → 00:35:44 ต้องย้อนกลับไปว่าเราจะทำได้มครับอันนี้
00:35:44 → 00:35:47 ยากมากเลยนะครับในการที่จะเลี่ยงสารแปลก
00:35:47 → 00:35:50 ปลอมนะครับอย่างที่พูดรวมทั้งสิ่งแวดล้อม
00:35:50 → 00:35:53 ด้วยนะครับถ้าอ่าภูมิต้านทานที่เราเรา
00:35:53 → 00:35:56 สร้างขึ้นเนี่ยต่อสิ่งนอกจากเชื้อโรคแล้ว
00:35:56 → 00:35:59 นะครับคือสิ่งแปลกปมเข้ามาแล้วแล้วมันผิด
00:35:59 → 00:36:02 เพี้ยนไปทำให้ระบบภูมิต้านทานเรารวนหรือ
00:36:02 → 00:36:05 แปรปรวนมันก็กลับมาทำร้ายอวัยวะต่างๆนะ
00:36:05 → 00:36:08 ครับเพราะฉะนั้นป้องกันได้ยากอะนะครับพูด
00:36:08 → 00:36:14 เลยอืก็ป้องกันได้ยากแต่รักษาอากผมคิดว่า
00:36:15 → 00:36:18 อย่างที่พูดพอเบาใจนะฮะคนส่วนใหญ่ไม่ได้
00:36:18 → 00:36:21 รุนแรงนะครับอือกลุ่มเรียกว่า 78 70%
00:36:21 → 00:36:25 น่ะครับที่ที่เป็นส่วนใหญ่ที่ว่าดูเหมือน
00:36:25 → 00:36:29 ขึ้นๆลงๆเ่อมีขึ้นมีลงแล้วก็ดำเนินโลกไป
00:36:30 → 00:36:32 กับอีกกลุ่มนึงที่อาจจะค่อนข้างดีมากก็
00:36:32 → 00:36:34 เหมือนสงบนะครับเหมือนกับคล้ายๆเก๊าอย่าง
00:36:34 → 00:36:37 เงี้ยก็สงบแต่ไม่หายนะครับไม่หายแต่สงบ
00:36:37 → 00:36:40 กับอย่างที่พูดส่วนน้อยคือกลุ่มที่รุนแรง
00:36:40 → 00:36:42 ที่สุดซึ่งตรงส่วนนั้นที่รุนแรงก็ขอให้
00:36:42 → 00:36:45 กำลังใจนะคือปัจจุบันการรักษาทางยาอะไร
00:36:45 → 00:36:48 ต่างๆเนี่ยการตรวจตั้งแต่เบื้องต้นและการ
00:36:48 → 00:36:52 ติดตามพบกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
00:36:52 → 00:36:55 เนี่ยนะครับก็จะช่วยรักษาได้อย่างสงสัย
00:36:55 → 00:36:58 คุณหมออย่างพอเราูมาตอยเนี่ยพอเราไปรักษา
00:36:58 → 00:37:00 แล้วเนี่ยไอ้อาการที่เป็นอย่างเช่นตอน
00:37:00 → 00:37:02 เช้าที่บอกอย่างเงี้ยคุณหมอว่ามันติดขัด
00:37:02 → 00:37:05 อะไรอย่างเงี้ยขยับไม่ได้เงี้ยมันมันมัน
00:37:05 → 00:37:06 ดีขึ้นเลยมั้ยหรือว่ามันก็ยังเป็นอยู่ดี
00:37:06 → 00:37:09 ขึ้นครับดีขึ้นดีขึ้นครับเมื่อรักษาแล้ว
00:37:09 → 00:37:12 นะครับตรงนี้จะบรรเทาบรเทาครับใช่ครับใช่
00:37:12 → 00:37:16 ครับอค่ะครับก็อาจจะขยับเนื้อขยับตัวได้
00:37:16 → 00:37:21 ก่อนายเช้าๆมาก็จะเร็วขึ้นนะคะปวดหายไปเอ
00:37:21 → 00:37:23 ค่ะเมื่อรับยาเมื่อรับยาที่ถูกต้องนะครับ
00:37:23 → 00:37:27 แล้วก็ร่วมกับกระบวนการบำบัดนะฮะครับอาจ
00:37:27 → 00:37:30 จะจะมีปัจจุบันเนี่ยคือการทางรูมาตอย
00:37:30 → 00:37:33 เนี่ยอาศัยเค้าเรียกสหสาขานะครับอ๋อหลักๆ
00:37:33 → 00:37:36 คือของผมเองก็เป็นส่วนหนึ่งในส่วนท้าย
00:37:36 → 00:37:40 ด้วยซ้ำนะฮะเป็นศัลแพทย์ที่รักษาคนไข้ที่
00:37:40 → 00:37:44 รักษารูมาตอยที่มาด้วยเข่าผิดรูปข้อสะโพก
00:37:44 → 00:37:47 คือหมายถึงว่าข้อสะโพกเสื่อมจากรูมาตอย
00:37:47 → 00:37:51 เผ่าเสื่อมจากรูมาตอยหรือนิ้วเกผิดรูปใช้
00:37:51 → 00:37:53 งานไม่ได้อันนี้เป็นเรื่องของการผ่าดตัด
00:37:53 → 00:37:55 แต่จริงๆก่อนที่จะถึงขั้นนั้นเนี่ยจะเรา
00:37:55 → 00:37:58 จะมีอายุละอายุลแพทย์โลคคนะครับที่ดูแล
00:37:58 → 00:38:01 ซึ่งเก่งมากเชี่ยวชาญในการที่จะให้ยา
00:38:01 → 00:38:04 เพื่อที่จะจัดยาให้เหมาะสมให้เหมาะเหมาะ
00:38:04 → 00:38:08 สมสอดคล้องกับระยะของโลกร่วมกับสหสาขา
00:38:08 → 00:38:11 เนี่นะะครับนักกายภาพอาชีวบำบัดโภชนะ
00:38:11 → 00:38:14 บำบัดเนี่ยแหละครับใช้ร่วมกันนะครับคุณ
00:38:14 → 00:38:18 โอ๊คถึงจะได้ผลครับอือืค่ะเมื่อกี้คุณหมอ
00:38:18 → 00:38:21 บอกว่ากรณีรูมาตอยเนี่ยอ่ามันเกี่ยว
00:38:21 → 00:38:24 เนื่องกับการแพ้ภูมิตัวเองเอ่อสำหรับแพ้
00:38:24 → 00:38:28 ภูมิตัวเองกรณี sle อ่ะค่ะมันจะพัฒนาไป
00:38:28 → 00:38:31 แบบให้เป็นหลายๆเอ่ออ่าเป็นอีกอีกกลุ่ม
00:38:31 → 00:38:34 นั้นใช่มั้ยฮะอีกอันนึงอันนั้นใช่มั้ย
00:38:34 → 00:38:36 ครับอันนี้จะเป็นอีกอีกอีกกรณีหนึ่ง sle
00:38:36 → 00:38:39 อ่ะนะครับอันนั้นจะเป็นเรื่องของเซลล์ที่
00:38:39 → 00:38:42 ผิดปกติอีกแบบนึงเป็นเรื่องภูมิด้านทาน
00:38:42 → 00:38:44 อีกแบบนึงนะครับไม่ได้เข้ามาในกลุ่มนี้
00:38:45 → 00:38:47 ครับเพราะว่ารูปแบบของทาง sle ก็แบบนึง
00:38:47 → 00:38:51 รูมาตอยก็เป็นอีกแบบนึงครับอืเออแลเอ่อ
00:38:51 → 00:38:55 การรักษาอย่างเช่นกรณีที่เป็นเอ่อนิ้วที่
00:38:55 → 00:39:00 มันผิดรูปไปแล้วหรือว่าสที่ผเนี่ยมันสาพอ
00:39:00 → 00:39:03 รักการรักษาเนี่ยมันคือกลับฟื้คืนรูปเลยห
00:39:03 → 00:39:06 เป่าหรือว่าแค่มาใช่มครับครับๆอ่าหรือว่า
00:39:06 → 00:39:08 แค่ได้ถึงระดับไหนครับคุณหมอ
00:39:08 → 00:39:13 อ่าคือเนื่องจากว่าพวกเนี้ยคุณโอ๊มันการ
00:39:13 → 00:39:17 อ่าความรุนแรงเนี่ยมันกินข้อมากนะครับอ
00:39:17 → 00:39:21 เราใช้คำว่าหลายๆข้อนะครับอ่าผมลืมย้ำอีก
00:39:21 → 00:39:25 ทีนะฮะเก๊าทเนี่ยมาทีมาทีละข้อนะครับครับ
00:39:25 → 00:39:28 ส่วนรูมาตอยเนี่ยมาทีละหลายๆข้อครับอัน
00:39:28 → 00:39:30 นี้คือรูปแบบที่ชัดเจนของมันนะครับเพราะ
00:39:30 → 00:39:33 ฉะนั้นเนี่ยนิ้วมือเนี่ยเวลาเป็นถ้าคุณโอ
00:39:33 → 00:39:37 เเห็นเมันแทบจะเกือบทุกนิ้วแล้วก็ทุกข้อ
00:39:37 → 00:39:40 ฉะนั้นการรักษาเนี่ยบางครั้งก็ต้องดูความ
00:39:40 → 00:39:42 เหมาะสมอะนะครับว่าเพราะส่วนใหญ่ก็จะ
00:39:42 → 00:39:46 เริ่มอ่ามีอายุมากขึ้นใช่มครับครับใช่
00:39:46 → 00:39:48 ครับการที่จะแก้ไปคือถ้าเราจะหวังผลใน
00:39:48 → 00:39:50 เรื่องความสวยงามก็เรื่องนึงแต่ถ้าเรา
00:39:50 → 00:39:52 หวังผลในแง่การใช้งานนะครับคือ
00:39:53 → 00:39:55 วัตถุประสงค์การรักษาคือการใช้งานและความ
00:39:55 → 00:39:58 สวยงามใช่มครับออถ้าเรารักษาเพื่อความสวย
00:39:58 → 00:40:02 งานอันนี้ยากแล้วก็คงต้องสิ้นเปลืองมาก
00:40:02 → 00:40:04 แต่ถ้าหวังเพื่อการใช้งานเราก็มาดูเป็น
00:40:04 → 00:40:07 รายข้อไปครับคุณโอ๊ไม่ได้แก้ทุกจุดครับ
00:40:07 → 00:40:10 คือไม่ไม่ได้แก้ในแง่เพื่อให้กลับมาคงรูป
00:40:10 → 00:40:14 เป็นปกตินะครับอือก่อนที่จะเป็นแต่รักษา
00:40:14 → 00:40:18 เพื่อให้ใช้งานได้ดำเนินชีวิตได้เ่อ
00:40:18 → 00:40:21 ประกอบกิจวัตรประจำวันช่วยตัวเองได้อัน
00:40:21 → 00:40:25 นี้ทำได้นะครับอืครับอ๋ออย่างยกตัวอย่าง
00:40:25 → 00:40:28 กรณีเหมือนกับว่าถ้าเราต้องหยิบจับปากกา
00:40:28 → 00:40:31 เพื่อเขียนหนังสือก็อาจจะใช้แค่เอ่อรักษา
00:40:31 → 00:40:35 นิ้วเฉพาะที่หยิบจับปากกานงานถูกต้องครับ
00:40:35 → 00:40:38 ฮะอันนี้ทำได้เลยแล้วก็เหมาะสมด้วยเพราะ
00:40:38 → 00:40:41 เราถ้าเราไปแก้ทุกอันอันที่ 1 การการลง
00:40:42 → 00:40:45 ทุนหรือการรักษามันก็ยุ่งยากพอสมควรนะ
00:40:45 → 00:40:48 ครับเพราะตัวพญาธิสภาพเองก็ไม่เหมือนข้อ
00:40:48 → 00:40:51 ทั่วไปนะครับที่เราจะไปแก้ทุกอันนะครับ
00:40:51 → 00:40:53 เราแก้อันที่อย่างที่คุณขวัญพูดนะครับ
00:40:53 → 00:40:57 นิ้วที่ใช้งานเป็นหลักนะครับหรือกิจวัต
00:40:57 → 00:40:59 เพราะว่าบางครั้งอย่างที่พูดอ่ะนะคนไข้
00:40:59 → 00:41:02 กลุ่มนี้ก็อาจจะอ่าเค้าเรียกคุณภาพชีวิต
00:41:02 → 00:41:04 ก็อีกแบบนึงแล้วใช่มั้ยครับเค้าก็จะไม่
00:41:04 → 00:41:06 ได้ไปทำงานหนักๆใช่มั้ยฮะเพราะฉะนั้นก็คง
00:41:06 → 00:41:09 ไม่ต้องไปเอ่อทำอะไรที่แบบไปใช้งานหนัก
00:41:09 → 00:41:12 เพราะฉะนั้นก็เป็นงานที่อ้าวช่วยตัวเอง
00:41:12 → 00:41:15 ได้ทานข้าวได้หยิบของได้ช่วยอะไรดำเนิน
00:41:15 → 00:41:18 ชีวิตภายในบ้านหรือทำงานเล็กๆในสำนักงาน
00:41:18 → 00:41:21 ออฟฟิศอะไรก็ได้ประมาณเยครับอือืค่ะคุณ
00:41:21 → 00:41:26 หมอคะสำหรับกรณีรูมาตอยเนี่ยดูเหมือนจะดู
00:41:26 → 00:41:29 ถ้าเป็นแล้วเนี่ยดีที่สุดคืออาการสงบแสดง
00:41:29 → 00:41:33 ว่าการรับประทานยาหรือว่าการดูแลตัวเองก็
00:41:33 → 00:41:36 ต้องใช้เวลานานครับการกินยาสำหรับการ
00:41:36 → 00:41:39 รักษารูมาตอยที่นานๆน่ะค่ะจะมีผลข้าง
00:41:39 → 00:41:42 เคียงอะไรบ้างหรือเปล่าสำหรับผู้ป่วยอื
00:41:42 → 00:41:47 อ่าคำถามนี้ดีฮะเนื่องจากยาอันนี้ผมพูด
00:41:47 → 00:41:50 ถึงนะครับเอาว่าในกลุ่มที่รุนแรงก็จะต้อง
00:41:50 → 00:41:52 ใช้ยาเหมือนกับเค้าเรียกเมื่อกี้เราพูด
00:41:52 → 00:41:56 ถึงสหสาขานะอันนี้เหมือนกับสหยาเลยฮะก็
00:41:56 → 00:41:57 คือสหเภสัช
00:41:57 → 00:42:01 คือยาเอาว่าถ้าถ้าต้องการให้ได้ค่อนข้าง
00:42:01 → 00:42:04 เ้าเรียกว่าสงบนะครับภาษาแพทย์เราคือทำ
00:42:04 → 00:42:07 ให้มันสงบนะครับก็จะต้องใช้ยาหลายตัวซึ่ง
00:42:07 → 00:42:11 ยาหลายตัวนี้ก็จะมีภาวะแทรกแทรกซ้อนเอ่อ
00:42:11 → 00:42:13 ผลข้างเคียงของยาแต่สุดท้ายนะครับอยู่ที่
00:42:13 → 00:42:16 อายุรแพทย์โรคข้อนะครับที่ที่เชี่ยวชาญ
00:42:16 → 00:42:19 และมีความสามารถที่จะปรับยาให้จนได้ล่ะ
00:42:19 → 00:42:23 ครับนะครับอืก็จะทำได้เพียงแต่ว่ายอมรับ
00:42:23 → 00:42:26 ว่ายาหลายตัวที่แรงอเราใช้คำว่าแรงอ่ะนะ
00:42:26 → 00:42:30 ฮะเ่าภาวะแทรกซ้อนก็มีมีผลข้างเคียงยอม
00:42:30 → 00:42:32 รับว่าเอาเอาเรื่องนะครับแต่ตรงนี้
00:42:32 → 00:42:36 อายุรแพทย์โลกข้อก็จะมาช่วยดูแลคิดว่าน่า
00:42:36 → 00:42:39 จะส่วนใหญ่ก็จะสามารถประคับประคองไปได้
00:42:39 → 00:42:43 ครับอืครับผมมีคุณผู้ฟังสอบถามมานิดนึงนะ
00:42:43 → 00:42:46 ครับกินยารูมาตอยมา 5 ปีแล้วอายุปัจจุบัน
00:42:46 → 00:42:49 64 มีผลข้างเคียงจะมีผลข้างเคียงอย่างไร
00:42:49 → 00:42:52 บ้างหรรือเปล่าคุณหมออ่า 64 ใช่มั้ยฮ 64
00:42:52 → 00:42:56 กินยามา 5 ปีครับเอ่อต้องไม่ทราบมีข้อมูล
00:42:56 → 00:43:00 ว่าเป็นยอะไรบ้างอ่ะครับนะคุณโอพพได้มั้ย
00:43:00 → 00:43:04 คุณผู้ฟังไม่ได้ไม่ได้แจ้งใช่มครับแ 64 5
00:43:04 → 00:43:08 ปีก็ผมก็สันนิษฐานว่าคงยาถ้าไม่รุนแลนะ
00:43:08 → 00:43:12 ครับก็คงส่วนใหญ่อายุรแพทย์โรคคอที่ดูแล
00:43:12 → 00:43:16 อยู่เขาก็จะพยายามให้ยาที่เอว่านะครับเ่า
00:43:16 → 00:43:21 มีสิทธิผลสูงประสิทธิผลสูงนะครับอแต่ผล
00:43:21 → 00:43:24 ข้างเคียงต่ำนะครับเพราะฉะนั้นยังไงมี
00:43:24 → 00:43:26 อยู่แต่คิดว่าไม่น่าวิตกอ่ะครับถ้าถ้า
00:43:26 → 00:43:29 อยู่ในมือของอายุรแพทย์โลกพ้อนอ่าก็ไม่
00:43:29 → 00:43:30 อาจจะไม่ต้องกลัวว่าผลข้างเคียงจะเป็น
00:43:30 → 00:43:32 อย่างไรเท่าใชครับต้องติดตามอยู่นะครับ
00:43:32 → 00:43:34 คุณโอยกเว้นถ้ามีผลข้างเคียงจริงๆคุณหมอ
00:43:34 → 00:43:38 ที่ดูดูหรือให้ยาอยู่ก็จะปรับยาทันทันทีะ
00:43:38 → 00:43:42 ครับครับ่าประมาณนี้นะครับ่าๆเออนะค่ะ
00:43:42 → 00:43:44 เมื่อกี้คุณหมอบอกว่ากรณีคนที่ป่วยเป็น
00:43:44 → 00:43:46 รูมาตอยด์มาแล้วเนี่ยไลฟ์สไตล์การใช้
00:43:46 → 00:43:49 ชีวิตเนี่ยก็ค่อนข้างเปลี่ยนไปทำอะไรที่
00:43:49 → 00:43:53 เบาๆขึ้นแต่เคเนี่ยยังสามารถออกกำลังกาย
00:43:53 → 00:43:57 หรือว่าเอ่อใช้ใช้มืออย่างยกเวทหรืออะไร
00:43:57 → 00:43:59 อย่างเงี้ยได้ได้มั้ยหรือว่าควรจะออก
00:43:59 → 00:44:02 กำลังกายแบบไหนที่เหมาะกับคนไข้กลุ่มนี้
00:44:02 → 00:44:07 คะครับคือคือคุณโอ๊กับคุณขวัญเคยได้ยิน
00:44:07 → 00:44:09 โรคข้อเสื่อมใช่่มั้ยฮะอข้อเสื่อมเนี่ย
00:44:09 → 00:44:12 คือบั้นท้ายไม่ใช่บั้นท้ายบั้นปลายของโลค
00:44:12 → 00:44:15 ข้อทุกหมดทั้งหมดเลยฮะคือคือคำว่าเสื่อม
00:44:15 → 00:44:18 เนี่ยอ่าพอดีจริงๆมันจะเป็นหัวข้อที่ใหญ่
00:44:18 → 00:44:20 แล้วคนส่วนใหญ่เป็นกันมากเราได้เคยได้ยิน
00:44:20 → 00:44:22 ใช่มั้ยคุณตาคุณยายเราเป็นโรคเข่าเสื่อม
00:44:22 → 00:44:25 อ่ะๆสมมติโรคเข่าเสื่อมเนี่ยตัวโรคเข่า
00:44:25 → 00:44:28 เสื่อมเองจริงๆอันที่ 1 คือเป็นเป็นแบบ
00:44:28 → 00:44:31 ที่เา้าเรียกว่าเบื้องอ่าเป็นตัวของมัน
00:44:31 → 00:44:35 เองไม่มีเหตุอะไรที่มาชัดเจนนะครับอกลุ่ม
00:44:35 → 00:44:38 นี้ก็คืออ้าสูงอายุการสึกหลอมีความผิด
00:44:38 → 00:44:42 ปกติไอ้ตัวปลาดูกออะไรต่างๆกับกลุ่มที่ 2
00:44:42 → 00:44:46 ก็คือมีสมุทฐานมาเช่นเก๊าทอ่าคือหมายถึง
00:44:46 → 00:44:48 ว่าเก๊าทพอสึกหลอมากๆก็ข้อเสื่อมใช่่มั้ย
00:44:48 → 00:44:53 ครับอีกอันนึงรูมาตอยถึงระยะหนึมันก็เอา
00:44:53 → 00:44:55 ไปอยู่ในตะกร้าเดียวกันน่ะฮะก็คือข้อ
00:44:55 → 00:44:58 เสื่อมเหมือนกันคือคำว่าว่าข้อเสื่อมจาก
00:44:58 → 00:45:00 รูมาตอยกับอีกพวกนึงคือที่เรารักษาอยู่
00:45:00 → 00:45:03 เข่าเสื่อมอะไรต่างๆเป็นข้อเสื่อมของมัน
00:45:03 → 00:45:06 ตัวมันเองไม่มีสาเหตุชัดเจนว่ามาจากอะไร
00:45:06 → 00:45:09 คือตัวมันเองนะครับมีความเสื่อมของมันอื
00:45:09 → 00:45:12 พอๆเข้าใจนะฮะเพราะฉะนั้นรูตพอสุดท้ายมัน
00:45:12 → 00:45:15 ก็จะนำไปสู่ภาวะข้อเสื่อมเหมือนกันแต่
00:45:15 → 00:45:19 เป็นข้อเสื่อมที่ทราบสาเหตุจากูมาตเข้าใจ
00:45:19 → 00:45:23 ะพอๆเข้าใจนะฮะเข้าใจเข้าใครับออออแต่ว่า
00:45:23 → 00:45:25 ไลฟ์สไตล์การออกกำลังกายเ้าทำได้มากน้อย
00:45:25 → 00:45:29 แค่ไหนือไงจะต้องพอพอถึงจุดนึงเนี่ยก็คือ
00:45:29 → 00:45:32 จะต้องระมัดระวังสมมุติเราคุมคุมภาวะของ
00:45:32 → 00:45:35 โรคได้แล้วใช่มั้ยครับไอ้เยื่อมข้อที่มัน
00:45:35 → 00:45:38 อักเสบอยู่ถูกถูกกำจัดถูกอะไรลงการสึกหลอ
00:45:38 → 00:45:41 ยังไม่มากก็คืออย่าไปทำกิจกรรมที่ทำให้
00:45:41 → 00:45:45 เกิดการสึกหลอของกระดูกอ่อนนะครับครับคือ
00:45:45 → 00:45:48 คือตัวโลกอาจจะสงบแต่ถ้าเกิดเรายังใช้กิจ
00:45:48 → 00:45:51 อ่ามีการลงน้ำหนักหรือมีการเคลื่อนไหวที่
00:45:51 → 00:45:54 รุนแรงเนี่ยผิวกระดูกอ่อนก็จะสึกรอเป็น
00:45:54 → 00:45:58 ลักษณะของความเสื่อมครับครับอันแรกก็ได้
00:45:58 → 00:46:00 ที่เมื่อกี้ผมพูดว่าเป็นข้อเสื่อมที่
00:46:00 → 00:46:03 คล้ายๆเหมือนกับว่าไม่ทราบสาเหตุนั่นนะ
00:46:03 → 00:46:06 ครับแต่จริงๆมันก็คือบวกพ่วงกันไปนะฮะ
00:46:06 → 00:46:10 พ่วงกันไปอืออก็คือกิจกรรมอะไรที่รุนแรง
00:46:10 → 00:46:14 ก็ต้องเลี่ยงนะครับการวิ่งกระแทกนะครับทำ
00:46:14 → 00:46:17 ให้ผิวคอสึกหลอเร็วก็จะมีผลนะครับเพราะ
00:46:17 → 00:46:20 ตัวโลกเเมีจุดอ่อนอยู่แล้วใช่มั้ยครับก็
00:46:20 → 00:46:24 คือความเสื่อมการไอ้ๆเ่อไอ้ผิวไอ้เยื่อบุ
00:46:24 → 00:46:27 ข้อที่มันตัวโลกเขาเองเป็นนะครับประมาณ
00:46:27 → 00:46:31 เนี้ยครับครับผมแสดงว่าคนที่เป็นรูมาตอย
00:46:31 → 00:46:34 เป็นเก๊าทเนี่ยอาหารเสริมที่เขาโฆษณากัน
00:46:34 → 00:46:39 ว่าเออเพิ่มน้ำในไขข้อทำให้ไม่ปวดข้ออือ
00:46:39 → 00:46:42 ฮึคนที่เป็นโรคนี้ก็กินก็ไม่มีผลอะไรถูก
00:46:42 → 00:46:46 ต้องมยคะคุณครับก็คือตัวถ้ากรณี
00:46:46 → 00:46:51 อ่าถ้ากรณีของผิวข้อนะครับหรือบริเวณความ
00:46:51 → 00:46:54 อ่อนแอของมันเนี่ยถูกลดลงลดทอนไปจากตัว
00:46:54 → 00:46:57 โลกเนี่ยก็อาจจะมีผลเรื่องของอาหารเสริม
00:46:57 → 00:47:01 อาจจะไม่ช่วยเท่าไหร่นะครับอืครับอือ่า
00:47:01 → 00:47:04 โอเคก็ถือว่าวันนี้เองเนี่ยคุณผู้ฟังก็
00:47:05 → 00:47:07 ได้ความรู้ในเรื่องของเก๊าทแล้วก็รูมาตอย
00:47:07 → 00:47:10 ให้คุณหมอเอ่อสั้นๆอีกสักนิดนึงครับเอ่อ
00:47:10 → 00:47:13 อาการแบบไหนของทั้งเก๊าทแล้วก็รูมาตอยที่
00:47:13 → 00:47:17 รีบมาเถอะมารักษากันซะครับเอาเอาเก๊าก่อน
00:47:17 → 00:47:21 เลยนะครับก็คือส่วนใหญ่เนี่ยค่อนข้าง
00:47:21 → 00:47:24 อาการที่คนไข้ตื่นตัวมากก็คือปวดบวมแดง
00:47:24 → 00:47:27 ร้อนนะครับชัดเจนเลยออันเนี้ยส่วนใหญ่มา
00:47:27 → 00:47:31 เร็วเลยนะครับวัน 2 วันเฉียบพันนะครับแต่
00:47:31 → 00:47:34 เมื่อหลังจากนั้นเนี่ยพอคนไข้รู้ตัวว่า
00:47:34 → 00:47:36 เองว่าเป็นเค้าเนี่ยบางทีเขาจะดูแลตัวเอง
00:47:36 → 00:47:39 ได้นะครับเขาจะมีเขาจะมียาของเาเลยครับ
00:47:39 → 00:47:42 คุณโอ๊คที่ที่หมอจะจัดให้เก็บเอาไว้นะ
00:47:42 → 00:47:45 ครับอันนี้พูดถึงกรณีหมายถึงว่าเคยมี
00:47:45 → 00:47:48 เฉียบพันธมาผ่านมาครั้งนึงแล้วนะครับเรา
00:47:48 → 00:47:51 พูดถึงว่าอันนั้นเขาจะจัดการตัวแอตัวเอง
00:47:51 → 00:47:53 ได้เลยนะครับเราพูดถึงว่าถ้าคนที่ไม่เคย
00:47:53 → 00:47:55 เป็นนี่สิครับก็คือค่อนข้างง่ายนะครับก็
00:47:55 → 00:47:59 คือปวดบมแดงเอาว่าที่เป็นของเท้านิ้วโป้ง
00:47:59 → 00:48:02 เท้าตตุ่มเท้านะครับอืออันเนี้ยค่อนข้าง
00:48:02 → 00:48:06 ชัดเจนนะครับส่วนรูมาตอยเนี่ยจะมีอาการ
00:48:06 → 00:48:08 ที่ชัดเจนนะครับอันนี้พูดถึงกลุ่มที่ว่า
00:48:08 → 00:48:10 เพิ่งเป็นใหม่ๆเลยนะครับยังไม่รู้ตัว
00:48:10 → 00:48:14 เนี่ยก็คืออาการตื่นนอนตอนเช้านะครับตื่น
00:48:14 → 00:48:17 ขึ้นมาเนี่ยใช้เวลาในการที่จะขยับเคลื่อน
00:48:17 → 00:48:19 ไหวเนี่ยมากกว่าครึ่งชั่วโมงนะครับเนื่อง
00:48:19 → 00:48:22 จากมีความเจ็บปวดไงครับออ่าความเจ็บปวด
00:48:22 → 00:48:25 จากการที่มันติดติดยึดทำให้ไม่สามารถ
00:48:25 → 00:48:29 เคลื่อนไหวได้ดังใจอืเกินกว่าครึ่ง
00:48:29 → 00:48:32 ชั่วโมงหรือบางคนเนี่ยเป็นชั่วโมง 1
00:48:32 → 00:48:35 ชั่วโมงแล้วก็ยังไม่ได้กับอีกอันนึงมักจะ
00:48:35 → 00:48:38 เป็นที่ข้อเล็กๆของนิ้วมือนะครับนิ้วมือ
00:48:38 → 00:48:40 มากกว่านิ้วเท้านะครับของนิ้วเท้าก็จะ
00:48:40 → 00:48:44 เป็นข้อเล็กๆแต่ว่านิ้วมือจะเด่นกว่าแล้ว
00:48:44 → 00:48:47 ก็จะเป็นทีละหลายข้อนะครับไม่ใช่ข้อเดียว
00:48:47 → 00:48:49 นะครับอย่างที่พูดรูมาตอยเป็นโรคของหลาย
00:48:49 → 00:48:53 ข้อเก๊เป็นโรคของข้อเดียวอันนี้พูดถึง
00:48:53 → 00:48:55 ทั่วไปนะครับไม่ใช่กลุ่มที่ที่ผิดเพี้ยน
00:48:56 → 00:49:00 ไปเพราะฉะนั้นเป็นหลายข้อแล้วก็อ่าลักษณะ
00:49:00 → 00:49:02 สมมาตรกันคือเป็นข้างนึงแล้วก็เป็นอีก
00:49:02 → 00:49:05 ข้างนึงแล้วก็มีลักษณะบวมๆแดงๆนิดนึงไม่
00:49:05 → 00:49:08 ชัดเจนมากอุ่นๆนะครับอันนี้คือถ้ามีอาการ
00:49:09 → 00:49:11 อย่างนี้ก็มาเลยกับอีกอันนึงถ้าอันนี้
00:49:11 → 00:49:13 กลุ่มที่เพี้ยนไปก็คืออาจจะมาเรื่องไข้
00:49:13 → 00:49:17 อ่าอ่อนเพลียนะครับแล้วก็รวมกับข้อเล็กๆ
00:49:17 → 00:49:19 น้อยๆอะไรอย่างที่ว่าอันนี้ก็เป็นอันนึง
00:49:19 → 00:49:22 ที่รีบมาได้เลยครับประมาณนี้ครับครับ
00:49:22 → 00:49:24 ขอบคุณคุณหมอมากเลยนะครับที่มาให้ความรู้
00:49:24 → 00:49:25 วันนี้เกี่ยวกับเรื่องทั้งเก๊าทแล้วก็
00:49:25 → 00:49:28 รูมาตอยนะครับคุณผู้ฟังฝากขอบคุณด้วยนะ
00:49:28 → 00:49:30 ครับวันนี้ขอบคุณมากเลยครับคุณหมอครับ
00:49:30 → 00:49:33 ครับยินดีครับขอบคุณมากนะครับครับสวัสดี
00:49:33 → 00:49:36 ครับคุณหมอครับครับสวัสดีค่ะครับเอ่อนาย
00:49:36 → 00:49:38 แพทย์ธิติวัฒน์สุรพันธ์นะครับแพทย์เฉพาะ
00:49:39 → 00:49:43 ทางสาขาศัลยศาสตร์ออร์โท pedic อนุสาขา
00:49:43 → 00:49:47 จุลสารออนุสาขาจุลสารกรรมและศัลยกรรมทาง
00:49:47 → 00:49:51 มือโรงพยาบาลไทยนครินทร์นะครับ