00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับวันนี้เนี่ยผมขอท้าวัยรุ่นทุก
00:00:03 → 00:00:06 คนว่าคุณกล้าพอที่จะฟังผมให้จบคลิปนี้
00:00:06 → 00:00:09 หรือเปล่าเหตุผลที่ผมท้าคุณก็เพราะว่าวัน
00:00:09 → 00:00:11 นี้เนี่ยเรื่องที่ผมจะพูดเนี่ยเกี่ยวข้อง
00:00:11 → 00:00:13 กับคุณโดยตรงเพราะว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยว
00:00:13 → 00:00:17 ข้องกับยาเสพติดชนิดต่างๆที่พวกคุณใช้กัน
00:00:17 → 00:00:19 อยู่นี่แหละแล้วก็บอกว่ามันไม่อันตราย
00:00:19 → 00:00:22 เช่นยาโปรยา
00:00:22 → 00:00:28 โรเชยา tramadol และอื่นๆอีกมากมายหลายคน
00:00:28 → 00:00:31 นะครับใช้ยาในกลุ่มเนี้ยเพราะว่าเพื่อน
00:00:31 → 00:00:34 บอกเพื่อนให้ลองอยากจะเข้ากลุ่มอยากจะ
00:00:34 → 00:00:37 เป็นที่ยอมรับอยากจะรู้สึกเท่อยากจะรู้
00:00:37 → 00:00:40 สึกมึนเมาอยากจะมีความสุขแต่ไม่รู้หรอก
00:00:40 → 00:00:44 ครับว่าพวกเนี้ยมันคือนรกชัดๆมีปัญหาทั้ง
00:00:44 → 00:00:47 ระยะสั้นและระยะยาวที่สำคัญครับบางครั้ง
00:00:48 → 00:00:50 เนี่ยไม่มีทางที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดจาก
00:00:50 → 00:00:53 ยาพวกนี้ได้คุณใช้ไปแล้วเกิดเรื่องขึ้นมา
00:00:53 → 00:00:56 มันก็รักษาไม่หายตลอด
00:00:56 → 00:01:00 ชีวิตถ้าเปิดใจฟังแล้วกล้าพอที่จะฟังก็
00:01:00 → 00:01:02 ฟังต่อให้จบนะครับพบกับผมนะครับนายแพทย์
00:01:02 → 00:01:04 ธานีธนียวันเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่
00:01:04 → 00:01:06 ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการ
00:01:06 → 00:01:10 ปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับเรื่องนี้
00:01:10 → 00:01:13 เนี่ยผมคิดว่าสำหรับผู้ใหญ่ก็เป็นสิ่งที่
00:01:13 → 00:01:16 สำคัญเพราะว่าเราต้องคอยดูแลให้ลูกหลาน
00:01:16 → 00:01:20 ของเราที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นเค้าเนี่ยไม่
00:01:20 → 00:01:23 ไปติดในยาพวกนี้นะครับแน่นอนทุกคนรู้จัก
00:01:24 → 00:01:27 กัญชาทุกคนรู้จักกระท่อม 2 ตัวนี้เนี่ยก็
00:01:27 → 00:01:30 ใช้กันอย่างแพร่หลายตั้งแต่กัญชามันมี
00:01:30 → 00:01:33 ความเสรีขึ้นมาก็หาได้ง่ายแล้วคนใช้ไป
00:01:33 → 00:01:35 เรื่อยๆก็เกิดปัญหากับร่างกายโดยเฉพาะคน
00:01:35 → 00:01:39 ที่ใช้เกินขนาดถูกมั้ยครับกระท่อมหาได้
00:01:39 → 00:01:42 ตามหน้าโรงเรียนเลยนะครับก็มีคนเอาไปใช้
00:01:42 → 00:01:47 แล้วก็แน่นอนครับส่งผลเสียต่อสมองแต่ว่า
00:01:47 → 00:01:50 ยาวันนี้ที่ผมจะทำให้ทุกคนรู้จักกันก็คือ
00:01:50 → 00:01:53 ยาในกลุ่มที่เรียกว่ายาโปรครับยาโปรเนี่ย
00:01:53 → 00:01:55 ต้องบอกว่ามันไม่ได้พึ่งมาระบาดตอนนี้
00:01:55 → 00:01:57 หรอกครับมันมีมาตั้งแต่ 10 ปีที่แล้วแล้ว
00:01:57 → 00:01:59 นะครับแล้วมันก็ทำให้คนเสียชีวิตมาแล้ว
00:01:59 → 00:02:00 ด้วย
00:02:00 → 00:02:03 ยาโปรเนี่ยคืออะไรนะครับยาโปรเนี่ยมัน
00:02:03 → 00:02:07 เป็นชื่อของยี่ห้อมันย่อมาจากยาโปรโคดิล
00:02:07 → 00:02:09 นะครับโปรโคดิลเนี่ยเป็นชื่อยี่ห้อของยา
00:02:09 → 00:02:13 ตัวนึงชื่อว่ายาซีนนะครับยาโมซีเนี่ยจริง
00:02:13 → 00:02:16 ๆมันเป็นยาในกลุ่มแอนติฮิสตามีนเอาาไว้
00:02:16 → 00:02:20 แก้ไขภูมิแพ้แล้วก็สามารถลดอาการคลื่นไส้
00:02:20 → 00:02:25 อาเจนได้นะครับแต่ตัวมันเองเนี่ยที่วัย
00:02:25 → 00:02:27 รุ่นเอามาใช้ก็เพราะว่า
00:02:27 → 00:02:30 1 มันทำให้เรามึนเมาได้มีความรู้สึกล่อง
00:02:30 → 00:02:34 ลอยมีความสุขนะครับมึนเมาเหมือนกับเรา
00:02:34 → 00:02:36 ดื่มเหล้าเข้าไปนี่แหละแล้วที่สำคัญครับ
00:02:36 → 00:02:40 มันมาในรูปแบบของยาน้ำที่มีรสชาติออก
00:02:40 → 00:02:43 เปรี้ยวๆหวานๆอร่อยนะครับแล้วก็จะกินเข้า
00:02:43 → 00:02:47 ไปได้เรื่อยๆทีนี้เนี่ยยาตัวนี้มันก็มี
00:02:47 → 00:02:50 ปัญหาครับโอเคในทางการแพทย์เรารู้ว่ามัน
00:02:50 → 00:02:53 สามารถที่จะเอามาใช้ในการรักษาโรคภูมิแพ้
00:02:53 → 00:02:56 ได้เอามาใช้ในการรักษาอาการอาเจียนที่มัน
00:02:56 → 00:02:58 ใช้ยาตัวอื่นรักษาไม่ได้เราก็ใช้ตัวเนี้ย
00:02:58 → 00:03:03 มีนะนะครับแต่ว่าผลเสียของมันเยอะนะครับ
00:03:03 → 00:03:06 เยอะมากเลยแหละประการแรกนะครับมันกดระบบ
00:03:06 → 00:03:09 ประสาทเราได้ถ้าเรากินเข้าไปเยอะๆนะครับ
00:03:09 → 00:03:12 มันสามารถที่จะทำให้เราเกิดอาการเคลื่อน
00:03:12 → 00:03:14 ไหวที่ผิดปกติได้นะครับกล้ามเนื้อเนี่ย
00:03:14 → 00:03:17 เราจะแข็งเกร็งคล้ายๆกับเราเป็นพิสันนะ
00:03:17 → 00:03:20 ครับไม่ใช่เพียงแค่นั้นนะครับบางคนแข็ง
00:03:20 → 00:03:24 เกรงไม่พอมีอาการที่เคลื่อนไหวผิดปกติมัน
00:03:24 → 00:03:26 เหมือนเป็นซอมบี้มันเหมือนเป็นปีศาจ
00:03:26 → 00:03:30 เหมือนผีที่อยู่ในเกมอ่ะนะครับแล้วการ
00:03:30 → 00:03:32 เคลื่อนไหวบางคนเป็น
00:03:32 → 00:03:36 เงี้ยบิดตัวเราเรียกว่า tardive dis Kia
00:03:36 → 00:03:38 นะครับคือบางบางทีมันบิดทั้งตัวทั้งลิ้น
00:03:38 → 00:03:42 ลิ้นบุดบิดๆเงี้ยหรือบางคนเป็นลิ้นแข็งๆ
00:03:42 → 00:03:45 พูดแล้วก็ลิ้นเหมือนพูดไม่รู้เรื่องเงี้ย
00:03:45 → 00:03:49 นะครับแล้วไม่หายนะฮะภาวะนี้ไม่หายนะบาง
00:03:49 → 00:03:52 คนเนี่ยโชคดีหายได้แต่กว่าจะหายเนี่ยต้อง
00:03:52 → 00:03:57 หยุดยาไปอย่างน้อย 7 เดือนครับ 7 เดือน
00:03:57 → 00:04:00 บางคนก็ไม่หายเลยบางคนดีขึ้นแต่ก็มีอาการ
00:04:00 → 00:04:03 พวกเนี้ยหลงเหลือไปตลอดชาติทำยังไงก็ไม่
00:04:03 → 00:04:06 หายนะครับนี่คืออาการในกลุ่มที่เราเรียก
00:04:06 → 00:04:09 ว่า Extra pyramidal symptoms นะครับ
00:04:09 → 00:04:11 คืออาการที่กล้ามเนื้อมันแข็งเกร็งแบบ
00:04:11 → 00:04:14 นั้นแล้วบางคนเป็นตลอดชีวิตนะนี่หนึ่งใน
00:04:14 → 00:04:18 นั้นนะต่อมาเป็นอาการกลุ่มที่เราเรียกว่า
00:04:18 → 00:04:21 neuroleptic malign Syndrome มันเกิด
00:04:21 → 00:04:23 จากการที่กล้ามเนื้อพวกนี้มันแข็งเกร็งจน
00:04:23 → 00:04:26 กระทั่งมันมีภาวะที่มีอุหภูมิในร่างกาย
00:04:26 → 00:04:30 สูงกล้ามเนื้อแข็งเกรงแล้วก็นำไปสู่อวยว
00:04:30 → 00:04:33 ต่างๆมันตายกล้ามเนื้อสลายกล้ามเนื้อตาย
00:04:33 → 00:04:35 แล้วเนี่ยเสียชีวิตได้นะ
00:04:36 → 00:04:39 ครับมันยังสามารถมีอาการในกลุ่มที่เรา
00:04:40 → 00:04:42 เรียกว่า antic colic
00:04:42 → 00:04:45 anticholinergic อาการเป็นยังไงอาการก็
00:04:45 → 00:04:50 จะมีอาการตามัวครับปากแห้งคอแห้งท้องผูก
00:04:50 → 00:04:56 ปัสสาวะไม่ออกนะครับแล้วก็ผิวหนังเนี่ยจะ
00:04:56 → 00:05:00 ร้อนที่สำคัญครับคนไหนที่มีมีความเสี่ยง
00:05:00 → 00:05:02 ต่อการเกิดต้อหินแล้วได้ยาตัวนี้เข้าไป
00:05:02 → 00:05:06 แล้วล่ะก็มันอาจจะทำให้เกิดต้อหินฉับพลัน
00:05:06 → 00:05:09 ที่เป็นต้อหินชนิดมุมปิดหรือที่เราเรียก
00:05:09 → 00:05:13 ว่าเป็น close Angle gla นะครับหรือ
00:05:13 → 00:05:16 Angle closure gla พวกเนี้ยเป็นภาวะ
00:05:16 → 00:05:18 เร่งด่วนถ้าคุณไม่รักษาทันทีตาบอดเลยครับ
00:05:19 → 00:05:24 ตาบอดเลยนะฮะแค่นี้หรือเปล่าไม่มีอีกมี
00:05:24 → 00:05:28 อีกนะครับมันสามารถทำให้ความดันตกได้ครับ
00:05:28 → 00:05:31 บางคนจะยืนก็ยืนไม่ไหวเลยไม่ใช่เพราะว่า
00:05:31 → 00:05:34 เมาหรือมึนนะฮะเพราะว่าความดันมันตกยืน
00:05:34 → 00:05:37 ขึ้นมาปุ๊บความดันตกทันทีคุณล้มลงไปเลยทำ
00:05:37 → 00:05:40 ให้คนที่มันเสพแบบเนี้ยมากๆเนี่ยได้แต่
00:05:40 → 00:05:43 นอนครับนอนกับนั่งลุกขึ้นมาไม่ได้ลุกแล้ว
00:05:43 → 00:05:46 มันเวียนหัวมากหรือเมามากลุกยืนแล้วก็ล้ม
00:05:46 → 00:05:50 กระแทกไปเลยก็ได้นะครับอันเนี้ยเราจะเกิด
00:05:50 → 00:05:53 ภาวะที่เราเรียกว่า aosc hypotension
00:05:53 → 00:05:56 aut stasis ก็คือเวลาที่เราลุกยืนขึ้น
00:05:56 → 00:05:59 มาเนี่ยความดำมันจะตกนะครับก็เกิด
00:05:59 → 00:06:02 อุบัติเหตุได้นะครับอันนี้ก็เป็นสิ่งที่
00:06:02 → 00:06:05 น่าอันตรายอย่างหนึ่งเหตุผลที่มันเกิด
00:06:05 → 00:06:07 อย่างนี้ได้ในทางการแพทย์เพราะว่ามันไป
00:06:07 → 00:06:10 บล็อกเอ่อตัวรับตัวหนึเราเรียกว่า Alpha
00:06:10 → 00:06:13 1 receptor นะครับถ้าโดนบล็อกแล้วเนี่ย
00:06:13 → 00:06:16 ความดันเลือดมันจะตกได้นี่คือยาโปรโคดิล
00:06:16 → 00:06:18 หรือโปรเมทาซีน
00:06:18 → 00:06:22 แต่ไม่จบแค่นั้นครับวัยรุ่นเนี่ยเค้ามัก
00:06:22 → 00:06:25 จะเอามันไปประสมกับอย่างอื่นเพื่อความมึน
00:06:25 → 00:06:28 เมาที่มันมากกว่านั้นนะครับเช่นอะไรล่ะ
00:06:28 → 00:06:32 อย่าตัวนึงชื่อว่า tramadol นะครับมัน
00:06:32 → 00:06:35 เป็นเม็ดแคปซูลสีเขียวเหลืองสมัยก่อนก็
00:06:35 → 00:06:38 เลยเรียกว่ายาแท็กซี่เพราะว่ามันสีเขียว
00:06:38 → 00:06:40 เหลืองเหมือนรถแท็กซี่แล้วยา tramadol
00:06:40 → 00:06:44 เนี่ยมันเป็นคล้ายๆอนุพันธ์ของฝิ่นนะครับ
00:06:44 → 00:06:46 มันไม่ได้รุนแรงไม่ไม่มีฤทธิ์รุนแรงเท่า
00:06:46 → 00:06:50 กับมอร์ฟีนก็จริงแต่ว่ามันก็ยังมีอันตราย
00:06:50 → 00:06:54 ในตัวมันเองนะครับยาตัวนี้เนี่ยเวลากิน
00:06:54 → 00:06:57 เข้าไปนะครับมันจะมีอาการง่วงมึนเมามี
00:06:57 → 00:07:00 ความสุขถ้าผสมกับไอ้ยาปรโคดิลเมื่อตะกี้
00:07:00 → 00:07:03 เนี่ยก็จะริดแรงเป็นหลายเท่านะครับโดย
00:07:03 → 00:07:06 ทั่วไปยา tramadol เราเอามาใช้ในการรักษา
00:07:06 → 00:07:09 อาการปวดนะครับเช่นเราผ่าตัดมาเรากิน
00:07:09 → 00:07:12 รามาดอนะฮะแต่ส่วนใหญ่เราจะให้กินในคนที่
00:07:12 → 00:07:15 อายุเยอะเราจะห้ามให้ในคนอายุน้อยเด็ดขาด
00:07:15 → 00:07:17 เพราะจะมีปัญหานะครับเดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง
00:07:17 → 00:07:21 ว่าปัญหาอะไรบ้างนะยาตัวนี้เนี่ยสมัยแรกๆ
00:07:21 → 00:07:24 ที่มันออกมานะครับก็จะเป็นยาที่หลายคนคิด
00:07:24 → 00:07:28 ว่ามันไม่ติดแต่มันติดได้ครับมันติดได้
00:07:28 → 00:07:31 เลยแหละนะฮะฮะแล้วยาตัวนี้เนี่ยเป็นยาใน
00:07:31 → 00:07:35 กลุ่มที่อันตรายมากๆถามว่าอันตรายยังไง
00:07:35 → 00:07:39 ข้อแรกครับกินเยอะมันทำให้ชักได้ชักเนี่ย
00:07:39 → 00:07:41 ตายได้นะครับสมมุติว่าคุณข้ามถนนแล้วคุณ
00:07:41 → 00:07:46 ชักกลางถนนเกิดอะไรขึ้นล่ะครับนะรถชนถ้า
00:07:46 → 00:07:48 คุณไปตรงสะพานแล้วเมาอยู่ตรงนั้นชักแล้ว
00:07:48 → 00:07:51 เป็นไงครับตกสะพานใช่มั้ยฮะขับรถแล้วเมา
00:07:51 → 00:07:56 อยู่เป็นไงครับชนถูกมั้ยอันนี้คือ 1
00:07:56 → 00:08:00 อย่างนะชักนะครับอันต่อมามันทำให้หัวใจ
00:08:00 → 00:08:04 เต้นผิดปกติได้ครับเต้นผิดปกติก็คืออาจจะ
00:08:04 → 00:08:08 ใจสั่นหัวใจเต้นเร็วแต่บางคนเสียชีวิต
00:08:08 → 00:08:11 เพราะว่าปัญหานี้
00:08:11 → 00:08:14 ครับนอกเหนือจากนี้มันยังทำให้เกิดภาวะ
00:08:14 → 00:08:18 นึงขึ้นมาได้ก็คือ serotonin Syndrome
00:08:18 → 00:08:22 แล้วภาวะเนี้ยถึงตายถึงตายนะฮะอาการเป็น
00:08:22 → 00:08:24 ยังไงอาการ serotonin Syndrome เนี่ยจะ
00:08:24 → 00:08:28 มีไข้นะครับแล้วกล้ามเนื้อเนี่ยจะมีการ
00:08:28 → 00:08:32 กระตุกอย่างเงี้ยนะครับถ้าเราไปจับมือของ
00:08:32 → 00:08:35 คนพวกเนี้ยแล้วหักเข้าเงี้ยนะฮะจะเกิดแบบ
00:08:36 → 00:08:38 นี้ขึ้นมาเวลาที่เราปล่อยนะเรียกเรียกว่า
00:08:38 → 00:08:41 โนัสที่ขาก็จะมีนะครับแล้วถ้าเราไปเคาะ
00:08:41 → 00:08:43 reflex เหมือนปกติที่เราเคยเห็นหมอเค
00:08:43 → 00:08:46 เคาะตรงเข่าแล้วขามันเตะออกมาเนี่ยมัน
00:08:46 → 00:08:48 เคาะที่อื่นก็ได้นะครับเคาะแล้วจะมี
00:08:48 → 00:08:50 รีเฟลกที่มันเร็วเช่นปกติผมเคาะตรงเนี้ย
00:08:50 → 00:08:53 รีเฟลกก็อาจจะแบบอย่างเงี้ยนะฮะแต่คนพวก
00:08:53 → 00:08:57 เนี้ยมันเด้งเร็วมากเลยนะฮะคือรีกมันจะ
00:08:57 → 00:08:59 เร็วกว่าปกติแล้วภาวะนี้ถ้ารักษาไม่ทันนะ
00:08:59 → 00:09:03 ครับก็ลาโลกครับลาโลกเลยทำอะไรกับมันไม่
00:09:03 → 00:09:07 ได้ด้วยนะครับนี่คือเป็นสิ่งที่น่ากังวล
00:09:07 → 00:09:11 ไม่จบเพียงแค่นั้นมันสามารถทำให้เกิดภาวะ
00:09:11 → 00:09:15 โซเดียมต่ำรุนแรงในร่างกายได้เออแล้วแล้ว
00:09:15 → 00:09:19 โซเดียมต่ำมันไม่ดียังไงนะครับโซเดียมต่ำ
00:09:19 → 00:09:22 เนี่ยมันก็ทำให้เราชักได้เหมือนกันทำให้
00:09:22 → 00:09:25 เรามึนงงได้นะครับตัวยามันเองก็ทำให้เรา
00:09:25 → 00:09:27 สมองมีปัญหาอยู่แล้วถ้าโซเดียมต่ำเนี่ย
00:09:27 → 00:09:30 ยิ่งมีปัญหาเข้าไปใหญ่นะครับโซเดียมต่ำใน
00:09:30 → 00:09:32 ร่างกายจะเกิดภาวะหนึ่งเราเรียกว่าน้ำ
00:09:33 → 00:09:36 เป็นพิษหรือ Water toxicity เพราะว่า
00:09:36 → 00:09:39 เวลาโซเดียมในเลือดเรามันต่ำมากๆเนี่ยนะ
00:09:39 → 00:09:41 ครับมันก็จะต้องทำยังไงก็ได้ให้โซเดียม
00:09:41 → 00:09:45 กลับมาสูงเหมือนเดิมมันก็จะไปเอาอ่าเอา
00:09:45 → 00:09:49 น้ำจากในตัวตัวเลือดเนี่ยไปที่อื่นเพื่อ
00:09:49 → 00:09:51 ที่จะทำให้ความเข้มข้นของเลือดมันสูงขึ้น
00:09:51 → 00:09:53 ก็คือความเข้มข้นของโซเดียมจะได้สูงขึ้น
00:09:53 → 00:09:55 ตามไปด้วยนะครับแต่ทีนี้อวัยวะที่มันไว
00:09:55 → 00:09:59 มากๆต่อการเปลี่ยนแปลงน้ำก็คือสมองของเรา
00:09:59 → 00:10:02 นะครับตอนนั้นเนี่ยน้ำในเลือดมันจะเข้าไป
00:10:02 → 00:10:05 ในสมองหมดเลยเพราะว่าสมองตอนสมองเนี่ยจะ
00:10:06 → 00:10:08 มีความเข้มข้นของโซเดียมสูงกว่าในเลือดใน
00:10:08 → 00:10:12 ขณะนี้น้ำมันเลยไหลเข้าไปในสมองหมดเกิด
00:10:12 → 00:10:16 อะไรครับสมองบวมชักแล้วก็ถ้ารักษาไม่ทัน
00:10:16 → 00:10:19 เสียชีวิตครับโดยทั่วไปเนี่ยเวลาที่เรา
00:10:19 → 00:10:22 รักษาอากเจ็บปวดเราให้รามาดอพวกนี้นะครับ
00:10:22 → 00:10:26 เราก็มักจะให้กินแค่ 1 เม็ดนะครับ 2 2
00:10:26 → 00:10:28 เวลา 3 เวลาอย่างเงี้ยนะครับแค่นั้นเอง
00:10:28 → 00:10:31 แล้วแล้วอาการถ้าเกิดว่าคุณกินเข้าไปเม็ด
00:10:31 → 00:10:33 นึงเนี่ยบางคนไวมากๆก็มีอาการคลื่นไส้
00:10:34 → 00:10:37 อาเจียนมึนเมาง่วงนอนแต่คุณรู้มั้ยครับ
00:10:37 → 00:10:40 ว่าวัยรุ่นที่เขาคเอาไปกินเป็นยาเสพติด
00:10:40 → 00:10:43 แบบเป็นให้มันมึนมามาเคกินก็ไปกี่
00:10:43 → 00:10:48 เม็ด 20 เม็ด 30 เม็ด 40 เม็ดในคราวเดียว
00:10:48 → 00:10:51 กันเลยแหละเค้าก็จะเอาโปรโคดิลที่มันเป็น
00:10:51 → 00:10:54 น้ำเนี่ยหรืออาจจะเติมน้ำอัดลมเติมเหล้า
00:10:54 → 00:10:56 เติมอะไรเข้าไปในนั้นเติมกระท่อมเข้าไปใน
00:10:56 → 00:11:00 นั้นนะครับแล้วก็เอาไอ้แคปซูล trad เนี่ย
00:11:00 → 00:11:05 แกะแล้วก็เทลงไปในเนี่ยเยอะเลยแล้วก็ดื่ม
00:11:05 → 00:11:09 นั่นแหละมันอันตรายขนาดนั้นนะครับเพราะ
00:11:09 → 00:11:12 บางคนอาจจะบอกว่าเฮ้ยเราเป็นหมอมาตั้งนาน
00:11:12 → 00:11:15 เราเคยเห็นคนกิน tramadol นะแต่เราไม่เคย
00:11:15 → 00:11:18 เจอคนที่เชักเราไม่เคยเจอคนที่เขาเกิด
00:11:18 → 00:11:21 โทนิ Syndrome ขึ้นมาเลยสักคนนั่นก็เพราะ
00:11:22 → 00:11:25 ว่าคุณใช้ในขนาดที่หมอทั่วไปจะจ่ายให้คน
00:11:25 → 00:11:28 ไข้ไครับแต่คนที่เาเอาไปใช้ผิดวิธีเนี่ยเ
00:11:28 → 00:11:31 แกะออกไปหมดแล้วก็กินโน่นเลย 20 30 เม็ด
00:11:31 → 00:11:34 40 เม็ดอย่างเงี้ยแล้วมันจะไม่เกิดผล
00:11:34 → 00:11:37 ข้างเคียงได้ยังไงล่ะครับ
00:11:37 → 00:11:41 อ่ะยา 2 ตัวเนี้ยถามว่า
00:11:41 → 00:11:45 แล้วทำไมมันมีเหตุผลทำไมทำไมต้องรู้ข้อ
00:11:45 → 00:11:49 แรกนะครับมันหาง่ายมันหาง่ายมันลบาถึงแม้
00:11:49 → 00:11:51 ว่าจะมีหน่วยงานของรัฐเนี่ยออกมาควบคุม
00:11:51 → 00:11:54 ไม่ให้ขายเกินจำนวนแล้วก็ต้องมีการดู
00:11:54 → 00:11:56 ประวัติให้ชัดเจนถึงจะขายได้แต่มันก็มีคน
00:11:56 → 00:11:59 รักรอบขายได้อยู่ดีครับที่ที่สำคัญอะไร
00:11:59 → 00:12:02 รู้มั้ยฮะสมมุติว่าคุณไปปาร์ตี้แล้วกิน
00:12:03 → 00:12:06 ไอ้ 2 ตัวนี้เข้าไปนะฮะคุณตรวจฉี่ไม่เจอ
00:12:06 → 00:12:10 นะครับตรวจไม่เจอนะโปรโคดิลเนี่ยตรวจไม่
00:12:10 → 00:12:12 เจอนะครับ
00:12:12 → 00:12:16 เอ้อเมาแล้วก็ตรวจไม่เจอแล้ว้าได้ใจ่ะสิ
00:12:16 → 00:12:18 ครับไม่ต้องกลัวเรื่องฉีม่วงอีกต่อไปแล้ว
00:12:18 → 00:12:21 ถูกมั้ยฮะดังนั้นวัยรุ่นก็จะมาใช้ตัวนี้
00:12:21 → 00:12:22 ได้เยอะนะ
00:12:22 → 00:12:25 ครับแล้วบางคนก็แน่นอนผสมกระท่อมผสมกัญชา
00:12:26 → 00:12:29 เข้าไปคราวนี้ก็มั่วเลยแต่ว่ายาก็ไม่หยุด
00:12:29 → 00:12:32 แค่นี้ครับผมอยากจะให้ทุกคนมารู้จักยา
00:12:32 → 00:12:35 แล้วก็คำศัพท์ของยาในหมู่วัยรุ่นตัวอื่นๆ
00:12:35 → 00:12:39 ด้วยตัวแรกครับ b5 หรือ
00:12:39 → 00:12:44 b5 นะครับ b5 เนี่ยมันย่อมาจากมันมัน
00:12:44 → 00:12:47 เป็นชื่อเต็มของยาตัวนึงชื่อเอิ่ม Bird
00:12:47 → 00:12:51 hexa นะครับ Bird hexa เนี่ยคืออีกชื่อ
00:12:51 → 00:12:54 นึงคือ TR hexi fadil นะครับตัวนี้หลาย
00:12:54 → 00:12:56 คนที่เป็นหมอจะรู้จักนะครับ TR hexi
00:12:56 → 00:12:59 fadil เนี่ยมันเป็นยาที่เราเอามาใช้แก้
00:12:59 → 00:13:03 ไขภาวะไอ้เมื่อกี้นี่แหละตัวแข็งอ่ะนะ
00:13:03 → 00:13:06 ครับภาวะตัวแข็งที่เราเรียกว่า Extra
00:13:06 → 00:13:08 paramed symptom นะครับโดยทั่วไปถ้าเรา
00:13:08 → 00:13:12 กินยากลุ่มพวกอ่ายาจิตเวทบางตัวเนี่ยมัน
00:13:12 → 00:13:15 จะทำให้เรามีปัญหาเรื่องไอ้ตัวแข็งเราก็
00:13:15 → 00:13:18 ใช้ยาในกลุ่ม trx fadil ในการแก้ไขได้นะ
00:13:18 → 00:13:21 ครับแต่วัยรุ่นก็เอามาใช้มั่วๆอีกนั้น
00:13:21 → 00:13:24 แหละครับก็คือมันเมาได้จากยาตัวนี้นะครับ
00:13:24 → 00:13:27 แล้วผลข้างเคียงของมันอีกอย่างนึงก็คือทำ
00:13:27 → 00:13:29 ให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงครับ
00:13:29 → 00:13:32 ทั่วๆไปในทางการแพทย์เราก็ให้กันนิดเดียว
00:13:32 → 00:13:35 ถูกมยแต่ว่าเวลาที่วัยรุ่นเค้าใช้เจะเมา
00:13:36 → 00:13:38 เนี่ยเใช้มหาศาลเลยครับให้มันเมามากๆแล้ว
00:13:38 → 00:13:41 เมาพวกเนี้ยเกิดอาการกล้ามืออ่อนแรงได้นะ
00:13:41 → 00:13:43 ครับ bur เซอนี่คือ b5 เนี่ยก็เป็นอีก
00:13:44 → 00:13:46 หนึ่งตัวซึ่งอาจจะมีการใช้ผิดได้แล้วที่
00:13:46 → 00:13:49 สำคัญครับมันตรวจไม่เจอในปัสสาวะเหมือน
00:13:49 → 00:13:52 กับที่เขาใช้กันทั่ว
00:13:52 → 00:13:57 ไปนะครับตรวจปัสสาวะไม่เจอของพวกนี้หรอก
00:13:57 → 00:13:59 ครับเพราะว่าชุดตรวจปัสสาวะโดยทั่วไปไม่
00:13:59 → 00:14:01 ได้ถูกออกแบบมาให้ตรวจเจอตัวนี้ครับมัน
00:14:01 → 00:14:04 ต้องเป็นการตรวจพิเศษถึงจะเจอเท่านั้นนะ
00:14:04 → 00:14:07 ฮะการตรวจพิเศษเช่นพวกอ่าโมก graphy พวก
00:14:07 → 00:14:10 เนี้ยสามารถตรวจได้นะครับหรือเ่อ Mass
00:14:10 → 00:14:13 spc เนี่ยครับ Mass spectrometry พวก
00:14:13 → 00:14:15 เนี้ยสามารถตรวจได้นะครับแต่ว่ามันไม่ใช่
00:14:15 → 00:14:17 การตรวจทั่วไปที่เราทำกันดังนั้นโอกาสจะ
00:14:17 → 00:14:20 เจอยาพวกเนี้ยจึงไม่ค่อยมีนะ
00:14:20 → 00:14:25 ครับแล้วก็มีอีกกลุ่มนึงอ่าอันเนี้ยชื่อ
00:14:25 → 00:14:31 มันแปลกดีชื่อยาโรเซ่หรือยาโชนะครับถ้า
00:14:31 → 00:14:35 ใครเคยได้ยินยาโชเนี่ยมันหมายถึงยาใน
00:14:35 → 00:14:37 กลุ่มยา benzidine หรือยานอนหลับทั้งหมด
00:14:38 → 00:14:43 เลยนะครับเช่นยาไดมนะหรือเียมหรือบางคนก็
00:14:43 → 00:14:47 จะเรียก d10 หรือ d10 นะครับยาเ chona
00:14:47 → 00:14:51 cpam นะครับหรืออีกชื่อนึงคือ ril เป็น
00:14:51 → 00:14:54 ชื่อการค้ายาเ่า
00:14:54 → 00:15:00 ซิมหรือฮินนะฮะอ่ายาไโมหรือ domicum นะ
00:15:00 → 00:15:02 ครับพวกเนี้ยทั้งหมดเป็นยาในกลุ่มที่เรา
00:15:02 → 00:15:05 เรียกว่า Benz dip เป็นยานอนหลับอย่าง
00:15:05 → 00:15:07 หนึ่งที่เราใช้กันแล้วมันติดได้ด้วยนะ
00:15:07 → 00:15:11 ครับยาในกลุ่มเนี้ยเขาจะเรียกว่ายาโรเช
00:15:11 → 00:15:14 เหตุผลที่เขาเรียกว่ายาโรเชเพราะว่า
00:15:14 → 00:15:17 บริษัทที่เขาผลิตยาในกลุ่มนี้ขึ้นมาเนี่ย
00:15:17 → 00:15:21 คือบริษัทโชครับโชคือชื่อของบริษัทยาแต่
00:15:21 → 00:15:23 ว่าวัยรุ่นเขาคอ่านไม่ออกเเลยอ่านว่าเป็น
00:15:23 → 00:15:27 โรชบางคนก็อ่านว่าโรซแต่จริงๆคือบริษัทยา
00:15:27 → 00:15:30 โรชเ้าผลิตยาในกลุ่มพวกนี้ขึ้นมาเพื่อใช้
00:15:30 → 00:15:33 ในทางการแพทย์ยาในกลุ่มพวกเนี้ยส่วนนึง
00:15:33 → 00:15:38 โชคดีเพราะว่ามันไม่มีขายทั่วไปจะต้องไป
00:15:38 → 00:15:40 ซื้อในสถานพยาบาลเท่านั้นแต่ก็แน่นอนครับ
00:15:40 → 00:15:43 มีคนแอบซื้อออกมาเพื่อเอาไปขายต่อหรือบาง
00:15:43 → 00:15:46 คนก็ไปหลอกหมอเพื่อให้ได้ยาพวกนี้มานะ
00:15:46 → 00:15:49 ครับยาพวกเนี้ยมันมีฤทธิ์เหมือนเหล้าครับ
00:15:49 → 00:15:52 เหล้าแห้งเราดีๆนี่แหละนะครับก็จะมึนเมา
00:15:52 → 00:15:55 นะดังนั้นพวกเนี้ยก็คือเป็นคำศัพท์ทาง
00:15:55 → 00:15:57 ด้านยาที่วัยรุ่นเค้าติดกันเป็นประจำนะ
00:15:58 → 00:16:02 ครับแล้วผมก็ต้องขอบอกเลยครับว่าเวลาที่
00:16:02 → 00:16:06 เรามีลูกหลานเนี่ยแล้วเค้าได้ยาแก้แพ้
00:16:06 → 00:16:10 เป็นขวดน้ำมาขดนึงโดยที่ไม่มีอาการแพ้คุณ
00:16:10 → 00:16:14 ต้องสงสัยและว่ามีไว้ทำอะไรวัยรุ่นทำไม
00:16:14 → 00:16:16 ต้องกินยาแก้แพ้เป็นนามทำไมไม่กินเป็น
00:16:16 → 00:16:19 เม็ดเนี่ยคือยาโปรโคดิลหรือโปรเมทาซีน
00:16:19 → 00:16:24 เมื่อตะกี้ที่เราบอกคุณต้องระวังแล้วนะฮะ
00:16:24 → 00:16:26 วัยรุ่นเค้าจะไปใช้ยาพวกเนี้ยเพราะว่า
00:16:26 → 00:16:30 อะไรผมกับพู้พวกคุณเคยผ่านช่วงวัยรุ่นมา
00:16:30 → 00:16:34 รู้อยู่แล้วครับว่าอยากลองอยากเข้ากลุ่ม
00:16:34 → 00:16:37 อยากเท่ใช้แล้วมันเท่ใช้แล้วมันมีความสุข
00:16:37 → 00:16:39 เพื่อนเใช้กันเราอยากจะเข้ากลุ่มก็ต้องไป
00:16:39 → 00:16:42 ใช้กับเขาไม่งั้นมันก็ไม่ให้เราเข้ากลุ่ม
00:16:42 → 00:16:45 นะครับแล้วก็จะโดนเท้าว่าเฮ้ยกล้าหรือ
00:16:45 → 00:16:49 เปล่าผมก็ต้องบอกว่าคุณแน่จริงที่จะไม่
00:16:49 → 00:16:52 ใช้ยาพวกนี้หรือเปล่าหรือว่าคุณป๊อต
00:16:52 → 00:16:55 นะอยากจะเป็นคนป๊อตที่ใช้ยาหรืออยากจะ
00:16:55 → 00:16:58 เป็นคนกล้าเพียงพอแน่เพียงพอที่จะไม่ใช้
00:16:58 → 00:17:03 ยาพวกนี้นะครับคุณค่าของตัวคุณเของตัว
00:17:03 → 00:17:06 น้องๆเนี่ยมากกว่าที่เพื่อนเค้าประเมิน
00:17:06 → 00:17:09 ไว้ซะอีกเพื่อนพวกนี้นะฮะเวลาเกิดเรื่อง
00:17:09 → 00:17:12 ขึ้นมาเไม่มาสนใจคุณหรอกเคทิ้งคุณนแหละ
00:17:12 → 00:17:15 ปล่อยให้คุณแย่ไปผือคนเดียวแล้วถ้าเกิด
00:17:15 → 00:17:17 คุณใช้ยาพวกนี้แล้วชักขึ้นมาถามว่าเพื่อน
00:17:17 → 00:17:20 ช่วยอะไรได้หรือเปล่าไม่ได้หรอกเแค่ตกใจ
00:17:20 → 00:17:24 แค่นั้นเองแล้วบางคนเนี่ยใช้ยาพวกนี้แล้ว
00:17:24 → 00:17:27 มีผลระยะยาวนะอย่างที่เมื่อกี้บอกเคลื่อน
00:17:27 → 00:17:30 ไหวผิดปกติลิ้นแขแแล้วมันเป็นอย่างเงี้ย
00:17:30 → 00:17:34 ตลอดชาติอ่ะไม่หายไม่มีทางรักษาด้วยเอา
00:17:34 → 00:17:36 งั้นเหรอใช่มั้ย
00:17:36 → 00:17:39 ฮะยาพวกเนี้ยบางคนใช้ไปนานๆเสื่อม
00:17:39 → 00:17:43 สมรรถภาพทางเพศนะวัยรุ่นเป็นวัยที่เริ่ม
00:17:43 → 00:17:46 รู้จักเพศสัมพันธ์แล้วถ้าเสื่อมเป็นไง
00:17:46 → 00:17:48 ครับ
00:17:48 → 00:17:52 ก็อาจจะแย่ไปเลยก็ได้เนาะแล้วมันแก้ไม่
00:17:52 → 00:17:55 ได้เลยนะครับพวกนี้นั่นแหละคือเหตุผลที่
00:17:55 → 00:17:59 เราต้องมารู้จักกับพวกยาชนิดต่างๆอย่าใช้
00:17:59 → 00:18:03 ผิดประเภทนะครับผมก็เคยเป็นเด็กมาก่อนเคย
00:18:03 → 00:18:07 รู้ว่าไอ้ของพวกเนี้ยสมัยเด็กๆเนี่ยเวลา
00:18:07 → 00:18:09 ผู้ใหญ่มาเล่าให้ฟังนะไม่มีใครเชื่อไม่มี
00:18:09 → 00:18:14 ใครฟังบอกว่าถ้าแน่จริงก็ต้องไม่ทำตามผู้
00:18:14 → 00:18:19 ใหญ่ก็ต้องค้านผู้ใหญ่ก็ต้องแอบทำแอบทำ
00:18:19 → 00:18:23 ได้ยิ่งทำได้ผู้ใหญ่จำไม่ได้เท่แต่โตมา
00:18:24 → 00:18:27 ทุกคนรู้หมดแล้วครับว่าไอ้ที่บอกว่าเท่
00:18:27 → 00:18:29 โดนหลอกทั้งนั้นแหละ
00:18:29 → 00:18:32 ที่บอกว่าแน่จริงสรุปจริงๆคือป๊อตไม่แน่
00:18:32 → 00:18:35 จริงปอดแหกอ่ะเป็นวัยรุ่นปอดแหกอ่ะถึง
00:18:35 → 00:18:38 ต้องทำตามคนอื่นเขคถ้าวัยรุ่นที่เก่งแล้ว
00:18:38 → 00:18:42 แน่จริงกล้าจริงนะครับมันจะต้องทำตามตัว
00:18:42 → 00:18:46 เองตัวเองจะต้องเป็นผู้นำเทรน์ตัวเองจะ
00:18:46 → 00:18:48 ต้องไม่ไปทำตามคนอื่นเขาไม่ไปเป็นทาสของ
00:18:48 → 00:18:51 คนอื่นเขาคุณจะต้องเป็นคนที่เด่นดังสร้าง
00:18:52 → 00:18:54 คุณค่าได้ด้วยตัวเองนั่นแหละครับถึงจะ
00:18:54 → 00:18:56 เรียกว่าวัยรุ่นที่แน่จริงกล้าจริงแล้ว
00:18:56 → 00:18:59 เก่งจริงๆด้วยนะครับ
00:18:59 → 00:19:01 ถ้าเกิดว่าใครฟังผมมาถึงตอนนี้นะครับก็
00:19:01 → 00:19:04 หวังว่าจะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ไม่มาก
00:19:04 → 00:19:06 ก็น้อยไม่ว่าคุณจะเป็นวัยรุ่นคุณจะเป็น
00:19:06 → 00:19:09 ครอบครัวที่มีลูกมีหลานที่อยู่ในช่วงวัย
00:19:09 → 00:19:11 รุ่นคุณก็จะได้ตามเขาทันแล้วก็เข้าใจใน
00:19:11 → 00:19:14 เรื่องพวกนี้นะครับยาเสพติดพวกเนี้ยมัน
00:19:14 → 00:19:17 มักจะไม่ได้มาเดี่ยวๆมันมักจะมีการผสม
00:19:17 → 00:19:20 หลายๆตัวทำให้เวลาป่วยขึ้นมามาเจอหมอ
00:19:20 → 00:19:23 เนี่ยมันรักษายากแล้วเราก็บอกไม่ได้ด้วย
00:19:23 → 00:19:25 ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจะหายหรือเปล่าจะดีหรือ
00:19:25 → 00:19:28 เปล่านะครับยังไงก็ต้องฝากให้หลายๆฝ่าย
00:19:28 → 00:19:31 เนี่ยคอยดูแลเรื่องนี้ไว้นะครับเพราะว่า
00:19:31 → 00:19:35 เยาวชนคุณรู้อะไรมยตอนเนี้ยประเทศไทยเข้า
00:19:35 → 00:19:37 สู่สังคมผู้สูง
00:19:37 → 00:19:41 อายุเดี๋ยวสักพักเนี่ยผู้สูงอายุจะเพิ่ม
00:19:41 → 00:19:43 ขึ้นเรื่อยๆแต่ว่าชนชั้นทำงานมันจะไม่
00:19:43 → 00:19:46 ค่อยมีแล้วถ้าชนชั้นทำงานคือวัยรุ่นที่จะ
00:19:46 → 00:19:50 โตมาเป็นชนชั้นทำงานเป็นไงใช้ยาพวกนี้
00:19:50 → 00:19:51 สมองเสียหมด
00:19:51 → 00:19:56 เลยก็ไม่มีคุณภาพของคนที่ทำงานสังคมเราก็
00:19:56 → 00:20:00 อยู่ไม่ได้ครับคุณตมาก็
00:20:00 → 00:20:04 แย่ครอบครัวก็ไม่มีใครดูแลแล้วถ้าเกิดตัว
00:20:04 → 00:20:07 คุณเองใช้ยาจนกระทั่งมันมีผลเสียต่อร่าง
00:20:07 → 00:20:10 กายระยะยาวแทนที่คุณจะดูแลเค้าเค้าก็ต้อง
00:20:10 → 00:20:13 มาดูแลคุณแล้วถ้าเกิดเขาแก่แล้วเดูแลคุณ
00:20:13 → 00:20:17 ไม่ได้เป็นไงก็คุณก็เป็นผู้ปวดติดเตียง
00:20:17 → 00:20:20 โดยที่ไม่มีใครดูแลทำอะไรก็ไม่ได้ลุกขึ้น
00:20:20 → 00:20:21 มาก็ลุกไม่ไหว
00:20:22 → 00:20:26 อ่าได้แค่นั้นเลยนะครับโอเควันนี้ผมก็ขอ
00:20:26 → 00:20:29 ฝากไว้เท่านี้แล้วกันนะครับยังไไงก็ขอ
00:20:29 → 00:20:31 ขอบคุณน้องๆที่ฟังมาจนถึงตรงนี้เพราะว่า
00:20:31 → 00:20:34 น้องเป็นคนที่กล้าพอแน่พอแล้วก็จะได้รู้
00:20:34 → 00:20:39 เท่าทันกลกลโกงนะครับหรืออะไรก็แล้วแต่
00:20:39 → 00:20:42 ที่จะมาหลอกเราแล้ววันเนี้ยความรู้พวกนี้
00:20:42 → 00:20:45 คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนเพราะ
00:20:45 → 00:20:48 ว่าน้องเป็นคนที่เก่งจริงแน่จริงกล้าจริง
00:20:48 → 00:20:50 แล้วจะต้องทำให้ตัวเองเป็นผู้นำเทรนด์ไม่
00:20:50 → 00:20:52 ได้เป็นผู้ตามเทรนดไม่ได้เป็นผู้ที่เป็น
00:20:52 → 00:20:55 ทาสของยาพวกนี้นะครับโอเควันนี้ให้เล่า
00:20:55 → 00:20:57 ให้ฟังเท่านี้นะครับขอบคุณมากครับสวัสดี
00:20:57 → 00:21:00 ครับ