00:00:00 → 00:00:04 [เสียงดนตรี]
00:00:05 → 00:00:06 ตั้งแต่ทำการศึกษาวิจัยมา
00:00:06 → 00:00:09 มีอยู่แค่ 1 คนเท่านั้นในโลกนะคะ
00:00:09 → 00:00:12 ที่มีการรายงานและพิสูจน์ได้จริงว่า
00:00:12 → 00:00:14 หายขาดจากการติดเชื้อ HIV
00:00:14 → 00:00:16 ซึ่งคนนี้เป็นขาวต่างชาติ
00:00:16 → 00:00:18 เขาติดเชื้อ HIV
00:00:18 → 00:00:20 แล้วเขาก็เป็นมะเร็งเม็ดเลือดด้วย
00:00:20 → 00:00:22 เขาก็เลยได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูก
00:00:22 → 00:00:23 2 รอบนะคะ
00:00:23 → 00:00:24 การปลูกถ่ายไขกระดูก
00:00:24 → 00:00:25 รักษาได้ทั้ง 2 โรค
00:00:25 → 00:00:28 รักษาทั้งมะเร็งที่เขาเป็นอยู่
00:00:28 → 00:00:30 แล้วก็รักษาการติดเชื้อ HIV ด้วย
00:00:30 → 00:00:33 เพราะว่าปัจจุบันนี้ก็มีผู้วิจัยหลายๆ คน
00:00:33 → 00:00:34 ที่พยายามจะเลียนแบบ
00:00:34 → 00:00:36 คือพยายามปลูกถ่ายไขกระดูก
00:00:36 → 00:00:37 ในคนที่ติดเชื้อ HIV
00:00:37 → 00:00:39 เพื่อหวังว่าจะหายขาด
00:00:39 → 00:00:41 แล้วก็ไม่ต้องรับประทานยาไปตลอดชีวิต
00:00:42 → 00:00:43 แต่ว่าขั้นตอนการทดลองนี้
00:00:43 → 00:00:44 ยังอยู่ในการวิจัยอยู่
00:00:44 → 00:00:46 แล้วก็ยังไม่มีคนไข้คนไหน
00:00:46 → 00:00:47 นอกจากคนนี้เลย
00:00:47 → 00:00:50 ที่มีการรายงานว่าหายขาดจากโรคนี้
00:00:50 → 00:00:52 ก็คงต้องติดตามผลการวิจัยต่อไปว่า
00:00:52 → 00:00:54 ในอนาคตเราจะทำการปลูกถ่ายไขกระดูก
00:00:54 → 00:00:55 แล้วสามารถทำให้หายขาด
00:00:55 → 00:00:57 จากการติดเชื้อ HIV ได้หรือเปล่า
00:00:57 → 00:01:04 [เสียงดนตรี]
00:01:05 → 00:01:05 มีจริงค่ะ
00:01:05 → 00:01:07 ก็คือการใช้ยาต้านไวรัส
00:01:07 → 00:01:09 มาหยุดยั้งการแพร่กระจาย
00:01:09 → 00:01:11 หรือการติดต่อของเชื้อเอดส์
00:01:11 → 00:01:12 หรือโรคเอดส์
00:01:12 → 00:01:14 ซึ่งอาจจะแบ่งเป็น 2 คำ
00:01:14 → 00:01:15 เราอาจจะได้ยินคำว่า
00:01:15 → 00:01:17 เพรป ก็คือ PrEP
00:01:18 → 00:01:21 กับ เพป ก็คือ PEP นะคะ
00:01:21 → 00:01:23 โดยที่เพรป ก็คือ PrEP นี่
00:01:23 → 00:01:25 เป็นการใช้ยาต้าน HIV
00:01:25 → 00:01:27 เพื่อป้องกันก่อน
00:01:27 → 00:01:28 ที่เราจะไปรับเชื้อมา
00:01:28 → 00:01:30 ก่อนที่จะไปเที่ยวนะคะ
00:01:30 → 00:01:32 ก็ก่อนที่เราจะมีความเสี่ยงนะคะ
00:01:32 → 00:01:34 สำหรับเพป หรือ PEP
00:01:34 → 00:01:35 ก็คือการใช้ยาต้าน HIV
00:01:35 → 00:01:37 หรือยาต้านไวรัสเอดส์
00:01:37 → 00:01:39 สำหรับคนที่รับเชื้อ
00:01:39 → 00:01:40 หรือคิดว่าตัวเองเสี่ยงมาแล้ว
00:01:40 → 00:01:40 เช่น ไปเที่ยวมาแล้ว
00:01:41 → 00:01:43 แต่กลัวว่าเราจะติดเชื้อ HIV หรือเปล่า
00:01:44 → 00:01:45 ก็มากินยา
00:01:45 → 00:01:47 เพื่อป้องกันเหตุการณ์นั้น
00:01:47 → 00:01:48 ที่เราคิดว่าอาจจะมีความเสี่ยง
00:01:48 → 00:01:49 ต่อการติดเชื้อ HIV
00:01:49 → 00:01:55 [เสียงดนตรี]
00:01:55 → 00:01:56 เงื่อนไขของการกินยานี้ก็คือ
00:01:56 → 00:01:58 หนึ่ง เราต้องยังไม่ติดเชื้อ HIV
00:01:59 → 00:01:59 ถูกไหมคะ
00:01:59 → 00:02:01 อันที่สองคือ เรามีความเสี่ยงไหม
00:02:02 → 00:02:03 เช่น ความเสี่ยง ได้แก่
00:02:03 → 00:02:05 ตอนมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกัน
00:02:05 → 00:02:06 เป็นกลุ่มชายรักชาย
00:02:07 → 00:02:08 มีคู่นอนหลายคน
00:02:09 → 00:02:11 หรือมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
00:02:11 → 00:02:13 หรืออาจจะมีคู่ที่มีผลเลือดต่าง
00:02:14 → 00:02:16 ก็คือเรายังไม่ติดเชื้อ HIV
00:02:16 → 00:02:17 อาจจะมีคู่ที่ติดเชื้อ HIV อยู่
00:02:18 → 00:02:20 แล้วคู่นั้นอาจจะยังไม่ได้ รับประทานยาต้านไวรัส
00:02:21 → 00:02:22 หรือยังไม่ได้เข้าสู่การรักษา
00:02:22 → 00:02:24 เพราะฉะนั้น เรามีสิทธิ์ ที่จะติดเชื้อ HIV มาได้
00:02:24 → 00:02:26 อันนี้ก็เกณฑ์ที่เราพิจารณาว่า
00:02:26 → 00:02:28 จะได้รับ PrEP เพื่อป้องกัน
00:02:28 → 00:02:29 การติดเชื้อ HIV
00:02:29 → 00:02:36 [เสียงดนตรี]
00:02:36 → 00:02:37 ค่ะ ก็ถามว่าถ้าเราไปเที่ยว
00:02:37 → 00:02:39 โดยที่ใช้ยานี้อย่างเดียว
00:02:39 → 00:02:40 หรือกินยา PrEP อย่างเดียว
00:02:41 → 00:02:42 เราจะปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ไหมนะคะ
00:02:42 → 00:02:44 คือถ้าในส่วนของการติดเชื้อ HIV นี่
00:02:44 → 00:02:46 จะเห็นว่าจากการศึกษาเอง
00:02:46 → 00:02:47 มันไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์
00:02:47 → 00:02:48 จากการศึกษาพบว่า
00:02:48 → 00:02:51 PrEP ที่ใช้ในกลุ่มชายรักชายนะคะ
00:02:51 → 00:02:53 สามารถป้องกันการติดเชื้อ HIV ได้
00:02:53 → 00:02:54 ร้อยละ 40 กว่า
00:02:54 → 00:02:56 จนกระทั่งถึงร้อยละ 80 กว่า
00:02:56 → 00:02:58 ส่วนในกลุ่มที่เป็นชายหญิง
00:02:58 → 00:02:59 ที่มีคู่ผลเลือดต่าง
00:03:00 → 00:03:01 ก็สามารถป้องกันการติดเชื้อ HIV ได้
00:03:01 → 00:03:04 ประมาณร้อยละ 60-70
00:03:04 → 00:03:06 แต่สำหรับการศึกษาทั้งหมดนี้
00:03:06 → 00:03:07 เป็นการใช้ยา PrEP
00:03:08 → 00:03:10 ร่วมกับการใส่ถุงยางอนามัย
00:03:10 → 00:03:12 ไม่ใช่ว่าเรากินแต่ยาอย่างเดียว
00:03:12 → 00:03:14 เพราะฉะนั้น จะเห็นว่าการกินยา PrEP
00:03:14 → 00:03:16 อย่างไรก็แนะนำว่า
00:03:16 → 00:03:18 จะต้องใช้ควบคู่กับการใช้ถุงยางอนามัยด้วย
00:03:18 → 00:03:25 [เสียงดนตรี]
00:03:25 → 00:03:27 หลักการรักษาของโรคนี้ก็คือ
00:03:27 → 00:03:29 เราต้องรับประทานยาต้าน HIV
00:03:29 → 00:03:30 หรือยาต้านเอดส์
00:03:30 → 00:03:31 ไปตลอดชีวิตนะคะ
00:03:31 → 00:03:34 อันนี้คือข้อมูล ที่เรามีอยู่ตอนนี้นะคะ
00:03:34 → 00:03:34 แต่ในอนาคต
00:03:35 → 00:03:36 เราอาจจะมีการหยุดยาได้ก็ได้
00:03:36 → 00:03:37 อันนี้เรายังไม่ทราบ
00:03:37 → 00:03:39 แต่ถามว่า มีคนที่พูดว่า
00:03:40 → 00:03:42 เราหายแล้ว หยุดยาต้านได้
00:03:42 → 00:03:43 ถามว่าโดยหลักการแล้ว
00:03:44 → 00:03:45 ยาที่เรารับประทานเข้าไป
00:03:46 → 00:03:47 มันจะแค่ยับยั้ง
00:03:47 → 00:03:48 การแบ่งตัวของไวรัสเฉยๆ
00:03:48 → 00:03:50 เพราะฉะนั้น โดยหลักการแล้ว
00:03:50 → 00:03:51 ถ้าเราหยุดยาต้านไวรัส
00:03:51 → 00:03:53 เชื้อจะแบ่งตัวกลับมาอีก
00:03:53 → 00:03:55 เราถึงแนะนำว่า ให้รับประทานยาตลอดชีวิต
00:03:55 → 00:04:00 [เสียงดนตรี]
00:04:01 → 00:04:02 เรื่องอาหารเสริมกับภูมิคุ้มกัน
00:04:02 → 00:04:03 เนื่องจากว่าเรารู้ว่า
00:04:03 → 00:04:05 การติดเชื้อ HIV จะทำให้ภูมิคุ้มกัน
00:04:05 → 00:04:07 หรือที่เราเรียกว่า CD4 ตกลงนะคะ
00:04:08 → 00:04:09 แต่หลังจากที่เรารักษา
00:04:09 → 00:04:10 ด้วยยาต้าน HIV แล้ว
00:04:11 → 00:04:12 จะทำให้ CD4 เพิ่มขึ้น
00:04:12 → 00:04:14 หรือภูมิต้านทานเราเพิ่มขึ้นนะคะ
00:04:14 → 00:04:16 เพราะฉะนั้น การที่จะทำให้ CD4 เพิ่มขึ้น
00:04:17 → 00:04:18 ก็คือมีอยู่ 2 ส่วน
00:04:18 → 00:04:20 ส่วนหนึ่งก็คือ ยาต้านไวรัส
00:04:20 → 00:04:21 ที่เราต้องรับประทานต่อเนื่อง
00:04:21 → 00:04:22 เพื่อจะรักษา CD4
00:04:23 → 00:04:24 หรือภูมิคุ้มกันเราให้แข็งแรง
00:04:24 → 00:04:26 อีกอันหนึ่งที่แนะนำก็คือ
00:04:26 → 00:04:29 เรื่องของการปฏิบัติตัวทั่วๆ ไป
00:04:29 → 00:04:30 เช่น การออกกำลังกาย
00:04:30 → 00:04:32 การพักผ่อนที่เพียงพอ
00:04:32 → 00:04:34 การรับประทานอาหารที่สุก สะอาด มีประโยชน์
00:04:34 → 00:04:36 อันนี้ก็คือเหมือนเราปฏิบัติตัวทั่วๆ ไป
00:04:36 → 00:04:37 อันนี้ก็ไม่เจ็บป่วยบ่อยๆ
00:04:38 → 00:04:40 ก็ทำให้ CD4 เราไม่ตกลงนะคะ
00:04:40 → 00:04:41 เพราะฉะนั้น 2 ส่วนนี้คือส่วนหลักๆ
00:04:42 → 00:04:44 ที่ทำให้เราสามารถรักษาระดับ CD4
00:04:44 → 00:04:45 หรือภูมิต้านทานไว้นะคะ
00:04:45 → 00:04:47 ส่วนในเรื่องของอาหารเสริม
00:04:47 → 00:04:48 จะเพิ่มภูมิต้านทานไหม
00:04:48 → 00:04:49 อันนี้ก็คือไม่แนะนำ
00:04:50 → 00:04:52 ถ้าเรารักษาร่างกายเราดีนะคะ
00:04:53 → 00:04:54 รับประทานยาสม่ำเสมอแล้ว
00:04:55 → 00:04:58 CD4 เราก็จะอยู่ในระดับที่สูง
00:04:59 → 00:05:00 แล้วร่างกายเราก็แข็งแรง
00:05:00 → 00:05:02 เพราะฉะนั้น อาหารเสริมไม่แนะนำ
00:05:02 → 00:05:02 แล้วก็ไม่จำเป็น
00:05:03 → 00:05:10 [เสียงดนตรี]
00:05:10 → 00:05:11 สำหรับประเทศไทยแล้ว
00:05:11 → 00:05:14 สถานการณ์เอดส์เมื่อปีที่แล้ว
00:05:15 → 00:05:17 คาดว่ามีผู้ติดเชื้อ HIV อยู่ประมาณ
00:05:17 → 00:05:19 420,000 กว่าราย
00:05:19 → 00:05:21 แล้วก็เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่
00:05:21 → 00:05:23 ประมาณ 6,000 กว่าราย
00:05:23 → 00:05:24 6,000 กว่าราย คิดโดยเฉลี่ย
00:05:24 → 00:05:26 ก็ประมาณ 17 รายต่อวัน
00:05:26 → 00:05:29 ก็ถือว่ายังเป็นเลขที่ค่อนข้างสูง
00:05:29 → 00:05:31 แล้วก็ในปัจจุบันที่
00:05:31 → 00:05:32 เราดูแลรักษาคนไข้
00:05:32 → 00:05:33 ก็พบว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่
00:05:33 → 00:05:36 ก็จะมีอายุที่น้อยลง
00:05:36 → 00:05:38 เช่น วันรุ่น ที่เราเจอนะคะ
00:05:38 → 00:05:39 หรือนักเรียนมัธยมที่เราเจอเยอะขึ้น
00:05:40 → 00:05:41 มีการศึกษาที่พบว่า
00:05:42 → 00:05:44 มีเด็กที่มีเพศสัมพันธ์
00:05:44 → 00:05:46 อายุน้อยลงเรื่อยๆ นะคะ
00:05:46 → 00:05:47 มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร
00:05:48 → 00:05:50 ส่วนหนึ่งก็คือ เด็กเองอาจจะยังไม่ทราบ
00:05:50 → 00:05:52 หรือยังไม่มีความรู้ที่ดีพอ
00:05:52 → 00:05:54 ในเรื่องของตัวโรค การติดเชื้อ HIV เอง
00:05:54 → 00:05:55 รวมถึงการป้องกัน
00:05:55 → 00:05:58 หรือน่าจะหมดยุคที่มีการอาย
00:05:58 → 00:05:59 หรือพ่อแม่อายที่จะคุยเรื่องนี้กับลูก
00:05:59 → 00:06:01 หรือลูกอายเองที่จะคุยกับพ่อแม่
00:06:01 → 00:06:03 เพราะฉะนั้นก็คือ เรื่องของการมีเพศสัมพันธ์
00:06:03 → 00:06:05 รวมถึงการป้องกัน เรื่องของการตืดเอดส์
00:06:05 → 00:06:06 หรือติดเชื้อ HIV
00:06:06 → 00:06:09 ก็ควรจะเป็นสิ่งที่คุยกันในบ้าน
00:06:09 → 00:06:11 แล้วก็ให้คำแนะนำด้วยนะคะ
00:06:11 → 00:06:19 [เสียงดนตรี]