00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับเดี๋ยวนี้เนี่ยในหมู่วัยรุ่นนะ
00:00:03 → 00:00:06 ครับแล้วก็นักเที่ยวมีการใช้สารเสพติด
00:00:06 → 00:00:09 อย่างมากมายแพร่หลายนะครับแล้วบางทีผู้
00:00:09 → 00:00:11 ใหญ่อย่างเรานะครับก็จะตามไม่ทันว่ามัน
00:00:11 → 00:00:14 คือยาอะไรกันแน่นะฮะวันนี้ผมจะพาทุกคนมา
00:00:14 → 00:00:17 รู้จักกับยาตัวหนึ่งชื่อว่ายา K หรือ
00:00:17 → 00:00:20 เคตามีนผมคิดว่าหลายคนเคยได้ยินแล้วครับ
00:00:20 → 00:00:22 แต่ว่าไม่รู้ว่ามันมีผลดีผลเสียอย่างไร
00:00:22 → 00:00:25 บ้างดังนั้นวันนี้ผมจะเล่าให้ฟังนะครับ
00:00:25 → 00:00:27 และก่อนผมจะเล่าให้ฟังนะครับต้องบอก
00:00:27 → 00:00:29 อย่างี้ครับว่าตั้งแต่ผมทำเรื่องเกี่ยว
00:00:29 → 00:00:32 ข้องกับยาเสพติดมาหลายคลิปเนี่ยนะครับก็
00:00:32 → 00:00:35 มักจะมีคนที่เขาเป็นขี้ยาติดยามาคอมเมนต์
00:00:35 → 00:00:38 อยู่เรื่อยๆว่าตัวเขาเองใช้แล้วไม่เห็นจะ
00:00:38 → 00:00:41 เป็นอะไรนะครับใช้แล้วร่างกายก็ปกติดีไม่
00:00:41 → 00:00:43 เห็นจะเกิดผลเสียแต่อย่างใดผมต้องบอก
00:00:43 → 00:00:46 อย่างี้ครับว่าพวกเนี้ยเป็นคนขี้ขลาดไม่
00:00:46 → 00:00:49 แน่จริงปากเก่งอย่างเดียวนะครับแต่ว่าไม่
00:00:49 → 00:00:52 กล้าเลิกก็เลยต้องหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง
00:00:52 → 00:00:54 และที่สำคัญนะครับที่บอกว่าตัวเองไม่มีผล
00:00:54 → 00:00:57 ข้างเคียงอะไรเกิดขึ้นมาเนี่ยมันมีอยู่ 2
00:00:57 → 00:00:59 อย่างครับอย่างแรกเกิดผลข้างเคียงไปแล้ว
00:00:59 → 00:01:02 แต่คุณไม่รู้ตัวนะครับอย่างที่ 2 ก็คือ
00:01:02 → 00:01:04 มันเกิดผลข้างเคียงแต่คุณเลือกที่จะไม่สน
00:01:04 → 00:01:07 ใจมันเพราะว่าอยากจะใช้ต่อก็เลยต้องเอามา
00:01:07 → 00:01:10 พูดแบบว่ามันเป็นสิ่งที่คุณใช้แล้วไม่
00:01:10 → 00:01:13 เกิดปัญหานะครับแล้วบอกว่าผมเนี่ยกลัวไป
00:01:13 → 00:01:15 เองหมอเนี่ยกลัวไปเองไม่เคยใช้ซะหน่อย
00:01:15 → 00:01:17 แล้วจะมาบอกอย่างงั้นอย่างนี้ได้ไงแต่ผม
00:01:17 → 00:01:21 บอกคุณเลยครับพวกคุณน่ะเป็นคนขี้ขานไม่
00:01:21 → 00:01:24 ได้เรื่องหรอกครับสู้ผมก็ไม่ได้นะถ้าเกิด
00:01:24 → 00:01:27 คุณแน่จริงคุณก็เลิกให้ได้สินะครับโอเค
00:01:27 → 00:01:29 งั้นเดี๋จะเข้าเรื่องให้ฟังเลยนะครับว่า
00:01:29 → 00:01:31 เรื่องเกี่ยวข้องกับยาเคตามีนมันเป็นยัง
00:01:31 → 00:01:33 ไงบ้างนะครับพบกับผมนะครับนายแพทย์ธนี
00:01:33 → 00:01:35 ธนียวเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐ
00:01:35 → 00:01:38 อเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่ายปอดและ
00:01:38 → 00:01:42 วิกฤตบำบัดนะครับยาเคหรือภาษาอังกฤษเรียก
00:01:42 → 00:01:44 ว่าเคตามีนนะครับมันผลิตมานานแล้วล่ะครับ
00:01:45 → 00:01:47 เพื่อที่จะใช้ปัญญาลดความเจ็บปวดแล้วก็
00:01:47 → 00:01:51 เป็นยานำสลบนะครับมันถูกผลิตมาทดแทนยาอีก
00:01:51 → 00:01:53 ตัวหนึ่งชื่อว่า
00:01:53 → 00:01:56 เenไซคideหรือชื่อย่อคือ PCP ซึ่งย่อมา
00:01:57 → 00:01:59 จากตัวเต็มว่าเฟนี่
00:01:59 → 00:02:03 ไซลกซิลไพidีนนะครับยาตัวนี้เนี่ยมันมีมา
00:02:03 → 00:02:06 ก่อนยา K เพราะว่ามันใช้ในการนำสลดลดความ
00:02:06 → 00:02:09 เจ็บปวดได้แต่มันมีผลเสียร้ายแรงก็คือมัน
00:02:09 → 00:02:13 ทำให้คนไข้เนี่ยบ้าคลั่งนะครับจะทำร้ายคน
00:02:13 → 00:02:16 นั้นคนนี้นะครับเวลาที่ยามันออกฤทธิ์ผิด
00:02:16 → 00:02:18 ปกติเกินไปนะครับเราเรียกภาวะบ้าคลั่ง
00:02:18 → 00:02:23 เนี่ยว่านะครับซึ่งที่อเมริกาเนี่ยมีคน
00:02:23 → 00:02:26 เอามาใช้เป็นยาเสพติดแบบผิดเยอะมากเลยนะ
00:02:26 → 00:02:31 ครับเราจะเรียกเป็นชื่อว่า Angel Dust
00:02:31 → 00:02:34 นะครับหรือฝุ่นนางฟ้าคนพวกเนี้ยเวลามาถึง
00:02:34 → 00:02:37 ห้องฉุกเฉินจะแบบมีพลังเยอะมากบ้ามากนะ
00:02:37 → 00:02:40 ครับจะต่อยจะขว้างของจะมีเรื่องกับเขาไป
00:02:40 → 00:02:44 ทั่วก็ต้องอาศัยอ่ารปพ.ของอเมริกานะครับ
00:02:44 → 00:02:47 ซึ่งตัวใหญ่บเริ่ม 4-5 คนมาช่วยกันจับนะ
00:02:47 → 00:02:50 ครับเนี่ยคือฤทธิ์ของเฟนไซคลีนนะครับคน
00:02:50 → 00:02:54 เขาเห็นว่ามันมีปัญหาแบบนี้ก็เลยคิดค้นยา
00:02:54 → 00:02:56 ตัวใหม่ขึ้นมานั่นก็คือเคสตามีนเพื่อมาทำ
00:02:56 → 00:03:01 หน้าที่ในการลดความเจ็บปวดแล้วก็นำสลบแต่
00:03:01 → 00:03:04 ไม่ได้เกิดผลข้างเคียงรุนแรงขนาดนั้นนะ
00:03:04 → 00:03:07 ครับยาเคสตามีนเนี่ยมันเข้าไปทำอะไรใน
00:03:07 → 00:03:09 ร่างกายนะครับก็ต้องบอกอย่างนี้ว่ายา
00:03:09 → 00:03:12 เคสตามีนมันสามารถเข้าไปละลายในไขมันได้
00:03:12 → 00:03:16 ดีและไขมันที่เยอะๆของเรานั่นก็คือสมอง
00:03:16 → 00:03:18 ของเรานั่นเองนะครับมันจะไปออกฤทธิ์
00:03:18 → 00:03:21 บริเวณนั้นโดยสิ่งที่มันทำก็คือมันจะไป
00:03:21 → 00:03:25 ต่อต้านยับยั้งตัวรับตัวหนึ่งชื่อว่า NMDA
00:03:25 → 00:03:27 นะครับ
00:03:27 → 00:03:30 Nmpat นะครับตัวรับตัวนี้เนี่ยโดยปกตินะ
00:03:30 → 00:03:33 ครับมันจะจับกับสารตัวนึงชื่อว่ากลูตาเม
00:03:33 → 00:03:36 ทำให้เกิดการกระตุ้นของประสาทแล้วยาKคเ
00:03:37 → 00:03:40 เนี่ยมันจะไปแย่งจับกับตรงนี้ครับทำให้
00:03:40 → 00:03:42 ไม่เกิดการกระตุ้นของประสาท
00:03:42 → 00:03:45 แล้วพอเป็นแบบนั้นนะครับมันจะทำให้เราลด
00:03:45 → 00:03:48 ความเจ็บปวดนะครับเกิดภาวะหนึ่งที่เรียก
00:03:48 → 00:03:52 ว่า dissociation หมายความว่าร่างกายกับ
00:03:52 → 00:03:54 ความรู้สึกมันแยกออกจากกันเหมือนวิญญาณ
00:03:54 → 00:03:57 เราออกจากร่างอ่ะเราเราเหมือนเราโดนเรา
00:03:57 → 00:04:00 โดนมีดกรีดอยู่เราไม่รู้สึกเราสบายเรา
00:04:00 → 00:04:03 เคลิบเคลิ้มนะยาเคจะทำให้เรารู้สึกแบบ
00:04:03 → 00:04:06 นั้นจะล่องรอยบางคนก็จะหลอนขึ้นมานะครับ
00:04:06 → 00:04:10 และไม่เพียงแค่นั้นครับมันยังไปทำให้สาร
00:04:10 → 00:04:12 โดปามีนกับเซโรโทนินเพิ่มขึ้นในสมองของ
00:04:13 → 00:04:16 เรานะครับทำให้เรารู้สึกมีอารมณ์ดีและการ
00:04:16 → 00:04:19 เพิ่มโดปามีนมันก็จะทำให้เราติดและถ้า
00:04:19 → 00:04:22 เพิ่มโดปามีนมากๆมันจะทำให้เราหลอนครับจะ
00:04:22 → 00:04:26 เห็นภาพหลอนนะแต่ก็ไม่จบแค่นั้นครับมัน
00:04:26 → 00:04:30 ยังมีหน้าที่ไปเพิ่มตัวนึงก็คือตัว BDNF
00:04:30 → 00:04:33 นะครับ Brain Derive Neurotrophic
00:04:33 → 00:04:36 Factor และไปเพิ่มการทำงานของ Mtor นะ
00:04:36 → 00:04:39 ครับ Mamalan Target of Rapain นะครับ
00:04:39 → 00:04:42 ซึ่งตัวนี้บางคนอาจจะเคยได้ยินเวลาที่เรา
00:04:42 → 00:04:45 ให้ยาเข้าไปยับยั้งนะฮะก็จะเป็นยาชื่อว่า
00:04:45 → 00:04:48 ไซโรไลมัสนะครับหรือไมซินนั่นเองนะครับ
00:04:48 → 00:04:50 อ่ะแต่วันนี้เราไม่พูดถึงตรงนั้นนะครับ
00:04:50 → 00:04:52 ถ้าใครยังจำตรงนั้นได้ผมเคยพูดไปในเรื่อง
00:04:52 → 00:04:56 ของการย้อนไวแบบที่เราจะยับยั้งเอ็ทอนะ
00:04:56 → 00:04:58 ครับแต่เป็นสิ่งที่ไม่คุ้มเพราะว่าการใช้
00:04:58 → 00:05:00 ยาในกลุ่มยับยั้งเอทอมันจะไปกดภูมิต้าน
00:05:00 → 00:05:03 ทานของร่างกายเราแล้วก็เกิดผลเสียต่างๆ
00:05:03 → 00:05:06 ตามมามากมายนะครับอ่ะนี่คือสิ่งที่ยา
00:05:06 → 00:05:10 Kคเนี่ยมันทำที่สมองของเรานะครับอ่าแล้ว
00:05:10 → 00:05:12 นอกเหนือจากนั้นมันยังสามารถไปบล็อกตัว
00:05:12 → 00:05:16 นึงก็คือ mu opil receptor นะครับซึ่ง
00:05:16 → 00:05:18 พอมันไปจับกับตัว mu opil receptor
00:05:18 → 00:05:21 เนี่ยมันจะลดความเจ็บปวดในร่างกายได้อีก
00:05:21 → 00:05:24 วิธีหนึ่งด้วยนะครับนี่คือทั้งหมดที่มัน
00:05:24 → 00:05:26 ไปยุ่งกับสมองของเรานะและเราใช้ในทางการ
00:05:27 → 00:05:30 แพทย์เพื่อข้อ 1 นะครับลดความเจ็บปวดเช่น
00:05:30 → 00:05:33 สมมุติว่าคุณมาด้วยข้อสะโพกมันหลุดออกมา
00:05:33 → 00:05:36 ด้วยเหตุผลอะไรสักอย่างมันเจ็บมากเลยการ
00:05:36 → 00:05:38 ที่จะดึงข้อสะโพกให้มันเข้าที่ได้เนี่ย
00:05:38 → 00:05:40 ถ้าคุณยังเจ็บคุณก็จะเกรงกล้ามเนื้อนะ
00:05:40 → 00:05:42 ครับแล้วคุณก็จะไม่สามารถดึงมันได้ดัง
00:05:42 → 00:05:45 นั้นจึงมีการให้ยาลดความเจ็บปวดให้ยา
00:05:45 → 00:05:47 เคเนี่ยเพื่อที่จะทำให้คุณรู้สึกไม่เจ็บ
00:05:47 → 00:05:50 ปวดนะครับจำความเจ็บปวดไม่ได้รู้สึกตัว
00:05:50 → 00:05:52 เนี่ยแยกออกจากความเจ็บปวดนะครับดังนั้น
00:05:52 → 00:05:55 ก็จะสามารถที่จะดึงข้อเข้าที่ได้นะครับ
00:05:55 → 00:05:58 อันนี้ก็จะใช้อันหนึ่งอีกอันนึงก็จะใช้ใน
00:05:58 → 00:06:01 การผ่าตัดนำสลบนะครับใช้เสริมไปกับยาตัว
00:06:01 → 00:06:04 อื่นๆหรือที่ผมใช้ใน ICU เนี่ยก็จะมีคน
00:06:04 → 00:06:08 ไข้บางคนที่เราจำเป็นจะต้องให้ยาเพื่อที่
00:06:08 → 00:06:11 จะให้เค้าอ่าสลบนะครับหรือไม่มีความเจ็บ
00:06:11 → 00:06:13 ปวดแต่อย่างใดเวลาใส่ท่อชั่วหายใจหรือ
00:06:13 → 00:06:15 อะไรแบบเนี้ยนะครับเราก็จะใช้ยาเคสตามีน
00:06:15 → 00:06:19 แล้วเราจะใช้ในคนที่เค้ามีภาวะความดันต่ำ
00:06:19 → 00:06:21 นะครับเพราะว่ายาตุ่นอื่นที่ทำให้เขา้า
00:06:21 → 00:06:24 นอนหลับหรือสลบเนี่ยมันมักจะกดความดันได้
00:06:24 → 00:06:27 แต่ยาเคสตามีนเนี่ยตรงกันข้ามมันจะไม่กด
00:06:27 → 00:06:29 ความดันแต่มันจะเพิ่มความดันและเพิ่ม
00:06:29 → 00:06:33 อัตราการเต้นของหัวใจนะครับอันเนี้ยเป็น
00:06:33 → 00:06:35 สิ่งที่เราใช้ในทางการแพทย์และมีอีกอย่าง
00:06:36 → 00:06:38 นึงซึ่งเดี๋ยวเนี้ยเริ่มมีการใช้เพิ่มมาก
00:06:38 → 00:06:41 ขึ้นก็คือการใช้เคตามีนในการรักษาโรคซึม
00:06:41 → 00:06:44 เศร้าซึ่งดื้อยานะครับก็จะมีวิธี 2 แบบ
00:06:44 → 00:06:48 แบบแรกก็คือการฉีดแคตามินเข้าเส้นเลือดดำ
00:06:48 → 00:06:51 นะครับภายใต้การดูแลของจิตแพทย์อย่างใกล้
00:06:51 → 00:06:55 ชิดและแบบที่ 2 ก็คือจะเป็นยาเคตามีนชนิด
00:06:55 → 00:06:58 ที่ใช้สูตรเข้าไปในจมูกเราจะเรียกว่า
00:06:58 → 00:07:01 sคตามีนนะครับมีแบบเนี้ยเท่านั้นที่ใช้ใน
00:07:01 → 00:07:04 ทางการแพทย์แต่ต้องใช้ภายใต้การดูแลของ
00:07:04 → 00:07:06 แพทย์เท่านั้นนะครับถ้าคุณไปใช้ของตัวเอง
00:07:06 → 00:07:09 ปุ๊บเนี่ยไม่ดีทั้งนั้นบางคนอาจจะบอกว่า
00:07:09 → 00:07:11 นี่เห็นมั้ยในทางการแพทย์เนี่ยเค้าใช้
00:07:11 → 00:07:14 เพื่อระงับความเจ็บปวดใช้เพื่อแก้ไขโรค
00:07:14 → 00:07:16 ซึมเศร้าฉันเอามาใช้เองเนี่ยก็นี่ไง
00:07:16 → 00:07:19 อารมณ์ถึงดีไม่เห็นมีปัญหาเลยหมอก็ยังใช้
00:07:19 → 00:07:21 แล้วฉันก็ใช้ได้เหมือนหมอนั่นแหละก็ต้อง
00:07:21 → 00:07:23 บอกนะครับว่าพวกนี้เนี่ยมันใช้ไม่ถูกต้อง
00:07:23 → 00:07:26 แล้วก็จะเกิดผลเสพติดระยะยาวแล้วก่อให้
00:07:26 → 00:07:30 เกิดโรคได้นะครับนี่คือสิ่งที่ใช้ในทาง
00:07:30 → 00:07:33 การแพทย์แต่ถ้าพวกที่เขาใช้เสพติดเค้าทำ
00:07:33 → 00:07:37 ยังไงนะครับก็จะมีตั้งแต่ยา
00:07:37 → 00:07:41 เคมาเป็นผงสีขาวแล้วคุณก็สูดเข้าไปทาง
00:07:41 → 00:07:44 จมูกตรงๆนะครับอาจจะมีบางคนเคยได้ยินใน
00:07:44 → 00:07:48 รูปของเคนมผงนะลักษณะมันจะเป็นผงสีขาวๆ
00:07:48 → 00:07:50 เหมือนนมผงนั่นแหละแต่ว่าเค้ามักจะมีการ
00:07:50 → 00:07:53 ไปผสมกับอย่างอื่นที่ทำให้มันมีความ high
00:07:53 → 00:07:56 ความเมาได้ง่ายขึ้นเช่นผสมกับเฮโรอีนผสม
00:07:56 → 00:07:59 กับยาอีผสมยาไอซหรืออะไรพวกเนี้ยแล้วเอา
00:07:59 → 00:08:02 ไปใช้นี่คือเคนมผงอีกรูปแบบนึงที่มีใช้
00:08:02 → 00:08:07 กันก็คือลูกอมตี้หรือลูกอมปาร์ตี้นั่นเอง
00:08:07 → 00:08:10 อีกภาษานึงก็จะเรียกว่าลูกอมเมานะครับก็
00:08:10 → 00:08:14 จะมีการผสมยา K เข้ากับยาอื่นๆเช่นยาทราอ
00:08:14 → 00:08:16 ซึ่งเราเคยพูดไปแล้วนะครับยากลุ่ม
00:08:16 → 00:08:19 เบนโซไดซิปปีนนะครับเช่นฟลูไนตรแปมหรือ
00:08:19 → 00:08:22 ไนตรมพวกเนี้ยก็จะผสมเป็นเม็ดหนึก็คือ
00:08:22 → 00:08:24 สรุปแล้วในนั้นจะมียาหลายตัวมากคุณกิน
00:08:24 → 00:08:27 เข้าไปแล้วก็จะได้ยาหลากหลายชนิดส่งผลต่อ
00:08:27 → 00:08:30 ระบบประสาทเยอะแยะไปหมดนะครับและก็แน่นอน
00:08:30 → 00:08:32 ครับคนที่ใช้ยาพวกนี้ไม่ได้ใช้ยาพวกนี้
00:08:33 → 00:08:36 เดีี่ยวนะครับยังมีอย่างอื่นอีกเช่นดื่ม
00:08:36 → 00:08:39 เหล้าแอลกอฮอล์นะครับหรือบางคนเอายาเคพวก
00:08:39 → 00:08:41 เนี้ยใส่เข้าไปกับกัญชาหรือบุหรี่แล้วก็
00:08:41 → 00:08:44 สูบเข้าไปอีกนะนี่ก็จะได้ปัญหาเข้าไปหลาย
00:08:45 → 00:08:49 อย่างเลยทีเดียวทีนี้ถามว่ายาเขพวกเนี้ย
00:08:49 → 00:08:52 ใช้นานๆแล้วมันเป็นยังไงเออมันเป็นยังไง
00:08:52 → 00:08:55 นะครับต้องบอกอย่างงี้ครับประการแรกที่จะ
00:08:55 → 00:08:58 เกิดปัญหานะคือเรื่องของสมองก่อนเลยนะ
00:08:58 → 00:09:02 ครับมันจะหลอนครับอาจจะหลอนกลัวว่าใครจะ
00:09:02 → 00:09:06 มาทำร้ายมีคนวิ่งไล่นะครับการแสดงอารมณ์
00:09:06 → 00:09:10 เนี่ยจะหายหายไปบางคนเนี่ยใช้ไปนานๆปุ๊บ
00:09:10 → 00:09:14 เนี่ยจะเหมือนกับไม่ไม่แสดงอารมณ์จะเฉย
00:09:14 → 00:09:18 เมยไม่รู้เรื่องนะครับความคิดความอ่านก็
00:09:18 → 00:09:22 ไม่ดีความจำก็ไม่ได้พูดก็ช้าๆพูดก็ติดๆ
00:09:22 → 00:09:26 ขัดๆนะครับแล้วพวกเนี้ยถ้าคุณใช้ไปสัก
00:09:26 → 00:09:28 ระยะนึงแล้วคุณเลิกนะครับมันก็เป็นอย่าง
00:09:28 → 00:09:31 นี้เหมือนเดิมมันไม่หายสมองคุณเสียแล้ว
00:09:31 → 00:09:34 เสียถาวรก็มีนะครับแล้วเราบอกไม่ได้ด้วย
00:09:34 → 00:09:37 นะครับว่าสมองของเราอ่ะจะเกิดภาวะที่เสีย
00:09:37 → 00:09:41 ถาวรเมื่อไหร่บอกไม่ได้นะครับว่าเมื่อ
00:09:41 → 00:09:44 ไหร่ดังนั้นเนี่ยบางคนที่ใช้มานานๆแล้ว
00:09:44 → 00:09:45 หยุดปุ๊บ
00:09:45 → 00:09:48 เนี่ยอาจจะโชคดีกลับมาเป็นแบบเดิมได้แต่
00:09:48 → 00:09:51 บางคนก็ไม่กลับมาเป็นแบบเดิมอีกตลอดชีวิต
00:09:51 → 00:09:53 ไม่ว่าคุณจะทำยังไงมันก็ไม่เหมือนเดิม
00:09:53 → 00:09:56 ครับคุณจะเป็นคนที่คิดช้าจำอะไรไม่ได้
00:09:56 → 00:09:59 สมาธิก็ไม่มีนะครับพูดก็ไม่ค่อยต่อเนื่อง
00:09:59 → 00:10:02 นะฮะบวกเลขในหัวก็บวกไม่ได้โดนเ้าหลอก
00:10:02 → 00:10:05 อยู่เรื่อยๆนะครับจำเรื่องใหม่ก็จำไม่ได้
00:10:05 → 00:10:07 ความคิดสร้างสรรค์ก็ไม่มีการแสดงอารมณ์ก็
00:10:07 → 00:10:10 ไม่ได้ทำหน้าเป็นคนเฉยเมยทื่อๆเหมือนกับ
00:10:10 → 00:10:13 เป็นซอมบี้อย่างงั้นนะฮะนี่คือผลต่อสมอง
00:10:13 → 00:10:16 นะครับที่เจอได้อีกอย่างนึงที่เจอก็คือ
00:10:16 → 00:10:20 เรื่องของความดันโลหิตครับยาKเนี่ยหรือ
00:10:20 → 00:10:22 เคสตามีนมันจะเป็นยาที่เพิ่มความดันโลหิต
00:10:22 → 00:10:25 ของเราเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและถ้า
00:10:25 → 00:10:28 เกิดคุณเสพเข้าไปมากๆความดันสูงมากๆบางคน
00:10:28 → 00:10:32 ก็เส้นเลสมองแตกตายไปเลยนะครับแล้วบางคน
00:10:32 → 00:10:35 ใจสั่นมากๆจากการที่เคตามินไปกระตุ้นหัว
00:10:35 → 00:10:38 ใจมากๆเป็นไงครับหัวใจเต้นผิดปกติก็ตายไป
00:10:38 → 00:10:40 เลยได้เหมือนกันส่วนใครจะตายช้าตายเร็ว
00:10:40 → 00:10:42 เนี่ยบอกไม่ได้เหมือนกันนะครับมันเกิด
00:10:42 → 00:10:45 ขึ้นได้กับใครก็ได้และเมื่อไหร่ก็ได้ด้วย
00:10:45 → 00:10:48 นะฮะนี่เกิดจากการที่ใช้ไปสักระยะนึงนะฮะ
00:10:48 → 00:10:51 ยาเคตามีนยังมีฤทธิ์ในการกดภูมิต้านทาน
00:10:51 → 00:10:54 ครับคนพวกเนี้ยก็จะป่วยง่ายบางคนอาจจะบอก
00:10:54 → 00:10:55 ว่าเอ๊ะฉันไม่เห็นจะป่วยอะไรเลยใช้มาตั้ง
00:10:55 → 00:10:57 นานแล้วไม่เห็นเป็นไรหมอคิดไปเองหรือ
00:10:57 → 00:11:00 เปล่าหมอไม่ใช่คนใช้จะรู้ดีไปกว่าพวกเรา
00:11:00 → 00:11:02 ได้ยังไงนะครับก็ต้องบอกอย่างี้ครับว่า
00:11:02 → 00:11:05 มันทำลายร่างกายคุณไปแล้วครับและยา
00:11:05 → 00:11:07 เคตามีนเนี่ยมันไปทำให้เซลล์เซลล์นึงทำ
00:11:08 → 00:11:10 งานไม่ค่อยดีนั่นก็คือ NK cell หรือ
00:11:10 → 00:11:12 Natural Killer Cell เซลล์ตัวเนี้ยมี
00:11:12 → 00:11:15 หน้าที่ในการกำจัดพวกเชื้อต่างๆที่เข้ามา
00:11:15 → 00:11:17 ในร่างกายเซลล์ซึ่งมีการติดไวรัสเซลล์
00:11:17 → 00:11:20 ซึ่งเป็นมะเร็งก็ต้องอาศัยตัว NK เซลล์ใน
00:11:20 → 00:11:22 การกำจัดนะครับถ้าคุณใช้เป็นเวลานานๆ NK
00:11:22 → 00:11:24 เซลล์ทำงานไม่ได้โรคต่างๆเหล่าเนี้ย
00:11:24 → 00:11:27 เดี๋ยวมันก็จะผุดขึ้นมาเรื่อยๆนะครับเคย
00:11:27 → 00:11:29 มีเคสบางคนที่ใช้ยาเคไปเรื่อยๆแล้วเกิด
00:11:29 → 00:11:32 เป็นงูสวัดขึ้นมาแล้วมันไม่ยอมหายด้วยนะ
00:11:32 → 00:11:34 ครับขึ้นมาเรื่อยๆเดี๋ยวก็เริมเดี๋ก็งู
00:11:34 → 00:11:36 สวัดขึ้นสลับกันเป็นอย่างเงี้ยนะครับสุด
00:11:36 → 00:11:39 ท้ายก็ต้องเจอว่าอ้อเค้าใช้ยาเคก็ต้องไป
00:11:39 → 00:11:41 หยุดมันถึงจะหายไปนะครับไม่งั้นก็ไม่หาย
00:11:41 → 00:11:45 ตลอดชีวิตเนี่ยแหละเป็นสิ่งที่น่ากังวลนะ
00:11:45 → 00:11:48 ครับยาเคตามีนยังทำให้เกิดปัญหาเรื่องของ
00:11:48 → 00:11:51 ต่ำอักเสบได้นะครับบางคนต่ำอักเสบแล้วก็
00:11:51 → 00:11:53 จะเป็นต่ำอักเสบเรื้อรังแล้วไม่หายเลยถึง
00:11:53 → 00:11:57 แม้ว่าคุณจะหยุดยาไปแล้วก็ตามนะครับยา
00:11:57 → 00:11:59 แคตามีนเนี่ยต้องบอกว่าเวลาที่มันทำให้
00:11:59 → 00:12:02 ตับอักเสบเนี่ยนะครับตอนแรกคุณไม่มีอาการ
00:12:02 → 00:12:05 อะไรทั้งสิ้นเลยคุณจะเหมือนปกติติเลยนะ
00:12:05 → 00:12:08 ครับมันจะมีอาการก็ต่อเมื่อมันเป็นหนัก
00:12:08 → 00:12:11 แล้วเท่านั้นเช่นมีการเคลื่อนไส้อาเจียน
00:12:11 → 00:12:15 ปวดจุกท้องด้านขวานะครับแล้วตอนนั้นไป
00:12:15 → 00:12:17 ตรวจก็จะเจอว่าอุ๊ยตับมันอักเสบไปเยอะและ
00:12:17 → 00:12:21 มีน้ำดีคั่งในร่างกายไอ้พวกนี้นั่นแหละ
00:12:21 → 00:12:24 ถ้าโชคดีนะหยุดยาก็หายแต่ถ้าโชคร้ายหยุด
00:12:24 → 00:12:27 ยาไปมันก็ไม่หายครับนะฮะอันนี้เราพูดถึง
00:12:27 → 00:12:31 เรื่องของสมองเรื่องของหัวใจเรื่องของตับ
00:12:31 → 00:12:33 นะเรื่องของภูมิต้านทานไปแล้วมีอีกอย่าง
00:12:33 → 00:12:34 นึง
00:12:34 → 00:12:36 ซึ่งผมเชื่อว่าหมอหลายคนก็ไม่รู้เหมือน
00:12:36 → 00:12:40 กันนี่เราพูดมาถึงตรงนี้นะครับหมอหลายคน
00:12:40 → 00:12:42 รับรองได้เลยว่าไม่รู้ตรงนี้แน่ๆเกี่ยว
00:12:42 → 00:12:46 ข้องกับยาKคนั่นก็คือยาKคสามารถทำให้
00:12:46 → 00:12:51 กระเพาะปัสสาวะอักเสบได้อ่าเราจะเรียก
00:12:51 → 00:12:54 ภาวะนี้ว่า alerative systitis นะครับ
00:12:54 → 00:12:57 คือในกระเพาะปัสสาวะเนี่ยมันจะเป็นแผล
00:12:57 → 00:13:00 เต็มไปหมดเลยนะครับแล้วปล่อยไปนานๆบางที่
00:13:00 → 00:13:03 ก็จะกลายไปเป็นพังผืดอยู่ในกระเพาะนะครับ
00:13:03 → 00:13:06 ถ้ามันเป็นอย่างนี้ขึ้นมาแล้วเนี่ยวิธี
00:13:06 → 00:13:10 รักษานะครับคือต้องหยุดยาแล้วก็รอเวลา
00:13:10 → 00:13:12 เท่านั้นว่ามันจะดีหรือไม่ดีนะครับอาการ
00:13:12 → 00:13:15 ของคนที่เป็นภาวะนี้นะฮะมันก็จะมีอาการ
00:13:15 → 00:13:20 ปัสสาวะแสบขัดปวดหน่วงท้องน้อยที่ทำยังไง
00:13:20 → 00:13:23 มันก็ไม่หายไปหาหมอที่ไหนเนี่ยก็บอกเลย
00:13:23 → 00:13:26 ครับว่าไม่มีทางหรือโอกาสน้อยมากที่หมอ
00:13:26 → 00:13:30 เขาจะรู้จักภาวะ alerative
00:13:30 → 00:13:34 syst นะครับไม่มีคนไหนรู้จักเรื่องนี้
00:13:34 → 00:13:37 แน่ๆดังนั้นเวลาคุณไปหาหมอไม่ว่าจะหมอทาง
00:13:37 → 00:13:39 เดินปัสสาวะหมอโรคเพศสัมพันธ์อะไรเค้าก็
00:13:39 → 00:13:44 จะบอกว่าเออคุณอาจจะเป็นนิ่วในกระเพาะ
00:13:44 → 00:13:46 ปัสสาวะก็ได้มั้งนิ่้วในในอะไรพวกเนี้ย
00:13:46 → 00:13:48 คุณกินน้ำก็เยอะๆแล้วกันนะครับหรือบางคน
00:13:48 → 00:13:50 ก็คิดว่าเอ๊ะตัวเองไปมีเพศสัมพันธ์กับใคร
00:13:51 → 00:13:54 เราก็ไปติดโรคมาหรือเปล่าก็ไปหาเภสัตขอยา
00:13:54 → 00:13:56 ที่เอามาใช้ในการรักษาโรคหนองในแท้หนองใน
00:13:56 → 00:13:58 เทียมหรือโรคอะไรก็แล้วแต่กินยาไม่เห็น
00:13:58 → 00:14:01 มันหายเลยทำยังไงก็ไม่หาย
00:14:02 → 00:14:05 นั่นแหละครับอาจจะเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะ
00:14:05 → 00:14:09 อักเสบจากยาเคตามีนก็ได้และต่อให้คุณไปหา
00:14:09 → 00:14:11 ใครนะครับถ้าเป็นหมอที่ไม่รู้จักซึ่งผม
00:14:11 → 00:14:13 บอกก่อนเลยนะหมอที่รู้จักโรคเนี้ยมีน้อย
00:14:13 → 00:14:17 มากๆมีน้อยมากคุณไปถามหมอหลายคนเลยไม่รู้
00:14:17 → 00:14:19 จักภาวะนี้หรอกดังนั้นโอกาสที่คุณจะได้
00:14:19 → 00:14:21 รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องเนี่ยมันแทบไม่
00:14:21 → 00:14:24 มีเลยครับนะฮะแล้วถ้าเกิดคุณวินิจฉัยว่า
00:14:24 → 00:14:27 เป็นโรคนี้แล้วเนี่ยสิ่งที่คุณต้องทำก็
00:14:27 → 00:14:31 คือหยุดยาเคตามินไปแล้วก็รอเวลาครับหมอเ
00:14:31 → 00:14:33 อาจจะให้ยาที่มันลดการบีบเกร็งของกล้าม
00:14:33 → 00:14:35 เนื้อในกระเพาะปัสสาวะเพื่อลดอาการปวดก็
00:14:35 → 00:14:39 ได้นะครับแต่มันก็ทำได้แค่นั้นครับบางคน
00:14:39 → 00:14:41 ถ้ามันเป็นมากแล้วเป็นแผลเต็มกระเพาะไป
00:14:41 → 00:14:44 หมดเนี่ยถ้าโชคร้ายจริงๆนะคุณต้องตัด
00:14:44 → 00:14:45 กระเพาะปัสสาวะ
00:14:45 → 00:14:49 ทิ้งตัดกระเพาะปัสสาวะทิ้งเลยแล้วคุณจะ
00:14:49 → 00:14:53 ฉี่ยังไงอ่ะทำท่อปัสสาวะเทียมเออให้มัน
00:14:53 → 00:14:57 ออกมาปัสสาวะตรงด้านหน้าท้องเงี้ยอาจจะ
00:14:57 → 00:14:58 เป็นอย่างงั้นก็ได้นะ
00:14:58 → 00:15:03 ครับและบางคนโชคร้ายกว่านั้นคือไอ้
00:15:03 → 00:15:06 กระเพาะปัสสาวะที่มันอักเสบมากๆเนี่ยมัน
00:15:06 → 00:15:09 ทำให้ปัสสาวะท้นกลับเข้าไปที่ไตครับเป็น
00:15:09 → 00:15:14 ไรครับปัสสาวะทนไปที่ไตไตวายครับไตวาย
00:15:14 → 00:15:18 แล้วรักษาได้มั้ยไม่ได้แล้วครับนั่นคือ
00:15:18 → 00:15:22 สายเกินไปแล้วดังนั้นนี่แหละคือผลข้าง
00:15:22 → 00:15:25 เคียงของการใช้ยาเคสตามินเป็นเวลานานนะ
00:15:25 → 00:15:29 ครับนานแค่ไหนยิ่งนานมันก็ยิ่งเกิดปัญหา
00:15:29 → 00:15:32 บางคนไม่เกิดปัญหาตอนนี้มันก็เกิดปัญหาใน
00:15:32 → 00:15:35 อนาคตได้บางคนรู้สึกว่าไม่มีปัญหาแต่มัน
00:15:35 → 00:15:38 มีปัญหาไปแล้วก็ได้แล้วคุณจะรู้ได้ยังไง
00:15:38 → 00:15:42 ว่าคุณมีปัญหาคุณลองหยุดมันสิลองหยุดมัน
00:15:42 → 00:15:45 สิดูซิว่าคุณมีอาการปกติมยนะครับลองให้
00:15:46 → 00:15:48 เพื่อนของคุณดูก็ได้ว่าหลังจากคุณหยุดยาว
00:15:48 → 00:15:51 ไปแล้วเนี่ยเกิดอะไรขึ้นกับคุณถ้าเกิดคุณ
00:15:51 → 00:15:54 ล่องรอยเฉยเหมือนเป็นซอมบี้ไม่รู้เรื่อง
00:15:54 → 00:15:56 อะไรเลยหลอนขึ้นมาเห็นผีเห็นอะไรอย่าง
00:15:56 → 00:15:59 เงี้ยนะครับทำงานไม่ได้เลยนะครับมีความ
00:16:00 → 00:16:03 สัมพันธ์กับใครก็ไม่ได้คุยกับใครก็ไม่ได้
00:16:03 → 00:16:05 เออนั่นแหละครับ
00:16:05 → 00:16:09 ปัญหานะครับว่าคุณติดมันไปแล้วและยังไม่
00:16:09 → 00:16:12 พอครับยาแคตามินเนี่ยยังทำให้ความต้องการ
00:16:12 → 00:16:16 ทางเพศเนี่ยลดลงแล้วที่สำคัญครับบางคนไม่
00:16:16 → 00:16:17 ใช่แค่ความต้องการทางเพศนะครับแต่
00:16:18 → 00:16:20 สมรรถภาพทางเพศอ่ะลดลง
00:16:20 → 00:16:23 ด้วยแล้วผมมั่นใจเลยนะครับคนที่ใช้ยา
00:16:23 → 00:16:26 เนี่ยก็มักจะไม่ได้ใช้ยาตัวเดียวครับก็จะ
00:16:26 → 00:16:28 ต้องมีการไปใช้ยาตัวอื่นเช่นอาจจะใช้
00:16:29 → 00:16:33 tramandal ใช้ยากลุ่มbenซิปนนะครับอ่า B5
00:16:33 → 00:16:37 หรืออะไรพวกเนี้ยหลากหลายชนิดนะหรือ
00:16:37 → 00:16:40 โปรโคodิลโปรตาซีนอย่างที่ผมเคยเล่าไป
00:16:40 → 00:16:44 แล้วนะฮะหรือบางคนก็ใช้ตัวโคเดอีนอ่านี่
00:16:44 → 00:16:46 เหมือนกันนะครับใช้หลายๆอย่างปนกันก็จะ
00:16:46 → 00:16:48 มั่วไปหมดสุดท้ายเนี่ยร่างกายก็จะมีปัญหา
00:16:48 → 00:16:52 แล้วก็ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายระยะยาวได้
00:16:52 → 00:16:54 โดยที่คุณก็ไม่รู้ตัวด้วยและต่อให้คุณรู้
00:16:54 → 00:16:57 ตัวคุณหยุดไปมันก็ไม่กลับมาเป็นปกติอีก
00:16:57 → 00:17:00 แล้วเพราะว่าคุณใช้ไปนานแล้วโดยที่มีข้อ
00:17:00 → 00:17:03 อ้างต่างๆนานาว่าใช้แล้วมันไม่มีปัญหา
00:17:03 → 00:17:05 แล้วก็มักจะมาคอมเมนต์ในช่องผมเดี๋ผมมั่น
00:17:05 → 00:17:07 ใจเลยว่าผมพูดไปเนี่ยเดี๋ยวก็จะมีพวก
00:17:07 → 00:17:10 เรียนเนี่ยที่เป็นขี้ยาทั้งหลายแหลนะครับ
00:17:10 → 00:17:13 ก็คงจะมาคอมเมนต์อยู่เรื่อยๆนะฮะเพราะว่า
00:17:13 → 00:17:16 คุณเป็นคนขี้ขลาดนั่นเองไม่ใช่แค่ขี้ยางเ
00:17:16 → 00:17:19 ขี้ขลาดด้วยขี้ขลาดตาขาวป๊อตไม่ได้เรื่อง
00:17:19 → 00:17:21 ชีวิตนี้ก็ไม่มีอะไรดีแล้วคุณก็ไม่ยอม
00:17:22 → 00:17:24 เลิกซะด้วยนะครับแต่ถ้าเกิดว่าคนไหนที่
00:17:24 → 00:17:27 เป็นคนที่แน่จริงกล้าหาญกล้ายอมรับว่าตัว
00:17:27 → 00:17:31 เองเนี่ยมีอาการติดยาและต้องการจะเลิกยา
00:17:31 → 00:17:33 จริงๆนะอันเนี้ยผมต้องขอชมเชยว่าคุณแน่
00:17:34 → 00:17:38 จริงๆนะครับแล้วการเลิกยาเขไม่ใช่ของง่าย
00:17:38 → 00:17:40 ผมแนะนำว่าคุณควรจะต้องปรึกษาทางด้าน
00:17:40 → 00:17:42 จิตตแพทย์เสมอเพราะว่าหลังจากที่คุณหยุด
00:17:42 → 00:17:46 ยาเคกระทันหันเนี่ยหลายคนนะครับมีภาวะซึม
00:17:46 → 00:17:51 เศร้ามีภาวะหลอนจิตตกได้นะครับบางคนอาจจะ
00:17:51 → 00:17:54 นอนหลับมากไปบางคนอาจจะนอนไม่หลับเลยนะ
00:17:54 → 00:17:57 ครับบางคนอาจจะมีปัญหาอื่นๆตามมาเยอะแยะ
00:17:57 → 00:17:59 ดังนั้นเนี่ยมันจะแก้ด้วยตัวเองอ่ะลำบาก
00:17:59 → 00:18:03 มากดังนั้นควรจะปรึกษาจิตแพทย์เสมอแต่
00:18:03 → 00:18:05 สิ่งที่คุณทำได้ด้วยตัวเองนั่นก็คือการ
00:18:05 → 00:18:07 ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนะครับการหลีก
00:18:07 → 00:18:10 เลี่ยงคนที่เขาใช้ยาพวกเนี้ยเพื่อคุณจะ
00:18:10 → 00:18:12 ได้ไม่กลับไปใช้มันอีกนะครับการเอา
00:18:12 → 00:18:14 อุปกรณ์ที่คุณใช้เสพทั้งหมดทิ้งไปให้หมด
00:18:14 → 00:18:17 เลยแล้วก็เบอร์คนไหนที่เป็นเอเยนให้คุณ
00:18:17 → 00:18:19 เนี่ยคุณตัดทิ้งไปให้หมดจะได้ไม่มีใครติด
00:18:19 → 00:18:21 ต่อมาแล้วก็เสนอว่าเอ้ยตอนนี้มียาราคาถูก
00:18:21 → 00:18:24 มานะคุณจะใช้หรือเปล่าตัดออกไปให้หมด
00:18:24 → 00:18:25 เที่ยวกลางคืนเนี่ยไม่ต้องไปเลยครับเพราะ
00:18:25 → 00:18:27 ว่านั่นคือแหล่งที่คุณจะไปติดมันมาได้
00:18:27 → 00:18:30 นั่นแหละนะฮะงั้นวันนี้ผมก็หวังว่าสิ่ง
00:18:30 → 00:18:32 ที่ผมเล่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนถ้า
00:18:32 → 00:18:34 เป็นผู้ใหญ่ก็จะได้ตามทันว่าเอ้ยเคนมผง
00:18:34 → 00:18:38 คืออะไรลูกอมเมาคืออะไรลูกอมตี้คืออะไรนะ
00:18:38 → 00:18:41 ครับยาเคมันไปทำอะไรกับสมองของเราได้บ้าง
00:18:41 → 00:18:43 แล้วเราจะแก้ไขมันได้ยังไงก็ต้องรีบๆใน
00:18:44 → 00:18:47 การไปหยุดการใช้ของมันซะก่อนบางคนอาจจะ
00:18:47 → 00:18:50 เป็นผลข้างเคียงระยะแบบต้นๆซึ่งคุณแก้ไข
00:18:50 → 00:18:53 มันได้แต่บางคนถ้าแก้ไม่ทันมันก็จะเป็นผล
00:18:53 → 00:18:55 ข้างเคียงระยะระยะยาวซึ่งไม่มีทางหายนะผม
00:18:55 → 00:18:57 บอกไว้ก่อนไม่ว่าคุณจะไปหาหมอคนไหนมันก็
00:18:57 → 00:19:00 แก้ไม่ได้ครับและอย่าลืมเรื่องของ
00:19:01 → 00:19:04 alerative sistitis หรือเรียกว่า Kamine
00:19:04 → 00:19:06 Bladder Syndrome เนี่ยถ้าเกิดขึ้นแล้ว
00:19:06 → 00:19:10 นะครับแก้ยากแก้ยากมากนะครับบางคนโชคดี
00:19:10 → 00:19:13 หายได้บางคนโชคร้ายก็ไม่หายนะครับโอเควัน
00:19:13 → 00:19:15 นี้ผมก็ขอเล่าให้ฟังเพียงเท่านี้นะครับ
00:19:15 → 00:19:18 หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนที่เข้า
00:19:18 → 00:19:20 มาฟังนะครับถ้าใครกำลังเลิกอยู่ก็ขอเป็น
00:19:20 → 00:19:22 กำลังใจให้ทำได้สำเร็จนะครับคุณแน่มากที่
00:19:22 → 00:19:25 ทำได้นะครับโอเควันนี้เท่านี้นะครับ
00:19:25 → 00:19:28 ขอบคุณมากครับสวัสดี