ยาสลบเฉพาะที่ทำงานอย่างไร

ยาสลบทำงานอย่างไร - Steven Zheng

จากช่อง : จงใฝ่รู้อยู่เสมอ — TED-Ed


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0600:00:07 หากคุณเคยเข้ารับการผ่าตัด

00:00:0700:00:11 อาจจำได้ว่าตัวเองนับถอยหลังจาก 10...

00:00:1100:00:12

00:00:1200:00:13

00:00:1300:00:18 แล้วก็ตื่นมาพบว่าผ่าตัดเสร็จแล้ว ก่อนนับถึง 5 ด้วยซ้ำ

00:00:1800:00:21 คุณอาจรู้สึกเหมือนคุณหลับไป แต่จริง ๆ แล้ว ไม่ใช่

00:00:2100:00:23 คุณถูกวางยาสลบ

00:00:2300:00:25 ซึ่งซับซ้อนกว่านั้นมาก

00:00:2500:00:26 คุณหมดสติ

00:00:2600:00:28 ทั้งยังเคลื่อนไหวไม่ได้

00:00:2800:00:29 จำอะไรไม่ได้

00:00:2900:00:32 และหวังว่าจะไม่รู้สึกเจ็บด้วย

00:00:3200:00:35 หากหยุดกระบวนการเหล่านี้ ทั้งหมดไม่ได้พร้อมกัน

00:00:3500:00:39 การผ่าตัดคงสร้างความบอบช้ำเกินไป

00:00:3900:00:42 ตำราการแพทย์โบราณของ อียิปต์ เอเชีย และตะวันออกกลาง

00:00:4200:00:44 ต่างระบุไว้ว่ายาสลบในยุคแรกเริ่ม

00:00:4400:00:46 มีส่วนผสมของดอกฝิ่น

00:00:4600:00:48 ผลแมนเดรก

00:00:4800:00:49 และแอลกอฮอล์

00:00:4900:00:52 ปัจจุบัน วิสัญญีแพทย์ ผสม

00:00:5200:00:56 สารออกฤทธิ์เฉพาะที่ สารสูดดม และสารฉีดเข้าหลอดเลือด

00:00:5600:00:58 เพื่อให้เหมาะกับการผ่าตัดนั้น ๆ

00:00:5800:01:03 ยาสลบเฉพาะที่ระงับความเจ็บปวด จากส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย

00:01:0300:01:04 ไม่ให้ส่งไปถึงสมอง

00:01:0400:01:10 ความเจ็บปวดและความรู้สึกต่าง ๆ เดินทางผ่านระบบประสาทในรูปคลื่นไฟฟ้า

00:01:1000:01:14 ยาสลบเฉพาะที่ออกฤทธิ์ โดยสร้างแนวกั้นคลื่นไฟฟ้า

00:01:1400:01:18 ดักจับโปรตีน ในเนื้อเยื่อเซลล์ประสาท

00:01:1800:01:20 ที่ควบคุมการเข้าออกของประจุไฟฟ้า

00:01:2000:01:23 และยับยั้งไม่ให้ประจุบวกไหลเข้ามา

00:01:2300:01:26 สารประกอบที่ออกฤทธิ์เช่นนี้คือ โคเคน

00:01:2600:01:29 ซึ่งเราพบว่ามีฤทธิ์ระงับปวดโดยบังเอิญ

00:01:2900:01:33 เมื่อโคเคนโดนลิ้นของจักษุแพทย์ฝึกหัด

00:01:3300:01:37 โคเคนยังใช้เป็นยาสลบบ้างเป็นครั้งคราว

00:01:3700:01:39 แต่มียาสลบเฉพาะที่อีกหลายชนิดที่ใช้บ่อยกว่า

00:01:3900:01:43 ที่มีโครงสร้างทางเคมีคล้ายกัน และมีกลไกการทำงานเหมือนกัน

00:01:4300:01:46 แต่สำหรับการผ่าตัดใหญ่ ที่ต้องทำให้คนไข้หมดสติ

00:01:4600:01:49 จำเป็นต้องใช้ยาที่ออกฤทธิ์ ต่อระบบประสาททั้งหมด

00:01:4900:01:51 รวมถึงสมองด้วย

00:01:5100:01:54 นั่นเป็นหน้าที่ของยาสลบแบบสูดดม

00:01:5400:01:58 ในการแพทย์แผนตะวันตก ไดเอทิล อีเทอร์เป็นยาที่ใช้แพร่หลายชนิดแรก

00:01:5800:02:01 รู้จักกันในฐานะยาที่เสพเพื่อผ่อนคลาย

00:02:0100:02:05 จนกระทั่งแพทย์สังเกตว่า บางครั้งผู้ใช้ยา

00:02:0500:02:08 ไม่รู้ตัวว่าตนได้รับบาดเจ็บ เมื่ออยู่ใต้ฤทธิ์ยา

00:02:0800:02:12 ในช่วงปี พ.ศ. 2383 แพทย์เริ่มใช้อีเทอร์ ทำให้ผู้ป่วยสงบ

00:02:1200:02:15 ระหว่างถอนฟันและผ่าตัด

00:02:1500:02:19 ในทศวรรษถัดมา ไนตรัสออกไซด์เริ่มกลายเป็นที่นิยม

00:02:1900:02:20 และยังใช้มาจนถึงทุกวันนี้

00:02:2000:02:25 แม้ว่าอนุพันธ์ของอีเทอร์ อย่างเซโวฟลูเรนจะหาได้ง่ายกว่าแล้วก็ตาม

00:02:2500:02:30 ยาสลบแบบสูดดมนั้น มักเสริมด้วยยาสลบแบบฉีดเข้าหลอดเลือด

00:02:3000:02:32 ซึ่งคิดค้นขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2413

00:02:3200:02:36 ยาสลบชนิดฉีดเข้าหลอดเลือด มีทั้งระงับประสาท อย่าง โพรโพฟอล

00:02:3600:02:37 ซึ่งทำให้ไม่รู้สึกตัว

00:02:3700:02:42 และสารอนุพันธ์ฝิ่นอย่าง เฟนทานิล ซึ่งลดความเจ็บปวด

00:02:4200:02:44 นอกจากนั้น ยาสลบเหล่านี้ ยังออกฤทธิ์

00:02:4400:02:47 ด้วยการส่งผลต่อสัญญาณไฟฟ้า ภายในระบบประสาท

00:02:4700:02:51 ปกติแล้ว สัญญาณไฟฟ้าภายในสมอง จะทำงานวุ่นวาย

00:02:5100:02:55 ระหว่างที่สมองส่วนต่าง ๆ ติดต่อสื่อสารกัน

00:02:5500:02:58 การติดต่อสื่อสารนี้ ทำให้เราตื่นและรู้ตัว

00:02:5800:03:00 แต่สำหรับคนที่ถูกวางยาสลบ

00:03:0000:03:03 สัญญาณเหล่านี้จะสงบลง และทำงานเป็นระบบมากขึ้น

00:03:0300:03:05 อันแปลว่าสมองส่วนต่าง ๆ

00:03:0500:03:08 หยุดสื่อสารระหว่างกัน

00:03:0800:03:12 ยังมีอีกหลายอย่างที่เรายังไม่รู้ ว่าทำไมยาจึงออกฤทธิ์เช่นนี้

00:03:1200:03:18 ยาสลบโดยทั่วไปนั้นจะจับกับ ตัวรับ จีเอบีเอ-เอ ภายในเซลล์ประสาท

00:03:1800:03:20 ซึ่งเปิดช่องทางไว้

00:03:2000:03:25 ให้ประจุไฟฟ้าขั้วลบไหลผ่านเข้าสู่เซลล์

00:03:2500:03:28 ประจุไฟฟ้าขั้วลบจะสะสม และก่อตัวเป็นแนวกั้น

00:03:2800:03:31 ไม่ให้เซลล์ประสาทส่งสัญญาณไฟฟ้าผ่านไปได้

00:03:3100:03:35 ระบบประสาทประกอบด้วย ช่องทางเช่นนี้จำนวนมาก

00:03:3500:03:37 ทำหน้าที่ควบคุมวิถีประสาทสั่งการ

00:03:3700:03:38 ความทรงจำ

00:03:3800:03:39 และสติ

00:03:3900:03:42 ยาสลบส่วนใหญ่ น่าจะส่งผลได้มากกว่าหนึ่งอย่าง

00:03:4200:03:45 และไม่ได้ส่งผล เฉพาะแต่ระบบประสาทเท่านั้น

00:03:4500:03:47 ยาสลบหลายชนิดยังส่งผลถึงหัวใจ

00:03:4700:03:48 ปอด

00:03:4800:03:50 และอวัยวะสำคัญอื่น ๆ อีกด้วย

00:03:5000:03:52 เช่นเดียวกับยาสลบในสมัยก่อน

00:03:5200:03:55 ที่มีส่วนผสมที่เป็นพิษที่เรารู้จักดี อย่าง เฮมล็อค และอะโคไนต์

00:03:5500:03:58 ยาสลบในปัจจุบัน ก็อาจมีผลข้างเคียงรุนแรงเช่นกัน

00:03:5800:04:02 ดังนั้นวิสัญญีแพทย์ จึงต้องผสมยาต่าง ๆ ในปริมาณที่เหมาะสม

00:04:0200:04:04 เพื่อให้ได้ยาสลบที่มีคุณสมบัติครบถ้วน

00:04:0400:04:08 ในขณะที่ต้องคอยสังเกต สัญญาณชีพผู้ป่วย

00:04:0800:04:10 และปรับขนาดยาให้เหมาะกับผู้ป่วยไปด้วย

00:04:1000:04:13 การวางยาสลบเป็นศาสตร์ซับซ้อน

00:04:1300:04:14 แต่การค้นหาวิธีใช้ยาสลบ

00:04:1400:04:18 ก่อให้เกิดเทคนิคและวิธีการผ่าตัดใหม่ ๆ ที่ก้าวหน้ากว่าเดิม

00:04:1800:04:23 ทำให้ศัลยแพทย์สามารถผ่าท้องคลอด ได้อย่างมีแบบแผนและปลอดภัย

00:04:2300:04:25 ขยายเส้นเลือดตีบ

00:04:2500:04:27 เปลี่ยนถ่ายตับและไตที่เสียหาย

00:04:2700:04:30 และผ่าตัดอีกหลายอย่างที่ช่วยชีวิตคนไข้ได้

00:04:3000:04:33 แต่ละปี มีการคิดค้นเทคนิคการวางยาสลบใหม่ ๆ

00:04:3300:04:38 เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีผู้ป่วย รอดชีวิตจากการผ่าตัดมากขึ้น