ยาขยายหลอดเลือดมีบทบาทอย่างไรในการรักษาโรคหลอดเลือด

อย่าสับสน! ยาละลายลิ่มเลือด กับ ยาต้านเกร็ดเลือด ต่างกันอย่างไร? 4กลุ่มยาสำคัญ | สุขภาพสนทนา Podcast

จากช่อง : สุขภาพสนทนา


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:02 คุณเคยได้ยินชื่อยาเหล่านี้ไหมคะยาต้าน

00:00:0300:00:06 เกริดเลือดยาขยายหลอดเลือดหรือยาหลิ่ม

00:00:0600:00:09 เลือดบางครั้งชื่อที่คล้ๆกันก็ทำให้เรา

00:00:0900:00:12 สับสนว่ายาพวกนี้ต่างกันอย่างไรและถ้าเรา

00:00:1200:00:15 กำลังกินยาที่ถูกประเภทอยู่หรือเปล่า

00:00:1500:00:18 >> เป็นคำถามที่เจอบ่อยมากครับโดยเฉพาะใน

00:00:1800:00:20 กลุ่มผู้ใหญ่และผู้สูงอายุที่ต้องดูแลตัว

00:00:2000:00:23 เองเรื่องโรคหลอดเลือดหัวใจหรือเส้นเลือด

00:00:2300:00:26 ในสมองเพราะยาเหล่านี้คือตัวเอกในการ

00:00:2600:00:29 รักษาเลยก็ว่าได้แต่หากไม่เข้าใจใช้ผิด

00:00:2900:00:32 วิธีหรือสับสนมันอาจกลายเป็นตัวร้ายที่

00:00:3300:00:35 ส่งผลอันตรายต่อเราได้เลยนะครับ

00:00:3500:00:38 >> ฟังดูน่ากังวลเลยนะคะวันนี้สุขภาพสนทนา

00:00:3800:00:41 จึงจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ 4 กลุ่ม

00:00:4100:00:44 ยาสำคัญที่เกี่ยวข้องกับโรคนี้แบบเจาะลึก

00:00:4400:00:46 แต่จะอธิบายให้เข้าใจง่ายค่ะ

00:00:4600:00:50 >> และเช่นเคยครับสร้างสุขภาพดีเริ่มต้นจาก

00:00:5000:00:51 ความเข้าใจ

00:00:5100:00:54 >> หากคุณไม่อยากพลาดเคล็ดลับสุขภาพดีๆที่

00:00:5400:00:57 เข้าใจง่ายกดติดตามช่องสุขภาพสนทนาของเรา

00:00:5700:00:58 ไว้ได้เลยนะคะ

00:00:5800:01:01 >> วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันเลยครับว่ายาแต่

00:01:0100:01:04 ละกลุ่มนั้นทำงานอย่างไรมีความแตกต่างกัน

00:01:0400:01:07 อย่างไรบ้างแล้วเราควรใช้ยาอย่างไรให้ถูก

00:01:0700:01:09 ต้องตามคำแนะนำของแพทย์ครับ

00:01:0900:01:11 >> เริ่มจากประเด็นที่สร้างความสับสนมากที่

00:01:1100:01:15 สุดก่อนเลยนะคะนั่นก็คือคำที่คนทั่วไปมัก

00:01:1500:01:18 ใช้เรียกกลุ่มยาเหล่านี้รวมๆกันว่ายา

00:01:1800:01:21 ละลิ่มเลือดค่ะไม่แน่ใจว่าคุณผู้ฟังเคย

00:01:2100:01:22 เรียกแบบนี้บ้างมั้ยคะ

00:01:2200:01:25 >> ผมว่ามีเยอะเลยครับเพราะคำว่าละลายลิ่ม

00:01:2500:01:28 เลือดมันฟังดูตรงไปตรงมาดีแต่จริงๆแล้วยา

00:01:2800:01:31 ที่ออกฤทธิ์ต่อลิ่มเลือดมีหลายกลุ่มและ

00:01:3100:01:33 กลไกการทำงานก็ต่างกันมากครับบางตัวมี

00:01:3400:01:37 หน้าที่ป้องกันไม่ให้เกิดบางตัวมีหน้าที่

00:01:3700:01:39 สลายลิ่มเลือดที่เกิดแล้ว

00:01:3900:01:42 >> ใช่แล้วค่ะเพื่อให้เห็นภาพรวมที่ง่ายขึ้น

00:01:4200:01:44 เราอยากให้ทุกคนเข้าใจกระบวนการของร่าง

00:01:4400:01:47 กายก่อนค่ะว่าทำไมเราถึงต้องมียาตั้งหลาย

00:01:4700:01:50 แบบในการรักษาโรคที่เกี่ยวกับลิ่มเลือด

00:01:5000:01:52 >> ลองนึกภาพแบบนี้นะครับการเกิดลิ่มเลือดใน

00:01:5200:01:55 หลอดเลือดของเราเนี่ยมันมี 2 ขั้นตอนหลัก

00:01:5500:01:58 ๆครับขั้นแรกคือเกล็ดเลือดซึ่งเป็นเซลล์

00:01:5800:02:00 เล็กเล็กในเลือดจะวิ่งไปรวมตัวกันตรงที่

00:02:0000:02:03 มีความเสียหายของหลอดเลือดเพื่ออุดรอย

00:02:0300:02:06 รั่วแล้วขั้นที่ 2 ก็คือการที่โปรตีนใน

00:02:0600:02:08 เลือดจะเข้ามาช่วยเสริมความแข็แรงทำให้

00:02:0800:02:11 เกล็ดเลือดที่รวมตัวกันนั้นกลายเป็นก้อน

00:02:1100:02:12 ลิ่มเลือดที่แข็งและเหนียว

00:02:1200:02:16 >> เข้าใจง่ายดีค่ะเหมือนมีตำรวจจราจรก็คือ

00:02:1600:02:19 เกล็ดเลือดมารวมตัวกันตรงจุดเกิดเหตุแล้ว

00:02:1900:02:22 รสยกก็คือโปรตีนก็เข้ามาเสริมให้การจราจร

00:02:2200:02:25 ติดขัดจนเป็นก้อนเลยทีนี้ยาแต่ละกลุ่มก็

00:02:2500:02:28 จะเข้ามาจัดการในแต่ละขั้นตอนของมันใช่

00:02:2800:02:28 มั้คะ

00:02:2800:02:31 >> ใช่เลยครับนี่คือเหตุผลที่เราต้องมียา

00:02:3100:02:34 หลายประเภทซึ่งเราจะมาดูกันว่ายาแต่ละ

00:02:3400:02:36 กลุ่มมีบทบาทหน้าที่อย่างไรบ้างครับเอา

00:02:3600:02:39 ล่ะครับมาเริ่มกันที่กลุ่มแรกเลยดีกว่า

00:02:3900:02:41 ซึ่งเป็นยาที่เราได้ยินชื่อบ่อยที่สุด

00:02:4100:02:44 นั่นก็คือยาต้านเกล็ดเลือด anledless

00:02:4400:02:45 drugs

00:02:4500:02:48 >> ยาต้านเกล็ดเลือดชื่อก็บอกแล้วว่าทำหน้า

00:02:4800:02:50 ที่ต้านการรวมตัวกันของเกล็ดเลือดใช่มั้ย

00:02:5000:02:51 คะ

00:02:5100:02:54 >> ถูกต้องครับยาตัวนี้จะไปลดความสามารถของ

00:02:5400:02:57 เกล็ดเลือดไม่ให้มารวมตัวกันเพื่อสร้าง

00:02:5700:03:00 ลิ่มเลือดครับยาในกลุ่มนี้จึงเปรียบ

00:03:0000:03:03 เสมือนตำรวจจราจรที่คอยสกัดไม่ให้รถมารวม

00:03:0300:03:06 ตัวกันแต่แรกทำให้รถไม่ติดนั่นเอง

00:03:0600:03:09 >> แสดงว่ายานี้เหมาะสำหรับการป้องกันไม่ให้

00:03:0900:03:11 เกิดลิ่มเลือดขึ้นมาใหม่หรือป้องกันไม่

00:03:1100:03:13 ให้ลิ่มเลือดที่มีอยู่แล้วเติบโตขึ้นใช่

00:03:1300:03:14 ไหมคะ

00:03:1400:03:17 >> ใช่เลยครับยาต้านเกล็ดเลือดจึงมักใช้ใน

00:03:1700:03:19 ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงหรือผู้ที่เคย

00:03:1900:03:22 มีภาวะหัวใจขาดเลือดหรือใส่ขดลวดในหลอด

00:03:2200:03:25 เลือดหัวใจไปแล้วเพื่อป้องกันไม่ให้เกิด

00:03:2500:03:27 ลิ่มเลือดซ้ำอีกตัวอย่างยาที่เราคุ้นเคย

00:03:2700:03:31 กันก็คือแอสไพรินและโพิโดเกรลครับ

00:03:3100:03:33 >> แล้วถ้าเป็นยาอีกกลุ่มที่คล้ายกันคือยา

00:03:3300:03:36 ต้านการแข็งตัวของเลือดanิ coaculant

00:03:3600:03:39 drugs ล่ะคะตัวนี้ทำงานต่างกันยังไง

00:03:3900:03:41 >> ยาต้านการแข็งตัวของเลือดจะไม่ได้ไปยุ่ง

00:03:4100:03:44 กับเกล็ดเลือดโดยตรงครับแต่จะไปยับยั้ง

00:03:4400:03:46 ปัจจัยที่ทำให้ลิ่มเลือดแข็งตัวทำให้

00:03:4600:03:49 เลือดคงสภาพเป็นของเหลวอยู่ตลอดเวลา

00:03:4900:03:52 เปรียบได้กับรถยกรถเครนที่เราพูดถึงตอน

00:03:5200:03:55 แรกที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าพื้นที่เกิด

00:03:5500:03:55 เหตุครับ

00:03:5600:03:59 >> อ๋อเข้าใจแล้วค่ะแล้วยาในกลุ่มนี้ใช้ใน

00:03:5900:04:00 ภาวะอะไรบ้างคะ

00:04:0000:04:02 >> ยาในกลุ่มนี้จะใช้ในผู้ป่วยที่มีความ

00:04:0200:04:05 เสี่ยงสูงที่จะเกิดลิ่มเลือดในกระแสเลือด

00:04:0500:04:08 เช่นผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ

00:04:0800:04:11 ชนิด atrial fibrilation AF หรือผู้ที่

00:04:1100:04:14 เคยมีภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ

00:04:1400:04:17 ที่ขาหรือในปอดครับตัวอย่างยาที่รู้จัก

00:04:1700:04:20 กันดีก็คือวาคารินหรือยาต้านการแข็งตัว

00:04:2000:04:24 รุ่นใหม่ๆเช่นริวาโรซาแบนหรือดาบาทานครับ

00:04:2400:04:27 >> นี่แค่ 2 กลุ่มก็เห็นความต่างชัดชัดเจน

00:04:2700:04:30 แล้วนะคะกลุ่มนึงต้านเกร็ดเลือดอีกกลุ่ม

00:04:3000:04:32 หนึ่งต้านการแข็งตัวของเลือดแล้วทีนี้มา

00:04:3200:04:35 ถึงกลุ่มที่ 3 บ้างค่ะยาสลายลิ่มเลือด

00:04:3500:04:38 fibrinoltic drugs ยาในกลุ่มนี้ทำงาน

00:04:3800:04:39 ยังไง

00:04:3900:04:41 >> ยาสลายลิ่มเลือดเป็นกลุ่มยาที่ออกฤทธิ์

00:04:4100:04:44 แรงและเร็วครับมันจะไปสลายลิ่มเลือดที่

00:04:4400:04:47 ก่อตัวอุดตันอยู่แล้วในทันทีเพื่อเปิดทาง

00:04:4700:04:49 ให้เลือดกลับมาไหลเวียนได้อีกครั้งเปรียบ

00:04:4900:04:51 เสมือนรถกู้ภัยที่เข้ามาเคลียร์

00:04:5100:04:53 อุบัติเหตุทันทีที่เกิดขึ้นเลยครับ

00:04:5300:04:56 >> ฟังแล้วก็พอเข้าใจว่ายานี้คงไม่ได้ใช้กัน

00:04:5600:04:58 ทั่วๆไปใช่มั้ยคะ

00:04:5800:05:00 >> ถูกต้องเลยครับยาในกลุ่มนี้จะใช้ใน

00:05:0000:05:03 สถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้นครับเช่นในผู้

00:05:0300:05:06 ป่วยที่มีภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันหรือ

00:05:0600:05:08 ผู้ป่วยเส้นเลือดในสมองอุดตันเฉียบพลัน

00:05:0900:05:11 และจำเป็นต้องฉีดในโรงพยาบาลภายใต้การดู

00:05:1100:05:13 แลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิดเท่า

00:05:1400:05:16 นั้นครับไม่ใช่ยาที่สามารถซื้อมาทานเอง

00:05:1600:05:17 ได้แน่นอน

00:05:1700:05:20 >> แล้วทีนี้มาถึงกลุ่มสุดท้ายนะคะที่ชื่อก็

00:05:2000:05:23 บอกหน้าที่อย่างชัดเจนคือยาขยายหลอดเลือด

00:05:2300:05:26 ว่ายาตัวนี้ออกฤทธิ์ยังไงคะ

00:05:2600:05:29 >> ยาขยายหลอดเลือดจะออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ

00:05:2900:05:31 เรียบที่ผนังหลอดเลือดทำให้หลอดเลือด

00:05:3100:05:34 กว้างขึ้นซึ่งจะช่วยให้เลือดไหลผ่านได้ดี

00:05:3400:05:37 ครับเปรียบเสมือนการขยายถนนที่รถติดให้

00:05:3700:05:39 กว้างขึ้นเพื่อให้รถกลับมาเคลื่อนตัวได้

00:05:3900:05:39 สะดวก

00:05:3900:05:41 >> ยาในกลุ่มนี้ใช้เมื่อไหร่คะ

00:05:4100:05:44 >> ส่วนใหญ่มักจะใช้เพื่อบรรเทาอาการเจ็บ

00:05:4400:05:46 หน้าอกหรืออาการเหนื่อยหอบในผู้ป่วยที่มี

00:05:4600:05:49 ภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบครับยาที่คนคุ้นเคย

00:05:4900:05:53 กันดีคือไนโตรกลิเซอรีนที่มาในรูปแบบยาอม

00:05:5300:05:55 ใต้ลิ้นเพื่อให้ยาออกฤทธิ์ได้เร็วและ

00:05:5500:05:57 บรรเทาอาการได้ทันท่วงทีครับ

00:05:5700:06:00 >> ฟังมาถึงตรงนี้ก็เริ่มเห็นภาพความแตกต่าง

00:06:0000:06:03 ของยาแต่ละกลุ่มแล้วนะคะถ้าให้สรุปง่ายๆ

00:06:0300:06:07 ก็คือยาต้านเกล็ดเลือดป้องกันไม่ให้เกล็ด

00:06:0700:06:10 เลือดรวมตัวกันยาต้านการแข็งตัวของเลือด

00:06:1000:06:14 ป้องกันไม่ให้ลิ่มเลือดแข็งตัวยาสลายลิ่ม

00:06:1400:06:17 เลือดสลายลิ่มเลือดที่อุดตันไปแล้วในภาวะ

00:06:1700:06:21 ฉุกเฉินยาขยายหลอดเลือดขยายหลอดเลือดที่

00:06:2100:06:23 ตีบเพื่อเพิ่มการไหลเวียน

00:06:2300:06:26 >> เป็นการสรุปที่ยอดเยี่ยมเลยครับและสิ่ง

00:06:2600:06:29 สำคัญที่สุดที่ผู้ฟังทุกคนต้องรู้หลังจาก

00:06:2900:06:32 นี้คือข้อควรระวังในการใช้ยาครับเนื่อง

00:06:3200:06:35 จากยาเหล่านี้มีผลโดยตรงต่อระบบเลือดใน

00:06:3500:06:39 ร่างกายผลข้างเคียงที่พบบ่อยและอันตราย

00:06:3900:06:41 ที่สุดคือภาวะเลือดออกง่าย

00:06:4100:06:45 >> ใช่แล้วค่ะดังนั้นเราจึงควรใช้ยาเหล่านี้

00:06:4500:06:47 ตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเท่า

00:06:4700:06:50 นั้นห้ามปรับเพิ่มลดปริมาณยาเองเด็ดขาด

00:06:5000:06:53 และควรสังเกตอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น

00:06:5300:06:57 กับร่างกายเช่นมีรอยฟกช้ำง่ายมีจุดเลือด

00:06:5700:07:00 ออกใต้ผิวหนังเลือดกำเดาไหลหรืออุจจาระมี

00:07:0000:07:02 สีดำผิดปกติ

00:07:0200:07:04 >> หากเกิดอาการเหล่านี้ขึ้นให้รีบไปพบแพทย์

00:07:0400:07:07 ทันทีเลยนะครับและที่สำคัญคือต้องแจ้ง

00:07:0800:07:11 แพทย์และเพศสัชกรเกี่ยวกับยาอื่นๆทุกชนิด

00:07:1100:07:14 ที่เราทานอยู่ไม่ว่าจะเป็นยาแก้ปวดยาแผน

00:07:1400:07:17 โบราณหรืออาหารเสริมเพราะยาบางอย่างอาจ

00:07:1700:07:20 ส่งผลต่อการทำงานของยาต้านเกล็ดเลือดและ

00:07:2000:07:22 ยาต้านการแข็งตัวได้ครับ

00:07:2200:07:24 >> เพราะการรู้ความแตกต่างของยาแต่แต่ละ

00:07:2400:07:27 กลุ่มอย่างเข้าใจและใช้ยาอย่างถูกวิธีตาม

00:07:2700:07:30 คำแนะนำของแพทย์จะช่วยให้เราดูแลสุขภาพ

00:07:3000:07:33 ได้อย่างปลอดภัยและมีคุณภาพมากขึ้นค่ะ

00:07:3300:07:36 >> ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามรับฟังสุขภาพสนทนา

00:07:3600:07:40 ในวันนี้ครับหวังว่าข้อมูลที่เรานำมาฝาก

00:07:4000:07:43 จะเป็นประโยชน์และช่วยให้ทุกท่านเข้าใจ

00:07:4300:07:45 เรื่องยาสำหรับโรคหลอดเลือดได้ชัดเจนขึ้น

00:07:4500:07:46 นะครับ

00:07:4600:07:49 >> หากชื่นชอบเนื้อหาของเราอย่าลืมกดไลค์กด

00:07:4900:07:52 แชร์และแสดงความคิดเห็นเพื่อเป็นกำลังใจ

00:07:5200:07:54 ให้เราสร้างสรรค์เนื้อหาดีๆแบบนี้ต่อไปนะ

00:07:5400:07:55 คะ

00:07:5500:07:58 >> สำหรับวันนี้พวกเราทั้ง 2 คนต้องขอลาไป

00:07:5800:08:00 ก่อนสวัสดีครับ

00:08:0000:08:02 >> สวัสดี