00:00:00 → 00:00:03 การหลงๆลืมในในเชิงของความเป็นโรคหรือว่า
00:00:03 → 00:00:06 ความเป็นแบบเอ่ออาการเจ็บป่วยเนี่ยมันมัน
00:00:06 → 00:00:10 ต่างกันมั้ยหลงกับลืมโอ้ยก็หลงกับลืมก็
00:00:10 → 00:00:12 ต่างกันนะคะลืมคือเหมือนเราจำไม่ได้ว่า
00:00:12 → 00:00:15 มันแบบเกิดอะไรขึ้นหรือว่าอะไรมันเป็นยัง
00:00:15 → 00:00:17 ไงจำไม่ได้แต่ว่าหลงเนี่ยอาจจะเป็นหลงผิด
00:00:17 → 00:00:20 หรือว่าความเข้าใจผิดคิดขึ้นมาเองหรือ
00:00:20 → 00:00:23 อะไรต่างๆลักษณะนี้อ่ะค่ะอ่าแต่ไม่ใช่แบบ
00:00:23 → 00:00:27 ลืมทางกลับบ้านอะไรงี้ไม่ได้นะคะอ๋อไม่
00:00:27 → 00:00:30 ได้ใช่มั้อ๋อ
00:00:30 → 00:00:34 ใช่ค่ะอันนั้นอาจจะเป็นปัญหานะถ้าเจอหลง
00:00:34 → 00:00:37 ใช่ลืมภรรยาหรือว่าหลงพังกลับบ้านไม่เจอ
00:00:37 → 00:00:41 อะไรอย่าเงี้ยอันนี้อาจจะเป็นปัญหาได้นะ
00:00:41 → 00:00:44 อชีวิตโอ๊คไม่เคยหลงเนาะมันมันหลงทางอ่ะ
00:00:44 → 00:00:48 พอมีบ้างฮะเราไปไม่ถูกที่ใช่มั้ยแต่ลืม
00:00:48 → 00:00:50 อ่ะอย่างที่คุณหมอบอกลืมบางอย่างถ้าลืม
00:00:50 → 00:00:54 แล้วมันมันไม่ใช่เขาสงสารเรานะอย่าซ้ำเรา
00:00:54 → 00:00:55 ด้วย
00:00:55 → 00:00:59 ดินะครับเออเอออมันมีความมันมีความสักพูด
00:00:59 → 00:01:02 คำถามคุณขวัญก็ยากนะคะฝนตกวันไหนเกือบจำ
00:01:02 → 00:01:06 ไม่ได้เหมือนกันเออใช่ผมก็นันั่งนึกแอบ
00:01:06 → 00:01:09 นั่งนึกตั้งนานจริงๆฮะเพราะวันเสาร์
00:01:09 → 00:01:12 อาทิตย์อยู่แต่ในบ้านแทบไม่รู้ตัวเลยอ่ะ
00:01:12 → 00:01:16 จริงๆอถ้าถ้าเป็นอย่างงี้คุณเออเชิญเชิญ
00:01:16 → 00:01:18 เลยครับพี่ถ้างั้นขอสอบถามคุณหมอก่อนเลย
00:01:18 → 00:01:21 ถ้าเหมือนกับว่าเราเป็นในฐานะลูกหลานเนาะ
00:01:21 → 00:01:25 อายุประมาณนี้คุณแม่ก็เราก็จะประมาณแบบ 60
00:01:25 → 00:01:28 ปลาย 70 กันแล้วเราอยากเทสผู้สูงอายุใน
00:01:28 → 00:01:31 บ้านเราอย่างเงี้ยค่ะคำถามอันไหนที่มัน
00:01:31 → 00:01:35 เหมาะสมว่าเทสว่าเค้าอยู่ในข่ายของการหลง
00:01:35 → 00:01:39 ลืมหรือแบบตามวัยอ่ะหลงลืมตามวัยหรือจะ
00:01:39 → 00:01:42 ถึงขั้นอัลไซเมอร์คุณหมอค่ะจริงๆคำถาม
00:01:42 → 00:01:45 เฉพาะมันไม่มีค่ะเพราะว่าการหลงลืมเนี่ย
00:01:45 → 00:01:48 ในแต่ละท่านก็หลงลืมในเรื่องที่ไม่เหมือน
00:01:48 → 00:01:51 กันมันจะไม่ได้มีคำถามเฉพาะแต่ว่ามันจะพอ
00:01:51 → 00:01:54 สังเกตได้ว่าเออถ้าเกิดว่าเป็นคนที่หลง
00:01:54 → 00:01:55 ลืมตามอายุอย่างเงี้ยมันมักจะไม่ใช่
00:01:55 → 00:01:59 เรื่องที่สำคัญเช่นแบบเออลืมของบ้างไป
00:01:59 → 00:02:01 เดินไปห้องครัวแล้วเอ๊ะเราจะมาเอาอะไรนะ
00:02:01 → 00:02:04 แล้วสักพักนึงคิดออกแบบอันนี้จริงๆเป็น
00:02:04 → 00:02:07 ปกติหรือลืมกุญแจรถอะไรอย่างเงี้ยนิดๆ
00:02:07 → 00:02:10 หน่อยๆนานๆครั้งอันนี้ก็เป็นปกติหรือลืม
00:02:10 → 00:02:12 ชื่อคนเช่นแบบอุ๊ยเพื่อนคนนี้ไม่ได้คุย
00:02:12 → 00:02:14 กันนานแล้วต้องใช้เวลานิดนึกนิดนึงอะไร
00:02:14 → 00:02:17 อย่างเงี้ยอันนี้จริงๆก็เป็นปกติอ่ะค่ะ
00:02:17 → 00:02:19 แต่ว่าการหลงลืมที่แบบเออเราควรจะต้อง
00:02:19 → 00:02:22 สงสัยแล้วว่ามันเป็นโรคหรือเปล่าเนี่ยคือ
00:02:22 → 00:02:24 ลืมเรื่องที่เราคิดว่าไม่ควรจะลืมเช่นแบบ
00:02:24 → 00:02:27 เรื่องสำคัญเออเนี่ยพวกเนี้ยจะมีนัดกัน
00:02:27 → 00:02:30 ย้ำแล้วย้ำอีกอ้าถามอีกและหรือพรุ่งนี้
00:02:30 → 00:02:33 เกิดลืมขึ้นมาจริงๆอันเนี้ยก็ผิดปกติะ
00:02:33 → 00:02:35 หรือเพิ่งคุยกันไปเองเมื่อไม่กี่นาทีนี้
00:02:35 → 00:02:37 ถามอีกแล้วเดี๋ยวถามอีกแล้วเดี๋ยวถามอีก
00:02:37 → 00:02:40 แล้วอันเนี้ยก็จิตปกติที่ควรจะต้องไปตรวจ
00:02:40 → 00:02:45 เช็คค่ะอืย้ำคิดย้ำทำประมาณนั้นมั้ยเอ๊ะ
00:02:45 → 00:02:48 ไม่เชิงย้ำคิดย้ำทำแต่ว่าจะไม่ไม่ไม่คือ
00:02:48 → 00:02:50 ถ้าย้ำคิดย้ำทำมันเหมือนจะแบบอุ๊ยเราทำ
00:02:50 → 00:02:53 อันนี้ไปะเดี๋ไปทำอีกแล้วเดี๋ไปทำอีกแล้ว
00:02:53 → 00:02:54 อะไรอย่างเงี้ยค่ะแต่ว่าอันนี้จะเป็น
00:02:54 → 00:02:56 ลักษณะการถาม
00:02:56 → 00:02:59 ผมเคยเคยมีคนแชร์ประสบการณ์ให้เหมือนกับ
00:02:59 → 00:03:03 ว่าเอ่อเพิ่งเพิ่งกินข้าวไปอ่ะเพิ่งกิน
00:03:03 → 00:03:05 ข้าวไปเมื่อสซัก 10-20 นาทีที่ผ่านมา
00:03:05 → 00:03:10 เนี่ยแหละเอ่อบบบ่นอีกแล้วหิวยังไม่ได้
00:03:10 → 00:03:16 กินข้าวเลยอืๆอ่าแนวเนี้ยใช่ๆๆเป็นมั้ย
00:03:16 → 00:03:18 คุณหมอเป็นอันอันเนี้ยอันนี้อันเนี้พึง
00:03:18 → 00:03:20 สงสัยแล้วเพราะว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้
00:03:20 → 00:03:22 เลยที่เราทานข้าวแล้วเราจะลืมว่าเราเพิ่ง
00:03:22 → 00:03:25 กินไปอันอันเนี้ยแต่ว่าถ้าเป็นขนาดนี้
00:03:25 → 00:03:28 แล้วมักจะไม่ใช่อาการเริ่มต้นอาการเริ่ม
00:03:28 → 00:03:31 ต้นช่วงแรกอ่ะมันจะแทบจะจับสังเกตลำบาก
00:03:31 → 00:03:34 เช่นมันเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆแต่ว่ามัน
00:03:34 → 00:03:36 เกิดขึ้นค่อนข้างบ่อยอะไรแบบเค่ะที่ต้อง
00:03:36 → 00:03:39 พึงระวังแต่ถ้าถึงจุดนั้นคือชัดเจนว่า
00:03:39 → 00:03:41 เอ้ยกินข้าวแล้วบอกยังไม่ได้กินอันนี้
00:03:41 → 00:03:46 ต้องพบแพทย์ล่ะค่ะใช่อืออถ้าอันเนี้ยเคย
00:03:46 → 00:03:49 เกิดกับเอ่อเอ่อคุณพ่อของเพื่อนคนนึงอ่ะ
00:03:49 → 00:03:53 นะคะคุณหมออันเนี้ยเป็นอาการที่ประมาณว่า
00:03:53 → 00:03:54 อ่า
00:03:54 → 00:03:59 ไปกด ATM แล้วลืม ATM ในตู้เนี่ยบ่อยมาก
00:03:59 → 00:04:03 ทำใหม่บ่อยมากหลายคนก็ไม่ได้สังเกตคิดว่า
00:04:03 → 00:04:05 อก็ลืมเหมือนเราลืมอะไรอย่างเงี้ยเหมือน
00:04:05 → 00:04:08 ว่าบางทีเรารีบมากๆอะไรเงี้ยแต่คุณพ่อบอก
00:04:08 → 00:04:12 ว่าหยิบมาแล้วแต่คือลืมแต่สุดท้ายก็คือ
00:04:12 → 00:04:14 ต้องทำใหม่บ่อยมากจนสุดท้ายคือเหมือนกับ
00:04:14 → 00:04:16 ว่ามาจับสังเกตได้ว่าทำไมมันลืมบ่อยได้
00:04:16 → 00:04:20 ขนาดนี้ก็เลยนำแบบเอ่อไปตรวจที่โรงพยาบาล
00:04:20 → 00:04:24 ลักษณะการลืมแบบเนี้ยคือเป็นแบบเหมือนกับ
00:04:24 → 00:04:27 ว่าอะไรที่ไม่ปกติอ่ะเราควรต้องสงสัยมั้
00:04:27 → 00:04:29 คะว่าเอ๊ะเค้าเป็นอัลไซเมอร์หรือเปล่า
00:04:29 → 00:04:32 เงี้ยค่ะครับค่ะคือถ้ามันเป็นครั้งแรก
00:04:32 → 00:04:36 หรือว่านานๆหลายๆปีครั้งนึงเนี่ยจริงๆเรา
00:04:36 → 00:04:39 เองก็เคยลืมนะคะเสียบค้าตู้ไว้ใช่บ่อยมาก
00:04:39 → 00:04:43 ใช่แต่ว่ามันมันจะต้องไม่ถี่อ่ะค่ะแล้วก็
00:04:43 → 00:04:45 มันอาจจะต้องมีเรื่องอื่นด้วยไม่ใช่
00:04:45 → 00:04:49 เรื่องเดิมซ้ำๆอย่างเดียวค่ะแล้วก็จุดที่
00:04:49 → 00:04:52 ต้องพึงสังเกตคือเวลาที่ลืมเนี่ยต้องดู
00:04:52 → 00:04:55 ว่าเราอ่ะมีสมาธิกับตอนนั้นอยู่หรือเปล่า
00:04:55 → 00:04:57 ยกตัวอย่างเช่นบางทีเรากดเงินไปด้วยคุย
00:04:57 → 00:05:00 โทรศัพท์ไปด้วยรับรับเงินออกมาเสร็จแล้ว
00:05:00 → 00:05:02 เดินออกเลยอันเนี้ยจริงๆมันก็เป็นปกติแต่
00:05:02 → 00:05:05 ว่าถ้าเกิดว่าเอ้ยเรามีสมาธิจดจ่อตั้งใจ
00:05:05 → 00:05:08 แล้วมันยังลืมอันเนี้ยก็ต้องพึงสังเกตและ
00:05:08 → 00:05:10 แต่ถ้าอย่างที่คุณขวัญเล่าว่าเอ้ยมันหลาย
00:05:10 → 00:05:14 ใบและเป็นเหมือนเดิมซ้ำๆหลายๆรอบอันนี้
00:05:14 → 00:05:17 แน่นอนใช่ค่ะใช่ค่ะครับแสดงว่าแสดงว่า
00:05:17 → 00:05:19 เรื่องของอาการหลงลืมเนี่ยมันยายใครก็อาจ
00:05:19 → 00:05:22 จะเป็นได้อาจจะเป็นด้วยเอ่อเอ่อการพัก
00:05:22 → 00:05:26 ผ่อนไม่เพียงพอก็ตามอาจจะเป็นด้วยสมาธิ
00:05:26 → 00:05:29 ที่จดจ่อกับสิ่งนั้นๆก็ตามแต่ที่มันเป็น
00:05:29 → 00:05:33 ปัญหาจริงๆก็คือมากกว่าหลงลืมนั่นก็คือ
00:05:33 → 00:05:36 เอ่อเรื่องของโรคที่เป็นโรคอัลไซเมอร์ใช่
00:05:36 → 00:05:40 มั้คุณหมอใช่ค่ะคือต้องต้องบอกว่าคนที่
00:05:40 → 00:05:43 หลงลืมเนี่ยจริงๆใครๆก็เป็นอแล้วก็มีหลาก
00:05:43 → 00:05:45 หลายสาเหตุมากไม่ใช่ทุกคนจะเป็น
00:05:45 → 00:05:47 อัลไซเมอร์บางคนก็อย่างที่คุณโอ๊ตว่าเอ้ย
00:05:47 → 00:05:51 นอนไม่พอเมื่อคืนดื่มเยอะช่วงนี้กินยานอน
00:05:51 → 00:05:53 หลับช่วงนี้เป็นโรคซึมเศร้าต่างๆหรือช่วง
00:05:53 → 00:05:55 นี้ไม่มีสมาธิอันเนี้ก็ทำให้ความจำไม่ดี
00:05:55 → 00:05:59 ได้ครับแต่มันจะมีคนกลุ่มนึงที่การหลงลืม
00:05:59 → 00:06:03 เนี่ยเป็นมากขึ้นเรื่อยๆอืมากขึ้นถี่ขึ้น
00:06:03 → 00:06:06 บ่อยขึ้นหลายเรื่องมากขึ้นจากแค่ 1
00:06:06 → 00:06:08 เรื่องเป็นหลายๆเรื่องจนมันเริ่มกระทบการ
00:06:08 → 00:06:11 ใช้ชีวิตอันเนี้ยเราจะถือว่าเป็นโรคคือ
00:06:11 → 00:06:14 เมื่อไหร่ที่แบบมันผิดปกติจนใช้ชีวิต
00:06:14 → 00:06:16 ลำบากอันเนี้ยทางการแพทย์เราถึงจะถือว่า
00:06:16 → 00:06:20 เป็นโรคอืใช้ชีวิตผิดปกติใช้ชีวิตลำบาก
00:06:20 → 00:06:25 มันคือลักษณะแบบไหนบ้างคุณหมอแบบโอได้ทุก
00:06:25 → 00:06:27 อย่างเลยตั้งที่เราต้องจับสังเกตตั้งแต่
00:06:27 → 00:06:30 ว่าเอ้ยจากเดิมคุณแม่เคยใช้โทรศัพท์เป็น
00:06:30 → 00:06:33 อยู่ดีๆจะโทรศัพท์ใช้ไม่เป็นหรือว่าโหลด
00:06:33 → 00:06:36 แอปใหม่เคยสอนและเคยทำได้ดีอยู่ดีๆทำไม่
00:06:37 → 00:06:41 เป็นทำกับข้าวทำกับข้าวรสชาติเปลี่ยนไปจำ
00:06:41 → 00:06:44 ขั้นตอนไม่ได้ว่ามันต้องใส่อะไรก่อนใส่
00:06:44 → 00:06:46 อะไรหลังอันเนี้ยก็ผิดปกติคือเราต้อง
00:06:46 → 00:06:49 สังเกตจากสิ่งที่เขาใช้ในชีวิตประจำวัน
00:06:49 → 00:06:52 เลยอ่ะค่ะหรือการกินยากินแล้วแล้วบอกไม่
00:06:52 → 00:06:54 กินหรือกินผิดแล้วผิดอีกทั้งๆที่จัด
00:06:54 → 00:06:57 เลี้ยงให้แล้วต่างๆอันเนี้ยก็ก็ต้องพึง
00:06:57 → 00:07:01 สังเกตละว่ามันผิดปกติไปจากเดิมใช่ค่ะอื
00:07:01 → 00:07:05 ต่างๆเหล่านี้ใช่หมดเลยใช่ใช่ครับเออแสดง
00:07:05 → 00:07:08 อะไรที่มันเป็นเรื่องที่ผิดแปลกไปจาก
00:07:08 → 00:07:10 ชีวิตประจำวันที่ปกติเอ้ยก็ทำปกติอยู่
00:07:10 → 00:07:17 แล้วอืเอออยู่ดีวันนึงเฮ้ยเกิดตามหาหรือ
00:07:17 → 00:07:20 ว่าเกิดเอ่อเปลี่ยนเปลี่ยนพฤติกรรมทำไป
00:07:20 → 00:07:25 อันเนี้ยเริ่มน่าจะน่าจะมีข้อสังเกตใน
00:07:25 → 00:07:27 ลักษณะของเป็นอัลไซเมอร์ที่เป็นข้อสังเกต
00:07:28 → 00:07:30 หนึ่งได้ใช่ค่ะแล้วก็คนเป็นอัลไซเมอร์
00:07:31 → 00:07:33 หรือโรคที่เราเรียกว่าโรคสมองเสื่อมเนี่ย
00:07:33 → 00:07:35 บางทีเขาไม่ได้หลงลืมอย่างเดียวนะคะมัน
00:07:35 → 00:07:38 กระทบด้านอื่นด้วยเช่นการตัดสินใจเขาแย่
00:07:38 → 00:07:41 ลงเรื่องเนี้ยถ้าเป็นปกติเมื่อก่อนน่ะเขา
00:07:41 → 00:07:44 จะตัดสินใจแบบนี้แต่ว่าพอเขาเป็น
00:07:44 → 00:07:47 อัลไซเมอร์เนี่ยความคิดเหตุผลการจัดเรียง
00:07:47 → 00:07:49 ขั้นตอนต่างๆมันก็เสียไปด้วยออันเนี้ย
00:07:49 → 00:07:52 เรื่องเรื่องของการวางแผนต่างๆเนี่ยก็
00:07:52 → 00:07:54 เป็นได้การใช้คำศัพท์เมื่อกี้ที่บอกว่า
00:07:54 → 00:07:58 เอ้ยเมื่ออาจจะนานๆลืมชื่อคนทีนึงต่อมา
00:07:58 → 00:08:00 เริ่มเรียกชื่อคำศัพท์ไม่ออกเฮ้ยเอาไอ้
00:08:00 → 00:08:02 นั่นให้หน่อยเอาไอ้นี่ให้หน่อยแต่ไม่
00:08:02 → 00:08:04 เรียกเป็นคำอย่างเงี้ยอือเป็นอย่างเงี้ย
00:08:04 → 00:08:08 บ่อยๆเป็นใช้ไอ้นี่ไอ้นั่นไอ้โน่นไอ้นู่น
00:08:08 → 00:08:11 อะไรอย่างเงี้ยบ่อยๆก็ก็จะใช่ใช่คือ
00:08:11 → 00:08:14 เหมือนคิดคำศัพท์ไม่ออกค่ะอันนี้ก็เป็นไป
00:08:14 → 00:08:17 ได้ใช่หรือว่าอารมณ์หรือพฤติกรรมที่
00:08:17 → 00:08:20 เปลี่ยนไปแบบหน้าแบบเปลี่ยนไปจากเดิมจาก
00:08:20 → 00:08:23 เดิมเป็นคนใจเย็นอยู่ดีๆกลายมาเป็นคน
00:08:23 → 00:08:26 หงุดหงิดที่โมโหต่างๆเนี้ยก็ใช่หรือว่า
00:08:26 → 00:08:28 แบบจากเดิมเป็นคนเฮฮาปาร์ตี้กลายเป็นคน
00:08:28 → 00:08:31 เงียบเก็บตัวต่างๆเหล่าเยก็อาจจะใช่คือ
00:08:31 → 00:08:33 มันไม่ได้กระทบแค่เฉพาะเรื่องของความจำ
00:08:33 → 00:08:35 อย่างเดียวเรื่องของพฤติกรรมเรื่องของ
00:08:35 → 00:08:40 อารมณ์ต่างๆก็มีส่วนด้วยอืใช่ค่ะแต่ว่า
00:08:40 → 00:08:42 ต้องเรียนอย่างงี้ว่าคนที่เป็นอัลไซเมอร์
00:08:42 → 00:08:46 อ่ะครับบางทีเขามีโรคร่วมอื่นด้วยซึ่งถ้า
00:08:46 → 00:08:49 เราไปแก้พวกนั้นดีขึ้นน่ะความจำเขาก็ดี
00:08:49 → 00:08:51 ขึ้นได้ง่ายๆเลยเช่นคนเป็นโรคซึมเศร้า
00:08:51 → 00:08:54 อย่างเงี้ยค่ะความจำก็จะไม่ดีก่อนที่เรา
00:08:54 → 00:08:56 จะบอกว่าท่านนั้นท่านนี้เป็นอัลไซเมอร์
00:08:56 → 00:08:59 เนี่ยลองเช็คดูก่อนว่าเอ๊เค้ามีปัญหา
00:08:59 → 00:09:01 เรื่องอารมณ์อยู่หรือเปล่าช่วงนี้เขาหลับ
00:09:01 → 00:09:05 ได้ดีมยมีปัญหาฮอร์โมนผิดปกติไทรอยด์ต่ำ
00:09:05 → 00:09:07 ต่างๆใดๆพวกเนี้ยค่ะซึ่งพวกนี้เป็นโรคที่
00:09:07 → 00:09:11 เราแก้ไขได้ง่ายรักษาไม่นานก็หายและใช่
00:09:11 → 00:09:16 ค่ะอือืค่ะอุ๊ยแต่พอฟังไปฟังมาคุณหมอระยะ
00:09:16 → 00:09:20 แรกๆที่เราจะสังเกตอาการถ้าเอ่อเราต้อง
00:09:20 → 00:09:22 สังเกตอาการคนที่อยู่ในครอบครัวเราเนี่ย
00:09:22 → 00:09:25 ค่อนข้างยากอยู่เหมือนกันนะคะคือต้องใช้
00:09:25 → 00:09:28 เวลาอยู่กับเขาแบบค่อนข้างเยอะแต่ว่าด้วย
00:09:28 → 00:09:31 สภาพปัจจุบันเนี่ยหลายๆคนทำงานออกนอกบ้าน
00:09:31 → 00:09:34 มากลับไปตอนเย็นอาจจะมีเวลาน้อยอันเนี้ย
00:09:35 → 00:09:40 มันคือเราต้องใส่ใจมากแบบละเอียดแค่ไหน
00:09:40 → 00:09:43 หรือว่าแบบมันมีจุดอื่นที่พอที่จะเห็นได้
00:09:43 → 00:09:46 อีกมั้ยการใช้ชีวิตของเค้าการเอ่อใส่
00:09:46 → 00:09:49 เสื้อผ้าหรือว่าการใช้อื่นๆที่แบบสามารถ
00:09:49 → 00:09:53 แบบเป็นทริกได้อีกมั้คะค่ะเรียนคุณขวัญ
00:09:53 → 00:09:55 ตรงๆว่าจริงๆที่พูดมาเนี่ยถูกต้องทุก
00:09:55 → 00:09:57 อย่างเลยเป็นปัญหาที่ทางการแพทย์เราเจอ
00:09:57 → 00:10:01 จริงๆว่ากว่าที่ทางบ้านจะรู้ตัวหรือกว่า
00:10:01 → 00:10:04 คนไข้จะรู้ตัวเนี่ยมันค่อนข้างช้าและคือ
00:10:04 → 00:10:07 มันต้องชัดจนแบบอื้อหือชัดแล้วจริงๆถึง
00:10:08 → 00:10:10 เราถึงจะพามาหาหมออะไรเงี้ยค่ะเพราะว่า
00:10:10 → 00:10:13 ช่วงแรกๆมันสังเกตยากจริงๆเพราะว่าเราก็
00:10:13 → 00:10:16 ทราบกันดีอยู่แล้วว่าในผู้สูงอายุความจำ
00:10:16 → 00:10:18 หรือความสามารถในการคิดการอ่านมันก็ต้อง
00:10:18 → 00:10:21 ถดถอยไปตามธรรมชาติบางทีเราก็ยังไม่ทัน
00:10:21 → 00:10:24 เอะใจว่าเขาใช่หรือไม่ใช่อซึ่งอันเนี้ยก็
00:10:24 → 00:10:27 เป็นปัญหาทางการแพทย์เราก็มีการพัฒนามา
00:10:27 → 00:10:29 ว่าเอ้ยเราจะตรวจคัดกรองยังไงให้เจอเร็ว
00:10:29 → 00:10:32 ขึ้นซึ่งปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีหลายๆอย่าง
00:10:32 → 00:10:36 มากๆที่ทำให้เราช่วยวินิจฉัยได้เร็วขึ้น
00:10:36 → 00:10:39 ค่ะอื
00:10:39 → 00:10:44 การวินิจฉัยเร็ววินิจฉิฉัยช้ามีมีข้อเอ่อ
00:10:44 → 00:10:47 มีข้อเขาเรียกว่าวิวินิจฉัยเร็วหรือ
00:10:47 → 00:10:49 วินิจฉัยช้ามีข้อดีข้อเสียต่างกันมั้คุณ
00:10:49 → 00:10:52 หมออืก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันเยอะเลยค่ะ
00:10:52 → 00:10:56 ถ้าเกิดว่าวินิจฉัยช้ามักจะเปลี่ยนแปลง
00:10:56 → 00:10:59 อะไรไม่ค่อยได้ล่ะค่ะถึงจุดนั้นเนี่ยการ
00:10:59 → 00:11:02 รักษาก็เป็นการรักษาตามอาการประคับประคอง
00:11:02 → 00:11:04 ไปซะมากกว่าแต่ถ้าเราวินิจฉัยเร็วเราก็
00:11:05 → 00:11:07 อาจจะแนะนำคนไข้ได้ว่าเอ้ยคุณต้องทำตัว
00:11:07 → 00:11:11 ยังไงนะมันถึงจะพัฒนาช้าลงหรือว่าควรจะ
00:11:11 → 00:11:13 ต้องใช้ยาแบบไหนที่จะช่วยให้การใช้ชีวิต
00:11:13 → 00:11:16 ง่ายขึ้นอะไรอย่างเงี้ยค่ะก็แตกต่างกัน
00:11:16 → 00:11:21 เยอะค่ะอืซึ่งก็เป็นส่งการมาเจอเร็วๆการ
00:11:21 → 00:11:25 มาเอ่อพบอาการเร็วมาหาคุณหมอเร็วมาสู่การ
00:11:25 → 00:11:29 รักษาที่เร็วมันก็มีโอกาสที่คุณหมอจะเอ่อ
00:11:29 → 00:11:34 ดูแลรักษาได้ให้ให้ดีขึ้นได้ดีขึ้นมันดี
00:11:34 → 00:11:38 ขึ้นได้ได้กี่ขั้นได้กี่สเต็ป่ะคุณหมออัน
00:11:38 → 00:11:40 นี้ไม่มีตัวเลขเลยแต่ว่าจริงๆหมอคิดว่า
00:11:40 → 00:11:43 ตัวเองอ่ะจะมีประโยชน์มากเลยในการหาโรค
00:11:43 → 00:11:47 อื่นๆมากกว่าเพราะว่าอัลไซเมอร์จริงๆมัน
00:11:47 → 00:11:50 ก็เป็นโรคที่เรียนนำตรงว่ารักษาไม่หายขาด
00:11:50 → 00:11:53 ครับยังไงยังไงมันก็ยังเป็นไปตามธรรมชาติ
00:11:53 → 00:11:55 มันจะไปข้างหน้าอยู่เสมออ่ะค่ะแต่ว่าความ
00:11:55 → 00:11:58 สำคัญที่จะต้องมาหาหมอคือจะต้องหาโรคอื่น
00:11:58 → 00:12:00 เมื่อกี้ที่มีพูดไปบ้างแล้วเอ้ยซึมเศร้า
00:12:00 → 00:12:04 หรือเปล่านอนกลออกซิเจนขาดหรือเปล่าเป็น
00:12:04 → 00:12:07 ไทรอยด์ต่ำหรือเปล่าติดเชื้อหรือเปล่า
00:12:07 → 00:12:08 วิตามินพร่องหรือเปล่าต่างๆพวกเนี้ยซึ่ง
00:12:09 → 00:12:12 เราแก้ไขได้อ่าถ้าถ้ามาหาหมอหมอก็จะคัด
00:12:12 → 00:12:14 กรองสิ่งเหล่านี้ให้สุดท้ายคุณอาจจะไม่
00:12:14 → 00:12:16 ได้เป็นอัลไซเมอร์ก็ได้แต่อาการคล้ายกัน
00:12:16 → 00:12:19 คือความจำไม่ดีต่างๆเหล่าเนี้ยค่ะที่เรา
00:12:19 → 00:12:22 จะช่วยได้อค่ะ
00:12:22 → 00:12:26 ค่ะถ้าฟังไปฟังมาเนี่ยคือวิตามินต่ำหรือ
00:12:26 → 00:12:28 เปล่าหรือว่าอะไรอย่างเงี้ยค่ะมันสามารถ
00:12:28 → 00:12:31 เป็นกับทุกกลุ่มอายุได้เลยดังนั้นคือเอา
00:12:31 → 00:12:34 เอ่ออาการต้องสงสัยว่าเป็นอัลไซเมอร์
00:12:34 → 00:12:37 เนี่ยแสดงว่าไม่จำเป็นต้องแก่หรือเปล่าคะ
00:12:37 → 00:12:39 คุณหมอหรือว่าอัลไซเมอร์เป็นเฉพาะคนแก่
00:12:40 → 00:12:43 หรือว่าเป็นคนหนุ่มคนสาวได้หรือเปล่าถ้า
00:12:43 → 00:12:47 ถ้าพูดถึงอัลไซเมอร์ชัดชัดเลยนะคะแต่ว่า
00:12:47 → 00:12:49 อัลไซเมอร์ของหมอกับอัลไซเมอร์ของคุณขวัญ
00:12:49 → 00:12:51 เนี่ยอาจจะมีความแตกต่างกันอยู่นิดนึงคือ
00:12:51 → 00:12:54 อัลไซเมอร์ของหมอเนี่ยคือสมองเสื่อมที่
00:12:54 → 00:12:57 เกิดจากโปรตีนชนิดจำเพาะนี้เลยที่ชื่อ
00:12:57 → 00:13:00 อไมลอยด์ตกตะกอนในสมองแต่อัลไซเมอร์ใน
00:13:00 → 00:13:02 ความหมายของคนทั่วๆไปเนี่ยเขาพูดถึงแค่คน
00:13:03 → 00:13:06 ที่ความจำบกพร่องความจำไม่ดีเขาก็อาจจะ
00:13:06 → 00:13:08 เรียกว่าอัลไซเมอร์และซึ่งมันจะมีความแตก
00:13:08 → 00:13:10 ต่างกันอยู่ตรงนี้อยู่นิดนึงค่ะถ้าในมุม
00:13:10 → 00:13:13 ของหมอคืออัลไซเมอร์ที่เป็นจากโปรตีนชนิด
00:13:13 → 00:13:16 นี้ชัดเจนเนี่ยส่วนใหญ่เราจะต้องเจอในผู้
00:13:16 → 00:13:19 สูงอายุคือเกิน 65 ปีขึ้นไปค่ะจะมีแค่
00:13:19 → 00:13:22 น้อยๆเลยที่เป็นอายุก่อน 65 ปีซึ่งส่วน
00:13:22 → 00:13:25 ใหญ่ก็จะมีปัญหาทางพันธุกรรมมาก่อนเช่นใน
00:13:25 → 00:13:27 ครอบครัวเป็นกันหลายคนอายุน้อยอะไรอย่าง
00:13:27 → 00:13:29 เงี้ยค่ะคือไม่ดีมาตั้งแต่กรรมพันธ์ใช่
00:13:29 → 00:13:32 แต่ว่าถ้าเป็นคนทั่วไปเนี่ยเราคิดว่าส่วน
00:13:32 → 00:13:35 ใหญ่จะต้องเจอในผู้สูงอายุครับค่ะแต่ถ้า
00:13:35 → 00:13:37 เมื่อกี้กลับไปว่าเอ้ยจริงๆความจำไม่ดี
00:13:37 → 00:13:39 มันไม่ใช่เฉพาะอัลไซเมอร์เนาะเยอะแยะมาก
00:13:39 → 00:13:42 มายอันนั้นแน่นอนสิแปลว่าคนอายุน้อยๆก็
00:13:42 → 00:13:44 เป็นได้แต่อาจจะไม่ใช่โรคอัลไซเมอร์แต่
00:13:44 → 00:13:48 คุณความจำบกพร่องได้อืซึ่งก็ต่างกันเลย
00:13:48 → 00:13:53 ค่ะต่างกันเลยต่างกันเลยค่ะอืครับอื
00:13:53 → 00:13:56 อย่างอัลไซเมอร์เองอ่ะครับอัลไซเมอร์ความ
00:13:56 → 00:13:59 น่ากังวลของอัลไซเมอร์อ่ะโอเคแหละถ้ามัน
00:13:59 → 00:14:04 เป็นแล้วคุณหมอเป็นแล้วเป็นแล้วเป็นแล้ว
00:14:04 → 00:14:09 เอ่อเกิดคนที่ดูแลคนในครอบครัวคนที่ดูแล
00:14:09 → 00:14:15 เอ๊ะก็ก็ยังก็ไม่รู้จะพามาหาหมอดีหรือ
00:14:15 → 00:14:19 เปล่าคิดไม่มีเวลาเอ่อปล่อยไว้หมายถึงดู
00:14:19 → 00:14:22 แลแบบเดิมๆต่อไปเรื่อยๆใช่ต่อไปเรื่อยๆ
00:14:22 → 00:14:24 เพราะว่ายังไงมันก็มันก็ไม่ได้ความจำไม่
00:14:25 → 00:14:26 ได้กลับมาอยู่แล้วนี่ก็ปล่อยอย่างี้ก็ได้
00:14:26 → 00:14:30 ดูแลตามมีตามเกิดไปวันไปวันๆแบบเนี้ยมัน
00:14:30 → 00:14:33 เป็นความคิดที่ถูกมั้ยหรือว่าเอ่อเราควร
00:14:33 → 00:14:37 เอามารักษาตามขั้นตอนจะดีกว่าครับคุณหมอ
00:14:37 → 00:14:39 ก็เอามารักษาตามขั้นตอนต้องดีกว่าแน่นอน
00:14:39 → 00:14:41 อยู่แล้วค่ะไม่ว่าจะเป็นอย่างที่บอกว่า
00:14:41 → 00:14:44 เราจะแนะนำว่ากิจกรรมที่คุณควรจะต้องไป
00:14:44 → 00:14:47 ปรับเปลี่ยนอ่ะคืออะไรบ้างยาเองก็มีหลาย
00:14:47 → 00:14:49 ชนิดแล้วก็ยาที่ช่วยทำให้ใช้ชีวิตง่าย
00:14:50 → 00:14:51 ขึ้นเช่นคนเป็นอัลไซเมอร์บางคนจะมีปัญหา
00:14:51 → 00:14:54 อารมณ์รุนแรงต่างๆเนี่ยหมอก็สามารถให้ยา
00:14:54 → 00:14:58 ที่ช่วยได้การนอนหลับผิดปกติกลางคืนตื่น
00:14:58 → 00:15:00 กลางวันหลับเงี้ยเราก็สามารถให้ยาที่ช่วย
00:15:00 → 00:15:02 บรรเทาตรงนี้ได้ก็ทำให้การใช้ชีวิตเนี่ย
00:15:02 → 00:15:05 มันง่ายขึ้นถ้าเกิดว่ายังใช้ชีวิตแบบเดิม
00:15:05 → 00:15:09 ๆแนวโน้มมันก็จะไปข้างหน้าครับอย่างต่อ
00:15:09 → 00:15:12 เนื่องค่ะซึ่งพอถึงจุดนึงอ่ะเราคาดเดาไม่
00:15:13 → 00:15:15 ได้เลยอ่ะค่ะว่าคนเป็นอัลไซเมอร์เขาจะแย่
00:15:15 → 00:15:18 ถึงระดับไหนร่างกายเขาแข็งแรงมากเลยนะคือ
00:15:18 → 00:15:21 มีแรงเดินเหินอะไรได้ปกติหมดเลยอ่ะค่ะได้
00:15:21 → 00:15:25 ปกติเออแต่ความคิดเามันไม่ใช่คนเดิมแล้ว
00:15:25 → 00:15:28 อ่ะเหตุผลที่เราเคยฟังแล้วเข้าใจเนี่ย
00:15:28 → 00:15:32 สมองของเขามันจะคาดเดาไม่ได้เลยค่ะว่าเขา
00:15:32 → 00:15:35 จะเข้าใจอันเนี้ยว่ายังไงแล้วเขาจะคิดออก
00:15:36 → 00:15:39 ไปด้วยวิธีไหนแสดงออกมาแบบไหนเนี่ยเราคาด
00:15:39 → 00:15:43 เดาไม่ได้เลยซึ่งเจอหลายๆบ้านมากๆที่ที่
00:15:43 → 00:15:45 ดูแลลำบากเพราะว่าอย่างที่ว่าร่างกายแข็ง
00:15:45 → 00:15:49 แรงเดินไปไหนมาไหนเองได้จับกันไม่ไหวที่
00:15:49 → 00:15:51 โมโหอารมณ์รุนแรงทำร้ายร่างกายคือมาเต็ม
00:15:52 → 00:15:57 เลยค่ะมันดูแลยากมากๆเออใช่อืออืคือเคย
00:15:57 → 00:16:00 เห็นในภาพข่าวโอ๊เคยเห็นมั้ที่แบบเอ่อ
00:16:00 → 00:16:03 เหมือนใช้โซ่ล่ามผู้สูงอายุที่อยู่ที่
00:16:03 → 00:16:07 บ้านเนะมันใช่ๆถึงขั้นที่แบบมันค่อนข้าง
00:16:07 → 00:16:11 โหดหูมากอืคือหมอเข้าใจคนดูแลเหมือนกันนะ
00:16:12 → 00:16:14 มีมีคนไข้ตัวเองท่านนึงอ่ะค่ะเเคยเอารูป
00:16:14 → 00:16:17 มาให้ดูที่บ้านเบอกคุณหมอคุณหมออย่าว่าผม
00:16:17 → 00:16:20 อกตัญญูเลยนะเออถ่ายรูปที่บ้านมาให้ดูคือ
00:16:20 → 00:16:23 เขาสร้างห้องกรงขังเลยอ่ะค่ะอืเหมือน
00:16:23 → 00:16:26 เหมือตารางเลยอ่ะแบบมีกรงที่เป็นเหล็ก
00:16:26 → 00:16:29 แล้วก็มัดไว้อย่างแน่นหนาพอเทำทุกวิถีทาง
00:16:29 → 00:16:34 แล้วจริงๆอ่ะไม่สามารถป้องกันการออกมาจาก
00:16:34 → 00:16:37 แบบไม่สามารถป้องกันไม่ให้เขา้าหายไปได้
00:16:37 → 00:16:40 เลยอ่ะคือเ้าไม่รู้จะทำยังวิธีไหนแล้ว
00:16:40 → 00:16:43 อะไรเงี้ยเออมันก็ฟังดูแล้วก็หดปูเนาะแบบ
00:16:43 → 00:16:46 อือื้อหือยากเพราะฉะนั้นเราไม่ควรปล่อย
00:16:46 → 00:16:50 ให้ใครไปถึงจุดนั้นง่ายๆค่ะเราต้องพยายาม
00:16:50 → 00:16:55 อย่างเต็มที่ในการชะลอให้ช้าที่สุดอืซึ่ง
00:16:55 → 00:16:59 ซึ่งหลายๆหลายๆเคสที่เราเคยเห็นตามข่าว
00:16:59 → 00:17:02 เห็นตามเอ่อแชร์กันโซเชียลมีเดียต่างๆนะ
00:17:02 → 00:17:06 เอ่อคนที่เป็นอัลไซเมอร์แบบเนี้ยที่น่า
00:17:06 → 00:17:09 ที่คนที่กลัวนะอ่ะอย่างที่คุณหมอบอกอโอเค
00:17:09 → 00:17:12 แหละเรื่องของอการทำร้ายหรือการทำร้าย
00:17:12 → 00:17:13 ร้ายตัวเองไม่ว่าตัวเองทั้งผู้อื่น
00:17:14 → 00:17:15 อันเนี้ก็เป็นสิ่งที่นะอีกสิ่งหนึ่งที่คน
00:17:15 → 00:17:17 ในครอบครัว
00:17:17 → 00:17:22 เอ่อรู้สึกว่าการดูแลมันยากก็คือเวลาที่
00:17:22 → 00:17:24 คนที่เป็นไลไซเมอร์เนี่ยคือเขามีเป้าหมาย
00:17:24 → 00:17:28 ในการที่จะนึกจะไปไหนก็ไปอ่ะเดินออกจาก
00:17:28 → 00:17:31 บ้านก็คือจะเดินออกจากบ้านไปเลยแล้วก็มัก
00:17:31 → 00:17:35 จะหาเวลาที่คนไม่คนดูแลเนี่ยไม่อยู่เนี่ย
00:17:35 → 00:17:38 ออกไปจนได้แล้วก็ตามต้องตามหากันจนแบบ
00:17:38 → 00:17:41 เป็นเป็นเวลานานฮะเพราะว่าเดินไปเดินร่อง
00:17:41 → 00:17:44 รอยเดินแบบไม่มีจุดหมายจริงเดินไปเรื่อยๆ
00:17:44 → 00:17:47 เดินไปอันเนี้ยเป็นส่วนหนึ่งที่คนคนเป็น
00:17:47 → 00:17:49 โรคนี้แล้วก็คนที่ดูแลเองก็กังวลนะคุณหมอ
00:17:49 → 00:17:53 เนาะยากมากเพราะว่าความคนเป็นอัลไซเมอร์
00:17:53 → 00:17:56 อ่ะค่ะเขาจะเสียความจำระยะใหม่ๆก่อนช่วง
00:17:56 → 00:17:59 แรกๆเนี่ยคือเรื่องใหม่ๆเงี้ยอาจจะจำไม่
00:17:59 → 00:18:03 ได้แต่ความทรงจำเดิมความคุ้นเคยเดิมหรือ
00:18:03 → 00:18:06 สิ่งที่เขาคิดว่าเาเคยทำในอดีตอ่ะมันยัง
00:18:06 → 00:18:09 อยู่แต่เขาจะลืมไปแล้วว่าตอนนี้เขาแก่มาก
00:18:09 → 00:18:12 แล้วนะคุณทำอย่างงั้นไม่ได้แล้วอะไรแบบ
00:18:12 → 00:18:14 เนี้ยเค้าก็จะกลับไปอย่างเช่นเค้าอาจจะ
00:18:14 → 00:18:18 ยังฝังใจกับที่พักเดิมสมัยเด็กๆอเาค้าก็
00:18:18 → 00:18:21 จะไปหาอะไรอย่างเงี้ยบ้านที่อยู่ตอนเนี้ย
00:18:21 → 00:18:23 บ้านใหม่เนี่ยจำไม่ได้และจำได้บ้านเดิม
00:18:23 → 00:18:25 อันนี้ไม่ใช่บ้านฉันอยู่บ้านตัวเองแต่บอก
00:18:25 → 00:18:28 นี่ไม่ใช่บ้านจะไปบ้านอยู่นั่นแหละอือะไร
00:18:28 → 00:18:30 อย่างเงี้ยมันก็จะจะยากหรือภรรยาเสีย
00:18:30 → 00:18:33 ชีวิตไปตั้งนานและเก็ไม่รู้จำไม่ได้ว่า
00:18:33 → 00:18:37 ภรรยาเสียชีวิตก็หาตามหาอะไรอย่างเงี้ย
00:18:37 → 00:18:41 ค่ะก็ยากอีกอันนึงที่เจอเป็นปัญหาบ่อยมาก
00:18:41 → 00:18:45 คือคิดว่าของหายอ่าใช่เพราะว่าตัวเองอ่ะ
00:18:45 → 00:18:48 วางแล้วก็จำไม่ได้คราวนี้เป็นปัญหากับทุก
00:18:48 → 00:18:50 คนเลยเพราะว่าเขาก็จะเอ้ยคนนั้นขโมยขนนี้
00:18:50 → 00:18:54 เอาของฉันไปโน่นนี่นั่นกันก็เริ่มโกรธ
00:18:54 → 00:18:58 อารมณ์เข้ามาใช่เป็นปัญหาที่ยากเหมือนกัน
00:18:58 → 00:19:01 เออเออๆเออใช่เคยคนแชร์กันบ่อยเหมือนกัน
00:19:01 → 00:19:05 นะเอ่อเนี่ยมีปัญหาแบบเนี้ยเริ่มแบบอะไร
00:19:05 → 00:19:09 นะมาโทษคนในบ้านว่าเอาเงินไปบ้างล่ะเอา
00:19:09 → 00:19:13 ทองที่เก็บไว้ไปบ้างล่ะทั้งนี้คนในบ้าน
00:19:13 → 00:19:17 ยังไม่รู้เลยว่าเอ่อคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณ
00:19:17 → 00:19:20 ยายท่านนั้นน่ะใช่ว่าท่านที่ไหนเออบางที
00:19:20 → 00:19:25 ซ่อนดีจนปลวกหาเจออ่ะค่ะ
00:19:25 → 00:19:27 นี่เออ
00:19:27 → 00:19:30 ค่ะแล้วพอเป็นมากกว่าเมื่อกี้ขอพูดถึง
00:19:30 → 00:19:34 ปัจจัยโทษทีค่ะ
00:19:34 → 00:19:36 อ๋อบอกว่าเวลาเป็นเยอะๆเวลาเป็นเยอะๆแล้ว
00:19:36 → 00:19:38 อย่างเงี้ยค่ะพวกลายมือการเขียนหนังสือ
00:19:38 → 00:19:41 ต่างๆก็เปลี่ยนไปนะคะไปธนาคารเซ็นชื่อ
00:19:41 → 00:19:44 ต่างๆก็ไม่เหมือนเดิมใช้ไม่ได้ก็เป็น
00:19:44 → 00:19:50 ปัญหาตามมาอีกครับค่ะอืค่ะเอ่อตอนต้นน่ะ
00:19:50 → 00:19:52 ค่ะคุณหมอบอกว่าลักษณะของอัลไซเมอร์นี่มี
00:19:52 → 00:19:54 เรื่องของพันธุกรรมหรืออะไรเงี้ยเข้ามา
00:19:54 → 00:19:57 เกี่ยวด้วยนอกจากเรื่องนี้แล้วมันมี
00:19:57 → 00:20:00 เรื่องอื่นมั้คะทุกคนจำเอ่อมีความเสี่ยง
00:20:00 → 00:20:03 ที่จะเป็นอัลไซเมอร์มากน้อยแค่ไหนคะค่ะ
00:20:03 → 00:20:06 ต้องบอกว่าทุกคนไม่ว่าใครมีความเสี่ยงทุก
00:20:06 → 00:20:09 คนเพราะว่าเป็นโรคที่มาตามอายุแต่มันจะมี
00:20:09 → 00:20:12 คนที่เสี่ยงมากกับเสี่ยงน้อยค่ะคนที่
00:20:12 → 00:20:15 เสี่ยงมากหน่อยอ่าก็นี่เลยเป็นคนที่ใน
00:20:15 → 00:20:17 ครอบครัวมีกันหลายๆคนอันเนี้ยคุณก็จะ
00:20:17 → 00:20:20 เสี่ยงเยอะกว่าคนอื่นครับ 2 คือคนที่ใช้
00:20:20 → 00:20:25 ชีวิตมาไม่ค่อยได้ดูแลสุขภาพอืกินไม่ดี
00:20:25 → 00:20:27 นอนไม่พอไม่ออกกำลังกายเพราะว่าเมื่อกี้
00:20:27 → 00:20:29 เคยพูดไปสักนิดนึงแล้วว่ามันเป็นเรื่อง
00:20:29 → 00:20:33 ของโปรตีนที่ตกตะกอนในสมองครับอ่าการที่
00:20:33 → 00:20:36 เราทำพฤติกรรมแบบเนี้ยโปรตีนพวกเนี้ยเรา
00:20:36 → 00:20:39 ถือเป็นของเสียซึ่งปกติเราต้องเอาไปทิ้ง
00:20:39 → 00:20:42 ค่ะการที่มันจะเอาไปทิ้งได้เนี่ยร่างกาย
00:20:42 → 00:20:44 ต้องมีการไหลเวียนเลือดที่ดีจะต้องมีการ
00:20:44 → 00:20:47 นอนหลับให้พอเพราะช่วงหลับลึกจะเป็นช่วง
00:20:47 → 00:20:50 ที่เราเอาขยะของสมองอ่ะไปทิ้งถ้าเราใช้
00:20:50 → 00:20:53 ชีวิตแบบเอ้ยนอนไม่พอนอนไม่นอนดึกตื่น
00:20:53 → 00:20:57 เช้านอนไม่เต็มที่นอนกรนต่างๆเงี้ยการเอา
00:20:57 → 00:21:00 ขยะไปทิ้งก็ทำได้ไม่ดีไม่ออกกำลังกายก็
00:21:01 → 00:21:03 เลือดไหลเวียนได้ไม่ดีอย่างเงี้ยค่ะหรือ
00:21:03 → 00:21:06 การกินอาหารที่เราไม่ได้กินอาหารที่ดีต่อ
00:21:06 → 00:21:10 สมองกินแต่อาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพพวก
00:21:10 → 00:21:12 เนี้ยก็ทำให้เส้นเลือดต่างๆไม่ดีก็เป็น
00:21:12 → 00:21:14 ความเสี่ยงในการเกิดอัลไซเมอร์ทั้งหมดอื
00:21:14 → 00:21:17 ใช่ค่ะบุหรี่เองก็ใช่การสูบบุหรี่ก็ช่วย
00:21:17 → 00:21:19 ก็ก็เพิ่มความเสี่ยงของการเป็นอัลไซเมอร์
00:21:19 → 00:21:22 ได้เหมือนกันสุดท้ายฟังดูมันเหมือนทั่วไป
00:21:22 → 00:21:24 นะคะมันฟังดูเหมือนอะไรก็ตามที่เราทำแล้ว
00:21:24 → 00:21:27 สุขภาพไม่ดีมันก็เป็นความเสี่ยงของ
00:21:27 → 00:21:31 อัลไซเมอร์ซึ่งจริงๆก็ใช่ค่ะอืค่ะแต่ว่า
00:21:31 → 00:21:34 มาดูคนที่จะเสี่ยงน้อยคนที่จะเสี่ยงน้อย
00:21:34 → 00:21:38 เช่นคนที่มีความเอ่อชอบศึกษาชอบเรียนรู้
00:21:38 → 00:21:41 สิ่งใหม่ๆได้ใช้สมองได้กระตุ้นได้เจอคน
00:21:41 → 00:21:45 ใหม่ๆได้พูดคุยได้เจอคนเยอะๆมี
00:21:45 → 00:21:48 ปฏิสัมพันธ์มีกิจกรรมตลอดอันเนี้ยก็จะ
00:21:48 → 00:21:51 เป็นกลุ่มคนที่เสี่ยงน้อยกว่ามีการฝึก
00:21:51 → 00:21:55 เอ่อทักษะสมองอยู่ตลอดเวลาใช่เรื่อยๆเออ
00:21:55 → 00:22:00 อย่างเช่นการนับเลขการบวกเลขคำนวณเลขตั้ง
00:22:00 → 00:22:04 วงแจกใช่กำลังคิดสิ่งเดียวกันเลยคุณหมอ
00:22:04 → 00:22:07 ใช่ค่ะใช่จริงๆทำได้ค่ะแต่ว่าต้องเรียน
00:22:07 → 00:22:10 อย่างงี้ว่าสมองเราอ่ะมันต้องฝึกทักษะให้
00:22:10 → 00:22:14 หลากหลายถ้าเราฝึกแต่กลุ่มที่เราชอบเช่น
00:22:14 → 00:22:17 สมมุติเราชอบเนี่ยตั้งวงเล่นไพ่ชอบมากเลย
00:22:17 → 00:22:19 แล้วเราทำแต่อย่างเงี้ยสุดท้ายสิ่งที่ยัง
00:22:19 → 00:22:22 เหลือดีอยู่ก็คือตัวเลขแต่ความจำด้านอื่น
00:22:22 → 00:22:27 ก็อาจจะไม่ดีเหมือนกันใช่ใช่ๆๆประมาณนั้น
00:22:27 → 00:22:30 ค่ะเพราะฉะนั้นในในกิจวัตรเนี่ยเราควรจะ
00:22:30 → 00:22:34 มีกิจกรรมที่หลากหลายแล้วก็ต้องchชalleng
00:22:34 → 00:22:36 ตัวเองด้วยอะไรใหม่ๆอยู่เสมอแล้วผมนึกถึง
00:22:36 → 00:22:41 เกมไอ้นี้เลยอ่ะเอ่อเกมเอ่อCRเวิร์ดหรือ
00:22:41 → 00:22:48 ว่าพวกเอ่อทายคำใบ้คำเดาคำใช่มั้เออเออ
00:22:48 → 00:22:51 เกมเศรษฐีก็สนุกดีนะเออใช่ๆเพราะฉะนั้น
00:22:51 → 00:22:54 มันไม่ได้มีแบบเกมฟิกว่าเอ้ยคุณกลัวเป็น
00:22:54 → 00:22:57 อัลไซเมอร์คุณไปเล่นซูโดกุทุกวันอย่าง
00:22:57 → 00:23:00 เงี้ยไม่ใช่มันต้องเป็นอะไรที่แบบสลับไป
00:23:00 → 00:23:01 สลับมาใน
00:23:01 → 00:23:06 ทด้วยครับอืค่ะพอพูดถึงอย่างงี้ที่มัน
00:23:06 → 00:23:09 ต้องแบบเสริมในหลายๆทักษะถ้าใครคุณผู้ฟัง
00:23:09 → 00:23:13 ตอนนี้อาจจะแบบมีคนใกล้ชิดหรือคนรู้จัก
00:23:13 → 00:23:16 ที่อยู่ในภาวะความทรงจำถดถอยหรือเสี่ยง
00:23:16 → 00:23:18 เป็นอัลไซเมอร์เนี่ยครับเออถ้าจะต้องไป
00:23:18 → 00:23:23 เสริมเค้าในการใช้ชีวิตแต่ละวันเนี่ยอ่ะ
00:23:23 → 00:23:25 คุณแม่คะอ่านหนังสือค่ะคุณแม่คะบวกเลขค่ะ
00:23:25 → 00:23:29 คุณแม่คะหัดเขียนลายมือค่ะครับมันดูแบบ
00:23:29 → 00:23:31 ขับเคลื่อนยากจังเลยคุณหมอคุณหมอมีคำอะไร
00:23:32 → 00:23:36 แนะนำมั้ยคะค่ะจริงๆถ้าถ้าเป็นปกติเราจะ
00:23:36 → 00:23:39 เริ่มจากสิ่งที่เขาชอบก่อนแล้วค่อยนำไป
00:23:39 → 00:23:42 สู่อะไรที่ใกล้เคียงกันแล้วขยายออกเรื่อย
00:23:42 → 00:23:45 ๆถ้ามาถึงปุ๊บเราแบบคุณแม่มาเรียนเลขกัน
00:23:45 → 00:23:47 อย่างเงี้ยก็คงจะได้รับการปฏิเสธตั้งแต่
00:23:47 → 00:23:51 ต้นค่ะเพราะฉะนั้นก็แต่ละบ้านแต่ละบุคคล
00:23:51 → 00:23:53 ก็จะมีกิจกรรมที่ชอบไม่เหมือนกันเริ่มจาก
00:23:53 → 00:23:56 สิ่งนั้นก่อนแต่สมมติว่าแต่เดิมอ่ะเราชอบ
00:23:56 → 00:23:58 ร้องเพลงมากเลยแต่เราร้องเพลงอยู่ที่บ้าน
00:23:58 → 00:24:00 คาราโอเกะอยู่ที่บ้านอันเนี้ยเอ้ยลอง
00:24:00 → 00:24:03 เปลี่ยนสิลองไปเป็นเข้ากลุ่มคาราโอเกะอ่า
00:24:04 → 00:24:06 มันก็จะได้เจอคนการที่
00:24:07 → 00:24:11 พันก็เป็นทักษะที่เพิ่มขึ้นมาอดีพอไปจุ๊ป
00:24:11 → 00:24:13 กันเดี๋ชวนกันไปทำอย่างอื่นและมันก็จะ
00:24:13 → 00:24:16 ขยายไปในสิ่งที่เขาอาจจะไม่ค่อยได้ทำหรือ
00:24:16 → 00:24:19 ไม่คุ้นเคยอืค่ะประมาณนี้เพราะฉะนั้นคือ
00:24:19 → 00:24:23 คงไม่ได้มีคำแนะนำแบบจำเพาะมากๆว่าจะต้อง
00:24:23 → 00:24:27 ทำกิจกรรมอะไรบ้างแต่ว่าแนะนำว่ามันควรจะ
00:24:27 → 00:24:30 ต้องพยายามขยายกิจกรรมเนี่ยให้แตกใหม่มาก
00:24:31 → 00:24:34 ขึ้นและได้มีเอ่อมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
00:24:34 → 00:24:36 ให้เยอะๆอันนี้
00:24:36 → 00:24:38 ครับเราจะพอที่จะมีเคล็ดลับมั้ยเตรียมตัว
00:24:38 → 00:24:42 เนิ่นๆเออเคล็ดลับมั้ยอหรือเคล็ดไม่รับก็
00:24:42 → 00:24:44 ได้บอกเคล็ดไม่รับเดี๋วมันบอกไม่ได้เคล็ด
00:24:44 → 00:24:47 ไม่รับดีกว่า
00:24:47 → 00:24:51 เออเคล็ดลับจริงๆมันเบสิคมากเลยอ่ะคือ
00:24:51 → 00:24:53 ด้วยด้วยข้อมูลที่มีปัจจุบันคือเท่าๆนี้
00:24:53 → 00:24:57 จริงๆก็คือออกกำลังกายค่ะทานอาหารที่ดีคำ
00:24:57 → 00:25:00 ว่าอาหารที่ดีเนี่ยอาจจะอยากจะให้เน้นไข
00:25:00 → 00:25:05 มันที่มันดีกับสมองเช่นไขมันปลาหรือว่าไข
00:25:05 → 00:25:07 มันที่เป็นโอเมก้า 3 โอเมก้า 9 ที่มาจาก
00:25:07 → 00:25:11 น้ำมันมะกอกหรือว่าอะโวคาโดต่างๆก็ก็จะ
00:25:11 → 00:25:15 ช่วยในการบำรุงสมองได้ค่ะแล้วก็คอยทานผัก
00:25:15 → 00:25:19 ทานผลไม้อย่าให้ขาดวิตามินบีค่ะหลีก
00:25:19 → 00:25:21 เลี่ยงการเอาของที่เป็นโทษเข้าสู่ร่างกาย
00:25:21 → 00:25:24 เช่นบุหรี่แอลกอฮอล์ต่างๆเหล่าเนี้ยก็จะ
00:25:24 → 00:25:27 ต้องหลีกเลี่ยงแล้วก็อยากให้ความสำคัญกับ
00:25:27 → 00:25:30 quality ของการนอนให้ดีคุณภาพนะการนอน
00:25:30 → 00:25:35 คุณภาพการนอนที่ดีอันนี้ก็สามารถช่วยได้
00:25:35 → 00:25:41 มากค่ะอืออการนอนก็มีเอ่อคุณคุณหมอเน้น
00:25:41 → 00:25:43 การนอนมาตั้งแต่ต้นรายการละตั้งแต่เปิด
00:25:43 → 00:25:45 หัวมาสักักนิดนึงอ่ะคุณหมอก็พูดเรื่องของ
00:25:45 → 00:25:49 การนอนมันนอนแล้วมันส่งผลต่อสมองหรือว่า
00:25:49 → 00:25:52 เรื่องของความจำได้ได้ขนาดนั้นเลยเหรอคุณ
00:25:52 → 00:25:56 หมอครับได้เยอะมากเลยค่ะเพราะว่าใน 1 วัน
00:25:56 → 00:25:58 เนี่ยเรื่องที่เข้ามาสู่สมองเราเนี่ยมัน
00:25:58 → 00:26:00 เยอะมากเลยนะคะช่วงที่เราหลับลึกเนี่ยจะ
00:26:00 → 00:26:04 เป็นช่วงที่สมองเราจัดเรียงความคิดอือเอา
00:26:04 → 00:26:07 สิ่งที่เราเจอมาเนี่ยจัดเลี้ยงให้เป็น
00:26:07 → 00:26:09 หมวดหมู่เอาไปเก็บตามที่ที่มันควรจะอยู่
00:26:09 → 00:26:13 อือรวมถึงกำจัดของเสียในสมองเนี่ยก็จะ
00:26:13 → 00:26:16 เกิดขึ้นในช่วงที่หลับลึกเพราะฉะนั้นแล้ว
00:26:16 → 00:26:18 เวลาเราเริ่มหลับไม่ใช่เราหลับปุ๊บแล้ว
00:26:18 → 00:26:20 มันจะหลับลึกทันทีไม่ใช่มันต้องใช้เวลา
00:26:20 → 00:26:24 กว่าจะแบบหลับตื้นหลับกลางหลับลึกหลับฝัน
00:26:24 → 00:26:26 เริ่มใหม่วนไปอย่างเงี้ยค่ะเพราะฉะนั้น
00:26:26 → 00:26:30 มันต้องการการนอนที่ยาวเพียงพอและดีเพียง
00:26:30 → 00:26:34 พอลึกเพียงพอใช่ซึ่งโรคที่ที่เราเจอซ่อน
00:26:34 → 00:26:37 อยู่ณปัจจุบันน่าจะเคยได้ยินกันที่นอนกรน
00:26:37 → 00:26:41 แล้วออกซิเจนมันต่ำครับที่เป็นโรคทางเดิน
00:26:41 → 00:26:46 หายใจอุดกั้งหายใจมั้หยุดหายใจอันเนี้ย
00:26:46 → 00:26:50 เป็นโรคที่คนละเลยเยอะแล้วก็เป็นบ่อเกิด
00:26:50 → 00:26:54 ของโรคทางสุขภาพหลายอย่างมากๆเช่นอะไร
00:26:54 → 00:26:57 บ้างเช่นอะไรบ้างโได้ตั้งแต่โรคหัวใจเส้น
00:26:57 → 00:27:02 เลือดสมองตีบความจำเสื่อมครับได้หมดเลย
00:27:03 → 00:27:06 ใช่ค่ะสำคัญมากออ่ามีนี่อันนี้ประสบการณ์
00:27:06 → 00:27:08 อยู่เพิ่งล่าสุดล่าสุดเลยเพื่อนร่วมงาน
00:27:08 → 00:27:11 ท่านนึงนะมาบอกมาแบบบอกแบบเหมมาเล่า
00:27:11 → 00:27:15 ประสบการณ์ชีวิตอ่ะเออแบบโมโหคุณคุณแฟน
00:27:15 → 00:27:17 มากแบบว่าเอ้ยกำลังนอนๆอยู่แล้วแบบเอ้ย
00:27:18 → 00:27:21 คุณแฟนมาเขย่าตัวแบบแรงอ่ะแล้วก็ตกใจตื่น
00:27:21 → 00:27:24 อะไรเงี้ยแล้วแฟนแฟนเขาก็บอกว่าก็เนี่ยก็
00:27:24 → 00:27:27 เธออ่ะนอนแล้วเหมือนกรนแล้วก็หยุดหายใจ
00:27:27 → 00:27:31 แบบไปเลยแบบสักพักนึงอ่ะก็เลยแบบต้องรีบ
00:27:31 → 00:27:34 ต้องรีบปลุกอะไรเงี้ยก็ผมก็เลยบอกก็แฟนก็
00:27:34 → 00:27:38 ทำถูกแล้วจะไปจะไปโกรธโมโหทำไมทั้งซึ่งซึ
00:27:38 → 00:27:42 จริงๆจริงๆก็ควรจะเอ่อถ้าใครรู้ว่าคนข้าง
00:27:42 → 00:27:45 ข้างกายข้างตัวเนี่ยมีอาการแบบเนี้ยขนาด
00:27:45 → 00:27:49 นั้นปลุกเนี่ยคืออาการที่ทำถูกมั้คุณหมอ
00:27:49 → 00:27:51 จริงๆแล้วปลุกหรือไม่ปลุกอ่ะไม่เกี่ยวเลย
00:27:51 → 00:27:54 เพราะว่าใช่เพราะว่าร่างกายเราฉลาดมากพอ
00:27:55 → 00:27:57 เราพอเราออกซิเจนต่ำปุ๊บอ่ะค่ะมันจะปลุก
00:27:57 → 00:28:00 ให้เราตื่นอัตโนมัติเลยอตื่นในที่นี้
00:28:00 → 00:28:03 เนี่ยเนี่ยเราอาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็
00:28:03 → 00:28:06 ได้นะคะแต่สมองเราอ่ะตื่นอันเนี้ยคือที่
00:28:06 → 00:28:09 มาว่าเฮ้ยเรารู้สึกว่าเรานอนยาวมากเลยอ่ะ
00:28:09 → 00:28:13 นอนยาวมากแต่ตื่นมาไม่เคยสดชื่นเลยเพราะ
00:28:13 → 00:28:17 ว่าออมันหลับไม่ได้คุณภาพกำลังจะหลับลึก
00:28:17 → 00:28:20 และอ้าวออกซิเจนต่ำสมองเราโดนปลุกให้ตื่น
00:28:20 → 00:28:23 อีกะอ๋อแต่มันอาจจะตื่นในระดับที่เราไม่
00:28:23 → 00:28:25 ได้ลืมตาหรือไม่ได้รับรู้สิ่งรอบตัวแต่
00:28:25 → 00:28:28 สมองเราอ่ะไม่ได้อยู่ในสageของภาวะหลับ
00:28:28 → 00:28:30 อีกต่อไปแสดงว่า
00:28:30 → 00:28:33 ซ้ำๆก็มันก็เหมือนไม่ได้นอนแสดงว่าการจะ
00:28:34 → 00:28:36 ไปสู่ขั้นตอนการหลับลึกเองเนี่ยจริงๆมัน
00:28:36 → 00:28:38 ต้องหลายๆองค์ประกอบไม่ใช่ว่าการนอนของ
00:28:38 → 00:28:42 ทุกคนจะเข้าสู่กระบวนการหลับลึกได้โดย
00:28:42 → 00:28:44 อัตโนมัติ
00:28:44 → 00:28:46 จริงๆมันเข้าโดยอัตโนมัติถ้าไม่มีอะไรไป
00:28:46 → 00:28:49 กวนมันเช่นอ่าถ้าเรานอนได้ยาวพอถ้าเราไม่
00:28:49 → 00:28:51 ได้มีออกซิเจนต่ำที่ต้องสุกให้มันตื่น
00:28:51 → 00:28:54 ตลอดหรือถ้าเราไม่ได้ไปดื่มสารเช่น
00:28:54 → 00:28:56 แอลกอฮอล์พวกนี้เป็นทำให้เป็นอะไรที่ทำ
00:28:56 → 00:28:59 ให้หลับไม่ลึกอือๆครับมันจะหลับมันมันจะ
00:28:59 → 00:29:00 เหมือนเราหลับลึกนะคะเวลาเราดื่ม
00:29:01 → 00:29:02 แอลกอฮอล์มันจะเหมือนเราไม่รู้สึกตัวเลย
00:29:02 → 00:29:05 อ่ะแต่ว่าคลื่นสมองอ่ะใช่มันจะมันจะหลับ
00:29:05 → 00:29:09 แบบเป็นเป็นท่อนๆมีหลับๆตื่นอ่าจะไม่ใช่
00:29:09 → 00:29:12 quality การนอนที่ดีอถึงเพราะฉะนั้นคน
00:29:12 → 00:29:14 ที่ใช้แอลกอฮอล์ช่วยเรื่องการนอนหลับแล้ว
00:29:14 → 00:29:17 รู้สึกว่าเอ้ยหลับได้ดีจังเลยฉันใช้มันไป
00:29:17 → 00:29:19 เรื่อยๆเพื่อช่วยให้นอนหลับเนี่ยมันไม่
00:29:19 → 00:29:23 เหมือนการนอนหลับที่มีคุณภาพนะคะอืไม่ใช่
00:29:23 → 00:29:26 ทดแทนกันไม่ได้อือๆเพราะฉะนั้นเขาคนเราก็
00:29:26 → 00:29:30 จะเลยเห็นคนที่ชอบดื่มแบบหนักๆนะแล้วก็
00:29:30 → 00:29:33 ตื่นมาเนี่ยโอเคแหละโอเคนอนแบบตื่นสัก
00:29:33 → 00:29:36 เที่ยนแต่สุดท้ายก็ยังไม่สดชื่นอยู่ดีก็
00:29:36 → 00:29:40 เพราะเหตุผลเแหละใช่ถูกต้องอออือค่ะหรือ
00:29:40 → 00:29:43 คนที่ใช้ยานอนหลับเองก็จะเหมือนกันคือมัน
00:29:43 → 00:29:46 ทำให้เราหลับจริงแหละแต่ quality หรือ
00:29:46 → 00:29:49 คลื่นสมองในตอนหลับมันไม่เหมือนการนอน
00:29:49 → 00:29:51 หลับโดยธรรมชาติออืค่ะเพราะฉะนั้น
00:29:51 → 00:29:54 ประโยชน์ในระยะยาวจริงๆก็ไม่เหมือนการนอน
00:29:54 → 00:29:57 ที่ดีโดยธรรมชาติอยู่ดีอือ่ะเดี๋ยวขอคั้น
00:29:57 → 00:29:59 ด้วยคำถามจากคุณผู้ฟังสักนิดนึงนะครับ
00:29:59 → 00:30:02 เอ่อคุณผู้ฟังถามมาว่าคุณหมอครับเอ่อควร
00:30:03 → 00:30:05 พบไปพบแพทย์มั้ยครับอาการอย่างนี้สำหรับ
00:30:05 → 00:30:07 ท่านผู้ฟังท่านนี้นะครับบอกว่าเอ่อชอบลืม
00:30:07 → 00:30:10 เวลาผู้โดยสารขึ้นรถแล้วเนี่ยลืมกดแบบ
00:30:10 → 00:30:13 เป็นกดมิเตอร์รถแท็กซี่อ่ะฮะพูดท่านเอ่อ
00:30:13 → 00:30:17 ท่านผู้ฟังน่าจะเป็นแบบเอ่อพี่ๆเอ่อ
00:30:17 → 00:30:20 แท็กซี่นะครับค่ะเอ่อมานึกมารู้ตัวอีกที
00:30:20 → 00:30:22 ก็เกือบถึงบ้านผู้โดยสารแล้วเป็นบ่อยๆแบบ
00:30:22 → 00:30:24 เนี้ยเกี่ยวมั้ยหรือว่าเป็นอาการที่แบบ
00:30:24 → 00:30:27 อาจจะไม่มีสมาธิก็ได้หรือว่ายังไงคุณหมอ
00:30:27 → 00:30:29 ใช่ๆพูดถูกเลยค่ะน้องคือต้องถามตัวเอง
00:30:29 → 00:30:32 ก่อนว่าที่มันเกิดขึ้นซ้ำๆอ่ะเรามีสมาธิ
00:30:32 → 00:30:36 มั้ยอืค่ะแต่ว่าถ้าเกิดว่าคุณผู้ฟังที่
00:30:36 → 00:30:38 ถามมาเรู้ตัวว่าเป็นปัญหาเนี่ยหมอคาดเดา
00:30:38 → 00:30:42 ว่าเขาน่าจะต้องตั้งใจในการจำแล้วแหละอ
00:30:42 → 00:30:45 ถ้าเราตั้งใจแล้วว่าเฮ้ยฉันตั้งใจมากเลย
00:30:45 → 00:30:47 ที่ฉันจะไม่ลืมสิ่งเนี้ยแล้วมันยังเกิด
00:30:47 → 00:30:49 เหตุการณ์เขึ้นซ้ำๆเนี่ยอันนี้จริงๆก็ควร
00:30:49 → 00:30:52 จะไปเช็คแล้วก็อาจจะต้องฝากคนที่บ้านหรือ
00:30:52 → 00:30:55 คนรอบๆข้างอ่ะช่วยสังเกตหน่อยว่านอกจาก
00:30:55 → 00:30:57 เรื่องเนี้ยเรามีหลงลืมเรื่องอื่นด้วย
00:30:57 → 00:31:00 หรือเปล่าเปล่าเพราะว่าหลายๆครั้งเจ้าตัว
00:31:00 → 00:31:04 จะเป็นคนที่ไม่ค่อยรู้อือ่าไม่ได้สังเกต
00:31:04 → 00:31:07 ตัวเองแต่คนรอบข้างนี่จะรู้และเออใช่ๆ
00:31:08 → 00:31:09 เพราะฉะนั้นอาจจะต้องปากถามด้วยว่าเฮ้ย
00:31:09 → 00:31:12 มันมีเรื่องอื่นมั้ยนอกจากเรื่องมิสเตอร์
00:31:12 → 00:31:14 เนี่ยมันมีอย่างอื่นมั้ยที่แบบผิดปกติไป
00:31:14 → 00:31:17 ซึ่งถ้ามีก็แนะนำว่าควรจะมาเช็คป่ะอออื
00:31:17 → 00:31:22 ค่ะอีกท่านถามว่าอีกท่านถามว่านะขอเอ่อ
00:31:22 → 00:31:25 การวาดรูปครับการวาดรูปช่วยเรื่อง
00:31:25 → 00:31:27 อัลไซเมอร์ได้หรือเปล่า
00:31:27 → 00:31:30 ค่ะช่วยได้ค่ะช่วยได้แต่ก็อย่างที่เรียน
00:31:30 → 00:31:34 ไปว่าการทำกิจกรรมเนี่ยไม่อยากให้ทำอย่าง
00:31:34 → 00:31:38 เดียวซ้ำๆไปตลอดวาดรูปเนี่ยดีแน่นอนแต่
00:31:38 → 00:31:41 ว่าวาดรูปอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอคุณจะ
00:31:41 → 00:31:43 ต้องไปทำกิจกรรมอื่นบ้างเช่นเราวาดรูป
00:31:44 → 00:31:47 เก่งแต่ว่าเราก็ต้องไปหัดคิดเลขบ้างไปอื
00:31:47 → 00:31:50 สลับคเทนกับพี่ขวัญบ้างใช่มั้ยพี่ขวัญแนว
00:31:50 → 00:31:54 คิดคิดเลขก็มาคอแลapกันคอแลapเอ้ยวันนี้
00:31:54 → 00:31:56 มาคิดเลขกันวันนี้ไปวัดรูป
00:31:56 → 00:32:01 ใช่ๆค่ะก็ทำให้มันหลากๆใช่เออได้คอมมู
00:32:01 → 00:32:03 ใหม่ค่ะ
00:32:03 → 00:32:08 เออนั่นแหละพอเป็นอย่างี้คุณหมอคือเวลา
00:32:08 → 00:32:12 เราออกไปข้างนอกเนี่ยครับคือเวลาเราต้อง
00:32:12 → 00:32:15 ดูแลผู้ป่วยที่เป็นอัลไซเมอร์แล้วอย่าง
00:32:15 → 00:32:18 เงี้ยหลายๆคนขวัญเคยเห็นคือเราก็เข้าใจ
00:32:18 → 00:32:22 เ้านะว่าก็อยากให้เอ่อผู้ป่วยที่อยู่กับ
00:32:22 → 00:32:25 เขาเนี่ยเอ่ออยากเจอสังคมใหม่ๆพาไปทาน
00:32:25 → 00:32:28 อาหารอร่อยอะไรอย่างเงี้ยวิธีการดูแลเวลา
00:32:28 → 00:32:31 เราพาเค้าออกไปข้างนอกนอกบ้านเนี่ยเราควร
00:32:31 → 00:32:35 ดูแลเค้าแบบไหนยังไงคะหรือว่าเอ่อมีคำแนะ
00:32:35 → 00:32:39 นำอะไรแบบเป็นแบบที่ควรต้องทำแบบเฉพาะ
00:32:39 → 00:32:43 เจาะจงบ้างคะค่ะจริงๆอันเนี้ยเป็นเรื่อง
00:32:43 → 00:32:46 ที่ตัดสินใจยากเหมือนกันเพราะว่าโดย
00:32:46 → 00:32:49 ธรรมชาติของคนไทยอ่ะค่ะเราเป็นคนที่มี
00:32:49 → 00:32:52 ความกตัญญูสูงมากครับแนวโน้มคือเราจะทำ
00:32:52 → 00:32:56 ทุกอย่างแทนหมดเลยอืซึ่งโดยจริงๆแล้วเรา
00:32:56 → 00:32:59 ไม่อยากให้เป็นแบบนั้นคำแนะนำคือให้อยาก
00:32:59 → 00:33:02 จะพยายามให้เขาอ่ะได้ทำกิจวัตรด้วยตัวเอง
00:33:02 → 00:33:06 ให้ได้มากที่สุดหน้าที่เราอ่ะคือคอยดูแล
00:33:06 → 00:33:09 ว่ามันปลอดภัยอ่าโอเคหรือว่าถ้าเขาทำเลอะ
00:33:09 → 00:33:12 เทอเราก็คอยดูแลเรื่องความสะอาดให้แต่ว่า
00:33:12 → 00:33:16 ไม่ใช่ว่าเราไปบริหารจัดการให้ซะทุกอย่าง
00:33:16 → 00:33:19 ค่ะมันจะเป็นการลดทอนใช่มันเป็นการลดทอน
00:33:19 → 00:33:22 ความสามารถเขาด้วยแล้วก็มันทำให้เราอ่ะ
00:33:22 → 00:33:25 ไม่รู้ด้วยว่าณตอนเนี้ยเขาแย่ถึงจุดไหนละ
00:33:25 → 00:33:28 เพราะว่าหลายๆครั้งอ่ะคือแบบอ้าไม่โอ้โห
00:33:28 → 00:33:31 คุณแม่เป็นขนาดนี้แล้วทำไมไม่สังเกตมา
00:33:31 → 00:33:33 ก่อนหน้านี้เลยล่ะคะอะไรอย่างเงี้ยอ๋อ
00:33:33 → 00:33:35 เพราะว่าไม่เคยต้องให้ทำอะไรเองเลยค่ะมี
00:33:35 → 00:33:38 พี่เลี้ยงดูแลการเงินลูกจัดการหมดไปซื้อ
00:33:38 → 00:33:41 ของไม่ต้องไปเงินไม่เคยให้ถืออครับไม่
00:33:41 → 00:33:45 ต้องเข้าครัวแล้วอะไรอย่างเงี้ยอืออืค่ะ
00:33:45 → 00:33:47 คือมันกลายเป็นว่ากว่าเราจะรู้ว่าคุณแม่
00:33:47 → 00:33:51 ผิดปกติอ่ะมันเรทมากใช่เหมือนกับว่าเอ้ย
00:33:51 → 00:33:55 เออโอเคทำไม่ได้เดี๋ยวทำให้ก็ใช่เอ่ออัน
00:33:55 → 00:33:58 นี้อันนี้ถามไปแล้วเอ่อตอบไม่ได้หรืออ
00:33:58 → 00:34:01 เดี๋ยวๆเดี๋ยวจัดการให้โอเคดูแลให้อะไร
00:34:01 → 00:34:06 อย่างงี้ซึ่งมันไม่ส่งผลดีใช่ๆออืค่ะอัน
00:34:06 → 00:34:09 นี้ถ้าอีกกรณีนึงค่ะคุณหมอถ้าออกไปข้าง
00:34:09 → 00:34:12 นอกเราเปรียบเปลยในกรณีที่เราพาเด็กเล็ก
00:34:12 → 00:34:15 ออกไปข้างนอกเอ่อหลายๆคนคุณพ่อคุณแม่จะ
00:34:15 → 00:34:19 เขียนชื่อที่อยู่ของผู้ที่ติดต่อได้ใส่
00:34:19 → 00:34:22 ไว้ในกระเป๋าหรือใส่ไว้ในเงี้ยถ้าในกรณี
00:34:22 → 00:34:26 ของเอ่อผู้ที่เป็นเอ่อโรคอัลไซเมอร์แล้ว
00:34:26 → 00:34:30 เนี่ยเราทำแบบนี้ได้มยหรือว่ามันต้องมี
00:34:30 → 00:34:34 วิธีไหนที่เหมาะสมคะทำได้ค่ะเดี๋ยวนี้มี
00:34:34 → 00:34:38 ตัวช่วยเราเยอะมากไม่ว่าจะเป็นairคติด GPS
00:34:38 → 00:34:41 หรือเขียนข้อมูลต่างๆหรือเซฟในโทรศัพท์
00:34:41 → 00:34:44 ต่างๆแต่ว่าต้องเรียนว่าคนเป็นอัลไซเมอร์
00:34:44 → 00:34:47 เนี่ยมันมีหลายระดับเราคงไม่ได้ใช้วิธี
00:34:47 → 00:34:49 เนี้ยกับคนที่เพิ่งเริ่มเป็นคนที่เพิ่ง
00:34:49 → 00:34:52 เริ่มเป็นช่วงแรกเขาจะมีปัญหาแค่การจำของ
00:34:52 → 00:34:55 ใหม่ๆยังจำไม่ได้แต่ความจำหรืออย่างอื่น
00:34:55 → 00:34:57 เค้ายังดีหมดเพราะฉะนั้นอันเนี้เราอาจจะ
00:34:57 → 00:35:01 ต้องประเมินนิดนึงว่าแย่ถึงระดับไหนและ
00:35:01 → 00:35:04 อ่ะถ้าแย่ถึงระดับที่เอ๊บางทีจำชื่อลูก
00:35:04 → 00:35:06 ไม่ได้บางทีไม่รู้ว่าบ้านตัวเองอยู่ไหน
00:35:06 → 00:35:10 อันเนี้ยก็คงที่จะต้องมีของพวกนี้ติดไว้
00:35:10 → 00:35:13 แต่จะดีกว่านั้นถ้าเราไม่เปิดโอกาสให้เขา
00:35:13 → 00:35:17 หายไปคือมันจะต้องมีคนที่คอยดูอยู่เกือบ
00:35:17 → 00:35:19 จะตลอดไม่ปล่อยให้อยู่ในสถานการณ์ที่
00:35:19 → 00:35:26 เสี่ยงที่จะไปไหนมาไหนเองจ้าค่ะอืเออแต่
00:35:26 → 00:35:28 พอพูดถึงถ้าเป็นลักษณะแบบเนี้ยเทคโนโลยี
00:35:28 → 00:35:30 เดี๋ยวเนี้ยเา้าเข้ามาช่วยค่อนข้างได้
00:35:30 → 00:35:32 เยอะอย่างที่คุณหมอยกตัวอย่างว่าAirTค
00:35:32 → 00:35:35 อย่างเงี้ยเราตามหาตามพิกัด GPS ได้เลย
00:35:35 → 00:35:38 ถ้าถ้าเา้าไม่ทิ้งออกไปก่อนนะมันยังติด
00:35:38 → 00:35:41 กับตัวอยู่ตลอดเวลาอครับค่ะค่ะเดี๋ยวนี้
00:35:41 → 00:35:43 มันมันซ่อนได้หลายที่มากเลยนะคะซ่อนในรอง
00:35:43 → 00:35:47 เท้าซ่อนในอะไรอย่างเงี้ยเคยเห็นของเด็กๆ
00:35:48 → 00:35:51 อ่ะที่คุณแม่ใช้ใช่ซ่อนในเข็มขัดซ่อนใน
00:35:51 → 00:35:53 รองเท้าอะไรอย่างเงี้ยเพราะว่าบางทีเราก็
00:35:53 → 00:35:56 กลัวว่าบางทีเราก็กลัวว่าถ้าเป็นโทรศัพท์
00:35:56 → 00:35:58 มือถือถ้าเขาหลงๆเงี้ยเดี๋ยวมันก็มีคน
00:35:58 → 00:36:01 ขโมยหรืออะไรไปก็จะตายกันไม่ได้ก็อาจจะ
00:36:01 → 00:36:06 ต้องซ่อนในที่ที่เอาไปลำบากนิดนึงอืค่ะพอ
00:36:06 → 00:36:09 พูดถึงเรื่องเทคโนโลยีปกติเนี่ยเท่าที่
00:36:09 → 00:36:12 ทราบคือคนที่เป็นอัลไซเมอร์เนี่ยก็มีวิธี
00:36:12 → 00:36:15 การรักษาโดยการทานยาหรืออะไรอย่างเงี้ย
00:36:15 → 00:36:17 เดี๋ยวเนี้ยนอกจากทานยามีวิธีการรักษา
00:36:17 → 00:36:20 อื่นๆมั้ยหรือมีเทคโนโลยีอื่นๆมที่เข้ามา
00:36:20 → 00:36:24 ช่วยเหลือชะลอโรคให้เกิดขึ้นช้าลงไปบ้าง
00:36:24 → 00:36:27 คะคุณหมอครับโออันนี้เป็นคำถามที่ดีมาก
00:36:27 → 00:36:30 เลยเพราะว่าโชคดีมากๆที่เราเพิ่งจะมียา
00:36:30 → 00:36:35 ที่เป็นตัวใหม่ที่มีแนวโน้มว่าจะช่วยชะลอ
00:36:35 → 00:36:37 การไปข้างหน้าของอัลไซเมอร์ได้ณวันนี้ที่
00:36:37 → 00:36:40 เมืองไทยยังไม่ได้มีใช้นะคะแต่ว่าที่ต่าง
00:36:40 → 00:36:42 ประเทศที่อเมริกาเนี่ยเริ่มมีใช้กันแล้ว
00:36:42 → 00:36:45 นะคะมันจะเป็นยาที่จะไปจับกับโปรตีนพวก
00:36:45 → 00:36:49 เนี้ยแล้วเอามันออกมาจากสมองครับอ่าซึ่ง
00:36:49 → 00:36:52 ซึ่งเราก็คิดว่าอันเนี้ยมันดูตรงจุดมาก
00:36:52 → 00:36:54 เลยก่อนหน้านี้ยารักษาอัลไซเมอร์มันเป็น
00:36:54 → 00:36:57 แค่ยาเหมือนประคับประคองอาการเรายังไม่มี
00:36:57 → 00:36:59 ยาตัวไหนที่ชะลอกันไปข้างหน้าได้เลย
00:36:59 → 00:37:02 อันเนี้ยก็จะเป็นยาที่เป็นความหวังที่ยัง
00:37:02 → 00:37:05 อาจจะต้องรออีกนิดนึงแต่ว่ามันมีแนวโน้ม
00:37:05 → 00:37:10 ว่าจะได้ใช้กันค่ะอื่ะอีกอันนึงก็คือ
00:37:10 → 00:37:13 เทคโนโลยีในการวินิจฉัยอัลไซเมอร์ให้เร็ว
00:37:13 → 00:37:16 ขึ้นตอนนี้ก็มีหลากหลายมากตั้งแต่การตรวจ
00:37:16 → 00:37:18 เลือดเดี๋ยวเนี้ยก็เช็คได้ล่วงหน้าก่อน
00:37:18 → 00:37:21 เป็นอัลไซเมอร์ 10-15 ปีเริ่มมีบริการ
00:37:21 → 00:37:24 ตรวจเลือดและที่ว่าเอ้ยดูว่าคุณมีความสูง
00:37:24 → 00:37:27 มากน้อยจากการเช็คโปรตีนบางชนิดในเลือด
00:37:27 → 00:37:30 ค่ะหรือจะยากกว่านั้นเช่นตรวจในน้ำไข่สัน
00:37:30 → 00:37:34 หลังหรือการไปสแกนสมองชนิดพิเศษเช่นพวก H
00:37:34 → 00:37:36 scแกนหรือฟังก์ชal MRI บางอย่างอย่าง
00:37:36 → 00:37:38 เงี้ยก็สามารถทำให้เราวินิจฉัยอัลไซเมอร์
00:37:38 → 00:37:41 ได้เร็วขึ้น
00:37:41 → 00:37:44 แบบกำลังไปข้างหน้าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่
00:37:44 → 00:37:47 เขาก็ให้ความสำคัญในการหาทางออกให้เยอะ
00:37:47 → 00:37:52 มากๆอืค่ะโอถ้าสมมุตินะคุณหมอกรณีที่
00:37:52 → 00:37:54 อย่างขวัญสมมุติมีคนในครอบครัวเป็นโรค
00:37:54 → 00:37:57 อัลไซเมอร์อ่ะตอนนี้สมมุติว่าเข้าหลัก 4
00:37:57 → 00:38:01 และ 40 ต้นๆรู้สึกแบบกลัวจังเลยกลัวจะมี
00:38:01 → 00:38:05 ความเสี่ยงอเข้าwalkินเข้าไปตรวจบอกคุณ
00:38:05 → 00:38:08 หมอได้มยหรือทางโรงพยาบาลมีความจำเป็น
00:38:08 → 00:38:12 ต้องบอกว่าคุณต้องมีภาวะความเสี่ยง 1 2
00:38:12 → 00:38:16 3 เราถึงจะเอ่อวินิจฉัยให้ลักษณะการแบบ
00:38:16 → 00:38:20 เนี้ยมันทำได้มั้ยหรือต้องรอขอให้มีเอ่อ
00:38:20 → 00:38:23 ขั้นตอนหรือว่าความลืมนิดนึงก่อนหรือยัง
00:38:23 → 00:38:24 ไงคะ
00:38:25 → 00:38:28 เอ่อถ้ายกตัวอย่างง่ายๆมันก็จะเหมือนการ
00:38:28 → 00:38:31 คัดกรองมะเร็งหรือการคัดกรองอะไรทั่วไป
00:38:31 → 00:38:34 อ่ะนะคะคือคนที่คิดว่าตัวเองมีความเสี่ยง
00:38:34 → 00:38:38 และมีความกังวลเราก็สามารถไปตรวจได้แต่
00:38:38 → 00:38:40 กลุ่มเนี้ยเราอาจจะต้องรับผิดชอบค่าใช้
00:38:40 → 00:38:42 จ่ายเองเพราะว่ามันเป็นความกังวลของเรา
00:38:42 → 00:38:45 เนาะมันยังไม่ได้มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์
00:38:45 → 00:38:48 ค่ะในทางกลับกันถ้าเกิดว่าเอ้ยคุณมีอาการ
00:38:48 → 00:38:51 การที่เข้าข่ายของการเป็นโรคคราวเนี้ย
00:38:51 → 00:38:55 กระบวนการในการตรวจวินิจฉัยมันก็อาจจะ
00:38:55 → 00:38:58 ครอบคลุมอยู่ในสิทธิ์การรักษา
00:38:58 → 00:39:02 ก็อาจจะมีความแตกต่างในส่วนนี้นิดนึงอื
00:39:02 → 00:39:04 ค่ะเพราะว่าการคัดกรองพวกนี้ยังไม่ได้
00:39:04 → 00:39:08 เป็นมาตรฐานที่ออฟเฟอร์ให้กับทุกๆคนที่
00:39:08 → 00:39:11 อยากจะตรวจก็ยังอาจจะอาจจะยังต้องมีค่า
00:39:11 → 00:39:16 ใช้จ่ายอยู่อือืค่ะอือๆถ้ามีความกังวลก็
00:39:16 → 00:39:19 ไปตรวจได้แต่ต้องเอ่อรับผิดชอบค่าใช้จ่าย
00:39:19 → 00:39:21 เองถ้าหากว่าคุณไม่ได้มีความเสี่ยงนะคะ
00:39:21 → 00:39:24 ไม่มีค่ะครับมีคุณผู้ฟังสอบถามมาครับคุณ
00:39:24 → 00:39:27 หมอครับเอ่อขยะในสมองเนี่ยมีอะไรบ้างแล้ว
00:39:27 → 00:39:32 ก็กลไกในการจำกัดเอ่อกำจัดขยะในสมองของ
00:39:32 → 00:39:35 เอ่อทำได้อย่างไรบ้างเออคุณหมอเออน่าน่า
00:39:35 → 00:39:39 สนใจอค่ะครับขยะในสมองถ้าให้พูดเป็นชื่อ
00:39:39 → 00:39:43 คงคงพูดไม่ไหวมันมีหลายชนิดมากแต่ว่าจะ
00:39:43 → 00:39:46 ต้องเรียนตามตรงว่าขยะที่หมอพูดถึงเนี่ย
00:39:46 → 00:39:48 มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติในทุกๆ
00:39:48 → 00:39:52 คนในทุกๆวินาทีที่เรามีชีวิตอยู่มันก็จะ
00:39:52 → 00:39:56 ต้องมีของดีเข้าไปร่างกายเราใช้พลังงานไป
00:39:56 → 00:39:58 ก็จะเกิดของเสียออกมาเป็นธรรมชาติที่จะ
00:39:58 → 00:40:02 ต้องเกิดขึ้นค่ะอทีนี้การกำจัดก็วนกลับไป
00:40:02 → 00:40:05 ที่ว่าโอเคทำยังไงล่ะให้เลือดมันไหลเวียน
00:40:05 → 00:40:08 ได้ดีมันก็มีโอกาสเอาของดีเข้าไปสมองเอา
00:40:08 → 00:40:10 ของเสียออกมาได้มากขึ้นก็คือการออกกำลัง
00:40:10 → 00:40:13 กายอเพราะฉะนั้นออกกำลังกายที่แบบเพิ่ม
00:40:13 → 00:40:16 เลือดไหลเวียนให้ดีอันเนี้ยสำคัญนะคะที
00:40:16 → 00:40:19 นี้นอกจากเลือดแล้วสมองมันมีการกำจัดของ
00:40:19 → 00:40:22 เสียผ่านช่องทางที่เป็นน้ำเยื่อหุ้มน้ำ
00:40:22 → 00:40:24 ที่มันหุ้มสมองเนี่ยก็เป็นอีกช่องทางนึง
00:40:24 → 00:40:27 ที่มันจะปล่อยของเสียออกมาได้ซึ่งเขา
00:40:27 → 00:40:30 ศึกษามาแล้วว่าการขจัดของเสียพวกเนี้ยมัน
00:40:30 → 00:40:33 เกิดขึ้นในช่วงหลับลึกวนกลับไปอีกว่า
00:40:33 → 00:40:37 quality การนอนต้องดีครับค่ะอันนี้ก็จะ
00:40:37 → 00:40:39 เป็น 2 ปัจจัยหลักที่ช่วยให้เรากำจัดของ
00:40:39 → 00:40:44 เสียในสมองได้ดีครับออก็ชัดเจนนะอีกคำถาม
00:40:44 → 00:40:47 ครับเอ่อบอกว่าคุณแม่เป็นเอ่ออายุ 80
00:40:47 → 00:40:51 ครับเป็นมะเร็งระยะ 4 มะเร็งตับนะฮะบางที
00:40:51 → 00:40:55 ก็จำหลานคนนั้นคนนี้สลับกันคือจำเริ่มจำ
00:40:55 → 00:40:58 สลับเริ่มจำสับสนะนะครับด้านอาหารก็น้อย
00:40:58 → 00:41:01 ลงเหลือแค่ช้อน 2 ช้อนอะไรเงี้ยพอพอได้
00:41:01 → 00:41:04 ทานนะครับถามว่าถ้าทานน้ำมันน้ำมันปลา
00:41:04 → 00:41:07 เหมือนน่าจะหมายถึงน้ำมันตับปลานะฮะนะ
00:41:07 → 00:41:09 ครับจะมีผลเสียอะไรหรือเปล่าแล้วมันช่วย
00:41:09 → 00:41:12 ในเรื่องของกรณีที่เราคุยกันวันนี้ได้
00:41:12 → 00:41:16 หรือเปล่าครับคุณหมอโอเคครับเอ่อเท่าที่
00:41:16 → 00:41:19 ฟังคืออายุเนี่ยมีความเสี่ยงที่จะเป็น
00:41:19 → 00:41:22 เกณฑ์ที่จะมีความเสี่ยงของโรคสมองเสื่อม
00:41:22 → 00:41:25 ค่ะโรคสำคัญที่เป็นมะเร็งตับเนี่ยก็เป็น
00:41:25 → 00:41:28 อีกปัจจัยนึงที่อาจจะทำให้ความจำแย่ลง
00:41:28 → 00:41:32 เช่นตับทำงานได้ไม่ดีของเสียที่ถูกจะต้อง
00:41:32 → 00:41:34 กำจัดที่ตับมันคลั่งอันนี้เขาก็จะเกิด
00:41:34 → 00:41:38 อาการสับสนหรือความจำสับสนได้ง่ายเพราะ
00:41:38 → 00:41:40 ฉะนั้นอันเนี้การแก้มันก็จะแตกต่างกันนิด
00:41:40 → 00:41:44 นึงอาจจะต้องปรึกษาคุณหมอที่ดูแลก่อนว่า
00:41:44 → 00:41:47 ความจำของเค้าอ่ะมันไม่ดีเนี่ยมันแนวโน้ม
00:41:47 → 00:41:50 มันเป็นจากอันไหนกันแน่ยกตัวอย่างเช่นถ้า
00:41:50 → 00:41:53 เป็นจากของเสียที่ที่ตับมันกำจัดไม่ได้
00:41:53 → 00:41:55 เงี้ยค่ะเขาอาจจะแย่เยอะหน่อยในวันที่
00:41:55 → 00:41:58 ท้องผูกอืออ่าวันที่ท้องผูกไม่ถ่ายแล้ว
00:41:58 → 00:42:00 วันนั้นสับสนเหลือเกินอย่างเงี้ยวันที่
00:42:00 → 00:42:03 ขับถ่ายได้ดีนอนหลับได้ดีเอาความจำโอเค
00:42:03 → 00:42:05 อันเนี้ยอาจจะเป็นปัญหาเรื่องของเสียก็
00:42:05 → 00:42:07 ไม่ต้องมาคอนเซิร์นเรื่องการกินน้ำมันปลา
00:42:08 → 00:42:10 ละก็อาจจะต้องไปดูแลในเรื่องของตับใช่ใน
00:42:11 → 00:42:13 ทางกับการว่าเอ้ยโอเคความเสื่อมเนี่ยค่อย
00:42:13 → 00:42:15 ๆเป็นค่อยๆไปนะแล้วเป็นมากขึ้นมากขึ้นน่า
00:42:15 → 00:42:18 จะเป็นสมองเสื่อมอันนี้ก็สามารถทานอาหาร
00:42:18 → 00:42:21 เสริมได้แต่ต้องไปปรึกษาคุณหมอก่อนเพราะ
00:42:21 → 00:42:23 ว่าคนที่มีโรคประจำตัวมันมีแนวโน้มที่จะ
00:42:23 → 00:42:28 ต้องกินยาอืหลายตัวถึงแม้จะเป็นแค่น้ำมัน
00:42:28 → 00:42:30 ปลาเนี่ยก็ต้องปรึกษาก่อนเพราะว่าน้ำมัน
00:42:30 → 00:42:33 ปลาในคนที่เป็นโรคตับระยะท้ายเนี่ยก็ไม่
00:42:33 → 00:42:35 ควรใช้เพราะว่ามันจะมีเรื่องของการแข็ง
00:42:35 → 00:42:37 ตัวของเลือดที่ผิดปกติอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:42:37 → 00:42:40 เพราะฉะนั้นในเมื่อคุณหมอเป็นประจำอยู่
00:42:40 → 00:42:42 แล้วอันเนี้ใช้ประโยชน์จากคุณหมอได้เลยไป
00:42:42 → 00:42:45 ปรึกษาคุณหมอเจ้าของไข้จะดีกว่าค่ะอืออื
00:42:45 → 00:42:51 ชัวร์สุดค่ะชัวร์สุดอือืคุณหมอคะสำหรับ
00:42:51 → 00:42:55 ไอ้ข้อมูลข้อวิจัยที่เกี่ยวกับบอกว่า
00:42:55 → 00:42:59 สุขภาพสมองเนี่ยมีความเอ่อจะสมบูรณ์มย
00:42:59 → 00:43:01 แล้วก็มีความเสี่ยงจะเป็นอัลไซเมอร์หรือ
00:43:01 → 00:43:04 เปล่าเนี่ยจะบ่งชี้ด้วยแบคทีเรียในช่อง
00:43:04 → 00:43:08 ปากปากกับสมองมันเชื่อมโยงกันมันสอดคล้อง
00:43:08 → 00:43:11 กันยังไงมันเอมันคือมันเป็นข้อเท็จจริง
00:43:11 → 00:43:14 ขนาดไหนยังไงคะคุณหมอค่ะเป็นข้อเท็จจริง
00:43:14 → 00:43:17 ค่ะเป็นข้อเท็จจริงคือร่างกายเราอ่ะมัน
00:43:17 → 00:43:20 ไม่ได้แยกส่วนค่ะทุกอย่างมันเกี่ยวเนื่อง
00:43:20 → 00:43:23 กันหมดไม่ว่าจะเป็นปากไม่ว่าจะเป็นคุณภาพ
00:43:23 → 00:43:27 ของลำไส้อือฮึหรือการอักเสบในร่างกายใน
00:43:27 → 00:43:31 ทุกๆที่เนี่ยส่งผลต่อสมองหมดเลยครับอัน
00:43:31 → 00:43:33 นี้ก็เป็นอีกอันนึงที่หมออาจจะลืมพูดถึง
00:43:33 → 00:43:37 ไปว่าคนที่ร่างกายมีการอักเสบเรื้อรังอ่ะ
00:43:37 → 00:43:40 ไม่ว่าจะเป็นจากการติดเชื้อบ่อยๆช่องปาก
00:43:40 → 00:43:42 ไม่ดีฟันผุเหงือกอักเสบแล้วมีเชื้อโรค
00:43:42 → 00:43:45 เข้าไปอยู่เรื่อยๆร่างกายเกิดการอักเสบบ
00:43:45 → 00:43:47 เนี่ยก็เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้
00:43:47 → 00:43:50 อัลไซเมอร์มันมาเร็วกว่ากำหนดได้ครับ
00:43:50 → 00:43:52 เพราะฉะนั้นที่คุณขวัญพูดถูกต้องเลยว่า
00:43:52 → 00:43:56 สุขภาพช่องปากมีผลต่อการเป็นอัลไซเมอร์
00:43:56 → 00:44:01 ค่ะอืเพราะฉะนั้นก็ต้องดูแลสุขภาพช่องปาก
00:44:01 → 00:44:03 อย่างสม่ำเสมอสุขภาพลำไส้ด้วยลำไส้ด้วย
00:44:03 → 00:44:07 สุขภาพลำไส้ก็ใช่ใช่ยังไงถึงขับถ่ายไม่ดี
00:44:07 → 00:44:08 อะไรอย่างเงี้ยเหรอคะหรือไงคะคุณหมอขับ
00:44:09 → 00:44:12 ถ่ายไม่ดีกินอาหารที่ไม่ดีเช่นกินน้ำตาล
00:44:12 → 00:44:16 เยอะๆแล้วทำให้แบคทีเรียในลำไส้มันผิด
00:44:16 → 00:44:20 ปกติไปน้ำตาลมันไปทำให้แบคทีเรียตัวไม่ดี
00:44:20 → 00:44:22 เนี่ยเจริญเติบโตพอแบคทีเรียตัวไม่ดี
00:44:22 → 00:44:25 เจริญเติบโตเยอะเกินไปตัวดีมันก็เสียไป
00:44:25 → 00:44:27 อย่างเงี้ยค่ะพอมันเกิดความไม่สมดุลกัน
00:44:27 → 00:44:29 ของแบคทีเรียในลำไส้เนี่ยก็จะนำไปสู่การ
00:44:30 → 00:44:33 อักเสบนำไปสู่โรคต่างๆรวมถึงสมองเสื่อม
00:44:33 → 00:44:35 ได้ง่ายด้วยเหมือนกันอถึงบอกว่าร่างกาย
00:44:35 → 00:44:37 เรามันทำงานกันเป็นระบบอ่ะค่ะมันไม่
00:44:37 → 00:44:40 สามารถที่จะดีแค่ส่วนเดียวได้ครับมันก็
00:44:40 → 00:44:44 เลยกลับไปที่การดูแลสุขภาพภาพให้ดีเป็น
00:44:44 → 00:44:48 องค์รวมอ่ะมันก็จะดีกับทุกๆส่วนในร่างกาย
00:44:48 → 00:44:53 นั่นแหละอืเออแสดงว่าบางสิ่งบางอย่างอ่ะ
00:44:53 → 00:44:56 การเป็นโรคบางอย่างสุดท้ายถ้าเราไม่รักษา
00:44:56 → 00:45:00 แต่เนิ่นๆหรือทันเวลาเนี่ยเอ่อโรคนั้นมัน
00:45:00 → 00:45:04 ก็จะไปกระทบต่ออาการอื่นๆที่จะเกิดขึ้น
00:45:04 → 00:45:07 กับส่วนอื่นๆของร่างกายได้เป็นลูกโซ่ไปอ
00:45:07 → 00:45:12 ใช่ๆอ๋อเพราะฉะนั้นการรักษาแต่แต่เนิ่นๆ
00:45:12 → 00:45:15 และถูกวิธีเนี่ยสำคัญนะคุณหมอนะจะช้าจะ
00:45:15 → 00:45:19 เร็วก็ขอให้รักษาให้ให้ถูกวิธีแล้วก็ถูก
00:45:19 → 00:45:21 ขั้นตอน
00:45:21 → 00:45:23 ใช่ค่ะแล้วก็อยากให้ดูแลสุขภาพเป็นองค์
00:45:23 → 00:45:27 รวมมากกว่าที่จะเน้นดูเป็นส่วนบางคนกลัว
00:45:27 → 00:45:29 อัลไซเมอร์เหลือเกินแต่แบบยังใช้ชีวิต
00:45:29 → 00:45:32 เต็มที่อยู่เลยอย่างเงี้ยมันก็ไม่ได้ออื
00:45:33 → 00:45:37 อือเออๆค่ะเออวิธีการรักษาในเมืองไทยทุก
00:45:37 → 00:45:41 วันนี้นี่คือยังได้เป็นลักษณะของการรับ
00:45:41 → 00:45:43 ประทานยาอย่างเดียวใช่มั้คะคุณหมอ
00:45:43 → 00:45:47 ค่ะก็ถ้าเป็นก็จะมียาค่ะแล้วก็จะมีการแนะ
00:45:47 → 00:45:50 นำเรื่องกิจกรรมต่างๆมีกิจกรรมบำบัดมี
00:45:51 → 00:45:55 อะไรต่างๆที่ช่วยชะลอได้ค่ะอืออืค่ะ
00:45:55 → 00:45:57 กิจกรรมบำบัดถ้าเป็นลักษณะของเออกำลังจะ
00:45:57 → 00:46:01 ถามเรื่องนี้เลยกิจกรรมบำบัดเนี่ยโอ้โห
00:46:01 → 00:46:05 แนะนำยังไงดีครับมีอะไรที่ทำได้อืเอ่อ
00:46:05 → 00:46:08 สนุกๆบ้างทำได้ที่บ้านไม่มีข้อมูลก็พวก
00:46:08 → 00:46:14 ดนตรีบำบัดกิจกรรมกลุ่มได้หมดเลยค่ะนะฮะ
00:46:14 → 00:46:16 มันมีคอร์สมั้ยมีคอร์สแบบไปรวมกิจกรรมแบบ
00:46:16 → 00:46:20 เอ่อที่ในเชิงของเอ่อมีผู้เชี่ยวชาญแนะนำ
00:46:21 → 00:46:24 อะไรเงี้ยครับเดี๋ยวนี้มันมีค่ะมีมีถ้า
00:46:24 → 00:46:26 เกิดว่าไปที่แผนกเวชศาสตร์ฟื้นฟูอย่าง
00:46:26 → 00:46:29 เงี้ยค่ะเขาก็จะมีบริการที่เป็นเาเรียก
00:46:29 → 00:46:32 เป็นนักกิจกรรมบำบัดนักกิจกรรมบำบัดเนี่ย
00:46:32 → 00:46:34 หน้าที่เขาก็หลากหลายเนาะรวมถึงการฟื้นฟู
00:46:34 → 00:46:38 เรื่องของความคิดความจำด้วยก็จะเป็น under
00:46:38 → 00:46:41 ของนักกิจกรรมบำบัดอแต่ว่าสุดท้ายแล้วอ่ะ
00:46:41 → 00:46:44 หมอคิดว่าการทำกิจกรรมบำบัดมันไม่จำเป็น
00:46:44 → 00:46:46 ที่ต้องทำที่โรงพยาบาลหรือไม่ได้จำเป็น
00:46:46 → 00:46:49 ที่จะต้องทำกับนักกิจกรรมครับเท่านั้น
00:46:49 → 00:46:51 ครับกิจกรรมอื่นในชีวิตประจำวันคุณน่ะ
00:46:51 → 00:46:54 สนุกกว่าด้วยอืแล้วก็ทำได้ง่ายกว่าด้วย
00:46:54 → 00:46:56 ไม่ต้องไปเสียเวลาหรอกที่โรงพยาบาลไม่
00:46:56 → 00:46:58 ต้องมีค่าใช้จ่ายซึ่งมันก็ได้ผลดีเท่าๆ
00:46:58 → 00:47:03 กันนอกเสียจากว่าเป็นอเป็นเยอะในระดับนึง
00:47:03 → 00:47:08 อ่ะที่จะต้องมีคนคอยประกบว่าเอ้ยครับต้อง
00:47:08 → 00:47:10 ช่วยเหลือในการฝึกหรือในการทำกิจกรรม
00:47:10 → 00:47:13 อันเนี้ยก็ค่อยอาจจะเป็นส่วนที่ควรมาฝึก
00:47:13 → 00:47:15 ที่โรงพยาบาลอื
00:47:15 → 00:47:18 อ่ะเอ่อถ้าถ้าทำได้เองอย่างที่คุณบอกว่า
00:47:18 → 00:47:21 เออถ้างั้นเราก็ทำได้ดีพอๆกันอะไรอย่าง
00:47:21 → 00:47:23 เงี้ยถ้าเราไม่ได้เป็นเยอะคุณหมอยกตัว
00:47:23 → 00:47:25 อย่างให้ขวัญหน่อยค่ะว่าเผื่อเผื่อขวัญ
00:47:25 → 00:47:28 เนี่ยอ่าจะได้แบบวอร์มตัวเองเตรียมตัวเอง
00:47:28 → 00:47:31 เออจะได้อ่าความจำเสื่อมช้าลงหน่อยอะไร
00:47:31 → 00:47:34 เงี้ยค่ะพี่ขวัญมีกิจกรรมแล้วไง
00:47:34 → 00:47:38 พี่ก็บวกเลขเก่งมากอย่างเดียวเพราะว่ามี
00:47:38 → 00:47:42 คุณผู้ฟังแซว
00:47:42 → 00:47:46 ถ้าเป็นวัยแบบเออถ้าเป็นวัยแบบเราท่าน
00:47:46 → 00:47:49 หลัก 4 เงี้ยเราก็ยังมีความสามารถในการ
00:47:49 → 00:47:51 ใช้แอปพลิเคชัอ่ะค่ะดาวน์โหลดได้เลยค่ะ
00:47:51 → 00:47:54 Brain Games มันก็จะมีแบบเยอะเออๆใช่มี
00:47:54 → 00:47:57 เยอะมากแล้วมันก็จะมีหลายหลายทasมากตรง
00:47:57 → 00:48:00 ตามวัตถุประสงค์ที่หมอต้องการเลยมีทั้ง
00:48:00 → 00:48:03 แบบอ่าอาจจะเป็นจับคู่ภาพเดี๋ยวก็เป็นตัว
00:48:03 → 00:48:05 เลขเดี๋ยวก็เป็นต่อจิ๊กซออะไรอย่างเงี้ย
00:48:05 → 00:48:09 คือมันจะหลากหลายมากซึ่งส่วนตัวชอบใช่ค่ะ
00:48:09 → 00:48:12 แต่ถ้าเป็นกิจกรรมอื่นๆในชีวิตประจำวันก็
00:48:12 → 00:48:15 เนี่ยร้องเพลงได้วาดรูปได้คือดนตรีบำบัด
00:48:15 → 00:48:19 เนี่ยทำได้อือวาดรูปนี่ก็ช่วยได้
00:48:19 → 00:48:24 เล่นไม่ใช่การพนันนี่ก็ก็ทำได้ทำได้ดี
00:48:24 → 00:48:28 ปลูกต้นไม้ล้วนล้นเป็นกิจกรรมได้หมดทำได้
00:48:28 → 00:48:31 หมดแต่ว่าอย่างที่บอกว่า 1 ขอให้หลากหลาย
00:48:31 → 00:48:34 กับ 2 ขอให้พยายามทำสิ่งใหม่บ้างอย่าทำ
00:48:34 → 00:48:36 แต่สิ่งที่เราคุ้นเคยอย่าทำแต่ทำสิ่งที่
00:48:36 → 00:48:41 เราทำได้ดีอยู่แล้วอือืต้องเอก็ตอนเช้าไป
00:48:41 → 00:48:45 สะภากาแฟกลับมาบ้านทำกับข้าวทำกับข้าว
00:48:45 → 00:48:48 เสร็จปุ๊บไปรดน้ำต้นไม้บ่ายไปเล่นเ่อไปลำ
00:48:48 → 00:48:51 ไทยอะไรเงี้ยเจอเพื่อนแต่บ่ายบ่าย
00:48:51 → 00:48:55 เย็นๆหน่อยนะบ่ายบ่ายต้นๆไม่ไหวช่วงนี้
00:48:55 → 00:48:58 ร้อนเดี๋ยวเป็นลมแดกเออทากาแฟนี่ดีมากนะ
00:48:58 → 00:49:01 คะได้ฟังเรื่องของคนอื่นเราก็จะแบบคลิป
00:49:01 → 00:49:07 ตามไปด้วยเงี้ยสนุกด้วยได้ฝึกสมองด้วย 嗯