00:00:06 → 00:00:10 ผมาจารย์นายแพทย์ธีรวัฒน์เหมวจุทาเอ่อ
00:00:10 → 00:00:13 เป็นหมอทางอายุรกรรมนะครับแล้วก็ทางระบบ
00:00:13 → 00:00:16 สมองด้วยครับเป็นเอ่อหัวหน้าศูนย์
00:00:16 → 00:00:19 วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่คณะ
00:00:19 → 00:00:22 แพทยศาสตร์โรงบาลจุฬาสภากชาไทยนะครับ
00:00:22 → 00:00:25 อุบัติการของโรคอัลไซเมอร์เป็นอย่างไร
00:00:25 → 00:00:28 บ้างคะเอ่อในประเทศไทยนั้นเอ่ออุบัติ
00:00:28 → 00:00:30 การณ์ของโรคสมของเสื่อมนะครับซึ่ง
00:00:30 → 00:00:33 อัลไซเมอร์เนี่ยเป็นผู้ร้ายแต่สำคัญอาจจะ
00:00:33 → 00:00:37 มีสัดส่วนเอประมาณ 60-70 เนะครับเอ่อมี
00:00:37 → 00:00:40 จำนวนจริงๆแล้วเนี่ยที่มีการรายงานเป็น
00:00:40 → 00:00:42 ตัวเลขนั่นเองบอกว่ามีไม่กี่แสนคนทั้งนี้
00:00:43 → 00:00:45 ทั้งนั้นเองนะครับอันนี้เป็นการตกสำรวจ
00:00:45 → 00:00:49 แน่ๆอย่างชัดเจนนะครับเอ่อแท้ที่จริงแล้ว
00:00:49 → 00:00:52 นั้นการที่จะบอกว่ามีสมองเสื่อมเท่าไหร่
00:00:52 → 00:00:57 นั้นนะครับต้องนับรวมคนที่มีอาการแม้แต่
00:00:57 → 00:01:00 น้อยนิดก็ตามและจะต้องนับรวมคนที่มีการ
00:01:01 → 00:01:05 เพาะบ่มของอัลไซเมอร์อยู่ในสมองโดยที่ไม่
00:01:05 → 00:01:08 มีอาการนะครับเอ่ออยากนำเรียนว่าปีนี้นะ
00:01:08 → 00:01:10 ครับ
00:01:10 → 00:01:13 2023 ถือว่าเป็นปีนะครับที่ต้องปฏิวัติ
00:01:13 → 00:01:15 ในเรื่องของสมองเสื่อมและเรื่องของ
00:01:16 → 00:01:19 อัลไซเมอร์อัลไซเมอร์ในปัจจุบันนั้นให้
00:01:19 → 00:01:24 ถือว่าต้องมีการรู้เร็วที่สุดรู้ก่อน
00:01:24 → 00:01:28 เพื่อป้องกันชะลอและมียารักษาได้ณขณะนี้
00:01:28 → 00:01:31 ในปีนี้อันนี้เรื่องใหมากดังนั้นเองตรง
00:01:31 → 00:01:36 นี้เองนะครับที่มีการบอกว่าจะเป็นสมอง
00:01:36 → 00:01:39 เสื่อมได้นั้นจะต้องมาตรวจทดสอบจะต้องมา
00:01:39 → 00:01:43 ทำข้อสอบสอบตกหรือไม่เอ่อตรงนี้ยังกำกวม
00:01:43 → 00:01:46 อยู่ไปรอก่อนให้มีอาการออกแล้วก็สอบตก
00:01:46 → 00:01:49 แล้วค่อยบอกเป็นอัลไซเมอร์ซึ่งตงนี้เองนะ
00:01:49 → 00:01:53 ครับเป็นเรื่องชื่อที่ขณะนี้ 2023 ถือว่า
00:01:53 → 00:01:58 เป็นเรื่องโบราณและทำให้คนป่วยที่มีโรค
00:01:58 → 00:02:02 ตรงนี้หมดโอกาสทองในการรักษานะครับซึ่ง
00:02:02 → 00:02:05 โอกาสทองตรงนี้ที่จะรู้ก่อนได้นั้นนะครับ
00:02:05 → 00:02:09 ในขณะนี้สมาคมของสหรัฐและของนานาชาตินะ
00:02:09 → 00:02:13 ครับออกแถลงการณ์ออกมาเรียบร้อยว่าการ
00:02:13 → 00:02:17 ตรวจเลือดเฉยๆนะครับการตรวจเลือดเฉยๆโดย
00:02:17 → 00:02:21 การที่ดูนะครับที่เราเรียกว่าไอเกอร์คือ
00:02:21 → 00:02:25 ตัวที่เป็นดัชนีชี้วัดจากในเลือดนะครับก็
00:02:25 → 00:02:30 คือการดูโปรตีนทาวนะครับและอันที่ 2 2
00:02:30 → 00:02:34 ก็คือเราดูตัวที่บ่งบอกว่ามีการอักเสบใน
00:02:34 → 00:02:38 สมองจากตัวเอ่อที่เรียกว่าเป็นไมครเกลีย
00:02:38 → 00:02:40 และแกลนะครับก็คือ
00:02:40 → 00:02:44 gfap 2 ตัวนี้นะครับโดยเฉพาะทาไม่ว่าจะ
00:02:44 → 00:02:48 เป็น 181 โดยเฉพาะตัวหลังก็คือ 217
00:02:48 → 00:02:53 สามารถบอกได้ชัดเจนนะครับระบุได้เลยว่า
00:02:53 → 00:02:56 คุณเป็นอัลไซเมอร์หรือไม่และอีกตัวนึงคือ
00:02:56 → 00:02:59 ตัวที่ 3 นะครับก็คือที่เราเรียกว่า nfl
00:02:59 → 00:03:02 nfl ตัวนี้เองจะเป็นตัวที่แบบว่ามีการ
00:03:02 → 00:03:06 ทำลายเนื้อสมองหรือไม่แต่ไม่จำเป็นจะต้อง
00:03:06 → 00:03:09 เกิดจากอัลไซเมอร์เสมอไปนะครับซึ่งตรงนี้
00:03:09 → 00:03:13 เองการที่ตรวจในเลือดเหล่านี้ได้นั้นสูิ
00:03:13 → 00:03:16 สาสุขภาพโรคอุบัติใหม่เราทำได้นะครับจาก
00:03:16 → 00:03:19 การพัฒนามา 4 ปีร่วมกับกระทรวง
00:03:19 → 00:03:22 วิทยาศาสตร์นะครับกระทรวงอวตรงนี้เองเรา
00:03:22 → 00:03:27 สามารถตรวจว่าใครที่เริ่มปะทุแล้วในสมอง
00:03:27 → 00:03:30 และตรวจได้ในเลือดซึ่งตงนี้ก็จะนำมาถึงนะ
00:03:30 → 00:03:34 ครับการป้องกันการชะลอและการรักษาซึ่งตัว
00:03:34 → 00:03:38 เอ่อชี้วัดตรงนี้เองนะครับก็จะมีการพัฒนา
00:03:38 → 00:03:41 ต่อนั่นก็คือและขณะนี้เราก็ทำได้แล้วก็
00:03:41 → 00:03:45 คือการดูการอักเสบที่เกิดขึ้นในร่างกาย
00:03:45 → 00:03:49 ซึ่งจะปะทุเข้าไปในเลือดและในขณะเดียวกัน
00:03:49 → 00:03:53 ก็คือดูว่าจะมีความผิดปกติแปรเปลี่ยนอะไร
00:03:53 → 00:03:56 ในที่กระทบหลอดเลือดได้ซึ่งหมายความว่าจะ
00:03:56 → 00:04:00 ต้องมีการตรวจภาพคอมพิวเตอร์สมองแบบพิเศษ
00:04:00 → 00:04:03 ที่ไม่ใช่เพชรสแกนนะครับแต่นี้เป็นการภาพ
00:04:04 → 00:04:09 ดูเส้นใยประสาทโยงใยเอ่อว่าในเนื้อสมอง
00:04:09 → 00:04:12 นั้นเองเส้นประสาทโยงใยส่วนต่างๆนั้นเอง
00:04:12 → 00:04:15 ยังอยู่ครบถ้วนดีอยู่หรือเปล่านะครับงั้น
00:04:15 → 00:04:18 การที่ครบพ้อมูลนะครับในเรื่องของการตรวจ
00:04:18 → 00:04:21 เลือดนะครับซึ่งการตรวจเลือดตรงนี้นะครับ
00:04:21 → 00:04:26 เป็นการพัฒนาจากอะไรในการพัฒนาที่เราทำนะ
00:04:26 → 00:04:28 ครับโดยการที่
00:04:28 → 00:04:30 เอ่อ
00:04:30 → 00:04:33 ตรวจว่าใครเป็นหรือไม่เป็นอัลไซเมอร์หรือ
00:04:33 → 00:04:37 สมองเสื่อมจากการตรวจ M และเพรสแกนก่อน
00:04:37 → 00:04:41 และหรือด้วยการตรวจน้ำไคสลังเมื่อเราได้
00:04:41 → 00:04:44 นะครับเราได้ตัวอย่างเลือดต่างๆเหล่านี้
00:04:44 → 00:04:48 ในคนที่เรารู้ชัดเจนนะครับว่าเป็นหรือไม่
00:04:48 → 00:04:49 เป็น
00:04:49 → 00:04:53 อัลไซเมอร์หรือสมองเสื่อมและเราก็มาพัฒนา
00:04:53 → 00:04:58 เป็นค่าของคนไทยยว่าค่าตัดเท่านี้ควรจะ
00:04:58 → 00:05:01 เป็นหรือไม่เป็นสมองเสื่อมหรือเป็น
00:05:01 → 00:05:04 อัลไซเมอร์อย่างนี้เป็นต้นดังนั้นเองการ
00:05:04 → 00:05:06 ตรวจเลือดตรงนี้นะครับเมื่อตรวจแล้วไม่
00:05:06 → 00:05:10 จำเป็นต้องไปทำเพชสแกนซึ่งเพสแกนตรงนี้
00:05:10 → 00:05:12 เองนะครับค่าใช้จ่ายมีตั้งแต่ 50,000 -
00:05:13 → 00:05:16 100,000 บาทต่อคนต่อครั้งนะครับแล้วน่า
00:05:16 → 00:05:19 จากนั้นเองหรือไม่ก็ต้องไปเจาะน้ำไคสลัง
00:05:19 → 00:05:23 ซึ่งกการเจาะน้ำไคสลังตัวนั้นเองก็เอ่อก็
00:05:23 → 00:05:28 อย่างที่ทราบนะครับว่าเอ่อก็อาจจะเป็น
00:05:28 → 00:05:31 ขั้นตอนที่อาจจะดูค่อนข้างน่ากลัวและอาจ
00:05:31 → 00:05:34 จะมีการเจ็บตัวอยู่พอสมควรนะครับทีนี้
00:05:34 → 00:05:37 เมื่อเรารู้แล้วทำยังไงบ้างถ้าเรารู้นะ
00:05:37 → 00:05:42 ครับก็คือข้างนอกดูดีแต่ข้างในไม่ดีนะฮะ
00:05:42 → 00:05:46 ข้างในเริ่มปะทุในกรณีอย่างนี้นะครับเรา
00:05:46 → 00:05:50 เริ่มลุยก่อนนะครับก็คือป้องกันก่อนการ
00:05:50 → 00:05:54 ป้องกันตรงนี้คืออะไรบ้าง 1 ไม่ใช้ยาเลย
00:05:54 → 00:05:58 คือปรับเปลี่ยนเรื่องของอาหารช่วยชีวิต
00:05:58 → 00:06:01 ปรับเปลี่ยนเรื่องการการออกกำลังปรับ
00:06:01 → 00:06:05 เปลี่ยนเรื่องของโรคประจำตัวต้องคุมให้ดี
00:06:05 → 00:06:09 ที่สุดลดละเลิกจากบุหรี่นะครับและในขณะ
00:06:09 → 00:06:12 เดียวกันนั้นเองก็ละเอ่อระวังเรื่องสาร
00:06:12 → 00:06:16 เคมีที่ปะปนเข้ามาในอาหารพืชผักผลไม้ใน
00:06:16 → 00:06:18 น้ำตรงนี้เองช่วยได้ระดับนึงแล้วอย่าง
00:06:18 → 00:06:22 น้อย 25% และอีกสำคัญอีกอันนึงก็คือการ
00:06:22 → 00:06:27 ที่มีปฏิสันฐานกับคนในบ้านคนนอกบ้านก็มี
00:06:27 → 00:06:32 เราเรียกว่าเป็นกิจกรรมสมองขยันนะครับไม่
00:06:32 → 00:06:36 ใช่นั่งดูทีวีแล้วก็จบเรื่องจบราวไปแต่ใน
00:06:36 → 00:06:39 ขณะเดียวกันนั้นเองตรงนี้เองก็มีกิจกรรม
00:06:39 → 00:06:42 สมองขยันก็คือการมีการผกกันเรื่องของ
00:06:42 → 00:06:45 ปัญหาเรื่องของการแก้ปัญหาการวิเคราะห์
00:06:45 → 00:06:48 แต่หลีกเลี่ยงเรื่องการวิเคราะห์เรื่อง
00:06:48 → 00:06:50 การเมืองนะครับเพราะอันนั้นเองอาจจะทำให้
00:06:51 → 00:06:56 เอ่อมีความแปรปรวนทางสติและอารมณ์นะครับ
00:06:56 → 00:07:00 อีกข้อนึงที่สำคัญก็คือคนที่ที่สามารถมี
00:07:00 → 00:07:04 ชีวิตอยู่ได้โดยสมองดีนั้นจนกระทั้นถึง 90
00:07:04 → 00:07:08 นั้นนอกจากทำอย่างที่ว่าแล้วอีกอันนึงก็
00:07:08 → 00:07:12 คือจิตนิ่งคำว่าจิตนิ่งตรงนี้เองนะครับ
00:07:12 → 00:07:16 เป็นการรายงานล่าสุดเลยพบว่าคนที่มีจิต
00:07:16 → 00:07:19 อารมณ์นิ่งนั้นแม้ว่าคู่ชีวิตอาจจะหย่าไป
00:07:19 → 00:07:22 แล้วหรือเสียชีวิตไปแล้วนั้นแต่สามารถที่
00:07:22 → 00:07:27 จะควบคุมความหดหูกของอารมณ์ควบคุมความ
00:07:27 → 00:07:31 โกรธและควบคุมความเกลียดชังต่างๆไปได้
00:07:31 → 00:07:34 ซึ่งทั้งหมดทั้งหลายทั้งปวงตรงนี้เองนะ
00:07:34 → 00:07:37 ครับสามารถช่วยได้และอีกอันนึงนะครับข้อ
00:07:37 → 00:07:41 มูลที่สำคัญอีกอันนึงก็คือใครที่เล่น
00:07:41 → 00:07:46 ดนตรีไม่ว่าจะเล่นดนตรีผึ่งหัดเล่นหรือจะ
00:07:46 → 00:07:49 เป็นนักดนตรีอาชีพก็ตามแต่ตั้งแต่เริ่ม
00:07:49 → 00:07:54 วัยกลางคนพบว่าในสมองนั้นเองจะดีกว่าสมอง
00:07:54 → 00:07:57 คนอื่นได้เยอะเลยอันนี้ก็คือสิ่งที่
00:07:57 → 00:08:00 สามารถทำได้และช่วยได้และแล้วก็อีกอันนึง
00:08:00 → 00:08:02 นะครับก็คือเพิ่งรายงานมาเร็วๆนี้เองก็
00:08:02 → 00:08:08 คือการที่มีการได้กลิ่นเครื่องหอมระเหย
00:08:08 → 00:08:10 เครื่องหอมระเหยตรงนี้เองก็เหมือนกับ
00:08:10 → 00:08:16 อโรม่าก็คือมีตัวที่เอ่อทำเป็นไอระเหยนะ
00:08:16 → 00:08:20 ครับพบว่าการที่เอ่อมีหอมระเหยอย่างนี้
00:08:20 → 00:08:24 เวลานอนนะครับประมาณตั้งแต่ 23 ชมงขึ้นไป
00:08:24 → 00:08:29 ทำให้ความจำดีขึ้นประมาณ 200
00:08:29 → 00:08:32 20 กว่าเปอร์เซ็นตนะครับถ้าจำตัวเลขไม่
00:08:32 → 00:08:34 ผิดซึ่งตรงนี้ยังเป็นสิ่งที่เราทำได้อยู่
00:08:35 → 00:08:37 แล้วอันนั้นก็คือพวกที่ไม่ใช่ยาถัดมาคือ
00:08:38 → 00:08:40 พวกที่ใช้ยาพวกที่ใช้ยาประกอบด้วยอะไร
00:08:40 → 00:08:46 บ้างณขณะนี้นะครับจะมียาที่เข้าแถวพาเด
00:08:46 → 00:08:50 ว่าสามารถที่จะรักษาป้องกันและชะลอโรค
00:08:50 → 00:08:53 ต่างๆที่มีอาการแล้วด้วยซ้ำนะครับอย่าง
00:08:53 → 00:08:56 น้อยที่สุดแล้วมี 10 ตัวด้วยกันและก็มี
00:08:56 → 00:09:00 เข้าแถวที่พิสูจน์แล้วในหลอดทดลองและ
00:09:00 → 00:09:03 สัตว์ทดลองและอยู่ในมนุษย์ก็คือในระยะที่
00:09:03 → 00:09:06 3 นะครับก็คืออย่างน้อยอีกประมาณ 340
00:09:07 → 00:09:11 ตัวซึ่งตรงนี้เองเมื่อรู้ว่ามีอะไรปะทุ
00:09:11 → 00:09:14 ขึ้นแล้วนั้นเราสามารถเลือกหยิบใช้ยา
00:09:14 → 00:09:17 เหล่านี้ได้แม้ว่าจะไม่ยังไม่ได้ผ่านออก
00:09:17 → 00:09:22 มาถึงออกมาใช้ออกสู่ท้องตลาดแต่ณขณะนี้
00:09:22 → 00:09:25 เรารู้ความปลอดภัยเรารู้ขนาดแล้วเรา
00:09:25 → 00:09:29 สามารถที่จะเอ่ออธิบายข้อมูลต่างๆเพื่อนำ
00:09:29 → 00:09:33 มาใช้ได้ตั้งแต่ต้นในปัจจุบันมียารักษา
00:09:33 → 00:09:36 โรคอัลไซเมอร์แล้วอยากให้คุณหมอเล่าถึง
00:09:36 → 00:09:39 เรื่องนี้หน่อยค่ะคะนนี้มียานะครับที่
00:09:39 → 00:09:43 เอ่อได้รับการอนุมัตินะครับของอยของสหรัฐ
00:09:43 → 00:09:47 เองก็ตามนะครับเอ่อเป็นยาฉีดนะครับแต่ว่า
00:09:47 → 00:09:50 ต้องนำเรียนให้ทราบนะครับว่ายาฉีดตัวนี้
00:09:50 → 00:09:53 เองนะครับไม่ใช่เป็นยาที่ใช้ง่ายเป็นยา
00:09:53 → 00:09:57 ที่ต้องมีข้อกำหนดกฎเกณฑ์ชัดเจนนะครับว่า
00:09:57 → 00:10:01 คนๆนั้นเองจะต้องมียีนของอัลไซเมอร์อยู่
00:10:01 → 00:10:04 นั่นคือประการที่ 1 ประการที่ 2 ก็คือ
00:10:04 → 00:10:07 ต้องมีการตรวจอย่างเข้มข้นใน MRI หรือ
00:10:07 → 00:10:10 คอมพิวเตอร์สนามแม่เหล็กก่อนว่าไม่มีร่อง
00:10:10 → 00:10:14 รอยนะครับของการตกเลือดเป็นจุดๆที่อยู่ใน
00:10:14 → 00:10:18 สมองและประการที่ 3 นั่นก็คือจะต้องมี
00:10:18 → 00:10:22 ลักษณะของอาการที่เข้ากันได้ในข้อบ่งใช้
00:10:22 → 00:10:26 ของยาตัวนี้ในอีกประการนึงนั้นนะครับยา
00:10:26 → 00:10:28 ตัวนี้เองเมื่อใช้ไปแล้วนั้นต้องมีการ
00:10:28 → 00:10:32 ค่อยๆเพิ่มขนาดขึ้นไปเรื่อยๆและในการ
00:10:32 → 00:10:35 เพิ่มขนาดตัวนั้นเองจะต้องมีการตรวจสอบ
00:10:35 → 00:10:38 หรือตรวจประเมินด้วย Mr เป็นระยะสิ่ง
00:10:38 → 00:10:42 สำคัญที่ต้องระวังนะครับก็คือยาตัวนี้เอง
00:10:42 → 00:10:47 จะเป็นการเลาะโปรตีนที่ชื่อเอลอยออกแต่ผล
00:10:47 → 00:10:49 ข้างเคียงหรือผลแทรกซ้อนตงนั้นเองที่ต้อง
00:10:49 → 00:10:54 ระวังก็คือทำให้สมองบวมได้และประการที่ 2
00:10:54 → 00:10:58 คือทำให้ตกเลือดในสมองได้ซึ่งตกเลือดใน
00:10:58 → 00:11:01 สมองตรงนี้เองอาจจะไม่เป็นแค่จุดเล็กๆแต่
00:11:01 → 00:11:05 เป็นเอ่อขนาดที่สามารถที่ทำให้เกิดอาการ
00:11:05 → 00:11:10 ได้และในอีกประการนึงก็คือค่ายานะครับใน
00:11:10 → 00:11:14 ของสหรัฐอเมริกาเองนั้นเอ่อตกประมาณ 8
00:11:14 → 00:11:17 ล้านบาทต่อปีนะครับซึ่งตรรงนี้เองเนื่อง
00:11:18 → 00:11:22 จากไม่สามารถที่จะเข้าถึงประชากรคนไทยได้
00:11:22 → 00:11:26 นะครับทุกคนและในเรื่องของการใช้นั้นเอง
00:11:26 → 00:11:29 ยังต้องมีข้อจำกัดและมีข้อพึงระวังอยู่
00:11:29 → 00:11:33 เยอะเลยดังนั้นเองนะครับก็ไม่ต้องจิตตก
00:11:33 → 00:11:36 ไม่ต้องวิตกกังวลว่าจะมีความเหลื่อมล้ำ
00:11:36 → 00:11:40 มันก็จะมียาหลายๆตัวเข้ามายกตัวอย่างเช่น
00:11:40 → 00:11:44 ขณะนี้มี 1 คือยาแก้ไอยาแก้ไอตรงนี้เองนะ
00:11:44 → 00:11:46 ครับเป็นยาที่หมดสิทธิบัตรแล้วก็ใช้มานาน
00:11:46 → 00:11:50 แล้วไม่ต่ำกว่า 70 กว่าปียาแไอตรงนี้นะ
00:11:50 → 00:11:54 ครับก็คือผ่านขั้นตอนของหลอดทดลองสัตว์ทด
00:11:54 → 00:11:58 ลองและในมนุษย์รู้ขนาดที่สำคัญแต่ไม่ใช่
00:11:58 → 00:12:01 ว่ายแก้ไอตรงนี้จะกินวันละ 3 เม็ดแต่ต้อง
00:12:01 → 00:12:05 กินในขณะที่ปริมาณมากแต่ก็ทราบดีในเรื่อง
00:12:05 → 00:12:09 ของความปลอดภัยและตรงนี้เองสามารถที่จะ
00:12:09 → 00:12:12 ถ้าหมดหนทางหรือเริ่มมีอาการชัดเจนแล้ว
00:12:12 → 00:12:15 ตรงนั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอัลไซเมอร
00:12:15 → 00:12:17 หรือว่าเป็นเรื่องของ Parkinson ตัวนั้น
00:12:17 → 00:12:22 เองอาจจะนำหยิบมาใช้ก่อนได้และในกลุ่ม
00:12:22 → 00:12:25 ต่างๆก็คือมียานอนหลับชนิดพิเศษซึ่งไม่
00:12:25 → 00:12:29 ใช่ยานอนหลับในทั่วๆไปนะครับตรงนั้นเองก็
00:12:30 → 00:12:33 มีการศึกษาซึ่งมีการพิสูจน์ว่ายานอนหลับ
00:12:33 → 00:12:38 ยานอนหลับกลุ่มที่ต้านโอเรกิตัวนั้นเอง
00:12:38 → 00:12:42 สามารถที่จะลดการผลิตโปรตีนเอลอยหรือ
00:12:42 → 00:12:45 โปรตีนเทาวนั้นได้นะครับยาอลับชนิดนี้นะ
00:12:45 → 00:12:47 ครับเป็นชนิดพิเศษนะครับซึ่งที่ไม่ใช่ยาน
00:12:47 → 00:12:52 อลับทั่วไปแล้วก็มีการเอ่อพิสูจน์นะครับ
00:12:52 → 00:12:55 ในเรื่องของกลไกแล้วก็ความสามารถนะครับก็
00:12:55 → 00:13:00 คือเล่าโดยสังเขปนะครับก็คือมีอาสาสมัคร
00:13:00 → 00:13:04 นะครับให้มากินยานอนหลับแล้วก็ใส่ท่อที่
00:13:05 → 00:13:08 ระบายน้ำไสหลังแล้วก็มีการตรวจน้ำเสลัง
00:13:08 → 00:13:12 นั่นเองทุก 2 ชั่วโมงไป 36 ชมงพบว่าเมื่อ
00:13:12 → 00:13:16 เอ่ออาสาสมัครเหล่านั้นนะครับเมื่อเอ่อ
00:13:16 → 00:13:20 ใช้งานเอ่อทำงานออกกำลังอะไรต่างๆไปเรียบ
00:13:20 → 00:13:23 ร้อยแล้วนั่นเองก็จะมีขยะเกิดขึ้นขยะเกิด
00:13:23 → 00:13:26 ขึ้นตรงนั้นเองที่เป็นขยะพิษที่เราเรียก
00:13:26 → 00:13:30 ว่าเป็นโปรตีนอิลอยหรือโปรตีนทาวการที่
00:13:30 → 00:13:33 ใช้ยานาหลับเหล่านี้พบว่าทำให้มีเอ่อ
00:13:33 → 00:13:37 โปรตีนเหล่านี้ลดลง 10 -20% ด้วยกันซึ่ง
00:13:37 → 00:13:41 ถ้าหากว่าใครที่มีอาการนอนไม่หลับร่วม
00:13:41 → 00:13:44 อยู่ด้วยตรงนี้ก็สามารถใช้อนอนหลับตระกูล
00:13:44 → 00:13:47 นี้ได้ซึ่งก็อยู่ในประเทศไทยหรือว่าอยู่
00:13:47 → 00:13:50 ในหลายๆประเทศทั่วโลกอยู่แล้วด้วยนะครับ
00:13:50 → 00:13:52 ซึ่งตรงนี้เอาจจะเป็นทางเลือกอีกทางนึง
00:13:52 → 00:13:55 และนอกจากนั้นเองยังมียาอีกกลุ่มนึงซึ่ง
00:13:55 → 00:13:59 สดๆร้อนๆเลยนะครับก็คือสามารถที่จะป้อง
00:13:59 → 00:14:02 กันไม่ให้มีการขยุ่มเกลียวกันของโปรตีน
00:14:02 → 00:14:06 ททาซึ่งตรงนี้เองข้อมูลที่ได้หลังจาก 1
00:14:06 → 00:14:10 ปีในการศึกษาระยะที่ 3 พบว่าน่าประทับใจ
00:14:10 → 00:14:13 มากนะครับซึ่งต่างๆเหล่านี้แล้วก็ยังมียา
00:14:13 → 00:14:17 อื่นๆอีกซึ่งออกฤทธิ์ในลำไส้แล้วก็สามารถ
00:14:17 → 00:14:21 ที่จะควบคุมไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเอ่อ
00:14:21 → 00:14:24 Parkinson นะครับหรืออัลไซเมอร์หรือโรค
00:14:24 → 00:14:27 ที่เกิดมีกรมพรที่ทำให้เกิดมีไขสลังห่อ
00:14:28 → 00:14:32 เอ่อเหี่ยวฟต่างๆแม้กระทั่งสมองน้อยเอ่อ
00:14:32 → 00:14:35 เหี่ยวซึ่งตรงนี้เองก็มีการศึกษาขณะนี้
00:14:35 → 00:14:38 อยู่ในระดับระยะที่ 3 ทั้งสิ้นเลยอันนี้
00:14:38 → 00:14:40 เป็นแค่ยกตัวอย่างโดยสังเขปเท่านั้นเอง
00:14:40 → 00:14:45 ว่ามียาที่ออกฤทธิ์ทำให้เกิดสมองตายช้า
00:14:45 → 00:14:48 หรือสมองใช้พลังงานประหยัดมัธยัสและิหนำ
00:14:48 → 00:14:53 ซ้ำสามารถดึงคนที่มีอาการแล้วให้นิ่งหรือ
00:14:53 → 00:14:57 ย้อนกลับมาได้ถ้าไม่ถึงเป็นมากจนเกินไปนะ
00:14:57 → 00:14:59 ครับ
00:14:59 → 00:15:06 [เพลง]
00:15:06 → 00:15:09 tn and Health เราจะรวบรวมความรู้ทาง
00:15:09 → 00:15:12 ด้านสุขภาพจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
00:15:12 → 00:15:15 พร้อมเาะติดความเคลื่อนไหวจากทุกประเด็น
00:15:15 → 00:15:19 สุขภาพรอบโลกสะท้อนผ่านความคิดมุมมองของ
00:15:19 → 00:15:21 แพทย์ผู้เชี่ยวชาญและองค์ความรู้ทางด้าน
00:15:21 → 00:15:25 ต่างๆ tn and Health เข้าถึงทุกสาระ
00:15:26 → 00:15:29 สุขภาพเสริมภูมิคุ้มกันรู้ทัน
00:15:29 → 00:15:54 [เพลง]
00:15:54 → 00:15:57
00:15:57 → 00:16:21 โรค
00:16:21 → 00:16:24 อ