00:00:01 → 00:00:04 สวัสดีครับกลับมาพบกันอีกครั้งกับพcสที่
00:00:04 → 00:00:07 จะสรุปเรื่องราวดีๆและวิธีคิดเชิงบวก
00:00:07 → 00:00:09 สำหรับผู้สูงวัยให้คุณฟังจบได้ในเวลา
00:00:10 → 00:00:14 ประมาณ 5-10 นาที EP นี้เราจะมาคุยกันถึง
00:00:14 → 00:00:16 2 อาการที่หลายคนอาจเคยประสบหรือเคยได้
00:00:16 → 00:00:20 ยินคนใกล้ตัวพูดถึงบ่อยๆนั่นคืออาการแน่น
00:00:20 → 00:00:23 หน้าอกและหายใจไม่อิ่มครับต้องยอมรับนะ
00:00:23 → 00:00:26 ครับว่าพอได้ยินหรือรู้สึกถึงอาการเหล่า
00:00:26 → 00:00:29 นี้ทีไรก็อดที่จะใจหายหรือกังวลไม่ได้
00:00:29 → 00:00:31 เพราะมันเป็นสัญญาณที่ดูเหมือนจะเกี่ยว
00:00:31 → 00:00:33 ข้องกับอวัยวะสำคัญอย่างหัวใจและปอดโดย
00:00:34 → 00:00:37 ตรงซึ่งก็เป็นความจริงส่วนหนึ่งครับแต่
00:00:37 → 00:00:39 อาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากสาเหตุเดียว
00:00:39 → 00:00:42 เสมอไปวันนี้เราไม่ได้มาคุยกันเพื่อสร้าง
00:00:42 → 00:00:45 ความตระหนกตกใจนะครับแต่เราจะมาทำความ
00:00:45 → 00:00:48 เข้าใจอาการเหล่านี้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นใน
00:00:48 → 00:00:51 มุมมองของการดูแลสุขภาพเชิงรุกและการปรับ
00:00:51 → 00:00:53 ตัวเพื่อการสูงวัยอย่างมีคุณภาพการรู้
00:00:53 → 00:00:56 เท่าทันว่าอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่อิ่ม
00:00:56 → 00:00:59 แบบไหนที่อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้าย
00:00:59 → 00:01:02 แรงจะช่วยให้เราไม่นิ่งนอนใจและสามารถดู
00:01:02 → 00:01:05 แลตัวเองหรือคนที่เรารักได้อย่างทันท่วง
00:01:05 → 00:01:08 ทีนี่แหละครับคือการพัฒนาตนเองด้านสุขภาพ
00:01:08 → 00:01:12 ที่เราทุกคนทำได้เราจะมาสำรวจ 5 โรคร้าย
00:01:12 → 00:01:14 ที่อาจซ่อนอยู่เบื้องหลังอาการแน่นหน้าอก
00:01:14 → 00:01:17 หายใจไม่อิ่มโดยเฉพาะที่พบบ่อยหรือมีความ
00:01:17 → 00:01:20 สำคัญเป็นพิเศษในผู้สูงวัยลองมาฟังและ
00:01:20 → 00:01:24 สังเกตไปพร้อมๆกันนะครับโรคร้ายที่ 1
00:01:24 → 00:01:27 เส้นเลือดหัวใจอุดตันหรือภาวะหัวใจขาด
00:01:27 → 00:01:30 เลือดโรคโลกแรกที่เราต้องพูดถึงและให้
00:01:30 → 00:01:33 ความสำคัญเป็นอันดับ 1 เลยก็คือภาวะเส้น
00:01:33 → 00:01:36 เลือดหัวใจอุดตันหรือที่รุนแรงที่สุดคือ
00:01:36 → 00:01:39 ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันครับ
00:01:39 → 00:01:41 สาเหตุเกิดจากการที่หลอดเลือดแดงซึ่งทำ
00:01:41 → 00:01:44 หน้าที่ส่งเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ
00:01:44 → 00:01:47 เกิดการตีบแคบลงจากการสะสมของไขมันและหิน
00:01:47 → 00:01:49 ปูนทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงหัวใจได้
00:01:49 → 00:01:52 น้อยลงเมื่อเกิดการอุตันอย่างเฉียบพลัน
00:01:52 → 00:01:55 กล้ามเนื้อหัวใจส่วนนั้นจะขาดออกซิเจนและ
00:01:55 → 00:01:58 เริ่มตายไปซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินที่อันตราย
00:01:58 → 00:02:01 ถึงชีวิตอย่างยิ่งครับอาการที่ต้องสงสัย
00:02:01 → 00:02:04 ว่าอาจเกี่ยวข้องกับภาวะหัวใจขาดเลือด
00:02:04 → 00:02:07 หรือโรคหัวใจได้แก่อาการแบบคลาสสิคซึ่ง
00:02:07 → 00:02:10 มักพบเจ็บแน่นหน้าอกอย่างรุนแรงรู้สึก
00:02:10 → 00:02:13 เหมือนมีอะไรมาบีบรัดหรือกดทับกลางอกโดย
00:02:13 → 00:02:17 อาการปวดนี้มักร้าวไปที่ไหล่ซ้ายแขนซ้าย
00:02:17 → 00:02:20 หรืออาจร้าวไปที่คอกรามหรือบริเวณสะบัก
00:02:20 → 00:02:23 หลังร่วมกับอาการหายใจไม่อิ่มหอบเหนื่อย
00:02:23 → 00:02:26 เหงื่อออกตัวเย็นคลื่นไส้อาเจียนหรือหน้า
00:02:26 → 00:02:29 มืดเวียนสีสะคล้ายจะเป็นลมส่วนในผู้สูง
00:02:29 → 00:02:32 อายุอาการอาจไม่ชัดเจนเหมือนแบบคลาสสิค
00:02:32 → 00:02:35 เช่นอาจารย์เหนื่อยง่ายผิดปกติรู้สึกอึด
00:02:35 → 00:02:38 อัดไม่สบายในอกคล้ายอาหารไม่ย่อยจุกแน่น
00:02:38 → 00:02:42 ลิ้นปี่หรือมีแค่อาการอ่อนเพลียวิงเวียน
00:02:42 → 00:02:45 หรือซึมลงซึ่งการไม่เจ็บหน้าอกรุนแรงไม่
00:02:45 → 00:02:47 ได้หมายความว่าไม่ใช่ภาวะหัวใจขาดเลือด
00:02:47 → 00:02:51 เสมอไปนะครับสำหรับผู้สูงวัยความเสี่ยง
00:02:51 → 00:02:54 ของโรคนี้เพิ่มสูงขึ้นมากตามอายุครับ
00:02:54 → 00:02:57 ประกอบกับผู้สูงอายุหลายท่านมักมีโรค
00:02:57 → 00:03:00 ประจำตัวร่วมด้วยเช่นความดันโลหิตสูงเบา
00:03:00 → 00:03:03 หวานไขมาในเลือดสูงซึ่งล้วนเป็นปัจจัย
00:03:03 → 00:03:07 เสี่ยงสำคัญสิ่งที่ต้องทำทันทีหากสงสัย
00:03:07 → 00:03:10 ว่าตัวเองหรือคนใกล้ชิดอาจมีอาการของภาวะ
00:03:10 → 00:03:13 หัวใจขาดเลือดอย่าลังเลที่จะโทรเรียกรถ
00:03:13 → 00:03:17 พยาบาลฉุกเฉิน 1669 ทันทีครับทุกนาทีที่
00:03:17 → 00:03:19 เสียไปหมายถึงกล้ามเนื้อหัวใจที่ตายเพิ่ม
00:03:19 → 00:03:22 ขึ้นการได้รับยาละลายลิ่มเลือดหรือการทำ
00:03:22 → 00:03:25 บอลลูนขยายหลอดเลือดอย่างรวดเร็วคือหัวใจ
00:03:25 → 00:03:28 สำคัญในการรอดชีวิตและลดความพิการครับ
00:03:28 → 00:03:30 อย่าพยายามขับรถไปโรงพยาบาลเองเด็ด
00:03:31 → 00:03:35 ขาดโรคร้ายที่ 2 ปอดแตกหรือภาวะลมรั่วใน
00:03:35 → 00:03:38 ช่องเยื่อหุ้มปอดโรคต่อมาที่เราจะพูดถึง
00:03:38 → 00:03:41 เกี่ยวข้องกับระบบหายใจโดยตรงครับคือภาวะ
00:03:41 → 00:03:44 ปอดแตกหรือทางการแพทย์เรียกว่าภาวะลมรั่ว
00:03:44 → 00:03:47 ในช่องเยื่อหุ้มปอดภาวะนี้เกิดขึ้นเมื่อ
00:03:47 → 00:03:51 มีรูรั่วที่ปอดทำให้ลมหายใจรั่วออกมาและ
00:03:51 → 00:03:53 ขังอยู่ในช่องว่างระหว่างปอดกับผนังช่อง
00:03:53 → 00:03:56 อบแรงดันของลมที่รั่วออกมานี้จะไปกดเบียด
00:03:56 → 00:03:59 เนื้อปอดทำให้ปอดข้างนั้นแฟบลงไม่สามารถ
00:03:59 → 00:04:03 ขยายตัวรับออกซิเจนได้ตามปกติพบบ่อยในคน
00:04:03 → 00:04:07 อายุน้อยรูปร่างผอมสูงโดยเฉพาะเพศชาย
00:04:07 → 00:04:09 เชื่อว่าอาจมีความผิดปกติของถุงลมปอดเล็ก
00:04:09 → 00:04:13 ๆมาแต่กำเนิดแต่ก็สามารถเกิดในผู้สูงอายุ
00:04:13 → 00:04:16 ได้โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคปอดเดิมอยู่แล้ว
00:04:16 → 00:04:20 เช่นถุงลมโป่งพองวรรณโรคมะเร็งปอดหรืออาจ
00:04:20 → 00:04:23 เกิดจากการบาดเจ็บเช่นอุบัติเหตุกระดูก
00:04:23 → 00:04:26 ซี่โครงหักทิ่มปอดอาการที่ต้องสงสัยคือ
00:04:26 → 00:04:29 เจ็บหน้าอกเฉียบพลันมักเป็นลักษณะเจ็บ
00:04:29 → 00:04:32 แปลบๆเหมือนมีอะไรมาทิ่มแทงโดยเฉพาะเวลา
00:04:32 → 00:04:35 หายใจเข้ามักเจ็บข้างใดข้างหนึ่งหรือหาย
00:04:35 → 00:04:38 ใจไม่อิ่มหอบเหนื่อยอาการมักจะเกิดขึ้น
00:04:38 → 00:04:42 ทันทีและอาจแย่ลงเรื่อยๆในรายที่รุนแรง
00:04:42 → 00:04:45 อาจมีอาการเขียวคล้ำจากภาวะขาดออกซิเจน
00:04:45 → 00:04:48 เงื่อออกตัวเย็นใจสั่นความดันโลหิตตกหรือ
00:04:48 → 00:04:52 หน้ามืดเป็นลมได้สิ่งที่ต้องทำหากมีอาการ
00:04:52 → 00:04:55 เจ็บหน้าอกเฉียบพลันร่วมกับหายใจหอบ
00:04:55 → 00:04:58 เหนื่อยควรรีบไปโรงพยาบาลทันทีการ
00:04:58 → 00:05:01 วินิจฉัยทำได้โดยการตรวจร่างกายและเเrปอด
00:05:02 → 00:05:04 การรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงตั้งแต่การ
00:05:04 → 00:05:07 สังเกตอาการในกรณีรั่วเล็กน้อยการใส่ท่อ
00:05:07 → 00:05:10 ระบายลมทางหน้าอกในรายที่เป็นซ้ำหรือ
00:05:10 → 00:05:14 รุนแรงอาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัดโรคร้าย
00:05:14 → 00:05:18 ที่ 3 โรคกรดไหลย้อนมาถึงโรคที่ 3 ซึ่ง
00:05:18 → 00:05:20 หลายท่านอาจจะแปลกใจว่ามาเกี่ยวกับอาการ
00:05:20 → 00:05:23 แน่นหน้าอกได้อย่างไรนั่นคือโรคกรดไหล
00:05:23 → 00:05:26 ย้อนครับโรคยอดฮิตที่ดูเหมือนไม่ร้ายแรง
00:05:26 → 00:05:29 แต่สร้างความทรมานและบางครั้งก็ทำให้
00:05:29 → 00:05:32 สับสนกับโรคหัวใจได้ไม่น้อยกรดไหลย้อน
00:05:32 → 00:05:35 เกิดจากภาวะที่น้ำย่อยหรือกรดในกระเพาะ
00:05:35 → 00:05:38 อาหารไหลย้อนกลับขึ้นมาสู่หลอดอาหารซึ่ง
00:05:38 → 00:05:41 โดยปกติแล้วหลอดอาหารไม่ได้ถูกออกแบบมา
00:05:41 → 00:05:43 ให้ทนต่อความเป็นกรดได้เหมือนกระเพาะ
00:05:43 → 00:05:46 อาหารเมื่อกรดไหลย้อนขึ้นมาบ่อยๆจึงทำให้
00:05:46 → 00:05:49 เกิดการระคายเคืองอักเสบและเกิดอาการต่าง
00:05:49 → 00:05:53 ๆตามมาอาการที่ต้องสงสัยว่าอาจเกี่ยวข้อง
00:05:53 → 00:05:56 กับภาวะกรดไหลย้อนได้แก่แสบร้อนกลางเป็น
00:05:56 → 00:05:58 อาการเด่นที่รู้สึกแสบร้อนบริเวณลิ้นปี่
00:05:58 → 00:06:02 และอาจลามขึ้นมาถึงคอมักเป็นหลังทานอาหาร
00:06:02 → 00:06:05 มื้อหนักหรือเวลาล้มตัวลงนอนแน่นหน้าอก
00:06:05 → 00:06:07 จุกเสียดซึ่งเป็นอาการที่ทำให้สับสนกับ
00:06:08 → 00:06:11 โรคหัวใจได้อาจรู้สึกแน่นจุกเหมือนมีอะไร
00:06:11 → 00:06:14 ติดอยู่ที่คอหรืออกเรอเปรี้ยวเรอบ่อยมีรส
00:06:14 → 00:06:17 ขมในคอเกิดจากกรดหรืออาหารที่ไหลย้อนขึ้น
00:06:17 → 00:06:20 มาและอาการทางระบบหายใจและคอเช่นไอเรื้อ
00:06:20 → 00:06:24 รังโดยเฉพาะตอนกลางคืนเสียงแหบเจ็บคอ
00:06:24 → 00:06:25 เรื้อรัง
00:06:25 → 00:06:29 หรือรู้สึกเหมือนมีก้อนในคอกลืนลำบากบาง
00:06:29 → 00:06:31 รายอาจกระตุ้นให้เกิดอาการหอบหืดได้เช่น
00:06:31 → 00:06:34 กันครับกรดไหลย้อนเป็นภาวะที่พบบ่อยในผู้
00:06:34 → 00:06:37 สูงอายุครับปัจจัยอาจเกิดจากหูรูดหลอด
00:06:37 → 00:06:40 อาหารส่วนล่างหย่อนยาลงตามวัยการใช้ยาบาง
00:06:40 → 00:06:43 ชนิดหรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตจุดสำคัญที่
00:06:43 → 00:06:46 สุดสำหรับผู้สูงอายุคือการแยกอาการแน่น
00:06:46 → 00:06:49 หน้าอบจากกรดไหลย้อนออกจากอาการของโรคหัว
00:06:49 → 00:06:52 ใจซึ่งทำได้ยากและมีความเสี่ยงสูงหาก
00:06:52 → 00:06:55 วินิจฉัยผิดพลาดดังนั้นหลักอาการที่ปลอด
00:06:55 → 00:06:57 ภัยที่สุดคือหากมีอาการแน่นเน่าโดยเฉพาะ
00:06:57 → 00:06:59 อย่างยิ่งถ้าท่านมีปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัว
00:06:59 → 00:07:03 ใจเช่นอายุมากเบาหวานความดันไขมันสูงสูบ
00:07:03 → 00:07:06 บุหรี่ควรต้องคิดถึงโรคหัวใจไว้ก่อนเสมอ
00:07:06 → 00:07:08 และรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยแยกโรค
00:07:08 → 00:07:12 ให้แน่ชัดครับอย่าเดาเอาเองเด็ดขาดโรค
00:07:12 → 00:07:16 ร้ายที่ 4 ไทรอยด์เป็นพิษโรคที่ 4 อาจจะ
00:07:16 → 00:07:18 ดูไม่เกี่ยวกับการแน่นหน้าอกโดยตรงแต่ก็
00:07:18 → 00:07:21 เป็นสาเหตุที่พบได้ครับนั่นคือภาวะต่อม
00:07:21 → 00:07:25 ไทรอยด์ทำงานเกินหรือไทรอยด์เป็นพิษภาวะ
00:07:25 → 00:07:28 นี้เกิดจากต่อมไทรอยด์ซึ่งอยู่บริเวณลำคอ
00:07:28 → 00:07:31 สร้างและหลั่งฮอร์โมนไทรอยด์ออกมามากผิด
00:07:31 → 00:07:34 ปกติฮอร์โมนไทรอยด์ทำหน้าที่ควบคุมการเผา
00:07:34 → 00:07:37 ผลาญพลังงานของร่างกายเมื่อมีฮอร์โมนมาก
00:07:37 → 00:07:40 เกินไประบบต่างๆในร่างกายก็จะทำงานเร็ว
00:07:40 → 00:07:42 และหนักขึ้นเหมือนเครื่องยนต์ที่เร่ง
00:07:42 → 00:07:45 เครื่องอยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะระบบหัวใจและ
00:07:45 → 00:07:48 หลอดเลือดอาการที่ต้องสงสัยว่าอาจเกี่ยว
00:07:48 → 00:07:51 ข้องกับภาวะไทรรอยทำงานเกินหรือปัญหา
00:07:51 → 00:07:53 สุขภาพอื่นๆได้แก่ใจสั่นหัวใจเต้นเต้น
00:07:53 → 00:07:56 เร็วหรือเต้นผิดจังหวะซึ่งเป็นอาการเด่น
00:07:56 → 00:07:59 ที่พบได้บ่อยโดยอัตราการเต้นของหัวใจอาจ
00:07:59 → 00:08:00 เร็วถึง
00:08:01 → 00:08:04 120-130 ครั้งต่อนาทีหรือมากกว่านั้นและ
00:08:04 → 00:08:07 มีอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่อิ่มเหนื่อย
00:08:07 → 00:08:11 ง่ายซึ่งเกิดจากหัวใจที่ทำงานหนักขึ้นมือ
00:08:11 → 00:08:14 สั่นขี้ร้อนเหงื่อออกมากผิดปกติน้ำหนักลด
00:08:14 → 00:08:18 ลงแม้ทานอาหารได้ปกติหรือทานมากขึ้น
00:08:18 → 00:08:22 อารมณ์แปรปรวนหงุดหงิดง่ายกระวนกระวายนอน
00:08:22 → 00:08:24 ไม่หลับอ่อนเพลียกล้ากล้ามเนื้ออ่อนแรง
00:08:24 → 00:08:27 ถ่ายอุจจาระบ่อยขึ้นและในบางรายต่อม
00:08:27 → 00:08:30 ไทรอยด์ที่คออาจโตขึ้นซึ่งเป็นอาการที่
00:08:30 → 00:08:33 เรียกว่าคอพอกหากมีอาการหลายอย่างที่เข้า
00:08:33 → 00:08:36 ข่ายโดยเฉพาะอาการใจสั่นน้ำหนักลดหรือ
00:08:36 → 00:08:39 เหนื่อยง่ายผิดปกติควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจ
00:08:39 → 00:08:42 เลือดวัดระดับฮอร์โมนไทรรอยด์การวินิจฉัย
00:08:42 → 00:08:44 และรักษาภาวะไทรรอยด์เป็นพิษอย่างถูกต้อง
00:08:44 → 00:08:47 เป็นสิ่งสำคัญมากเพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจ
00:08:47 → 00:08:50 นำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงต่อหัวใจเช่น
00:08:50 → 00:08:53 หัวใจวายหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรงแรงและ
00:08:53 → 00:08:56 กระดูกพรุนได้การรักษามีทั้งการใช้ยาต้าน
00:08:56 → 00:09:00 ไทรอยด์การกลืนแร่ไอโอดีนกำมันตรังสีหรือ
00:09:00 → 00:09:03 การผ่าตัดขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรง
00:09:03 → 00:09:07 การจัดการที่ดีจะช่วยให้อาการต่างๆดีขึ้น
00:09:07 → 00:09:11 และป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้ครับโรคร้ายที่
00:09:11 → 00:09:15 5 โรคหอบหืดและโรคสุดท้ายที่เราจะพูดถึง
00:09:15 → 00:09:17 กันในวันนี้ก็เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับ
00:09:17 → 00:09:21 ระบบทางเดินหายใจโดยตรงและพบได้บ่อยเช่น
00:09:21 → 00:09:24 กันนั่นคือโรคหอบหอบหืดครับโรคหอบหืดเป็น
00:09:24 → 00:09:28 โรคที่มีการอักเสบเรื้อรังของหลอดลมทำให้
00:09:28 → 00:09:30 หลอดลมมีความไวต่อสิ่งกระตุ้นต่างๆมากผิด
00:09:30 → 00:09:33 ปกติเมื่อได้รับสิ่งกระตุ้นเช่นสารก่อ
00:09:33 → 00:09:38 ภูมิแพ้ไรฝุ่นเกสรดอกไม้ขนสัตว์สารระคาย
00:09:38 → 00:09:41 เคืองควันบุหรี่มลพิษทางอากาศกลิ่นฉุนการ
00:09:41 → 00:09:44 ออกกำลังกายการเปลี่ยนแปลงของอากาศหรือ
00:09:44 → 00:09:47 การติดเชื้อไวรัสหลอดลมจะเกิดการอักเสบ
00:09:47 → 00:09:50 บวมและหดเกร็งตัวพร้อมทั้งสร้างเสมหอกมาก
00:09:50 → 00:09:53 ขึ้นทำให้ช่องทางเดินอากาศอากาศตีบแคบลง
00:09:53 → 00:09:56 อากาศจึงไหลผ่านเข้าออกปอดได้ลำบากเกิด
00:09:56 → 00:09:59 เป็นอาการหอบหืดขึ้นมาอาการที่ต้องสงสัย
00:09:59 → 00:10:03 ได้แก่หายใจมีเสียงวีทซึ่งเป็นเสียงแหลมๆ
00:10:03 → 00:10:07 ที่ได้ยินเวลาหายใจโดยเฉพาะตอนหายใจออกทำ
00:10:07 → 00:10:10 ให้หายใจลำบากหายใจไม่อิ่มหายใจเร็วแน่น
00:10:10 → 00:10:13 หน้าอกโดยรู้สึกอึดอัดเหมือนมีอะไรมารัด
00:10:13 → 00:10:17 หน้าอกและอาการไอซึ่งมักจะเป็นไอเรื้อรัง
00:10:17 → 00:10:21 โดยเฉพาะตอนกลางคืนหรือช่วงเช้ามืดหรือไอ
00:10:21 → 00:10:24 มากเวลาเจอสิ่งกระตุ้นครับโรคหอบหืดไม่
00:10:24 → 00:10:27 ได้เป็นเฉพาะในเด็กนักเริ่มมีอาการครั้ง
00:10:27 → 00:10:30 แรกในวัยผู้ใหญ่หรือวัยสูงอายุก็ได้หรือ
00:10:31 → 00:10:33 ในคนที่เป็นมาตั้งแต่เด็กอาการอาจจะกลับ
00:10:33 → 00:10:36 มาเป็นใหม่หรือรุนแรงขึ้นเมื่ออายุมาก
00:10:36 → 00:10:39 ขึ้นก็ได้นอกจากนี้อาการหอบเหนื่อยในผู้
00:10:39 → 00:10:42 สูงอายุอาจแยกได้ยากจากโรคอื่นๆเช่นโรค
00:10:42 → 00:10:46 ถุงลมโป่งพองหรือภาวะหัวใจล้มเหลวการ
00:10:46 → 00:10:48 วินิจฉัยที่ถูกต้องโดยแพทย์เช่นการตรวจ
00:10:48 → 00:10:53 สมรรถภาพปอดจึงมีความสำคัญมากครับวันนี้
00:10:53 → 00:10:56 เราได้เรียนรู้ถึง 5 โรคสำคัญที่อาจแสดง
00:10:56 → 00:10:59 อาการออกมาเป็นการแน่นหน้าอกและหายใจไม่
00:10:59 → 00:11:02 อิ่มกันไปแล้วนะครับตั้งแต่โรคหัวใจขาด
00:11:02 → 00:11:05 เลือดภาวะปอดแตกกรดไหลย้อนไทรรอยด์เป็น
00:11:05 → 00:11:09 พิษไปจนถึงโรคหอบหืดซึ่งแต่ละโรคก็มีความ
00:11:09 → 00:11:14 รุนแรงและแนวทางการดูแลที่แตกต่างกันไป
00:11:14 → 00:11:17 หัวใจสำคัญที่อยากจะเน้นย้ำอีกครั้งคือ
00:11:17 → 00:11:19 การไม่เพิกเฉยต่อสัญญาณเตือนจากร่างกาย
00:11:19 → 00:11:23 ครับอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่อิ่มโดยเฉพาะ
00:11:23 → 00:11:25 ที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันรุนแรงหรือมี
00:11:25 → 00:11:28 อาการน่าสงสัยอื่นๆร่วมด้วยเป็นสิ่งที่
00:11:28 → 00:11:30 ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งการมีความรู้
00:11:30 → 00:11:33 ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคต่างๆที่อาจเป็น
00:11:33 → 00:11:35 สาเหตุจะช่วยให้เราตัดสินใจได้อย่างถูก
00:11:35 → 00:11:38 ต้องและรวดเร็วเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น
00:11:38 → 00:11:42 จริงการดูแลสุขภาพในวัยสูงอายุคือการเดิน
00:11:42 → 00:11:45 ทางที่ต้องอาศัยความใส่ใจการสังเกตและการ
00:11:45 → 00:11:49 ปรับตัวการรู้เท่าทันอาการผิดปกติการไปพบ
00:11:49 → 00:11:52 แพทย์เมื่อมีข้อสงสัยการดูแลควบคุมโรค
00:11:52 → 00:11:55 ประจำตัวที่มีอยู่และการปรับเปลี่ยน
00:11:55 → 00:11:58 พฤติกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีทั้งหมด
00:11:58 → 00:12:01 นี้คือการพัฒนาตนเองเพื่อให้เราสามารถใช้
00:12:01 → 00:12:04 ชีวิตในวัยที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีความสุข
00:12:04 → 00:12:06 มีพลังและมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้อย่างยาว
00:12:06 → 00:12:10 นานที่สุดครับหากคุณชอบพcสนี้อย่าลืมกด
00:12:10 → 00:12:14 ติดตามและแชร์ให้เพื่อนๆหรือคนในครอบครัว
00:12:14 → 00:12:17 ที่คุณรักนะครับเพราะการแบ่งปันความรู้
00:12:17 → 00:12:21 เป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตเรามีคุณค่ามากขึ้น
00:12:21 → 00:12:24 ขอบคุณที่รับฟังแล้วพบกันใหม่ในตอนหน้า
00:12:24 → 00:12:28 สวัสดีครับ