00:00:00 → 00:00:03 [เสียงดนตรี]
00:00:03 → 00:00:06 You're listening to Mahidol Channel Podcast.
00:00:06 → 00:00:08 Listen for a better life.
00:00:08 → 00:00:11 ฟังเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
00:00:11 → 00:00:14 และนี่คือรายการพอดแคสต์ของช่อง Mahidol Channel
00:00:14 → 00:00:16 โดย มหาวิทยาลัยมหิดล
00:00:16 → 00:00:22 [เสียงดนตรี]
00:00:22 → 00:00:25 เพราะเป้าหมายของเราทุกคน คือการมีชีวิตที่ดี
00:00:25 → 00:00:28 มาพัฒนาตัวเราให้มีชีวิตที่ดีขึ้น
00:00:28 → 00:00:33 กับรายการ Well-Being สุขภาพดี ชีวิตดีสร้างได้
00:00:33 → 00:00:39 กับผม อาจารย์เต้ ระพี บุญเปลื้อง จากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
00:00:39 → 00:00:41 [เสียงดนตรี]
00:00:41 → 00:00:44 ผมก็เลยอยากจะชวนอาจารย์คุยเพิ่มเติม ในส่วนของประเด็นที่ว่า
00:00:44 → 00:00:49 แล้วพ่อกับแม่จะจัดการอย่างไรเวลาที่แยกจาก
00:00:49 → 00:00:53 แล้วก็บ๊ายบายกันแล้ว ต่างคนต่างไปทาง ของตัวเอง แต่ยังมีลูกอยู่นี่
00:00:54 → 00:00:55 แบ่งเป็น 5 ขั้นตอนนะครับอาจารย์
00:00:55 → 00:00:59 อันแรกนะครับคือ เรื่องของสร้างความมั่นใจให้กับลูก
00:00:59 → 00:01:01 เราสร้างความมั่นใจให้กับเขาว่า
00:01:02 → 00:01:08 ลูกยังคงเป็นคนที่พ่อแม่รักเหมือนเดิม
00:01:09 → 00:01:12 ไม่ว่าพ่อกับแม่จะอยู่ด้วยกันหรือไม่
00:01:13 → 00:01:16 แต่หนูยังเป็นคนที่พ่อแม่รัก
00:01:16 → 00:01:20 หนูยังเป็นคนที่พ่อและแม่ต้องการ
00:01:20 → 00:01:24 คนเรานะครับ เมื่อไหร่ที่รู้สึกได้ว่าตัวเองเป็นที่รัก
00:01:24 → 00:01:26 เป็นที่ต้องการ
00:01:26 → 00:01:30 จะทำให้ตัวเขายังดำรงอยู่ และคงอยู่เป็นตัวตนของเขา
00:01:30 → 00:01:34 เมื่อไหร่ที่เซลฟ์มันแตกกระจาย มันสลายไป
00:01:34 → 00:01:36 มันจะเกิดการตั้งคำถามว่า
00:01:36 → 00:01:38 ฉันยังควรจะอยู่ตรงนี้ไหม
00:01:38 → 00:01:41 หรือฉัน...หรือว่าฉันไม่มีคุณค่าเพียงพอ
00:01:42 → 00:01:46 ซึ่งจะนำมาซึ่งความสูญเสียที่มหาศาล แล้วก็คงไม่มีพ่อแม่คู่ไหนที่อยากให้เกิด
00:01:46 → 00:01:49 หรือว่าเด็กคนไหนที่อยากจะเป็นแบบนั้นนะครับ
00:01:49 → 00:01:52 ดังนั้น อย่างแรก สร้างความมั่นใจให้กับเขาก่อนว่า
00:01:52 → 00:01:57 เขาจะยังคงเป็นที่รัก เขาจะยังคงเป็นที่ต้องการของพ่อและแม่
00:01:57 → 00:01:59 - เขายังมีคุณค่าเสมอ - ครับ
00:01:59 → 00:02:00 ขั้นตอนที่ 2 นะครับคือ
00:02:01 → 00:02:03 การบอกความจริงกับลูก
00:02:03 → 00:02:06 ว่าทำไมพ่อกับแม่ต้องแยกกัน
00:02:07 → 00:02:09 แต่ผมชวนคิดอย่างนี้ก่อนครับอาจารย์ว่า
00:02:09 → 00:02:14 การจะบอกความจริงกับลูกได้ คงเป็นการบอกความจริงตามวัยที่เขาควรจะรู้
00:02:14 → 00:02:15 ครับ
00:02:15 → 00:02:18 เด็กเล็ก บางทีอาจจะต้องมีการเปรียบเทียบ
00:02:18 → 00:02:20 เป็นเรื่องของจินตนาการ เป็นเรื่องของอะไรมากขึ้น
00:02:20 → 00:02:22 คือตามช่วงวัย ตามพัฒนาการ
00:02:22 → 00:02:25 แต่เวลาเราบอกความจริงลูก ต้องเป็นอย่างนี้ครับอาจารย์
00:02:25 → 00:02:30 คือเราจะบอกเขาโดยที่ เราพยายามหลีกเลี่ยงการตำหนิ
00:02:31 → 00:02:33 เราพยายามหลีกเลี่ยงการตำหนิฝ่ายตรงข้าม
00:02:34 → 00:02:36 ดังนั้น จริง ๆ แล้ว ถ้าพ่อกับแม่มาบอกลูกได้พร้อมกัน
00:02:36 → 00:02:37 ผมว่าจะดีมากเลย
00:02:37 → 00:02:40 แต่หลาย ๆ ที มันบอกด้วยกันไม่ได้
00:02:40 → 00:02:42 เพราะว่ามันแยกกันแบบไม่ดี
00:02:42 → 00:02:45 คือมันแบบ...ม้นไม่เคยถูกพูดถึง เรื่องความสัมพันธ์ที่มันไม่ดี
00:02:45 → 00:02:45 ครับ
00:02:45 → 00:02:47 ดังนั้นการบอกความจริง มันก็เลยกลายเป็นว่า
00:02:48 → 00:02:50 เอามาบ่นให้ลูกฟัง
00:02:50 → 00:02:52 หรือมาประชดประชันให้ลูกฟัง
00:02:53 → 00:02:55 ซึ่งมันก็นำไปสู่การที่แยกจากแบบไม่โอเค
00:02:55 → 00:02:57 เด็กก็จะไปมีพฤติกรรมเชิงลบแบบที่ผมบอก
00:02:57 → 00:02:59 แล้วเด็กเองก็จะมีปมด้วยนะ
00:02:59 → 00:03:00 ใช่ครับอาจารย์
00:03:00 → 00:03:01 เวลาที่คุยกับลูกนี่ครับ
00:03:01 → 00:03:03 บางทีพ่อแม่ก็ตกลงกันไปแล้วล่ะ
00:03:03 → 00:03:06 ว่าเราจะใช้เหตุผลนี้ในการที่จะบอกลูก
00:03:07 → 00:03:09 แต่การสื่อสารมันเป็นการสื่อสารสองทาง
00:03:09 → 00:03:11 แล้วถ้าลูกถามกลับมาล่ะ
00:03:11 → 00:03:14 พ่อแม่จะต้องมีการคุยกันก่อนไหม ตกลงกันก่อนไหมว่า
00:03:14 → 00:03:16 เราจะสื่อสารกับลูกในแนวไหน
00:03:16 → 00:03:19 คำถามแบบนี้ เราจะตอบกันแบบไหนอะไรอย่างนี้
00:03:19 → 00:03:21 ผมว่าดีเลยนะครับอาจารย์ อาจจะซ้อมกันก่อน
00:03:21 → 00:03:23 ซักซ้อมกันนิดนึงว่า
00:03:23 → 00:03:25 โอกาสที่ลูกเราจะถาม จะถามอะไรได้บ้าง
00:03:25 → 00:03:29 โอกาสที่เราจะบอกความจริงกับเขา จะบอกความจริงได้แค่ไหน
00:03:29 → 00:03:32 และบางที...ผมไม่ได้บอกว่า 100% ต้องบอกวันเดียวให้หมดนะ
00:03:33 → 00:03:35 บางความจริง 100% มันก็ทำร้ายใจในทีเดียว
00:03:36 → 00:03:37 แบ่งก็ได้ครับ
00:03:37 → 00:03:39 เพียงแต่เราไม่หลอก
00:03:39 → 00:03:42 แล้วเราก็ไม่ให้ความหวังที่ไม่เป็นจริงกับลูก
00:03:42 → 00:03:47 นำมาสู่ขั้นตอนที่สาม คือเรื่องของการรักษาสภาพชีวิตของเขา
00:03:47 → 00:03:49 สภาพความเป็นอยู่ของเขา ให้ใกล้เคียงกับชีวิตเดิม
00:03:49 → 00:03:52 เด็กเคยได้เรียนพิเศษอะไร
00:03:52 → 00:03:55 เด็กเคยไปมีกิจกรรมนอกบ้านแบบไหน
00:03:55 → 00:03:59 เขาควรจะได้แบบเดิม ถ้าพ่อแม่ไม่เดือดร้อนนะ
00:03:59 → 00:04:02 เพราะผมเชื่อว่าหลาย ๆ บ้าน เวลาที่แยกจากกันนี่
00:04:02 → 00:04:04 มันจะมีเรื่องของเศรษฐกิจ มันเปลี่ยนไป
00:04:04 → 00:04:06 ดังนั้น พยายามเท่าที่ได้
00:04:06 → 00:04:09 แต่ผมคิดว่าถ้าลูกเขารับรู้พอสมควร
00:04:09 → 00:04:11 ถ้าเราบอกความจริง ทำขั้นตอนที่สองได้ดี
00:04:11 → 00:04:15 ขั้นตอนที่ 3 ถ้ามันต่างไปบ้างในช่วงแรก ลูกจะพอเข้าใจ
00:04:15 → 00:04:16 และอาจจะปรับตัวได้
00:04:16 → 00:04:17 ใช่ครับ
00:04:17 → 00:04:20 แต่ถ้าเป็นไปได้ เอาให้ใกล้เคียงให้มากที่สุด
00:04:20 → 00:04:21 ขั้นตอนที่ 4 นะครับคือ
00:04:21 → 00:04:24 ลูกได้ทำกิจกรรมที่ชอบคล้าย ๆ เดิม
00:04:24 → 00:04:27 เขาอาจจะชอบอยู่กับพ่อ เขาอาจจะชอบอยู่กับแม่
00:04:27 → 00:04:29 ในที่เหล่านี้ ในที่เหล่านั้น
00:04:29 → 00:04:31 เราพยายามให้เขาได้อยู่ ได้ทำ
00:04:31 → 00:04:33 จริง ๆ ข้อ 3-4 มันก็เชื่อมโยงกันนะครับ
00:04:34 → 00:04:36 แต่ว่ามันก็ขึ้นอยู่กับวิธีปฏิบัติของจริง
00:04:36 → 00:04:38 อย่างที่ผมบอกไปว่าวันหยุดอยู่กับใคร วันธรรมดาอยู่กับใคร
00:04:38 → 00:04:40 บางทีมันอาจจะเปลี่ยนแปลงบ้างนิดหน่อย
00:04:40 → 00:04:42 แต่ถ้าสื่อสารให้ชัด ลูกจะเข้าใจครับ
00:04:42 → 00:04:45 แล้วถ้าบังเอิญว่ากิจกรรมที่ลูกชอบ
00:04:45 → 00:04:50 คือกิจกรรมที่จะต้องมีทั้งพ่อและแม่ อยู่ในเวลาเดียวกัน ในสถานที่เดียวกัน
00:04:50 → 00:04:50 ครับอาจารย์
00:04:50 → 00:04:51 จะจัดการอย่างไรดีครับ
00:04:52 → 00:04:55 ถ้าพ่อกับแม่ตกลงกับลูกพร้อมกัน
00:04:55 → 00:04:57 แล้วยินดีที่จะมาทำร่วมกัน
00:04:57 → 00:04:59 ผมเอง ผมคิดว่าทำได้
00:04:59 → 00:05:01 แต่กับความเป็นจริงแล้ว ก็พบว่าบางทีก็ยาก
00:05:01 → 00:05:02 [เสียงหัวเราะ]
00:05:02 → 00:05:05 ยิ่งช่วงแรกที่หย่าร้าง แยกทางกันกันไปใหม่ ๆ
00:05:05 → 00:05:06 ก็อึดอัดเหมือนกันเนอะ
00:05:06 → 00:05:07 ถ้าทำพอได้ก็ทำครับ
00:05:07 → 00:05:09 แต่ถ้าทำไม่ได้ มันอึดอัดมาก แล้วมันซ้ำร้ายจะส่งผลเสีย
00:05:09 → 00:05:11 ผมก็คิดว่า อย่าเพิ่งทำในช่วงแรก
00:05:11 → 00:05:13 และในขั้นตอนที่ 5 นะครับอาจารย์
00:05:13 → 00:05:15 การที่เรา คนเป็นพ่อเป็นแม่นี่
00:05:15 → 00:05:19 จะปฏิบัติต่อลูก ด้วยความรักและความหวังดีเหมือนเดิม
00:05:19 → 00:05:25 ความรัก ความหวังดี ผมคิดว่าอธิบาย ครอบคลุมในข้อที่เหลือทั้งหมดเลย
00:05:25 → 00:05:26 ขมวดรวมทั้งหมดเลยครับว่า
00:05:26 → 00:05:29 ถ้าเรายังยืนยันเหมือนเดิม แบบที่เราบอกกับเขานะครับ
00:05:29 → 00:05:31 ว่าเขาเกิดมาด้วยความรักของคนสองคน
00:05:32 → 00:05:34 เราจะทำอะไร ๆ ก็ตามด้วยความรัก
00:05:34 → 00:05:37 แล้วเมื่อไหร่ที่เราเริ่มทำด้วยความโกรธ
00:05:37 → 00:05:40 แต่เราบอกว่าความรักลูกมันชนะ
00:05:41 → 00:05:42 เราจะไม่มาทำอะไรที่มันไม่ควรทำ
00:05:43 → 00:05:48 [เสียงดนตรี]
00:05:48 → 00:05:52 Well-Being สุขภาพดี ชีวิตดีสร้างได้