00:00:00 → 00:00:06 สวัสดีครับผมคิดว่าหลายคนนะครับคงจะรู้ จักกับยาพาราเซตามอลเป็นอย่างดีและแน่นอน
00:00:06 → 00:00:13 ว่าหลายคนก็คงจะเคยใช้มันมาก่อนด้วยนะ ครับแต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่ามันควรจะกิน
00:00:13 → 00:00:18 เท่าไหร่กันแน่มันมีผลเสียอย่างไรบ้าง แล้วถ้าเกิดเกิดพิษจากพาราเซตามอลขึ้นมา
00:00:18 → 00:00:25 แล้วอาการเป็นอย่างไรเราจะรู้ได้ยังไง แล้วจะมีวิธีอย่างไรในการรักษาวันนี้ผมก็
00:00:25 → 00:00:30 เลยอยากจะลงลึกในแง่นี้ให้ฟังเลยนะครับ เพราะว่าหลายๆคนยังมีความเข้าใจที่ไม่ถูก
00:00:30 → 00:00:36 ต้องในการใช้ยาตัวนี้ทั้งๆที่มันเป็นยา สามัญประจำบ้านอยู่นะครับก็เดี๋ยวฟังกัน
00:00:36 → 00:00:40 เลยนะครับพบกับผมนะครับนายแพทย์ธนีย์ ธนียวันเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศ
00:00:40 → 00:00:46 สหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่าย ปอดและวิกฤตบำบัดนะครับ คำว่าพาราเซตามอล
00:00:46 → 00:00:52 นั้นมันมีอีกชื่อหนึ่งซึ่งเรียกว่า acetaminophen นะครับโดยเฉพาะถ้าท่านมา
00:00:52 → 00:00:57 เที่ยวที่อเมริกาเนี่ยนะครับเราจะไม่ เรียกมันว่าพาราเซตามอลแต่ว่าเราจะเรียก
00:00:57 → 00:01:03 มันว่า acetaminophen นะครับถ้าท่านเรียก พาราเซตามอลเนี่ยอาจจะไม่มีคนรู้จักก็ได้
00:01:03 → 00:01:09 ว่ามันคือยาอะไรนะครับไม่ว่าจะเป็น พาราเซตามอลหรือซามินนั้นมันย่อมาจากชื่อ
00:01:09 → 00:01:18 ทางเคมีที่ยาวๆตัวนึงชื่อว่าพาซิอินฟอนะ ครับตัวนี้ก็คือพาราเซตามอลนี่แหละครับ
00:01:18 → 00:01:24 แต่มันเป็นชื่อทางเคมีจริงๆแล้วท่านเชื่อ มครับว่าถึงแม้ว่าพาราเซตามอลเนี่ยจะอยู่
00:01:24 → 00:01:31 คู่โลกของเราเนี่ยมาหลายปีและก็ตามเราก็ ยังไม่เข้าใจว่ามันไปทำงานยังไงในการลด
00:01:31 → 00:01:37 ไข้หรือลดความเจ็บปวดเรายังไม่ทราบกลไก ของมันเลยนะครับมีการทดลองหลายๆครั้ง
00:01:37 → 00:01:42 พยายามจะอธิบายปรากฏการณ์นี้ให้ได้แต่ว่า ก็ยังเป็นที่ถกเถียงว่าตกลงแล้วมันไปทำ
00:01:42 → 00:01:50 อะไรกันแน่ที่เราพอจะบอกได้ก็คือมันออก ฤทธิ์ที่สมองของเราโดยตรงนะครับโดยอัน
00:01:50 → 00:01:56 ฤทธิ์แรกเนี่ยมันจะไปยับยั้งการรู้สึก ความเจ็บปวดที่สมองนะครับและอันที่ 2 คือ
00:01:56 → 00:02:03 มันจะไปเปลี่ยนแปลงทางตัวควบคุมอุณหภูมิ ของร่างกายทำให้ไข้ของเราลดลงได้เมื่อพูด
00:02:03 → 00:02:10 มาถึงตรงนี้เนี่ยเราก็คงจะสงสัยเอ๊ะถ้า มันออกฤทธิ์ที่สมองเนี่ยทำไมถ้าเรามีพึ่ง
00:02:10 → 00:02:15 ต่อยหรือบาดเจ็บที่แขนที่ขาเนี่ยมันถึงลด อาการปวดได้ล่ะมันออกได้ที่สมองไม่เเหรอ
00:02:15 → 00:02:21 มันก็น่าจะใช้แค่เอ่อแก้อาการปวดหัวอย่าง เดียวถูกมั้ยครับแต่ต้องพูดอย่างนี้ครับ
00:02:21 → 00:02:28 คือเวลาที่เรามีอาการเจ็บปวดที่ร่างกาย เนี่ยมันจะมีการนำกระแสประสาทจากบริเวณ
00:02:28 → 00:02:33 นั้นเข้ามาที่สมองแล้วสมองเรามีหน้าที่ แปลความหมายของสัญญาณนั้นเป็นความเจ็บปวด
00:02:33 → 00:02:39 อีกต่อนึงถ้าพาราเซตามอลมันสามารถไปยับ ยั้งกลไกอันนี้ได้สมองเราต่อให้มันได้รับ
00:02:39 → 00:02:45 สัญญาณมามันก็แปลไม่ได้เราก็จะไม่เกิด อาการเจ็บปวดนั่นเองนะครับอย่างไรก็ตาม
00:02:45 → 00:02:53 พาราเซตามอลนั้นมันไม่สามารถที่จะลดการ อักเสบได้นะครับเช่นถ้าเราโดนผึ้งต่อยที่
00:02:53 → 00:02:59 แขนอ่ามันจะมีอาการปวดบวมแดงร้อนทั้งหมด นี่คือการอักเสบนะครับเกิดจากการที่มี
00:02:59 → 00:03:04 เม็ดเลือดขาวแล้วก็มีสารการอักเสบต่างๆ หลั่งออกมาบริเวณนั้นทำให้เรามีอาการพวก
00:03:04 → 00:03:11 นั้นขึ้นมาพาราเซตามอลนั้นจะสามารถลด อาการเจ็บได้เท่านั้นแต่จะไม่สามารถรักษา
00:03:11 → 00:03:16 ต้นตอของการที่มีแมเลิศขาวมากองรวมตรง นั้นหรือมีสารอักเสบมาอยู่บริเวณนั้นได้
00:03:16 → 00:03:22 นะครับพูดง่ายๆก็คืออาการบวมแดงหรือร้อน มันจะอยู่เหมือนเดิมเป๊ะเลยแต่ว่าอาการ
00:03:22 → 00:03:28 ปวดอาจจะบรรเทาลงบ้างเพราะว่ามันไปยับ ยั้งกระแสประสาทที่ไปที่สมองนะครับทีนี้
00:03:28 → 00:03:34 ถามว่ามันมียาอะไรมยที่สามารถลดการอักเสบ พวกนั้นได้คำตอบก็คือมีครับ 1 คือ
00:03:34 → 00:03:40 สเตียรอยด์ซึ่งเราจะไม่เอามาใช้ในกรณีนี้ นะครับเพราะว่ามันมีอันตรายหลายๆอย่าง
00:03:40 → 00:03:44 ซึ่งผมก็เคยทำคลิปเรื่องสเตียรอยด์ไปแล้ว ท่านลองไปฟังคลิปนั้นดูนะครับว่ามันมีผล
00:03:44 → 00:03:52 สียังไงบ้างอันที่ 2 ที่เราใช้กันบ่อยๆก็ คือยากลุ่มที่เรียกว่า nage นะครับ
00:03:52 → 00:03:58 nsaid ย่อมาจาก nonsteroidal Anti inflator drugs นะครับมันก็คือยาต้าน
00:03:58 → 00:04:03 การอักเสบที่ไม่ไม่ใช่สรอยนั่นเองมีอยู่ หลากหลายชนิดแล้วผมคิดว่าบางคนเนี่ยรู้
00:04:03 → 00:04:09 จักบางชนิดด้วยซ้ำไปนะครับตัวย่อทิศเลยก็ คือมี fenamic Acid หรือ P Stand ที่
00:04:09 → 00:04:15 เรารู้จักกันนั่นเอง diclofenac หรือที่ เรียกว่า voltaren นะครับ Ibuprofen
00:04:15 → 00:04:23 naproxen นะครับเคกิหรือ cbx นะครับหรือ etoricoxib หรือ arcoxia
00:04:23 → 00:04:29 indin พวกนี้เป็นต้นนะ ครับแล้วตัวนี้เนี่ยเนื่องจากว่ามัน
00:04:29 → 00:04:35 สามารถที่จะลดการอักเสบได้มันยังสามารถ ที่จะลดอาการปวดแล้วก็ลดไข้ได้คำถามก็คือ
00:04:35 → 00:04:42 เอ๊ะทำไมอย่างงั้นเราไม่ใช้เรื่องเอเสไป เลยทำไมต้องไปใช้พาราเซตามอลด้วยคำตอบก็
00:04:42 → 00:04:49 คือเอเสเนี่ยมันมีข้อเสียค่อนข้างที่จะ เยอะนะครับอย่างแรกเอเสหลายตัวกัดด
00:04:49 → 00:04:55 กระเพาะครับคนไหนเป็นโรคกระเพาะกินเข้าไป ปวดท้องคลื่นไส้อาเจียนกรดและย้อนกำเริบ
00:04:55 → 00:05:00 ได้นะครับอันที่ 2 มันสามารถทำให้เกล็ด เลือดของเราเนี่ยทำหน้าที่ที่ผิดปกติได้
00:05:00 → 00:05:07 ก็จะมีโอกาสเกิดเลือดออกง่ายถ้าท่านไหน ที่รับประทานยาละลายลิ่มเลือดอยู่หรือยา
00:05:07 → 00:05:13 ต้านเกล็ดเลือดอยู่ก็จะมีโอกาสที่เลือด ออกมากกว่าคนปกติได้อันที่ 3 ถ้ากินเป็น
00:05:13 → 00:05:22 ระยะเวลานานนะครับบางคนไตเสื่อมได้นะครับ ไตเสื่อมได้นะอันนี้สำคัญมากเลยและอันที่
00:05:22 → 00:05:28 4 ก็คือว่าเยอะๆมันก็เป็นพิษต่อตับอัน ที่ 5 คนไหนก็ตามที่มีความดันโลหิตสูงมี
00:05:28 → 00:05:36 โรคหใจมีโรคตับมีโรคไตเวลากินเข้าไปเนี่ย จะทำให้โรคพวกเนี้ยกำเริบได้เช่นถ้าเรามี
00:05:36 → 00:05:42 โรคไตอยู่กินเข้าไปปุ๊บไตทำงานไม่ได้น้ำ ท่วมปอดได้เป็นโรคหัวใจวายอยู่กินนี่เข้า
00:05:42 → 00:05:47 ไปหัวใจยิ่งวายเข้าไปใหญ่นะครับน้ำท่วม ปอดได้เยอะขึ้นอีกความดันสูงกินหนี้เข้า
00:05:47 → 00:05:53 ไปเกิดความดันสูงที่คุมไม่ได้นะครับดัง นั้นจึงเป็นที่มาของการที่เราไม่ค่อยอยาก
00:05:53 → 00:05:59 จะให้กินตัวเอนเสดสักเท่าไหร่นอกเหนือจาก นี้ในเด็กครับเวลาที่เป็นไข้หรือว่าว่า
00:05:59 → 00:06:05 เป็นหวัดเป็นไข้หวัดใหญ่พวกเนี้ยการกินยา ลดไข้กลุ่มเอสเข้าไปถ้าโชคร้ายจริงๆเนี่ย
00:06:05 → 00:06:11 เขาจะเกิดกลุ่มอาการหนึ่งเรียกว่า rine Syndrome ซึ่ง R Syndrome นั้นก็คือการ
00:06:11 → 00:06:17 ที่มีตับวายฉับพลันอย่างรุนแรงแล้วก็อาจ จะถึงแก่ชีวิตเลยก็ได้นะครับนี่จึงเป็น
00:06:17 → 00:06:22 สาเหตุที่เราไม่ค่อยอยากจะให้ใช้เอสสสัก เท่าไหร่
00:06:22 → 00:06:29 พาราเซตามอลครับตรงกันข้ามสามารถกินได้ใน เวลาที่เราท้องว่างนะครับไม่กัดกระเพาะนะ
00:06:29 → 00:06:34 ครับแล้วก็ไม่มีผลเสียอย่างที่เมื่อกี้ เล่าไปทั้งหมดของ
00:06:34 → 00:06:40 เสแต่ต้องกินให้ถูกต้องด้วยเพราะว่าถ้า ท่านกินไม่ถูกต้องกินเยอะเกินไปนะครับมัน
00:06:40 → 00:06:47 อาจจะทำให้เกิดพิษที่รุนแรงต่อตับของเรา ได้ทำให้เลือดเป็นกรดได้แล้วก็มีผลต่อไต
00:06:47 → 00:06:54 ได้ถ้าเกิดท่านกินเข้าไปเยอะจนเกิน ไปคำถามก็คือเอ๊ะแล้วเรากินเท่าไหร่กัน
00:06:54 → 00:07:02 แน่ถึงจะเรียกว่าพอเหมาะไม่เยอะจนเกินไป นะครับคำตอบตอบก็คือเรากินนต่อครั้งนะ
00:07:02 → 00:07:13 ครับ 10-15 มกรต่อกิกัต่อครั้งนะครับ คำนวณยังไงถ้าท่านน้ำหนักซัก 40 กกนะครับ
00:07:13 → 00:07:19 40 * ด้วย 10 = 400 มิลิกรัมต่อครั้ง ถ้าขุดคูณด้วย 15 ก็ได้ 600 มิลกรัมต่อ
00:07:19 → 00:07:24 ครั้งถูกมั้ยครับนั่นก็คือปริมาณที่ท่าน ควรจะกินถ้าท่านน้ำหนักอายุเอ่อน้ำหนัก
00:07:24 → 00:07:30 เท่ากับ 40 นะครับและท่านต้องรู้อย่างนี้ ก่อน
00:07:30 → 00:07:35 พาราเซตามอลเนี่ยมันมีหลายขนาดนะครับตั้ง แต่แบบเป็นน้ำนะครับแล้วก็เป็นเม็ดแบบ 325
00:07:35 → 00:07:41 500 หรือมากกว่านั้นนะครับแล้วบางเม็ด เนี่ยมันเป็นแบบดูดซึมรวดเร็วหรือที่เรา
00:07:41 → 00:07:45 เรียกว่า immediate release นะครับและ อีกบางประเภทเนี่ยมันเป็นแบบที่ค่อยๆ
00:07:45 → 00:07:51 ปล่อยออกยาออกมาเรื่อยๆเรียกว่า extended release นะครับ 2 อย่างนี้กินไม่เหมือน
00:07:51 → 00:07:56 กันนะครับกินไม่เหมือนกันเพราะว่าถ้า immediate release เรากินเข้าไปปุ๊บมัน
00:07:56 → 00:08:01 ดูดซึมเข้าร่างกายมันก็ปล่อยพาราเซตามอล ออกมาเยอะแยะเลยแต่ถ้าเป็น extend
00:08:01 → 00:08:06 release มันเข้าไปในร่างกายแล้วมันค่อยๆ ปล่อยเอายาตัวนี้ออกมาทีละนิดทีละหน่อยนะ
00:08:06 → 00:08:12 ครับถามว่าตรงนี้มันมีอะไรที่เราต้องทราบ บ้างนะครับประการแรกเมื่อกี้ผมบอกหลัก
00:08:12 → 00:08:18 แล้วว่าแต่ละครั้งกินได้เท่าไหร่บ้างคือ 10-15 มกรต่อกิกัต่อครั้งนะครับถ้าเป็น
00:08:18 → 00:08:27 แบบการกิน immediate release เนี่ยจะ สามารถกินได้ทุกๆประมาณ 4-6 ชมม 4-6 ชมนะ
00:08:27 → 00:08:35 ครับแต่ถ้าเป็นแบบค่อยๆปล่อยออกมาเนี่ย มันจะออกฤทธิ์ยาวกว่าเราจะกินได้ทุก 8 ชม
00:08:35 → 00:08:40 ครับไม่สามารถกินบ่อยกว่านั้นได้ไม่ ฉะนั้นจะเกิดพิษขึ้นมาได้นะครับแล้วในแต่
00:08:40 → 00:08:48 ละวันนั้นแนะนำว่าอย่ากินเกิน 4,000 มิลกรัมไม่ว่ากรณีใดๆก็ตามเพราะว่าถ้า
00:08:48 → 00:08:54 เกินนั้นแล้วโอกาสที่จะเกิดพิษต่อตับมัน ค่อนข้างที่จะสูงเลยทีเดียวนะครับอาจจะมี
00:08:54 → 00:09:02 หรือไม่มีอาการก็ได้รวมทั้งพาราเซตามอล นั้นยากอย่ากินเกิน 5 วันนะครับเพราะว่า
00:09:02 → 00:09:07 โอกาสการเกิดพิษต่อตับมันจะสูงขึ้นเมื่อ ท่านกินเกิน 5 วันและอีกอย่างนึงก็คือถ้า
00:09:07 → 00:09:14 อาการปวดของเราเนี่ยยังไม่ดีขึ้นนะครับ 5 วันผ่านไปแล้วเราก็ควรจะไปตรวจหาสาเหตุ
00:09:14 → 00:09:18 ว่ามันมีอะไรที่ทำให้เรายังปวดอยู่เหมือน เดิมนะครับนั่นคือเหตุ
00:09:18 → 00:09:28 ผลข้อควรระวังอื่นๆของพาราเซตามอลก็คือ เราต้องอย่ากินกับพวกแอลกอฮอล์นะครับ
00:09:28 → 00:09:34 เพราะว่ามันจะยทำให้ตับมีปัญหาได้นะครับ ยาที่มีปัญหาต่อตับที่เรากินอยู่ถ้ามากิน
00:09:34 → 00:09:39 พาราเซตามอลเข้าไปด้วยก็อาจจะมีผลเป็น 2 เท่าก็ได้อันที่ 3 ที่เจอกันบ่อยๆเลยก็
00:09:39 → 00:09:45 คือว่าเรารับประทานพาราเซตามอลซ้ำซ้อน เฮ้ยซ้ำซ้อนมันหมายความว่าอะไรมันหมาย
00:09:45 → 00:09:50 ความว่าอย่างนี้ครับท่านรับประทาน พาราเซตามอลเข้าไปแล้วแล้วท่านไปหายาตัว
00:09:50 → 00:09:57 อื่นมารับประทานบังเอิญยาตัวอื่นเนี่ยมัน มีพาราเซตามอลเป็นส่วนผสมยกตัวอย่างเช่น
00:09:57 → 00:10:06 ยาลดแก้อาการหวัดยาแก้ปวดนะครับยาคลาย กล้ามเนื้อกลุ่มพวกเนี้ยบางครั้งมันมียา
00:10:06 → 00:10:10 มากกว่า 1 ตัวแล้วบางทีไอ้ที่มากกว่า 1 ตัวเนี่ยประกอบไปด้วย
00:10:10 → 00:10:16 พาราเซตามอลเป็นหนึ่งในนั้นร่วมกับยาตัว อื่นดังนั้นถ้าเราไปเจอยาแก้หวัดนะครับ
00:10:16 → 00:10:22 บรรเทาอาการหวัดยาบรรเทาอาการไข้ยาบรรเทา อาการปวดเมื่อยตามร่างกายปวดเมื่อยกล้าม
00:10:22 → 00:10:27 เนื้อเราต้องสงสัยไว้ก่อนว่าเอ๊ะมันจะมี พาราเซตามอลอยู่ในนั้นมยหรือมียาตัวอื่น
00:10:27 → 00:10:33 ซึ่งมันทำหน้าที่คล้ายกันได้แล้วที่ง่าย ที่สุดก็คือเราถามเภสัชกรที่ร้านเพื่อที่
00:10:33 → 00:10:37 เราจะได้แน่ใจว่าเราไม่กินเกินนะครับ เพราะอย่างยกตัวอย่างเช่นถ้าท่านกิน
00:10:37 → 00:10:41 พาราเซตามอลเข้าไปแล้ว 500 มิลกรัมถูก มั้ยครับแล้วท่านไปกินยาตัวอื่นซึ่งแบบ
00:10:41 → 00:10:47 อ้ามันมีพาราเซตามอลอยู่ในนั้นกินเข้าไป ด้วยกันท่านก็ได้พาราเซตามอล 2 รอบขนาด
00:10:47 → 00:10:52 มันก็จะสูงนะครับงั้นตรงนี้เป็นสิ่งที่ ต้องระวังอย่าง
00:10:52 → 00:10:59 นึงพาราเซตามอลเนี่ยมันยังเป็นยาซึ่งบาง คนกินเกินขนาดเพื่อหวังผลจะลาโลกเนี้ยนะ
00:10:59 → 00:11:06 ครับเราก็เจอกันบ่อยมากเลยนะครับแล้วที นี้อันนั้นก็เป็นเหตุที่ทำให้เกิดพิษต่อ
00:11:06 → 00:11:10 ตับได้ส่วนในบางคนก็กินเข้าไปโดย อุบัติเหตุเช่นในเด็กอย่างเงี้ยเกิด
00:11:10 → 00:11:15 อุบัติเหตุได้หรือบางคนคือมันไม่หายปวด สักทีอ่ะไข้ก็ไม่ลงสักทีกินแล้วกินอีกกิน
00:11:15 → 00:11:20 แล้วกินอีกจนกระทั่งมันเกิดพิษขึ้นมาเลย นะครับพวกนี้ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้บางคน
00:11:20 → 00:11:25 เกิดพิษนะครับหรือบางคนไปกินอย่างที่ เมื่อกี้ผมบอกนะครับกินพาราเซตามอลร่วม
00:11:25 → 00:11:33 กับยาตัวอื่นที่มันมีพาราเซตามอลร่วมด้วย ก็เลยเกิดเป็นพิษขึ้นมาทีนี้พิษเนี่ยนะ
00:11:33 → 00:11:39 ครับมันจะต้องกินขนาดเท่าไหร่เมื่อกี้ผม บอกแล้วใช่มั้ยครับว่า 4 ม 4,000 มกรต่อ
00:11:39 → 00:11:46 วันอย่าเกินนะครับแต่ถ้าในคนที่เป็นโรค ตับเนี่ยนะครับไม่ควรกินเกิน 2,000 มกร
00:11:46 → 00:11:52 ต่อวันแลถ้าตับมันแย่ไปแล้วเช่นท่านเป็น ตับแข็งตัวเหลืองตาเหลืองมีน้ำในท้องไอ้
00:11:52 → 00:11:57 อย่างเงี้ยอย่ากินนะครับไปถามหมอก่อนให้ หมอเคตรวจให้แน่ใจก่อนว่าท่านควรจะกินตัว
00:11:57 → 00:12:02 ไหนกันแน่เพราะว่าถ้าถ้าท่านกินเข้าไปตอน นั้นเนี่ยบางทีเกิดอาการตับวายเลยทันทีนะ
00:12:02 → 00:12:08 ครับงั้นเราจะไม่แนะนำนะครับถ้าเป็นโรค ตับเต็มขั้นแบบนั้นอย่ากินพาราเซตามอลแต่
00:12:08 → 00:12:13 ถ้าเรามีโรคตับเล็กๆน้อยๆเช่นไปไวเป็น ไวรัสตับอักเสบ B หรืออ่าจะเป็นตับแข็ง
00:12:13 → 00:12:19 ระยะเริ่มต้นเนี่ยถ้าจำเป็นจริงๆเนี่ยนะ ครับสามารถรับประทานได้แต่อย่าเกิน 2,000
00:12:19 → 00:12:25 มิลกรัมต่อวันนะครับนี่คือเป็นสิ่งที่เรา ต้องเข้าใจไว้ด้วยนะครับในกรณี
00:12:25 → 00:12:31 นี้เมื่อกี้ผมบอกว่า 4,000 ทำให้เกิด ปัญหาหาได้คือตับมันจะเริ่มอักเสบแต่ใน
00:12:31 → 00:12:37 กรณีที่เกิดพิษต่อตับจริงๆเลยอ่ะแบบกิน เข้าไปเท่าเนี้ยแล้วมันเป็นแน่ๆเลยนะครับ
00:12:37 → 00:12:45 คือ 150 มกรต่อ กิกัครั้งเดียวถ้ากินเข้าไปขนาดนี้นะครับ
00:12:45 → 00:12:51 ได้มีพิษต่อตับแน่นอนหรือบางคนกินมากกว่า นั้นก็คือแทนที่รวมทั้งวันเนี่ยจะ 4,000
00:12:51 → 00:12:57 มิลกรัมใช่มั้ยครับบางคนเนี่ยกินเข้าไปจน ถึงโน่น 12,000 มกรต่อวันซึ่งเยอะมากๆนะ
00:12:57 → 00:13:05 ครับเยอะมากๆสมมุติว่าเรากินแบบเม็ดละ 500 มิลกรัม 4,000 มกรต่อวันก็คือ 8 เม็ดเรา
00:13:05 → 00:13:10 ไม่ควรจะกินเกิน 8 เม็ดต่อวันแต่ถ้าเกิด คุณกินไปเป็น 20 เม็ดแล้วอ่ะไอย่างงั้น
00:13:10 → 00:13:17 ครับเกิดพิษแน่ๆนะครับอาการพิษจาก พาราเซตามอลเป็นอย่างไรนะครับอาการแรบ
00:13:17 → 00:13:25 เริ่มก็คืออาจจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ซึ่งฟังดีๆนะครับมันจะดีขึ้นภายใน 24 ชม
00:13:25 → 00:13:32 แล้วหลังจากนั้นเนี่ยจะปกติไปอีกสักพัก นึงแต่ห้ามชะล่าใจเด็ดขาดอาการมันดีขึ้น
00:13:32 → 00:13:38 ไม่ได้แปลว่าท่านไม่เป็นพิษครับเพราะว่า หลังจากที่ดีขึ้นระยะแรกเริ่มมันจะมี
00:13:38 → 00:13:45 อาการตับอักเสบมากขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งพอ ผ่านไป 48 -72 ชมงจะมีอาการคลื่นไส้
00:13:45 → 00:13:50 อาเจียนออกมาอีกรอบหนึ่งแล้วถ้าถึงตอน นั้นเนี่ยการรักษาก็จะยากลำบากมากขึ้นนะ
00:13:50 → 00:13:56 ครับถ้าท่านกินเข้าไปปริมาณมากอย่างที่ เมื่อกี้ผมบอก 20 เม็ดเลยหรือว่าครั้งนึง
00:13:56 → 00:14:01 เยอะเลยโดยเฉพาะถ้าท่านมีโรคตับโรคไตอะไร พวกนี้อยู่แล้วกินเข้าไปเยอะๆนะ
00:14:01 → 00:14:09 ครับท่านมีอาการขึ้นแสเจียนควรจะต้องรีบ ไปหาหมอตอนนั้นแล้วนะครับการรักษาถ้าไป
00:14:09 → 00:14:15 ทันนะครับภายในเวลา 8 ชมโอกาสที่ตับจะ กลับมาทำหน้าที่ปกติได้สูงมากครับแต่ถ้า
00:14:15 → 00:14:21 ไปเลย 8 ชมงไปแล้วเนี่ยก็ตัวใครตัวเขานะ ครับแล้วแต่ดวงนะครับถ้าไปเร็วมากๆบางที
00:14:21 → 00:14:27 เราล้างท้องเอาเอาผงถ่านเข้าไปดูดซึมไนอ หรือว่าพาราเซตามอลที่เรากินเข้าไปก็ได้
00:14:27 → 00:14:34 นะครับแต่ถ้าเราไปช้ากว่านั้นมันก็ไม่มี ประโยชน์ที่เราจะล้างท้องแล้วนะครับอีก
00:14:34 → 00:14:38 อย่างนึงที่ผมอยากจะเน้นย้ำก็คือว่าไอ้ ตัวพาราเซตามอลเนี่ยมันไม่ได้ดูดซึมที่
00:14:38 → 00:14:44 กระเพาะสักเท่าไหร่แต่มันไปดูดซึมที่ลำ ไส้เล็กตรงนี้สำคัญยังไงมันสำคัญในคนที่
00:14:44 → 00:14:49 มีปัญหาทางด้านกระเพาะครับคือกระเพาะที่ ไม่ค่อยเคลื่อนที่หรือกระเพาะเนี่ยมันไม่
00:14:49 → 00:14:54 ค่อยบีบตัวเราจะเรียกภาวะนี้ว่า gastroparesis ซึ่งเราเจอได้ในโดยเฉพาะ
00:14:54 → 00:14:59 คนที่เป็นเบาหวานแล้วคุมไม่ได้นะครับ อาการก็คือกินแล้วมันจะอิอิ่มง่ายนะครับ
00:14:59 → 00:15:04 แป๊บเดียวก็อิ่มแล้วก็มีคลื่นไส้อาเจียน ได้ไอ้ยาเนี่ยมันเข้าไปแล้วถ้ากระเพาะไม่
00:15:04 → 00:15:09 ยอมบีบมันลงไปลำไส้เล็กเนี่ยการดูดซึมของ ยาตัวเนี้ยมันก็จะลดลงทำให้คนที่มีปัญหา
00:15:09 → 00:15:13 เรื่องกระเพาะแบบนี้ก็จะบอกว่ากินเข้าไป ไม่เห็นจะได้ผลเลยพอไม่ได้ผลหรือบางทีได้
00:15:13 → 00:15:17 ช้าก็กินเข้าไปอีกกินเข้าไปอีกนะครับมัน ก็เลยทำให้คนเหล่าเนี้ยเกิดพิษจาก
00:15:17 → 00:15:24 พาราเซตามอลขึ้นมาได้ในที่สุดนะครับอ่ะ เรามาถึงตรงนี้แล้วพาราเซตามอลมันไปทำ
00:15:24 → 00:15:29 อะไรในร่างกายเราถึงเกิดพิษขึ้นมาได้นะ ครับพาราเซตามอลเนี่ยมันจะเข้าไปที่ตับ
00:15:29 → 00:15:34 ครับดูซึมเข้าไปที่ตับตับเราจะมีหน้าที่ เปลี่ยนพาราเซตามอลเนี่ยให้กลายไปเป็น
00:15:34 → 00:15:41 โมเลกุลที่ไม่มีพิษแต่ในขั้นตอนการ เปลี่ยนของมันก็จะเกิดโมเลกุลที่มันมีพิษ
00:15:41 → 00:15:52 ขึ้นมาตัวนึงชื่อว่า npy นะครับ napqi ย่อมาจาก n ay พาซคินอีนนะครับตัวนี้มัน
00:15:52 → 00:15:58 เป็นพิษที่รุนแรงมากๆต่อตัดนะครับและพอ มันเกิดขึ้นมาแล้วนะก็ร่างกายก็จะมีวิธี
00:15:58 → 00:16:05 กำจัดโดยการใช้สารตัวนึงที่มีในร่างกาย ชื่อว่ากลูต้าไทโอนสารตัวนี้แหละครับถูก
00:16:05 → 00:16:11 แล้วครับเป็นตัวที่ทุกๆคนบอกว่าไปฉีดกลูต ไทโอนให้ผิวขาวมยกินกลูตไทโอนให้ผิวขาว
00:16:11 → 00:16:15 ไอ้สารตัวนี้แหละครับที่มันจะทำหน้าที่ กำจัด
00:16:15 → 00:16:21 แปี้แต่ถ้าเกิดเรากินพาราเซตามอลมากจน กระทั่งแปี้ที่สร้างขึ้นมาเนี่ยมันมีเยอะ
00:16:21 → 00:16:29 มากๆจนกระทั่งไอ้ตัวกลูตไทโอนของเรามีไม่ พอนกี้ของเรามันก็ชนะครับมันก็จะทำให้ตับ
00:16:29 → 00:16:36 อักเสบรุนแรงมากแล้วก็ไม่ใช่แค่นั้นนะ ครับการที่ไม่มีกลูต้าไทโอนในร่างกาย
00:16:36 → 00:16:41 เนี่ยกลไกอีกอย่างนึงของพาราเซตามอลที่ทำ ให้เกิดพิษขึ้นมาได้ก็คือการอันนี้หมอก็
00:16:41 → 00:16:48 ยังไม่ค่อยมีคนรู้นะครับมันคือการเกิดกรด ชนิดหนึ่งชื่อว่าไ oxy proline นะครับ
00:16:48 → 00:16:56 หรือ P glutamic Acid นะครับกรดตัวนี้ เนี่ยถ้ามีหมอเข้ามาฟังนะครับมันจะทำให้
00:16:56 → 00:17:03 เกิดแอร์ไน GAT เม็ด metabolic acidosis ได้นะครับปกติเวลาไนอหรือพอเรากินเกิน
00:17:03 → 00:17:08 ขนาดเนี่ยมันจะเกิดกรดขึ้นมาอยู่แล้วอัน นึ่งคือกรดแลคติกนะครับเนื่องจากตับไม่
00:17:08 → 00:17:13 สามารถทำลายกรดแลคติกได้มันก็เลยออกมา เพราะว่ามันอักเสบนะครับแต่อีกเหตุผลนึง
00:17:13 → 00:17:19 ที่เกิดกรดพวกนี้เกินก็คือตัวนี้แหละครับ ไพโล glutamate โดยเฉพาะคนที่มีโรคไตแล้ว
00:17:19 → 00:17:28 ก็กินกินพาราเซตามอลนานๆเนี่ยมันจะเกิด โรคนี้ขึ้นมาได้ง่ายขึ้นนะครับดังนั้นใน
00:17:28 → 00:17:34 เมื่อเรารู้แล้วว่าเออเนี่ยคือปัญหาของ เ่าพาราเซตามอลมันคือมีสารแนปกี้เกินนะ
00:17:34 → 00:17:39 มันไปทำลายตับแล้วร่างกายมีกลไกกำกำจัด โดยการใช้กลูตาไทโอนเอ๊ะแบบนี้เรากิน
00:17:39 → 00:17:44 กลูตาไทโอนเข้าไปเยอะๆหรือว่าฉีดกลูตา ไทโอนเข้าไปไม่ดีเหรอมันสามารถที่จะแก้ไข
00:17:44 → 00:17:52 ปัญหาเรื่องของไนอหรือพาอเป็นพิษได้ไม่ ได้ครับและนี่คือหนึ่งในเหตุผลที่หมอบาง
00:17:52 → 00:17:57 คนก็ไม่รู้ว่าทำไมเราถึงไม่ให้กลูต้า ไทโอนเข้าไปแต่ผมจะเฉลยให้ทุกคนที่เป็นคน
00:17:57 → 00:18:02 ทั่วไปเข้าใจเลยนะครับว่าเหตุผลที่เราไม่ สามารถใช้กลูต้าไทโอนเข้าไปได้เนี่ยมัน
00:18:02 → 00:18:09 เป็นเพราะว่าเวลาที่เราฉีดหรือเรากินเข้า ไปกลูต้าไทโอนนั้นจะไม่สามารถผ่านเยื้อ
00:18:09 → 00:18:13 ุ้มเซลล์เข้าไปในเซลล์ได้แล้วปัญหาของ นกี้เนี่ยมันอยู่ในเซลล์ครับมันไม่ได้
00:18:13 → 00:18:19 อยู่ข้างนอกนะครับเราต้องการเข้าไปใน เซลล์เพื่อไปจับกับนกี้ตัวนี้แต่ถ้ามัน
00:18:19 → 00:18:26 เข้าไปไม่ได้มันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรดัง นั้นเราทำยังไงดีเราก็ให้สารตัวนึงซึ่ง
00:18:26 → 00:18:32 มันจะไปแปลงร่างเป็นกลูตาไทโอนในเซลล์สาร ตัวนี้ก็คือ n AC syst หรือยาแก้ไอของ
00:18:32 → 00:18:37 เรานั่นแหละครับยาแก้ไอแบบเม็ดฟู่ๆของเรา นี่แหละนะครับยาตัวนี้เนี่ยนะครับเป็นยา
00:18:37 → 00:18:43 ตลายเสมหะตัวนึงซึ่งเราสามารถใช้กินก็ได้ ใช้ฉีดเข้าเส้นเลือดก็ได้แล้วมันก็จะไป
00:18:43 → 00:18:50 แปลงเป็นกลูต้าไทโอนในเซลล์ของเราจับกัน แปี้ทำให้เราไม่เกิดตับอักเสบครับนะงั้น
00:18:50 → 00:18:58 ถ้าเรามาเร็วเราก็รักษาได้ถ้าเรามาช้ามัน ก็อาจจะมีปัญหาต่อตับระยะยาวได้ทีนี้เวลา
00:18:58 → 00:19:04 เวลาเรารักษาเราดูอะไรบ้างนะครับทั่วไป เนี่ยจะมีเป็นโปรโตคอลในการรักษาถ้าแบบ
00:19:04 → 00:19:08 เราฉีดเข้าเส้นเลือดก็จะใช้เวลาประมาณสัก วันนึงถ้าเกิดแบบกินเข้าไปก็จะใช้เวลา
00:19:08 → 00:19:14 ประมาณสัก 3 วันนะครับพอก่อนที่เราจะครบ เวลาเนี่ยเราจะมีการตรวจประเมินว่าเออค่า
00:19:14 → 00:19:19 เอนไซม์ของตับของเรามันดีขึ้นแล้วนะระดับ พาราเซตามอลในร่างกายจะต้องไม่เจอแล้วนะ
00:19:19 → 00:19:24 ครับเราถึงจะหยุดการรักษานะครับแต่ถ้าไม่ งั้นเราก็อาจจะต้องใช้การรักษาพวกเนี้ย
00:19:24 → 00:19:32 ต่อไปสักพักหนึ่งจนกระทั่งเราเป็นปกตินะ ครับอ่าเป็นยังไงเรารู้เรื่องของพาอลงลึก
00:19:32 → 00:19:37 กันเลยนะครับวันนี้ผมคิดว่าน่าจะเป็น ประโยชน์กับหลายๆคนควรจะรู้ด้วยว่ากินยัง
00:19:37 → 00:19:44 ไงนะครับแล้วอีกอย่างผมอยากเน้นก็คือมัน จะมีคนไข้บางคนที่มีความเสี่ยงต่อการเกิด
00:19:44 → 00:19:51 พิษของพาราเซตามอลนะครับคนเหล่านั้นคือ 1 คนที่อายุเยอะนะครับอันที่ 2 คนที่มีโรค
00:19:51 → 00:19:57 ตับอยู่ก่อนอันที่ 3 คนที่มีภาวะทุ โภชนาการอันที่ 4 คือคนที่ชอบทำ
00:19:57 → 00:20:02 อินเตอร์เน็ต fasting นานๆหรือคือออาหาร นานๆแล้วไปกินนะครับพวกนี้จะตับอักเสบได้
00:20:02 → 00:20:09 ง่ายนะครับกลุ่มนี้จะต้องระวังเป็นพิเศษ นะครับในการรับประทานพาราเซตามอลหรือในคน
00:20:09 → 00:20:14 ที่รับประทานยาที่มีปัญหาต่อตับเยอะๆนะ ครับอ่าอันนี้มีเยอะแยะไปหมดนะครับไม่ว่า
00:20:14 → 00:20:21 จะเป็นยากัญชักบางชนิดนะครับยารักษา วัณโรคไรแฟมพิซินนะครับหรืออ่ายาไอซ Acid
00:20:21 → 00:20:26 พวกนี้ที่มีผลต่อตับซึ่งในพวกเนี้ยควรจะ ต้องปรึกษาคุณหมอก่อนว่าเราสามารถที่จะ
00:20:26 → 00:20:32 รับประทานยาพ ได้แค่ไหนได้หรือไม่นะครับอ่าดังนั้นโดย
00:20:32 → 00:20:39 สรุปแล้วนะครับพาราเซตามอลเนี่ยนะครับมา เทอเมริกาเรียกว่ามฟนนะครับไม่งั้นเดี๋ยว
00:20:39 → 00:20:47 เขาไม่รู้จักนะครับเวลากิน 10-15 มกรต่อ กิกัต่อครั้งนะครับทานได้ทุก 4-6 ชมงยก
00:20:47 → 00:20:54 เว้นกรณีที่มันเป็นแบบ extended release คือค่อยๆปล่อยออกมาพวกนี้กินได้ทุก 8 ชมง
00:20:54 → 00:21:01 นะครับอย่ากินเกิน 4,000 มกรต่อวันนะครับ ถ้าท่านมีโรคตับคือ 2,000 มิลิกรัมต่อวัน
00:21:01 → 00:21:07 และกินได้แค่ 5 วันเท่านั้นถ้าไม่หายควร จะไปปรึกษาหมอว่าท่านเป็นอะไรกันแน่ที่
00:21:07 → 00:21:13 ถึงมีอาการปวดอยู่แค่นั้นถ้ากินเยอะเกิน แล้วมีอาการคลื่นไส้ไอเจนรีบพาไปหาหมอ
00:21:13 → 00:21:20 อย่าอดทนอยู่กับบ้านเองเพราะว่าอาการพวก นั้นมันจะดีขึ้นแต่มันเป็นสัญญาณของตับ
00:21:20 → 00:21:25 ที่มันเสียไปแล้วครับเดี๋ยวมันจะกลับมา ขึ้นไส้อาเจียนใหม่อย่ารอรักษาเองที่บ้าน
00:21:25 → 00:21:30 ต้องรีบไปหาหมอนะครับโอเควันนี้ผมก็เล่า ให้ฟังเพียงเท่านี้นะครับคิดว่าน่าจะครบ
00:21:30 → 00:21:34 ทุกประเด็นเกี่ยวข้องกับพาราเซตามอลแล้ว นะครับถ้าใครมีคำถามอะไรก็สอบถามมานะครับ
00:21:34 → 00:21:39 ขอบคุณมากครับสวัสดีครับ