00:00:00 → 00:00:02 วันนี้นะคะเราจะมารู้จักเบาจืดภาวะสูญ
00:00:03 → 00:00:06 เสียการควบคุมน้ำโรคหายากที่อันตรายและใน
00:00:06 → 00:00:09 ช่วงนี้นะคะเราจะมาพูดคุยกับอาจารย์แพทย์
00:00:09 → 00:00:12 ผู้เชี่ยวชาญกันสวัสดีค่ะ
00:00:12 → 00:00:20 [เพลง]
00:00:20 → 00:00:24 อาจารย์ขอเริ่มที่คำถามแรกเลยนะคะอาจารย์
00:00:24 → 00:00:27 คนกลุ่มใดคะที่มีความเสี่ยงเป็นโรคเบาจืด
00:00:27 → 00:00:31 ได้บ้างคะค่ะสำหรับคนไนะคะที่มีความ
00:00:31 → 00:00:33 เสี่ยงเป็นโรคเบาจืดนะคะก็คือบุคคลที่มี
00:00:33 → 00:00:37 ประวัติมีความผิดปกติของต่อมใต้สมองหรือ
00:00:37 → 00:00:40 ว่าสมองส่วนไฮโปทาลามัสค่ะเช่นเคยมี
00:00:40 → 00:00:43 ประวัติเนื้องอกเคยมีประวัติเรื่องของการ
00:00:43 → 00:00:45 ผ่าตัดสมองบริเวณนั้นมาก่อนนะคะหรือว่า
00:00:46 → 00:00:48 ได้รับการฉายแสงมาก่อนนะคะหรือมีประวัติ
00:00:48 → 00:00:51 เรื่องของการอักเสบตรงบริเวณต่อมใต้สมอง
00:00:51 → 00:00:54 หรือว่าสมองส่วนไฮโปทาลามัสค่ะอันนี้นะคะ
00:00:54 → 00:00:56 ก็จะเป็นสาเหตุของโรคเบาจีดที่เกิดจาก
00:00:56 → 00:00:59 สมองนะคะแต่ก็จะมีบางสาเหตุค่ะที่เกิดจาก
00:00:59 → 00:01:02 จากยาได้นะคะไม่ว่าจะเป็นยาโรคจิตเวทบาง
00:01:02 → 00:01:06 ชนิดค่ะหรือว่ายาเคมีบำบัดบางชนิดค่ะ
00:01:06 → 00:01:08 อาจารย์ขาและผู้ป่วยโรคเบาจืดเขาจะใช้
00:01:08 → 00:01:11 ชีวิตได้อย่างไรคะจริงๆแล้วในความคิดเห็น
00:01:11 → 00:01:14 หมอเนี่ยผู้ป่วยโรคเบาจืดเนี่ยค่ะสามารถ
00:01:14 → 00:01:17 ที่จะใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนคนทั่วไป
00:01:17 → 00:01:20 ได้เลยนะคะแต่ว่าก็อาจจะต้องมีข้อปฏิบัติ
00:01:20 → 00:01:22 บางอย่างที่อาจจะต้องนอกเหนือกว่าคนทั่ว
00:01:22 → 00:01:26 ไปอันดับแรกเลยก็คือยาของหมอสำคัญมากๆเลย
00:01:26 → 00:01:29 ค่ะจะต้องรับประทานยาตรงตามเวลาที่หมอบอก
00:01:29 → 00:01:32 สมับเสมอจำนวนเม็ดยาเนี่ยก็ต้องเคร่งครัด
00:01:32 → 00:01:35 นะคะก็คือจะต้องทานยาให้สม่ำเสมอค่ะข้อ
00:01:35 → 00:01:38 แรกเลยนะคะข้อ 2 เลยเนี่ยค่ะถ้าเกิดว่า
00:01:38 → 00:01:41 เรารู้ว่าเรามีการเสียเหงื่อเสียน้ำมาก
00:01:41 → 00:01:43 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการท้องเสียอ้วก
00:01:43 → 00:01:46 อาเจียนประมาณเนี้ยเราจะต้องทานน้ำเพิ่ม
00:01:46 → 00:01:48 มากขึ้นค่ะแล้วก็เราอาจจะต้องหลีกเลี่ยง
00:01:48 → 00:01:51 อาหารประเภทเค็มๆค่ะเพราะว่ามันก็จะทำให้
00:01:51 → 00:01:55 ไตเนี่ยทำงานหนักมีการขับน้ำออกไปมากขึ้น
00:01:55 → 00:01:58 เราก็จะเสียน้ำมากขึ้นค่ะและในกรณีที่ผู้
00:01:58 → 00:02:01 ป่วยโรคเบาจืดน้นั้นมีภาวะร่างกายซึ่ง
00:02:01 → 00:02:05 เกลือแรกค่ะเสียสมดุลจะส่งผลกับคนไข้
00:02:05 → 00:02:08 อย่างไรบ้างคะคนไข้โรคเบาจืดเนี่ยค่ะมี
00:02:08 → 00:02:11 โอกาสเสี่ยงมากๆเลยนะคะที่จะมีเกลือแร่ใน
00:02:11 → 00:02:13 ร่างกายเนี่ยที่ผิดปกติได้เยอะเลยค่ะที
00:02:13 → 00:02:16 นี้ว่ามันก็จะส่งผลต่อระบบโดยรวมของร่าง
00:02:16 → 00:02:19 กายมากเลยจริงๆถ้าเราไม่ได้รักษาเนี่ยส่ง
00:02:19 → 00:02:22 ผลถึงชีวิตได้เลยนะคะเช่นภาวะที่มีเกลือ
00:02:22 → 00:02:25 แร่ในร่างกายต่ำบางอย่างเช่นโพแทสเซียม
00:02:25 → 00:02:28 ต่ำจากการสูญเสียทางปัสสาวะเนี่ยค่ะก็จะ
00:02:28 → 00:02:30 ทำให้กล้ามเนื้อเนี่ยมีมีการอ่อนแรงได้นะ
00:02:31 → 00:02:33 คะก็จะรู้สึกอ่อนแรงเป็นตะคิวเดินไม่ค่อย
00:02:33 → 00:02:36 ไหวค่ะแล้วก็ถ้าเกิดว่าเมีในเรื่องของ
00:02:36 → 00:02:39 โซเดียมในร่างกายผิดปกติมากๆเนี่ยอาจจะทำ
00:02:39 → 00:02:42 ให้คนไข้ซึมลงหรือว่ามีภาวะชักเกรงได้เลย
00:02:42 → 00:02:46 ค่ะอาจารย์คะหลักในการดื่มน้ำของผู้ป่วย
00:02:46 → 00:02:48 ที่เป็นโรคเบาจืดจะต่างจากคนทั่วไปอย่าง
00:02:48 → 00:02:52 ไรบ้างคะส่วนตัวหมอนี่หมอจะแบ่งคนไข้ออก
00:02:52 → 00:02:54 เป็น 2 ประเภทนะคะประเภทแรกเลยเนี่ยก็คือ
00:02:54 → 00:02:57 ยังมีการทำงานของสมองส่วนไฮโปทาลามัสยัง
00:02:57 → 00:03:00 ปกติอยู่ทำไมถึงต้องให้ความสำสำคัญกับ
00:03:00 → 00:03:02 สมองส่วนไฮโปทาลามัสเพราะสมองส่วนนี้
00:03:02 → 00:03:06 เนี่ยเป็นส่วนที่ควบคุมภาวะหิวน้ำค่ะถ้า
00:03:06 → 00:03:08 เกิดว่าคนไข้เนี่ยมีสมองส่วนนี้ที่ปกติ
00:03:08 → 00:03:11 เนี่ยไม่ว่าเขาจะเสียน้ำไปมากแค่ไหนไม่
00:03:11 → 00:03:13 ว่าเขาจะปัสสาวะออกมากแค่ไหนเสียเหงื่อ
00:03:13 → 00:03:16 มากแค่ไหนร่างกายเนี่ยก็จะเตือนเขาด้วย
00:03:16 → 00:03:19 การไปกินน้ำได้แล้วนะหิวน้ำขึ้นมาทันที
00:03:19 → 00:03:22 ค่ะดังนั้นเนี่ยในคนไข้กลุ่มแรกเนี่ยค่ะ
00:03:22 → 00:03:25 ก็จะไม่ค่อยมีความผิดปกติต่อเกลือแร่เท่า
00:03:25 → 00:03:27 ไหร่ค่ะเพราก็จะกินน้ำแต่แค่บางทีเนี่ย
00:03:27 → 00:03:30 อาจจะต้องดื่มน้ำบ่อยดื่มน้ำเยอะิวน้ำ
00:03:30 → 00:03:33 บ่อยแค่นั้นเองค่ะแต่ว่าคนไข้กลุ่มที่ 2
00:03:33 → 00:03:35 เนี่ยเป็นกลุ่มที่ถ้าเจอแล้วก็ค่อนข้าง
00:03:35 → 00:03:38 คิดหนักนิดนึงค่ะเพราะว่าเป็นคนไข้ที่มี
00:03:38 → 00:03:41 ความผิดปกติของสมองส่วนไฮโปทาลามัสไม่ว่า
00:03:41 → 00:03:45 เขาจะเสียน้ำไปแค่ไหนเกลือแร่ผิดปกติมาก
00:03:45 → 00:03:48 แค่ไหนคนไข้จะไม่รู้สึกหิวน้ำเลยค่ะเมื่อ
00:03:48 → 00:03:50 หมอเจอคนไข้ประเภทที่ 2 เนี่ยหมอก็จะต้อง
00:03:50 → 00:03:54 บอกให้เขาเนี่ยไปจดน้ำมาค่ะจดน้ำก็คือไป
00:03:54 → 00:03:59 จดมาเลยค่ะว่าตอนเช้ากินน้ำกี่ซีซีกินกับ
00:03:59 → 00:04:02 ข้าวข้าวเนี่ยน้ำซุปเนี่ยกี่ซีซีแล้วก็
00:04:02 → 00:04:06 ปัสสาวะออกมาเนี่ยกี่ซีซีรวมๆกันในทั้ง
00:04:06 → 00:04:08 วันค่ะมันก็จะลำบากนิดนึงนะคะแต่เป็น
00:04:09 → 00:04:11 เรื่องที่จำเป็นมากๆค่ะพอหมอได้ข้อมูล
00:04:11 → 00:04:14 ประมาณนี้หมอก็จะทราบแล้วว่าอ๋อโอเควัน
00:04:14 → 00:04:16 นึงคนไข้เนี่ยเสียน้ำออกไปทางปัสสาวะ
00:04:16 → 00:04:19 เนี่ยประมาณกี่ซีซีแล้วก็จะต้องทานดื่ม
00:04:19 → 00:04:22 น้ำเข้าไปเนี่ยให้ทดแทนที่เสียไปเนี่ย
00:04:22 → 00:04:26 เช้าต้องกี่ซีซีเที่ยงกี่ซีซีเย็นกี่ซีซี
00:04:26 → 00:04:28 ก่อนนอนต้องเท่าไหร่อย่างเงี้ยค่ะซึ่งมัน
00:04:28 → 00:04:30 ก็จะค่อนข้างละเอียดมากๆเลยค่ะอาจารย์คะ
00:04:30 → 00:04:33 แล้วผู้ป่วยโรคเบาจืดนั้นสามารถดื่ม
00:04:33 → 00:04:35 เครื่องดื่มอย่างอื่นได้ไคะไม่ว่าจะเป็น
00:04:35 → 00:04:39 ชากาแฟน้ำอัดลมและจะต้องระวังมากกว่าคน
00:04:39 → 00:04:42 ทั่วไปอย่างไรบ้างคะจริงๆแล้วเนี่ยผู้
00:04:42 → 00:04:45 ป่วยโรคเบาจืดเนี่ยสามารถทานน้ำได้หมดเลย
00:04:45 → 00:04:47 นะคะแต่ว่าจะมีบางอย่างที่หมออยากให้
00:04:47 → 00:04:51 ระวังเช่นชากาแฟจริงๆทานได้แต่ว่าไม่ควร
00:04:51 → 00:04:53 ที่จะต้องทานเยอะมากเพราะว่าชากาแฟเนี่ย
00:04:53 → 00:04:56 มันมีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะได้นะคะเราก็จะ
00:04:56 → 00:04:59 เสียน้ำมากขึ้นไปอีกนะคะอีกชนิดนึงค่ะที่
00:04:59 → 00:05:01 หมอเตือนไว้เลยก็คือแอลกอฮอล์ค่ะ
00:05:01 → 00:05:04 แอลกอฮอล์เนี่ยหลายๆท่านขนาดคนปกติดื่มไป
00:05:04 → 00:05:06 ปุ๊บยังมีอาการปวดปัสสาวะบ่อยเพราะว่ามัน
00:05:06 → 00:05:09 มีฤทธิ์ในการขับน้ำออกค่ะดังนั้นในผู้
00:05:09 → 00:05:12 ป่วยโรคนี้นะคะหมอคิดว่าเลี่ยงแอลกอฮอล์
00:05:12 → 00:05:15 ได้ดีที่สุดค่ะอาจารย์ขาโรคเบาจืดเนี่ยมี
00:05:15 → 00:05:18 ความอันตรายมากน้อยแค่ไหนคะและสามารถ
00:05:18 → 00:05:21 รักษาได้หรือเปล่านอกจากนี้ค่ะอาจารย์ยัง
00:05:21 → 00:05:24 มีวิธีการรักษาอย่างไรบ้างคะปัจจุบันนะคะ
00:05:24 → 00:05:28 โรคเบาจืดเนี่ยถือว่ามีภาวะที่อันตรายมาก
00:05:28 → 00:05:31 ๆถ้าไม่ได้รับการรักษาค่ะถ้าเกิดว่าได้
00:05:31 → 00:05:34 รับการรักษาเนี่ยปัจจุบันเรารักษาได้นะคะ
00:05:34 → 00:05:36 แต่ถามว่าหายขาดหรือเปล่าเนี่ยอืค่อนข้าง
00:05:36 → 00:05:40 ยากค่ะเรารักษาได้โดยการให้รับประทานยา
00:05:40 → 00:05:43 ฮอร์โมนทดแทนค่ะในร่างกายเราเนี่ยจริงๆ
00:05:43 → 00:05:45 แล้วโรคเปาจึกเกิดจากภาวะการขาดฮอร์โมน
00:05:45 → 00:05:49 ที่ควบคุมสมดุลน้ำนะคะปัจจุบันเนี่ยในโลก
00:05:49 → 00:05:52 เราเนี่ยก็มียาค่ะที่ทดแทนฮอร์โมนตัวนี้
00:05:52 → 00:05:55 ขึ้นมาแล้วก็ออกรได้ค่อนข้างดีมากเลยซึ่ง
00:05:55 → 00:05:57 ยาเนี่ยก็จะมีทั้งรูปแบบเป็นเม็ดรับ
00:05:57 → 00:06:00 ประทานมีแบบยาฉีดด้วยนะคะแล้วก็มีแบบยา
00:06:00 → 00:06:03 พ่นจมูกด้วยซึ่งในแต่ละรูปแบบเนี่ยหมอก็
00:06:03 → 00:06:05 จะเลือกให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคนค่ะขั้น
00:06:05 → 00:06:08 ตอนการวินิจฉัยโรคเบาจืดค่ะอาจารย์มีอะไร
00:06:08 → 00:06:12 บ้างคะสำหรับขั้นตอนในการวินิจฉัยโรคเบา
00:06:12 → 00:06:15 จืดนะคะอันดับแรกเลยก็คือว่าหมอเนี่ยจะ
00:06:15 → 00:06:18 ต้องให้คนไข้เนี่ยไปจดปัสสาวะมาก่อนว่า
00:06:18 → 00:06:21 จริงๆแล้วอ่ะปัสสาวะออกเยอะจริงๆไมเพราะ
00:06:21 → 00:06:24 ว่าคนไข้บางท่านเนี่ยก็จะมาบ่นว่าโอคุณ
00:06:24 → 00:06:27 หมอปัสสาวะเยอะแต่พอจดมาแล้วปริมาณจริงๆ
00:06:27 → 00:06:31 มันไม่ได้ตรงกับคำวินิจฉัยของภาวะเบาจืด
00:06:31 → 00:06:33 ก็ต้องไปจดมาก่อนค่ะว่าปัสสาวะวันนึงกี่
00:06:33 → 00:06:35 ซีซีอย่างเงี้ยค่ะทีนี้หลังจากที่หมอได้
00:06:35 → 00:06:38 ข้อมูลตรงนั้นหมอก็จะมาดูโอเคถ้าเข้ากัน
00:06:38 → 00:06:41 ได้กับภาวะเบาจืเนี่ยหมอก็จะต้องไปตรวจ
00:06:41 → 00:06:44 เพิ่มว่าเอ๊ะภาวะที่ปัสสาวะเยอะมันเกิด
00:06:44 → 00:06:47 จากสาเหตุใดกันแน่มันเกิดจากภาวะต่อมใต้
00:06:47 → 00:06:51 สมองเกิดจากสมองส่วนไฮโปทาลามัสเกิดจากไต
00:06:51 → 00:06:53 หรือเปล่าหรือเกิดจากยาหรือเกิดจากผู้
00:06:53 → 00:06:55 ป่วยดื่มน้ำเยอะเกินไปอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:06:56 → 00:06:58 ซึ่งขั้นตอนเนี่ยหมอก็จะให้คนไข้เนี่ยมา
00:06:58 → 00:07:02 นอนโรงพยาบาลนะคะแล้วก็มีการงดน้ำงดอาหาร
00:07:02 → 00:07:05 จะต้องมีการเจาะเลือดดูค่าเกลือแร่มีการ
00:07:05 → 00:07:08 ตรวจปัสสาวะดูความเข้มข้นของปัสสาวะแล้ว
00:07:08 → 00:07:11 ก็เราก็จะนำผลเลือดทุกอย่างเนี่ยไปประมวล
00:07:11 → 00:07:13 เอาค่ะว่าจริงๆแล้วเนี่ยภาวะเบาจืดของคน
00:07:13 → 00:07:16 ไข้เนี่ยเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ค่ะมี
00:07:16 → 00:07:19 วิธีการป้องกันค่ะอาจารย์ไม่ให้เกิดโรค
00:07:19 → 00:07:22 เบาจืดได้หรือไม่อย่างไรคะขั้นตอนการ
00:07:22 → 00:07:25 รักษาจริงๆแล้วคือต้องรักษาที่สาเหตุก่อน
00:07:25 → 00:07:27 อืมสำหรับขั้นตอนการรักษาโรคเบาจืดนะคะ
00:07:27 → 00:07:30 ถ้าเป็นสาเหตุเช่นเ่อต่อมใต้สมองมีภาวะ
00:07:30 → 00:07:33 อักเสบก็ต้องรักษาการอักเสบนั้นถ้าเกิด
00:07:33 → 00:07:35 ว่ามีในเรื่องของเนื้องอกก็ต้องรักษาภาวะ
00:07:35 → 00:07:38 เนื้องอกนั้นนะคะแล้วก็เราก็จะรักษา
00:07:38 → 00:07:41 ประคับประคองเรื่องของเบาจืดด้วยการให้ยา
00:07:41 → 00:07:43 ค่ะจริงๆก็ไม่ได้มีการรักษาอื่นแล้วถ้า
00:07:43 → 00:07:46 เป็นในเรื่องโรคอื่นๆอาจจะมีการให้เคมี
00:07:46 → 00:07:48 บำบัดมีการให้ฉายแสงดๆแต่ในโรคของหมอ
00:07:48 → 00:07:51 เนี้ยมีแค่การรับประทานยาเฉยๆค่ะอาจารย์
00:07:51 → 00:07:54 ขาผู้ป่วยโรคเบาจืดนั้นสามารถออกกำลังกาย
00:07:54 → 00:07:58 ได้หรือไม่และสามารถที่จะรับประทานอาหาร
00:07:58 → 00:08:00 ประเภทใดได้บ้างคะต้องบอกเลยค่ะว่าคนไข้
00:08:00 → 00:08:03 โรคเบาจืดนะคะหมอคิดว่าสามารถใช้ชีวิตได้
00:08:03 → 00:08:07 ตามปกติคนทั่วไปออกกำลังกายได้ค่ะออก
00:08:07 → 00:08:09 กำลังกายแต่ต้องระมัดระวังในเรื่องการออก
00:08:09 → 00:08:12 กำลังกายที่ต้องเสียเหงื่อเยอะสามารถออก
00:08:12 → 00:08:15 ได้ไหมออกได้แต่ต้องดื่มน้ำทดแทนนะคะเช่น
00:08:15 → 00:08:18 การออกกำลังกายไปวิ่งไปวิ่งเยอะๆที่ต้อง
00:08:18 → 00:08:21 เสียเหงื่อเยอะเหมาะว่าถ้าเราทานดื่มถ้า
00:08:21 → 00:08:23 เราคิดว่าเราจะดื่มน้ำไม่ทันแน่ๆเนี่ยหมอ
00:08:23 → 00:08:25 คิดว่าอาจจะหลีกเลี้ยงดีกว่าอาจจะออก
00:08:25 → 00:08:27 กำลังกายที่เสียเงินน้อยหน่อยนะคะแต่ถ้า
00:08:27 → 00:08:30 เราชอบเราชอบที่จะไปวิ่งอยากออกกำลังกาย
00:08:30 → 00:08:33 ก็ไม่ใช่ข้อห้ามนะคะแต่เราต้องรับประทาน
00:08:33 → 00:08:36 น้ำเพิ่มเข้าไปนะคะสำหรับอาหารนะคะหมอคิด
00:08:36 → 00:08:40 ว่าทานได้หมดค่ะยกเว้นของเค็มค่ะอาหาร
00:08:40 → 00:08:42 เค็มอาหารที่มีเกลือโซเดียมสูงมันก็จะ
00:08:42 → 00:08:45 แทรกอยู่ในพวกของหมักของดองนะคะหรือว่า
00:08:45 → 00:08:47 เป็นพวกอาหารแปรรูปนะคะไม่ว่าจะเป็น
00:08:47 → 00:08:50 กุนเชียงแฮมอะไรต่างๆนะคะพวกนี้เนี่ย
00:08:50 → 00:08:53 โซเดียมในเลือดสูงโซเดียมในอาหารสูงนะคะ
00:08:53 → 00:08:56 มันก็จะทำให้ไตเนี่ยขับเอาน้ำออกมามาก
00:08:56 → 00:08:58 ขึ้นนะคะแล้วก็สุดท้ายค่ะอย่างที่หมอบอก
00:08:58 → 00:09:01 ไว้แอลกอฮอลค่ะเป็นสิ่งที่หมออยากให้หลีก
00:09:01 → 00:09:05 เลี่ยงนะคะขอบคุณนะคะสำหรับการรับชมราย
00:09:05 → 00:09:08 การ TNN Health ค่ะและอย่าลืมค่ะกด
00:09:08 → 00:09:11 Subscribe กดไลคกดแชร์ในทุกช่องทาง
00:09:11 → 00:09:14 ออนไลน์ของ TNN ช่อง 16 ค่ะเพื่อที่จะไม่
00:09:14 → 00:09:18 พลาดการรับชมรายการสดคลิปวีดีโอที่น่าสน
00:09:18 → 00:09:20 ใจของทาง TNN นะ
00:09:20 → 00:09:23 คะ