00:00:00 → 00:00:02 ผู้สูงอายุบ้านไหนมีอาการแบบนี้บ้างคะ
00:00:02 → 00:00:05 กลืนอาหารลำบากกลืนข้าวกลืนน้ำแล้วมี
00:00:05 → 00:00:08 อาการเจ็บคอกลืนยากสำลักทำเอาไม่อยากจะ
00:00:08 → 00:00:10 กินข้าวเลยนะคะอาการแบบนี้เกิดจากอะไร
00:00:10 → 00:00:13 อันตรายแค่ไหนแล้วเราจะจัดการอย่างไรนี่
00:00:13 → 00:00:15 ก็คือหัวข้อที่เราจะพูดคุยกันในบุพการี
00:00:16 → 00:00:18 ที่เคารพวันนี้ค่ะ
00:00:18 → 00:00:19 [เพลง]
00:00:20 → 00:00:22 วันที่ 21 และ 22 มิถุนายนนี้มีนัดกัน
00:00:22 → 00:00:25 หรือยังครับถ้าหากว่ายังไม่มีผมอยากชวน
00:00:25 → 00:00:27 ทุกท่านมาร่วมงานนี้นะครับนั่นก็คืองาน
00:00:27 → 00:00:29 มนุษย์ต่างWFฟ
00:00:29 → 00:00:33 Face25 นะครับชีวิตดีชีวิต season 2 is
00:00:33 → 00:00:36 okay to be you นะครับงานนี้จะรวบรวม
00:00:36 → 00:00:38 หลากหลาย solution และหลากหลายวิธีการ
00:00:38 → 00:00:41 สำหรับการวางแผนในชีวิตในเฟสหน้านะครับจะ
00:00:41 → 00:00:44 มีตั้งแต่เวทีฟรัมจะมีพื้นที่ Workshop
00:00:44 → 00:00:47 ที่จะเปิดโอกาสให้ทุกท่านได้มีโอกาสลงมือ
00:00:47 → 00:00:50 ทำอย่างจริงๆจังๆและที่พลาดไม่ได้นั่นก็
00:00:50 → 00:00:53 คือตลาดที่รวบรวมสินค้าและบริการที่เกิด
00:00:53 → 00:00:56 จากบรรดาผู้ประกอบการสูงวัยนะครับจะนำ
00:00:56 → 00:01:00 สินค้าที่ทำเองกับมืออาหารอร่อยๆนั้นมา
00:01:00 → 00:01:03 จำหน่ายในงานด้วยนะครับมาพบกันได้ครับกับ
00:01:03 → 00:01:07 งานมนุษย์ต่าง 2025 วันที่ 21-22
00:01:07 → 00:01:10 มิถุนายนนี้นะครับและสามารถลงทะเบียนได้
00:01:10 → 00:01:12 ที่ลิงก์ใต้คลิปนี้นะครับหรือว่าจะใช้
00:01:12 → 00:01:14 วิธีการสแกน QR Cดที่ขึ้นอยู่นี้ก็ได้นะ
00:01:14 → 00:01:16 ครับ
00:01:16 → 00:01:19 หลายคนอาจจะมองว่าเรื่องของการกลืนเป็น
00:01:19 → 00:01:21 เรื่องเล็กน้อยนะคะแต่ว่าการกลืนลำบาก
00:01:21 → 00:01:24 เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อทั้ง
00:01:24 → 00:01:26 สุขภาพแล้วก็คุณภาพชีวิตของผู้สูงวัยที่
00:01:26 → 00:01:29 บ้านนะคะและถ้าหากว่าปล่อยปัญหาเอาไว้
00:01:29 → 00:01:32 เรื้อรังบานปลายสุดท้ายแล้วมันก็ปัญหา
00:01:32 → 00:01:34 สุขภาพที่มีอยู่มันอาจจะลุกลามจนกระทั่ง
00:01:34 → 00:01:37 ทำให้เสียชีวิตได้นะคะวันนี้เราก็เลยจะมา
00:01:37 → 00:01:40 คุยกันเรื่องนี้นะคะในรายการบุพการีที่
00:01:40 → 00:01:43 เคารพคู่มือดูแลพ่อแม่สำหรับคนเจ็นลูกค่ะ
00:01:43 → 00:01:46 วันนี้เราจะมาคุยกับผู้ช่วยศาสตราจารย์
00:01:46 → 00:01:48 นายแพทย์พารีทวงศ์แพทย์อาจารย์แพทย์
00:01:48 → 00:01:51 เวชศาสตร์ฟื้นฟูโรงพยาบาลสำโรงการแพทย์นะ
00:01:51 → 00:01:54 คะแล้วก็ยังเป็นเจ้าของเพจสตกบูotCampม
00:01:54 → 00:01:57 ด้วยวันนี้จะมาคุยกับคุณหมอนะคะว่าสาเหตุ
00:01:57 → 00:01:59 คืออะไรอาการเป็นยังไงแล้วก็สำหรับผู้ดู
00:01:59 → 00:02:01 แลนั้นจะต้องรับมืออย่างไรนะคะสวัสดีค่ะ
00:02:01 → 00:02:05 คุณหมอสวัสดีสวัสดีค่ะพูดถึงเรื่องของการ
00:02:05 → 00:02:07 กลืนลำบากบางคนมองว่ามันเป็นเรื่องเล็ก
00:02:07 → 00:02:08 น้อยเนาะมันอาจจะดูเหมือนกับเป็นเรื่อง
00:02:08 → 00:02:10 เล็กน้อยสำหรับคนที่ยังสุขภาพแข็งแรงอยู่
00:02:10 → 00:02:13 แต่ว่าสำหรับผู้ที่สูงวัยเนี่ยการกลืน
00:02:13 → 00:02:16 ลำบากมันมักจะเกิดขึ้นใช่มั้ยคะผู้สูง
00:02:16 → 00:02:19 อายุค่ะที่อายุมากขึ้นก็ย่อมจะมีความ
00:02:19 → 00:02:22 เสื่อมสภาพค่ะแล้วถ้าไม่มีความเจ็บป่วย
00:02:22 → 00:02:25 เป็นโรคอื่นร้ายแรงก็มีโอกาสที่ในที่สุด
00:02:25 → 00:02:27 แล้วจะค่อยๆเกิดความเสื่อมถออย่างที่
00:02:27 → 00:02:31 เรียกว่าแก่หง่อมอืหรือฝรั่งเรียกว่าที่
00:02:31 → 00:02:34 คุณหมอใช้คำว่าแก่หง่อมแก่หง่อมของแต่ละ
00:02:34 → 00:02:36 คนนี่มันเท่ากันมั้คะความเสื่อมถอยในร่าง
00:02:36 → 00:02:40 กายใช่อาจจะเกิดในระบบต่างๆไม่เท่ากันยก
00:02:40 → 00:02:42 ตัวอย่างเช่นบางคนดีหมดทุกอย่างแต่สมอง
00:02:42 → 00:02:45 เสื่อมเรี่ยวแรงดีมากแต่ว่าแต่ว่าความจำ
00:02:45 → 00:02:47 ไม่ดีเอ่อจำใครไม่ได้ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่
00:02:47 → 00:02:50 ต้องทำอะไรหรือแย่ลงไปกว่านั้นคือไม่คิด
00:02:50 → 00:02:52 จะทำอะไรเลยนั่งเฉยๆนอนเฉยๆหายใจอยู่ไม่
00:02:52 → 00:02:54 ทำอะไรด้วยตัวเองเลยอย่างเงี้ยคือสมอง
00:02:54 → 00:02:59 เสื่อมค่ะอันนี้กลับกันบางคนคือสมองดีอือ
00:02:59 → 00:03:03 แต่หัวใจไม่ดีอือๆก็เดินไปไหนไม่ไหวทำ
00:03:03 → 00:03:06 อะไรไม่ได้คือทุกระบบมันต้องดีหมดเราถึง
00:03:06 → 00:03:09 จะดีอืเวลามันเสื่อมถอยมันอาจจะเสื่อม
00:03:09 → 00:03:11 ระบบไหนแล้วแต่บุญแต่กรรมการกลืนก็เป็น
00:03:11 → 00:03:13 ส่วนหนึ่งที่ถูกกระทบได้เพราะการกลืน
00:03:13 → 00:03:16 เนี่ยใช้กล้ามเนื้อทำงานแต่ก็ใช้ระบบ
00:03:16 → 00:03:18 ประสาทสั่งการด้วยแล้วการกลืนเป็นเรื่อง
00:03:18 → 00:03:21 ที่ซับซ้อนกว่าที่เราคิดปกติมันเกิด
00:03:21 → 00:03:24 อัตโนมัติเราเลยไม่เคยคิดถึงมันแต่คุณคิด
00:03:24 → 00:03:27 ดูว่าจริงๆแล้วนะครับการกลืนเป็นการเป็น
00:03:27 → 00:03:30 การเรียกว่าเสี่ยงภัยทุกคำเลยที่กินก็ได้
00:03:30 → 00:03:34 นะใช่เพราะว่าจมูกไว้หายใจใช่ปากรับอาหาร
00:03:34 → 00:03:37 พอเราหายใจเข้าไปอทางจมูกเรารับอาหารเข้า
00:03:37 → 00:03:40 ไปทางกาก 2 ช่องนี่ไปเปิดเป็นรวมเป็นห้อง
00:03:40 → 00:03:44 เดียวกันอยู่ในคอค่ะแล้วค่อยแยกทางกันอีก
00:03:44 → 00:03:48 ทีนึงเหมือนรถไฟสลับรางอืแต่แย่กว่ารถไฟ
00:03:48 → 00:03:51 สลับรางเพราะว่ามันไม่มีรางอืมันเหมือน
00:03:51 → 00:03:54 ท่อลมกับท่อน้ำไปเปิดกันในห้องเดียวแล้ว
00:03:54 → 00:03:58 ก็ต้องลมต้องรู้ทางบังคับไปทางท่อลมแล้ว
00:03:58 → 00:04:01 น้ำไปทางท่อน้ำต่อแล้วไอ้ 2 ท่อนี่ไขว้
00:04:01 → 00:04:04 กันเพราะท่อลมอยู่บนแต่ว่ามันไขว้ลงล่าง
00:04:04 → 00:04:06 มาตรงนี้ส่วนหลอดอาหารนี่มันไขว้ไปข้าง
00:04:06 → 00:04:11 หลังอืการสลับตรงเนี้ยเกิดขึ้นจากกล้าม
00:04:11 → 00:04:14 เนื้อ 20 กว่าคู่รวมทั้งกล่องเสียงฝา
00:04:14 → 00:04:19 กล่องเสียงที่เปิดปิดให้ได้จังหวะอืตอนจะ
00:04:19 → 00:04:23 กลืนต้องกั้นใจกล่องเสียงต้องปิดอืพอ
00:04:23 → 00:04:25 จังหวะกลืนกล่องเสียงต้องปิดให้แน่นแน่น
00:04:25 → 00:04:27 กลืนเสร็จแล้วกล่องเสียงต้องเปิดเพื่อหาย
00:04:27 → 00:04:30 ใจต่อแต่ระหว่างการกลืนต้องกลืนให้ได้
00:04:30 → 00:04:33 เกลี้ยงอาหารและน้ำที่เรากำลังบีบด้วย
00:04:33 → 00:04:36 หลอดคอเราลงไปในหลอดอาหารเนี่ยต้อง
00:04:36 → 00:04:39 เกลี้ยงอย่าค้างนะไม่งั้นเดี๋ยวเราเปิดฝา
00:04:39 → 00:04:41 กล่องเสียงออกมาหายใจเราจะเฮือกเอาน้ำลาย
00:04:41 → 00:04:44 หรือเหล่านั้นลงไปในหลอดลมเหล่านี้ทั้ง
00:04:44 → 00:04:46 หมดเนี่ยเกิดอัตโนมัติเราไม่เคยต้องคิด
00:04:46 → 00:04:49 ถึงมันอืในวันที่กลไกมันไม่สมบูรณ์มัน
00:04:49 → 00:04:53 สะดุดมันก็ย่อมมีปัญหาแล้วถ้าเรากินไม่
00:04:53 → 00:04:56 ได้เราดื่มดื่มน้ำไม่ได้เราขาดน้ำ 2
00:04:56 → 00:04:59 อาทิตย์เราก็ต้องตายแน่ๆแล้วนะครับ 5 วัน
00:04:59 → 00:05:02 นี่ก็แย่นะครับค่ะอืเอ่อขาดอาหาร 2
00:05:02 → 00:05:06 อาทิตย์ตายขาดน้ำ 3 วันตายครับอืขาดอากาศ
00:05:06 → 00:05:09 3 นาทีตายมั้ครับอืซึ่งมันเป็นระบบที่มี
00:05:09 → 00:05:12 ความสำคัญกับการมีชีวิตมากเลยนะคะอืแล้ว
00:05:12 → 00:05:15 เรื่องของภาวะการกลืนลำบากเมันมาจากแค่
00:05:15 → 00:05:18 เรื่องของภาวะเอ่อร่างกายที่มันเสื่อมถอย
00:05:18 → 00:05:20 ลงหรือว่ามันยังมีสาเหตุอย่างอื่นได้อีก
00:05:20 → 00:05:24 บ้างคะการเป็นโรคปัจจุบันค่ะใช่มั้ยครับ
00:05:24 → 00:05:27 เช่นบางคนเป็นมะเร็งในทางเดินอาหารต้องไป
00:05:27 → 00:05:30 ผ่าตัดออกทางเดินหายใจทางเดินอาหารก็ผิด
00:05:31 → 00:05:34 รูปร่างไปการกลืนยากอาจจะเกิดขึ้นได้อ
00:05:34 → 00:05:37 หรือว่าไปฉายแสงรักษามะเร็งฉายไปฉายมา
00:05:37 → 00:05:41 เอ่อต่อมน้ำลายเยื่อเมือกต่างๆในทางเดิน
00:05:41 → 00:05:45 อาหารมันก็อาจจะผิดปกติไปอืหรือฉายแสง
00:05:45 → 00:05:48 แล้วเกิดผังผืดรัดทำให้กล้ามเนื้อที่เคย
00:05:48 → 00:05:51 อ่อนนุ่มเคยขยับได้หดตัวได้กลายเป็นแข็ง
00:05:51 → 00:05:54 เป็นผังผืดแข็งก็กลืนยากอย่างงนี้ก็เป็น
00:05:54 → 00:05:56 ตัวอย่างของสิ่งที่มารบกวนแล้วไม่ได้เป็น
00:05:56 → 00:05:59 จากความเสื่อมภายในเป็นจากโรคเป็นจากโรค
00:05:59 → 00:06:01 ค่ะหรือโรคทางระบบประสาทก็ได้อย่างคนเป็น
00:06:01 → 00:06:04 พาคินสันก็กลืนลำบากได้คนเป็นโรคสโตรกก็
00:06:04 → 00:06:07 เกินลำบากได้แต่ถ้าเป็นโรคที่เรียกว่าโรค
00:06:07 → 00:06:12 ปัจจุบันจริงๆมันยังมีเอ่อโอกาสอยู่บ้าง
00:06:12 → 00:06:15 นะครับในสิ่งที่เรารู้ว่ายกตัวอย่างสตร
00:06:15 → 00:06:18 เนี่ยโรคสตกเนี่ยเรารู้ว่าถ้าเราดูแลดีคน
00:06:18 → 00:06:21 ไข้สตรกเนี่ยอาจจะกลืนไม่ได้ 2-3 เดือน
00:06:21 → 00:06:24 แรกอืแล้วมีวิธีชั่วคราวให้เขาปลอดภัยไว้
00:06:24 → 00:06:27 ก่อนเช่นใส่สายป้อนอาหารหรืออะไรคัดกรอง
00:06:27 → 00:06:29 คนที่เสี่ยงเอามาบอกอย่ากินทางปากแล้ว 2-3
00:06:29 → 00:06:33 เดือนค่อยๆพาเ้าฝึกใหม่เจะกินได้แล้วก็
00:06:33 → 00:06:36 80- 90% จะกินได้แบบปกติเลยเหตุผลเนี่ย
00:06:36 → 00:06:39 เป็นเพราะว่าระบบการกลืนเป็นระบบสำคัญ
00:06:39 → 00:06:43 ธรรมชาติจึงให้สำรองเอาไว้อืสำรองคือเอ่อ
00:06:43 → 00:06:46 เราเรียกว่าคอมพิวเตอร์เนาะศูนย์ศูนย์
00:06:46 → 00:06:49 บังคับที่มันเก็บคำชุดคำสั่งของการกลืน
00:06:49 → 00:06:52 เอาไว้เนี่ยอยู่ในก้านสมองแล้วมี 2 ศูนย์
00:06:52 → 00:06:55 สำรองเหมือนล้ออะไรอือๆข้างซ้ายก็ใช้ได้
00:06:55 → 00:06:58 ข้างขวาก็ใช้ได้ปกติจะใช้ข้างเดียวที่
00:06:58 → 00:07:00 ถนัดแต่ข้างที่ไม่ได้ใช้เนี่ยไม่เสียนะ
00:07:01 → 00:07:04 สำรองอืแล้วสมองของเรามี 2 ซีกซีกซ้ายซีก
00:07:04 → 00:07:07 ขวาสมองซีกซ้ายเนี่ยสามารถจะกระตุ้นให้
00:07:07 → 00:07:10 ศูนย์การกลืนทำงานได้ทั้งฝั่งซ้ายฝั่งขวา
00:07:10 → 00:07:12 ออสมองขวาก็สั่งได้ทั้ง 2 ฝั่งแสดงว่า
00:07:12 → 00:07:15 เป็นโคตรๆสำรองเลยใช่มั้ยครับมี 2 ศูนย์
00:07:15 → 00:07:17 แล้วแต่ละศูนย์ยังมีนายที่สั่งได้ทั้ง 2
00:07:17 → 00:07:21 ซีกเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าคุณเป็นสโตรกอย่าง
00:07:21 → 00:07:23 ทั่วไปเขาเป็นกันน่ะคือเป็นซิกเดียวเป็น
00:07:23 → 00:07:26 ข้างเดียวไอ้ศูนย์สำรองเนี่ยดูแล้วยังไง
00:07:26 → 00:07:29 ก็ยังอยู่อืแล้วนายสำรองยังไงก็ยังต้องมี
00:07:29 → 00:07:32 1 นายอืเพียงแต่ว่าจะกลับมาออนไลน์เมื่อ
00:07:32 → 00:07:35 ไหร่ค่ะเราก็ไม่ต้องไปเร่งมากเอาให้ฝุ่น
00:07:35 → 00:07:39 หายตลบก่อนแล้วก็ค่อยๆดึงให้ไอ้ศูนย์ที่
00:07:39 → 00:07:43 ยังเหลือนี่กลับมาทำงานค่ะมันก็มีโอกาสอื
00:07:43 → 00:07:46 แต่ถ้าเป็นโรคที่เอ่อเป็นโรคที่ระบบ
00:07:46 → 00:07:49 ประสาทมันเสื่อมสภาพลงเรื่อยๆเรื่อๆๆ
00:07:49 → 00:07:52 อย่างผู้สูงอายุที่แวานซมากๆหนึ
00:07:52 → 00:07:57 สวยที่มากอื Parkinon เนี่ยก็เป็นโรคที่
00:07:57 → 00:07:59 ระบบประสาทมันเสื่อมสภาพด้วยตัวของมันเอง
00:07:59 → 00:08:04 ค่ะแต่ว่ามันมีความต่างตรงที่ว่าเอ่อถ้า
00:08:04 → 00:08:08 ในในระยะที่เป็นใหม่ๆแล้วไม่เคยได้ยามา
00:08:08 → 00:08:11 ก่อนเกิดว่าได้ยาที่ชดเชยสารสื่อประสาท
00:08:11 → 00:08:14 ที่บกพร่องไปใช่มั้ยครับอือระบบกลับมาทำ
00:08:14 → 00:08:18 งานได้อือันนั้นก็ยังมีโอกาส turn around
00:08:18 → 00:08:21 ตรงนั้นแต่ถ้าเป็นพาคินสันระยะยาวแล้วทา
00:08:21 → 00:08:25 ยามา 10 ปีะจนระบบมันเริ่มดื้อยาแล้วอ่ะ
00:08:25 → 00:08:28 อันนั้นก็อันนั้นก็รับมือยากซึ่งเราพูด
00:08:28 → 00:08:32 ถึงว่าเอ่อโรคมี 2 แบบค่ะแบบนึงเนี่ยเรา
00:08:32 → 00:08:36 เราสู้ได้เพราะเราดึงระบบสำรองกลับขึ้นมา
00:08:36 → 00:08:40 ออนไลน์แล้วก็ไปได้เลยอค่ะกับอีกแบบที่
00:08:40 → 00:08:43 เอ่อเราเราไม่มีสำรองอือแบบหลังเนี่ยก็จะ
00:08:43 → 00:08:46 ยากกว่าคราวนี้ลักษณะอาการที่เราจะสังเกต
00:08:46 → 00:08:48 ดูที่มันเป็นเรื่องของภาวะกลืนลำบากเนี่ย
00:08:48 → 00:08:50 อาการมันจะเป็นยังไงคะคุณน้องการกลืน
00:08:50 → 00:08:55 ลำบากก็มีกลืนเจ็บกลืนช้ากลืนสำลักกลืน
00:08:55 → 00:08:58 เจ็บนี่ก็ตรงไปตรงมาค่ะเนบางทีแบบอย่าง
00:08:58 → 00:09:00 อย่างที่บอกว่าเอ่อกล้ามเนื้อการกลืนมัน
00:09:00 → 00:09:03 ไม่ปกติมีผังผ่งผังผืดเนี่ยมันเจ็บมัน
00:09:03 → 00:09:07 เจ็บมันรั้งอมันจะเจ็บบริเวณเจ็บแถวคอนะ
00:09:07 → 00:09:10 ครับเวลาคอแถวนี้ใช่มั้คะอืกลืนถ้าเกิด
00:09:10 → 00:09:16 ว่ากลืนช้าก็คือว่ามันมันใช้เวลานานอืเรา
00:09:16 → 00:09:19 อาจจะดูว่าอย่างข้าวถ้วยนึงเนี่ยทานกัน
00:09:19 → 00:09:21 ครึ่งชั่วโมงยังไม่หมดเงี้ยอืกลืนช้าคือ
00:09:21 → 00:09:24 ลักษณะกลืนไม่ค่อยลงอย่างี้มั้คะอาจจะ
00:09:24 → 00:09:27 กลืนไม่ลงกลืนไม่เกลี้ยงต้องกลืนซ้ำหลาย
00:09:27 → 00:09:29 ครั้งอย่างเงี้ยก็เรียกว่ากลืนช้าหรือบาง
00:09:29 → 00:09:33 ทีก็อมเข้าไปเคี้ยวอยู่นานแล้วกว่าจะได้
00:09:33 → 00:09:35 กลืนสักทีนึงอันนี้ก็เป็นลักษณะหนึ่งของ
00:09:35 → 00:09:39 การกลืนผิดปกตินะเป็นแง่ความเร็วค่ะอื 1
00:09:39 → 00:09:42 คือแง่ความเจ็บปวดหรือความรู้สึกฝืดอัน
00:09:42 → 00:09:44 นั้นก็ความความเร็วค่ะอันที่ 3 ก็จะเป็น
00:09:44 → 00:09:48 เรื่องสำลักอืการสำลอีกหลายลักษณะคือว่า
00:09:48 → 00:09:51 อมอาหารเข้าไปยังไม่ทันกลืนกลืนเลยไม่ได้
00:09:51 → 00:09:54 ตั้งใจจะกลืนแต่น้ำอาหารมันไหลลงคอไป
00:09:54 → 00:09:57 สำลักเลยเเรียกว่าสำลักก่อนกลืนอืก็มีอัน
00:09:57 → 00:10:01 บางคนก็ในขณะวินาทีที่กำลังกลืนนั่นแหละ
00:10:01 → 00:10:03 ที่บอกว่าอาหารมันจะต้องลงช่องอาหารอย่า
00:10:03 → 00:10:07 ไปลงช่องลมมันสำลักเข้าไปตอนนั้นแหละอืก็
00:10:07 → 00:10:11 คือกำลังกลืนไอเลยอือๆแล้วก็มีแบบพวก
00:10:11 → 00:10:15 สำลักหลังกลืนค่ะคืออาหารเข้าปากกลืน
00:10:15 → 00:10:18 เหมือนไม่เป็นไรแต่พอให้ร้องเสียงอาเสียง
00:10:18 → 00:10:23 เครืออ้เศษอาหารติดอยู่ในช่องคอเพราะคอ
00:10:23 → 00:10:25 เราไม่ได้เป็นท่อเรียบๆมันมีซอกมีหลืบให้
00:10:25 → 00:10:28 อาหารเขไปเกาะอยู่ได้อค่ะเกาะอยู่อย่าง
00:10:28 → 00:10:31 นั้นยังไม่เป็นไรพอพอจังหวะทีเผลอขยับ
00:10:31 → 00:10:33 ลิ้นแลบลิ้นหรือ
00:10:33 → 00:10:37 ว่าเอ่อพูดหรือหายใจโคนลิ้นเคลื่อนไหวไอ้
00:10:37 → 00:10:40 เศษอาหารที่เกาะอยู่นี้หลุดลงหลอดลมอค่ะ
00:10:40 → 00:10:42 อันนี้คือสำลักทีหลังเพราะฉะนั้นเหล่านี้
00:10:42 → 00:10:46 แว่ากลืนแล้วเจ็บปวดกลืนกินช้าใช้เวลานาน
00:10:46 → 00:10:49 ลึกมีอาการสำลักเหล่านี้ก็เป็นอาการของ
00:10:49 → 00:10:53 ความกลืนผิดปกตินอกจากนั้นเนี่ยบางคนตอน
00:10:53 → 00:10:58 กินไม่เป็นไรเพราะระวังแต่ว่าเวลาดื่มน้ำ
00:10:58 → 00:11:02 เป็นอืเพราะของไหลมันควบคุมยากกว่าหรือ
00:11:02 → 00:11:06 บางคนนั่งกินหันหน้าเอียงข้างไม่เป็นหัน
00:11:06 → 00:11:11 หน้าตรงเป็นอืบางคนมีคนไข้บางคนประหลาด
00:11:11 → 00:11:13 นั่งกินไม่เป็นปกติเราจะบอกว่าให้นั่งกิน
00:11:13 → 00:11:16 เนอใช่ค่ะแต่บางคนบอกว่านั่งกินสำลักแต่
00:11:16 → 00:11:20 นอนกินไม่สำรักก็มีนะอ๋อเหรอเหรอคะคือ
00:11:20 → 00:11:23 หมายว่าสำลักบางท่าก็เป็นปัญหาหรือบางคน
00:11:23 → 00:11:25 ไม่ได้กินอะไรแต่น้ำลายไหลลงคอโดยเฉพาะ
00:11:25 → 00:11:29 เวลานอนอืค่ะน้ำลายมันมีไหลออกมาตลอดน้ำ
00:11:29 → 00:11:34 ลายไหลลงคอแล้วกลืนไม่ลงช่องอือก็สำรักอื
00:11:34 → 00:11:37 อย่างเงี้ยครับตอนนอนก็เป็นได้ตอนนอนก็
00:11:37 → 00:11:40 เป็นได้จริงๆแล้วเอ่อปัญหาการสำลักตอนนอน
00:11:40 → 00:11:43 เป็นเรื่องที่พบได้บ่อยเคยมีวิจัยใน
00:11:43 → 00:11:46 ประเทศญี่ปุ่นหลายปีละเเอาศาลศาล
00:11:46 → 00:11:50 กมันตรังสีที่ไม่เป็นอันตรายเนาะไปแท็ก
00:11:50 → 00:11:54 ไว้กับฟันหน้าแล้วให้ผู้สนนอนในบ้านพักคน
00:11:54 → 00:11:57 ชราเนี่ยแล้วตื่นเช้าจับมาสแกนปอดดูว่า
00:11:57 → 00:12:00 ศาลรังสีนี่ไปไหนค่ะยังอยู่ที่นี่หรือ
00:12:00 → 00:12:03 เปล่าว่าลงไปอยู่ในปอดตั้งเยอะละอค่ะอื
00:12:03 → 00:12:06 คือสำลักกันเงียบๆไม่รู้ตัวไม่รู้อันนี้
00:12:06 → 00:12:08 อันนี้จะไม่รู้ตัวด้วยคนคนที่สำรักอันนี้
00:12:08 → 00:12:12 เป็นสัญญาณอะไรสัญญาณว่าการสำลักการกลืน
00:12:12 → 00:12:16 ไม่ปกตินั้นเกิดขึ้นได้แม้กระทั่งคนที่
00:12:16 → 00:12:18 ไม่มีอาการอย่างพวกเนี้ยคือเขาอยู่บ้าน
00:12:18 → 00:12:21 พักคนชราเไม่มีอาการเออแต่เขาสำลักแสดง
00:12:21 → 00:12:24 ว่าการกลืนเขาไม่ปกติอาจจะไม่ปกติเฉพาะ
00:12:24 → 00:12:26 ตอนที่หลับก็ได้เพราะระบบประสาททำงานน้อย
00:12:26 → 00:12:30 ลงไปกว่าตอนตื่นแสดงว่าปัญหาที่เราเห็นนะ
00:12:30 → 00:12:32 ครับเป็นยอดภูเขาน้ำแข็งว่าวันเนี้ยคุณตา
00:12:32 → 00:12:35 ลิ้นแข็งแล้วกินข้าวไม่ได้เนี่ยมันไม่ได้
00:12:35 → 00:12:37 เพิ่งเป็นนะมันค่อยๆเป็นมาเรื่อยๆเหมือน
00:12:37 → 00:12:39 กับความเสื่อมอย่างอื่นนะ่ะครับอค่ะนั่น
00:12:39 → 00:12:42 สิคะกำลังจะถามอยู่ว่าอาการพวกเนี้ยตอน
00:12:42 → 00:12:44 ที่มันเริ่มเป็นเนี่ยมันจะเริ่มมายังไง
00:12:44 → 00:12:47 แล้วมันจะพัฒนาการไปเรื่อยๆจนเป็นความที่
00:12:47 → 00:12:50 จนมันรุนแรงแรงมากขึ้นนะคะมันจะเริ่มยัง
00:12:50 → 00:12:52 ไงมาคะมันเริ่มแรกก็ไม่มีอาการไงครับก็จะ
00:12:52 → 00:12:54 ไม่รู้สึกอะไรเลยคือยังรู้สึกว่ามันยัง
00:12:54 → 00:12:57 เป็นปกติอยู่ใช่มั้ต้องบอกช่วงแรกๆมัน
00:12:57 → 00:13:00 เป็นไปได้ว่ามันมีมีความผิดปกติแล้วแต่
00:13:00 → 00:13:02 เราไม่รู้สึกถึงอาการพูดอย่างนี้ไม่ใช่
00:13:03 → 00:13:05 ว่าอยากจะให้กลัวกันแต่ว่ามันเป็นข้อเท็จ
00:13:05 → 00:13:07 จริงว่าเหมือนกับทุกเรื่องครับเหมือนคน
00:13:07 → 00:13:10 แก่หกล้มเนี่ยอค่ะวันที่ทรงตัวไม่ได้แล้ว
00:13:10 → 00:13:14 หกล้มขาหักไปนะไม่ได้ล้มครั้งแรกอืไม่ได้
00:13:14 → 00:13:17 ล้มครั้งแรกถูกมั้ยค่ะก่อนนั้นน่ะล้มไม่
00:13:17 → 00:13:19 ล้มไม่หักล้มไม่หักมาหลายครั้งแล้วแล้ว
00:13:19 → 00:13:21 ก่อนที่จะล้มไม่หักก็เดินเซโดยไม่ล้มมา
00:13:21 → 00:13:24 หลายปีแล้วอืออือๆแล้วตั้งแต่เดินเซโดย
00:13:25 → 00:13:27 ไม่ล้มเนี่ยมันเริ่มจากเซนิดๆหน่อยๆแทบ
00:13:27 → 00:13:31 ไม่รู้ตัวคือทุกอย่างมันค่อยๆเหมือนค่อยๆ
00:13:31 → 00:13:34 เหมือนอะไรนะทรายดูดใช่มั้ยครับค่อยๆจมจม
00:13:34 → 00:13:36 จมมาเพราะฉะนั้นถามว่ามันเริ่มตรงไหนเออ
00:13:36 → 00:13:39 โหยมันเริ่มนานแล้วครับต้องอาจจะพูดได้
00:13:39 → 00:13:41 ว่าเริ่มตั้งแต่อายุ 25 มั้ครับอ๋อเหรอคะ
00:13:42 → 00:13:45 เพราะว่ามนุษย์เราพีคเว่า 25 ใช่มั้ครับ
00:13:45 → 00:13:49 ค่ะหลังจากนั้นเนี่ยเป็นระยะเวลาที่จะ
00:13:49 → 00:13:52 เริ่มทยอยเสื่อมสภาพอืทั้งนี้ก็ขึ้นกับ
00:13:52 → 00:13:56 ว่าเอ่อใช้ชีวิตยังไงใช่มั้ยครับที่จะทำ
00:13:56 → 00:13:58 ให้ความเสื่อมมันเกิดน้อยเกิดช้าที่สุดอ
00:13:58 → 00:14:01 อือๆเพราะฉะนั้นเนี่ยต้นทางมันน่าจะยาว
00:14:01 → 00:14:03 มากนะครับวันที่เรามาเห็นว่ากลืนลำบาก
00:14:03 → 00:14:07 เนี่ยมันมันปลายน้ำมากแล้วครับปัญหาของ
00:14:07 → 00:14:10 ผู้สูงอายุที่มีการกลืนยากจากความเสื่อม
00:14:10 → 00:14:14 สภาพที่เป็นค่อนข้างแวานซเนี่ยมันมีมานาน
00:14:14 → 00:14:17 แล้วก็เลยเป็นจังหวะเหมาะที่จะพูดถึง
00:14:17 → 00:14:23 ว่าเราทำอะไรได้มั้ยอที่จะในเชิงป้องกัน
00:14:23 → 00:14:27 ค่ะถ้าเป็นในระบบอื่นนะครับอย่างเช่น
00:14:27 → 00:14:28 เรื่องเราเปรียบเทียบเรื่องการกลืนกับ
00:14:28 → 00:14:31 เรื่องการทรงตัวที่เราเคยคุยมาก่อนเราก็
00:14:31 → 00:14:34 จะพบว่าอ๋อเรื่องการทรงตัวเราทำได้นี่
00:14:34 → 00:14:37 เพราะอายุน้อยก็ออกกำลังกายให้แข็งแรงอ
00:14:37 → 00:14:39 เรื่องมวลกระดูกก็สะสมมวลกระดูกไว้ล่วง
00:14:39 → 00:14:42 หน้าพออายุเยอะก็ออกกำลังกายเพื่อชะลอไม่
00:14:42 → 00:14:45 ให้มันเสื่อมเร็วๆเหล่านี้มันมันทำได้ที
00:14:45 → 00:14:48 นี้เรื่องระบบการกลืนก็น่าจะต้องทำได้แบบ
00:14:48 → 00:14:52 เดียวกันในความเห็นส่วนตัวผมคนวัยกลางคน
00:14:52 → 00:14:58 ขึ้นไปเอ่อถ้าหากว่าใส่ใจดูแลสุขภาพทั่ว
00:14:58 → 00:15:02 ไปให้ดีบวกกับการบริหารกล้ามเนื้อของการ
00:15:02 → 00:15:06 กลืนนะครับและการใช้เสียงให้ดีค่ะน่าจะมี
00:15:06 → 00:15:10 ประโยชน์มากค่ะในการชะลอหรือลดการเกิด
00:15:10 → 00:15:14 ภาวะกลืนลำบากจากความสูงวัยในอนาคตมันมี
00:15:14 → 00:15:17 วิธีการบริหารใช่มั้ Exercise ที่น่าสนใจ
00:15:17 → 00:15:21 นะครับที่มีประโยชน์ก็เช่นการฝึกออกกำลัง
00:15:21 → 00:15:24 ลิ้นนะครับด้วยการดันดันลิ้นสู้กับสิ่ง
00:15:24 → 00:15:29 ที่มีแรงต้านอืยกตัวอย่างเช่นยกลิ้นกลาง
00:15:29 → 00:15:32 ลิ้นหรือโคนลิ้นเราขึ้นไปชนเพดานอือันนี้
00:15:32 → 00:15:35 ฝรั่งเค้าก็เรียกใช่มั้ยครับอื
00:15:35 → 00:15:39 ยกขึ้นไปกดจะกดกี่ครั้งกี่วินาทีทำได้นะ
00:15:39 → 00:15:42 ครับส่วนมากก็ยกกดกันทีละสัก 10 วินาที 15
00:15:42 → 00:15:46 วินาทีมากไปเดี๋ตะคิวกินลิ้นเจ็บนะครับ
00:15:46 → 00:15:50 อ่าทำซ้ำวันนึงก็ทำสัก 50 ครั้งนะครับ
00:15:50 → 00:15:53 แบ่งๆทำการใช้ลิ้นสู้แรงต้านไม่ใช่เพียง
00:15:53 → 00:15:56 แค่ยกขึ้นด้านบนยกขึ้นด้านบนง่ายเพราะ
00:15:56 → 00:15:59 เพดานมันอยู่ตรงนั้นอยู่แล้วแต่ว่าดันดัน
00:16:00 → 00:16:02 ไปที่กระพุ้งแก้มดันไปที่ฟันหรือบางคนเอา
00:16:02 → 00:16:06 ช้อนใส่อืบางคนทำดีiceมาขายอืนะครับใส่
00:16:06 → 00:16:10 กระพุ้งแก้มแล้วก็ออกดันอืใส่กระพุ้งแก้ม
00:16:10 → 00:16:14 แล้วออกดันเอามาดันตรงนี้แลบลิ้นดันหรือ
00:16:14 → 00:16:15 บาง
00:16:15 → 00:16:19 ให้เอ่อยกลิ้นขึ้นหนีบหนีบยางแผ่นยางแล้ว
00:16:19 → 00:16:22 พยายามลากกับถอยหลังอืทั้งหมดเก็คือฝึก
00:16:22 → 00:16:26 ฝึกกำลังกล้ามเนื้อลิ้นทิศต่างๆค่ะอันนี้
00:16:26 → 00:16:29 พบว่าช่วยอันที่ 2 ที่อาจจะเกี่ยวกันได้
00:16:29 → 00:16:34 คืออ่าการการฝึกการหายใจเพราะว่าเวลาเรา
00:16:34 → 00:16:38 สำลักเราต้องการการไอถ้ากล้ามเนื้อหายใจ
00:16:38 → 00:16:40 เราเช่นกระบังลมกล้ามเนื้อซี่โครงเราพวก
00:16:40 → 00:16:44 นี้ไม่ค่อยแข็งแรงไอไม่มีแรงเกิดสำลัก
00:16:44 → 00:16:49 แล้วรู้ตัวแล้วไออืไอไม่ออกไอไม่ได้แรงพอ
00:16:49 → 00:16:53 เพราะว่าแบบมันอ่อนไปหมดนะก็
00:16:53 → 00:16:58 ก็จะจะมีปัญหาได้เพราะฉะนั้นการฝึกหายใจ
00:16:58 → 00:17:00 กล้ามเนื้อหายใจให้มีแรงทีนี้ถ้าเรามาออก
00:17:00 → 00:17:04 กำลังแบบเอ่อเล่นเวทบ้างวิ่งบ้างอยู่แล้ว
00:17:04 → 00:17:06 กล้ามเนื้อหายใจมันต้องทำงานเยอะอยู่แล้ว
00:17:06 → 00:17:11 นะอาจจะไม่ต้องเสริมพิเศษอืแต่ในผู้สูง
00:17:11 → 00:17:14 อายุที่บางทีอยู่อยู่กับที่อยู่กับ
00:17:14 → 00:17:18 เก้าอี้อยู่กับเตียงก็สามารถฝึกฝึกหายใจ
00:17:18 → 00:17:21 ได้อืเป็นได้ตั้งแต่เอามือจับชายโคงบอก
00:17:21 → 00:17:24 ว่าฝึกหายใจลึกเอามือกดหน้าท้องบอกหายใจ
00:17:24 → 00:17:27 เข้าให้ท้องป่องอืสูตรหายใจลึกเข้าออกพวก
00:17:27 → 00:17:29 นี้ได้จำนวนครั้งเนี่ยมันไม่ได้
00:17:29 → 00:17:32 ศักดิ์สิทธิ์ค่ะเราก็อาจจะตีซะว่าวันละ 50
00:17:32 → 00:17:36 อืแบ่งๆเพราะว่าเอ่อexerร์ซiseทุกชนิดน่ะ
00:17:36 → 00:17:38 ต้องเข้าใจว่าการexerร์ซiseไม่ใช่ตัวทำ
00:17:38 → 00:17:41 ให้แข็งแรงนะค่ะการ exercise เป็นการ
00:17:41 → 00:17:45 สร้างสภาพภาพเอ่อความยากลำบากให้ร่างกาย
00:17:45 → 00:17:48 เผชิญอืแล้วเมื่อร่างกายเผชิญความยาก
00:17:48 → 00:17:52 ลำบากแล้วได้พักร่างกายมันเหมือนมันจะคิด
00:17:52 → 00:17:56 ว่าเมื่อกี้มีปัญหาอืเมื่อกี้เจอลำบากมา
00:17:56 → 00:18:00 แล้วเดี๋ยวต้องเตรียมตัวไว้รอบหน้าเผื่อ
00:18:00 → 00:18:03 มีมาอีกอืแต่นี้ถ้าเกิดว่าเราexer์ซise
00:18:03 → 00:18:06 ครั้งเดียวแล้วเราเลิกร่างกายยังไม่เชื่อ
00:18:06 → 00:18:09 อืคุณถอดรองเท้าเดินพื้นเนี่ยเท้าจะหนา
00:18:09 → 00:18:13 มั้ยอ๋ออืออืต้องถอดรองเท้าเดินพื้นวัน
00:18:13 → 00:18:16 แล้ววันเล่าเท้าจะหนาแน่นอนอค่ะใช่มั้
00:18:16 → 00:18:19 ครับอือเพราะฉะนั้นการexer์ซiseเอให้มัน
00:18:19 → 00:18:22 หนักพอแล้วพักอืพักให้ร่างกายมันได้ปรับ
00:18:22 → 00:18:25 ตัวบ้างค่ะมีอะไรอีกที่จะมีประโยชน์คือ
00:18:25 → 00:18:30 การฝึกเคี้ยวครับค่ะการฝึกเคี้ยวคนเรา
00:18:30 → 00:18:33 ปัจจุบันเนี่ยเรากินอาหารที่เอ่อเค้า
00:18:33 → 00:18:36 เรียกมันอะไรนะมันอาหารมันนิ่มใช่มั้ครับ
00:18:36 → 00:18:39 อาหารสมัยใหม่มันนิ่มเคี้ยวง่ายบางทีไม่
00:18:39 → 00:18:42 เคี้ยวกลืนไปเลยยังได้เลยอืออืการเคี้ยว
00:18:42 → 00:18:44 ก็ไม่ค่อยได้เกิดเมื่อการเคี้ยวไม่ค่อย
00:18:44 → 00:18:47 ได้เกิดการเร้าการกระตุ้นในช่องปากต่างๆ
00:18:47 → 00:18:50 มันก็น้อยลงการใช้แรงของกล้ามเนื้อขา
00:18:50 → 00:18:54 กรรไกรที่จะเคี้ยวต่างๆค่ะ
00:18:54 → 00:18:56 การตั้งใจเคี้ยวหรือบางคนก็เคี้ยวหมัก
00:18:56 → 00:18:59 ฝรั่งอืค่ะเคี้ยวหมักฝรั่งก็เพิ่มการ
00:18:59 → 00:19:02 เคี้ยวเข้าไปอันนี้ก็มีประโยชน์ในการเร้า
00:19:02 → 00:19:06 ระบบนะครับอเอ่อมีข้อควรระวังว่าหมัก
00:19:06 → 00:19:08 ฝรั่งมีน้ำตาลก็รับน้ำตาลไปอีกอะไรอย่าง
00:19:08 → 00:19:12 งี้นะครับก็ต้องดูให้เหมาะตรงนั้นหรือว่า
00:19:12 → 00:19:15 บางคนก็เคี้ยวอย่างอื่นใช่มั้ครับกินของ
00:19:15 → 00:19:17 ที่มันเหนียวต้องเคี้ยวนานหน่อยเพราะ
00:19:17 → 00:19:20 ฉะนั้นก็คืออันนี้ก็จะเป็นการบริหารที่
00:19:20 → 00:19:22 เราพอจะทำได้ในชีวิตประจำวันตั้งแต่ก่อน
00:19:22 → 00:19:25 ที่มันจะมีอาการกลืนลำบากเลยใช่ครับค่ะ
00:19:26 → 00:19:28 การป้องกันนี่คือการบริหารมั้ยคะเอ่อการ
00:19:28 → 00:19:31 บริหารโดยเฉพาะส่วนเนี่ยมีควรทำอยู่แล้ว
00:19:31 → 00:19:33 แต่ไม่ควรมองแค่นั้นการออกกำลังกายส่วน
00:19:33 → 00:19:35 ปากและคอเนี่ยเป็นเบอร์ 2 ไม่ใช่เบอร์ 1
00:19:35 → 00:19:38 นะครับค่ะเพราะฉะนั้นคุณต้องรักษาระบบ
00:19:38 → 00:19:41 ประสาทค่ะรักษายังไงคุณก็ต้องใช้สมองคุณ
00:19:41 → 00:19:45 ต้องเล่นกีฬาคุณต้องเอ่อมีMetabบolic
00:19:45 → 00:19:49 Health ที่ดีอืมีผลมากๆอในการที่แบบว่า
00:19:49 → 00:19:53 เราจะ aging ด้วยสปีดเท่าไหร่ใช่มั้ครับ
00:19:53 → 00:19:56 อย่างเราก็ทราบว่าน้ำตาลพีคขึ้นพีคลงพีค
00:19:56 → 00:19:58 ขึ้นพีคลงน้ำตาลเดี๋ยวก็โดดเดี๋ยวสูง
00:19:58 → 00:20:01 เดี๋ยวต่ำอยู่อย่างเงี้ยอมันก็ไม่ค่อยดี
00:20:01 → 00:20:04 กับสุขภาพอินซูลินสูงดื้ออินซูลินต้อง
00:20:04 → 00:20:07 หลั่งอินซูลินกันอยู่ตลอดเวลาอือใช่มั้ย
00:20:07 → 00:20:10 ครับอือไขมันในช่องท้องเยอะ
00:20:10 → 00:20:13 ก็ภาวะอักเสบเยอะภาวะอักเสบเยอะก็เสื่อม
00:20:13 → 00:20:18 สภาพเร็วอือเหล่าเนี้ยเป็นอะไรที่ควรเพ่ง
00:20:18 → 00:20:24 เล็งมากอืค่ะที่มีผลมันไม่ได้มันไม่ได้ทำ
00:20:24 → 00:20:26 ตรงที่การกลืนโดยตรงแต่ถ้าถามว่าเรามี
00:20:26 → 00:20:31 เวลาล่วงหน้า 20 ปีอื 30 ปีค่ะไม่อยากจะ
00:20:31 → 00:20:34 ให้ถึงตรงนั้นผมคิดว่าเบอร์ 1 ไม่ใช่การ
00:20:34 → 00:20:37 ออกกำลังกายปากและคออือเบอร์ 1 คือการ
00:20:37 → 00:20:40 รักษาสุขภาพทั่วไปกลับมาเรื่องเดิมเลยจะ
00:20:40 → 00:20:44 4อ5อ16อ12อแล้วแต่จะเรียกกันเนี่ยค่ะนะ
00:20:44 → 00:20:47 ครับมันก็กลับมาเบสิคตรงนั้นจริงๆแล้วใน
00:20:47 → 00:20:50 กรณีของคนคนที่อายุเยอะคือที่คุณหมอบอก
00:20:50 → 00:20:53 เนาะว่าพออายุเยอะๆแล้วเนี่ยมันมันเสื่อม
00:20:53 → 00:20:56 อ่ะพวกเนี้มันพอเราถ้าเรามากลับมาบริหาร
00:20:56 → 00:20:59 มันจะสามารถฟื้นขึ้นมาได้ดีขึ้นหรือว่า
00:20:59 → 00:21:02 มันอย่างได้มากที่สุดมันก็แค่mนทtainฮะใน
00:21:02 → 00:21:08 คนที่การกลืนมีปัญหาเพราะความสูงวัยมากๆ
00:21:08 → 00:21:11 อืออืมีโอกาสที่จะกลับมากลืนได้เหมือน
00:21:11 → 00:21:15 ปกติดีขึ้นน่ะอย่างน้อยดีขึ้นได้มั้ยคะ
00:21:15 → 00:21:18 เป็นไปได้ครับเป็นไปได้เพราะว่าที่เราบอก
00:21:18 → 00:21:21 ว่าไม่มีสำรองเนี่ยมันก็ยังมีอยู่ดีอค่ะ
00:21:22 → 00:21:25 หรือว่าไอ้สำรองที่มีน้อยๆเนี่ยยังไงก็
00:21:25 → 00:21:27 เบ่งขึ้นมามันก็ช่วยได้บ้างอยู่ดีอืเพียง
00:21:27 → 00:21:31 แต่ว่ามันอาจจะไม่ถึงจุดที่เราสบายใจค่ะ
00:21:31 → 00:21:34 สบายใจคือสบายใจว่ากินไม่สำลักแน่นอนกิน
00:21:34 → 00:21:37 แล้วปลอดภัยแน่นอนบางทีมันไม่ถึงตรงนั้น
00:21:37 → 00:21:42 ค่ะเนาะอืเพราะฉะนั้นเนี่ยมันในเคสอย่าง
00:21:42 → 00:21:44 นี้นะครับในเคสอย่างที่ว่าAdvanceนซแล้ว
00:21:44 → 00:21:47 เนี่ยจึงต้องควบคู่กันคือการฟื้นฟูให้
00:21:47 → 00:21:49 กลับมากลืนให้ได้ใกล้เคียง
00:21:49 → 00:21:53 ปกติเอ่อก็ต้องทำค่ะ
00:21:53 → 00:21:56 การปรับปรุงอาหารปรับเทคนิคพิเศษเพื่อให้
00:21:56 → 00:22:01 สำลักน้อยลงไปอีกชั้นนึงก็ต้องทำอืเผลอๆ
00:22:01 → 00:22:03 บางครั้งการใช้อุปกรณ์
00:22:03 → 00:22:06 ประกอบที่ไม่อยากจะใช้กันเนี่ยก็อาจจะ
00:22:06 → 00:22:09 ต้องใช้ด้วยค่ะถ้ามันยังไม่ปลอดภัย
00:22:09 → 00:22:12 อุปกรณ์ประกอบที่คุณหมอว่านี่คืออะไรที่
00:22:12 → 00:22:15 ไม่อยากใช้สายป้อนอาหารทางจมูกทางหน้า
00:22:15 → 00:22:18 ท้องเจาะคอค่ะเพราะว่าอย่างคนเราต้องกิน
00:22:18 → 00:22:20 น้ำวันละเท่าไหร่อย่างเงี้ยวันละลิตรมั้ย
00:22:20 → 00:22:25 อย่างเงี้ยแล้วได้น้ำไม่พอก็จะแย่องั้น
00:22:25 → 00:22:29 น้ำกินยากบางทีต้องใส่สายป้อนอาหารอืพลัง
00:22:29 → 00:22:33 งานอาหารที่กินก็บางทีกินได้แต่มันกินช้า
00:22:33 → 00:22:37 จัดก็ไม่พออีกหรือครับได้ไม่กี่คำ
00:22:37 → 00:22:40 อเพราะบางคนกินเกินได้แต่พอล้าแล้วก็
00:22:40 → 00:22:43 สำลักถ้าในกรณีแบบนี้คุณหมอแนะนำมั้ว่า
00:22:43 → 00:22:47 ถ้ามันยากมากเนาะคืออาหารก็ไม่พอคนไข้ก็
00:22:47 → 00:22:52 ทำได้ยากคนดูแลก็เหนื่อยใส่สายไปเลยดีมั้
00:22:52 → 00:22:55 คะการใส่สายเป็นเรื่องที่ควรทำครับอืถ้า
00:22:55 → 00:22:58 มีข้อบ่งชี้ข้อบ่งชี้คือได้สารอาหารไม่พอ
00:22:58 → 00:23:03 ได้น้ำไม่พออือถ้าคนที่ได้อาหารไม่พอได้
00:23:03 → 00:23:05 น้ำไม่พอเราไม่ฟีดให้เค้าเราก็เหมือน
00:23:05 → 00:23:09 ปล่อยเคอดเนอะค่ะเค้าก็อยู่ทรมานเนอะค่ะ
00:23:09 → 00:23:10 อย่างเงี้ย
00:23:11 → 00:23:13 เอ่อกลายเป็นว่าเ้าอาจจะอายุสั้นไปกว่า
00:23:13 → 00:23:17 ที่ควรอืก็ได้นะทีนี้ถ้าใส่สายจมูกข้อไม่
00:23:17 → 00:23:21 ดีของสายจมูกคือเอ่อคือสายพวกเนี้ยใช้มัน
00:23:21 → 00:23:24 ต้องมีอายุจำกัดค่ะ 2 อาทิตย์ก็อาจจะต้อง
00:23:24 → 00:23:27 เปลี่ยนแล้วเพราะว่ามันมีคราบอาหารไปติด
00:23:27 → 00:23:29 แล้วก็เริ่มจะแบบดูไม่ดีสกปรกด้วยเชื้อ
00:23:29 → 00:23:33 โรคสะสมค่ะตอนดึงสายออกไม่ยากแต่ตอนใส่
00:23:33 → 00:23:36 เข้าใหม่บางทีตอนสายมันจะผ่านหลอดหลอดคอ
00:23:36 → 00:23:38 ครับแล้วกว่ามันจะลงหลอดอาหารได้เนี่ยมัน
00:23:38 → 00:23:41 จะขย่อนมันจะแบบอๆๆใช่ค่ะเหมือนทิ่มไปไม่
00:23:41 → 00:23:45 ถูกซะทีอย่างเงี้ยอค่ะมันก็ทรมานถ้าคิด
00:23:45 → 00:23:47 ว่าต้องใช้สายเกิน 2
00:23:47 → 00:23:50 เดือนคือถ้าดูเล็งดูรูปการแล้วต้องใช้สาย
00:23:50 → 00:23:52 เกิน 2 เดือนหมอมักแนะนำว่าเจาะท้องไป
00:23:52 → 00:23:54 เถอะครับเจาะท้องเพราะเดี๋ยวนี้เจาะท้อง
00:23:54 → 00:23:58 ง่ายค่ะเ้าส่องกล้องเข้าไปนี่พูดถึงคนไข้
00:23:58 → 00:24:01 ไม่มีข้อห้ามนะค่ะส่องกล้องเข้าไปในหลอด
00:24:01 → 00:24:03 อาหารง่ายฮะเดี๋ยวนี้ทำกันปกติส่องกล้อง
00:24:03 → 00:24:07 เข้าหลอดอาหารค่ะแล้วก็จากหลอดอาหารก็
00:24:07 → 00:24:11 ก็แทงทะลุออกมาเลยแล้วก็เป๊กเอาท่อใส่
00:24:11 → 00:24:15 อาหารคาไว้อค่ะมันก็อยู่อย่างนั้นเลยอือๆ
00:24:15 → 00:24:18 มันก็อยู่อย่างปลอดภัยแล้วเดี๋ยวพอ 2
00:24:18 → 00:24:21 อาทิตย์เนื้อมันติดกันดีก็จบเลยมันก็มี
00:24:21 → 00:24:24 ช่องถาวรอยู่ตรงนี้ค่ะอ๋อก็ใช่ให้อาหาร
00:24:24 → 00:24:26 ทางแล้วอยู่นี้ไม่มีปัญหาตรงนี้ใช่จะ
00:24:26 → 00:24:29 เปลี่ยนตรงนี้ก็ไม่รู้สึกอะไรอ่ะผมเคยเจอ
00:24:29 → 00:24:32 ผู้สูงอายุที่หลงๆหลายท่านจำไม่ได้ด้วยมี
00:24:32 → 00:24:36 ตรงนี้อยู่อ๋ออือใส่เสื้อปิดไว้ไหนใครก็
00:24:36 → 00:24:38 ไม่เห็นเงี้ยไปนั่งที่ไหนก็ไม่มีเสื้อก็
00:24:38 → 00:24:40 ยังสามารถจะใช้ชีวิตไปข้างนอกไปไหนต่อไหน
00:24:40 → 00:24:43 ได้อยู่ไม่ได้มีเป็นอุปสรรคอะไรเปลี่ยน
00:24:43 → 00:24:45 อันนี้ก็ไม่ได้ยากอะไรไม่ได้ยากกว่าสาย
00:24:45 → 00:24:49 จมูกอือๆคือถ้าจำเป็นอือันนั้นคือกับอีก
00:24:49 → 00:24:51 คนนึงคือเมื่อกี้เราบอกว่าข้อความจำเป็น
00:24:51 → 00:24:53 ข้อแรกคือได้น้ำได้อาหารไม่พอความจำเป็น
00:24:54 → 00:24:58 ที่ 2 คือว่ามันสำลักบ่อยค่ะมันสำลักบ่อย
00:24:58 → 00:25:00 ถ้าสำลักบ่อยสำลักรุนแรงปล่อยไปเรื่อยๆ
00:25:01 → 00:25:02 เดี๋ยวเป็นปอดอักเสบเดี๋ยวเป็นปอดติด
00:25:02 → 00:25:04 เชื้อติดเชื้อเข้ากระแสกระแสเลือดเดี๋ยว
00:25:04 → 00:25:08 เสียชีวิตได้ง่ายอค่ะอันนี้ก็ถ้าสำลัก
00:25:08 → 00:25:12 บ่อยๆควรอืควรหาทางป้อนอาหารทางอื่นแล้ว
00:25:12 → 00:25:15 ไม่ใช่ทางปากค่ะบางคนถึงแม้ยังกินทางปาก
00:25:15 → 00:25:18 ได้บ้างแต่ก็กินไม่ได้เยอะอืเพราะฉะนั้น
00:25:18 → 00:25:21 ก็ไม่ควรไม่ก็ควรต้องมีช่องทางให้รับ
00:25:21 → 00:25:24 อาหารหลักใช่มั้ครับค่ะใช่ๆอยู่ดีคือเรา
00:25:24 → 00:25:27 มักจะกลัวว่าเป็นภาระการดูแลแต่ว่ามันไม่
00:25:27 → 00:25:30 ได้เป็นกว่ากันเลยนะพูดตามตรงมันเป็น
00:25:30 → 00:25:34 เรื่องจิตใจของเราที่กลัวมันค่ะมากกว่าอื
00:25:34 → 00:25:37 ใช่เพราะว่าเอ่อก็ถ้าเทียบกันระหว่างเรา
00:25:37 → 00:25:40 ต้องป้อนอาหารทางปากเราก็ต้องดูว่าได้
00:25:40 → 00:25:44 จังหวะป้อนมั้ยอะไรต่างๆอาหารเหมาะมั้ย
00:25:44 → 00:25:48 ร้อนไปเย็นไปมั้ยใช่ใช่อาหารมาป้อนทางทาง
00:25:48 → 00:25:51 หลอดทางสายก็มีกระบวนการของมันค่ะว่าก่อน
00:25:51 → 00:25:55 กินก็ดูดดูถ้าน้ำย่อยอาหารมื้อก่อนมันไป
00:25:55 → 00:25:58 หมดแล้วค่อยป้อนได้ถ้าอาหารมื้อก่อนยัง
00:25:58 → 00:26:01 ค้างอยู่ไม่ต้องเติมเข้าไปแสดงว่าอ่ะ
00:26:01 → 00:26:03 กระเพาะอาหารประท้วงแล้วตอนนี้อย่างเงี้ย
00:26:03 → 00:26:07 อือก็แค่นั้นเองแล้วก็ถึงเวลาก็อาหารใส่
00:26:07 → 00:26:09 แล้วก็ใช้แรงโน้มถ่วงให้ไหลหรือบางคนก็มี
00:26:09 → 00:26:12 เครื่องเดี๋ยวนี้มีเครื่องอือช่วยรีดอื
00:26:12 → 00:26:15 รีดอาหารเข้าไปเลยครับค่อยๆเข้าจะได้สม่ำ
00:26:15 → 00:26:19 เสมอค่ะส่วนใหญ่ส่วนใหญ่ผู้สูงอายุจะยอม
00:26:19 → 00:26:22 ใส่พวกท่อพวกสายพวกนี้มั้คะคือบางคนอาจจะ
00:26:22 → 00:26:24 รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งแปลกปลอมแล้วมันก็
00:26:24 → 00:26:28 เหมือนกับเนาะบางทีคนแก่เขาก็จะแบบไม่
00:26:28 → 00:26:32 ค่อยอยากจะใส่อ่ะค่ะอผมคิดว่าเท่าที่ผม
00:26:32 → 00:26:35 เคยเห็นนะค่ะเอ่อผู้ตัวผู้สูงอายุเองไม่
00:26:36 → 00:26:38 ค่อยได้ต่อต้านพวกนี้หรอกมันจะเป็นคนรุ่น
00:26:38 → 00:26:41 เรานี่แหละที่มีความคิดได้รับจากสื่อว่า
00:26:41 → 00:26:45 ใส่สายเกินจำเป็นประทังชีวิตอะไรพวกนั้น
00:26:45 → 00:26:48 ซึ่งผมว่ามันถูกในบางกรณีแต่ไม่ใช่กรณี
00:26:48 → 00:26:52 นี้ออือๆค่ะเอ่อแล้วก็ผู้สูงอายุจริงๆที่
00:26:52 → 00:26:55 เคยเจอมักจะห่วงว่าอยากกินถ้าเป็นคนที่
00:26:55 → 00:26:59 ยังตื่นยังรู้อยู่คือเขาอยากกินออยากจะเ
00:26:59 → 00:27:03 อยากจะได้อาหารอยากกินของอร่อยที่ชอบ
00:27:03 → 00:27:06 ค่ะซึ่งซึ่งถ้าเรามองว่าสายป้อนอาหารมัน
00:27:06 → 00:27:10 คือเป็นไปเพื่อให้ได้น้ำค่ะแล้วได้อาหาร
00:27:10 → 00:27:13 ที่หล่อเลี้ยงชีวิตที่เพียงพอส่วนการกิน
00:27:13 → 00:27:16 ทางปากนั้นน่ะมันเป็นความเพลิดเพลินอื
00:27:16 → 00:27:19 เป็นความสุขก็กินไปสิก็ยังกินได้ใช่มั้
00:27:19 → 00:27:22 กินได้ไม่ขัดกันแต่กินมากอาจจะไม่ได้
00:27:22 → 00:27:26 เพราะคุณกำลังในการเคี้ยวและกลืนมีจำกัด
00:27:26 → 00:27:28 บางอย่างบางเนื้อคุณอาจจะกินไม่ได้แต่บาง
00:27:28 → 00:27:32 อย่างคุณอาจจะกินได้เงี้ยอืออืใช่มครับผม
00:27:32 → 00:27:34 คิดว่ามันก็อาจจะเป็นจุดที่ดีที่สุด
00:27:34 → 00:27:36 เหมือนใช้ 2 ระบบใช่มั้คะอันนี้จะใช้ 2
00:27:36 → 00:27:39 ระบบไปเลยอ่าโอเคใช่ครับส่วนมากก็ก็จะใช้
00:27:40 → 00:27:42 อย่างนั้นคือการเพราะว่าการมีสายอยู่ไม่
00:27:42 → 00:27:44 ได้เป็นข้อห้ามไม่ให้กินไม่ได้ค่ะมีอีก
00:27:45 → 00:27:46 เรื่องนึงที่เนื่องกับเรื่องนี้ก็คือ
00:27:46 → 00:27:49 เรื่องของการสำลักเงียบเรามักจะมีความ
00:27:49 → 00:27:52 เข้าใจว่าถ้าสำลักเราก็ต้องไอซึ่งการไอ
00:27:52 → 00:27:54 เนี่ยมันเป็นรีฟมีเวลามีสิ่งแปลกปลอมไป
00:27:54 → 00:27:57 เข้าไปในหลอดลมหลอดลมไม่ชอบมีสิ่งแปลก
00:27:57 → 00:28:00 ปลอมจะทำให้เกิดรีเฟลกการไอกระตุ้นขึ้น
00:28:00 → 00:28:04 เราก็จะไอออกไอออกจนกว่าจะเกลี้ยงเคย
00:28:04 → 00:28:07 สำลักน้ำกันทุกคนค่ะแค่สำลักน้ำสะอาดนะ
00:28:07 → 00:28:10 ครับไม่มีอะไรน้ำเปล่าสะอาดเลยเนี่ยยังไอ
00:28:10 → 00:28:13 กันหน้าแดงหน้าดำโอแบบแทบจะหายใจไม่ทัน
00:28:13 → 00:28:16 ค่ะแล้วก็พอสำลักลงไปแล้วเนี่ยเอ่อเค้า
00:28:16 → 00:28:21 เรียกอะไรนะกล่องเสียงบางคนเนี่ยอหดตัวอื
00:28:21 → 00:28:23 เสียงเครือเลยค่ะอือครับจนกว่าจะเกลี้ยง
00:28:23 → 00:28:26 แล้วก็บางทีมันออกไปหมดแล้วยังรู้สึกว่า
00:28:26 → 00:28:29 ตรงนี้มันฝืดอยู่เลยคือหายใจเข้าออกยาก
00:28:29 → 00:28:31 เพราะกล่องเสียงมันหดหดตัวมันตกใจมันหด
00:28:31 → 00:28:35 ตัวมันพยายามจะโteคค่ะอือถ้าหดตัวแรงนี่
00:28:35 → 00:28:38 หายใจไม่ได้เลยนะกล่องเสียงสามารถหดตัว
00:28:38 → 00:28:41 แบบอือ
00:28:41 → 00:28:45 ได้เลยนะอือเอ่อนะแต่แต่ว่าสำหรับคนที่
00:28:45 → 00:28:48 สำลักบ่อยๆก็จะชินเหมือนคนกินพริกบ่อยๆก็
00:28:48 → 00:28:52 ไม่เผ็ดละอือชินคนที่บ้านอยู่ผัดน้ำพริก
00:28:52 → 00:28:55 ทุกวันเงี้ยค่ะก็อ่าก็ชินฉินหายใจได้ไม่
00:28:55 → 00:28:58 ไอไม่จำอือๆทีนี้ถ้าเกิดว่าเค้าเป็นแบบ
00:28:58 → 00:29:02 นั้นเค้าก็โteคตัวเองไม่ได้ค่ะญาติก็ได้
00:29:02 → 00:29:06 ใจก็ป้อนกันเข้าไปอย่างเงี้ยอือืแล้วแล้ว
00:29:06 → 00:29:09 คนป้อนหรือคนดูแลนี่เค้าจะสังเกตได้มั้คะ
00:29:09 → 00:29:11 ถ้าสำลักเงียบเราไม่รู้จากข้างนอกนะครับ
00:29:11 → 00:29:15 ไม่สามารถรู้ได้เลยใช่มั้ยคะอ๋อวิธีรู้
00:29:15 → 00:29:19 โดยอ้อมๆก็คือว่าเรา
00:29:19 → 00:29:23 กดกดกล่องเสียงกดกดใต้กล่องอืครับใต้
00:29:23 → 00:29:27 กล่องเสียงครับกดลงไปเร็วๆอือๆกดแรงๆครับ
00:29:27 → 00:29:29 กดเร็วๆกดช้าไม่ได้
00:29:29 → 00:29:33 ต้องกดเร็วๆต้องกดเร็วๆมันจะไปยืดเยื่อ
00:29:33 → 00:29:37 เยื่อบุข้างในเยื่อบุข้างในถูกกระตุ้นก็
00:29:37 → 00:29:39 จะไออันนี้เป็นอาการปกติแต่ถ้ากดแล้วไม่
00:29:40 → 00:29:42 ไอก็แสดงว่าโอถ้าจะถ้าจะไม่ค่อยโอเคแล้ว
00:29:42 → 00:29:45 อ๋อเพราะเมื่อกี้กดเบาๆยังไอเลยอแต่ว่า
00:29:45 → 00:29:49 วิธีเนี้ยเป็นวิธีที่ไม่มีมาตรฐานถูกมั้ย
00:29:49 → 00:29:52 มันขึ้นกับน้ำหนักมืออือแล้วคุณไอเบาๆกับ
00:29:52 → 00:29:54 ไอเต็มแรงได้คะแนนเท่ากันมั้ยอะไรอย่าง
00:29:54 → 00:29:59 เงี้ยค่ะอือๆมันก็มีคนคิดวิธีอื่นรองลงมา
00:29:59 → 00:30:04 อย่างเช่นว่าการผสมละอองน้ำส้มสายชูหรือ
00:30:04 → 00:30:07 กรดอย่างอื่นทำเป็นไอละอองฝอยแล้วให้สูด
00:30:07 → 00:30:10 เข้าไปแล้วดูว่าไอมั้ยอันนี้ก็ดูเป็น
00:30:10 → 00:30:13 มาตรฐานมากขึ้นอีกระดับนึงอือๆเอ่อที่
00:30:13 → 00:30:17 สำโรงเนี่ยเราชอบใช้ถ้าคนไข้มีสงสัยสำลัก
00:30:17 → 00:30:21 เงียบได้ค่ะแบบว่าคนไขมีปัญหาการกลืนน่ะ
00:30:21 → 00:30:23 แล้วเราอยากรู้สำรักเงียบมั้ยเราจะให้ทำ
00:30:23 → 00:30:26 อันนี้อค่ะจริงๆมันมีวิธีอื่นมันแพงกว่า
00:30:26 → 00:30:28 เราเลยไม่อยากทำเช่นการกลืนกลืนสารทึบ
00:30:28 → 00:30:32 รังสีอืถ้ากลืนสารทึบรังสีแล้วถ่ายเเรยไป
00:30:32 → 00:30:34 แล้วคุณสำลักลงไปในหลอดลมแล้วเขาก็ดู
00:30:35 → 00:30:38 อาการวินาทีนั้นว่าเขาไอมั้ค่ะอันนี้ก็
00:30:38 → 00:30:39 เป็นวิธีนึงที่บอกได้ว่าสำลักเงียบไม่
00:30:39 → 00:30:44 เงียบถือเป็นโกstandารดอค่ะแต่ทำยากกว่า
00:30:44 → 00:30:47 เพราะต้องกลืนสารทึบรังสีต้องการทางการ
00:30:47 → 00:30:50 แพทย์เลยนะคะอืถ้าอย่างงี้ก็เอาน้ำส้มใส่
00:30:50 → 00:30:54 ชูใส่เครื่องพ่นแล้วก็จับสูตรเฮกๆอายมั้ย
00:30:54 → 00:30:57 อย่างเงี้ยก็ทำได้เลยก็ง่ายดีเราชอบครับ
00:30:58 → 00:31:01 มันแยกคนปกติกับไม่ปกติได้ชัดเจนแต่ถาม
00:31:01 → 00:31:04 ว่าวิธีการตรวจไอละอองฝอยน้ำส้มใสชูกับ
00:31:04 → 00:31:07 วิธีเอ่อกลืนสารทึบรังสีเนี่ยค่ะเอ่อ
00:31:07 → 00:31:11 เทียบกันแล้วใครเก่งเก่งกว่ายังไงเนี่ย
00:31:11 → 00:31:13 ยังไม่ค่อยมีรีเสิร์ชเลยในโลกนี้ก็ไม่
00:31:13 → 00:31:15 ค่อยมีอเดี๋ยวขอยกตัวอย่างจากทางโซเชียล
00:31:15 → 00:31:18 ที่เราก็ไปลองสำรวจดูนะคะว่าส่วนใหญ่คน
00:31:18 → 00:31:21 ที่มีภาวะกลืนลำบากเนี่ยเ้าเกิดมาจากอะไร
00:31:21 → 00:31:22 บ้างแล้วเมีอาการยังไงบ้างนะคะคุณหมอ
00:31:22 → 00:31:25 อย่างกรณีนี้นะคะเบอกว่าคุณพ่อมีภาวะกลืน
00:31:25 → 00:31:27 อาหารไม่ได้กินน้ำแล้วสำลักรักต้องให้
00:31:27 → 00:31:30 อาหารทางสายยางผ่านจมูกผ่านมา 2 เดือน
00:31:30 → 00:31:32 แล้วยังไม่ได้รับการรักษามีอาการข้าง
00:31:32 → 00:31:34 เคียงก็คือเสมหะเยอะมากๆโดยเฉพาะเวลานอน
00:31:34 → 00:31:36 และตอนนี้ก็มีน้ำมูกใสๆบางครั้งก็เป็นสี
00:31:36 → 00:31:39 เขียวค่ะอยากขอคำแนะนำในการดูแลผู้ป่วย
00:31:39 → 00:31:42 ภาวะนี้ผู้ป่วยจะกลับมากินอาหารทางปากได้
00:31:42 → 00:31:45 อีกมั้ยคะใส่อาหารทางจมูกนานาจะมีผลข้าง
00:31:45 → 00:31:49 เคียงอันตรายมั้ยคะตอบทีละคำถามตอบคำถาม
00:31:49 → 00:31:53 ง่ายก่อนอ่าได้ค่ะสายจมูกใส่นานๆก็ไม่
00:31:53 → 00:31:56 อันตรายสายป้อนอาหารทางจมูกใส่แล้วเพิ่ม
00:31:56 → 00:32:00 โอกาสที่จะมีความระคายเคืองในจมูกได้หรือ
00:32:00 → 00:32:05 อาจจะทำให้มีเอ่อเยื่อบุจมูกอักเสบหรือ
00:32:05 → 00:32:09 ลุกรามไปเป็นไซนัสอักเสบอืได้แต่ก็เป็น
00:32:09 → 00:32:11 เท่านั้นค่ะก็อย่างที่เขาบอกว่ามีเสมหะ
00:32:11 → 00:32:13 เยอะมีน้ำมูกใสๆบางครั้งเป็นสีเขียวน้ำ
00:32:14 → 00:32:17 มูกใสๆจะเกี่ยวกับสายก็ได้ไม่เกี่ยวก็ได้
00:32:17 → 00:32:21 ค่ะคนที่คนไข้เนี่ยรับอาหารทางปากไม่ได้
00:32:21 → 00:32:23 เลยก็น่าจะหมายความว่าเอ่อกลืนไปแล้วคงจะ
00:32:24 → 00:32:27 สำลักนั่นแหละหมอเดาว่าค่ะอือืก็เลยได้
00:32:27 → 00:32:30 ใส่สายป้อนอาหารใช่เอ่อใส่มา 2 เดือนแล้ว
00:32:30 → 00:32:32 ก็เข้าหลักอย่างที่หมอบอกก็คือถ้าเกิดว่า
00:32:32 → 00:32:35 จริงๆถ้าใส่สายเราเล็งว่าต้องใส่สายเกิน 2
00:32:35 → 00:32:38 เดือนเนี่ยอืเจาะท้องก็คุ้มแล้วเพราะว่า
00:32:38 → 00:32:41 เจาะท้องมันก็ไม่ได้แพงมากไม่ได้เจ็บมาก
00:32:41 → 00:32:45 ไม่ได้อะไรแล้วเอาสายออกก็จบอือๆรูก็ปิด
00:32:45 → 00:32:48 ไปเหมือนเดิมอือๆถ้าวันไหนโชคดีไม่ต้อง
00:32:48 → 00:32:51 ใช้ก็จบไม่มีผลเสียแล้วก็ไม่รำคาญจมูก
00:32:51 → 00:32:54 ด้วยอือๆนี่ผมพูดนะถ้า
00:32:54 → 00:32:58 ผมกินข้าวไม่ได้แล้วผมต้องรับอาหารผมก็
00:32:58 → 00:33:01 อยากจะเจาะท้องผมไม่อยากใส่สายจมูกคุณหมอ
00:33:01 → 00:33:04 ถ้าใส่สายจมูกระยะสั้นผมก็จะบอกขอสาย
00:33:04 → 00:33:07 เบอร์นิ่มๆอือสายเบอร์นิ่มๆบางๆหน่อยจะ
00:33:07 → 00:33:12 ได้รำคาญน้อยหน่อยค่ะเอ่อแล้วก็ถ้าเกิด
00:33:12 → 00:33:15 ว่าจำเป็นต้องใส่สายจมูกผมก็จะไปหาซื้อผม
00:33:15 → 00:33:18 เคยเห็นมีคนญาติคนไข้เ้าหามาได้ค่ะมัน
00:33:18 → 00:33:22 เป็นสายแบบเบอร์สั้นค่ะใส่สๆมาอยู่แค่นี้
00:33:22 → 00:33:25 ออมันไม่ต้องมายาวแล้วก็เวลาจะป้อนค่อยมา
00:33:25 → 00:33:30 ต่อตรงนี้อ๋ออืสายเบอร์พิเศษค่ะ
00:33:30 → 00:33:33 อะไรพันอย่างงั้นอือๆเอ่อเพราะว่าเไปไหน
00:33:33 → 00:33:36 มีสายจมูกโผล่มามันก็ดูใช่มันก็ดูแปลกๆ
00:33:36 → 00:33:40 นิดนึงแหละนะแล้วก็รำคาญด้วยเนาะคือคือ
00:33:40 → 00:33:43 มันดูเป็นคนไข้
00:33:44 → 00:33:47 แล้วแล้วคนเราพอเห็นอย่างี้เค้าก็จะคือ
00:33:47 → 00:33:50 เค้าก็จะถือว่าคนนี้เป็นคนไข้เนอะค่ะจะ
00:33:50 → 00:33:52 กลับมากินอาหารทางปากได้มั้ยมันขึ้นกับ
00:33:52 → 00:33:55 ว่าปัญหาการกลืนที่เกิดขึ้นนั้นน่ะมัน
00:33:55 → 00:33:59 อะไรค่ะยกตัวอย่างเช่นถ้าเป็นสโตรกอื
00:33:59 → 00:34:01 ครั้งเดียวแล้วก็กินไม่ได้โอ๊ยอย่างนี้มี
00:34:01 → 00:34:04 โอกาสสูงค่ะอืสโตกตัวเดียวที่น่ากลัวก็
00:34:04 → 00:34:08 คือสโตกก้านสมองอืเอ่อ 2 ตัวที่น่ากลัวใน
00:34:08 → 00:34:10 เรื่องการกลืนคือก้านสมองเพราะว่าศูนย์
00:34:10 → 00:34:12 การกลืนอยู่ที่ก้านสมองค่ะถ้ามันโดนศูนย์
00:34:12 → 00:34:16 การกลืนไปเนี่ยอือๆเอ่อไอ้บางทีมันโดน
00:34:16 → 00:34:19 ศูนย์ศูนย์ข้างหลักแล้วข้างสำรองมันพอย
00:34:19 → 00:34:23 โดนหางเลขไปด้วยออือๆแต่ว่าไม่เต็มที่ที
00:34:23 → 00:34:25 นี้มันก็ไม่ค่อยเต็มใจจะกลับมาออนไลน์ทำ
00:34:25 → 00:34:28 งานให้เราเนี่ยดื้อค่ะกับบางคนเป็นปัญหา
00:34:28 → 00:34:31 ที่สมองข้างบน 2 ข้างเลยคือเป็นสโตกมา 2
00:34:31 → 00:34:34 ครั้งมันเลยไม่มีใครจะมาขับศูนย์การกลืน
00:34:34 → 00:34:37 ให้ทำงานอือไอ้พวกเนี้ยบางทีบางทีฟื้นยาก
00:34:38 → 00:34:41 อืแต่ว่าถ้าเป็นสโตรกครั้งเดียวซีกเดียว
00:34:41 → 00:34:45 มีโอกาสสูงที่จะที่จะกลับมากินได้แต่ถ้า
00:34:45 → 00:34:47 เป็นโรคอื่นมันก็แล้วแต่โรคอีกมันจะบอก
00:34:47 → 00:34:50 ว่าจะกลับมากินทางปากได้อีกมั้ยนี่มันก็
00:34:50 → 00:34:54 ต้องดูรายละเอียดของคนใช่ครับทีนี้ทีนี้
00:34:54 → 00:34:58 อย่างที่บอกว่าการฝึกกลืนการฝึกกลืนการ
00:34:58 → 00:35:00 พยายามกลืนอาหารทางปากเนี่ยเป็นวิธีในการ
00:35:00 → 00:35:02 เร้าศูนย์การกลืนให้กลับมาทำงานถูกต้อง
00:35:02 → 00:35:06 แล้วอืเพียงแต่ว่าเราต้องทำโดยไม่ให้
00:35:06 → 00:35:09 เสี่ยงสำลักค่ะเพราะถ้าเราป้อนๆไปมัน
00:35:09 → 00:35:14 สำลักมีปัญหาค่ะอืกับว่าเอ่อคนไข้มีปัญหา
00:35:14 → 00:35:16 การกลืนเฉพาะส่วนหรือเปล่าที่สำลักอ่ะอือ
00:35:16 → 00:35:19 ๆใช่มั้ยครับอย่างที่บอกว่าโคนลิ้นไม่ดี
00:35:19 → 00:35:21 โคนลิ้นยกไม่ขึ้นหรือถอยหลังไม่ได้หรือ
00:35:21 → 00:35:25 ว่าอะไร coordination ของหลอดคอตรงนี้ไม่
00:35:25 → 00:35:28 ดีหรือแรงไม่พอหรือตรงนี้ไม่เปิดถ้าตรง
00:35:28 → 00:35:30 นี้ไม่เปิดคุณไปทำอย่างอื่นมันก็ไม่ช่วย
00:35:30 → 00:35:32 อะไรในกรณีที่เป็นลูกหลานหรือว่าผู้ดูแล
00:35:32 → 00:35:35 เราจะช่วยอะไรได้บ้างคะผู้ดูแลผู้สูงอายุ
00:35:36 → 00:35:40 ควรข้อที่ 1 ทราบว่าผู้สูงอายุมีปัญหาการ
00:35:40 → 00:35:45 กลืนได้แล้วก็สังเกตว่าถ้าผู้สูงอายุรับ
00:35:45 → 00:35:48 อาหารแล้วไอสำลักนะครับโดยเฉพาะบ่อยๆไม่
00:35:48 → 00:35:52 ใช่นานๆจะมีทีแต่ว่าเป็นบ่อยๆในของเหลว
00:35:52 → 00:35:56 ของไหลง่ายกว่าอย่างอื่นอันนี้ก็เป็น
00:35:56 → 00:36:00 สัญญาณบอกแล้วว่าการกลืนน่าจะไม่ปกติความ
00:36:00 → 00:36:04 พยายามจะป้อนกันไปเรื่อยๆเรื่อๆๆๆเอ่ออาจ
00:36:04 → 00:36:09 จะไม่ดีเต็มที่เพราะอยู่กับความเสี่ยงโดย
00:36:09 → 00:36:12 อาจจะเกินจำเป็นอือๆแล้วเหมือนเราซื้อหวย
00:36:12 → 00:36:15 ซื้อไปเรื่อยๆเดี๋ยวมันต้องถูกอืงั้นถ้า
00:36:15 → 00:36:18 เริ่มสำลักแล้วไม่ทำอะไรกินไปเรื่อยสำลัก
00:36:18 → 00:36:22 ไปเรื่อยวันนึงอาจจะมีโรคแทรกมีปัญหา
00:36:22 → 00:36:27 ควรพาไปพบแพทย์ตรวจค่ะตรวจแล้วก็ต้อง
00:36:27 → 00:36:31 พยายามคุยกันดูว่าปัญหาคืออะไรควรจะทำแบบ
00:36:31 → 00:36:33 ไหนได้ในแต่ละรายก็อาจจะไม่เหมือนกันที
00:36:34 → 00:36:37 นี้นะครับเช่นบางคนก็ต้องใส่สายป้อนอาหาร
00:36:37 → 00:36:42 บางคนก็เอ่อต้องปรับเปลี่ยนวิธีการกิน
00:36:42 → 00:36:46 อาหารให้มันเซฟขึ้นอือการปรับเปลี่ยนเอ่อ
00:36:46 → 00:36:49 เนื้อของอาหารใช่มั้ครับว่าอือๆอาหารที่
00:36:49 → 00:36:52 มันเป็นแบบว่าแกงแงจืดอ่ะมีทั้งน้ำไหล
00:36:52 → 00:36:55 เหลวลิquิดมีทั้งของแข็งเป็นชิ้นๆบางทีมี
00:36:55 → 00:36:59 ของเป็นเยลลี่นิ่มๆผสมด้วยมัน manage ยาก
00:36:59 → 00:37:03 ไงอก็ของเนื้อเดียวหรือถ้าเป็นคนที่ฟัน
00:37:03 → 00:37:06 ยังดีอยู่ก็บอกว่าอมเข้าไปแล้วจะเคี้ยว
00:37:06 → 00:37:08 ให้มันแหลกก่อนอือให้มันแหลกเป็นเนื้อ
00:37:08 → 00:37:11 เดียวคลุกเคล้ากันให้ดีแล้วค่อยกลืนลงไป
00:37:11 → 00:37:14 อือๆอันนี้ก็เป็นตัวช่วยอย่างนึงแต่บางคน
00:37:14 → 00:37:17 ก็ต้องเอาของทำข้นมาเติมใช่มั้ยครับให้
00:37:17 → 00:37:21 น้ำมันข้นมันจะได้ไหลช้าๆหน่อยอือืค่ะก็
00:37:21 → 00:37:25 ช่วยกันอือการที่จะบอกเป็นสูตร
00:37:25 → 00:37:29 สำเร็จน่าจะยากค่ะเมื่อมีอาการสำลักแล้ว
00:37:29 → 00:37:31 เนี่ยมันไม่ค่อยช่วยแต่ถ้าเป็นผู้สูงอายุ
00:37:31 → 00:37:34 ที่ยังไม่สำลักเราบอกว่าโอเคก็เชียร์ผู้
00:37:34 → 00:37:40 สูงอายุว่าเคี้ยวอืให้ละเอียดกลืนเป็นคำๆ
00:37:40 → 00:37:45 กลืนแล้วเอ่อลองเช็คดูว่าเอ่อมีเสียง
00:37:45 → 00:37:48 เครือๆเหมือนเศษอาหารค้างในคอบ้างมั้ยให้
00:37:48 → 00:37:51 กลืนซ้ำสักหลายหลายครั้งก่อนที่จะกินคำ
00:37:51 → 00:37:56 ต่อไปอาจจะดีกว่ามั้ยอือการให้ผู้สูงอายุ
00:37:56 → 00:38:00 เอ่อรู้จังหวะอันนี้สำคัญมากรู้จังหวะการ
00:38:00 → 00:38:03 กินแปลว่าถ้าเรารู้ว่าอาหารกำลังจะเข้า
00:38:03 → 00:38:05 ปากเนี่ยเราจะเตรียมตัวในการกลืนได้ดี
00:38:05 → 00:38:10 กว่าอาหารที่มีรสชาติมีอุณหภูมิร้อนเย็น
00:38:10 → 00:38:14 มีความเปรี้ยวมีเหล่านี้เนี่ยจะทำให้เอ่อ
00:38:15 → 00:38:18 การกลืนเกิดได้ดีสมบูรณ์กว่าอเพราะฉะนั้น
00:38:18 → 00:38:21 ผู้สูงอายุถ้าตักอาหารเองได้ควรให้ตักเอง
00:38:21 → 00:38:24 แม้แต่ที่ตักเองไม่ได้ดีเรายังควรจะ
00:38:24 → 00:38:27 ประคองมือเขาจับช้อนตักอาหารเข้าปากเพื่อ
00:38:27 → 00:38:30 เขาจะได้รู้จังหวะอือเวลาเราถ้าเราป้อน
00:38:30 → 00:38:34 เค้าเราควรดูหน้าเค้าค่ะดูหน้าเค้าว่า
00:38:34 → 00:38:36 เค้ามองช้อนหรือเปล่าอไม่ใช่เค้ามองหน้า
00:38:36 → 00:38:40 เราออือคนที่รับอาหารไม่ควรมองหน้าเราควร
00:38:40 → 00:38:44 จะมองช้อนว่ามาแล้วค่ะก็จะทำให้โอกาสใน
00:38:44 → 00:38:47 การสำลักมันน้อยลงอืแต่ทั้งหมดเหล่าเนี้ย
00:38:47 → 00:38:50 เป็นสิ่งที่ถ้าเมื่อถึงระยะที่มันสำลัก
00:38:50 → 00:38:53 แล้วอ่ะค่อยไปทำอาจจะช่วยอะไรได้ไม่ค่อย
00:38:54 → 00:38:56 เยอะอือๆมันมีประโยชน์ในช่วงที่แบบว่า
00:38:56 → 00:39:00 เป็นดูแลทั่วไปมากกว่าค่ะครับอือาการ
00:39:00 → 00:39:03 สำลักนี่แหละดูเป็นอาการที่น่าเป็นห่วง
00:39:03 → 00:39:07 ที่สุดครับของบรรดาอาการกลืนยากที่ที่มัน
00:39:07 → 00:39:10 มองเห็นได้มากที่สุดค่ะอ๋อมันเห็นชัดที่
00:39:10 → 00:39:15 สุดครับค่ะปิดท้ายคุณหมออยากจะให้คุณหมอ
00:39:15 → 00:39:18 พูดถึงความสำคัญของเรื่องของภาวะการกลืน
00:39:18 → 00:39:20 ลำบากบางคนมองว่ามันเป็นเรื่องเล็กเนาะ
00:39:20 → 00:39:22 แต่จริงๆมันเป็นเรื่องสำคัญมากเลยคุณหมอ
00:39:22 → 00:39:24 ลองเน้นย้ำเรื่องนี้สักนิดนึงค่ะผมมอง
00:39:24 → 00:39:27 อย่างงี้ข้อที่ 1 เรื่องการกลืนเป็นสิ่ง
00:39:27 → 00:39:30 สำคัญกับชีวิตค่ะถ้ากลืนไม่ได้รับอาหาร
00:39:30 → 00:39:32 ไม่ได้ก็อยู่ไม่ได้ถ้ากลืนไม่ได้อย่าง
00:39:32 → 00:39:35 ปลอดภัยมีภาวะแทรกซ้อนก็อันตรายกับชีวิต
00:39:35 → 00:39:37 อีกเพราะฉะนั้นการกลืนเป็นเรื่องสำคัญ
00:39:37 → 00:39:42 จริงๆอถ้าการกลืนมีปัญหาเช่นเราเห็นอยู่
00:39:42 → 00:39:45 แล้วว่ากินสำลักหรือว่ากินช้ามากหรือกลืน
00:39:45 → 00:39:48 เจ็บกลืนยากลำบากเหล่าเนี้ยควรหาผู้
00:39:48 → 00:39:51 เชี่ยวชาญช่วยดูค่ะอย่าพยายามดันทุรังทำ
00:39:51 → 00:39:53 เอาเองเพราะอย่างที่ฟังมาแล้วมันซับซ้อน
00:39:53 → 00:39:58 อือๆแล้วก็บางทีเราทำเอาเองมันก็เลยจะแก้
00:39:58 → 00:40:02 ไม่ตรงปัญหาอันที่ 2 หรือ 3 เนาะข้อถัดไป
00:40:02 → 00:40:04 แล้วกันก็คือบอกว่าอ
00:40:04 → 00:40:08 การกลืนนั้นน่ะบางครั้งเราฟื้นฟูไม่ได้
00:40:08 → 00:40:10 เต็มร้อยค่ะเราอย่าไปเล็งผลเลิศว่าเราจะ
00:40:10 → 00:40:13 ฟื้นฟูเป็นการกลืนที่ปกติได้เสมอไปอือๆ
00:40:13 → 00:40:16 เราควรเล็งผลคาดหวังอะไรล่ะถ้าอย่างงั้น
00:40:16 → 00:40:19 เราควรคาดหวังว่าเราจะทำการกลืนให้ใกล้
00:40:19 → 00:40:22 เคียงปกติที่สุดมีคุณภาพชีวิตดีที่สุดได้
00:40:22 → 00:40:26 สารอาหารให้เพียงพอไม่มีภาวะแทรกซ้อนเรา
00:40:26 → 00:40:29 เก็บเบี้ยใต้ถุนร้านทำทุกอย่างที่ทำได้
00:40:29 → 00:40:31 เพื่อให้ได้พวกนี้ขึ้นมามากที่สุดได้แค่
00:40:31 → 00:40:33 ไหนมันคือแค่
00:40:33 → 00:40:38 นั้นอีกข้อนึงก็คือว่าเอ่อสำหรับคนที่ยัง
00:40:38 → 00:40:39 แข็งแรงดี
00:40:39 → 00:40:42 อยู่หรือว่ายังไม่ได้มีปัญหาการกลืนชัด
00:40:42 → 00:40:46 เจนความพยายามที่จะรักษาสุขอนามัยที่ดี
00:40:46 → 00:40:51 ตามหลักทั่วไปมีผลมากอืบวกกับการพยายาม
00:40:51 → 00:40:55 exercise นะครับการเคี้ยวการกลืนให้มัน
00:40:55 → 00:40:58 ทำงานหนักหน่อยนะครับให้มีการขยับลิ้นสู้
00:40:58 → 00:41:02 แรงหน่อยฝึกหายใจลึกหายใจแรงหน่อยเหล่า
00:41:02 → 00:41:05 นี้มีส่วนช่วยเตรียมความพร้อมเอาไว้เป็น
00:41:05 → 00:41:08 ทุนสำรองสำหรับอนาคตถ้าเกิดว่ามีความถด
00:41:08 → 00:41:11 ถอยของปัญหาการกลืนขึ้นมาอืครับวันนี้
00:41:11 → 00:41:14 ขอบคุณคุณหมอมากค่ะขอบคุณ
00:41:14 → 00:41:17 [เพลง]
00:41:17 → 00:41:20 บุพการีที่เคารพคู่มือการดูแลพ่อแม่ของคน
00:41:20 → 00:41:23 เจนลูกถ้าชอบเนื้อหาแบบนี้ก็อย่าลืมกด
00:41:23 → 00:41:27 subscribe ไว้ด้วยนะครับ