00:00:00 → 00:00:00 [เพลง]
00:00:00 → 00:00:04 ท้องเสียซ้ำๆเกิดจากอะไรพายเหลวขนมวลยา
00:00:04 → 00:00:07 ไทยช่วยได้ค่ะดูแลลำไส้ให้แข็งแรงในระยะ
00:00:07 → 00:00:17 ยาวในรายการวันใหม่ไกลโรคไก
00:00:17 → 00:00:21 สืบทอดภูมิปัญญาไทยใส่ใจคุณภาพยาร้าน
00:00:21 → 00:00:25 เจริญสุขโอสถ
00:00:25 → 00:00:28 นครปฐมสวัสดีค่ะนี่คือรายการวันใหม่ไกล
00:00:28 → 00:00:30 โลกค่ะรายการที่จะพาทุกท่านไปเปิดมุมมอง
00:00:30 → 00:00:33 เกี่ยวกับหญ้าและสมุนไพรไทยให้คนไทย
00:00:33 → 00:00:35 สุขภาพดีเพราะทุกวัยเริ่มใหม่ได้กับวัน
00:00:35 → 00:00:38 ใหม่ไกลโรคนะคะวันนี้อีกหัวข้อนึงค่ะ
00:00:38 → 00:00:41 อาจารย์รุ่งรวีท้องเสียเรือรังคือจริงๆ
00:00:41 → 00:00:44 บางทีกินเผ็ดก็ถ่ายเราก็ยังมองเป็นเรื่อง
00:00:44 → 00:00:47 ธรรมดาเนาะแต่ถ้าเกิดว่าเสียเรื้อรังเสีย
00:00:47 → 00:00:49 แล้วเสียอีกโดยที่เราก็ระวังเรื่องอาหาร
00:00:49 → 00:00:51 การกินแล้ววันนี้เราจะมาคุยประเด็นนี้ค่ะ
00:00:51 → 00:00:54 อาจารย์อันดับแรกก่อนเลยท้องเสียเรื้อรัง
00:00:54 → 00:00:56 ในทางแผนไทยเรามองว่ามันเกิดจากอะไรได้
00:00:56 → 00:00:58 บ้างคะต้องต้องบอกว่าเอาท้องเสียธรรมดา
00:00:58 → 00:01:00 ก่อนดีมั้
00:01:00 → 00:01:02 เสียคือ
00:01:02 → 00:01:06 โรกันเยอะนะแต่หลายคนเนี่ยไม่ใช่จริงๆไม่
00:01:06 → 00:01:08 ใช่ท้องเสียเรือหลังแต่แปลว่าเป็นคนที่
00:01:08 → 00:01:13 ท้องเสียง่ายอแล้วเราเรียกกันว่าอ่าธาตุ
00:01:13 → 00:01:16 เบาหรือธาตุอ่อนนะคะซึ่งพวกนี้เนี่ยเกิด
00:01:16 → 00:01:19 ได้จากหลายสาเหตุอันนึงอันที่ 1 เนี่ยก็
00:01:19 → 00:01:22 คือตัวเขาเองอ่ะเป็นคนที่ sensitive หรือ
00:01:22 → 00:01:26 ไวต่ออาหารนะคะเพราะว่าอาหารคือสาเหตุ
00:01:26 → 00:01:29 หนึ่งของทำให้ท้องเสียอนะคะอาหารที่ทำให้
00:01:29 → 00:01:32 ท้องเสียก็คือ 1 อาหารเผ็ดนะคะอ่ารดและ
00:01:32 → 00:01:35 บางคนเบอกว่ากินมาล่าไม่ได้กินมาล่าเมื่อ
00:01:35 → 00:01:39 ไหร่ก็ท้องเสียนะบางคนก็แค่กินน้ำพริกกิน
00:01:39 → 00:01:42 อะไรนิดๆหน่อยๆก็ท้องเสียละนะคะแต่พวกนี้
00:01:42 → 00:01:45 ท้องเสียไม่เยอะแล้วก็จะมีอาการแสบท้อง
00:01:45 → 00:01:49 แล้วส่วนใหญ่แสบทวารตอนที่ถ่ายแสบทวาร
00:01:49 → 00:01:51 แล้วอาการเมก็ไม่ได้มากมายพวกนี้ก็ดูแล
00:01:51 → 00:01:56 ได้นะคะอันที่ 2 เนี่ยเกิดจากรสเปรี้ยวนะ
00:01:56 → 00:01:59 คะกินอาหารเปรี้ยวกัดเกินไปก็เป็นไปได้
00:01:59 → 00:02:01 เหมือนกันก็ทำให้ท้องเสียได้เหมือนกัน
00:02:01 → 00:02:03 เพราะงั้นไอ้ตัวอาหารรสเปรี้ยวเนี่ยเค้า
00:02:03 → 00:02:07 ก็เอามาทำเป็นยายาระบายได้นะคะเนี่ยคือ
00:02:07 → 00:02:11 สาเหตุที่เอ่อที่มาจากอาหารอนอกจากนี้
00:02:11 → 00:02:14 เนี่ยสาเหตุที่มาจากอาหารอีก 2 อันก็คือ
00:02:14 → 00:02:18 อันที่ 1 ก็คือมาจากอาหารที่แผนไทยบอกว่า
00:02:18 → 00:02:22 ไม่เคยชินหรือไม่ถูกกันเช่นนมนะคะอย่าง
00:02:22 → 00:02:27 ผู้สูงอายุนะก็จะกินนมเมื่อไหร่ท้องเสีย
00:02:27 → 00:02:29 อย่างพี่เนี่ยกินนมเมื่อไหร่ท้องเสีย
00:02:29 → 00:02:32 เมื่อนั้นเพราะว่าพี่ไม่มีเอนไซมย่อยไอ้
00:02:32 → 00:02:34 ตัวน้ำตาลในนมน้ำตาลในนมที่เรียกว่าน้ำ
00:02:34 → 00:02:38 ตาลแลกโตสอ่ะค่ะนะคะปกติในร่างกายของเด็ก
00:02:38 → 00:02:41 ที่กำลังเจริญเติบโตหรือว่าผู้ใหญ่ที่กิน
00:02:41 → 00:02:43 นมต่อเนื่องก็จะมีเอนไซม์ที่เรียกว่า
00:02:43 → 00:02:46 แลคเตสอยู่เอนไซมนี้ก็จะช่วยย่อยนมและทำ
00:02:46 → 00:02:48 ให้กลายเป็นน้ำตาลย่อยๆแล้วก็ดูดซึมเข้า
00:02:48 → 00:02:52 ไปได้แต่ส่วนคนแก่เนี่ยหรือคนที่ไม่ค่อย
00:02:52 → 00:02:55 กินนมตลอดชีวิตคือไม่ชอบกินนมเนี่ยพวกนี้
00:02:55 → 00:02:58 เอนไซมานพวกนี้จะหายไปร่างกายไม่สร้างมัน
00:02:58 → 00:03:00 เป็นการตอบสนองโดยธรรมชาติปกติแล้วสิ่ง
00:03:00 → 00:03:04 ที่ตามมาคืออะไรไอ้แบคทีเรียในตัวมันชอบ
00:03:04 → 00:03:06 นะฮะเพราะในร่างกายมนุษย์เนี่ยเรามี
00:03:06 → 00:03:09 แบคทีเรียตัวนึงชุดหนึ่งที่เราเรียกว่า
00:03:09 → 00:03:12 แบคทีเรียประจำถิ่นนะคะซึ่งจะช่วยเราใน
00:03:12 → 00:03:14 การย่อยอาหารส่วนนึงด้วยเพราะงั้นไอ้
00:03:14 → 00:03:17 แบคทีเรียประจำถิ่นตรงเนี้ยก็จะย่อยทำให้
00:03:17 → 00:03:20 มีอาการเหมือนบูดเน่านะคะพอมันมีอาการบูด
00:03:20 → 00:03:23 เน่ามันมีแก๊สขึ้นเยอะๆมันก็ดันทำให้มี
00:03:23 → 00:03:26 อาการท้องเสียอืนะคะแล้วก็อาหารอีกประเภท
00:03:26 → 00:03:31 นึงที่ทำให้ท้องเสียก็คืออาหารกลุ่มที่มี
00:03:31 → 00:03:33 เชื้ออยู่ในตัวซึ่งอาหารที่มีเชื้อเนี่ย
00:03:34 → 00:03:36 ก็จะขอแบ่งเป็น 2 ประเภทก็คือ 1 เป็น
00:03:36 → 00:03:39 เชื้อที่ก่อโรคกับอีกอันนึงเป็นเชื้อที่
00:03:39 → 00:03:43 ไม่ได้ก่อโรครุนแรงนะคะอย่างเช่นอีโคไลด์
00:03:43 → 00:03:45 นะคะอีโคไลด์เนี่ยนี่เป็นเชื้อปนเปื้อน
00:03:45 → 00:03:48 ที่เราเจออยู่แล้วก็เชื้อนี้ได้คุ้นมาก
00:03:48 → 00:03:50 เลยค่ะได้ยินบ่อยอ่าชื่อจะคุ้นมากเลย
00:03:50 → 00:03:52 เพราะว่ามันจะไปตรวจอย่างสมมุติว่าตรวจ
00:03:52 → 00:03:54 ผักเนี่ยเราก็จะตรวจว่ามันมีเอโคไลด์มั้ย
00:03:54 → 00:03:57 เพราะว่าถ้ามีเอโคไลด์ก็แปลว่ามันอาจจะมี
00:03:57 → 00:04:00 การลดไอด้วยพวกเอ่อปุ๋ยอินทรีย์อะไรบาง
00:04:00 → 00:04:02 อย่างนะมันก็ป่นเปื้อนมาแล้วมันจะมีอัน
00:04:02 → 00:04:04 นึงคล้ายๆกัน H pine อันนี้คนละอย่างกัน
00:04:04 → 00:04:07 ใช่มั้ยคะอาจารย์อ่าถ้าเป็น Holine ตัว
00:04:07 → 00:04:10 นั้นเนี่ยมันเป็นเชื้อที่เราเรียกชื่อ
00:04:10 → 00:04:14 เต็มๆนะก็คือเฮิโคเตอรไพโรรไลดตัวนั้นจะ
00:04:14 → 00:04:16 อยู่ในกระเพาะเราแล้วทำให้เปิดแผลใน
00:04:16 → 00:04:19 กระเพาะอือ่าที่ที่บอกว่าเรามีแผลใน
00:04:19 → 00:04:22 กระเพาะอะไรเกิดจากเอาลส่วนนึงนะไม่ใช่
00:04:22 → 00:04:25 ทั้งหมดค่ะส่วนอีคไลด์เนี่ยคือทำให้ให้
00:04:25 → 00:04:28 เกิดอาการท้องเสียจริงๆในตัวเรามันมีอยู่
00:04:28 → 00:04:30 แล้วแต่มันถ้ามันโตมากๆมันก็ทำให้ท้อง
00:04:30 → 00:04:34 เสียนะครับแต่ถ้าเราไปเจอในอาหารมันก็มา
00:04:34 → 00:04:37 เจริญเติบโตในตัวเราก็ทำให้ท้องเสียได้
00:04:37 → 00:04:40 เหมือนกันนะอาหารพวกนี้มีอะไรก็ส้มตำนะ
00:04:40 → 00:04:44 ได้ใส่ปูปลาร้านะฮะหรืออาหารหมักดองทั้ง
00:04:44 → 00:04:47 หลายก็จะมีกลุ่มพวกนี้นะคะเพราะฉะนั้นตรง
00:04:47 → 00:04:50 นี้ก็คือสาเหตุหลักๆแต่นี้เมื่อกี้บอกว่า
00:04:51 → 00:04:55 เชื้อตัวแรกคือเชื้อที่ไม่ก่อโรครุนแรง
00:04:55 → 00:04:58 แต่มันมีอีกชนิดนึงอีกชุดนึงคือเป็นเชื้อ
00:04:58 → 00:05:02 ก่อโรครุนแรงนะคะซึ่งได้แก่พวกเชื้อบิดนะ
00:05:02 → 00:05:05 คะเชื้อพวกไทฟอยนะฮะซึ่งเดี๋ยวนี้เจอน้อย
00:05:05 → 00:05:09 ละเชื้ออาฮิวาหรือว่าเชื้อท้องร่วงธรรมดา
00:05:09 → 00:05:13 พวกชิเกสมเนอะไรพวกเนี้ยซึ่งมันก็มีปัญหา
00:05:13 → 00:05:16 หรือว่าบางตัวได้จากอาหารทะเลนะเชื้อพวก
00:05:16 → 00:05:19 เนี้ยก็เป็นเชื้อก่อโรคนะฮเพราะงั้น
00:05:19 → 00:05:22 จำเป็นจะต้องรู้ที่มาว่าทำไมเราถึงท้อง
00:05:22 → 00:05:26 เสียนะเพราะฉะนั้นเวลาเราพูดถึงอาการท้อง
00:05:26 → 00:05:28 เสียเนี่ยเราอาจจะต้องกินยาล้างไปก่อน
00:05:28 → 00:05:32 ส่วนนึงแล้วก็เช็คว่าเรามายังไงแล้วก็ดู
00:05:32 → 00:05:35 ว่าเราอาการท้องเสียของเราเนี่ยมัน
00:05:35 → 00:05:37 กระเตื้องขึ้นมั้ยไม่กระเตื้องขึ้นเรา
00:05:37 → 00:05:39 ต้องไปโรงพยาบาลแล้วหรือยังอันนี้คือจุด
00:05:40 → 00:05:43 ที่จะต้องดูแลตัวเองค่ะอย่างงั้นขอบไปที
00:05:43 → 00:05:45 ละอันเลยค่ะอาจารย์ที่อาจารย์บอกว่า 1 ก็
00:05:45 → 00:05:47 คือรสเนาะเผ็ดกับเปรี้ยวอันนี้คือเรื่อง
00:05:47 → 00:05:49 ของอาหารการกินสมมุติถ้าเราท้องเสียจาก
00:05:49 → 00:05:51 เรากินอาหารเผ็ดกับเปรี้ยวเนี่ยเราดูแล
00:05:51 → 00:05:53 ตัวเองไงคะมันจะหยุดเองได้มั้คะอาจารย์
00:05:53 → 00:05:56 เออมันหยุดเองได้ค่ะแต่มันก็อาจจะเสีย
00:05:56 → 00:05:59 เวลาแล้วก็อาจจะมีปัญหาเนาะเพราะว่าอย่าง
00:05:59 → 00:06:03 กลุ่มคนที่จะมีปัญหามากเช่นคนที่อยู่ใน
00:06:03 → 00:06:06 วัยเค้าเรียกว่าวัยปิดตะหรือวัยวฟนะพูด
00:06:06 → 00:06:09 ง่ายๆในทางแผนไทยจะเรียกว่าวัยไฟ 16-32
00:06:09 → 00:06:10 ใช่ค่ะ
00:06:10 → 00:06:13 16-32 โดยเฉพาะผู้หญิงเด็กผู้หญิงที่
00:06:13 → 00:06:16 ท้องเสียง่ายเนี่ยจะกระทบกับระบบประจำ
00:06:16 → 00:06:19 เดือนอืนะคะเพราะว่าจะบางคนเนี่ยจะพบว่า
00:06:19 → 00:06:22 ประจำเดือนจะมาช้าหรือยืดยาวออกไปอีกถ้า
00:06:22 → 00:06:25 คุณท้องเสียในช่วงช่วงที่ใกล้ๆจะมีประจำ
00:06:25 → 00:06:28 เดือนหรือว่าก่อนจะมีประจำเดือนนะแต่บาง
00:06:29 → 00:06:32 คนเนี่ยอาการท้องเสียตรงนั้นมาจากการที่
00:06:32 → 00:06:36 ความร้อนในตัวเยอะเกินไปซึ่งอันนั้นเป็น
00:06:36 → 00:06:39 สิ่งที่ภาษาแผนปัจจุบันเรียกว่าพมstrual
00:06:39 → 00:06:42 syndrome นะฮอันนั้นเป็นอีกแบบนึงอนะคะ
00:06:42 → 00:06:45 เอ่อตัวนั้นเป็นอาการที่เป็นแผนไทยเราก็
00:06:45 → 00:06:49 จะเรียกว่าโลหิตปกติโทษนะคะก็คือมันเป็น
00:06:49 → 00:06:51 ธรรมดาอ่าเป็นธรรมดาซึ่งตรงนั้นไม่ต้อง
00:06:51 → 00:06:53 ไม่ต้องห่วงนะคะไม่ต้องรักษาพอประจำเดือน
00:06:53 → 00:06:56 หมดมันจะหายไปเองใช่ค่ะมันจะพอประจำเดือน
00:06:56 → 00:07:00 มามันก็หายแล้วค่ะนะคะทีนี้แต่ถ้าคนที่
00:07:00 → 00:07:02 ท้องเสียด้วยกินเผ็ดกินเปรี้ยวเป็นช่วง
00:07:02 → 00:07:05 ที่ก่อนก่อนเป็นช่วงกลางๆเดือนหรืออะไร
00:07:05 → 00:07:08 อย่างเงี้ยมันจะทำให้ความร้อนในตัวไม่พอ
00:07:08 → 00:07:11 ออแล้วประจำเดือนจะเลื่อนไปประจำเดือน
00:07:11 → 00:07:13 เลื่อนยาวๆไม่ดีค่ะไม่ดีต่อสุขภาพเพราะ
00:07:13 → 00:07:17 ระบบฮอร์โมนระบบความร้อนเราเนี่ยจำเป็น
00:07:17 → 00:07:19 ต้องอาศัยจากความอุ่นอยู่ความอุ่นคือ
00:07:19 → 00:07:21 สมมุติว่าเราเป็นผู้หญิงแล้วเราท้องเสีย
00:07:21 → 00:07:23 บ่อยเหมือนเดือนนึงสัก 2-3 ครั้งอย่าง
00:07:23 → 00:07:26 เงี้ยอันเนี้ยกระทบกับไฟแล้วทำให้ประจำ
00:07:26 → 00:07:29 เดือนมันลากยาวผิดปกติเป็นบ่อยๆไม่ดีต้อง
00:07:29 → 00:07:31 มารู้ะว่าทำไมเราถึงท้องเสียถูกผู้ชายก็
00:07:31 → 00:07:33 เหมือนกันค่ะผู้ชายเนี่ยต้องใช้พลังงาน
00:07:33 → 00:07:36 เยอะพอท้องเสียบ่อยๆเี่จะเห็นว่ากล้าม
00:07:36 → 00:07:39 เนื้อไม่แข็งแรงการใช้พลังงานมันก็มี
00:07:39 → 00:07:42 โอกาสที่จะน้อยลงได้นะคะมีปัญหาเยอะคง
00:07:42 → 00:07:45 ต้องดูก็คือสมมุติว่าเรารู้อ่ะว่าเออเรา
00:07:45 → 00:07:47 sensitive กับเห็ดกับเปรี้ยวหมาล่าอย่าง
00:07:47 → 00:07:49 เงี้ยเราอาจจะต้องเบาลงแล้วแล้วพอเรา
00:07:50 → 00:07:51 เลี่ยงอาหารแล้วนั้นมันก็มันก็ไม่เป็นและ
00:07:51 → 00:07:54 เราก็ไม่ต้องกินยาอะไรใช่ค่ะอืหรือว่าถ้า
00:07:54 → 00:07:58 บังเอิญมันอยากกินจริงๆเนาะแล้วหรือเปล่า
00:07:58 → 00:08:02 มันสังเอออะไรอย่างเงี้ยก็กลับมากินยาได้
00:08:02 → 00:08:06 ค่ะก็พยายามเอ่อมาปั๊บก็กินยาเลยพอทเริ่ม
00:08:06 → 00:08:08 ท้องเสียปั๊บกินยาเลยยาอะไรดีคะอาจารย์
00:08:08 → 00:08:11 เอ่อก็ใช้ยาเหลืองปิดสมุดนะคะซึ่งจริงๆ
00:08:12 → 00:08:13 แล้วยาเหลืองผิดสมุดเนี่ยเป็นยาสำหรับ
00:08:13 → 00:08:15 เด็กนะคะถ้าถ้าโบราณเนี่ยเค้าให้ใช้
00:08:16 → 00:08:18 สำหรับเด็กเล็กๆด้วยซ้ำไปเพราะว่าเด็ก
00:08:18 → 00:08:20 เนี่ยเป็นธาตุน้ำถ้าท้องเสียเยอะๆมันจะทำ
00:08:20 → 00:08:23 ให้ระบบในตัวเาเนี่ยขาดสมดุลแต่นี่เรา
00:08:23 → 00:08:25 เดี๋ยวนี้เราเอามาใช้กับผู้ใหญ่แล้วก็มา
00:08:25 → 00:08:28 ใช้ในเคสพวกเนี้ยมันจะทำให้เราหยุดอาการ
00:08:28 → 00:08:31 ท้องเสียได้เร็วอืนะคะแต่ก็ต้องระวังว่า 1
00:08:31 → 00:08:34 ขนาดที่ใช้ไม่ต้องเยอะค่ะกินยังไงดี
00:08:34 → 00:08:37 สมมุติอันนี้เม็ด 500 มลกัค่ะปกติก็จะให้
00:08:37 → 00:08:40 กินในขนาด 500-1,000 มลกรัแต่กรณีท้อง
00:08:40 → 00:08:43 เสียพวกเนี้ย 500 ถือว่าสูงสุดอ่ะค่ะนะคะ
00:08:43 → 00:08:45 อก็คือเม็ดเดียวพอเม็ดเดียวพอค่ะเม็ด
00:08:45 → 00:08:48 เดียวพอพอหลังจากหายทองเสียแล้วก็หันมา
00:08:48 → 00:08:51 กินยาที่กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้นิดนึง
00:08:51 → 00:08:53 เพราะตัวนี้จะทำให้การบีบตัวของลำไส้
00:08:53 → 00:08:56 เนี่ยลดลงเพราะมันมีรสฝาดเยอะนะคะเพราะ
00:08:56 → 00:08:59 งั้นก็ใช้ประสาทการพลูหรือถ้าไม่ใช้ประสา
00:08:59 → 00:09:02 การพลูก็ใช้น้ำต้มกะเพราอ่ะค่ะหลังจากตรง
00:09:02 → 00:09:05 เนี้ยทำให้ลำไส้มันเข้ามาสู่ภาวะปกติ
00:09:06 → 00:09:08 สังเกตได้อย่างี้ค่ะเวลากินน้ำกะเพราเข้า
00:09:08 → 00:09:10 ไปแล้วท้องมันจะอุ่นนั่นแปลว่าเราจะกลับ
00:09:10 → 00:09:14 เข้ามาสู่สมดุลเดิมได้ออก็คือสมมุติพอเรา
00:09:14 → 00:09:16 ท้องเสียปุ๊บเออมันเริ่มแบบออกเยอะอ่ะเรา
00:09:16 → 00:09:19 กินอันนี้ไปเม็ดนึงแล้วพออีกมื้อนึงเรา
00:09:19 → 00:09:22 อาจจะกินน้ำต้มใบกะเพราค่ะต่อได้เลยพวก
00:09:22 → 00:09:24 นี้ส่วนใหญ่เท่าที่เคยจ่ายมาเนี่ยฝืน
00:09:24 → 00:09:27 เดียวก็อยู่แล้วค่ะไม่ต้องกินมื้อที่ 2
00:09:27 → 00:09:30 แล้วค่ะมื้อแรกนะค่ะพอมันเ่อเริ่มเบาลง
00:09:30 → 00:09:32 เราก็กินน้ำกะเพราไม่ต้องกลัวว่ากินน้ำ
00:09:32 → 00:09:35 กะเพราแล้วมันจะท้องเสียอีกนะคนที่กิน
00:09:35 → 00:09:37 เผ็ดแล้วท้องเสียน้ำกะเพราไม่พอที่ทำให้
00:09:37 → 00:09:40 ท้องเสียค่ะเพราะมันเบามันเป็นความร้อน
00:09:40 → 00:09:42 ที่เบาและมันเป็นความร้อนที่ไปทำให้ลำไส้
00:09:42 → 00:09:46 เนี่ยบีบตัวได้ดีนะคะในแผนปัจจุบันเราก็
00:09:46 → 00:09:49 เคยทำงานวิจัยเราก็พบว่าพวกเนี้ยทำให้ลำ
00:09:49 → 00:09:52 ไส้เนี่ยลดการเกรงตัวแล้วก็มีการบีบตัว
00:09:52 → 00:09:55 เข้าจังหวะแบบจังหวะแบบเดิมแบบที่ปกติที่
00:09:55 → 00:09:58 เขา้าเป็นอยู่ค่ะออาจารย์สมมุติว่าที่
00:09:58 → 00:10:01 บ้านมีประสากะเพราเราเอามากินได้ใช่มั้ย
00:10:01 → 00:10:03 ใช่ได้ค่ะใช้ได้หรือว่าถ้าเกิดมีใบกะเพรา
00:10:03 → 00:10:06 ก็คือต้มน้ำนั่นแหละแล้วก็เด็ดใบกะเพราลง
00:10:06 → 00:10:09 ไปใช่ค่ะง่ายๆที่สุดคือน้ำ 1 แก้วต้มให้
00:10:09 → 00:10:11 เดือดเลยแล้วก็พอเดือดเสร็จก็เอาใบกะเพรา
00:10:11 → 00:10:14 เนี่ยฉีกๆซะหน่อยนึงนะคะสักประมาณ 1 กรั
00:10:14 → 00:10:18 มือนะฮะกินให้มันมีเอ่อรสเผ็ดๆนิดนึงนะ
00:10:18 → 00:10:20 ใส่ลงไปแล้วก็ปิดฝา
00:10:20 → 00:10:23 พอน้ำอุ่นแล้วก็ดื่มได้เลยค่ะอืโอเคนะคะ
00:10:23 → 00:10:26 อันนี้เป็นวิธีช่วยที่ทำให้เรากลับเข้า
00:10:26 → 00:10:29 สู่ภาวะปกติเร็วขึ้นนะคะอีกอันนึงค่ะ
00:10:29 → 00:10:33 อาจารย์เกลือแร่กับผงถ่านเอ่อที่จริง
00:10:33 → 00:10:37 เกลือแร่เนี่ยมันเป็นจุดที่แผนปัจจุบันจะ
00:10:37 → 00:10:40 แนะนำว่าเมื่อไหร่ท้องเสียเนี่ยต้องกิน
00:10:40 → 00:10:42 เกลือแร่ออเดี๋เพลียไงอ่าเดี๋ยวเพลียที่
00:10:42 → 00:10:45 จริงเนี่ยเอ่อการเพลียเนี่ยจะเกิดขึ้น
00:10:45 → 00:10:48 เมื่อเราถ่ายหลายๆครั้งเพราะฉะนั้นเมื่อ
00:10:48 → 00:10:50 เราถ่ายสัก 4-5 ครั้งแล้วเรายังไม่หาย
00:10:50 → 00:10:53 เนี้ยต้องกินเกินแล้วล่ะนะคะแต่ว่าอย่ารอ
00:10:53 → 00:10:56 นะถ้าคนที่ปกติถ่ายแล้วเรารู้ว่าไอ้เนี่ย
00:10:56 → 00:10:59 มัน 4-5 ครั้งถ้าครั้งที่ 2 ยังถ่ายอยู่
00:10:59 → 00:11:02 เนี่ยก็กินแรกเข้าไปหน่อยนึงแต่ตามปกติ
00:11:02 → 00:11:06 เท่าที่เคยเคยดูแลมาเนี่ยนะคะก็จะพบว่า
00:11:06 → 00:11:09 กินยาถ้ากินถูกนะคะแค่มื้อ 2 มื้ออ่ะค่ะ
00:11:09 → 00:11:11 รักษาหายเพราะท้องเสียเป็นอาการที่รักษา
00:11:11 → 00:11:14 ง่ายมากถ้ามันไม่ใช่ท้องเสียเพราะติด
00:11:14 → 00:11:17 เชื้อแบบรุนแรงที่บอกนะคะมันจะง่ายมากเลย
00:11:17 → 00:11:20 เพราะงั้นถ้าเมื่อไหร่ที่ท้องเสียแล้วคุณ
00:11:20 → 00:11:23 ทานยาเข้าไปแล้วเอ่อยาตัวนั้นเนี่ยกิน
00:11:23 → 00:11:25 เข้าไปแล้ว 2 มื้อไม่หายอาการรุนแรงขึ้น
00:11:25 → 00:11:29 นะคะอันนี้ให้รู้ว่ามันมีปัญหาอ่ะคำว่า
00:11:29 → 00:11:33 อาการรุนแรงขึ้นคืออะไรคือปวดบิดปวดบิด
00:11:33 → 00:11:36 ปวดมวลท้องเป็นระยะเลยนะคะบางคนพอปวดบิด
00:11:36 → 00:11:39 ปั๊บเข้าไปถ่ายปั๊บถายเหลวปรวดเลยนะคะ
00:11:39 → 00:11:42 หรือบางคนเนี่ยปวดบิดแล้วเข้าไปถ่ายไม่
00:11:42 → 00:11:45 ถ่ายค่ะมันบิดเหมือนจะถ่ายแต่ไม่ถ่ายบิด
00:11:45 → 00:11:47 เหมือนจะถ่ายไม่ถ่ายอันนี้ให้ระวังเรื่อง
00:11:47 → 00:11:49 บิดเพราะฉะนั้นพวกนี้จะต้องไปปรึกษาเพื่อ
00:11:49 → 00:11:52 ที่จะเอายาแผนปัจจุบันเข้ามาใช้นะคะเพราะ
00:11:52 → 00:11:55 ยาไทยจะไม่มียาที่ลดฆ่าเชื้อเรื่องคัชบิต
00:11:55 → 00:11:58 นะคะเพราะฉะนั้นก็ให้รู้ว่าถ้าอาการอย่าง
00:11:58 → 00:12:01 นี้ก็ควรจะไปต่อแต่ถ้าไม่มีอาการบิดอย่าง
00:12:01 → 00:12:04 นี้แต่ว่าปวดแล้วทายแล้วกินยาเข้าไป 2
00:12:04 → 00:12:07 ครั้งไม่หายอันนี้ก็ควรจะต้องรักษาด้วย
00:12:07 → 00:12:10 วิธีอื่นเหมือนกันทีนี้ยาอะไรล่ะถ้าเกิด
00:12:10 → 00:12:14 ถ่ายแล้วถ่ายเลวเลยนะคะอย่างเช่นที่เรา
00:12:14 → 00:12:17 บอกว่าเกิดจากการไปกินส้มตำมากินอาหารไป
00:12:17 → 00:12:20 หรือว่าบางคนกินขนมจีนนะคะเพราะขนมจีนมัน
00:12:20 → 00:12:22 จะมีขนมจีนหมักบางคนบอกว่าเมื่อไหร่กิน
00:12:22 → 00:12:25 ขนมจีนสดไม่เป็นแต่ขนมจีนหมักเป็นให้รู้
00:12:25 → 00:12:27 ว่านั่นคือเกิดจากเชื้อแต่ไม่ใช่เชื้อ
00:12:27 → 00:12:31 รุนแรงนะคะอเอ่อหรือว่าคนที่กินนมแล้ว
00:12:31 → 00:12:34 ท้องเสียพวกนั้นไม่ต้องใช้ยาเสริมปิดสมุด
00:12:34 → 00:12:38 ห้ามนะคะให้ใช้ปราสาทการพลูปราสาทการพลู
00:12:38 → 00:12:42 ก็เป็นยาแคปซูลที่ทานได้ก็เอ่อมื้อนึงก็
00:12:42 → 00:12:45 ประมาณ 1 กรัมนะฮะก็คือ 2 เม็ดส่วนใหญ่
00:12:45 → 00:12:48 แคปซูลก็ประมาณ 500 มกรัก็ 2 แคปซูลวัน
00:12:48 → 00:12:52 นึง 3 ครั้งแต่ปกติเท่าที่เคยจ่ายมาก็แค่
00:12:52 → 00:12:55 2 ครั้งก็หยุดละไม่มีปัญหาอะไรละก็จะ
00:12:55 → 00:12:57 ช่วยได้แล้วอย่างคนเป็นเบาหวานเนี่ยคนที่
00:12:57 → 00:13:00 เป็นเบาหวานเนี่ยอยู่ๆก็ท้องเสียนะคนเป็น
00:13:00 → 00:13:02 เบาหวานเนี่ยจะมีเดี๋ยวท้องเสียเดี๋ท้อง
00:13:02 → 00:13:04 ผู่ให้แก้ไปถ้าอยู่ๆท้องเสียคนเป็นเบา
00:13:05 → 00:13:08 หวานให้กินประสาการผูกก่อนอืค่ะถ้าเกิด
00:13:08 → 00:13:10 ท้องเสียจากอาหารเราไปกินเผ็ดกินเปรี้ยว
00:13:10 → 00:13:12 มาอันนี้ชัดเจนมันลิงก์เกดกันเรืองปิด
00:13:12 → 00:13:15 สมุดนะคะแต่ถ้าเอ้ยก็ไม่ได้กินเผ็ดกิน
00:13:15 → 00:13:17 เปรี้ยวนะรู้สึกเหมือนลำไส้ให้เราเองนี่
00:13:17 → 00:13:19 แหละที่มันแบบผิดปกติไม่สมดุลแล้วท้อง
00:13:20 → 00:13:22 เสียประสาทการรู้ก็คือให้ระวังว่าอย่างี้
00:13:22 → 00:13:25 ให้สังเกตว่าอาหารเราอ่ะมันมีโอกาสปน
00:13:26 → 00:13:28 เปื้อนเชื้อได้มยนะคะอย่างกรณีอย่างที่
00:13:28 → 00:13:31 พี่บอกว่า 1 ขนมจีนขนมจีนหมักนะหรืออัน
00:13:31 → 00:13:35 ที่ 2 ไปกินพวกลาบส้มตำก้อยอะไรพวกเนี้ย
00:13:35 → 00:13:37 ซึ่งมันมีโอกาสที่มีการปนเปื้อนเชื้อเยอะ
00:13:37 → 00:13:40 นะโดยเฉพาะที่ใส่ปูปลาร้าอะไรเงี้ยมันก็
00:13:40 → 00:13:42 มีเยอะแล้วเค้าก็บางทีไม่ได้ทำให้สุกหรือ
00:13:42 → 00:13:46 สุกก็ไม่ไม่หมดอ่ะค่ะนะคะตรงนี้ก็สงสัย
00:13:46 → 00:13:48 อย่างี้ให้กลิ่นประสาการก่อนเพราะว่า
00:13:48 → 00:13:51 เหลืองปิดสมุดเนี่ยมันยาฆ่าเชื้อมันน้อย
00:13:51 → 00:13:54 มันไม่มีตัวยาฆ่าเชื้อในขณะที่การพลู
00:13:54 → 00:13:57 เนี่ยเป็นยาที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อที่ค่อน
00:13:57 → 00:14:00 ข้างดีนะฮะอาจจะไม่ตีเท่าแผนปัจจุบันแต่
00:14:00 → 00:14:03 ว่าถ้าเทียบกันในหมู่สมุนไพรด้วยกันเนี่ย
00:14:03 → 00:14:06 เขาเป็น the ท็อปอ่ะอเ้าเป็นเเป็นตัวที่
00:14:06 → 00:14:09 ฆ่าเชื้อได้ดีระดับหนึ่งแต่ว่าก็กินระยะ
00:14:09 → 00:14:10 สั้นเหมือนเดิมใช่มั้คะอาจารย์ก็สั้น
00:14:11 → 00:14:13 เหมือนเดิมค่ะเพราะเมื่อไหร่อาการหายก็
00:14:13 → 00:14:16 หยุดค่ะอืนะคะซึ่งตรงนี้จะต่างจากแผน
00:14:16 → 00:14:18 ประชุมบนะกินยาแผนปัจจุบันที่เป็นพวก
00:14:18 → 00:14:21 แอนติบอติกนะพวกยาฆ่าเชื้อพวกนี้จะต้อง
00:14:21 → 00:14:25 กินติดต่อกันยาวใช่อย่างน้อย 3-5 วันอ่า
00:14:25 → 00:14:29 แต่ของการูเนี่ยก็คือเขาแค่ปรับเชื้อตรง
00:14:29 → 00:14:32 นั้นน่ะฮ่ะเชื้อที่มันเอ่อมีปัญหาน่ะให้
00:14:32 → 00:14:37 มันลดลงนะคะแล้วก็เพราะว่ามันใช้วิธีดุล
00:14:37 → 00:14:39 กันระหว่างเชื้อเชื้อก่อเชื้อเเรียกว่า
00:14:39 → 00:14:41 อะไรเชื้อดีกับเชื้อไม่ดีต้องว่าอย่าง
00:14:41 → 00:14:43 งั้นเนาะเพราะว่าในร่างกายเราเนี่ยมันมี
00:14:43 → 00:14:46 เชื้อดีกับเชื้อไม่ดีผลเวลาเรากินการปลูก
00:14:46 → 00:14:49 ไปเนี่ยเราเคยมีงานวิจัยว่าพวกการปลู่
00:14:49 → 00:14:52 เนี่ยมันฆ่าเชื้อไม่ดีแต่มันไม่ฆ่าเชื้อ
00:14:52 → 00:14:55 ดีอืนะเพราะฉะนั้นตอนตรงเนี้ยก็จะเป็นการ
00:14:55 → 00:14:57 ปรับดุลเอาว่าเชื้อไม่ดีออกก่อนแล้วให้
00:14:57 → 00:15:01 เชื้อดีเนี่ยมันเจริญเติบโตเองทีหลังโห
00:15:01 → 00:15:03 จริงๆมันมหัศจรรย์มากเลยอ่ะเออมันเป็น
00:15:03 → 00:15:05 สมุนไพรไทยที่พอมันรู้ถึงกลไกเราปุ๊บมัน
00:15:05 → 00:15:08 ดีมากกับอีกอันนึงค่ะอาจารย์เด็กค่ะเออ
00:15:08 → 00:15:10 เด็กท้องเสียบ่อยเด็กกินปราสากันพลูได้
00:15:10 → 00:15:13 มั้คะเออจริงๆไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะคะในใน
00:15:13 → 00:15:16 เด็กเนี่ยที่ไม่ค่อยค่อยแนะนำว่าให้กิน
00:15:16 → 00:15:20 เอ่อตรงนี้ตัวเด็กเนี่ยถ้าเป็นไปได้นะคะ
00:15:20 → 00:15:22 คือเกลือแรกอันนี้สำคัญเลยเพราะว่าเด็ก
00:15:22 → 00:15:24 เป็นธาตุน้ำอย่างที่เราคุยๆกันหลายๆครั้ง
00:15:24 → 00:15:27 อ่ะเราก็จะพบว่าเด็กเนี่ยน้ำเยิบฉะนั้น
00:15:27 → 00:15:31 เกลือแร่ได้นะคะส่วนเหลืองปิดสมุดถึงแม้
00:15:31 → 00:15:33 จะเป็นยาเด็กก็ตามเนี่ยแต่เนื่องจากว่า
00:15:33 → 00:15:38 ตอนเนี้ยถ้าถ้าเกิดถ่ายแล้วหยุดเลยนะคะ
00:15:38 → 00:15:42 มันก็อาจจะมีปัญหากับเด็กเหมือนกันนะคะ
00:15:42 → 00:15:45 เพราะว่าระบบลำไส้มันจะเจริญเติบโตไม่ได้
00:15:45 → 00:15:47 เพราะฉะนั้นเด็กเนี่ยให้ระวังเรื่องของ
00:15:47 → 00:15:51 เอ่อการขาดน้ำอย่างเดียวนะคะให้ให้เกลือ
00:15:51 → 00:15:53 แร่อย่างเดียวพอแล้วก็ถ้ามีอาการปวด
00:15:53 → 00:15:57 รุนแรงอันนี้ไปหาหมอแผนปัจจุบันเลยค่ะนะ
00:15:57 → 00:16:00 คะยังไม่แนะนำให้ใช้ยาเหลืองปิดสมุดอืนะ
00:16:00 → 00:16:03 คะมีที่อาจารย์เคยพูดหลังไมค์เมื่อกี้ว่า
00:16:03 → 00:16:06 เด็กช่วงยืดตัวอ่าเด็กช่วงยืดตัวเนี่ย
00:16:06 → 00:16:09 เป็นช่วงที่ถ่ายเหลวเพื่อจะปรับเชื้อ
00:16:09 → 00:16:12 สมดุลเชื้อจริงๆแล้วเนี่ยไม่จำเป็นต้องไป
00:16:12 → 00:16:15 ใช้ยาอะไรนะคะอืหายไปเให้เองค่ะเให้เอง
00:16:15 → 00:16:18 เป็นการปรับเชื้อของเขาว่าเชื้อของเา้า
00:16:18 → 00:16:20 เนี่ยจะต้องปรับเชื้อบางส่วนออกนะเอา
00:16:20 → 00:16:22 เชื้อแบบที่เจริญเติบโตแบบผู้ใหญ่เข้ามา
00:16:22 → 00:16:25 แทนนะฮะอันนี้ก็คือเป็นการปรับสมดุลโดย
00:16:25 → 00:16:28 ธรรมชาติค่ะอืโอเคเพราะงั้นในเรื่องท้อง
00:16:28 → 00:16:31 เสียเนี่ยการที่จะไประมัดระวังดูแลเนี่ย
00:16:31 → 00:16:34 เราดูอาการเป็นสำคัญอันที่ 1 นะเราต้อง
00:16:34 → 00:16:36 รู้ว่านี่มันเกิดด้วยการธรรมชาติอย่าง
00:16:36 → 00:16:39 เช่นที่บอกว่าเด็กท้องเสียตอนนี้ตั๋วกับ
00:16:39 → 00:16:43 อันที่ 2 เนี่ยเอ่อผู้หญิงที่มีอาการท้อง
00:16:43 → 00:16:46 เสียก่อนมีประจำเดือนที่เรียกว่าพstrual
00:16:46 → 00:16:48 syndrome นะอกลุ่มพวกนั้นก็ไม่ต้องไป
00:16:49 → 00:16:51 ยุ่งอะไรกับเขาเพราะว่านั่นคือระบบ
00:16:51 → 00:16:54 ธรรมชาติของเขาแต่ถ้าท้องเสียนอกจากช่วง
00:16:54 → 00:16:57 พวกนี้เนี่ยแล้วเนี่ยเราค่อยรักษานะคะและ
00:16:57 → 00:17:00 การรักษาเนี่ยก็ให้ดูว่าจริงๆแล้วเนี่ย
00:17:00 → 00:17:03 ธาตุเดิมมันเป็นยังไงเพราะอย่างกลุ่มคน
00:17:03 → 00:17:06 ที่บอกว่าวัยปิดตะ 16-32 เมื่อกี้ที่เรา
00:17:06 → 00:17:09 พูดกันเยอะๆเนี่ยกลุ่มพวกนี้ถ้าเราให้ยา
00:17:09 → 00:17:12 หยุดถ่ายไปมากๆเนี่ยไปมีปัญหากับเขาเพราะ
00:17:12 → 00:17:15 ว่าเขาต้องการธาตุไฟเข้ามาในการทำงาน
00:17:15 → 00:17:18 เหมือนกันเพราะพอไปเบรกปั๊บเนี่ยธาตุไฟเ
00:17:18 → 00:17:22 ตามมาปกติแล้วการทำงานเ้าก็จะไม่ดีอืนะ
00:17:22 → 00:17:25 เพราะฉะนั้นก็ให้ให้คิดถึงว่ากินแค่สัก
00:17:25 → 00:17:28 2-3 ครั้งแล้วเดี๋ยวสักพักมันก็หายเอง
00:17:28 → 00:17:32 และตามปกติตามประสบการณ์นะจริงๆแล้วท้อง
00:17:32 → 00:17:34 เสียเนี่ยรักษาง่ายแค่มื้อหรือ 2 มื้อก็
00:17:34 → 00:17:37 หายแล้วค่ะถ้า 2 มื้อไม่หายอาการเพิ่ม
00:17:37 → 00:17:39 ขึ้นนั่นถือว่าเรื่องใหญ่ละควรจะต้องได้
00:17:39 → 00:17:43 รับการรักษาที่เอ่อโดยมือของที่เหนือไป
00:17:43 → 00:17:47 อีกนะคะไม่ควรจะต้องรักษาตัวเองละค่ะโอ
00:17:47 → 00:17:50 ได้ประโยชน์มากๆเลยค่ะอาจารย์คือมันทำให้
00:17:50 → 00:17:52 เห็นว่าจริงๆแล้วถ้าเกิดว่าเรารู้เนาะ
00:17:52 → 00:17:54 อันเนี้ยกลับมาเรื่องสังเกตตัวเองอีกะว่า
00:17:54 → 00:17:57 เราท้องเสียเพราะอะไรขอแค่เราสังเกตจน
00:17:57 → 00:17:59 กระทั่งรู้เถอะหลังจากนั้นน่ะแดงว่าเราดู
00:17:59 → 00:18:01 แลตัวเองได้และไม่กลับให้เราท้องเสียซำ
00:18:01 → 00:18:04 ซ้อนนะคะส่วนยาที่ควรมีติดบ้านแดงก็วาดยา
00:18:04 → 00:18:07 ไทยๆที่ดีมากๆเลยอ่ะอาจจะมีเหลืองติด
00:18:07 → 00:18:09 เหลืองปิดสมุดติดไว้อาจจะมีปราสาทการพลู
00:18:09 → 00:18:12 นะคะแล้วก็อาจน้ำต้มใบกะเพราก็มีอยู่ทุก
00:18:12 → 00:18:14 บ้านอยู่แล้วนะคะลองนำเหล่าเนี้ยมาใช้
00:18:14 → 00:18:17 แล้วก็กินระยะสั้นปรับต้นเหตุคุณจะได้ไม่
00:18:17 → 00:18:20 มีอาการท้องเสียเรือรังมากวนใจเอ่อคราว
00:18:20 → 00:18:22 นี้เมื่อกี้นี้หมอแดงพูดถึงน้องเสียเรือ
00:18:22 → 00:18:25 สั่งเราจะเ่อมาดูสังเกตดูนะคะเพราะท้อง
00:18:25 → 00:18:27 เสียเมื่อกี้มันไม่ใช่ท้องเสียหลังที่เรา
00:18:27 → 00:18:29 พูดกันเนี่ยนะมันคือท้องเสียเพราะธาตุ
00:18:29 → 00:18:32 หนักธาตุเบานะคะเป็นท้องเสียที่เกิดขึ้น
00:18:32 → 00:18:34 ธรรมชาติในชีวิตประจำวันแต่มันจะมีอยู่
00:18:34 → 00:18:38 กลุ่มคนประเภทนึงคือท้องเสียเรืเรื้อรัง
00:18:38 → 00:18:41 อืคือถ่ายทุกวันถ่ายบ่อยถ่ายจนกระทั่งว่า
00:18:42 → 00:18:45 น้ำหนักลดลงอ่ะนะคะพี่เคยเจอซึ่งคนพวก
00:18:45 → 00:18:47 เนี้ยอันแรกเลยเราสงสัยเรื่องมะเร็งก่อน
00:18:47 → 00:18:49 นะคะเพราะฉะนั้นถ้าเมื่อไหร่ที่คุณมี
00:18:49 → 00:18:52 อาการท้องเสียกินยาเท่าไหร่ก็ไม่หายกิน
00:18:52 → 00:18:54 แบบเนี้ยไม่หายนะคะแล้วมันติดกันบ่อยมาก
00:18:55 → 00:18:57 เลยอาจจะเป็นทุกวันหรืออาจจะเป็นวันเว้น
00:18:57 → 00:18:59 วันหรืออะไรอย่างเงี้ยเรียกว่าเยอะมากใน
00:18:59 → 00:19:01 อาทิตย์นึงคุณถ่ายประมาณ 3 ครั้ง 4 ครั้ง
00:19:01 → 00:19:04 อ่ะอืคุณต้องไปพบหมอก่อนนะอันที่ 1 หาให้
00:19:04 → 00:19:07 ได้ก่อนว่ามันคือสาเหตุอะไรนะคะเราเคยเจอ
00:19:07 → 00:19:10 ว่าหาไปจนหมดไม่มีสาเหตุแล้วไม่เจอสาเหตุ
00:19:10 → 00:19:13 เลยแล้วก็แผนปัจจุบันก็รักษาจนสุดท้ายก็
00:19:13 → 00:19:15 ไม่รู้จะทำยังไงเพราะว่าพอกินปุ๊บถ่าย
00:19:15 → 00:19:18 ปั๊บกินปุ๊บถ่ายปั๊บน้ำหนักก็ลดลงเรื่อยๆ
00:19:18 → 00:19:22 จนไม่มีอะไรแล้วอันเนี้ยให้ลองใช้ยาธาตุ
00:19:22 → 00:19:26 บรรจบนะถ้าไม่แน่ใจว่าคืออะไรแน่ๆให้มา
00:19:26 → 00:19:28 ใช้ยาธาตุบรรจบเพราะยาธาตุบรรจบเนี่ยมัน
00:19:28 → 00:19:32 เป็นยาไทยที่ไม่ได้ลดการถ่ายแต่เป็นการลด
00:19:32 → 00:19:36 ทำให้ลำไส้เนี่ยมันมีความชุ่มชื้นมากขึ้น
00:19:36 → 00:19:40 เพราะยาท่านจบจะมีตัวยาสมอไทยซึ่งจะดึง
00:19:40 → 00:19:43 น้ำออกมาทำให้มีน้ำอยู่ในลำไส้และไส้ไม่
00:19:43 → 00:19:47 แห้งนะคะเอ่อก็เคยเจอเคสพวกเนี้ยอาจจะยัง
00:19:47 → 00:19:49 ไม่เยอะมากพอใช้ยาธาตุมันจบแล้วอาการดี
00:19:49 → 00:19:53 ขึ้นนะคะก็ก็ลองดูค่ะว่าถ้าเกิดท้องเสีย
00:19:53 → 00:19:55 เรือรังระยะยาวแบบนี้แต่ต้องหาก่อนไม่มี
00:19:55 → 00:19:59 สาเหตุแน่นอนนะไม่มีปัญหาอะไรที่จะทำให้
00:19:59 → 00:20:01 คุณมีปัญหาถึงแก่ชีวิตนะแล้วคุณรักษายัง
00:20:01 → 00:20:04 ไงก็ไม่หายกวนใจลองใช้ยาธาตุเป็นจบนะคะ
00:20:05 → 00:20:07 อ่าโอเคค่ะโอ้วันนี้เคลียร์เลยจริงๆแดง
00:20:07 → 00:20:09 ได้คำถามมาตลอดค่ะอาจารย์ว่าเคสท้องเสีย
00:20:10 → 00:20:13 เนี่ยมันมีแทบรรจบมีเหลืองปิดสมุดมีประสา
00:20:13 → 00:20:15 การพลูเราควรจะหยิบเลือกใช้ยังไงวันนี้
00:20:15 → 00:20:18 ได้คำตอบจากอาจารย์ทั้ง 3 ขนาดเลยนะคะก็
00:20:18 → 00:20:21 ไปหามาติดบ้านไปได้ค่ะส่วนใครที่มีคนใกล้
00:20:21 → 00:20:23 ตัวมีปัญหาเรื่องท้องเสียแสดงว่าน่าจะได้
00:20:23 → 00:20:26 คำตอบจากเคสวันนี้มีอยู่ประเด็นนึงค่ะพี่
00:20:26 → 00:20:30 ลืมก็คือท้องเสียจากความเครียดพี่เจอลูก
00:20:30 → 00:20:32 ศิษย์พี่ท้องเสียจะเครียดถ้าเป็นแผน
00:20:32 → 00:20:35 ปัจจุบันเก็จะจ่ายยาตัวนึงที่เรียกว่า
00:20:35 → 00:20:38 ปรมยายนะคะเพื่อลดอ่าเพื่อให้ลดความถ่าย
00:20:38 → 00:20:42 เพราะว่าสิทพี่เวลาจะสอบท้องเสียเพราะว่า
00:20:42 → 00:20:44 บางคนก็เสียคนก็ถูกเออแต่ส่วนแต่ส่วน
00:20:44 → 00:20:46 หนึ่งท้องเสียเพราะฉะนั้นคนที่ท้องเสีย
00:20:46 → 00:20:49 ตรงเนี้ยจริงๆแล้วกินฟ้าทลายโจรได้ค่ะนะ
00:20:49 → 00:20:52 คะกินฟ้าไทยโจรมื้อ 2 มื้อเท่านั้นเองอ่ะ
00:20:52 → 00:20:56 ค่ะพอนะฟ้าไทยโจรจะออกลึกคล้ายๆกับโลมาย
00:20:56 → 00:21:00 ค่ะอืโอเคค่ะแล้วโดารก็ 500 มลกรัมค่ะ 500
00:21:00 → 00:21:03 มกัเท่านั้นเองวันละ 3 ครั้งกินแค่ไม่
00:21:03 → 00:21:06 เกินวันนึงอ่ะค่ะน่าจะดีแล้วค่ะอืแล้วพอ
00:21:06 → 00:21:10 สอบเสร็จก็ลดความคิดหายไปก็หายแล้วเมื่อ
00:21:10 → 00:21:12 ไหร่เค้าท้องเสียเครียดก็กินไปเท่านั้น
00:21:12 → 00:21:15 เองค่ะเออออได้มาอีกสาเหตุนึงซึ่งก็จริง
00:21:15 → 00:21:17 ค่ะอาจารย์เออกองเครียดไม่เข้าใครออกใคร
00:21:17 → 00:21:20 เออได้เลยค่ะวันนี้ก็ขอบคุณอาจารย์นะคะ
00:21:20 → 00:21:23 ที่มาให้ความรู้นะคะเคลียร์คัทมากๆใครที่
00:21:23 → 00:21:25 มีคนที่มีอาการอยู่ส่งไปให้เขาเลยค่ะเขา
00:21:25 → 00:21:28 จะได้หายจากอาการนี้นะคะแล้วเดี๋ยวครั้ง
00:21:28 → 00:21:30 ต่อไปก็ยังคงอยู่ที่เรื่องท้องนะคะกลับมา
00:21:30 → 00:21:33 พบกันวันจันทร์หน้าจะเป็นอะไรเดี๋เรามา
00:21:33 → 00:21:35 ติดตามนะคะวันนี้แดงกับอาจารย์ก็ขอลาไป
00:21:36 → 00:21:38 ก่อนค่ะบ๊ายบายค่ะสวัสดี
00:21:38 → 00:21:54 [เพลง]