00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับวันนี้เราจะมาพูดคุยกันเกี่ยว
00:00:03 → 00:00:06 กับงานวิจัยที่น่าสนใจที่ศึกษาผลกระทบของ
00:00:06 → 00:00:09 อาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูงต่อสมองของ
00:00:09 → 00:00:12 มนุษย์ซึ่งทำวิจัยโดยนักวิจัยจาก Max
00:00:12 → 00:00:14 pank institute for metabolism
00:00:14 → 00:00:17 Research ในเมืองโคโลนประเทศเยอรมันนี
00:00:18 → 00:00:21 และมีการร่วมมือกับทีมจากมหาวิทยาลัยเยล
00:00:21 → 00:00:24 ในสหรัฐอเมริกาโดยงานวิจัยนี้เนี่ยทำการ
00:00:24 → 00:00:27 ทดลองกับอาสาสมัครที่มีน้ำหนักปกติโดย
00:00:27 → 00:00:30 แบ่งเป็น 2 กลุ่มกลุ่มแรกให้กินพุดดิ้ง
00:00:30 → 00:00:33 ที่มีไขมันและน้ำตาลสูงทุกวันเป็นเวลา 8
00:00:33 → 00:00:36 สัปดาห์ส่วนกลุ่มที่ 2 เนี่ยจะให้กิน
00:00:36 → 00:00:38 พุดดิ้งที่มีแคลอรีเท่ากันแต่ไขมันน้อย
00:00:39 → 00:00:43 กว่านะครับผลลัพธ์ที่น่าสนใจคือหลังจาก 8
00:00:43 → 00:00:45 สัปดาห์กลุ่มที่กินพุดดิ้งที่มีไขมันและ
00:00:45 → 00:00:48 น้ำตาลสูงเนี่ยแสดงการเพิ่มขึ้นอย่างมี
00:00:48 → 00:00:51 ระยะสำคัญในการตอบสนองของสมองต่ออาหารที่
00:00:51 → 00:00:55 มีไขมันและน้ำตาลสูงนะครับนั่นแสดงให้
00:00:55 → 00:00:57 เห็นว่าสมองเรียนรู้ที่จะชอบอาหารที่มีไข
00:00:57 → 00:01:00 มันและน้ำตาลสูงโดยไม่รู้ตัวนะครับนัก
00:01:00 → 00:01:03 วิจัยได้อธิบายว่าการตอบสนองที่เพิ่มขึ้น
00:01:03 → 00:01:07 นี้เนี่ยเกิดขึ้นเฉพาะในระบบดานิซึ่งเป็น
00:01:07 → 00:01:10 ระบบในสมองที่รับผิดชอบต่อแรงจูงใจและ
00:01:10 → 00:01:13 รางวัลนะครับและนักวิจัยยังคาดว่าการ
00:01:13 → 00:01:16 เพิ่มน้ำตาลและไขมันในอาหารอาจกระตุ้น
00:01:16 → 00:01:19 สมองให้หลั่งโดพามีนมากขึ้นซึ่งเป็นสาร
00:01:19 → 00:01:22 สื่อประสาทที่ทำให้เกิดความรู้สึกพึงพอใจ
00:01:22 → 00:01:25 นั่นเองนะครับงานวิจัยนี้เนี่ยจึงช่วย
00:01:25 → 00:01:28 อธิบายได้ว่าทำไมเราถึงชอบอาหารที่มีไข
00:01:28 → 00:01:32 มันและน้ำตาลสุกนั่นเองนะครับและเมื่อผม
00:01:32 → 00:01:34 ลองมาสังเกตพฤติกรรมการกินของตัวเองเนี่ย
00:01:35 → 00:01:38 โดยปกติผมจะกินอาหารแบบเดิมๆซ้ำๆและจะมี
00:01:38 → 00:01:41 ให้รางวัลตัวเองนิดนึงในแต่ละวันนะครับ
00:01:41 → 00:01:44 คือจะกินค่อนข้างคลีนแต่ไม่คลีนจ๋าและมี
00:01:44 → 00:01:48 กินขนมนิดๆหน่อยๆแต่เมื่อทำแบบนี้ไปนานๆ
00:01:48 → 00:01:51 เนี่ยผมจะรู้สึกอยากขนมมากขึ้นทุกๆวันนะ
00:01:51 → 00:01:54 ครับอย่างผมจะชอบกินช็อกโกแลตปกติผมก็จะ
00:01:54 → 00:01:57 กำหนดไว้ว่าจะกินในปริมาณเท่านี้คือจบแต่
00:01:57 → 00:02:00 เมื่อผ่านไปนานๆเนี่ยมันก็เริ่มทนคไม่ไหว
00:02:00 → 00:02:03 นะครับเริ่มมีไปหยิบกินคุกกี้บ้างแม่ซื้อ
00:02:03 → 00:02:06 ปลานงโกยัดไส้สังขยาไส้นมข้นมาไอ้เราก็
00:02:06 → 00:02:10 ชอบซะด้วยสิทีนี้ก็ว้าวุ่นเลยนะครับก็ขอ
00:02:10 → 00:02:13 กินสักหน่อยแล้วผมยังกินโดยที่ผมเนี่ยก็
00:02:13 → 00:02:16 ไม่ได้รู้สึกหิวอะไรขนาดนั้นด้วยเพราะว่า
00:02:16 → 00:02:18 ก่อนกินขนมเนี่ยผมก็จะกินข้าวที่มีทั้ง
00:02:18 → 00:02:21 เนื้อสัตว์และผักเยอะพอสมควรอยู่แล้วนะ
00:02:21 → 00:02:24 ครับแต่ผมก็ยังโหยของหวัอยู่ดีที่เป็น
00:02:24 → 00:02:26 อย่างนี้เนี่ยอาจจะเป็นเพราะว่าเมื่อเรา
00:02:26 → 00:02:29 กินขนมหรืออาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง
00:02:29 → 00:02:32 เข้าไปเนี่ยร่างกายก็จะหลั่งโดพามีนซึ่ง
00:02:32 → 00:02:34 เป็นสารสื่อประสาทที่ทำให้เกิดความรู้สึก
00:02:34 → 00:02:38 พึงพอใจและทำให้มีความสุขในระยะสั้นๆได้
00:02:38 → 00:02:40 ซึ่งดูแล้วโดพามีนเนี่ยอาจดูไม่อันตราย
00:02:40 → 00:02:43 ใช่ไหมมครับแต่จริงๆถ้าเราทำให้ร่างกาย
00:02:43 → 00:02:46 หลั่งโดพามีนบ่อยๆจะกลายเป็นว่าเราเนี่ย
00:02:46 → 00:02:49 จะเสพติดมันนะครับอย่างที่บอกไปโดพามีน
00:02:49 → 00:02:52 เนี่ยจะทำให้เรามีความสุขแต่มันก็อยู่ได้
00:02:52 → 00:02:54 แค่แป๊บเดียวนะครับเลยทำให้เราเนี่ยอยาก
00:02:54 → 00:02:57 จะมีความสุขแบบนี้เรื่อยๆนะครับนั่นเลย
00:02:57 → 00:02:59 เป็นสาเหตุที่เมื่อเราให้รางวัลตัวเอง
00:02:59 → 00:03:02 ด้วยของหวานก็จะทำให้เราเนี่ยอยากที่จะ
00:03:02 → 00:03:05 กินมันมากขึ้นเรื่อยๆในทุกๆวันนะครับนอก
00:03:05 → 00:03:08 จากโดพามีนแล้วน้ำตาลและไขมันยังส่งผลต่อ
00:03:09 → 00:03:12 สารสื่อประสาทอื่นๆอีกนะครับอย่างเช่น
00:03:12 → 00:03:15 เซโรโทนินซึ่งมีหน้าที่ในการควบคุมอารมณ์
00:03:15 → 00:03:18 และการควบคุมตัวเองนะครับน้ำตาลและไขมัน
00:03:18 → 00:03:21 อาจส่งผลให้ระดับเซโรโทนินลดลงซึ่งอาจทำ
00:03:21 → 00:03:24 ให้อารมณ์แปรปรวนและทำให้ความอยากอาหาร
00:03:24 → 00:03:27 เพิ่มขึ้นได้นั่นเองนะครับและเมื่อเราพูด
00:03:27 → 00:03:31 ถึงการกินอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูงเรา
00:03:31 → 00:03:34 ก็มักจะคอยระวังแค่ปริมาณหรือแคลอรี่ใน
00:03:34 → 00:03:37 แต่ละวันซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ดีและควรทำ
00:03:37 → 00:03:39 อยู่แล้วนะครับแต่เราอาจจะต้องระวัง
00:03:39 → 00:03:41 ปัจจัยอื่นเพิ่มเติมขึ้นมาอีกนะครับนั่น
00:03:41 → 00:03:45 ก็คือความถี่ในการกินอาหารที่มีไขมันและ
00:03:45 → 00:03:47 น้ำตาลสูงนั่นเองเพราะถ้าเราให้รางวัลตัว
00:03:47 → 00:03:50 เองด้วยอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูงทุกๆ
00:03:50 → 00:03:53 วันแม้จะปริมาณไม่มากก็ตามนะครับก็อาจทำ
00:03:53 → 00:03:56 ให้เราเสพติดอยากที่จะกินมันในทุกๆวันและ
00:03:56 → 00:03:59 อาจจะมากขึ้นทุกๆวันจนเราหยุดไม่อยู่เลย
00:03:59 → 00:04:02 ก็ได้นะนะครับทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละ
00:04:02 → 00:04:05 คนด้วยนะครับบางคนอาจจะควบคุมตัวเองในการ
00:04:05 → 00:04:08 กินได้ดีเลยสามารถกินขนมหรืออาหารที่มีไข
00:04:08 → 00:04:12 มันและน้ำตาลสูงในปริมาณที่พอเหมาะได้แต่
00:04:12 → 00:04:14 สำหรับบางคนที่ติดการกินของเหล่านี้ใน
00:04:14 → 00:04:17 ปริมาณมากๆเป็นประจำทุกวันเนี่ยและอยากจะ
00:04:17 → 00:04:20 ลองควบคุมการกินดูบ้างอาจจะต้องพิจารณา
00:04:20 → 00:04:23 ค่อยๆลดปริมาณและความถี่ในการกินลงนะครับ
00:04:23 → 00:04:26 แล้วเพิ่มการกินอาหารจานหลักให้มากขึ้น
00:04:26 → 00:04:29 เพิ่มผักและเนื้อสัตว์มากขึ้นหน่อยก็จะทำ
00:04:29 → 00:04:32 ทำให้เราเนี่ยอิ่มนานช่วยลดความอยากของ
00:04:32 → 00:04:35 หวานของเราได้นั่นเองนะครับสุดท้ายนี้
00:04:35 → 00:04:38 ต้องขอขอบคุณท่านผู้ชมท่านผู้ฟังที่ติด
00:04:38 → 00:04:42 ตามกันจนมาถึงตอนนี้แล้วเจอกันใน Episode
00:04:42 → 00:04:48 ต่อไป
00:04:48 → 00:04:51 ครับ