00:00:00 → 00:00:03 This Is tha PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:10 Voice รักต่างเพศหรือเทรกในภาษาอังกฤษก็
00:00:10 → 00:00:14 คือกลุ่มคนที่มีรสนิยมชื่นชอบเพศตรงข้าม
00:00:14 → 00:00:17 หรือบุคคลต่างเพศกับตัวเองรักเพศเดียวกัน
00:00:17 → 00:00:21 หรือโฮโมเซ็กชวลคนที่มีรสนิยมชื่นชอบเพศ
00:00:21 → 00:00:25 เดียวกันนักจิตวิทยาหรือว่าจิตแพทย์หรือ
00:00:25 → 00:00:28 อะไรหลายๆคนเนี่ยก็ออกมายืนยันว่ากลุ่มเ
00:00:28 → 00:00:31 นะค่ะจะให้เขากลับมาลักเพศตรงข้ามเี่เป็น
00:00:31 → 00:00:33 เรื่องยากมากเพราะฉะนั้นรสนิยมทางเพศ
00:00:33 → 00:00:36 เนี่ยเรามักจะปรากฏนะคะตั้งแต่วัยเด็กก็
00:00:36 → 00:00:38 คือช่วงประถมอายุ 8 -ถ 11 เนี่ยมันจะ
00:00:38 → 00:00:42 เริ่มจะเริ่มแสดงออกแลค่ะแล้วก็จะเห็นได้
00:00:42 → 00:00:46 ชัดมากขึ้นก็คือในช่วงวัยรุ่นตอนต้นนะ
00:00:46 → 00:00:50 คะฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทยฟัง
00:00:50 → 00:00:55 รายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ is
00:00:55 → 00:00:56 to
00:00:56 → 00:01:00 pbsc วันนี้นะคะคุณผู้ฟังก็จะได้ติดตาม
00:01:00 → 00:01:04 รับฟังกันถึงเรื่องของเซกนะคะคืออะไรอ่า
00:01:04 → 00:01:06 ที่เรานิยามไว้เหมือนกับว่าเป็นเรื่องของ
00:01:06 → 00:01:09 รักต่างเพศรักเพศแล้วรักเพศเดียวกันได้
00:01:09 → 00:01:12 ไหมสำหรับสิ่งที่เราจะคุยกันในวันนี้แล้ว
00:01:12 → 00:01:15 ิรกนี่คืออะไรนะคะเดี๋ยวพูดคุยกับผู้ช่วย
00:01:15 → 00:01:18 ศาสตราจารย์ดรจันท์วิภาดิลกสัมพันธ์ผู้
00:01:18 → 00:01:21 ทรงคุณวุฒิมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จ
00:01:21 → 00:01:23 เจ้าพระยาผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์
00:01:23 → 00:01:25 และครอบครัวคะสวัสดีค่ะอาจารย์คะค่ะ
00:01:26 → 00:01:28 สวัสดีค่ะสวัสดีค่ะท่านผู้ฟังทุกท่านค่ะ
00:01:28 → 00:01:31 ค่ะอันนี้คงต้องให้อาจารย์ให้ความรู้กับ
00:01:31 → 00:01:35 คุณผู้ฟังในวันนี้ว่าคำว่าเทรกนะคะรัก
00:01:35 → 00:01:40 ต่างเพศแล้วรักเพศเดียวกันได้ยนะคะเดี๋ยว
00:01:40 → 00:01:42 นี้นิยามของคำว่าเอ่อเรื่องของเพศเนี่ยโอ
00:01:42 → 00:01:45 หลากหลายมากนะคะมีศัพท์ใหม่ๆเกิดขึ้นเยอะ
00:01:45 → 00:01:49 เยอะยก็แล้วแต่ว่าจะนิยามกันอย่างไรนะคะ
00:01:49 → 00:01:52 แต่โดยทั่วไปเนี่ยเอ่อจารภาขออนุญาตปู
00:01:52 → 00:01:55 พื้นฐานก่อนสำหรับท่านผู้ฟังที่ยังไม่
00:01:55 → 00:01:57 ค่อยเข้าใจหรือสับสนเกี่ยวกับเรื่องพวก
00:01:57 → 00:02:01 นี้นะคะตามที่เขาให้คำนี้ยามไว้นะคะที่
00:02:01 → 00:02:04 เป็นสากลเนาะนะคะให้ได้เข้าใจกันก่อนก็
00:02:04 → 00:02:09 คือ l g B T Q อ่านะฮะแล้วเดี๋ยวนี้
00:02:09 → 00:02:12 ยังมีพัอีก Plus ที่แปลว่าบวกและอื่นๆน่ะ
00:02:12 → 00:02:16 นะคะค่ะเพราะฉะนั้น lgbt Q เนี่ยก็คือ
00:02:16 → 00:02:19 ความหลากหลายทางเพศนะคะเรามาดูทีละตัว
00:02:19 → 00:02:22 ก่อนจะได้เข้าใจเพื่อที่จะปูพื้นฐานไปที่
00:02:22 → 00:02:27 รสนิยมทางเพศนะคะที่เราจั่วหัวข้อของเรา
00:02:27 → 00:02:30 ไว้ก็คือเทรกเนี่ยมันคืออะไรนะคืออย่าง
00:02:30 → 00:02:34 เมื่อก่อนก็จะมีแค่แบบว่าผู้ชายผู้หญิง
00:02:34 → 00:02:37 ค่ะทอมดี้ค่ะขออภัยค่ะอันนี้อาจจะต้องขอ
00:02:37 → 00:02:40 ใช้คำนี้นิดนึงตุ๊ดเกอะไรอย่างเงี้ยก็ก็
00:02:40 → 00:02:43 จะพื้นฐานเบสิคทั่วไปแต่เดี๋ยวนี้ก็มีค
00:02:43 → 00:02:46 ค่ะเราเราจัดมาต่างกันด้วยนะฮะต้องมาดู
00:02:46 → 00:02:50 นิยามศัพท์สากลซะก่อนนะฮะค่ะเอ่อ
00:02:50 → 00:02:53 lgbtq เนี่ยนะคะตัวแรกเลยคือตัว L เนี่ย
00:02:53 → 00:02:56 มาจากคำว่าเลสเบียนนะคะก็คือพูดง่ายๆคือ
00:02:56 → 00:03:00 กลุ่มที่ผู้หญิงรักผู้หญิงอือนะคะตัวที่ 2
00:03:00 → 00:03:04 คือตัว G มาจากคำว่าเกนะคะก็คือกลุ่มผู้
00:03:04 → 00:03:09 ชายรักผู้ชายนะคะ B มาจากคำว่า bisexual
00:03:09 → 00:03:12 นะคะพวกนี้คือกลุ่มที่รักได้ทั้งผู้หญิง
00:03:12 → 00:03:15 รักได้ทั้งผู้ชายแหละนะคะก็คือเป็นใบคือ 2
00:03:15 → 00:03:19 รักได้ทั้ง 2 เพศอแล้วตัว T T คำนี้มา
00:03:19 → 00:03:22 จากคำว่าทราน gender นะคะคือกลุ่มคนที่
00:03:22 → 00:03:26 ข้ามเพศเช่นเกิดมามีอววเพศเป็นชายเมาแปลง
00:03:26 → 00:03:29 เพศเป็นหญิงค่ะกลุ่มที่เกิดมามีอววเพศ
00:03:29 → 00:03:31 เป็นเป็นหญิงแต่แปลงเพศเป็นชายอันนี้คือ
00:03:31 → 00:03:34 แปลงแล้วนะคะเราจะเรียกว่ากลุ่มทราน
00:03:34 → 00:03:38 เจนเดอร์อและกลุ่ม Q Q ตัวนี้มาจากคำว่า
00:03:38 → 00:03:41 เควียนะคะเป็นกลุ่มที่มีความพึงพอใจต่อ
00:03:41 → 00:03:44 เพศใดเพศหนึ่งโดยไม่ได้จำกัดเรื่องเพศ
00:03:44 → 00:03:47 หรือความรักนะคะเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างจะ
00:03:47 → 00:03:50 เสรีคือพูดง่ายๆไม่ได้อยู่ใน 4 กลุ่มแรก
00:03:50 → 00:03:53 เอางี้แล้วกันนะฮะไม่ได้อยู่ใน 4 กลุ่ม
00:03:53 → 00:03:56 แรกที่ชัดเจนว่าเขเป็นอย่างนั้นทีนี้ใน
00:03:56 → 00:03:59 ทั้งหมดเนี่ยนะคะในทั้ง 5 ตัวเนี่ยมันก็
00:03:59 → 00:04:02 จะมีอีกศัพท์อีกคำนึงที่เขานิยามศัพท์
00:04:02 → 00:04:06 เป็นสากลคือคำว่าเพศวิถีหรือ sexual
00:04:06 → 00:04:09 orientation นะคะเพศวิถีนี่แปลว่าอะไรก็
00:04:10 → 00:04:13 แปลว่าความรู้สึกหรือรสนิยมทางเพศรวมไป
00:04:13 → 00:04:16 ถึงความพึงพอใจทางเพศที่มีต่อบุคคลอื่น
00:04:16 → 00:04:20 ด้วยซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 4 ลักษณะอืลักษณะ
00:04:20 → 00:04:25 ที่ 1 ก็คือรักต่างเพศหรือเทรกในภาษา
00:04:25 → 00:04:29 อังกฤษนะคะก็คือกลุ่มคนที่มีรสนิยมชื่น
00:04:29 → 00:04:32 ชอบเพเพศตรงข้ามหรือบุคคลต่างเพศกับตัว
00:04:32 → 00:04:35 เองอ่านั่นก็คือผู้ชายที่เกิดมาเป็นผู้
00:04:35 → 00:04:38 ชายมีอเเพศเป็นชายแลชอบผู้หญิงผู้หญิงที่
00:04:39 → 00:04:42 เกิดมามีอวเพศเป็นหญิงและรักผู้ชายนะคะ
00:04:42 → 00:04:44 นี่คือรักต่างเพศที่เป็นหัวข้อของเรานี่
00:04:44 → 00:04:48 แหละค่ะกลุ่มที่ 2 เราเรียกว่ารักเพศ
00:04:48 → 00:04:51 เดียวกันหรือโฮโมเซ็กชวลนะฮะโฮโมเซ็กชวล
00:04:51 → 00:04:56 นี่ก็คือคนที่มีรสนิยมชื่นชอบเพศเดียวกัน
00:04:56 → 00:04:59 นะคะมี 2 กลุ่มใหญ่ๆที่เป็นเราเรียกว่า
00:04:59 → 00:05:01 กลุ่มหลักนะฮะ 2 กลุ่มใหญ่่ๆก็คือ
00:05:01 → 00:05:04 เลสเบียนกับเกที่พูดไว้ตอนต้นเลสเบียนคือ
00:05:05 → 00:05:08 กลุ่มหญิงรักหญิงเกคือกลุ่มชายรักชายนั่น
00:05:08 → 00:05:11 คือรักเพศเดียวกันนะฮะซึ่งเอ่อนัก
00:05:11 → 00:05:14 จิตวิทยาหรือว่าเอ่อจิตแพทย์หรืออะไรหลาย
00:05:15 → 00:05:18 ๆคนเนี่ยก็ออกมายืนยันว่ากลุ่มเน่ะค่ะจะ
00:05:18 → 00:05:20 ให้เขากลับมารักเพศตรงข้ามเี่เป็นเรื่อง
00:05:20 → 00:05:23 ยากมากนะฮะเพราะฉะนั้นสมัยก่อนก่อนที่เรา
00:05:23 → 00:05:26 จะมีเปิดเผยคือในช่วงช่วงประเทศไทยเรา
00:05:26 → 00:05:28 เนี่ย 10 ปีที่ผ่านมานี่มีการเปลี่ยนแปลง
00:05:28 → 00:05:30 และการรับเรื่อง
00:05:30 → 00:05:34 เอ่อหลากหลายเพศเนี่ยเข้ามาอย่างรวดเร็ว
00:05:34 → 00:05:37 นะคะในยุคเก่าๆย้อนขึ้นไปนะคะสมัยรุ่น
00:05:37 → 00:05:40 จันทร์วิภาเนี่ยยังปิดบังในเรื่องของการ
00:05:40 → 00:05:43 เป็นเกยอยู่นะฮะเพราะฉะนั้นหลายคู่ที่ก็
00:05:43 → 00:05:45 ผู้ชายที่เป็นเกยเนี่ยคือชายรักชายเนี่ย
00:05:45 → 00:05:49 แต่แต่งงานนะฮะมีลูกมีอะไรอย่าเงี้ยเพื่อ
00:05:49 → 00:05:52 ให้สังคมเนี่ยยอมรับแต่ในขณะเดียวกันก็
00:05:52 → 00:05:55 แอบไปมีกิ๊กนะฮะที่เป็นผู้ชายด้วยกันหรือ
00:05:55 → 00:05:57 เอาจริงเข้าแล้วก็ต้องหย่าร้างกับผู้หญิง
00:05:57 → 00:06:00 ในที่สุดเพราะว่ายังไงเขาก็เป็นชาชายรัก
00:06:00 → 00:06:03 ชายเพราะฉะนั้นนักจิตวิทยาเอ่อหรือนักเพศ
00:06:03 → 00:06:05 ศึกษาหลายคนเจะบอกว่าคนที่เป็น
00:06:05 → 00:06:07 โฮโมเซ็กชวลเนี่ยหรือรักเพศเดียวกันเนี่ย
00:06:08 → 00:06:11 ขี้มักจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้อนะฮะแต่ว่า
00:06:11 → 00:06:14 แสร้งทำได้นะฮะหรือว่ามีเพศสัมพันธ์ได้
00:06:14 → 00:06:16 แต่ไม่ได้ด้วยใจรักอย่างแท้จริงก็เพื่อ
00:06:16 → 00:06:20 สังคมเมื่อก่อนใชคคค่ะนี้มาลักษณะที่ 3
00:06:20 → 00:06:25 ของเพศวิถีก็คือไซกนะฮะพวกนี้ก็จะเป็นพวก
00:06:25 → 00:06:28 ที่มีรสนิยมชื่นชอบทั้งเพศหญิงและเพศชาย
00:06:28 → 00:06:31 นะฮะโดยที่มีอารมณ์เสน่หาได้ทั้งกับคนที่
00:06:31 → 00:06:34 เป็นเพศเดียวกันและเพศตรงข้ามได้ด้วยนะคะ
00:06:34 → 00:06:38 อแล้วก็กลุ่มที่ 4 กลุ่มนี้ไม่ฝักใฝ่ฝ่าย
00:06:38 → 00:06:41 ใดเอางี้ละกันไม่ฝักใฝ่ทางเรื่องเพศนะคะ
00:06:41 → 00:06:44 ก็คือว่าเป็นผู้ที่ไม่สนใจในเรื่องของการ
00:06:44 → 00:06:47 มีเพศสัมพันธ์แต่เพียงรู้สึกสนิทสนมหรือ
00:06:47 → 00:06:51 ผูกพันกับคนบุคคลใดบุคคลหนึ่งแต่ว่ากับ
00:06:51 → 00:06:54 บุคคลอื่นแต่ว่าไม่ไม่ได้สนใจในเรื่องของ
00:06:54 → 00:06:57 การมีเพศสัมพันธ์นักเข้าใจมั้ยคะค่ะเพราะ
00:06:57 → 00:06:59 ฉะนั้นรสนิยมทางเพศเนี่ยเรามักจะปรากฏกด
00:06:59 → 00:07:02 นะคะตั้งแต่วัยเด็กก็คือช่วงประถมอายุ
00:07:02 → 00:07:05 8-11 เนี่ยมันจะเริ่มจะเริ่มแสดงออกและ
00:07:05 → 00:07:08 ค่ะแล้วก็จะเห็นได้ชัดมากขึ้นก็คือในช่วง
00:07:08 → 00:07:12 วัยรุ่นตอนต้นนะคะจะทำให้เรารู้จากรูปแบบ
00:07:13 → 00:07:16 ของการดึงดูดทางเพศหรืออารมณ์เพศของเขา
00:07:16 → 00:07:18 หรือดึงดูดในเชิงชู่สาวเลยในเรื่องเพศที่
00:07:18 → 00:07:21 เราจะหัดสังเกตเห็นนะคะแล้วก็อาจจะเกิด
00:07:21 → 00:07:23 ขึ้นโดยไม่มีประสบการณ์ทางเพศมาก่อนเลยก็
00:07:23 → 00:07:27 ได้นะคะไม่ได้จำเป็นว่าจะต้องเคยไปมีอะไร
00:07:27 → 00:07:29 กับใครนะคะแต่ว่ามันเป็นความรู้ึกรู้สึก
00:07:29 → 00:07:32 หรือเป็นรสนิยมของเขาเองนะคะซึ่งผู้
00:07:32 → 00:07:34 เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เนี่ยอย่างที่บอกแล้ว
00:07:34 → 00:07:36 ว่าโฮโมเซ็กชวลมักจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ถ้า
00:07:37 → 00:07:39 เป็นโฮโมเซ็กชวลนะคะแต่คำถามของเราในวัน
00:07:40 → 00:07:43 นี้ก็คือเราเป็นลักษณะของเทรกใช่มั้ยคะใช
00:07:43 → 00:07:47 ก็รักต่างเพศปกตินแหอจะเปลี่ยนได้มั้ยนะ
00:07:47 → 00:07:49 ฮะจะเปลี่ยนเป็นรักได้มั้ยคุณสุรีพรว่า
00:07:49 → 00:07:53 ได้มั้ยอ่าอาจารย์วิภาถามกลับเลยอืได้
00:07:53 → 00:07:58 แหละเพราะว่าอันเนี้ยดูจากที่เอาที่รู้คน
00:07:58 → 00:08:01 รู้จักนะคะคที่แบบอ่ะก็รักต่างเพศปกติ
00:08:01 → 00:08:05 แหละคแต่จะด้วยเหตุผลกนใดไม่แน่ใจอาจจะ
00:08:05 → 00:08:08 รู้สึกว่าแบบเออไม่โอเคความสัมพันธ์ไม่ดี
00:08:09 → 00:08:11 หรือแบบอะไรอย่าเงี้ยก็เลยมารักเพศเดียว
00:08:11 → 00:08:14 กันแล้วมันแบบแฮปปี้มีความสุขได้อะไร
00:08:14 → 00:08:16 ประมาณเนี้ยนะคะแล้วก็เห็นคนดังๆในสังคม
00:08:16 → 00:08:19 เรามีอยู่หลายคนใช่มั้ยคะที่ทีแรกก็แต่ง
00:08:19 → 00:08:22 งานกับใชหญิงแต่งงานกับชายชายแต่งงานกับ
00:08:22 → 00:08:26 หญิงมีแล้วไปสักระยะนึงก็ไม่มีความสุขนะ
00:08:26 → 00:08:29 คะแล้วก็มาเจอคนที่เพศเดียวกันเหมือนเข้า
00:08:29 → 00:08:32 ใจกันรักกันเหมนเหมือนเาเพิ่งรู้ตัวเอง
00:08:32 → 00:08:34 มั้ยคะหรือว่าแบบยังไม่รู้หรอกแต่แค่ว่า
00:08:34 → 00:08:36 ไปเจออะไรที่มันไม่โอเคแล้วบังเอิญมาเจอ
00:08:37 → 00:08:40 คนที่เป็นเพศเดียวกันแล้วโอเคโอเคกว่าค่ะ
00:08:40 → 00:08:43 นะคะมันก็เพราะฉะนั้นคำตอบก็บอกได้เลยว่า
00:08:43 → 00:08:47 เป็นไปได้นะคะแต่ขอชันใช้คำว่าในบางกรณี
00:08:47 → 00:08:50 นะคะในบางกรณียกตัวอย่างเช่นอ้ากรณีที่
00:08:50 → 00:08:54 คุณสุรีพรยกตัวอย่างมาบางคนเนี่ยค่ะรัก
00:08:54 → 00:08:57 และมีประสบการณ์ทางเพศกับเพศตรงข้ามนะฮะ
00:08:57 → 00:09:00 เป็นเฮโรนะคะก็คือเป็นคนที่รักต่างเพศแต่
00:09:00 → 00:09:04 ปรากฏว่าถูกทำร้ายนะฮะหรือเอ่อถูกทำร้าย
00:09:04 → 00:09:07 ร่างกายและจิตใจหรืออะไรก็ตามแล้วก็มาเจอ
00:09:07 → 00:09:10 เพศเดียวกันที่เข้าอกเข้าใจค่ะแต่เพศ
00:09:10 → 00:09:13 เดียวกันที่เขมาก็อาจจะมีลักษณะที่คล้าย
00:09:13 → 00:09:16 ผู้ชายก็ได้ก็ได้เป็นทอมอ่าอย่างสมมุติ
00:09:16 → 00:09:19 ผู้หญิงเนี่ยนะคะผู้หญิงเนี่ยเคยเป็น
00:09:19 → 00:09:22 เฮเทอโรแต่งงานอยู่กินกับสามีผู้ชายแล้ว
00:09:22 → 00:09:25 ก็ถูกทำร้ายอาจจะถูกทำร้ายร่างกายหรือ
00:09:25 → 00:09:28 อะไรก็แล้วแต่ก็เกิดความเจ็บช้ำถูกทำร้าย
00:09:28 → 00:09:31 จิตใจในเรื่องของการนอกใจอะไรก็แล้วแต่
00:09:31 → 00:09:35 แล้วก็มาเจอผู้หญิงที่เป็นทอมนึกออกมั้ย
00:09:35 → 00:09:37 คะผู้หญิงที่เป็นทอมก็รู้อยู่ล่ะว่าเพศ
00:09:37 → 00:09:39 เดียวกันแต่ในที่สุดก็มีความรักเพราะผู้
00:09:39 → 00:09:41 หญิงที่เป็นเพศเดียวกันเนี่ยผู้หญิงจะ
00:09:41 → 00:09:43 เข้าใจผู้หญิงถูกมั้ยคะใช่ได้ยิงคำนี้มา
00:09:43 → 00:09:46 ตลอดเลยอ่าผู้หญิงจะเข้าใจผู้หญิงว่าชอบ
00:09:46 → 00:09:48 อะไรไม่ชอบอะไรแม้แต่เรื่องของการมี
00:09:48 → 00:09:50 เซ็กซ์เนี่ยมันก็จะมีการนุ่มนวลอลุ่ม
00:09:50 → 00:09:54 อล่วยแลในปัจจุบันเนี่ยมันมีเซ็กซเซ็กทอย
00:09:54 → 00:09:57 เยอะแยะที่จะแทนทดแทนองชาติของเพศใจได้
00:09:58 → 00:10:00 ค่ะถูกมั้ยคะเพราะฉะนั้นเคก็รู้ว่าเขาคมี
00:10:00 → 00:10:03 เพศสัมพันธ์หรือมีความรักกับเพศเดียวกัน
00:10:03 → 00:10:07 นะที่ทำตัวประหนึ่งว่าเป็นชายออันเนี้ย
00:10:07 → 00:10:11 แบบหนึอ้ามาแบบต่อไปค่ะแบบต่อไปอันเนี้ย
00:10:11 → 00:10:14 ก็จะบอกว่าเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจแล้วก็
00:10:14 → 00:10:16 เป็นเรื่องที่น่าประทับใจด้วยในบางกรณี
00:10:16 → 00:10:21 อ่ะมีชายหนุ่มคนหนึ่งเจอสาวสวยสวยแบบถูก
00:10:21 → 00:10:26 ใจมากเลยก็เข้าไปจีบนะคะเข้าไปตีสนิทยิ่ง
00:10:26 → 00:10:29 เข้าใกล้ยิ่งใจรักก็หมายความว่าเชดีเหลือ
00:10:29 → 00:10:33 เกินเธอเพอเฟคสมที่ฉันอยากได้แบบนี้ทุก
00:10:33 → 00:10:38 อย่างเลยเอรักไปแล้วอือฮึรักไปแล้วผู้
00:10:38 → 00:10:42 หญิงจึงเปิดเผยว่าฉันเป็นทรานเซกอ่าอ่า
00:10:42 → 00:10:45 เข้าใจมั้ยคะฉันเป็นทรานเซกก็คือฉันไม่
00:10:45 → 00:10:49 ใช่ผู้หญิง 100% นะเพราะฉะนั้นถ้าเราจะ
00:10:49 → 00:10:51 แต่งงานกันคุณต้องรู้จักตัวตนฉันก่อนถูก
00:10:51 → 00:10:54 มั้ยคะหอย่างคำว่าทรานเซ็กเนี่ยคือหมาย
00:10:54 → 00:10:57 ถึงว่าผู้หญิงที่เอ่อเขาเป็นผู้เพศชาย
00:10:57 → 00:11:01 แหละอวัยวะเป็นเพศชายค่ะแต่ผู้หญงไปนน
00:11:01 → 00:11:04 นั่นแต่แค่ยังไม่แปลงเพศหรือแปลงเพศแป
00:11:04 → 00:11:08 แปลงแล้วทราซนี่คือแปลงแล้วเรียบร้อยนะฮะ
00:11:08 → 00:11:10 แปลงแล้วเรียบร้อยเพราะฉะนั้นเขาก็จะเป็น
00:11:10 → 00:11:13 ผู้หญิงเต็มตัวอ้าอย่างงี้ไม่บอกก็ได้นี่
00:11:13 → 00:11:15 คะอาจารย์ไม่ได้สิคะเพราะถ้าเกิดผู้ชายเ
00:11:15 → 00:11:19 ตั้งใจว่าเขาจะมีทายาทอ๋อตรงนี้ที่เธอทำ
00:11:19 → 00:11:22 ให้เขาไม่ได้ที่ไม่มีเหมือนของผู้หญิงคือ
00:11:22 → 00:11:24 อวยเพศเนี่ยเ่ออย่างอื่นเหมือนหมดภายนอก
00:11:24 → 00:11:28 เนี่ยเหมือนหมดยกเว้นมดลูกใช่ออโธ่นะฮะ
00:11:28 → 00:11:32 แล้วแล้วถ้าถ้าเกิดการตั้งจุดมุ่งหมายใน
00:11:32 → 00:11:35 ชีวิตมันต่างกันตรงเนี้ยอือถ้าเกิดผู้ชาย
00:11:35 → 00:11:37 อยากมีลูกแล้วมาเรียกร้องก็จะกลายเป็นเธอ
00:11:37 → 00:11:41 หลอกลวงเอาฮะถูกมั้ยคะอยิ่งโกรธกันใหญ่
00:11:41 → 00:11:44 เลยตอนนั้นเพราะฉะนั้นเธอก็ตัดสินใจบอกเ
00:11:44 → 00:11:47 ว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงแท้ๆอย่างที่คุณคิดนะ
00:11:47 → 00:11:51 เออคุณรับได้มั้ยถ้าคุณรับได้คุณก็เราก็
00:11:51 → 00:11:54 อาจจะแต่งงานกันต่อไปแต่ว่าถ้าคุณรับไม่
00:11:54 → 00:11:58 ได้ก็คุณก็ตัดสินใจเอานะฮะซึ่งผู้ชายหลาย
00:11:58 → 00:12:01 คนเ่ะเสียใจมากพอมารู้ก็รักไปแล้วอ่ารัก
00:12:01 → 00:12:05 ไปแล้วนะฮะแล้วก็มีความรู้สึกว่าจะมาบอก
00:12:05 → 00:12:08 ว่าผู้หญิงเค้าโกหกก็ไม่ได้เพราะว่าตอนคบ
00:12:08 → 00:12:11 กันใหม่ๆเนี่ยใครจะไปบอกว่าตั้งแต่วันแรก
00:12:11 → 00:12:13 ว่านี่ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนะใครจะไปบอกอย่าง
00:12:13 → 00:12:16 งั้นเพราะฉันก็ไม่รู้ว่าคุณเข้ามาแบบไหน
00:12:16 → 00:12:18 เออแล้วอย่างเป็นคำถามที่แบบเอ่อเรื่อง
00:12:19 → 00:12:21 ของการมีเซ็ก์กันเงี้ยค่ะเคก็จะไม่รู้เลย
00:12:21 → 00:12:24 ใช่มั้ยคะว่าเขาแบบไม่ใช่หญิงแท้ๆโอหมอ
00:12:24 → 00:12:28 ที่เก่งๆเทำเหมือนมากค่ะคุณสิริพรเคทำ
00:12:28 → 00:12:31 เหมือนมากคะฉะนั้นไม่แทบจะไม่รู้เลยยก
00:12:32 → 00:12:34 เว้นแค่ว่าคือเป้าหมายเอยากมีลูกขึ้นมา
00:12:34 → 00:12:36 ปุ๊บอันเนี้ยก็จะไม่ได้แล้วตใช่แล้วอีก
00:12:36 → 00:12:38 อย่างนึงอ่ะผู้หญิงหลายคนที่เป็นทรานเซก
00:12:38 → 00:12:42 นี่เขาก็ถือว่าเขาต้องแฟรงและแฟร์ถูกมั้ย
00:12:42 → 00:12:46 คะเต้องบอกความจริงอถูกมั้ยคะเพราะฉะนั้น
00:12:46 → 00:12:48 มันมีพอบอกความจริงแล้วผู้ชายบางคนรับไม่
00:12:48 → 00:12:52 ได้ไปเลยเธอก็เสียใจถูกมั้ยคะเธอก็เสียใจ
00:12:52 → 00:12:54 แต่ก็ดีกว่าให้เข้าไปรู้ความจริงทีหลัง
00:12:54 → 00:12:57 แล้วโกรธกันไปเลยอ่าเพราะมันมีเคสแบบนี้
00:12:57 → 00:12:59 มาหลายเคสแล้วที่ไปรู้ทีหลังแล้วก็รับไม่
00:12:59 → 00:13:03 ได้เพราะหาว่าโกหกนะฮะแต่ตอนเเธอตัดสินใจ
00:13:03 → 00:13:06 บอกแต่ก็มีผู้ชายบางคนอันนี้เคสที่จะไม่ิ
00:13:06 → 00:13:11 พาประทับใจนะคะตกใจหายไประยะนึงค่ะแต่ไป
00:13:11 → 00:13:17 นั่งคบไปนั่งขบคิดทบทวนแล้วฉันรักเอ่ะฉัน
00:13:17 → 00:13:19 ไม่ได้รักเอย่างที่เขาเป็นผู้ชายแปลงเพศ
00:13:19 → 00:13:22 แต่ฉันรักแบบที่เธอเป็นผู้หญิงเข้าใจตรง
00:13:22 → 00:13:26 นี้มั้ยคะดีจเข้าใจมั้คะบางคนก็จะมาล้อ
00:13:26 → 00:13:29 เรียนว่าอ๊แต่งกับใครไม่แต่งมาแต่งกับสาว
00:13:29 → 00:13:32 2 อะไรอย่างเงี้ยแต่มันไม่ใช่เขไม่ได้
00:13:32 → 00:13:36 รักสาว2องนะคะเรักผู้หญิงรักอ่ารักคนนั้น
00:13:36 → 00:13:38 ริอ่าเข้าใจมั้ยคะคือเขารักด้วยความจริง
00:13:38 → 00:13:42 ใจเก็กลับมาแต่งงานด้วยคือไปทบทวนแล้วอไป
00:13:42 → 00:13:45 ทบทวนแล้วว่าฉันมาท่องจักรวาลมาทั่วแล้ว
00:13:45 → 00:13:48 ฉันไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนที่รักได้ขนาด
00:13:48 → 00:13:51 นี้เพราะฉะนั้นฉันก็ตัดสินใจแต่งงานกับ
00:13:51 → 00:13:53 เธอเพราะะนั้นคู่นี้จะเป็นคู่ที่แฮปปี้
00:13:53 → 00:13:56 มากก็คือเขาไม่หลอกลวงกันใช่แล้วยรับกัน
00:13:56 → 00:13:59 ได้อืใช่ค่ะเพียงแต่ว่าเก็อาจจะไม่
00:13:59 → 00:14:01 สมบูรณ์ในเรื่องของทายาทแต่เดี๋ยวเนี้มัน
00:14:01 → 00:14:05 มีวิทยาการสมัยใหม่ที่จะช่วยอะไรต่ออะไร
00:14:05 → 00:14:07 ได้มากมายนะฮะเพราะฉะนั้นมันอยู่ที่จิตใจ
00:14:07 → 00:14:11 ที่พื้นฐานเพราะฉะนั้นผู้หญิงคนเนี้ยเอ่อ
00:14:11 → 00:14:14 ที่เขาทรานเซกมาแล้วเนี่ยเขแปลงเพศมาแล้ว
00:14:14 → 00:14:17 เขาก็อยู่ในฐานะผู้หญิงจริงๆนะคะเพราะ
00:14:17 → 00:14:19 ฉะนั้นผู้ชายคนเเคยเป็นเฮโรมาก่อนถูกมั้ย
00:14:19 → 00:14:22 คะเป็นเฮโรมาก่อนเก็ยังเป็นเฮโรอยู่
00:14:22 → 00:14:25 เหมือนเพราะว่าผู้หญิงเเเไม่ได้มองว่าเมา
00:14:25 → 00:14:27 รักเพศเดียวกันเไม่ได้รักผู้ชายที่แปลง
00:14:27 → 00:14:31 เพศแต่เรักผู้ชายคนนี้เพราะเธอคือผู้หญิง
00:14:31 → 00:14:34 สำหรับเขาเข้าใจมั้ยคะอ่าเพราะฉะนั้น
00:14:34 → 00:14:36 เนี่ยมันก็มีความซับซ้อนมีอะไรมากขึ้นแต่
00:14:36 → 00:14:38 เรื่องนี้เป็นเรื่องที่โรแมนติกมากนะแล้ว
00:14:38 → 00:14:41 อจารย์วิภาประทับใจมากนะใช่จริงๆตอนนี้ก็
00:14:41 → 00:14:44 มีคนที่มีชื่อเสียงแบบแนวเนี้ยก็มีนะที่
00:14:44 → 00:14:46 เคแต่งงานกันแล้วเขาอยู่ด้วยกันน่ะมีความ
00:14:46 → 00:14:49 สุขเงี้ยคค่ะนะฮะเพราะฉะนั้นในในคำตอบ
00:14:49 → 00:14:51 เนี้ยคุณศิริพรจะเห็นว่าในเคสเนี้ยเขาก็
00:14:52 → 00:14:54 เป็นเฮเทอโรใช่มั้ยคะเาก็ไม่ได้กลายมา
00:14:54 → 00:14:57 เป็นรักเพศเดียวกันนะแต่เขายังเป็น
00:14:57 → 00:15:01 เฮเทอโรอยู่อ่าใช่เอออ่ะคุณผู้ฟังค่อยๆ
00:15:01 → 00:15:03 แบบพยายามทำความเข้าใจไปด้วยนะมันอาจจะ
00:15:03 → 00:15:06 หลากหลายเพราะนัมันอยู่ที่มุมมองไงคะว่า
00:15:06 → 00:15:10 เรามองคนนั้นเป็นแบบไหน่ะแต่ก็มีผู้หญิง
00:15:10 → 00:15:13 หลายคนที่สมัครใจเช่นทอมกับดี้แต่งงานกัน
00:15:13 → 00:15:17 นะฮะหรือหรือว่าเอ่ออะไรต่างๆเหล่าเนี้ย
00:15:17 → 00:15:19 ที่เป็นเพศเดียวกันแท้ๆตั้งแต่ต้นน่ะแล้ว
00:15:20 → 00:15:22 เรับรู้ว่าอีกฝ่ายนึงเป็นเพศเดียวกับเขา
00:15:22 → 00:15:25 ด้วยอแต่เขาก็ยังรักนึกออกมั้ยฮะเพราะว่า
00:15:25 → 00:15:27 มันปรับอะไรต่ออะไรในเข้ากันก็เหมือนกับ
00:15:27 → 00:15:29 ผู้ชายที่เป็นเกแล้วก็อยู่กินกับผู้ชาย
00:15:30 → 00:15:31 ที่เป็นเกยด้วยกันอันนี้เค้าก็เป็น
00:15:31 → 00:15:34 โฮโมเซ็กชวลเพราะเคก็คิดว่าผู้ชายด้วยกัน
00:15:34 → 00:15:37 เนี่ยมันเข้าใจกันง่ายกว่าค่ะนะฮะโอแต่
00:15:37 → 00:15:40 ถ้าเทียบกันเนี่ยปัญหาของการนอกใจเนี่ยนะ
00:15:40 → 00:15:42 ฮะคนที่เป็นผู้ชายด้วยกันเนี่ยมันขี้มัก
00:15:42 → 00:15:46 จะเจ้าชู้มากกว่าเพราะว่ามันมีใช้คำว่า
00:15:46 → 00:15:49 อะไรคะมันมีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนซึ่งเป็น
00:15:49 → 00:15:53 ฮอร์โมนที่เจ้าชู้หลายใจเนี่ยมากอนะฮะ
00:15:53 → 00:15:55 เพราะฉะนั้นการอยู่ผู้ชายกับผู้ชายอยู่
00:15:55 → 00:15:57 ด้วยกันแล้วยั่งยืนเนี่ยน้อยกว่าผู้หญิง
00:15:57 → 00:16:00 กับผู้หญิงอยู่ด้วยกันอ๋อเพราะผู้หญิงกับ
00:16:00 → 00:16:01 ผู้หญิงด้วยกันเนี่ยผู้หญิงจะมี
00:16:01 → 00:16:04 ออกซิโตซินซึ่งมันเป็นฮอร์โมนแห่งความ
00:16:04 → 00:16:07 ซื่อสัตย์ฮอร์โมนแห่งความมั่นคงอ๋อเต่าง
00:16:07 → 00:16:10 คนต่างมีไงใช่มยอฮอร์โมนเดี๋ยวต่อไปนี้
00:16:10 → 00:16:12 อย่ามาอ้างว่าเอ้ยที่ไม่ที่เรานอกใจกัน
00:16:12 → 00:16:15 เป็นเพราะฮอร์โมนไม่ใช่นะคะอ้ามันแค่อย่า
00:16:15 → 00:16:19 ไปโทษฮในเรื่องของคุณธรรมความซื่อสัตย์
00:16:19 → 00:16:21 ประจำตัวเนี่ยมันก็เป็นตัวบ่งบอกด้วยค่ะ
00:16:21 → 00:16:24 ที่มันต้องเอาชนะฮอร์โมนให้ได้ใช่มคะแล้ว
00:16:24 → 00:16:27 อย่างเทรกเงี้ยค่ะอาจารย์คือรักต่างเพศ
00:16:27 → 00:16:30 น่ะท้ายวันนึงมามารักเพศเดียวกันสุดท้าย
00:16:30 → 00:16:32 เกิดอาจจะเกิดอะไรขึ้นไม่รู้กลับมารัก
00:16:32 → 00:16:35 ต่างเพศได้อีกก็เป็นได้ค่ะอืก็เหมือน
00:16:35 → 00:16:38 เพราะว่ามันใช้คำว่าเป็นรสนิยมทางเพศคุณ
00:16:38 → 00:16:43 สุรีพรเคยทานอาหารไทยแล้วคุณสุรีพรเบื่อ
00:16:43 → 00:16:46 อาหารไทยคุณสุรีพรก็ไปทานอาหารญี่ปุ่นค่ะ
00:16:46 → 00:16:48 แต่ทานอาหารญี่ปุ่นหนักเข้าคุณสุรีพรก็
00:16:48 → 00:16:51 อาจจะอยากจะเปลี่ยนรถนิยมกลับมาเป็นอาหาร
00:16:51 → 00:16:55 ไทยอีกก็ได้กลเป็นเอออเห็นภาพชัดเจนเลย
00:16:55 → 00:16:57 เออเพราะเรื่องรสนิยมทางเพศเนี่ยแต่ทีนี้
00:16:57 → 00:17:00 ชีวิตคู่เไม่ใช่การกินอาหารกินแล้วอิ่ม
00:17:00 → 00:17:03 แต่มันจะมีส่วนอื่นมาประกอบเช่นในเรื่อง
00:17:03 → 00:17:06 ของความซื่อสัตย์ความรักใคร่ความผูกพัน
00:17:06 → 00:17:09 ค่ะแล้วก็ญาติโกโหติกาของทั้ง 2 ฝ่ายมัน
00:17:09 → 00:17:12 มาเป็นตัวปัจจัยกระตุ้นและปัจจัยขัดขวาง
00:17:12 → 00:17:14 อีกมากมาย
00:17:14 → 00:17:17 โอ้ยคือเพราะว่าความหลากหลายมันมีเยอะมาก
00:17:17 → 00:17:20 คอาจารย์มันก็เลยแบบอาจใชนะฮะเพราะฉะนั้น
00:17:20 → 00:17:23 คำตอบเนี้ยที่บอกว่าเเทรกรักต่างเพศเนี่ย
00:17:23 → 00:17:27 จะจะรักเพศการเรลมั้ยก็ตอบว่าทั้งได้และ
00:17:27 → 00:17:31 ไม่ได้ค่ะอยู่กับบางกรณีในบางกรณีก็ได้
00:17:31 → 00:17:34 บางกรณีก็ไม่ได้คือคือมันไม่สามารถที่จะ
00:17:34 → 00:17:37 ไปฟันธงได้ขนาดนั้นนะคะคุณผู้ฟังว่าได้
00:17:37 → 00:17:41 100% หรือไม่ได้เลยไม่ใช่แล้วแต่ค่ะค่ะ
00:17:41 → 00:17:44 เหตุการณ์สถานการณ์หรือบุคคลคนนั้นใช่มั้
00:17:44 → 00:17:46 คแล้วก็คนเราเนี่ยนะมันเหมือนกับยิ่ง
00:17:46 → 00:17:51 เกลียดยิ่งใกล้นะฮะยิ่งยิ่งผลักใสยิ่งเจอ
00:17:51 → 00:17:54 อย่างเคสที่เคสที่จันท์วิภาเล่าให้คุณ
00:17:54 → 00:17:57 สุรีพรฟังเนี่ยคนะฮะผู้ชายคนเนี้ยที่บอก
00:17:57 → 00:18:00 ว่ามารักหลงรักหญิงทรานเนี่ยแล้วรักมาก
00:18:00 → 00:18:03 ด้วยแล้วในที่สุดก็ยอมแต่งงานเนี่ยตอนตอน
00:18:03 → 00:18:06 สมัยก่อนเนี่ยแกเป็นคนที่เกลียดกระเทยมาก
00:18:07 → 00:18:10 ว้าวนึกออกมั้ยฮะเกลียดแบบขยะแขยงเลยอ่ะ
00:18:10 → 00:18:13 คือๆเข้าใจในคนสมัยก่อนที่ก็จะไม่ชอบแบบ
00:18:13 → 00:18:16 นี้คือจะชายก็ชายจะหญิงก็หญิงเอชัดเจเค้า
00:18:16 → 00:18:20 เกลียดมากแล้วเก็ขยะแขยงเรียกว่าถ้ามา
00:18:20 → 00:18:23 ใกล้ๆเนี่ยโอโหเขาจะด่าทอเขจะอะไรต่ออะไร
00:18:23 → 00:18:25 เสร็จแล้วมันเหมือนเห็นมั้ยเนี่ยคือมันก็
00:18:25 → 00:18:28 กรรมเนาะนะคะมาหลงรักหญิงทรานซ์เนี่ยใช้
00:18:28 → 00:18:31 คำว่ากรรมเลยเหรอคเพราะว่าไม่รู้สิแกอาจ
00:18:31 → 00:18:34 จะเกลียดมากเกินไปอะไรอย่างเงี้ยนะฮะก็
00:18:34 → 00:18:37 เลยทำให้แกต้องมาหลงรักหญิงทรานซ์นะคะแต่
00:18:37 → 00:18:40 ว่าก็เป็นหญิงทรานสที่น่ารักมากจริงๆก็
00:18:40 → 00:18:43 เป็นผู้หญิงเป็นผู้หญิงแบบผู้หญิงแท้ๆยัง
00:18:43 → 00:18:46 สู้ไม่ได้เลยอ่ะจริงเดี๋ยวนี้คือความอ่อน
00:18:46 → 00:18:49 โยนใดๆอะไรอย่าเงี้ยเมีเยอะกว่าอีกอ่ะใช
00:18:49 → 00:18:52 ใช่ค่ะอืเพราะฉะนั้นเคสเที่บอกว่าประทับ
00:18:52 → 00:18:55 ใจเนี่ยเพราะว่าเธอไปทำใจนานไงคะนึกออก
00:18:55 → 00:18:59 มั้ยคะเธอออกไปททำใจช่างใจนานที่สหญิงแบบ
00:18:59 → 00:19:01 ว่าก็คงจะแบบว่ามีความแบบเสียอกเสียใจไป
00:19:01 → 00:19:04 ส่วนนึงแล้วแหลเสียใจมากก็เสียใจมากแต่
00:19:04 → 00:19:07 ว่าเบอกว่าเตัดสินใจที่ต้องเล่าอือเพราะ
00:19:08 → 00:19:10 เขาไม่อยากจะให้มาพบว่าเขาไม่ใช่ผู้หญิง
00:19:10 → 00:19:13 แท้ๆทีหลังแล้วก็กลายเป็นเาหลอกลวงเพราะ
00:19:13 → 00:19:16 ว่าเขาจะไม่หลอกคนที่เรักอออันนี้มันมัน
00:19:16 → 00:19:18 ด้วยพื้นฐานของความรักจริงๆนะคะอาจารย์
00:19:18 → 00:19:20 มันก็เลยใช่นะะเพราะฉนั้นคู่นี้ก็ Happy
00:19:20 → 00:19:23 Ending ซึ่งจันวิภาประทับใจมากทั้งคู่
00:19:23 → 00:19:25 ไม่ใช่ในเทพนิยายนะเนี่ยเรื่องจริงเลยนะ
00:19:25 → 00:19:29 เนี่ยโอ้โหนะคะเดี๋ยวนี้เคก็บอกว่าเอ่อ
00:19:29 → 00:19:33 ชายแทรค่ะชายแทรเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยโอเคนะใน
00:19:33 → 00:19:36 อ่านในเอ่านในอะไรมาอะไรอย่างเงี้ยใน
00:19:36 → 00:19:38 โซเชียลอย่างเงี้ยค่ะคุณผู้ฟังเบอกว่า
00:19:38 → 00:19:41 โอ้โหเอ่อเดี๋ยวนี้แบบชายแทรไม่ค่อยโอเค
00:19:41 → 00:19:44 แล้วค่ะแต่อาจารยนุภาก็อยากฝากไว้อย่างนะ
00:19:44 → 00:19:46 คะว่าการที่เราจะรักเพศเดียวกันหรือต่าง
00:19:47 → 00:19:49 เพศเนี่ยเพราะตอนนี้มันมีละครวนออกมาเยอะ
00:19:49 → 00:19:52 อะไรอย่างเงี้ยนะคะก็อยากจะบอกว่าอย่าตาม
00:19:52 → 00:19:56 กระแสไม่ใช่ว่าเค้าเคเห็นเค้าเป็นวายรัก
00:19:56 → 00:19:58 วายด้วยกันอะไรอย่างเงี้ยนะคะเราก็เอา
00:19:58 → 00:20:02 บ้างขอให้มันมาจากความรู้สึกของเราจริงๆ
00:20:02 → 00:20:06 อือนะคะอย่าไปฝืนความรู้สึกเพราะเพะเอ่อ
00:20:06 → 00:20:09 ก็มีก็มีเคสที่มาคุยด้วยนะคะมาปรึกษาด้วย
00:20:09 → 00:20:13 อะไรเงี้ยว่าเค้าไม่ได้เป็นสายวายอ่ะแต่
00:20:14 → 00:20:18 เขาคต้องมาเล่นละครสายวนเนี่ยออแล้วเค้า
00:20:18 → 00:20:20 ก็อึดอัดในบางครั้งเค้าก็อะไรต่างๆอย่าง
00:20:20 → 00:20:23 เงี้ยนะคะเค้ากลัวว่าเขาจะกลายเป็นวาย
00:20:23 → 00:20:26 จริงๆอะไรอย่าเงี้อือๆคือเหมือนกับว่าแบบ
00:20:26 → 00:20:29 ก็รู้ตัวเองแหละว่าฉันเป็นชายนะแต่แค่ว่า
00:20:29 → 00:20:32 แบบเอ้ยเกิดอาจจะเกิดความสับสนระหว่างทาง
00:20:32 → 00:20:34 ได้ใช่มั้ใช่ค่ะยิ่งๆเด็กวัยรุ่นเด็ก
00:20:34 → 00:20:37 หนุ่มสมัยเยก็จะสับสนในตัวเองว่าตัวเอง
00:20:37 → 00:20:40 เป็นอะไรกันแน่หรือยังไงกันแน่แล้วมันก็
00:20:40 → 00:20:43 ก็ต้องทำอะไรแบบฝืนๆนะฮะเพราะฉะนั้นจาร
00:20:43 → 00:20:46 วิภาก็อยากฝอกบอกกับวัยรุ่นนะคะหรือ
00:20:47 → 00:20:51 แฟนคลับที่ FC ทั้งหลายที่ดูดูละครไวน
00:20:51 → 00:20:55 เนี่ยนะคะว่าเอ่อมันไม่ใช่แฟชั่นเอ้อโทษ
00:20:55 → 00:20:58 ค่ะมันเป็นแฟชั่นนะคะของการที่เานิยมกัน
00:20:58 → 00:21:00 แต่ไม่ได้แปลว่าแฟชั่นเป็นอย่างงนี้แล้ว
00:21:00 → 00:21:03 เราจะต้องไหลตามเขไปโดยที่มันฝืนกับตัว
00:21:03 → 00:21:07 เราเองขอให้ทุกคนเป็นตัวของตัวเองค่ะว่า
00:21:07 → 00:21:10 เราชอบอะไรแบบไหนอย่าไปตามกระแสนะฮะแล้ว
00:21:11 → 00:21:13 เพราะว่าคนที่จะทุกข์ที่สุดก็คือตัวของ
00:21:13 → 00:21:16 เราเองอือที่มันต้องทำอะไรฝืนกับความเป็น
00:21:16 → 00:21:19 ตัวของเราเองเล่ะค่ะใช่ก็แบบมันระยะยาว
00:21:19 → 00:21:21 ไม่ได้อยู่แล้วถ้าเกิดมีอะไรฝืนใช่มั้ยคะ
00:21:21 → 00:21:24 แต่อาจารย์คะเมื่อกี้อาจารย์บอกว่ามี
00:21:24 → 00:21:27 lgbtq แล้วมี Plus ด้วย Plus เนี่ยนะคะ
00:21:27 → 00:21:30 อาจารย์อยากจะหมายถึงจริงๆมันก็คือกลุ่ม
00:21:30 → 00:21:34 เควียนี่แหละแต่เาแตกย่อยออกไปอีกหรือที่
00:21:34 → 00:21:37 ตอนนั้นเราเคยมาออกอากาศกันเนี่ยมีตั้ง 20
00:21:37 → 00:21:40 กว่าอย่างจำได้มั้ยคะเพราะฉะนั้นเคก็เลย
00:21:40 → 00:21:42 หลอมรวมว่าทุกกลุ่มนี่แหละรวมเรียกว่า
00:21:42 → 00:21:45 เควียร์แล้วกันออนะฮะเพราะฉะนั้นมันก็คือ
00:21:45 → 00:21:48 พลัสที่แบบบวกและอื่นๆไปอีกเยอะๆเพราะเรา
00:21:48 → 00:21:51 ไม่รู้อ่ะในยุคเนี้ยตอนนั้นเราออกอากาศมี
00:21:51 → 00:21:54 อยู่ 20 กว่าประเภทใช่ๆต่อจากนี้อีก 10
00:21:54 → 00:21:59 ปีอาจจะมีอีกเป็นรนึกออกมั้ยคะค่ะแต่แต่
00:21:59 → 00:22:01 ยังไงก็ตามตัวยืนพื้นเนี่ยมันก็ยังเป็น 4
00:22:01 → 00:22:05 กลุ่มแรกอยู่อ๋อ lgbt คนะฮะก็คือ
00:22:05 → 00:22:09 lgbt ที่มันเป็นเป็นเป็นตัวตัวหลักอยู่
00:22:09 → 00:22:13 ก็คือชายรักชายหญิงรักหญิงได้ทั้ง 2 เพศ
00:22:13 → 00:22:17 แล้วก็พวกที่ข้ามเพศอืนะ 4 กลุ่มนี้ก็ยัง
00:22:17 → 00:22:20 เป็นกลุ่มพื้นฐานส่วนเควียเนี่ยมันก็จะ
00:22:20 → 00:22:23 จาก 4 กลุ่มนั่นแหละค่ะมาแตกออกเป็นกลุ่ม
00:22:23 → 00:22:26 อะไรอีกล่ะมันก็มีหลากหลายเพราะว่าที่
00:22:26 → 00:22:29 จันท์วิภาเคยบอกคุณสุรีพรว่าตลอดชีวิตที่
00:22:29 → 00:22:32 ทำงานด้านปรึกษาปัญหาทางเพศมาเนี่ย 30
00:22:32 → 00:22:36 กว่าปีเนี่ยค่ะเคสเหล่านี้ไม่เคยมีเคสไหน
00:22:36 → 00:22:39 ที่เหมือนกันเลยสักเคสเดียวอ๋อหลากหลาย
00:22:39 → 00:22:43 มากหลากหลายมากค่ะนะฮะหลากหลายมากไม่มี
00:22:43 → 00:22:45 ไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลยทุกคนเป็นหนึ่ง
00:22:46 → 00:22:49 เดียวคนนี้หมดละค่ะนะฮะต้องใช้คำนี้ใช่
00:22:49 → 00:22:52 ค่ะนะฮะจะมาบอกว่าเคสนั้นเเป็นอย่างงี้
00:22:52 → 00:22:55 เราต้องเป็นอย่างเ้าไม่ใช่อื่ะมันมีความ
00:22:55 → 00:22:57 หลากหลายแล้วคนเรามันมีการเปลี่ยนแปลงทุก
00:22:57 → 00:22:59 นาทีทุก
00:22:59 → 00:23:02 ทุกชั่วโมงทุกวันค่ะคืออย่างอันนี้เพิ่ง
00:23:02 → 00:23:05 เคยไปเห็นผ่านตามมาในโซเชียลเมื่อไม่นาน
00:23:05 → 00:23:08 มานี้เหมือนกันค่ะอาจารย์ว่ามีเอ่อเา้า
00:23:08 → 00:23:11 เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนละคนนึง
00:23:11 → 00:23:14 ก็อาจจะออกแบบแนวแนวแบบเอ่อเป็นผู้ชายที่
00:23:14 → 00:23:16 ออกสาวนิดนึงอะไรอย่างเงี้ยผู้หญิงก็คือ
00:23:16 → 00:23:19 ผู้หญิงเก็เป็นเพื่อนสนิทกันสนิทกันจนวัน
00:23:19 → 00:23:23 นึงอ่ะเพื่อนผู้ชายที่ที่เป็นสาวเนี่ยนะ
00:23:23 → 00:23:26 คะกลับมาเป็นผู้ชายแล้วแต่งงานกับเพื่อน
00:23:26 → 00:23:30 ผู้หญิงตรงนี้แล้วก็เราอ่านแล้วก็แบบเอ้ย
00:23:30 → 00:23:32 ก็น่ารักดีนะในความสัมพันธ์แบบนี้แต่ว่า
00:23:32 → 00:23:36 เราก็งงๆงงๆเอ๊ะเคทำไมเขาถึงเปลี่ยนมา
00:23:36 → 00:23:38 เป็นกลับมาเป็นชายอย่างงี้ค่ะเอ่ออาจารย์
00:23:38 → 00:23:40 วิภาก็เคยบีเคสที่เป็นลูกศิษย์นะคะเป็น
00:23:40 → 00:23:43 วัยรุ่นตอนเรียนหนังสือเนี่ยแบบนี้เยอะ
00:23:43 → 00:23:46 อยู่นะฮะคือเคยเรียกเ้ามาเลยเพราะว่าเขาค
00:23:46 → 00:23:48 เรียนในสาขาที่มันต้องเข้าไปคุมคนงานใน
00:23:48 → 00:23:51 โรงงานนะฮะแล้วเขาก็ทำท่าเป็นแต๋วแหวว
00:23:51 → 00:23:54 อย่างเงี้ยตั้งแต่เรียนปี 1 และแล้วก็แต่
00:23:54 → 00:23:57 เราดูท่าทีแล้วเนี่ยเราคิดว่าเขาไม่ใช่นะ
00:23:57 → 00:24:01 ฮะเราเราก็เลยเรียกเมาคุยบอกว่าลูกแม่ถาม
00:24:01 → 00:24:05 จริงๆเหอะหนูเป็นหรือเปล่าอือฮือเคก็ก้ม
00:24:05 → 00:24:09 หน้านะทีแรกเยังไม่ไม่ไม่สบตานะคะแล้วก็
00:24:09 → 00:24:12 พอคุยกันไปคุยกันมาเบอกว่าไม่ได้เป็นหรอก
00:24:12 → 00:24:17 ค่ะนะฮะเลยบอกว่าแล้วหนูทำอย่างนี้ทำไมนะ
00:24:17 → 00:24:20 ฮะเ่อเขาคก็ให้เหตุผลว่าเข้ามหาวิทยาลัย
00:24:20 → 00:24:22 มาตัวเเนี่ยค่อนข้างจะเป็นคนที่ไม่ชอบสู้
00:24:22 → 00:24:26 คนอืนะคะหุ่นก็เป็นหุ่นใช้คำว่าอะไรอ่ะ
00:24:26 → 00:24:31 เอ่อผอมๆสูงสูงนะฮะเคบอกเเเนี่ยเข้ามา
00:24:31 → 00:24:34 เนี่ยเมาจากต่างจังหวัดไม่รู้จักใครเลย
00:24:34 → 00:24:36 แล้วมาเรียนในกรุงเทพฯเนี่ยเมีความรู้สึก
00:24:36 → 00:24:38 ว่าถ้าเขาทำอย่างเงี้ยหมายถึงเขาทำเป็น
00:24:38 → 00:24:42 สุภาพเรียบร้อยออกแต๋วๆหน่อยเนี่ยผู้หญิง
00:24:42 → 00:24:46 ก็ไม่รังเกียจเพื่อนผู้ชายก็ไม่รังแกอ๋อ
00:24:46 → 00:24:50 ตกตัวเองอย่านผู้หญิงก็ไม่รังเกียจผู้ชาย
00:24:50 → 00:24:53 ก็ไม่รังแกเก็เลยคิดว่าเขอยากจะเป็นทำแบบ
00:24:53 → 00:24:55 เนี้ยแล้วเมีเพื่อนเยอะนะฮะเพื่อนผู้หญิง
00:24:55 → 00:24:58 ก็สนิทเยอะนะฮะแล้วเพื่อนผู้หญิงก็จะคอย
00:24:58 → 00:25:01 ปกป้องเค้าจากเพื่อนผู้ชายมันไม่ต้องลาก
00:25:01 → 00:25:04 เ้าไปกินเหล้าสูบบุหรี่อะไรอย่างเงี้ยนะ
00:25:04 → 00:25:07 ฮะเราก็เลยบอกว่าลูกแต่แม่เป็นห่วงนะ
00:25:07 → 00:25:09 เพราะว่าเดี๋ยวพอปี 4 เนี่ยหนูต้องไปฝึก
00:25:09 → 00:25:13 งานแล้วตำแหน่งหน้าที่การงานของหนูทั้งใน
00:25:13 → 00:25:16 ตอนฝึกงานและในอนาคตคือหนูต้องอยู่กับคน
00:25:16 → 00:25:19 งานค่ะแล้วหนูรับได้มั้ยกับการที่พอเข้า
00:25:19 → 00:25:21 ไปในโรงงานแล้วเค้าก็เรียกอีตุ๊ดอีแต๋ว
00:25:21 → 00:25:25 อือหือที่จะมาคุมคนงานเนี่ยมันทำไม่ได้
00:25:25 → 00:25:27 ความน่าเชื่อถืออาจจะอ่ามันจะถูกบูลี่ถูก
00:25:27 → 00:25:30 อะไรอย่างเงี้ยเเขาก็ฟังด้วยความเข้าใจ
00:25:30 → 00:25:32 แล้วปรากฏว่าช่วงที่ฝึกงานน่ะค่ะเขาไป
00:25:32 → 00:25:36 เปลี่ยนตัวเองอืเปลี่ยนตัวเองเป็นเพศที่
00:25:36 → 00:25:39 เาเป็นนึกออกมั้ยคะก็คือเป็นชายแท้ๆปรากฏ
00:25:39 → 00:25:42 ว่ามาหลังจากฝึกงานกลับมาหาอีกทีเนี่ย
00:25:42 → 00:25:45 โอ้โหกล้ามขึ้นมาเลยค่ะนะฮะกลายเป็นแมน
00:25:45 → 00:25:48 ที่ไม่ไม่มีท่าทีของการกระตุ้งกระติ้งนะ
00:25:48 → 00:25:50 นี้แค่ปีเดียวนะคะที่เขาปรับเป็นคือบอก
00:25:50 → 00:25:53 เขาว่าหนูจะมีความสุขถ้าหนูไม่ฝืนตัวเอง
00:25:53 → 00:25:56 นะลูกค่ะออคือแต่คือเรู้ตัวเองด้วยเนาหนู
00:25:56 → 00:26:00 ไม่ฝืนตัวเองนะแล้วก็ข้อสำคัญเนี่ยเอ่อพอ
00:26:00 → 00:26:03 หนูอยู่ปี 4 ปี 3 ปี 4 ก็ไม่มีใครลากหนู
00:26:03 → 00:26:06 ไปกินเหล้าลากหนูไปสูบบุหรี่โดยที่หนูไม่
00:26:06 → 00:26:09 เต็มใจได้แล้วคือตอนนั้นมันหนีรุ่นพี่หนี
00:26:09 → 00:26:12 อะไรต่างๆเข้าใจมั้ยคะนะพอเราเข้าใจเด็ก
00:26:12 → 00:26:15 เนี่ยเราอธิบายให้เค้าฟังเนี่ยโอ้ตอนหลัง
00:26:15 → 00:26:18 มันก็เป็นแมนมาเลยงานงานเลี้ยงรุ่นอะไร
00:26:18 → 00:26:22 ต่างๆนะคะมาก็พาครอบครัวมาอะไรมานะคะน่า
00:26:22 → 00:26:25 ค่ะแต่นี้ย้อนกลับไปที่เคสที่คุณสุรีพร
00:26:25 → 00:26:27 ว่าเมื่อกี้เนี่ยว่าเป็นเพื่อนกันแล้วใน
00:26:27 → 00:26:30 ที่สุดมาชอบกันเนี่ยจก็ไม่แปลกใจหรอกค่ะ
00:26:30 → 00:26:34 เพราะจริงๆแล้วพื้นฐานของการที่ในที่เาทำ
00:26:34 → 00:26:37 วิจัยมานะคะแล้วก็ที่เราเห็นเชิงประจักษ์
00:26:37 → 00:26:40 เนี่ยเราจะพบว่าสามีภรรยาที่อยู่กันยืด
00:26:40 → 00:26:43 ตลอดรอดฝั่งแล้วเข้าอกเข้าใจกันเนี่ยมัน
00:26:43 → 00:26:47 พัฒนามาจากความเป็นเพื่อนก่อนอืมากกว่า
00:26:47 → 00:26:50 คู่ที่เจอกันแล้ว fall in love แบบหวือ
00:26:50 → 00:26:54 หวาเจอปั๊บรักปุ๊บโอ้โหยมันพลุ่งพล่านนะ
00:26:54 → 00:26:57 อารมณ์อารมณ์ของความรักเนี่ยมันโอ้โห
00:26:57 → 00:27:00 คลั่งรักอะไรขึ้นมาเนี่ยมันขี้มักไม่ค่อย
00:27:00 → 00:27:03 ยืดยาวเท่ากับคนที่ค่อยๆโตค่อยๆเรียนรู้
00:27:03 → 00:27:06 กันมาเป็นเพื่อนกันมาเป็นอะไรแล้วเสน่หา
00:27:06 → 00:27:09 มันเกิดทีหลังเนี่ยอขี้มักจะอยู่ยืดกว่า
00:27:09 → 00:27:11 นะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยเรู้จักกันมาตั้งแต่
00:27:11 → 00:27:14 เป็นเด็กอะไรอย่างเงี้ยอก็ก็เลยรู้จัก
00:27:14 → 00:27:18 นิสัยใจคอกันเป็นอย่างดีอโอมีอะไรให้เรา
00:27:18 → 00:27:20 ได้เรียนรู้กันอีกเรื่อยๆเกี่ยวกับเรื่อง
00:27:20 → 00:27:23 ของบอกแล้วว่าไม่มีเคสไหนเหมือนกันเลย
00:27:23 → 00:27:27 จริงค่ะอ่ะขอบคุณอาจารย์ค่ะสวัสดีค่ะหมด
00:27:27 → 00:27:29 เวลาแล้วค่ะคุณผู้ฟังพเนใหม่ครั้งหน้านะ
00:27:29 → 00:27:33 คะสวัสดีค่ะ This Is Toy PBS podcast
00:27:33 → 00:27:35 ตามสถิติเด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบมักเสีย
00:27:35 → 00:27:38 ชีวิตในบ้านอะไรคือสาเหตุรองศาตราจารย์
00:27:38 → 00:27:41 นายแพทย์อดิศักดิ์ผลิตผลการพิมพ์ผู้อำนวย
00:27:41 → 00:27:43 การสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและ
00:27:43 → 00:27:46 ครอบครัวมาเล่าให้ฟังครับถ้าเราแบ่งกลุ่ม
00:27:46 → 00:27:49 ใหญ่ๆคือกลุ่มที่เราเรียกว่าเด็กปฐมวัย
00:27:49 → 00:27:53 ตั้งแต่วัทรกวัยตาะแตะนะฮะแล้วก็วัยก่อน
00:27:53 → 00:27:56 เข้าโรงเรียนก็คือต่ำกว่า 6 ปีอันนี้วัย
00:27:56 → 00:27:59 เตาะแตะเนี่ยก็คือวัยเพิ่งึฝกหัดเดินนะฮะ
00:27:59 → 00:28:02 เอ่อต่ำกว่า 3 ขวบลงไปพวกเนี้ยเราจะเห็น
00:28:02 → 00:28:05 ว่าส่วนใหญ่ก็ตายในบ้านพอไปดูสถิติเนี่ย
00:28:05 → 00:28:08 โอ้โหหลัง 1 ขวบขึ้นไปเนี่ยเป็นเหตุการ
00:28:08 → 00:28:11 ตายนำอ่ะจากการจบน้ำแล้วก็เมื่อเขาตายใน
00:28:12 → 00:28:14 บ้านเนี่ยก็พบว่าแหล่งน้ำที่ทำให้เขาเสีย
00:28:14 → 00:28:19 ชีวิตเนี่ยถังน้ำกะละมังตุ่มโอ่งนะฮะโดยง
00:28:19 → 00:28:23 ยิ่งถังน้ำขนาดความสูงประมาณสัก 40 ซมนะ
00:28:23 → 00:28:26 ฮะในเด็กอายุที่หัดเดินก็คือประมาณสัก 11
00:28:26 → 00:28:30 เดือน 12 เดือนเดือนฮะความสูงประมาณสัก 70
00:28:30 → 00:28:34 กว่าซมอ่าขวบนึงนี้ประมาณสัก 75 ซมนะถ้า
00:28:34 → 00:28:39 ถังน้ำ 40 ซมเนี่ยมันจะเลยกึ่งกลางตำตัว
00:28:39 → 00:28:42 ของเขาขึ้นไปไม่มากนะเขาก็ยังสามารถที่จะ
00:28:42 → 00:28:46 หัวทิ่มลงไปขาชี้โดเด่ขึ้นมาแล้วก็ไม่
00:28:46 → 00:28:48 สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ถ้าถังน้ำสูง
00:28:48 → 00:28:51 กว่านั้นนะเกินไปกว่านั้นเนี่ยโอกาสที่
00:28:51 → 00:28:53 เขาจะหัวที่มันในในเด็กวัยประมาณขวบนึงนะ
00:28:53 → 00:28:56 ฮะค่ะที่หัดเดินใหม่ๆเนี่ยทานี้ก็จะยาก
00:28:56 → 00:28:59 ขึ้นนะฮะเพราะฉะนั้นเราจะเห็นเห็นว่าเอ่อ
00:28:59 → 00:29:01 เด็กเล็กๆถ้าต่ำกว่าขวบนึงนะถังน้ำ
00:29:01 → 00:29:04 กะละมังขนาดเล็กๆเนี่ยนะก็จะเป็นที่ที่
00:29:05 → 00:29:09 เด็กจมน้ำได้นะเราเจอตั้งแต่แบบนี้เลย 1
00:29:09 → 00:29:12 พวก 6 เดือน 7 เดือนขึ้นไปคุณพ่อคุณแม่จะ
00:29:12 → 00:29:15 ให้เขาอาบน้ำอ่ะ 6 เดือนนี่จะเริ่มนั่ง
00:29:15 → 00:29:17 ทรงตัวได้นะแต่ยังไม่ค่อยแข็งแรงคุณพ่อ
00:29:18 → 00:29:20 แม่ก็จะดูแลใกล้ชิดแต่พอ 9 เดือนเนี่ยมัน
00:29:20 → 00:29:23 จะแข็งแรงในท่านั่งนะฮะพ่อแม่ก็จะเผลอวาง
00:29:23 → 00:29:26 เข้าไว้ในกะละมังแล้วก็รองน้ำอยู่ประมาณ
00:29:27 → 00:29:29 เหนือสะเดอในท่านั่งของเขาอ่ะนะแล้วบางที
00:29:29 → 00:29:33 ไปรับโทรศัพท์บ้างอืเอาจานข้าวไปเก็บบ้าง
00:29:33 → 00:29:35 บางทีดูทีวีเผลอไปบ้างนึกว่าเห็นเขาเล่น
00:29:35 → 00:29:38 อยู่ในกะละมังสนุกก็ปล่อยเขาเล่นหันกลับ
00:29:38 → 00:29:41 มาอีกทีเนี่ยหน้าเขาคว่ำลงไปแล้วเาไม่
00:29:41 → 00:29:44 สามารถพลิกตัวให้กลับมาอยู่ในท่านั่งได้
00:29:44 → 00:29:46 อ่ะแล้วก็เสียชีวิตในท่าที่คว่ำหน้าคว่ำ
00:29:46 → 00:29:49 อยู่ในกะละมังสำหรับถังน้ำประมาณสัก 40
00:29:49 → 00:29:52 ซมเราจะเจอในถังน้ำประเภทที่เราใส่เอาไว้
00:29:52 → 00:29:55 ถูบ้านน่ะหรือไม่ก็รองน้ำในห้องน้ำอ่ะ
00:29:55 → 00:29:58 เอ่อสมองขาดอาการออกซิเจนภายในเเวลามันนะ
00:29:58 → 00:30:01 ไม่เกิน 4 นาทีนี่ก็จะไม่ไหวแล้วะก็เสีย
00:30:01 → 00:30:03 ชีวิต
00:30:03 → 00:30:08 อ This Is Toy PBS
00:30:08 → 00:30:12 podcast ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแพลช
00:30:12 → 00:30:15 ของ Thai PBS podcast spotify
00:30:15 → 00:30:17 soundcloud Google podcast Apple
00:30:17 → 00:30:20 podcast และ YouTube Channel Thai PBS
00:30:21 → 00:30:24 podcast tha PBS podcast View the
00:30:24 → 00:30:26 world via The
00:30:26 → 00:30:34 Voice
00:30:34 → 00:30:37 อ