00:00:10 → 00:01:59 [เพลง]
00:01:59 → 00:02:02 ถ้าเราไม่แก้ไขในเด็กเขาจะมีการเกิด
00:02:02 → 00:02:03 ปัสสาวะไหลย้อนแล้วก็จะติดเชื้อนะครับ
00:02:03 → 00:02:06 แล้วถ้าติดเชื้อในเด็กเนี่ยบ่อยๆสิ่งที่
00:02:06 → 00:02:10 เกิดขึ้นก็คือไตเขาจะวายนะครับต่อให้เรา
00:02:10 → 00:02:13 รักษาทางเดินปัสสาวะอักเสบหายแล้วเนี่ยไต
00:02:13 → 00:02:15 เขาก็จะไม่กอดไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมบาง
00:02:15 → 00:02:17 คนก็เป็นตลอดชีวิตบางคนก็หายได้นะครับ
00:02:17 → 00:02:19 ส่วนบางคนถ้าไม่รักษาช้าไปกว่านั้นแล้ว
00:02:19 → 00:02:22 เนี่ยเอาล่ะนะครับทางเดินปัสสาวะมันเกิด
00:02:22 → 00:02:25 การอักเสบมันมีการโดนทำลายไปบ้างแล้วพวก
00:02:25 → 00:02:27 นี้ก็จะเกิดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
00:02:27 → 00:02:29 ซ้ำแล้วซ้ำอีกได้เรื่อยๆนะครับซึ่งแน่นอน
00:02:30 → 00:02:32 ว่าการติดเชื้อในเด็กนั้นไม่ใช่ส่งผลแค่
00:02:32 → 00:02:34 ในเรื่องทางเดินปัสสาวะเรื่องไตเท่านั้น
00:02:34 → 00:02:37 นะครับมันส่งผลต่อทุกอย่างเลยไม่ว่าจะ
00:02:37 → 00:02:40 เป็นพัฒนาการความสูงการเพิ่มน้ำหนัก
00:02:40 → 00:02:43 โภชนาการทุกอย่างมันเกี่ยวข้องกันหมดเลย
00:02:43 → 00:02:45 นะครับดังนั้นในเด็กเนี่ยเราต้องรีบรักษา
00:02:45 → 00:02:48 นะครับแล้วเด็กเนี่ยบางครั้งมันมีภาวะอัน
00:02:48 → 00:02:51 นึงที่เป็นปัสสาวะอันไหนย้อนนะครับไหล
00:02:51 → 00:02:54 ย้อนจากไหนก็คือไหลย้อนจากตัวอ่ากระเพาะ
00:02:54 → 00:02:57 ปัสสาวะนะครับเข้าไปที่ท่อนำปัสสาวะแล้ว
00:02:57 → 00:03:00 เข้าไปสู่ไตนะครับเนี่ยไอ้ตรงปกติมันจะ
00:03:00 → 00:03:02 ไหลทางเดียวแต่เด็กเนี่ยมันจะไหลย้อนกลับ
00:03:02 → 00:03:03 นะครับซึ่ง
00:03:03 → 00:03:06 เนี่ยคือปัญหาแล้วเราต้องไปแก้ไขด้วยการ
00:03:06 → 00:03:09 ผ่าตัดบางอย่างนะครับระบบโรคนี้บางคนอาจ
00:03:09 → 00:03:12 จะไม่คุ้นชินนะครับชื่อว่าโรค V ur นะ
00:03:12 → 00:03:13 ครับ
00:03:13 → 00:03:18 vesco อยู่ retural refrux นะครับหรือ
00:03:18 → 00:03:20 vacical คือจริงๆมันเป็นภาษาทางการแพทย์
00:03:20 → 00:03:22 ภาษาที่แปลว่า
00:03:22 → 00:03:26 ตัวกระเพาะปัสสาวะทาง basical นะครับ
00:03:26 → 00:03:30 ยูริคเตอร์ก็คือท่อที่เอามานำปัสสาวะลง
00:03:30 → 00:03:34 สู่ตัวกระเพราปัสสาวะนะครับก็คือการย้อน
00:03:34 → 00:03:36 กลับนั่นเองมันก็แปลว่าการย้อนกลับของ
00:03:36 → 00:03:40 ปัสสาวะจากกระเพาะปัสสาวะเข้าไปสู่ท่อนำ
00:03:40 → 00:03:42 ปัสสาวะนั่นเองนะฮะในเด็กก็จะเป็นแบบนี้
00:03:42 → 00:03:44 ได้นะครับ
00:03:44 → 00:03:46 ต่อมาที่เราเจอกันค่อนข้างที่จะบ่อยก็คือ
00:03:46 → 00:03:50 ในผู้หญิงนะครับช่วงตั้งแต่วัยรุ่นเป็น
00:03:50 → 00:03:53 ต้นไปเลยนะครับอ่าผู้หญิงวัยรุ่นที่เอ่อ
00:03:53 → 00:03:57 จนถึงวัยทำงานอะไรพวกเนี้ยสาเหตุบางคน
00:03:57 → 00:04:00 เนี่ยจะสังเกตว่าเอ๊ะทำไมเป็นเยอะเนี่ย
00:04:00 → 00:04:03 อั้นปัสสาวะนิดนึงอ่ะ 7 ละนะครับปัสสาวะ
00:04:03 → 00:04:06 แสบขัดนะครับอาการเอ่อต้องต้องรอก่อนแล้ว
00:04:06 → 00:04:09 กันมันเป็นยังไงได้บ้างนะฮะถ้ามีการติด
00:04:09 → 00:04:11 เชื้อแค่ทางเดินปัสสาวะส่วนล่างก็คือส่วน
00:04:11 → 00:04:13 แค่กระเพาะปัสสาวะเนี่ยก็จะมีอาการ
00:04:13 → 00:04:17 ปัสสาวะแสบนะครับปัสสาวะขัดนะครับมันปวด
00:04:17 → 00:04:20 เวลาที่เราปัสสาวะปวดเจ็บเลยอ่ะนะครับอ่า
00:04:20 → 00:04:23 แต่จะยังไม่มีไข้นะครับหรือบางคนก็
00:04:23 → 00:04:25 ปัสสาวะออกมาแล้วกลิ่นมันเหม็นมันฉุนนะ
00:04:25 → 00:04:27 ครับหรือมีอาจจะมีเม็ดนิ่วมีอะไรปนออกมา
00:04:27 → 00:04:30 นะมีเลือดปนออกมาได้นะครับพวกเนี้ยก็จะ
00:04:30 → 00:04:33 เป็นการเกิดการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะนะ
00:04:33 → 00:04:35 ครับแต่ถ้าเกิดการอักเสบติดเชื้อตัวนี้
00:04:35 → 00:04:39 มันลามขึ้นไปจนถึงท่อไตแล้วก็ไปสู่ไตใน
00:04:39 → 00:04:41 ที่สุดเนี่ยคราวนี้แหละครับไปจากอักเสบนะ
00:04:41 → 00:04:43 ครับเพราะไตอักเสบสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ
00:04:43 → 00:04:47 เราก็จะมีไข้นะครับมีไข้คลื่นไส้อาเจียน
00:04:47 → 00:04:50 อ่อนเพลียปัสสาวะก็อาจจะมีการแสบขัดก็ได้
00:04:50 → 00:04:53 หรือไม่มีก็ได้นะครับและที่สำคัญคือจะมี
00:04:53 → 00:04:56 การปวดหลังข้างที่เป็นการเกิดไตอักเสบได้
00:04:56 → 00:05:57 นะครับ
00:05:57 → 00:06:00 นะครับเนี่ยมันมีแค่นี้นะฮะไม่ใช่เป็นโรค
00:06:00 → 00:06:03 ไตเรื้อรังแล้วมันจะปวดนะครับโรคไต
00:06:03 → 00:06:05 เรื้อรังไม่ได้ทำให้ปวดหลังแต่อย่างใดไม่
00:06:05 → 00:06:07 เกี่ยวอะไรกันเลยนะครับอันนี้ก็อยากจะ
00:06:07 → 00:06:11 เคลียร์เรื่องนี้ไว้ด้วยนะทีนี้ในคนที่
00:06:11 → 00:06:13 เป็นวัยรุ่นหรือวัยทำงานในผู้หญิงเนี่ย
00:06:13 → 00:06:16 มันจะเจอการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะได้
00:06:16 → 00:06:19 ง่ายกว่าผู้ชายเหตุผลเพราะว่าในผู้หญิง
00:06:19 → 00:06:21 เนี่ยนะครับทางเดินปัสสาวะจะค่อนข้างสั้น
00:06:21 → 00:06:23 ก็คือจากกระเพาะปัสสาวะปุ๊บเนี่ยท่อ
00:06:23 → 00:06:25 ปัสสาวะของผู้หญิงสั้นนิดเดียวก็ปัสสาวะ
00:06:25 → 00:06:27 ออกมาได้เลยก็แน่นอนของผู้ชายเนี่ยเขามี
00:06:27 → 00:06:29 องคชาติมันก็จะยาวกว่าหน่อยนะครับท่อ
00:06:29 → 00:06:31 ปัสสาวะพวกเนี้ยมันก็จะไม่ค่อยมีการติด
00:06:31 → 00:06:34 เชื้อนะครับการติดเชื้อก็จะติดจากปลายนะ
00:06:34 → 00:06:36 ครับท่อปัสสาวะแล้วย้อนเข้าไปข้างในนะ
00:06:36 → 00:06:39 ครับนี่ก็คือเป็นเหตุผลของการติดเชื้อใน
00:06:39 → 00:06:43 ทางเดินปัสสาวะนะครับถามว่าแล้วถ้าเกิดใน
00:06:43 → 00:06:45 ผู้หญิงหรือแม้กระทั่งในผู้ชายเองเนี่ย
00:06:45 → 00:06:48 ถ้าสมมุติว่าเป็นเนี่ยเราต้องแล้วเป็น
00:06:48 → 00:06:50 บ่อยๆเนี่ยเราต้องทำอะไรบ้างนะครับเรา
00:06:50 → 00:06:53 เริ่มง่ายๆก่อนในผู้ชายถ้าในผู้ชายแล้วมี
00:06:53 → 00:06:56 การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะต้องหาสาเหตุ
00:06:56 → 00:07:00 ที่ร้ายแรงทุกคนทุกคนนะครับไม่ใช่ว่าเป็น
00:07:00 → 00:07:02 แล้วก็เออกินยาหายแล้วก็จบไม่ได้นะครับ
00:07:02 → 00:07:04 ผู้ชายเนี่ยจะต้องมีสาเหตุเพราะว่าผู้ชาย
00:07:04 → 00:07:07 มันเป็นยากกว่าผู้หญิงนะฮะเช่นท่านอาจจะ
00:07:07 → 00:07:10 มีความผิดปกติอะไรที่มันอยู่ด้านในไปขัด
00:07:10 → 00:07:11 ขวางทางเดินปัสสาวะแล้วท่านไม่รู้ตัวนะ
00:07:11 → 00:07:14 ครับนั่นต้องไปหานะครับบางคนมีอาการต่อม
00:07:14 → 00:07:17 ลูกมาโตทำให้ปัสสาวะมันออกมาไม่ได้ก็จะ
00:07:17 → 00:07:19 ติดเชื้อได้นะครับตรงนี้ก็ต้องไปหาเหมือน
00:07:19 → 00:07:22 กันนะฮะหรือบางคนมีปัญหาอะไรสักอย่างที่
00:07:22 → 00:07:24 ไม่ทราบนะมีอะไรที่เล็ดลอดเข้าไปในห้อง
00:07:24 → 00:07:26 ทางเหนือปัสสาวะแล้วให้ติดเชื้อก็ต้องไป
00:07:26 → 00:07:28 หาสาเหตุนะครับนี่คือในกรณีของผู้ชายนะ
00:07:28 → 00:07:31 ครับแต่ผู้หญิงเนี่ยถึงแม้ไม่มีความผิด
00:07:31 → 00:07:33 ปกติอะไรก็จำเป็นได้บ่อยๆนะครับเนื่องจาก
00:07:33 → 00:07:36 ว่าท่อทางเดินปัสสาวะสั้นนะบางคนเป็นจน
00:07:36 → 00:07:39 เบื่อเลยนะครับถามว่าเออแล้วเราจะป้องกัน
00:07:39 → 00:07:43 มันได้ยังไงนะครับข้อแรกผมบอกแล้วใช่ไหม
00:07:43 → 00:07:45 ครับว่าการเดินของปัสสาวะเนี่ยมันจะต้อง
00:07:45 → 00:07:47 เดินออกมาได้เราต้องเอาออกมาให้ได้นะครับ
00:07:47 → 00:07:49 ถ้ามันค้างอยู่ตรงนั้นนานๆแน่นอนมันก็จะ
00:07:49 → 00:07:51 ติดเชื้อได้ง่ายขึ้นดังนั้นถ้าเราปวด
00:07:51 → 00:07:54 ปัสสาวะเราต้องอย่างการปัสสาวะออกมาเลยนะ
00:07:54 → 00:07:57 ครับไปปัสสาวะออกมาให้หมดนะฮะแล้วอันที่ 2
00:07:57 → 00:08:00 คือดื่มน้ำให้เพียงพอนะครับถ้าปัสสาวะเรา
00:08:00 → 00:08:02 มันเข้มข้นมากๆมันอยู่ตรงนั้นๆแน่นอน
00:08:02 → 00:08:04 เชื้อโรคมันต้องเยอะแล้วเชื้อโรคเยอะมัน
00:08:04 → 00:08:06 เกิดอะไรขึ้นครับก็ติดเชื้อนะครับดังนั้น
00:08:06 → 00:08:08 เราต้องดื่มน้ำให้เพียงพอนะครับเพียงพอ
00:08:08 → 00:08:10 คือแค่ไหนผมเคยเล่าไปแล้วนะครับอย่างน้อย
00:08:10 → 00:08:13 ๆก็วันละ 2 ลิตรนะฮะถ้าเป็นไปได้นะฮะดื่ม
00:08:13 → 00:08:15 เยอะก็ดีแล้วมันก็ทำให้ปัสสาวะใสแล้วก็
00:08:15 → 00:08:17 เอาพวกเชื้อโรคที่มันเติบโตตรงนั้นค้าง
00:08:18 → 00:08:19 อยู่ให้มันออกมานะครับ
00:08:19 → 00:08:22 อีกอย่างนึงซึ่งคนมักจะลืมกันก็คือเรื่อง
00:08:22 → 00:08:26 ของการเกิดการท้องผูกนะฮะท้องผูกเนี่ยบาง
00:08:26 → 00:08:28 ครั้งนะครับมันจะทำให้มีแบคทีเรียใน
00:08:28 → 00:08:30 บริเวณข้างเคียงเนี่ยมันเอิดเกิดเหตุผล
00:08:30 → 00:08:32 อะไรสักอย่างมันไม่รู้มันเข้ามาในทางเดิน
00:08:32 → 00:08:34 ปัสสาวะของผู้หญิงได้ก็จะทำให้เกิดการติด
00:08:34 → 00:08:37 เชื้อแล้วที่จริงคือเชื้อในทางเดิน
00:08:37 → 00:08:39 ปัสสาวะเนี่ยมันคือเชื้ออันเดียวกับเชื้อ
00:08:39 → 00:08:41 ที่อยู่ในลำไส้ใหญ่ของเรานี่แหละครับเชิญ
00:08:41 → 00:08:43 ที่อื่นแล้วมันเข้ามาข้างหน้าได้นะฮะดัง
00:08:43 → 00:08:46 นั้นตรงนี้อย่าท้องผูกเด็ดขาดถ้าท่านไหน
00:08:46 → 00:08:48 ท้องผูกแล้วเป็นทางเดินปัสสาวะอักเสบบ่อย
00:08:48 → 00:08:51 ๆเนี่ยจะต้องไปรักษาท้องผูกให้ดีซะก่อนนะ
00:08:51 → 00:08:51 ครับ
00:08:51 → 00:08:55 แล้วเวลาการที่ทำความสะอาดหลังจากที่เรา
00:08:55 → 00:08:57 ปัสสาวะอุจจาระแล้วให้ทำจากด้านหน้าไป
00:08:57 → 00:08:59 ด้านหลังนะครับด้านหน้าหมายความด้านหน้า
00:08:59 → 00:09:01 ของช่องคลอดไปด้านหลังนะครับเพราะว่า
00:09:01 → 00:09:03 อย่างที่ผมบอกคือเชื้อมันอยู่ในอุจจาระใน
00:09:03 → 00:09:05 ลำไส้ใหญ่ถ้าท่านเอาจากหลังมาหน้าแล้วก็
00:09:05 → 00:09:07 ท่านก็เอาเชื้อมาอยู่ข้างในเรื่อยๆนะครับ
00:09:07 → 00:09:10 ก็อาจจะมีการติดเชื้อได้นะครับ
00:09:10 → 00:09:13 ถ้าไหนที่มีประจำเดือนนะครับในช่วงที่มี
00:09:13 → 00:09:17 ประจำเดือนอยู่อย่าให้ผ้าอนามัยชุ่มนะ
00:09:17 → 00:09:19 ครับเพราะว่าถ้าชุ่มเอาแล้วเชื้อโรคมัน
00:09:19 → 00:09:21 ชอบชอบพวกเลือดพวกความคาวพวกอะไรพวกเนี้ย
00:09:21 → 00:09:24 นะครับมันก็โตอยู่ตรงนั้นนะท่านทุ่มอยาก
00:09:24 → 00:09:26 ให้ชุ่มเลยรีบเปลี่ยนนะครับท่านไหนที่
00:09:26 → 00:09:28 เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อยๆนี้ต้องรีบ
00:09:28 → 00:09:29 เปลี่ยนนะครับเปลี่ยนบ่อยๆอย่าให้มันชุ่ม
00:09:29 → 00:09:32 นะฮะส่วนต้องบ่อยแค่ไหนท่านคงจะต้อง
00:09:32 → 00:09:34 ประเมินตัวเองล่ะครับว่าปริมาณประจำเดือน
00:09:34 → 00:09:37 ของท่านมันมีมากน้อยแค่ไหนแต่ละวันนะครับ
00:09:37 → 00:09:41 ก็ต้องแก้ไขตรงนั้นเอาเองนะครับอ่า
00:09:41 → 00:09:44 อีกอย่างหนึ่งซึ่งเราต้องระวังก็คือใน
00:09:44 → 00:09:47 กรณีของคนที่มีเพศสัมพันธ์นะครับบางคน
00:09:47 → 00:09:49 เนี่ยถ้าเป็นบ่อยๆต้องบอกอย่างนี้ครับ
00:09:49 → 00:09:52 เวลามีเพศสัมพันธ์จะต้องรักษาความสะอาด
00:09:52 → 00:09:53 ที่ดีคือล้างให้สะอาดให้เรียบร้อยทั้งของ
00:09:54 → 00:09:56 ผู้หญิงและของผู้ชายนะครับแล้วหลังจากมี
00:09:56 → 00:09:59 เพศสัมพันธ์เสร็จนะครับต่อการสอดใส่สอด
00:09:59 → 00:10:01 ใส่เสร็จปุ๊บแล้วครั้งหนึ่งท่านไปปัสสาวะ
00:10:01 → 00:10:04 ทิ้งไปปัสสาวะทิ้งเพราะบางครั้งการสอดใส่
00:10:04 → 00:10:08 มันทำให้เกิดแผลมีเสียดสีแล้วก็เชื้อโรค
00:10:08 → 00:10:09 พวกนั้นที่อยู่ตรงบริเวณนั้นมันโดนดัน
00:10:09 → 00:10:11 เข้าไปข้างในท่านก็จะเกิดการติดเชื้อได้
00:10:11 → 00:10:12 ถ้าท่านไม่ปัสสาวะออกท่านก็อาจจะเป็น
00:10:12 → 00:10:16 กระเพาะปัสสาวะอักเสบก็ได้นะครับอ่าดัง
00:10:16 → 00:10:19 นั้นก็ต้องไปปัสสาวะอักเสบไปปัสสาวะทิ้ง
00:10:19 → 00:10:21 หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์แต่ละครั้งนะครับ
00:10:21 → 00:10:23 บางคนบอกว่าเออถ้าเกิดว่าเรามีพระสอนการ
00:10:23 → 00:10:26 ทั้งคืนอย่างเงี้ยเราเราต้องปัสสาวะตอน
00:10:26 → 00:10:28 ไหนปัสสาวะตอนเช้าทีเดียวไม่ได้นะครับ
00:10:28 → 00:10:30 สมมุติว่าท่านเศรษฐกิจ 1 ครั้งท่านก็ไป
00:10:30 → 00:10:33 ปัสสาวะ 1 ครั้งนะครับอย่าไปเก็บไว้ทั้ง
00:10:33 → 00:10:35 คืนเพราะว่าไม่ฉะนั้นโอกาสที่เชื้อมัน
00:10:35 → 00:10:36 อยู่ตรงนั้นนานๆโอกาสที่มีการเสียดสี
00:10:36 → 00:10:38 เชื้อมันจะเข้าไปในทางเดินมาซ่อมของท่าน
00:10:38 → 00:10:41 ก็จะสูงขึ้นดังนั้นตรงนี้ก็จะต้องระวัง
00:10:41 → 00:10:43 ให้ดีนะครับควรไปปัสสาวะทิ้งให้เรียบร้อย
00:10:43 → 00:10:44 นะครับ
00:10:44 → 00:10:48 ดังนั้นดื่มน้ำให้เพียงพออย่ากั้นอย่า
00:10:48 → 00:10:50 กลั้นปัสสาวะเด็ดขาดนะครับอย่าให้ท้อง
00:10:50 → 00:10:53 เสียอย่าให้ท้องอย่าให้ท้องผูกนะครับถ้า
00:10:53 → 00:10:55 ท้องผูกมากๆจะเกิดปัญหาเช็ดทำความสะอาด
00:10:55 → 00:10:58 จากด้านหน้าไปด้านหลังนะครับเวลามีประจำ
00:10:58 → 00:11:00 เดือนเปลี่ยนผ้าอนามัยอย่าให้มันชุ่มนะ
00:11:00 → 00:11:03 ครับถ้ามีเพศสัมพันธ์ก็คือไปปัสสาวะทิ้ง
00:11:03 → 00:11:05 หลังจากการเสพติดทุกครั้งนะครับรักษาความ
00:11:05 → 00:11:07 สะอาดตั้งแต่ก่อนด้วยไม่ใช่ว่าถ้าท่านไป
00:11:07 → 00:11:09 วิ่งอะไรมาหรืออะไรอย่างนี้ไปออกกำลังกาย
00:11:09 → 00:11:12 มาแล้วมันมีเพศสัมพันธ์การบางทีถ้าท่านมี
00:11:12 → 00:11:14 โอกาสจะเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ง่าย
00:11:14 → 00:11:16 แต่ท่านก็จะเป็นเลยนะครับ
00:11:16 → 00:11:19 แล้วถ้าท่านทำทุกอย่างเต็มที่แล้วมันยัง
00:11:19 → 00:11:20 เป็นอยู่ทำยังไงนะครับตรงเนี้ยต้องไปหา
00:11:21 → 00:11:24 หมอแล้วนะครับหมออะไรนะครับก็คือเอ่อ
00:11:24 → 00:11:27 สัญญาศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะเนี่ยก็จะ
00:11:27 → 00:11:29 เป็นหมอที่ดูแลท่านได้เพราะว่าจะต้องดู
00:11:29 → 00:11:32 ว่ามีการผิดปกติอะไรบางอย่างในทางเดิน
00:11:32 → 00:11:34 ปัสสาวะทั้งหมดหรือเปล่านะครับก็จะมีการ
00:11:34 → 00:11:37 ตรวจดูนะครับอาจจะมีการตรวจอ่าใช้ฉีดสี
00:11:37 → 00:11:38 เข้าไปแล้วทำเอ็กซเรย์ดูว่ามันมีตรงไหน
00:11:39 → 00:11:41 ที่ผิดปกติไหมต้องไปแก้ตรงนั้นนะครับถ้า
00:11:41 → 00:11:44 ไม่มีตรงไหนที่ผิดปกติเลยตรวจกับหมอทาง
00:11:44 → 00:11:45 ไสยศาสตร์ทางเดินปัสสาวะเรียบร้อยแล้ว
00:11:45 → 00:11:48 เนี่ยนะครับก็อาจจะจำเป็นจะต้องกินยา
00:11:48 → 00:11:51 เพื่อป้องกันนะครับกินยาเพื่อป้องกันก็จะ
00:11:51 → 00:11:54 มียาหลากหลายชนิดมากในยกตัวอย่างเช่นยา
00:11:54 → 00:11:57 แบล็คทริมหรืออาจจะเป็นยาชื่อ
00:11:57 → 00:12:00 ไนโตรฟิลแลนด์ TOA แต่ละตัวก็จะมีข้อดี
00:12:00 → 00:12:03 ข้อเสียแตกต่างกันไปนะครับที่สำคัญคือ
00:12:03 → 00:12:06 ท่านอาจจะต้องสังเกตดูว่าช่วงไหนที่ท่าน
00:12:06 → 00:12:09 มีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะนะครับบาง
00:12:09 → 00:12:11 คนเนี่ยสังเกตไม่ได้เลยไม่รู้ว่าเป็นตอน
00:12:11 → 00:12:13 ไหนมันอยู่ๆจะเป็นขึ้นเป็นเป็นขึ้นมาก็
00:12:13 → 00:12:16 เป็นพวกนี้อาจจะต้องกินยาไปตลอดนะครับอีก
00:12:16 → 00:12:20 กรณีหนึ่งก็คือคนที่เป็นเฉพาะตอนที่กำลัง
00:12:20 → 00:12:22 มีรอบเดือนพวกเนี้ยมันมักจะมีความเกี่ยว
00:12:22 → 00:12:25 ข้องกับการที่ท่านเอ่อไม่ได้ทำความสะอาด
00:12:26 → 00:12:28 ตรงบริเวณนั้นน่ะให้ดีแล้วก็ปล่อยให้ผ้า
00:12:28 → 00:12:30 อนามัยมันชุ่มแล้วก็จะเกิดปัญหาขึ้นมาแต่
00:12:30 → 00:12:32 ถ้าท่านทำดีแล้วมันยังติดยาอยู่เนี่ยนะ
00:12:33 → 00:12:35 ครับท่านอาจจะกินยาแค่ในช่วงที่ท่านกำลัง
00:12:35 → 00:12:37 มีรอบเดือนก็ได้นะครับ
00:12:37 → 00:12:40 สำหรับท่านที่เป็นเอ่อผู้ที่หมดประจำ
00:12:40 → 00:12:43 เดือนไปแล้วบางครั้งจะมีปัญหาเรื่องของ
00:12:43 → 00:12:46 ช่องคลอดแห้งเนื่องจากว่าฮอร์โมนของเรา
00:12:46 → 00:12:47 เนี่ยฮอร์โมนเอสโตรเจนมันหมดนะครับช่อง
00:12:47 → 00:12:50 คลอดมันก็จะแห้งบางคนพอแห้งปุ๊บมันก็จะมี
00:12:50 → 00:12:52 โอกาสที่จะมีการฉีกขาดเป็นเล็กๆเนี่ยมัน
00:12:52 → 00:12:55 จะไม่ฉีกขาดใหญ่ๆนะครับฉีกขาดเล็กๆเชื้อ
00:12:55 → 00:12:57 โรคมันก็เข้าไปแล้วท่านก็อาจจะมีโอกาสติด
00:12:57 → 00:12:58 เชื้อในทางเดินปัสสาวะได้นะครับเพราะว่า
00:12:58 → 00:13:01 ที่แห้งมันไม่ใช่เฉพาะช่องคลอดแต่ไอ้ท่อ
00:13:01 → 00:13:02 ปัสสาวะของท่านซึ่งอยู่บริเวณช่องคลอด
00:13:03 → 00:13:05 เนี่ยมันก็แห้งไปด้วยนะครับในกรณีพวกนี้
00:13:05 → 00:13:08 วิธีแก้ไขมันไม่ได้ยากเย็นอะไรครับก็คือ
00:13:08 → 00:13:11 ใช้เจลเอสโตรเจนทานะครับซึ่งตรงนี้ก็คือ
00:13:11 → 00:13:14 จะต้องไปปรึกษาคุณหมอทางสูตินรีเวชนะครับ
00:13:14 → 00:13:17 ให้เขาจ่ายยาตัวนี้มานะครับเราก็แน่นอน
00:13:17 → 00:13:19 คือการป้องกันทุกอย่างอย่างที่ผู้หญิง
00:13:19 → 00:13:21 ท่านอื่นที่ต้องทำเนี่ยก็ต้องทำเหมือนกัน
00:13:21 → 00:13:24 นะครับไม่ใช่ว่าเราหมดประจำเดือนแล้วเรา
00:13:24 → 00:13:26 ต้องใช้ตัวนี้เพราะใช้ตัวนี้เสร็จมันจะ
00:13:26 → 00:13:27 ป้องกันได้ทุกอย่างนะครับแต่ถ้าท่านยัง
00:13:27 → 00:13:30 ท้องผูกท่านยังทำการทำความสะอาดไม่เหมาะ
00:13:30 → 00:13:32 นะครับท่านทานน้ำไม่เพียงพอท่านการ
00:13:32 → 00:13:34 ปัสสาวะแน่นอนมันก็ต้องเป็นอยู่แล้วนะ
00:13:34 → 00:13:37 ครับต้องทำให้ครบด้วยนะครับ
00:13:37 → 00:13:40 มาถึงโอ้อีกอย่างหนึ่งที่ผมลืมไปก็คือคน
00:13:40 → 00:13:43 ที่เป็นผู้หญิงที่อายุเยอะหน่อยแล้วโดย
00:13:43 → 00:13:45 เฉพาะคนที่มีลูกมาแล้วหลายคนนะครับคน
00:13:45 → 00:13:48 เนี้ยบางครั้งมีการเกิดอุ้งเชิงการหย่อน
00:13:48 → 00:13:52 นะครับมันก็อาจจะทำให้ไปขัดขวางทางเดิน
00:13:52 → 00:13:55 ปัสสาวะนะครับแล้วบางคนอาจจะคิดว่าเออขัด
00:13:55 → 00:13:57 ขวางทางเดินปัสสาวะเนี่ยมันต้องปัสสาวะ
00:13:57 → 00:13:59 ไม่ออกไม่ใช่ครับ
00:13:59 → 00:14:01 มันทำให้ท่านปัสสาวะบ่อยปัสสาวะบ่อย
00:14:01 → 00:14:05 ปัสสาวะเล็ดนะฮะคือบางคนเคยไหมครับ
00:14:05 → 00:14:08 ปัสสาวะเล็ดเลยหัวเราะไม่ได้เลยออกไปนอก
00:14:08 → 00:14:10 บ้านไม่ได้ต้องใส่แพมเพิสผู้ใหญ่ไว้ตลอด
00:14:10 → 00:14:13 เวลาไม่งั้นนิดนึงเล็บนะครับอ่าหรือบางคน
00:14:13 → 00:14:15 กลางคืนต้องตื่นมาปัสสาวะบ่อยๆนะครับ
00:14:15 → 00:14:16 เนี่ย
00:14:16 → 00:14:18 อาจจะมีภาวะอุ้งเชิงการหย่อนนะครับถ้า
00:14:18 → 00:14:21 ท่านมีลูกมาหลายๆคนแล้วก็ท่านโดยเฉพาะถ้า
00:14:21 → 00:14:23 หมดประจำเดือนไปแล้วเนี่ยยิ่งมีความ
00:14:23 → 00:14:25 เสี่ยงสูงขึ้นตรงนี้จะต้องไปตรวจกับคุณ
00:14:25 → 00:14:28 หมอสูตินในเวชหรืออาจจะเป็นคุณหมอทางเดิน
00:14:28 → 00:14:30 ปัสสาวะอ่าที่เชี่ยวชาญน้ำนี้โดยเฉพาะ
00:14:30 → 00:14:33 เพื่อดูว่าจะต้องมีการแก้ไขด้วยการทำอะไร
00:14:33 → 00:14:37 ผ่าตัดหรือการทำการ exile ที่เอ่อเป็นการ
00:14:37 → 00:14:39 Exercise แบบคีเกลหรือเปล่านะฮะ Exercise
00:14:39 → 00:14:42 Key gel คืออะไรท่านก็ลองไปหาใน YouTube
00:14:42 → 00:14:44 ก็ได้นะครับมีคนสอนไว้เยอะแยะแล้วนะครับ
00:14:44 → 00:14:47 เป็นการ Exercise ช่องคลอดก็คือการขมิบ
00:14:47 → 00:14:49 ช่องคลอดนั่นเองนะครับเป็นการทำให้หูรูด
00:14:49 → 00:14:51 เนี่ยมันแข็งแรงเพิ่มขึ้นนะฮะมันช่วยนะ
00:14:51 → 00:14:54 ครับถ้าท่านไหนที่ไม่ต้องการผ่าตัดการ
00:14:54 → 00:14:56 ขมิบช่องคลอดหรือการทำคีย์เวล Exercise
00:14:56 → 00:14:59 นะครับแต่มันต้องทำเยอะมากนะครับเป็นร้อย
00:14:59 → 00:15:01 ครั้งนะฮะถึงจะมีผลนะครับบางคนก็ทำไม่ได้
00:15:01 → 00:15:03 อะไรก็ต้องไปผ่าตัดเอานะครับ
00:15:03 → 00:15:06 อ่ะอันเนี้ยก็เห็นอีกภาวะหนึ่งซึ่งทำให้
00:15:06 → 00:15:09 บางท่านมีการเกิดการติดเชื้อในทางเดิน
00:15:09 → 00:15:11 ปัสสาวะบ่อยๆได้นะครับท่านก็จะต้องไปแก้
00:15:11 → 00:15:13 ไขภาวะนี้นะครับ
00:15:13 → 00:15:15 ทีนี้มาถึงเรื่องที่สำคัญเพิ่มขึ้นอีก
00:15:15 → 00:15:18 เรื่องนึงละท่านสังเกตไหมครับว่า
00:15:18 → 00:15:21 บางครั้งเนี่ยนะครับในคนสูงอายุเนี่ยไปหา
00:15:21 → 00:15:24 หมอเนี่ยแล้วนอนโรงพยาบาลแล้วจะเจอว่าเขา
00:15:24 → 00:15:26 ติดเชื้อในกระแสเลือดและถามว่าเชื้อมาจาก
00:15:26 → 00:15:30 ไหนแล้วก็เจอว่าเขามีการติดเชื้อในทาง
00:15:30 → 00:15:32 เดินปัสสาวะสุดท้ายเข้าไปในกระแสเลือด
00:15:32 → 00:15:36 แล้วเสียชีวิตบ่อยไปเลยนะครับทำไมอยู่ๆ
00:15:36 → 00:15:39 เป็นเจอบ่อยเลยนะครับเรื่องนี้ผมเคยเล่า
00:15:39 → 00:15:42 ไปแล้วเนี่ยในวิดีโอคลิปเกี่ยวข้องกับ
00:15:42 → 00:15:44 เรื่องของการติดเชื้อในกระแสเลือดนะครับ
00:15:44 → 00:15:47 เพราะว่าคนที่สูงอายุหลายๆคนเนี่ยนะครับ
00:15:47 → 00:15:50 คือแน่นอนอาจจะมีปัญหาในด้านของการ
00:15:50 → 00:15:52 เคลื่อนไหวอาจจะเดินไม่ค่อยสะดวกนะครับ
00:15:52 → 00:15:55 วันๆก็ช่วยเหลือตัวเองอะไรไม่ค่อยได้นะ
00:15:55 → 00:15:56 ครับนอนแล้วบางครั้งเนี่ยอุจจาระปัสสาวะ
00:15:56 → 00:15:59 โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาในด้านของเส้นเลือด
00:15:59 → 00:16:01 สมองตีบแตกหรือตันแล้วเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต
00:16:01 → 00:16:03 เนี่ยนะครับเขาก็จะดูแลตัวเองไม่ค่อยได้
00:16:03 → 00:16:06 นะฮะทำให้มีโอกาสที่เชื้อมันจะหมักหมม
00:16:06 → 00:16:09 อยู่บริเวณเอ่อองคชาติหรือว่าในบริเวณ
00:16:09 → 00:16:12 ช่องคลอดในผู้หญิงได้นานกว่าปกติแล้วมัน
00:16:12 → 00:16:13 ก็จะเป็นอย่างนี้ครับเชื้อโรคมันก็จะเดิน
00:16:13 → 00:16:16 ตามปัสสาวะขึ้นไปข้างในแล้วก็ติดเชื้อ
00:16:16 → 00:16:19 ขึ้นมาติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะรุนแรงก็
00:16:19 → 00:16:21 เข้ากระแสเลือดนะครับแล้วเขากระแสเลือด
00:16:21 → 00:16:24 บางทีเรารักษาเชื้อได้แต่คนไข้มันไม่หาย
00:16:24 → 00:16:26 คนไข้ก็เสียชีวิตได้อยู่ดีนะครับ
00:16:26 → 00:16:29 คือการรักษาโรคพวกนี้ไม่ใช่ว่าเราให้ยา
00:16:29 → 00:16:31 ฆ่าเชื้อแล้วคนไข้จะดีขึ้นทุกรายนะครับ
00:16:31 → 00:16:33 ไม่ใช่นะฮะ
00:16:33 → 00:16:35 เชื้อมันเข้าไปมันก่อให้เกิดการอักเสบของ
00:16:35 → 00:16:38 ร่างกายการอักเสบนี้ถ้ามันมากจนเกินไป
00:16:38 → 00:16:40 ร่างกายก็ช็อคความดันตกแล้วก็เสียชีวิต
00:16:40 → 00:16:43 ได้การให้เราเอายาไปฆ่าเชื้อเนี่ยเชื้อ
00:16:43 → 00:16:45 มันตายแต่การอักเสบมันอาจจะยังไม่หายไป
00:16:45 → 00:16:48 ไหนนะครับดังนั้นส่วนนึงเนี่ยคนไข้จะดี
00:16:48 → 00:16:51 ขึ้นได้ด้วยยาฆ่าเชื้อแต่อีกส่วนหนึ่งคน
00:16:51 → 00:16:53 ไข้จะต้องดีขึ้นได้ด้วยภูมิต้านทานของตัว
00:16:53 → 00:16:56 เองเช่นเดียวกันไม่ฉะนั้นเนี่ยมันก็ไม่
00:16:56 → 00:16:59 หายแล้วก็โดยเฉพาะคนที่อายุเยอะๆเราก็รู้
00:16:59 → 00:17:01 อยู่แล้วว่าร่างกายก็จะมีโรคเยอะภูมิต้าน
00:17:01 → 00:17:03 ทานก็จะอ่อนแอลงโอกาสที่เขาจะเสียชีวิต
00:17:03 → 00:17:06 จากโรคพวกเนี้ยก็เลยสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว
00:17:06 → 00:17:09 แล้วโรคทางเดินปัสสาวะติดเชื้อในคนอายุ
00:17:09 → 00:17:12 เยอะๆเนี่ยไม่ใช่เป็นโรคที่เจอยากนะครับ
00:17:12 → 00:17:14 มันเจอง่ายโดยเฉพาะคนไข้ที่ป่วยบ่อยๆนอน
00:17:14 → 00:17:16 โรงพยาบาลนะครับบางคนเป็นแล้วเป็นอีกเป็น
00:17:16 → 00:17:19 แล้วเป็นอีกเยอะแยะไปหมดนะครับคนไข้กลุ่ม
00:17:19 → 00:17:22 นี้วิธีการดูแลก็เหมือนกับคนที่อายุน้อย
00:17:22 → 00:17:25 นะครับดื่มน้ำให้เพียงพออย่าให้ปัสสาวะ
00:17:25 → 00:17:28 มันมันอั้นไว้นานๆนะครับต้องปัสสาวะให้
00:17:28 → 00:17:31 เรียบร้อยนะครับถ้าปัสสาวะเล็ดราดก็ต้อง
00:17:31 → 00:17:34 เปลี่ยนแพมเพิสให้เร็วทันทีนะครับไม่ใช่
00:17:34 → 00:17:36 ว่าหมัดไว้ตรงนั้นนานๆหรืออุจจาระออกมา
00:17:36 → 00:17:39 แล้วก็ต้องเช็ดนะฮะถ้าไม่เช็ดก็ติดเชื้อ
00:17:39 → 00:17:41 นะครับทำอะไรไม่ได้มันทำได้แค่นี้นะครับ
00:17:41 → 00:17:44 ถ้าท้องผูกต้องไปแก้เรื่องท้องผูกคนไข้
00:17:45 → 00:17:48 ที่มีภาวะเรื่องของอ่ามนุษย์ทำพลาดเนี่ย
00:17:48 → 00:17:50 จะมีท้องผูกค่อนข้างบ่อยนะครับเราต้อง
00:17:50 → 00:17:52 ย้ายเขาท้องผูกก็คือต้องใช้ยาถ่ายก็ต้อง
00:17:52 → 00:17:55 ใช้ยาถ่ายบางคนกลัวยาถ่ายจะไปทำพิษการไม่
00:17:55 → 00:17:57 ถ่ายนี่แหละครับทำผิดมากกว่าการกินยาถ่าย
00:17:57 → 00:17:59 เข้าไปเยอะเลยนะครับท่านจะต้องย้ายท้อง
00:17:59 → 00:18:03 ผูกนะฮะตรงนี้มีความสำคัญมากบางคนถ้ามี
00:18:03 → 00:18:06 เรื่องของการผิดปกติในการปัสสาวะเช่น
00:18:06 → 00:18:09 ปัสสาวะออกมาน้อยนะครับปัสสาวะบ่อย
00:18:09 → 00:18:11 ปัสสาวะแล้วมันก็ขาดๆหายๆนะครับต้องไป
00:18:11 → 00:18:13 ตรวจว่ามีต่อมลูกหมากโตหรือเปล่ามะเร็ง
00:18:13 → 00:18:16 ต่อมลูกหมากไหมมีทางเดินปัสสาวะที่มันมี
00:18:16 → 00:18:17 ปัญหาอะไรหรือเปล่านะครับเพราะต้องไปแก้
00:18:17 → 00:18:20 พวกนั้นทั้งหมดมันถึงจะไม่เป็นนะครับท่าน
00:18:20 → 00:18:23 ที่ใส่สายสวนปัสสาวะอันนี้ก็ตัวดีเลยนะ
00:18:23 → 00:18:25 ครับเพราะว่ามันจะมีบางท่านที่จำเป็นจะ
00:18:25 → 00:18:28 ต้องใส่สายสวนปัสสาวะแบบเรื้อรังนะครับ
00:18:28 → 00:18:30 ยาวเป็นปีหรือบางคนถอดไม่ได้เลยนะครับ
00:18:30 → 00:18:33 หรือว่าแล้วก็แล้วแต่นะครับพวกนี้จะต้อง
00:18:33 → 00:18:38 มีการเปลี่ยนสายปัสสาวะบ่อยๆนะครับอ่าทาง
00:18:38 → 00:18:41 คุณหมอที่เขาแนะนำให้ใส่สายปัสสาวะเนี่ย
00:18:41 → 00:18:43 คาไว้เนี่ยมันจะมีบางโรคที่จำเป็นต้องใส่
00:18:43 → 00:18:46 สายคาท่านควรจะต้องเปลี่ยนนะครับจะต้อง
00:18:46 → 00:18:47 เปลี่ยนให้เป็นเราต้องเปลี่ยนให้ถูกวิธี
00:18:47 → 00:18:50 โดยที่ไม่ทำให้สกปรกด้วยเพราะว่าถ้าสกปรก
00:18:50 → 00:18:52 ปุ๊บอ่าแน่นอนติดเชื้อนะครับเพราะเชื้อ
00:18:52 → 00:18:55 พวกนี้ถ้าท่านทำสกปรกสายที่มันคาอยู่
00:18:55 → 00:18:57 เนี่ยมันก็เอาเชื้อโรคไปตามสายถ้าท่านทำ
00:18:57 → 00:18:59 สกปรกปุ๊บก็แปลว่าท่านออกเชื้อโรคเนี่ย
00:18:59 → 00:19:02 ยัดเข้าในตัวคนไข้คนไข้ก็ติดเชื้อถูกไหม
00:19:02 → 00:19:04 ครับดังนั้นก็มีการทำความสะอาดให้ดีที่
00:19:04 → 00:19:06 สุดท่านจะต้องเรียนรู้ว่าจะต้องทำยังไง
00:19:06 → 00:19:09 ญาติจะต้องทำให้เป็นนะครับตรงนี้ผมก็ยัง
00:19:09 → 00:19:11 ไม่ลงรายละเอียดแล้วกันถ้าท่านไหนที่จะ
00:19:11 → 00:19:14 ต้องต้องการทำแบบนั้นเนี่ยถามจากคุณหมอ
00:19:14 → 00:19:17 จากคุณพยาบาลที่เขาแนะนำให้เรียบร้อยทำ
00:19:17 → 00:19:19 ให้เป็นทำให้มั่นใจนะครับเพราะฉะนั้นก็จะ
00:19:19 → 00:19:21 มีปัญหาได้เราจะต้องรู้ว่าเมื่อไหร่คุณจะ
00:19:21 → 00:19:24 เปลี่ยนนะครับทั่วๆไปสักประมาณอาทิตย์นึง
00:19:24 → 00:19:26 เนี่ยเราก็ให้เปลี่ยนแล้วเราไม่ได้อยากจะ
00:19:26 → 00:19:28 ให้คามันไว้นานนะครับไม่งั้นยิ่งนานยิ่ง
00:19:28 → 00:19:30 มีปัญหานะครับพวกนี้ก็ต้องระวังแล้วบางที
00:19:30 → 00:19:34 สายมันมันแตกมันอะไรพวกนี้ก็ยิ่งใส่นานก็
00:19:34 → 00:19:37 จะมีปัญหาเหมือนกันนะครับโอเควันนี้ก็เลย
00:19:37 → 00:19:38 มาเล่าทั้งหมดนะครับเรื่องเกี่ยวข้องกับ
00:19:38 → 00:19:41 การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะนะครับผลเสีย
00:19:41 → 00:19:43 ของมันก็เยอะแยะมากมายเลยครับตั้งแต่ใน
00:19:43 → 00:19:45 กรณีของเด็กที่อาจจะมีการเกิดการเสื่อม
00:19:45 → 00:19:47 ของไตได้นะครับแล้วถ้าติดเชื้อบ่อยๆเนี่ย
00:19:47 → 00:19:51 เด็กก็จะมีปัญหาทางด้านโภชนาการภาวะการ
00:19:51 → 00:19:53 เจริญเติบโตภาวะสมองอะไรเต็มไปหมดไม่ใช่
00:19:53 → 00:19:55 เฉพาะระบบทางเดินปัสสาวะอย่างเดียวนะครับ
00:19:55 → 00:19:59 ในคนที่เป็นตั้งแต่วัยรุ่นขึ้นมานะครับ
00:19:59 → 00:20:02 มักจะเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชายนะครับใน
00:20:02 → 00:20:04 ผู้หญิงก็มีการติดเชื้อซ้ำๆได้จากเมื่อ
00:20:04 → 00:20:06 กี้ที่บอกไปแล้วนะครับเราป้องกันตัวยังไง
00:20:06 → 00:20:09 ก็ได้เราไปเรียบร้อยนะครับดื่มน้ำที่
00:20:09 → 00:20:11 เพียงพออย่าอั้นปัสสาวะนะครับทำความสะอาด
00:20:11 → 00:20:13 จากหน้าไปหลังนะครับอย่าให้ประจำเดือนมัน
00:20:13 → 00:20:16 ชุ่มมากนะครับต้องแก้ไขตรงนั้นให้ดีนะ
00:20:16 → 00:20:18 ครับคนไหนที่มีทางเดินปัสสาวะที่ผิดปกติ
00:20:18 → 00:20:21 ก็ไปแก้ไขซะนะครับถ้าคนไหนที่ปัสสาวะผิด
00:20:21 → 00:20:23 ปกติก็ไปตรวจนะครับเพราะว่าอาจจะต้องทำ
00:20:23 → 00:20:26 แบบนั้นนะฮะมีเพศสัมพันธ์ก็ไปปัสสาวะทิ้ง
00:20:26 → 00:20:28 ทุกครั้งหลังจากเศรษฐกิจนะครับทำความ
00:20:28 → 00:20:30 สะอาดตั้งแต่แรกจนตอนหนังก็ต้องทำความ
00:20:30 → 00:20:32 สะอาดให้เรียบร้อยด้วยนะครับแล้วก็ถ้ายัง
00:20:32 → 00:20:34 ทำแล้วมันเป็นอย่างนี้เรื่อยๆอาจจะต้อง
00:20:34 → 00:20:37 รับประทานยาที่เป็นยาป้องกันการเกิดการ
00:20:37 → 00:20:40 ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะนะครับอ่าอาการ
00:20:40 → 00:20:44 ก็มีตั้งแต่การปัสสาวะขัดแสบนะปวดประสาท
00:20:44 → 00:20:47 มากๆนะครับจนกระทั่งถึงขั้นที่มีการติด
00:20:48 → 00:20:50 เชื้อในไตพวกนั้นนะฮะโอ้ผมลืมพูดไปอย่าง
00:20:50 → 00:20:53 นึงเวลาคนที่เป็นพวกนี้มากๆแล้วมีเมียบาง
00:20:53 → 00:20:56 คนบอกว่าอยากไปกินยาล้างไต
00:20:56 → 00:20:58 นะฮะที่ชาวบ้านกินแล้วปัสสาวะออกมาสีแบบ
00:20:58 → 00:21:01 เขียวๆหรือว่าสีน้ำเงินเข้มนะไม่ต้องกิน
00:21:01 → 00:21:04 ครับไม่มีประโยชน์ใดๆทั้งสิ้นยาตัวนี้คือ
00:21:04 → 00:21:06 สารชื่อว่าเมทิลีนบลูนะครับ
00:21:06 → 00:21:11 มันเป็นสีสีน้ำเงินอย่างนึงนะแล้วบางคน
00:21:11 → 00:21:13 กินแล้วอันตรายมากด้วยนะครับโดยเฉพาะคน
00:21:13 → 00:21:14 ไข้ที่มีโรค
00:21:14 → 00:21:17 จีซิกพีดีซึ่งโรคนี้เจอบ่อยในประเทศไทย
00:21:17 → 00:21:20 จีซิกซีดีเป็นโลกที่ทำให้มีการแตกของเม็ด
00:21:20 → 00:21:22 เลือดแดงได้เมื่อมีการไปเจอสารบางอย่าง
00:21:22 → 00:21:25 แล้วสารบางอย่างในนั้นเนี่ยมักจะเป็นสาร
00:21:25 → 00:21:27 ที่เราเรียกว่าออกซิไดซ์ซึ่งออกซิไดซิ
00:21:27 → 00:21:29 เอเจนยกตัวอย่างเช่น materine Blue ถ้า
00:21:30 → 00:21:32 ท่านเป็น T6 แล้วท่านไปกินยาล้างไตตัวนี้
00:21:32 → 00:21:34 ที่ชื่อว่า metalline Blue แล้วปัสสาวะ
00:21:34 → 00:21:36 ท่านออกมาเป็นแบบนั้นตอนนั้นแหละครับท่าน
00:21:36 → 00:21:38 จะมีภาวะเม็ดเลือดแดงแตกแบบมหาศาลมากมาย
00:21:39 → 00:21:41 เลยเราเป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างยิ่งนะ
00:21:41 → 00:21:44 ครับยาตัวนี้ไม่มีผลในการแก้ไขภาวะทาง
00:21:44 → 00:21:47 เดินปัสสาวะติดเชื้อแต่อย่างใดไม่ต้องไป
00:21:47 → 00:21:50 หามากินสมุนไพรยาอะไรพวกเนี้ยอย่าไปเอามา
00:21:50 → 00:21:52 ใช้นะครับถ้าท่านไม่ได้ปรึกษาแพทย์เพราะ
00:21:52 → 00:21:54 ว่าบางครั้งมันอันตรายกับร่างกายท่านมาก
00:21:54 → 00:21:57 กว่าการรักษาแบบปกติด้วยซ้ำไปนะครับ
00:21:57 → 00:21:59 โอเควันนี้ก็ฝากไว้เท่านี้นะครับขอบคุณ
00:21:59 → 00:22:02 มากครับสวัสดีครับ