00:00:12 → 00:00:28 [เพลง]
00:00:28 → 00:00:33 เ
00:00:33 → 00:00:51 [เพลง]
00:00:51 → 00:00:54 สวัสดีค่ะคุณผู้ชมคะอยู่กับแพลนนะคะในราย
00:00:54 → 00:00:56 การฉายแววค่ะและภาพที่คุณผู้ชมได้เห็นไป
00:00:57 → 00:00:59 เมื่อกี้นี้นะคะมันคือเซลล์มะเร็งนัก
00:00:59 → 00:01:01 วิทยาศาสตร์นะคะเได้ทำการย้อมสีเซลล์
00:01:01 → 00:01:04 มะเร็งค่ะเพื่อศึกษาถึงโครงสร้างทั้งหมด
00:01:04 → 00:01:07 และหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาโรคมะเร็งใน
00:01:07 → 00:01:09 มนุษย์ค่ะซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ
00:01:09 → 00:01:11 เพราะไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้มีเซลล์มะเร็ง
00:01:11 → 00:01:13 อยู่ในร่างกายของเราใช่มั้ยคะรวมไปถึงมี
00:01:13 → 00:01:15 นักวิทยาศาสตร์ท่านหนึ่งที่เมืองไทยของ
00:01:15 → 00:01:18 เราเี่ละค่ะและดีกรีเขาไม่ธรรมดาด้วยนะคะ
00:01:18 → 00:01:20 เพราะเขาเป็นเพียงนักศึกษาแต่เขาต้องการ
00:01:20 → 00:01:23 แก้ไขปัญหาเรื่องนี้ค่ะจึงทำการวิจัยนะคะ
00:01:23 → 00:01:26 ด้วยการใช้สมุนไพรคล้ห่างนาคในการแก้ไข
00:01:26 → 00:01:29 ปัญหาเรื่องมะเร็งและนี่คือผลงานที่เราจะ
00:01:29 → 00:01:31 มาฉายแววกันในวันนี้
00:01:31 → 00:01:50 [เพลง]
00:01:50 → 00:01:54 ค่ะสวัสดีค่ะบิวตี้นะคะแหมคุณผู้ชมขาและ
00:01:54 → 00:01:56 นี่แหละค่ะคือนักวิทยาศาสตร์ที่แพรได้พูด
00:01:56 → 00:01:59 ถึงนะคะแล้วก็ต้องบอกเลยว่าพอเจอบิวตี้
00:01:59 → 00:02:01 แล้วนะคะมันผิดกับที่พระคาดไว้เยอะมาก
00:02:01 → 00:02:04 นั่นคือเรื่องของลุอย่างแรกเลยนะคะถ้าพูด
00:02:04 → 00:02:07 ถึงนักวิทยาศาสตร์ 1 คือต้องใส่แว่น 2
00:02:07 → 00:02:10 คือต้องนืดแต่คือบิวตี้แบบกลับทุกอย่าง
00:02:10 → 00:02:12 ที่อยู่ในความคิดของหลายคนเลยหนูว่ามัน
00:02:12 → 00:02:15 ขึ้นอยู่กับคนสไตล์ของคนว่าแบบชอบแบบไหน
00:02:15 → 00:02:18 อ่ะค่ะอืดังนั้นเนี่ยเรื่องของสไตล์ไม่
00:02:18 → 00:02:20 ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เราเรียนรู้
00:02:20 → 00:02:23 หรือว่าอยู่กับมันไม่เลยค่ะอันนี้ในมุมมา
00:02:23 → 00:02:25 ของบิวตี้นะคะงั้นเราถามถึงเรื่องของงาน
00:02:25 → 00:02:27 วิจัยดีกว่าคือการใช้สมุนไพรฆ่าเซลล์
00:02:27 → 00:02:30 มะเร็งใช่ค่ะทำไมเราถึงเลือเลือกทำเรื่อง
00:02:30 → 00:02:32 นี้คะทั้งที่ณปัจจุบันมันก็มีการรักษา
00:02:32 → 00:02:35 มะเร็งด้วยเคมีบำบัดอยู่ที่เลือกใช้สาร
00:02:36 → 00:02:38 สมุนไพรเนี่ยเพราะว่าสมุนไพรเนี่ยเรา
00:02:38 → 00:02:41 สามารถหาได้ในประเทศไทยค่ะแล้วการที่เรา
00:02:41 → 00:02:44 สกัดได้เองเนี่ยเราก็จะลดค่าใช้จ่ายของ
00:02:44 → 00:02:47 ผู้ป่วยลงได้ค่ะอืมและเราเลือกใช้สมุนไพร
00:02:47 → 00:02:50 ที่มีชื่อว่าไคร้ห่างนาคค่ะทำไมต้องเป็น
00:02:50 → 00:02:53 ตัวนี้คะเพราะว่าเคยมีการทำการทดลองออกมา
00:02:53 → 00:02:56 แล้วว่าใครหักหน้าสามารถฆ่าเซลล์มะเร็ง
00:02:56 → 00:02:59 ปอดได้อืเราก็เลยลองเอามาทดลองดูว่าแล้ว
00:02:59 → 00:03:02 เซลล์มะเร็งท่อน้ำดีที่เราทำวิจัยอยู่
00:03:02 → 00:03:06 เนี่ยค่ะจะสามารถฆ่าได้ไหมอืเดี๋ยวนะคะ
00:03:06 → 00:03:08 คือถ้าเราพูดถึงสรรพคุณของคล้ห่างนาค
00:03:08 → 00:03:11 เนี่ยค่ะมันไม่ได้ฆ่ามะเร็งมาตั้งแต่แรก
00:03:11 → 00:03:13 ถูกต้องมั้ยคะใช่ค่ะต้นของมันเนี่ยสามารถ
00:03:13 → 00:03:16 ใช้เป็นสมุนไพรในการขับปัสสาวะค่ะอืแต่
00:03:16 → 00:03:19 เราเอามาศึกษาเพิ่มเติมซึ่งมีการทดลอง
00:03:19 → 00:03:22 เรื่องรักษามะเร็งปอดแล้วแต่เราอยากทำ
00:03:22 → 00:03:25 เกี่ยวกับมะเร็งท่อน้ำดีค่ะสาเหตุที่เรา
00:03:25 → 00:03:28 ต้องทำการทดลองสารสกัดจากไคล้หักนาคนะ
00:03:28 → 00:03:30 ทั้งๆที่มีการทดลองในในเซลมะเร็งปอดมา
00:03:30 → 00:03:32 แล้วว่าทำไมต้องมีการทำการทดลองในเซล
00:03:32 → 00:03:34 มะเร็งท่อดน้ำลีอีกอันนี้ต้องเข้าใจก่อน
00:03:34 → 00:03:37 ว่าเซลล์มะเร็งแต่ละชนิดกันเนี่ยมันมี
00:03:37 → 00:03:40 ความแตกต่างกันนะในเรื่องของกลไกการก่อ
00:03:40 → 00:03:44 โรคและกลไกในเรื่องของการตอบสนองต่อยานะ
00:03:44 → 00:03:46 ฮะฉะนั้นยาบางตัวที่มีผลต่อเซียมมะเร็ง
00:03:46 → 00:03:49 ปอดอาจจะไม่มีผลต่อเซียมมะเร็งท่อดน้ำดี
00:03:49 → 00:03:50 ก็ได้นะอย่างตัวอย่างที่เราเห็นใน
00:03:50 → 00:03:52 ปัจจุบันเนี่ยก็คือยามะเร็งที่เราใช้อยู่
00:03:52 → 00:03:55 ปัจจุบันมีค่อนข้างเยอะหลายชนิดนะบางชนิด
00:03:55 → 00:03:57 ก็จะมีผลต่อมะเร็งชนิดหนึ่งแต่ว่าจะไม่มี
00:03:57 → 00:04:00 ผลต่อมะเร็งอีกชนิดหนึ่งนะนั้นก็คือว่า
00:04:00 → 00:04:02 เราก็จำเป็นจะต้องศึกษาว่าสารที่เรา
00:04:02 → 00:04:05 ต้องการศึกษาเนี่ยในเซลล์มะเร็งที่เราสน
00:04:05 → 00:04:09 ใจนมีผลมนะฮะทีนี้คือในเรื่องของสารจาก
00:04:09 → 00:04:11 ไล้ห่างนาคเองเนี่ยถึงแม้ว่าเราจะมีการ
00:04:11 → 00:04:14 ศึกษาจากเตอนเริ่มต้นแล้วว่ามีฤทธิ์ต่อ
00:04:14 → 00:04:16 มะเร็งปอดแต่สิ่งหนึ่งที่เราเจอเราต้อง
00:04:16 → 00:04:19 ระวังไว้เสมอก็คือว่าสารตัวนั้นเี่จะมีผล
00:04:19 → 00:04:23 ต่อเซลล์ปกติยนะฮะฉะนั้นเ่อจากการทดลอง
00:04:23 → 00:04:25 เบื้องต้นเราพบว่าอ่าตอนแรกที่เราทำการทด
00:04:25 → 00:04:27 ลองเนี่ยสารกลุ่มนี้เนี่ยค่อนข้างมีความ
00:04:27 → 00:04:30 เป็นพิษค่อนข้างสูงนั่นหมายความว่าจะมีผล
00:04:30 → 00:04:33 ต่อเซลล์ปกติค่อนข้างสูงฉะนั้นการทดลองใน
00:04:33 → 00:04:35 ระดับต่อมาเนี่ยนอกจากว่าเราจะทำการทดลอง
00:04:36 → 00:04:37 ในเซลล์มะเร็งต่างชนิดแล้วเนี่ยเรายังมี
00:04:37 → 00:04:41 การปรับเปลี่ยนโครงสร้างนะเพื่อให้ได้ผล
00:04:41 → 00:04:43 ในการฆ่าเซลมะเร็งที่ดีขึ้นแต่ในขณะเดียว
00:04:43 → 00:04:46 กันเราหวังว่าหลังจากที่เราปรับเปลี่ยน
00:04:46 → 00:04:48 โครงสร้างแล้วเนี่ยสารตัวใหม่เนี่ยจะมีผล
00:04:48 → 00:04:51 ข้างเคียงต่อเซลล์ปกติน้อยซึ่งจะเป็น
00:04:51 → 00:04:53 ประโยชน์ในการจะพัฒนาไปเป็นยาฆ่ามะเร็ง
00:04:53 → 00:04:55 ต่อไปในอนาคตอุ้ยนี่แพเพิ่งรู้นะคะเนี่ย
00:04:55 → 00:04:58 ว่ามะเร็งแต่ละจุดเนี่ยก็มีลักษณะโครง
00:04:58 → 00:05:00 สร้างที่แตกต่างกันและการตอบสนองที่แตก
00:05:00 → 00:05:03 ต่างกันด้วยค่ะเราก็เลยอยากจะทดลองหรือ
00:05:03 → 00:05:05 ว่าทำงานวิจัยเกี่ยวข้องกับมะเร็งท่อน้ำ
00:05:05 → 00:05:08 ดีโดยตรงค่ะสาเหตุเพราะอะไรคะทำไมต้อง
00:05:08 → 00:05:11 เป็นเรื่องนี้เพราะว่ามะเร็งท่อน้ำดี
00:05:11 → 00:05:14 เนี่ยเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในประเทศ
00:05:14 → 00:05:18 ไทยจากทั่วโลกค่ะค่ะแล้วในประเทศไทยเนี่ย
00:05:18 → 00:05:20 บริเวณที่พบมากที่สุดก็คือเป็นบริเวณภาค
00:05:20 → 00:05:24 อีสานอืแล้วตัวหนูเองก็เป็นคนอีสานอืมก็
00:05:24 → 00:05:27 เลยรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวค่ะแล้ว
00:05:28 → 00:05:31 ก็จริงๆแล้วคุณปู่เสียไปตั้งนานแล้วก็
00:05:31 → 00:05:33 เป็นมะเร็งท่าน้ำดีเหมือนกันก็เรียกว่า
00:05:33 → 00:05:37 เป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรามากๆเราก็เลย
00:05:37 → 00:05:39 อยากจะลองทำงานวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหาตรง
00:05:39 → 00:05:42 นี้ค่ะจริงๆแล้วก่อนที่จะมาคุยนะคะก็ต้อง
00:05:42 → 00:05:44 บอกว่าสาเหตุที่เราได้รู้มาว่าบิวตี้
00:05:44 → 00:05:47 เลือกทำหัวข้อนี้เพราะอะไรเพราะเป็น
00:05:47 → 00:05:49 เรื่องใกล้ตัวที่เกิดขึ้นกับครอบครัวตัว
00:05:49 → 00:05:51 เองเรื่องนี้เนี่ยมันเป็นเรื่องที่เรา
00:05:51 → 00:05:54 สามารถเห็นได้จากตามละครตามหนังตาม
00:05:54 → 00:05:57 หนังสือการ์ตูนหรืออะไรก็ตามถ้าพูดกันตรง
00:05:57 → 00:05:59 ๆมันก็ค่อนข้างขี่เช่แต่พอเราได้มามาคุย
00:06:00 → 00:06:02 อ่ะค่ะเราได้สัมผัสได้ถึงแรงบางอย่างที่
00:06:02 → 00:06:05 อยู่ข้างในอ่ะค่ะคือเรื่องมันอาจจะเป็น
00:06:05 → 00:06:07 สตอรี่ที่ซ้ำกันไปซ้ำกันมาแต่ท้ายที่สุด
00:06:07 → 00:06:09 คนที่เจอเรื่องนี้จริงๆอ่ะค่ะเขาทำยังไง
00:06:09 → 00:06:12 กับปัญหาตรงนี้กับความเสียใจที่เขาได้
00:06:12 → 00:06:14 เกิดขึ้นในอดีตซึ่งบิวตี้เนี่ยได้เอามัน
00:06:14 → 00:06:17 มาเป็นแรงผลักดันแล้วสร้างเป็นชิ้นงานผิด
00:06:17 → 00:06:20 กับหลายคนที่เารู้สึกว่าเขาเจอปัญหาเขา
00:06:20 → 00:06:22 ท้อแท้แล้วเขายอมแพ้แล้วเขาก็เสียใจไป
00:06:22 → 00:06:24 ตลอดทั้งชีวิตอันนี้มันคืออยู่ที่ว่าเรา
00:06:24 → 00:06:27 จะเลือกทำยังไงกับชีวิตของเราอ่ะค่ะคือ
00:06:27 → 00:06:31 เราเจอปัญหาได้แต่เราจะเอาปัญหานั้นมาทำ
00:06:31 → 00:06:33 ยังไงต่อกับชีวิตในอนาคตเอาอดีตมาปรับ
00:06:33 → 00:06:36 ปรุงอนาคตหรือเอาอดีตมาทำให้เราจมปักอยู่
00:06:36 → 00:06:37 กับ
00:06:37 → 00:06:41 มันแล้วพอเราตัดสินใจได้ว่าเราจะทำเกี่ยว
00:06:41 → 00:06:44 กับเรื่องนี้เนี่ยขั้นตอนการทำการทดลอง
00:06:44 → 00:06:47 เราจะวิจัยในเรื่องไหนบ้างคะเอ่อเราจะทำ
00:06:47 → 00:06:50 งานวิจัยระดับเซลล์เป็นหลักค่ะค่ะแบ่ง
00:06:50 → 00:06:52 เป็น 3 หัวข้อค่ะจากที่ว่าเราศึกษาว่า
00:06:52 → 00:06:55 เซลล์มะเร็งเนี่ยที่แตกต่างจากเซลล์ปกติ
00:06:55 → 00:06:57 คือว่าเซลล์มะเร็งเนี่ยสามารถเจริมเติบโต
00:06:57 → 00:07:00 ได้มากกว่าเซลล์ปกติแล้วก็สามารถเคลื่อน
00:07:00 → 00:07:03 ที่ไปที่บริเวณอื่นได้ด้วยอืเราก็เลยตั้ง
00:07:03 → 00:07:06 คำถามขึ้นมาว่าสารของเราเนี่ยค่ะจะสามารถ
00:07:06 → 00:07:09 ฆ่ามะเร็งท่อดนำดีได้หรือไม่อันนี้คือข้อ
00:07:09 → 00:07:12 ที่ 1 ค่ะข้อที่ 1 ค่ะข้อที่ 2 ก็คือว่า
00:07:12 → 00:07:15 แล้วถ้า่าได้เนี่ยมันสามารถไปลดการ
00:07:15 → 00:07:19 เคลื่อนที่ของมะเร็งทอน้ำดีได้หรือไม่อื
00:07:19 → 00:07:21 ข้อที่ 3 ก็สืบเนื่องจากข้อที่ 1 ค่ะที่
00:07:21 → 00:07:24 ว่าถ้าสมมุติว่า่าได้แล้วเนี่ยจะเป็นการ
00:07:24 → 00:07:28 ฆ่าแบบไหนหึเป็นการฆ่าเซลล์แบบไหนเซลล์
00:07:28 → 00:07:31 ตายได้ 2 แบบหลักๆก็คือเขาเรียกว่า
00:07:31 → 00:07:35 apoptosis ค่ะกับเสิค่ะมันแตกต่างกันยัง
00:07:35 → 00:07:38 ไงคะ apoptosis เนี่ยเวลาเซลล์ตายแล้ว
00:07:38 → 00:07:42 เซลล์ก็จะไม่ไปกระทบต่อเซลล์ข้างเคียงทำ
00:07:42 → 00:07:44 ให้เซลล์ข้างเคียงเนี่ยยังสามารถมีชีวิต
00:07:45 → 00:07:48 อยู่ได้ค่ะอืแต่ว่าเคริเนี่ยพอเซลล์ตาย
00:07:48 → 00:07:51 แล้วเนี่ยเซลล์จะมีผลต่อเซลล์ข้างเคียงทำ
00:07:51 → 00:07:54 ให้เซลล์ข้างเคียงเนี่ยตายตามไปด้วยได้
00:07:54 → 00:07:57 ค่ะอืก็คือมี 2 รูปแบบเราก็ต้องศึกษาว่า
00:07:57 → 00:07:59 ถ้าสมมุติว่าเราใช้สมุนไพรตัวนี้แล้ว
00:07:59 → 00:08:02 เนี่ยมันจะส่งผลยังไงต่อเซลล์รอบข้างค่ะ
00:08:02 → 00:08:04 ซึ่งอันนี้ต้องบอกคุณผู้ชมนะคะว่าเซลล์ใน
00:08:04 → 00:08:05 ร่างกายของเราเนี่ยมีเป็นล้านตัวแล้วมัน
00:08:05 → 00:08:08 ก็วางเรียงติดๆๆๆกันหมดถ้าเซลล์ตัวไหน
00:08:08 → 00:08:10 เกิดตายมาก็ต้องดูรูปแบบว่าตายเป็นแบบไหน
00:08:10 → 00:08:13 อย่างที่บิวตี้บอกนั่นเองอ่ะในเมื่อเรา
00:08:13 → 00:08:15 รู้แล้วนะคะว่าเราจะวิจัยเกี่ยวกับ 3 หัว
00:08:15 → 00:08:17 ข้อหลัก
00:08:17 → 00:08:23 [เพลง]
00:08:23 → 00:08:28
00:08:28 → 00:08:28 [เพลง]
00:08:28 → 00:08:30 ๆ
00:08:30 → 00:08:36 [เพลง]
00:08:36 → 00:08:40
00:08:40 → 00:08:40 [เพลง]
00:08:40 → 00:08:42 แล้วเราใช้ส่วนไหนของพืชล่ะคะในการวิจัย
00:08:42 → 00:08:46 ของเราเราใช้ส่วนใบค่ะส่วนใบคือจริงๆแล้ว
00:08:46 → 00:08:50 เป็นการวิจัยของภาคเคมีค่ะเขาเอาใบมาแล้ว
00:08:50 → 00:08:54 ก็มาสกัดสารออกมาแล้วสารตัวเนี้ยก็เอามา
00:08:54 → 00:08:57 ดัดแปลงก่อนที่จะนำมาวิจัยค่ะแสดงว่าเรา
00:08:57 → 00:09:00 ไม่ได้เอาใบเพียวๆเหมือนเดี๋ยวคุณผู้ชมดู
00:09:00 → 00:09:03 แล้วจะเอาใบมาเคี้ยวกินเลยไม่ใช่นะคะเรา
00:09:03 → 00:09:05 จะต้องมีการสกัดเอาสารสกัดภายในสมุนไพร
00:09:05 → 00:09:08 ชนิดนั้นออกมาก่อนงั้นเดี๋ยวเราไปดูกันดี
00:09:08 → 00:09:10 กว่าค่ะว่าวิธีการทดลองในแต่ละหัวข้อของ
00:09:10 → 00:09:14 บิวตี้นั้นเป็นยังไงบ้างนะคะไปค่ะ
00:09:14 → 00:09:28 [เพลง]
00:09:28 → 00:09:30 ค่ะ
00:09:30 → 00:09:37 [เพลง]
00:09:37 → 00:09:41
00:09:41 → 00:09:44 เราแต่งองค์ทรงเครื่องเยอะมากอ่ะบิวตี้
00:09:44 → 00:09:46 ทำไมเราถึงต้องแต่งตัวขนาดนี้คะเพราะว่า
00:09:46 → 00:09:48 ข้างในที่เราจะเข้าไปทำเนี่ยค่ะเป็นห้อง
00:09:48 → 00:09:51 ปอดเชื้อค่ะเราก็จะต้องลัดกุมนิดนึงไม่
00:09:51 → 00:09:54 ให้เชื้อจากข้างนอกเข้าไปปนเปื้อนข้างใน
00:09:54 → 00:09:56 ค่ะก็ไม่ต่างกับเวลาที่เราไปโรงพยาบาล
00:09:56 → 00:09:58 แล้วก็เป็นห้องปลอดเชื้อคือเหมือนกันใช่
00:09:58 → 00:10:01 ค่ะถ้าอย่างงั้นนั้นเราใส่อุปกรณ์ต่างๆ
00:10:01 → 00:10:04 แล้วไม่ว่าจะเป็นหมวกเป็นเสื้อคลุมนะคะ
00:10:04 → 00:10:07 แล้วก็ถุงมือซึ่งพร้อมมากๆแล้วเราเข้าไป
00:10:07 → 00:10:10 เลยได้ั้คะได้ค่ะไป
00:10:10 → 00:10:13 [เพลง]
00:10:13 → 00:10:16 ค่ะตอนนี้นะคะเราก็อยู่ในบรรยากาศของห้อง
00:10:17 → 00:10:20 ทดลองเรียบร้อยแล้วนะคะถามเลยว่าข้อแรก
00:10:20 → 00:10:23 สิ่งที่บิวตี้สงสัยคืออะไรคะคือว่าสาร
00:10:23 → 00:10:26 เนี้ยฆ่ามะเร็งได้หรือเปล่าค่ะสารนี้ฆ่า
00:10:26 → 00:10:28 มะเร็งได้หรือเปล่าวิธีการทดลองที่บิวตี้
00:10:28 → 00:10:32 เลือกใช้คืออะไรคะก็คือว่าเราจะเอาเซลล์
00:10:32 → 00:10:37 ในเนี้ยลงมาใส่ใน 96 เวลเดี๋ยวนะคือเซลล์
00:10:37 → 00:10:40 มะเร็งหรอคะใช่ค่ะหะเซลล์มะเร็งมันไม่ได้
00:10:40 → 00:10:42 เป็นเนื้อเยื่อหรอทำไมมันถึงเป็นน้ำๆำอ่ะ
00:10:42 → 00:10:44 คือว่าน้ำเนี่ยคืออาหารค่ะส่วนเซลล์
00:10:44 → 00:10:47 มะเร็งจะเรียงตัวอยู่ข้างล่างจะไม่สามารถ
00:10:47 → 00:10:50 มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าใช่ค่ะอ๋ออ้าแล้ว
00:10:50 → 00:10:52 อย่างงี้เราเอาเซลล์มะเร็งมาจากไหนอ่ะคะ
00:10:52 → 00:10:54 คือจริงๆแล้วต้องบอกว่าเซลล์มะเร็งที่เรา
00:10:54 → 00:10:56 เอามาใช้เนี่ยจะมีอยู่ 2 แบบนะฮะกว้างๆ
00:10:56 → 00:10:59 แบบแรกก็คือเป็นเซลล์ที่ได้รับได้มาจากคน
00:10:59 → 00:11:01 ไข้โดยตรงอันนี้แน่นอนฮะก็คือว่าเราจะ
00:11:01 → 00:11:04 ต้องมีการคุยกับคนไข้ให้เข้าใจแล้วก็มี
00:11:04 → 00:11:06 การยินยอมอนุญาตให้เอาชิ้นเนื้อมะเร็ง
00:11:06 → 00:11:09 ชิ้นนั้นมาใช้นะนั้นขั้นตอนในการที่จะทำ
00:11:09 → 00:11:11 การทดลองก็คือว่าอันดับแรกเลยเลยต้องมี
00:11:11 → 00:11:14 การร่วมมือกับเ่อคุณหมอที่โรงพยาบาลนะให้
00:11:14 → 00:11:17 คุยกับเจ้าของเอ่อให้คุยกับคนไข้นะแล้วก็
00:11:17 → 00:11:19 มีการเ่าเซตตารางออกมาว่าจะมีการผ่าตัด
00:11:19 → 00:11:22 เอาก้อนเนื้อมะเร็งออกมาเมื่อไหร่ฉะนั้น
00:11:22 → 00:11:24 ก็คือเมื่อมีการผ่าตัดได้ชิเนื้อออกมา
00:11:24 → 00:11:26 แล้วเนี่ยทางกลุ่มนักวิจัยเองก็คือต้องไป
00:11:26 → 00:11:29 เอาชี้เนื้อนั้นมาทำการทดลองได้โดยทันที
00:11:29 → 00:11:31 นะฉะนั้นก็คือต้องมีการคุยกันอยู่พอสมควร
00:11:31 → 00:11:34 นะเซลมะเร็งชิที่ 2 ที่เราใช้กันอยู่ใน
00:11:34 → 00:11:37 ปัจจุบันก็คือว่าอ่าเป็นเซลมะเร็งที่ตอน
00:11:37 → 00:11:39 แรกเนี่ยก็คือเราจะแยกออกมาจากมะเร็งทอด
00:11:39 → 00:11:42 น้ำดีนะหังจากนั้นเราก็จะมีการเ่อขั้นตอน
00:11:42 → 00:11:44 ทางด้านอ่าทางด้านวิทยาศาสตร์สามารถที่จะ
00:11:45 → 00:11:47 เลี้ยงต่อไปได้เรื่อยๆฉะนั้นทุกครั้งที่
00:11:47 → 00:11:49 เราจะทำงานการทดลองเกี่ยวกับเซลล์มะเร็ง
00:11:49 → 00:11:51 ท่อน้ำดีเป็นสมมุตินะฮะนั้นก็คือว่าเรา
00:11:51 → 00:11:53 ไม่จำเป็นที่จะต้องไปเอาชิ้นเนื้อมาจากคน
00:11:53 → 00:11:55 ไข้ทุกครั้งทุกวันที่เราต้องการเพราะว่า
00:11:55 → 00:11:57 เซลล์ชนิดนี้เนี่ยสามารถที่จะเลี้ยงแล้ว
00:11:57 → 00:12:00 ก็เจริญเติบโตในห้องปฏิบัติการได้ได้ตลอด
00:12:00 → 00:12:02 เวลาอยู่แล้วเมื่อเราเอาเซลล์มะเร็งซึ่ง
00:12:02 → 00:12:05 อันนี้เป็นมะเร็งเ่าน้ำดีด้วยใช่ค่ะแล้ว
00:12:05 → 00:12:09 เราก็เอามาใส่ในช่องต่างๆ 96 ช่องค่ะแล้ว
00:12:09 → 00:12:11 เมื่อเราหยอดเซลล์มะเร็งครบทั้ง 96 ช่อง
00:12:11 → 00:12:14 แล้วเนี่ยเราต้องทำอะไรต่อคะเราจะเอา
00:12:14 → 00:12:18 เซลล์พวกเนี้ยค่ะไปเลี้ยงไว้ 1 วันก่อน
00:12:18 → 00:12:21 ค่ะเพื่อให้เซลล์เนี่ยไปเกาะที่พื้นเพจ
00:12:21 → 00:12:24 ค่ะหลังจากที่เลี้ยงเสร็จเรียบร้อยแล้ว
00:12:24 → 00:12:28 ขั้นตอนต่อมาคืออะไรคะคือเราก็จะใส่ยาค่ะ
00:12:28 → 00:12:32 อืออันนี้คือยาค่ะที่ผสมกับอาหารของเซลล์
00:12:32 → 00:12:35 อืแล้วก็จะมีหลายๆความเข้มข้นค่ะเพื่อจะ
00:12:35 → 00:12:38 ดูว่าที่ความเข้มข้นไหนเนี่ยจะฆ่าเซลล์
00:12:38 → 00:12:40 มะเร็งได้ดีที่สุดค่ะค่ะถ้างั้นเราเริ่ม
00:12:40 → 00:12:44 การทดลองเลยค่ะเราก็ต้อง
00:12:44 → 00:12:48 เอาอาหารที่เลี้ยงไว้เมื่อวานออกก่อนค่ะ
00:12:48 → 00:12:50 อ๋อเพราะว่าตอนนี้เซลล์มะเร็งเนี่ยได้ติด
00:12:50 → 00:12:52 อยู่ด้านล่างเรียบร้อยแล้วเนเราก็ดึง
00:12:52 → 00:12:58 อาหารออกทั้งหมด
00:12:58 → 00:13:00 ค่ะ
00:13:00 → 00:13:03 [เพลง]
00:13:03 → 00:13:07 เราเอาอาหารออกหมดแล้วนะคะค่ะแล้วก็จะมา
00:13:07 → 00:13:11 ใส่ยาค่ะยาเนี่ยก็จะมีหลายความเข้มข้นนะ
00:13:11 → 00:13:13 คะแล้ววันนี้ความเข้มข้นที่เราใช้เนี่ย
00:13:13 → 00:13:16 อยู่ที่เท่าไหร่คะเราต้องใช้ความเข้มข้น
00:13:16 → 00:13:19 ที่มากไปน้อยในทุกๆครั้งค่ะเพื่อเราจะได้
00:13:19 → 00:13:23 คอนดิที่เหมือนกันในทุกๆครั้งคือมีเซลล์
00:13:23 → 00:13:26 ล็อตเดียวกันค่ะอย่างนี้คือเราก็จะมีการ
00:13:26 → 00:13:29 ใช้ความเุที่แตกต่างกันใช่ค่ะ
00:13:29 → 00:13:32 หลังจากที่เราใส่ตัวยาสมุไพรคล้ห่างหน้า
00:13:32 → 00:13:35 ไปเรียบร้อยแล้วเราต้องทำยังไงต่อคะเราก็
00:13:35 → 00:13:37 จะเลี้ยงต่อค่ะที่เราคิดไว้คือว่าเราจะ
00:13:37 → 00:13:42 เลี้ยง 24 48 แล้วก็ 72 ชมงค่ะเพื่อดู
00:13:42 → 00:13:45 ว่าที่เวลาไหนยาเนี่ยจะฆ่าเซลล์ได้ดีที่
00:13:45 → 00:13:49 สุดอืเลี้ยงในระยะเวลาที่แตกต่างกันซึ่ง
00:13:49 → 00:13:51 หลังจากที่เราเลี้ยงเสร็จเรียบร้อยแล้วผล
00:13:51 → 00:13:54 การทดลองในเรื่องนี้ตอบมาว่ายังไงบ้างคะ
00:13:54 → 00:13:57 ก็ออกมาได้ว่าสารของเราเนี่ยสามารถฆ่า
00:13:57 → 00:13:59 เซลล์ได้ค่ะ
00:13:59 → 00:14:03 ดีด้วยเพราะว่าใช้สารในปริมาณที่น้อยอืใน
00:14:03 → 00:14:06 การฆ่าเซลล์ค่ะแล้วระยะเวลาก็มีผลใช่มั้
00:14:06 → 00:14:08 คะต่อการฆ่าเซลล์ใช่
00:14:08 → 00:14:15 [เพลง]
00:14:15 → 00:14:18 ค่ะคำถามของเราคือว่าสารของเราเนี่ย
00:14:18 → 00:14:20 สามารถลดการเคลื่อนที่ของเซลล์มะเร็งได้
00:14:20 → 00:14:23 หรือไม่ค่ะคือตามปกติเซลล์มะเร็งจะมีการ
00:14:23 → 00:14:25 เคลื่อนที่กันอยู่แล้วใช่ค่ะงั้นวิธีการ
00:14:25 → 00:14:29 ทดลองของเราทำยังไงคะเอ่อเราก็จะเพลต
00:14:29 → 00:14:32 เซลล์เหมือนเดิมค่ะแล้วเราก็จะเลี้ยงไว้ 1
00:14:32 → 00:14:37 วันขั้นตอนเหมือนกับการทดลองในก่อนหน้าแก
00:14:37 → 00:14:42 ใช่ค่ะเลี้ยงไว้ 1 วันแล้วก็ใส่ยา 1 วัน
00:14:42 → 00:14:46 พอใส่ยาแล้วนะคะเราก็จะใช้ฝาติดเนี่ยแหละ
00:14:46 → 00:14:49 ค่ะเป็นแม้บรรทัด
00:14:49 → 00:14:54 ขีดจากข้างบนรข้างล่างเพื่อให้มีพื้นที่
00:14:54 → 00:14:58 ว่างค่ะค่ะพอขีดแล้วเนี่ยเราก็จะนำกลับไป
00:14:58 → 00:15:00 เลี้ยงต่อ
00:15:00 → 00:15:04 แล้วเราก็จะถ่ายรูปไว้ค่ะว่าที่เวลาเท่า
00:15:04 → 00:15:07 ไหร่เซลล์เนี่ยถึงจะกลับขึ้นมาอยู่ในที่
00:15:07 → 00:15:11 ที่เราขีดไว้ตอนแรกอเปรียบเทียบดูกับ
00:15:11 → 00:15:14 เซลล์ที่ไม่ได้ีดยาค่ะคือไอ้เส้นที่เรา
00:15:14 → 00:15:16 ขีดไว้ในแต่ละเพจเนี่ยนะคะมันก็เปรียบ
00:15:16 → 00:15:18 เสมือนพื้นที่ว่างของเซลล์ที่สามารถจะ
00:15:18 → 00:15:21 เคลื่อนที่ไปไหนมาไหนได้ใช่มั้ยคะใชใช่
00:15:21 → 00:15:23 ค่ะเราก็เอาพื้นที่ว่างเงี้ยรอให้เจ้า
00:15:23 → 00:15:25 เซลล์มะเรียงเนี่ยเคลื่อนที่มาหาเราดูว่า
00:15:25 → 00:15:27 เปอร์เซ็นต์การเคลื่อนที่เป็นยังไงและ
00:15:27 → 00:15:30 ระยะเวลาเป็นยังไงด้วยซึ่งคำตอบที่เราได้
00:15:30 → 00:15:32 รับจากข้อนี้เราก็พบว่าสารของเราเนี่ย
00:15:32 → 00:15:35 สามารถลดการเคลื่อนที่ของเซลล์มะเร็งเท่า
00:15:35 → 00:15:38 น้ำดีได้ค่ะอืถือว่าประสบความสำเร็จด้วย
00:15:38 → 00:15:40 ค่ะเราสงสัยบิวตี้บิวตี้ทำงานอยู่กับ
00:15:40 → 00:15:42 มะเร็งขนาดนี้บิวตี้ไม่กลัวว่าเราจะเป็น
00:15:42 → 00:15:47 มะเร็งคะไม่ค่ะถ้าสมมุติเราเผลอไปแบบอ่ะ
00:15:47 → 00:15:50 จับแล้วมือปนเปื้อนแล้วไปกินข้าวต่ออย่าง
00:15:50 → 00:15:52 เงี้ยแล้วมันเข้าไปในร่างกายเราเราจะไม่
00:15:52 → 00:15:54 เป็นมะเร็งหรอคะไม่เป็นนะคะเพราะว่าเซลล์
00:15:54 → 00:15:59 พวกเเราก็จะโดนย่อยไปค่ะก็จะไม่ติดอื
00:15:59 → 00:16:01 ต้องบอกว่าเ่อเซลล์มะเร็งเนี่ยค่อนข้างจะ
00:16:01 → 00:16:05 เป็นเซลล์ที่อ่อนแอนะฮะฉะนั้นคือสมมุติ
00:16:05 → 00:16:08 ว่าเราเกิดบังเอิญนะฮะคือเ่อรับประทาน
00:16:08 → 00:16:11 หรือด้วยอุบัติเหตุที่มีการกลืนเซลล์
00:16:11 → 00:16:13 มะเร็งเข้าไปในระบบทางเรือนอาหารส่วนใหญ่
00:16:13 → 00:16:16 เซลล์พวกนี้เนี่ยก็จะถูกทำลายด้วยระบบน้ำ
00:16:16 → 00:16:19 ย่อยหรือระบบภูมิกุ้มกันของร่างกายนะฮะ
00:16:19 → 00:16:21 ฉะนั้นโอกาสที่จะก่ออันตรายให้กับเ่อผู้
00:16:21 → 00:16:23 ปฏิบัติงานเ่ะค่อนข้างน้อยอย่าอย่าตัว
00:16:23 → 00:16:26 อย่างง่ายๆที่เราอาจจะเห็นก็คือเวลาที่
00:16:26 → 00:16:28 เราจะเหนี่ยวนำให้สัตว์ทดลองเป็นเป็น
00:16:29 → 00:16:31 มะเร็งโดยการที่จะฉีดเซลล์มะเร็งเข้าไปใน
00:16:31 → 00:16:33 สัตว์ทดลองเนี่ยเ่อสัตว์ทดลองที่เราใช้จะ
00:16:33 → 00:16:36 ต้องเลือกใช้สัตว์ทดลองที่มีภูมิต้านทาน
00:16:36 → 00:16:39 ต่ำนะทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะว่าถ้าใช้ใช้
00:16:39 → 00:16:42 สัตว์ทดลองปกติเนี่ยก็คืออ่าเซลล์มะเร็ง
00:16:42 → 00:16:44 จะจะไม่มีการเจริญเติบโตนะจะต้องใช้อ่า
00:16:44 → 00:16:46 สัตว์ที่มีภูมิต้านทานต่ำเพื่อจะช่วยใน
00:16:46 → 00:16:49 เรื่องของการให้มีการเจริญเติบโตที่ดีอีก
00:16:49 → 00:16:52 อย่างหนึ่งโอกาสที่จะเกิดอันตรายจากการปน
00:16:52 → 00:16:54 เปื้อนนะฮะจากเซลล์มะเร็งจะค่อนข้างน้อย
00:16:54 → 00:16:57 ฮะเพราะว่าโดยปกติเวลาที่เราทำการทดลอง
00:16:57 → 00:16:59 จริงๆเนี่ยในห้องปฏิบัติการเนี่ยเราจะมี
00:16:59 → 00:17:02 ระบบควบคุมที่ที่ดีคือผู้ปฏิบัติการเองจะ
00:17:02 → 00:17:05 ต้องมีการเอ่อใส่เครื่องป้องกันเช่นนะฮะ
00:17:05 → 00:17:08 ใส่เสื้อกาวใส่ถุงมือนะั้นโอกาสที่จะได้
00:17:08 → 00:17:10 รับเซลล์มะเร็งเข้าไปเนี่ยก็มีโอกาสค่อน
00:17:10 → 00:17:13 ข้างค่อนข้างจะน้อย
00:17:13 → 00:17:18 [เพลง]
00:17:18 → 00:17:21 มากข้อที่ 3 คือว่าสารที่ฆ่ามะเร็งได้
00:17:21 → 00:17:25 เนี่ยมันฆ่ามะเร็งแบบไหนค่ะก็ที่บอกไป
00:17:25 → 00:17:27 แล้วว่าเซลล์มะเร็งเนี่ยตายได้ 2 แบบก็
00:17:27 → 00:17:31 คือออติกับนิค่ะออิเนี่ยเป็นการตายที่ทำ
00:17:31 → 00:17:34 ให้ไม่กระทบต่อเซลล์ข้างเคียงก็คือเป็น
00:17:34 → 00:17:39 การตายที่เรายอมรับได้ค่ะค่ะส่วนอีกอย่าง
00:17:39 → 00:17:41 นึงเนี่ยคือตายแล้วมันจะไม่ส่งผลดีต่อ
00:17:41 → 00:17:43 ร่างกายของเราใช่ค่ะแล้วอย่างนี้วิธีการ
00:17:43 → 00:17:46 ทดลองเนี่ยแตกต่างกันมยคะหรือว่าทดลอง
00:17:46 → 00:17:49 เหมือนกันการทดลองคือเราจะทดลองว่าเซลล์
00:17:50 → 00:17:52 เนี่ยตายแบบอิหรือไม่ค่ะเราก็เลยจะทำการ
00:17:52 → 00:17:55 ทดลองเดียวอ่ะแล้ววิธีการทำยังไงคะก็คือ
00:17:55 → 00:17:58 เหมือนเดิมเลยค่ะเพจเซลล์เลี้ยงไว้ 1 วัน
00:17:58 → 00:18:02 แล้วก็ก็ใส่ยาค่ะค่ะแล้วก็เก็บเซลล์เนี่ย
00:18:02 → 00:18:04 ค่ะเก็บเซลล์ที่เราเลี้ยงไว้แล้วแล้วทียา
00:18:04 → 00:18:07 แล้วแล้วก็ย้อมสีอือฮึแล้วนำไป 2 กล้อง
00:18:08 → 00:18:11 ค่ะค่ะการย้อมสีและนำไป 2 กล้องเนี่ยมัน
00:18:11 → 00:18:15 หมายถึงอะไรอ่ะคะสีที่เราย้อมเนี่ยจะติด
00:18:15 → 00:18:18 กับ DNA ในเซลล์ค่ะค่ะเราก็จะเห็นว่า
00:18:18 → 00:18:23 เซลล์ปกติเนี่ย DNA จะเป็นกลุ่มก้อนเป็น
00:18:23 → 00:18:28 วงกลมแต่ว่าเซลล์ที่เกิดการออิเนี่ย DNA
00:18:28 → 00:18:31 จะแตกเป็นชิ้นเล็กๆค่ะเป็นวงกลมแต่ว่า
00:18:31 → 00:18:35 ชิ้นเล็กมากอึเราก็จะเห็นชัดนะคว่าอันไหน
00:18:35 → 00:18:37 เป็นเซลล์ที่ยังไม่ตายกับอันไหนเป็นเซลล์
00:18:37 → 00:18:40 ที่ตายแบบอสิเนื่องจากว่าเราเนี่ยทดลอง
00:18:40 → 00:18:43 เพื่อดูว่ามีการตายแบบอสิหรือไม่เราก็เลย
00:18:43 → 00:18:46 พบว่าเซลล์เนี่ยมีการตายแบบอิแต่ว่าเรา
00:18:46 → 00:18:50 ยังไม่มีการทดสอบว่าเซลล์ตายแบบเสิหรือ
00:18:50 → 00:18:53 ไม่ค่ะอืก็คือยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามัน
00:18:53 → 00:18:56 ตายแบบอปิ 100% ค่ะแต่ว่าโดยรวมทั้งหมด
00:18:56 → 00:19:00 เนี่ยก็สามารถสรุปได้ว่าการใช้สมุนไพรไล้
00:19:00 → 00:19:03 หางนาคเนี่ยมันจะส่งผลให้เซลล์ตายแบบอพิ
00:19:03 → 00:19:07 ค่ะอืเป็นยังไงคะทั้ง 3 ข้อร้ดรับคำตอบ
00:19:07 → 00:19:08 เรียบร้อยแล้ว
00:19:08 → 00:19:23 [เพลง]
00:19:23 → 00:19:26 ค่ะระยะที่บิวตี้ทดลองงานวิจัยครั้งนี้
00:19:27 → 00:19:29 ใช้เวลานานป่ะคะประมาณ 9 เดือนอ่ะค่ะห 9
00:19:29 → 00:19:32 เดือนเลยหรอค่ะกว่าเราจะได้แบบรู้ว่าใน
00:19:32 → 00:19:34 แต่ละหัวข้อที่เป็นคำถามเราเนี่ยคำตอบมัน
00:19:34 → 00:19:36 คืออะไรก็ใช้เวลา 9 เดือนอย่างงี้เนี่ยพอ
00:19:36 → 00:19:39 เราได้คำตอบแล้วรู้สึกยังไงบ้างอ่ะคะก็
00:19:39 → 00:19:42 รู้สึกภูมิใจนะคะกับสิ่งที่ได้ทำผ่านสิ่ง
00:19:42 → 00:19:46 ที่ผิดพลาดมาเยอะกว่าจะได้ซแต่ละอันมาแบบ
00:19:46 → 00:19:48 ยากลำบากมากพอเสร็จอันนึงก็รู้สึกภูมิใจ
00:19:48 → 00:19:51 ค่ะว่าเราได้ผ่านสิ่งร้ายๆมาเยอะแล้ว
00:19:51 → 00:19:53 อย่างงี้พอเราได้ผลการทดลองเรียบร้อยแล้ว
00:19:53 → 00:19:55 การนำไปต่อยอดเนี่ยเราจะนำไปต่อยอดยังไง
00:19:55 → 00:19:58 อ่ะคะหลังจากนี้เราก็จะค้นคว้าให้มากขึ้น
00:19:58 → 00:20:00 ค่ะผ่านในระดับเซลล์เพราะว่าเราเพิ่งรู้
00:20:00 → 00:20:03 แค่ผิวเผินเราก็จะค้นคว้าให้มากขึ้นใน
00:20:03 → 00:20:05 ระดับเซลล์เมื่อระดับเซลล์ผ่านไปแล้วเรา
00:20:05 → 00:20:09 ก็จะค้นคว้าว่าแล้วจะมีอะไรที่นำยาเนี้ย
00:20:09 → 00:20:11 เข้าไปสู่ท่อน้ำดีได้โดยตรงเลยหรือไม่อ่ะ
00:20:11 → 00:20:16 ค่ะอืก็คือจะเป็นการทดลองในระดับที่เจาะ
00:20:16 → 00:20:19 ลึกมากขึ้นแล้วอย่างเงี้ยค่ะในตัวของ
00:20:19 → 00:20:21 บิวตี้เองมองอนาคตตัวเองไว้ยังไงบ้างคะ
00:20:21 → 00:20:25 ตอนนี้ก็เรียนปโทอยู่ที่ภาคสรีระค่ะค่ะ
00:20:25 → 00:20:29 เรียนปโทให้จบแล้วก็คงจะเรียนต่อค่ะ
00:20:29 → 00:20:31 ก็คือเรมต่อปเอกตอนนี้เราวางไว้ว่าอนาคต
00:20:31 → 00:20:34 เราน่าจะจบปริญญาเอกในเรื่องนี้ด้วยมั้ย
00:20:34 → 00:20:37 คะใชเรื่องนี้ล่ะค่ะเพราะว่ารู้สึกสนใจ
00:20:37 → 00:20:39 มากขึ้นอืเพราะว่ามันก็เป็นประเด็นที่
00:20:39 → 00:20:41 เหมือนเป็นความฝันของเราตั้งแต่เด็กแล้ว
00:20:41 → 00:20:43 ว่าในเมื่อคุณปู่เนี่ยเสียชีวิตด้วยโรค
00:20:43 → 00:20:46 นี้แล้วก็ที่บริเวณนี้ด้วยคือมะเร็งท่อ
00:20:46 → 00:20:49 นันดีเราก็เลยอยากจะรักษาโรคนี้ให้หายค่ะ
00:20:49 → 00:20:52 และตอนนี้เขาก็กำลังทำตามความฝันของเขา
00:20:52 → 00:20:54 อยู่นะคะอยากจะให้ฝากถึงน้องๆที่เขามี
00:20:54 → 00:20:56 ความฝันหนูว่าความฝันทุกอย่างเนี่ยค่ะ
00:20:56 → 00:20:58 กว่าจะเดินไปถึงเนี่ยมีอุปสรรคทั้งนั้น
00:20:58 → 00:21:01 ค่ะค่ะเราก็ต้องพยายามสู้กับมันค่ะทุกคน
00:21:01 → 00:21:03 เนี่ยเดินไปถึงฝันได้แน่นอนถ้าเราพยายาม
00:21:03 → 00:21:07 ค่ะอืเห็นมั้ยคะว่าความพยายามนะคะมันจะนำ
00:21:07 → 00:21:09 มาซึ่งการประสบความสำเร็จแล้ววันนี้
00:21:09 → 00:21:11 บิวตี้ได้แสดงให้พวกเราได้เห็นแล้วนะคะ
00:21:11 → 00:21:14 ต้องขอบคุณบิวตี้มากเลยนะคะขอบคุณค่ะแล้ว
00:21:14 → 00:21:16 ก็ต้องขอบคุณนะคะคณะวิทยาศาสตร์
00:21:16 → 00:21:19 มหาวิทยาลัยมหิดลที่เอื้อเฟื้อสถานที่ถย
00:21:19 → 00:21:21 ทำให้กับพวกเราด้วยค่ะและครั้งหน้านะคะก็
00:21:21 → 00:21:23 ต้องมาติดตามกันค่ะว่าแพรจะนำเสนอผลงาน
00:21:23 → 00:21:26 ของใครและผลงานเจะเป็นยังไงในรายการฉาย
00:21:26 → 00:21:29 แววของเราค่ะวันนี้เราทั้งคู่ต้องลาไป
00:21:29 → 00:21:31 แล้วนะคะสวัสดี
00:21:31 → 00:21:34 ค่ะงานวิจัยชิ้นนี้นะคะทำให้แพเห็นสิ่ง
00:21:34 → 00:21:37 หนึ่งที่สำคัญของวงการวิทยาศาสตร์บ้านเรา
00:21:37 → 00:21:39 นั่นคือการต่อยอดค่ะคืองานชิ้นนี้อ่ะค่ะ
00:21:39 → 00:21:41 อย่างที่บิวตี้บอกนะคะว่าเกิดจากการที่
00:21:41 → 00:21:43 บิวตี้เห็นว่ามีคนทำวิจัยเกี่ยวกับ
00:21:43 → 00:21:48 สมุนไพรคล้หางนาคไว้แล้วเขาก็เอามาต่อยอด
00:21:48 → 00:21:51 คือเรื่องเนี่ยมันเกิดขึ้นจากจุดเดียวกัน
00:21:51 → 00:21:54 ใช้ยาตัวเดียวกันแต่รักษาคนละจุดมันก็เลย
00:21:54 → 00:21:57 เห็นว่าในวงการเยค่ะมันมีการต่อยอดมาอยู่
00:21:57 → 00:22:00 จุดเริ่มต้นมีมีคนสารต่อและแพเชื่อว่าก็
00:22:00 → 00:22:03 จะมีคนหยิบยกงานของบิวตี้เนี่ยเอาไปพัฒนา
00:22:03 → 00:22:05 ต่อและท้ายที่สุดอ่ะค่ะมันก็จะสำเร็จและ
00:22:05 → 00:22:08 เราก็สามารถใช้ได้จริงซึ่งนี่ถือว่าเป็น
00:22:08 → 00:22:12 ความยอดเยี่ยมของวิทยาศาสตร์บ้านเรา
00:22:12 → 00:22:27 [เพลง]
00:22:27 → 00:22:32 ค่ะ
00:22:32 → 00:22:57 [เพลง]
00:22:57 → 00:23:00 เ
00:23:00 → 00:23:13 [เพลง]
00:23:13 → 00:23:16 เ