00:00:00 → 00:00:02 เราอ่ะมักจะเข้าใจว่าไส้เลื่อนน่ะจะเกิด
00:00:02 → 00:00:04 กับผู้ชายเท่านั้นแล้วผู้หญิงเนี่ยเป็น
00:00:04 → 00:00:06 ไส้เลื่อนได้ไหมคะ
00:00:06 → 00:00:08 ผู้หญิงเนี่ยมีโอกาสที่จะเป็นไส้เลื่อน
00:00:08 → 00:00:10 ได้เหมือนกันไส้เลื่อนที่ผู้หญิงเจอบ่อย
00:00:10 → 00:00:11 มากกว่าเนี่ยก็
00:00:11 → 00:00:14 คือการเป็นไส้เลื่อนไม่ได้ขึ้นกับช่วง
00:00:14 → 00:00:16 อายุคนที่อายุเยอะก็จะมีความเสี่ยงมาก
00:00:16 → 00:00:18 กว่าหน่อยแต่คนที่อายุน้อยเนี่ยก็เป็นไส้
00:00:18 → 00:00:20 เลื่อนได้แม้กระทั่งเด็กแรกเกิดก็มีโอกาส
00:00:20 → 00:00:22 ที่จะเป็นไส้เลื่อนได้เหมือนกันคนที่ไม่
00:00:22 → 00:00:25 ชอบใส่กางเกงในจะเป็นไส้เลื่อนไม่จริงการ
00:00:25 → 00:00:28 เกิดไส้เลื่อนเป็นสาเหตุจากการมีช่องมีรู
00:00:28 → 00:00:30 ที่เกิดขึ้นในร่างร่างกายแล้วไอ้ช่องนั้น
00:00:30 → 00:00:33 ที่ว่าเนี่ยมันดันมีลำไส้หรือว่าอวัยวะ
00:00:33 → 00:00:35 ภายในช่องท้องเนี่ยมันไหลเข้าไปก็เลยเป็น
00:00:35 → 00:00:37 ภาวะไส้เลื่อนท้องปลูกเนี่ยมันเป็นปัจจัย
00:00:37 → 00:00:39 เสี่ยงที่มีโอกาสให้เกิดไส้เลื่อนได้ตัว
00:00:39 → 00:00:41 ตำแหน่งลิสิดวงทะวันน่ะมนุษย์เรามีทุกคน
00:00:41 → 00:00:43 อยู่แล้วนะเพียงแต่ว่ามันจะปูดหรือไม่ปูด
00:00:43 → 00:00:45 ขึ้นมาแค่นั้นเองคนที่เป็นไส้เลือดเนี่ย
00:00:45 → 00:00:48 อาการเจะชอบเป็นตอนเขาเดินหรือเขายืนเดิน
00:00:48 → 00:00:50 อยู่เอ้ยมันมีเหมือนมีก้อนตุงยื่นออกมา
00:00:50 → 00:00:53 เอามือดันเข้าไปผุบๆโผล่ๆได้เวลาไปนอนไป
00:00:53 → 00:00:55 นอนลาบปุ๊บทำไมก้อนมันยุบไป 80-90%
00:00:55 → 00:00:57 สามารถที่จะดันกลับเข้าไปเองได้แต่กลุ่ม
00:00:57 → 00:01:00 คนไข้ที่มีอาการปวดไม่ถ่ายไม่ผายลมท้อง
00:01:00 → 00:01:02 อืดแน่นท้องจากภาวะลำไส้อุดตันบางราย
00:01:02 → 00:01:06 เนี่ยไส้แตกมาจึงต้องผ่าตัดฉุกเฉินก็มี
00:01:06 → 00:01:13 เกลาแก้โรคเกลานิสัยห่างไกลโรค
00:01:13 → 00:01:15 สวัสดีค่ะยินดีต้อนรับเข้าสู่รายการเกลา
00:01:15 → 00:01:17 แก้โรคค่ะโรคที่เราจะคุยกันในวันนี้ก็คือ
00:01:17 → 00:01:19 โรคไส้เลื่อนค่ะแล้ววันนี้นะคะแพนด้าก็
00:01:19 → 00:01:22 อยู่กับคุณหมอสุ่ยค่ะจากช่องเด้อกสวัสดี
00:01:22 → 00:01:25 ค่ะคุณหมอสวัสดีครับอ่าคุณหมอบอกว่าจริงๆ
00:01:25 → 00:01:27 แล้วเคสไส้เลื่อนเนี่ยมีเยอะมากเลยใช่
00:01:27 → 00:01:29 มั้ยคะจริงๆเนี่ยไม่ใช่ไม่ใช่เป็นโรคแปลก
00:01:29 → 00:01:31 ใหม่อะไรนะครับจริงๆย้อนกันไป
00:01:31 → 00:01:33 ประวัติศาสตร์เนี่ยน่าจะมีกันมาตั้งแต่
00:01:33 → 00:01:36 แบบเป็นพันๆปีละแล้วก็การรักษาเนี่ยมีการ
00:01:36 → 00:01:39 พัฒนาเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆตั้งแต่อดีตจน
00:01:39 → 00:01:41 ถึงปัจจุบันเนี่ยมีการผ่าตัดที่ดีขึ้นซับ
00:01:41 → 00:01:44 ซ้อนขึ้นแล้วก็แผลเนี่ยต่างๆก็เล็กลงอู
00:01:44 → 00:01:46 เดี๋ยววันนี้เราจะได้คุยเรื่องไส้เลื่อน
00:01:46 → 00:01:48 กันยาวๆค่ะแต่ว่าก่อนอื่นแพนด้าอยากทราบ
00:01:48 → 00:01:51 ว่าความเชื่อผิดๆอะไรที่คนมักจะเข้าใจผิด
00:01:51 → 00:01:53 เกี่ยวกับไส้เลื่อนคะจริงๆต้องบอกว่าการ
00:01:53 → 00:01:55 เป็นไส้เลื่อนเนี่ยนะครับไม่ได้ขึ้นกับ
00:01:55 → 00:01:57 ช่วงอายุคนที่อายุเยอะก็จะมีความเสี่ยง
00:01:57 → 00:01:59 มากกว่าหน่อยแต่คนที่อายุอายุน้อยเนี่ยก็
00:01:59 → 00:02:01 เป็นไส้เลื่อนได้แม้กระทั่งเด็กแรกเกิด
00:02:01 → 00:02:03 ที่คลอดออกมาเลยนะครับอายุขวบ 2 ขวบก็มี
00:02:04 → 00:02:05 โอกาสที่จะเป็นไส้เลื่อนได้เหมือนกันอัน
00:02:05 → 00:02:08 นั้นอันแรกถัดมาเนี่ยก็มีคนเคยถามบ่อยๆ
00:02:08 → 00:02:12 ว่าถ้าคนที่ไม่ชอบใส่กางเกงในจะเป็นไส้
00:02:12 → 00:02:14 เลื่อนหรือเปล่าคำตอบคือไม่จริงไม่มีความ
00:02:14 → 00:02:17 เกี่ยวข้องกันการใส่หรือไม่ใส่กางเกงใน
00:02:17 → 00:02:19 เนี่ยไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงหรือว่าผลที่
00:02:19 → 00:02:21 จะทำให้เกิดภาวะไส้เลื่อนเกิดขึ้นนะครับ
00:02:21 → 00:02:24 เพราะว่าไส้เลื่อนเนี่ยก็มีสาเหตุหลายๆ
00:02:24 → 00:02:26 อย่างที่เดี๋ยวเราจะได้คุยกันต่อไปนะครับ
00:02:26 → 00:02:28 อือค่ะอย่างที่คุณหมอบอกว่าจริงๆไส้ไส้
00:02:28 → 00:02:30 เลื่อนเนี่ยเกิดได้กับไม่ว่าจะเป็นคนอายุ
00:02:30 → 00:02:32 มากหรือว่าเด็กก็เกิดขึ้นได้เหมือนกัน
00:02:33 → 00:02:35 แล้วเราอ่ะมักจะเข้าใจว่าไส้เลื่อนน่ะจะ
00:02:35 → 00:02:37 เกิดกับผู้ชายเท่านั้นแล้วผู้หญิงเนี่ย
00:02:37 → 00:02:39 เป็นไส้เลื่อนได้มั้คะผู้หญิงเนี่ยมี
00:02:39 → 00:02:41 โอกาสที่จะเป็นไส้เลื่อนได้เหมือนกันนะ
00:02:41 → 00:02:43 ครับเพียงแต่ว่าสัดส่วนเนี่ยอาจจะไม่ได้
00:02:43 → 00:02:45 เยอะมากเท่ากับผู้ชายแต่มีไส้เลื่อนบาง
00:02:45 → 00:02:48 ประเภทนะครับตัวเนี้ยผู้หญิงจะเจอบ่อยมาก
00:02:48 → 00:02:50 กว่าผู้ชายซึ่งตัวไส้เลื่อนตรงนี้เนี่ย
00:02:50 → 00:02:52 ที่ผู้หญิงเจอบ่อยมากกว่าเนี่ยก็คือเป็น
00:02:52 → 00:02:54 ไส้เลื่อนที่อยู่ใต้ขาหนีบนะครับก็จะเจอ
00:02:54 → 00:02:56 บ่อยมากกว่าผู้ชายครับแพนด้าเคยได้ยินมา
00:02:56 → 00:02:59 ว่าแค่ยกของหนักเนี่ยก็อาจจะทำให้เป็นไส้
00:02:59 → 00:03:01 เลื่อนได้แล้วจริงมั้คะต้องบอกว่าจริงบาง
00:03:01 → 00:03:03 ส่วนแล้วก็ไม่ได้ถูกต้องทั้งหมดนะครับ
00:03:03 → 00:03:05 ต้องเข้าใจก่อนว่ากลไกการเกิดไส้เลื่อนนะ
00:03:05 → 00:03:09 ครับมันเป็นสาเหตุจากการที่มีช่องมีรูนะ
00:03:09 → 00:03:11 ครับที่เกิดขึ้นในร่างกายแล้วไอ้ช่องนั้น
00:03:11 → 00:03:13 ที่ว่าเนี่ยมันดันมีตัวลำไส้หรือว่า
00:03:13 → 00:03:16 อวัยวะภายในช่องท้องเนี่ยมันไหลเข้าไปก็
00:03:16 → 00:03:18 เลยเป็นภาวะไส้เลื่อนซึ่งการเกิดช่องการ
00:03:18 → 00:03:21 เกิดรูพวกนี้เนี่ยบางทีมันอาจจะมีขึ้นจาก
00:03:21 → 00:03:23 สาเหตุอื่นๆเช่นคนไข้จะเป็นตั้งแต่
00:03:23 → 00:03:25 พันธุกรรมนะเป็นความผิวติตั้งแต่โดย
00:03:25 → 00:03:28 กำเนิดหรือว่าเพิ่งมาเป็นเอาตอนอายุมากๆ
00:03:28 → 00:03:30 การยกของหนักเนี่ยมันเป็นปัจจัยที่อาจจะ
00:03:30 → 00:03:33 กระตุ้นทำให้ตัวช่องว่างที่เป็นไส้เลื่อน
00:03:33 → 00:03:35 เนี่ยมีการขยายขนาดกว้างขึ้นนะครับทำให้
00:03:35 → 00:03:37 รูของไส้เลื่อนกว้างขึ้นไส้ก็จะออกมี
00:03:37 → 00:03:40 โอกาสที่ออกมากรองมากขึ้นหรือบางครั้งบาง
00:03:40 → 00:03:42 ทีเนี่ยการที่เรามีพฤติกรรมคือยกของหนัก
00:03:42 → 00:03:44 มันเป็นการออกแรงออกแรงดันเบ่งในช่องท้อง
00:03:44 → 00:03:46 ใช่มั้ครับลองนึกภาพเวลาเรายกของปึ๊บยก
00:03:46 → 00:03:48 ของหนักขึ้นมาเราจะมีการเกร็งมีการเบ่ง
00:03:48 → 00:03:51 ซึ่งตัวนี้ก็อาจจะมีการเบ่งเอาตัวลำไส้
00:03:51 → 00:03:53 หรือว่าอวัยวะภายในช่องท้องเนี่ยไหลออกมา
00:03:53 → 00:03:55 ผ่านรูไส้เลื่อนได้แต่ก็ต้องย้อนกลับไป
00:03:55 → 00:03:57 ว่าแล้วการยกของเบ่งเดียวเนี่ยมันจะทำให้
00:03:57 → 00:03:59 เป็นไส้เลื่อนอย่างเดียวหรือเปล่าคำตอบ
00:03:59 → 00:04:02 คือไม่ใช่ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกเช่นอายุเพศ
00:04:02 → 00:04:03 จริงต้องบอกว่าไส้เลื่อนที่เจอบ่อยก็ผู้
00:04:03 → 00:04:06 ชายมากกว่าผู้หญิงอายุที่มากขึ้นจะเจอได้
00:04:06 → 00:04:09 มากกว่ามีทั้งเรื่องของตัวโรคประจำตัวบาง
00:04:09 → 00:04:10 โรคที่เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดไส้
00:04:11 → 00:04:13 เลื่อนเช่นคนไข้เป็นโรคหอบหืดหรือเป็นโรค
00:04:13 → 00:04:16 ถุงลมโป่งพองที่จะต้องมีการไอเรื้อรัง
00:04:16 → 00:04:19 ตลอดเวลานะครับคนไข้ที่มีประวัติท้องผูก
00:04:19 → 00:04:21 ต้องเบ่งถ่ายตลอดเวลาคนไข้เป็นผู้ชายที่
00:04:21 → 00:04:24 มีประวัติเรื่องของต่อมลูกหมากโตนะซึ่ง
00:04:24 → 00:04:26 ต่อมลูกหมากโตคนไข้เวลาไปปัสสาวะก็ต้อง
00:04:26 → 00:04:28 เบ่งตลอดเวลามันก็จะมีโอกาสที่จะทำให้
00:04:28 → 00:04:30 เกิดตัวไส้เลื่อนเกิดขึ้นมาได้ครับอืค่ะ
00:04:30 → 00:04:32 เดี๋ยววันนี้น่าจะถามหลายๆอันที่เจาะ
00:04:32 → 00:04:34 เพื่อให้เข้าใจมากขึ้นน่ะนะคะเช่นจริงๆใน
00:04:35 → 00:04:37 ช่องท้องคนเราเนี่ยค่ะคนปกติเนี่ยก็จะไม่
00:04:37 → 00:04:39 ได้มีช่องว่างใช่มั้คะปกติไม่มีช่องว่าง
00:04:39 → 00:04:42 เลยครับอมันจะเป็นช่องแค่เป็นทางผ่าน
00:04:42 → 00:04:45 สำหรับอวัยวะบางอย่างเท่านั้นเองนะครับยก
00:04:45 → 00:04:47 ตัวอย่างเช่นง่ายๆนะครับกระเพาะอาหารใช่
00:04:47 → 00:04:49 มั้ครับก็จะต่อกับบริเวณของตัวหลอดอาหาร
00:04:50 → 00:04:51 หลอดอาหารเนี่ยมันอยู่ในทรวงอกไม่ได้อยู่
00:04:51 → 00:04:53 ในช่องท้องเพราะฉะนั้นเนี่ยพอหลอดอาหาร
00:04:53 → 00:04:55 ที่อยู่ในทรงอกพอมันผ่านเข้ามาอยู่ใน
00:04:55 → 00:04:57 กระเพาะอาหารก็จะเข้าสู่โอยะภายในช่อง
00:04:57 → 00:04:59 ท้องนั่นก็เป็นอีกอวัยวะนึงมีเรื่องของ
00:04:59 → 00:05:01 กระเพาะปัสสาวะก็จะเป็นตัวรับน้ำปัสสาวะ
00:05:01 → 00:05:04 มาจากท่อไตคือไตเราจะกลั่นปัสสาวะออกมาเท
00:05:04 → 00:05:06 ใส่ท่อไตแล้วมาเทที่กระเพาะปัสสาวะ
00:05:06 → 00:05:08 กระเพาะปัสสาวะเนี่ยมันก็จะมีส่วนที่อยู่
00:05:08 → 00:05:10 ภายในช่องท้องกับภายนอกช่องท้องเหมือนกัน
00:05:10 → 00:05:12 ซึ่งส่วนนี้เนี่ยก็จะเป็นอวยวาที่มันเป็น
00:05:12 → 00:05:15 ทางปิดไม่ได้มีรูอะไรที่จะแทรกผ่านเข้าไป
00:05:15 → 00:05:17 ได้แต่การที่มันมีไส้เลื่อนเนี่ยมันมีการ
00:05:17 → 00:05:19 หมายความว่ามันเป็นความผิวติของผนังภายใน
00:05:19 → 00:05:22 ช่องท้องที่มันดันเกิดรูเกิดขึ้นซึ่งมัน
00:05:22 → 00:05:25 ไม่ควรจะมีพอมันมีรูเกิดขึ้นมันก็เป็นทาง
00:05:25 → 00:05:28 ที่สามารถอวัยวะบางอย่างเช่นลำไส้สามารถ
00:05:28 → 00:05:30 ไหลผ่านเข้าไปผ่านรูตรงนั้นได้ก็เลยปูด
00:05:30 → 00:05:33 ออกมาเป็นไส้เลื่อนให้เราเห็นครับอืแสดง
00:05:33 → 00:05:35 ว่าอวัยวะแต่ละอย่างจริงๆเขามีการแบ่งกัน
00:05:35 → 00:05:38 ชัดเจนถูกต้องมีการฟิกในตามตำแหน่งที่ชัด
00:05:38 → 00:05:40 เจนนะครับไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรนะ
00:05:41 → 00:05:43 ครับแต่อวัยวะที่มันเคลื่อนผ่านไปได้
00:05:43 → 00:05:45 เนี่ยในช่องท้องเนี่ยก็เป็นแค่ลำไส้จึง
00:05:45 → 00:05:47 เป็นคำที่มาคำว่าไส้เลื่อนคือมันเลื่อน
00:05:47 → 00:05:50 ออกจากตำแหน่งปกติไปอยู่ตำแหน่งใหม่ซึ่ง
00:05:50 → 00:05:52 ตำแหน่งใหม่ที่ว่ามันก็คือเป็นช่องว่าง
00:05:52 → 00:05:54 ช่องนึงที่ในช่องท้องอ่ะมันมีไส้ที่ว่า
00:05:54 → 00:05:56 มันก็เลยเลื่อนออกจากตำแหน่งนั้นไปสู่อีก
00:05:56 → 00:05:58 ตำแหน่งนึงก็เลยเห็นลักษณะว่ามันมีไส้
00:05:58 → 00:06:00 เลื่อนปูดขึ้นมาอะไรเงี้ยครับอเจ้าไส้
00:06:00 → 00:06:02 เลื่อนเนี่ยค่ะคือลำไส้ใหญ่มั้คะอ่าส่วน
00:06:02 → 00:06:04 ใหญ่เป็นลำไส้เล็กครับแล้วก็เป็นพวกผนัง
00:06:04 → 00:06:07 ไขมันทางหน้าท้องแล้วอย่างหน้าท้องเราค่ะ
00:06:07 → 00:06:09 มันก็จะมีผนังหน้าท้องใช่ไหมคะที่กั้น
00:06:09 → 00:06:12 อยู่ถ้าสมมุติมันมีรูก็คือไส้ก็สามารถออก
00:06:12 → 00:06:14 มาข้างหน้าผนังหน้าท้องได้ใช่ครับก็คือ
00:06:14 → 00:06:16 ไส้เลื่อนแบบนี้เนี่ยก็มักจะเป็นไส้
00:06:16 → 00:06:19 เลื่อนที่ตามหลังการผ่าตัดทางหน้าท้องบาง
00:06:19 → 00:06:21 ครั้งบางทีเนี่ยเรามีการผ่าตัดผ่านทาง
00:06:21 → 00:06:23 หน้าท้องใช่มั้ครับเราผ่านตั้งแต่ผิวหนัง
00:06:23 → 00:06:25 ชั้นไขมันชั้นกล้ามเนื้อชั้นพังผึคือที่
00:06:25 → 00:06:28 คุมทั้งหมดเวลาที่เราผ่าตัดเสร็จเราก็
00:06:28 → 00:06:30 ต้องมีการเย็บปิดใช่มั้ยครับเวลาเราเย็บ
00:06:30 → 00:06:32 ปิดพวกผนังหน้าท้องเนี่ยครับมันก็มีโอกาส
00:06:32 → 00:06:34 ที่ในบางตำแหน่งเนี่ยการสมานของแผลมันไม่
00:06:34 → 00:06:37 ดีหรือมันมีรูเกิดขึ้นซึ่งไอ้รูที่ว่า
00:06:37 → 00:06:39 เนี่ยนานเข้าเนี่ยมันอาจจะขยายขนาดขึ้น
00:06:39 → 00:06:41 โป่งขนาดขึ้นจนทำให้ลำไส้ที่อยู่ในช่อง
00:06:41 → 00:06:44 ท้องเนี่ยไหลผ่านออกมาอยู่นอกช่องท้องได้
00:06:44 → 00:06:46 ก็จะเป็นลักษณะของไส้เลื่อนผ่านแผลผ่าตัด
00:06:46 → 00:06:48 ที่หน้าช่องท้องที่เราเจอนะครับอค่ะแล้ว
00:06:48 → 00:06:51 มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบไหนที่อาจจะทำ
00:06:51 → 00:06:53 ให้มันเกิดช่องว่างในท้องของเราได้มั้คะ
00:06:53 → 00:06:56 โดยปกติเนี่ยถ้าเป็นไส้เลื่อนที่ผ่านทาง
00:06:56 → 00:06:58 หน้าท้องเนี่ยมักจะไม่ได้สัมพันธ์กับ
00:06:58 → 00:07:00 เรื่องของพฤติกรรมอะไรมากนักอาจจะมีแค่
00:07:00 → 00:07:02 โรคบางโรคเช่นเป็นตับแข็งนะครับมีน้ำใน
00:07:03 → 00:07:04 ท้องเยอะหรืออะไรอย่างเงี้ยก็อาจจะทำให้
00:07:04 → 00:07:07 มันมีลักษณะของตัวสะดือจุ่นเป็นลำไส้
00:07:07 → 00:07:09 เลื่อนออกมาที่เป็นลักษณะแบบปูดออกมาตรง
00:07:09 → 00:07:11 สะดือนะครับแต่ถ้ามันเป็นเรื่องของตัวไส้
00:07:11 → 00:07:12 เลื่อนที่เราเจอบ่อยและสัมพันธ์กับ
00:07:12 → 00:07:14 พฤติกรรมในการใช้ชีวิตอ่ะคือไส้เลื่อนขา
00:07:14 → 00:07:17 หนีบคนไข้มักจะมีพฤติกรรมก็คือเป็นคนท้อง
00:07:17 → 00:07:19 ผูกเรื้อรังเวลาไปเข้าห้องน้ำเนี่ยต้อง
00:07:19 → 00:07:22 เบ่งถ่ายเยอะใช้เวลานานอุจจาระแข็งก็ต้อง
00:07:22 → 00:07:24 เบ่งมากพอยิ่งเบ่งมากแรงดันในช่องท้อง
00:07:24 → 00:07:26 ยิ่งเยอะมันก็จะดันเอาตัวลำไส้เนี่ยออกมา
00:07:26 → 00:07:28 ผ่านตรงตำแหน่งของที่เป็นรูไส้เลื่อนได้
00:07:28 → 00:07:31 หรือคนไข้ที่มีอย่างที่ผมบอกผู้ชายมีต่อม
00:07:31 → 00:07:34 ลูกหมากโตก็ต้องเบ่งปัสสาวะออกมาเยอะพอ
00:07:34 → 00:07:36 เบ่งออกมาเยอะมากขึ้นเรื่อยๆๆๆแน่นอนนะฮะ
00:07:36 → 00:07:39 ว่าพอเราเบ่งออกไปปุ๊บทุกครั้งที่เกิดการ
00:07:39 → 00:07:41 เบ่งคนเราปัสสาวะวันนึงตั้งวันละ 6 ครั้ง
00:07:41 → 00:07:43 ถึง 10 ครั้งต่อวันพอไปปัสสาวะทุกครั้งก็
00:07:43 → 00:07:45 ต้องเบ่งต้องเบ่งคนกลุ่มนี้ก็มักจะมี
00:07:45 → 00:07:47 ปัญหาคือมีไส้เลื่อนขาหนีบปูดขึ้นมาได้
00:07:47 → 00:07:49 หรือแม้กระทั่งพฤติกรรมการใช้ชีวิตบาง
00:07:49 → 00:07:51 อย่างเมื่อกี้ที่ผมบอกการยกของหนักการ
00:07:51 → 00:07:53 เบ่งเยอะๆนะหรือว่าการเป็นโรคเรื้อรังไอ
00:07:53 → 00:07:56 มากมากไอเรื้อรังมาเป็นระยะเวลานานการไอ
00:07:56 → 00:07:58 แต่ละครั้งแต่ละครั้งแรงดันช่องท้องเพิ่ม
00:07:58 → 00:08:01 ขึ้นคนไข้ก็เป็นไส้เลื่อนขาหนีบได้อายุ
00:08:01 → 00:08:03 ที่มากขึ้นคงเป็นปัจจัยที่เราแก้ไม่ได้นะ
00:08:03 → 00:08:05 ครับเพราะว่าอายุที่มากขึ้นจะตามมาด้วย
00:08:05 → 00:08:07 ความเสื่อมของผนังหน้าท้องความแข็งแรงของ
00:08:07 → 00:08:09 ผนังหน้าท้องก็จะลดลงก็จะมีโอกาสที่จะทำ
00:08:09 → 00:08:11 ให้เกิดรูหรือช่องว่างกลายเป็นไส้เลื่อน
00:08:11 → 00:08:14 ตามมาได้ครับอืค่ะแล้วอย่างคนที่ชอบออก
00:08:14 → 00:08:18 กำลังกายหรือว่าเวทเนingหรือมีการแบบใช้
00:08:18 → 00:08:19 ออกแรงหน้าท้องอย่างเงี้ยค่ะเสี่ยงที่จะ
00:08:20 → 00:08:21 มีช่องว่างในช่องท้องมั้คะเป็นคำถามที่
00:08:22 → 00:08:24 น่าสนใจมากนะฮะเพราะว่ามีเพื่อนหลายๆคนนะ
00:08:24 → 00:08:27 ครับที่เค้าเป็นคนที่ชอบออกกำลังกายเวท
00:08:27 → 00:08:29 Training เนี่ยเค้าก็มาถามผมว่าออกกำลัง
00:08:29 → 00:08:31 กายเนี่ยมันใช้แรงเบ่งเยอะแบบเนี้ยเาจะ
00:08:31 → 00:08:33 เกิดไส้เลื่อนได้หรือเปล่าคำตอบเนี่ยมัน
00:08:33 → 00:08:36 คงอยู่ที่ว่าถ้าเขา้าออกอยู่ในระดับที่
00:08:36 → 00:08:38 เหมาะสมคือไม่ได้มีแรงเบ่งที่มากเกินไป
00:08:39 → 00:08:41 ไม่ได้ออกซ้ำไปซ้ำมามากจนร่างกายเกิน
00:08:41 → 00:08:43 ลิมิตที่จะรับไหวโอกาสความเสี่ยงตรงเนี้ย
00:08:43 → 00:08:45 คงไม่มีแต่กลายเป็นข้อดีแทนคือผนังหน้า
00:08:45 → 00:08:47 ท้องเค้าผนังกล้ามเนื้อเค้าจะแข็งแรงมาก
00:08:47 → 00:08:50 ขึ้นถ้าเกิดว่าเราออกกำลังกายแบบหักโหม
00:08:50 → 00:08:53 มากนะฮะแบบเบ่งเยอะมากๆเลยอันเนี้ยมันมัน
00:08:53 → 00:08:55 ก็จะเพิ่มความเสี่ยงของการที่จะเกิดไส้
00:08:55 → 00:08:57 เลื่อนได้ผมเคยเจอคนไข้คนนึงคนที่ชอบ
00:08:57 → 00:08:59 เหมือนอารมณ์แบบเล่นเวทเทรนนingนะครับจะ
00:08:59 → 00:09:01 เล่นมีกล้ามมีอะไรวันนึงก็มีไส้เลือดปูด
00:09:01 → 00:09:04 ขึ้นมาก็มาถามผมว่าเนี่ยเขาเป็นโรคอะไรผม
00:09:04 → 00:09:05 ก็บอกเป็นไส้เลื่อนอ่าแล้วเกิดจากอะไร
00:09:06 → 00:09:08 เหล้าไม่กินบุหรี่ไม่สูบขับถ่ายปกติไม่มี
00:09:08 → 00:09:10 ไม่ใช่เป็นคนที่จะมีปัญหาเรื่องการ
00:09:10 → 00:09:13 ปัสสาวะอะไรต่อมลูกหมาก็ไม่ได้โตอายุแค่
00:09:13 → 00:09:15 30-40 ปัจจัยก็เป็นจากการที่เล่นเวทอาจ
00:09:15 → 00:09:17 จะมากเกินไปผมก็ต้องบอกคนไข้ว่าคงต้องผ่า
00:09:17 → 00:09:19 ตัดแล้วจะกลับไปเล่นเวทได้เมื่อไหร่ก็คง
00:09:19 → 00:09:21 ต้องว่ากันอีกทีนึงเพราะถ้ายังมีพฤติกรรม
00:09:21 → 00:09:23 ซ้ำแบบเดิมก็อาจจะเพิ่มความเสี่ยงของการ
00:09:23 → 00:09:25 เป็นไส้เลื่อนกลับมาเป็นซ้ำได้ครับอาจจะ
00:09:25 → 00:09:27 มีคำถามแปลกๆอีกแล้วนะคะว่าแล้วเวลาไส้
00:09:27 → 00:09:29 เลื่อนเนี่ยค่ะเรารู้ตัวมั้ยคะจริงๆต้อง
00:09:29 → 00:09:32 บอกว่าเราจะรู้ตัวนะฮะถ้าเกิดว่ามันออกมา
00:09:32 → 00:09:34 เยอะคำว่าออกมาเยอะคือสมมุติเนี่ยเวลาเรา
00:09:34 → 00:09:36 เดินออกไปนะฮะคนที่เป็นไส้เลือดเนี่ย
00:09:36 → 00:09:38 อาการเขาจะชอบเป็นตอนเขาเดินหรือเขายืน
00:09:38 → 00:09:40 เช่นเป็นไส้เลือดปูดออกมาอยู่ตรงบริเวณ
00:09:40 → 00:09:42 ตำแหน่งของขาหนีบนะเดินๆอยู่เอ้ยทำไมมัน
00:09:42 → 00:09:45 ตุงหน่วงอยู่ตรงบริเวณขาหนีบไปปัสสาวะ
00:09:45 → 00:09:47 เข้าห้องน้ำนะฮะเห็นว่าเอ้ยทำไมตำแหน่ง
00:09:47 → 00:09:50 ของตัวขาหนีบเรามันมีเหมือนมีก้อนตุงยื่น
00:09:50 → 00:09:53 ออกมาเอามือดันเข้าไปโผล่ๆได้เวลาไปนอนไป
00:09:53 → 00:09:55 นอนลาบปุ๊บทำไมก้อนมันยุบไปอันนี้ก็จะ
00:09:55 → 00:09:57 เป็นอาการที่เราสามารถที่จะทคหรือว่าตรวจ
00:09:57 → 00:09:59 เจอได้ว่ามันคือความผิดปกติก็น่าจะเป็น
00:09:59 → 00:10:01 ไส้เลื่อนอะไรอย่างเงี้ยครับอืค่ะแต่ว่า
00:10:01 → 00:10:03 ในขณะที่เขาเป็นไส้เลื่อนน่ะค่ะที่อาจจะ
00:10:04 → 00:10:06 ไปปูดตรงนู้นตรงนี้แล้วเนี่ยระบบขับถ่าย
00:10:06 → 00:10:08 เขายังปกติมั้ยคะจริงๆแล้วเนี่ยถ้าสมมุติ
00:10:08 → 00:10:10 ว่าไส้เลือดน่ะครับมันลงมาอยู่ในตำแหน่ง
00:10:10 → 00:10:13 ที่เป็นรูไส้เลื่อนนะครับถ้าอยู่เฉยๆไม่
00:10:13 → 00:10:15 ได้เป็นอะไรพวกเนี้ยมักจะไม่มีปัญหากิน
00:10:15 → 00:10:18 ข้าวอะไรได้ปกติขับถ่ายปกติแต่กลุ่มคนไข้
00:10:18 → 00:10:20 ที่บางครั้งบางทีเนี่ยไส้เลื่อนมันอยู่ใน
00:10:20 → 00:10:27 รูแล้วมันไปรัดไส้นะครับทำ
00:10:27 → 00:10:31 อายท้องอืแน่นท้องบางรายเนี่ยไส้แตกมาจน
00:10:31 → 00:10:34 ต้องผ่าตัดจุกเฉินก็มีแล้วเคยมีเคสไหนที่
00:10:34 → 00:10:36 ดันไส้เลื่อนกลับแล้วแต่มันไม่กลับคะโอมี
00:10:36 → 00:10:39 ครับคืออย่างงี้เอ่อต้องบอกว่า 80-90%
00:10:39 → 00:10:41 ของไข้ที่เป็นไส้เลื่อนขาหนีบตรงเนี้ย
00:10:41 → 00:10:43 ครับสามารถที่จะดันกลับเข้าไปเองได้โดย
00:10:43 → 00:10:45 ที่บางครั้งบางทีเนี่ยไม่ต้องมาหาหมอแค่
00:10:45 → 00:10:47 คนไข้เนี่ยลงไปนอนที่พื้นหรือว่านั่งหรือ
00:10:47 → 00:10:49 ว่านอนเหยียดขาเฉยๆเนี่ยไส้เลื่อนมันก็จะ
00:10:50 → 00:10:52 ย้อนกลับเข้าไปในตัวของเขาเองหลายๆครั้ง
00:10:52 → 00:10:54 คนไข้หลายๆคนที่บางทีกว่าจะมาหาเรากว่าจะ
00:10:54 → 00:10:56 มารักษากับเราเนี่ยก็เพราะว่าเป็นแบบนี้
00:10:56 → 00:10:57 มันกลับเข้าไปเองเค้าก็คิดว่าโอ๊ยคงไม่
00:10:57 → 00:10:59 เป็นอะไรยังไม่ต้องรีบมาหาหมอแต่ก็จะมี
00:10:59 → 00:11:01 บางรายครับที่คนไข้เนี่ยมาด้วยอาการไส้
00:11:01 → 00:11:04 เลื่อนขาหนีบที่มันติดดันกลับไม่ได้พอมัน
00:11:04 → 00:11:05 ดันกลับไม่ได้เสร็จปุ๊บเนี่ยสิ่งที่ตามมา
00:11:06 → 00:11:08 ก็คือว่าคนไข้อาจจะมีอาการปวดนะครับหรือ
00:11:08 → 00:11:11 ว่ามีเรื่องของตัวท้องอืดแน่นท้องจากภาวะ
00:11:11 → 00:11:13 ลำไส้อุดตันที่มันเกิดจากตัวไส้เลื่อนขา
00:11:13 → 00:11:16 หนีบที่มันไปรัดไว้ก็เป็นเคสที่เจอขึ้นมา
00:11:16 → 00:11:18 บ่อยๆแล้วก็เป็นเคสที่ต้องผ่าตัดโดยทันที
00:11:18 → 00:11:20 ส่วนสาเหตุที่ไส้เลื่อนขาหนีบมันไม่ย้อน
00:11:20 → 00:11:22 กลับไปเนี่ยนะครับส่วนใหญ่เนี่ยมันเกิด
00:11:22 → 00:11:24 จากการที่พอมันเข้ามาอยู่ในรูที่มันเป็น
00:11:24 → 00:11:26 รูไส้เลือดนะ่ะครับทีนี้พอมันรูเนี่ยมัน
00:11:26 → 00:11:28 เริ่มรัดพอมันรัดเนี่ยไส้เลือดจากเล็กๆ
00:11:28 → 00:11:31 ที่มันเข้ามาพอมันขยายขนาดขึ้นมันบวมขึ้น
00:11:31 → 00:11:33 มากกว่าปากทางเข้าและทางเข้าออกที่มันจะ
00:11:33 → 00:11:35 ไหลผ่านกลับเข้าไปได้เนี่ยมันก็จะทำให้มี
00:11:35 → 00:11:37 อาการบวมเกิดขึ้นทำให้ตัวไส้เลือดเนี่ย
00:11:38 → 00:11:39 ไม่สามารถที่จะถูกดันกลับเข้าไปได้บาง
00:11:39 → 00:11:41 ครั้งบางทีเนี่ยแพทย์ก็ต้องใช้วิธีการนะ
00:11:41 → 00:11:43 ครับก็คือเป็นสัญแพทย์เนี่ยแหละลองดัน
00:11:43 → 00:11:46 กลับด้วยตัวเองก่อนจัดท่าคนไข้เรียบร้อย
00:11:46 → 00:11:48 หมอก็จะมาคลึงนะครับในตำแหน่งที่เป็นไส้
00:11:48 → 00:11:50 เลื่อนแล้วก็ถ้าใช้มือของเราเนี่ยดันกลับ
00:11:50 → 00:11:52 เข้าส่วนใหญ่ก็ประสบความสำเร็จแต่ว่าบาง
00:11:52 → 00:11:54 ส่วนเนี่ยที่ไม่ประสบความสำเร็จเนี่ยก็
00:11:54 → 00:11:56 ต้องไปผ่าตัดในห้องผ่าตัดฉุกเฉินคืนนั้น
00:11:56 → 00:11:59 ต่อไปครับอืค่ะแล้วการผ่าตัดอ่ะค่ะมีการ
00:11:59 → 00:12:01 รักษาแบบไหนบ้างคะการผ่าตัดรักษาไส้
00:12:01 → 00:12:03 เลื่อนแบบปัจจุบันเนี่ยครับมีการรักษา
00:12:03 → 00:12:05 อยู่ 2 วิธีหลักๆ 1 ก็คือเป็นการผ่าตัด
00:12:05 → 00:12:08 แบบเปิดเป็นการรักษาแบบมาตรฐานโดยทั่วไป
00:12:08 → 00:12:10 ไม่ว่าจะเป็นใครก็รักษามาตรฐานเนี่ยได้
00:12:10 → 00:12:12 หมดกับแบบที่ 2 คือเป็นการรักษาโดยการผ่า
00:12:12 → 00:12:14 ตัดส่องกล้องซึ่งแต่ละรูปแบบหรือแต่ละ
00:12:14 → 00:12:17 วิธีเนี่ยก็จะมีความแตกต่างกันข้อดีข้อ
00:12:17 → 00:12:19 เสียเนี่ยก็มีความแตกต่างกันค่ะถามเพิ่ม
00:12:19 → 00:12:22 นิดนึงสำหรับคนที่อาจจะรู้สึกว่ากลัวการ
00:12:22 → 00:12:25 มาเจอหมอผ่าตัดบางทีเขาอาจจะมีอาการแล้ว
00:12:25 → 00:12:27 ก็รู้สึกว่าไม่อยากไปผ่าตัดเพราะรู้สึก
00:12:27 → 00:12:29 ว่าเวลาเราได้ยินคำว่าผ่าตัดมันดูเป็นเคส
00:12:29 → 00:12:32 ใหญ่ดูเป็นเออดูน่ากลัวดูร้ายแรงเงี้ยค่ะ
00:12:32 → 00:12:34 คุณหมออยากจะบอกอะไรมั้คะว่าการมาผ่าตัด
00:12:34 → 00:12:36 มันไม่ได้น่ากลัวจะบอกว่าผ่าตัดไม่น่า
00:12:36 → 00:12:38 กลัวก็ดูเหมือนจะโกหกใช่มั้ยครับก็คงอาจ
00:12:38 → 00:12:41 จะบอกว่าจริงๆมันก็น่ากลัวแหละแล้วก็การ
00:12:41 → 00:12:43 ผ่าตัดทุกอย่างเนี่ยมันก็มีความเสี่ยงที่
00:12:43 → 00:12:44 จะเกิดขึ้นเพียงแต่ว่าสัดส่วนมากน้อย
00:12:45 → 00:12:47 เนี่ยก็คงขึ้นอยู่กับตัวบุคคลของตัวคนไข้
00:12:47 → 00:12:49 แต่ละคนของหมอผ่าตัดของเครื่องไม้เครื่อง
00:12:49 → 00:12:51 มือนะครับแต่ว่าไม่อยากจะให้กังวลหรือคิด
00:12:51 → 00:12:55 ว่าถ้ามาผ่าตัดเนี่ยแล้วแย่แน่ๆคนเนี่ย
00:12:55 → 00:12:57 คือผมเคยได้ยินเนาะเอออย่าไปหาหมอนะเนี่ย
00:12:57 → 00:12:59 ผ่าทีไรเนี่ยแย่ทุกทีเนี่ยเคสเนี่ยเคส
00:12:59 → 00:13:01 ก่อนเนี่ยเอาไปผ่าสุดท้ายก็ไม่ได้ออกจาก
00:13:01 → 00:13:03 โรงพยาบาลก็เสียชีวิตอะไรเงี้ยจะไปผ่า
00:13:03 → 00:13:06 ทำไมผ่าก็ตายอะไรอย่างเงี้ยเออเจ็บตัว
00:13:06 → 00:13:08 ทรมานอารมณ์ก็จะคิดประมาณอย่างงั้นจริงๆ
00:13:08 → 00:13:10 ต้องบอกว่าการผ่าตัดเนี่ยครับหลักๆเนี่ย
00:13:10 → 00:13:13 มันเป็นการรักษาถ้าเคสไหนเนี่ยที่ต้องได้
00:13:13 → 00:13:14 รับการผ่าตัดเนี่ยแปลว่าคุณหมอเนี่ย
00:13:14 → 00:13:17 ประเมินมาดีแล้วนะฮะว่าเคสเนี้ยต้องได้
00:13:17 → 00:13:19 รับการผ่าตัดไม่มีใครอยากจะจับคนไข้ที่
00:13:19 → 00:13:21 ปกติติที่ไม่ต้องผ่ามาผ่าตัดเพราะว่ามัน
00:13:21 → 00:13:24 เสี่ยงไหนจะดมยาสลบไหนจะบล็อกหลังนะไหนจะ
00:13:24 → 00:13:26 การผ่าตัดที่ต้องมีการสูญเสียเลือดมีการ
00:13:26 → 00:13:28 บาดเจ็บต่ออวัยวะข้างเคียงต่างๆถ้าโดย
00:13:28 → 00:13:31 ปกติถ้ามันไม่จำเป็นเนี่ยเราเราไม่เอาเคส
00:13:31 → 00:13:33 คนไหนมาผ่าตัดโดยใช่เหตุนะครับเพราะ
00:13:33 → 00:13:36 ฉะนั้นถ้ามีการนัดหมายกันคุยกันว่าต้อง
00:13:36 → 00:13:38 ผ่าตัดนั่นก็แปลว่าโรคนั้นเนี่ยอาจจะต้อง
00:13:38 → 00:13:40 ผ่าตัดจริงๆซึ่งอาจจะเป็นทางเดียวในการ
00:13:40 → 00:13:42 ที่จะรักษาคนไข้ด้วยเพราะฉะนั้นแล้วเนี่ย
00:13:42 → 00:13:44 อย่าได้กังวลว่าการผ่าตัดจะเป็นเรื่อง
00:13:44 → 00:13:46 ร้ายแรงมองว่าสุดท้ายเนี่ยมันเป็นการช่วย
00:13:46 → 00:13:48 เหลือเพื่อให้เราหายจากโลกดีกว่าครับอื
00:13:48 → 00:13:50 ค่ะแล้วอย่างจากประสบการณ์ของคุณหมอค่ะ
00:13:50 → 00:13:52 เวลาที่กำลังจะผ่าตัดคนไข้อย่างเคสไส้
00:13:52 → 00:13:54 เลื่อนอย่างเงี้ยค่ะคุณหมอมีวิธีการคลาย
00:13:54 → 00:13:57 กังวลคนไข้ยังไงบ้างคะเอ่อจริงๆก็ต้องบอก
00:13:57 → 00:13:59 ว่าส่วนใหญ่เราคุยกับคนไข้ก่อนอยู่แล้วนะ
00:13:59 → 00:14:01 ครับนะก่อนจะผ่าตัดทุกอย่างอะไรอย่าง
00:14:01 → 00:14:03 เงี้ยคุยตั้งแต่ห้องตรวจไปจนถึงห้องผ่า
00:14:03 → 00:14:06 ตัดเราก็จะคุยกับเค้านะครับก็บอกเ้าไปคือ
00:14:06 → 00:14:09 สิ่งสำคัญเนี่ยอย่างที่ผมเคยบอกไปนะว่า
00:14:09 → 00:14:11 กังวลเนี่ยจะกังวลมากหรือน้อยเนี่ยมัน
00:14:11 → 00:14:13 ขึ้นอยู่กับความรู้ที่เรามีถ้าคนเราไม่
00:14:14 → 00:14:16 รู้อะไรเลยเนี่ยเราจะกังวลเยอะใช่มั้ย
00:14:16 → 00:14:17 ครับเหมือนถ้าเราไม่ได้แบบมีความรู้
00:14:17 → 00:14:19 เรื่องนี้เราจะคิดไปหมดอะไรก็เกิดขึ้นจะ
00:14:19 → 00:14:21 ฟุ้งซ่านมันจะเกิดอย่างงู้นอย่างี้อย่าง
00:14:21 → 00:14:23 งั้นได้แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราให้ความ
00:14:23 → 00:14:25 รู้กับคนไข้ตรงเนี้ยเ้าไปเยอะๆเช่นอ่า
00:14:25 → 00:14:28 เดี๋ยวมาผ่าตัดไส้เลื่อนกันนะการผ่าตัด
00:14:28 → 00:14:29 ไส้เลื่อนเนี่ยเดี๋ยวคุณหมอวิสัญญีแพทย์
00:14:30 → 00:14:31 เนี่ยเขาจะบล็อกหลังให้หลังจากนั้นไป
00:14:31 → 00:14:33 เนี่ยส่วนที่อยู่ใต้ต่อสะดือของเราเราจะ
00:14:33 → 00:14:35 ไม่รู้สึกเลยการผ่าตัดเนี่ยเราจะไม่ได้
00:14:35 → 00:14:38 รับความเจ็บปวดอะไรเลยนะครับจะไม่เจ็บไม่
00:14:38 → 00:14:40 ปวดอะไรทั้งสิ้นการผ่าตัดจะใช้เวลาไม่
00:14:40 → 00:14:43 เกิน 1 ช่มงต่อ 1 ข้างใช่มั้ถ้าทำ 2 ข้าง
00:14:43 → 00:14:45 ก็อาจจะไม่เกิน 2 ชั่วโมงถ้าทำข้างนึงก็
00:14:45 → 00:14:47 อาจจะสัก 30-40 นาทีโดยประมาณก็บอกเ้าทุก
00:14:47 → 00:14:50 สเต็ปว่าเป็นยังไงซึ่งคนไข้ส่วนใหญ่ที่
00:14:50 → 00:14:52 เป็นไข้ไส้เลื่อนขาหนีบที่ผ่าตัดด้วยวิธี
00:14:52 → 00:14:54 การผ่าแบบเปิดเนี่ยเขาจะรู้สึกตัวด้วยนะ
00:14:54 → 00:14:56 ตอนเราผ่าตัดอยู่คนไข้ไม่ได้หลับนะครับคน
00:14:57 → 00:14:59 ไข้จะนอนอยู่บนเตียงได้ยินหมดหมอพยาบาล
00:14:59 → 00:15:01 คุยกันอะไรนู่นนี่นั่นเขาจะได้ยินหมดทุก
00:15:01 → 00:15:04 อย่างจังหวะนี้เนี่ยเราสามารถอธิบายคนไข้
00:15:04 → 00:15:06 ไปได้อ้าวหมอผ่าตัดใกล้เสร็จแล้วนะตอนนี้
00:15:06 → 00:15:09 หมอกำลังเย็บปิดแผลนะครับนู่นนี่นั่นคุย
00:15:09 → 00:15:11 กับเค้าพวกนี้เนี่ยการอธิบายด้วยข้อมูล
00:15:11 → 00:15:13 ด้วยความรู้ต่างๆเนี่ยเราสามารถให้เขา
00:15:13 → 00:15:15 ตั้งแต่ก่อนผ่าระหว่างผ่าได้นะครับในคน
00:15:15 → 00:15:17 ไข้ที่ที่เขารู้สึกตัวอยู่ซึ่งตัวนี้ก็จะ
00:15:17 → 00:15:19 คายความกังวลไปได้เยอะแล้วก็จะลดปัญหา
00:15:19 → 00:15:22 เรื่องของการเกิดการฟ้องร้องตามมาได้ที่
00:15:22 → 00:15:24 ผมพูดเนี่ยเพราะว่ามันเคยมีหลายๆอย่างนะ
00:15:24 → 00:15:26 ฮะที่เราเนี่ยไม่ได้คุยกับคนไข้เลยไม่ได้
00:15:26 → 00:15:28 หมายถึงผมนะครับแต่หมายถึงว่ามันจะมีบาง
00:15:28 → 00:15:31 เคสที่อาจจะได้รับการแนะนำอย่างไม่ครอบ
00:15:31 → 00:15:33 คลุมหรือว่ายังไม่เข้าใจในบางประเด็นแล้ว
00:15:33 → 00:15:35 ก็เกิดการ miscommunication การสื่อสาร
00:15:35 → 00:15:38 กันแบบไม่รู้เรื่องแล้วก็สุดท้ายเนี่ยพอ
00:15:38 → 00:15:40 ไปผ่าตัดเรียบร้อยเนี่ยก็กลายเป็นว่าเคส
00:15:40 → 00:15:42 เนี่ยมีปัญหาเกิดขึ้นนะครับพอเคสมีปัญหา
00:15:42 → 00:15:45 เกิดขึ้นถ้าไม่ตายก็โอเคแต่ถ้าเกิดว่าพา
00:15:45 → 00:15:48 ไปปึ๊บแล้วเกิดเสียชีวิตหรือเป็นพิการการ
00:15:48 → 00:15:50 คุยกับญาติเนี่ยจะเป็นอะไรที่ลำบากเพราะ
00:15:50 → 00:15:52 ฉะนั้นเนี่ยก่อนจะผ่าตัดอย่างที่ผมบอกเรา
00:15:52 → 00:15:54 จะคุยก่อนเราถูกพร่ำสอนมาบอกว่าถ้าพูด
00:15:54 → 00:15:56 ก่อนเนี่ยเาเรียกอธิบายแต่ถ้ามันเกิด
00:15:56 → 00:15:58 เรื่องแล้วแล้วมาพูดทีหลังเนี่ยเขาเรียก
00:15:58 → 00:16:00 แก้ตัวเพราะฉะนั้นแล้วเนี่ยก่อนจะทำอะไร
00:16:00 → 00:16:02 ทุกอย่างเนี่ยเราจะมีช็อตเนี่ยพูดก่อน
00:16:02 → 00:16:04 อธิบายทุกอย่างให้หมดก่อนนะครับก่อนที่จะ
00:16:04 → 00:16:06 ลงมือผ่าตัดแล้วพอทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย
00:16:06 → 00:16:08 เป็นไปตามแผนแฮปปี้จบแต่ถ้ามันเกิดเหตุ
00:16:08 → 00:16:09 การณ์ไม่คาดคิดอย่างน้อยเราเคยอธิบายไว้
00:16:09 → 00:16:11 ก่อนแล้วปัญหาเรื่องตรงนี้ก็จะน้อยลงตาม
00:16:11 → 00:16:15 มาอค่ะก็เป็นความเข้าใจระหว่างคุณหมอกับ
00:16:15 → 00:16:18 คนไข้ให้เข้าใจตรงกันในการรักษาเนาะเออ
00:16:18 → 00:16:20 แต่ว่าจริงๆเคสไส้เลือดเนี่ยค่ะผ่าแล้วก็
00:16:20 → 00:16:23 กลับมาใช้ชีวิตได้ปกติใช่มั้คะใช่ครับคือ
00:16:23 → 00:16:25 จริงๆอาจจะมีข้อจำกัดบางอย่างสำหรับกลุ่ม
00:16:25 → 00:16:27 คนไข้ที่ผ่าตัดไส้เลื่อนนะครับผมยกตัว
00:16:27 → 00:16:29 อย่างประเภทการผ่าตัดรักษาด้วยวิธีการผ่า
00:16:29 → 00:16:32 ตัดแบบเปิดก่อนในกลุ่มคนไข้ที่เราผ่าตัด
00:16:32 → 00:16:34 แบบเปิดเนี่ยเราเชื่อว่าตัวผนังหน้าท้อง
00:16:34 → 00:16:36 ของเขา้าเนี่ยนะครับหรือตรงบริเวณขา
00:16:36 → 00:16:38 เหนียบเขาเนี่ยมันอ่อนแอมันหย่อนยานเราก็
00:16:38 → 00:16:40 จะมีการใส่เครื่องมือนะครับทางการแพทย์ก็
00:16:40 → 00:16:42 จะเป็นตาข่ายเพื่อเสริมความแข็งแรงเพื่อ
00:16:42 → 00:16:44 ทำให้ตัวผนังหน้าท้องมันกลับมาแข็งแรงได้
00:16:44 → 00:16:46 ดั่งเดิมลดการกลับมาเป็นซ้ำทีนี้เวลาเรา
00:16:46 → 00:16:49 เย็บปิดไปเสร็จเรียบร้อยเนี่ยคนไข้เนี่ย
00:16:49 → 00:16:51 ไม่ใช่แปลว่าจะกลับไปยกของหนักได้จะกลับ
00:16:51 → 00:16:53 ไปทำอะไรเหมือนเคยได้จะกลับไปท้องผูกได้
00:16:53 → 00:16:55 เหมือนเดิมหรืออะไรอย่างเงี้ยครับไม่ใช่
00:16:55 → 00:16:58 การที่คนไข้กลับไปทำพฤติกรรมแบบเดิมมันก็
00:16:58 → 00:17:00 จะมีความเสี่ยงที่จะทำให้ตัวไส้เลื่อน
00:17:00 → 00:17:02 เนี่ยกลับมาเป็นซ้ำอีกนะครับอันที่ 2
00:17:02 → 00:17:04 กิจกรรมบางอย่างที่อาจจะต้องงดในช่วงแรก
00:17:04 → 00:17:06 หลังการผ่าตัดเสร็จเช่นการยกของหนักใน
00:17:06 → 00:17:08 ช่วงประมาณ 2 เดือนแรกหรือว่า 6 สัปดาห์
00:17:08 → 00:17:10 แรกส่วนใหญ่ผมก็จะแนะนำให้เลยสัก 2-3
00:17:11 → 00:17:12 เดือนเพราะว่าคนไทยเป็นอย่างนี้เวลาแนะนำ
00:17:12 → 00:17:15 บอก 6 สัปดาห์ตามฝรั่งบอกฝรั่งบอกเออ 6
00:17:15 → 00:17:17 สัปดาห์พอพอพอแนะนำ 6 สัปดาห์เสร็จปุ๊บ
00:17:17 → 00:17:19 สัปดาห์ที่ 4 คนไทยเป็นไงเอาละจะเริ่ม
00:17:19 → 00:17:20 กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมแล้วก็ไม่เห็นมี
00:17:20 → 00:17:22 อะไรผ่าตัดเสร็จแล้วก็ไม่เจ็บไม่ปวดพอเรา
00:17:22 → 00:17:24 บอกให้หยุดที่ 2 เดือนคนไข้สักเดือนครึ่ง
00:17:24 → 00:17:27 ก็เอาละแต่พอเราบอก 3 เดือนปุ๊บอ่าเขาจะ
00:17:27 → 00:17:29 มาเริ่มทำ Activity ปกติสัก 2 เดือน 2
00:17:29 → 00:17:32 เดือนนิดๆโอเคแผลทุกอย่างหายข้างในสมานดี
00:17:32 → 00:17:33 อันนั้นเรียบร้อยนะโอเคคือช่วงแรกๆเราอาจ
00:17:34 → 00:17:36 จะให้หลีกเลี่ยงนิดนึงกับการที่จะไปยกของ
00:17:36 → 00:17:38 หนักการเบ่งการจามการทำอะไรเยอะๆเพราะว่า
00:17:38 → 00:17:40 มันอาจจะทำให้ตัวไส้เลื่อนในช่วงเนี้ย
00:17:40 → 00:17:42 เอ่อมันกลับมาเป็นซ้ำได้เพราะว่าหน้าท้อง
00:17:42 → 00:17:45 ยังไม่แข็งแรงเพียงพอนะครับอค่ะก็รอให้
00:17:45 → 00:17:47 เข้าที่เข้าทางก่อนแล้วค่อยกลับไปใช้
00:17:47 → 00:17:49 ชีวิตปกติถูกต้องครับคุณหมอจะเน้นเรื่อง
00:17:49 → 00:17:52 ของท้องผูกอยู่บ่อยๆใช่มั้ยคะแล้วก็
00:17:52 → 00:17:54 แพนด้าอยากรู้ว่าแล้วท้องผูกบ่อยแค่ไหน
00:17:54 → 00:17:57 อ่ะที่มันอาจจะทำให้เกิดไส้เลื่อนได้อ่ะ
00:17:57 → 00:17:59 ค่ะจริงๆไม่มีตัวเลขบอกนะครับว่าท้องผูก
00:17:59 → 00:18:02 นานแค่ไหนเป็นแบบไหนท้องผูกเท่าไหร่อะไร
00:18:02 → 00:18:04 ยังไงแล้วจะทำให้เกิดไส้เลื่อนนะครับ
00:18:04 → 00:18:05 เพียงแต่ว่าเราพูดกันว่าท้องผูกเนี่ยมัน
00:18:05 → 00:18:07 เป็นปัจจัยเสี่ยงที่มีโอกาสให้เกิดไส้
00:18:08 → 00:18:09 เลื่อนได้ทนี้มาเข้าใจความหมายของคำว่า
00:18:09 → 00:18:12 ท้องผูกก่อนบางคนเนี่ยเข้าใจว่าการไม่ได้
00:18:12 → 00:18:15 ถ่ายทุกวันคือการท้องผูกอันเนี้ยไม่ใช่
00:18:15 → 00:18:17 ได้ตาม definition หรือว่าคำจำกัดความของ
00:18:17 → 00:18:20 คำว่าท้องผูกเนี่ยเราตัดที่ถ้าใน 1
00:18:20 → 00:18:22 สัปดาห์คนไข้ถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้ง
00:18:22 → 00:18:25 อันเนี้ยถือว่าท้องผูกหรือถ่ายอุจจาระ
00:18:25 → 00:18:27 แข็งเป็นก้อนต้องเบ่งเยอะๆขนาดนั้นน่ะ
00:18:27 → 00:18:28 อันเนี้ยเราเรียกว่าท้องผูกเพราะฉะนั้น
00:18:29 → 00:18:30 แล้วเนี่ยการที่คนไข้เนี่ยไม่ได้ถ่ายทุก
00:18:30 → 00:18:32 วันไม่ได้เรียกว่าท้องผูกอาจจะวันเว้นวัน
00:18:32 → 00:18:34 ได้วันเว้น 2 ได้แต่ขอให้สัปดาหนึงอย่าง
00:18:34 → 00:18:37 น้อย 3 ครั้งขึ้นไปโอเคถ้าสมมุติว่ามี
00:18:37 → 00:18:39 อาการท้องผูกขึ้นมาจริงๆแล้วจนทำให้เกิด
00:18:39 → 00:18:41 ตัวไส้เลื่อนเนี่ยอย่างที่ผมบอกตัวเลขมัน
00:18:42 → 00:18:44 ไม่ชัดมันไม่แน่นอนเพียงแค่ว่าเราสำรวจ
00:18:44 → 00:18:46 ตัวเองถ้าถ้าเกิดว่าเราเริ่มมีอาการท้อง
00:18:46 → 00:18:48 ผูกแล้วตามคำจำกัดความที่ว่าอาจจะปรึกษา
00:18:48 → 00:18:51 แพทย์ซิว่าจะท้องผูกเนี่ยเป็นจากสาเหตุ
00:18:51 → 00:18:53 อะไรต้องกินยาอะไรมั้ยต้องส่องกล้องดู
00:18:53 → 00:18:55 อะไรหรือเปล่าว่ามันมีสาเหตุอะไรที่ทำให้
00:18:55 → 00:18:57 เกิดอาการท้องผูกจะได้รักษาป้องกันแต่
00:18:57 → 00:19:00 เนิ่นๆนะครับอแล้วเวลาที่เราท้องผูกเนี่ย
00:19:00 → 00:19:01 ค่ะอาจจะทำให้เกิดไส้เลื่อนได้เนาะอย่าง
00:19:01 → 00:19:03 ที่บอกอีกอันนึงที่มันอาจจะมาพร้อมๆกัน
00:19:03 → 00:19:07 นี่คือฤิสีดวงด้วยมั้คะอ่าใช่ครับคือจริง
00:19:07 → 00:19:09 ๆแล้วเนี่ยท้องผูกมันก็ไปได้หลายโรคหนึ่ง
00:19:09 → 00:19:11 ในนั้นก็คือฤิสีดวงทะวันหนักคนไข้ที่มี
00:19:11 → 00:19:13 ปัญหาเรื่องท้องผูกเนี่ยที่ผมบอกคนไข้จะ
00:19:13 → 00:19:15 ต้องเบ่งพอเบ่งเก่งเยอะเนี่ยสิ่งที่ตามมา
00:19:15 → 00:19:17 ก็คือว่าตัวตำแหน่งลิสิดวงทะวันหนัก
00:19:17 → 00:19:19 มนุษย์เรามีทุกคนอยู่แล้วนะครับนะไม่ใช่
00:19:19 → 00:19:22 ไม่มีนะครับแม้กระทั่งผมเองก็มีทุกคนก็มี
00:19:22 → 00:19:24 เพียงแต่ว่ามันจะปูดหรือไม่ปูดขึ้นมาแค่
00:19:24 → 00:19:26 นั้นเองแล้วเมื่อไหร่มันจะปูดจะปูดก็ตอน
00:19:26 → 00:19:28 เมื่อเราเบ่งกับมันเยอะๆนะครับไปเข้าห้อง
00:19:28 → 00:19:30 น้ำเบ่งเยอะๆอันนั้นก็ท้องผูกเนาะทำให้
00:19:30 → 00:19:32 เกิดลิสิดวงแม้กระทั่งท้องเสียบ่อยๆไป
00:19:32 → 00:19:34 เข้าห้องน้ำเยอะๆก็ทำให้เกิดฤิสวงทวหนัก
00:19:34 → 00:19:36 ได้เหมือนกันคนไข้ที่ไม่ได้ท้องผูกไม่ได้
00:19:36 → 00:19:39 ท้องเสียเลยแต่เป็นผู้หญิงตั้งครรภ์ก็ทำ
00:19:39 → 00:19:41 ให้เกิดฤิสิดวงทวันน่ะขณะที่ตั้งครรภอยู่
00:19:41 → 00:19:43 ได้ก็เป็นมาเหมือนกันแต่จะบอกว่าท้องผูก
00:19:43 → 00:19:45 ก็เป็นอีกปัจจัยนึงนะครับที่ทำให้เกิด
00:19:45 → 00:19:47 ลิสีดวงทะวันน่ะครับอือขอขยายความนิดนึง
00:19:47 → 00:19:50 คือจริงๆเราทุกคนมีฤิสีดวงอยู่แล้วถูก
00:19:50 → 00:19:52 ต้องครับอ่าแต่ว่าถ้ามันมีอะไรไปเบ่งมากๆ
00:19:52 → 00:19:54 หรือเข้าห้องน้ำบ่อยๆมากๆก็จะทำให้ปูดออก
00:19:54 → 00:19:56 มาจริงๆคือต้องเข้าใจว่าลิสินวงเนี่ยมัน
00:19:56 → 00:19:58 มีอยู่แล้วนะครับตำแหน่งนี้ที่ผมบอกมี
00:19:58 → 00:20:00 อยู่แล้วมันคือเขาเรียกว่าภาษาอังกฤษหรือ
00:20:00 → 00:20:02 ภาษาทางการแพทย์เเรียกว่า enal cusion
00:20:02 → 00:20:04 มันจะมีอยู่ 3 หัวโดยตำแหน่งตามธรรมชาติ
00:20:04 → 00:20:06 นะครับซึ่งพวกเนี้ยมันจะอยู่เฉยๆของมัน
00:20:06 → 00:20:09 มันจะลาบเรียบไปกลมๆตามรูทวันหนักไม่มี
00:20:09 → 00:20:10 ปัญหาอะไรแต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีการ
00:20:10 → 00:20:12 เบ่งเยอะขึ้นมันจะทำให้เส้นเลือดที่อยู่
00:20:12 → 00:20:15 ในตำแหน่งของบริเวณanalูionหรือตรงลิสึ
00:20:15 → 00:20:17 ดวงตรงนี้นะครับมันปูดขึ้นพอมันปูดขึ้น
00:20:17 → 00:20:19 ปุ๊บเนี่ยมันปูดขึ้นเรื่อยๆจากการที่เรา
00:20:19 → 00:20:21 เบ่งๆๆวันนึงถ้ามันปูดแล้วยุบคลายไม่เป็น
00:20:21 → 00:20:23 ไรแต่ถ้ามันเบ่งมากเรื่อยๆเบ่งมากเรื่อยๆ
00:20:23 → 00:20:24 มันจะปูดขึ้นเรื่อยๆแล้วมันจะไม่ยุบมันก็
00:20:24 → 00:20:26 จะกลายเป็นหัวลิสิวงให้เราเห็นในท้ายที่
00:20:26 → 00:20:28 สุดบางคนก็จะมาด้วยพอเส้นเลือดของลิสิดวง
00:20:28 → 00:20:31 นี้มันปูดมากจนเกิดลิสีดวงแตกถ่ายเป็น
00:20:31 → 00:20:33 เลือดก็มีออค่ะแล้วเวลาที่เขาต้องไปรักษา
00:20:34 → 00:20:36 ไปผ่านี่คือผ่าเอาเลือดออกหรอคะหรือว่า
00:20:36 → 00:20:38 หมายถึงลิสีดวงทะวันหนักใช่มั้ยครับก็คือ
00:20:38 → 00:20:41 ปกติถ้าคนไข้ถ่ายเป็นเลือดโดยมีสาเหตุจาก
00:20:41 → 00:20:43 ลิสีดวงทวารหนักเนี่ยยังไม่ต้องผ่าตัดนะ
00:20:43 → 00:20:46 ครับปกติ 80% 90% จะหยุดได้เองเราไม่
00:20:46 → 00:20:48 ต้องไปผ่าตัดเอาเลือดเอาอะไรออกยังไม่
00:20:48 → 00:20:51 ต้องตัดลิสีดวงออกเว้นแต่ในกรณีที่ลิดวง
00:20:51 → 00:20:52 นั้นเนี่ยครับมันเลือดออกไม่หยุดดูแล้ว
00:20:52 → 00:20:54 ประเมินแล้วไม่หยุดเองหรือว่าเราลองรัด
00:20:54 → 00:20:57 หัวลิสีดวงแล้วยังเลือดไหลอยู่ยังไม่หยุด
00:20:57 → 00:20:59 อันนี้ก็คงต้องผ่าตัดหรือว่ามีลิสีดวง
00:20:59 → 00:21:01 ทวันหนักที่มีเลือดออกร่วมด้วยกับการที่
00:21:01 → 00:21:04 หัวลิสิดดวงมันปูดเป็นขนาดระดับ 3 ระดับ 4
00:21:04 → 00:21:06 ขึ้นไปอันเนี้ยก็คงต้องมาผ่าตัดเอาออก
00:21:06 → 00:21:08 ครับจริงๆก็ค่อนข้างที่จะรักษาเองได้ก่อน
00:21:08 → 00:21:10 เบื้องต้นใช่มั้คะคือลิสินวงทวารหนัก
00:21:10 → 00:21:13 เนี่ยมันมี 4 ระยะไอ้ตัวลิสุดงทวาหนักที่
00:21:13 → 00:21:15 มี 4 ระยะเนี่ยนะครับถ้าเป็นระยะ 1 2
00:21:16 → 00:21:18 ส่วนใหญ่แล้วเนี่ยมันสามารถหายได้ด้วย
00:21:18 → 00:21:20 วิธีการไม่ต้องผ่าตัดเช่นการปรับพฤติกรรม
00:21:20 → 00:21:23 การกินอาหารที่มีกากใยไฟเบอร์ลดอาการท้อง
00:21:23 → 00:21:25 ผูกหลีกเลี่ยงการท้องผูกตัวเนี้ยสามารถ
00:21:25 → 00:21:28 ที่จะเป็นปึ๊บหายเองได้นะครับยังไม่ต้อง
00:21:28 → 00:21:30 ผ่าตัดแต่พอมันเป็นระยะ 3 ระยะ 4 ไปแล้ว
00:21:30 → 00:21:31 เนี่ยเปอร์เซ็นต์ที่จะรักษาด้วยการไม่ผ่า
00:21:31 → 00:21:33 ตัดความสำเร็จมันน้อยลงก็คงอาจจะต้องพึ่ง
00:21:33 → 00:21:35 พาเรื่องของการผ่าตัดเข้ามาสรุปก็คือขึ้น
00:21:36 → 00:21:38 อยู่กับระยะของตัวลิสีดวงทะวันน่ะว่าเป็น
00:21:38 → 00:21:40 แบบไหนความรุนแรงแบบไหนครับอือค่ะโอไม่
00:21:41 → 00:21:42 ว่าจะฤิษีดวงทะวันน้ำหนักหรือว่าไส้
00:21:42 → 00:21:44 เลื่อนเนี่ยก็อาจจะเกิดมาจากสาเหตุของ
00:21:44 → 00:21:47 ท้องผูกได้แล้วเราจะมีวิธีการปรับ
00:21:47 → 00:21:49 พฤติกรรมการกินหรือปรับพฤติกรรมอะไรในการ
00:21:49 → 00:21:52 ใช้ชีวิตที่ทำให้การขับถ่ายของเราเนี่ย
00:21:52 → 00:21:54 มันเป็นปกติแล้วก็ไม่ต้องเบ่งเยอะอ่ะค่ะ
00:21:54 → 00:21:56 โดยปกติเนี่ยนะครับเราเชื่อว่าสาเหตุของ
00:21:56 → 00:21:58 การท้องผูกเนี่ยนะครับส่วนหนึ่งเนี่ยก็
00:21:58 → 00:22:00 เป็นเรื่องของอาหารการกินใช่มั้ยครับการ
00:22:00 → 00:22:02 ปรับพฤติกรรมการกินที่จะช่วยลดอาการท้อง
00:22:02 → 00:22:04 ผูกเนี่ยนะครับ 1 ก็คือกินน้ำให้เยอะคำ
00:22:05 → 00:22:06 ว่าดื่มน้ำให้เยอะเนี่ยคือต้องดื่มน้ำ
00:22:06 → 00:22:08 เนี่ยอย่างน้อยเนี่ยลิตรครึ่งถึง 2 ลิตร
00:22:08 → 00:22:10 นะครับแต่บางทีเนี่ยผมจะไม่ได้บอกตัวเลข
00:22:11 → 00:22:13 แบบเนี้ยให้คนไข้ทุกคนเพราะว่าแต่ละคนน้ำ
00:22:13 → 00:22:15 หนักตัวไม่เท่ากันความสามารถในการกินน้ำ
00:22:15 → 00:22:18 ไม่เท่ากันผมจะบอกว่าเอาอย่างี้ให้กินน้ำ
00:22:18 → 00:22:20 นะน้ำเปล่าธรรมดาเนี่ยกินจนกว่าปัสสาวะจะ
00:22:20 → 00:22:22 เป็นเหลืองใสหรือเป็นสีใสถ้าเมื่อไหร่ก็
00:22:22 → 00:22:24 ตามที่เหลืองเข้มร่างกายเป็นตัวฟ้องและ
00:22:25 → 00:22:27 ผ่านรูปแบบของสีปัสสาวะว่าตอนเน้ำไม่พอ
00:22:27 → 00:22:29 ให้กินน้ำเพิ่มนี้นะครับอันดับแรกกินน้ำ
00:22:29 → 00:22:31 เยอะๆอันดับที่ 2 คือกินอาหารที่เพิ่ม
00:22:31 → 00:22:33 ไฟเบอร์ในร่างกายอาหารที่เพิ่มไฟเบอร์ใน
00:22:33 → 00:22:36 ร่างกายในลำไส้เนี่ยก็คือเป็นพวกผักผลไม้
00:22:36 → 00:22:38 อาหารพวกนี้จะมีกากใยเยอะรวมไปถึงอาหาร
00:22:38 → 00:22:41 พวกธัญพืชต่างๆด้วยเช่นถั่วธัญพืชอะไรพวก
00:22:41 → 00:22:43 เนี้ยก็จะเป็นตัวเสริมสร้างไฟเบอร์ให้
00:22:43 → 00:22:45 เกิดขึ้นพอมีไฟเบอร์มาในร่างกายมากขึ้น
00:22:45 → 00:22:47 เรื่อยๆในลำไส้ใช่มั้ยครับไฟเบอร์นี้จะ
00:22:47 → 00:22:49 เป็นส่วนที่มันไม่ได้ถูกดูดซึมแต่ส่วนนี้
00:22:49 → 00:22:51 มันจะกลายเป็นกากที่มาปนกับอุจจาระมันก็
00:22:51 → 00:22:53 จะทำให้ตัวอุจจาระนุ่มลงขับถ่ายออกมาได้
00:22:53 → 00:22:56 ดีขึ้นอันที่ 3 ก็คือวิธีการหลีกเลี่ยง
00:22:56 → 00:22:57 อันนี้ก็จะเป็นเรื่องการใช้เรื่องของ
00:22:57 → 00:23:00 พฤติกรรมนะครับลำดับถัดมาเนี่ยก็คือการ
00:23:00 → 00:23:02 ปรับพฤติกรรมเรื่องการขับถ่ายถ้าเราไม่
00:23:02 → 00:23:04 อยากที่จะท้องผูกนะหรือไม่อยากจะเป็นไส้
00:23:04 → 00:23:05 เลื่อนที่ต้องเบ่งนานๆก็อย่าให้ท้องผูก
00:23:05 → 00:23:07 แล้วจะไม่ให้ท้องผูกไม่เป็นฤิษีดวงยังไง
00:23:07 → 00:23:09 เวลาเข้าห้องน้ำนะครับอย่านั่งนานนะบางคน
00:23:10 → 00:23:11 เนี่ยไปนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ในชักโครเล่น
00:23:12 → 00:23:14 อยู่ 10 นาที 15 นาทีอันเนี้ไม่ถูกปกติ
00:23:14 → 00:23:16 แล้วเข้าห้องน้ำไม่ควรเกิน 5 นาทีถ้า
00:23:16 → 00:23:18 เสร็จธุระอะไรเรียบร้อยบางคนก็เสร็จแล้ว
00:23:18 → 00:23:20 ล่ะแต่ยังเล่นโทรศัพท์ถ่าย Facebook ดู IG
00:23:20 → 00:23:23 เล่นTิTokเพลินเลยนะฮะซึ่งพวกนี้มันก็
00:23:23 → 00:23:25 ยิ่งทำให้เกิดแรงเบ่งโดยไม่รู้ตัวมันก็จะ
00:23:25 → 00:23:27 มีแรงเบ่งที่ทำให้มีโอกาสที่จะทำให้เกิด
00:23:27 → 00:23:29 ไส้เลื่อนก็ได้ทำให้เกิดเรื่องของลิสุดวง
00:23:29 → 00:23:31 ทวารหนักก็ได้อันนี้ก็เป็นปัจจัยเสี่ยง
00:23:31 → 00:23:33 อย่างหนึ่งที่หลายๆคนเนี่ยอาจจะยังไม่รู้
00:23:33 → 00:23:36 แล้วก็มองข้ามนะครับออ๋อแรงน้มถ่วมของโลก
00:23:36 → 00:23:38 นี่มีผลมั้ยคะไม่มีหรอกครับจริงๆไม่ใช่
00:23:38 → 00:23:41 มันเป็นจากแรงเบ่งของเอโอจริงๆเอา
00:23:41 → 00:23:43 โทรศัพท์เข้าไปเล่นในห้องน้ำได้นะแต่ว่า
00:23:43 → 00:23:46 มันต้องรู้เวลาคือถ้าคอนโทรลตัวเองได้
00:23:46 → 00:23:47 สมมุติว่าเราเข้าไปเนี่ยระหว่างที่เรา
00:23:47 → 00:23:49 ถ่ายช่วงเอเล่นๆพอ 5 นาทีเสร็จปุ๊บเก็บ
00:23:49 → 00:23:51 ใส่กระเป๋าทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้วออกมา
00:23:51 → 00:23:54 โอเคอแต่ถ้าบางคนควบคุมตัวเองไม่ได้เช่น
00:23:54 → 00:23:57 โอไม่ไหวถ้าเอาไปเนี่ยเพลินแน่อันนี้ก็
00:23:57 → 00:23:59 อาจจะต้องวางโทรศัพท์ไว้ข้างนอกก่อนอะไร
00:23:59 → 00:24:01 อย่างเงี้ยครับเพราะว่าเราก็ตัดไฟในต้นลม
00:24:01 → 00:24:03 ไม่มีโทรศัพท์ทำเสร็จธุระก็ออกมาอะไร
00:24:03 → 00:24:05 อย่างเงี้ยครับอค่ะจริงๆก็ถ้าดีที่สุดก็
00:24:05 → 00:24:08 คือพยายามโฟกัสว่าขณะนี้กำลังทำอะไรอ่า
00:24:08 → 00:24:10 ใช่ครับธุระให้เสร็จแล้วก็ออกมาแล้วค่อย
00:24:10 → 00:24:13 เล่นก็ได้ถูกต้องครับถูกต้องครับที่เรา
00:24:13 → 00:24:15 คุยกันมาค่ะจริงๆแล้วมันคืออวัยวะภายใน
00:24:15 → 00:24:17 เนาะถ้าภายนอกเนี่ยเราจะมองเห็นด้วยตา
00:24:17 → 00:24:19 เปล่าแล้วว่าเอ้ยอย่างตอนนี้ผิวเราโอเค
00:24:19 → 00:24:22 มั้ยตาเราโอเคมั้ยหูเราเป็นไงคือเรามอง
00:24:22 → 00:24:24 เห็นแต่ว่าอวัยวะภายในเนี่ยค่ะเรามองไม่
00:24:24 → 00:24:26 เห็นแล้วคุณหมอมีคำแนะนำยังไงบ้างที่จะทำ
00:24:26 → 00:24:28 ให้เราเนี่ยสามารถดูแลตัวเองเพื่อให้
00:24:28 → 00:24:30 อวัยวะภายในของเราเนี่ยทำงานได้ดีอ่ะค่ะ
00:24:30 → 00:24:33 จริงๆเนี่ยการดูแลตัวเองนะครับแค่ดูแบบ
00:24:33 → 00:24:36 ภายนอกก็รู้แล้วว่าภายในอ่ะดีหรือไม่ดีนะ
00:24:36 → 00:24:38 คือคนที่มีสุขภาพที่ดีเนี่ยมันก็จะฟ้อง
00:24:38 → 00:24:41 ม้องมาด้วยลักษณะของผิวพรรณผิวพรรณก็จะดู
00:24:41 → 00:24:44 กระจ่างใสผมไม่ได้พูดว่าถึงผิวขาวผิวดำนะ
00:24:44 → 00:24:47 ผิวไม่หยาบนะครับลักษณะของตัวร่างกายนะใบ
00:24:47 → 00:24:50 หน้าก็จะดูเป็นไงอิ่มเอิบใช่มั้ครับดูดี
00:24:50 → 00:24:53 แน่นอนฮะถ้าสมมุติว่าผิวพรรณภายนอกดีขนาด
00:24:53 → 00:24:55 นี้ข้างในก็น่าจะโอเคนะนั่นคือส่วนนึงแต่
00:24:55 → 00:24:57 นี้เราจะรู้ได้ยังไงล่ะครับว่าไอ้ข้างใน
00:24:57 → 00:24:59 มันดีจริงหรือไม่ดีจริงเราเช็คง่ายๆฮะ
00:24:59 → 00:25:02 อันดับแรกเราหลับเพียงพอมั้ถ้าเรานอนหลับ
00:25:02 → 00:25:05 ได้เพียงพอตื่นออกมาเฟรชไม่ง่วงทำงาน
00:25:05 → 00:25:07 ระหว่างวันโอเคง่วงมากนิดหน่อยไม่เป็นไร
00:25:07 → 00:25:09 แต่ไม่ถึงขนาดที่จะต้องแบบหลับตลอดนะครับ
00:25:09 → 00:25:12 หลับในที่ทำงานตลอดอย่างเงี้ยอันที่ 2
00:25:12 → 00:25:14 ระบบขับถ่ายเราเป็นยังไงถ้าระบบขับถ่าย
00:25:14 → 00:25:16 เราถ่ายออกมาปกติคำว่าถ่ายปกติคือไม่ต้อง
00:25:16 → 00:25:18 ถ่ายทุกวันไม่ต้องถ่ายทุกเช้าเป็นเวลาแต่
00:25:18 → 00:25:20 ระบบขับถ่ายแล้วถ่ายปกติไม่มีท้องผูกไม่
00:25:20 → 00:25:22 ต้องเบ่งเยอะไม่ได้มีถ่ายเป็นเลือดทุก
00:25:23 → 00:25:25 อย่างดูปกติดีเนี่ยโอเคอันที่ 3 ดูเรื่อง
00:25:25 → 00:25:27 ของอาหารการกินกินไปแล้วกินแล้วเป็นยังไง
00:25:27 → 00:25:30 ไม่มีกลืนติดไม่มีกลืนลำบากอาหารกินเข้า
00:25:30 → 00:25:32 ไปไม่มีจุกแน่นท้องรู้สึกเหมือนอาหารก็
00:25:32 → 00:25:35 ย่อยปกติดีไม่มีจุกแน่นเฟ้ออะไรนั่นแปล
00:25:35 → 00:25:37 ว่าอะไรระบบหลอดอาหารโอเคครับระบบกระเพาะ
00:25:37 → 00:25:39 อาหารการบีบตัวการคลุกเค้าการย่อยอาหารดี
00:25:39 → 00:25:42 จบอันที่ 4 คือดูเรื่องของสภาพร่างกายของ
00:25:42 → 00:25:45 เราโดยรวมถ้าร่างกายเราดูดีน้ำหนักไม่ได้
00:25:45 → 00:25:47 เพิ่มขึ้นลดลงแกว่งจนผิดปกติแปลว่าระบบ
00:25:47 → 00:25:50 การดูดซึมระบบการเผาผลาญพลังงานต่างๆภาย
00:25:50 → 00:25:52 ในร่างกายโอเคนั่นก็จะเป็นตัว refent
00:25:52 → 00:25:55 หรือเป็นตัวแทนนะที่บอกได้ว่าระบบร่างกาย
00:25:55 → 00:25:57 ของเราดีไม่ดีสุดท้ายกลับมาดูอีกทีนึงดู
00:25:57 → 00:25:59 ที่จิตใจของเราบางครั้งบางทีเนี่ยฮะต่อ
00:25:59 → 00:26:02 ให้เรารู้สึกว่าเราจะดีแค่ไหนจะขับถ่าย
00:26:02 → 00:26:05 เป็นปกติดีทุกอย่างเลยนะครับแต่ถ้าสมมุติ
00:26:05 → 00:26:08 ว่าวันนึงเรารู้สึกว่าจิตใจเราไม่โอเครู้
00:26:08 → 00:26:09 สึกว่าเหมือนชีวิตนี้ไม่อยากทำอะไรเลย
00:26:09 → 00:26:12 ตื่นมาอยากนอนต่อตื่นมาไม่อยากทำอะไรไม่
00:26:12 → 00:26:14 อยากออกไปเจอผู้คนไม่อยากไปทำงานแบบนี้
00:26:14 → 00:26:17 ต่อให้ร่างกายภายนอกหรือภายในจะดีแค่ไหน
00:26:17 → 00:26:19 แต่ถ้าจิตใจไม่ดีอย่างเงี้ยก็ไม่โอเคอยู่
00:26:19 → 00:26:22 ดี 2 อย่างต้องไปคู่กันโอ้ถามเพิ่มค่ะใน
00:26:22 → 00:26:25 ฐานะของหมอผ่าตัดว่าแล้วถ้าใจดีกายจะดี
00:26:25 → 00:26:28 คือมันทำงานสัมพันธ์กันยังไงอ่ะคะผมเชื่อ
00:26:28 → 00:26:30 ว่าอย่างนี้นะคือผมมีความเชื่ออย่างนึง
00:26:30 → 00:26:33 ว่าถ้าร่างกายดีจิตใจก็จะดีจิตใจดีร่าง
00:26:33 → 00:26:36 กายก็จะดีตามมาคือ 2 อย่างเมันเหมือนสิ่ง
00:26:36 → 00:26:38 ที่มันต้องไปคู่กันอย่างใดอย่างหนึ่งดี
00:26:38 → 00:26:40 อย่างเดียวไม่ได้เพราะฉะนั้นแล้วเนี่ย
00:26:40 → 00:26:42 ร่างกายดีเป็นสิ่งที่เราคอนโทรลได้นะครับ
00:26:42 → 00:26:44 70-80% เนี่ยถ้าไม่ใช่โรคทำธุกรรมเรา
00:26:44 → 00:26:46 คอนโทรลได้เราเลือกอาหารที่จะกินได้ไม่
00:26:46 → 00:26:48 ได้มีใครเอาอาหารยัดให้เรากินไม่มีใคร
00:26:48 → 00:26:50 เลือกอาหารมาวางไว้ให้เราแล้วเราต้องกิน
00:26:50 → 00:26:53 มันเราเลือกเองเราซื้อเองเราเดินไปเซเว่น
00:26:53 → 00:26:55 เราไปซื้อของที่ไหนอะไรต่างๆเรากินเองไม่
00:26:55 → 00:26:57 มีใครป้อนเราเพราะงั้นเราเลือกเองอยู่
00:26:57 → 00:27:00 แล้วอาหารการกิน 2 อวัยวะของเราในร่างกาย
00:27:00 → 00:27:01 ใช่มั้ครับเราทำงานรู้อยู่แล้วนี่ต้อง
00:27:01 → 00:27:04 นั่งท่าอะไรนั่งท่าอะไรแล้วปวดนั่งท่า
00:27:04 → 00:27:06 อะไรแล้วเจ็บทำแบบนี้แล้วจะปวดคอทำแบบนี้
00:27:06 → 00:27:08 แล้วไม่เหมาะสมเรารู้อยู่แล้วเราปรับได้
00:27:08 → 00:27:10 อันที่ 3 คือส่วนต่างๆของร่างกายการ
00:27:10 → 00:27:12 เคลื่อนไหวการออกกำลังกายสุขภาพจะดีต่อ
00:27:12 → 00:27:14 ให้คนทุกคนบนโลกเนี้ยออกกำลังกายหมดไม่
00:27:14 → 00:27:17 ได้แปลว่าเราจะมีสุขภาพที่แข็งแรงไปด้วย
00:27:17 → 00:27:18 สุดท้ายมันต้องอยู่ที่ตัวเราคือเราต้อง
00:27:18 → 00:27:21 ลุกมาออกกำลังกายต้องมาขยับตัวต้องทำอะไร
00:27:21 → 00:27:23 สักอย่างนึงเพื่อร่างกายของเราอันนั้นคือ
00:27:23 → 00:27:25 เรื่องของสุขภาพกายทางภายนอกส่วนทางภายใน
00:27:25 → 00:27:28 อันเนี้เป็นสิ่งที่ผมมองว่ามันมีความ
00:27:28 → 00:27:30 ละเอียดอ่อนแล้วก็ abstract มากๆการจะทำ
00:27:30 → 00:27:32 ความเข้าใจกับมันเนี่ยตรงเนี้ยผมคิดว่า
00:27:32 → 00:27:34 สิ่งสำคัญคือเราจะต้องรู้ก่อนว่าสภาพจิต
00:27:34 → 00:27:36 ใจของเราเนี่ยเป็นยังไงเราไม่จำเป็นที่จะ
00:27:36 → 00:27:39 ต้องเป็นคนจิตใจร่าเริงแจ่มใส hyperactive
00:27:39 → 00:27:42 ตลอดเวลาแต่ขอเพียงแต่ว่า 1 เราต้องรู้
00:27:42 → 00:27:45 ตัวว่าตอนเนี้ยเรามีสติเราทำอะไรอยู่ทำไป
00:27:45 → 00:27:47 เพื่ออะไรมีประโยชน์มีโทษยังไงรู้เท่าทัน
00:27:47 → 00:27:49 ความคิดของตัวเองไม่เก็บเรื่องที่ไม่ดี
00:27:49 → 00:27:52 เอามาใส่ใจนะครับหลักการง่ายๆฮะอะไรที่
00:27:52 → 00:27:54 มันไม่ดีทิ้งไปเลย delete ออกได้ delete
00:27:54 → 00:27:56 ออกมันเหมือนกับระบบคอมพิวเตอร์ฮะถ้ามัน
00:27:56 → 00:27:58 มี cash ไฟล์พวกนี้มันคือจังไลเรา delete
00:27:58 → 00:28:01 ได้ delete ออกเหลือแค่โปรแกรมหลักๆไ c d
00:28:01 → 00:28:03 ที่เราใช้งานแค่นั้นพอแต่ถ้าเราทำได้เร็ว
00:28:03 → 00:28:06 delete มันบ่อยๆจิตใจเราจะสะอาดแล้วมัน
00:28:06 → 00:28:08 จะคลีนเราจะมีเวลาที่จะไปพัฒนาตัวเองเรา
00:28:08 → 00:28:10 จะมีเวลาที่จะไปทำอะไรอย่างอื่นได้อีก
00:28:10 → 00:28:13 เยอะมากมายนะครับโอเป็นคำแนะนำที่ดีมากๆ
00:28:13 → 00:28:15 เลยค่ะทั้งกายทั้งใจเนาะจริงๆควบคู่ไป
00:28:15 → 00:28:17 ด้วยกันแล้วอยากถามนิดนึงค่ะสำหรับท่าน
00:28:17 → 00:28:19 ที่ฟังอยู่แล้วรู้สึกว่าอยากเริ่มออก
00:28:19 → 00:28:22 กำลังกายแต่ว่าอาจจะร่างกายไม่ได้เอื้อ
00:28:22 → 00:28:24 อำนวยในการที่จะออกหนักๆอย่างเงี้ยคุณหมอ
00:28:24 → 00:28:26 แนะนำยังไงในการเคลื่อนไหวที่อันน่าจะ
00:28:26 → 00:28:28 เพียงพอแล้วต่อวันนะ่ะคะคือการออกกำลัง
00:28:28 → 00:28:31 กายเนี่ยไม่จำเป็นนะฮะที่จะต้องไปแบบวิ่ง
00:28:31 → 00:28:34 มาราธอนวิ่งเพส 5 เพส 4 อะไรขนาดนั้นนะ
00:28:34 → 00:28:36 ครับการออกกำลังกายเนี่ยมีหลากหลายรูปแบบ
00:28:36 → 00:28:39 แค่การอยู่เฉยๆนั่งอยู่กับเก้าอี้มีการ
00:28:39 → 00:28:41 ขยับขาขึ้นลงกระดกข้อเท้าขึ้นลงนี่ก็เป็น
00:28:41 → 00:28:44 การออกกำลังกายแล้วส่วนนึงนางอยู่เฉยๆหา
00:28:44 → 00:28:46 ขวดน้ำมาอันนึงไม่ต้องมีวัสดุอะไรเลยครับ
00:28:46 → 00:28:48 ขวดน้ำขนาด 1.5 5 ลิตรจากน้ำปั๊มน้ำอะไร
00:28:48 → 00:28:50 ก็ได้มายกเวทขึ้นนั่นคือการออกกำลังกาย
00:28:50 → 00:28:52 แล้วไม่ต้องทำอะไรเลยครับเดินออกไปที่
00:28:52 → 00:28:55 หมู่บ้านหรืออะไรก็แล้วแต่เดินไปกลับวนไป
00:28:55 → 00:28:57 วนมาคิดซะว่ามาเดินเล่นเดินไปชมนกชมไม้
00:28:57 → 00:28:59 นั่นคือการออกกำลังกายแล้วการออกกำลังกาย
00:28:59 → 00:29:01 ไม่จำเป็นที่จะต้องไปเข้ายิมทุกคนจะชอบ
00:29:01 → 00:29:03 โฟกัสว่าออกกำลังกายต้องไปสถานที่ออก
00:29:03 → 00:29:05 กำลังกายต้องไปเข้ายิมไม่ใช่ผมไม่ได้เข้า
00:29:05 → 00:29:07 ยิมเลยเหมือนกันผมก็มีที่ออกกำลังกายของ
00:29:07 → 00:29:09 ผมบางทีผมก็ไปเดินบางทีมีที่ออกกำลังกาย
00:29:09 → 00:29:11 ในหมู่บ้านก็ไปออกกำลังกายก็แค่นั้นเอง
00:29:11 → 00:29:14 ไม่จำเป็นที่จะต้องไปมีอุปกรณ์เครื่องไม้
00:29:14 → 00:29:15 เครื่องมือให้ครบถ้าเราจะรอให้ทุกอย่าง
00:29:15 → 00:29:17 มันพร้อมเราจะไม่ได้ทำสักสักทีไม่ต้องรอ
00:29:17 → 00:29:21 ให้พร้อมทำเลยถ้าอยากทำทำเลยครับอแปลว่า
00:29:21 → 00:29:23 จริงๆคีย์เวิร์ดของการออกกำลังกายเนี่ย
00:29:23 → 00:29:26 คือทำเพื่อให้ร่างกายข้างในมีการระบบไหล
00:29:26 → 00:29:28 เวียนเลือดดีอะไรอย่างี้ใช่มั้คะจริงๆมัน
00:29:28 → 00:29:31 ได้ 2 อย่างครับก็คือทั้งระบบร่างกายจาก
00:29:31 → 00:29:34 ภายนอกแล้วก็ภายในภายนอกกล้ามเนื้อแข็ง
00:29:34 → 00:29:36 แรงขึ้นกล้ามเนื้อขึ้นก็จะตามมาด้วยระบบ
00:29:36 → 00:29:39 เผาผ่านที่ดีขึ้นภายในพอร่างกายมีการออก
00:29:39 → 00:29:41 กำลังกายนะครับระบบการเผาผลาญในส่วนต่างๆ
00:29:41 → 00:29:44 ร่างกายก็จะดีขึ้นภายในทางด้านจิตใจครับ
00:29:44 → 00:29:46 เวลาเราออกกำลังกายนะครับร่างกายเนี่ยมัน
00:29:46 → 00:29:48 จะมีการหลั่งฮอร์โมนตัวนึงเราเรียกว่า
00:29:48 → 00:29:50 เอนโดฟินไอ้เอนโดฟินที่ว่าเป็นฮอร์โมนของ
00:29:50 → 00:29:52 ความสุขนะฮะเวลาเราออกกำลังกายไปช่วงแรกๆ
00:29:52 → 00:29:54 เนี่ยเราจะเหนื่อยเราจะไม่อยากออกstrส
00:29:54 → 00:29:56 เยอะเพราะฮอร์โมนคอร์ดิซอลบางทีมันหลับนะ
00:29:56 → 00:29:58 ครับแต่อาจจะออกไม่มากพอเราออกกำลังกายไป
00:29:58 → 00:29:59 สักระยะนึงนะฮะฮอร์โมนเอนโดฟินมันจะหลั่ง
00:30:00 → 00:30:02 มามากเลยมันจะเป็นภาวะเคิ้มสุขที่เราเฮ้ย
00:30:02 → 00:30:04 ออกกำลังกายมาฟินทำไมอยู่ดีออกไปเริ่มหาย
00:30:04 → 00:30:06 เหนื่อยแล้วแต่เริ่มฟินอยากออกต่อออกไป
00:30:06 → 00:30:08 ไม่มีที่สิ้นสุดไปเรื่อยๆเป็นว่าฮอร์โมน
00:30:08 → 00:30:09 เอนโดฟินมันถูกหลั่งออกมาแล้วฮอร์โนม
00:30:09 → 00:30:11 เออฟินที่หลั่งไม่ได้ทำให้เราแค่มีความ
00:30:11 → 00:30:13 สุขอย่างเดียวมันทำให้จิตใจเราเอ้ยโอเค
00:30:13 → 00:30:15 ออกเสร็จแล้วทำไมเราเฟรสเราสดชื่นเรามี
00:30:15 → 00:30:16 แรงอยากจะไปทำอะไรต่อไม่ได้จะเพลียอะไร
00:30:16 → 00:30:19 สักนิดแต่การที่ออก over exercise มาก
00:30:19 → 00:30:21 เกินไปเกิน 1 ชั่วโมงชั่วโมงครึ่งก็ไม่ดี
00:30:21 → 00:30:23 เหมือนกันเพราะว่าก็จะทำให้ฮอร์โมนของ
00:30:23 → 00:30:24 ความเครียดมันถูกหลั่งมามากขึ้นกลายเป็น
00:30:24 → 00:30:27 ว่าแทนที่จะออกมาแล้วดีกลายว่าพอออกมาก
00:30:27 → 00:30:29 เกินไปก็กลายเป็นโหลดกับตัวเองก็อาจจะแย่
00:30:29 → 00:30:31 ตามมาเพราะฉะนั้นก็ต้องกลับมาที่สมดุลให้
00:30:31 → 00:30:34 ดีครับอืค่ะเป็นคำแนะนำที่ดีมากๆเลยค่ะ
00:30:34 → 00:30:36 แล้วก็ทั้งหมดที่เราคุยกันมาในวันนี้เนาะ
00:30:36 → 00:30:38 เริ่มจากเรื่องของไส้เลื่อนแล้วก็มาที่
00:30:38 → 00:30:41 ระบบขับถ่ายอาการท้องผูกที่ว่าจริงๆอาการ
00:30:41 → 00:30:43 ท้องผูกเนี่ยก็เป็นสาเหตุนึงของไส้เลื่อน
00:30:43 → 00:30:45 และอาจจะเป็นสาเหตุนึงของฤิษีดวงด้วยอ่า
00:30:45 → 00:30:47 แล้วก็มาปรับพฤติกรรมยังไงให้อาการท้อง
00:30:47 → 00:30:50 ผูกของเราดีขึ้นแล้วก็จริงๆพออาการท้อง
00:30:50 → 00:30:52 ผูกดีขึ้นร่างกายทำงานได้ปกติขึ้นจริงๆ
00:30:52 → 00:30:54 ระบบอื่นๆในร่างกายมันก็จะดีขึ้นตามเนาะ
00:30:54 → 00:30:57 แล้วก็คำแนะนำของคุณหมอในการดูแลตัวเองใน
00:30:57 → 00:31:00 การเลือกกินอาหารในการที่จะนอนให้พอหรือ
00:31:00 → 00:31:02 ออกกำลังกายง่ายๆอย่างเงี้ยค่ะถ้าเอาไปทำ
00:31:02 → 00:31:04 ตาแพนด้าว่าไม่ใช่แค่เรื่องไส้เลื่อนไม่
00:31:04 → 00:31:06 ใช่แค่เรื่องฤิสิดวงแต่ว่าร่างกายเราน่า
00:31:06 → 00:31:09 จะทำงานได้ดีขึ้นในหลายๆอย่างเลยอืค่ะ
00:31:09 → 00:31:11 แล้วก็วันนี้ที่เราคุยกันมาเนาะก็จะมี
00:31:11 → 00:31:13 เกี่ยวกับเรื่องของการอย่าใช้แรงเบ่งเยอะ
00:31:13 → 00:31:15 อย่ายกของหนักเยอะอะไรอย่างงี้ก็ต้องรอ
00:31:15 → 00:31:17 ระวังกันนิดนึงอ่าวันนี้แพนด้ามีตัวช่วย
00:31:17 → 00:31:20 ให้คุณหมอค่ะขอบคุณนะครับเป็นกระเป๋าผ้า
00:31:20 → 00:31:23 เกาค่ะอันนี้ก็ใส่ของได้นะคะแล้วก็สะพาย
00:31:23 → 00:31:25 ได้อาจจะไม่หนักเกินไปนะคะจะได้ไม่ต้อง
00:31:25 → 00:31:27 ออกแรงเยอะใช่ไม่ต้องออกแรงเยอะค่ะถ้าใคร
00:31:28 → 00:31:30 สนใจกระเป๋าผ้าแบบนี้นะคะก็สามารถสั่ง
00:31:30 → 00:31:32 ซื้อได้ที่ใต้ description นี้เลยนะคะ
00:31:32 → 00:31:34 แล้วก็ยังมีเสื้อของเกลานะคะแล้วก็หมวก
00:31:34 → 00:31:37 เกลาด้วยนะคะฝากอุดหนุนพวกเราด้วยนะคะอัน
00:31:37 → 00:31:39 นี้ก็ให้คุณหมอเลยค่ะขอบคุณครับอย่าลืมกด
00:31:39 → 00:31:41 ไลก์กดแชร์เป็นกำลังใจให้พวกเรานะคะแล้ว
00:31:41 → 00:31:43 ก็คอมเมนต์บอกได้นะคะว่าดู EP นี้แล้วได้
00:31:43 → 00:31:45 อะไรหรือว่าอยากแชร์ประสบการณ์ของตัวเอง
00:31:45 → 00:31:47 เนี่ยก็ยินดีรับฟังมากๆเลยนะคะอยากถามคำ
00:31:47 → 00:31:49 ถามอะไรก็คอมเมนต์เอาไว้ได้นะคะเดี๋เรามา
00:31:49 → 00:31:51 เจอกันใน EP ต่อไปค่ะสำหรับใครที่อยากติด
00:31:51 → 00:31:53 ตามคุณหมอสุ่ยนะคะก็สามารถติดตามได้ที่
00:31:53 → 00:31:56 ไหนคะ Channel Sergid นะครับผมก็เจอกัน
00:31:56 → 00:31:59 ใน YouTube ครับผมก็จะผลิตคเทนวีดีโอ
00:31:59 → 00:32:01 เกี่ยวกับทางด้านสุขภาพขึ้นมาแบบนี้
00:32:01 → 00:32:03 เรื่อยๆต่อไปครับอืค่ะฝากติดตามทั้ง 2
00:32:03 → 00:32:05 ช่องทางเลยนะคะสำหรับวันนี้ก็ต้องขอ
00:32:05 → 00:32:08 ขอบคุณคุณหมอมากๆค่ะขอบคุณค่ะครับสวัสดี
00:32:08 → 00:32:10 ครับ
00:32:10 → 00:32:29 [เพลง]