00:00:45 → 00:00:47 พิธีกร: ซ่อนก่อน ซ่อนๆ
00:00:47 → 00:00:50 คุณแนนเอาแขนเสื้อลงทำไม เอาขึ้นสวยกว่า
00:00:50 → 00:00:54 พิธีกร: คุณหมอขา ตอนนี้คือดำปิ๊ดปี๊ ช่วงนี้วิ่งทุกวันเลย
00:00:54 → 00:00:57 พิธีกร: รู้สึกไม่กล้าโชว์ผิวเลย อยากขาวๆ สวยๆ เหมือนเด็กวัยรุ่นบ้าง
00:00:57 → 00:01:00 ทำได้ ดูแลได้ ขาวได้
00:01:00 → 00:01:03 พิธีกร: นี่แหละ งั้นวันนี้ต้องดูรายการเราเลย
00:01:03 → 00:01:05 พิธีกร: งั้นรีบทักทายคุณผู้ชมกันก่อนดีกว่า
00:01:05 → 00:01:07 สวัสดีค่ะ
00:01:07 → 00:01:10 พิธีกร: ขอต้อนรับคุณผู้ชมเข้าสู่รายการ คุยกับหมออัจจิมานะคะ
00:01:10 → 00:01:13 พิธีกร: อย่างที่คุณหมอบอกเรา ว่าเราจะคุยกันถึงเรื่องของความขาว
00:01:14 → 00:01:20 พิธีกร: ถ้าเอาจริงๆ ผิวขาว ใส เนียน เรียบ สวย คือผิวในอุดมคติของทุกคน ทุกเพศ ทุกวัยนะคะคุณหมอ
00:01:20 → 00:01:25 ถูก และสังคมไทยนะคุณแนน ผิวขาวคือไฮโซ
00:01:25 → 00:01:32 พิธีกร: เพราะฉะนั้นใครอยากผิวขาว อยากรู้วิธีทำ ว่าจะต้องทำยังไงดี ติดตามรายการเรานะคะ
00:01:37 → 00:01:43 พิธีกร: มาค่ะ ได้เวลาแล้ว สำหรับใครที่อยากจะขาวต้องติดตามหมอชวนคุณสัปดาห์นี้นะคะ
00:01:43 → 00:01:48 พิธีกร: คุณหมอบอกว่าวันนี้จะมาตอบคำถาม ที่หลายๆ คนชอบมาปรึกษาหมอ Skin นะ
00:01:48 → 00:01:53 พิธีกร: หมอคะ อยากขาว อยากใส ทำยังไงดี
00:01:53 → 00:01:57 พิธีกร: คือพูดถึงเรื่องความขาว มันก็ต้องคุยลึกกันนึดนึง
00:01:57 → 00:02:02 พิธีกร: ว่า เอ้ะ อะไรที่ทำให้มนุษย์สีผิวยังแตกต่างนะคะคุณหมอ
00:02:02 → 00:02:09 จริงๆ แล้ว ต้องบอกว่าตัวกำหนดเม็ดสีของคนเนี่ยจริงๆ แล้ว มันประกอบไปด้วยหลายอย่าง
00:02:09 → 00:02:11 อันที่เราต้องรู้ คือ 1.มันมีเม็ดสี คือ พิกเม้นท์
00:02:11 → 00:02:15 ตัวสร้างเม็ดสีเอง กระบวนการการสร้างเม็ดสีของเขา
00:02:15 → 00:02:19 จะมีเม็ดสีแบบที่เป็นสีแดง-เหลือง กับ เม็ดสีแบบที่เป็นสีน้ำตาล-ดำ
00:02:20 → 00:02:23 คราวนี้ ในแต่ละคนเลยนะ ในละเชื้อชาติ
00:02:23 → 00:02:28 มันก็จะมีสัดส่วนของปริมาณเม็ดสีที่มีความต่างกัน ที่ไม่เท่ากัน
00:02:28 → 00:02:32 อย่างคนผิวสีเนี่ย เขาก็จะมีเม็ดสีน้ำตาล สีดำมากกว่า
00:02:32 → 00:02:35 ในกลุ่มที่เป็นคนผิวขาว
00:02:35 → 00:02:39 หรือบางทีตัวสร้างเนี่ย มันใหญ่กว่าอย่างงี้เป็นต้น
00:02:39 → 00:02:42 มันก็เลยทำให้ มันมีสีที่ต่างๆ กัน
00:02:42 → 00:02:45 นอกจากเม็ดสีที่มันมากจากเมลานินแล้วเนี่ยคุณแนน
00:02:45 → 00:02:50 มันก็ยังมีสีที่มากจากตัวฮีโมโกลบินที่อยู่ในเม็ดเลือดแดง
00:02:50 → 00:02:53 แล้วมันก็ยังมีสีบิลิรูบินอีก
00:02:53 → 00:02:58 มันก็เลยทำให้แบบว่า มันมีทั้งสีดำ แดงเหลือง
00:02:58 → 00:03:04 มันก็เลยทำให้ในแต่ละเชื้อชาติ สัดส่วนความแตกต่างของเม็ดสีที่มันเห็นอยู่เนี่ย
00:03:04 → 00:03:06 มันก็เป็นตัวกำหนดสีผิวของคน
00:03:07 → 00:03:11 ตัวเม็ดสีที่หมอพูดเมื่อกี้เนี่ย ที่เป็นตัวสร้างเม็ดสีเนี่ย
00:03:11 → 00:03:15 ถ้าตัดผิวหนังมาดูเฉพาะตัวเม็ดสีเนี่ย มันจะถูกปล่อยออกมา
00:03:15 → 00:03:18 กระจายอยู่ในชั้นผิวหนัง แบบเรียงกันสม่ำเสมอ
00:03:19 → 00:03:24 คราวนี้เวลาที่ถูกแสงแดด มันก็จะมีการกระตุ้นที่ทำให้มีการสร้างเยอะขึ้น
00:03:24 → 00:03:27 แล้วก็มีการส่งพวกเม็ดสีข้างใน
00:03:28 → 00:03:30 ไปตามเซลล์ในผิวหนังต่างๆ
00:03:30 → 00:03:34 ก็เลยทำให้เราเห็นว่าเป็นสีเข้ม เป็นฝ้า เป็นกระ
00:03:35 → 00:03:37 หรือเวลาเราถูกกระตุ้นจากฮอร์โมน
00:03:37 → 00:03:43 ซึ่งจริงๆ แล้ว ฮอร์โมนที่กระตุ้น สามารถกระตุ้นที่ทำให้เกิดการสร้างเม็ดสีมากเกินไป นี่มีหลายตัว
00:03:44 → 00:03:46 ฮอร์โมนความเครียดก็เป็นอีกตัวหนึ่ง
00:03:46 → 00:03:49 ซึ่งจริงๆ ต้องบอกว่าเม็ดสีเนี่ย มันเป็นเรื่องดี
00:03:49 → 00:03:54 สีเข้ม มันจะเป็นตัวหนึ่งที่ทำหน้าที่ปกป้องแสงแดดให้กับเรา
00:03:54 → 00:03:58 นั้นคือสาเหตุที่ทำให้คนเอเชีย หรือคนที่มีสี
00:03:58 → 00:04:05 เวลาโดนแสงแดดเนี่ย จะมีปัญหาเรื่องของฝ้า จุด กระ ด่าง ดำ มากกว่าคนผิวขาว
00:04:06 → 00:04:09 คนผิวขาวเขามีน้อยกว่า เพราะนั้นเขาโดนแดดปุ๊บ เขาเหี่ยว
00:04:10 → 00:04:14 เพราะนั้น Aging ในคนมีสีผิว กับ Aging ในคนขาวก็ต่างกัน
00:04:14 → 00:04:20 เพราะงั้นคนขาวมาด้วยริ้วรอย แต่คนผิวสีหรือคนเอเชียมาด้วยรอยดำ
00:04:20 → 00:04:22 งั้นถามว่าจะทำไงให้ขาว
00:04:22 → 00:04:24 ถ้าเป็นพวกของการทานะคะคุณแนน
00:04:24 → 00:04:29 มันก็จะมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของสารที่ทำให้ผิวมันขาวขึ้น
00:04:29 → 00:04:32 ซึ่งจริงๆ ต้องบอกว่ามันถูกแบ่งออกเป็น 2 แบบ
00:04:32 → 00:04:34 คือ 1.แบบที่เป็นฟอกสี
00:04:34 → 00:04:37 กับแบบที่เป็นไวท์เทนนิ่ง
00:04:38 → 00:04:40 ฟอกสีเราจะเรียกว่า "บลีช"
00:04:40 → 00:04:42 กับอีกแบบหนึ่งคือไวท์เทนนิ่ง
00:04:42 → 00:04:45 ก็คือค่อยๆ ขาวขึ้น
00:04:45 → 00:04:46 พิธีกร: คือค่อยๆ ขาว
00:04:46 → 00:04:52 กับอีกกลุ่มหนึ่งคือ สารที่เอามาทาแล้วปกป้องผิว ทำให้ดูเหมือนขาว
00:04:52 → 00:04:54 ส่วนที่ผลัดเซลล์ผิวนั้นคืออีกกลุ่มหนึ่ง
00:04:54 → 00:04:58 ก็คือเป็นกลุ่มที่ผลัดเซลล์ และก็ทำให้ดูเหมือนใสขึ้น
00:04:58 → 00:05:00 มีตั้ง 4 กลุ่ม คุณแนน
00:05:00 → 00:05:05 งั้นเราก็มาดูว่าใน 4 กลุ่ม ถ้าเกิดเราต้องการจะทำให้ขาว เราใช้แบบไหน
00:05:05 → 00:05:09 ถ้าสมมุติว่าเราเป็นฝ้า มันต้องใช้ยาที่เป็นพวก "บลีช"
00:05:09 → 00:05:15 ยาที่ใช้ก็เป็นกลุ่มพวก ไฮโดรควิโนน,โมโนเบนโซน,ปรอท
00:05:15 → 00:05:20 บางประเทศยังอนุญาตให้ใช้สารไฮโดรควิโนน อย่างเช่น ประเทศไทย
00:05:20 → 00:05:26 สามารถให้ใช้สารไฮโดรควิโนนในปริมาณต่ำๆ และต้องอยู่ภายใต้ความดูแลของแพทย์เท่านั้น
00:05:27 → 00:05:32 เพราะว่าไฮโดรควิโนนตัวนี้ มันเป็นตัวที่ลดการสร้างเม็ดสีก็จริง
00:05:32 → 00:05:34 แต่มันสามารถจะทำให้เกิดระคายเคือง
00:05:34 → 00:05:41 งั้นถ้าเราต้องใช้ไฮโดรควิโนนเป็นระยะเวลานานๆ มันเกิดการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเหยื่อภายในผิวหนัง
00:05:41 → 00:05:45 และก็ตัวไฮโดรควิโนนในเครื่องสำอาง ไม่มี
00:05:46 → 00:05:48 ไม่อนุญาติให้มีการใช้
00:05:49 → 00:05:52 นอกจากกลุ่มไฮโนควิโนนแล้วเนี่ย อีกอันหนึ่งก็คือ โมโนเบนโซน
00:05:52 → 00:05:54 ก็คือในกลุ่มยังคล้ายๆ กัน
00:05:54 → 00:05:58 คือกลุ่มพวกนี้มีคุณสมบัติในการทำลายเซลล์ในการสร้างเม็ดสี
00:05:58 → 00:06:01 ทำให้เกิดลักษณะที่ขาวเป็นหย่อมๆ
00:06:02 → 00:06:05 ก็เลยทำให้โมโนเบนโซนจริงๆ แล้ว ก็ไม่ใช่กันเนอะ
00:06:05 → 00:06:07 ตัวที่เคยนิยมใช้มากๆ คือ สารปรอท
00:06:09 → 00:06:10 คุณแนนสมัยก่อนนะ
00:06:10 → 00:06:13 ครีมรักษาฝ้า คือใส่สารปรอทเลย
00:06:14 → 00:06:18 ใช้แป๊ปเดียวหน้าข้าวใส ใช้นานๆ มันดูด ซึมเข้าสู่กระแสเลือดคุณแนน
00:06:18 → 00:06:23 และถ้าใช้เป็นบริเวณกว้างๆ พวงนี้มันทำให้ ตับ ไต วายได้
00:06:24 → 00:06:29 เกิดภาวะโลหิตจางได้ และก็ทำให้เกิดทางเดินปัสสาวะอักเสบได้
00:06:29 → 00:06:33 มันเป็นสารต้องห้าม ปัจจุบันคือห้ามใช้ไปเรียบร้อยแล้ว
00:06:33 → 00:06:36 นอกจากนี่แล้ว กลุ่มที่ 2.ไวท์เทนนิ่ง
00:06:36 → 00:06:39 คือต้องใช้ไประวะเวลาหนึ่ง ถึงจะทำให้ขาว
00:06:39 → 00:06:41 อันนี้สามารถจะใส่อยู่ในเครื่องสำอางได้
00:06:42 → 00:06:45 ก็จะมีตัว "อาร์บูติน" กับตัว "กรดโคจิก"
00:06:45 → 00:06:51 ตัวที่ใช้บ่อยๆ ก็จะมีอยู่แค่นี้เลย อาร์บูติน,โคจิก และก็วิตามินซี
00:06:52 → 00:06:55 กลุ่มต่อไปเป็นกลุ่มปกปิด คลุมผิว
00:06:55 → 00:06:58 พวกนี้คือเป็นสารที่มีคุณสมบัติทึบแสง
00:06:59 → 00:07:01 ใช้แล้วก็จะขาว
00:07:01 → 00:07:06 กับอีกกลุ่มหนึ่งที่ใช้มายาวนานมากๆ คือกลุ่มผลัดเซลล์ผิว
00:07:06 → 00:07:07 ไม่มีใครไม่รู้จัก AHA เนอะ
00:07:07 → 00:07:10 AHA ก็เป็นกรดผลไม้ที่มาจาก แอปเปิ้ล
00:07:10 → 00:07:12 กรดซิตริกในมะนาว
00:07:12 → 00:07:14 หรือทาร์ทาริก ที่อยู่ในองุ่น
00:07:15 → 00:07:17 หรือกรดโคลิก ที่อยู่ในอ้อย
00:07:17 → 00:07:22 ซึ่งจริงๆ แล้วในกลุ่มของ AHA ทั้งหมด มันจะทำให้ตัวเซลล์ที่อยู่ในเซลล์ผิวหนังเนี่ย
00:07:22 → 00:07:25 มันเหมือนกับ มีช่วงระหว่างเซลล์ที่มันหลวมขึ้น
00:07:25 → 00:07:29 เพราะฉะนั้นจะทำให้เซลล์หลุดออกได้ง่ายขึ้น ทำให้หน้ากระจ่างใสขึ้น
00:07:29 → 00:07:33 และก็มีการกระตุ้นการสร้าง คอลลาเจนใหม่ขึ้นมา
00:07:33 → 00:07:36 แต่ว่าเขาก็พบว่ากลุ่ม ที่เป็นกลุ่มผลัดเซลล์เนี่ย
00:07:36 → 00:07:41 ถ้าใช้ถี่เกินไป ใช้ไม่ถูกวิธี หรือไปใช้บนผิวที่มีการอักเสบอยู่
00:07:41 → 00:07:45 เขาก็พบว่ามันสามารถจะทำให้ผิวหนังเนี่ยอ่อนแอลง
00:07:46 → 00:07:48 และก็ไวต่อแสง
00:07:48 → 00:07:53 พิธีกร: ที่คุณหมอพูดมาเนี่ย ถ้าเราใช้โดยแพทย์ผู้เชียวชาญ
00:07:53 → 00:07:54 พิธีกร: มันก็จะเกิดประสิทธิภาพ
00:07:54 → 00:08:00 พิธีกร: แต่ถ้าเกิดเราใช้เองมันอาจจะผิดวิธี และแทนที่จะได้ผลรับที่ดี กลับกลายเป็นผลเสียตามมาก็ได้
00:08:01 → 00:08:05 พิธีกร: เพราะฉะนั้นเรารู้แล้วว่าเรามีสีผิวที่แตกต่างกันเนี่ย เกิดจากอะไร
00:08:05 → 00:08:08 พิธีกร: และก็มีผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่มาช่วยให้ผิวเราขาวขึ้นได้
00:08:08 → 00:08:10 พิธีกร: และวิธีการหล่ะคะ มันจะเป็นยังไง
00:08:10 → 00:08:13 พิธีกร: เดี๋ยวช่วงหน้า กลับมาคุยกันต่อ ตอนนี้พักสักครู่ค่ะ
00:08:22 → 00:08:25 พิธีกร: กลับมาติดตามรายการกันต่อ ช่วงสุดท้ายของเรานะคะ
00:08:25 → 00:08:30 พิธีกร: สนับสนุนโดย Ortisine ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ดูแลรูปร่าง
00:08:30 → 00:08:33 พิธีกร: ถ้าเกิดใครที่อยากจะดูแลรูปร่าง
00:08:33 → 00:08:35 พิธีกร: บางทีเราทำหลายวิธีนะคะคุณหมอ
00:08:35 → 00:08:36 พิธีกร: ออกกำลังกายก็แล้ว อะไรก็แล้ว
00:08:36 → 00:08:41 พิธีกร: บางทีมันก็ไม่ได้ผล ก็อาจจะต้องปรึกษาแพทย์หรือให้ Ortisine ช่วยดูแล
00:08:41 → 00:08:43 พิธีกร: เป็นอีกตัวช่วยหนึ่ง
00:08:43 → 00:08:48 พิธีกร: แต่อันนี้ต้องพึ่งคุณหมอแล้วแหละค่ะ ถ้าคุณผู้ชม อยากผิวขาว เขาต้องทำยังไงบ้างคะ
00:08:49 → 00:08:54 คือจริงๆ ตอนแรกเราพูดไปและว่าเราสามารถที่จะใช้สารพวกนั้นในการทา
00:08:54 → 00:08:56 วิธีที่ 2 ก็คือ การลอกผิว
00:08:57 → 00:08:59 คือ Baby Face สมัยก่อน
00:08:59 → 00:09:03 จริงๆ เราต้องบอกว่าตัว Baby Face หรือ เคมิคอลพีลิ่ง
00:09:03 → 00:09:05 มันเป็นการรักษาที่มีประโยชน์มากนะคะ
00:09:06 → 00:09:12 เพราะงั้นกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ และก็สามารถจะใช้ในการรักษาโรคได้หลายๆ โรค
00:09:12 → 00:09:14 มันขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของสารที่เอามาใช้
00:09:14 → 00:09:21 ตัวที่เอามาใช้รักษาโรค ก็จะมีเปอร์เซ็นที่ค่อนข้างสูงนิดนึง คือลอกสิ่งที่มันเป็นโรคออกไป
00:09:21 → 00:09:24 แต่ว่าถ้าทำให้ผิวขาวเนี่ย เราก็จะลอกตื้นๆ
00:09:24 → 00:09:28 ซึ่งจริงๆ แล้วในการลอกผิวพวกนี้ก็จะมีส่วนประกอบของสารอยู่หลายอย่าง
00:09:33 → 00:09:35 จริงๆ แล้ว หลายตัวมากๆ แต่หลักการเหมือนกัน
00:09:35 → 00:09:39 ก็คือ ทาไปที่ผิวในปริมาณสูงจนกระทั่งเกิดปฏิกิริยา
00:09:39 → 00:09:41 ถึงจุดที่เป็นจุด N Point
00:09:41 → 00:09:44 แล้วเราก็นิวทริไรซ์ ก็คือเอาน้ำยาออก
00:09:44 → 00:09:46 และก็ทายาเสร็จ คนไข้กลับบ้าน
00:09:46 → 00:09:52 ซึ่งจริงๆ แล้วเนี่ยอันนี้ก็คือมันก็มีข้อดี ก็คือมันทำให้มีการผลัดเซลล์ผิว แล้วผิวขาวขึ้น
00:09:52 → 00:09:57 แต่ว่ามันก็ต้องมีการดูแล เพราะมันอาจจะทำให้ผิวระคายเคือง เพราะเราไปลอก
00:09:57 → 00:09:59 อันนี้เป็นปัญหาของ Baby Face
00:09:59 → 00:10:03 ในสมัยก่อนว่าทำไม เราทำหน้าเด็กแล้ว
00:10:03 → 00:10:06 คนไข้พวกนี้ เกือบจะทุกคนเลยคุณแนน
00:10:06 → 00:10:12 มีปัญหาของผิว หลังจากที่ทำการรักษาไปแล้ว และก็กลายเป็นปัญหาถาวร
00:10:13 → 00:10:18 เพราะว่า 1.ตัวสารที่ใช้ส่วนใหญ่แล้ว สารพวกนี้เอามาจากต่างประเทศ
00:10:18 → 00:10:24 ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่ใช่แบบ ประเทศที่เขามีมาตรฐาน ไม่มีความรู้มากพอ แล้วทำแล้วก็เกิดปัญหา
00:10:24 → 00:10:26 ทำแล้วมีการติดเชื้อมั้ง แผลเป็นมั้ง
00:10:26 → 00:10:31 กัดหน้า จนกระทั่งมันเกิดฝ้าถาวร เกิดเป็นผิวกระดำ กระด่าง
00:10:31 → 00:10:34 บางทีก็สามารถจะกระตุ้นให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้
00:10:34 → 00:10:36 ซึ่งจริงๆ อันนี้มันเป็นปัญหาที่มันเกิดขึ้นแล้ว
00:10:36 → 00:10:42 แต่ว่าตอนนี้บ้านเราเนี่ย วิธีที่มันไม่ถูกต้อง มันเริ่มหายไปและ
00:10:42 → 00:10:45 เพราะว่าคนก็เริ่มรู้ใช้แล้วมันมีผลข้างเคียง
00:10:46 → 00:10:52 ส่วนคนที่เกิดแล้วก็ต้องมารักษาไป ส่วนใหญ่มันก็ไม่ได้กลับมาร้อยเปอร์เซ็น
00:10:52 → 00:11:01 อีกอันหนึ่งที่มีการใช้ในบ้านเรา จะมีทั้งการรับประทาน การฉีดที่ผิวโดยตรง กับการให้ทางน้ำเกลือ
00:11:03 → 00:11:07 ต้องบอกว่าการรับประทานก็มีทั้งกลุ่มที่มีอาหารเสริม
00:11:07 → 00:11:09 และกลุ่มที่เป็นยา
00:11:09 → 00:11:12 แต่ว่าแพทย์ก็จ่ายให้ในระยะเวลาสั้นๆ
00:11:13 → 00:11:15 มันปลอดภัยในระยะเวลาสั้นๆ
00:11:15 → 00:11:19 ตัวมันมีคุณสมบัติในการลดเม็ดสีได้
00:11:19 → 00:11:21 แต่หยุดเมื่อไหร่ เม็ดสีก็จะกลับมา
00:11:21 → 00:11:26 ในขณะเดียวกันเอาสารอันนี้มาใช้ในการฉีดที่ผิว
00:11:26 → 00:11:35 คู่กับกลุ่มวิตามินซี,วิตามินอี หรือมีการใช้สารในกลุ่มพวกกลูต้าไธโอนนะคะ
00:11:35 → 00:11:40 ถ้าเรามาย้อนดูในเรื่องของการฉีดผิวให้ขาว ต้องบอกว่าในกลุ่มที่เป็นพวกสมุนไพร
00:11:40 → 00:11:44 หรือพวกวิตามิน พวกนี้จริงๆ แล้วฉีดไปที่ผิวก็ดี
00:11:44 → 00:11:50 คือมันไดเร็คลงไป ใช้ในการต้านสารอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวทนแดดมากขึ้น
00:11:50 → 00:11:53 ทำให้มีการรีแพร์ มีการซ่อมแซมผิวได้ดี
00:11:53 → 00:11:55 นอกจากนี้มันก็มีการกิน
00:11:56 → 00:11:59 ตัวที่กินที่ช่วยทำให้ผิวขาวก็จะคล้ายๆ กันนะคะ
00:11:59 → 00:12:02 ก็คือกลูต้าไธโอน วิตามินซี วิตามินอี
00:12:02 → 00:12:04 แต่ต้องบอกอย่างหนึ่งว่า โอเคถ้าเป็นวิตามินเนี่ย
00:12:04 → 00:12:12 วิตามินซีเอง ถ้าจะทานก็ต้องมั่นใจว่าวิตามินซีซองที่เราเลือก มันสามารถดูดซึมได้ เอาไปใช้ได้
00:12:12 → 00:12:19 อันที่มีการใช้มาก ในกลุ่มคนเอเชียเนี่ย การฉีดผิวขาวเป็นอะไรที่รับความนิยมมาก
00:12:19 → 00:12:23 ไม่ใช่แต่บ้านเราคุณแนน แทบจะทุกประเทศในเอเชีย รวมถึงประเทศอินเดีย
00:12:23 → 00:12:27 และก็ตัวที่มีการใช้มากเนี่ย
00:12:27 → 00:12:29 คือกลูต้าไธโอน
00:12:29 → 00:12:31 กลูต้าไธโอน,วิตามินซี
00:12:31 → 00:12:36 คือต้องบอกว่ากลูต้าไธโอน ทำไมถึงนิยมฉีด ทำไมถึงไม่นิยมกิน
00:12:36 → 00:12:42 เพราะมันดูดซึมน้อยจากการกิน เพราะฉะนั้นโดยส่วนใหญ่เขาจะใช้วิธีการฉีด
00:12:42 → 00:12:44 จริงๆ ต้องรู้จักก่อนว่ากลูต้าไธโอนนั้นคืออะไร
00:12:44 → 00:12:46 กลูต้าไธโอนมันก็คือ อะมิโนแอซิด
00:12:46 → 00:12:48 อะมิโนแอซิด มันก็คือโปรตีน
00:12:48 → 00:12:53 จริงๆ แล้ว ร่างกายสร้างกลูต้าไธโอนได้ แล้วมันก็ใช้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
00:12:53 → 00:12:57 คราวนี้ตัวของมันเนี่ย จริงๆ แล้วมันถูกใช้ในการรักษาโรค
00:12:57 → 00:13:03 และก็พบว่าในกลุ่มคนไข้ที่ใช้ในการรักษาโรค คนไข้ขาวขึ้น
00:13:04 → 00:13:09 ซึ่งมันเป็นผลข้างเคียงอันหนึ่ง ในการที่ไปยับยั้งกระบวนการการสร้างเม็ดสีของผิวหนัง
00:13:09 → 00:13:13 เขาก็เลยเอามาทำให้ผิวมันขาวขึ้น
00:13:14 → 00:13:18 นอกจากมันจะเป็นสารอนุมูลอิสระที่ร่างกายสามารถสร้างได้เองแล้วเนี่ย
00:13:18 → 00:13:20 ยังมีตัวที่ร่างกายใช้มากที่สุดด้วย
00:13:20 → 00:13:26 และมันช่วยในการซ่อมแซมร่างกาย ช่วงในการลดการอักเสบของร่างกาย
00:13:26 → 00:13:29 จริงๆ แล้ว ต้องบอกว่าประโยชน์ของมันเยอะมากๆ
00:13:29 → 00:13:32 การใช้ของมันมาใช้ที่ทำให้ขาว
00:13:32 → 00:13:39 มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ถ้าจะใช้ไปในระยะเวลานานๆ มันต้องมีการดูแล
00:13:39 → 00:13:41 อย่าไปทำเอง ใช้โดยแพทย์
00:13:41 → 00:13:44 การฉีดเนี่ยคุณแนน มันมีผลข้างเคียง
00:13:44 → 00:13:50 เราไม่พูดถึงสารที่ใช้ มันมีผลข้างเคียงจากวิธีที่ใช้การดำเนินยาเข้าไป
00:13:50 → 00:13:54 เร็วเกินไป ไม่สะอาด นำเชื้อโรคเข้าไป
00:13:54 → 00:13:56 นำอากาศเข้าไป
00:13:56 → 00:14:02 ทั้งหมดเนี่ยมันสามารถกระทบต่อสุขภาพของคนไข้ จนถึงขั้นเสียชีวิตก็ได้
00:14:02 → 00:14:08 เพราะฉะนั้นไม่ควรทำเอง ไม่ควรทำโดยคนที่ไม่ใช่บุคคลากรทางการแพทย์
00:14:08 → 00:14:12 มันก็จะได้ได้ประโยชน์อย่างถูกต้องและปลอดภัย
00:14:13 → 00:14:17 พิธีกร: วันนี้นี่ครบเครื่องมาก สารพัดวิธีในการที่จะทำให้คุณนั้นขาว
00:14:17 → 00:14:26 พิธีกร: ถ้าอยากจะขาว สวย ใส แบบปลอดภัยแล้วหล่ะก็ แนะนำว่าให้อยู่ในการดูแลของแพทย์ผู้เชียวชาญเท่านั้นนะคะ
00:14:26 → 00:14:29 พิธีกร: สัปดาห์หน้าอย่าลืมกลับมาดูรายการเรากันต่อ คุณหมอจะชวนคุยเรื่องไหน
00:14:29 → 00:14:33 พิธีกร: กลับมาติดตามได้ที่นี่ เวลาเดิม แต่วันนี้หมดเวลาแล้ว คุณหมอและแนนลาไปก่อน
00:14:33 → 00:14:35 สวัสดีค่ะ