00:00:00 → 00:00:00 [เพลง]
00:00:00 → 00:00:02 ยังมีสติมหรือตราบาปทางด้านสุขภาพจิตค่อน
00:00:02 → 00:00:06 ข้างเยอะซูไซมันสูงแต่ทำไมถึงมันไม่ได้มี
00:00:06 → 00:00:08 การพูดถึงวิธีการแก้อย่างยั่งยืนคือ
00:00:08 → 00:00:10 ประเทศไทยจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับการฆ่า
00:00:10 → 00:00:13 ตัวตายเป็นเหมือนค่อนข้างจะเป็น
00:00:13 → 00:00:17 ดราม่าเราก็ลองไปเอา Data มาดูซิ Data
00:00:17 → 00:00:19 เกี่ยวกับซู sz อะไรเนี่ยมันเป็นยังไง
00:00:19 → 00:00:21 แล้วเราก็เห็นว่าเฮ้ย Data ที่มันเก็บมา
00:00:21 → 00:00:25 เนี่ยซู sz มันสูงแต่ทำไมถึงมันไม่ได้มี
00:00:25 → 00:00:27 การพูดถึงวิธีการแก้อย่างยั่งยืนแล้วะ
00:00:27 → 00:00:30 เวลาดูเรื่องของ Data ผมก็ไปศึกษาต่อว่า
00:00:30 → 00:00:33 ปัญหาสุขภาพจิตมันดูแค่ชายกับหญิงไม่ได้
00:00:33 → 00:00:34 ปัญหาสุขภาพจิตมันเป็นอะไรที่มัน
00:00:34 → 00:00:37 individual มากๆแล้วก็มันเลยต้องต้องทำ
00:00:37 → 00:00:40 ความเข้าใจเรื่องของ lgbt qi ด้วยแล้ว
00:00:40 → 00:00:42 ว่า Data ที่เรามีถึงแม้เราจะบอกว่าเป็น
00:00:42 → 00:00:44 ชายกับหญิงอ่ะมันไม่ครอบคลุมปัญหาที่แท้
00:00:44 → 00:00:48 จริงของคนที่มีปัญหาจริงๆแล้วเราก็เลยคิด
00:00:48 → 00:00:52 ว่างั้นเราจะทำยังไงให้ว่าเราจะต้องเก็บ
00:00:52 → 00:00:54 ข้อมูลให้ได้ด้วยแล้วอย่างน้อยสร้างให้
00:00:54 → 00:00:56 ว่าเวลาใครโทรไปที่ ide Hotline เนี่ย
00:00:56 → 00:00:59 มันจะต้องมีการรับสายเกิดขึ้นผมก็เลยโชค
00:00:59 → 00:01:02 ดีที่ว่ามีเป็นเหมือนเพื่อนที่เป็น
00:01:02 → 00:01:04 จิตแพทย์อยู่ที่แซมเบียคือผมเป็นหนึ่งใน
00:01:04 → 00:01:06 กลุ่มของ Global shapers community อ่ะ
00:01:06 → 00:01:09 ครับอืแล้วอยู่ใต้ World commic forum
00:01:09 → 00:01:11 แล้วก็ผมก็เลยต้องการผลักดันเรื่องของการ
00:01:11 → 00:01:14 แก้ไขปัญหาสุขภาพจิตแล้วเลยไปเจอเยาวชน
00:01:14 → 00:01:16 อีกค่อนข้างเยอะทั่วโลกที่เขาทำประเด็น
00:01:16 → 00:01:19 เรื่องนี้อยู่แล้วเลยได้ไปคุยกับทั้ง
00:01:19 → 00:01:22 เพื่อนจากโคแล้วก็เพื่อนที่เป็นจิตแพทย์
00:01:22 → 00:01:24 อยู่ที่แซมเบียแล้วเขาบอกว่าจริงๆแล้วมัน
00:01:24 → 00:01:26 มีเป็นเหมือนพิรามิดของ health care
00:01:26 → 00:01:29 อยู่อ่ะของมันเป็นเหมือนสามเหลี่ยมที่เรา
00:01:29 → 00:01:31 จะต้องดูที่เป็นสต็ปเลยว่าการแก้ไขปัญหา
00:01:31 → 00:01:33 สุขภาพจิตให้ยั่งยืนเนี้ยที่องค์กรอนามัย
00:01:33 → 00:01:36 โลกเตั้งไว้เนี่ยมันมีสต็ปอะไรบ้างเก็
00:01:36 → 00:01:38 เล่าให้ฟังว่าหลายๆครั้งเนี่ยคนคิดว่าการ
00:01:38 → 00:01:40 แก้ไขปัญหาสุขภาพจิตคือต้องวิ่งหา
00:01:40 → 00:01:42 จิตแพทย์อย่างเดียวแต่จริงๆแล้วว่าอัน
00:01:42 → 00:01:45 นั้นมันไม่ได้เป็นความที่คิดที่ถูกต้อง
00:01:46 → 00:01:48 เราอาจจะต้องดูตั้งแต่ community care
00:01:48 → 00:01:50 PE support Foundation Level จริงๆ
00:01:50 → 00:01:53 เลยเพราะบางคนอาจจะไม่ได้มี disorder มี
00:01:53 → 00:01:55 แค่ความเครียดฉับันนี้ต้องการความช่วย
00:01:55 → 00:01:57 เหลือแบบเป็นการให้คนมานั่งฟังหรืออะไร
00:01:57 → 00:01:59 ถ้าไม่ได้ก็ค่อยไปหาคาเซอร์ถ้าไม่ได้ก็ไป
00:01:59 → 00:02:01 หา clinical psychologist ถ้าไม่ได้ก็ไป
00:02:01 → 00:02:04 หาเป็นไซคิจิตแพทย์ถ้าไม่ได้ก็คือไปเป็น
00:02:04 → 00:02:07 คนไข้ในโรงพยาบาลเพื่อรับเข้าสู่ขบวนการ
00:02:07 → 00:02:09 รักษาที่ที่มันอาจจะแน่นมากขึ้นนะครับ
00:02:09 → 00:02:14 แสดงว่าคุณอมรกำลังจะบอกว่ามันมี Gap ก็
00:02:14 → 00:02:18 เพราะว่าขั้นบันไดมันไม่ได้ถูกกำหนดใช่
00:02:18 → 00:02:22 เป็นชัดเจนให้กับสังคมหรืออาจจะมีกำหนด
00:02:22 → 00:02:25 แต่ไม่เพียงพอขั้นบันไดไม่ได้มีการกำหนด
00:02:25 → 00:02:27 เพราะว่าเรายังไม่มีเรื่องของ mental
00:02:27 → 00:02:30 Health literacy ที่เพียงพอในประเทศสุข
00:02:30 → 00:02:33 เอ่อศึกษาทางทางด้านสุขภาพจิตทางด้าน
00:02:33 → 00:02:37 อารมณ์ 2 ก็คือเรายังมีสติกม่าหรือตราบาป
00:02:37 → 00:02:39 ทางด้านสุขภาพจิตค่อนข้างเยอะอย่างเช่น
00:02:40 → 00:02:43 ว่าถ้าคนมีอารมณ์ที่แปรปรวนมันเป็นปัญหา
00:02:43 → 00:02:47 ที่บุคคลอืถ้าคนมีปัญหาเรื่องอยากคิดนฆ่า
00:02:47 → 00:02:50 ตัวตายมันเป็นปัญหาที่บุคคลถ้าคนมีปัญหา
00:02:50 → 00:02:53 ที่ว่าติดยาติดเหล้ามันเป็นปัญหาที่บุคคล
00:02:53 → 00:02:55 อืเราไปบอกว่าปัญหาเหล่านี้มันเป็นที่
00:02:55 → 00:02:58 ปัญหาบุคคลหมดแต่จริงๆแล้วปัญหาสุขภาพจิต
00:02:58 → 00:03:01 อ่ะมันไม่ได้เป็นเป็นปัญหาแค่ที่บุคคล
00:03:01 → 00:03:04 เพราะเราจะต้องดูสุขภาพจิตในองค์รวมให้
00:03:04 → 00:03:07 ได้ก็คือทั้งทางด้านชีววิทยาจิตวิทยาและ
00:03:07 → 00:03:09 สังคมอย่าเช่นถ้าเป็นเรื่องของซึมเศร้า
00:03:09 → 00:03:12 อ่ะครับผู้หญิงจะมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้า
00:03:12 → 00:03:14 ได้สูงกว่าผู้ชายอืผู้ชายอาจจะมีโอกาส
00:03:14 → 00:03:17 เป็นโรคจิตเพศหรือว่าการใช้สารเสพติด
00:03:17 → 00:03:20 อย่างผิดปกติได้มากกว่าผู้หญิงหรือว่าถ้า
00:03:20 → 00:03:22 เกิดการว่าเป็นซึมเศร้าแล้วผู้ชายอาจจะมี
00:03:22 → 00:03:25 อัตราในการฆ่าตัวตายที่สูงกว่าผู้หญิงอัน
00:03:25 → 00:03:27 นี้มันก็จะเป็นปัจจัยทางด้านชีวะแล้วว่า
00:03:27 → 00:03:30 มีการแตกต่างที่เพศแล้วเราก็จะต้องกลับไป
00:03:30 → 00:03:32 ดูด้วยอย่างเช่น lgbt qi ของเคก็จะมี
00:03:32 → 00:03:34 ปัญหาทางด้านชีววิทยาแล้วก็จะมีเรื่องของ
00:03:34 → 00:03:37 สังคมด้วยว่าสังคมอาจจะไม่ยอมรับเค้า
00:03:37 → 00:03:39 สังคมไม่มีการสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้เค้า
00:03:39 → 00:03:42 ไม่มีการสร้างสิ่งที่มันเท่าเทียมกันให้
00:03:42 → 00:03:45 เขามันก็เป็น Pressure จากสังคมที่ส่งต่อ
00:03:45 → 00:03:48 ให้เคหรือถ้าเรามาดูเรื่องเศรษฐกิจถ้า
00:03:48 → 00:03:50 เศรษฐกิจมันยิ่งมีฐานรากที่มันแบ่งกันเย
00:03:51 → 00:03:53 มากขึ้นน่ะครับคนจนก็จะมีความเครียดที่
00:03:53 → 00:03:55 สูงขึ้นเรื่อยๆเพราะว่าจะต้องสู้ในการที่
00:03:55 → 00:03:58 จะทำให้ชีวิตตัวเองอยู่ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
00:03:58 → 00:04:01 พอเมีความอย่างงี้มากขึ้นเรื่อยๆปึ๊บถ้าเ
00:04:01 → 00:04:03 เข้าสู่กระบวนการรักษาไม่ได้การหยุดยั้ง
00:04:03 → 00:04:05 ความคิดของคนที่ดีที่สุดบางครั้งก็คืออาจ
00:04:05 → 00:04:07 จะเป็นการใช้สารเสพติดในการหยุดยั้งความ
00:04:07 → 00:04:09 เครียดของเขาจนที่ว่ามันกลายเป็นว่าเขา
00:04:09 → 00:04:12 อาจจะกลายเป็นเหมือนกับกลายเป็นดูว่าเป็น
00:04:12 → 00:04:14 คนขี้ยาขี้เหล้าไปโดยที่ไม่ได้รับการ
00:04:14 → 00:04:16 รักษาอย่างถูกต้องหรือความช่วยเหลืออย่าง
00:04:16 → 00:04:19 ถูกต้องหรือถ้าดูเรื่องไซโคก็อาจจะเป็น
00:04:19 → 00:04:22 เรื่องของทราม่าตอนเด็กมั้ยมีผลกระทบตอน
00:04:22 → 00:04:24 เด็กอะไรที่เกิดขึ้นมั้ยอยู่ในรถชนมั้ย
00:04:24 → 00:04:26 หรือว่ามีอะไรที่เกิดขึ้นจากการเสียคนใน
00:04:27 → 00:04:29 ครอบครัวไปหรือเสียหายอะไรไปมั้ยที่มัน
00:04:29 → 00:04:31 ก่อนให้เกิดจิตวิทยาของเราเนี่ยอารมณ์ของ
00:04:31 → 00:04:34 เรายังไม่สามารถกลับมาตั้งตัวได้เราก็จะ
00:04:34 → 00:04:36 ต้องดูให้มันครอบคลุมอ่ะครับก่อนที่เราจะ
00:04:36 → 00:04:39 ไปบอกได้ว่าปัญหาของคนคนนี้มันเป็นที่
00:04:39 → 00:04:44 ประจกบุตคนโอเคใช่ครับปัจจุบันเนี่ยเท่า
00:04:44 → 00:04:47 ที่ผมดูในโปไฟล์เนี่ยเราเป็น speaker นะ
00:04:47 → 00:04:49 ฮะเป็น
00:04:49 → 00:04:53 เอ่ออยู่ใน World Economic forum ขึ้น
00:04:53 → 00:04:55 นิตยสารไทด้วยใช่มั้ยฮะครับผมเห็นขึ้น
00:04:55 → 00:04:59 วิทยาศารระดับโลก cna ด้วยออกใช่มั้ยครับ
00:04:59 → 00:05:02 ครับผมปัจจุบันเราทำอะไรอยู่อ่ะครับตอน
00:05:02 → 00:05:05 นี้ก็เลยที่ที่ทำมาก็เลยเป็นแอปพลิเคชัน
00:05:05 → 00:05:08 อ่ะครับที่ชื่อสิแล้วก็เรารันมันอยู่ภาย
00:05:08 → 00:05:13 ใต้เป็นมูลนิธิสิแอปเพราะว่าเราที่ที่ทำ
00:05:13 → 00:05:15 มูลนิธินี้ขึ้นมาครับเพราะว่า 1 เลยกที่
00:05:15 → 00:05:19 พูดถึงตอนแรกว่าเรามีจิตแพทย์ไม่เพียงพอ
00:05:19 → 00:05:23 เรามีนักจิตวิทยาไม่เพียงพอไม่เพียงพอไม่
00:05:23 → 00:05:26 พอพอมันไม่เพียงพอมันกลายเป็นเบเดนหรือ
00:05:26 → 00:05:28 เป็นภาระให้จิตแพทย์ด้วยเหมือนกันเพราะ
00:05:28 → 00:05:31 อย่างเช่นถ้าถ้าหลักสากลนครับจิตแพทย์คน
00:05:31 → 00:05:36 นึงอาจจะดูแลเคสประมาณ 8 เคสภายใน 4 ชมง
00:05:36 → 00:05:39 แต่ของไทยเราถ้าเป็นโรงพยาบาลรัฐบางครั้ง
00:05:39 → 00:05:42 ดูแลถึง 50 เคสภายใน 4 ชั่วโมงอใช่ๆแล้ว
00:05:42 → 00:05:45 ถ้าหากว่าจิตแพทย์ของเรา burn Out ไปหมด
00:05:45 → 00:05:49 ไฟไปแล้วก็ใครจะมาดูแลคนไข้คนต่อๆไปที่
00:05:49 → 00:05:52 ต้องการความช่วยเหลือครับผมเลยสิ่งที่วล
00:05:52 → 00:05:55 นิธิเราต้องการทำก็คือสร้างคนที่ได้ผ่าน
00:05:55 → 00:05:57 การอบรมเรื่องของการปฐมพยาบาลจิตใจเบื้อง
00:05:57 → 00:06:00 ต้นมาเรียบร้อยแล้วแล้วก็ก็ให้เ้ามาอยู่
00:06:00 → 00:06:02 ในระบบของเราแล้วก็เป็นคนที่จะคอยมา
00:06:02 → 00:06:05 ออนไลน์ในระบบของเราเพื่อที่จะรับสายคน
00:06:05 → 00:06:09 ที่มีภาวะเครียดคนที่อาจจะมีภาวะณเวลานี้
00:06:09 → 00:06:12 ไม่รู้จะไปต่อยังไงภาวะรู้สึกตันหรืออาจ
00:06:12 → 00:06:14 จะมีปัญหาทางด้านสุขภาพจิตต้องการใครสัก
00:06:14 → 00:06:16 คนรับฟังเค้าอ่ะครับอย่างน้อยให้เขาคเข้า
00:06:16 → 00:06:20 มาอยู่ในระบบแล้วก็มามามีพื้นที่เปิดเปิด
00:06:20 → 00:06:23 ใจรับฟังเค้าแล้วสิ่งที่เราทำเนี่ยเรา
00:06:23 → 00:06:24 เห็น
00:06:24 → 00:06:27 ว่าณเวลานี้ระบบอื่นๆในประเทศไทยอ่ะมัน
00:06:27 → 00:06:30 เป็นเหมือนกับ landline System ก็คือ
00:06:30 → 00:06:32 เป็นการใช้สายโทรศัพท์เข้ามามันทำให้ว่า
00:06:32 → 00:06:34 คนที่จะมาเป็นอาสาต้องไปอยู่ในพื้นที่
00:06:34 → 00:06:37 นั้นในการรับสายของเราเลยก็เปลี่ยนจากการ
00:06:37 → 00:06:40 รับสายมาให้อยู่แอปพลิเคชันแปลว่าทุกคนคน
00:06:40 → 00:06:42 ที่เป็นอาสาเราอาจจะอยู่ที่ไหนก็ได้แล้ว
00:06:42 → 00:06:44 เขาแค่ต้องมาออนไลน์แล้วก็รับสายก็สามารถ
00:06:44 → 00:06:46 คุยกับคนที่อาจจะต้องการความช่วยเหลือณ
00:06:46 → 00:06:50 เวลานั้นได้แอปพลิเคชันที่เราตั้งชื่อว่า
00:06:50 → 00:06:54 สติที่มาจากมูลนิธิของเราเนี่ยมีไว้
00:06:54 → 00:06:57 สำหรับคนที่มีความคิดที่ต้องการทำร้ายตน
00:06:57 → 00:07:02 เองสมัครเข้าไปจะมีทีมงานเป็นผู้ฟังและ
00:07:02 → 00:07:06 ใช้คำว่าผู้ปรึกษาเบื้องต้นใช่มั้ยครับ
00:07:06 → 00:07:09 อาจจะไม่ได้ถึงท่านปรึกษาแต่ว่าเราจะรับ
00:07:09 → 00:07:12 ฟังแล้วก็เราจะสะท้อนความรู้สึกเพื่อให้
00:07:12 → 00:07:14 เครับฟังช่วยเหลือให้เขาคเหมือนกับว่า
00:07:15 → 00:07:17 เห็นความกระจ่างในความคิดตัวเองมากขึ้นนะ
00:07:17 → 00:07:19 ครับอ่าเราเรียกว่าอะไรนะคำพูดนี้ตะกี้
00:07:19 → 00:07:21 เหมือนเราเราจะใช้เป็นการปถมพยาบาลจิตใจ
00:07:21 → 00:07:24 เบิ้นต้นอ่าปถมพยาบาลจิตใจเบื้องต้นอ
00:07:25 → 00:07:26 psychological First Age
00:07:26 → 00:07:28 psychological First Age อ่าเวลาผม
00:07:28 → 00:07:31 เห็นผมก็ไม่ไม่เข้าใจเหมือนกันโอเคอันนี้
00:07:31 → 00:07:34 ผมเพิ่งรู้เรื่องนี้โอเคก็คือแสดงว่าคน
00:07:34 → 00:07:36 ที่เขามีความรู้สึกอันดับแรกคือเขา
00:07:36 → 00:07:39 ต้องการปฐมพยาบาลก่อนซึ่งทางจิตใช่ครับ
00:07:39 → 00:07:43 ใช่ครับซึ่งแอปนี้จะเป็นตัวช่วยแล้วก็มี
00:07:43 → 00:07:47 วิธีการวัดและติดตามและปรับปรุงอย่างต่อ
00:07:47 → 00:07:51 เนื่องครับใช่่ครับออแล้วเป็นแอปแรกในผม
00:07:52 → 00:07:54 เห็นในเอเชียเราก็ไปออกรายการด้วยเป็นแอป
00:07:54 → 00:07:57 แรกๆในในทวีปเลยมั้ยครับหรือว่ายังไงฮะผม
00:07:57 → 00:08:00 ว่าก็คือมันมีแอปแบบนี้อยู่แล้วต่าง
00:08:00 → 00:08:03 ประเทศแต่ว่าของเขาจะเป็น text Base คือ
00:08:03 → 00:08:06 เป็นการแชทคุยกับอาสาครับแต่ว่าในความคิด
00:08:06 → 00:08:09 ของผมอ่ะบางครั้งเวลาเราใช้ text คุยกัน
00:08:09 → 00:08:13 น่ะเอพิมพ์พิมพ์เวลาเราใช้พิมพ์กันเนี่ย
00:08:13 → 00:08:15 ความรู้สึกหรือน้ำเสียงของเรามันไม่ถูก
00:08:16 → 00:08:18 ถ่ายทอดไปด้วยอืแปลว่าถ้าวันนี้หมอบิ๊กมี
00:08:18 → 00:08:21 ความคิดที่ลบอยู่แล้วก็ผมพิมพ์อะไรไปหา
00:08:21 → 00:08:24 หมอบิ๊กอ่ะหมอบิ๊กอาจจะอ่านไอ้สิ่งที่ผม
00:08:24 → 00:08:27 พิมพ์ไปให้ในความคิดที่อาจจะเป็นแง่ลบแล
00:08:27 → 00:08:29 อาจจะเป็นเสียงที่เป็นในแง่ลบแล้วเลยพอ
00:08:29 → 00:08:31 มันไม่มีความถ่ายทอดดตรงเนี้ยความรู้สึก
00:08:31 → 00:08:35 ของผมก็คือมันอาจจะไม่ได้ช่วยอะไรมากเรา
00:08:35 → 00:08:37 ก็เลยต้องการทำให้ว่ามันเป็นการใช้เสียง
00:08:37 → 00:08:40 ในการที่ว่าให้ 2 ฝ่ายอ่ะมีการพูดคุยกัน
00:08:40 → 00:08:43 เพราะว่าถ้ามันมีการพูดคุยกันแล้วเราได้
00:08:43 → 00:08:46 ยินอีกฝ่ายนึงที่ใช้สน้ำเสียงที่นุ่มนวล
00:08:46 → 00:08:49 เนี่ยมันจะช่วยทำให้เรารู้สึกแบ่งเบาความ
00:08:49 → 00:08:52 รู้สึกที่อาจจะเป็นความรู้สึกลบของเราณ
00:08:52 → 00:08:54 เวลานั้นไปด้วยเหมือนกันนะอนี้จริงครับ
00:08:54 → 00:08:55 อันนี้จริงมากเลยครับใช่อันนี้ก็เลยเป็น
00:08:55 → 00:08:58 ที่มาที่ว่าเราต้องการทำให้มันเป็นการพูด
00:08:58 → 00:09:02 คุยกันโดยเสียงแล้วก็หลังจากที่ User วาง
00:09:02 → 00:09:04 สายไปแล้วหรือผู้ใช้ของเราวางสายไปแล้ว
00:09:04 → 00:09:07 อ่ะคนที่เป็นอาสาของเราก็จะต้องกรอกข้อ
00:09:07 → 00:09:10 มูลว่าคนที่โทรเข้ามาเนี่ยเค้ามีความคิด
00:09:10 → 00:09:13 อยากจบชีวิตตัวเองมยแล้วก็คนที่โทรเข้ามา
00:09:13 → 00:09:17 เนี่ยเมีปัญหาเครียดทางด้านไหนบ้างแล้ว
00:09:17 → 00:09:18 ข้อมูลเหล่านี้มันก็จะถูกเก็บไว้ใน
00:09:19 → 00:09:21 database ของเราซึ่ง database ของเราก็
00:09:21 → 00:09:23 จะเก็บข้อมูลแล้วเราจะสามารถมาเข้าใจได้
00:09:23 → 00:09:28 ว่าจุดไหนของประเทศคือก็คือว่าภาคไหนของ
00:09:28 → 00:09:31 ประเทศมีความเครียดเออแล้วแบ่งแยกเป็น
00:09:31 → 00:09:35 อบ่งแยกเป็นเพศภาพแล้วเราจะได้นำข้อมูล
00:09:35 → 00:09:37 เหล่านี้เปิดเผยทุกๆปีแล้วหวังว่าทั้งภาค
00:09:37 → 00:09:40 รัฐและภาคเอกชนจะนำข้อมูลเหล่านี้ไปช่วย
00:09:40 → 00:09:43 กันผลักดันเป็นนโยบายทางด้านสุขภาพจิต
00:09:43 → 00:09:46 เพราะว่านโยบายทางด้านสุขภาพจิตอครับมัน
00:09:46 → 00:09:49 ไม่สามารถจะเป็นนโยบายที่มาจากด้านบนลง
00:09:49 → 00:09:51 ล่างได้อย่างเดียวอืมันต้องเพราะว่า
00:09:51 → 00:09:54 ประเทศไทยเราเราต้องรับว่ามันไม่ได้มีแค่
00:09:54 → 00:09:57 คนพุทธไม่ได้มีแค่คนไทยมันมีทั้งคนคริสคน
00:09:57 → 00:10:00 ซิกคนที่เป็นคนมุสลิหรือคนที่อาจจะไม่มี
00:10:00 → 00:10:02 ความไม่เห็นเรื่องศาสนาเป็นเป็นสิ่งสำคัญ
00:10:02 → 00:10:05 ในชีวิตของเขาเราเลยต้องเข้าใจก่อนว่าบาง
00:10:05 → 00:10:07 ครั้งพอมันมีเรื่องของปัจจัยวัฒนธรรม
00:10:08 → 00:10:10 ปัจจัศาสนาเข้ามาเนี่ย intervention หรือ
00:10:10 → 00:10:12 การที่เราจะเข้าไปช่วยเหลือทางด้าน
00:10:12 → 00:10:14 จิตวิทยาก็จะต้องเปลี่ยนไปตามทั้ง
00:10:14 → 00:10:18 วัฒนธรรมแล้วก็ทางด้านของเอ่อศาสนาด้วยอื
00:10:18 → 00:10:21 ไม่ว่าจะเป็นภาษาอย่างเช่นถ้าเราไปภาค
00:10:21 → 00:10:23 อีสานเราไปภาคใต้อ่ะ intervention ของเรา
00:10:23 → 00:10:25 หรือการเข้าไปแทรกแซงของเราก็อาจจะต้อง
00:10:25 → 00:10:28 เน้นเรื่องของภาษาด้วยว่าเวลาเราเข้าไปใน
00:10:28 → 00:10:30 ที่ที่นั้นแล้วเนี่ยคนกลุ่มนั้นเขาใช้
00:10:30 → 00:10:33 ภาษาไทยยกลางได้มยหรือเขาต้องการความช่วย
00:10:33 → 00:10:36 เหลือในภาษาอีสานภาษามาลายูภาษาเหนือหรือ
00:10:36 → 00:10:38 ถ้าเป็นคนมอเนี่ยเขาต้องการความช่วยเหลือ
00:10:38 → 00:10:40 ในทางด้านไหนเราก็จะต้องทำความเข้าใจตรง
00:10:41 → 00:10:44 นี้ด้วยมันก็เลยจะต้องเป็นทั้ง policy
00:10:44 → 00:10:47 ที่ว่านโยบายที่มาจากทั้งชุมชนเองแล้วก็
00:10:47 → 00:10:49 มาครอบคลุมจากด้านบนด้วยด้านบนอาจจะมอง
00:10:49 → 00:10:51 เรื่องของว่าจะเพิ่มจิตแพทย์ยังไงจะเพิ่ม
00:10:51 → 00:10:53 นักจิตวิทยายังไงด้านล่างจะดูว่าการแทรก
00:10:53 → 00:10:56 แซงให้มันเข้าไปสู่ระบบวัฒนธรรมชุมชน
00:10:56 → 00:10:58 เนี่ยมันจะต้องทำยังไงบ้างมันเลยเป็นสิ่ง
00:10:58 → 00:11:00 ที่ทางมูลนิธิที่เราพยายามพลักดันให้มัน
00:11:00 → 00:11:03 เกิดขึ้นดีกว่าครับทั้งหมดนี้ทำกันกี่คน
00:11:03 → 00:11:06 ใครเป็นคุณเป็นคนคิดเลยป่ะฮทั้งหมดใช่
00:11:06 → 00:11:11 ครับก็ปี 2018 คิดขึ้นมาแล้วก็เลยไม่มี
00:11:11 → 00:11:14 ความรู้ทางด้าน text อก็เลยไปโพสต์ใน
00:11:14 → 00:11:16 กลุ่มของ Global shaper รอบทั่วโลกเราก็
00:11:16 → 00:11:20 เลยเจอเป็น cto ตอนนี้อยู่ที่เช็ค cto
00:11:20 → 00:11:22 แปลว่าอะไรเป็น Chief Technical officer
00:11:22 → 00:11:24 เป็นคนที่ดูแลทางด้าน Development หรือ
00:11:24 → 00:11:27 การพัฒนาทางด้านเทคโนโลีของเราอ่ะครับเค
00:11:27 → 00:11:29 อยู่ที่เช็คแล้วเาก็บอกว่าตัวเเองเพิ่ง
00:11:29 → 00:11:32 เสียญาติจากการฆ่าตัวตายไปเคก็เลยเห็นเลง
00:11:32 → 00:11:35 ว่าตัวนี้เป็นจุดสำคัญมากแล้วเอยากจะทำ
00:11:35 → 00:11:38 เราก็เลยชวนเขมาร่วมทำด้วยกันเพราะว่าเรา
00:11:38 → 00:11:41 ไม่มีความรู้ทางด้านเคเรามีแต่ความรู้จาก
00:11:41 → 00:11:43 ประสบการณ์ของเราอืแล้วเราก็เลยมาทำแล้ว
00:11:43 → 00:11:46 ก็โชคดีที่ว่ามีวันนึงผมไปงานทางด้าน
00:11:46 → 00:11:49 สุขภาพจิตของประเทศไทยแล้วก็ผมก็ไปเล่า
00:11:49 → 00:11:51 เรื่องของตัวเองแล้วก็ตอนนั้นเป็นอาจารย์
00:11:51 → 00:11:54 ท่างนึงที่ว่าเขาเป็นหัวหน้าศูนย์ป้องกัน
00:11:54 → 00:11:57 ค่าตัวตายของประเทศอยู่เขาก็เลยเป็นคน
00:11:57 → 00:12:00 เชื้อชวนให้ว่ามันเล่าประสบการณ์ให้ฟัง
00:12:00 → 00:12:04 ที่กรมสุขภาพจิตหน่อยปัจจุบันมีบทบาทใน
00:12:04 → 00:12:06 กรมสุขภาพจิตค่อนข้างเยอะนะเท่าที่ผมเห็น
00:12:06 → 00:12:10 ก็ก็จะเป็นเอ่อกรมก็จะชวนให้ไปพูดคุย
00:12:11 → 00:12:13 เรื่อยๆอ่ะครับหรือว่าจะเป็นในคนที่จะ
00:12:13 → 00:12:16 เป็นกลุ่มที่ไปสาเสียงแล้วก็แอปพลิเคชัน
00:12:16 → 00:12:18 ของเราก็ได้รับทุนสนับสนุนเริ่มต้นจากกรม
00:12:18 → 00:12:21 สุขภาพจิตด้วยเหมือนกันอืใช่ครับก็เลยถ้า
00:12:21 → 00:12:23 เข้าไปที่แอปของเราก็จะเห็นข้างล่างเลย
00:12:23 → 00:12:25 ว่าสนับสนุนโดยกรมสุขภาพจิตเหมือนกันแล้ว
00:12:25 → 00:12:28 ก็เราก็มีเป็นจิตแพทย์จากเอ่อกรมสุขภาพ
00:12:28 → 00:12:32 จิตที่ว่ามาอยู่ในเป็นเหมือน board of
00:12:32 → 00:12:35 advisor ของเราด้วยเป็นเป็นที่ปรึกษาของ
00:12:35 → 00:12:37 ทางแอปด้วยเพราะว่าแอปพลิเคชันของเรา
00:12:37 → 00:12:39 เนี่ยเราต้องการให้มันเป็น scientific
00:12:39 → 00:12:41 Base evidence ให้มากที่สุดเป็นหลักทาง
00:12:41 → 00:12:44 การแพท์ใช่ครับผมเราก็เลยถ้าถ้าไปดูเป็น
00:12:44 → 00:12:47 เหมือนบอร์ดของที่ปรึกษาเราเนี่ยเราจะมี
00:12:47 → 00:12:50 จิตแพทย์ในประเทศไทยเราจะมีจิตแพทย์ใน
00:12:50 → 00:12:52 ยุโรปเราจะมีจิตแพทย์อยู่จาก nhs ของ
00:12:52 → 00:12:55 อังกฤษเราจะมีจิตแพทย์ที่อยู่เ่อ
00:12:55 → 00:12:57 ออสเตรเลียอย่างเงี้ยครับแล้วมีนัก
00:12:57 → 00:13:00 จิตวิทยาที่เราจะมารรมกันเพื่อแล้วมีจาก
00:13:00 → 00:13:02 แอฟริกาด้วยเพราะว่าเราดึงจากหลายๆส่วนมา
00:13:02 → 00:13:05 เพราะเราต้องการดูว่าประเทศพัฒนาแล้ว
00:13:05 → 00:13:07 เนี่ยเขาแก้ไขระบบของเขายังไงเวางนโยบาย
00:13:07 → 00:13:10 ของเขาได้ยังไงประเทศที่ว่าอาจจะแย่กว่า
00:13:10 → 00:13:13 เราอ่ะเาหาวิธีการแก้ไขปัญหาของเขาได้ยัง
00:13:13 → 00:13:15 ไงแล้วเราจะเอาความรู้ของทั้ง 2 ฝ่าย
00:13:15 → 00:13:17 เนี่ยมาผสมผสานเพื่อให้มันเกิดขึ้นใน
00:13:17 → 00:13:19 ประเทศไทยได้ยังไงเพราะว่าถามว่า
00:13:19 → 00:13:22 เทคโนโลยีประเทศไทยมีมยมีแต่ว่าบุคลากร
00:13:22 → 00:13:26 ประเทศไทยมีมยไม่มีนโยบายประเทศไทยมีมยมี
00:13:26 → 00:13:28 แต่นโยบายที่ว่าครอบคุมนอกเหนือจากแค่
00:13:28 → 00:13:32 กลุมสุขภาพจิตมีมยไม่มีแล้วเราจะยยังไง
00:13:32 → 00:13:35 ว่าอย่างเช่นถ้าผมพูดเรื่องสื่ออย่างเงี้
00:13:35 → 00:13:39 ครับถ้าเราดูสื่อในประเทศไทยสื่อประเทศ
00:13:39 → 00:13:41 ไทยจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับการฆ่าตัวตาย
00:13:41 → 00:13:43 เป็นเหมือนค่อนข้างจะเป็นดราม่าแล้วก็จะ
00:13:43 → 00:13:47 พูดวิธีการฆ่าตัวตายแผนที่ใช้ในการฆ่าตัว
00:13:47 → 00:13:49 ตายแล้วแบบที่ใช้ในการฆ่าตัวตายแล้วถ้า
00:13:49 → 00:13:51 เราดูปุ๊บเราก็จะเห็นได้ว่าสิ่งที่เกิด
00:13:51 → 00:13:53 ขึ้นในประเทศไทยหลังจากนั้นก็คือการฆ่า
00:13:53 → 00:13:55 ตัวตายเลียนแบบ
00:13:55 → 00:13:59 ว่าคนนี้่าตัวตายแบบนี้สื่อออกมาแบบนี้คน
00:13:59 → 00:14:01 ที่อ่านปึ๊บก็จะไปทำเรียนแบบเหมือนเดิม
00:14:01 → 00:14:03 เพราะว่าได้วิธีละฉันรู้แล้วว่าฉันจะทำ
00:14:03 → 00:14:06 ยังไงแต่พอเราไปดูอย่างเช่น adviser ของ
00:14:06 → 00:14:09 เราจากอังกฤษเขาจะบอกว่าอย่างเช่นถ้า BBC
00:14:09 → 00:14:12 เนี่ยเขาจะมีนโยบายของเเลยว่าการที่เราจะ
00:14:12 → 00:14:14 ให้สื่อทางด้านสุขภาพจิตให้ความรู้ทาง
00:14:14 → 00:14:15 ด้านสุขภาพจิตหรือให้ข่าวทางด้านการฆ่า
00:14:15 → 00:14:18 ตัวตายเราจะต้องให้ยังไงเราจะไม่บอกว่าคน
00:14:18 → 00:14:20 ๆนั้นทำยังไงเราจะไม่ไปบอกว่าความผิดของ
00:14:20 → 00:14:22 คนคนนั้นเป็นอย่างงั้นเราจะไม่ไป
00:14:22 → 00:14:24 วิเคราะห์ความหลังของคนๆนั้นเราจะไม่ไปทำ
00:14:24 → 00:14:27 ให้คนคนนั้นเสื่อมเสียสิ่งที่เราจะบอกก็
00:14:27 → 00:14:30 อาจจะเป็นว่ามีคนพลักตดหนตกหน้ารถไฟแล้ว
00:14:30 → 00:14:32 ถ้าวันนี้คุณมีความรู้สึกที่ไม่ดีความรู้
00:14:32 → 00:14:34 สึกที่แย่คุณสามารถติดต่อหน่วยงานนี้
00:14:34 → 00:14:36 หน่วยงานนี้หน่วยงานนี้หน่วยงานนี้ได้อัน
00:14:36 → 00:14:40 นี้เป็นเหมือนการทำงานของของอสื่อที่มี
00:14:40 → 00:14:42 มาตรฐานแต่พอเรากลับมาดูในประเทศไทยเรา
00:14:42 → 00:14:45 พยายามผลักดันเรื่องนี้แต่มันยังไม่เกิด
00:14:45 → 00:14:48 ขึ้นเพราะว่าหลายๆครั้งสื่อก็อาจจะโดน
00:14:49 → 00:14:52 ผลักดันโดยกระแสของ viral กระแสของโชล
00:14:52 → 00:14:54 แล้วสื่อแล้วข่าวด้านเมันก็จะได้รับความ
00:14:54 → 00:14:57 นิยมค่อนข้างสูงเพราะว่ามันเป็นดราม่าเิง
00:14:57 → 00:15:00 สังคมเราก็เลยเลยพยายามจะพลักดันแก้ไข
00:15:00 → 00:15:03 แล้วเอายังไงความรู้ขององค์กรที่เขาได้
00:15:03 → 00:15:05 ปรับปรุงตัวเองแล้วให้มันมาประยุกต์ให้
00:15:05 → 00:15:07 มันมีการปรับปรุงในประเทศด้วยครับก็เลย
00:15:07 → 00:15:12 เป็นมลนิธิก็เลยจะพยายามผลักดันในหลายแง่
00:15:12 → 00:15:14 มุมแต่หลักๆของเราก็จะเป็นการที่ว่าสร้าง
00:15:14 → 00:15:17 พื้นที่ปลอดภัยให้คนเข้าถึงอย่างน้อยการ
00:15:17 → 00:15:21 รักษาพื้นฐานที่เร็วที่สุดอย่างที่ 2 ก็
00:15:21 → 00:15:23 คือการรักษาที่แพงในประเทศอ่ะครับถ้าเรา
00:15:23 → 00:15:27 ไปโรงพยาบาลรัฐอ่ะค่ารักษามันไม่ได้สูงไป
00:15:27 → 00:15:30 ได้ถ้าเราไปโรงพยาบาลเอกชนปึ๊บ 1,500 -
00:15:30 → 00:15:33 2,000 ไม่หนีไปไหนตอนนี้ถ้าเราดูปัญหา
00:15:33 → 00:15:37 สุขภาพจิตในประเทศอ่ะครับเกือบๆ 70% น่ะ
00:15:37 → 00:15:41 น่าจะเป็นคนที่อยู่ในฐานรากที่ว่ากลางถึง
00:15:41 → 00:15:45 ต่ำทำให้ว่าเขาอาจจะว่ามีเป็นเหมือนสิ่ง
00:15:45 → 00:15:46 ที่มากีดกั้นให้เขาไม่เข้าสู่กระบวนการ
00:15:46 → 00:15:49 รักษาเพราะมันแพงตอนนี้ถ้าเจะไปโรงพยาบาล
00:15:49 → 00:15:52 รัฐโรงพยาบาลรัฐทุกโรงพยาบาลมีเรื่องของ
00:15:52 → 00:15:56 สาขาจิตเวทตอนนี้ถ้าไปแล้วเนี่ยกลายเป็น
00:15:56 → 00:15:58 ว่าเค้าจะต้องอาจจะหยุดงานทั้งวันเลย
00:15:58 → 00:16:00 เพราะว่าขบวนเพราะว่าโรงพยาบาลรัฐมีคน
00:16:00 → 00:16:04 เข้าไปใช้บริการค่อนข้างเยอะเยอะมากพอ
00:16:04 → 00:16:06 เยอะมากปุ๊บเนี่ยมันกลายเป็นว่าเ้าอาจจะ
00:16:06 → 00:16:08 ต้องแข่งกันไปโรงพยาบาลก่อนเพื่อที่จะไป
00:16:08 → 00:16:11 รับบัตรคิวให้เร็วที่สุดพอหมอมาปึ๊บก็จะ
00:16:11 → 00:16:13 ต้องพยายามหาบัตรคิวที่เร็วจะได้ไปนั่ง
00:16:13 → 00:16:16 หน้าห้องหมอให้เร็วและอย่างที่ผมบอกไปว่า
00:16:16 → 00:16:19 จำนวนของคนไข้ที่ไปหาหมอเยอะกลายเป็นว่า
00:16:19 → 00:16:21 เราอาจจะมีการทำไซโค analysis หรือการทำ
00:16:21 → 00:16:24 เรื่องของซักประวัติทางจิตวิทยากับคนไข้
00:16:24 → 00:16:26 น้อยมากจนที่ว่าคนๆนั้นอาจจะหาหมอได้อยู่
00:16:26 → 00:16:28 แค่ประมาณ 10-15 นาทีก็ต้องออกจากห้องคน
00:16:28 → 00:16:31 ไข้แล้วมันกลายเป็นว่ามันเป็นการแทรกแซง
00:16:31 → 00:16:34 การดูแลที่มันไม่ครบลูกอืแล้วมันทำให้ว่า
00:16:34 → 00:16:36 คนที่หาเช้ากินค่ำก็อาจจะบอกว่าเงินฉัน
00:16:36 → 00:16:39 ไม่ไปดีกว่าสู้ว่าฉันหาเงินให้ได้ 300
00:16:39 → 00:16:41 บาท 400 บาทของฉันวันนี้แล้วฉันไม่ต้องไป
00:16:41 → 00:16:43 หาหมอดีกว่าเพราะไม่งั้นถ้าวันนี้ฉันหา
00:16:43 → 00:16:47 เงินไม่ได้ก็เสียหายเหมือนกันอเลยเราก็
00:16:47 → 00:16:50 เลยทำให้ว่าเมชว่าการทำงานของเราเนี่ยมัน
00:16:50 → 00:16:52 ไม่มีค่าใช้จ่ายต่อผู้ที่จะมาใช้ระบบของ
00:16:52 → 00:16:56 เราแล้วก็พยายามผลักดันให้ภาคประชาสังคม
00:16:56 → 00:16:59 ภาคสังคมและภาคเอกชนนี่แหละเป็นคนลักดัน
00:16:59 → 00:17:02 โดยการเอางบมาลงในการเอาเรื่องของความรู้
00:17:02 → 00:17:04 มาลงในการเอาเทคโนลยีมาลงจะได้ว่าเรา
00:17:04 → 00:17:08 สร้างความรู้ความเข้าถึงการทางด้านการ
00:17:08 → 00:17:11 สุขภาพจิตให้มันยั่งยืนที่สุดได้อ่ะ
00:17:11 → 00:17:16 ครับหลายคนรู้สึกเหมือนผมมยครับฟังคุณอมร
00:17:16 → 00:17:22 แล้วเนี่ยมีใครคิดมครับว่าคนๆนึงที่ถูกตา
00:17:22 → 00:17:26 หน้าว่าคิดไม่เป็นคิดไม่ถูกวันนี้ฟังแล้ว
00:17:26 → 00:17:29 รู้สึกยังไงครับ
00:17:29 → 00:17:34 ผมว่าคุณอมรเนี่ยเก่งมากนะอาจจะเก่งมาก
00:17:34 → 00:17:38 ไม่เคยมีคนบอกหรือเปล่าเราเก่งมากนะผมฟัง
00:17:38 → 00:17:42 จากภาษาไทยคุณเก่งกว่าผมอีกนะที่คุณบอกผม
00:17:42 → 00:17:45 ว่าคุณพูดภาษาไทยไม่เป็นเนี่ยนะผมมีคนมา
00:17:45 → 00:17:48 คอมเมนต์ใน YouTube ว่ารากหญ้าไม่ใช่ห
00:17:48 → 00:17:51 ครับเขาใช้คำว่าอะไรนะฮะยะตะกี้ยใช้คำว่า
00:17:51 → 00:17:54 อะไรนะประชาชนระดับฐานรากครับฐานรากผมก็
00:17:54 → 00:17:57 เพิ่งรู้นะมีคนมาคอมเมนต์ใน YouTube คือ
00:17:57 → 00:17:59 เราก็ไม่ได้เก่งภาษาไทยมาก
00:17:59 → 00:18:03 คุณเก่งมากนะอาจจะต้องไปขอบคุณกรมที่ชวน
00:18:03 → 00:18:05 ผมไปพูดคุยเรื่อยๆไม่หรอกครับผมว่ามันมัน
00:18:05 → 00:18:09 ความเก่งมันใครเชิญไปพูดมันไม่น่าจะเกิด
00:18:09 → 00:18:14 ขึ้นได้หรอกครับผมว่าคุณเก่งอ่ะต้องต้อง
00:18:14 → 00:18:16 ไม่รู้อ่ะผมดูคุณคุณผมฟังคุณ Thinking
00:18:16 → 00:18:21 process การต่อยอดการแล้วอธิบายได้เห็น
00:18:21 → 00:18:21 ภาพ
00:18:22 → 00:18:27 ได้ครับไม่ผมเชื่อว่าคนที่ฟังวันนี้ไม่ผม
00:18:27 → 00:18:29 ว่าเป็นตัวอย่าง
00:18:29 → 00:18:33 ให้ให้ให้หลายๆคนเลยนะฮะที่เคยอาจจะผ่าน
00:18:33 → 00:18:37 มุมมองขั้วลบของตัวเองในชีวิตหรืออาจจะ
00:18:37 → 00:18:40 รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าอะไรเงี้ยจริงๆ
00:18:40 → 00:18:43 จริงๆตัวเองอาจจะมีค่ามากจนคนอื่นเนี่ย
00:18:43 → 00:18:47 เขาชี้นิ้วก็ได้นะผมเองเนี่ยก็เคยอไม่
00:18:47 → 00:18:50 อยากเล่าเรื่องตัวเองนะแต่ว่าผมเคยผ่าน
00:18:50 → 00:18:53 ขั้วร้ายๆในชีวิตอย่างเงี้ย
00:18:53 → 00:18:56 มาก็คือเราอยู่ในที่ที่เราแสดงออกมากไม่
00:18:56 → 00:19:00 ได้แล้วเราต้องเงียบอยู่ตลอดเวลาแล้วมัน
00:19:00 → 00:19:03 ทุกข์มากเลยนะผมก็ไม่เคยเล่าให้ใครฟังนะ
00:19:03 → 00:19:07 ว่ามันก็ผลส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตผม
00:19:07 → 00:19:11 มากช่วงนึงของชีวิตเนี่ยที่ผมต้องเทรน
00:19:11 → 00:19:14 เนี่ยคือการเทรนแพทย์มันมันเหนื่อยอยู่ละ
00:19:14 → 00:19:16 แล้วยิ่งมาเทรนในสายที่ต้องดูแลผู้ผู้
00:19:16 → 00:19:20 ป่วยวิกฤตเนี่ยมันความรับผิดชอบสูงแล้ว
00:19:20 → 00:19:24 ความกดดันแล้วก็มันเหนื่อยล้ามากนะ
00:19:24 → 00:19:29 ครับแต่ขอไม่ลงลึกแต่ว่าผมอาจจะอยู่ใน
00:19:29 → 00:19:30 สภาพ
00:19:30 → 00:19:34 ที่ที่ผมอาจจะแสดงศักยภาพตัวเองไม่ได้
00:19:34 → 00:19:37 เต็มที่เนื่องด้วยสาเหตุอะไรบางอย่าง
00:19:37 → 00:19:40 เบื้องหลังอีกก็ขอไม่ลงลึกแต่มันทำให้
00:19:40 → 00:19:43 เกิดแรงกดดันลึกๆ
00:19:43 → 00:19:48 แล้วมันพูดกับใครไม่ได้อือันนี้ผมขอเฉลย
00:19:48 → 00:19:53 วันนี้เลยนะผมจำได้เลยผม 2 ปีเต็มๆนะผม
00:19:53 → 00:19:56 ต้องหาวิธีมิทตัวเองเพื่อที่จะเอาให้ถึง
00:19:56 → 00:20:00 ฝั่งผมก็จะจะคิดหลายทีะอืจะควิดหลายทีจะ
00:20:00 → 00:20:04 ควิดหลายทีนะแต่ว่าก็มีภรรยาแล้วก็มีคนใน
00:20:04 → 00:20:07 บ้านนี่แหละที่พยายามดันว่าเาเชื่อว่าผม
00:20:07 → 00:20:11 เก่งก็คือเขาอาจจะเชื่อว่าผมเก่งแต่แค่เา
00:20:11 → 00:20:15 แค่รู้สึกว่าเราไปอยู่ในเวทีที่ที่คนมัน
00:20:15 → 00:20:19 มันเป็นอีกแบบนึงอ่ะมันต้องอาศัยคับๆขาๆ
00:20:19 → 00:20:21 ต้องก้มหน้าก้มตาอย่างเดียวอะไรอย่าง
00:20:21 → 00:20:26 เงี้ยมันแล้วมันอึดอัดมากอือ 2 ปีเต็มๆผม
00:20:26 → 00:20:29 จะต้องฟัง motivation เช้าเย็นเช้าเย็น
00:20:29 → 00:20:32 เช้าเย็นหาวิธี
00:20:32 → 00:20:36 มิททุกเช้าเวลาตอนนั้นขี่มอเตอร์ไซค์ไปไป
00:20:36 → 00:20:37 ไปเทรนนะ
00:20:38 → 00:20:41 ก็น้ำตาก็จะไหลนะอันนี้ไม่ได้บอกใครเลย
00:20:41 → 00:20:46 น้ำตาก็จะไหลมันผสมกันน่ะอารมณ์มันเจ็บใจ
00:20:46 → 00:20:52 มันแค้นมันไม่ยอมมันเอาให้ถึงบมคือมันมัน
00:20:52 → 00:20:56 มัน mi Feeling มากอือแต่ว่าก็ยังโชคดี
00:20:56 → 00:21:00 ว่ายังไม่ถึงขั้นที่มันจะต้องกลายมาเป็น
00:21:00 → 00:21:03 แบบต้องทำร้ายตนเองหรือว่าด้อย่าแต่ด้อย
00:21:03 → 00:21:07 ค่าเนี่ยมีเลยครับมันมาถึงจุดที่แบบเจอ
00:21:07 → 00:21:09 เจออะไรบางอย่างที่เหมือนเขาทำให้เรารู้
00:21:09 → 00:21:15 สึกว่าเราด้อย่ามากๆซึ่ง
00:21:15 → 00:21:19 ซึผมผมผมเข้าใจความรู้สึกคุณเลยนะว่าว่า
00:21:19 → 00:21:23 ว่าเป็นยังไงนะแต่ anyway ก็วันนี้คุณได้
00:21:23 → 00:21:26 แสดงให้เห็นเลยครับว่าจากคนๆนึงที่ที่
00:21:26 → 00:21:29 กำลังขาลงแล้วขึ้นมามันไม่ใช่ขึ้นมาเป็น
00:21:29 → 00:21:30 คน
00:21:30 → 00:21:34 ธรรมดาขึ้นมาเป็นคนที่เป็น CEO เป็นผู้นำ
00:21:34 → 00:21:37 และเป็นผู้ชักชวนหรือเป็น influencer ใน
00:21:37 → 00:21:40 ด้าน mental Health ระดับโลกเนี่ยผมขอ
00:21:40 → 00:21:43 ชื่นชมว่าคุณมีความเก่งมากนะครับแล้ว
00:21:43 → 00:21:50 ก็ผมว่าคนฟังก็ไม่มีใครคิดเลยฮะว่ามนก็
00:21:50 → 00:21:53 ไม่ได้คิดครับคุณหมอเข้าใจใช่ครับลิขิต
00:21:53 → 00:21:56 บรรพพาเราไปจริงๆผมก็เชื่อเรื่องพวกนี้นะ
00:21:56 → 00:21:59 บางทีเราอาจจะต้องกัดฟันผ่านคลื่นอะไรบาง
00:21:59 → 00:22:02 อย่างนะอืที่มันคือมนุษย์อ่ะนะเวลามัน
00:22:02 → 00:22:06 ผ่านจุดที่มันกำลังิ Rock Bottom เนี่ย
00:22:06 → 00:22:09 บางทีก็ต้องถ้ากัดฟันพ้นไปได้นะมันก็จะ
00:22:09 → 00:22:12 เริ่มเห็นอะไรบางอย่างครับแต่หลายคนถ้า
00:22:12 → 00:22:14 ไม่มีเค้าเรียกว่าอย่างที่คุณพูดซพ System
00:22:14 → 00:22:17 อ่ะผมว่าคุณโชคดีก็เพราะว่าครอบครัวคุณ
00:22:17 → 00:22:20 อยู่กับคุณทุกโค้งเลยเนาะใชเนาะใชใช่ครับ
00:22:20 → 00:22:22 ครอบครัวทั้งคุณพ่อคุณแม่เหมือนพร้อม
00:22:22 → 00:22:25 สนับสนุนทุกอย่างพร้อมสนับสนุนทุกอย่าง
00:22:25 → 00:22:27 พี่สาวพร้อมสนับสนุนทุกอย่างเพื่อนรอบ
00:22:27 → 00:22:31 ข้างพร้อมไม่เข้าใจแต่พร้อมผมว่าอันนั้น
00:22:31 → 00:22:35 เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆเลยคือเค้าเป็น
00:22:35 → 00:22:38 เหมือนเค้าเรียกว่าอะไร
00:22:38 → 00:22:41 อ่ะเสื้อชูชีพให้เราอ่ะครับในวันที่เราจะ
00:22:41 → 00:22:43 จมน้ำอ่ะเค้าคือเสื้อชูชีพให้เราให้เรา
00:22:44 → 00:22:46 ไม่จมให้เราเราต่อไปได้ใช่ครับอย่างน้อย
00:22:46 → 00:22:57 ให้เราไปถึงฝั่งให้ได้
00:22:57 → 00:23:00 ครับ y