00:00:00 → 00:00:03 This Is tha PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:07 Voice เด็กรุ่นใหม่เเขาจะเสพติด
00:00:07 → 00:00:09 เทคโนโลยีวันละหลายชั่วโมงหรือว่าแทบทั้ง
00:00:10 → 00:00:12 วันเลยหลงผิดได้ง่ายกับการให้ความสำคัญ
00:00:12 → 00:00:14 ต่อตัวตนในโลกออนไลน์พฤติกรรมที่ต้อง
00:00:14 → 00:00:17 ระวังก็คือจะติดอุปกรณ์เทคโนโลยีเช่น
00:00:17 → 00:00:19 โทรศัพท์มือถือแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์โลก
00:00:19 → 00:00:23 ส่วนตัวสูงความฉลาดทางอารมณ์ลดลงใจร้อนรอ
00:00:23 → 00:00:26 ไม่ได้เสียงเป็นโรคสมาธิสั้นภาวะออทิสติก
00:00:26 → 00:00:31 เทียมโรคขี้เกียจโรคอ้วนเศร้าโรคไมเกรน
00:00:31 → 00:00:33 โรคเกี่ยวกับ
00:00:33 → 00:00:37 ตาฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทยฟัง
00:00:37 → 00:00:41 รายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงษ์สถิตพรค่ะ
00:00:41 → 00:00:44 This Is Toy PBS podcast เอาล่ะค่ะ
00:00:44 → 00:00:48 คุณผู้ฟังคะวันนี้เราจะมาพูดคุยกันถึง
00:00:48 → 00:00:52 เรื่องของเด็กในยุคดิจิทัลนะคะเป็นยังไง
00:00:52 → 00:00:55 ไม่รู้เหมือนกันแต่ว่าเด็กในยุคนี้เค้ามี
00:00:55 → 00:00:58 ความเสี่ยงในการที่จะเกิดโรคอะไรได้บ้าง
00:00:58 → 00:01:00 นะคะน่าสนใจมากๆเลยทีเดียวเดี๋ยววันนี้
00:01:00 → 00:01:02 คุยกับแพทย์หญิงกิตติยาศรีเลิศฟ้าแพทย์
00:01:02 → 00:01:07 อายุรกรรมฝ่ายการแพทย์ AIA ค่ะสวัสดีค่ะ
00:01:07 → 00:01:11 ก็คุณหมอคะวันนี้คุยกันค่ะต้องบอกว่าเป็น
00:01:11 → 00:01:14 เด็กยุคดิจิทัลไอ้คำว่าเด็กยุคดิจิทัล
00:01:14 → 00:01:17 เนี่ยฟังดูแล้วก็จะงงๆถ้าเราบอกว่าเป็น
00:01:17 → 00:01:20 เจนนั้นเเรชนั้นเเรชนี้ยังพอเข้าใจใช่
00:01:20 → 00:01:25 มั้ยคะค่ะอืก็เอาเป็นรวมๆว่าจะเป็นเด็ก
00:01:25 → 00:01:28 เจนอัลฟ่ากับเด็ก Gen Z แล้วกันถ้าเป็น
00:01:28 → 00:01:30 เด็ก Gen Z นี่ก็คือคือคนที่เกิดในช่วง
00:01:30 → 00:01:33 ปี 2538 -
00:01:33 → 00:01:36 2552 เพราะฉะนั้นปัจจุบันปี 2567 เนี่ย
00:01:36 → 00:01:40 เขาจะมีอายุประมาณ 15-29 ปีก็ไม่เด็กแล้ว
00:01:40 → 00:01:43 นะแต่ว่าประมาณ 15 166 ก็ยังพอว่าเป็น
00:01:43 → 00:01:47 วัยรุ่นอยู่นะเนี่ยกลุ่มเจนเนี่จะเติบโต
00:01:47 → 00:01:49 มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่
00:01:49 → 00:01:51 อยู่แวดล้อมใช่มยตั้งแต่สมัยเขาเนี่ยแล้ว
00:01:51 → 00:01:54 ก็มีความสามารถในการใช้งานเทคโนโลยีต่างๆ
00:01:54 → 00:01:57 แล้วก็เรียนรู้ได้เร็วอืส่วนเด็กเจน
00:01:57 → 00:02:01 แอลฟ่าเนี่ยคือเด็กที่เกิดในปี 2005 553
00:02:01 → 00:02:05 จนถึงปัจจุบันก็คืออายุตั้งแต่ 14 ปีลงไป
00:02:05 → 00:02:08 ค่ะนะคะเป็นวัยที่เกิดมาพร้อมกับโลกุยุค
00:02:08 → 00:02:11 ดิจิทัลอย่างแท้จริงเลยล่ะอืมีความพรั่ง
00:02:11 → 00:02:13 พร้อมด้วยระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
00:02:13 → 00:02:17 เทคโนโลยีใหม่ๆกลายเป็นส่วนหนึงของชีวิต
00:02:17 → 00:02:19 ประจำวันของเขาแทบทุกเรื่องตั้งแต่ด้าน
00:02:19 → 00:02:23 การศึกษาการพัฒนาทักษะความบันเทิงการติด
00:02:23 → 00:02:26 ต่อสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆแล้วก็
00:02:26 → 00:02:29 แอปพลิเคชันต่างๆที่ล้วนเปิดโอกาสให้เด็ก
00:02:29 → 00:02:32 เจอ่ามีโอกาสเรียนรู้แล้วก็อยู่ติดกับ
00:02:32 → 00:02:36 หน้าจอตลอดเวลาอืคืออันเนี้ยเห็นภาพชัด
00:02:36 → 00:02:38 มากถ้าเกิดว่าอัลฟ่าเนาะใช่แล้วก็ถ้าเกิด
00:02:38 → 00:02:40 คุณผู้ฟังที่ฟังรายการอยู่อ่ะเป็นเจน
00:02:40 → 00:02:44 เดียวกับเราเจนเดียวกับกับคุณหมอกับ
00:02:44 → 00:02:47 สุรีพรเนี่ยก็จะรู้เลยว่ามันมีความแตก
00:02:47 → 00:02:50 ต่างกันค่ะอยู่มากๆเลยเรื่องของเทคโนโลยี
00:02:50 → 00:02:54 ใช่มั้ยคะใช่ๆอแต่ว่าในขณะเดียวกันเนี่ย
00:02:54 → 00:02:57 คืออย่างอย่าคุณหมอเองก็ใช้เทคโนโลยี
00:02:57 → 00:03:01 เหมือนกันนะคะเราก็อยู่กับหน้าจอพอสมควร
00:03:01 → 00:03:04 แต่ก็อาจจะไม่ได้ตลอดเวลาแต่เราต้องเรียน
00:03:04 → 00:03:07 รู้เทคโนโลยีใหม่ๆแต่เด็กรุ่นใหม่ๆเนี่ย
00:03:07 → 00:03:10 โอ้โหเมาแบบเคเรียนรู้แป๊บเดียวทุกอย่าง
00:03:10 → 00:03:12 เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกสะดวกสบายหมดทุก
00:03:12 → 00:03:16 อย่างเลยอ่ะอืนะคะแต่มันก็มีทั้งข้อดีและ
00:03:17 → 00:03:21 ข้อเสียถูกป่ะใช่ๆก็เทคโนโลยียุคดิจิทัล
00:03:21 → 00:03:25 เนี่ยมันจะมีทั้งประโยชน์แล้วก็โทษทีนี้
00:03:25 → 00:03:28 การใช้หน้าจอแล้วก็เทคโนโลยีในการเรียน
00:03:28 → 00:03:31 รู้ของเด็กปฐมวัเนี่ยจะเกิดประโยชน์มาก
00:03:31 → 00:03:34 น้อยขึ้นอยู่กับการดูแลเอาใจใส่ของครู
00:03:34 → 00:03:37 หรือผู้ปกครองเป็นสำคัญนะรวมไปถึงการควบ
00:03:37 → 00:03:40 คุมแบ่งเวลาการใช้งานอย่างเหมาะสมทำให้
00:03:40 → 00:03:42 เด็กเนี่ยได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆอย่างสนุก
00:03:42 → 00:03:45 สนานจนเกิดเป็นความคิดสร้างสรรค์เปิด
00:03:45 → 00:03:48 โอกาสให้เขามองเห็นความชอบหรือความสนใจ
00:03:48 → 00:03:51 ของเด็กก็จะส่งผลให้เกิดประโยชน์ที่เอื้อ
00:03:51 → 00:03:53 ต่อการเรียนรู้ของเด็กค่ะจะได้ส่งเสริม
00:03:53 → 00:03:56 พัฒนาการความถนัดของเขาให้ถูกทางกลายเป็น
00:03:56 → 00:04:00 เด็กที่มีศักยภาพในการทำสิ่งที่ตัวเองชอบ
00:04:00 → 00:04:03 ได้เป็นอย่างดีอืแต่ว่าถ้าเราละเลปล่อย
00:04:03 → 00:04:06 ให้เทคโนโลยีและสื่อดิจิทอลเข้ามามีบทบาท
00:04:06 → 00:04:10 ต่อการดำเนินชีวิตจนส่งผลต่อสุขภาพทั้ง
00:04:10 → 00:04:13 ร่างกายจิตใจเนี่ยรวมไปถึงพัฒนาการต่างๆ
00:04:13 → 00:04:16 เนี่ยการปล่อยให้เด็กปถมวัยอยู่กับหน้าจอ
00:04:16 → 00:04:19 การใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้เนี่ยก็จะ
00:04:19 → 00:04:22 ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลถ้าครูหรือผู้ปก
00:04:22 → 00:04:25 ครองมีการใช้อย่างถูกวิธีนะรู้จักเลือก
00:04:25 → 00:04:28 สื่อที่เหมาะสมกับวนของเขาคพร้อมกับดูแล
00:04:28 → 00:04:31 พูดคุยเอาใจใส่เด็กอย่างใกล้ชิดรวมถึงการ
00:04:31 → 00:04:34 ควบคุมและกำหนดเวลาการใช้หน้าจออย่าง
00:04:34 → 00:04:37 เหมาะสมอืก็คือมีทั้งประโยชน์และโทษแหละ
00:04:37 → 00:04:41 ค่ะค่ะถ้าถ้าเหมาะสมก็คือมีการจำกัด
00:04:41 → 00:04:43 เรื่องเวลาเรื่องของการเข้าไปสืบค้นข้อ
00:04:43 → 00:04:46 มูลหรือเข้าไปดูอะไรในโลกดิจิทัลแบบเนี้ย
00:04:46 → 00:04:48 ก็จะเป็นประโยชน์สำหรับเรื่องของการเรียน
00:04:49 → 00:04:51 การเรียนรู้ของเขาได้เพราะทุกอย่างมัน
00:04:51 → 00:04:54 ง่ายไปหมดเลยไม่ได้เหมือนสมัยก่อนที่กว่า
00:04:54 → 00:04:58 จะค้นหาข้อมูลนี่ไปหอสมุดไปห้องสมุดไป
00:04:58 → 00:05:02 ห้องสมุดไปซีลอกหือยืมมาทำรายงานทีนึงนี่
00:05:02 → 00:05:06 โอ้โหหลายเล่มเลยคัดลายมือกันสนุกเลยนะคะ
00:05:06 → 00:05:10 กระดาษฟูสกปคุณหมอทันค่ะแอน้องหนีก็ทัน
00:05:10 → 00:05:13 น้องีถึงพูดถูกอ่ะยังรู้สาหจำชื่อได้ด้วย
00:05:13 → 00:05:18 นะเอแต่ว่ามันก็ยุคเนี้ยมันมันรวดเร็วมาก
00:05:18 → 00:05:20 เลยค่ะคุณหมอแล้วก็ค่ะอันเนี้ยอย่างนึง
00:05:20 → 00:05:24 เพราะว่าจะเห็นว่าเดี๋ยวเยสมัยเนี้ยพ่อ
00:05:24 → 00:05:27 แม่ทำการบ้านให้ลูกด้วยนะใช่
00:05:27 → 00:05:32 อืงงมากเลยเลยอ่ะไม่ทันใจไงกลัวเดี๋ยวผล
00:05:32 → 00:05:36 งานออกมาของลูกออกมาไม่ดีอือ่าก็เลยแย่ง
00:05:36 → 00:05:41 ทำซะเลยแย่ทำเลยนะคะแต่ว่าการที่อยู่กับ
00:05:41 → 00:05:44 ดิจิทอลแบบเหรือว่าอยู่กับพวกเอ่อ
00:05:44 → 00:05:46 เทคโนโลยีเหล่าเนี้ยมากมากมันก็ไม่ได้
00:05:46 → 00:05:50 เป็นผลดีกับตัวเราใช่มั้ยคะใช่ค่ะคราวนี้
00:05:50 → 00:05:53 ก็พฤติกรรมของเด็ก Gen Z กับเจน Alpha
00:05:53 → 00:05:56 ที่ต้องระวังนะพฤติกรรมที่อาจจะทำให้เกิด
00:05:56 → 00:05:59 โรคต่อไปก็คือเด็กรุ่นใหม่เนี่ยเขาจะเสพ
00:05:59 → 00:06:01 ติดเทเทคโนโลยีวันละหลายชั่วโมงใช่มั้ย
00:06:01 → 00:06:03 หรือว่าแทบทั้งวันเลยแล้วก็หลงผิดได้ง่าย
00:06:03 → 00:06:06 กับการให้ความสำคัญต่อตัวตนในโลกออนไลน์
00:06:06 → 00:06:10 รวมถึงการเล่นเกมของเด็กเนี่ยอก็มากขึ้น
00:06:11 → 00:06:13 พฤติกรรมที่ต้องระวังก็คือเขาเป็นยังไงเ
00:06:13 → 00:06:15 จะติดอุปกรณ์เทคโนโลยีทั้งเช่นโทรศัพท์
00:06:15 → 00:06:18 มือถือแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ติดทุกอย่างนะ
00:06:18 → 00:06:20 โออย่าไปยึดของเขาคนะอย่าไปเอาของเค้ามา
00:06:20 → 00:06:23 นะอ่าใช่เสพติดสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์กและ
00:06:23 → 00:06:26 เกมออนไลน์โลกส่วนตัวสูงพ่อแม่อย่าไปยุ่ง
00:06:26 → 00:06:30 กับเานะมาถึงก็ปิดห้องละนะความฉลาดทาง
00:06:30 → 00:06:33 อารมณ์ลดลงใจร้อนรอไม่ได้นะคะท่านผู้ฟัง
00:06:33 → 00:06:37 ลองลองดูว่าเอ่อบุตรหลานของท่านเนี่ยมี
00:06:37 → 00:06:40 กี่ข้อแล้วพฤติกรรมแบบนี้ตามกระแสแฟชั่น
00:06:40 → 00:06:45 ค่ะนะคะใช่อันนี้ก็คือพฤติกรรมที่มันจะ
00:06:45 → 00:06:49 ก่อให้เกิดโรคในอนาคตอืค่ะแต่ทีนี้มันไม่
00:06:49 → 00:06:51 ได้แค่ว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องระวังอย่าง
00:06:51 → 00:06:54 เดียวเพราะว่าพฤติกรรมพวกเนี้ยมันมีผล
00:06:54 → 00:06:58 กระทบจริงๆที่แบบว่าโอ้โหเขาคก็เค้าเรียก
00:06:58 → 00:07:00 ว่าเป็นงานวิจัยเลยเว่าะได้ใช่มั้ยคะใช่
00:07:00 → 00:07:04 คือมันมีตัวอย่างออกมาเยอะแยะแล้วว่า
00:07:04 → 00:07:06 พฤติกรรมที่เสพติดเทคโนโลยีเนี่ยเสี่ยง
00:07:06 → 00:07:09 ให้เกิดโรคใดบ้างเช่นนะคะท่านผู้ฟัง
00:07:09 → 00:07:12 เสี่ยงเป็นโรคสมาธิสั้นอืภาวะออทิสติก
00:07:12 → 00:07:17 เทียมอืภาวะโรคขี้เกียจเดี๋ยวเราจะพูด่อ
00:07:17 → 00:07:20 โรคขี้เกียจเป็นไงโรคอ้วนโรคซึมเศร้าอโรค
00:07:20 → 00:07:24 ไมเกรนโรคเกี่ยวกับตาเห็นมั้ยว่า
00:07:24 → 00:07:28 โอ้โหเยอะอ่ะพฤติกรรมใช่เดี๋ยวเรามาค่อยๆ
00:07:28 → 00:07:31 ไปแกะไปวทีโรคนะนะคะค่ะค่ะอืคืออันเนี้ย
00:07:31 → 00:07:35 ที่มาคุยกันเนี่ยเพราะว่าก็อยากให้คุณพ่อ
00:07:35 → 00:07:38 คุณแม่ผู้ปกครองหรือใครที่ฟังรายการอยู่
00:07:38 → 00:07:40 จะเป็นน้องๆวัยรุ่นเองก็ตามเนี่ยนะคะจะ
00:07:40 → 00:07:42 ได้ระมัดระวังกับการที่เราจะอยู่ใน
00:07:42 → 00:07:45 โซเชียลมากๆบางทีเราอยู่แล้วเราอาจจะไม่
00:07:45 → 00:07:49 ได้รู้ว่ามันจะก่อให้เกิดอะไรตามมามากมาย
00:07:49 → 00:07:52 ขนาดนี้นะคะจะได้เรียนรู้กันไปเนาะคค่ะอื
00:07:52 → 00:07:56 ก็โรคแรกนะคะก็เสี่ยงเป็นโรคสมาธิสั้นอ
00:07:56 → 00:07:57 โรคสมาธิสั้นนี่ก็ทราบว่ามันเกิดจาก
00:07:58 → 00:08:00 พันธุกรรมใช่มั้ยแต่แต่พฤติกรรมเองเนี่ย
00:08:00 → 00:08:03 ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เด็กเป็นโรคสมาธิ
00:08:03 → 00:08:06 สั้นได้เช่นการเล่นเกมการดูทีวีหรือเล่น
00:08:06 → 00:08:09 มือถือเป็นเวลานานๆหลายชั่วโมงมองผิวเผิน
00:08:09 → 00:08:12 เนี่ยดูเหมือนจะเด็กจะมีสมาธิดีอุ๊ยตาย
00:08:12 → 00:08:16 ลูกฉันมีสมาธิดีจังเลยเล่นเกมได้นานอ่ะมี
00:08:16 → 00:08:18 ดีแต่ว่าความจริงแล้วเนี่ยเป็นสิ่งเร้า
00:08:18 → 00:08:21 ที่ทำให้เด็กจดจ่อรู้สึกสนุกแต่พอไม่ต้อง
00:08:21 → 00:08:23 ไปเรียนหนังสือเนี่ยครูสอนเนี่ยจะทำให้
00:08:23 → 00:08:27 เบื่อแล้วก็ขาดสมาธิที่จะสนใจเนื่องจาก
00:08:27 → 00:08:29 เด็กเนี่ยจะจดจ่ออยู่กับการเคลื่อนไหวที่
00:08:29 → 00:08:31 รวดเร็วทันใจผ่านภาพผ่านเสียงที่อยู่บนจอ
00:08:31 → 00:08:35 ตลอดเวลาแต่คุณครูไม่ใช่แบบนั้นนะคะส่งผล
00:08:35 → 00:08:38 ให้เด็กเสียสมาธิไม่สามารถจดจ่อกับการดู
00:08:38 → 00:08:41 สิ่งใดสิ่งนึงได้นานๆค่ะเวลาสอนครูสอน
00:08:41 → 00:08:44 หรือทำกิจกรรมเสริมพัฒนาต่างๆเด็กจะให้
00:08:44 → 00:08:48 ความสนใจน้อยลงแล้วก็มีความจำที่ลดลงด้วย
00:08:48 → 00:08:52 ค่ะคราวนี้ท่านผู้ฟังลองดูนะเอ่อเด็กที่
00:08:52 → 00:08:54 บ้านเป็นเป็นแบบนี้มยอาการของเด็กสมาธิ
00:08:54 → 00:08:59 สั้นนะคะทำงานไม่เสร็จวอกแวกง่ายอืสะพรข
00:08:59 → 00:09:02 ขี้ลืมทำอะไรนานๆไม่ได้เปลี่ยนกิจกรรม
00:09:02 → 00:09:06 บ่อยค่ะอยู่ไม่สุกขยับตัวตลอดเวลาหรือพูด
00:09:06 → 00:09:10 ไม่หยุดหุนหันพันแล่นขี้โมโหอ่ะอือแล้วก็
00:09:10 → 00:09:16 อดทนรออะไรนานๆไม่ได้อือ่าเออต้องต้อง
00:09:16 → 00:09:19 สังเกตละอันนี้คืออาจจะสมาธิสั้นค่ะนะ
00:09:19 → 00:09:22 เสียงเป็นโรคสมาธิสั้นโอแต่ไม่มีแค่นี้นะ
00:09:22 → 00:09:25 เพราะว่าเมื่อกี้ติดใจคำว่าอิสติเม
00:09:25 → 00:09:28 ออทิสติกเทียมใช่มั้เด็กยุ่งใหม่เนี่ย
00:09:28 → 00:09:31 เป็นออทิสติดเทียมกันมากขึ้นเนื่องจากว่า
00:09:31 → 00:09:33 การเลี้ยงดูของพ่อแม่เนี่ยมักใช้โทรศัพท์
00:09:33 → 00:09:36 แท็บเล็ตทีวีเป็นเครื่องมือในการเลี้ยงดู
00:09:36 → 00:09:40 บุตรเครื่องมือในการเลี้ยงดูยังไงก็ก็เอา
00:09:40 → 00:09:43 โทรเอาโทรศัพท์แท็บเล็ตให้ลูกไปแล้วพ่อ
00:09:43 → 00:09:47 แม่ก็ทำทำงานไปอาจจะทำงานที่บ้านทำงาน
00:09:47 → 00:09:51 บ้านหรืออะไรก็เด็กก็เล่นโทรศัพท์ไปก็จะ
00:09:51 → 00:09:54 ได้จดจ่อแล้วก็ไม่มากวนไม่งออ่าอย่างงั้น
00:09:54 → 00:09:57 อย่างงั้นก็สบายทั้งคู่ใช่มั้ยคะทีเนี้ย
00:09:57 → 00:09:59 การปล่อยให้เด็กอยู่กับหน้าจอนานๆเนี่ย
00:09:59 → 00:10:03 เด็กเนี่ยจะได้รับการสื่อสารทางเดียวนะ
00:10:03 → 00:10:06 ไม่มีโอกาสได้ฝึกพูดโต้ตอบกับคนอื่นอือนะ
00:10:06 → 00:10:09 ส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการด้านภาษาการสื่อ
00:10:09 → 00:10:13 สารทักษะการเข้าสังคมเนี่ยช้ากว่าปกติรวม
00:10:13 → 00:10:16 ถึงส่งผลให้เด็กเนี่ยพูดช้าแล้วก็พูดไม่
00:10:16 → 00:10:19 ชัดด้วยอือ่าภาวะออทิสติกเทียมเช่นอะไร
00:10:20 → 00:10:23 ไม่มองหน้าหรือพูดคุยกับผู้อื่นเก็บตัว
00:10:23 → 00:10:28 พูดช้าเผ่าวัยแล้วก็ก้าวร้าวอืก็ใจแบบ
00:10:28 → 00:10:31 เป็นต้นใจจดใจจ่ออยู่กับหน้าจออย่างเดียว
00:10:31 → 00:10:33 เลยไม่แบบไม่คุยกับใครไม่มีปฏิสัมพันธ์
00:10:33 → 00:10:35 หรือว่าโต้ตอบอะไรใครใช่ใช่ว่าโต้ตอบกับ
00:10:35 → 00:10:37 อยู่ในโทรศัพท์ของเคนั่นแหละอืคือเหมือน
00:10:37 → 00:10:40 อาจก็เขี่เล่นเกมเล่นอะไรไปอาจจะแค่พยัก
00:10:40 → 00:10:43 หน้ากับหน้าจอไปเรื่อยๆอะไรอย่างงี้ป่ะ
00:10:43 → 00:10:46 ใช่ๆเออเนาะเออแต่ว่าอันนี้อิสติเทียม
00:10:46 → 00:10:49 เทียมเนี่ยค่ะก็คือเขาสามารถที่จะกลับมา
00:10:49 → 00:10:52 ปกติได้ใช่มั้ยได้ค่ะก็ต้องรีบปรับ
00:10:52 → 00:10:55 พฤติกรรมคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องปรับด้วยอโอห
00:10:55 → 00:10:57 กว่าจะสังเกตกว่าจะรู้กว่าจะอะไรมันจะ
00:10:57 → 00:11:02 เกินไปเยียวยาไหวน่ะมันต้องแก้ไขได้อ่า
00:11:02 → 00:11:05 แต่ก็ดีกว่าอทิติจริงๆอ่ะเนาะอือฮึต่อไป
00:11:05 → 00:11:07 ต่อไปโรคขี้เกียจค่ะโรคขี้เกียจอันนี้ไม่
00:11:07 → 00:11:09 น่าจะเป็นโรคของเด็กยุคดิจิตอลอย่างเดียว
00:11:09 → 00:11:12 นะอ่าอย่างงี้บางทีก็ขี้คืนเหมือนกันเค้า
00:11:12 → 00:11:15 เรียกเ้าเรียกเคช cch Potato หื c o u
00:11:16 → 00:11:19 c h couch แล้วก็ Potato อืมันฝรั่ง
00:11:19 → 00:11:23 ถ้าแปลตามตัวเลยก็คือโซฟามันฝรั่งคือไง
00:11:23 → 00:11:26 โลกขี้เกียจโรคเป็นโรคฮิตใหม่ของเด็กยุค
00:11:26 → 00:11:29 ดิจิทัลก็คือการปล่อยให้ลูกจดจ่ออยู่กับ
00:11:29 → 00:11:32 โทรทัศน์หรือมือถือทท่องลท่องโลก
00:11:32 → 00:11:34 อินเทอร์เน็ตผ่านคอมพิวเตอร์หรือ
00:11:34 → 00:11:37 สมาร์ทโฟนเนี่ยจะทำให้เด็กเสพติดการนั่งๆ
00:11:37 → 00:11:41 นอนๆจนไม่ขยับเขยื้อนร่างกายไม่ลุกไปทำ
00:11:41 → 00:11:45 กิจกรรมอื่นค่ะจนกลายเป็นภาวะเคชโตตหรือ
00:11:45 → 00:11:49 โรคขี้เกียจส่งผลให้เด็กเฉื่อยชาอืน้องลี
00:11:49 → 00:11:52 ก็จะบอกว่าผู้ใหญ่ก็เป็นบางทีใช่มบางที
00:11:53 → 00:11:55 แบบว่าดูซีรีส์สมมุติเสาร์อาทิตย์หยุดงาน
00:11:55 → 00:11:58 โอ๊ยมันเหนื่อยเหลือเกินพักผ่อนใช่ค่ะ
00:11:58 → 00:12:02 แล้วก็จะต้องต้องมีขนมขบเคี้ยวนะคะเอก็
00:12:02 → 00:12:04 เข้าใจคำว่าโปเตโตแล้วแหละเพราะว่าแบบพวก
00:12:04 → 00:12:08 ขนมขบเคี้ยวบางทีก็มาจากฝรั่งอยู่บนโซฟา
00:12:08 → 00:12:10 ไม่ขยับเขยื้อนร่างกายอะไรแบบนี้ค่ะ
00:12:10 → 00:12:12 พฤติกรรมเนื่อยนิ่งสุดอะไรอย่างเงี้ย
00:12:12 → 00:12:14 เนื่อยนิ่งใช่ทีนี้เมื่อร่างกายตกอยู่ใน
00:12:14 → 00:12:18 พาวะเา Potato เป็นเวลานานๆเนี่ยร่างกาย
00:12:18 → 00:12:21 ก็จะไม่ได้รับการยืดหยุ่นกล้ามเนื้อทำให้
00:12:21 → 00:12:25 เด็กเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนนะคะก็โรคขี้
00:12:25 → 00:12:28 เกียจเสร็จก็ตามด้วยโรคอ้วนตามมาสิตนี้เ
00:12:28 → 00:12:29 ก็ไม่ได้ขยับเขยือนร
00:12:29 → 00:12:32 ใช่อันนี้พฤติกรรมที่ทำให้เกิดโรคอ้วนก็
00:12:32 → 00:12:35 คือนั่งหรือนอนเล่นสมาร์ทโฟนชอบกินของ
00:12:35 → 00:12:38 หวานด้วยนั่งหรือนอนนิ่งๆเป็นเวลานานกิน
00:12:38 → 00:12:42 ฟาสฟู้ดสั่งอาหารออนไลน์ได้ง่ายสั่งเอง
00:12:42 → 00:12:45 ด้วยเด็กอ่ะนะเก่งใช่ไม่ออกไปทำกิจกรรม
00:12:45 → 00:12:48 นอกบ้านหรือออกกำลังกายนะไม่เหมือนกับ
00:12:48 → 00:12:50 เด็กสมัยก่อนที่ยามว่างก็จะออกไปเล่นกับ
00:12:50 → 00:12:54 เพื่อนแบบนี้ใช่มครีนี้โรคอ้วนจะทำไงโรค
00:12:54 → 00:12:57 อ้วนต่อไปก็เป็นความดันสิจ๊ะความดันโรค
00:12:57 → 00:13:01 หลอดเลือดหัวใจโรคเบาหวานค่ะอ่ะเห็นมั้ย
00:13:01 → 00:13:03 มาพร้อมกันเป็นตั้งแต่เด็กนะเดี๋ยวนี้คือ
00:13:03 → 00:13:06 อายุน้อยลงไปเรื่อยๆนะเออต้องระวังด้วยนะ
00:13:06 → 00:13:09 คะไม่ใช่แบบว่าตอนเด็กๆดูแบบอ้วนท้วน
00:13:09 → 00:13:11 สมบูรณ์ดีน่า
00:13:11 → 00:13:13 รัก่เอออะไรอย่างงี้โตมาก็เดี๋ยวผอมเอง
00:13:14 → 00:13:17 แหละเดี๋ยวพอตัวยึดๆดสูงๆก็จะผอมเองไม่
00:13:17 → 00:13:20 ใช่นะคะมันสะสมนะคะเดี๋ยวนี้เนี่ยมันคนละ
00:13:20 → 00:13:23 แบบกันใช่คค่ะคราวนี้จากโรคอ้วนไปโรคปวด
00:13:23 → 00:13:27 ศีษะและไมเกรนอุ๊ยเป็นได้ดยเด็กค่ะอโรค
00:13:27 → 00:13:29 ไมเกรนเไม่ได้เกิดแต่กับผู้ใหญ่เท่านั้น
00:13:29 → 00:13:32 นะเด็กเนี่ยก็เป็นโรคนี้ได้ค่ะนะโดยเพราะ
00:13:32 → 00:13:34 ว่าไอ้โรคเยมันเกิดจากสารเคมีเซโรโทนิน
00:13:35 → 00:13:38 ที่ทำหน้าที่ควบคุมการหดขยายของหลอดเลือด
00:13:38 → 00:13:42 ในสมองเนี่ยทำงานผิดปกตินะคะแล้วก็โรคนี้
00:13:42 → 00:13:45 ก็อาจจะเกิดจากกรพันธ์ได้แต่ปัจจัยภายนอก
00:13:45 → 00:13:48 เนี่ยเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวของ
00:13:48 → 00:13:51 หลอดเลือดในสมองมากเกินไปนะแล้วก็เกิดจาก
00:13:51 → 00:13:54 พฤติกรรมการใช้ชีวิตแล้วก็การกินอาหารของ
00:13:54 → 00:13:57 เด็กยุคนี้ค่ะซึ่งพฤติกรรมการกระตุ้น
00:13:57 → 00:13:59 ไมเกรนเนี่ยเช่นอะไรเจ้าแสงสีฟ้าจาก
00:14:00 → 00:14:02 คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือเป็นเวลา
00:14:02 → 00:14:07 นานๆอืความเครียดการอดนอนหรือนอนดึกค่ะนะ
00:14:07 → 00:14:10 ฮะกินอาหารจำพวกแปรรูปหรือกึ่งสำเร็จรูป
00:14:10 → 00:14:13 เป็นประจำกินอาหารติดมันอือันนี้ก็เป็น
00:14:13 → 00:14:16 ตัวกระตุ้นไมเกรนอุ๊ยแต่เด็กๆเเดี๋ยวนี้
00:14:16 → 00:14:18 เามีความเครียดแล้วเหรอคะอุ้ยเครียดสิคะ
00:14:18 → 00:14:22 ออหการบ้านเยอะแยะยากด้วยเออแต่ว่าเห็น
00:14:22 → 00:14:24 ข้อสอบเด็กๆสมัยนี้คือแบบอะไโอ้โหผู้ใหญ่
00:14:25 → 00:14:27 ยังทำไม่ได้เลยคิดยังไง
00:14:27 → 00:14:31 ก่อนโชดีจังที่เราเกิดแล้วใช่ไม่ใช่เด็ก
00:14:31 → 00:14:34 สมัยนี้ค่ะอ่าต่อไปต่อไปอ้าโลกซึมเศร้า
00:14:34 → 00:14:37 เป็นได้ด้วยเออๆๆอันนี้อันนี้มีข่าวบอก
00:14:37 → 00:14:39 เพราะว่าอะไรเพราะว่าข่าวเด็กเป็นโรคซึม
00:14:39 → 00:14:41 เศร้าหรือค่าตัวตายมีให้เห็นเรื่อยๆนะคะ
00:14:42 → 00:14:45 แต่เราไม่ทราบเองแหละนะเนื่องจากเด็กขัด
00:14:45 → 00:14:48 การยอมรับนับถือตัวเองเป็นปัจจัยนึงที่
00:14:49 → 00:14:52 เอ่อเป็นเพราะว่าเด็กเนี่ยยึดติดกับสังคม
00:14:52 → 00:14:54 ออนไลน์มีการเปรียบเทียบชีวิตตนเองกับ
00:14:54 → 00:14:58 เพื่อนหรือผู้อื่นอนะคะติดบ่วงโซเชียลคือ
00:14:58 → 00:15:01 ยังไงเอ่อโซเชียลก็จะโพสต์ของแบรนด์เนม
00:15:01 → 00:15:05 วัตถุนิยมต่างๆโอฉันก็มีตรงนี้ตรงนู้นนะ
00:15:05 → 00:15:08 คะการปรุงแต่งภาพโอ๊ยโฆษณาความงามหรือสัด
00:15:08 → 00:15:12 ส่วนรูปร่างนะฮะใช้แอปแต่งภาพก็สวยงามใช่
00:15:12 → 00:15:17 มั้การนำเสนอชีวิตด้านดีๆสวยหรูของของแต่
00:15:17 → 00:15:21 ละคนนะคะก็คนก็อาจจะสร้างโลกสมมติของตัว
00:15:21 → 00:15:23 เองขึ้นในโลกออนไลน์ทั้งๆที่เป็นจริง
00:15:23 → 00:15:26 เนี่ยไม่ได้เป็นอย่างที่หวังอ่ะแล้วก็โดย
00:15:26 → 00:15:29 ลืมคิดไปว่าคนอื่นที่เราเห็นเนี่ยที่เรา
00:15:29 → 00:15:31 เอาชีวิตไปเปรียบเทียบกับเค้าเนี่ยเค้าก็
00:15:31 → 00:15:33 มีด้านไม่ดีด้านทุกข์ที่เค้าไม่ได้ไม่มา
00:15:33 → 00:15:36 โพสต์ให้เราดูอ่ะเค้าจะโพสต์แต่ด้านดีๆ
00:15:36 → 00:15:39 แล้วเราก็เอาชีวิตของเราเนี่ยไปเปรียบ
00:15:39 → 00:15:41 เทียบกับเขาว่าทำไมนะเราไม่เป็นแบบนี้
00:15:41 → 00:15:45 บ้างแบบโน้นงแล้วก็เกิดความเครียดใช่เกิด
00:15:45 → 00:15:48 อยากได้อยากมีค่ะค่ะแล้วก็บางทีเราอาจจะ
00:15:48 → 00:15:50 ไม่พร้อมด้วยที่ด้วยวัยของเราอ่ะนะคะแล้ว
00:15:50 → 00:15:53 ก็คุณพ่อคุณแม่อาจจะไม่ได้แบบว่าโอโหมี
00:15:53 → 00:15:56 เงินเยอะมากขนาดนั้นบางทีก็อาจจะไปทำอะไร
00:15:56 → 00:15:59 ที่มันไปผิดกฎหมายหรืออะไรอย่างงี้ก็ได้
00:15:59 → 00:16:02 เพราะเพื่อให้เรามีเหมือนคนอื่นเค้าก็ได้
00:16:02 → 00:16:05 อีกเหมือนกันนะอืแล้วก็พอติดกลับดักปุ๊บ
00:16:05 → 00:16:09 ซึมเศร้าอ่ะมันค่อยๆสะสมนะคะแล้วเด็กไม่
00:16:09 → 00:16:12 รู้เท่าทันตัวเองอ่ะใช่ๆก็อาจจะทำให้เกิด
00:16:12 → 00:16:15 แบบเป็นข่าวทุกวันเนี้ยแบบโอ้โหทั้งความ
00:16:15 → 00:16:19 กดดันทั้งอะไรหลายๆอย่างอ่ะเนาะค่ะอืต่อ
00:16:19 → 00:16:22 ไปโรคเกี่ยวกับตาตาอันนี้ชัดเจนมากค่ะ 1
00:16:22 → 00:16:25 ในยุคปัจจุบันเมีปัญหาด้านดวงตาเพราะว่า
00:16:25 → 00:16:29 เราใช้สายตาเพ่งหน้าจอนะคอมพิวเตอร์หรือ
00:16:29 → 00:16:32 สมาร์ทโฟนเป็นเวลานานๆยิ่งอายุน้อยเนี่ย
00:16:32 → 00:16:35 ยิ่งเสี่ยงกับปัญหาสายตามากเลยอือเพราะ
00:16:35 → 00:16:39 ว่าจอรับประสาทตาของเด็กเนี่ยยังพัฒนาไม่
00:16:39 → 00:16:42 เต็มที่ค่ะนะฮะส่วนปัญหาทางตาอื่นๆเช่นตา
00:16:43 → 00:16:47 แห้งเคืองตาตามัวสายตาสั้นตั้งแต่เด็กอัน
00:16:47 → 00:16:50 นี้ก็เป็นได้อืเพราะว่าอยู่กับบางที
00:16:50 → 00:16:53 เดี๋ยวนี้เห็นประถมก็ใส่แม่นตาใส่ตาสั้น
00:16:53 → 00:16:56 กันแล้วอะไรแบบนี้ใช่ๆใส่เมื่อก่อนเนี่ย
00:16:56 → 00:16:58 ตอนตอนที่เรายังเด็กๆอยู่ค่ะเมื่อก่อนก็
00:16:58 → 00:17:01 จะเป็นหนังสือการ์ตูนตาหวานใดๆไม่ได้มี
00:17:01 → 00:17:04 แท็บเล็ตสมาร์ทโฟนน่ะเนาะใช่แต่ว่าจะนอน
00:17:04 → 00:17:06 อ่านหนังสือค่ะไม่ได้อ่านหนังสือเรียนนะ
00:17:06 → 00:17:10 อ่านการ์ตูนอ่ะเค้าก็เนี่ยโดนเตือนมาตลอด
00:17:10 → 00:17:14 ว่าอย่านอนอ่านหนังสือเดี๋ยวสายตาเอียง
00:17:14 → 00:17:16 สายตาสั้นเวลาคือจะอ่านหนังสือต้องเปิดไฟ
00:17:16 → 00:17:21 ให้สว่างไม่ใช่สะลๆอันนี้ก็แอบคุณแม่อ่าน
00:17:21 → 00:17:24 ไงเราก็ต้องปิดไฟไงนอนตะแคงอะไรอย่าง
00:17:24 → 00:17:26 เงี้ยแล้วเป็นไงปัจจุบันทั้งสั้นทั้ง
00:17:26 → 00:17:30 เอียงปัยาวด้วยเห็นมั้ยคืออะไรที่เขาบอก
00:17:30 → 00:17:33 ่ะเราก็เชื่อไว้เหอะนะคะน้องๆหนูๆอ่ะคราว
00:17:33 → 00:17:36 เนี้ยพอพูดถึงเรื่องสายตาแล้วอ่ะก็บอกว่า
00:17:36 → 00:17:39 เราควรจะใช้ให้เด็กเนี่ยใช้เวลากับหน้าจอ
00:17:39 → 00:17:42 มากน้อยแค่ไหนในแต่ละวันอ่าท่านผู้ฟังฟัง
00:17:42 → 00:17:47 นะใชในเสถาบันกุมารแพทย์เลยนะแห่งอเมริกา
00:17:47 → 00:17:51 เลยนะสถาบันกุมารแพทย์เลยนะคะของอเมริกา
00:17:51 → 00:17:54 แล้วก็องค์การอนามัยโลกเลยแหละเขากำหนด
00:17:54 → 00:17:57 เป็นตารางออกมาเลยว่าอายุน้อยกว่า 18
00:17:57 → 00:18:00 เดือนหรือขวบครึ่งเนี่ยไม่ควรใช้เวลากับ
00:18:00 → 00:18:04 หน้าจอเลยไม่ควรใช้เวลากับหน้าจอเลยแต่
00:18:04 → 00:18:07 ปัจจุบันนี้ปรากฏว่าเราว่าคงไม่ใช่เฉพาะ
00:18:07 → 00:18:10 คนไทยหรอกชาติอื่นหรือเปล่าเดี๋ยวนี้เด็ก
00:18:10 → 00:18:14 สัก 3 เดือน 4 เดือน 6 เดือนก็ให้เล่นมือ
00:18:14 → 00:18:18 ถือะแล้วก็มีเป็นความภูมิใจของพ่อแม่ด้วย
00:18:18 → 00:18:21 อุ๊ยตายลูกฉันเก่งไถหน้าจออ่ะอ๋ออ่ะเข้า
00:18:21 → 00:18:25 ใจนึกออกมั้ยอ๋อแล้วมันจะมีเกมของเด็กอ่ะ
00:18:25 → 00:18:29 สมัยก่อนสมัยก่อนก็เคยมันจะมีเกมให้เรียน
00:18:29 → 00:18:32 รู้เรื่องภาษา a b c d กไก่ขไข่มัน
00:18:32 → 00:18:35 อยู่ในโทรศัพท์หมดเลยอ่ะอือๆเราก็เล่นกับ
00:18:35 → 00:18:38 เค้าค่ะอ่าอ๋อก็คือเา้าสามารถที่จะ
00:18:38 → 00:18:40 เปลี่ยนหรือว่าอยากดูอันนั้นนเเลือกเอง
00:18:40 → 00:18:44 ได้ใชเลือกเองได้ไถหน้าจอได้สมมุติเราอ่ะ
00:18:44 → 00:18:47 ตัวเหมือนหรืออะไรเงี้ให้เขาคจิ้มหน้าจอ
00:18:47 → 00:18:49 อันนี้คือเริ่มตั้งแต่ก่อนขวบนึงด้วยซ้ำ
00:18:49 → 00:18:54 อ่ะจริงๆปกติเขาจะมีพวกหนังสือสมุดหรือ
00:18:54 → 00:18:57 ว่าอะไรอยยเเลิกใช้กันแล้วเหรอจ้ะน้องลี
00:18:57 → 00:18:59 เดี๋ยวนี้ใช้มือถือหมด
00:18:59 → 00:19:02 แล้วก็แล้วก็เป็นความภาคภูมิใจก็เห็นใน
00:19:02 → 00:19:05 Facebook นะก็ยโพสต์ของหลานอ่ะมาโอ๊ยไถ
00:19:05 → 00:19:07 เล่นมือถือเนี่ยเก่งมาก
00:19:08 → 00:19:12 เลยบางทียังยังยังเดินไม่ได้เลยยังยังไม่
00:19:12 → 00:19:15 ต่อแตะเลยแค่นั่งได้เนี่ยเขาก็เล่นได้
00:19:15 → 00:19:19 แล้วอ่ะโหเรียนรู้ไวยเรียนรู้ไวออ่าแต่
00:19:19 → 00:19:22 เขาบอกว่าอ่ะเด็กอายุน้อยกว่า 18 เดือน
00:19:22 → 00:19:25 เนี่ยไม่ควรใช้เวลากับหน้าจอเลยนะอาจจะมี
00:19:25 → 00:19:28 การคุยวิดีโอคอกับญาติพี่น้องได้โดยอยู่
00:19:28 → 00:19:31 ในการดูแลของผู้ปกครองอ๋ออ่ะอายุขวบครึ่ง
00:19:31 → 00:19:34 ถึง 2 ขวบใช้เวลากับหน้าจอเพียงเล็กน้อย
00:19:34 → 00:19:38 เท่านั้นเลือกสื่อที่มีคุณภาพเหมาะสมต่อ
00:19:38 → 00:19:42 วัยโดยอยู่ในการดูแลของผู้ปกครองค่ะอายุ
00:19:42 → 00:19:46 3-5 ปีใช้เวลากับหน้าจอไม่เกิน 1 ชมงต่อ
00:19:46 → 00:19:49 วันอือวางแผนกำหนดการใช้เวลาหน้าจออย่าง
00:19:49 → 00:19:54 ชัดเจนนะกำหนดให้เา้าเล่นไม่เกินแค่นี้นะ
00:19:54 → 00:19:57 6-10 ปีใช้เวลากับหน้าจอไม่เกิน 1 ชม
00:19:57 → 00:20:00 ครึ่งต่อวันค่ะควรช่างน้ำหนักระหว่างการ
00:20:00 → 00:20:03 เรียนรู้เทคโนโลยีและกิจกรรมอื่นๆนะฮ
00:20:03 → 00:20:05 เริ่มให้เด็กรู้จักวางแผนการใช้ด้วยตนเอง
00:20:05 → 00:20:09 ให้เเลือกเวลาไม่ควรให้หน้าจอกระทบกับการ
00:20:09 → 00:20:13 นอนหลับและการพักผ่อนค่ะใช่โอ้โหทำได้อัน
00:20:13 → 00:20:17 นี้คือเอ่อสมาคมสถาบันกุมารแพทย์เลยนะควร
00:20:17 → 00:20:20 ปฏิบัติแบบนี้ควรปฏิบัติแบบนี้เออันนี้
00:20:20 → 00:20:23 คือข้อปฏิบัติที่เด็กๆควรจะแล้วก็ใช่แต่
00:20:23 → 00:20:26 ว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่เองอ่ะก็ต้องมีส่วน
00:20:26 → 00:20:29 ร่วมด้วยนะคะใช่การปฏิบัติเช่นเดียวกัน
00:20:29 → 00:20:34 เออค่ะก็คือวิธีป้องกันคุณพ่อคุณแม่เนี่ย
00:20:34 → 00:20:37 ไม่อยากให้ลูกเนี่ยต้องเสี่ยงกับโรคที่
00:20:37 → 00:20:40 เราพูดไปทั้งหมดนะคะก็เพราะฉะนั้นเด็ก
00:20:40 → 00:20:43 อายุน้อยกว่า 2 ปีนี้ไม่ควรดูจอโทรทัศน์
00:20:43 → 00:20:46 สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตนะฮะฝึกให้ลูกสนใจ
00:20:46 → 00:20:49 สิ่งต่างๆรอบตัวด้วยไม่ใช่ว่าก้มหน้าหรือ
00:20:49 → 00:20:52 ว่าอยู่แต่หน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นะ
00:20:52 → 00:20:56 ฮะเปิดโลกทเสริมทักษะการใช้ชีวิตการเข้า
00:20:56 → 00:20:59 สังคมการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งตต่างๆเพราะ
00:20:59 → 00:21:01 ว่าการเรียนรู้เนี่ยไม่ใช่การคลิกเมาส์
00:21:01 → 00:21:05 อย่างเดียวอืพ่อแม่ควรให้เวลากับลูกพาลูก
00:21:05 → 00:21:08 ไปทำกิจกรรมนอกบ้านบ้างนะฮะได้ออกกำลัง
00:21:08 → 00:21:12 กายเสริมสร้างสุขภาพที่แข็งแรงเช่นเอ่อไป
00:21:12 → 00:21:16 ปั่นจักรยานว่ายน้ำอย่างน้อยวันละ 30
00:21:16 → 00:21:20 นาที 3 วันต่อสัปดาห์ค่ะนะคะอันเนี้ยพอ
00:21:20 → 00:21:23 อ่ะให้เด็กทำโนทำนี้ะคุณแม่คุณพ่อคุณแม่
00:21:23 → 00:21:25 ต้องปฏิบัติตัวให้เห็นเป็นตัวอย่างที่ดี
00:21:25 → 00:21:30 นะคะข้อที่ 1 พ่อแควรจำกัดเวลาการใช้หน้า
00:21:30 → 00:21:33 จอของตนเองเพื่อให้มีปฏิสัมพันธ์กับลูก
00:21:33 → 00:21:36 อย่างเพียงพอเอออันนี้เคยเห็นในโซเชียล
00:21:36 → 00:21:38 ที่เขาแบบว่าเหมือนกับเป็นการเหน็บแหนม
00:21:38 → 00:21:42 ว่าว่าแบบเนี่ยเอ่อบอกแต่ลูกแหละว่าไม่
00:21:42 → 00:21:46 ให้เล่นรศัพท์มือถือไม่เกินไงตลอดเวลา
00:21:46 → 00:21:49 โทรศัพท์อยู่ตลอดเลยคือบางบ้านที่เห็น
00:21:49 → 00:21:53 เนี่ยนะคือบางคุณพ่อสมมตอ่ะกลับมาจากทำ
00:21:53 → 00:21:57 งานเนี่ยงานยังไม่จบกลับมานี่ยังต้อง
00:21:57 → 00:22:01 ออนไลน์กับที่ทำงานอยู่อือ่าเวลาลูกเ้าจะ
00:22:01 → 00:22:04 เข้าไปเค้าจะกลับมาจากโรงเรียนไงเค้าก็จะ
00:22:04 → 00:22:06 มาเล่าว่าโรงเรียนก็วันนี้ก็เป็นอย่างโนน
00:22:06 → 00:22:10 อย่างนี้คุณพ่อก็จะไม่ฟังละก็บอกเดี๋ยวๆๆ
00:22:10 → 00:22:12 ประชุมก่อนประชุม LINE อะไรแบบนี้คือคือ
00:22:12 → 00:22:15 เขาคก็ไม่มีที่ที่เขาจะไปคุยหรือปรับ
00:22:15 → 00:22:20 ทุกข์หรืออะไรอย่างงี้นะอต่อไปนอกจากจะ
00:22:20 → 00:22:22 จำกัดเวลาของตัวเองแล้วนะพ่อแม่นะต้อง
00:22:22 → 00:22:25 เป็นแบบอย่างที่ดีก็คือไม่มีพฤติกรรมติด
00:22:25 → 00:22:28 จอไม่ควรทำให้ลูกเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ
00:22:28 → 00:22:30 หรือควรมีวินัยในการเล่นสมาร์ทโฟนเช่น
00:22:30 → 00:22:34 เดียวกับลูกนะไม่ได้สั่งเขาอย่างเดียวค่ะ
00:22:34 → 00:22:37 ค่ะต้องให้เวลาและความเอาใจใส่เพราะว่า
00:22:37 → 00:22:40 เด็กไม่ว่ายุคสมัยไหนเนี่ยก็ต้องการความ
00:22:40 → 00:22:45 รักแล้วก็ต้องการเวลาจากพ่อแม่อืนะเช่น
00:22:45 → 00:22:48 อ่าการพูดคุยปรับทุกข์หรือว่าอวดว่าวัน
00:22:48 → 00:22:51 นี้เทำอะไรทำดีทำอะไรมามั่งในแต่ละวัน
00:22:51 → 00:22:54 แล้วก็มีกิจกรรมร่วมกันในวันหยุดศุ
00:22:54 → 00:22:56 สัปดาห์นะอือย่าปล่อยให้โทรศัพท์เลี้ยง
00:22:56 → 00:23:01 ลูกค่ะค่ะแล้วก็คาดหวังอย่างคาดหวังลูก
00:23:01 → 00:23:03 อย่างเหมาะสมความคาดหวังที่มากเกินไป
00:23:03 → 00:23:05 เนี่ยจะเป็นต้นเหตุให้เขาเกิดความเครียด
00:23:05 → 00:23:08 นะฮะเก็บกดอาจจะทำให้เป็นโรคซึมเศร้า
00:23:08 → 00:23:11 ปล่อยให้ลูกเนี่ยได้มีชีวิตเป็นของตัวเอง
00:23:11 → 00:23:13 อย่าบังคับหรือคิดว่าลูกจะต้องเป็นแบบ
00:23:13 → 00:23:18 โน้นแบบนี้ค่ะค่ะอืแล้วก็จะต้องแบบค่ะมี
00:23:18 → 00:23:21 วินัยมีวินัยในการเล่นโทรศัพท์มือถือ
00:23:21 → 00:23:24 อย่างเช่นห้ามเล่นขณะกินข้าวสมมุติว่าเรา
00:23:24 → 00:23:27 มากินข้าวเย็นร่วมกันเนี่ยพ่อแม่ลูกเนี่ย
00:23:27 → 00:23:30 ห้ามเล่นเลยนะไม่ต่างคนนก็เดี๋ยวนี้ก็คือ
00:23:30 → 00:23:33 สมมุติเอาไปกินข้าวนอกบ้านแล้วกันต่างคน
00:23:33 → 00:23:37 ระหว่างรอที่อาหารมาเนี่ยทุกคนหยิบตัวสับ
00:23:37 → 00:23:40 มือถือต่างคนต่างดูของตัวเองใช่ๆไม่ได้
00:23:40 → 00:23:44 คุยกันนะดูตามร้านอาหารอืแต่ว่าบางทีเด็ก
00:23:44 → 00:23:46 อาจจะรู้สึกว่าเออถ้าคุยกับพ่อกับแม่เรา
00:23:46 → 00:23:50 ก็แบบเบื่อไม่อยากคุยคุยดีกว่าคุยเดี๋ยว
00:23:50 → 00:23:54 ก็ว่าเรื่องโน้นเรื่องนี้เออเออเล่นโทร
00:23:54 → 00:23:57 ต่างคนต่างเออเล่นโทรศัพท์ดีกว่าหรือตั้ง
00:23:57 → 00:24:00 เวลาในการเล่นก่อนนอนซึ่งพ่อแม่เองก็ต้อง
00:24:00 → 00:24:03 ทำให้ลูกเห็นเช่นเดียวกันนะคะแล้วก็ต้อง
00:24:03 → 00:24:06 ทันข้อมูลข่าวสารพ่อแม่ต้องคอยอัปเดตข้อ
00:24:06 → 00:24:08 มูลแล้วก็กระแสต่างๆให้ลูกโดยเฉพาะลูกวัย
00:24:08 → 00:24:11 รุ่นเนี่ยเพื่อจะได้แนะนำชี้แนะเค้าได้
00:24:11 → 00:24:15 ถูกต้องนะฮอาจจะป้องกันเรื่องภยาเสพติด
00:24:15 → 00:24:18 สื่อสื่อลามกหรือการถูกหลอกลวงในโลก
00:24:18 → 00:24:21 ออนไลน์โอ้โหมาเพียบเลยอ่ะพวกหลอกลวงใน
00:24:21 → 00:24:24 โลกออนไลน์อ่ะทุกรูปแบบจริงๆนะคะ่ะมิตรมา
00:24:24 → 00:24:28 ทุกวันน่ะค่ะมิตรอ่ะเรักเรามากใช่โทรไว
00:24:28 → 00:24:30 แล้วลหลายครั้งตอนนี้ก็คือไม่ได้แค่พุ่ง
00:24:30 → 00:24:32 เป้าที่เด็กอย่างเดียวนะคะอันนี้ก็ฝากย้ำ
00:24:32 → 00:24:36 เตือนท้ายนิดนึงผู้เกษียณค่ะผู้เกษียณก็
00:24:36 → 00:24:38 พุ่งเป้าผู้เกษียณใช่ๆต้องรู้เท่าทันนะคะ
00:24:38 → 00:24:41 มันมันก็เปลี่ยนไปเรื่อยแหละเดี๋ยวพวกเย
00:24:41 → 00:24:44 มันก็มีวิธียิ่งถ้าเกิดใครแบบจิตอ่อนๆจิต
00:24:44 → 00:24:47 ตกง่ายๆหรือว่าแบบโอ้โหอะไรอย่างเงี้ยนะ
00:24:47 → 00:24:51 คะส่วนใหญ่จะมีอะไรมาล่อใช่ๆเรื่องของผล
00:24:51 → 00:24:54 ประโยชน์ใช่ก็อย่าไปเห็นแก่สิ่งนั้นนะถ้า
00:24:54 → 00:24:57 เราไม่โลภเราก็จะไม่ถูกหรอกใช่นะคะก็
00:24:57 → 00:25:01 เพราะฉะนั้นเราก็ควรที่จะเล่นเอ่ออยู่ใน
00:25:01 → 00:25:04 ยุคจัลแบบเนี้ยอย่างเหมาะสมไม่ว่าจะเป็น
00:25:04 → 00:25:07 วัยไหนแล้วท่าพี่ฟังแต่เคแต่จริงๆมันมี
00:25:07 → 00:25:10 ประโยชน์จริงๆเค้นฟ้าข้อมูลอะไรได้เองเลย
00:25:10 → 00:25:13 อใช่ๆเลยไม่ต้องพึ่งพาเราเท่าไหร่อืข้อ
00:25:13 → 00:25:16 มูล Document แบบเต็มเลยอ่ะแบบคลิกเดียว
00:25:17 → 00:25:20 แบบอยากรู้อะไรพิมพ์ไปสิขึ้นมาปึ๊บแต่ว่า
00:25:20 → 00:25:22 ข้อมูลก็ต้องดูด้วยนะว่าเชื่อได้ไม่ได้
00:25:22 → 00:25:24 หรือยังไงแต่ว่าถ้าจะให้เด็กๆเนี่ยต้อง
00:25:24 → 00:25:27 ระวังเพราะว่ามันนำไปสู่โลกต่างๆที่เมื่อ
00:25:27 → 00:25:29 กี้คุณหมอบอกว่าโหมันเพียบมามันเทียบ
00:25:29 → 00:25:32 เปรียบเทียบชีวิตเรากับชีวิตคนอื่นเออ
00:25:32 → 00:25:34 เนาะเวลาเค้าไม่ดีเขาก็ไม่ค่อยจะมาบอก
00:25:34 → 00:25:37 เท่าไหร่อืใครจะมาบอกอ่ะหรือตืนอกๆนอกจาก
00:25:37 → 00:25:40 อาจจะรับเงินบริจาคอันนั้นอันนั้นอาจจะ
00:25:40 → 00:25:44 เอ่อบอกชีวิตในแง่ไม่ดีเออใช่มคะบางคนน
00:25:44 → 00:25:47 อาจจะต้องการแบบขอความเห็นใจหรืออะไรอะไร
00:25:47 → 00:25:50 อย่าเงี้ยนะคะรู้เท่าทันให้ได้มากที่สุด
00:25:50 → 00:25:53 แล้วกันขอบคุณคุณหมอค่ะค่ะสวัสดีค่ะสดี
00:25:53 → 00:25:55 หมดมาวแล้วค่ะพบกันใหม่ครั้งหน้านะคะวัน
00:25:55 → 00:26:00 นี้ลาไปก่อนสวัสดีค่ะ IS podcast บ้าน
00:26:00 → 00:26:02 ไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยที่สุดหากจัดระเบียบ
00:26:02 → 00:26:04 ไม่ดีเพราะที่นี่อาจเกิดอุบัติเหตุได้
00:26:04 → 00:26:08 ตลอดเวลาดรนายแพทย์จตุพลคงถาวรสกุลแพทย์
00:26:08 → 00:26:10 ผู้เชี่ยวชาญศูนย์กล้ามเนื้อกระดูกและข้อ
00:26:10 → 00:26:14 มาบอกให้รู้ครับผมจะแบ่งอุบัติเหตุเนี่ย
00:26:14 → 00:26:17 ไว้เป็น 3 แบบนะฮะอุบัติเหตุแบบที่ 1 ก็
00:26:17 → 00:26:21 คืออุบัติเหตุภายในบ้านนะครับเล็กๆน้อยๆ
00:26:21 → 00:26:24 สำหรับคนทั่วๆไปอุบัติเหตุอันที่ 2 ก็คือ
00:26:24 → 00:26:28 อุบัติเหตุจากการจราจรอันที่ 3 คือ
00:26:28 → 00:26:31 อุบัติเหตุของคนสูงอายุผมจะแบ่งเป็น 3
00:26:31 → 00:26:34 กลุ่มหลักๆซึ่งเทศกาลนึงเนี่ยก็จะรู้เลย
00:26:34 → 00:26:38 อย่างเช่นเทศกาลตรุษจีนคนแก่จะมาแล้วก็
00:26:38 → 00:26:42 อุบัติเหตุพวกเล็กๆน้อยๆจะมาจราจรจะเงียบ
00:26:42 → 00:26:44 ไม่ค่อยมีแต่ถ้าเอาใหม่สมมุติเป็น
00:26:44 → 00:26:48 สงกรานต์อันนี้เนี่ยคนแก่ไม่ค่อยมีเล็กๆ
00:26:48 → 00:26:52 น้อยๆก็ไม่ค่อยมีมีแต่จราจรนะแต่อย่างปี
00:26:52 → 00:26:56 ใหม่เนี่ยก็จะมีอุบัติเหตุของคนสูงอายุมี
00:26:56 → 00:26:59 เล็กๆน้อยๆก็ไม่ค่อยมีอมจะเป็นอุบัติเหตุ
00:26:59 → 00:27:01 จราจรจริงๆจราจรเนี่ยมาอันดับ 1 แล้วก็
00:27:01 → 00:27:03 อุบัติเหตุของคนสูงอายุเนี่ยอันดับ 2
00:27:03 → 00:27:05 ส่วนอุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆในบ้านเนี่ย
00:27:05 → 00:27:08 อันดับ 3 มันเป็นยังไงส่วนใหญ่อุบัติเหตุ
00:27:08 → 00:27:11 เล็กๆน้อยๆในบ้านเนี่ยนะส่วนใหญ่มันมักจะ
00:27:11 → 00:27:14 เกี่ยวข้องกับการที่เราเนี่ยจัดเรียง
00:27:14 → 00:27:16 ระเบียบเรียบร้อยในบ้านเนี่ยได้ไม่ค่อยดี
00:27:16 → 00:27:19 และอาจจะเป็นการเผลอพลาดไม่ระมัดระวังนะ
00:27:20 → 00:27:22 ครับค่ะส่วนใหญ่นะที่เจอกันทุกวันเนี้ยก็
00:27:22 → 00:27:26 คือประตูหนีบนะเจอทุกวันเออๆอ่าไม่ว่าจะ
00:27:26 → 00:27:29 หนีบตัวเองหรือหนีบผู้อื่นนะครับอันต่อมา
00:27:29 → 00:27:33 ก็คือพวกเตะนู่นนี่นะครับคือเตะเองอ่ะ
00:27:33 → 00:27:37 เช่นเสาเตียงเสาโต๊ะเสานู่นเสานี่ทั้ง
00:27:37 → 00:27:40 หลายอ่ะยิ่งโมเดิร์นยิ่งเจ็บหนักอ่า
00:27:40 → 00:27:44 สังเกตมยคือพวกเตะแล้วกระดูกหักมาพวกเสา
00:27:44 → 00:27:46 สลิมลิมอะไรเงี้ยนึกออกมั้ยจากบ้านสมัย
00:27:46 → 00:27:50 ก่อนโบราณๆนะค่ะเราจะเป็นโต๊ะแบบเหลี่ยม
00:27:50 → 00:27:53 หรือมนไปเลยใหญ่ๆนิ้วเราไม่มีทางไปเตะ
00:27:53 → 00:27:56 หรือเข้าหว่างมันได้แต่เดี๋ยวนี้สังเกตดี
00:27:56 → 00:27:58 บ้านใหม่ๆนะไม่ว่าจะเป็นตี
00:27:58 → 00:28:02 ใต้โซฟาอะไรพวกเนี้ยมันจะเป็นแท่งลงมาแบบ
00:28:02 → 00:28:06 เล็กๆสลิมเรียกมินิมออ่ะยิ่งมินิมอยิ่ง
00:28:06 → 00:28:08 หักอีกอันนึงคือเหลี่ยมค่ะอ่ะพวกนี้หัว
00:28:08 → 00:28:11 แตกอ่าหัวแตกในบ้านสิ่งที่พูดเพราะอะไร
00:28:11 → 00:28:14 รู้ป่ะฮะคือช่วงนี้ผมเจอเยอะเพราะคนมัน
00:28:14 → 00:28:18 อยู่บ้าน work from home อ่าถามว่าตอน
00:28:18 → 00:28:20 เนี้ยโรงพยาบาลที่อยู่ในเมืองอ่ะไม่มี
00:28:20 → 00:28:23 หรอกคนไข้มีแต่โรงพยาบาลที่อยู่แถวๆบ้าน
00:28:23 → 00:28:25 อ่ะอย่างผมอยู่เวรตั้งแต่ 17:00 นถึง
00:28:25 → 00:28:27 เที่ยงนะเชื่อมั้เจอยันเที่ยงคืนอ่ะที่
00:28:27 → 00:28:29 เราพูดพูดอ่ะเพราะเราอยากจะให้ปรับ
00:28:29 → 00:28:31 เปลี่ยนสิ่งแวดล้อมที่อยู่ภายในห้องหรือ
00:28:31 → 00:28:34 ภายในบ้านถ้าบ้านไหนที่มีเด็กอาจจะต้อง
00:28:34 → 00:28:37 ปรับนะบ้านคือเข้าใจอยู่มันไม่ได้ทุกบ้าน
00:28:37 → 00:28:40 ก็จะรวยเนาะแต่ว่าบ้านที่พอที่จะมีกำลัง
00:28:40 → 00:28:43 เนี่ยผมคิดว่ายังไงก็ควรที่จะต้องจัดการ
00:28:43 → 00:28:46 บ้านตัวเองให้เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อมที่จะ
00:28:46 → 00:28:48 มี
00:28:48 → 00:28:53 เด็ก This Is Toy PBS
00:28:53 → 00:28:56 podcast ติดตามรายการทางเว็บไซต์และ
00:28:56 → 00:29:00 แอปพลิเคชันของไทย PBS podcast spotify
00:29:00 → 00:29:02 soundcloud Google podcast Apple
00:29:02 → 00:29:06 podcast และ YouTube Channel Thai PBS
00:29:06 → 00:29:09 podcast tha PBS podcast View the
00:29:09 → 00:29:11 world via The Voice
00:29:11 → 00:29:17 [เพลง]