00:00:00 → 00:00:01 อาทิตย์ก่อนที่เราคุยกันเรื่องของ Total
00:00:02 → 00:00:05 เ scan ค่ะก็จะมีการสแกนนะคะคือการผ่าน
00:00:05 → 00:00:08 กระแสไฟไปตามเซลล์ต่างๆของชงจนิดนึงที่
00:00:08 → 00:00:11 คุณหมอพูดไปถ้าใครได้ชมคงจะนึกออกถ้าเกิด
00:00:11 → 00:00:13 ใครที่พาดในเทปนั้นก็คืออย่างที่เห็นใน
00:00:13 → 00:00:15 ภาพอ่ะค่ะก็จะเป็นการทำให้ร่างกายของเรา
00:00:15 → 00:00:18 ครบวงจรด้วยกันวางฝ่ามือและฝ่าเท้าบน
00:00:18 → 00:00:20 Total ไอแน่แล้วก็จะปล่อยกระแสมันเป็น
00:00:20 → 00:00:22 กระแสต่ำๆอ่ะค่ะเพราะฉะนั้นก็ไม่มี
00:00:22 → 00:00:25 อันตรายต่อร่างกายนะคะแล้วก็จะผ่านคือ
00:00:25 → 00:00:27 เอ่อเนื้อเยื่อของของเซลล์ของร่างกายคน
00:00:27 → 00:00:29 เราเนี่ยมันจะมีความต้านทานไฟฟ้าอยู่
00:00:29 → 00:00:31 เพราะั้นเวลาที่ผ่านเวลาที่ผ่านไปถ้า
00:00:31 → 00:00:34 เซลล์ทำงานปกติความต้านทางก็จะเป็นปกติ
00:00:34 → 00:00:36 แต่ถ้าสมมุติว่ามีความผิดปกติของอวัยวะ
00:00:36 → 00:00:38 นั้นๆหรือเซลล์นั้นๆเนี่ยมันก็จะอ่านค่า
00:00:38 → 00:00:41 ที่ผิดปกติออกมาแล้วก็คอมพิวเตอร์หรือ
00:00:41 → 00:00:44 สถิติเขาก็จะเก็บคำนวณนะคะไอ้ค่าความปติ
00:00:44 → 00:00:45 ทั้งหลายเนี่ยออกมาเป็นความเสี่ยงของการ
00:00:45 → 00:00:48 โรคการเกิดโรคต่างๆค่ะนะคะจากนั้นแล้ว
00:00:48 → 00:00:51 เนี่ยเ่อหลังจากที่เราพอทราบว่าเอ้ยเรา
00:00:51 → 00:00:53 สกรีนออกมาแล้ว 1 คนไข้มีความเสี่ยงอะไร
00:00:53 → 00:00:55 บ้างนะคะอันที่ 2 มันก็จะบอกถึงราย
00:00:55 → 00:00:58 ละเอียดส่วนประกอบอื่นๆอีกในร่างกายคนๆ
00:00:58 → 00:01:00 นั้นอย่างเช่นจะบอกเรื่องของมวลกล้าม
00:01:00 → 00:01:04 เนื้อมวลไขมันนะคะพวกเ่าระดับสารเกลือแร่
00:01:04 → 00:01:06 นะคะระดับฮอร์โมนนะคะหรือว่าสารสื่อ
00:01:06 → 00:01:08 ประสาทในสมองอย่างเงี้ยคือทั้งหมดเก็จะ
00:01:08 → 00:01:10 เป็นเป็นตัวที่ช่วยประกอบเราในการ
00:01:10 → 00:01:12 วิเคราะห์คนไข้นะคะคือทำให้เราเนี่ย
00:01:12 → 00:01:16 สามารถที่จะมองคนไข้เอ่อในภาพรวมได้แล้ว
00:01:16 → 00:01:19 ก็ีดนำเราไปสู่ว่าเราจะไปดูแลคนไข้ตรง
00:01:19 → 00:01:21 ระบบไหนมากเป็นพิเศษพอหลังจากที่เรา
00:01:21 → 00:01:24 screening แล้วเนี่ยเราจะทำทบสแกนเสร็จ
00:01:24 → 00:01:26 แล้วเราก็จะให้คนไข้ตรวจเลือดนะคะใน
00:01:26 → 00:01:29 โปรแกรมเองเก็จะมีการตรวจเลือดหลายอย่าง
00:01:29 → 00:01:31 ก็คือ 1 แล้วพยายามจะหาว่าสาเหตุอะไรที่
00:01:31 → 00:01:34 ทำให้เขาอ้วนนะคะเพราะฉะนั้นก็จะมีเรื่อง
00:01:34 → 00:01:37 ของเอ่อดูการอักเสบต่างๆในร่างกายตัวนึง
00:01:37 → 00:01:41 ที่ที่เราพบบ่อยนะคะว่าคนไข้มีปัญหาแต่
00:01:41 → 00:01:44 ว่าไม่รู้ว่าคนไข้เป็นเนี่ยหรือตัวคนไข้
00:01:45 → 00:01:47 เองไม่รู้ก็คือเรื่องของกลุ่มของความไว
00:01:47 → 00:01:49 ต่ออาหารหรือภูมิแพ้อาหารเพราะว่าจะมี
00:01:49 → 00:01:52 ปัญหาในระบบของลำไส้คือถ้าหมอลิงกลับไป
00:01:52 → 00:01:54 เรื่องของเอ่อที่หมอบอกสักครู่ว่าเวลาเรา
00:01:54 → 00:01:58 ดูเนี่ยหเราจะดูว่าเอ่อคณไข้มีมีมีสิ่ง
00:01:58 → 00:02:01 ที่ดีในร่างกายครบหรือยังนะคะตัวนึงที่
00:02:01 → 00:02:03 สำคัญก็คือเรื่องของอาหารที่ดีแต่เวลาพูด
00:02:04 → 00:02:05 ถึงอาหารที่ดีเนี่ยเราไม่ได้พูดถึงแค่
00:02:06 → 00:02:09 อาหารเราพูดถึงตัวสารอาหารด้วยค่ะซึ่ง
00:02:09 → 00:02:12 เอ่อคนเราเนี่ยจะได้รับสารอาหารที่ดีนั่น
00:02:12 → 00:02:15 หมายความว่าระบบการย่อยและการดุซึมอาหาร
00:02:15 → 00:02:18 ต้องดีต้องดีด้วยไม่ใช่ทานของดีเข้าไปแต่
00:02:18 → 00:02:21 ระบบการย่อยหรือดูดซึมไม่ดีมันก็ไม่มี
00:02:21 → 00:02:22 ประโยชนใช่เราก็ไม่ได้รับอยู่ดีเพราะ
00:02:22 → 00:02:24 ฉะนั้นพอพูดถึงอาหารปุ๊บก็จะต้องพูดถึง
00:02:24 → 00:02:26 สารอาหารที่ดีด้วยงั้นเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:02:26 → 00:02:29 ระบบที่สำคัญนะคะก็คือเรื่องของระบบการ
00:02:29 → 00:02:31 ย่อยและการดซึมค่ะถ้าสมมุติว่าระบบนี้มี
00:02:31 → 00:02:35 ปัญหาก็มีโอกาสที่เราจะรับสารพิษนะคะหรือ
00:02:35 → 00:02:37 ว่าสิ่งที่ไม่ดีเข้าไปในร่างกายได้ง่ายนะ
00:02:37 → 00:02:40 คะแทนที่ระบบลำไส้จะย่อยเป็นสารโมเลกุล
00:02:40 → 00:02:43 เล็กๆที่ร่างกายได้ใช้ประโยชน์ก็ปรากฏว่า
00:02:43 → 00:02:45 มันไม่สามารถจะนำไปใช้ประโยชน์ได้ร่างกาย
00:02:45 → 00:02:48 ก็จะขัดสารอาหารหรือเอ่อบางทีเนี่ยไอ้
00:02:48 → 00:02:51 ส่วนของเยื่อบุลำไส้ถ้ามีปัญหาแทนที่มัน
00:02:51 → 00:02:54 จะสกรีนเอาสิ่งที่ไม่ดีออกค่ะมันก็มันก็
00:02:54 → 00:02:56 ไม่สกรีนเพราะฉะนั้นก็จะมีการหลุดของสาร
00:02:56 → 00:02:58 ไม่ดีอาจจะเป็นเชื้อโรคหรือสารโมเลกุล
00:02:58 → 00:03:01 ใหญ่เข้าไปในระบบกระแสเลือดก็จะทำให้เกิด
00:03:01 → 00:03:04 การอักเสบขึ้นมาก็ทำให้เกิดเป็นโรคต่างๆ
00:03:04 → 00:03:07 รวมถึงเรื่องของความอ้วนหรือการอักเสบการ
00:03:07 → 00:03:09 บวมน้ำในร่างกายทั้งหลายอันนี้ก็เป็นจุด
00:03:09 → 00:03:12 นึงที่เราจะต้องค้นว่า 1 คนไข้มีปัญหา
00:03:12 → 00:03:14 ภูมิแพ้อาหารหรือเปล่าแล้วการค้นภูมิแพ้
00:03:14 → 00:03:16 อาหารนี่คุณหมอค้นจากอะไรเจาะเลือดนี่คือ
00:03:16 → 00:03:20 จะสใช่คือเจาะเลือดนี่เจาะแค่ปลายนิ้วอ๋อ
00:03:20 → 00:03:23 นึกว่าจะต้องเจาะที่แขนไม่เจาะแค่เจาะเจา
00:03:23 → 00:03:26 ที่ปลายนิ้วแล้วก็เ่าจะดูความไวต่ออาหาร
00:03:26 → 00:03:29 ทั้งหมดเอ่อ 95 ชนิดนะคะก็คือจะบอกได้ว่า
00:03:29 → 00:03:31 เรามีความไวต่ออาหารอะไรบ้างคือเป็นอาหาร
00:03:31 → 00:03:34 เอเชียทั้งหมดเลยค่ะ 95 ชนิดนี่คือแปรรูป
00:03:34 → 00:03:36 แล้วหรือยังอย่างเช่นแบบว่าเป็นข้าวราด
00:03:36 → 00:03:40 แกงหน่อไม้อะไรไม่ใช่ใช่ก็จะเป็นอ่าใช่
00:03:40 → 00:03:44 หมูไก่ปลาก็จะมีประเภทของปลาว่าแพ้ปลา
00:03:44 → 00:03:47 อะไรนะคะหรือว่านมหรือไข่อย่างเงี้ยนะคะ
00:03:47 → 00:03:49 ก็จะทำให้เราเนี่ยช่วยช่วยในการสร้าง
00:03:49 → 00:03:52 โปรแกรมในการที่จะดูแลอาหารเรื่องของ
00:03:52 → 00:03:55 อาหารได้ได้ง่ายขึ้นเพราะว่าในโปรแกรมเอง
00:03:55 → 00:03:58 นอกจากหนมีการเรื่องของตรวจเลือดเอ่อการ
00:03:58 → 00:04:00 อักเสบแล้วเนี่ยก็เราจะต้องมีนักโภชนากร
00:04:00 → 00:04:02 ที่เขาจะต้องจัดโปรแกรมอาหารให้งั้น
00:04:02 → 00:04:04 โปรแกรมอาหารที่จัดให้เนี่ยไม่ใช่เพียง
00:04:04 → 00:04:07 แต่งดอาหารที่เกี่ยวกับเรื่องของที่เรามี
00:04:07 → 00:04:09 ความไวต่ออาหารหรือภูมิแพ้อาหารเท่านั้น
00:04:09 → 00:04:12 เราต้องงดอาหารที่ทำให้เกิดการอักเสบได้
00:04:12 → 00:04:14 ง่ายนะคะซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำเกิดความอ้วน
00:04:14 → 00:04:17 งั้นก็จะเป็นอีกอันนึงที่จะต้องเอ่อจะ
00:04:17 → 00:04:19 ต้องมีเราจะต้องมีข้อมูลให้เยอะนะคะนอก
00:04:19 → 00:04:21 จากนี้ก็ต้องไปลิงก์กับเรื่องของการเจาะ
00:04:21 → 00:04:22 เลือดอีกคือเจาะเลือดเนี่ยไม่ได้ดูแค่
00:04:22 → 00:04:25 ภูมิแพะอาหารอย่างเดียวนะคะเจาะเลือดยัง
00:04:25 → 00:04:27 ดูเกี่ยวกับเรื่องของ
00:04:27 → 00:04:31 เอ่อเรื่องของความเสี่ยงต่างๆนะคะที่ที่
00:04:31 → 00:04:34 อาจจะเป็นสาเหตุแล้วก็อาจจะเป็นผลที่เกิด
00:04:34 → 00:04:37 จากความอ้วนแล้วนะคะอย่างเช่นดูเรื่องของ
00:04:37 → 00:04:39 ระบบหลอดเลือดและหัวใจคือบางทีเนี่ยถ้า
00:04:39 → 00:04:41 การอักเสบในร่างกายมากๆหรือมีการอักเสบ
00:04:41 → 00:04:43 ของหลอดเลือดมากๆหรือว่าคนไข้มีไขมันเยอะ
00:04:43 → 00:04:46 ๆโอกาสที่จะไปเกิดตะกันอุตันในเส้นเลือด
00:04:46 → 00:04:49 ก็มีั้นก็จะเพิ่มความเสี่ยงของเขาต่อการ
00:04:49 → 00:04:53 เกิดพวกโรคหัวใจนะคะอก็เ่อก็เป็นสาเหตุ
00:04:53 → 00:04:55 ของสุขภาพอันนึงที่มีปัญหาหรือว่าไขมัน
00:04:55 → 00:04:57 ที่สูงอยู่นานๆมากๆก็อาจจะมีปัญหาเรื่อง
00:04:57 → 00:05:00 ไขมันเกาะตับเพราะเราก็ต้องดูดูอ่าหน้า
00:05:00 → 00:05:02 ที่การทำงานของตับหน้าที่การทำงานของไต
00:05:02 → 00:05:04 การอักเสบในร่างกายการอักเสบของหลอดเลือด
00:05:05 → 00:05:07 ค่ะนะคะแล้วก็ในกลุ่มคนไหนที่เอ่อเรา
00:05:08 → 00:05:10 สงสัยว่ามีปัญหาเราก็จะไปเจาะฮอร์โมนดู
00:05:10 → 00:05:13 ทั้งหมดเลยคือจริงๆจากตัว Total เ scan
00:05:13 → 00:05:14 เนี่ยมันสามารถจะดูฮอร์โมนได้อยู่แล้วแต่
00:05:15 → 00:05:17 สมมุติว่าในคนไหนที่เราสงสัยว่าจะเ่อมี
00:05:17 → 00:05:19 โรคเราก็จะเจาะเลือดเพิ่มเติมเพื่อการ
00:05:19 → 00:05:22 วินิจฉัยหความว่าทุกคนคือบางคนเนี่ยที่ดู
00:05:22 → 00:05:24 แล้วมั่นใจแล้วว่าไม่มีปัญหาก็ไม่ต้องทำ
00:05:24 → 00:05:27 แต่ถ้าเกิดใครที่อยู่ในกลุ่มสงสัยว่าหรือ
00:05:27 → 00:05:29 ว่ามีความเสี่ยงคือดูแล้วจับทสกแล้วเรา
00:05:29 → 00:05:31 สงสัยแล้วก็จะเจาะเลือดต่องั้นหลักๆคือ
00:05:31 → 00:05:33 ตามสเต็ปก็คือ 1 หลังจากที่เรามาเจอแพทย์
00:05:33 → 00:05:36 แล้วเจาะเลือดนะคะเจาะเลือดก็ตามที่หมอ
00:05:36 → 00:05:39 บอกมีหลายรายการนะคะเสร็จแล้วก็อ่าจะมี
00:05:39 → 00:05:42 การสร้างโปรแกรมนะคะมีการสร้างโปรแกรม
00:05:42 → 00:05:44 อาหารให้คนไข้โปรแกรมอาหารก็จะเป็นเนี่ย
00:05:44 → 00:05:46 ค่ะแล้วก็จะมีเมนูให้คไข้ด้วยคือให้กลับ
00:05:46 → 00:05:49 บ้านไปออแล้วก็เอ่อให้กลับบ้านเนี่ยนะคะ
00:05:49 → 00:05:52 ก็จะเป็นกบันทึกประจำวันนะคะอ๋อเป็นเป็น
00:05:52 → 00:05:55 อย่างงี้อ่าเป็นาทิตย์ประจำวันนะคะก็จะมี
00:05:55 → 00:05:58 บอกว่าเอ่อใน 1 วันเนี่ยคนไข้ค่ะทานอะไร
00:05:58 → 00:06:00 ไปบ้างคนไข้ก็จะต้องเขียนให้ให้เราอืใน
00:06:00 → 00:06:02 ขณะเดียวกันเราก็จะมีคู่มือให้เค้านะคะ
00:06:02 → 00:06:04 เป็นคู่มือที่บอกว่าเอ่อเค้าจะต้องทาน
00:06:04 → 00:06:07 อะไรบ้างหรือเขาคจะหลีกเลี่ยงอะไรบ้างมี
00:06:07 → 00:06:09 ตั้งแต่อาหารที่ทานเครื่องดื่มที่ทานมี
00:06:09 → 00:06:13 อะไรนอนกี่โมงนะคะนอนหลับดีมั้ยความรู้
00:06:13 → 00:06:15 สึกหลังตื่นเป็นยังไงบ้างนะคะอุจระเป็น
00:06:15 → 00:06:18 ยังไงสำคัญด้วยก็คืออุจจระเป็นยังไงเวลา
00:06:18 → 00:06:20 ไหนถ่ายทุกวันหรือเปล่าอุจจาระมันจริงๆ
00:06:20 → 00:06:22 แล้วบอกอะไรเราคะบอกอะไรได้หลายอย่างคือ
00:06:22 → 00:06:24 บอกเรื่องของการย่อยและการดุดซึมก็ได้นะ
00:06:24 → 00:06:27 คะหรือถ้าบางทีคนไข้อุจจาระแข็งท้องผูก
00:06:27 → 00:06:30 มันก็จะต้องไปมีผลต่อระบบการย่อยและการดู
00:06:30 → 00:06:32 ซึมระบบอื่นๆรวมถึงเรื่องของการทำงานของ
00:06:32 → 00:06:34 ตับซึ่งจะทำงานมากขึ้นถ้ามีปัญหาเรื่อง
00:06:34 → 00:06:36 ท้องผูกนานๆนะคะแล้วก็อีกอันนึงคือเรื่อง
00:06:36 → 00:06:39 ของการออกกำลังกายก็เป็นสำคัญสำคัญเพราะ
00:06:39 → 00:06:43 ว่าเราจะมีเอ่อเอิ่ักกายภาพนะคะซึ่งจะ
00:06:43 → 00:06:46 เป็นคนออกโปรแกรมนะคะเรื่องของการออก
00:06:46 → 00:06:47 กำลังกายเนี่ยให้คือออกโปรแกรมว่าจะเป็น
00:06:47 → 00:06:49 วิ่งเป็นว่ายงานเป็นอะไรให้ใช่ใช่ก็คือ
00:06:49 → 00:06:52 ต้องเหมาะให้ให้สมเหมาะสมกับบุคคลแต่ละคน
00:06:52 → 00:06:54 เพราะบางทีเนี่ยเอ่อเราอาจจะคิดว่าเอ้ย
00:06:54 → 00:06:56 ต้องออกกำลังกายเยอะๆเราถึงจะน้ำหนักลด
00:06:56 → 00:06:58 บางทีมันก็ไม่ใช่เพราะยิ่งออกกำลังกาย
00:06:58 → 00:07:01 เยอะร่างกายที่การมีการเกิดการอักเสบเยอะ
00:07:01 → 00:07:04 นะคะหรือว่าอาจจะทำให้เอ่อเนี่ยค่ะอันนี้
00:07:04 → 00:07:07 ก็เป็นอีกอันนึงที่เป็นการออกกำลังกายแบบ
00:07:07 → 00:07:09 อ่าในเตามที่ขึ้นที่หน้าจอเป็นการออก
00:07:09 → 00:07:11 กำลังายเ้าเรียกว่า H vibrating
00:07:11 → 00:07:13 Exercise หรือการออกกำลังกายสั่นในแนว
00:07:13 → 00:07:15 ดิ่งอ๋อค่ะนะคะคือเครื่องตัวนี้เนี่ยเป็น
00:07:15 → 00:07:18 เครื่องเครื่อง Original เลยหมายถึงเป็น
00:07:18 → 00:07:22 เครื่องที่ที่เอ่อมีการทดทดสอบแล้วมีการ
00:07:22 → 00:07:25 ทดลองสัทั้งตัวอย่างงี้เลยหรอคะคุณหมอถาม
00:07:25 → 00:07:27 จริงๆมันไม่มีผลต่อสมองครับว่าสั่นไปกึ๊ๆ
00:07:27 → 00:07:30 ๆขนาดนั้นจริงจริงๆแล้วจริงๆแล้วที่เรา
00:07:30 → 00:07:32 ต้องการคือกระตุ้นการทำงานของสมองอหลัก
00:07:32 → 00:07:34 การก็คือเวลาที่มีการสั่นในแนวดิ่งเนี่ย
00:07:34 → 00:07:36 จะมีการกระตุ้นระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
00:07:36 → 00:07:38 จากปลายเท้าเนี่ยขึ้นไปนะคะซึ่งการ
00:07:38 → 00:07:40 กระตุ้นระบบประสาทและกล้ามเนื้อเนี่ยมัน
00:07:41 → 00:07:43 ก็จะเหมือนกับเป็นรีเฟลกอ่ะค่ะกระทบเป็น
00:07:43 → 00:07:45 ส่วนๆขึ้นไปเรื่อยๆจนกระทั่งไปถึงในส่วน
00:07:45 → 00:07:47 ของสมองและกระตุ้นทำให้สมองมีการหลั่ง
00:07:47 → 00:07:49 ฮอร์โมนเยอะขึ้นนะคะโดยเฉพาะในเรื่องของ
00:07:49 → 00:07:52 ฮอร์โมนที่เกี่ยวกับโทฮอร์โมนซึ่งพวกนี้
00:07:52 → 00:07:55 ก็จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงลดไขมันนะ
00:07:55 → 00:07:57 คะฮอร์โมนที่ทำให้เกิดความสุนสากระตุ้น
00:07:57 → 00:08:00 ให้เกิดระบบไหลเวียนดีขึ้นนะคะระบบเ่าน้ำ
00:08:00 → 00:08:03 เหลืองดีขึ้นนะคะคุณหมอเคยเห็นไอ้เจ้า
00:08:03 → 00:08:05 สั่นๆแบบเเครื่องแบบนี้ในฟิตเนสปกติอ่ะ
00:08:05 → 00:08:08 ค่ะเยอะเลยตัวนี้นี่มันเหมือนกันรือเปล่า
00:08:08 → 00:08:10 ไม่เหมือนค่ะไม่เหมือนกันความแตกต่างมัน
00:08:10 → 00:08:12 มันมีคลื่นแม่เหล็กอะไรมยหรือว่าแรงสั่น
00:08:12 → 00:08:13 สะเทือนที่มันไม่เท่ากันนะคือจริงๆแล้ว
00:08:13 → 00:08:16 เนี่ยส่วนถูกต้องอันนี้ที่สำคัญมากๆที่
00:08:16 → 00:08:18 เป็นหัวใจของเครื่องกลุ่มพวกนี้ก็คือความ
00:08:18 → 00:08:23 ถี่แอมพลิจูดแล้วก็ความแรงอืนะคะโดยทั่ว
00:08:23 → 00:08:25 ไปเนี่ยจะมีเครื่องกอปี้ออกเยอะมากเลยแต่
00:08:25 → 00:08:27 เครื่องอันนี้จะเห็นว่าเาชื่อ nes bosco
00:08:27 → 00:08:29 System nes bosco System เนี่ยคือคน
00:08:29 → 00:08:33 ที่เป็นคนคิดคนคิดแล้วก็คนทำการค้นคว้า
00:08:33 → 00:08:36 วิจัยนะคะระบบของ hing Exercise ขึ้นมา
00:08:36 → 00:08:38 เพราะฉะนั้นเนี่ยเาจะเก็จะคิดออกมาเลยว่า
00:08:38 → 00:08:41 แมแล้วคือเจดพเนพวกนี้ไว้คือจดลิขสิทธิ์
00:08:41 → 00:08:44 ไว้นั่นหมายความว่าถ้าอ่าเราต้องการที่จะ
00:08:44 → 00:08:47 ทำให้เกิดมีการกระตุ้นในระบบประสาทเนี่ย
00:08:47 → 00:08:49 ที่จะมีกระตุ้นระบบของฮอร์โมนออกมานั่น
00:08:49 → 00:08:51 หมายความว่าเ่อคลื่นที่ออกมาคลื่นของความ
00:08:51 → 00:08:54 กันสัน่ะค่ะจะต้องประมาณเท่านี้นะคะ
00:08:54 → 00:08:56 ประมาณนี้แต่ละคนก็จะไม่เหมือนกันเก็จะมี
00:08:56 → 00:08:59 ตัววัดอีกว่าในแต่ละคนจะต้องใช้ใช้คลื่น
00:08:59 → 00:09:02 ประมาณไหนนะคะซึ่งก็โดยปกติทั่วไปก็ที่
00:09:02 → 00:09:05 เป็นเครื่องเลียนแบบก็จะไม่มีแบบนี้ทุกคน
00:09:05 → 00:09:07 ต้องใช้เครื่องนี้มั้ยคะก็ส่วนใหญ่ก็คือ
00:09:07 → 00:09:10 จะใช้เครื่องนี้ใช่มันก็เป็นตัวที่ช่วยทำ
00:09:10 → 00:09:12 ให้สร้างกล้ามเนื้อลดไขมันแล้วก็ที่สำคัญ
00:09:12 → 00:09:14 คือกระตุ้นการหลังฮอร์โมนเครื่คนะคะเอา
00:09:14 → 00:09:17 ล่ะค่ะคุณผู้ชมคะนี่ก็คือส่วนของโปรแกรม
00:09:17 → 00:09:19 alra wellness นะคะยังมีอีกนะคะในราย
00:09:19 → 00:09:24 ละเอียดต่างๆเดี๋ยวช่วงหน้าพบกัน
00:09:24 → 00:09:28 [เพลง]
00:09:28 → 00:09:29 ค่ะ
00:09:29 → 00:09:37 [เพลง]
00:09:38 → 00:09:41 อ