00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับผมคิดว่าหลายคนนะครับก็คงจะเคย
00:00:03 → 00:00:06 ประสบอาการมึนหัวสักครั้งหนึ่งในชีวิตนะ
00:00:06 → 00:00:09 ครับอาการนี้เนี่ยหลายๆคนก็อาจจะมีสาเหตุ
00:00:09 → 00:00:12 ชัดเจนเช่นว่าจะพักผ่อนไม่เพียงพอนะครับ
00:00:12 → 00:00:15 ผมงานหนักไม่ได้ทานข้าวนะครับทานน้ำไม่
00:00:15 → 00:00:17 เพียงพออาการมันก็จะเป็นขึ้นมาได้นะครับ
00:00:17 → 00:00:20 แต่ว่าบางคนนั้นอาการเป็นบ่อยนะครับเป็น
00:00:20 → 00:00:24 รุนแรงนะครับบางคนอาจจะมีอาการวูบเป็นลม
00:00:24 → 00:00:28 หมดสติเรื่อยๆนะครับทำให้มีปัญหาต่อการ
00:00:28 → 00:00:30 ใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมากนะครับและ
00:00:30 → 00:00:33 บางครั้งเนี่ยมันมีสาเหตุที่เราอาจจะมอง
00:00:33 → 00:00:34 ข้ามไปได้วันนี้ผมก็เลยอยากจะเอาเรื่อง
00:00:34 → 00:00:37 นี้มาเล่าให้ทุกๆคนฟังกันเลยนะครับจริงๆ
00:00:37 → 00:00:40 เรื่องนี้ผมเคยเล่าไปแล้วเมื่อปีกว่านะ
00:00:40 → 00:00:43 ครับแต่ว่าเห็นมันเป็นเรื่องที่พบบ่อยก็
00:00:43 → 00:00:45 เลยอยากจะเอามาเล่าแล้วก็ลงรายละเอียด
00:00:45 → 00:00:48 เพิ่มเติมให้เล็กน้อยนะครับพบกับผมนะครับ
00:00:48 → 00:00:50 นายแพทย์ธนินทวรรณนะครับเป็นอาจารย์แพทย์
00:00:50 → 00:00:52 อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรค
00:00:52 → 00:00:55 ปอดการปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับ
00:00:55 → 00:00:58 ก่อนอื่นนะครับผมต้องขอแยกอาการมึนหัวออก
00:00:58 → 00:01:02 จากอาการบ้านหมุนให้เข้าใจกันซะก่อนนะ
00:01:02 → 00:01:05 ครับหลายๆคนเนี่ยเวลาไปหาหมอเนี่ยก็มักจะ
00:01:05 → 00:01:10 บอกว่ามึนหัวเวียนหัวพวกนี้นะครับแต่
00:01:10 → 00:01:12 สาเหตุของมันแต่ละอย่างเนี่ยไม่เหมือนกัน
00:01:12 → 00:01:15 เลยนะครับดังนั้นเรามีความจำเป็นจะต้อง
00:01:15 → 00:01:18 แยกกันให้ได้ซะก่อนอาการที่หมอเขาจะถาม
00:01:18 → 00:01:21 ประการหนึ่งเลยก็คืออาการบ้านหมุนนะครับ
00:01:21 → 00:01:23 บ้านหมุนเนี่ยภาษาทางการแพทย์เราจะเรียก
00:01:23 → 00:01:27 มันว่านะครับอาการมันก็คือต่อให้เราอยู่
00:01:27 → 00:01:30 เฉยๆไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรนะครับมันก็
00:01:30 → 00:01:33 เหมือนกับว่าห้องหรือโลกรอบๆตัวเราเนี่ย
00:01:33 → 00:01:36 มันหมุนได้นะครับแล้วเราก็จะมีอาการเวียน
00:01:36 → 00:01:40 หัวมากๆเลยเวียนหัวจนกระทั่งจะสามารถอ้วก
00:01:40 → 00:01:42 อาเจียนออกมาได้เลยนะครับมันจะรุนแรงมากๆ
00:01:42 → 00:01:45 นะครับนี่คืออาการของบ้านหมุนนะครับซึ่ง
00:01:45 → 00:01:49 หลายๆครั้งนะครับมันมีปัญหาอยู่ที่ระบบ
00:01:49 → 00:01:53 เส้นประสาทหูหรืออวัยวะต่างๆในหูหรืออาจ
00:01:53 → 00:01:55 จะเป็นที่สมองก็ได้นะครับเวลาไปหาหมอ
00:01:55 → 00:01:57 เนี่ยเขาก็จะพยายามจะแยกให้ได้ก่อนว่า
00:01:57 → 00:01:59 เอ้ยมันเป็นบ้านหมุนไหมถ้าเป็นบ้านหมุน
00:01:59 → 00:02:02 มันเป็นจากหูหรือมันเป็นจากที่สมองนะครับ
00:02:02 → 00:02:05 ซึ่ง 2 อย่างนี้เนี่ยอาการมันก็จะไม่
00:02:05 → 00:02:08 เหมือนกันนะครับอาการที่เราเจอกันบ่อยๆนะ
00:02:08 → 00:02:11 ครับมักจะเป็นอาการที่มีความผิดปกติของหู
00:02:11 → 00:02:14 นะครับคืออวัยวะในหูเนี่ยมันอาจจะมีความ
00:02:14 → 00:02:17 เสี่ยงสมดุลไปคือในหูเราเนี่ยมันจะมีหิน
00:02:17 → 00:02:19 ปูนนะครับอยู่ในนั้นหินปูนพวกนี้เราจะรีบ
00:02:19 → 00:02:22 มันว่า otolist นะครับซึ่งมันก็ควรจะอยู่
00:02:22 → 00:02:25 ในกระป๋องอันนึงในหูของเรานี่แหละครับแต่
00:02:25 → 00:02:27 ว่าบางครั้งเนี่ยเนื่องด้วยความเสื่อม
00:02:27 → 00:02:29 หรืออะไรสักอย่างนะครับทำให้หินปูนมัน
00:02:29 → 00:02:31 หลุดออกมาไปอยู่ที่มันไม่ควรจะอยู่นะครับ
00:02:31 → 00:02:34 แล้วพอมันหลุดออกมาเนี่ยมันสามารถวิ่งไป
00:02:34 → 00:02:36 วิ่งมาได้ดังนั้นเมื่อไหร่ก็แล้วแต่ที่
00:02:36 → 00:02:39 เรามีการเปลี่ยนท่าทางเช่นเราล้มตัวลงนอน
00:02:39 → 00:02:42 เรากำลังจะลุกขึ้นเราหันซ้ายหันขวาพลิก
00:02:42 → 00:02:45 ตัวไปมาบนเตียงนะครับไอ้หินปูนตรงเนี้ย
00:02:45 → 00:02:47 มันก็จะวิ่งไปวิ่งมามันทำให้เกิดการ
00:02:47 → 00:02:50 กระตุ้นเส้นประสาทเอ่อเซลล์ของเส้นประสาท
00:02:50 → 00:02:54 ในหูนะครับเหมือนกับว่าเรากำลังหันอยู่นะ
00:02:54 → 00:02:57 ครับแล้วการที่มันวิ่งไปวิ่งมาอยู่ในหู
00:02:57 → 00:02:59 เนี่ยมันก็ทำให้เกิดอาการบ้านหมุนขึ้นมา
00:02:59 → 00:03:04 นะครับนั่นถ้ามันเป็นในหูเนี่ยก็จะมีท่า
00:03:04 → 00:03:07 ทางบางอย่างเป็นกายภาพซึ่งคุณหมอทางด้าน
00:03:07 → 00:03:09 หูคอจมูกหรือนักกายภาพบำบัดด้านนี้โดย
00:03:09 → 00:03:11 เฉพาะเนี่ยเขาก็จะสามารถทำให้เราได้เพื่อ
00:03:11 → 00:03:15 ที่จะเอาตัวหินกลับเข้าไปสู่บริเวณที่มัน
00:03:15 → 00:03:17 ควรจะอยู่นะครับโรคโรคนี้เราจะเจอบ่อยนะ
00:03:17 → 00:03:23 ครับเราจะเรียกมันว่า btpv นะครับ
00:03:23 → 00:03:26 อันนี้เจอบ่อยเลยเป็นอาการทางหูไม่ได้
00:03:26 → 00:03:29 อันตรายนะครับแต่ว่ามันจะมันจะน่ารำคาญ
00:03:29 → 00:03:31 มากเพราะว่าเวลาที่มันเวียนมาทีนี้มันจะ
00:03:31 → 00:03:33 อ้วกเลยทำอะไรไม่ได้ต้องล้มตัวลงนอนต้อง
00:03:33 → 00:03:35 หลับตาแต่ขนาดทำอย่างนั้นมันก็ยังไม่ขาย
00:03:35 → 00:03:37 นะครับแล้วก็โดยทั่วไปเนี่ยมันมักจะมี
00:03:37 → 00:03:40 อาการอยู่ประมาณไม่กี่นาทีแล้วมันก็จะหาย
00:03:40 → 00:03:43 ไปกินกินยาเนี่ยกว่ายามันจะออกฤทธิ์อาการ
00:03:43 → 00:03:45 มันก็หายไปซะก่อนละครับดังนั้นส่วนใหญ่
00:03:45 → 00:03:47 กินยาก็จะไม่ค่อยได้ประโยชน์อะไรยกเว้น
00:03:47 → 00:03:50 ว่าคนที่เป็นบ่อยจริงๆอ่ะอันเนี้ยยาต่างๆ
00:03:50 → 00:03:52 ก็อาจจะได้ประโยชน์ซึ่งตรงนี้คงจะต้องไป
00:03:52 → 00:03:55 คุยกับคุณหมอทางด้านหูคอจมูกอีกทีนะครับ
00:03:55 → 00:03:59 แต่อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่มีเฉพาะเรื่อง
00:03:59 → 00:04:01 โรคนี้เท่านั้นที่ทำให้เกิดอาการบ้านหมุน
00:04:01 → 00:04:04 นะครับมันมีโรคอื่นด้วยยกตัวอย่างเช่นโรค
00:04:04 → 00:04:07 ทางสมองนะครับโดยเฉพาะสมองส่วนหลังของเรา
00:04:07 → 00:04:11 ตรงนี้ที่เรียกว่านะครับหรือบางทีมันมี
00:04:11 → 00:04:13 เนื้องอกที่อยู่ในแถวๆนั้นก็จะมีปัญหา
00:04:13 → 00:04:16 เรื่องของการเวียนหัวแบบที่บ้านหมุนไปเลย
00:04:16 → 00:04:18 ก็ได้นะครับดังนั้นตรงนี้เนี่ยอาจจะต้อง
00:04:18 → 00:04:21 มีการไปตรวจบางคนเนี่ยถ้ามีอาการทางสมอง
00:04:21 → 00:04:24 เช่นอาจจะมีอาการชาอาการที่เคลื่อนไหวผิด
00:04:24 → 00:04:27 ปกตินะครับอาการที่สายตากับมือเนี่ยมัน
00:04:27 → 00:04:28 ไม่สัมพันธ์กันใช่ว่าเราจะหยิบจับอะไร
00:04:28 → 00:04:31 แล้วมันมันหยิบไม่โดนหยิบไม่ได้สักทีอะไร
00:04:31 → 00:04:33 อย่างเงี้ยนะครับหรือมีอาการชาที่แปลกๆ
00:04:33 → 00:04:36 เช่นเอ่อครึ่งซีกด้านซ้ายของตัวแต่ว่า
00:04:36 → 00:04:38 หน้าช้าอีกข้างนึงด้านขวาอะไรอย่างเงี้ย
00:04:38 → 00:04:41 นะครับพวกเนี้ยอาจจะบ่งบอกถึงว่ามีอาการ
00:04:41 → 00:04:44 ทางสมองนะครับบางคนมีเส้นประสาททางสมอง
00:04:44 → 00:04:46 ที่มันมีปัญหาไปเช่นหน้ามันเบี้ยวอะไร
00:04:46 → 00:04:49 อย่างเงี้ยนะครับหรือว่ามีเรื่องเรื่อง
00:04:49 → 00:04:52 การได้ยินที่มันผิดปกติไปด้วยมีเสียงในหู
00:04:52 → 00:04:54 ที่เรียกว่านะครับพวกนี้ก็จะต้องไปตรวจ
00:04:54 → 00:04:56 เพิ่มเติมเพราะว่าบางครั้งมันอาจจะเป็น
00:04:56 → 00:04:58 เรื่องของสมองเรื่องของเส้นเลือดสมองตีบ
00:04:58 → 00:05:03 ได้นะครับนี่คืออาการบ้านหมุนครับบ้าน
00:05:03 → 00:05:06 หมุนนั้นไม่ใช่เฉพาะความรู้สึกที่มันหมุน
00:05:06 → 00:05:08 เท่านั้นนะครับบางคนเนี่ยมีความรู้สึก
00:05:08 → 00:05:11 เหมือนกับว่าตัวเราเองเลื่อนบนพื้นได้
00:05:11 → 00:05:13 เหมือนกับว่าเรายืนบนพื้นทางเลื่อนแล้ว
00:05:13 → 00:05:14 มันเลื่อนไปเรื่อยๆทั้งๆที่จริงๆตัวเรา
00:05:14 → 00:05:16 เนี่ยมันอยู่กับที่นะครับแต่ว่าเป็นความ
00:05:16 → 00:05:19 รู้สึกที่มันเลื่อนได้นะครับบ้านหมุนบาง
00:05:19 → 00:05:22 ครั้งมันมีลักษณะแบบหนึ่งก็คือมันหมุนแต่
00:05:22 → 00:05:23 อีกแบบนึงก็คือมันเลื่อนอาจจะเป็นเลื่อน
00:05:23 → 00:05:25 ตรงๆอย่างนี้หรือว่าเลื่อนทางขวาอย่างนี้
00:05:25 → 00:05:29 ก็ได้นะครับอ่ะทีนี้ก็ต้องบอกหมอให้ชัด
00:05:29 → 00:05:31 เจนว่าเราเป็นอาการแบบไหนทีนี้เรามาดู
00:05:31 → 00:05:34 เรื่องของอาการมึนหัวกันดีกว่านะครับมึน
00:05:34 → 00:05:37 หัวเนี่ยหลายคนจะมาบอกว่าเอ้ยมันมึนๆมัน
00:05:37 → 00:05:40 หนักๆตื้อๆหัวมันรู้สึกไม่สดชื่นนะครับ
00:05:40 → 00:05:42 แต่มันจะไม่ได้รุนแรงขนาดที่ท่านอ้วก
00:05:42 → 00:05:45 อาเจียนเหมือนกรณีบ้านหมุนนะครับมึนหัว
00:05:45 → 00:05:48 พวกนี้บางคนนะครับเวลาเป็นขึ้นมาเนี่ยมัน
00:05:48 → 00:05:51 เป็นหนักจนกระทั่งสามารถวูบไปได้เลยนะ
00:05:51 → 00:05:53 ครับทำๆอยู่แล้วก็วูบภาพตัดมันมืดไปเลยนะ
00:05:54 → 00:05:57 ฮะสาเหตุมันเป็นจากอะไรได้บ้างนะครับอัน
00:05:57 → 00:06:00 แรกหลายๆคนก็คงจะเข้าใจรู้จักแน่นอนอัน
00:06:00 → 00:06:03 นี้คืออาการพักผ่อนไม่เพียงพอนะครับ
00:06:03 → 00:06:06 อันนี้มันเป็นหลักเลยนะครับหลักยังไงเรา
00:06:06 → 00:06:09 ต้องมาเข้าใจตรงนี้การที่สมองมันมึนได้
00:06:09 → 00:06:12 เรามึนหัวได้เนี่ยนะครับส่วนใหญ่แล้วมัน
00:06:12 → 00:06:15 เป็นเพราะว่าสมองของเราเนี่ยมันไม่มีพลัง
00:06:15 → 00:06:18 งานเพียงพอหรือมิฉะนั้นก็มีอะไรมาทำให้
00:06:18 → 00:06:21 มันทำงานผิดปกตินะครับการนอนหลับพักผ่อน
00:06:21 → 00:06:24 ที่เพียงพอจะสามารถทำให้สมองของเราสร้าง
00:06:24 → 00:06:27 พลังงานขึ้นมาได้เพียงพอปกติเวลาที่เรา
00:06:27 → 00:06:30 ตื่นอยู่นานๆเนี่ยสมองของเรามันจะใช้พลัง
00:06:30 → 00:06:32 งานไปเรื่อยๆนะครับเกิดสารตัวหนึ่งชื่อ
00:06:32 → 00:06:35 ว่า adenosine ขึ้นมานะครับตอนแรกเนี่ย
00:06:35 → 00:06:37 มันเป็น adenosine try for Stage มี
00:06:37 → 00:06:39 ฟอสเฟต 3 ตัวการที่มันสลายเพื่อให้พลัง
00:06:39 → 00:06:41 งานไปเรื่อยๆมันก็จะเกิดสารอะดิโนซิม
00:06:41 → 00:06:43 เพิ่มขึ้นอดีนอนซิลตัวนี้นะครับมันไม่ใช่
00:06:43 → 00:06:46 มันไม่สามารถให้พลังงานเราได้อีกต่อไปจน
00:06:46 → 00:06:49 กระทั่งเรานอนหลับมันจะถูกเปลี่ยนกลับไป
00:06:49 → 00:06:51 เป็นอนินทรีย์ try Force ไปอีกรอบนึง
00:06:51 → 00:06:53 ซึ่งอันนี้จะให้พลังงานได้ดังนั้นถ้าเกิด
00:06:53 → 00:06:56 คนเรานอนไม่พอนอนหลับคุณภาพไม่ดีเนี่ยมัน
00:06:56 → 00:06:59 ก็จะขาดพลังงานในสมองเราก็จะเกิดอาการมึน
00:06:59 → 00:07:55 หัวขึ้นมาได้นั่นเองครับดังนั้น
00:07:55 → 00:08:01 [เพลง]
00:08:01 → 00:08:04 อาจจะไม่ได้ตื่นจนกระทั่งรู้ว่ารอบๆมัน
00:08:04 → 00:08:05 เกิดอะไรขึ้นนะครับมันอาจจะตื่นขึ้นมา
00:08:05 → 00:08:08 เล็กๆน้อยๆนะครับเรียกว่าเป็น Micro
00:08:08 → 00:08:10 arounds คือตื่นนิดนึงแหละแต่ยังไม่ถึง
00:08:10 → 00:08:14 ขั้นที่จะรู้สติดีนะครับแบบนี้ต่อให้มัน
00:08:14 → 00:08:16 ไม่รู้สติดีไม่รู้สึกตัวว่าตื่นแต่มันก็
00:08:16 → 00:08:19 คือตื่นนะครับพอตื่นขึ้นมาปัญหาก็คือว่า
00:08:19 → 00:08:21 มันจะทำให้การนอนหลับของเราเนี่ยไม่ต่อ
00:08:21 → 00:08:24 เนื่องก็เป็นการนอนหลับที่ไม่มีคุณภาพเรา
00:08:24 → 00:08:26 ก็จะมีอาการมึนหัวได้ในตอนที่เราตื่นขึ้น
00:08:26 → 00:08:29 มาตอนเช้าหรือว่าระหว่างวันนั่นเองนะครับ
00:08:29 → 00:08:31 อันนี้เป็นอาการนึงซึ่งหลายๆคนอาจจะไม่
00:08:31 → 00:08:34 ทราบนะครับการนอนกัดฟันอันนี้ก็มีความ
00:08:34 → 00:08:36 เกี่ยวข้องนอนละเมอบ่อยๆบางคนอาจจะมี
00:08:36 → 00:08:38 ปัญหาบางคนคิดมากนะครับเครียดเรื่องอะไร
00:08:38 → 00:08:41 ต่างๆแล้วมันทำให้การนอนหลับเนี่ยหลับไม่
00:08:41 → 00:08:43 ลึกนะครับการพักผ่อนของเราก็จะไม่ดีนะ
00:08:43 → 00:08:46 ครับนั่นก็คือเป็นปัญหาที่จะทำให้เราเกิด
00:08:46 → 00:08:49 เรื่องพวกนี้ขึ้นมาได้นะครับนี่คือใน
00:08:49 → 00:08:51 เรื่องของการนอนนอกเหนือจากนี้สิ่งอื่นๆ
00:08:51 → 00:08:54 ที่รบกวนการนอนของเราเช่นเรานอนแล้วมันมี
00:08:54 → 00:08:56 เสียงดังมีไฟมีแสงอะไรอย่างเงี้ยนะครับ
00:08:57 → 00:08:59 ถึงแม้ว่าเราจะนอนหลับแต่มันเป็นการนอน
00:08:59 → 00:09:01 หลับที่ไม่สนิทนะครับก็จะเกิดปัญหาเหล่า
00:09:01 → 00:09:04 นี้ขึ้นมาได้นะฮะสิ่งหนึ่งซึ่งเราต้อง
00:09:04 → 00:09:07 กังวลก็คือว่าเวลาที่เรานอนบางคนอยากจะ
00:09:07 → 00:09:09 เปิดเสียงอะไรคลอไปด้วยขึ้นอยู่กับเสียง
00:09:09 → 00:09:13 นั้นคืออะไรครับถ้าท่านฟังเสียงนั้นแล้ว
00:09:13 → 00:09:16 เสียงมันรู้สึกว่ามันรบกวนการนอนหลับมากๆ
00:09:16 → 00:09:18 นะครับอันนั้นก็อาจจะมีปัญหาแต่ถ้าเกิด
00:09:18 → 00:09:20 ว่าเป็นเสียงเพื่อการนอนหลับเช่นคลื่น
00:09:20 → 00:09:22 ความถี่บางอย่างนะครับเป็นคลื่นความถี่
00:09:22 → 00:09:24 ที่มันฟังแล้วเออหลับสบายเป็นเพลงที่ฟัง
00:09:24 → 00:09:26 แล้วหลับสบายแล้วท่านตื่นมาท่านไม่เคยมี
00:09:26 → 00:09:28 อาการมึนหัวอันนั้นฟังต่อได้ไม่มีปัญหา
00:09:28 → 00:09:31 อะไรนะครับแต่ถ้าท่านฟังไปแล้วรู้สึกว่า
00:09:31 → 00:09:33 ทำไมมึนหัวถ้าเรามาคิดดูซิว่าเราทำอะไร
00:09:33 → 00:09:36 หรือเปล่าลองไปปิดเสียงพวกนั้นดูซิว่าวัน
00:09:36 → 00:09:37 ต่อไปมันเป็นหรือเปล่าอะไรอย่างนี้นะครับ
00:09:37 → 00:09:39 สามารถทดลองกับตัวเองได้ไม่ได้มีอันตราย
00:09:39 → 00:09:43 ใดๆแต่อย่างใดนะครับอ่าแสงเสียงความร้อน
00:09:43 → 00:09:45 หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้เรานอนหลับไม่
00:09:45 → 00:09:48 สนิทนะครับพวกนี้ก็จะเป็นปัญหาหรือคนที่
00:09:48 → 00:09:51 คิดเยอะๆนะครับวิธีแก้ก็คือเราเอากระดาษ
00:09:51 → 00:09:52 มาใบนึงวางข้างเตียงคิดอะไรก็จดไว้ก่อน
00:09:52 → 00:09:55 แล้วก็วันพรุ่งนี้ค่อยมาคิดต่อนะครับคืน
00:09:55 → 00:09:57 นั้นจะได้ไม่ต้องคิดนะครับไม่งั้นมันนอน
00:09:57 → 00:09:59 ไม่หลับนะฮะอ่าอันนี้ก็เป็นเรื่องของการ
00:09:59 → 00:10:02 นอนหลับถ้าเราไม่แน่ใจเรารู้สึกว่าเรานอน
00:10:02 → 00:10:05 เพียงพอแล้วนะครับแต่มันยังมีอาการมึนหัว
00:10:05 → 00:10:07 แนะนำว่าควรจะไปตรวจการนอนหลับนะครับ
00:10:07 → 00:10:10 เพื่อว่าเราจะได้เข้าใจนะฮะทีนี้อันนี้
00:10:10 → 00:10:12 เรื่องของการนอนหลับเรื่องของการสร้าง
00:10:12 → 00:10:15 พลังงานในสมองต่อมาเรื่องของการที่สมองจะ
00:10:15 → 00:10:17 ได้พลังงานเพียงพอมันได้มาจากไหนนะครับ
00:10:17 → 00:10:20 มันก็มาจากเลือดเลือดของเรานี่แหละครับ
00:10:20 → 00:10:22 ดังนั้นถ้าเลือดเราไปเลี้ยงสมองไม่เพียง
00:10:22 → 00:10:24 พอเราก็จะมีอาการมึนหัวบ่อยๆนะครับแล้วก็
00:10:24 → 00:10:27 มีอาการวูบได้อะไรคือเลือดไปเลี้ยงสมอง
00:10:27 → 00:10:32 ไม่เพียงพอได้บ้าง 1 โลหิตจางโลหิตจางเจอ
00:10:32 → 00:10:36 บ่อยในคนที่เป็นผู้หญิงนะครับมีประจำ
00:10:36 → 00:10:38 เดือนแน่นอนอาจจะมีอาการขาดธาตุเหล็กเกิด
00:10:38 → 00:10:41 โลหิตจางพอเลือดมันที่เพียงพอมันก็ไป
00:10:41 → 00:10:43 เลี้ยงสมองของเราไม่เพียงพอนั่นเองนะครับ
00:10:43 → 00:10:45 อันนี้เจอบ่อยอาจจะต้องไปตรวจนิดนึงนะ
00:10:45 → 00:10:49 ครับถ้าเรามาเป็นอาการมึนหัวน่ะในช่วงวัย
00:10:49 → 00:10:52 อายุน้อยๆนะครับอ่าพวกนี้ไม่ค่อยมีปัญหา
00:10:52 → 00:10:54 เท่าไหร่แต่ว่าถ้าท่านไปเป็นตอนอายุเยอะ
00:10:54 → 00:10:56 แล้วไม่เคยเป็นมาก่อนเช่น 50 อายุ 50
00:10:56 → 00:10:59 อายุ 60 อย่างเงี้ยแล้วอยู่ๆมันมึนหัวไม่
00:10:59 → 00:11:01 เคยเป็นมาก่อนพวกนี้ต้องไปตรวจเสมอนะครับ
00:11:01 → 00:11:03 มันอาจจะมีโรคที่อันตรายซ่อนอยู่ก็ได้นะ
00:11:03 → 00:11:06 ครับโลหิตจางก็ไม่ได้มีแค่โรคเดียวเช่น
00:11:06 → 00:11:08 เอ่อไม่ได้มีแค่โรคการขาดธาตุเหล็กจาก
00:11:08 → 00:11:10 ประจำเดือนอย่างเดียวทีเดียวนะครับแต่ว่า
00:11:10 → 00:11:12 บางคนเนี่ยอาจจะเป็นอย่างอื่นก็ได้เช่นมี
00:11:12 → 00:11:14 อาการเลือดออกในทางเดินอาหารนะครับโดย
00:11:14 → 00:11:19 เฉพาะคนที่กินเหล้าเยอะๆหรือว่าใช้ยาแก้
00:11:19 → 00:11:22 ปวดชนิดที่เรียกว่า nsaid นะครับนอนเสีย
00:11:22 → 00:11:25 ดรแอนด์ไทมิเตอร์ซึ่งมันเป็นยาแก้ปวดแล้ว
00:11:25 → 00:11:27 ก็มันกัดกระเพาะได้นะครับบางคนอาจจะมี
00:11:27 → 00:11:28 เลือดออกในทางเดินอาหารโดยที่ไม่รู้ตัว
00:11:28 → 00:11:32 พวกนี้ก็จะทำให้มึนหัววูบได้มีอาการ
00:11:32 → 00:11:34 เหนื่อยเพลียได้มากกว่าปกติดังนั้นต้องไป
00:11:34 → 00:11:36 ตรวจเสมอนะครับว่าท่านเป็นภาวะนี้หรือ
00:11:36 → 00:11:42 เปล่านะครับหรือบางคนมีโรคไตถ้าโรคไตรุน
00:11:42 → 00:11:45 แรงมากๆแล้วนะครับไตวายเรื้อรังนะครับไต
00:11:45 → 00:11:47 ของเราเนี่ยจะไม่สามารถสร้างฮอร์โมนอีริส
00:11:47 → 00:11:49 โอโปรตินได้ฮอร์โมนตัวนี้เนี่ยจะเป็น
00:11:49 → 00:11:52 ฮอร์โมนซึ่งสามารถกระตุ้นทำให้เราผลิต
00:11:52 → 00:11:55 เม็ดเลือดแดงออกมานะครับถ้าไตมันวายไปนาน
00:11:55 → 00:11:57 ๆเนี่ยมันก็ไม่สามารถสร้างฮอร์โมนได้ดัง
00:11:57 → 00:12:00 นั้นเราก็จะมีอาการโลหิตจางขึ้นมาแล้วเรา
00:12:00 → 00:12:02 ก็จะมีอาการพวกนี้ได้ดังนั้นต้องไปรักษา
00:12:02 → 00:12:05 กับคุณหมอโรคไตเพราะว่าเขาจะมียาที่ฉีด
00:12:05 → 00:12:07 เพิ่มเลือดให้เราได้นะครับ
00:12:07 → 00:12:11 อันนี้เป็นกรณีของโลหิตจางต่อมาถ้าเรามี
00:12:11 → 00:12:16 ปริมาณน้ำเลือดที่ไม่เพียงพอล่ะเรามีเม็ด
00:12:16 → 00:12:17 เลือดมันต้องมีเม็ดเลือดเพียงพอถูกไหม
00:12:17 → 00:12:20 ครับมีเม็ดเลือดเพียงพอมีฮีโมโกลบินเพียง
00:12:20 → 00:12:22 พอแต่ถ้าเม็ดเลือดมันมีเพียงพอแต่น้ำ
00:12:22 → 00:12:25 เลือดล่ะนะครับเลือดเรามันไม่ได้มีแต่
00:12:25 → 00:12:27 เม็ดเลือดแต่มันมีแต่เป็นมีเม็ดแล้วก็มี
00:12:27 → 00:12:29 ส่วนที่เป็นน้ำด้วยถ้าน้ำเลือดไม่เพียงพอ
00:12:29 → 00:12:32 เช่นอะไรบ้างเช่นถ้าเราดื่มน้ำไม่เพียงพอ
00:12:32 → 00:12:35 ครับเรามีภาวะขาดน้ำเราไปวิ่งมาราธอนมา
00:12:35 → 00:12:38 นานๆแล้วเราไม่ดื่มน้ำเลยหรืออากาศเมือง
00:12:38 → 00:12:40 ไทยเนี่ยมันร้อนมากๆแล้วท่านดื่มน้ำไม่
00:12:40 → 00:12:43 เพียงพออันนี้ก็จะมีปัญหาละคือปริมาณน้ำ
00:12:43 → 00:12:46 ในเลือดลดลงมันก็ไปเลี้ยงสมองเราได้ลดลง
00:12:46 → 00:12:48 เราก็จะเอามึนหัวนั่นเองนะครับอ่านี่คือ
00:12:48 → 00:12:52 เรื่องของน้ำเลือดทีนี้เรามีเลือดมีน้ำ
00:12:52 → 00:12:55 เลือดมันก็ต้องมีปั๊มเลือดปั๊มเลือดมันมา
00:12:55 → 00:12:59 จากไหนหัวใจครับถ้าหัวใจของเราทำงานผิด
00:12:59 → 00:13:03 ปกตินะครับมันก็จะมีปัญหาเช่นการปั๊มของ
00:13:03 → 00:13:06 มันเนี่ยจะต้องมีความแรงที่เพียงพอแล้วก็
00:13:06 → 00:13:08 ต้องมีความเร็วที่เพียงพอถ้ามันความแรง
00:13:08 → 00:13:10 ไม่เพียงพอความเร็วไม่เพียงพอมันก็ไป
00:13:10 → 00:13:12 เลี้ยงสมองไม่ทันนะครับท่านก็จะมีอาการ
00:13:12 → 00:13:15 แบบนั้นบ่อยๆส่วนใหญ่พวกนี้เนี่ยมักจะรู้
00:13:15 → 00:13:18 ตัวว่ามีโรคหัวใจมาก่อนนะครับอาจจะโรคหัว
00:13:18 → 00:13:20 ใจเต้นผิดปกตินะครับก็หัวใจเต้นช้าผิด
00:13:20 → 00:13:23 ปกติหรือโรคหัวใจที่มันมีการบีบตัวผิด
00:13:23 → 00:13:26 ปกติเช่นโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันชนิดต่าง
00:13:26 → 00:13:28 ๆพวกนี้ก็จะต้องไปตรวจกับคุณหมอถึงจะ
00:13:28 → 00:13:30 สามารถบอกได้ว่าเออท่านเป็นแบบไหนแล้วก็
00:13:30 → 00:13:32 ต้องรักษาแบบไหนนะครับเพราะว่าแต่ละแบบ
00:13:32 → 00:13:35 มันรักษาไม่เหมือนกันนะฮะบางคนมีอาการน้ำ
00:13:35 → 00:13:37 ท่วมปอดบ่อยๆจากโรคหัวใจอันนี้ก็จะเป็น
00:13:37 → 00:13:40 สาเหตุหนึ่งของการมึนหัวได้เช่นกันเพราะ
00:13:40 → 00:13:42 ว่าอวัยวะที่ใช้ในการปั๊มเลือดมันเสียไป
00:13:42 → 00:13:44 นะครับ
00:13:44 → 00:13:49 นี่คือการปั๊มเลือดทีนี้ถ้าน้ำเลือดเพียง
00:13:49 → 00:13:52 พอเม็ดเลือดเพียงพอความเลือดมันดีมันมี
00:13:52 → 00:13:54 ปัญหานึงครับเลือดแล้วทุกอย่างดีแหละแต่
00:13:54 → 00:13:56 ว่ามันไม่สามารถไปถึงสมองได้ด้วยสาเหตุ
00:13:56 → 00:13:58 ต่างๆยกตัวอย่างเช่น
00:13:58 → 00:14:02 คนที่ลุกแล้วมันวูบง่ายๆถ้าเรานั่งอยู่
00:14:02 → 00:14:05 แล้วเราลุกเราวูบง่ายหรือว่าคนที่นอนแล้ว
00:14:05 → 00:14:07 ตอนเช้าตื่นมาลุกแล้ววูบง่ายเนี่ยนะครับ
00:14:07 → 00:14:10 พวกนี้เนี่ยจะต้องระวังภาวะหนึ่งส่วนใหญ่
00:14:10 → 00:14:12 มันจะเป็นเพราะว่าร่างกายของเราเนี่ยไม่
00:14:12 → 00:14:15 เคยออกกำลังกายมาก่อนไม่ค่อยแข็งแรงนะ
00:14:15 → 00:14:17 ครับเพราะว่าเวลาที่เราลุกขึ้นหรือยืน
00:14:18 → 00:14:20 ขึ้นเนี่ยเลือดของเรามันจะตกลงไปตามแรง
00:14:20 → 00:14:23 โน้มถ่วงของโลกนะครับดังนั้นมันจะอยู่ที่
00:14:23 → 00:14:26 ขาหรือที่ตัวนะครับมันจะไม่ไปที่สมองถูก
00:14:26 → 00:14:28 ไหมครับเพราะสมองถ้าเรายืนขึ้นมาเนี่ยมัน
00:14:28 → 00:14:31 จะอยู่จุดที่สูงที่สุดซึ่งหัวใจของเรา
00:14:31 → 00:14:34 เนี่ยจะต้องดีดเลือดย้อนแรงดึงดูดเพื่อไป
00:14:34 → 00:14:37 ที่สมองแต่ว่าหัวใจของเรามันเอาเลือดมา
00:14:37 → 00:14:40 จากไหนครับมันก็ต้องเอามาจากหลอดเลือดดำ
00:14:40 → 00:14:42 ที่มาอยู่ตามแขนตามขาเพื่อที่จะขึ้นมาที่
00:14:42 → 00:14:45 หัวใจแล้วก็บีบออกไปอีกรอบนึงนะครับทีนี้
00:14:45 → 00:14:47 ถ้าเกิดเลือดมันกองอยู่ที่ขาเนี่ยแล้วมัน
00:14:48 → 00:14:50 ไปเลี้ยงสมองที่พอนั่นก็จะมีอาการ
00:14:50 → 00:14:54 หัวได้มึนหัวได้นะครับเวลาคนเรายืนขึ้นมา
00:14:54 → 00:14:57 นานๆนะครับเลือดมันจะไปกองอยู่ที่ขาและ
00:14:57 → 00:15:00 ถ้ากล้ามเนื้อขาของท่านไม่แข็งแรงแล้วล่ะ
00:15:00 → 00:15:02 ก็มันบีบเอาเลือดกลับมาที่หัวใจไม่ได้
00:15:02 → 00:15:04 ท่านก็จะมีอาการเหล่านั้นขึ้นมานะครับ
00:15:04 → 00:15:07 ภาวะนี้มันจะเกิดขึ้นในคนที่ไม่ค่อยออก
00:15:07 → 00:15:09 กำลังกายวันๆนั่งอยู่แต่ในห้องอย่างเดียว
00:15:09 → 00:15:11 แล้วก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษนะครับพวกนี้
00:15:11 → 00:15:15 ก็จะเกิดง่ายขึ้นแล้วใช่รวมกับการที่
00:15:15 → 00:15:17 อากาศร้อนดื่มน้ำไม่เพียงพอพักผ่อนไม่
00:15:17 → 00:15:21 เพียงพออันนี้ก็ยิ่งซ้ำเติมทำให้อาการมัน
00:15:21 → 00:15:23 เป็นง่ายขึ้นกว่าเดิมอีกนะครับบางคนเนี่ย
00:15:23 → 00:15:25 ไม่รู้ตัวว่าทำไมช่วงนี้มันวูบบ่อยจังแต่
00:15:25 → 00:15:28 ลองไปสังเกตดูๆเราก็ไม่ได้ออกกำลังกายนะ
00:15:28 → 00:15:30 เราก็นอนได้เพียงพอวันๆเราสูบบุหรี่ดื่ม
00:15:30 → 00:15:34 เหล้าบ่อยนะเราไปใช้กระท่อมกัญชาอะไร
00:15:34 → 00:15:36 อย่างนี้เยอะแยะไปหมดพวกนี้แหละครับที่จะ
00:15:36 → 00:15:38 เป็นง่ายนะครับท่านก็ต้องระวังให้ดีนะฮะ
00:15:38 → 00:15:40 ตอนอายุน้อยๆไม่ค่อยเป็นอะไรหรอกครับแต่
00:15:40 → 00:15:42 ว่าพายุเพิ่มขึ้นก็จะเป็นง่ายกว่าเดิมอีก
00:15:42 → 00:15:44 นะครับอันนี้คือเรื่องของกล้ามเนื้อที่
00:15:44 → 00:15:47 มันไม่แข็งแรงที่ขามันก็ทำให้ท่านมีอาการ
00:15:47 → 00:15:49 มึนหัวได้ง่ายๆแก้ไขได้ด้วยวิธีเดียวคือ
00:15:49 → 00:15:52 ต้องไปออกกำลังกายนะครับไปใช้ยาอะไรพวก
00:15:52 → 00:15:54 นี้หรืออาหารเสริมมันก็ไม่ช่วยท่านนะครับ
00:15:54 → 00:16:00 อันนี้คือเรื่องของกรณีเรื่องของขาแล้วก็
00:16:00 → 00:16:03 กล้ามเนื้อแต่นอกเหนือจากนี้ถ้าทุกอย่าง
00:16:03 → 00:16:05 มันปกติแหละแล้วท่านเวียนหัวขึ้นมาหรือ
00:16:05 → 00:16:08 มันมีวูบหรือมีหมดสติไปเนี่ยอันนี้ต้อง
00:16:08 → 00:16:10 ระวังเพราะว่าบางครั้งเนี่ยมันมีลิ่ม
00:16:10 → 00:16:14 เลือดไปอุดตันตามตรงไหนครับตรงเส้นเลือด
00:16:14 → 00:16:17 ในปอดนะครับเรียกว่า promenade embolism
00:16:17 → 00:16:19 ถ้ามีการอุดตันเส้นเลือดตรงนั้นเนี่ย
00:16:19 → 00:16:22 เลือดแทนที่มันจะไหลจากปอดไปสู่หัวใจได้
00:16:22 → 00:16:24 มันไปไม่ได้เพราะมันโดนอุดไว้นะครับงั้น
00:16:24 → 00:16:27 อันเนี้ยมักจะมีอาการเฉียบพลันนะครับมี
00:16:27 → 00:16:29 อาการวูบมีอาการเหนื่อยร่วมด้วยมีอาการ
00:16:29 → 00:16:32 แน่นหน้าอกบางคนมีอาการเจ็บแปลบในหน้าอก
00:16:32 → 00:16:34 ด้วยนะครับแล้วก็มีหัวใจเต้นเร็วแต่ว่า
00:16:34 → 00:16:36 อาการพวกนี้มันจะมาเป็นชุดมันไม่ได้มา
00:16:36 → 00:16:38 อย่างใดอย่างหนึ่งนะครับเราก็ต้องสังเกต
00:16:38 → 00:16:42 ตัวเองไว้ด้วยนะครับอ่าเรื่องของหลอด
00:16:42 → 00:16:45 เลือดที่เอ่อปอดอุดตันเนี่ยผมเคยเล่าไป
00:16:45 → 00:16:47 หลายครั้งละนะครับว่ามันเกิดได้จากอะไร
00:16:47 → 00:16:49 ท่านก็ต้องลองย้อนไปฟังคลิปเรื่องพวกนั้น
00:16:49 → 00:17:05 ดูนะครับอ่า
00:17:05 → 00:17:50 [เพลง]
00:17:50 → 00:17:53 เม็ดเลือดขาวในร่างกายอยู่เป็นล้านตัว
00:17:53 → 00:17:55 อะไรอย่างนี้แทนที่มันจะมีหลักพันนี่ก็มี
00:17:55 → 00:17:57 หลักล้านนะครับเวลาที่เราเจาะเลือดมาตรวจ
00:17:57 → 00:18:00 นะครับนี่ก็ทำให้เลือดหนืดหรือบางชนิดของ
00:18:00 → 00:18:05 โรคนะครับเช่นโรค multiple ไมโลม่านะครับ
00:18:05 → 00:18:09 หรือโรคพวกนี้ Modern Storm
00:18:09 → 00:18:11 hypergoveria ชื่อแปลกๆนะครับมันจะสร้าง
00:18:11 → 00:18:13 โปรตีนที่ผิดปกติขึ้นมาเยอะๆนะครับทำให้
00:18:13 → 00:18:16 เลือดของเรามันหนืดมากขึ้นนะครับนี่คือ
00:18:16 → 00:18:18 สาเหตุที่ทำให้เลือดเนินถ้านอกเหนือจาก
00:18:18 → 00:18:20 นี้อาจจะมีโรคแปลกๆบางชนิดที่ทำให้เป็น
00:18:20 → 00:18:24 ได้นะครับแต่มันไม่ใช่อย่างที่เราไปฟังมา
00:18:24 → 00:18:26 จากโฆษณาจากที่เขาบอกมาจากที่ไหนนะครับ
00:18:26 → 00:18:29 เพราะว่าพวกนั้นคือเรื่องหลอกลวงเรื่อง
00:18:29 → 00:18:31 แต่งขึ้นเท่านั้นที่บอกว่าเลือดเรามัน
00:18:31 → 00:18:32 หนืดได้นั้นไม่เกี่ยวกันนะครับไม่มี
00:18:32 → 00:18:34 สมุนไพรไม่มียาอะไรที่จะช่วยทำให้เลือด
00:18:34 → 00:18:38 เราไม่หนืดนะครับอ่ากิน astrin กินยาสลาย
00:18:38 → 00:18:40 ลิ่มเลือดก็ไม่ได้ทำให้ช่วยทำให้เลือดของ
00:18:40 → 00:18:41 เราไม่หนืดนะครับอันนั้นไม่เกี่ยวกันเลย
00:18:41 → 00:18:44 นะครับต้องเข้าใจให้ถูกนะครับอ่าทีนี้มา
00:18:44 → 00:18:48 ถึงเหตุผลหลักอีกอันนึงละคือเรื่องของยา
00:18:48 → 00:18:51 ต่างๆนะครับยาอะไรก็ตามที่มีผลต่อจิต
00:18:51 → 00:18:53 ประสาทก็คือกินเข้าไปแล้วมันง่วงนะครับ
00:18:53 → 00:18:56 พวกเนี้ยทำให้มึนหัวได้ทุกตัวเลยนะครับ
00:18:56 → 00:18:59 เช่นอะไรบ้างนะยาคลายกล้ามเนื้อบางอย่าง
00:18:59 → 00:19:02 นะครับยานอนหลับแน่นอนอยู่แล้วใช่ไหมครับ
00:19:02 → 00:19:04 ยานอนหลับบางชนิดมันออกผลระยะยาวนะครับ
00:19:04 → 00:19:06 มันทำให้เรานอนหลับจริงอ่ะแต่วันรุ่งขึ้น
00:19:06 → 00:19:09 มันจะรู้สึกหนักหัวมึนหัวได้แล้วก็วูบได้
00:19:09 → 00:19:11 นะครับพวกนี้ก็จะมีปัญหาท่านก็ต้องดูว่า
00:19:12 → 00:19:15 เอ้ยยาที่เราทานอยู่นี่ยาอะไรนะครับหรือ
00:19:15 → 00:19:18 ยาที่ไปลดความดันนะครับยาลดความดันต่างๆ
00:19:18 → 00:19:21 ถ้ามันไปลดมากจนเกินไปท่านก็จะมีอาการมึน
00:19:21 → 00:19:23 หัวเพราะว่ามันทำให้เลือดไปเลี้ยงที่สมอง
00:19:23 → 00:19:27 ไม่เพียงพอเช่นอะไรบ้างนะครับยาลดความดัน
00:19:27 → 00:19:29 ทุกประเภทเลยนะครับโดยเฉพาะยาขับปัสสาวะ
00:19:30 → 00:19:32 นะครับเพราะว่ายาขับปัสสาวะมันทำให้ความ
00:19:32 → 00:19:36 ดันเราลดลงแล้วก็ทำให้เราขาดน้ำในร่างกาย
00:19:36 → 00:19:39 ถูกไหมครับฉะนั้นพวกนี้ก็จะต้องระวังนะ
00:19:39 → 00:19:42 ครับบางโรคเราจำเป็นจะต้องทานยาขับ
00:19:42 → 00:19:44 ปัสสาวะดังนั้นต้องสังเกตตัวเองนะครับว่า
00:19:44 → 00:19:46 เอ๊ะเราทานแล้วมันเยอะเกินไปหรือเปล่านะ
00:19:46 → 00:19:49 ครับโดยทั่วๆไปถ้าจำเป็นจะต้องทานคุณหมอ
00:19:49 → 00:19:51 เขาจะบอกอยู่แล้วนะครับเราต้องทานเวลาทาน
00:19:51 → 00:19:53 แล้วเนี่ยเราจะต้องมีการชั่งน้ำหนักของ
00:19:53 → 00:19:56 ตัวเองทุกวันนะครับน้ำหนักของเราเนี่ยมัน
00:19:56 → 00:19:58 ควรจะคงที่นะครับ
00:19:58 → 00:20:00 และถ้าน้ำในร่างกายของเรามันเพิ่มขึ้นเรา
00:20:00 → 00:20:02 อาจจะสังเกตได้ว่าเอ๊ะเราขามันบวมขึ้นมา
00:20:02 → 00:20:05 นะมันกดแล้วมันบุ๋มนะครับถ้ามันบวมแบบ
00:20:05 → 00:20:08 นั้นเนี่ยบางทีอาจจะต้องเพิ่มขนาดยากับ
00:20:08 → 00:20:10 ปัสสาวะนะครับแต่ถ้าเพิ่มแล้วมีอาการมึน
00:20:10 → 00:20:12 หัวอันนี้ก็ต้องไปคุยกับคุณหมอแล้วนะครับ
00:20:12 → 00:20:15 แต่บางกรณีเอ้ยขาเราก็ไม่บวมนะเราชั่งน้ำ
00:20:15 → 00:20:18 หนักแล้วมันเบาลงทุกวันอันนี้ผิดปกติละ
00:20:18 → 00:20:20 ครับแต่ว่าเราอาจจะใช้ยากับปัสสาวะมากจน
00:20:20 → 00:20:23 เกินไปนะครับตรงนี้ก็ต้องไปปรึกษาคุณหมอ
00:20:23 → 00:20:25 ว่าอาจจะต้องปรับขนาดนะฮะให้เรียบร้อยนะ
00:20:25 → 00:20:29 ฮะมีเกล็ดเล็กๆน้อยๆสำหรับเรื่องของยากับ
00:20:29 → 00:20:33 ปัสสาวะนะครับคือคนที่ใช้ยากับปัสสาวะ
00:20:33 → 00:20:35 เนี่ยวิตามินกลุ่มที่ละลายในน้ำได้เนี่ย
00:20:35 → 00:20:38 มันมักจะเสียไปนะครับโยนเฉพาะวิตามินบี
00:20:38 → 00:20:41 แล้วก็วิตามินซีนะครับอาจจะต้องทานเสริม
00:20:41 → 00:20:43 นิดนึงในคนเหล่านี้นะครับเพราะว่าถ้าเรา
00:20:43 → 00:20:45 ขับปัสสาวะมันก็ขับไปวิตามินพวกนี้ที่
00:20:45 → 00:20:48 ละลายในน้ำออกไปด้วยนะครับแล้วก็คนไข้โรค
00:20:48 → 00:20:51 ไตนะครับโรคไตเรื้อรังนะฮะบางทีอาจจะต้อง
00:20:51 → 00:20:54 ใช้วิตามินพวกนี้เสริมโดยเฉพาะคนไข้ที่
00:20:54 → 00:20:56 ล้างไตนะครับเพราะว่าล้างไตตอนที่เราเอา
00:20:56 → 00:20:58 เลือดออกไปแล้วเนี่ยไปไว้ในเครื่องมันก็
00:20:58 → 00:21:01 จะมีการเอาวิตามินตรงนี้ออกไปด้วยเราอาจ
00:21:01 → 00:21:03 จะต้องไปรับประทานเสริมซึ่งคุณหมอโรคไต
00:21:03 → 00:21:05 เขาจะบอกอยู่แล้วว่าให้ทานแค่ไหนที่สุด
00:21:05 → 00:21:07 เราอย่าไปเอามาทานเองนะครับเพราะว่าบาง
00:21:07 → 00:21:10 ครั้งเราทานเยอะจนเกินไปก็มีปัญหาได้กิน
00:21:10 → 00:21:12 วิตามินซีมากจนเกินไปในคนที่เป็นโรคไตก็
00:21:12 → 00:21:15 เกิดโรคนิ่วในไตทำให้ไตมันยิ่งแย่ลงไป
00:21:15 → 00:21:17 กว่าเดิมได้นะครับดังนั้นตรงนี้ก็ต้อง
00:21:17 → 00:21:19 ระวังไว้ด้วยนะครับอ่า
00:21:19 → 00:21:21 ยาคลายกล้ามเนื้อเมื่อกี้พูดไปแล้วนะครับ
00:21:21 → 00:21:25 อย่าเรื่องของยาคลายกังวลยาคลายเครียดยา
00:21:25 → 00:21:28 โรคซึมเศร้าบางชนิดก็จะทำให้เรามึนหัวได้
00:21:28 → 00:21:31 ก็ต้องระวังเรื่องพวกนี้นะครับนอกเหนือ
00:21:31 → 00:21:34 จากนี้เรื่องของเหล้าเบียร์แอลกอฮอล์มีผล
00:21:34 → 00:21:37 หมดนะครับหรืออยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทไม่
00:21:37 → 00:21:41 ดีเราไปอยู่ในห้องปิดนะครับห้องปิดร้อนๆ
00:21:41 → 00:21:43 อากาศไม่ค่อยมีเท่าไหร่นะครับออกซิเจนไป
00:21:43 → 00:21:45 สู่สมองได้น้อยเราก็จะมีอาการเวียนหัวได้
00:21:45 → 00:21:48 ง่ายที่เหลือก็มักจะเป็นสาเหตุที่เราไม่
00:21:48 → 00:21:52 ค่อยเจอนะครับเช่นพิษต่างๆนะครับแต่มี
00:21:52 → 00:21:54 อย่างหนึ่งเรื่องของห้องปิดนะครับถ้าเรา
00:21:54 → 00:21:56 อยู่ในห้องปิดเพราะว่าเดี๋ยวนี้เนี่ยหลาย
00:21:56 → 00:21:58 คนก็คงจะกังวลเรื่องของ PM 2.5 ก็เลยไม่
00:21:58 → 00:22:00 อยากจะเปิดหน้าต่างเพราะไม่เปิดหน้าต่าง
00:22:00 → 00:22:02 อากาศในห้องมันก็ไม่ถ่ายเทเพราะไม่ถ่ายเท
00:22:02 → 00:22:04 อากาศมันอยู่นิ่งๆเนี่ยสิ่งนึงซึ่งจะเกิด
00:22:04 → 00:22:07 ขึ้นในห้องของบางคนก็คือก๊าซ
00:22:07 → 00:22:09 คาร์บอนมอนอกไซด์นะครับพวกนี้เนี่ยถ้ามัน
00:22:09 → 00:22:12 ออกมาเรื่อยๆนะครับโดยเฉพาะคนไหนที่มีการ
00:22:12 → 00:22:14 หุงต้มมีอะไรพวกเนี้ยในบ้านในห้องนะครับ
00:22:14 → 00:22:17 เวลามีการ์ดพวกนี้มากๆมันจะทำให้เรามึน
00:22:17 → 00:22:20 หัวปวดหัวง่วงนอนตอนเช้าเช้าตื่นมาก็จะ
00:22:20 → 00:22:24 ไม่ค่อยไม่ค่อยรู้สึกว่าเราได้นอนนะครับ
00:22:24 → 00:22:26 ตรงนี้ก็จะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งซึ่งเรา
00:22:26 → 00:22:29 จำเป็นจะต้องเข้าใจไว้ด้วยนะครับอันนี้ก็
00:22:29 → 00:22:31 เป็นสาเหตุหลักๆเท่าที่ผมนึกได้นะครับมัน
00:22:31 → 00:22:34 ก็มีสาเหตุอื่นๆอีกเยอะแยะไปหมดนะครับแต่
00:22:34 → 00:22:38 ว่าสิ่งหนึ่งซึ่งเราควรจะต้องระวังไว้ก็
00:22:38 → 00:22:41 คือเรื่องของการนอนหลับนะครับเรื่องของยา
00:22:41 → 00:22:44 เรื่องของโรคประจำตัวต่างๆการทานอาหารให้
00:22:44 → 00:22:46 เพียงพอดื่มน้ำให้เพียงพอถ้าเราทานอาหาร
00:22:46 → 00:22:49 ไม่เพียงพอพลังงานไปสู่สมองน้อยเราก็มึน
00:22:49 → 00:22:51 หัวได้นะครับคนที่ทำ intermittent
00:22:51 → 00:22:53 fasting นานาอดข้าววันโดยที่ไม่เคยอดมา
00:22:53 → 00:22:56 ก่อนอยู่ๆก็จะไปอดเยอะๆเลยก็จะเป็นได้คน
00:22:56 → 00:22:59 ที่กินคีโตใหม่ๆกินแหลกเลยก็จะเป็นได้นะ
00:22:59 → 00:23:01 ครับตรงนี้ต้องระวังอย่าไปทำอะไรที่มัน
00:23:01 → 00:23:03 สุดโต่งจนเกินไปเกินกว่าที่ร่างกายของ
00:23:03 → 00:23:06 ท่านมันจะรับไหวแล้วถ้ายังไม่ชินก็ยิ่งจะ
00:23:06 → 00:23:07 เป็นได้นะครับ
00:23:07 → 00:23:09 อ่าพวกนี้ก็ต้องไปสังเกตตัวเองแล้วก็
00:23:09 → 00:23:12 เรื่องของอ่ายาต่างๆอย่างที่บอกเรื่องของ
00:23:12 → 00:23:15 ยาเสพติดเหล้าเบียร์แอลกอฮอล์ทุกอย่างนะ
00:23:15 → 00:23:18 ครับบุหรี่อ่าอันนี้ก็ตัวดีเลยนะครับที่
00:23:18 → 00:23:21 จะทำให้ท่านมีอาการเหล่านั้นได้นะครับอ่ะ
00:23:21 → 00:23:23 วันนี้ก็เล่าให้ฟังเพียงเท่านี้นะครับใคร
00:23:23 → 00:23:25 มีอะไรสงสัยก็สอบถามมาแล้วกันนะครับ
00:23:25 → 00:23:26 ขอบคุณมากครับสวัสดีครับ
00:23:26 → 00:23:29 [เพลง]
00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับผมคิดว่าหลายคนนะครับก็คงจะเคย
00:00:03 → 00:00:06 ประสบอาการมึนหัวสักครั้งหนึ่งในชีวิตนะ
00:00:06 → 00:00:09 ครับอาการนี้เนี่ยหลายๆคนก็อาจจะมีสาเหตุ
00:00:09 → 00:00:12 ชัดเจนเช่นว่าจะพักผ่อนไม่เพียงพอนะครับ
00:00:12 → 00:00:15 ผมงานหนักไม่ได้ทานข้าวนะครับทานน้ำไม่
00:00:15 → 00:00:17 เพียงพออาการมันก็จะเป็นขึ้นมาได้นะครับ
00:00:17 → 00:00:20 แต่ว่าบางคนนั้นอาการเป็นบ่อยนะครับเป็น
00:00:20 → 00:00:24 รุนแรงนะครับบางคนอาจจะมีอาการวูบเป็นลม
00:00:24 → 00:00:28 หมดสติเรื่อยๆนะครับทำให้มีปัญหาต่อการ
00:00:28 → 00:00:30 ใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมากนะครับและ
00:00:30 → 00:00:33 บางครั้งเนี่ยมันมีสาเหตุที่เราอาจจะมอง
00:00:33 → 00:00:34 ข้ามไปได้วันนี้ผมก็เลยอยากจะเอาเรื่อง
00:00:34 → 00:00:37 นี้มาเล่าให้ทุกๆคนฟังกันเลยนะครับจริงๆ
00:00:37 → 00:00:40 เรื่องนี้ผมเคยเล่าไปแล้วเมื่อปีกว่านะ
00:00:40 → 00:00:43 ครับแต่ว่าเห็นมันเป็นเรื่องที่พบบ่อยก็
00:00:43 → 00:00:45 เลยอยากจะเอามาเล่าแล้วก็ลงรายละเอียด
00:00:45 → 00:00:48 เพิ่มเติมให้เล็กน้อยนะครับพบกับผมนะครับ
00:00:48 → 00:00:50 นายแพทย์ธนินทวรรณนะครับเป็นอาจารย์แพทย์
00:00:50 → 00:00:52 อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรค
00:00:52 → 00:00:55 ปอดการปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับ
00:00:55 → 00:00:58 ก่อนอื่นนะครับผมต้องขอแยกอาการมึนหัวออก
00:00:58 → 00:01:02 จากอาการบ้านหมุนให้เข้าใจกันซะก่อนนะ
00:01:02 → 00:01:05 ครับหลายๆคนเนี่ยเวลาไปหาหมอเนี่ยก็มักจะ
00:01:05 → 00:01:10 บอกว่ามึนหัวเวียนหัวพวกนี้นะครับแต่
00:01:10 → 00:01:12 สาเหตุของมันแต่ละอย่างเนี่ยไม่เหมือนกัน
00:01:12 → 00:01:15 เลยนะครับดังนั้นเรามีความจำเป็นจะต้อง
00:01:15 → 00:01:18 แยกกันให้ได้ซะก่อนอาการที่หมอเขาจะถาม
00:01:18 → 00:01:21 ประการหนึ่งเลยก็คืออาการบ้านหมุนนะครับ
00:01:21 → 00:01:23 บ้านหมุนเนี่ยภาษาทางการแพทย์เราจะเรียก
00:01:23 → 00:01:27 มันว่านะครับอาการมันก็คือต่อให้เราอยู่
00:01:27 → 00:01:30 เฉยๆไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรนะครับมันก็
00:01:30 → 00:01:33 เหมือนกับว่าห้องหรือโลกรอบๆตัวเราเนี่ย
00:01:33 → 00:01:36 มันหมุนได้นะครับแล้วเราก็จะมีอาการเวียน
00:01:36 → 00:01:40 หัวมากๆเลยเวียนหัวจนกระทั่งจะสามารถอ้วก
00:01:40 → 00:01:42 อาเจียนออกมาได้เลยนะครับมันจะรุนแรงมากๆ
00:01:42 → 00:01:45 นะครับนี่คืออาการของบ้านหมุนนะครับซึ่ง
00:01:45 → 00:01:49 หลายๆครั้งนะครับมันมีปัญหาอยู่ที่ระบบ
00:01:49 → 00:01:53 เส้นประสาทหูหรืออวัยวะต่างๆในหูหรืออาจ
00:01:53 → 00:01:55 จะเป็นที่สมองก็ได้นะครับเวลาไปหาหมอ
00:01:55 → 00:01:57 เนี่ยเขาก็จะพยายามจะแยกให้ได้ก่อนว่า
00:01:57 → 00:01:59 เอ้ยมันเป็นบ้านหมุนไหมถ้าเป็นบ้านหมุน
00:01:59 → 00:02:02 มันเป็นจากหูหรือมันเป็นจากที่สมองนะครับ
00:02:02 → 00:02:05 ซึ่ง 2 อย่างนี้เนี่ยอาการมันก็จะไม่
00:02:05 → 00:02:08 เหมือนกันนะครับอาการที่เราเจอกันบ่อยๆนะ
00:02:08 → 00:02:11 ครับมักจะเป็นอาการที่มีความผิดปกติของหู
00:02:11 → 00:02:14 นะครับคืออวัยวะในหูเนี่ยมันอาจจะมีความ
00:02:14 → 00:02:17 เสี่ยงสมดุลไปคือในหูเราเนี่ยมันจะมีหิน
00:02:17 → 00:02:19 ปูนนะครับอยู่ในนั้นหินปูนพวกนี้เราจะรีบ
00:02:19 → 00:02:22 มันว่า otolist นะครับซึ่งมันก็ควรจะอยู่
00:02:22 → 00:02:25 ในกระป๋องอันนึงในหูของเรานี่แหละครับแต่
00:02:25 → 00:02:27 ว่าบางครั้งเนี่ยเนื่องด้วยความเสื่อม
00:02:27 → 00:02:29 หรืออะไรสักอย่างนะครับทำให้หินปูนมัน
00:02:29 → 00:02:31 หลุดออกมาไปอยู่ที่มันไม่ควรจะอยู่นะครับ
00:02:31 → 00:02:34 แล้วพอมันหลุดออกมาเนี่ยมันสามารถวิ่งไป
00:02:34 → 00:02:36 วิ่งมาได้ดังนั้นเมื่อไหร่ก็แล้วแต่ที่
00:02:36 → 00:02:39 เรามีการเปลี่ยนท่าทางเช่นเราล้มตัวลงนอน
00:02:39 → 00:02:42 เรากำลังจะลุกขึ้นเราหันซ้ายหันขวาพลิก
00:02:42 → 00:02:45 ตัวไปมาบนเตียงนะครับไอ้หินปูนตรงเนี้ย
00:02:45 → 00:02:47 มันก็จะวิ่งไปวิ่งมามันทำให้เกิดการ
00:02:47 → 00:02:50 กระตุ้นเส้นประสาทเอ่อเซลล์ของเส้นประสาท
00:02:50 → 00:02:54 ในหูนะครับเหมือนกับว่าเรากำลังหันอยู่นะ
00:02:54 → 00:02:57 ครับแล้วการที่มันวิ่งไปวิ่งมาอยู่ในหู
00:02:57 → 00:02:59 เนี่ยมันก็ทำให้เกิดอาการบ้านหมุนขึ้นมา
00:02:59 → 00:03:04 นะครับนั่นถ้ามันเป็นในหูเนี่ยก็จะมีท่า
00:03:04 → 00:03:07 ทางบางอย่างเป็นกายภาพซึ่งคุณหมอทางด้าน
00:03:07 → 00:03:09 หูคอจมูกหรือนักกายภาพบำบัดด้านนี้โดย
00:03:09 → 00:03:11 เฉพาะเนี่ยเขาก็จะสามารถทำให้เราได้เพื่อ
00:03:11 → 00:03:15 ที่จะเอาตัวหินกลับเข้าไปสู่บริเวณที่มัน
00:03:15 → 00:03:17 ควรจะอยู่นะครับโรคโรคนี้เราจะเจอบ่อยนะ
00:03:17 → 00:03:23 ครับเราจะเรียกมันว่า btpv นะครับ
00:03:23 → 00:03:26 อันนี้เจอบ่อยเลยเป็นอาการทางหูไม่ได้
00:03:26 → 00:03:29 อันตรายนะครับแต่ว่ามันจะมันจะน่ารำคาญ
00:03:29 → 00:03:31 มากเพราะว่าเวลาที่มันเวียนมาทีนี้มันจะ
00:03:31 → 00:03:33 อ้วกเลยทำอะไรไม่ได้ต้องล้มตัวลงนอนต้อง
00:03:33 → 00:03:35 หลับตาแต่ขนาดทำอย่างนั้นมันก็ยังไม่ขาย
00:03:35 → 00:03:37 นะครับแล้วก็โดยทั่วไปเนี่ยมันมักจะมี
00:03:37 → 00:03:40 อาการอยู่ประมาณไม่กี่นาทีแล้วมันก็จะหาย
00:03:40 → 00:03:43 ไปกินกินยาเนี่ยกว่ายามันจะออกฤทธิ์อาการ
00:03:43 → 00:03:45 มันก็หายไปซะก่อนละครับดังนั้นส่วนใหญ่
00:03:45 → 00:03:47 กินยาก็จะไม่ค่อยได้ประโยชน์อะไรยกเว้น
00:03:47 → 00:03:50 ว่าคนที่เป็นบ่อยจริงๆอ่ะอันเนี้ยยาต่างๆ
00:03:50 → 00:03:52 ก็อาจจะได้ประโยชน์ซึ่งตรงนี้คงจะต้องไป
00:03:52 → 00:03:55 คุยกับคุณหมอทางด้านหูคอจมูกอีกทีนะครับ
00:03:55 → 00:03:59 แต่อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่มีเฉพาะเรื่อง
00:03:59 → 00:04:01 โรคนี้เท่านั้นที่ทำให้เกิดอาการบ้านหมุน
00:04:01 → 00:04:04 นะครับมันมีโรคอื่นด้วยยกตัวอย่างเช่นโรค
00:04:04 → 00:04:07 ทางสมองนะครับโดยเฉพาะสมองส่วนหลังของเรา
00:04:07 → 00:04:11 ตรงนี้ที่เรียกว่านะครับหรือบางทีมันมี
00:04:11 → 00:04:13 เนื้องอกที่อยู่ในแถวๆนั้นก็จะมีปัญหา
00:04:13 → 00:04:16 เรื่องของการเวียนหัวแบบที่บ้านหมุนไปเลย
00:04:16 → 00:04:18 ก็ได้นะครับดังนั้นตรงนี้เนี่ยอาจจะต้อง
00:04:18 → 00:04:21 มีการไปตรวจบางคนเนี่ยถ้ามีอาการทางสมอง
00:04:21 → 00:04:24 เช่นอาจจะมีอาการชาอาการที่เคลื่อนไหวผิด
00:04:24 → 00:04:27 ปกตินะครับอาการที่สายตากับมือเนี่ยมัน
00:04:27 → 00:04:28 ไม่สัมพันธ์กันใช่ว่าเราจะหยิบจับอะไร
00:04:28 → 00:04:31 แล้วมันมันหยิบไม่โดนหยิบไม่ได้สักทีอะไร
00:04:31 → 00:04:33 อย่างเงี้ยนะครับหรือมีอาการชาที่แปลกๆ
00:04:33 → 00:04:36 เช่นเอ่อครึ่งซีกด้านซ้ายของตัวแต่ว่า
00:04:36 → 00:04:38 หน้าช้าอีกข้างนึงด้านขวาอะไรอย่างเงี้ย
00:04:38 → 00:04:41 นะครับพวกเนี้ยอาจจะบ่งบอกถึงว่ามีอาการ
00:04:41 → 00:04:44 ทางสมองนะครับบางคนมีเส้นประสาททางสมอง
00:04:44 → 00:04:46 ที่มันมีปัญหาไปเช่นหน้ามันเบี้ยวอะไร
00:04:46 → 00:04:49 อย่างเงี้ยนะครับหรือว่ามีเรื่องเรื่อง
00:04:49 → 00:04:52 การได้ยินที่มันผิดปกติไปด้วยมีเสียงในหู
00:04:52 → 00:04:54 ที่เรียกว่านะครับพวกนี้ก็จะต้องไปตรวจ
00:04:54 → 00:04:56 เพิ่มเติมเพราะว่าบางครั้งมันอาจจะเป็น
00:04:56 → 00:04:58 เรื่องของสมองเรื่องของเส้นเลือดสมองตีบ
00:04:58 → 00:05:03 ได้นะครับนี่คืออาการบ้านหมุนครับบ้าน
00:05:03 → 00:05:06 หมุนนั้นไม่ใช่เฉพาะความรู้สึกที่มันหมุน
00:05:06 → 00:05:08 เท่านั้นนะครับบางคนเนี่ยมีความรู้สึก
00:05:08 → 00:05:11 เหมือนกับว่าตัวเราเองเลื่อนบนพื้นได้
00:05:11 → 00:05:13 เหมือนกับว่าเรายืนบนพื้นทางเลื่อนแล้ว
00:05:13 → 00:05:14 มันเลื่อนไปเรื่อยๆทั้งๆที่จริงๆตัวเรา
00:05:14 → 00:05:16 เนี่ยมันอยู่กับที่นะครับแต่ว่าเป็นความ
00:05:16 → 00:05:19 รู้สึกที่มันเลื่อนได้นะครับบ้านหมุนบาง
00:05:19 → 00:05:22 ครั้งมันมีลักษณะแบบหนึ่งก็คือมันหมุนแต่
00:05:22 → 00:05:23 อีกแบบนึงก็คือมันเลื่อนอาจจะเป็นเลื่อน
00:05:23 → 00:05:25 ตรงๆอย่างนี้หรือว่าเลื่อนทางขวาอย่างนี้
00:05:25 → 00:05:29 ก็ได้นะครับอ่ะทีนี้ก็ต้องบอกหมอให้ชัด
00:05:29 → 00:05:31 เจนว่าเราเป็นอาการแบบไหนทีนี้เรามาดู
00:05:31 → 00:05:34 เรื่องของอาการมึนหัวกันดีกว่านะครับมึน
00:05:34 → 00:05:37 หัวเนี่ยหลายคนจะมาบอกว่าเอ้ยมันมึนๆมัน
00:05:37 → 00:05:40 หนักๆตื้อๆหัวมันรู้สึกไม่สดชื่นนะครับ
00:05:40 → 00:05:42 แต่มันจะไม่ได้รุนแรงขนาดที่ท่านอ้วก
00:05:42 → 00:05:45 อาเจียนเหมือนกรณีบ้านหมุนนะครับมึนหัว
00:05:45 → 00:05:48 พวกนี้บางคนนะครับเวลาเป็นขึ้นมาเนี่ยมัน
00:05:48 → 00:05:51 เป็นหนักจนกระทั่งสามารถวูบไปได้เลยนะ
00:05:51 → 00:05:53 ครับทำๆอยู่แล้วก็วูบภาพตัดมันมืดไปเลยนะ
00:05:54 → 00:05:57 ฮะสาเหตุมันเป็นจากอะไรได้บ้างนะครับอัน
00:05:57 → 00:06:00 แรกหลายๆคนก็คงจะเข้าใจรู้จักแน่นอนอัน
00:06:00 → 00:06:03 นี้คืออาการพักผ่อนไม่เพียงพอนะครับ
00:06:03 → 00:06:06 อันนี้มันเป็นหลักเลยนะครับหลักยังไงเรา
00:06:06 → 00:06:09 ต้องมาเข้าใจตรงนี้การที่สมองมันมึนได้
00:06:09 → 00:06:12 เรามึนหัวได้เนี่ยนะครับส่วนใหญ่แล้วมัน
00:06:12 → 00:06:15 เป็นเพราะว่าสมองของเราเนี่ยมันไม่มีพลัง
00:06:15 → 00:06:18 งานเพียงพอหรือมิฉะนั้นก็มีอะไรมาทำให้
00:06:18 → 00:06:21 มันทำงานผิดปกตินะครับการนอนหลับพักผ่อน
00:06:21 → 00:06:24 ที่เพียงพอจะสามารถทำให้สมองของเราสร้าง
00:06:24 → 00:06:27 พลังงานขึ้นมาได้เพียงพอปกติเวลาที่เรา
00:06:27 → 00:06:30 ตื่นอยู่นานๆเนี่ยสมองของเรามันจะใช้พลัง
00:06:30 → 00:06:32 งานไปเรื่อยๆนะครับเกิดสารตัวหนึ่งชื่อ
00:06:32 → 00:06:35 ว่า adenosine ขึ้นมานะครับตอนแรกเนี่ย
00:06:35 → 00:06:37 มันเป็น adenosine try for Stage มี
00:06:37 → 00:06:39 ฟอสเฟต 3 ตัวการที่มันสลายเพื่อให้พลัง
00:06:39 → 00:06:41 งานไปเรื่อยๆมันก็จะเกิดสารอะดิโนซิม
00:06:41 → 00:06:43 เพิ่มขึ้นอดีนอนซิลตัวนี้นะครับมันไม่ใช่
00:06:43 → 00:06:46 มันไม่สามารถให้พลังงานเราได้อีกต่อไปจน
00:06:46 → 00:06:49 กระทั่งเรานอนหลับมันจะถูกเปลี่ยนกลับไป
00:06:49 → 00:06:51 เป็นอนินทรีย์ try Force ไปอีกรอบนึง
00:06:51 → 00:06:53 ซึ่งอันนี้จะให้พลังงานได้ดังนั้นถ้าเกิด
00:06:53 → 00:06:56 คนเรานอนไม่พอนอนหลับคุณภาพไม่ดีเนี่ยมัน
00:06:56 → 00:06:59 ก็จะขาดพลังงานในสมองเราก็จะเกิดอาการมึน
00:06:59 → 00:07:55 หัวขึ้นมาได้นั่นเองครับดังนั้น
00:07:55 → 00:08:01 [เพลง]
00:08:01 → 00:08:04 อาจจะไม่ได้ตื่นจนกระทั่งรู้ว่ารอบๆมัน
00:08:04 → 00:08:05 เกิดอะไรขึ้นนะครับมันอาจจะตื่นขึ้นมา
00:08:05 → 00:08:08 เล็กๆน้อยๆนะครับเรียกว่าเป็น Micro
00:08:08 → 00:08:10 arounds คือตื่นนิดนึงแหละแต่ยังไม่ถึง
00:08:10 → 00:08:14 ขั้นที่จะรู้สติดีนะครับแบบนี้ต่อให้มัน
00:08:14 → 00:08:16 ไม่รู้สติดีไม่รู้สึกตัวว่าตื่นแต่มันก็
00:08:16 → 00:08:19 คือตื่นนะครับพอตื่นขึ้นมาปัญหาก็คือว่า
00:08:19 → 00:08:21 มันจะทำให้การนอนหลับของเราเนี่ยไม่ต่อ
00:08:21 → 00:08:24 เนื่องก็เป็นการนอนหลับที่ไม่มีคุณภาพเรา
00:08:24 → 00:08:26 ก็จะมีอาการมึนหัวได้ในตอนที่เราตื่นขึ้น
00:08:26 → 00:08:29 มาตอนเช้าหรือว่าระหว่างวันนั่นเองนะครับ
00:08:29 → 00:08:31 อันนี้เป็นอาการนึงซึ่งหลายๆคนอาจจะไม่
00:08:31 → 00:08:34 ทราบนะครับการนอนกัดฟันอันนี้ก็มีความ
00:08:34 → 00:08:36 เกี่ยวข้องนอนละเมอบ่อยๆบางคนอาจจะมี
00:08:36 → 00:08:38 ปัญหาบางคนคิดมากนะครับเครียดเรื่องอะไร
00:08:38 → 00:08:41 ต่างๆแล้วมันทำให้การนอนหลับเนี่ยหลับไม่
00:08:41 → 00:08:43 ลึกนะครับการพักผ่อนของเราก็จะไม่ดีนะ
00:08:43 → 00:08:46 ครับนั่นก็คือเป็นปัญหาที่จะทำให้เราเกิด
00:08:46 → 00:08:49 เรื่องพวกนี้ขึ้นมาได้นะครับนี่คือใน
00:08:49 → 00:08:51 เรื่องของการนอนนอกเหนือจากนี้สิ่งอื่นๆ
00:08:51 → 00:08:54 ที่รบกวนการนอนของเราเช่นเรานอนแล้วมันมี
00:08:54 → 00:08:56 เสียงดังมีไฟมีแสงอะไรอย่างเงี้ยนะครับ
00:08:57 → 00:08:59 ถึงแม้ว่าเราจะนอนหลับแต่มันเป็นการนอน
00:08:59 → 00:09:01 หลับที่ไม่สนิทนะครับก็จะเกิดปัญหาเหล่า
00:09:01 → 00:09:04 นี้ขึ้นมาได้นะฮะสิ่งหนึ่งซึ่งเราต้อง
00:09:04 → 00:09:07 กังวลก็คือว่าเวลาที่เรานอนบางคนอยากจะ
00:09:07 → 00:09:09 เปิดเสียงอะไรคลอไปด้วยขึ้นอยู่กับเสียง
00:09:09 → 00:09:13 นั้นคืออะไรครับถ้าท่านฟังเสียงนั้นแล้ว
00:09:13 → 00:09:16 เสียงมันรู้สึกว่ามันรบกวนการนอนหลับมากๆ
00:09:16 → 00:09:18 นะครับอันนั้นก็อาจจะมีปัญหาแต่ถ้าเกิด
00:09:18 → 00:09:20 ว่าเป็นเสียงเพื่อการนอนหลับเช่นคลื่น
00:09:20 → 00:09:22 ความถี่บางอย่างนะครับเป็นคลื่นความถี่
00:09:22 → 00:09:24 ที่มันฟังแล้วเออหลับสบายเป็นเพลงที่ฟัง
00:09:24 → 00:09:26 แล้วหลับสบายแล้วท่านตื่นมาท่านไม่เคยมี
00:09:26 → 00:09:28 อาการมึนหัวอันนั้นฟังต่อได้ไม่มีปัญหา
00:09:28 → 00:09:31 อะไรนะครับแต่ถ้าท่านฟังไปแล้วรู้สึกว่า
00:09:31 → 00:09:33 ทำไมมึนหัวถ้าเรามาคิดดูซิว่าเราทำอะไร
00:09:33 → 00:09:36 หรือเปล่าลองไปปิดเสียงพวกนั้นดูซิว่าวัน
00:09:36 → 00:09:37 ต่อไปมันเป็นหรือเปล่าอะไรอย่างนี้นะครับ
00:09:37 → 00:09:39 สามารถทดลองกับตัวเองได้ไม่ได้มีอันตราย
00:09:39 → 00:09:43 ใดๆแต่อย่างใดนะครับอ่าแสงเสียงความร้อน
00:09:43 → 00:09:45 หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้เรานอนหลับไม่
00:09:45 → 00:09:48 สนิทนะครับพวกนี้ก็จะเป็นปัญหาหรือคนที่
00:09:48 → 00:09:51 คิดเยอะๆนะครับวิธีแก้ก็คือเราเอากระดาษ
00:09:51 → 00:09:52 มาใบนึงวางข้างเตียงคิดอะไรก็จดไว้ก่อน
00:09:52 → 00:09:55 แล้วก็วันพรุ่งนี้ค่อยมาคิดต่อนะครับคืน
00:09:55 → 00:09:57 นั้นจะได้ไม่ต้องคิดนะครับไม่งั้นมันนอน
00:09:57 → 00:09:59 ไม่หลับนะฮะอ่าอันนี้ก็เป็นเรื่องของการ
00:09:59 → 00:10:02 นอนหลับถ้าเราไม่แน่ใจเรารู้สึกว่าเรานอน
00:10:02 → 00:10:05 เพียงพอแล้วนะครับแต่มันยังมีอาการมึนหัว
00:10:05 → 00:10:07 แนะนำว่าควรจะไปตรวจการนอนหลับนะครับ
00:10:07 → 00:10:10 เพื่อว่าเราจะได้เข้าใจนะฮะทีนี้อันนี้
00:10:10 → 00:10:12 เรื่องของการนอนหลับเรื่องของการสร้าง
00:10:12 → 00:10:15 พลังงานในสมองต่อมาเรื่องของการที่สมองจะ
00:10:15 → 00:10:17 ได้พลังงานเพียงพอมันได้มาจากไหนนะครับ
00:10:17 → 00:10:20 มันก็มาจากเลือดเลือดของเรานี่แหละครับ
00:10:20 → 00:10:22 ดังนั้นถ้าเลือดเราไปเลี้ยงสมองไม่เพียง
00:10:22 → 00:10:24 พอเราก็จะมีอาการมึนหัวบ่อยๆนะครับแล้วก็
00:10:24 → 00:10:27 มีอาการวูบได้อะไรคือเลือดไปเลี้ยงสมอง
00:10:27 → 00:10:32 ไม่เพียงพอได้บ้าง 1 โลหิตจางโลหิตจางเจอ
00:10:32 → 00:10:36 บ่อยในคนที่เป็นผู้หญิงนะครับมีประจำ
00:10:36 → 00:10:38 เดือนแน่นอนอาจจะมีอาการขาดธาตุเหล็กเกิด
00:10:38 → 00:10:41 โลหิตจางพอเลือดมันที่เพียงพอมันก็ไป
00:10:41 → 00:10:43 เลี้ยงสมองของเราไม่เพียงพอนั่นเองนะครับ
00:10:43 → 00:10:45 อันนี้เจอบ่อยอาจจะต้องไปตรวจนิดนึงนะ
00:10:45 → 00:10:49 ครับถ้าเรามาเป็นอาการมึนหัวน่ะในช่วงวัย
00:10:49 → 00:10:52 อายุน้อยๆนะครับอ่าพวกนี้ไม่ค่อยมีปัญหา
00:10:52 → 00:10:54 เท่าไหร่แต่ว่าถ้าท่านไปเป็นตอนอายุเยอะ
00:10:54 → 00:10:56 แล้วไม่เคยเป็นมาก่อนเช่น 50 อายุ 50
00:10:56 → 00:10:59 อายุ 60 อย่างเงี้ยแล้วอยู่ๆมันมึนหัวไม่
00:10:59 → 00:11:01 เคยเป็นมาก่อนพวกนี้ต้องไปตรวจเสมอนะครับ
00:11:01 → 00:11:03 มันอาจจะมีโรคที่อันตรายซ่อนอยู่ก็ได้นะ
00:11:03 → 00:11:06 ครับโลหิตจางก็ไม่ได้มีแค่โรคเดียวเช่น
00:11:06 → 00:11:08 เอ่อไม่ได้มีแค่โรคการขาดธาตุเหล็กจาก
00:11:08 → 00:11:10 ประจำเดือนอย่างเดียวทีเดียวนะครับแต่ว่า
00:11:10 → 00:11:12 บางคนเนี่ยอาจจะเป็นอย่างอื่นก็ได้เช่นมี
00:11:12 → 00:11:14 อาการเลือดออกในทางเดินอาหารนะครับโดย
00:11:14 → 00:11:19 เฉพาะคนที่กินเหล้าเยอะๆหรือว่าใช้ยาแก้
00:11:19 → 00:11:22 ปวดชนิดที่เรียกว่า nsaid นะครับนอนเสีย
00:11:22 → 00:11:25 ดรแอนด์ไทมิเตอร์ซึ่งมันเป็นยาแก้ปวดแล้ว
00:11:25 → 00:11:27 ก็มันกัดกระเพาะได้นะครับบางคนอาจจะมี
00:11:27 → 00:11:28 เลือดออกในทางเดินอาหารโดยที่ไม่รู้ตัว
00:11:28 → 00:11:32 พวกนี้ก็จะทำให้มึนหัววูบได้มีอาการ
00:11:32 → 00:11:34 เหนื่อยเพลียได้มากกว่าปกติดังนั้นต้องไป
00:11:34 → 00:11:36 ตรวจเสมอนะครับว่าท่านเป็นภาวะนี้หรือ
00:11:36 → 00:11:42 เปล่านะครับหรือบางคนมีโรคไตถ้าโรคไตรุน
00:11:42 → 00:11:45 แรงมากๆแล้วนะครับไตวายเรื้อรังนะครับไต
00:11:45 → 00:11:47 ของเราเนี่ยจะไม่สามารถสร้างฮอร์โมนอีริส
00:11:47 → 00:11:49 โอโปรตินได้ฮอร์โมนตัวนี้เนี่ยจะเป็น
00:11:49 → 00:11:52 ฮอร์โมนซึ่งสามารถกระตุ้นทำให้เราผลิต
00:11:52 → 00:11:55 เม็ดเลือดแดงออกมานะครับถ้าไตมันวายไปนาน
00:11:55 → 00:11:57 ๆเนี่ยมันก็ไม่สามารถสร้างฮอร์โมนได้ดัง
00:11:57 → 00:12:00 นั้นเราก็จะมีอาการโลหิตจางขึ้นมาแล้วเรา
00:12:00 → 00:12:02 ก็จะมีอาการพวกนี้ได้ดังนั้นต้องไปรักษา
00:12:02 → 00:12:05 กับคุณหมอโรคไตเพราะว่าเขาจะมียาที่ฉีด
00:12:05 → 00:12:07 เพิ่มเลือดให้เราได้นะครับ
00:12:07 → 00:12:11 อันนี้เป็นกรณีของโลหิตจางต่อมาถ้าเรามี
00:12:11 → 00:12:16 ปริมาณน้ำเลือดที่ไม่เพียงพอล่ะเรามีเม็ด
00:12:16 → 00:12:17 เลือดมันต้องมีเม็ดเลือดเพียงพอถูกไหม
00:12:17 → 00:12:20 ครับมีเม็ดเลือดเพียงพอมีฮีโมโกลบินเพียง
00:12:20 → 00:12:22 พอแต่ถ้าเม็ดเลือดมันมีเพียงพอแต่น้ำ
00:12:22 → 00:12:25 เลือดล่ะนะครับเลือดเรามันไม่ได้มีแต่
00:12:25 → 00:12:27 เม็ดเลือดแต่มันมีแต่เป็นมีเม็ดแล้วก็มี
00:12:27 → 00:12:29 ส่วนที่เป็นน้ำด้วยถ้าน้ำเลือดไม่เพียงพอ
00:12:29 → 00:12:32 เช่นอะไรบ้างเช่นถ้าเราดื่มน้ำไม่เพียงพอ
00:12:32 → 00:12:35 ครับเรามีภาวะขาดน้ำเราไปวิ่งมาราธอนมา
00:12:35 → 00:12:38 นานๆแล้วเราไม่ดื่มน้ำเลยหรืออากาศเมือง
00:12:38 → 00:12:40 ไทยเนี่ยมันร้อนมากๆแล้วท่านดื่มน้ำไม่
00:12:40 → 00:12:43 เพียงพออันนี้ก็จะมีปัญหาละคือปริมาณน้ำ
00:12:43 → 00:12:46 ในเลือดลดลงมันก็ไปเลี้ยงสมองเราได้ลดลง
00:12:46 → 00:12:48 เราก็จะเอามึนหัวนั่นเองนะครับอ่านี่คือ
00:12:48 → 00:12:52 เรื่องของน้ำเลือดทีนี้เรามีเลือดมีน้ำ
00:12:52 → 00:12:55 เลือดมันก็ต้องมีปั๊มเลือดปั๊มเลือดมันมา
00:12:55 → 00:12:59 จากไหนหัวใจครับถ้าหัวใจของเราทำงานผิด
00:12:59 → 00:13:03 ปกตินะครับมันก็จะมีปัญหาเช่นการปั๊มของ
00:13:03 → 00:13:06 มันเนี่ยจะต้องมีความแรงที่เพียงพอแล้วก็
00:13:06 → 00:13:08 ต้องมีความเร็วที่เพียงพอถ้ามันความแรง
00:13:08 → 00:13:10 ไม่เพียงพอความเร็วไม่เพียงพอมันก็ไป
00:13:10 → 00:13:12 เลี้ยงสมองไม่ทันนะครับท่านก็จะมีอาการ
00:13:12 → 00:13:15 แบบนั้นบ่อยๆส่วนใหญ่พวกนี้เนี่ยมักจะรู้
00:13:15 → 00:13:18 ตัวว่ามีโรคหัวใจมาก่อนนะครับอาจจะโรคหัว
00:13:18 → 00:13:20 ใจเต้นผิดปกตินะครับก็หัวใจเต้นช้าผิด
00:13:20 → 00:13:23 ปกติหรือโรคหัวใจที่มันมีการบีบตัวผิด
00:13:23 → 00:13:26 ปกติเช่นโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันชนิดต่าง
00:13:26 → 00:13:28 ๆพวกนี้ก็จะต้องไปตรวจกับคุณหมอถึงจะ
00:13:28 → 00:13:30 สามารถบอกได้ว่าเออท่านเป็นแบบไหนแล้วก็
00:13:30 → 00:13:32 ต้องรักษาแบบไหนนะครับเพราะว่าแต่ละแบบ
00:13:32 → 00:13:35 มันรักษาไม่เหมือนกันนะฮะบางคนมีอาการน้ำ
00:13:35 → 00:13:37 ท่วมปอดบ่อยๆจากโรคหัวใจอันนี้ก็จะเป็น
00:13:37 → 00:13:40 สาเหตุหนึ่งของการมึนหัวได้เช่นกันเพราะ
00:13:40 → 00:13:42 ว่าอวัยวะที่ใช้ในการปั๊มเลือดมันเสียไป
00:13:42 → 00:13:44 นะครับ
00:13:44 → 00:13:49 นี่คือการปั๊มเลือดทีนี้ถ้าน้ำเลือดเพียง
00:13:49 → 00:13:52 พอเม็ดเลือดเพียงพอความเลือดมันดีมันมี
00:13:52 → 00:13:54 ปัญหานึงครับเลือดแล้วทุกอย่างดีแหละแต่
00:13:54 → 00:13:56 ว่ามันไม่สามารถไปถึงสมองได้ด้วยสาเหตุ
00:13:56 → 00:13:58 ต่างๆยกตัวอย่างเช่น
00:13:58 → 00:14:02 คนที่ลุกแล้วมันวูบง่ายๆถ้าเรานั่งอยู่
00:14:02 → 00:14:05 แล้วเราลุกเราวูบง่ายหรือว่าคนที่นอนแล้ว
00:14:05 → 00:14:07 ตอนเช้าตื่นมาลุกแล้ววูบง่ายเนี่ยนะครับ
00:14:07 → 00:14:10 พวกนี้เนี่ยจะต้องระวังภาวะหนึ่งส่วนใหญ่
00:14:10 → 00:14:12 มันจะเป็นเพราะว่าร่างกายของเราเนี่ยไม่
00:14:12 → 00:14:15 เคยออกกำลังกายมาก่อนไม่ค่อยแข็งแรงนะ
00:14:15 → 00:14:17 ครับเพราะว่าเวลาที่เราลุกขึ้นหรือยืน
00:14:18 → 00:14:20 ขึ้นเนี่ยเลือดของเรามันจะตกลงไปตามแรง
00:14:20 → 00:14:23 โน้มถ่วงของโลกนะครับดังนั้นมันจะอยู่ที่
00:14:23 → 00:14:26 ขาหรือที่ตัวนะครับมันจะไม่ไปที่สมองถูก
00:14:26 → 00:14:28 ไหมครับเพราะสมองถ้าเรายืนขึ้นมาเนี่ยมัน
00:14:28 → 00:14:31 จะอยู่จุดที่สูงที่สุดซึ่งหัวใจของเรา
00:14:31 → 00:14:34 เนี่ยจะต้องดีดเลือดย้อนแรงดึงดูดเพื่อไป
00:14:34 → 00:14:37 ที่สมองแต่ว่าหัวใจของเรามันเอาเลือดมา
00:14:37 → 00:14:40 จากไหนครับมันก็ต้องเอามาจากหลอดเลือดดำ
00:14:40 → 00:14:42 ที่มาอยู่ตามแขนตามขาเพื่อที่จะขึ้นมาที่
00:14:42 → 00:14:45 หัวใจแล้วก็บีบออกไปอีกรอบนึงนะครับทีนี้
00:14:45 → 00:14:47 ถ้าเกิดเลือดมันกองอยู่ที่ขาเนี่ยแล้วมัน
00:14:48 → 00:14:50 ไปเลี้ยงสมองที่พอนั่นก็จะมีอาการ
00:14:50 → 00:14:54 หัวได้มึนหัวได้นะครับเวลาคนเรายืนขึ้นมา
00:14:54 → 00:14:57 นานๆนะครับเลือดมันจะไปกองอยู่ที่ขาและ
00:14:57 → 00:15:00 ถ้ากล้ามเนื้อขาของท่านไม่แข็งแรงแล้วล่ะ
00:15:00 → 00:15:02 ก็มันบีบเอาเลือดกลับมาที่หัวใจไม่ได้
00:15:02 → 00:15:04 ท่านก็จะมีอาการเหล่านั้นขึ้นมานะครับ
00:15:04 → 00:15:07 ภาวะนี้มันจะเกิดขึ้นในคนที่ไม่ค่อยออก
00:15:07 → 00:15:09 กำลังกายวันๆนั่งอยู่แต่ในห้องอย่างเดียว
00:15:09 → 00:15:11 แล้วก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษนะครับพวกนี้
00:15:11 → 00:15:15 ก็จะเกิดง่ายขึ้นแล้วใช่รวมกับการที่
00:15:15 → 00:15:17 อากาศร้อนดื่มน้ำไม่เพียงพอพักผ่อนไม่
00:15:17 → 00:15:21 เพียงพออันนี้ก็ยิ่งซ้ำเติมทำให้อาการมัน
00:15:21 → 00:15:23 เป็นง่ายขึ้นกว่าเดิมอีกนะครับบางคนเนี่ย
00:15:23 → 00:15:25 ไม่รู้ตัวว่าทำไมช่วงนี้มันวูบบ่อยจังแต่
00:15:25 → 00:15:28 ลองไปสังเกตดูๆเราก็ไม่ได้ออกกำลังกายนะ
00:15:28 → 00:15:30 เราก็นอนได้เพียงพอวันๆเราสูบบุหรี่ดื่ม
00:15:30 → 00:15:34 เหล้าบ่อยนะเราไปใช้กระท่อมกัญชาอะไร
00:15:34 → 00:15:36 อย่างนี้เยอะแยะไปหมดพวกนี้แหละครับที่จะ
00:15:36 → 00:15:38 เป็นง่ายนะครับท่านก็ต้องระวังให้ดีนะฮะ
00:15:38 → 00:15:40 ตอนอายุน้อยๆไม่ค่อยเป็นอะไรหรอกครับแต่
00:15:40 → 00:15:42 ว่าพายุเพิ่มขึ้นก็จะเป็นง่ายกว่าเดิมอีก
00:15:42 → 00:15:44 นะครับอันนี้คือเรื่องของกล้ามเนื้อที่
00:15:44 → 00:15:47 มันไม่แข็งแรงที่ขามันก็ทำให้ท่านมีอาการ
00:15:47 → 00:15:49 มึนหัวได้ง่ายๆแก้ไขได้ด้วยวิธีเดียวคือ
00:15:49 → 00:15:52 ต้องไปออกกำลังกายนะครับไปใช้ยาอะไรพวก
00:15:52 → 00:15:54 นี้หรืออาหารเสริมมันก็ไม่ช่วยท่านนะครับ
00:15:54 → 00:16:00 อันนี้คือเรื่องของกรณีเรื่องของขาแล้วก็
00:16:00 → 00:16:03 กล้ามเนื้อแต่นอกเหนือจากนี้ถ้าทุกอย่าง
00:16:03 → 00:16:05 มันปกติแหละแล้วท่านเวียนหัวขึ้นมาหรือ
00:16:05 → 00:16:08 มันมีวูบหรือมีหมดสติไปเนี่ยอันนี้ต้อง
00:16:08 → 00:16:10 ระวังเพราะว่าบางครั้งเนี่ยมันมีลิ่ม
00:16:10 → 00:16:14 เลือดไปอุดตันตามตรงไหนครับตรงเส้นเลือด
00:16:14 → 00:16:17 ในปอดนะครับเรียกว่า promenade embolism
00:16:17 → 00:16:19 ถ้ามีการอุดตันเส้นเลือดตรงนั้นเนี่ย
00:16:19 → 00:16:22 เลือดแทนที่มันจะไหลจากปอดไปสู่หัวใจได้
00:16:22 → 00:16:24 มันไปไม่ได้เพราะมันโดนอุดไว้นะครับงั้น
00:16:24 → 00:16:27 อันเนี้ยมักจะมีอาการเฉียบพลันนะครับมี
00:16:27 → 00:16:29 อาการวูบมีอาการเหนื่อยร่วมด้วยมีอาการ
00:16:29 → 00:16:32 แน่นหน้าอกบางคนมีอาการเจ็บแปลบในหน้าอก
00:16:32 → 00:16:34 ด้วยนะครับแล้วก็มีหัวใจเต้นเร็วแต่ว่า
00:16:34 → 00:16:36 อาการพวกนี้มันจะมาเป็นชุดมันไม่ได้มา
00:16:36 → 00:16:38 อย่างใดอย่างหนึ่งนะครับเราก็ต้องสังเกต
00:16:38 → 00:16:42 ตัวเองไว้ด้วยนะครับอ่าเรื่องของหลอด
00:16:42 → 00:16:45 เลือดที่เอ่อปอดอุดตันเนี่ยผมเคยเล่าไป
00:16:45 → 00:16:47 หลายครั้งละนะครับว่ามันเกิดได้จากอะไร
00:16:47 → 00:16:49 ท่านก็ต้องลองย้อนไปฟังคลิปเรื่องพวกนั้น
00:16:49 → 00:17:05 ดูนะครับอ่า
00:17:05 → 00:17:50 [เพลง]
00:17:50 → 00:17:53 เม็ดเลือดขาวในร่างกายอยู่เป็นล้านตัว
00:17:53 → 00:17:55 อะไรอย่างนี้แทนที่มันจะมีหลักพันนี่ก็มี
00:17:55 → 00:17:57 หลักล้านนะครับเวลาที่เราเจาะเลือดมาตรวจ
00:17:57 → 00:18:00 นะครับนี่ก็ทำให้เลือดหนืดหรือบางชนิดของ
00:18:00 → 00:18:05 โรคนะครับเช่นโรค multiple ไมโลม่านะครับ
00:18:05 → 00:18:09 หรือโรคพวกนี้ Modern Storm
00:18:09 → 00:18:11 hypergoveria ชื่อแปลกๆนะครับมันจะสร้าง
00:18:11 → 00:18:13 โปรตีนที่ผิดปกติขึ้นมาเยอะๆนะครับทำให้
00:18:13 → 00:18:16 เลือดของเรามันหนืดมากขึ้นนะครับนี่คือ
00:18:16 → 00:18:18 สาเหตุที่ทำให้เลือดเนินถ้านอกเหนือจาก
00:18:18 → 00:18:20 นี้อาจจะมีโรคแปลกๆบางชนิดที่ทำให้เป็น
00:18:20 → 00:18:24 ได้นะครับแต่มันไม่ใช่อย่างที่เราไปฟังมา
00:18:24 → 00:18:26 จากโฆษณาจากที่เขาบอกมาจากที่ไหนนะครับ
00:18:26 → 00:18:29 เพราะว่าพวกนั้นคือเรื่องหลอกลวงเรื่อง
00:18:29 → 00:18:31 แต่งขึ้นเท่านั้นที่บอกว่าเลือดเรามัน
00:18:31 → 00:18:32 หนืดได้นั้นไม่เกี่ยวกันนะครับไม่มี
00:18:32 → 00:18:34 สมุนไพรไม่มียาอะไรที่จะช่วยทำให้เลือด
00:18:34 → 00:18:38 เราไม่หนืดนะครับอ่ากิน astrin กินยาสลาย
00:18:38 → 00:18:40 ลิ่มเลือดก็ไม่ได้ทำให้ช่วยทำให้เลือดของ
00:18:40 → 00:18:41 เราไม่หนืดนะครับอันนั้นไม่เกี่ยวกันเลย
00:18:41 → 00:18:44 นะครับต้องเข้าใจให้ถูกนะครับอ่าทีนี้มา
00:18:44 → 00:18:48 ถึงเหตุผลหลักอีกอันนึงละคือเรื่องของยา
00:18:48 → 00:18:51 ต่างๆนะครับยาอะไรก็ตามที่มีผลต่อจิต
00:18:51 → 00:18:53 ประสาทก็คือกินเข้าไปแล้วมันง่วงนะครับ
00:18:53 → 00:18:56 พวกเนี้ยทำให้มึนหัวได้ทุกตัวเลยนะครับ
00:18:56 → 00:18:59 เช่นอะไรบ้างนะยาคลายกล้ามเนื้อบางอย่าง
00:18:59 → 00:19:02 นะครับยานอนหลับแน่นอนอยู่แล้วใช่ไหมครับ
00:19:02 → 00:19:04 ยานอนหลับบางชนิดมันออกผลระยะยาวนะครับ
00:19:04 → 00:19:06 มันทำให้เรานอนหลับจริงอ่ะแต่วันรุ่งขึ้น
00:19:06 → 00:19:09 มันจะรู้สึกหนักหัวมึนหัวได้แล้วก็วูบได้
00:19:09 → 00:19:11 นะครับพวกนี้ก็จะมีปัญหาท่านก็ต้องดูว่า
00:19:12 → 00:19:15 เอ้ยยาที่เราทานอยู่นี่ยาอะไรนะครับหรือ
00:19:15 → 00:19:18 ยาที่ไปลดความดันนะครับยาลดความดันต่างๆ
00:19:18 → 00:19:21 ถ้ามันไปลดมากจนเกินไปท่านก็จะมีอาการมึน
00:19:21 → 00:19:23 หัวเพราะว่ามันทำให้เลือดไปเลี้ยงที่สมอง
00:19:23 → 00:19:27 ไม่เพียงพอเช่นอะไรบ้างนะครับยาลดความดัน
00:19:27 → 00:19:29 ทุกประเภทเลยนะครับโดยเฉพาะยาขับปัสสาวะ
00:19:30 → 00:19:32 นะครับเพราะว่ายาขับปัสสาวะมันทำให้ความ
00:19:32 → 00:19:36 ดันเราลดลงแล้วก็ทำให้เราขาดน้ำในร่างกาย
00:19:36 → 00:19:39 ถูกไหมครับฉะนั้นพวกนี้ก็จะต้องระวังนะ
00:19:39 → 00:19:42 ครับบางโรคเราจำเป็นจะต้องทานยาขับ
00:19:42 → 00:19:44 ปัสสาวะดังนั้นต้องสังเกตตัวเองนะครับว่า
00:19:44 → 00:19:46 เอ๊ะเราทานแล้วมันเยอะเกินไปหรือเปล่านะ
00:19:46 → 00:19:49 ครับโดยทั่วๆไปถ้าจำเป็นจะต้องทานคุณหมอ
00:19:49 → 00:19:51 เขาจะบอกอยู่แล้วนะครับเราต้องทานเวลาทาน
00:19:51 → 00:19:53 แล้วเนี่ยเราจะต้องมีการชั่งน้ำหนักของ
00:19:53 → 00:19:56 ตัวเองทุกวันนะครับน้ำหนักของเราเนี่ยมัน
00:19:56 → 00:19:58 ควรจะคงที่นะครับ
00:19:58 → 00:20:00 และถ้าน้ำในร่างกายของเรามันเพิ่มขึ้นเรา
00:20:00 → 00:20:02 อาจจะสังเกตได้ว่าเอ๊ะเราขามันบวมขึ้นมา
00:20:02 → 00:20:05 นะมันกดแล้วมันบุ๋มนะครับถ้ามันบวมแบบ
00:20:05 → 00:20:08 นั้นเนี่ยบางทีอาจจะต้องเพิ่มขนาดยากับ
00:20:08 → 00:20:10 ปัสสาวะนะครับแต่ถ้าเพิ่มแล้วมีอาการมึน
00:20:10 → 00:20:12 หัวอันนี้ก็ต้องไปคุยกับคุณหมอแล้วนะครับ
00:20:12 → 00:20:15 แต่บางกรณีเอ้ยขาเราก็ไม่บวมนะเราชั่งน้ำ
00:20:15 → 00:20:18 หนักแล้วมันเบาลงทุกวันอันนี้ผิดปกติละ
00:20:18 → 00:20:20 ครับแต่ว่าเราอาจจะใช้ยากับปัสสาวะมากจน
00:20:20 → 00:20:23 เกินไปนะครับตรงนี้ก็ต้องไปปรึกษาคุณหมอ
00:20:23 → 00:20:25 ว่าอาจจะต้องปรับขนาดนะฮะให้เรียบร้อยนะ
00:20:25 → 00:20:29 ฮะมีเกล็ดเล็กๆน้อยๆสำหรับเรื่องของยากับ
00:20:29 → 00:20:33 ปัสสาวะนะครับคือคนที่ใช้ยากับปัสสาวะ
00:20:33 → 00:20:35 เนี่ยวิตามินกลุ่มที่ละลายในน้ำได้เนี่ย
00:20:35 → 00:20:38 มันมักจะเสียไปนะครับโยนเฉพาะวิตามินบี
00:20:38 → 00:20:41 แล้วก็วิตามินซีนะครับอาจจะต้องทานเสริม
00:20:41 → 00:20:43 นิดนึงในคนเหล่านี้นะครับเพราะว่าถ้าเรา
00:20:43 → 00:20:45 ขับปัสสาวะมันก็ขับไปวิตามินพวกนี้ที่
00:20:45 → 00:20:48 ละลายในน้ำออกไปด้วยนะครับแล้วก็คนไข้โรค
00:20:48 → 00:20:51 ไตนะครับโรคไตเรื้อรังนะฮะบางทีอาจจะต้อง
00:20:51 → 00:20:54 ใช้วิตามินพวกนี้เสริมโดยเฉพาะคนไข้ที่
00:20:54 → 00:20:56 ล้างไตนะครับเพราะว่าล้างไตตอนที่เราเอา
00:20:56 → 00:20:58 เลือดออกไปแล้วเนี่ยไปไว้ในเครื่องมันก็
00:20:58 → 00:21:01 จะมีการเอาวิตามินตรงนี้ออกไปด้วยเราอาจ
00:21:01 → 00:21:03 จะต้องไปรับประทานเสริมซึ่งคุณหมอโรคไต
00:21:03 → 00:21:05 เขาจะบอกอยู่แล้วว่าให้ทานแค่ไหนที่สุด
00:21:05 → 00:21:07 เราอย่าไปเอามาทานเองนะครับเพราะว่าบาง
00:21:07 → 00:21:10 ครั้งเราทานเยอะจนเกินไปก็มีปัญหาได้กิน
00:21:10 → 00:21:12 วิตามินซีมากจนเกินไปในคนที่เป็นโรคไตก็
00:21:12 → 00:21:15 เกิดโรคนิ่วในไตทำให้ไตมันยิ่งแย่ลงไป
00:21:15 → 00:21:17 กว่าเดิมได้นะครับดังนั้นตรงนี้ก็ต้อง
00:21:17 → 00:21:19 ระวังไว้ด้วยนะครับอ่า
00:21:19 → 00:21:21 ยาคลายกล้ามเนื้อเมื่อกี้พูดไปแล้วนะครับ
00:21:21 → 00:21:25 อย่าเรื่องของยาคลายกังวลยาคลายเครียดยา
00:21:25 → 00:21:28 โรคซึมเศร้าบางชนิดก็จะทำให้เรามึนหัวได้
00:21:28 → 00:21:31 ก็ต้องระวังเรื่องพวกนี้นะครับนอกเหนือ
00:21:31 → 00:21:34 จากนี้เรื่องของเหล้าเบียร์แอลกอฮอล์มีผล
00:21:34 → 00:21:37 หมดนะครับหรืออยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทไม่
00:21:37 → 00:21:41 ดีเราไปอยู่ในห้องปิดนะครับห้องปิดร้อนๆ
00:21:41 → 00:21:43 อากาศไม่ค่อยมีเท่าไหร่นะครับออกซิเจนไป
00:21:43 → 00:21:45 สู่สมองได้น้อยเราก็จะมีอาการเวียนหัวได้
00:21:45 → 00:21:48 ง่ายที่เหลือก็มักจะเป็นสาเหตุที่เราไม่
00:21:48 → 00:21:52 ค่อยเจอนะครับเช่นพิษต่างๆนะครับแต่มี
00:21:52 → 00:21:54 อย่างหนึ่งเรื่องของห้องปิดนะครับถ้าเรา
00:21:54 → 00:21:56 อยู่ในห้องปิดเพราะว่าเดี๋ยวนี้เนี่ยหลาย
00:21:56 → 00:21:58 คนก็คงจะกังวลเรื่องของ PM 2.5 ก็เลยไม่
00:21:58 → 00:22:00 อยากจะเปิดหน้าต่างเพราะไม่เปิดหน้าต่าง
00:22:00 → 00:22:02 อากาศในห้องมันก็ไม่ถ่ายเทเพราะไม่ถ่ายเท
00:22:02 → 00:22:04 อากาศมันอยู่นิ่งๆเนี่ยสิ่งนึงซึ่งจะเกิด
00:22:04 → 00:22:07 ขึ้นในห้องของบางคนก็คือก๊าซ
00:22:07 → 00:22:09 คาร์บอนมอนอกไซด์นะครับพวกนี้เนี่ยถ้ามัน
00:22:09 → 00:22:12 ออกมาเรื่อยๆนะครับโดยเฉพาะคนไหนที่มีการ
00:22:12 → 00:22:14 หุงต้มมีอะไรพวกเนี้ยในบ้านในห้องนะครับ
00:22:14 → 00:22:17 เวลามีการ์ดพวกนี้มากๆมันจะทำให้เรามึน
00:22:17 → 00:22:20 หัวปวดหัวง่วงนอนตอนเช้าเช้าตื่นมาก็จะ
00:22:20 → 00:22:24 ไม่ค่อยไม่ค่อยรู้สึกว่าเราได้นอนนะครับ
00:22:24 → 00:22:26 ตรงนี้ก็จะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งซึ่งเรา
00:22:26 → 00:22:29 จำเป็นจะต้องเข้าใจไว้ด้วยนะครับอันนี้ก็
00:22:29 → 00:22:31 เป็นสาเหตุหลักๆเท่าที่ผมนึกได้นะครับมัน
00:22:31 → 00:22:34 ก็มีสาเหตุอื่นๆอีกเยอะแยะไปหมดนะครับแต่
00:22:34 → 00:22:38 ว่าสิ่งหนึ่งซึ่งเราควรจะต้องระวังไว้ก็
00:22:38 → 00:22:41 คือเรื่องของการนอนหลับนะครับเรื่องของยา
00:22:41 → 00:22:44 เรื่องของโรคประจำตัวต่างๆการทานอาหารให้
00:22:44 → 00:22:46 เพียงพอดื่มน้ำให้เพียงพอถ้าเราทานอาหาร
00:22:46 → 00:22:49 ไม่เพียงพอพลังงานไปสู่สมองน้อยเราก็มึน
00:22:49 → 00:22:51 หัวได้นะครับคนที่ทำ intermittent
00:22:51 → 00:22:53 fasting นานาอดข้าววันโดยที่ไม่เคยอดมา
00:22:53 → 00:22:56 ก่อนอยู่ๆก็จะไปอดเยอะๆเลยก็จะเป็นได้คน
00:22:56 → 00:22:59 ที่กินคีโตใหม่ๆกินแหลกเลยก็จะเป็นได้นะ
00:22:59 → 00:23:01 ครับตรงนี้ต้องระวังอย่าไปทำอะไรที่มัน
00:23:01 → 00:23:03 สุดโต่งจนเกินไปเกินกว่าที่ร่างกายของ
00:23:03 → 00:23:06 ท่านมันจะรับไหวแล้วถ้ายังไม่ชินก็ยิ่งจะ
00:23:06 → 00:23:07 เป็นได้นะครับ
00:23:07 → 00:23:09 อ่าพวกนี้ก็ต้องไปสังเกตตัวเองแล้วก็
00:23:09 → 00:23:12 เรื่องของอ่ายาต่างๆอย่างที่บอกเรื่องของ
00:23:12 → 00:23:15 ยาเสพติดเหล้าเบียร์แอลกอฮอล์ทุกอย่างนะ
00:23:15 → 00:23:18 ครับบุหรี่อ่าอันนี้ก็ตัวดีเลยนะครับที่
00:23:18 → 00:23:21 จะทำให้ท่านมีอาการเหล่านั้นได้นะครับอ่ะ
00:23:21 → 00:23:23 วันนี้ก็เล่าให้ฟังเพียงเท่านี้นะครับใคร
00:23:23 → 00:23:25 มีอะไรสงสัยก็สอบถามมาแล้วกันนะครับ
00:23:25 → 00:23:26 ขอบคุณมากครับสวัสดีครับ
00:23:26 → 00:23:29 [เพลง]