00:00:00 → 00:00:04 [เพลง]
00:00:05 → 00:00:09 สวัสดีครับผมวีระพงษ์ทวีศักดิ์และนี่คือ
00:00:09 → 00:00:11 ศัลยกรรมความสุข
00:00:12 → 00:00:39 [เพลง]
00:00:39 → 00:00:44 คุณผู้ฟังครับมันจะมีบางช่วงเวลานะครับใน
00:00:44 → 00:00:49 แต่ละปีนี้นะครับมันจะมีช่วงบางช่วงบาง
00:00:49 → 00:00:51 ช่วงเดือนนะครับมันจะมีหลายเดือนนะครับ
00:00:51 → 00:00:54 ที่ในแต่ละเดือนเนี่ยถ้าเป็นช่วงเดือนที่
00:00:54 → 00:00:58 มีงานรื่นเริงหรือว่าเป็นช่วงที่มีงาน
00:00:58 → 00:01:02 ประจำปีไม่ว่าจะเป็นปีใหม่หรืออะไรก็ตาม
00:01:02 → 00:01:06 ทีเนี่ยนะครับหรือช่วงส่งท้ายปีต้อนรับปี
00:01:06 → 00:01:10 ใหม่ช่วงสงกรานต์ช่วงวันหยุดยาวอะไรเนี่ย
00:01:10 → 00:01:11 ครับ
00:01:11 → 00:01:15 แต่ละบ้านแต่ละแต่ละหมู่บ้านแต่ละจังหวัด
00:01:15 → 00:01:18 หรือว่าแต่ละสถานที่ก็มักจะมีการจัดงาน
00:01:18 → 00:01:19 รื่นเริง
00:01:19 → 00:01:23 และเวลาที่มีการจัดงานรุ่นเดิมสำหรับผู้
00:01:23 → 00:01:25 คนจำนวนมากนะครับหลายครั้งเนี่ยก็ไม่
00:01:25 → 00:01:29 ปฏิเสธว่าคนจำนวนมากไปร่วมงานครับด้วย
00:01:29 → 00:01:33 ความสุขมีความสนุกสนานครับแต่ว่าหลาย
00:01:33 → 00:01:36 ครั้งครับการจัดงานรื่นเริงขนาดใหญ่อย่าง
00:01:36 → 00:01:36 นั้นเนี่ย
00:01:36 → 00:01:41 คนที่ไม่ได้ตั้งใจไปร่วมงานแต่ว่าเป็นคน
00:01:41 → 00:01:44 ที่อยู่ในพื้นที่ท้องถิ่นเนี่ยหลายครั้ง
00:01:44 → 00:01:47 เขาก็ไม่ได้มีความสุขสนุกสนานนะครับเพราะ
00:01:47 → 00:01:50 ว่าเสียงเพลงที่ดังขนาดนั้นที่คนไปร่วม
00:01:50 → 00:01:52 งานชื่นชอบเนี่ย
00:01:52 → 00:01:54 แต่คนในท้องถิ่นคนที่อยู่ในละแวกใกล้
00:01:54 → 00:01:58 เคียงเนี่ยกลับรู้สึกตรงกันข้ามครับไม่
00:01:58 → 00:02:02 ได้มีความสุขครับแต่มีความรู้สึกหนวกหู
00:02:02 → 00:02:06 [เพลง]
00:02:06 → 00:02:09 ครับคุณผู้ฟังครับสถานการณ์ที่ว่าผมชื่อ
00:02:09 → 00:02:12 ว่าคุณผู้ฟังหลายหลายท่านนะครับก็คงจะเคย
00:02:12 → 00:02:14 เจอประสบการณ์ผมเคยเจอประสบการณ์แบบนี้
00:02:14 → 00:02:16 หลายครั้งนะครับที่
00:02:16 → 00:02:20 บางทีไม่ใช่ช่วงเทศกาลด้วยนะครับเป็นช่วง
00:02:20 → 00:02:24 ปกตินี่แหละนะแต่ว่าเผอิญเพื่อนบ้านใน
00:02:24 → 00:02:28 ละแวกบ้านเนี่ยเขาก็จัดงานใหญ่นะครับจัด
00:02:28 → 00:02:30 งานแบบขึ้นบ้านใหม่อะไรอย่างนี้แล้วเขาก็
00:02:30 → 00:02:35 มีเวทีใหญ่จ้างแสดงดนตรีมานักร้องมาแล้ว
00:02:35 → 00:02:38 ก็ร้องเพลงแล้วเวลาที่เขาจัดงานใหญ่นะ
00:02:38 → 00:02:42 ครับคุณผู้ฟังแน่นอนเลยครับลำโพงนี่
00:02:42 → 00:02:45 อย่างมโหฬารใหญ่มากเลยครับแล้วเวลาที่เขา
00:02:45 → 00:02:49 เปิดเพลงเนี่ยเขาก็มาตอนที่เขาจะจัดงาน
00:02:49 → 00:02:51 เขาก็มาบอกก่อนนะครับว่าขออนุญาตหน้าอะไร
00:02:51 → 00:02:54 เราก็ไม่เป็นไรโอเคก็เป็นเพื่อนบ้านกันนะ
00:02:54 → 00:02:58 ครับเวลาที่เขาจัดงานเขาก็ต้องทำตามนั้น
00:02:58 → 00:03:01 นะแต่ว่าแต่ถึงเวลาทำจริงนะครับคุณผู้ฟัง
00:03:01 → 00:03:04 เวลาจัดงานจริงเนี่ยเขาก็จัดกันถึงดึก
00:03:04 → 00:03:06 ดื่นเลยนะครับแล้วก็
00:03:06 → 00:03:11 เสียงเพลงมันดังมากจนกระทั่งกระจกประตู
00:03:11 → 00:03:14 หน้าต่างบ้านเรามันสั่นนะครับโอ้โหถึง
00:03:14 → 00:03:18 ขั้นที่เรียกว่านอนไม่ได้นะครับแล้วก็
00:03:18 → 00:03:21 เพื่อนบ้านบางคนเนี่ยถึงขั้นต้องปิดแจ้ง
00:03:21 → 00:03:24 ตำรวจเลยนะครับอันนี้เขาเรียกว่าสร้าง
00:03:24 → 00:03:28 ความเดือดร้อนเดือดร้อนรำคาญทำให้ชาวบ้าน
00:03:28 → 00:03:31 หนวกหูนะครับเพราะว่าเสียงมันดังเกินไปนะ
00:03:31 → 00:03:31 ครับ
00:03:31 → 00:03:35 แต่ทีนี้พูดถึงเรื่องหนวกหูนะครับคุณผู้
00:03:35 → 00:03:37 ฟังมีอยู่ครั้งหนึ่งครับผมก็เคยไปร่วมงาน
00:03:37 → 00:03:40 ในต่างจังหวัดเป็นงานคล้ายๆเหมือนกับงาน
00:03:40 → 00:03:44 แสดงดนตรีกลางแจ้งนะครับแล้วก็
00:03:44 → 00:03:48 เป็นการแจ้งจริงๆเลยในทุ่งนาเลยครับแล้ว
00:03:48 → 00:03:51 มีเวทีใหญ่แล้วก็มีนักแสดงเต็มไปหมดนะ
00:03:51 → 00:03:54 ครับมีนักดนตรีหลายวงมากแล้วก็คนที่มา
00:03:54 → 00:03:57 ร่วมงานเนี่ยครับคุณผู้ฟังก็สามารถที่จะ
00:03:57 → 00:04:00 มากางเต็นท์นอนกลางทุ่งนาได้ด้วยนะครับ
00:04:00 → 00:04:04 เป็นช่วงเทศกาลพิเศษนะครับผมก็เป็นหนึ่ง
00:04:04 → 00:04:07 ในคนที่ไปร่วมงานนั้นนะครับแล้วก็ไปร่วม
00:04:07 → 00:04:10 ฟังดนตรีด้วยไปร่วมกิจกรรมบนเวทีด้วยแล้ว
00:04:10 → 00:04:15 ก็ไปกางเต็นท์นอนด้วยนะครับโอ้โหบรรยากาศ
00:04:15 → 00:04:16 ดีมากเลยนะครับ
00:04:16 → 00:04:20 แต่ว่ามันมีอยู่ช่วงนึงครับคุณผู้ฟังงาน
00:04:20 → 00:04:24 เนี่ยเขาจัดตั้งแต่หัวค่ำไปจนถึงดึกดื่น
00:04:24 → 00:04:25 แบบ
00:04:25 → 00:04:28 เลยเที่ยงคืนตี 1 ตี 2 แต่ว่าอันนี้มัน
00:04:28 → 00:04:32 จัดการทุ่งงานเลยนะครับก็ไม่น่าจะไปเดือด
00:04:32 → 00:04:35 ร้อนรำคาญชาวบ้านสักเท่าไหร่นะครับไม่น่า
00:04:35 → 00:04:36 จะไปหนวกหูชาวบ้านสักเท่าไหร่เพราะมัน
00:04:36 → 00:04:40 อยู่ห่างไกลนะครับแล้วก็แล้วเสียงดังมาก
00:04:40 → 00:04:45 ผมก็ไปฟังตั้งแต่หัวค่ำแล้วก็มีเรื่อง
00:04:45 → 00:04:47 กิจกรรมบนเวทีช่วงหัวค่ำอะไรอย่างเงี้ย
00:04:47 → 00:04:50 หลังจากนั้นเราพอเราร่วมกิจกรรมไปสักระยะ
00:04:50 → 00:04:51 หนึ่งครับคุณผู้ฟัง
00:04:51 → 00:04:56 เราก็พบว่าโอ้สักประมาณ 4 ทุ่มเนี่ย
00:04:56 → 00:05:00 สำหรับผมนี่ก็เป็นเวลานอนแล้วนะครับปกติ
00:05:00 → 00:05:04 ก็ไม่ได้นอนช้ามากพอได้เวลาปุ๊บเราก็เรา
00:05:04 → 00:05:08 ก็ร่วมงานมานานแล้วพอแล้วเราก็จะไปขอตัว
00:05:08 → 00:05:11 ไปพักผ่อนนะก็จะไปนอนในเต็นท์กางเต็นท์
00:05:11 → 00:05:16 นอนในทุ่งนาครับระหว่างที่ไปนอนในเต็นท์
00:05:16 → 00:05:18 ซึ่งอยู่ในทุ่งนาเนี่ยครับคุณผู้ฟัง
00:05:18 → 00:05:21 อากาศก็เย็นสบายครับ
00:05:21 → 00:05:22 แต่ว่า
00:05:22 → 00:05:26 เสียงเสียงการแสดงบนเวทีนะครับคุณผู้ฟัง
00:05:26 → 00:05:29 มันดังมากจนกระทั่ง
00:05:29 → 00:05:32 นอนไม่ได้เลยครับโอ้โหแบบนอนแล้วแบบโอ้ย
00:05:32 → 00:05:36 ตายคืนนี้เราจะเราจะได้นอนไหมเนี่ยนะเรา
00:05:36 → 00:05:39 จะจะเป็นยังไงเนี่ยพรุ่งนี้เช้าจะเป็นยัง
00:05:39 → 00:05:41 ไงก็จินตนาการไปเรื่อยนะครับเพราะว่า
00:05:41 → 00:05:44 เสียงมันดังมากจนหนวกหูครับ
00:05:44 → 00:05:46 นอนไม่ได้ปวดหัวเลยนะ
00:05:46 → 00:05:49 แล้วเราก็นอนระหว่างนอนอยู่สักพักนึง
00:05:49 → 00:05:54 การแสดงเขามีหลายวงหลังจากวงนึงแต่ละวงก็
00:05:54 → 00:05:56 จะเล่นประมาณ 3 4 5 เพลงอะไรเนี่ยนะ
00:05:56 → 00:05:59 ครับแล้วก็เปิดดังมาก
00:05:59 → 00:06:04 พอนอนไปสักระยะหนึ่งหนวกหูนอนไม่ได้ครับ
00:06:04 → 00:06:08 หลังจากนั้นสักพักนึงเขาเปลี่ยนวงครับก็
00:06:08 → 00:06:10 พอเปลี่ยนวงแล้วเนี่ย
00:06:10 → 00:06:15 เสียงดนตรียังดังอยู่ครับดังหนวกหูอยู่
00:06:15 → 00:06:19 ครับเพียงแต่ว่าวงที่เขาเปลี่ยนมาตอนนี้
00:06:19 → 00:06:22 ซึ่งเป็นเวลาประมาณสัก 1:00 นแล้วนะครับ
00:06:22 → 00:06:25 คุณผู้ฟังเสียงยังดังอยู่ครับแต่ว่าหลัง
00:06:25 → 00:06:27 จากที่เรานอนฟังนอนไม่หลับ
00:06:27 → 00:06:31 เราก็นอนฟังไปเนี่ยวงที่เปลี่ยนมาตอนตี 1
00:06:31 → 00:06:33 เนี่ยครับเสียงดังเหมือนเดิมแต่ว่าเนื้อ
00:06:33 → 00:06:35 หาของเพลงเนี่ย
00:06:35 → 00:06:37 น่าสนใจมากครับ
00:06:37 → 00:06:41 มีความรู้สึกว่าเอ๊ะเสียงก็ดังอยู่นะแต่
00:06:41 → 00:06:48 ว่าแนวดนตรีเป็นแนวที่เรารับได้ประมาณนึง
00:06:48 → 00:06:51 เสียงดังหนวกหูเหมือนเดิมแต่ว่าแนวดนตรี
00:06:51 → 00:06:53 เป็นแนวที่เรารับได้ประมาณนึง
00:06:53 → 00:06:58 แล้วก็ที่สำคัญกว่านั้นก็คือว่าเนื้อหา
00:06:58 → 00:07:01 น่าสนใจครับเนื้อหาเป็นการพูดถึงเรื่อง
00:07:01 → 00:07:03 ของ
00:07:03 → 00:07:07 สังคมในมุมเขามองศิลปินนี้เขาแต่งเพลงเอง
00:07:07 → 00:07:10 แล้วเขาก็มองสังคมในมุมมองของเขาและเขาก็
00:07:10 → 00:07:13 เสนอแง่คิดมุมมองบางอย่างซึ่งเป็นแง่คิด
00:07:13 → 00:07:19 มุมมองที่ผมรู้สึกว่าน่าสนใจก็เลยนอนไป
00:07:19 → 00:07:22 แล้วก็คิดในใจวงนี้ก็ใช้ได้นะ
00:07:22 → 00:07:25 หลังจากนั้นสักระยะหนึ่งครับผมเกิดเกิด
00:07:25 → 00:07:28 ความรู้สึกเอะใจขึ้นมากับตัวเองครับว่า
00:07:28 → 00:07:32 เอ๊ะเมื่อตะกี้นี้เรายังรู้สึกเสียงดัง
00:07:32 → 00:07:36 ขนาดนั้นจนเรารู้สึกว่าหนวกหูครับหนวกหู
00:07:36 → 00:07:38 จนเดือดร้อนรำคาญจนนอนไม่ได้จนปวดหัวเลย
00:07:38 → 00:07:42 ครับแต่ตอนนี้เนี่ยความดังระดับความดัง
00:07:42 → 00:07:45 ยังเท่าเดิมครับยังดังอยู่ครับเพียงแต่
00:07:45 → 00:07:48 ว่าดนตรีที่เล่นเนี่ยมันเปลี่ยนแนวไปนิด
00:07:48 → 00:07:49 หน่อย
00:07:50 → 00:07:52 เปลี่ยนแล้วไปนิดหน่อยเป็นแบบที่เราพอรับ
00:07:52 → 00:07:56 ฟังได้แล้วพอเนื้อหามันน่าสนใจ
00:07:56 → 00:08:00 กลายเป็นว่าสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าหนวก
00:08:00 → 00:08:02 หูเมื่อสักครู่นี้เนี่ย
00:08:02 → 00:08:07 ไม่เกิดความรู้สึกเดือดร้อนรำคาญแล้ว
00:08:07 → 00:08:11 ผมก็ถามตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้น
00:08:11 → 00:08:15 แว๊บนึงมันก็มีคำเข้ามาในหัวว่าโอ้เวลา
00:08:15 → 00:08:18 ที่เราได้ยินอะไรบางอย่างแล้วเรารู้สึก
00:08:18 → 00:08:22 ว่าหนวกหูแล้วก็เดือดร้อนรำคาญใจเนี่ย
00:08:22 → 00:08:26 เอาเข้าจริงๆเนี่ยสิ่งที่ทำให้เรารำคาญใจ
00:08:26 → 00:08:28 ที่เราเรียกว่าหนวกหูเนี่ยที่จริงมันไม่
00:08:28 → 00:08:33 ได้รำคาญที่หูนะแต่ว่ามันรำคาญที่ใจคือ
00:08:33 → 00:08:35 เกิดความรู้สึกว่าที่เรียกว่าหนวกหูไม่
00:08:35 → 00:08:38 น่าจะไม่น่าจะถูกต้องแล้วแหละเพราะว่ามัน
00:08:39 → 00:08:43 มันไม่ได้มีผลต่อหูเสียงดังมันทำให้เรา
00:08:43 → 00:08:45 เดือดร้อนรำคาญใจ
00:08:45 → 00:08:50 เพราะเมื่อสักครู่นี้พอเนื้อหาพอรับฟัง
00:08:50 → 00:08:53 ได้ปุ๊บความรู้สึกเดือดร้อนรำคาญใจมันหาย
00:08:53 → 00:08:54 ไป
00:08:54 → 00:08:56 กลายเป็นฟังไปเพลินๆ
00:08:56 → 00:09:00 เสียงดังๆอยู่นะเสียงดังอยู่แต่ฟังไป
00:09:00 → 00:09:03 เพลินๆๆปรากฏว่าคุณระหว่างเชื่อไหมครับ
00:09:03 → 00:09:05 ว่าวงนี้เข้าเล่นอยู่
00:09:06 → 00:09:07 3-4 เพลงนี้
00:09:08 → 00:09:13 ผมแบบหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ตัวเลยคือ
00:09:13 → 00:09:16 พอเสียงที่หนวกหู
00:09:16 → 00:09:20 รำคาญหูแต่พอไม่รำคาญใจปึ๊บมันทำให้เรา
00:09:20 → 00:09:22 เพลิดเพลิน
00:09:22 → 00:09:24 แล้วก็
00:09:24 → 00:09:28 หลับได้ครับแล้วหลับไปเลยครับหลับไปเลย
00:09:28 → 00:09:31 มันทำให้เกิดความคิดที่สำคัญประการหนึ่ง
00:09:31 → 00:09:35 ครับคุณผู้ฟังว่าแท้ที่จริงแล้วสิ่งที่
00:09:35 → 00:09:39 เราได้ยินเราจะเรียกสิ่งนั้นว่าเป็นสิ่ง
00:09:39 → 00:09:42 ที่ทำให้เราหนวกหูหรือไม่เนี่ยมันไม่ได้
00:09:42 → 00:09:46 ขึ้นอยู่กับว่าความดัง
00:09:46 → 00:09:51 ความเบาอย่างเดียวมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับ
00:09:51 → 00:09:53 สิ่งที่เราได้ยิน
00:09:53 → 00:09:56 แต่มันขึ้นอยู่กับใจเราที่เอาไปรับอ่ะ
00:09:57 → 00:10:00 ครับใจเราถ้าเราเอาใจแบบไหนไปรับมันเนี่ย
00:10:00 → 00:10:05 สิ่งนั้นเนี่ยเราก็จะสามารถทำให้มันไม่
00:10:05 → 00:10:23 เดือดร้อนรำคาญใจได้
00:10:23 → 00:10:27 เต็มไปหมดเลยนะครับแล้วมันก็เลยรู้สึกว่า
00:10:27 → 00:10:32 คนแต่ละคนเนี่ยชอบดนตรีก็ชอบดนตรีที่มี
00:10:32 → 00:10:34 แนวต่างกัน
00:10:34 → 00:10:38 บางคนก็ชอบดนตรีคลาสสิคบางคนก็ชอบดนตรี
00:10:38 → 00:10:39 หรอก
00:10:39 → 00:10:42 ใครชอบดนตรีแบบไหนเวลาที่ได้ฟังดนตรีแบบ
00:10:42 → 00:10:45 ที่ตัวเองชอบก็จะรู้สึก
00:10:45 → 00:10:50 สบายอ่ะนะมีความสุขมีความสบายแต่ถ้าเกิด
00:10:50 → 00:10:55 ว่าใครที่ต้องฟังดนตรีแนวที่ตัวเองไม่ชอบ
00:10:55 → 00:10:59 นะครับมันก็จะรู้สึกไม่พึงพอใจแล้วก็
00:10:59 → 00:11:02 เดือดร้อนรำคาญกลายเป็นหนวกหูได้นะครับ
00:11:02 → 00:11:07 มันทำให้นึกไปถึงว่าเมื่อหลายปีก่อนตอน
00:11:07 → 00:11:08 สมัยที่
00:11:08 → 00:11:10 ยังเป็น
00:11:10 → 00:11:13 นิสิตนักศึกษาเรียนสาขาดนตรีอยู่นะครับก็
00:11:13 → 00:11:18 จะมีการบ้านที่อาจารย์บอกว่าให้ไปฟัง
00:11:18 → 00:11:22 ดนตรีคลาสสิคเราก็มีหน้าที่ที่จะต้องไป
00:11:22 → 00:11:25 ฟังดนตรีคลาสสิคในหอประชุมใหญ่นะครับเป็น
00:11:25 → 00:11:28 การแสดงดนตรีของวงคลาสสิควงใหญ่เลยนะครับ
00:11:28 → 00:11:30 แล้วเราไปฟังเสร็จปุ๊บ
00:11:30 → 00:11:31 อาจารย์ก็บอกว่า
00:11:31 → 00:11:35 เวลาที่ไปฟังเสร็จแล้วเนี่ยนะมันจะมีขั้น
00:11:35 → 00:11:38 ตอนก่อนไปฟังเราต้องทำอะไร
00:11:38 → 00:11:40 แล้วฟังเสร็จแล้วหลังจากนั้นระหว่างฟัง
00:11:40 → 00:11:43 เราจะต้องคิดพิจารณาอะไรฟังเสร็จแล้วต้อง
00:11:43 → 00:11:45 มาเขียนรายงานแล้วเมื่อนำเสนออาจารย์ด้วย
00:11:45 → 00:11:49 นะครับพวกเราก็ปฏิบัติตามนั้นเลยครับคุณ
00:11:49 → 00:11:53 ผู้ฟังไปเลยครับแต่ว่าข้อที่น่าสังเกตก็
00:11:53 → 00:11:57 คือว่าในระหว่างที่ชมดนตรีคลาสสิคนะครับ
00:11:57 → 00:12:04 ผมก็เห็นสังเกตเห็นอากาศกริยาของคนที่มา
00:12:04 → 00:12:08 ชมดนตรีคลาสสิคด้วยกันนี่แหละนะแต่ว่าไม่
00:12:08 → 00:12:10 รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ว่าเราเห็นสีหน้าสี
00:12:10 → 00:12:12 ตาเขาแล้วมีความรู้สึกว่า
00:12:12 → 00:12:17 เอ๊ะนี่เขากำลังฟังอย่างมีความสุขหรือว่า
00:12:17 → 00:12:20 เขากำลังเดือดร้อนรำคาญกันแน่นะก็เลยไม่
00:12:20 → 00:12:23 แน่ใจหลังจากนั้นเราก็มาวิเคราะห์เพลง
00:12:23 → 00:12:26 แล้วก็วิเคราะห์การแสดงดนตรีแล้วก็มา
00:12:26 → 00:12:29 วิเคราะห์ผู้ฟังด้วย
00:12:29 → 00:12:31 แต่ว่าสิ่งที่ผมได้วิเคราะห์มาเนี่ย
00:12:31 → 00:12:33 วิเคราะห์กับเพื่อนๆนะครับแล้วก็กับ
00:12:33 → 00:12:34 อาจารย์เนี่ย
00:12:34 → 00:12:37 สิ่งที่เราวิเคราะห์เนี่ยเราได้เห็นอะไร
00:12:37 → 00:12:41 แล้วแล้วเราเกิดความรู้สึกยังไงเนี่ยนะ
00:12:41 → 00:12:43 ครับแล้วเราได้เรียนรู้อะไรเนี่ยเดี๋ยว
00:12:43 → 00:12:47 เรามาฟังช่วงหน้านะครับตอนนี้เราพักสัก
00:12:47 → 00:12:49 ครู่ครับ
00:12:49 → 00:12:50 [เพลง]
00:12:50 → 00:12:53 [ปรบมือ]
00:12:53 → 00:13:10 [เพลง]
00:13:49 → 00:13:52 เวลา
00:13:52 → 00:13:56 [เพลง]
00:13:56 → 00:13:59 อะไรที่แช่แดด
00:13:59 → 00:14:04 [เพลง]
00:14:04 → 00:14:07 และ
00:14:07 → 00:14:22 [เพลง]
00:14:22 → 00:14:25
00:14:25 → 00:14:25 [เพลง]
00:14:25 → 00:14:34 ดาว
00:14:34 → 00:14:48 [เพลง]
00:15:19 → 00:15:22 ครับคุณผู้ฟังว่าด้วยเรื่องของศัลยกรรม
00:15:22 → 00:15:25 ความสุขตอนนี้นะครับว่าด้วยเรื่องของหนวก
00:15:25 → 00:15:31 หูนะครับ
00:15:31 → 00:15:35 รำคาญมากไม่ไหวหนวกหูเหลือเกินนะ
00:15:35 → 00:15:37 แต่จริงๆแล้วเกิดการเรียนรู้ว่าแท้ที่
00:15:37 → 00:15:40 จริงแล้วสิ่งที่เราจะเดือดร้อนรำคาญเนี่ย
00:15:40 → 00:15:42 มันไม่ได้เพราะสิ่งที่เราฟัง
00:15:42 → 00:15:45 สิ่งที่ทำให้เราเดือดร้อนรำคาญมันอยู่
00:15:45 → 00:15:48 ข้างในตัวเราเองครับก็คือว่าเราฟังสิ่ง
00:15:48 → 00:15:52 นั้นด้วยความรู้สึกแบบไหนแล้วก็เลยพูดไป
00:15:52 → 00:15:55 ถึงว่าทำให้เรานึกถึงว่าครั้งหนึ่งเคยไป
00:15:55 → 00:15:58 ฟังฟรีคลาสสิคนะครับอาจารย์ผมว่าก็สอนว่า
00:15:58 → 00:16:01 เวลาที่เราจะไปฟังดนตรีคลาสสิคก่อนไปฟัง
00:16:01 → 00:16:05 เราจะต้องรู้ว่าเราจะไปฟังเพลงนี้จะไปฟัง
00:16:05 → 00:16:09 เพลงอะไรแล้วก็ใครเป็นคนเล่นใครเป็นคน
00:16:09 → 00:16:10 ประพันธ์
00:16:10 → 00:16:14 พอเราทำความรู้จักว่าดนตรีมีกี่ท่อนมี
00:16:14 → 00:16:17 ประเภทไหนอะไรยังไงปุ๊บเนี่ยหลังจากนั้น
00:16:17 → 00:16:20 แล้วเราถึงจะไปฟังแล้วในระหว่างที่ฟัง
00:16:20 → 00:16:23 เนี่ยก็ค่อยๆฟังไปตามสิ่งที่เราวิเคราะห์
00:16:23 → 00:16:26 แล้วเวลาที่เราฟังดนตรีคลาสสิคนะครับคุณ
00:16:26 → 00:16:29 ผู้ฟังพอเราวิเคราะห์เพลงมาก่อนที่เราจะ
00:16:29 → 00:16:31 ฟังเนี่ยมันทำให้การฟังของเราอ่ะง่ายขึ้น
00:16:31 → 00:16:35 แล้วเราก็มีความรู้สึกว่ามันมันน่าสนใจ
00:16:35 → 00:16:36 มากขึ้น
00:16:36 → 00:16:39 และหลังจากที่เราฟังเสร็จแล้วเราก็มาทำ
00:16:39 → 00:16:42 รายงานเสนออาจารย์เนี้ยมันก็ทำให้งานที่
00:16:42 → 00:16:45 เรานำเสนอเนี่ยครับมันเป็นเครื่องยืนยัน
00:16:45 → 00:16:50 ว่าเราสามารถที่จะฟังดนตรีคลาสสิคได้ดี
00:16:50 → 00:16:53 ขึ้นซึ่งจะส่งผลต่อการเป็นนักดนตรีของเรา
00:16:53 → 00:16:56 ในอนาคตแต่สิ่งที่เราเห็นเนี่ยครับคุณผู้
00:16:56 → 00:17:00 ฟังครับที่บอกว่าแล้วผู้ฟังคนอื่นเนี่ย
00:17:00 → 00:17:04 ครับที่เราเห็นอาการเขาแล้วเรามีความรู้
00:17:04 → 00:17:06 สึกว่าเอ๊ะเขา
00:17:06 → 00:17:10 เขาฟังแล้วทำไมเขาถึงเหมือนกับว่าเขาไม่
00:17:10 → 00:17:12 ได้มีความสุขในการฟัง
00:17:12 → 00:17:15 เป็นเพราะว่าเราก็มาวิเคราะห์เป็นเพราะ
00:17:15 → 00:17:20 ว่าเขามาฟังดนตรีคลาสสิคอาจจะด้วยเหตุผล
00:17:20 → 00:17:23 อะไรก็ไม่รู้แต่ว่าเขามาฟังไม่ได้เพราะ
00:17:24 → 00:17:26 ว่าเขาชอบดนตรีคลาสสิค
00:17:26 → 00:17:29 เพราะว่าจากสีหน้าสีตาที่เราเห็นเขาเนี่ย
00:17:29 → 00:17:33 โอ้โหเหมือนกับเขาแบบเครียดมากแล้วก็ไม่
00:17:33 → 00:17:35 ไหวไม่ไหวแล้วไม่ได้มีความรื่นรมพูดง่ายๆ
00:17:35 → 00:17:39 ก็เลยวันนั้นมันทำให้เราเข้าใจเลยครับว่า
00:17:39 → 00:17:43 แท้ที่จริงแล้วเนี่ยคนแต่ละคนเนี่ยการที่
00:17:43 → 00:17:46 เราชอบดนตรีแบบไหน
00:17:46 → 00:17:50 ถ้าคนที่ชอบดนตรีร็อคเนี่ยครับก็คือเขา
00:17:50 → 00:17:54 ชอบไงเขาชอบแล้วเวลาที่เขาไปฟังดนตรี
00:17:54 → 00:17:58 มันสนุกมากเลยมันมีความสุขมากที่ได้ฟัง
00:17:58 → 00:18:01 แต่ว่าคนที่ไม่ชอบดนตรีร็อคยิ่งถ้าเป็น
00:18:01 → 00:18:04 แบบฮาร์ดร็อคหรืออะไรแบบแรงๆเนี่ยนะ
00:18:04 → 00:18:08 โอ้โหอยู่ไม่ไหวเลยนะบอกไม่ไหวเลยหนวกหู
00:18:08 → 00:18:11 มากๆเลยเสียงดังมากเลยฟังกันได้ยังไง
00:18:11 → 00:18:14 เนี่ยเราไปว่าเขาอีกนะว่าฟังได้ยังไง
00:18:14 → 00:18:19 เนี่ยนะครับเพราะว่าอะไรไม่ใช่เพราะว่า
00:18:19 → 00:18:21 สิ่งที่เอาไปฟัง
00:18:21 → 00:18:25 เพราะใจเราที่เราเอาไปเป็นหลักนะครับใจ
00:18:25 → 00:18:27 เราเนี่ยเราไม่ได้ชอบ
00:18:27 → 00:18:31 คุณกำลังเชื่อไหมครับว่าจากการฟังเพลง
00:18:31 → 00:18:33 ผมก็เลยมีความรู้สึกว่า
00:18:33 → 00:18:38 ลองสังเกตดูสิครับคุณผู้ฟังว่าหลายครั้ง
00:18:38 → 00:18:42 เวลาที่เราอยู่ในสภาวะที่เรารู้สึกว่า
00:18:42 → 00:18:45 สิ่งที่เรากำลังได้ยินสิ่งที่เรากำลังฟัง
00:18:45 → 00:18:48 มันทำให้เราเดือดร้อนรำคาญ
00:18:48 → 00:18:52 แท้ที่จริงแล้วมันเป็นเพราะว่าความเดือด
00:18:52 → 00:18:55 ร้อนรำคาญนี้มันมาจากสิ่งที่เราได้ยินได้
00:18:55 → 00:19:01 ฟังหรือมันมาจากข้างในเราใจเราที่เราเอา
00:19:01 → 00:19:03 ไปรับอ่ะ
00:19:03 → 00:19:05 เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งครับก็มีเพื่อนคน
00:19:06 → 00:19:07 หนึ่งก็เล่าให้ฟังว่า
00:19:07 → 00:19:09 เขาไป
00:19:09 → 00:19:13 ใช้บริการรถแท็กซี่คันหนึ่ง
00:19:13 → 00:19:15 เสร็จแล้ว
00:19:15 → 00:19:19 พอขึ้นรถแท็กซี่เสร็จปุ๊บเนี่ยใจเขาเนี่ย
00:19:19 → 00:19:23 เขาก็อยากจะฟังรายการวิทยุที่เขากำลังฟัง
00:19:23 → 00:19:26 อยู่ผ่านทางโทรศัพท์มือถือพูดง่ายๆว่า
00:19:26 → 00:19:29 อยากจะอยู่กับเรื่องอยากจะอยู่กับตัวเอง
00:19:29 → 00:19:32 อยากจะฟังรายการที่ตัวเองชอบ
00:19:32 → 00:19:37 เสร็จแล้วพอฟังไปสักพักหนึ่งแท็กซี่พอมี
00:19:37 → 00:19:40 ผู้โดยสารขึ้นแท็กซี่ก็เริ่มชวนคุย
00:19:40 → 00:19:45 ก็เล่าเรื่องนี้ให้ฟังเพื่อนก็คิดในใจว่า
00:19:45 → 00:19:50 อยากฟังวิทยุก็คือใจเนี่ยไม่ได้ตั้งใจที่
00:19:50 → 00:19:53 จะมารับฟังแท็กซี่ที่จะมาเล่าอะไรให้ฟัง
00:19:53 → 00:19:56 เลยแต่ว่าแท็กซี่คนขับแท็กซี่คนนั้นเนี่ย
00:19:56 → 00:19:59 วันนั้นก็คงมีความรู้สึกว่าอยากจะเล่า
00:19:59 → 00:20:01 อะไรบางอย่างให้ฟังอะไรอย่างนี้นะฮะแล้ว
00:20:01 → 00:20:04 ก็คงมีมนุษย์สัมพันธ์ที่แบบว่าชอบพูดคุย
00:20:04 → 00:20:07 กับผู้โดยสารหรืออะไรก็แล้วแต่นะตอนนี้
00:20:07 → 00:20:10 มันเกิดความเดือดร้อนรำคาญครับระหว่างคน
00:20:10 → 00:20:13 ที่อยากจะฟังรายการวิทยุของตัวเอง
00:20:13 → 00:20:17 กับก็เลยไม่ได้อยากฟังคนที่อยู่ตรงหน้า
00:20:17 → 00:20:20 เขาไม่ได้รู้จักกันด้วยนะฮะก็เป็นคนขับ
00:20:20 → 00:20:21 แท็กซี่
00:20:21 → 00:20:23 แต่คนขับแท็กซี่ก็ยังอยากจะเล่าให้ฟัง
00:20:23 → 00:20:26 อยู่ระหว่างนั้นเนี่ยเพื่อนก็เกิดความรู้
00:20:27 → 00:20:30 สึกเดือดร้อนรำคาญแล้ว
00:20:30 → 00:20:33 แต่จู่ๆเพื่อนก็มีความคิดว่าอ้าว
00:20:33 → 00:20:36 ไหนๆเขาอยากเล่าให้ฟังแล้วก็ลองฟังดูแล้ว
00:20:36 → 00:20:41 กันนะก็เลยไม่ฟังวิทยุแล้วก็เลยฟัง
00:20:41 → 00:20:45 พอทำใจว่าจะรับฟังเรื่องเล่าเนี่ยแท็กซี่
00:20:45 → 00:20:47 เขาก็เล่าให้ฟังว่า
00:20:47 → 00:20:51 เนี่ยเขาก็ขับรถมา
00:20:51 → 00:20:55 บ้านเขาอยู่ไกลมากเลยนะอยู่ไกลจากสถานที่
00:20:55 → 00:20:59 นี้ที่มารับเพื่อนเนี่ยอยู่ไกลมากแล้วก็
00:20:59 → 00:21:03 ขับมาทั้งคืนแล้วนะเนี่ยเช้าแล้วนะกำลัง
00:21:03 → 00:21:05 จะกลับแล้วจะกลับบ้านแล้วแล้วระหว่างนั้น
00:21:05 → 00:21:07 ก็จอดรอ
00:21:07 → 00:21:09 เพื่อจะรอ
00:21:09 → 00:21:14 ให้มีลูกค้าเรียกใช้บริการแท็กซี่โดยเขา
00:21:14 → 00:21:18 จะเลือกว่าถ้าลูกค้ารายไหนที่เรียกใช้
00:21:18 → 00:21:20 บริการแท็กซี่เนี่ยนะครับผ่านทาง
00:21:20 → 00:21:23 แอปพลิเคชั่นเนี่ยถ้าลูกค้ารายไหนที่มี
00:21:23 → 00:21:27 เป้าหมายที่จะให้ไปส่งจากแถวนี้เนี่ยแล้ว
00:21:27 → 00:21:29 มีเป้าหมายว่าจะให้ไปส่งเนี่ย
00:21:29 → 00:21:33 พื้นที่นั้นเป็นบริเวณใกล้บ้านเขาเขาจะ
00:21:33 → 00:21:37 รับเขาจะรับงานพูดง่ายๆว่าอยากจะกลับบ้าน
00:21:37 → 00:21:42 แล้วนะแล้วก็ถ้าเกิดว่าไม่มีใครเรียกสัก
00:21:42 → 00:21:44 แป๊บเดียวเดี๋ยวเขาก็จะขับรถเปล่าๆกลับ
00:21:45 → 00:21:47 บ้านแล้วคุณต้องกลับไปนอนแล้ว
00:21:47 → 00:21:49 แต่ถ้ามีลูกค้าที่เรียก
00:21:49 → 00:21:54 แล้วมีลูกค้าด้วยแล้วก็เรียกเธอ
00:21:54 → 00:21:58 กลับไปในเขตทางกลับบ้านด้วยก็จะถือว่า
00:21:58 → 00:22:02 เป็นโชคดีนะฮะที่ไม่ได้วิ่งรถเปล่าแล้วก็
00:22:02 → 00:22:03 แล้ว
00:22:03 → 00:22:05 พอเขาคิดอย่างนั้นเนี่ยเขาก็เล่าให้ฟัง
00:22:05 → 00:22:08 ว่าพอเขาคิดอย่างนั้นระหว่างที่กำลังรอ
00:22:08 → 00:22:12 เนี่ยคุณก็เรียกมาเนี่ยแล้วที่ที่คุณจะไป
00:22:12 → 00:22:15 เนี่ยคุณกำลังจะไปเนี่ยแถวนั้นมันแถวบ้าน
00:22:15 → 00:22:17 ผมพอดีเลยนะ
00:22:17 → 00:22:22 ผมก็รู้สึกว่าโอ้โหวันนี้โชคดีจังเลยนะก็
00:22:22 → 00:22:26 เล่าถึงความโชคดีของเขาแล้วก็เล่าถึงว่า
00:22:26 → 00:22:30 สิ่งนี้มันทำให้เขารู้สึกว่าเขามีความสุข
00:22:30 → 00:22:33 แล้วก็ยังไม่พอนะครับและเขาก็เลยบอกว่า
00:22:33 → 00:22:38 เนี่ยต้องขอบคุณมากเลยนะครับที่คุณเรียก
00:22:38 → 00:22:42 ใช้บริการแท็กซี่ตอนนี้เนี่ยแล้วก็ทำให้
00:22:42 → 00:22:46 ผมแบบมีความสุขมากและก็ขอบคุณคุณด้วยคุณ
00:22:46 → 00:22:49 ฟังเชื่อไหมครับว่าพอเพื่อนผมคนนี้
00:22:49 → 00:22:54 เดิมไม่ได้อยากฟังแท็กซี่คุยนะอยากฟังราย
00:22:54 → 00:22:56 การวิทยุของตัวเอง
00:22:56 → 00:23:00 แล้วก็ฟังแท็กซี่พูดคุยในตอนแรกด้วยความ
00:23:00 → 00:23:04 รู้สึกเดือดร้อนรำคาญนะไม่ได้อยากฟัง
00:23:04 → 00:23:11 แต่ว่าพอตัดใจว่าเอ้าไหนลองฟังหน่อยสินะ
00:23:11 → 00:23:16 ก็ฟังไปฟังไปเรื่อยๆพบว่าโอ้เนื้อหาก็คือ
00:23:16 → 00:23:21 ว่าเขาต้องการจะแบ่งปันความรู้สึกมีความ
00:23:21 → 00:23:25 สุขที่เขากำลังมีตอนนี้ให้กับเรานะคือเขา
00:23:25 → 00:23:28 มีความสุขเพราะรู้สึกว่าชีวิตเขาลงตัว
00:23:28 → 00:23:31 ชีวิตเขามันดีมากเลยเช้านี้
00:23:31 → 00:23:34 เพราะว่ากำลังจะกลับบ้านแล้วแล้วก็มีผู้
00:23:34 → 00:23:36 โดยสารเรียกในเส้นทางที่จะกลับบ้านแล้วก็
00:23:36 → 00:23:41 จะได้กลับไปพักแล้วก็ได้ค่าได้ค่าโดยสาร
00:23:41 → 00:23:43 ด้วยแล้วก็ได้กลับบ้านพักด้วยอะไรอย่าง
00:23:43 → 00:23:44 นี้แล้วก็
00:23:44 → 00:23:48 เป็นคนที่พอชีวิตดีแล้วก็เลยอยากจะแบ่ง
00:23:48 → 00:23:51 ปันความสุขที่ตัวเองมีให้กับคนอื่น
00:23:51 → 00:23:55 แล้วก็ยังไม่พอนะยังรู้สึกสำนึกรู้คุณ
00:23:55 → 00:23:59 ขอบคุณผู้โดยสารซึ่งก็คือเพื่อนผมนี่แหละ
00:23:59 → 00:24:01 นะขอบคุณผู้โดยสาร
00:24:01 → 00:24:05 ที่เป็นคนที่ทำให้ชีวิตเขาลงตัวในเช้าวัน
00:24:05 → 00:24:06 นี้
00:24:06 → 00:24:11 คุณวังเห็นเห็นอานุภาพเห็นอัศจรรย์ของการ
00:24:12 → 00:24:16 เอาใจไปรับฟังสิ่งที่เราไม่อยากฟังเลย
00:24:16 → 00:24:19 ครับเวลาที่เราไม่อยากฟังอะไรบางอย่างเรา
00:24:19 → 00:24:23 จะรู้สึกเดือดร้อนรำคาญหนวกหูครับแต่ว่า
00:24:23 → 00:24:27 พอเราจะต้องสั่งสิ่งนั้นแล้วเราปรับที่ใจ
00:24:27 → 00:24:28 เรา
00:24:28 → 00:24:32 และเราก็ลองฟังดูเราก็จะพบว่า
00:24:32 → 00:24:36 สิ่งนี้มันทำให้เราพลอยมีความสุขไปด้วยนะ
00:24:36 → 00:24:39 ก็คือเราพลอยมีความสุขกับคนคนหนึ่งที่
00:24:39 → 00:24:41 กำลังมีความสุขไปด้วย
00:24:41 → 00:24:46 แล้วก็ซึ่งบังเอิญที่เขาขอบคุณเราเราก็
00:24:46 → 00:24:50 เลยรู้สึกมีความรู้สึกดีกับตัวเองด้วย
00:24:50 → 00:24:53 คุณร่างเห็นไหมครับว่าเวลาที่เรารู้สึก
00:24:53 → 00:24:56 ว่าเราเดือดร้อนรำคาญจากการได้ยินได้ฟัง
00:24:56 → 00:24:57 อะไรบางอย่าง
00:24:57 → 00:25:01 ถ้าเราไม่สามารถที่จะไปเปลี่ยน
00:25:01 → 00:25:04 เสียงนั้นจากต้นทางนะครับแต่ถ้าเรามี
00:25:04 → 00:25:08 ทักษะในการเปลี่ยนใจเราที่จะรับฟังสิ่ง
00:25:08 → 00:25:12 นั้นลองรับฟังดูและเราก็จะพบว่าความรู้
00:25:12 → 00:25:16 สึกหนวกหูหรือว่าเดือดร้อนรำคาญมันก็
00:25:16 → 00:25:19 สามารถเปลี่ยนไปได้แล้วเราก็สามารถที่จะ
00:25:19 → 00:25:22 เปลี่ยนเป็นทำให้เราเนี่ยกลับมาอยู่ใน
00:25:22 → 00:25:25 สภาวะของการที่เรามีความสุขได้
00:25:25 → 00:25:28 โดยที่เราไม่ต้องเปลี่ยนอะไรต้นทาง
00:25:28 → 00:25:32 แต่ว่าเปลี่ยนเปลี่ยนข้างในเราเองเพราะ
00:25:32 → 00:25:33 ฉะนั้นคุณผู้ฟังครับ
00:25:33 → 00:25:35 แต่ในการความสุขตอนนี้ที่ว่าด้วยเรื่อง
00:25:36 → 00:25:39 หนวกหูนะครับอันนี้ก็เป็นเคล็ดลับเล็กๆ
00:25:39 → 00:25:41 น้อยๆในการที่เราอาจจะสามารถใช้ได้ใน
00:25:41 → 00:25:43 ชีวิตประจำวันเวลาที่เรารู้สึกว่าเราต้อง
00:25:43 → 00:25:47 ฟังอะไรบางอย่างที่เรารู้สึกกลัวครูครับ
00:25:47 → 00:25:50 แล้วถ้าเราเปลี่ยนตรงนั้นไม่ได้เราลองมา
00:25:50 → 00:25:53 เปลี่ยนข้างในครับความรู้สึกหนวกหูอาจจะ
00:25:53 → 00:25:56 หายไปก็ได้แล้วอาจจะกลายเป็นสิ่งที่ทำให้
00:25:56 → 00:25:59 เรามีความสุขก็ได้นะครับศัลยกรรมความสุข
00:25:59 → 00:26:02 ในวันนี้ก็ต้องลาไปก่อนนะครับขอบพระคุณ
00:26:02 → 00:26:05 คุณผู้ฟังทุกท่านที่ติดตามรับฟังรายการดู
00:26:05 → 00:26:07 อย่างสม่ำเสมอนะครับวันนี้ผมวีระพงษ์
00:26:07 → 00:26:13 ทวีศักดิ์ต้องลาไปก่อนครับสวัสดีครับ
00:26:13 → 00:26:16 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น
00:26:16 → 00:26:18 ของไทย pdash
00:26:18 → 00:26:21 spotify Sound Google podcast Apple
00:26:21 → 00:26:30 podcast และ YouTube
00:26:30 → 00:26:35 [เพลง]