00:00:00 → 00:00:03 เทคนิคแก้สมองเสื่อมโดยไม่ต้องทานยา
00:00:03 → 00:00:08 อีกเลยตลอดชีวิตของท่าน ถ้าท่านทำเทคนิคนี้ได้
00:00:15 → 00:00:16 สวัสดีครับ ผมหมอท๊อป
00:00:16 → 00:00:22 วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่อง เทคนิคแก้สมองเสื่อม
00:00:22 → 00:00:29 ไม่ต้องทานยาอีกเลยตลอดชีวิตของท่าน ถ้าท่านทำเทคนิคนี้ได้
00:00:29 → 00:00:33 ไม่ต้องทานยาอีกเลยตลอดชีวิตของท่าน
00:00:33 → 00:00:37 10 นาทีนี้จะเปลี่ยนชีวิตของท่านไปตลอดการ
00:00:37 → 00:00:41 ตั้งใจฟังจนจบ และอย่าลืมกด Like กด Share กด Subscribe
00:00:41 → 00:00:44 เผื่อแผ่เพื่อนๆ ของท่านด้วย ขอบคุณมากๆ ครับ
00:00:44 → 00:00:50 อันแรก ท่านคิดว่าความจำของท่านมีค่าเท่าไหร่
00:00:51 → 00:00:52 10,000,000
00:00:53 → 00:00:54 100,000,000
00:00:54 → 00:00:58 หรือ 1,000,000,000 ความจำของท่านมีค่าเท่าไหร่
00:00:58 → 00:01:01 ไม่ต้องตอบ ให้คิดในใจมีค่าเท่าไหร่
00:01:01 → 00:01:06 สมมุติเฉยๆ ว่ามีคนเอาเงินมาให้ท่าน 1 พันล้านบาท
00:01:06 → 00:01:12 บอก ผมขอแลกความทรงจำของคุณกับเงิน 1 พันล้านบาทหน่อย
00:01:13 → 00:01:16 ท่านจะแลกไหม 1 พันล้านบาท ไม่น้อยนะ
00:01:17 → 00:01:20 ใช้ได้ทั้งชีวิต ลูกหลานไม่ต้องทำงานทำการอีกเลย
00:01:20 → 00:01:23 1 พันล้านบาท สบายๆ เลย
00:01:24 → 00:01:28 เพราะฉะะนั้นถ้าเกิดความทรงจำของท่านมีค่ามากกว่า 1 พันล้านบาท
00:01:28 → 00:01:35 ผมว่าคลิป 10 นาทีนี้ มีค่ามากกว่า 1 พันล้านบาท ดูให้จบ
00:01:36 → 00:01:45 วิธีที่จะทำให้สมองของท่านมีความจำดี แล้วก็อารมณ์ดีไปตลอดชีวิต
00:01:45 → 00:01:51 และก็ไม่ต้องใช้ยาเลย และก็ไม่ต้องทานอาหารเสริมใดๆ เพิ่มเติมเลย
00:01:51 → 00:01:56 ง่ายมากๆ เพียงแค่ท่านรู้จักวิธีการออกกำลังกายสมอง
00:01:56 → 00:02:03 ออกกำลังกายสมอง แต่ท่านต้องออกอย่างถูกวิธี
00:02:03 → 00:02:06 นี่คือความสำคัญ เดี๋ยวผมจะปูพื้นฐานก่อนนิดนึง
00:02:06 → 00:02:11 เราต้องรู้พื้นฐานก่อนนิดนึง เราถึงจะไปต่อยอดได้ใช่ไหม
00:02:11 → 00:02:14 คือสมองมันมีหลายส่วน เอาแบบง่ายๆ แล้วกัน
00:02:14 → 00:02:17 จริงๆ มันมีอยู่ 4 ส่วนหลักๆ
00:02:17 → 00:02:21 แต่จริงๆ มันยุกยิก ซึ่งไม่จำเป็นต้องรู้
00:02:21 → 00:02:23 ไม่ได้เรียนแพทย์ ไม่ได้จำเป็นต้องรู้เราเอาไปใช้จริงเลย
00:02:23 → 00:02:28 มีหลักๆ อยู่ 4 ส่วน ก็คือส่วนด้านซ้าย ด้านขวา
00:02:28 → 00:02:32 ด้านหน้า ด้านหลัง มีอยู่แค่นี้เองง่ายๆ
00:02:32 → 00:02:37 สมองทุกๆ ส่วนที่ผมพูดมา ถ้าจะให้ดีต้องทำงานร่วมกันทั้งหมดเลย
00:02:37 → 00:02:38 ทำงานร่วมกันทั้งหมดเลยนะ
00:02:38 → 00:02:43 ไม่ใช่ว่าวันนี้ฉันอยากใช้สมองซีกซ้าย วันนี้ใช้สมองซีกขวา
00:02:43 → 00:02:47 วันนี้สมองซีกหน้า วันนี้ใช้สมองซีกหลังอย่างนี้ไม่ดี
00:02:47 → 00:02:50 มันต้องใช้รวมกันทั้งหมด 4 ส่วน แล้วมันจะแบบดีมาก
00:02:50 → 00:02:54 ให้คุณสังเกตง่ายๆ ว่าถ้าโดยปกติ
00:02:54 → 00:02:57 ประเทศไทยเราอายุเกษียณประมาณ 60 ใช่ไหม
00:02:57 → 00:03:02 เราก็จะเจอคนที่เกษียณและ 60 ก็จะมีอยู่ 2 กลุ่มคือ
00:03:02 → 00:03:05 เกษียณแล้วทำงานอย่างอื่นกับเกษียณแล้วอยู่บ้านเฉยๆ
00:03:05 → 00:03:09 ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่เกษียณแล้วทำงานอย่างอื่นหรือมีงานอดิเรก
00:03:09 → 00:03:13 ความจำจะดีมากเลย ยังเคลื่อนไหวได้ ยังแฮปปี้
00:03:13 → 00:03:17 แต่ถ้าเกษียณแล้วอยู่บ้านเฉยๆ มันจะเริ่มเหมือนฝ่อ
00:03:17 → 00:03:21 มนุษย์เรามันเป็นงี้แหละว่าอะไรที่เราไม่ใช้มันก็ฝ่อไปเรื่อยๆ
00:03:21 → 00:03:24 มือไม่ใช้ แขนไม่ใช้ กล้ามเนื้อฝ่อไปเรื่อยๆ
00:03:24 → 00:03:27 สมองไม่ใช้สมองฝ่อไปเรื่อยๆ
00:03:27 → 00:03:31 คราวนี้ถ้าเราไม่ได้มีงานมีการอะไรทำแล้ว สมมุติเราเกษียณ
00:03:31 → 00:03:34 หรือว่าเขาเรียกว่าเราอยากจะป้องกันไว้ก่อน
00:03:34 → 00:03:37 คือต้องบอกตามตรงนะว่ามันไม่จำเป็นว่า
00:03:37 → 00:03:42 ท่านจะต้องไปทำตอนอายุ 60 คือเกษียณไม่มีอะไรทำแล้วค่อยฝึก
00:03:42 → 00:03:45 การป้องกันสมองเสื่อม ป้องกันได้ตั้งแต่วันนี้ นาทีนี้
00:03:45 → 00:03:47 ป้องกันได้ตั้งแต่ท่านยังอายุน้อยๆ เลย
00:03:47 → 00:03:52 อายุ 10 ขวบก็ยังทำได้เลยเอางี้แล้วกัน คือป้องกันกันตั้งแต่เด็กเลย
00:03:52 → 00:03:56 เทคนิคการออกกำลังกายสมอง ก็แบ่งเป็นตามสมอง 4 ส่วนนี้เลย
00:03:56 → 00:04:01 คือต้องออกกำลังกายสมองทั้ง 4 ส่วนนี้ แล้วท่านจะแบบสุดยอด
00:04:01 → 00:04:03 สมองเสื่อมนี่แบบไปไกลๆ
00:04:03 → 00:04:07 การทำบริหารสมองให้ครบทุกส่วน มาเริ่มก่อนเลยที่ซีกขวา
00:04:07 → 00:04:09 ซีกขวา อันนี้ขวานะ โอเค ซีกขวา
00:04:09 → 00:04:14 ซีกขวานี้เขาเรียกว่าสมองข้างแห่งสุนทรียภาพ
00:04:14 → 00:04:20 ศิลปะ ดนตรี ฟิลลิ่ง คลาสสิค เขาเรียกว่าสมองข้างสุนทรียภาพ
00:04:20 → 00:04:23 ถามว่าเราจะฝึกสมองข้างนี้ยังไง
00:04:23 → 00:04:26 ไปฝึกสุนทรียภาพ ไปออก ไปดูมีความสุนทรียภาพ
00:04:26 → 00:04:29 ไปฟังโอเปร่าอะไรอย่างนี้รึเปล่า
00:04:29 → 00:04:33 ไม่จำเป็นต้องขั้นนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องไปฟังคอนเสิร์ต
00:04:33 → 00:04:37 หรือไปเสียเงินแพงๆ ไม่จำเป็นเลย ง่ายมากเลยฝึกงี้
00:04:38 → 00:04:41 ฝึกร้องเพลงโดยไม่ต้องดูเนื้อ
00:04:41 → 00:04:44 ก็คือปกติเราร้องเพลงคาราโอเกะ เราดูเนื้อใช่ไหม
00:04:44 → 00:04:48 แต่ถ้าเราร้องเพลงโดยไม่ต้องดูเนื้อ ร้องเพลงตอนอาบน้ำไม่มีเนื้อ
00:04:48 → 00:04:51 นี่ก็คือการบริหารสมองแล้ว ข้างขวา
00:04:51 → 00:04:55 ร้องเพลงเก่าๆ ในอดีต ดึงความทรงจำเก่าๆ ออกมา
00:04:55 → 00:05:00 เพลงพี่เบิร์ดอย่างนี้นะ ติดหูนะ สบาย สบาย
00:05:00 → 00:05:02 ร้องเพลงนี้รู้อายุกันเลยทีเดียว
00:05:02 → 00:05:05 หรือทำสิ่งที่ท่านไม่เคยทำมาเลยในชีวิต
00:05:05 → 00:05:10 เช่น เขียนหนังสือด้วยมือซ้ายหรือว่าแปรงฟันด้วยมือซ้าย
00:05:10 → 00:05:13 ก็คือง่ายๆ ว่าถ้าท่านถนัดขวา ท่านลองทำมือซ้ายบ้าง
00:05:13 → 00:05:15 ถ้าถนัดซ้าย ท่านรองทำมือขวาบ้าง
00:05:15 → 00:05:17 สมองจะพัฒนาเยอะมากๆ เลย
00:05:17 → 00:05:22 ซึ่งมันทำให้กระตุ้นในส่วนที่ไม่เคยได้ทำงานมาก่อน
00:05:22 → 00:05:26 แล้วก็ทำให้สมองสองข้างมีความสมดุล คิดก็เก่ง
00:05:26 → 00:05:28 จินตนาการก็เก่ง ถ้าทำตั้งแต่เด็กที่สุดยอดเลย
00:05:28 → 00:05:32 อัจฉริยะเกิดขึ้นณที่นี้เลย ถ้าลูกท่านได้ฝึกตั้งแต่นาทีนี้
00:05:32 → 00:05:37 อัจฉริยะเกิดขึ้นนาทีนี้เลย แล้วก็ใช้ภาษากายแทนภาษาพูด
00:05:37 → 00:05:40 เช่น ไปเล่นกันไหมอย่างนี้ ท่านจะแบบ
00:05:43 → 00:05:45 อย่างนี้เป็นภาษาพูด เช่นแบบ
00:05:46 → 00:05:47 มานี่
00:05:50 → 00:05:53 ไปเล่นกันไหมอะไรประมาณนี้
00:05:53 → 00:05:57 หรือว่าเรียนแบบเสียงคนอื่น เช่น สวัสดีจ้า
00:05:57 → 00:06:00 สวัสดีครับ คุณเป็นยังไงบ้างครับ สวัสดีครับ
00:06:00 → 00:06:02 เป็นการเรียนเสียงคนอื่นหรือว่าปรับเปลี่ยนเสียง
00:06:02 → 00:06:06 ก็เป็นเทคนิคอย่างหนึ่งที่ออกกำลังกายสมองซีกขวานั่น
00:06:07 → 00:06:10 เป็นไง ง่ายๆ ไม่ต้องเสียเงิน
00:06:10 → 00:06:12 ต่อมาสมองซีกซ้ายบ้าง
00:06:12 → 00:06:17 สมองซีกซ้ายเขาเรียกว่าสมองซีกแห่งเหตุผล
00:06:17 → 00:06:20 หรือว่าความฉลาดทาง IQ นั่นเอง
00:06:20 → 00:06:25 เช่น IQ170 IQ180 นี่แหละ สมองข้างนี้เลย อีข้างนี้ไม่เกี่ยวเลย
00:06:25 → 00:06:31 ฝึกอย่างไร ฝึกคิดเลข บวกเลข คูณเลข หารเลข
00:06:31 → 00:06:36 เขียนตัวอักษรต่างๆ อะไรที่เป็นตรรกะหรือว่าการวาดรูปเรขาคณิตก็ได้
00:06:36 → 00:06:39 ไม่ใช่การวาดรูปแบบในจินตนา วาดรูปแอ็ปสแต็ก
00:06:39 → 00:06:44 วาดรูปที่แบบว่าใช้จินตนาการจะเป็นสมองซีกขวาซะมากกว่า
00:06:44 → 00:06:49 แต่ถ้าสมองซีกซ้ายจะเป็นรูปเรขาคณิตทรงกลม สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม
00:06:50 → 00:06:54 แล้วถ้าจะให้ดีฝึกทั้งสองมือวาดสามเหลี่ยม
00:06:54 → 00:06:59 วงกลม สี่เหลี่ยม ห้าเหลี่ยม
00:07:00 → 00:07:02 ยากเหมือนกัน ห้าเหลี่ยม
00:07:02 → 00:07:08 หรือว่าชวนลูก ชวนแม่เล่นหมากฮอส เล่นหมากรุก
00:07:08 → 00:07:14 แล้วก็อาจจะเล่นไพ่ก็ได้ ป๊อกเด้งนี่สมองซีกซ้ายเป๊ะเลย
00:07:14 → 00:07:16 ใครเล่นไพ่บ่อยๆ นี่ใช่เลย
00:07:16 → 00:07:21 แต่ว่าเล่นเอาสนุก อย่าไปเล่นเป็นการพนันอะไรมันก็ไม่ดี
00:07:21 → 00:07:24 อันนี้ก็คือสมองซีกซ้าย ได้ไป 2 ซีกแล้ว
00:07:24 → 00:07:27 ซีกขวาและซีกซ้าย
00:07:28 → 00:07:31 ต่อมาสมองด้านหลัง
00:07:31 → 00:07:35 สมองด้านหลังเขาบอกว่ามันเป็นสมองส่วนที่รับความรู้สึก
00:07:35 → 00:07:38 รับฟิลลิ่งที่มากระทบใจของเรา
00:07:38 → 00:07:40 ที่มากระทบความรู้สึกของเราหลายๆ อย่าง
00:07:41 → 00:07:47 ก็วิธีฝึกให้หลับตาแล้วทำสิ่งต่างๆ
00:07:47 → 00:07:52 เช่น หลับตาแล้วสระผม หลับตาแปรงฟัน ทำอะไรก็ได้
00:07:52 → 00:07:56 หลับตาแล้วทำสิ่งที่คุ้นเคย หลับตาเขียนหนังสือ
00:07:56 → 00:08:00 หลับตาร้องเพลง มีความรู้สึกในการสัมผัส
00:08:00 → 00:08:03 คือเขาเรียกว่าเร่งประสาทสัมผัสอื่น
00:08:03 → 00:08:06 เมื่อเราปิดตาเราจะมีประสาทสัมผัสอื่นที่เหนือล้ำขึ้นมา
00:08:06 → 00:08:09 หลักการมันเป็นอย่างนี้แค่นี้เอง คือเมื่อไหร่ที่เราปิดตา
00:08:09 → 00:08:13 เราจะมีสมาธิมากขึ้น ประสาทสัมผัสอย่างอื่นเราจะเพิ่มมากขึ้น
00:08:13 → 00:08:19 มันก็จะเป็นการกระตุ้นสมองส่วนหลังให้มันขยายขึ้นมา
00:08:19 → 00:08:22 มีกำลังขึ้นมา อันนี้เจ๋งมากๆ
00:08:22 → 00:08:26 ต่อมาสมองส่วนหน้า อันนี้สำคัญมากๆ เลย
00:08:26 → 00:08:29 โดยเฉพาะการใช้ชีวิตในปัจจุบัน
00:08:29 → 00:08:35 ชีวิตในเวลานี้ เขาเรียกว่าในช่วงยุคแห่งความโกลาหล
00:08:35 → 00:08:39 ในช่วงยุคแห่งการแข่งแย่งชิงดี
00:08:39 → 00:08:44 เพียงแค่การบวกเลขเก่ง การมีไอคิวสูง ไม่ช่วยให้คุณทำมาหากินได้
00:08:44 → 00:08:49 ไม่ช่วยให้คุณมีชีวิตที่ดีได้ ไม่ช่วยให้คุณมีความสุขได้ในสภาวะกดดัน
00:08:49 → 00:08:52 แต่สมองส่วนหน้า ถ้าคุณแข็งแรงมันช่วยคุณได้
00:08:52 → 00:08:58 มันเป็นสมองส่วน EQ เพื่อใช้การตัดสินใจแก้ปัญหาต่างๆ
00:08:59 → 00:09:03 ปัญหาในพวกนี้ พวกที่มีความเครียด พวกที่คิดลบบ่อยๆ
00:09:03 → 00:09:06 ไม่รู้จักอารมณ์ตัวเอง พวกนี้สมองส่วนหน้าเสื่อมง่ายมาก
00:09:06 → 00:09:09 เพราะไม่ค่อยได้ใช้ ไม่ค่อยได้ใช้ควบคุมตัวเอง
00:09:09 → 00:09:13 ไม่ได้ใช้ EQ ในการควบคุมความอยากของตัวเอง
00:09:13 → 00:09:14 ควบคุมความโกรธของตัวเอง
00:09:14 → 00:09:18 แล้วปัญหาจะเกิดขึ้นเลยว่า พอสมองส่วนหน้านี้เสื่อม
00:09:18 → 00:09:22 คนกลุ่มพวกนี้จะโกรธง่าย หงุดหงิดง่าย หายยาก
00:09:22 → 00:09:26 อะไรนิดนึงก็โกรธ คือแบบมีปัญหาตลอดเวลา
00:09:26 → 00:09:30 โลกนี้มันแย่ตลอดเวลา โลกนี้มันทำร้ายฉันตลอดเวลาเลย
00:09:30 → 00:09:36 คือชีวิตก็เศร้า จะมีเงิน จะมีใครมาดีด้วยก็เศร้าไปตลอด
00:09:36 → 00:09:39 เพราะว่าสมองเสื่อมนี้มันไม่แฮปปี้แล้ว
00:09:39 → 00:09:41 เพราะฉะนั้นเราต้องมาฝึกสมองส่วนนี้กันมากๆ
00:09:41 → 00:09:44 เขาเรียกว่าการออกกำลังกายสมองส่วนหน้า
00:09:44 → 00:09:51 มีเทคนิคที่เรียกว่าโยคะมือ ซึ่งเป็นแนวพุทธศาสนามากๆ
00:09:51 → 00:09:56 เป็นท่า มีอยู่ 4 ท่าน ท่าที่ 1 ชื่อ ท่าเมตตา
00:09:56 → 00:10:01 ท่าที่ 2 ชื่อ ท่ากรุณา ท่าที่ 3 ชื่อ ท่ามุทิตา
00:10:01 → 00:10:04 และท่าที่ 4 ชื่อ ท่าอุเบกขา เดี๋ยวผมจะทำให้ดู
00:10:04 → 00:10:08 ท่าเมตตาเอานิ้วกลางแตะนิ้วโป้ง
00:10:08 → 00:10:12 เมตตา เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
00:10:12 → 00:10:16 สมองส่วนนี้ทำให้เรามีฟิลลิ่ง ทำรู้สึกทำอะไรดีๆ
00:10:16 → 00:10:18 ให้ทำค้างไว้ 3 วินาที
00:10:22 → 00:10:29 ต่อไปทำท่ากรุณาต่อ ท่ากรุณาเป็นท่าใช้นิ้วชี้แตะนิ้วโป้ง
00:10:29 → 00:10:32 กรุณา ท่ากรุณา
00:10:35 → 00:10:38 นี่คือท่ากรุณา ท่านี้จะทำให้เรารู้สึกดี
00:10:39 → 00:10:43 คิดดีทำดี
00:10:43 → 00:10:44 นี่เรียกท่ากรุณา
00:10:44 → 00:10:54 ท่าที่ 3 ท่ามุทิตา เป็นท่าอย่างนี้ เรียกท่าลูกเสือ ท่ามุทิตา
00:10:59 → 00:11:06 นี่คือท่ามุทิตา ทำให้มีความรู้สึกของการสื่อสาร พูดได้ดี อ่านได้ดี
00:11:06 → 00:11:11 ท่ามุทิตาและต่อมาท่าสุดท้าย ท่าที่ 4 ท่าอุเบกขา
00:11:14 → 00:11:16 ท่าแบบตัวชนะ
00:11:16 → 00:11:18 ท่าอุเบกขา
00:11:22 → 00:11:25 มันจะเป็นท่าที่ทำให้เรารู้สึกปลดปล่อย ปล่อยวาง
00:11:25 → 00:11:31 ทำทั้งหมด 4 ท่าเรียงกันเลย เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
00:11:31 → 00:11:36 ท่าละ 3 วินาที ทำทั้งหมด 3 รอบ เพื่อฝึกสมองส่วนหน้า
00:11:36 → 00:11:39 ฝึกสมองส่วนหน้าให้มีกำลัง
00:11:39 → 00:11:42 ไม่เสื่อมเร็ว ถามว่าทำได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่
00:11:42 → 00:11:46 ทำได้ตั้งแต่วันนี้ ท่านอายุเท่าไหร่ก็ทำเลย
00:11:46 → 00:11:52 ก่อนที่จะสมองเสื่อม ต้องพูดตามเนื้อผ้าว่าสมองเสื่อมในปัจจุบัน
00:11:52 → 00:11:57 การรักษาด้วยยา สมมุติว่าท่านมี 100 แล้วท่านเหลือ 50
00:11:57 → 00:12:00 การรักษาด้วยยาอาจจะทำให้ท่านมี 50 เท่าเดิม
00:12:00 → 00:12:04 ไม่ลดลงแต่ว่าเพื่มขึ้นกลับไปเป็น 100 ลำบาก
00:12:04 → 00:12:08 แต่ถ้าวันนี้ท่านมีความจำ 100 แล้วท่านทำ 4 อย่าง
00:12:08 → 00:12:11 ออกกำลังกายสมอง บริหารสมอง 4 ส่วนที่ผมบอก
00:12:11 → 00:12:15 ทำทุกวันๆ 100 ของท่านก็ยังเป็น 100 ของท่านตลอดไป
00:12:15 → 00:12:19 โดยที่ท่านไม่ต้องกินยา ไม่ต้องทำการรักษาใดๆ ตลอดชีวิต
00:12:19 → 00:12:21 แม้ท่านจะอายุน้อยอายุมากทำได้หมด
00:12:21 → 00:12:26 และพอท่านอายุมาก ท่านก็จะเป็นคนอายุมากที่มีความจำดี
00:12:26 → 00:12:29 มีความสุข มีอารมณ์ที่ดี มี EQ ที่ดี
00:12:29 → 00:12:32 เขาเรียกว่าเมื่อท่านมีสิ่งนี้ อย่างที่ผมบอก
00:12:32 → 00:12:36 ความจำท่านมีค่าเท่าไหร่ มีคนเอาเงินพันล้านมาให้ท่าน
00:12:36 → 00:12:38 ท่านยอมแลกกับความจำของท่านรึเปล่า
00:12:38 → 00:12:42 ถ้าไม่ 10 นาทีนี้สำคัญมากๆ
00:12:42 → 00:12:46 Share Like ส่งให้เพื่อนๆ Subscribe
00:12:46 → 00:12:48 ถ้าอยากได้ความรู้ดีๆ แบบนี้อีก
00:12:48 → 00:12:52 มันจะทำให้ชีวิตของท่านและคนที่ท่านรักเปลี่ยนไป
00:12:52 → 00:12:55 แล้วมาเจอกันใหม่ สวัสดีครับ