00:00:00 → 00:00:10 [เพลง]
00:00:13 → 00:00:18 [ปรบมือ] ช่วงแรกจะพูดถึงเรื่องน้ำมันหมูนิดนึง
00:00:18 → 00:00:25 ก่อนครับ ผมมันมีมันมีคนที่เ้าไปตรวจสุขภาพแล้วเก็
00:00:25 → 00:00:33 ปรึกษาหลายเพจนะปรึกษาหลายเพจหลายหมคือเ ใช้น้ำมันหมูอ่ะตลอดทุกมื้อทุกวันไแล้วก็
00:00:33 → 00:00:40 ใช้มา นานอืจนกระทั่งไปตวจเก็ปรากฏว่าทั้งพ่อ
00:00:40 → 00:00:49 ทั้งแม่ทั้งตัวเอ่าก็มีปัญหานี่แหละเพรา มันก็อยู่ในครอบครัวเดียวกัน
00:00:49 → 00:00:58 ก็อย่างอื่นเก็ดูแลตัวเองค่อนข้างดีแต่ ปรากฏว่ามีการกินไอ้ตัวโปรตีนที่ทำให้สุก
00:00:58 → 00:01:04 อ่ะเนื้อสัตว์ทำให้สุกเลยค่อยใช้น้ำมัน หมุกนี่แหละครับนะเพราะฉะนั้นค่าแลบก็ดี
00:01:04 → 00:01:14 หรือปัญหาการเช็คอัพแล้วปรากฏว่าเกิดภาวะ ascvd เนี่ยก็ต้องโทษเรื่องเนี้ยเป็น
00:01:15 → 00:01:26 หลักมันก็เลยมีคำถามเว่าเราเป็นยังไงอ่ะ เอ่อไหนแนะนำว่าไม่ให้กินน้ำมันพืชก็ไม่
00:01:26 → 00:01:32 กินน้ำมันสัตว์ก็กินน้ำมันหมูนี่แหละ เพราะเป็นคนจีนอแล้วมันก็เกิดปัญหาอย่าง
00:01:32 → 00:01:37 งี้จะกินยังไงจะปรับยัง
00:01:37 → 00:01:45 ไงครับแล้วก็ไอ้ตัวอินซูลินก้าวร้าว 8 ข้อนี่แหละก็จะเป็นตัวที่ทำให้คุณสมบัติ
00:01:45 → 00:01:51 ของอินซูลินไม่เหมือนใครนะคือไม่ได้เป็น อินซูลินปกติมันก็เป็นอินซูลินดุร้ายเป็น
00:01:51 → 00:02:01 อินซูลินตัวพ่อที่เป็นมหาโจรหรือว่าเป็น อะไรที่เไม่ทำหน้าที่อะไรตามปกติอือื
00:02:01 → 00:02:11 ๆทำำไอ้ความคิดของผู้คนน่ะนะที่มาบอกว่า ที่เราเราก็พยายามบอกทุกอย่างว่าในเรื่อง
00:02:11 → 00:02:17 ราวต่างๆเนี่ยมันเป็นทางคู่ขนานกันไปหมด แหละอย่างอินซูลินมันก็มีทั้งดีทั้งไม่ดี
00:02:17 → 00:02:24 คอร์ติซอลก็มีทั้งดีไม่ดีคีโตนก็มีดีไม่ ดีอะไรอย่างเงี้ยแล้วก็ยังมีความสัมพันธ์
00:02:24 → 00:02:30 กันระหว่างการเป็นเงาของกันและกันยูริกก็ มีทั้งดีและไม่ดีค
00:02:30 → 00:02:40 ก็ดีไม่ดีไตกรายก็ดีไม่ดีแต่ว่าแต่ว่าการ กระจายสิ่งเหล่าเนี้ยไปในในวงกว้างเนี่ย
00:02:40 → 00:02:48 เค้าเคก็ไม่เหมือนไม่รับน่ะเหมือนเ้ามึง บอกไม่ดีกูก็รู้ว่าเ้าดีไม่ดีดีไม่ดีโดย
00:02:48 → 00:02:54 มีคอลัมน์ว่าถ้าดีจะเป็นอย่างนี้ถ้าไม่ดี จะมีสาเหตุมาจอย่างเงี้ยแต่เา้าก็รับรู้
00:02:54 → 00:02:58 แค่นั้นแหละเไม่ได้เอาไปใช้ไงมันมันเกิด การ
00:02:58 → 00:03:07 แบบมันมันมันเหมือนมันเหมือนรู้ก็อยู่ตรง นั้นแล้วก็ทำอะไรต่อไม่ได้เออยินมั้ยล่ะ
00:03:07 → 00:03:16 ได้ยินมยว่าได้ยินมันเป็นเรื่องคู่ขนาน ครับได้ยินครับแต่ในวงกว้างอ่ะของการดูแล
00:03:16 → 00:03:23 สุขภาพหรือผู้รักสุขภาพก็เหมือนไม่รู้อ่ะ เฟังแล้วมันตื่นหูตื่นตาบ้างมั้ยล่ะว่าไต
00:03:23 → 00:03:32 กีสลายก็มีทั้งดีทั้งไม่ดีคอเลสเตอรอล เอ่อคีโตนยูริกอ่าอินซูลินคอร์ติซอลอะไร
00:03:32 → 00:03:40 อย่างเงี้ยหรือว่าเอสโตรเจนเอสโตรเจนมี กี่กี่รูปแบบไใช่ครับผมเออมีกี่ไท้อ่ะมี 3
00:03:40 → 00:03:44 typ อะไรอย่างเงี้ยครับผม
00:03:45 → 00:03:54 แต่มันต้องรับรู้แล้วก็เอาไปใช้ด้วยอย่าง ไตกีลดีไม่ดีอย่างเงี้ยนะว่าไตคีไลมัน
00:03:54 → 00:04:01 เยอะไปอย่างเงี้ยเออมันก็ต้องขึ้นอยู่กับ ต้นทางอ่ะนะว่าว่ามันมาจากทางไหนที่มัน
00:04:01 → 00:04:09 เกิดการสะสมหรือการปอมตัวเป็นไตกีสลยแบบ นั้นแบบนี้ก็อย่างพิ c16 แล้วทำไมยังมีพิ
00:04:09 → 00:04:17 46 ข 0 พติก 46-1 อะไรอย่างเงี้ยครับผมสิ่งเหล่าเย
00:04:17 → 00:04:26 มันเป็นเหมือนรายละเอียดที่เป็นไส้ในไง ครับผมมันเป็นรูกูกขนานครับผมเออควรจะรู้
00:04:26 → 00:04:35 ไม่ควรจะรู้แล้วก็ควรจะเข้าใจว่าว่าดีไม่ ดีดีไม่ดีมันก็เอาไปใช้สิเออครับมันกลาย
00:04:35 → 00:04:41 เป็นว่าอะไรล่ะทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็น อย่างเดียวเหรอแปลว่าคีโตนเนี่ยคือคีโตน
00:04:41 → 00:04:48 ก็คือคีโตนโปลี่เงี้ยจบแล้วคีโตนก็คีโตนไ กลายก็ไตกิลคอเลสเตอรอลก็คอเลสเตอรอล
00:04:48 → 00:04:56 ยูริกก็ยูริกเจะต้องมาบอกว่าอะไนะเอ่อ รีคีิ reactive
00:04:56 → 00:05:05 hur ดีนะอ่าไม่ไม่ตบปอนไม่อักเสบไม่เป็น นิ่้วนะอะไรอืคือส่วนใหญ่จะมองด้านเดียว
00:05:05 → 00:05:10 ด้านดีด้านเดียวอีกฝั่งนึงก็มองด้านร้าย ด้านเดียวไม่ได้ไม่ได้มองแบบคุณหมอคุณหมอ
00:05:10 → 00:05:19 มองแบบมันเป็นคู่ขนานคู่ขนานครับ ผมแล้วคู่ขนานอันเนี่ยมันก็มีรายละเอียด
00:05:19 → 00:05:26 พอมันมีรายละเอียดเวลาเราจะไปปรับแก้เรา จะเสริมด้านดีเราจะลดด้านไม่ดีด้านร้าย
00:05:26 → 00:05:32 อะไรอย่าเงี้ยเพิ่มตรงนั้นลดตรงนี้อะไรสิ อื
00:05:32 → 00:05:42 ครับก็ไม่รู้อ่ะ ไม่คือฟังการตอบสนองของผู้คนแล้วเค้า
00:05:42 → 00:05:49 เพราะว่าเคเไม่รู้ถึงขั้นนี้ไงเไม่เก็ทใน รายละเอียดให้มันลึกเข้าไปหน่อยอะไรอย่าง
00:05:49 → 00:05:55 เงี้ยครับผมเพราะฉะนั้นเดี๋ยวจะมีเนี่ย เดี๋ยวจะมีคำถามอะไรตอะไรมาเนี่ยซึ่งเรา
00:05:55 → 00:06:01 ประเมินได้เลยคือเราประมวลแล้วประเมินได้ เลยว่าเไม่รู้เรื่องเไม่รู้เรื่องสุขภาพเ
00:06:01 → 00:06:07 ไม่รู้เรื่องอาหารเไม่ได้รู้เรื่องของ เก้าอี้ 4 ขาอะไรที่เป็นเชิงลึกอ่ะเขก็
00:06:07 → 00:06:16 รู้แต่พื้นๆเอ่อปฐมภูมิเบื้องต้นเบสิค เงี้ยเหรอแต่เวลามันเอาไปใช้แล้วมันมันจะ
00:06:16 → 00:06:24 มันจะมันจะตันไมันจะมันจะไปต่อไม่ได้อ่ะ ครับผม
00:06:26 → 00:06:34 เ้เมื่อเมื่อครั้งนั้นน่ะเจอคนอายุ 30 10 กว่าแล้วก็เป็นเตี้แทคอ๋อครับรู้สึก 32
00:06:34 → 00:06:40 อ่ะเตี้แทคเพราะกินแตงโมตอนท้องว่างๆใช่ มั้ยแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีนี้ก็เจอคนคนไข้
00:06:40 → 00:06:47 เป็นเก๊าทเกินกล้วยหอมอ่ะ อออย่างงั้นเลยเหรอครับเออกินกล้วยหอครับ
00:06:47 → 00:06:56 เพราะว่าอันดับ 1 เลยของเี้ attack ก็คือ เรื่องลไม้ไงครับผมไม้อันดับ 2 ก็คือน้ำ
00:06:56 → 00:07:02 ตาลทุกรูปแบบน้ำตาลน้ำผึ้งอะไรอย่าเงี้ย ได้ได้หมดเจอมาหมดแล้วอันดับ 3 ถึงจะเป็น
00:07:02 → 00:07:05 เรื่องของ แอลกอฮอล์เรืื่อง
00:07:05 → 00:07:11 แอลกอฮอล์อันดับ 1 คือ ผลไม้เพราะงั้นตอนเนี้ยเป็นที่ยอมรับกัน
00:07:11 → 00:07:20 ในเรื่องของงานวิจัยนะงานวิจัยด้วยว่าเหต เหตุของโลกทางด้านเมตาบอลิกนะที่ที่คนมอง
00:07:20 → 00:07:31 ข้ามและคนมีความรู้ยังยังน้อยมากอยู่ เนี่ยนะเป็นเหตุมาจากตัวผลไม้
00:07:31 → 00:07:39 นะมีมีอยู่ 4 กลุ่มโรคนะอันดับ 1 คือโรค เฉพาะเนื้อรังอันดับ 2 คือเกดกดไหลย้อน
00:07:39 → 00:07:47 เนี่ยเยจากผลไม้เป็นหลักออันดับ 3 คือ เตี้ attack นะเฉพาะในครับผมผู้ชายมันจะ
00:07:47 → 00:07:55 เป็นมากกว่าผู้หญิงนะแล้วอันดับ 4 ก็คือ พวกไอ้พวกอะไรอ่ะูพล้านเทสน่ะพวกที่ต้อง
00:07:55 → 00:08:02 ไปตรวจอ่าภูมิแพ้อาหารแสนน่ะอืมครับผม ทำไมอ่ะทำไมการไปตรวจภูมิแพ้อาหารแสง
00:08:02 → 00:08:08 เนี่ยในปัจจุบันเนี่ยเเพิ่มไอเทมที่ ศิริราชเนี่ยเเพิ่มไอเทมของการทดสอบผลไม้
00:08:08 → 00:08:15 ลงไปเยอะแยะเลย อ๋อก็เนี่ยข้ออธิบายที่สำคัญก็คือไอ้ตัว
00:08:15 → 00:08:20 กุกโต๊สในผลไม้เนี่ยมันเริ่มซักทะแมง เขม่งแล้วล่ะคือมันมีมีผลต่อไอ้เรื่อง
00:08:20 → 00:08:29 ออโตอิมมูนน่ะอ๋อครับผมก็คือแล้วมันเป็น ตั้งแต่ในเด็กๆด้วยนะภูมิแพ้อาหารแสงเ่ะ
00:08:29 → 00:08:39 ที่ต้องทำไอ้เรื่องเอ่อฟุ๊นะฟรุ๊ดฟุตตีุ้ ผลไม้เนี่ยทละล้านเทสมีการทดสอบพวกอะไร
00:08:39 → 00:08:47 อ่ะพวกผลไม้ต่างๆข้าวโพดแครอทกล้วยส้ม เอ่อทุเรียนลิ้นจีอะไรอย่างเงี้ยเป็น
00:08:47 → 00:08:52 ผลไม้ เนี่ยครับผมเพราะฉะนั้นเนี่ยเมื่อวัน
00:08:52 → 00:08:58 พฤหัสบดีที่ผ่านมาเราเจอคนไข้กินกล้วยหอม แล้วก็เป็นเก๊าอ่ะ
00:08:58 → 00:09:06 นะเราก็นึกในใจว่าเออแกมาถูกคนแล้วแกไป ตระเวนรักษาอย่างเงี้ยไม่มีใครมานั่ง
00:09:06 → 00:09:12 อธิบายหรอกเพราะว่าแกกินผลไม้กินกล้วย กล้วยหอมแล้วเก้าที่ี้แกแทคันน่ะอธิบาย
00:09:12 → 00:09:21 ได้โก็เลยอธิบายะสนั่นหวั่นไหวอเป็นที่ ตะลึงตื่นหูตื่น
00:09:21 → 00:09:30 ตาเจอเจอโลกมัลติเวิร์สกับคุณ หมอก็คือจริงๆอยากจะบอกว่าในปัจจุบัน
00:09:30 → 00:09:38 เนี่ยนะการกินข้าวโดยเฉพาะข้าวขาวหรือ ข้าวขัดสีอ่ะการกินผลไม้เนี่ย
00:09:38 → 00:09:47 นะหรือว่าการกินแป้งที่มันมันแปรรูปมา เยอะแยะมากมายเลยในปัจจุบันเนี่ยมันไม่
00:09:47 → 00:09:53 ใช่อาหารน่ะมันไม่ไม่ได้มีความเป็น Food เล Food เนี่ยไม่ต้องไปพูดถึงอยู่เพราะ
00:09:53 → 00:09:59 พวกนี้มันแปรรูปมันโสหมดแล้วล่ะเพียงแต่ ว่ามันโส
00:09:59 → 00:10:06 โพเสสในเนื้อในของตัวมันนะคือองค์ประกอบ ที่มันเป็นคาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันเป็น
00:10:06 → 00:10:16 ถ้าเป็นคาร์โบไฮเดรตก็จะเป็นอ่าอะไรซูโคส ฟรุกโตสเ่อกลูโคสอะไรยังไงก็แล้วแต่การโส
00:10:16 → 00:10:23 พวกเนี้ยคือมันยังชื่อว่ากล้วยหอมอยู่ เงี้ยนะแต่กล้วยหอมในปัจจุบัน 2567 กับ
00:10:23 → 00:10:32 คุณไปกินกล้วยหอมเมื่อ 20-30 ปีที่แล้วนะ การเป็นเก๊าทอ่ะที่เกิดจากกล้วยหอมนะเอาล
00:10:32 → 00:10:37 20-30 ปีที่แล้วเนี่ยโอกาสที่จะผลไม้ทำ ให้เป็นเก๊าทเนี่ย
00:10:37 → 00:10:44 มันมันเป็นเร Food มากกว่าโอกาสมันน้อย กว่าแต่ก็อาจจะมีนะแต่ในปัจจุบันเนี่ยนะ
00:10:44 → 00:10:52 ความเป็น process Food ของกล้วยหอมเมื่อ ผ่านมา 20 ปีเนะซึ่งอันเนี้ยมันเป็นกล้วย
00:10:52 → 00:11:01 แปรรูปที่จะไปมีผลต่อขดยูริกหรือต่อเบิม อ่ะนะของร่างกายที่จะทำให้เกิดเี้ attack
00:11:01 → 00:11:13 อ่ะได้ง่ายกว่าเร็วกว่านะโดยโดยเราไม่มี องค์ความรู้หรือหรือคำอธิบายที่เป็นที่
00:11:13 → 00:11:17 นึกไม่ถึง อ่ะแค่เรามาตะลึงว่าหมอคนนี้ทำไมพูดว่า
00:11:17 → 00:11:23 กินกล้วยหอมแล้วเป็นเก๊าอ่ะทั้งๆที่ไม่ เคยฟังแบบกระดิกหูจากที่ไหนมาเลยนี่ฟัง
00:11:23 → 00:11:29 แบบหูผึ่งเลยทั้งคนไข้ที่นั่งรอตรวจอยู่ ข้างนอกแล้วคนไข้ที่อยู่ในห้องอ่ะ
00:11:29 → 00:11:36 เออเอาอะไรมาอธิบายนะอ่าเค้าเรียกนั่ง เทียนพูดหรือว่าเล่าเรื่องบ้าบออะไรไป
00:11:36 → 00:11:42 หรือเปล่า อืหลายๆอย่าง
00:11:42 → 00:11:51 อือมันนึกไปแล้วเนี่ยมันไม่ใช่คือมันไม่ ใช่อาหารสำหรับสุขภาพร่างกายที่ดีหรือ
00:11:51 → 00:11:58 optimal Health จริงๆนะครับแต่เออมัน เป็นสิ่งเทียมอาหารที่มันมีชื่อพร้องกับ
00:11:58 → 00:12:05 ตัวตัวชื่ออาหารในแบบสมัยก่อนว่าสิ่ง เนี้ยจริงๆเนี่ยมันไม่ใช่กล้วยหอมแล้วล่ะ
00:12:05 → 00:12:12 แต่เราไปตั้งชื่อกล้วยหอมตามเมื่อ 20-30 ปีแต่เนื้อในของมันเนี่ยไอ้ความเป็นกล้วย
00:12:12 → 00:12:21 หอมอ่ะนะแบบในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาเนี่ย มันต่างกันลิบลับเพราะมันแปรรูปไปเยอะ
00:12:21 → 00:12:29 ไงด้วยปุ๋ยด้วยสารเคมีด้วยอะไรเ้าเรียก ว่านวัตกรรมเทคโนโลยีทางการเกษตรต่างๆนะ
00:12:29 → 00:12:36 ที่จะเร่งผลผลิตที่จะเป็นเรื่องราวของการ ค้าขาย
00:12:36 → 00:12:41 เอืแล้วอย่างเงี้ยจะทำยังไง
00:12:41 → 00:12:50 อ่ะเห็นคนไข้เบาหวานที่ผลต่างๆมันไม่ดี เนี่ยนะอืเพราะว่าคุณคุณไม่ได้กินเรว Food
00:12:50 → 00:12:54 จริงๆ น่ะคือบางคนมีความรู้แล้วก็บอกว่าฉันกิน
00:12:54 → 00:13:01 เรว Food เพราะว่านี่ คือนี่คือข้าวอย่างเงี้ยนี่คือพืชคือผัก
00:13:01 → 00:13:09 นี่คือเอ่อถั่วเหลืองเต้าหู้หรืออะไรก็ ตามนะแต่ในเนื้อในจริงๆแล้วเนี่ยมันเป็น
00:13:09 → 00:13:18 สิ่งที่แตกต่างจากเมื่อระดับ 1020 ปีที่ แล้วเยอะมากไอ้ความแตกต่างนี่แหละมันทำ
00:13:18 → 00:13:25 ให้ระบบเมตาบอลิกหรือระบบเผาผลาญพลังงาน ของร่างกายก็เพี้ยนไปนะจนกระทั่งมาเกิด
00:13:25 → 00:13:29 โลคได้ง่ายๆ
00:13:29 → 00:13:36 แล้วเวลาเกิดเป็นโพอเกิดเป็นโรคแล้วมันก็ เบาหวานเหมือนกันเนี่ยแต่คุณจะคิดได้มย
00:13:36 → 00:13:43 ล่ะมันก็เกิดจากอาหารแค่มันพ้องชื่อกัน น่ะแต่เนื้อในอาหารมันต่างกันมันข้าวต่าง
00:13:43 → 00:13:49 กันแต่มันก็คือข้าวสวยข้าวสุกข้าวขาวข้าว หอมมะลิอะไร
00:13:49 → 00:13:55 เงี้ เออเนี่ยเพราะฉะนั้นถ้าเรารู้ไส้ในลึกๆ
00:13:55 → 00:14:02 ของอาหารเนี่ยเราก็จะเหมือนจะผูกเรื่อง ผูกราวอธิบายลงลึกไปอย่างเงี้ยเพราะบางที
00:14:02 → 00:14:07 มันก็หาคำตอบไม่ได้หาคำตอบแบบอตรงไปตรงมา ไม่
00:14:07 → 00:14:14 ได้ครับส่วนหมอคนไหนก็ตามที่เค้าไม่เอา ด้วยไม่โอด้วยไม่ได้คิดตามด้วยก็ก็อยู่
00:14:14 → 00:14:17 อย่าง
00:14:19 → 00:14:22 นั้น [ปรบมือ]
00:14:22 → 00:14:31 ครับได้ยินมั้ยครับพี่หมอได้ยิน โอเคได้ได้แล้วครับเื่ได้เครื่องได้แล้ว
00:14:31 → 00:14:34 ครับได้แล้วครับ
00:14:36 → 00:14:44 อืที่บนๆไปเนี่ยมันก็มีมีมีเหตุและผลใน ระดับนึง
00:14:44 → 00:14:51 นะว่าสิ่งต่างๆในปัจจุบันเนี่ยมันแปลรูป ไปซะจนแบบหลายคนที่เป็นคนยุคใหม่
00:14:51 → 00:14:58 Generation ใหม่เนี่ยเขาก็ไม่คิดไงว่า มันจะมีสิ่งเหล่านี้หรือว่ามันจะต้องคิด
00:14:58 → 00:15:01 ไปแบบแบบนี้จริง
00:15:01 → 00:15:09 ๆแบบที่เคยบอกอ่ะนะเค้าเจอแต่แกงหน่อไม้ กับไก่เค้าไม่เคยเจอแกงหน่อไม้กับอย่าง
00:15:09 → 00:15:19 อื่นเลยตั้งแต่เกิดมาจนปัจจุบัน ครับอ้าโอเคเดี๋ยวเรามาคุยกันเรื่องน้ำ
00:15:19 → 00:15:26 มันหมูนะฮะอ่าวันนี้เราคุยกันนิดนึงใน เรื่องของน้ำมันหมูเพราะว่ามันมีคำถามว่า
00:15:26 → 00:15:33 การใช้น้ำมันนะคือน้ำมันนี่ก็คือตัวน้ำ มันเลยอนะฮะที่ว่ามีการ process ออกมาจาก
00:15:33 → 00:15:41 ความเป็นไขมันแล้วเนี่ยนะฮะนะเราเห็นเป็น visible Oil นะฮะคือเราก็บอกแล้วอ่ะว่า
00:15:41 → 00:15:47 ในหมวดหมู่นะในกลุ่มของอาหารประเภทไขมัน เนี่ยอ่าถ้าจะดีต่อสุขภาพหรือ optimal
00:15:47 → 00:15:54 Health ต้อง invisible นะต้องมองไม่เห็น มองไม่เห็นความเป็นความเป็นไขมันความเป็น
00:15:54 → 00:16:00 มันความเป็นน้ำมันเออย่างน้ำมันเนี่ยไม่ ได้เพราะร่างกายก็ไม่รู้จแล้วยิ่งมาทำให้
00:16:00 → 00:16:07 มองเห็นนะจะเป็นน้ำมันพืชน้ำมันสัตว์ก็ ตามโอ้ถ้าอย่างนี้เนี่ยเอ่อเราใส่เข้าสู่
00:16:07 → 00:16:13 ร่างกายในรูปแบบที่เป็นหยดน้ำมันเป็นน้ำ ใสๆเป็นน้ำมันๆวาวๆอะไรอย่าเงี้ยนะถ้า
00:16:13 → 00:16:18 อย่างงี้ทายได้เลยว่าไม่มีประโยชน์แล้ว ร่างกายเไม่รับนะฮะความเป็นประโยชน์น้อย
00:16:18 → 00:16:25 มากๆนะฮะซึ่งคนทั่วไปก็ยังไม่ได้มองลึก ซึ้งถึงขนาดนี้เพราะฉะนั้นเนี่ยมันก็เลย
00:16:25 → 00:16:33 มีคำถามนะว่าในเรื่องของการการใช้น้ำมัน จากทั้งพืชทั้งสัตว์นะหรือมันอะไรก็ตามนะ
00:16:33 → 00:16:43 ที่เป็นรูปแบบในการมองเห็นด้วยตาว่าเป็น เป็นความมันมันๆน่ะนะฮะนะอันเนี้ยนะใช้
00:16:43 → 00:16:51 แล้วทำไมมันเกิดปัญหาล่ะนะแล้วเมื่อเกิด ปัญหาเนี่ยเราจะมีแนวทางที่เอาสิ่งต่างๆ
00:16:51 → 00:16:56 ที่เป็นเรื่องของไขมันหรือน้ำมันจากทั้ง พืชทั้งสัตว์เนี่ยมาใช้ยังไงจึงจะปลอดภัย
00:16:56 → 00:17:05 ที่สุดนะฮะโดยในในในวันเนี้ยนะฮะนะเราคุย กันอ่าช่วงสั้นๆในเรื่องของน้ำมันหมูนะฮะ
00:17:05 → 00:17:13 เพราะว่าผู้รักสุภาพหลายคนในปัจจุบัน เนี่ยก็ยังอยู่ในวังวนนะที่บอกว่าเออไม่
00:17:13 → 00:17:18 ไม่เลือกใช้น้ำมันพืชที่มัน process on Shell อะไรต่างๆนะมันก็ไปใช้น้ำมันสัตว์
00:17:18 → 00:17:24 อ่าแล้วน้ำมันสัตว์เนี่ยคนก็รับรู้แค่ว่า เออมันก็เอาง่ายๆน้ำมันหมูนะฮะอ่าส่วนจะ
00:17:24 → 00:17:31 มีน้ำมันวัวน้ำมันหนังไก่เอ่อหรือน้ำมัน เ่าพงปลาอะไรอย่างเงี้ยนะอันนี้ก็น้อยยาก
00:17:31 → 00:17:37 นะฮะนี้น้ำมันหมูนะนี้พอใช้น้ำมันหมูไป แล้วเนี่ยพอไปตรวจสุขภาพแล้วมันเกิดเกิด
00:17:37 → 00:17:44 ปัญหาขึ้นมานะโดยเฉพาะปัญหาของิสหรือความ เสี่ยงทางด้าน as cvd เนี่ยเอ่อเราก็จะ
00:17:44 → 00:17:49 คิดว่ายังไงนะฮะนะในเมื่อสำรวจตรวจสอบใน รายละเอียดของอาหารที่กินก็เรียกว่าตัว
00:17:49 → 00:17:55 เองมีความรู้แล้วก็รักสุขภาพนะก็ไม่อยาก จะให้เกิดปัญหาแต่ปรากฏว่าผลที่มันออกมา
00:17:55 → 00:18:03 เนี่ยนะก็มันก็มีปัญหาแล้วก็มีข้อสรุปใน เรื่องของปัญหาว่าน่าจะนะหรือเป็นเหตุมา
00:18:03 → 00:18:08 จากในเรื่องของการใช้น้ำมันหมูในการปรุง อาหารนี่แหละนะเพราะว่าไม่ได้เกิดแค่คน
00:18:08 → 00:18:14 เดียวนะฮะก็บ้านนี้ไปเช็คสุขภาพแล้วปรากฏ ว่า 3 คนมีปัญหาหลอนเลือดตีนะโดยเฉพาะที่
00:18:14 → 00:18:21 หล่อนเลือดหัวใจนะฮะเนี่ยก็เลยเกิดเอ่อ เหมือนเหมือนความวุ่นวายเล็กๆนะฮะนะว่า
00:18:21 → 00:18:27 เออแล้วมันเพราะอะไรแล้วจะทำยังไงถึงจะ ปลอดภัยนะฮะมันมีหลักการหลักเกณฑ์อะไรมนะ
00:18:27 → 00:18:34 ฮะอันนี้หมอคุยสั้นๆนะฮะเพราะว่าเราก็ไร้ เรื่องน้ำมันหมูกันไปในหลายๆหนแล้วนะฮะนะ
00:18:34 → 00:18:39 ก็เริ่มด้วย 2 สไลด์แรกเนี่ยนะนะว่าองค์ ความรู้ทางด้านวิวัฒนาการนะฮะในเรื่องของ
00:18:39 → 00:18:46 พลังงานและสารอาหารที่รับเข้าสู่ร่างกาย นะของคนเราเนี่ยนะฮะก็หลักเกณฑ์หรือวิถี
00:18:46 → 00:18:54 ทางเนี่ยนะฮะก็คือมนุษย์เนี่ยจะใช้พลัง งานอ่าหลักๆที่มาจากพืชมากกว่าสัตว์นะฮะ
00:18:54 → 00:19:00 ที่มาจากพืชมากกว่าสัตว์แล้วะในแง่ของ ส่วนที่เป็นสารอาหารนะฮะสารอาหารที่จะ
00:19:00 → 00:19:07 กลายไปเป็นโครงสร้างเนี่ยเราเป็นสัตว์เรา ก็ต้องใช้สารอาหารนะที่ต่อยอดนะอ่ามาจาก
00:19:07 → 00:19:14 เรื่องของสัตว์มากกว่าพืชนะฮะอันนี้ก็จะ เป็น 2 หลักการนะในในสไลด์เนี้ยนะฮะนะ
00:19:14 → 00:19:21 เพราะงั้นพูดง่ายๆก็คือในกรณีที่มันเป็น พลังงานจากไขมันของสัตว์นะโดยเฉพาะนะ
00:19:21 → 00:19:28 สัตว์ติดมันต่างๆนะฮะที่ยังมีความเป็นมัน ให้มองเห็นน่ะหรือการเอาไปผ่านความร้อน
00:19:28 → 00:19:33 ผ่าน process อะไรต่างๆที่ออกมาเป็นรูป ของน้ำมันโดยเฉพาะน้้ำมันหมูเนี่ยนะพวก
00:19:33 → 00:19:41 เนี้ยเป็นสิ่งที่ไม่ใช่แล้วนะฮะไม่ใช่ วิถีทางปกตินะนะที่มนุษย์เขาอยากจะได้นะ
00:19:41 → 00:19:47 ฮะร่างกายมนุษย์อยากจะได้นะฮะเพราะนั้น มันก็เลยจะเกิดปัญหาตามมาเนาะนะอีกเรื่อง
00:19:47 → 00:19:55 นึงเนี่ยที่พยายามสรุปให้ตั้งแต่เมื่อคืน เนี้ยนะฮะนะก็คือนี่นะฮะนะในเรื่องของอ่า
00:19:55 → 00:20:01 พลังงานที่เป็นแคลอรี่เนี่ยนะนะกับสาร อาหารนะฮะนะพลังงานแคลอรี่เนี่ยก็คือ
00:20:01 → 00:20:09 คาร์โบไฮเดรตกับแฟตใช่มฮะนะอ่าส่วนสาร อาหารเนี่ยก็คือโปรตีนนะแล้วก็ไขมันบาง
00:20:09 → 00:20:14 ส่วนนะที่จะกลายไปเป็นโครงสร้างแล้วก็ คอเลสเตอรอลนะฮอันนี้เราถือว่าเป็นสาร
00:20:14 → 00:20:21 อาหารทั้ง 2 เรื่องนี้นะฮะนะมันจะเกิดการ ประกอบรวมกันกลายเป็นก้อนอาหารที่จะเข้า
00:20:21 → 00:20:29 สู่ร่างกายนะหลังจากนั้นก็จะไปในอ่าช่อง ทางต่างๆนะกระตุ้นฮอร์โมนต่างๆนะแล้วก่อ
00:20:29 → 00:20:35 ให้เกิดประโยชน์กับร่างกายที่จะกลายเป็น พลังงานและกลายเป็นสารอาหารไปซ่อมแซมแล้ว
00:20:35 → 00:20:41 ก็ไปสร้างร่างมันนะฮะทีนี้แหล่งอ่าของ ความเป็นพืชกษัตริย์เนี่ยอ่ามันก็จะต่าง
00:20:41 → 00:20:49 กันแล้วล่ะนะฮะนะถ้านะจะถามว่าแล้วสิ่ง ที่จะเป็นเนี่ยเป็นตัวก้อนอาหารเนี่ยนะฮะ
00:20:49 → 00:20:56 เป็นตัวก้อนอาหารนะถ้าเป็นจากพืชเนี่ย ร่างกายเอยากได้แบบไหนนะอ่าอย่างไรจึงจะ
00:20:56 → 00:21:05 ดีที่สุดต่อสุขภาพนะฮนะร่างกายเจะใช้พืช เป็นแหล่งพลังงานนะเป็นหลักเลยนะฮะนะแล้ว
00:21:05 → 00:21:14 พลังงานในที่นี้หรือแคลอรี่นะอก็ควรจะ เป็นเรื่องของน้ำมันสกัดเย็นที่มีกระบวน
00:21:14 → 00:21:24 การนำออกมาโดยไม่ผ่านความร้อนใดๆเลย นะร่างกายก็จะถือว่านะอ่าแหล่งพลังงานนะ
00:21:24 → 00:21:31 นี้เนี่ยเป็นแหล่งพลังงานที่ที่ร่างกายเ ต้องต้องมากที่สุดนะฮะนะเราก็จะใช้ได้ดี
00:21:31 → 00:21:37 ที่สุดในการขับเคลื่อนนะการดำเนินชีวิตนะ ฮะนะส่วนในแง่ของความเป็นแหล่งของสาร
00:21:37 → 00:21:44 อาหารในพืชนะฮะอันนี้นะฮะนะอันนี้เนี่ยนะ เนื่องจากมนุษย์ไม่ใช่พืชนะฮะนะเราเป็น
00:21:44 → 00:21:53 สัตว์ที่วิวัฒนาการนะฮะนะแล้วก็เป็นตัว optim เอ่ออนอเนี่ยนะฮะเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:21:53 → 00:22:00 ส่วนที่เป็นสารอาหารของพืชเนี่ยร่างกาย ต้องการน้อยนะฮะต้องการน้อยนะไม่ได้เยอะ
00:22:00 → 00:22:08 แยะนะแต่ว่าก็มีความสำคัญนะฮะและก็ต้องนำ มาใช้ร่วมกับจักสัตว์ด้วยนะอ่าอันนี้พอ
00:22:08 → 00:22:13 เข้าใจในเรื่องพืชแล้วนะฮะที่จะทำให้ สุขภาพดีนะแต่ในแง่ของสัตว์นะที่เกี่ยว
00:22:13 → 00:22:20 ข้องกับน้ำมันหมูเนี่ยนี่เราก็ต้องรู้ว่า มนุษย์เป็นสัตว์ก็จริงนะฮะนะแต่ในเรื่อง
00:22:20 → 00:22:26 ของการกินสัตว์ด้วยกันนะฮะหรือพวก Animal B นะสิ่งที่เราต้องการจากสัตว์เนี่ยคือ
00:22:26 → 00:22:34 เราต้องการแหล่งที่เป็นสารอาหารนะฮะนะ หรือนิตเเนะฮะอันนี้เราต้องการโดยตรงนะฮะ
00:22:34 → 00:22:42 นะนะนะจากสัตว์ด้วยกันจากสัตว์ด้วยกันนะ นะส่วนในความเอ่อที่มันเป็นเรื่องของพลัง
00:22:42 → 00:22:50 งานที่มันแทรกปะปนมาอยู่นะกับในตัวของ เนื้อสัตว์หรือส่วนต่างๆของสัตว์เหล่า
00:22:50 → 00:22:58 เนี้ยนะฮะอันนี้เนี่ยนะในการที่ร่างกายจะ นำมาใช้เป็นพลังงานเนี่ยมันเค้าเรียกว่า
00:22:58 → 00:23:05 มันมันใช้ได้ไม่ดีอ่ะนะฮะมันไม่ดีนะฮะไม่ ดีต่อการนำที่จะไปเผาผลาญเป็นพลังงานต่าง
00:23:05 → 00:23:12 ๆของร่างกายนะฮะซึ่งอ่ามันมีการแยกข้อดี ข้อเสียที่เราเคยไร้กันมาแล้วนะฮะเพราะ
00:23:12 → 00:23:18 ฉะนั้นในแง่ของความเป็นไขมันสัตว์เโดย เฉพาะวันนี้ที่เราคุยกันเรื่องน้ำมันหมู
00:23:18 → 00:23:26 เนี่ยเอ่อเราก็จะกินยังไงอ่ะนะฮะที่จะถือ ว่ามีความเหมาะสมดีมากที่สุดนะฮะหลักการ
00:23:26 → 00:23:32 ที่สำคัญเลยอันนี้เราก็จำไว้เลยนะฮะนะว่า ความเป็นไขมันหรือน้ำมันของสัตว์นะไม่ว่า
00:23:32 → 00:23:38 จะแยกออกมาหรือจะเห็นด้วยตาจากภายนอกก็ ตามนะฮะนะเมื่อจะกินข้าร่างกายเนี่ยนะเรา
00:23:38 → 00:23:46 ต้องกินให้เขาคไปอยู่รวมกับเนื้อของสัตว์ นะคือโปรตีนของสัตว์นี่แหละนะฮะนะจะอยู่
00:23:46 → 00:23:55 ในรูปแบบของเป็นอะไรเป็นเป็นเป็นเนื้อ เป็นเนื้อเนื้อนมไข่หรือว่าเป็นกระดูกอ่า
00:23:55 → 00:24:02 เป็นอ่าไขกระดูกอะไรต่างๆที่ทำมาเป็นโบนบ อะไรก็ตามนะฮะนะในกรณีที่กินรวมกันอย่าง
00:24:02 → 00:24:09 เงี้ยนะฮะก็คืออันนี้จะถือว่าเป็นสิ่งที่ เหมาะสมดีที่สุดนะฮะนะในกรณีของไขมัน
00:24:09 → 00:24:17 สัตว์นะแล้วก็อันนี้กาดาวไว้ 5 ดาวเลยนะ ฮะโดยเฉพาะเมื่อกินแล้วเนี่ยนะสิ่งที่ควบ
00:24:17 → 00:24:24 รวมนะกลายเป็นการกินสิ่งนี้เข้าไปเนี่ย เราจะนับสารอาหารในโควต้าของหมวดหมู่ที่
00:24:24 → 00:24:32 เป็นโปรตีนเน็ตโปรตีนนะฮะอันนี้เข้าใจส ของสไลด์แรกก่อนนะฮะนะอ่ะนี้นี้ในแง่ของ
00:24:32 → 00:24:41 อ่าน้ำมันพืชน้ำมันสัตว์นะต่อโอกาสเสี่ยง ในการที่จะเกิดปัญหานะ as cvd เนี่ยนะ
00:24:41 → 00:24:49 เมื่อไหร่ก็ตามที่ 2 สิ่งเนี้ยนะฮะไปโดน ความร้อนนะแล้วก็มีเรื่องเอ่อของการกิน
00:24:49 → 00:24:56 ไม่เป็นกินไม่ถูกนะฮะเเมื่อนั้นเนี่ยนะ ยิ่งนานวันนานวันยิ่งกินทุกมื้อกินทุกวัน
00:24:56 → 00:25:03 นะฮะสิ่งนี้จะเป็นปัญหาอย่างแน่นอนนะไม่ ว่าเขาจะเป็นน้ำมันที่มาจากพืชนะหรือไข
00:25:03 → 00:25:09 มันหรือน้ำมันของสัตว์นะโดยเฉพาะน้ำมัน หมู่นะฮะนะเพราะฉะนั้นเนี่ยนะก็คือหัวข้อ
00:25:09 → 00:25:18 สำคัญนะวันนี้นะที่มันเป็นชตโนตนะไม่ว่า คุณจะเป็นพืชหรือสัตว์นะฮะนะในความเป็น
00:25:18 → 00:25:25 น้ำมันเนี่ยนะฮะโดนความร้อนเมื่อไหร่แล้ว ก็กินไม่เป็นนะอ่าก็จะป่วยนะฮะไม่ต่างกัน
00:25:25 → 00:25:31 นะอ่าน้ำมันจากพืชขป่วยน้ำมันจากสัตว์ก็ ป่วยน้ำมันหมูก็ป่วยแล้วจะต้องกินกันยัง
00:25:31 → 00:25:39 ไงนะฮะกินกันยังไงนะถ้าเป็นพืชนะเราก็รู้ แล้วว่าเราต้องกินในรูปของน้ำมันสกัดเย็น
00:25:39 → 00:25:45 ที่ไม่ผ่านความร้อนแล้วเวลาเอามาปรุงนะ ที่จะกินเข้าร่างกายเนี่ยเราก็ทำอยู่ใน
00:25:45 → 00:25:53 รูปของน้ำสลัดทีออยนะฮะก็มีข้อดีต่างๆ เพราะอะไรยังไงทำไมนะฮะวันนี้ในเรื่องของ
00:25:53 → 00:25:58 น้ำมันจากสัตว์นะฮะโดยเฉพาะการเจียวน้ำ มันหมูนะแล้วเอาน้ำมันหมูเนี่ยมาทำอาหาร
00:25:58 → 00:26:06 มาปรุงอาหารให้สุกแล้วกินนะฮะนะแล้วทำไม อยู่ดีๆมันไปเกิดปัญหานะฮะขึ้นมานะฮะอัน
00:26:06 → 00:26:12 นี้มันก็แน่นอนล่ะนะฮะเพราะว่าก็บอกแล้ว ว่ามันเป็นเ่อ visible นะ Fat นะฮะในรูป
00:26:12 → 00:26:20 ของเพียว Oil เพียเยีนะฮะนะอันนี้ก็ไม่ ถูกต้องนักนะตามกฎเกณฑ์นะที่เราควรจะกิน
00:26:20 → 00:26:26 เพื่อการมีสุขภาพที่ดีนะฮะนะแล้วยิ่งไป โดนความร้อนอยู่ด้วยนะแล้วความร้อนในแก่
00:26:26 → 00:26:34 ของการเอาน้ำมันหมูมาทำอาหารเนี่ยก็จะ เป็นความร้อนอ่าอ่าลำดับที่ 2 3 ก็ได้นะ
00:26:34 → 00:26:39 ฮะนะเพราะเวลาเจียวเนี่ยก็เกิดความร้อน เข้าไปครั้งนึงแล้วนะฮะเอามาผักมาทอดก็
00:26:39 → 00:26:45 ความร้อนอีกครั้งนึงนะหรือใช้ซ้ำเป็น ครั้งที่ 2 ก็เป็นความร้อน 3 ครั้ง 4
00:26:45 → 00:26:52 ครั้งเออแล้วแต่นะนะยิ่งโดนความร้อนมาก เท่าไหร่นะฮะความเป็นโปรตีนกับความเป็นไข
00:26:52 → 00:26:58 มันเนี่ยนะฮะระดับความร้อนต่างๆในแง่ของ การผัดทอดมันเป็นความร้อนที่สูงมากนะฮะ
00:26:58 → 00:27:05 อ่าแล้วก็ยิ่งถ้าเกิดใกล้ๆหรือสูงเกินจุด เกิดกวันน่ะเกิดการสลายตัวเปลี่ยนแปลง
00:27:05 → 00:27:12 สถานะของความเป็นน้ำมันเนี่ยนะเนี่ยทุก อย่างนะฮะนะที่เป็นองค์ประกอบเหล่านั้น
00:27:12 → 00:27:17 เนี่ยจะถือว่าไร้ประโยชน์นะฮะไม่เกิด ประโยชน์อะไรเลยนะฮะนะเพราะว่าการโดนความ
00:27:17 → 00:27:23 ร้อนในระดับสูงๆอย่างนี้ทั้งโปรตีนทั้งไข มันนะมันเปลี่ยนโครงสร้างแล้วกลายเป็น
00:27:23 → 00:27:29 เป็นพิษเป็นของไม่ดีไปหมดแล้วนะฮะ นะเพราะฉะนั้น
00:27:29 → 00:27:40 เออก็นะต้องคิดดีๆนะจริงๆแล้วเขาบอกว่า ระดับความร้อนเนี่ยนะที่ทำให้ไอ้ตัวอาหาร
00:27:40 → 00:27:47 สุกอ่ะแล้วยังเกิดประโยชน์ต่อสุภาพก็คือ ระดับความร้อนที่ไม่เกินอุณหภูมิของน้ำ
00:27:47 → 00:27:54 เดือดที่ไม่เกินอุณหภูมิของน้ำเดือดนะฮะ นะก็คือใช้น้ำเป็นตัวกลางในการวัดระดับ
00:27:54 → 00:28:01 ความร้อนที่จะเข้าสู่ร่างกายนะอเพราะ ฉะนั้นอาหารเนี่ยที่ผ่านน้ำเที่ผ่านน้ำนะ
00:28:01 → 00:28:08 ต้มแกงอะไรต่างๆนะอุ่นหรืออะไรก็เี้ยว อะไรต่างๆนะที่มีการใช้น้ำเนี่ยพอน้ำ
00:28:08 → 00:28:16 เดือดเพอาหารสุกนะร่างกายมันรับได้แค่ นั้นนะคือถ้าเกินจากนั้นเนี่ยมันก็มีความ
00:28:16 → 00:28:22 เป็นประโยชน์มันจะลดลงความเป็นโทษมากขึ้น นะแล้วถ้าถึงจุดคั off คือเเรียกจุดเกิด
00:28:22 → 00:28:30 กวันน่ะเมื่อไหร่นะฮะนะประโยชน์ใดๆต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นก็สูงนะฮะนะแล้วก็โทษก็
00:28:30 → 00:28:32 เพิ่มเป็น
00:28:32 → 00:28:41 100% อ่าทีนี้เวลาเราจะมาดูเรื่องการกิน น้ำมันหมูนะยังไงถึงจะปลอดภัยนะ
00:28:41 → 00:28:51 ฮะข้อแรกเลยเนี่ยสำคัญที่สุดนะฮะเราจะ ต้องกินน้ำมันหมูหรือมันของสัตว์นะฮะนะ
00:28:51 → 00:28:59 เป็นอาหารประเภทโปรตีนนะเพราะฉะนั้นเนี่ย เราก็จะต้องนำเอาน้ำมันหมูนะหรือมันของ
00:28:59 → 00:29:08 หมูเนี่ยแทรกเข้าไปในสิ่งที่เป็นโปรตีนนะ นะแล้วปรุงให้มันสุกนะฮะแล้วมันปรุงให้
00:29:08 → 00:29:15 มันสุกนะฮะนะอันนี้ก็ก็คือเป็นหลักการ สำคัญที่สุดเลยนะฮะถ้าคุณยังอยากจะกินน้ำ
00:29:15 → 00:29:22 มันหมูนะนะคือกินในรูปของความเป็นโปรตีน นะเพราะจริงๆแล้วเนี่ยมันก็คือเนื้อสัตว์
00:29:22 → 00:29:28 ซึ่งมันประกอบไปด้วยโปรตีนกับไขมันที่ อยู่รวมกันเพราะฉะนั้นถ้าอยากจะไปกินน้ำ
00:29:28 → 00:29:36 มันหมูนะอก็ต้องหาโปรตีนเนื้อสัตว์มาแล้ว เอาน้ำมันเหล่าเนี้ยนะเจือเข้าไปแทรกเข้า
00:29:36 → 00:29:46 ไปนะฮะนะวิธีการก็คือก็คือเราสไลด์ให้มัน บางๆนะแล้วเราก็ทาด้วยน้ำมันหมูแล้วเราก็
00:29:46 → 00:29:54 จี่ไฟนะให้มันสุกนะฮะเนี่ยนะฮะมันก็จะได้ อย่างนี้นะนะหรือกรณีที่ไม่ได้เป็นน้ำมัน
00:29:54 → 00:30:00 หมูแต่เป็นมันหมูนะที่มันแทรกอยู่เป็นหมู 3 ชั้นเป็นเบคอนหรือเป็นอะไรก็ตามนะฮะ
00:30:00 → 00:30:06 ที่เป็นเนื้อสัตว์ติดหนังติดมันอะไรพวก เนี้ยนะฮะนะอพวกนี้เราก็ผ่านความร้อนโดย
00:30:06 → 00:30:14 ตรงเลยเช่นใช้หม้อทอดนะฮะนะหรือในกรณีที่ เราคิดว่าการทอดการผัดนะไฟมันจะแรงเกินไป
00:30:14 → 00:30:19 คือเกินอุณหภูมิของน้ำเดือดนะนะแล้วก็เอา เนื้อสัตว์เหล่าเนี้ยก็ไปปรุงในวิธีการ
00:30:19 → 00:30:30 ต้มนึ่งลวกอบนะเนี่ยอ่าแล้วก็ g g นี่ก็ แต่จเนี่ยไอ้ตัวนสัตว์จะต้องสไลด์บางๆนะ
00:30:30 → 00:30:37 ฮะนะแล้วก็เคลือบน้ำมันแล้วก็จีนะฮะคือ การกินอย่างนี้จะทำให้น้ำมันหรือไขมันของ
00:30:37 → 00:30:45 สัตว์นะที่อยู่ร่วมกับนะหรือปะปนแทรกอยู่ ในตัวโปรตีนเนื้อสัตว์เนี่ยยังเกิด
00:30:45 → 00:30:53 ประโยชน์สูงสูงมากๆอยู่นะฮะเนี่ยเพราะ งั้นข้อแรกเนี่ยคือหัวใจสำคัญนะถ้าจะกิน
00:30:53 → 00:31:00 นะฮะถ้าจะกินนะเนี่ยนะยังงั้นยังไงก็ยัง อยากจะใช้ความร้อนนะกับน้ำมันหรือไขมัน
00:31:00 → 00:31:06 ของสัตว์อยู่นะเพราะฉะนั้นสิ่งนั้นเนี่ย จะอยู่ในรูปของก้อนโปรตีนนะซึ่งเราก็พอ
00:31:06 → 00:31:13 รู้อ่ะใช่มยว่าจริงๆแล้วเนี่ยไอ้การกิน โปรตีนเนื้อสัตว์เนี่ยนะมันก็มีสภาพของไข
00:31:13 → 00:31:19 มันที่แทรกแตงปะปนอยู่เนี่ยอย่างเงี้ยอ่า โปรตีนไขมันสูงโปรตีนไขมันปานกลางโปรตีน
00:31:19 → 00:31:25 ไขมันต่ำโปรตีนไขมันต่ำมากนะฮะนะเพราะ งั้นสิ่งเหล่านี้เนี่ยก็คือไขมันหรือน้ำ
00:31:25 → 00:31:32 มันที่มันแทรกอยู่แล้วนะฮะนะนี้นี้กินได้ มากได้น้อยแค่ไหนก็ต้องเป็นไปตามสูตรเนะ
00:31:32 → 00:31:37 ฮะนะที่เราเคยฉายหลายครั้งหลายคราวแล้วนะ แล้วก็แบ่งการกินเป็นมื้อแรกมื้อเย็นอะไร
00:31:37 → 00:31:46 อย่างงั้นนะฮะนะเพียงแต่ว่าอ่าจะเป็นน้ำ มงน้ำมันนะแล้วก็เอามาเคลือบแล้วก็มาจี่
00:31:46 → 00:31:55 ไฟหรือนะจะเป็นตัวไอ้ตัวเนื้อสัตว์ติด หนังติดมันโดยตรงเลยนะฮะนะมันก็มีมันอยู่
00:31:55 → 00:32:03 ในตัวแล้วนะแล้วก็ปรุงให้สุกโดยผ่านความ ร้อนนะที่ไม่ไม่เกินจุดเกิดวันน่ะนะฮะนะ
00:32:03 → 00:32:09 หรือในระดับแค่อุณหภูมิน้ำเดือด 100 องศ เซียเนี่ยอันนี้คุณประโยชน์ก็ยังมากมาย
00:32:09 → 00:32:17 อยู่ซึ่งเราจะถือว่ากินแบบนี้ปลอดภัยปลอด ภัยนะฮะนะเพราั้นกินน้ำมันหมูให้ปลอดภัย
00:32:17 → 00:32:26 ข้อแรกเลยนะคือกินในรูปของโปรตีนนะฮะนะ แล้วก็เกิดมีการแทรกแซงนะอ่าตัวน้ำมัน
00:32:26 → 00:32:35 เข้าไปนะจนกระทั่งปรุงให้อาหารสุกก็นำมา กินต่อไปกินน้ำมันหมูนะหรือไขมันของสัตว์
00:32:35 → 00:32:44 เนี่ยนะในรูปของไขมันหรือน้ำมันถามว่ากิน ได้มกินได้แต่จะต้องมีการจำกัดและควบคุม
00:32:44 → 00:32:53 ปริมาณที่จะกินปริมาณที่จะกินนะฮะกินได้ ผ่านความร้อนได้นะฮะนะกินเท่าไหร่นะฮะกิน
00:32:53 → 00:33:00 เท่าไหร่นะฮะนะในทางลค High Fat นะเรา ยอมรับที่ไม่เกิน 5 ซีซีหรือ 1 ช้อนชาต่อ
00:33:00 → 00:33:09 วันต่อวันนะฮะนะซึ่งอย่างเนี้ยมันจะดูบีบ คั้นกันมากเกินไปนะฮะนะเค้าก็เลยปรับให้
00:33:09 → 00:33:17 เป็นว่าสัปดาห์นึงอย่าให้เกิน 2 ช้อนโต๊ะ อ่า 2 ช้อนโต๊ะก็ประมาณ 6 ช้อนชานะก็คือ 1
00:33:17 → 00:33:24 ช้อนชาต่อวันนะสัปดาห์นึงสัก 2 ช้อนโต๊ะ 2 ชนโต๊ะครึ่งอย่าให้เกินนี้นะต่อสัปดาห์
00:33:24 → 00:33:32 แล้วนะฮะหรือถ้าเป็นต่อมื้อต่อสัปดาห์นะ ฮะนะก็อาจจะกินได้สัก 2-3 มื้อโดยเอาน้ำ
00:33:32 → 00:33:39 มันประมาณ 2 -2.5 ช้อนโต๊ะเนี่ยนะจะมา ปรุงยังไงก็ปรุงเข้าไปนะฮะจะมาจี่จะมาทอด
00:33:39 → 00:33:48 จะมาผัดนะเนี่ยก็ให้ใช้อยู่ในช่วงสัปดาห์ ละนะอ่าไม่เกิน 2 หรือ 3 มื้อนะฮะเนี่ย
00:33:48 → 00:33:58 และอ่ออย่างอื่นนะฮะก็คือใช้ความร้อนที่ ต่ำมากๆนะฮะในช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้นนะนะ
00:33:58 → 00:34:04 อันเนี้ยหลักการก็คือตัวความร้อนจะต้อง น้อยแล้วเวลานะนะก็จะต้องสั้นเท่านั้นนะ
00:34:04 → 00:34:11 เพราะฉะนั้นแบบที่หมอบอกไปตั้งแต่ตอนแรก เนี่ยคือกินนะคู่กับโปรตีนแล้วก็สไลด์ให้
00:34:11 → 00:34:17 บางๆแล้วก็เคลือกบางๆแล้วก็เอาไปจี่ไฟนะ เพราะงั้นมันก็เป็นการใช้ความร้อนที่น้อย
00:34:17 → 00:34:26 นะฮะแล้วก็เวลามันไม่นานมันก็สุกแล้ว นะอันที่ 3 เนี่ยนะก็คือกินน้ำมันหมูหรือ
00:34:26 → 00:34:34 มันของสัตว์เนะฮะนะในโควต้าของไขมันอิ่ม ตัวนะฮะเนี่ยเราก็ทราบนะว่าเ่อโปรตีนที่
00:34:34 → 00:34:39 มีไขมันอยู่เนี่ยแล้วไขมันที่อยู่กับ โปรตีนของของเนื้อสัตว์เห่าเนะฮะอันนี้
00:34:39 → 00:34:45 มันคือไขมันอิ่มตัวเป็นหลักนะฮะมันคือไข มันอิ่มตัวเป็นหลักนะแต่ในกรณีของหมูนะฮะ
00:34:45 → 00:34:54 นะเอ่อความเป็นไขมันอิ่มตัวเนี่ยมันจะไม่ เยอะนะฮะนะมันจะไม่เยอะนะเนี่ย
00:34:54 → 00:35:02 เอ่อหมูกับวัวเนี่ยมันก็ต่างตกันยังไง ต่างกันยังไงนะก็คืออย่างอย่างหมูเนี่ยไข
00:35:02 → 00:35:09 มันอิ่มตัวเนี่ยมันจะประมาณ 36% นะแล้วไข มันไม่อิ่มตัวของหมูนะของหมูนะนะที่มัน
00:35:09 → 00:35:15 เจืออยู่กับตัวเนื้อสัตว์ที่เป็นโปรตีน เนี่ยไขมันไม่อิ่มตัวมันจะประมาณ 45% ก็
00:35:15 → 00:35:21 คือมูฟ่าเนี่ยนะเตัวเชิงเดี่ยว 45% แล้ว อิ่มตัวเนี่ย 36% นะฮะแต่ของวัวมันกลับ
00:35:21 → 00:35:29 กันนะฮะของวัวเนี่ยไขมันอิ่มตัวประมาณ 45% นะแล้วก็ูฟ่าไม่อตัวเชิงเดี่ยวของวัวก็
00:35:29 → 00:35:36 ประมาณ 36% นะคือวัวกับหมูมันจะกลับกัน ที่เหลือมันก็จะเป็นเป็นพูฟ่าเป็นไม่อิ่ม
00:35:36 → 00:35:43 ตัวเชิงซ้อนนะนะแต่ทีนี้ตัวูฟ้าของหมูกับ วัวเนี่ยนะในหมูจะมีโอเมก้า 6 มากกว่า
00:35:43 → 00:35:52 โอเมก้า 3 นะฮะนะนะสัดส่วนของโอเมก้า 6 จะค่อนข้างเยอะกว่าเ่อกว่าวัววัวโอเมก้า 6
00:35:52 → 00:36:00 น้อยนะฮะแล้วในหมูสัดสวนโอเมก้า 3 นะจะจะ น้อยแต่ในวัวโอเมก้า 3 จะเยอะโดยเฉพาะวัว
00:36:00 → 00:36:07 ที่ไปเลี้ยงด้วยกราสเสร็จวัวอะไรอ่ะวัว อนามัยวัวปล่อยเลี้ยงทุ่งอะไรอย่าเงี้ยนะ
00:36:07 → 00:36:14 ฮะอันนี้ก็ คือก็คือในไขมันนะฮะหรือในน้ำมันอะไรต่าง
00:36:14 → 00:36:21 ๆที่มาจากสัตว์เนี่ยนะฮะนะมันก็จะมีองค์ ประกอบหลักก็คือตัวไขมันอตัวนะฮะนนี้ใน
00:36:21 → 00:36:28 กรณีที่อยากจะกินจริงๆนะของความเป็นไขมัน หรือตัวน้ำมันเหล่าเนี้ยนะฮะเบอกว่าให้
00:36:28 → 00:36:34 ต้องกินหมุนเวียนกันไปคือไม่ได้กินแบบ เป็นประจำทุกวี่ทุกวันทุกมื้อไม่มีการกิน
00:36:34 → 00:36:40 ซ้ำๆถี่ๆบ่อยๆเช้าเที่ยงเยนะวันนี้พรุ่ง นี้มาืนนี้มาเรื่องนี้ 7 วัน 7 คืนอะไร
00:36:40 → 00:36:46 อย่างงี้มันไม่ใช่อย่างงั้นนะฮะนะเอ่อใน แง่ของการกินแบบข้อที่ 3 ก็คือกินในรูป
00:36:46 → 00:36:52 แบบที่เป็นไขมันอิ่มตัวต่อวันเนี่ยนะฮะ เราต้องมีการหมุนเวียนนะกับไขมันอิ่มตัว
00:36:52 → 00:36:59 ชนิดอื่นๆนะก็คือไม่ฟิกอยู่กับตัวอ่ามัน หมูหรือไขมันหมูหรือไอ้พวกอะไรอ่ะที่เรา
00:36:59 → 00:37:06 กินเป็นอะไรอะไรแคปหมูนะกากหมูอะไรซะ อย่างเดียวนะฮะเราต้องหมุนเวียนกับอะไรนะ
00:37:06 → 00:37:14 กับไขมันอิ่มตัวชนิดอื่นๆนะฮะนะในโควต้า ต่อวันก็คือมีเนยใสเหนสดนะฮะนะเนี่ยเนยใส
00:37:14 → 00:37:21 กกีเนสดกบัตเตอร์อาจจะมีพวกน้ำมันมะพร้าว นี่ก็เป็นไขมันตัวจับพืชนะฮะน้ำมันตามแดง
00:37:21 → 00:37:28 เหนื่อย โกโก้อันนี้ก็คือหลักการกินนะหากหากอยาก
00:37:28 → 00:37:36 จะกินไขมันหรือมันของหมูหรือน้ำมันหมู เนี่ยนะอ่าให้ถูกต้องและเกิดความปลอดภัย
00:37:36 → 00:37:44 นะที่จะไม่ได้กลายเป็นความเสี่ยงต่อปัญหา ทางด้านสุขภาพนะฮะก็คือ 1 2 3 นะข้อ 1
00:37:44 → 00:37:50 สำคัญที่สุดนะฮะนะเพราะหลักการที่ของความ เป็นสัตว์ที่เราจะเอามากินเป็นอาหารเนี่ย
00:37:50 → 00:37:57 นะฮะนะสัตว์เนี่ยเค้าก็ไม่มีคาร์โบไฮเดรต ไม่มีคานะเค้ามีโปรตีนกับไขมันเพราะงั้น
00:37:57 → 00:38:01 เมื่อไหร่ก็ตามที่จะกินเค้าให้เกิด ประโยชน์เนี่ยก็ต้องกินในรูปแบบที่มัน
00:38:01 → 00:38:08 เป็นเร Food แล้วก็สภาพเนี่ยนะของความ เป็นเร Food เนี่ยนะทั้งโปรตีนก็ต้องสุก
00:38:08 → 00:38:14 นะฮะแต่ไขมันเนี่ยจะต้อง invisible คือ มองไม่เห็นมองไม่เห็นนะฮะนะเพราะฉะนั้น
00:38:14 → 00:38:20 ต้องปล่อยให้เขาคแทรกนะหรือปะปนอยู่กับ โปรตีนเนื้อสัตว์เหล่านั้นนะนะส่วนในแง่
00:38:20 → 00:38:30 ของการจะไปทำให้สุกนะอ่าก็แล้วแต่ปริมาณ หรือการหรือเอ่อการจำกัดควบคุมหรือการกิน
00:38:30 → 00:38:37 ร่วมการหมุนเวียนสลับสับเปลี่ยนอะไรต่างๆ เนี่ยนะก็ต้องมีความรู้ความคดสันะฮะทีนี้
00:38:37 → 00:38:45 ถ้าอธิบายในแง่ของระบบนะการกินหรือการ ย่อยอาหารของมนุษย์เราเนี่ยนะฮะในการตอบ
00:38:45 → 00:38:53 รับกับโปรตีนเ่าจากเนื้อสัตว์นะฮะซึ่งมัน ก็จะมีทั้งส่วนที่เป็นโปรตีนควบรวมมาปะปน
00:38:53 → 00:39:00 มากับตัวไขมันนะฮะเวลาเรากินสัตว์นะเนี่ย มันเพราะอะไรนะฮะเพราะว่า 2 เรื่องนะฮะ
00:39:00 → 00:39:06 เพราะว่า 2 เรื่องนะฮะนะอย่างเราดูอเวลา เรากินสัตว์เนี่ยเรากินสัตว์เเรากินอ่า
00:39:06 → 00:39:14 เนื้อหมูอ่าสำชั้นหรือว่าคอหมูย่างนะหรือ หรือสัตว์อะไรก็ตามนะที่มันมีไขมันร่วม
00:39:14 → 00:39:20 ด้วยเนี่ยเวลากินเราต้องกินโปรตีนที่มัน มีไขมันจะเป็นไขมันสูงไขมันตางกลางไขมัน
00:39:20 → 00:39:27 ต่ำๆมากอะไรก็ตามแต่อย่างน้อยอ่ะนะจะต้อง ไม่มีโปรตีนล้วนๆหรือโปรตีนที่เป็นแบบลีน
00:39:27 → 00:39:33 ีนที่ไม่มีไขมันคือคือในความรู้สึกแล้วก็ ในการตอบสนองของของอวัยวะด่านแรกในการ
00:39:33 → 00:39:39 ย่อยอาหารเนี่ยคือปากของเราเนี่ยมันจะ ต่างกันเพราะถ้าเรากินีนโปรตีนเนี่ยเรา
00:39:39 → 00:39:46 กินๆไปแล้วเราเคี้ยวๆๆไปมันก็จะฝืดอ่ะนะ ฮะมันไม่ลื่นนะมันไม่ลื่นแต่ถ้าเกิดว่า
00:39:46 → 00:39:52 มันเป็นโปรตีนเนื้อสัตว์ที่มันติดหนังติด มันอะไเงี้ยกินๆไปแล้วเนี่ยนะฮะมันจะเกิด
00:39:52 → 00:39:57 การลื่นแล้วมันก็เกิดการละลายนะแล้วเกิด ภาวะที่เเรียกเคี้ยวเหลวอ่ะกลายเป็นน้ำ
00:39:57 → 00:40:05 ได้เร็วกว่าคือไม่ฝืดคอนะสากปากสากคอนะ เหมือนกับการกินพวกลีนโปรตีนที่ไม่มีไข
00:40:05 → 00:40:12 มันน่ะคือเป็นโปรตีนล้วนๆ 100% นะฮะอัน นี้เมีข้ออธิบาย 2 เรื่องนะฮะนะคือเขาบอก
00:40:12 → 00:40:17 ว่าธรรมชาติของของมนุษย์เนี่ยที่เป็น สัตว์แล้วก็ต้องกินพวกโปรตีนจากเนื้อ
00:40:17 → 00:40:22 สัตว์ติดหนังติดมันเป็นหลักเนี่ยนะก็ เพราะว่าองค์ประกอบของโครงสร้าง 2 อย่าง
00:40:22 → 00:40:30 นะฮะบริเวณปากเราก็คือต่อมน้้ำลายนะกับ ลิ้นนะฮะกับลิ้นนะฮะคือต่อมน้ำลายของคน
00:40:30 → 00:40:38 เนี่ยนะฮะเวลาที่อาหารประเภทโปรตีนอ่าที่ มีไขมันร่วมด้วยเนี่ยเข้าไปเนี่ยนะฮะเอ่า
00:40:38 → 00:40:46 โดยกลไกธรรมชาติเลยต่อมน้ำนายพวกเนี้ยมัน ก็จะผลิตน้ำย่อยออกมานะเพียงแต่ว่านะฮะ
00:40:46 → 00:40:53 เพียงแต่ว่าน้ำย่อยในช่องปากของเรานะจาก ต่อมน้ำลายเนี่ยนะมันมีเอนไซม์ในการย่อย
00:40:53 → 00:41:02 ได้นะกับสารอาหาร 2 ชนิดคือคารบไฮเดรตกับ ไขมันนะในช่องปากเราอ่ะไม่มีน้ำย่อยที่จะ
00:41:02 → 00:41:12 ย่อยโปรตีนนะแต่เขามีน้ำย่อยในการย่อยไข มันนะกับคาร์โบไฮเดรตแล้วเขาพบว่าสัดส่วน
00:41:12 → 00:41:19 ของน้ำย่อยที่เป็นตัวไลเฟสเนี่ยนะที่จะ ย่อยไขมันเนี่ยอ่ามันจะเยอะมากกว่านะที่
00:41:19 → 00:41:25 จะไปย่อยพวกคาร์โบไฮเดรตนะฮะเพราะฉะนั้น เนี่ย
00:41:25 → 00:41:32 เอ่อการกินเนื้อสัตว์ติดหนังติดมันเนี่ย นะฮะเนื่องจากว่าถ้ากินลีนเนี่ยนะมันก็จะ
00:41:32 → 00:41:37 ฝืดปากฝืดคอเพราะว่าไม่มีน้ำย่อยอะไรออก มาเลยนะฮะเพราะงั้นถ้าเรากินในรูปแบบของ
00:41:37 → 00:41:43 มีไขมันปะปนแทรกแทรกอยู่ร่วมอยู่ด้วยอะไร อย่าเงี้ยนะฮะนะกับตัวเนื้ออาหารโปรตีน
00:41:43 → 00:41:49 อันเนี้ยนะนะเพราะฉะนั้นต่อมน้ำลายก็จะ สร้างน้ำย่อยไขมันออกมานะก็จะเกิดการย่อย
00:41:49 → 00:41:57 นะทั้งโปรตีนทั้งไขมันนะจนกระทั่งเหลว เหลวมากเลยนะก่อนที่จะกลืนลงลงไปย่อยต่อ
00:41:57 → 00:42:03 ในกระเพาะนะฮะเพราะในกระเพาะเท่านั้นมัน ถึงจะมีน้ำย่อยโปรตีนนะแต่ในช่องปากเนี่ย
00:42:03 → 00:42:08 ที่เป็นด่านแรกถ้าเราเคี้ยวเยอะๆแล้วเกิด กลไกที่เรียกว่าเคี้ยวเหลวเคี้ยวเหลวคือ
00:42:08 → 00:42:15 มันจะดีต่อสุขภาพนะอันนี้เนี่ยก็จะทำให้ ทั้งโปรตีนผังไขมันถูกย่อยไปได้เยอะแยะ
00:42:15 → 00:42:20 แล้วนะฮะนะเพราะงั้นเวลาลงไปในกระเพาะ เนี่ยกระเพาะกับลำไส้เล็กส่วนต้นนี้จะทำ
00:42:20 → 00:42:30 งานลดลงนะเอ่อไม่ต้องเปลืองพลังงานมาก นะอันนี้ก็คือผลดีนะฮะนะของการตอบสนอง
00:42:30 → 00:42:39 ต่อมน้ำลายอ่ะะเวลาเรากินโปรตีนเนื้อ สัตว์นะฮะอันนี้นะจำไว้ว่าไม่มีน้ำย่อย
00:42:39 → 00:42:46 ที่จะย่อยโปรตีนในช่องปากช่องคอนะฮะมีแต่ ตัวย่อยไขมันกับย่อยคาร์โบไฮเดรตแต่ตอน
00:42:46 → 00:42:52 นี้เรากิน low very low Car นะเพราะ ฉะนั้นเราต้องสนใจเรื่องน้ำย่อยที่มาย่อย
00:42:52 → 00:43:01 ไขมันเนี่ยอันต่อมาคือลิ้นนะฮะคือลิ้นนะ เนี่ยเอ่อเขาก็พบว่าคือคือลิ้นเนี่ยลิ้น
00:43:01 → 00:43:09 ลิ้นเนี่ยจะมีตุ่มรับรถใช่มั้ยล่ะนะเอ่อ แต่ทีนี้โครงสร้างของลิ้นเนี่ยนะเอ่อเขา
00:43:09 → 00:43:22 จะมีตุ่มรับรถคือก็ก็รับรสหวานรสเค็มอ่า หวานเค็มขมเปรี้ยวอ่านะนะทีนี้มันจะมี
00:43:22 → 00:43:29 ตุ่มรับรถอีกชนิดนึงของลิ้นเนี่ยนะที่เขา ค้นพบทีหลังเนี่ยแต่ก็ก็รู้กันมานานแล้ว
00:43:29 → 00:43:38 นะฮก็คือรับรถอะไรอูมามิอูมามิ นะะอูมามิเนี่ยคือตุ่มรับรสที่ลิ้นนะฮะ
00:43:38 → 00:43:49 ที่จะทำให้รู้สึกอร่อยหรือฟินในการกินอ อาหารนะซึ่งอูมามิก็เป็นตัวรับรดนะจาก
00:43:49 → 00:43:56 อาหารที่จะต้องเป็นโปรตีนที่มีไขมันร่วม ด้วยนะฮะนะเพราะฉะนั้นเ่อการส่งสัญญาณการ
00:43:56 → 00:44:05 รับรถว่าเกิดอ่าอร่อยนะแบบอูมามินะนะตัว ก้อนอาหารนั้นน่ะก็จะต้องมีองค์ประกอบ
00:44:05 → 00:44:14 สำคัญก็คือเป็นโปรตีนกับไขมันที่แทรกหรือ หรือร่วมอยู่ด้วยเท่านั้นนะฮะเนี่ยอ่าการ
00:44:14 → 00:44:21 ทำงานของลิ้นจึงจะรู้สึกเกิดการตอบสนอง แล้วรับรสว่าอร่อยนะฮะแล้วกินแล้วก็จะ
00:44:21 → 00:44:27 เกิดความฟินหรือมีความสุขนะอันนี้คือเหตุ ผลนะฮะว่า
00:44:27 → 00:44:36 นะไขมันนะหรือน้ำมันของสัตว์ต่างๆเนี่ยนะ เราไม่สามารถที่จะกินแบบกรอกเข้าปากได้เอ
00:44:36 → 00:44:43 มีถามหน่อยมีใครกินน้ำมันหมูแบบแบบเหมือน กินน้ำมันมะพร้าวน้ำมันมะกอก mct มั้ยล่ะ
00:44:43 → 00:44:48 ใครเคยกอกน้ำมันหมูเข้าปากรู้มล่ะมันจะ รู้สึกยังไงมันจะเลี่ยนมยนะฮะนะเพราะว่า
00:44:48 → 00:44:54 น้ำมันหมูก็คือไขมันอิ่มตัวเป็นหลักนะนะ แต่ว่าในกรณีของหมูเนี่ยทั้งอิ่มตัวไม่
00:44:54 → 00:45:02 อิ่มตัวเนี่ยมันก็จะเด่นพอๆกันนะฮะอเราก็ ไม่กินน่ะใช่มน้ำมันหมูนะจะกินแบบกรอก
00:45:02 → 00:45:10 เข้าปากมันก็ไม่ใช่นะเเพราะฉะนั้นเนี่ย เวลากินก็ต้องอยู่ในตัวโปรตีนที่เป็น
00:45:10 → 00:45:18 เนื้อสัตว์นะฮะเพื่อให้เกิดการตอบสนองนะ ของลิ้นหรือต่อมน้ำลายนะในกระบวนการย่อย
00:45:18 → 00:45:26 ที่ถูกต้องตามธรรมชาตินะแล้วเมื่อนั้น เนี่ยเอ่อผลประโยชน์ต่างๆที่จะตามมานะจาก
00:45:26 → 00:45:35 การที่จะได้สารอาหารประเภทโปรตีนการที่จะ ได้เอ่อไขมันที่ดีนะเอ่อมันก็จะได้นะฮะ
00:45:35 → 00:45:41 อันนี้เพราะฉะนั้นเพราะฉะนั้นตรงนี้นะฮะ ตรงเถามว่าที่ว่าเออกินยังไงถึงจะปลอดภัย
00:45:41 → 00:45:48 เนี่ยนะเพราะงั้นระบบการกินในแง่ของความ เป็นน้ำมันสัตว์เนี่ยนะก็คือ 3 เรื่องนี้
00:45:48 → 00:45:54 นะฮะให้ทำความเข้าใจ นะน
00:45:54 → 00:46:03 อันแล้วก็ในแง่ของอ่าน้ำมันนะฮะนะที่เป็น พืชเป็นสัตว์เนี่ยนะเราก็เคยสรุปและเคย
00:46:03 → 00:46:11 ไร้เรื่องนี้ไปแล้วนะฮะนะอันนี้ก็เป็นแผน ภาพโดยสรุปนะคือหลักการจริงๆเนี่ยในการทำ
00:46:11 → 00:46:18 อาหารให้สุขนะฮะนะในแง่ของความที่จะเป็น ไขมันจากสัตว์หรือน้ำมันของสัตว์เนี่ยนะ
00:46:18 → 00:46:25 ฮะอันนี้เนี่ย มันมันไม่ใช่สิ่งที่ร่างกายเ้าต้องการ
00:46:25 → 00:46:34 อ่าที่จะเป็นไปเป็นพลังงานแบบแบบอ่าความ ต้องการพลังงานที่มาจากไขมันจากพืชที่
00:46:34 → 00:46:40 อยู่ในรูปของน้ำสลัดนะฮะนะซึ่งเหล่านี้ มันก็มีเหตุผลในการอธิบายซึ่งเราก็คุย
00:46:40 → 00:46:46 ผ่านกันไปหลาย ครั้งอันนี้ก็เอามาให้ดูปิดท้ายอ่ะนะ
00:46:46 → 00:46:55 ฮะแล้วก็กระบวนการปรุงอาหารให้สุขเพื่อ สุขภาพนะฮะนะโดยการผ่านความร้อนเนี่ยถ้า
00:46:55 → 00:47:02 มีการที่จะใช้น้ำมันพน้ำมันสัตว์ให้น้อย นะเราก็ใช้แบบวิธีเก่าๆนะฮะก็มีการแกงการ
00:47:02 → 00:47:10 ล้นการจี่การหลามการรวนการเจี้ยวนะการ ตุ๋นการกวนและการคั่วนะ
00:47:10 → 00:47:17 ฮะคือถ้าเราจะกินเนื้อสัตว์ติดหนังติดมัน เนี่ยนะฮะนะเราก็เอามารวนหรือเอามาคั่ว
00:47:17 → 00:47:26 ให้มันมีน้ำมันลงมาแล้วเราก็จะทำอะไรให้ มันเสร็จไปเป็นชามอาหารจานอาหารเนี่ยนะก็
00:47:26 → 00:47:33 ทำโดยการผ่านความร้อนในครั้งเดียวเลยแล้ว ก็กินได้เลยนะอันนี้แหละนะฮะข้อดีนะเ่อ
00:47:33 → 00:47:40 มันจะมากกว่า นะเราไม่ทำแบบระบบอ่าที่เทำกันทั่วไปแพร่
00:47:40 → 00:47:49 หลายในปัจจุบันนะเพราะว่าเายังอ่าไม่เก็ต หรือว่าไม่รู้ในเชิงลึกอ่ามากเข้าไปหน่อย
00:47:49 → 00:47:58 นะแต่วันเนี้ก็ถือว่าเป็นเชิงลึก เอ่ออีกส่วนนึงแล้วล่ะนะฮะนะว่าเอ่อเอ่อ
00:47:58 → 00:48:07 ถ้าจะต้องการกินน้ำมันของสัตว์จริงๆนะนะ จริงๆนะก็ต้องกิน 1 2 3 ตามที่พูดกันไป
00:48:07 → 00:48:15 วันนี้ก็จบนะในเรื่องคำตอบว่าจะกินน้ำมัน จากสัตว์ยังไงถึงจะปลอดภัยดีที่
00:48:15 → 00:48:19 สุดมีใครสงสัยอะไร
00:48:20 → 00:48:27 มั้ยหายไปหมดแล้ว หมีใครสงสัยอะไรมั้ยจบแล้วเรื่องน้ำมัน
00:48:27 → 00:48:34 หมู เอไม่มีครับพี่หมอนาทีก็ไม่รู้ครับอ่า
00:48:34 → 00:48:42 ผ่านไปประมาณ 35 นาทีครับพี่หมอโอ้เนี่ย เราก็กะๆว่าอย่างงั้นนะฮะอ่าครับทีนี้ต่อ
00:48:42 → 00:48:50 ไปเดี๋ยวเราจะคุยเดี๋ยวเราจะ อแชท
00:48:50 → 00:48:57 นี้ต่อไปเราจะเข้าเรื่องที่เราค้างไว้ใน วันนั้นน่ะก็คือเรื่องเบาหวานนะนะก็จะ
00:48:57 → 00:49:05 เป็นเรื่องของกลไก 7 วิธีในการหายเบาหวาน นะโดยการใช้เรื่องของโภชนาการโล C High
00:49:05 → 00:49:12 Good fp นะไปหรือยังถ้าไปแล้วบอกด้วย ครับมาแล้วครับกินเพื่อ Balance optimal
00:49:12 → 00:49:19 He ครับเออนะเนี่ยเดี๋ยวๆขอดูไปคร่าวๆ นิดนึง
00:49:19 → 00:49:28 โอเคนะนี่ก็จะเป็นอย่างงนี้ เอาอย้อนกลับมา
00:49:29 → 00:49:41 อ้าโอเควันนี้หมอจะคุยในเรื่องของแนวทาง ในการรักษาเบาหวานนะฮะนะของคนทั่วๆไปนะ
00:49:41 → 00:49:47 จริงๆเราก็มีไลฟ์ในเรื่องนี้กันมาหลายๆ ครั้งแล้วนะฮะนะก็แต่ละครั้งแต่ละครั้ง
00:49:47 → 00:49:53 เนี่ยก็มันเหมือนมีทั้งการต่อยอดและการทบ ทวนน่ะนะฮะองค์ความรู้ว่าเรื่องเบาหวาน
00:49:53 → 00:50:02 เนี่ยเออคนเป็นกันเยอะนะแล้วเราก็จะมามี แนวทางยังไงบ้างนะฮะนะในการดูแลเพราะว่า
00:50:02 → 00:50:09 ถึงเป็นเยอะนะแล้วก็มีหลักเกณฑ์หลักการ ทางด้านชการคฟต่ำมาแล้วก็ตามนะแต่คนก็ยัง
00:50:09 → 00:50:18 มีปัญหาเล็กๆน้อยๆมีปัญหาเอ่อคือไม่จบอ่ะ ไม่จบนะด้วยก็ความหลากหลายอ่ะนะฮะนะหรือ
00:50:18 → 00:50:25 มีจุดเ่อขาดจุดเกินอะไรต่างๆในแต่ละ โภชนาการด้วยนะฮะและอีกอย่างนึงการแี่นะ
00:50:25 → 00:50:31 ฮะในการตอบสนองของแต่ละบุคคลเนี่ยอันนี้ ก็เป็นอีกเรื่องนึงนะฮะอย่างเช่นในกรณี
00:50:31 → 00:50:38 เ่อเรื่อง Body type นะฮะเรื่องของเ่อ metabolic สเตตัสเรื่องของ
00:50:38 → 00:50:48 เอ่อหลายอย่างนะหลายๆอย่างอ่ะนะนี้กรณี ที่คนได้ผลดีแล้วนะฮะจากการกินิาการคต่ำ
00:50:48 → 00:50:57 สายไหนก็ตามนะฮะนะนะก็พยายามนะปฏิบัติให้ ดีๆแล้วก็ f ไปเรื่อยๆนะนะโดยเฉพาะถ้าใน
00:50:57 → 00:51:03 ขั้นต้นนะที่เราเรียกว่า DM remission แล้วเนี่ยนะอันนี้ก็โอเคก็ดีใจด้วยนะฮะนะ
00:51:03 → 00:51:10 หลังจากนั้นเนี่ยต้องประคับประคองตัวเอง นะฮะนะถ้าเกิดเรานะเรียกว่า hormonal
00:51:10 → 00:51:16 Reset นะดีแล้วเนี่ยหลังจากนั้นเนี่ยเรา จะมาแค่รีเซตฮอร์โมนอย่างเดียวนักไม่ได้
00:51:16 → 00:51:23 นะนะมันก็ต้องอาจจะมีเ้าเรียกว่า อ่าอาจจะต้องเป็นอะไรอ่ะก็เรียกว่า
00:51:23 → 00:51:29 metabolic flexibility หรืออาจจะต้องมี เรื่องของ Body type Diet Reset อ่า
00:51:29 → 00:51:37 ต่อเนี่ยนะหรือจะมีการเรื่องของ cheating อะไรต่างๆหรือจะเป็นการหมุนเวียนในเรื่อง
00:51:37 → 00:51:44 ของการทำอ่า Fat bomb Day โปน sparing Day อ่า C cheating Day อะไรอย่าง
00:51:44 → 00:51:51 เงี้ยนะฮะนะอ่าเครื่องมือเหล่าเนี้ยนะมัน ก็คือสิ่งที่จะต้องมาเติมเต็มและต้องมา
00:51:51 → 00:51:58 ปรับหมุนเวียนไปเพราะว่าหลักการของร่าง กายก็คือเชอบในในการหมุนเวียนปรับเปลี่ยน
00:51:58 → 00:52:05 เขไม่ชอบอะไรที่ฟิกนะหรือซ้ำๆถี่ๆบ่อยๆ อะไรต่างๆนะฮะเพงั้นเราก็ต้องพยายามเรียน
00:52:05 → 00:52:13 รู้กันไปนะฮะนี้ในครั้งเนี้ยนะหมอพูดถึง เรื่อง 7 เทคนิคนะในการที่จะหายเบาหวาน
00:52:13 → 00:52:20 ให้ดีที่สุดแล้วก็นานที่สุดนะอ่าเริ่มแรก นะนะเริ่มแรกเนี่ยอ่าก็พูดคร่าวๆในเรื่อง
00:52:20 → 00:52:27 ของภาวะที่เขเรียกว่าการกินเพื่อ Balance optimal Health ก็คือสุขภาพภาพที่เหมาะ
00:52:27 → 00:52:34 สมและดีที่สุดสำหรับคนคนั้นเนี่ยนะฮะพื้น ฐานนะถึง 80% ก็อยู่ที่ what to eat
00:52:34 → 00:52:41 หรือการกินนี่แหละนะฮะนะนี้สิ่งที่กินมัน ก็มี 3 อย่างคาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันนะฮะ
00:52:41 → 00:52:46 หลักการกินในสิ่งเนี้ยซึ่งในทางโค High Good Fat เราใช้คำว่าคาร์โบไฮเดรต
00:52:46 → 00:52:52 โปรตีนไขมันมันเป็นพลังงานนะแต่ถ้าเป็น แคลอรี่ก็คือคาร์โบไฮเดรต Fat นะนะแล้ว
00:52:52 → 00:52:59 ถ้าเป็นเกี่ยวกับนนเก็คือโปรตีนกับแฟตนะ นะกินยังไงล่ะนะก็กินให้ครบทั้ง
00:52:59 → 00:53:07 คาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันแล้วต้องเกิดความ พอดีในสิ่งที่กินในแต่ละวันนะนะคือพอดี
00:53:07 → 00:53:14 ทั้งพลังงานและพอดีทั้งสารอาหารนะเพราะ ฉะนั้นก็จะไม่เกิดนะการหลงเหลือให้เกิด
00:53:14 → 00:53:20 กบวนการเก็บสะสมนะฮะทนี้ถ้าเกิดเราจัดสรร ได้อย่างพอดีทั้งพลังงานและสารอาหารและ
00:53:20 → 00:53:27 ครบทั้งคาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันแล้วเนี่ย นะนะอ่าสิ่งที่ร่างกายเราจะได้ขึ้นมาก็
00:53:27 → 00:53:36 คือพลังงานและสารอาหารที่เหมาะสมในระดับ ความพอดีพอดีเ่อพอดีต่อการนำไป
00:53:36 → 00:53:45 ใช้ตัวปฏิกิริยาการตอบสนองนะทางด้าน ฮอร์โมนต่างๆนะฮะใน 2 ฝั่งทั้งสะสมแลก็ผ
00:53:45 → 00:53:50 นะฮะรวมทั้งการทำงานของระบบอัตโนมัติของ ร่าง
00:53:50 → 00:54:00 กายซึ่งตัววัยวะสำคัญในระบบพลังงานหรือ ระบบ met เก็คือตนะฮะนะซึ่งถ้าตามเกณฑ์
00:54:00 → 00:54:06 ที่บอกไปทั้งหมด ตการทำงานของตัหรือระบบเบลิของตับนะจะ
00:54:06 → 00:54:16 อยู่ในฝั่งของกระบวนการสลายเผาปาพังงานนะ มากๆกว่าการสะสมการเก็บสะสมดคือฝั่งของ
00:54:16 → 00:54:23 การที่ตับนะจะเกิดการสลายเ่าปะเนี่ยก็จะ ประมาณ 80 อ่าเปอรขึ้นไปนะส่วนการเก็บ
00:54:23 → 00:54:29 สะสมต่างๆนะเก็บสะสมเพื่อเอามาใช้ซ่อมแซม เพื่อเอามาสร้างอะไรตดใหม่เนี่ยนะก็อยู่
00:54:29 → 00:54:35 ในช่วงไม่เกิน 20% เป็นตัวเลข 80 20 อะไรอย่างนี้ด้วย
00:54:35 → 00:54:46 นะเพราะฉะนั้นจำไว้ว่ากินถูกต้องเหมาะสม พอดีแล้วนะเนี่ยต้องนะฮะอ่าต้องให้ตับนะ
00:54:46 → 00:54:54 อยู่ในฝั่งของการสลายเผาขานพลังงานเป็น หลักนะฮะครับผมถ้าเราทำได้แบบเนี้ยนะฮะทำ
00:54:54 → 00:55:03 ได้แบบเนี้ยนะอันนี้ก็ถือว่านะเข้าเกณฑ์ และนะนะที่จะฟื้นหรือ emission นะเรื่อง
00:55:03 → 00:55:11 ปัญหาทั้งนั้นเบอินะฮะการสลายเผาผลาญที่ เกิดขึ้นนะฮะโดยเฉพาะที่ตับเนี่ยนะแล้วก็
00:55:11 → 00:55:18 ไปเหนี่ยวนำให้เซลล์ต่างๆเนี่ยนะได้เกิด การสลายเผาผลาญแล้วก็เกิดคีโตนขึ้นมานะ
00:55:18 → 00:55:26 ตรงนี้นะฮตรงนี้นะนะตัวพลังงานต่างๆใน ระดับที่จะเป็นแค่พลังงานจากี fy Acid
00:55:26 → 00:55:36 จะเป็นที่โนได้มาข้อ 3 เราจะนำมาใช้อ่าใน การนำพาสารอาหารหรือเป็นพวกวัตถุดิบต่างๆ
00:55:36 → 00:55:44 ที่เรามีการเก็บสะสมแบบ 20% ก็คือโปรตีนนะอ่อตัวแฟตที่จะกลาย
00:55:44 → 00:55:52 เป็นโครงสร้างและตัวคอเลสเตอรอล เราเอาไปใช้ในการซ่อมนะโครงสร้างต่างๆนะ
00:55:52 → 00:55:58 ในส่วนที่เสื่อมสภาพสึกหลอเสียหายแล้วก็ สร้างใหม่
00:55:58 → 00:56:05 ซึ่งนะในกระบวนการที่แถบสีเหลืองอยู่ เนี่ยนะอันนี้จะมักจะเกิดในเวลากลางคืนนะ
00:56:05 → 00:56:14 ฮะกลางคืนกลางคืนก็เป็นที่เรารู้กันว่า เป็นช่วงเวลาของการอ่าซ่อมแลก็ซ้างนะฮะนะ
00:56:14 → 00:56:20 ครับผมแต่ในส่วนด้านบนเนี่ยนะก็จะเป็น ช่วงเวลาที่จะมักจะเกิดในตอนกลางวันนะฮะ
00:56:20 → 00:56:30 นะเป็นช่วงเวลาที่ฟีดนะฮะนะกลางคืนนี่จะ เป็นช่วงเวลาานะตัวพลังงานที่สะสมมา
00:56:30 → 00:56:37 เรื่อยๆตั้งแต่ช่วงกลางวันเนี่ยนะอ่าก็จะ เป็นการที่ทำงานแบบครบวงจรในการนำสาร
00:56:37 → 00:56:45 อาหารต่างๆไปซ่อมส้างถ้าเราทำได้อย่างนี้ ในตลอดรอบ 24 ชั่วโมงหรือ 1 วันนะฮเราก็
00:56:45 → 00:56:52 จะพบว่าทั้งตัวพลังงานและสารอาหารจะเกิด ความพอดิบพอดีนะฮะนะในการเก็บและการใช้นะ
00:56:52 → 00:57:00 ฮะนะไม่เกิดการเหลือคั่งคางที่จะต้อง เปลี่ยนแปลงสภาพแล้วเก็บสะสมไปเป็นส่วน
00:57:00 → 00:57:07 เกินนะที่ในที่สุดแล้วเมื่อนานๆเข้าก็อาจ จะนำมาซึ่งปัญหาทางด้านอ่า metabolic
00:57:07 → 00:57:13 แล้วกลายเป็นโรค ncd นั้นตรงเนะฮะนะคำอธิบายก็คือกินให้
00:57:13 → 00:57:20 พอกินให้ครบแล้วใช้ให้หมดในแต่ละวันก็คือ การ Balance optimal Health ให้เกิด
00:57:20 → 00:57:24 ภาวะ Healthy Performance ที่ดีที่สุด ของร่างนะ
00:57:24 → 00:57:34 ฮะอย่าไก็ดีนะร่างกายเนี่ยนอกจากมีระบบ ของการเผาผลาญกับสะสม 8020 นะฮะนะร่างกาย
00:57:34 → 00:57:43 ยังมีระบบของการ summation คือการเกลี่ย และการเฉลี่ยสิ่งต่างๆนะก็คือไม่ได้ิกนะ
00:57:43 → 00:57:52 หรือยึดโยงอยู่ที่เวลาต่อวันต่อ 24 ชั่วโมงซะอย่างเดียวอ่าในระบบร่างกาย
00:57:52 → 00:58:00 เนี่ยก็ยังมีอ่าเรื่องของการเกลี่ยการ เฉลี่ยสิ่งต่างๆที่มากน้อยขาดเกินนะนะไป
00:58:00 → 00:58:09 ในแต่ละวันนะฮะนะในรอบประมาณ 8-10 วันนะ ส่วนใหญ่เราก็ยึดเกณฑ์ที่ประมาณ 10 วัน
00:58:09 → 00:58:13 แหละ 8 [เพลง]
00:58:13 → 00:58:20 วันจะต้องทำในสิ่งที่เหมาะสมถูกต้องนะอ่า แต่อาจจะมีสัก 2 วันที่มากน้อยขาดเกินนะ
00:58:20 → 00:58:28 ฮะอย่างไรก็ตามภายในรวมๆ Over 10 วัน เนี่ยนะอ่าร่างเก็จะเฉลี่ยมชเรื่องพลัง
00:58:28 → 00:58:36 งานและสาอหารต่างๆนะฮะให้ให้มันอยู่ใน ระดับที่โอเคยอมรับได้มยนะนะเกิดความถูก
00:58:36 → 00:58:45 ต้อง 80% นะอาจจะเกิดความอ่าไม่ถูกต้องัก 20% ถ้าอย่างเงี้เนี่ยนะเรียกว่าอ่ายัง
00:58:45 → 00:58:52 อยู่ในภาวะของ optimal Health นะเพ ฉะนั้นคั้นหน่อยครับขัรายการหน่อยครับพี่
00:58:52 → 00:59:01 ไพโรจเสียงเข้าตลอดเลยครับพี่ ครับเดี๋ยวปิดเสียงก่อนครับ
00:59:03 → 00:59:12 ครับทีนี้ต่อเลยครับในทางปฏิบัติเนี่ยใน ทางปฏิบัติเซลล์ต่างๆทุกๆเซลล์โดยเฉพาะ
00:59:12 → 00:59:21 ที่เซลล์ตับเนะเอ่อในระบบของพลังงานเนี่ย เค้าก็จะมีการเผาผลาญกับการสะสมนะเอ่อไป
00:59:21 → 00:59:27 ตลอดเวลานะทั้งกลางวันกลางคืนเนี่ยนะแต่ เวกี้ก็บอกแล้วว่าเอ่อยังไงก็ตามเนี่ยเรา
00:59:27 → 00:59:33 ต้องผลักดันให้เกิดกระบวนการเผาผลาญสลาย พลังงานเนี่ยให้มากกว่าการสะสมนะฮะนะ
00:59:33 → 00:59:40 เพราะว่านะสภาวะร่างกายที่อ่าอยู่ในเกณฑ์ ที่เรียก optimal Health เนี่ยนะเราก็จะ
00:59:40 → 00:59:47 ต้องเนี่ยสลายเผาผ่านนะฮะนะแล้วการกิน อย่างพอดีเหมาะสมนะฮะก็จะทำให้ทุกสิ่งทุก
00:59:47 → 00:59:55 อย่างเนี่ยนะอยู่ในเกณฑ์บวกลบคูณหารนะ แล้วกลายเป็น 0 นะฮะแล้วก็ไม่เหลือเก็บนะ
00:59:55 → 01:00:04 ทีนี้มามาดูว่าเนี่ยในกรณีที่เราอยู่ใน โชนาการแบบคาฟต่ำนะฮะนะโดยเฉพาะในกลุ่ม
01:00:04 → 01:00:10 ของเราก็คือ low C High Good Fat tre Oil นะนะซึ่งในมื้อแรกเนี่ยเราเน้นการ
01:00:10 → 01:00:17 กินน้ำมันสกัดเย็นจากพืชในรูปของน้ำสลับ นะอันนี้เนี่ยมันก็คือเพีย Fat Energy
01:00:17 → 01:00:26 นั่นเองนะฮะซึ่งเขาจะเป็นตัวช่วยตับนะอ่า ในเรื่องของการเผาผลาญพลังงานนะนะเื่อง
01:00:26 → 01:00:36 การงานซึ่งนะในการกิน low C High Fat TE Oil ในมื้อแรกเนี่ยปรากฏว่าเราพบว่า
01:00:36 → 01:00:44 ตับจะเกิดกระบวนการเผาผลาญเนี่ยประมาณ 80% นะฮะนะของการเผาผลาญพลังงานรวมทั้งวันนะ
01:00:44 → 01:00:53 ถ้าได้ในรูปแบบที่ว่านี้นะนะโดยใน 80% เนี่ยนะน้ำมันพืชสกัดเย็นตรีออยนะฮะมันมี
01:00:53 → 01:01:02 เอี่ยวมีผลถึง 60% นะนะแล้วไขมันดีต่างๆนะฮะนะที่ปะปนนะแทรก
01:01:02 → 01:01:08 อยู่ในโปรตีนของสัตว์เหล่าเของสัตว์ที่ กินในมื้อแรกเนี่ยนะฮะนะอ่าพวกนี้ก็คือ
01:01:08 → 01:01:14 พวกเนื้อสัตว์ติดหนังติดมันเครื่องใน สัตว์ไข่แดงนะพวกชีสต่างๆเหล่านี้เขาก็มี
01:01:14 → 01:01:21 โปรตีนอยู่นะโปรตีนเหล่านี้เนี่ยนะร่าง กายก็จะมีการนะสลายมาเป็นพลังงานในกระบวน
01:01:21 → 01:01:28 การเผาผลาพลังงานนะอยู่ 20% เพราะฉะนั้น รวมๆแล้วเนี่ยนะนะถ้าถูกต้องในแบบ low C
01:01:28 → 01:01:35 High Fat 3 Oil ในมื้อแรกเนะเราเผา พลังงานเป็นอยู่แล้วนะ 80% นะนะนะเพราะ
01:01:35 → 01:01:43 ฉะนั้นเนี่ยอันนี้เรียกว่าจะพอดีะทั้งวัน ทั้งวันขอให้มีพลังงานเผาผลาสัก 80% นะ
01:01:43 → 01:01:49 อย่างนี้เนี่ยร่างกายโอเคแล้วนะฮะซึ่งจะ มากกว่านี้ก็ได้นะก็ได้นะแล้วหลังจากนั้น
01:01:49 → 01:01:56 มื้อเย็นเนี่ยนะก็แค่เป็นการเติมให้ครบนะ ฮะอ่าก็แล้วแต่พลังงานจะได้มากได้น้อยนะ
01:01:56 → 01:02:01 นะแต่ว่าเมื้อเย็นเราส่วนใหญ่เราเติมให้ ครบในเรื่องสารอหารเราไม่ค่อยไปแคร์ไอ้
01:02:01 → 01:02:07 เรื่องพลังงานเท่าไหร่อาจจะมีพลังงานบวก ขึ้นมาอีกนิดหน่อย 5% 10% เนี่ยก็โอเค
01:02:07 → 01:02:14 อ่ะได้นะเพราะว่าเผื่อมื้อแรกมันกินอิ่ม ก่อนนะแล้วก็มันอาจจะไม่ถึง 80% ดีนะ
01:02:14 → 01:02:21 เนี่ยแต่ถ้าถ้าการฟิกในการกินจำนวนช้อน หรือจำนวนปริมาณน้ำมันสกัดเย็นทีออยอิ่ม
01:02:21 → 01:02:27 เดี่ยวซ้อนอ่าในอัตราส่วน 30 50 20 ที่ คำนวณมาให้เนี่ยนะพวกนี้เนี่ยอย่างน้อย่ะ
01:02:27 → 01:02:34 ก็เป็นตัวประกันแล้วล่ะว่าเราได้ได้พลัง งานแน่นอนนะฮะตับมันเผาผ่านพลังงานแน่นอน
01:02:34 → 01:02:41 60% นะฮะหลังจากนั้นเราจะเติมสัตว์มาก น้อยอ่าอะไรขาดเกินหรือว่าอิ่มก่อนหรือ
01:02:41 → 01:02:48 ว่ากินไม่ไหวหรือว่าอะไรก็ตามนะฮะนะอัน นี้ก็อยู่ในช่วงเนี้ยประมาณเนี่ยตั้งแต่ 5
01:02:48 → 01:02:57 นะส่วนใหญ่ก็คือ 10 -20% 10 15 20% ทีนี้เหตุผลเนี่ยนะฮะนะถ้าถทำไมถึง
01:02:57 → 01:03:03 แนะนำให้กิน ow Car High Fat Oil นะ ฮะแล้วกินในรูปแบบที่มันเป็นไอทโปรตีนจาก
01:03:03 → 01:03:12 สัตว์นะร่วมกับไขมันดี Good Healthy Fat ที่ทำเป็นน้ำสละเเพราะว่านะโหมดในการเผา
01:03:12 → 01:03:23 ผลาญพลังงานของตับนะและโดยทั่วร่างกายนะ ฮะมันจะเป็นการที่นะฮะนะคือยิ่งทำนะฮะอ่า
01:03:23 → 01:03:32 ไปเรื่อยๆนะจนชินชินๆๆนานๆนานๆเข้าเนี่ย นะฮะร่างกายเนี่ยจะถูกนะเพิ่มอัตราการเผา
01:03:32 → 01:03:37 ผานขั้นพื้นฐานที่เรียกว่า basal metabolic Rate ขึ้นนะนะอันนี้ก็เพิ่ม
01:03:37 → 01:03:44 โดยอัตโนมัติดยยการกินเลยนะแต่ในช่วงแรก น่ะอาจจะ 1-3 เดือนน่ะคุณก็ทำให้มันให้
01:03:44 → 01:03:51 มัน sle set up ก่อนนะฮะนะแล้วหลังจาก นั้นในช่วงกว่าเดือนไปเรื่อยๆเนี่ยนะฮะ 6
01:03:51 → 01:03:58 เดือนไปแล้ว 9 เดือนไปแล้วเนี่ยนะฮะเนี่ย เราจะพบว่าในการกินแบบเนี้ยนะฮะนะอ่า Bal
01:03:58 → 01:04:03 met Rate เราจะเพิ่มขึ้นนะฮะเราจะเพิ่ม ขึ้นเพราะงั้นยิ่งเพิ่มขึ้นก็ยิ่งดีนะเรา
01:04:03 → 01:04:11 ก็จะมีเรียกมีแรงมีพลังงานใช้นะฮอย่าง เหลือเฟือนะฮะนอกจากนี้ไอ้ตัวโปรตีนกับไข
01:04:11 → 01:04:17 มันนะที่กินน่ะโดยเฉพาะกลุ่มโปรตีนที่เรา กินในมื้อแรกก็คือโปรตีนไขมันสูงกับไขมัน
01:04:17 → 01:04:23 ปานกลางแล้วก็ยังมีน้ำมันสกัดเย็นจากพืช นะฮะนะนะซึ่งจะก่อให้เกิดกระบวนการสลาย
01:04:23 → 01:04:27 ผ่อผานพลังงานถึง 80% นะฮะในในลักษณะนี้ เนี่ย
01:04:27 → 01:04:36 อ่าผลของตัวโปรตีนไขมันสูงไขมันันกลางกับ น้ำมันสกัดเย็นจากพืชเนี่ยนะมันเป็นตัว
01:04:36 → 01:04:42 ที่เ้าเรียกว่าเพิ่มอ่าการใช้พลังงานใน กระบวนการย่อยและดูดซึมที่เรียกว่า
01:04:42 → 01:04:48 thermogenic Effect of food นะฮะ เพราะฉะนั้นอันนี้คือประโยชน์นะอ่าที่ดี
01:04:48 → 01:04:55 มากๆใน 2 เรื่องนะก็คือการเพิ่ม metabolic Bal metabolic Rate กับการมีนะอ่าพลัง
01:04:55 → 01:05:02 งานที่เกิดจาก thermogenic effect of food นะนะนะเพราะฉะนั้นกินเถิดนะฮะ low
01:05:02 → 01:05:10 C High Good f 3 Oil ในมื้อแรกอ่า ต้องจัดต้องจัดนะแล้วก็ก็ช่วยตับตับเองเ
01:05:10 → 01:05:18 ก็ชอบชอบชอบนะตับก็ชอบแบบนี้นะฮะตับก็ไม่ ชอบคาฟไม่ชอบผลไม้ไม่ชอบน้ำตาลไม่ชอบแป้ง
01:05:18 → 01:05:28 นะไม่ชอบโพเศษาฟนะหรืออ่าอาหารแปรรูปที่ จะเกิด Random Cycle นะเกลัวกลัวนะนะ
01:05:28 → 01:05:34 แล้วพวกนั้นเนี่ยมันก็อินซูลินมาปุ๊บ อินซูลินก็อ่าเซลล์ตับมันก็ยิ่งกลัวกลัว
01:05:34 → 01:05:42 กลัวนะฮะนะนี้เหตุผลของการใช้น้ำมันดี เอ้ยโทษทของการใช้น้ำมันสกัดเย็นที่เป็น
01:05:42 → 01:05:49 ไขมันดีในรูปแบบของน้ำสลัดทีออยเนี่ยนะก็ อันนี้ 1 2 3 นะเพรางั้นยิ่งเราเป็นเบา
01:05:49 → 01:05:58 หวานนะฮะนะนะสิ่งเหล่านี้คือข้ออธิบายนะ ของคุณประโยชน์นะหรือเหตุผลนะที่เราต้อง
01:05:58 → 01:06:06 ปรับโภชนาการมาใช้รูปแบบที่เป็นี Oil ี O ในมื้อแรกนะฮะมื้อแรกนะลองอ่านดูนะฮะนะ
01:06:06 → 01:06:16 อันเนี้ยนะเป็นเหตุเป็นผลและเป็นเป็นการ ขยายความนะที่จะทำให้เราให้เราไม่หลุดนะ
01:06:16 → 01:06:24 ฮะหรือให้เราเห็นนะอ่าความที่อยากจะ revere remission เบาหวานให้มันได้นะฮะ
01:06:24 → 01:06:32 เพราะว่าตัวเนี้ยเป็นเครื่องมือพิเศษนะนะ นะไม่ใช่ว่ามุ่งแต่จะไปไอทโปรตีนอย่าง
01:06:32 → 01:06:39 เดียวนะฮะนะการมีตัวเสริมโดยเฉพาะตัวพลัง งานจากน้ำมันสกัดเย็นของพืชเหล่าเนี้ยอัน
01:06:39 → 01:06:48 นี้สำคัญมากๆนะฮะสำคัญมากๆนะในเรื่องของ การจัดการพลังงานนะนะแล้วก็ไอ้ตัวพลังงาน
01:06:48 → 01:06:53 ที่เป็นคาฟต่างๆเหล่านั้นเนี่ยนะเราก็ เป็นเบาหวานอยู่แล้วเนี่ยนะเราก็ต้องกลัว
01:06:53 → 01:06:59 าฟกลัวน้ำตาลนะฮะแล้วเคกลัวอินซูลินนะ เพราะว่าอินซูลินเค้าก็ชอบมากๆเลยน้ำสลัด
01:06:59 → 01:07:07 ทีออยหรือน้ำมันสกัดเย็นนะฮะนะเชอบนะแต่เ ไม่รู้จะส่งสัญญาณมาบอกเราได้ยัง
01:07:07 → 01:07:14 ไงนี้เราก็จะมาดูในเรื่องของเบาหวานในใน ใน 2 ส่วนเนี้ยนะฮะนะอันนี้ก็คือหัวใจ
01:07:14 → 01:07:22 สำคัญของการไลฟนะในวันนี้นะนะอ่ะอ่ารู้ จักเบาหวานในรูปแบบของ ow C High ก Fat
01:07:22 → 01:07:27 นะฮะเบาหวานไม่ใช่โรคนะฮะนะก็คือเบาหวาน เนี่ยเนี่ยนะมันเป็นความไม่ปกติของ
01:07:27 → 01:07:36 ฮอร์โมนนะฮะนะเบาหวานนะคือความผิดปกติ หรือความ ABnormal ของฮอร์โมนนะนะไม่ใช่
01:07:36 → 01:07:43 เรื่องน้ำตาลไม่ใช่เรื่องน้ำตรงน้ำตาล อะไรต่างๆนะฮะไม่ใช่นะฮะนะนะอันนั้นเนี่ย
01:07:43 → 01:07:52 มันเป็นตัวเป็นผลนะฮะ นะเป็นผลนะที่ตามมานะฮะนะแต่ปัญหาหลักๆนะ
01:07:52 → 01:07:58 หรือเหตุจริงๆเลยคือ ABnormal hormonal Balance นะนะคือความไม่ปกติ
01:07:58 → 01:08:07 ของฮอร์โมนนะซึ่งฮอร์โมนเนี่ยที่เขาผิด ปกติเนี่ยเขาก็จะส่งสัญญาณนะออกมานะเพื่อ
01:08:07 → 01:08:17 บอกอะไรเรานะฮะนะเพื่อบอกว่าเรากินและได้ พลังงานนะจากคาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันเข้า
01:08:17 → 01:08:24 สู่ร่างกายผิดอไม่ถูกต้องมากน้อยขาดเกิน นะฮะนะก็คือรวมไปหมดเลยอ่ะทั้ง
01:08:24 → 01:08:32 คาร์โบไฮเดรตอทั้งโปรตีนทั้งไขมันผิดนะ ส่วนใหญ่ใช้คำว่าผิดเป็นคำใหญ่ๆนะฮะนะ
01:08:32 → 01:08:39 หรือไม่ถูกต้องนะไม่ถูกต้องอันนี้ก็คือ เรื่องสำคัญที่สุดที่ต้องเป็นการปรับแก้
01:08:39 → 01:08:47 ขั้นพื้นฐานนะและในระยะยาวในระยะยาวเพราะ ว่าเรื่องของพลังงานนะที่เป็นเรื่องค้า
01:08:47 → 01:08:55 โปรตีนไคมันเหล่านี้แหละนะฮะที่จะไป เปลี่ยนความผิดปกติของฮอร์โมนนะซึ่งก็ก็
01:08:55 → 01:09:04 จะไปมีผลทำให้เกิดภาวะรมิของเบาหวานและ เบาหวานหายโรคหายไปได้นะฮอ่าอันนี้หัวใจ
01:09:04 → 01:09:10 สำคัญที่สุดก็คือข้อนี้นะฮะนะนะคือ ฮอร์โมนที่ผิดปกติเขามาบอกว่าสิ่งเหล่า
01:09:10 → 01:09:18 นี้เนี่ยเราต้องปรับมันได้อยู่ตอนนี้หรือ ที่กินมาเนินานกาเล 10 ปี 20 ปีอ่ะมันกิน
01:09:18 → 01:09:26 ผิดนะฮะกินผิดนะโดยเฉพาะเนี่ยร่างกายไม่ ต้องการโมเลกุลของน้ำตาลต่างๆต่าจากภาย
01:09:26 → 01:09:37 นอกนะฮะนะนะเราไม่ต้องการนะนะแต่ไม่รู้จะ บอกยังไงนะนะแล้วน้ำตาลต่างๆนะจริงๆแล้ว
01:09:37 → 01:09:46 ร่างกายสามารถสร้างขึ้นมาได้เองนะฮะนะ เนี่ยร่างกายมันสร้างขึ้นมาได้เองนะแต่
01:09:46 → 01:09:53 น้ำตาลจากภายนอกเนี่ยนะมันจะไปทำให้เกิด ความไม่สมดุลของฮอร์โมนนะฮะอันนี้เราไม่
01:09:53 → 01:09:59 ต้องการเราไม่ต้องการ อ่ะเรื่องกินผ่านไปก็มาเรื่องนอนนะนะ
01:09:59 → 01:10:09 เรื่องนอนนะอ่าเรื่องนอนนะก็คือคุณนอนไม่ ดีหลับไม่มีคุณภาพนะฮะไม่เกิดภาวะที่
01:10:09 → 01:10:16 เรียกว่า Deep Sleep นะนะซึ่ง Factor ใน เรื่องการนอนหลับเนี่ยนะอ่ามีส่วนใหญ่ก็
01:10:16 → 01:10:21 คือเป็นปัญหาพื้นฐานมาจากการกินนี่แหละนะ แต่มันก็จะมีเอี่ยวเรื่องอื่นๆจิตใจ
01:10:21 → 01:10:29 อารมณ์แนวความคิดนะสิ่งแวดล้อมหน้าที่การ งานอะไรก็อีกเรื่องนึงนะแต่เ่อเยอะๆเลยนะ
01:10:29 → 01:10:35 ฮะนะของปัญหาหลักของการนอนไม่ดีนอนไม่ หลับไม่มีคุณภาพเนะกินกินผิดก็คือข้อแรก
01:10:35 → 01:10:44 นะนะต่อไปนะมีการออกแรงออกกำลังมากไปน้อย ไปนะซึ่งอันเนี้ยมันก็จะมีผลต่อกล้าม
01:10:44 → 01:10:54 เนื้อลายนะและกล้ามเนื้อหัวใจนะฮะนะในแง่ คือการออกกำลังนะฮะนะไม่ทำเลยนะไม่ออกเลย
01:10:54 → 01:11:02 นะก็มีผลต่อทั้งกล้ามเนื้อลายและกล้าม เนื้อหัวใจนะฮะนะทำมากไปหักโหมทำติดๆกัน
01:11:02 → 01:11:11 นานนะฮะนะเ่อไม่เหมาะสมก็มีผลหมดนะฮะทั้ง กล้ามเนื้อลายนะและกล้ามเนื้อหัวดใหญ่นะ
01:11:11 → 01:11:19 ฮะคือกล้ามเนื้อลายเนี่ยต้องการการออกแรง ออกยันนะแต่แนวทางของกล้ามเนื้อลายนะฮะนะ
01:11:19 → 01:11:26 ที่เต้องการเที่เต้องการเนี่ยส่วนใหญ่เ ต้องการในเรื่องของการเวทหรือการต้าแรงนะ
01:11:26 → 01:11:33 ฮะเนี่ยโดยเฉพาะคนผอมๆนะฮะนะต้องเวทหรือ ต้านแรงอ่ะนะเป็นตัวหลักที่จะไปทำให้เกิด
01:11:33 → 01:11:42 ความ Fit แน Firm นะของตัวกล้ามเนื้อลนนะ ส่วนในแง่กล้ามเนื้อหัวใจเนี่ยนะเนี่ย้าห
01:11:42 → 01:11:48 ใจก็ต้องการฮิหรือิฮะนะก็คือการออกกำลัง กาย
01:11:48 → 01:12:00 อ่าหนักๆและเร็วๆในช่วงเวลาสั้นๆนะที่อ่ะ ที่แอรีนจะมานะแต่คอร์ติซอลต้องไม่มานะ
01:12:00 → 01:12:06 เมื่อนั้นเนี่ยกล้มหือหัวใจเจะิเพราะ ฉะนั้นในแง่ของการบริหารอ่าออกแรงออก
01:12:06 → 01:12:13 กำลังกล้ามเนืหใจเนี่ยคุณต้องทำในเรื่อง ของฮิหรือ Sit นะฮะนะ Hi
01:12:13 → 01:12:20 hi แต่ในเรื่องกล้ามเนื้อลายนะฮะกล้าม เนื้อลายนะอันนี้คุณจะต้องทำในเรื่องของ
01:12:20 → 01:12:28 การเหรือการ resistance Training นะจะ เห็นว่าไม่มีคำว่าคาร์ดิโอนะไม่มีคำว่าแ
01:12:28 → 01:12:36 คือคำว่าคาร์ดิโอจริงๆเนี่ยนะมันเป็นพื้น ฐานของการหดคายกล้ามเนื้อต่างๆนะฮะนะนะ
01:12:36 → 01:12:44 อ่าแล้วก็เป็นลักษณะ อ่าที่ไปช่วยอย่างอย่างอาจจะมีการเดินภาย
01:12:44 → 01:12:48 หลังมื้ออาหารเพื่อลดน้ำตาลอะไรอย่าง เงี้ยนะฮะนะคืออันนั้นเ่ะมันเป็นเรื่อง
01:12:48 → 01:12:56 ของการเคลื่อนไหวมีการลดคลายนะเป็นการ ขยับเขยื้อนพื้นๆนะฮะของร่างกายทั้งล่าง
01:12:56 → 01:13:02 นะนะแต่ในแง่ของการจะส่งเสริมความแข็ง แกร่งความแข็งแรง Fit แน Firm นะนะของ
01:13:02 → 01:13:10 กล้ามเนื้อลายก็ต้องนะิหรือนะเอ้ยโทษทีก็ ต้องเทนะหรือ resistance Training นะฮะ
01:13:10 → 01:13:17 แต่กล้ามเนื้อหัวใจคือซิหรือยินะอันนี้นะ แต่ยังไงก็ตามถ้าคนไม่รู้ไม่เข้าใจไม่มี
01:13:17 → 01:13:24 หลักการนะคุณออกกำลังกายมากไปน้อยไฟไม่ ออกเลยอะไรอย่าเงี้นะฮะนะพวกนี้ก็จะมีผล
01:13:24 → 01:13:32 ต่อฮอร์โมนนะซึ่งในที่สุดนะอ่าเบาหวานมัน ก็จะไม่ดีควบคุมไม่ได้นะฮอร์โมนฉพาะตัว
01:13:32 → 01:13:40 ไหนอ่ะตัวคอซอออกมาเนี่ยก็จะเกิดการกลูโค เจนิน้ำตาลก็จะบานเบอะนะในกระแสเลือดใน
01:13:40 → 01:13:49 ร่างท่วมท้นไปทั่วทุกเซลล์นะอันต่อมาก็ คือเรื่องการกินและไม่กินนะอ่าการกินกับ
01:13:49 → 01:13:55 ไม่กินอย่างไม่ถูกต้องนะก็คือ intermittent fasting นะฮะนะ
01:13:55 → 01:14:04 คือสิ่งนี้เนี่ยนะคนบางส่วนก็ไม่ต้องทำนะ ฮะนะหรือคนที่ทำเนี่ยก็ต้องทำอย่างพอดีนะ
01:14:04 → 01:14:11 เพราะทุกอย่างจะมีความถูกความผิดนะความ ถี่ความบ่อยยาวนานอ้าสั้นไปไม่เหมาะสม
01:14:11 → 01:14:21 อะไรต่างๆนะอันนี้เนี่ยเรื่องไจะเป็น เรื่องหลังๆนะนะในกรณีของของบวานะฮะนะแต่
01:14:21 → 01:14:27 ว่าเรื่องแรกๆเลยเก็คือเรื่อง what to eat กับเรื่องนอนเรื่องโนะฮะนะเรื่องออก
01:14:27 → 01:14:34 แรงออกกำลังกับเรื่องไเนี่ยก็แล้วแต่ให้ ดูเป็นคนๆไป
01:14:34 → 01:14:42 ด้วยคือหลักการของไเนี่ยนะหรือการเว้นวรร การกินไม่กินอะไรต่างๆเนี่ยนะอ่าโดยทั่ว
01:14:42 → 01:14:48 ไปเนี่ยก็คือคือการที่ร่างกายเนี่ยเขา ต้องการจะทำงานหรือจในแง่ของการกินเนี่ย
01:14:48 → 01:14:56 เป็นมื้อๆเท่านั้นนะนะอ่าจะวันละ 2 มื้อ หรือหรือมีมื้อแทรกอีกมื้อ 2 มื้ออะไร
01:14:56 → 01:15:03 ต่างๆนะฮะนะแล้วในขณะที่ไม่ได้กินนะฮะนะ ก็จะต้องมีความสบาย
01:15:03 → 01:15:08 ดีอันนี้ก็คือเป็นเรื่องของ If หรือเขา เรียกว่า Time
01:15:08 → 01:15:15 restricted feeding and fasting ที่ ถูกต้องนะนะอยามใดก็ตามที่ไม่ได้กินต้อง
01:15:15 → 01:15:24 สบายดีต้องสบายดีนะฮะถ้าจะกินต้องเป็น มื้อๆนะฮะนะก็แล้วแต่ข้อกำหนดนะส่วนใหญ่
01:15:24 → 01:15:28 เกณฑ์ูทั่วไปคือ 2 มื้อเรียกว่า Two Meal A Day นะ
01:15:28 → 01:15:36 นะถามว่ากินแบบ omas มื้อเดียวได้มยมันก็ ได้นะแต่มันเอามาสลับเป็นช่วงสั้นๆนะฮะนะ
01:15:36 → 01:15:42 เพราะในเรื่องของของของ Time restricted เ่อ feeding เนี่ยนะนะอันนี้มันจะต้องมี
01:15:42 → 01:15:49 การ rotate rotating มีการ circulate ไป ด้วยเเรียกว่า rotate If นะฮะบางคนก็จะ
01:15:49 → 01:15:59 ไปิกอยู่กับ 23/1 omas นะหรือจะไปกิน อะไรอ่ะอ่า 16/8 18/6 นะชั่วนาตาปีอัน
01:15:59 → 01:16:06 นี้มันไม่ใช่นะนะเพราะว่าทุกอย่างพวก เนี้ยนะฮะนะก็ต้องมีการเรื่องการ ting นะ
01:16:06 → 01:16:12 ฮะโตเพราะร่างกายชอบการหมุนเวียนสลับสับ เปียบนะแม้แต่เรื่อง
01:16:12 → 01:16:20 อาหารทีนี้เรามาดูว่าเบาหวานเนี่ยแก้ไข ง่ายๆด้วยการลงมือปฏิบัตินะอย่างด้วยตน
01:16:20 → 01:16:28 เองนะฮะต้องทำด้วยตัวเองอย่างมีความรู้นะ มีความเข้าใจนะฮะนะคือในแง่ของความรู้
01:16:28 → 01:16:35 เนี่ยนะนะก็ต้องบอกก่อนว่า เอ่อก็ไม่จำเป็นเสมอไปนะนะหลายคนนะฮะคือ
01:16:35 → 01:16:43 ทำทำๆแล้วก็มาอ่านเหตุอ่านผลอ่านความรู้ หรือการมีองค์ความรู้ตลบหลังนะฮะนะไม่
01:16:43 → 01:16:50 จำเป็นต้องมาศึกษาหาความรู้ก่อนเสมอไปนะ ฮะเราทำก่อนนะฮะเนี่ยแล้วก็เรามาค่อยๆ
01:16:50 → 01:16:59 ปรับค่อยๆแก้นะฮะออันนี้หลายคนก็ต้องมัน ไม่มีเวลานะฮะนะจะมานั่งรอให้รู้เหตุรู้
01:16:59 → 01:17:07 ผลนะมันไม่ใช่ไม่ใช่นะเอ่อทีนี้เบาหวาน เนี่ยเอ่อมีเทคนิคยังไงบ้างนะฮะเนี่ยก็
01:17:07 → 01:17:16 เทคนิคนี้ 4 ข้อนะฮะ 4 ข้อนะอันที่ 1 คือ การจัดการพลังงานนะจากค้าโปรตีนไขมันดีๆ
01:17:16 → 01:17:26 นะให้ได้ครบนะทุกอย่างนะแบบพอดีพอดีนะฮะ นะต่อวันแล้วไม่เหลือสะสมไม่เหลือสะสมอัน
01:17:26 → 01:17:33 นี้ก็คือหลักการข้อที่เราพูดกันมาตั้งแต่ แรกแล้วนะฮะว่าว่าเรื่องประเด็นเรื่องของ
01:17:33 → 01:17:41 พลังงานนะจากทั้งคาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมัน เนี่ยนะจะต้องครบและมีปริมาณที่พอดีไม่
01:17:41 → 01:17:50 สะสมนะนะอันนี้ก็จะมีตัวเลขที่จะต้อง คำนวณนะนะแล้วก็ใช้ผลแหลบต่างๆมาคอยปรับ
01:17:50 → 01:17:56 เพิ่มลดอะไรอย่างงี้ นะในสิ่งที่เป็นพลังงานจากค้าโปรตีนไข
01:17:56 → 01:18:03 พันธเนี่ยนะต้องมีเรื่องของไส้ในที่เป็น ชนิดประเภทนะจำนวนปริมาณรวมทั้งการกระจาย
01:18:03 → 01:18:12 นะเป็นมื้อๆของวันนะะนะก็แล้วแต่ตั้งแต่ omx หรือมื้อเดียวหรือ 2 มื้อหรือการมี
01:18:12 → 01:18:22 มื้อแทรก 1-2 มื้อในแบบกิน 2 มื้อด้วยนะ ฮะการปรุงตกแต่งอาหารนะฮะนะเอ่อจะต้องมี
01:18:22 → 01:18:31 หลักเกณฑ์ที่จะเป็นการช่วยเพิ่มสารอาหาร นะอและเป็นการเพิ่มสารอาหารที่จะทำให้
01:18:31 → 01:18:38 เกิดความชอบของอินซูลินที่จะมาทำหน้าที่ ตามปกติแบบขยันันในการลดน้ำตาลก็อินซูลิน
01:18:38 → 01:18:46 เนี่ยก็ลดน้ำตาลนะภาวะ insulin suppress หรือฟังก์ชันนะอันนี้เป็นเรื่องนะเรื่อง
01:18:46 → 01:18:53 นึงนะฮะที่เป็นปัญหาใหญ่นะฮะนะซึ่งตัว อินซูลินเนี่ยนะเอ่อจะต้องได้รับสิ่งปรุง
01:18:53 → 01:19:01 แต่งนะฮะนะหรือได้รับตัวช่วยบางอย่างนะฮะ ซึ่งอันเนี้ยเขาเรียกว่าเป็นการ Add on
01:19:01 → 01:19:08 ในเรื่องของวิธีการปรุงและนะสิ่งเสริม เวลาที่จะตกแต่งนะตัวอาหารที่จะกินเข้าไป
01:19:08 → 01:19:15 นะะนะเหล่านี้ก็ถือว่าเป็นการเพิ่มสาร อาหารนะที่จะไปทำให้อินซูลินเเก่งขึ้นนะ
01:19:15 → 01:19:24 ฮะนะเก่งขึ้นแล้วก็กลับมาทำหน้าที่ตาม ปกติแบบขยันยนะในระยะยาวๆยาวๆนะฮะนะของ
01:19:24 → 01:19:32 การ emission หรือจะรีเวเบาหวานเนี่ยรูป แบบของอาหารเนี่ยจะต้องมีความลงตัวนะจาก
01:19:32 → 01:19:40 การปรุงการตกแต่งนะฮะและต้องเกิดความ เอร็ดอร่อยนะในทุกๆมื้อหรือในในในให้ไม่
01:19:40 → 01:19:47 มากมื้อที่สุดในแต่ละวันนะฮะนะเพราะว่า ข้อ 4 เนี่ยจะเป็นข้อที่หวังผลระยะยาวๆนะ
01:19:47 → 01:19:57 นะก็ต้องคิดอ่าเปลี่ยนแปลงนะหรือดัดแปลง ให้ได้นะฮะนะนะเพราะเราเนี่ยถ้าเกิดปัญหา
01:19:57 → 01:20:03 ถึงขั้นถึงขั้นที่เป็นเบาหวานแล้วเนี่ยนะ ฮะมันก็จะยากแล้วล่ะนะเพราะนี้เป็นขั้น
01:20:03 → 01:20:09 สุดท้ายของภาวะดื้ออินซูลินนะฮะเวลาที่จะ emission หรือจะรีวจริงๆเหล่าเยนะในระยะ
01:20:09 → 01:20:17 ยาวในระยะยาวนะฮะนะข้อ 4 กเป็นเรื่องที่ ทำให้เราไม่เบื่อทำให้เราไม่หลุดนะนะนะ
01:20:17 → 01:20:24 เพราะฉะนั้นเนี่ยเมื่อยาวๆไปแล้วเนี่ยนะ เนี่ยต้องต้องเอาข้อ 4 มาช่วยอ่าให้ดีๆ
01:20:24 → 01:20:31 ให้ดีๆนะแต่ในระยะช่วงแรกๆของการริอะไร ต่างๆเนี่ยก็ต้องเคร่งครัดในเรื่องข้อ 1
01:20:31 → 01:20:37 ข้อ 2 นะฮะแล้วก็ข้อ 3 นะก็เป็นไปตาม timing แบบนี้
01:20:37 → 01:20:44 นะอ่ะทีนี้มาดู 7 ขั้นตอนล่ะนะฮะ 7 ขั้น ตอนในการหายเบาหวานนะหัวใจสำคัญของการไร้
01:20:44 → 01:20:52 ในวันนี้นะซึ่งนะก็อยู่ที่เรื่องการกิน การปรุงนะแล้วก็มีแถมในเรื่องของไสตล์
01:20:52 → 01:20:57 ต่างๆในเรื่องการออกแรงออกกำลังการการนอน หลับแล้วก็การฟ้านะฮะ
01:20:57 → 01:21:05 นะ 7 อันเนี้ยหมอเอ่อส่วนใหญ่จะเน้นใน เรื่องของกินนัแหละนะฮะกินนะเพราะว่ากิน
01:21:05 → 01:21:11 ต้องผ่านก่อนนะฮะแล้วกินนี่เป็นหัวใจที่ สำคัญที่สุดในการที่จะิัและ reever
01:21:11 → 01:21:19 เรื่องเบาหวังนะฮะในแนวทางของโภชนาการ C ต่ำโดยเฉพาะแบบ low C High ก T Oil นะ
01:21:19 → 01:21:26 นะเราให้ความสำคัญกับเรื่องพลังงานหลักนะ ในการกินมื้อแรกนะซึ่งต้องมาจากไขมันดี
01:21:26 → 01:21:35 อ่าในรูปแบบที่เป็นน้ำสลัดอ่าีออยนะฮะนะ เราใช้น้ำมันสกัดเย็นนะตออยมาทำเป็นน้ำ
01:21:35 → 01:21:44 สลัดในมื้อแรกนะอันนี้เนี่ยหลักการสำคัญ ก็คือการช่วยต่ำนะฮะนะที่จะเผาผลาญพลัง
01:21:44 → 01:21:50 งานนะโดยเฉพาะตัว ไตรกลีเซอไรด์ในรูปของฟี fty Acid และ
01:21:50 → 01:21:57 ต้องไปในถึงขั้นที่ทำให้เกิดคีโตนนะคีโตน นะฮะแล้วะระดับของเป้าหมายของคีโตนเนี่ย
01:21:57 → 01:22:01 นะฮะก็คืออยู่ในช่วง 1-3 มิลลิโมลเปอร ลิตร
01:22:01 → 01:22:11 นะครับผมก็จะมากกว่านี้อีกสักหน่อยก็ดีนะ แต่แต่อย่าไปเข้าใจผิดว่าโอ้โหในเมื่อออย
01:22:11 → 01:22:16 กิน ow C High Good Fat TE Oil น้ำ มันสกัดเย็นเนี่มันดีเพราะฉะนั้นเลยจัดมา
01:22:16 → 01:22:24 ซะจนมากมายไก่ยกองนะแล้วก็หวังว่าโอ๊ย เดี๋ยวไงเราจะได้คีโตนออกมาในระดับสักอ่า
01:22:24 → 01:22:31 เยอะๆเยอะอ่ะนะนะไม่ใช่นะฮะไม่ใช่นะคือ คีโตนเนี่ยก็ต้องอยู่ในระดับนึงนะในระดับ
01:22:31 → 01:22:39 นึงนะอ่าไม่ใช่ว่ามากเกินไปไม่ดีอ่ะนะฮะ มากเกินไปแบบที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 ใช่
01:22:39 → 01:22:46 มนะพวกเนี้ยซนมันมากเกินไปนะอันนี้มันก็ ไม่ Healthy มันไม่ Balance น่ะเไม่
01:22:46 → 01:22:53 optimal Health นะฮแล้วต้องในเบื้องต้น เนี่ยครับผมเอออยู่ในช่วงเนี่ย 13 ครับผม
01:22:53 → 01:22:58 ดูชนิดของคีโตนด้วยว่าจะเป็นเตี้คีโตน หรือว่า
01:22:58 → 01:23:05 เป็นคีนคีโตนอันนั้นเนี่ยจริงๆเนี่ยนะถ้า เราใช้ในรูปแบบ low C High fash ที่
01:23:05 → 01:23:12 เราแนะนำรวมการใช้รวมทั้งการใช้น้ำมัน สกัดเย็นสลัดแบบเนี้ยส่วนใหญ่อ่ามันจะ
01:23:12 → 01:23:20 อยู่ในฝั่งที่จะเป็นคีนมากกว่านะฮอันนี้ เป็นมาไม่เยอะด้วยครับผมครับ
01:23:20 → 01:23:29 เออแล้วก็มาในระดับคือพอเหมาะพอสมนะนะฮะ นะอ่าแล้วก็จะทำให้ร่างกายมันรันออนอยู่
01:23:29 → 01:23:37 ในช่วงของการคีโตสิสเป็นแฟท adapt ket adapt ได้ไปตลอดนะพ้นไปวันๆวันๆนึงอะไร
01:23:37 → 01:23:44 อย่างงี้นะนี่ข้อหนึ่งสำคัญที่สุดนะฮะนะน นี้ต่อมาเนี่ยในอาหารมื้อแรกเนี่ยก็ต้อง
01:23:44 → 01:23:51 มีโปรตีนคุณภาพนะว่าเอ่อโปรตีนคุณภาพก็ คือโปรตีนที่มาจากสัตว์เป็นหลักต้องเกิน 8
01:23:51 → 01:23:57 70% นั่นแหละนะฮะนะเนี่ยหรือมื้อแรก เนี่ยเป็นโปรตีนสัตว์ล้วนเลยก็ได้นะก็ได้
01:23:57 → 01:24:07 นะนะเไม่ว่าจะเป็นผอมหรืออ้วน นะคนที่ผอมๆนะหรือน้ำหนักตกเกณฑ์อาจจะอ่า
01:24:07 → 01:24:14 แทรกโปรตีนจากพืชนะในรูปของถั่วเหลือง หมักต่างๆไปนิดๆหน่อยๆก็ได้นะฮะแต่หลัก
01:24:14 → 01:24:19 การก็คือโปรตีนสัในมื้อแรกนะฮะควรเป็น สัตว
01:24:19 → 01:24:26 ใหญ่เนี่ยนะก็คือเนื้อสัตว์ใหญ่ต่างๆโดย เฉพาะสัตว์บกเนื้อเดเงนะที่เป็นสัตว์สีขา
01:24:26 → 01:24:36 นะแล้วก็มีไข่นะอ่าไข่เป็นตัวประกอบก็คือ เนื้อสัตว์กระไข่นะมีชีสนะฮะมีชีสนะฮะนะ
01:24:36 → 01:24:44 โดยเฉพาะอ่าชีสแท้ชีสออร์แกนิคชีสแพะนะ แล้วก็มีน้ำซุปต้มกระดูกเหล่านี้คือ
01:24:44 → 01:24:51 โปรตีนที่เรียกว่าโปรตีนคุณภาพโปรตีน คุณภาพนะั้นมื้อแรกเนี่ยนะวนเวียนอยู่กับ
01:24:51 → 01:24:57 สิ่งเหล่าเนี้ยนะแต่อย่างน้อยมีเนื้อ สัตว์มีไข่นะฮะนะแล้วเนื้อสัตว์เนี่ยหลัก
01:24:57 → 01:25:03 ๆก็ขอให้เป็นเนื้อสัตว์ที่เป็นโปรตีนไข มันสูงกับไขมันปานกลางเป็นหลังนะอย่างไข่
01:25:03 → 01:25:11 นั้ฟองนี่เราถือว่าเป็นโปรตีนไขมันปากลาง นบางคนจะไปมีมีมีสัตว์น้ำสัตว์ปีกนิดๆ
01:25:11 → 01:25:20 หน่อยๆนะแต่ว่าสัตว์บกนะเนื้อแดงขนาด อ่าเนื้อแดงของสัตว์ใหญ่สัตว์ 4 ขาเนี่ย
01:25:20 → 01:25:25 อันนี้ต้องไปหลักไว้ก่อนไปหลักไว้ก่อน อย่างอื่นก็เอามาแถมนะนะเพื่อลดความเบื่อ
01:25:25 → 01:25:33 นะอมีชีตมีโบนบอดมีทุกมื้อนะฮะนะเพราะอัน นี้แม้ว่าเเป็นโปรตีนไม่สมบูรณ์นะฮะแต่
01:25:33 → 01:25:42 ว่าเขาก็มีตัวกดอะมิโนสำคัญำคัญนะที่จะมี การสร้างประโยชน์นะต่อร่างกายนะยาวๆไปจน
01:25:42 → 01:25:49 ถึงกลางคืนนะฮะ อ่าต้องมีเส้นใหญ่นะฮะเส้นใยเส้นใยอาหาร
01:25:49 → 01:25:55 เนี่ยคือคือสารอาหารนะฮะจัดอยู่ในกลุ่ม สารอาหารไม่ได้เป็นพลังงานนะนะฮะนะนะแล้ว
01:25:55 → 01:26:03 ก็เส้นใยอันเนี้ยนะเอ่อก็อยู่ในเรื่องของ ผักหัวกับผักใบอันนี้เบาหวานเนี่ยนะก็กิน
01:26:03 → 01:26:11 ได้แค่ระดับผักใบหรือผักหัวที่ไม่ได้เป็น หัวนะฮะนะก็คือกลุ่มที่เป็นยอดผักอ่าดอก
01:26:11 → 01:26:20 ผักก้านผักนะฝักนะฮะนะหรือลำต้นขนาดเล็กๆ นะแต่ถ้าเป็นหัวใหญ่ๆนะเป็นลำต้นใหญ่ๆอัน
01:26:20 → 01:26:26 นี้ไม่ได้นะฮะไม่ได้นะยังไม่ได้นะเพราะ แป้งเยอะนะเดี๋ยวน้ำตาลก็เยอะอินซูลินก็
01:26:26 → 01:26:33 เยอะนะฮะงั้นเบาหวานเนี่ยเส้นใยเนี่ยนะ ส่วนใหญ่มากๆก็จะมาจากเรื่องของผักใบนะ
01:26:33 → 01:26:39 อ่าก็มีผักหัวได้บ้างนะฮะนะแล้วผักหัว เนี่ยถ้าเป็นไปได้แนะนำอยู่ในมื้อเย็น
01:26:39 → 01:26:47 อยู่ในมื้อเย็นนะผักใบก็อยู่ในมื้อแรกนะ จะจะแบ่งๆมามื้อเย็นบ้างก็ได้นะฮะเนี่ยก็
01:26:47 → 01:26:53 กินได้ระดับนี้นะฮะส่วนพวกแป้งเชิงซ้อน แล้วเมล็ดพืชพัญพืชอะไรต่างๆก็ยังไม่ได้
01:26:53 → 01:27:02 โดยเฉพาะยังไม่ิัถ้าิัแล้วเนี่ยก็อาจจะ ได้แค่ประมาณ 1 ทัพพีนะฮะหรือ 60 กรัมที่
01:27:02 → 01:27:08 เป็นข้าวสุก นะนะเ่อหรือไม่ก็ครึ่งทัพพีอประมาณ 2-3
01:27:08 → 01:27:16 ช้อน้าทัพพีนึงก็ประมาณ 5 ช้อนโต๊ะนะฮะ ข้อ 3 เนี่ยนะเนี่ยก็เป็นการที่จะต้องมี
01:27:16 → 01:27:25 เกลือแร่จากธรรมชาตินะฮะนะก็แล้วแต่เกลือ ชมพูเกลือดำนะดอกเกลือนะเกลือทะเลนะฮะนะ
01:27:25 → 01:27:31 แล้วก็ต้องมีจุลินทร์โปรไบโอติกที่ดีนะฮะ อันนี้ก็อยู่ในรูปของของหมักของดองนะก็
01:27:31 → 01:27:38 คือมีการกินน้ำส้มแนชูหมักต่างๆนะสลับกัน ไปเลยนะฮะ acv ccv จาวมะพร้าวอะไรอย่าง
01:27:38 → 01:27:45 งี้นะฮะจาวมะพร้าวนี่ดีที่สุดนะฮะนะแล้ว ทุกมื้อต้องมีผักดองนะประมาณ 1-2 ช้อน
01:27:45 → 01:27:53 โต๊ะนะฮะแล้วมีน้ำผักดองอ่าอประมาณ 2-4 ช้อนโต๊ะนะฮะน้ำผักดองเนี่ยก็ประมาณอยู่
01:27:53 → 01:28:01 ในช่วงประมาณเนี้ยประมาณ 30-50 ซีซีนะฮะ นะผักดองนี่ก็ไม่ต้องเยอะนะฮะผักดองกิมจิ
01:28:01 → 01:28:09 นะอ่าเนี่ย 1-2 ช้อนโต๊ะนะต้องมีต้องมีมี ทุกมื้อนะฮะนะมื้อแรกมื้อเย็นอะไรงงี้นะ
01:28:09 → 01:28:16 ฮะนะตส้มสายชูมแอปเปิ้ลอะไรต่างๆต้องมีนะ เอาเคเข้าไปอยู่ในอาหารต้มยำอ่าต้มยำอะไร
01:28:16 → 01:28:23 ต่างๆเหล่านี้นะฮะนะนะพวกเกลือพวกนี้ เนี่ยก็อยู่ในอาหารนะฮะนะให้ได้นะแต่ช่วง
01:28:23 → 01:28:31 แรกๆแเนี่ยจะกินผสมน้ำละลายน้ำจิบๆดื่มๆ เ่าไปด้วยก็ได้นะพอร่างกายมันแซ set up
01:28:31 → 01:28:37 อะไรตอะไรแล้วเนี่ยนะไม่ว่าจะเป็นเกลือ เป็นน้ำส้มใายชูน้ำผักรงผักรองเนี่ยเอา
01:28:37 → 01:28:45 ให้ไปอยู่ในอาหารนะเอาให้อยู่ในก้อนอาหาร หรือชามอาหารนะให้ได้ให้ได้นะฮนะใส่น้ำ
01:28:45 → 01:28:51 ซุปต้มกระดูกอะไรต่างๆหรือปรุงเป็นรส เปรี้ยวหวานเอ้ยเปรี้ยวเค็มอะไรต่างๆนะใน
01:28:51 → 01:28:59 จานอาหารนะหรือใส่ในน้ำสละนะนะอันนี้ก็ 1 2 3 4 เนี่ยเป็นเรื่องหลักๆเลยของ
01:28:59 → 01:29:06 เรื่องการกินนะฮะนะข้อ 5 ข้อ 6 นี่ก็จะ เป็นเรื่องของการออกแรงออกกำลังนะ
01:29:06 → 01:29:12 อันเนี้ยนะคือในแง่ของเบาหวานเนี่ยนะฮะนะ เนี่ยการเคลื่อนไหวร่างกายอะไรต่างๆนะฮะ
01:29:12 → 01:29:18 นะเพื่อจุดประสงค์บางอย่างนะฮะอย่างอัน แรกเลยเนี่ยนะฮะนะก็คือการลดไขมันในช่อง
01:29:18 → 01:29:26 ท้องหรือ viser Fat นะโดยการออกกำลังกาย แบบฮินะฮะคือ I หรือ S นะฮะอันนี้ให้ทำ
01:29:26 → 01:29:32 1-2 วันต่อสัปดาห์นะนะแต่คุณประโยชน์อีก อย่างนึงที่จะได้ก็คือความ fit and เิม
01:29:32 → 01:29:39 ของกล้ามเนื้อหัวใจนะเนี่ยนะนอกจากเขาลด ไขมันในช่องท้องแล้วนะแต่บางคนไม่มีไขมัน
01:29:39 → 01:29:46 ในช่องท้องเนี่ยนะมันก็ไปทำให้เกิดความฟิ ของกล้ามเนื้อหัวใจนะเนี่ยนะก็คือให้แดนี
01:29:46 → 01:29:54 เขออกมานะเป็นตัวกระตุ้นนะในในช่วงสั้นๆ นะนะโดยที่คอร์ติซอลอย่าออกมานะนะถ้าเรา
01:29:54 → 01:30:02 ทำไปนานๆแล้วคอซอออกมาอันนี้นะพังหมดนะ ไม่ได้นะคอซอออกมาน้ำตาลก็พุ่งะนะน้ำตาล
01:30:02 → 01:30:11 พุ่งอินซูลินพุ่งตามประกบกันนะก็ต้อง ระวังนะฮะนะข้อ 6 ก็คือการออกกำลังกายนะ
01:30:11 → 01:30:17 เพื่ออะไรเพื่อกล้ามเนื้อลายกล้ามเนื้อ ลายต่างๆในร่างกายนะฮะนะเนี่ยก็เวทต้าน
01:30:17 → 01:30:25 แรงนะฮะกระตุ้นกล้ามเนื้อลายนะนะกระตุ้น เพื่ออะไรนะฮะเพื่อให้เขาเป็นสต๊อกในการ
01:30:25 → 01:30:33 ที่จะเก็บนะการมากเกินเลยของน้ำตาลต่างๆ นะคือจริงๆแล้วเนี่ยเราเราควบคุมาฟจำกัด
01:30:33 → 01:30:39 าฟในเบาหวานเนี่ยอย่างมากมายก็จริงโดย เฉพาะกิน CD kcd เนี่ยนะฮะแต่บางครั้ง
01:30:39 → 01:30:46 เนี่ยกลไกที่ยังไม่สมดุลของร่างกายเนี่ย นะร่างกายก็จะสร้างน้ำตาลขึ้นมานะอ่าใน
01:30:46 → 01:30:52 ระดับพอสมควรนะฮะซึ่งน้ำตาลเหล่านี้เนี่ย มันก็ยังมีความหมายเนี่ยที่จะต้องมีการ
01:30:52 → 01:30:59 เอาไปใช้ด้วยการจัดเก็บนะฮะนะเพราะฉะนั้น การเผื่อเหลือเผื่อขาดนะฮะในแง่ของการหา
01:30:59 → 01:31:06 แหล่งในการเก็บน้ำตาลนะเผื่อเหลือเผื่อ ขาดเนี่ยนะฮะนะอ่าไม่มีอะไรดีไปกว่าการ
01:31:06 → 01:31:13 สร้างกล้ามเนื้อนะนะการสร้างกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะในคนที่ผอมๆนะเนี่ยหรือสมส่วน
01:31:13 → 01:31:20 ค่อนผอมน้ำหนักตกเกณฑ์อะไรต่างๆนะฮะนะนะ อย่างอย่างถ้าเราไม่มีไม่ได้ทำอะไรข้อ 5
01:31:20 → 01:31:25 เนี่ยอย่างน้อยเนี่ยนะคนผอมๆแล้วเป็นเบา หวานเแล้วต้องการ reever emission เบา
01:31:25 → 01:31:30 หวานเเ่าคุณก็ต้องเทนะอ่าอย่างน้อยวัน เว้นวันนะฮะต่อสัปดาห์
01:31:30 → 01:31:38 นะแล้วที่เหลือนอกจากข้อ 5 ข้อ 6 เหล่า เนี้ยนะก็คือการคาร์ดิโอในการเดินนะฮะนะ
01:31:38 → 01:31:46 ซึ่งเราเป็นบหวานใช่มั้ยเราต้องเดินหลัง มื้ออาหารนะถ้าทั้งมื้อมื้อแรกมื้อเย็นนะ
01:31:46 → 01:31:52 เดินได้นะมีเวลาก็เดินนะเ่อถ้าไม่ได้ เนี่ยเอามื้อเย็นเป็นหลักเอามื้อเย็นเป็น
01:31:52 → 01:31:59 หลักนะฮะเพราะมื้อเย็นเราอาจจะต้องมีการ เติมคาฟในรูปแบบของผักหัวซึ่งจะมีการเ่อ
01:31:59 → 01:32:06 เกินขึ้นมาเนี่ยของระดับน้ำตาลเรเรือนะเพ ฉะนั้นเราก็มาใช้แรงใช้กำลังแบบคาร์ดิโอ
01:32:06 → 01:32:15 นะฮะเ่าระดับ 1 ระดับ 2 นะฮะนะยการเดิน เนี่ย 15-20 นาทีนะเดี๋ยวมันจะมีงานวิจัย
01:32:15 → 01:32:21 สนับสนุนนะฮะนะเพราะว่าค่าน้ำตาลในเลือด เนี่ยโอมันมีการแตกต่างกันในระดับ 20-30
01:32:21 → 01:32:28 per เลยีเดีนะฮะหลังจากเดินผ่านไปเดือน นึงนะที่นี้สุดท้ายเนี่ยนะฮะก็คือเป็น
01:32:28 → 01:32:36 เรื่องความสำคัญของการนอนะนะฮะเนี่ยอ่า อ่าทำยังไงถึงจะนอนนะให้ได้เกิดภาวะ Deep
01:32:36 → 01:32:43 Sleep หรือการหลับอย่างมีคุณภาพยาวนาน ติดต่อกัน 5 ชมงขึ้นไปนะฮะอันนี้ก็คือใน
01:32:43 → 01:32:49 ผู้ที่เป็นเบาหวานเราหวังผลเรื่องของ Sleep Cycle เนี่ย 3 ไซเคิลนะ 3 ไซเคิล
01:32:49 → 01:32:56 ไซเคิลละ 90 นาทีนะเพราะฉะนั้นเนี่ยนะ ต้องได้ 3 ไซเคิลขึ้นไปนะฮะนะให้มันเข้า
01:32:56 → 01:33:05 ไซเคิลที่ 4 ให้ได้นะฮะนะนะสัก 4 ไซเคิล 4 ไซเคิลก็ 6 ชมแล้วนะฮะนะแล้วหลังจากนั้น
01:33:05 → 01:33:13 มาดูว่าไอ้ตัว Deep Sleep เนี่ยมันได้ เกิน 1 ใน 4 นะของช่วงเวลาในการนอนมนะฮะ
01:33:13 → 01:33:20 นะถ้าถ้าเกิน 1 ใน 4 เนี่ยเราก็ถือว่าการ นอนเหล่าเนี้ยมีคุณภาพะนะเพราะาวด Sleep
01:33:20 → 01:33:29 เนี่ยนะอ่าจะต้องเกิดในช่วงประมาณ 25% ขึ้นไปของช่วงเวลาในการนอนนะ
01:33:29 → 01:33:36 ฮะไคนึงก็ 90 นาทีนะฮะที่มันจะมี rem Sleep กับ non R Sleep อะไรต่างๆนะฮะ
01:33:36 → 01:33:44 นะเรวๆนี้เราเพิ่งไลฟกันไปนะฮะว่าจะจัด สรรการนอนยังไงนะให้ได้อยู่ในภาวะที่ Deep
01:33:44 → 01:33:49 Sleep นะะ นะทีนี้จริงๆข้อเเป็นข้อ 8 นะฮะนะใน
01:33:49 → 01:33:57 เรื่องของการอดหรือ If เนี่ยนะฮะแต่ว่า อันนี้มันค่อนข้างแี่นะแี่ในแต่ละบุคคลใน
01:33:57 → 01:34:03 เรื่องของความเหมาะสมนะฮะนะคือ If ส่วน ใหญ่เราจะเน้นในคนค่อนข้างอ้วนๆนะฮะนะ
01:34:03 → 01:34:11 อ้วนๆสายพุงเครียดอะไรต่างๆน้ำหนักเกิน เยอะนะนะอันนี้อันนี้ก็คือกินกับ If อ่ะ
01:34:11 → 01:34:19 เป็นหลักนะฮะเป็นหลักนะจนกระทั่งน้ำหนัก ลดไขมันลดน้ำตาลลดนะค่าต่างๆนะที่เป็นตัว
01:34:19 → 01:34:27 มอนิเตอร์นะดีขึ้นดีขึ้นนะนะ แต่ว่าหลักๆข้อ 1 ถึงข้อ 7 เนี่ยอันนี้ก็
01:34:27 → 01:34:38 คือจะเป็นหลักของทุกคนทุกคนนะฮะทุกคนนะเ คนอ้วนก็จะมามีเรื่อง If นะออ If อาจจะ
01:34:38 → 01:34:46 สำคัญต่อคนอ้วนอ่ามากกว่าเรื่องการออกแรง ออกกำลังนะฮะนะแต่ทำไปด้วยได้ยิ่งดีส่วน
01:34:46 → 01:34:53 คนผอมเนี่ย If แทบจะไม่ค่อยสำคัญนักนะฮะ นะต้องมาเน้นนะโดยเฉพาะในเรื่องข้อ 6 นะ
01:34:53 → 01:34:58 ฮะนะก็คือต้องมีการเวทการต้านแรง resistance Training เนี่ยนะเพื่อจะมี
01:34:58 → 01:35:04 การสร้างกล้ามเนื้อโดยเฉพาะมวลกล้ามเนื้อ Muscle mas เนี่ยนะอันนี้เป็นตัวสำคัญ
01:35:04 → 01:35:11 ในการช่วยกันเอาน้ำตาลนะเข้าไปเก็บเข้าไป เปลี่ยนนะนะอนี้สำคัญมากนะเพราะน้ำตาลเรา
01:35:11 → 01:35:19 จะลดเราจะหายไปเร็วๆนะฮะนะผลกวงของน้ำตาล ที่จะไปมีผลต่อโปรตีนเเกิดปฏิกิริยาไกช
01:35:19 → 01:35:25 ต่อสิ่งต่างๆเหล่าเนี้ยนะมันจะได้รีบลด ลาวาศอกนะลงไปเยอะๆ
01:35:25 → 01:35:32 นะอันนี้เป็นหัวใจหลักเลยของ 7 ขั้นตอน ที่จะทำให้เราหายเบาหวานได้นะเพราะฉะนั้น
01:35:32 → 01:35:39 ทุกสิ่งทุกอย่างก็มีหลักการอยู่นะและมี เหตุมีผลในตัวอยู่นะฮะนะแล้วเอาสิ่งเหล่า
01:35:39 → 01:35:46 นี้เนี่ยมาแปลงเป็นเรื่องของการ ปฏิบัติทีนี้หมอจะพูดถึงเรื่อง 5p ในการ
01:35:46 → 01:35:54 แก้ภาวะน้ำตาลสูงในคนที่ผอมๆอาจจะเป็นเบา หวานไทวันั
01:35:54 → 01:36:03 นะหรือหรือคนที่น้ำหนักน้อยนะเอ่อมีกล้าม น้อยนะฮะนะแล้วก็ปัญหาเบาหวานเนี่ยมัน
01:36:03 → 01:36:09 เกิดจากภาวะอิซูลินฟังก์ชันหรืออูน suppression นะฮะนะคือไม่ได้เหมือนกับคน
01:36:09 → 01:36:16 อ้วนคนอ้วนนี่อินซูลินมาเยอะนะฮะแต่เซลล์ ของร่างกายของคนอ้วนไม่ตอบสนองนะต่อการ
01:36:16 → 01:36:22 เปิดประตูให้อินซูลินเอาน้ำตาลเข้าเซน้ำ ตาลมันก็เลยพ้นข้างๆในกระแสเลือดแต่นี้
01:36:22 → 01:36:28 ตางกลับกันเคนผอมเนี่ยไม่ได้มีปัญหาที่ ปริมาณอินซูลินนะฮะปริมาณอินซูลินเค้า
01:36:28 → 01:36:36 ค่อนข้างจะอ่าปกติหรือน้อยกว่าปกตินะแต่ มันมีปัญหาที่ตัวคุณภาพหรือประสิทธิภาพ
01:36:36 → 01:36:43 ของการทำงานของตัวอินซูลินเนี่ยนะมันถูก กดมันมันถูกมันถูกค่อนข้างจำกัดเนี่ยทำ
01:36:43 → 01:36:49 ให้มันทำงานได้ไม่ดีอ่ะทำงานได้ไม่ดีใน การเอาน้ำตาลเข้าเซลล์นะะคือเซลล์เซลล
01:36:49 → 01:36:55 เค้าก็พร้อมนะอินซูลินเค้าก็มีอาจจะมี ระดับนึงแต่ว่าเป็นระดับที่ไม่ได้เยอะแยะ
01:36:55 → 01:37:03 มากมายนะแต่ไอ้หน้าที่การทำงานในการเปิด ประตูอซลเนี่ยเไายกุญแจไม่ได้นะเอ่านะที
01:37:03 → 01:37:11 นี้เราก็พบว่ามันมีเรื่องของ 5p นะฮะ 5p นะเป็นสิ่งที่นำมาช่วยในคนที่ผมผอมนะหรือ
01:37:11 → 01:37:18 ในคนที่มีปัญหา insulin ฟังก์ชัน insulin Su นะฮะนะซึ่ง 5p เนี่ยมีอะไรบ้างนะที่
01:37:18 → 01:37:24 จะเป็นตัวเพิ่มการทำงานของฮอร์โมอินซูลิน อันที่ 1 นะฮะคือ Power W นะฮะนะพว
01:37:24 → 01:37:32 โปแทสเซียมพรีไบโอติกนะโปรไบโอติกแล้วก็ โปรตีนนะฮะนะซึ่งในรูปแบบรายละเอียดของ
01:37:32 → 01:37:40 แต่ละ P แต่ละพแต่ละพพวกเนี้ยนะฮะนะเนี่ย Power Walk คืออะไรนะฮะก็คือนะหลัง
01:37:40 → 01:37:49 อาหารต้องไปเดินนะฮะนะต้องเดินหลังอาหาร 15-20 นาทีนะฮะนะแล้วการไปเดินเหล่าเนี้
01:37:49 → 01:37:58 นะจะให้ดีเนี่ยก็ให้ทรมานร่างกายสักนิด นึงนะก็คือหาอะไรมาใส่นะนะหาอะไรมาใส่หา
01:37:58 → 01:38:07 อะไรมาลากนะฮะนะก็ส่วนใหญ่เใช้เสื้อเกาะ อ่าอะไรหรือถุมทรายอะไรต่างๆจะถ่วงแขนขา
01:38:07 → 01:38:16 ถ่วงเอวถ่วงอะไรอย่างเงี้ยนะให้ใส่เวลา เดินแล้วเราก็เดินเดินไปนะฮะเดินไปนะจุด
01:38:16 → 01:38:24 ประสงค์ของเพวเนี่ยเราต้องการที่จะบริหาร กล้ามเนื้อชนิดหนึงเขเรียกว่าียสลียดก็
01:38:24 → 01:38:30 คือกล้ามเนื้อน่องนะฮะคือขาท่อนล่างด้าน หลังนะเวลาเราเกรงขึ้นมาเนี่ยมันจะได้ตัว
01:38:30 → 01:38:38 นูนๆนะของตัวมัดกล้ามเนื้อแข็งๆนะกล้าม เนื้อนี้เเรียกว่า sol Muscle นะฮะนะ
01:38:38 → 01:38:45 วิธีการอย่างเยนะ Power Walk เนี่ยเรา เรียกว่าทำให้เกิดภาวะอ่า sol Push up
01:38:45 → 01:38:51 นะฮะคือการเกร็งตัวขึ้นมาของกล้ามเนื้อ โซเลสลักษณะกล้ามเนื้อโซเลสเนี่ยมันเป็น
01:38:51 → 01:38:58 กล้ามเนื้อชนิดเดียวในร่างกายนะเป็นกล้าม เนื้อคู่เดียวหรือเป็นมัดกล้ามเนื้อที่
01:38:58 → 01:39:03 ที่เค้าแปลกๆเขาอาจจะมีวิวัฒนาการหรือ เป็นอะไรก็ไม่รู้่ะแต่เขาไม่สะสมไกลโคเจน
01:39:03 → 01:39:12 นะอ๋อครับผมแต่กล้ามเนื้อเนี่ยนะเขาจะโหย หิวการใช้น้ำตาลนะเพราะฉะนั้นการมีน้ำตาล
01:39:12 → 01:39:18 นะการควบคุมน้ำตาลไม่ได้นะคุณก็ต้อง พยายามบริหารกล้ามเนื้อโซเรสให้เกิดการ
01:39:18 → 01:39:23 ยืดปดเพราะเวลากล้ามเนื้อมีการเคลื่อนไหว การยืดปดการมนอะไรต่างๆเขาจะต้องใช้พลัง
01:39:23 → 01:39:31 งานนะแล้วเาก็จะต้องเอาพลังงานจากน้ำตาล เนี่ยมาใช้เป็นหลักนะั้กล้ามเนื้อมัดนี้
01:39:31 → 01:39:37 ก็เลยเป็นกล้ามเนื้อที่นะจะต้องมีการเ เรียกว่ามีการกระตุ้นน่ะนะฮะถ้าอยากจะลด
01:39:37 → 01:39:44 น้ำตาลนะเเราก็เลยเป็นที่มาของการทำใน เรื่องของการเดินหลังอาหารนะหลังมื้อ
01:39:44 → 01:39:54 อาหารนะฮะนะเรียกว่า sol Push up หรือ การทำแบบ Power Walk นะฮะ overw นะอัน
01:39:54 → 01:40:02 นี้จะเป็นการส่งเสริมซึ่งกันและกันกรณีฝน ตกนะเออออกไปเดินไม่ได้นะกำลังจะบอกว่า
01:40:02 → 01:40:12 ให้ยครับผมเออหันหลังเข้าข้างฝานะแล้ว หลังก้นนะแนบนะแล้วทำการเขย่งขึ้นลงนะ
01:40:12 → 01:40:21 เขย่งแล้วนับ 1-10 1-20 ในใจแล้วก็วาง เท้าลงไปนะฮะแล้วหายใจเข้าหายใจออกนะแล้ว
01:40:21 → 01:40:28 ก็เขยงขึึ้นมาอ่าให้เกิดการเก็งตัวกล้าม เนื้อโอันนี้แหละเขาเรียกว่า sol
01:40:28 → 01:40:39 Push แต่ไปเดินเหอะนะถ้าไม่เหนือบาปแรง นะเ่อมันสบายๆมากกว่านะอันนี้ข้อ 1 นะฮะ
01:40:39 → 01:40:49 พบว่า p ตัวแรกอันนี้แหละนะเนี่ยก็จะเป็น การเเรียกว่ามีการเพิ่มอ่า insulin
01:40:49 → 01:40:53 sensitivity ในทางอ้อ
01:40:55 → 01:41:02 ครับผมนะเนี่ยมันมันทำบ่อยๆบ่อยๆบๆเนี่ย มันจะเป็นติ๊กเกอร์นะให้อินซูลินไอ้
01:41:02 → 01:41:07 ฟังก์ชันหรือ Su เนี่ยอ่ามันมันเป็นการ กระตุ้นน่ะมันเป็นการกระตุ้นขึ้นมาแบบนึง
01:41:07 → 01:41:13 อ่ะนะฮะนะเขาก็จะเกิด sensitivity ขึ้นมา นะนะอันต่อมาก็คือเป็นพวกนี้ฮะนะคือ
01:41:13 → 01:41:19 อินซูลินเนี่ยเจับคู่ดีๆกับเกือแร่ตัวนึง เเรียกโปแตสเซียมนะฮะโปแตสเซียมเพราะ
01:41:19 → 01:41:24 ฉะนั้นเนี่ยเพราะฉะนั้นเนี่ยอินซูลิน เนี่ยเขาจะพาน้ำตาลเข้าเซลล์นะฮะเข้าไป
01:41:24 → 01:41:29 ให้ใช้หรือเข้าไปอ่าสะสมเข้าไปแปลงสภาพ อะไรก็ตามรวมทั้สารอาหารนั่นเองนะ
01:41:29 → 01:41:36 โปแทสเซียมนี้จะต้องเป็นโปแทสเซียม ที่ที่เหมือนมีอินซูลินน่ะไปด้วยในระดับ
01:41:36 → 01:41:43 ต่ำๆนะนะเพราะงั้นโปแตสเซียมเนี่ยนะอ่า มันก็มาได้จากทั้งพืชทั้งสัตว์ในปัจจุบัน
01:41:43 → 01:41:50 องค์ความรู้เรากว้างนะฮะแต่พบว่า โปแตสเซียมที่อยู่ในคาฟนะประเภทผักใบผัก
01:41:50 → 01:41:57 หัวนะหรือผักผงหรือผักดดองนะฮะอันนี้คือ โปแทสเซียมเนี่ยที่มันสามารถกระตุ้น
01:41:57 → 01:42:04 อินซูลินได้ระดับ minimal ระดับเล็กๆนะนะ แล้วไอ้ตัวอินซูลินเอยโปแตสเซียมเอยเหล่า
01:42:04 → 01:42:12 เนี้ยนะเขาจะจับคู่กันแบบ อ่าแบบเก่งๆแบบทำงานเก่งๆในการเปิดประตู
01:42:12 → 01:42:20 แล้วก็เอาน้ำตาลเข้าเสมนะฮะน้ำตาลในเลือด มันก็จะลดลงนะเพราะฉะนั้นเนี่ยถามว่าจะทำ
01:42:20 → 01:42:29 ให้อินซูลินเนี่ยเ้าเก่งๆเลยเงี้ยนะฮะนะ เค้าเอยากได้โปแตสเซียมนะฮะนะแร่ธาตุอัน
01:42:29 → 01:42:37 นี้เป็นแร่ธาตุที่อินซูลินชอบนะเวลาในการ ทำงานเปิดประตูเซลล์นะฮะนะนะโปแตสเซียม
01:42:37 → 01:42:46 ต้องจัดนะฮะก็อยู่ในรูปของผักใบผักหัวนะ หรือผักผงหรือผักดองผักผงเนี่ยก็คือผักใบ
01:42:46 → 01:42:53 ผักหัวที่เมา Dr feed นะฮะนะนะแล้วก็ป่น ออกมาเป็นผงให้ไปชงกับน้ำแล้วก็ก็เติม
01:42:53 → 01:42:59 เกลือเติมน้ำส้มใายชูเติมโซดาหรือเติมน้ำ เปล่าอะไรอย่างเงี้ยนะแล้วก็กินโดยเฉพาะ
01:42:59 → 01:43:04 ในมื้อ เย็นนะฮะต่อไปพรีไบโอติกนะฮะพรีไบโอติก
01:43:04 → 01:43:15 นี่ก็อ่าก็พวกผักดองนี่แหละนะฮะผักดองนะ ผักดองสีๆนะฮะนะแครอทดองนะกะหล่ำม่วงดอง
01:43:15 → 01:43:26 เลมอนดองมะนาวดองนะฮะนะหรืออะไรก็ตามนะ ซูกิเอามาดองนะแตงกวาดองนะฮะก็ต้องดอง
01:43:26 → 01:43:34 อย่างดีนะฮะดองแบบอนามัยนะฮะอ่าอ่าทำเอง นะฮะอย่าไปซื้อนะนะแล้วเราก็จะได้ตัว
01:43:34 → 01:43:44 พรีไบโอติกที่จะเป็นอาหารเอินซีอ่านะนะ เลือกที่มันสีๆสีๆนะฮะมีสีเยอะๆสารพฤษษา
01:43:44 → 01:43:51 เคมีมันก็เยอะก็จะเป็นประโยชน์โดยเฉพาะ ไอ้สารพษาเคมีนี่แหละเขาจะเป็นตัวที่ที่
01:43:51 → 01:43:58 จะเป็นช่วยให้ไอ้ตัวอินซูลินที่มันถูก sub หรือฟังก์ชันเนี่ยมันมัน sensitive ขึ้น
01:43:58 → 01:44:09 มาอ่านะอันต่อมาคือโปรไบโอติกนะฮะก็คือ จุดอินทรีย์โดยเฉพาะเนี่ยอ่า acv ccv นะ
01:44:09 → 01:44:18 แล้วก็ไอ้พวกจาวมะพร้าวนะฮะจาวมะพร้าวจาก นิวซีแลนด์กรณีของน้ำส้มใายชูจากผลไม้
01:44:18 → 01:44:23 ชนิดอื่นหมอยังไม่แนะนำนะฮโดยเฉพาะในคน เป็นเบาหวานนะเพราะพวกนี้ความเป็น
01:44:23 → 01:44:30 แอลกอฮอล์หรือการหลงเหลือของน้ำตาลเรายัง ควบคุมไม่ได้นะมาตรฐานสินค้ายังไม่ผ่านนะ
01:44:30 → 01:44:39 นะเราใช้แค่ acv missis Black นะนะแล้ว ก็ ccv นะที่ทำไปจากเมืองไทยเรานี่แหละนะ
01:44:39 → 01:44:46 หรือไม่ก็เป็นพวกอ่าน้ำส้มใายชูหมักจาก จาวมะพร้าวนะฮะของนิวซีแลนด์นะอันนี้ก็จะ
01:44:46 → 01:44:48 แพง
01:44:48 → 01:44:58 หน่อยอีกอันนึงก็คือในการกระตุ้นการของ ตัวอินซูลินเนี่ยก็คือโปรตีนนะฮะแต่นะ
01:44:58 → 01:45:06 ต้องเป็นโปรตีนแบบนี้นะฮะก็คือชีสแพะกรีก โยเกิร์ตแต่เป็นกีกโยเกิร์ตแบบโฮมดนะฮะ
01:45:06 → 01:45:16 เนี่ยอ่าพวกเนี้ยนะฮะอ่าเค้ามีเมีตัวกรด อะมิโนบางอย่างที่ที่จะไปกระตุ้นให้ตัว
01:45:16 → 01:45:23 อินซูลินว่องไวขึ้นนะฮะนะเพราะฉะนั้นใน มื้อในมื้อแรกๆเนะเก็ต้องมีเรื่องของชีส
01:45:23 → 01:45:31 แพะหรือกีกโยเกิร์ตบ้างนะถ้าไม่เหนือบาก แรงในการที่จะจัดหานะฮะเพราะว่า 5p เนี่ย
01:45:31 → 01:45:40 ก็คือ 5p ที่ทำให้เกิดฮอร์โมน insulin sensitivity นะฮะนะนะโดยเฉพาะในคนหอมนะ
01:45:40 → 01:45:49 คนที่เป็น DM ไทวันหรือดารนะหรือเป็นเบา หวานแบบหอมผอมแล้วก็อาจจะต้องถึงขั้นฉีด
01:45:49 → 01:45:58 ยานะช่วยลดน้ำตาลนะเราต้องไปไปแก้ไข เรื่องของอ่า insulin suppression ด้วย
01:45:58 → 01:46:06 สิ่งที่เป็น 5p พวกนี้นะฮะต้องทำนะ ฮะทีนี้ที่เหลือเนี่ยจะเป็นการอธิบายราย
01:46:06 → 01:46:14 ละเอียดต่างๆนะฮะนะของ 7 เรื่องโดยเฉพาะ 4 เรื่องแรกที่เกี่ยวข้องกับอาหารสำหรับคน
01:46:14 → 01:46:21 ที่จะ reever remission เบาหวานนะฮะนะนะ ก็ในสูตรอาหารต่างๆในการคำนวณเรื่องพลัง
01:46:21 → 01:46:29 งานเนะในแง่ของเปาหวานเนี่ยคาฟเนี่ยส่วน ใหญ่ก็จะอยู่ในช่วง 5-10 per นะฮะอ่า
01:46:29 → 01:46:37 โปรตีนเนี่ยก็จะอยู่ในช่วง 25% นะฮะนะไม่ เกิน 30 นะแต่ว่าไม่ควรจะต่ำกว่า 25% นะ
01:46:37 → 01:46:43 สำหรับคนที่เป็นเบาหวานนะ Fat นี่ก็เป็น Good Healthy Fat โดยเฉพาะในรูปน้ำมัน
01:46:43 → 01:46:51 สกัดสกัดเย็นเนี่ยนะฮะก็ 60% นะฮะนะสูตร นี้ก็จะ 100% ลงตัวในแนวทางแบบ
01:46:51 → 01:46:58 นี้เนี่ยค่าพลังงานต่างๆนะฮะนะก็มีสูตใน การคำนวณนะเดี๋ยวจะมี
01:46:58 → 01:47:05 นะคนที่เป็นเบาหวานในช่วงแรกๆที่เพิ่ง เข้ามานะแล้วอยู่ในช่วงสัก 3 เดือนแรกนะ
01:47:05 → 01:47:12 หรือบางคนอาจจะถึง 6 เดือนเนี่ยนะฮะเนี่ย การแก้ไขเนี่ยก็อาจบางคนก็ใช้สูตร cd
01:47:12 → 01:47:19 หรือ kcd นะฮะนะเพรางั้นถ้าเกิดเป็นแนว ของ CD นะ di Food เนี่ยนะพีระมิดเนี่ย
01:47:19 → 01:47:27 มันเป็นี้นะให้เน้นเนื้อประเภทเนื้อสัตว์ กระเพาะเดี่ยวนะฮะนะเป็นหลักนะแล้วก็
01:47:27 → 01:47:36 เสริมหรือสลับด้วยสัตว์หลายกระเพาะนะแล้ว ก็มีไข่เป็นตัวเสริมหลังจากนั้นก็จะเป็น
01:47:36 → 01:47:45 Daily product ที่เป็นอ่าโปรตีนไขมัน สูงหรือไอ่า High Fat นะฮะนะก็คือเป็น
01:47:45 → 01:47:57 พวกอะไรพวกชีสพวกเนยนะพวกกีนะฮะนะหรือพวก เอ่อเครีมนะฮะนะนะแต่พวกนี้ต้องเลือกของ
01:47:57 → 01:48:06 แท้หมดนะฮะแล้วดูสลากให้ดีๆนะอย่ามีการปะ ปนโดยเฉพาะกลุ่มน้ำมันพืชต่างๆไม่ได้พวก
01:48:06 → 01:48:13 เครื่องในนะฮะเครื่องในออร์แกนมีทต่างๆนะ ฮะนะแล้วก็เกลือนะฮะคือหลักๆก็จะเป็น
01:48:13 → 01:48:23 อย่างนี้นะฮะนะนะแล้วทำให้สุกมากินคู่กับ น้ำมันสกัดเย็นจากพืชในรูปน้ำสลัดทีอนะ
01:48:23 → 01:48:31 ตัวผักใบผักหัวก็อาจจะเป็นตัวมาเคียงนะฮะ นะก็ไม่ต้องเยอะมาก
01:48:32 → 01:48:40 อะไรนี้ก็คือเป็นแนวทางของเรื่องพีระมิด อาหารนะเราก็จะเห็นว่าโปรตีนที่จะกินก็
01:48:40 → 01:48:47 ต้องอยู่ในสูตรว่ามื้อแรกเป็นโปรตีนไขมัน สูงไขมันปางกลางมื้อเย็นนะก็จะต้องเป็น
01:48:47 → 01:48:55 โปรตีนไขมันต่ำๆมาก นะส่วนผักใบผักหัวก็กระจายการกินกันไปนะ
01:48:55 → 01:49:07 นะนี่ในแง่ของการคำนวณพลังงานต่อวันนะฮะ นะอ่าง่ายๆก็คือนะเอาความสูงลบด้วยนะ 105
01:49:07 → 01:49:13 นะฮะอ่ามันจะมีค่าบนถ้า - 100 นะค่าล่าง ก็ - 110 นะฮะความสูงสูงเท่าไหร่ก็ได้
01:49:13 → 01:49:23 ผู้หญิงผู้ชายเนี่ยนะเอาค่ากลางก่อนล 105 นะฮะนะนะค่าเนี้ยนะฮะนะอ่า
01:49:23 → 01:49:31 ค่าเนี้ยก็คือค่าน้ำหนักนะที่เป็นค่ากลาง ที่สุดละนะฮะก็มาคูณกับกิจกรรมต่างๆในแต่
01:49:31 → 01:49:39 ละวันว่าเราอ่ะนั่งเป็นหลักนะหรือมีการ ยืนเดินพอประมาณนะหรือมีการออกแรงออก
01:49:39 → 01:49:47 กำลังมีการใช้เรี่ยวใช้แรงเดินทางแบกหาม อะไรต่างๆนะอ่าแล้วก็เป็นคนอ้วนผอมผู้
01:49:47 → 01:49:56 หญิงผู้ชายเหล่าเก็เป็นตัวคูณก็คือคูณจาก ความสูงที่ -15 นะซึ่งก็จะกลายเป็นพลัง
01:49:56 → 01:50:04 งานทั้งวันนะที่เราควรจะได้รับนะฮะเนี่ย เป็นพลังงานทั้งวันที่ควรจะได้รับนะจาก
01:50:04 → 01:50:16 นั้นเราก็มาเทียบกับนะว่าเออคาฟเนี่ยเรา จะจัดแค่ไหนนะฮะนะแล้วก็โปรตีนเอาแค่ไหน
01:50:16 → 01:50:25 ดีแล้วไขมันเนี่ยนะเอาเท่าไหร่นะฮะแต่ที นี้อันนี้หมอมีสูตรอันนี้ขึ้นมาเลยนะฮะก็
01:50:25 → 01:50:36 คือนะฮะนะอาจจะอย่างนี้ก็ได้นะฮะนะก็คือ จากน้ำหนักอ่ะที่-บ 105 แล้วเนี่ยนะนะมัน
01:50:36 → 01:50:43 ก็จะได้เป็นน้ำหนักค่ากลางที่เป็นกิโลคุณ ก็คูณ 2.2 เป็นปอนด์นะฮะพอคูณเรียบร้อย
01:50:43 → 01:50:50 แล้วเนี่ยนะเนี่ยถ้าเป็นในแง่ของคาฟนะฮะ นะนะมันก็จะกินอยู่ในช่วงเนี้ยแต่ถ้าเป็น
01:50:50 → 01:50:56 เบาหวานเนี่ยที่ยังไม่ิิเนี่ยจะต้องไม่ เกิน 20 กัมเน็ตคาต้องไม่เกิน 20 กรัถ้า
01:50:56 → 01:51:05 emission แล้วเน็ตคาฟต้องไม่เกิน 50 กรั นะฮะนะอ่านะก็จัดไปะนะอันนี้จบไปแล้วนะฮะ
01:51:05 → 01:51:12 นะ นะแล้วเน็ตแชกนตโปรตีนเนี่ยนะฮะนะเนี่ยก็
01:51:12 → 01:51:19 เอาน้ำหนักที่เป็นปอนด์เนี่ยนะส่วนใหญ่ ถ้าเป็นโปรตีนในช่วงแรกเนี่ยเราจะให้คูณ
01:51:19 → 01:51:29 1.2 นะนะแล้วถ้าเป็นแฟชในช่วงแรกก็ให้ คูณ 1 ให้คูณ 1 นะฮะจากน้ำหนักนะค่ากลาง
01:51:29 → 01:51:37 ที่เป็นปอนดนะเนี่ยเพราะฉะนั้นก็จะได้สู นะปริมาณเน็ตโปรตีนเน็ตแฟตแล้วก็เน็ตคาฟ
01:51:37 → 01:51:44 นะนะก็เอาค่าเน็ตต่างๆเหล่าเนี้ยเทียบออก มาเป็นจำนวนกรัมของน้ำหนักอาหารที่มันจะ
01:51:44 → 01:51:53 เป็นคาฟเป็นแฟตเป็นโปรตีนนะซึ่งอันเนี้ย ไม่ยากนะอันนี้ก็เป็นสูตรแบบเนี่ย How to
01:51:53 → 01:51:59 calculate Macro nutrient นะฮะนะคาฟ ค่อนข้างิกอยู่แล้วนะฮะ
01:51:59 → 01:52:10 นะอย่างถามว่าเน็ตาฟ 20 กรัมเนี่ยประมาณ ไหนก็ประมาณข้าวสุก 1 ทพนะฮะเข้าวที่สุด
01:52:10 → 01:52:21 แล้ว 1 ทพีนะนะ 1 ทพีก็หนัก 60 กรัมนะ 5 ช้อนโต๊ะเ 5 ช้อนโต๊ะนะฮะเนะเราจะได้เน็ต
01:52:21 → 01:52:31 คฟ 18 กรัมก็หมดโควต้าแล้วของวันเนี้แล้ว กินในมื้อเย็นกินในมื้อเย็นนะฮะแต่ในกรณี
01:52:31 → 01:52:40 ที่เรายังเป็นเบาหวานิยังไม่ิันะข้าวแบบ นี้กินไม่ได้เราต้องกินเป็นผักหัวก็คือ
01:52:40 → 01:52:48 ผักหัวที่สุกแล้วนะประมาณ 150 -2 กรัม คือขีดครึ่งถึง 2 ขีดนะเราจะได้เน็ตาฟ
01:52:48 → 01:52:58 ประมาณ 15-18 กรัมนะเนี่ยก็จัดเป็นผักหัว แทนนะฮะาเชงซ้อนเมล็ดพืชทพืชใช้ไม่ได้นะ
01:52:58 → 01:53:04 ฮะถ้ายังไม่ิันะฮะนะเพราะฉะนั้นก็จะจบไป แล้วนะแล้วกินในมื้อเย็นมื้อเย็นนะฮะที่
01:53:04 → 01:53:13 สามารถที่เติมคาฟได้ นะเส่วนมื้อแรกเนี่ยนะอก็มาเติมเป็นพวก
01:53:13 → 01:53:21 โปรตีนกับต่างๆเหล่าเนะฮะ นะอันนี้เอามาให้ดูคร่าวๆนะคือหลักการใน
01:53:21 → 01:53:28 การกินอาหารที่ถูก 1 วันนะของผู้ที่เป็น เบาหวานนะนะอ่าเรากิน Two Me Day 2
01:53:28 → 01:53:37 มื้อนะฮะนะซึ่งนะเนี่ยในแง่ของสมองนะสมอง นะฮะซึ่งเป็นของกายละเอียดเนี่ยนะฮะถ้า
01:53:37 → 01:53:44 เป็นมื้อแรกเนี่ยสมองจะรู้สึกว่าอิ่มเต็ม นะฮะอิ่มเต็มก็คืออิ่มตื้อหรืออิ่มจริงนะ
01:53:44 → 01:53:51 ฮะนะโดยอ่าความอิ่มที่เกิดขึ้นจากสมอง หรือกายละเอียดเนี่ยความรู้สึกที่เกิด
01:53:51 → 01:53:58 ขึ้นเป็นผลมาจากพลังงานจากไขมันดีนะฮะนะ ที่มันถูกเปลี่ยนถูกตับเปลี่ยนเป็นคีโตน
01:53:58 → 01:54:05 ในมื้อแรกนะร่วมกับโปรตีนนะฮะอ่าโปรตีน ต่างๆนะซึ่งก็เป็นโปรตีนไขมันสูงไขมันปาน
01:54:05 → 01:54:14 กลางนะฮะซึ่งอันเนี้ยการสะท้อนออกมาในแง่ ของความอิ่มและพลังงานนะเป็นหลักนะฮะนะ
01:54:14 → 01:54:23 ที่เกิดการสลายเผาผาญขึ้นมาจากตัเยนะก็จะ เกิดเรี่ยวแรงกำลังวังชานะที่จะอ่าเอาไป
01:54:23 → 01:54:30 ใช้เป็นพลังงานในการทำงานในการ working ในการอ่าดำเนินชีวิตต่างๆที่ต้องเอ่อมี
01:54:30 → 01:54:37 การเคลื่อนไหวอะไรก็ว่านะนะเพราะฉะนั้น เนี่ยอันนี้เนี่ยการกินนะในมื้อแรกกิน
01:54:37 → 01:54:44 เพื่อให้สมองรู้สึกอิ่มเต็มนะโดยเฉพาะจาก พลังงาน Food Healthy Fat ที่จะกลาย
01:54:44 → 01:54:53 เป็นคีโตนนะของทั้งวันนะแล้วเกิดนะในการ กระจายพลังงานไปให้อวยวะต่างๆของร่างกาย
01:54:53 → 01:55:02 ได้เกิดการใช้งานใช้งานนะในตอนกลางวันในน กลางวันเราต้องทำงานนะทีนี้พอมามื้อเย็น
01:55:02 → 01:55:09 มื้อเย็นนะฮะนะมื้อเย็นเป็นการกินเพื่อ เกิดความอิ่มครบนะฮะนะสมองก็จะรู้สึกว่า
01:55:09 → 01:55:19 ที่กินในมื้อเย็นเนี่ยมันได้ครบนะอ่าคำ ว่าอิ่มครบก็คืออิ่มพอดีนะอิ่มพอดีนะคำ
01:55:19 → 01:55:29 ว่าพอดีก็คือสารอาหารหลักคาร์โบไฮเดรต โปรตีนไขมันนะมันพอมันพอในมื้อเย็นนะนะ
01:55:29 → 01:55:34 ไม่ได้เป็นแบบอิ่มตื้ออิ่มเต็มแบบในมื้อ แรกนะฮะเพราะมื้อเย็นเนี่ยเราไม่ได้เน้น
01:55:34 → 01:55:41 พลังงานนะเราเน้นความครบถ้วนของ คาร์โบไฮเดรตโปรตีนแฟตนะเพราะฉะนั้นคาฟใน
01:55:41 → 01:55:47 เมื้อเย็นก็ต้องมีการกินร่วมด้วยแต่จะ น้อยจะมากแล้วจะกินรูปแบบอ่าประเภทหรือ
01:55:47 → 01:55:54 ชนิดยังไงเนี่ยอก็แล้วแต่ว่าตอนเนี้ยเบา หวานของเราเนี่ยอยู่ในขหน่อยนะฮะนะเพราะ
01:55:54 → 01:56:03 ฉะนั้นมื้อเย็นถ้าอิ่มครบพอดีนะฮะเราก็จะ นอนได้นะคอร์ติซอลจะไม่มารบกวนและมาวุ่น
01:56:03 → 01:56:12 วายนะฮะนะจะเกิดผลในแง่ของการหลับของสมอง นะเพื่อเป็นการพักนะและร่างกายกระบวนการ
01:56:12 → 01:56:19 ร่างกายฮอร์โมนต่างๆจะเกิดการซ่อมและ สร้างใหม่นะฮโดยเฉพาะกล้ามเนื้อหรือโครง
01:56:19 → 01:56:27 สร้างส่วนที่ำรุสึกหลอกนะฮะนะอันนี้ก็ทำ กันในเวลากลางคืนส่วนกลางวันนี่คือการ
01:56:27 → 01:56:37 อิ่มเต็มนะฮะที่จะทำให้มีเรวแรงกำลังมชา นะแล้วก็ตื่นืๆนะฮะเพราะว่าคีโตนนะฮะอัน
01:56:37 → 01:56:46 นี้นะนะคือกรณีที่เรายังเป็นเบาหวานแรกๆ ที่ยังไม่ emission นะฮะนะนะไอ้ตัวาฟที่
01:56:46 → 01:56:52 จะกินเนี่ยได้เฉพาะโควต้าผลักหัวนะประมาณ ขีดขึ้นถึงไม่เกิน 2 ขีดแล้วแก่คนตัวใหญ่
01:56:52 → 01:56:59 ตัวเล็กนะเนี่ยนะเท่านั้นเท่านั้นนะฮะนะ อย่างอื่นกินไม่ได้นะส่วนผักใบก็เติมได้
01:56:59 → 01:57:04 ทั้งมื้อแรกมื้อเย็นเพราะเไม่นับพลังงานเ ไม่กระตุ้นอินซูลินนะผักหัวกระตุ้น
01:57:04 → 01:57:10 อินซูลินแต่กระตุ้นน้อยในระดับเซอนะเพรา นั้นแต่ว่าถ้าเป็นโปรตีนเป็นแฟตอะไรต่างๆ
01:57:10 → 01:57:18 เก็ไม่ได้มีผลอะไรนักนะก็กินได้ 2 มื้อ มื้อแรกมื้อเย็นกินต่างกันนะอ่าถ้ามื้อ
01:57:18 → 01:57:25 แรกก็เป็นโปรตีนไขมันสูงไขมันผักลางมื้อ เย็นก็เป็นโปรตีนไขมันต่ำต่มากนะส่วนแฟต
01:57:25 → 01:57:32 เนี่ยมื้อแรกก็น้ำมันสกัดเย็นนะอ่าพลัง งาน 80% มามาจากเรื่องของแฟตรของน้ำมัน
01:57:32 → 01:57:39 สกัดเย็นนะแต่มื้อเย็นเนี่ยอ่าก็เป็น โควต้าในแบบของแฟตคงลูกนะซึ่งถ้าเทียบ
01:57:39 → 01:57:47 เท่ากับน้ำมันแล้วจะต้องไม่เกิน 1 ช้อน โต๊ะ 1 ช้อนโต๊ะนะฮะหรือ 3 ช้อนชานะไม่
01:57:47 → 01:57:54 เกินต้องไม่เกินนะ 1 ช้อนก็ได้ 2 ช้อนก็ ได้แต่ต้องไม่เกิน
01:57:57 → 01:58:04 นะก็ในเรื่องของการกินใน 1 วันเนี่ยมื้อ แรกกับมื้อเย็นก็เกิดความแตกต่างกันนะฮะ
01:58:04 → 01:58:13 แบบนี้อ่าเพราะอะไรนะจุดประสงค์คืออะไรนะ ฮะเราเป็นเบาหวานนะก็ต้องพยายามดูนะอ่า
01:58:13 → 01:58:20 และเหตุผลนะที่อธิบายเอาไว้นะฮะนะเอากิน ให้ถูกกินให้เป็นนะกินให้ได้กินให้โดนใน 1
01:58:20 → 01:58:27 วันนะนี่ในแต่ละมื้อจัดลำดับอาหารยังไงนะ ฮะจัดลำดับอาหารยังไงอย่างมื้อแรกเราไม่
01:58:27 → 01:58:35 มีคาฟนะนะนเราก็จะกินเนื้อสัตว์คู่กับ ไฟเบอร์ไฟเบอร์ก็คือผักใบผักหัวนะฮะนะ
01:58:35 → 01:58:42 เนี่ยเราก็จะกินจะเคี้ยวนะไปด้วยกันนะฮะ นะเมื่อกี้บอกแล้วอ่ะนะอ่าเวลากินเนื้อ
01:58:42 → 01:58:49 สัตว์ในเนื้อสัตว์ก็มีไขมันใช่มั้ยล่ะ ต่อมน้ำลายนะหรือลิ้นนะฮะนะก็จะทำให้เกิด
01:58:49 → 01:58:58 นะการตอบสนองเการรับรสนะต่างๆนะของเนื้อ สัตว์ที่เป็นโปรตีนบวกไขมันนะแต่เขาไม่มี
01:58:58 → 01:59:04 ตัวย่อยโปรตีนนะไม่มีตัวย่อยโปรตีนนะ เพราะตต่อมน้ำำลายไม่มีน้ำย่อยที่เป็น
01:59:04 → 01:59:11 โปรตีนมีใส่น้ำย่อยที่เป็นอ่าย่อย คาร์โบไฮเดรตกับย่อยไขมันนะฮะนะทีนี้การ
01:59:11 → 01:59:18 ที่เรากินไฟเบอร์จากผักใบผักหัวหรือผัก ดอกนะซึ่งสิ่งเหล่าเนี้ยมันจะมีน้ำย่อย
01:59:18 → 01:59:25 หรือมีเอนไซม์ที่ไปย่อยโปรตีนโปรตีนนะ เพราะฉะนั้นการกินในมื้อแรกที่เรากิน
01:59:25 → 01:59:31 เนื้อสัตว์พร้อมๆกับผักใบผักหัวผักดองนะ ก็จะช่วยในการย่อยโปรตีนจากเนื้อสัตว์ใน
01:59:31 → 01:59:39 ช่วงปากนะโดยที่ต่อมน้ำลายของเราอ่าเอ่อ ไม่มีน้ำย่อยในการย่อยโปรตีนออกมานะเพราะ
01:59:39 → 01:59:47 ฉะนั้นกินเนื้อสัตว์นะแล้วก็นะตามด้วย เนี่ยเรื่องของผักใบนะหรือจะมีผักหัวนิด
01:59:47 → 01:59:55 หน่อยนะฮะนะมีไข่มีชีสนะแล้วก็มีน้ำสลัด ทีออยนะก็คือมื้อแรกมันไม่ได้มีการกินพวก
01:59:55 → 02:00:03 คาฟัๆนะฮะสำหรับพู้ที่เป็นเบาหวาน นะทนี้มื้อที่ 2 เนี่ยมีการเติมคาฟนะแต่
02:00:03 → 02:00:11 คาฟที่เป็นผักหัวต้องกินหลังสุดนะฮะต้อง กินหลังสุดนะั้นมื้อที่ 2 นะฮะเราก็กิน
02:00:11 → 02:00:19 โปรตีนกินผักใบนะฮะนะแล้วก็กินไขมันคงลูก พวกกะทินะหรืออโวคาโดหรือถั่วต่างๆอะไร
02:00:19 → 02:00:26 ต่างๆนะฮะนะเนี่ยนิดๆหน่อยๆน้อยนะฮะต้อง กินได้อยๆนะแต่ผักหัวต้องตามหลังสุดหลัง
02:00:26 → 02:00:33 สุดนะฮะเนี่ยนะก็จะทำให้เกิดการกระตุ้น อินซูลินที่ช้าลงนะโดยไม่มีผลต่อการย่อย
02:00:33 → 02:00:39 การดูซึมสารอาหารนะนี่หลักการกินมื้อแรก มื้อเย็น
02:00:39 → 02:00:46 กปทีนี้ก็มีปีกย่อยนิดนึงนะว่ามันมีอยู่ 9 สิ่งนะอื่นๆนอกจากเรื่องการกินแล้วเนี่ย
02:00:46 → 02:00:54 นะก็เป็นข้อปฏิบัติที่จะช่วยส่งเสริมใน เรื่องของการรีวหวานนะที่ควรจะทำก่อน
02:00:54 → 02:01:02 99:00 นก็คือบางคนตื่นแต่เช้านะตื่น 5:00 6:00 นอะไรต่างๆนะนะกว่าจะรอให้พ้นอ่า
02:01:02 → 02:01:09 99:00 นขึ้นไปเพราะว่าคอร์ติซอลเขาจะลง ตอน 900 นนะฮะนะสักประมาณ 10:00 นอะไร
02:01:09 → 02:01:14 อย่างเงี้ยนะเขาก็เเรียกว่า Down regulate ไปอย่างชัดเจนะนะฮะ
02:01:14 → 02:01:21 นะในระหว่างนั้นเนี่ยเรายังไม่ได้อ่า Breakfast โดยการกินมื้อโร่งมื้อแรกอะไร
02:01:21 → 02:01:28 ต่างๆเนี่ยแล้วเราจะทำอะไรล่ะเวเวลามันก็ ต้อง 3-4 ชั่วโมงนะฮะนะก็เลยเนี่ยเป็นข้อ
02:01:28 → 02:01:38 แนะนำในในช่วงแรกถ้าคนติดเช้าๆนะะนะก็มี 9 เรื่องเหลนะนะก็คือ 1 นะก็คือเป็นไซไซโค
02:01:38 → 02:01:47 นะไซโคตัวเองก็เ healing นะไซโคนะนะก็ แล้วแต่จะพูดจะคิดจะทำอะไรต่างๆในด้านบวก
02:01:47 → 02:01:54 ในสิ่งดีๆนะนะให้มีการทำ โดยไม่กินอะไรเลยกินแต่อากาศอย่างเดียวนะ
02:01:54 → 02:02:00 น้ำไม่กินนะของอะไรต่างๆไม่กินนะต่อ เนื่องไปจากเวลาที่ตื่นไปแล้วเนี่ย 1 ช่ม
02:02:00 → 02:02:07 อ 1 ช่มก็ได้ 2 ช่วโมงก็ได้แล้วหลังจาก นั้นก็อ่าเบรค Dr Fast โดยการกิน Water
02:02:07 → 02:02:16 Fast นะไปกินกินน้ำสัๆนะฮะเนี่ยกินน้ำ อุ่นให้ได้ 1 ให้ได้ 1 ใน 3 ของทั้งวันก็
02:02:16 → 02:02:22 ได้นะฮะนะประมาณ 1 ใน 3 1 ใน 4 ของทั้ง วันเนี่ยนะก็คือเป็น Water f ต่อจากไฟ้า
02:02:22 → 02:02:31 นะนะก็เประมาณนี้ 30 แก้วนะฮะอ่าหลังจาก นั้นอ่ามีการกระตุ้นการขับถ่ายอุจปัสสาวะ
02:02:31 → 02:02:39 นะตั้งน้ำหนักตัดส่วนอ่าแล้วตากแดดนะฮะ ตากแดดอตากแดดเนี่ยก็ในช่วงนี้แหละนะฮะใน
02:02:39 → 02:02:45 ช่วง 8 น 900 นในช่วงคือการตัดแดดเนี่ย ไอ้ตัว uvb เนี่ยนะก็จะเป็นตัวที่กระตุ้น
02:02:45 → 02:02:52 ให้คอร์ติซอลเข้าไปพักเ่าไปพักอย่างนึงนะ ฮะก็คือบูลแสง UV ต่างๆเห่าเเนี่ยเจะเป็น
02:02:52 → 02:02:58 ตัวลดคอร์ติซอลในร่างกายนะก็คือเหมือนเขา เป็น signaling หรือเป็นตัวติ๊กเกอร์อ่ะ
02:02:58 → 02:03:05 มาบอกว่าคอร์ติซอลไปพักได้แล้วหมดเวลาการ ทำงานแล้วนะคนตื่นดีแล้วนะฮะนะเพราะว่า
02:03:05 → 02:03:14 แสงเหล่าเยก็เป็นแสงที่เอ่อจะเข้า ในในในการรับรับสิ่งกระตุ้นต่างๆของร่าง
02:03:14 → 02:03:22 กายเนะก็จะไปปลุกเร้าไอ้โสดประสาทอะไร ต่างๆหูตาคอจมูกนะอ่าให้เราตื่นๆๆนะนะ
02:03:22 → 02:03:28 เพราะว่าอ่าหน้าที่ของคอร์ติซอลเก็แค่มา ปลุกให้เราตื่นในช่วงแรกเราจะต้องตื่นต่อ
02:03:28 → 02:03:36 ด้วยแสงนะฮะนะหลังจากแสงเรียบร้อยแล้ว เนี่ยนะเอ่อเราก็จะไปกินนะฮะแล้วเราก็จะ
02:03:36 → 02:03:44 เกิดการเข้าคีโตสิสแล้วก็จะตื่นหรือทำงาน ต่อไปนะโดยเรื่องของการเผาผลาญไขมันเป็น
02:03:44 → 02:03:52 พลังงานนะฮะที่เป็นคีโตนตื่นต่อด้วยคีโตน นะนะระหว่างนี้เนี่ยหลังจากคอร์ติซอลลดนะ
02:03:52 → 02:04:00 ก็ใช้แสงกระตุ้นอ่าหลังจากนั้นก็มีเวลา ว่างในงานสะกดสงบสติอารมณ์นะอ่าหรือบางคน
02:04:00 → 02:04:06 จะออกแรงออกกำลังจะเวทจะคาร์ดิโอจะเดินก็ ได้นะฮะนะจะเวทในตอนเช้าเลยก็ได้แล้วแต่
02:04:06 → 02:04:13 ร่ำเวลาด้วยบางคนยังทำงานอยู่นะนะแล้วก็ มีการดื่มน้ำเกลือนะก่อนการออกกำลงกายนะ
02:04:13 → 02:04:21 นะเกลือดำอาจจะกินไม่ไหวนะฮะก็เป็นเกลือ ชมพูหรือเกลือดอกเกลืออะไรก็ได้นะเนี่ยี่
02:04:21 → 02:04:26 ก็ 9 อย่างเหล่าเนี้ยนะถ้าทำได้ก็ทำนะฮะ นะอันนี้เป็นตัวเสริมนะฮเป็นสิ่งเสริมใน
02:04:26 → 02:04:33 เรื่องของไอ่า High Fat นะ low C High Fat นะ
02:04:33 → 02:04:42 ฮะทีนี้อย่างนึงเนี่ยนะฮะของความล้มเหลว นะฮะนะในเรื่องของเนี่ยอ่าการดื้อ
02:04:42 → 02:04:49 อินซูลินกับคอร์ติซอลที่มันจะมันจะหมุน กลับมานะฮะหรือว่ามันไม่สามารถที่จะควบ
02:04:49 → 02:04:57 คุมเได้เนี่ยคืออะไรบ้างนะฮะนะก็จะมีอยู่ 5 เรื่องนะฮะนะก็คือการกินไม่ถูกนะฮะกิน
02:04:57 → 02:05:03 ผิดนั่นแหละนะกินไม่ถูกหรือกินผิดนะโดย เฉพาะพลังงานและสารอาหารนะทั้งเรื่องค้า
02:05:03 → 02:05:10 โปรตีนไขมันนะเพราะฉะนั้นเราต้องมีความ รู้นะนะการมีรนิ eating หรือ
02:05:10 → 02:05:20 เแิเอ่อหรือเนี่ยแิต่างๆเหล่าเนี้ยนะฮะนะ อ่ามักจะทำให้เรื่องของการกินหลุดกินอ่า
02:05:20 → 02:05:28 เค้าเรียกว่ากินกินแบบหยวนๆน่ะนะฮะอ่านะ พวกนี้ก็คือถ้ายังมีรนิ eatting
02:05:28 → 02:05:36 อยู่การนอนที่ไม่มีคุณภาพนะนะแล้วก็การ ออกแรงออกกำลังที่ไม่ถูกมากไปน้อยไปหัก
02:05:36 → 02:05:44 โหมไปนะฮะนะหรือไม่เข้าใจในเรื่องออก กำลังกายนะหลายคนก็มีแต่คาร์ดิโอนะทั้ง
02:05:44 → 02:05:51 จีบจักรยานทั้งวิ่งเป็น 10 10 กลเ่อทั้ง เ่อเนี่ยนะทำแต่คาร์ดิโอเป็นอย่างเดียวเ
02:05:51 → 02:05:58 นะไม่เข้าใจในเรื่องการทำเรื่องฮิทไม่ เข้าใจในเรื่องของเวทนะฮะนะนะอันนี้ก็ก็
02:05:58 → 02:06:05 ไม่ใช่แล้วนะมันมันมัน มันมันมันจะทำให้ตัวอินซูลินคอร์ติซอลเ
02:06:05 → 02:06:11 ไม่ลด่ะนะเไม่ไปไหนอ่ะนะฮะเพราะเรายัง เข้าใจอะไรผิดอยู่ทำผิดๆอยู่นะฮะนะอารมณ์
02:06:11 → 02:06:17 เปลี่ยนแปลงนะนะอันนี้ก็มักจะมีเป็น เรื่องราวอะไรต่างๆนะที่แทรกขึ้นมาในช่วง
02:06:17 → 02:06:25 ของการใช้ชีวิตนะหรืออุบัติเหตุการเจ็บ ป่วยแบบันนะฮะนะ 4 5
02:06:25 → 02:06:34 นี่ก็เป็นเรื่องหลักหลักๆก็คือกินนอนนะ ออกแรงออกกำลังนะหรือ If นะอันนั้นก็แล้ว
02:06:34 → 02:06:41 แต่แต่ละบุคคล นะแล้วเราก็พบว่านะฮะนะในเรื่องของการกิน
02:06:41 → 02:06:48 เนี่ยนะฮะนะนะส่วนใหญ่คนเ่ะมันกินผิดอ่า โปรตีนมักจะมากเกินไปในยุคปัจจุบันคือคุณ
02:06:48 → 02:06:58 กินโลคคีโต CD kcd แล้วเนี่ยนะแต่มันกิน ไม่ถูกนะโปรตีนกินมากนะฮะนะไขมันดีนะส่วน
02:06:58 → 02:07:07 ใหญ่กินไม่เป็นไม่ถึงไม่พอก็เลยกินขาดนะ ฮะส่วนคาฟมักจะไปกินแบบแฝงอ่ะแฝงปนเปื้อน
02:07:07 → 02:07:15 ปะปนหรือหยวนๆหย่อนๆหลุดๆไม่เคร่งัดเนี่ย เนี่ยโปรตีนไขมันคาฟมันก็จะมีปัญหาอย่าง
02:07:15 → 02:07:23 เงี้ยนะอยู่แบบเราคิดไม่ถึงนะนะฮะส่วน ไฟเบอร์ไฟเบอร์นี่ก็มักจะแบบเอ่อเนี่ยมี
02:07:23 → 02:07:33 ทั้งกินนมากหรือกินผิดเวลาในมื้ออาหาร อะไรต่างๆนะฮะนะเนี่ยเออนะหรือหลายคนไม่
02:07:33 → 02:07:41 เข้าใจเนี่ยมื้อแรกก็ไปกินแป้งกินข้าวกิน ผลไม้กินอาหารแปรรูปนะทำให้เกิด Random
02:07:41 → 02:07:48 ไซคินะฮะนะก็คือคาฟกับไขมันมาด้วยกันใน มื้อแรกโอถ้าอย่างนี้โครลหนแน่นอนนะฮะ
02:07:48 → 02:07:56 ฮอร์โมนอินซูลินคอร์ติซอลนะก็ทะเลาะกันไป ทั้งวันจนยาวไปถึงกลางคืนนะบางคนก็ทะเลาะ
02:07:56 → 02:08:04 กันเกินเลยวันนึงก็ไปที่ 48 ชมงเก็มีนะฮะ นะถ้าเกิดคนมันดื้อมากๆทั้งอินซูลินทั้ง
02:08:04 → 02:08:12 คอสีซอนะนะอันนี้ก็มักจะเป็นปัญหายุ่งยาก อะไรต่างๆนะที่เป็นข้อสรุปคือในสายสุขภาพ
02:08:12 → 02:08:18 เนี่ยนะเ่อเริ่มจะมีความรู้เริ่มจะ ปฏิบัติเริ่มจะอยากที่จะดีอยากจะหายนะฮะ
02:08:18 → 02:08:25 นะแต่เวลามันทำแล้วรายละเอียดไส้ในของ สิ่งต่างๆเนี่ยมันไม่ถูกนะฮะมันไม่ถูกนะ
02:08:25 → 02:08:32 นะมันเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆเนี่ยใครก็ไม่ รู้เท่าคนคนั้นนะฮะนะเพราะบางทีเนี่ยก็มา
02:08:32 → 02:08:39 มามามาถ่ายรูปมาหรือว่ามา consult มานะ แต่มันไม่ได้ให้รายละเอียดของข้อมูลใน
02:08:39 → 02:08:44 เชิงลึกจริงๆเหเนี้ยนะบางทีมันก็ วิเคราะห์ผิดทิศผิดทางเข้าป่าออกทะเลกัน
02:08:44 → 02:08:51 ไปอันนี้ก็เป็นหลักๆนะฮะเน็ตคต้องน้อยๆ โปรตีนต้องเป็นเอ่อ Quality โปรตีนนะพพม
02:08:51 → 02:08:57 กำลังดีนะไขมันดีต้องสูง High Good Healthy Fat นะฮะแล้วไฟเบอร์ต้องพอ
02:08:57 → 02:09:07 ประมาณนะฮะอไม่มากไม่น้อยนะฮะนะอ่าหลักๆ คือต้องไม่มากนะไฟเบอร์นะไม่งั้นมันเกะกะ
02:09:07 → 02:09:14 ท้องเรื่องนึงเนี่ยฮะของคนที่เป็นเบาหวาน ที่มีปัญหามากที่สุดเท่าที่หมอมี
02:09:14 → 02:09:21 ประสบการณ์แล้วสังเกตมาแล้วพอจะสนุกมาได้ ก็คือก็คือฟนะฮะเรื่องความเข้าใจในเรื่อง
02:09:21 → 02:09:29 คาฟนะฮเนี่ยปัญหาของผู้ที่เป็นเบาหวานและ เลือกจะใช้พนาการแบบคาฟต่ำก็จริงนะแต่ใน
02:09:29 → 02:09:36 แง่ของตัวคาฟต่างๆะนะคาร์โบไฮเดรตนี่แหละ ฮะชนิดประเภทปริมาณสัดส่วนการกระจายใน
02:09:36 → 02:09:43 มื้ออาหารของวันนะรวมทั้งคาฟแฝงคาพืบพาน ถ้าไม่เข้าใจนะฮะถ้าไม่เข้าใจเนี่ยเ่ออัน
02:09:43 → 02:09:50 นี้เอ่อยากมากนะฮะที่จะ reever emission เบาหวานได้นะเพราะงั้นคีย์เวิร์ดที่สำคัญ
02:09:50 → 02:09:58 ในการกินคาเนี่ยนะฮะก็คือมื้อแรกตัดาฟทุก รูปแบบนะเลือกกินได้เฉพาะผักใบที่มักจะมี
02:09:58 → 02:10:08 เส้นใยเอ่อเส้นใยไม่ละลายน้ำนะเป็นหลักนะ ฮะนะอ่ะกินผักใบอย่างเดียวนะอย่านี้
02:10:08 → 02:10:18 นะการเลือกกินคาฟนะผักหัวนะให้ใช้เฉพาะใน มื้อเย็นนะโดยต้องจำกัดปริมาณนะแล้วก็ผัก
02:10:18 → 02:10:26 หัวเหล่านี้ต้องกินควบคู่กับโปรตีนคุณภาพ ไขมันคงลูกนะและอาจจะมีผักใบผักดองนิดๆ
02:10:26 → 02:10:33 หน่อยๆในมื้อเย็นนะคือกินเพื่อให้ ครบแต่มื้อแรกเนี่ยแทบจะตัดคาฟไปเลยนะถ้า
02:10:33 → 02:10:42 ไม่แน่ใจไม่อ่าก้ำๆกึงๆก็ๆกลัวๆนะไม่แน่ ใจก็ตัดไปเลยนะฮะก็โปรตีนเาะกับไขมันเท่า
02:10:42 → 02:10:50 นั้นก็อาหารในกลุ่มคาฟนะฮะนะเราให้ดูหลาย ครั้งแล้วก็มี 4 กลุ่มนะฮะนะผักใบผักหัว
02:10:50 → 02:10:57 แป้งเชืองซ้อนแป้งอ้วนแล้วก็ผลไม้นะเนี่ย อ่าก็ต้องมีความรู้นะฮะนะอย่างผักใบเนี่ย
02:10:57 → 02:11:04 นะเอาจจะใช้คำว่าผักกอผักผอมพวกนี้ให้ พลังงานต่ำและไม่ต้องนับพลังงานก็จะมี
02:11:04 → 02:11:12 อะไรบ้างนะฮะหลักๆมันมี 6 กลุ่มเนี่ยนี้ เป็นผักใบนะส่วนผักหัวนะหรือผักขอหรือผัก
02:11:12 → 02:11:22 อ้วนนะให้พลังงานนะฮะในรูปแบบที่เป็นเน็ต คาฟนะฮะเป็นหลักนะเป็นเป็นหลักเนี่ยนะฮะ
02:11:22 → 02:11:30 แต่ก็ไม่เยอะไม่เยอะนะฮะนะ 1 หน่วยเนี่ย นะเ่าเขาก็จะให้เน็ตคฟประมาณ 5 กรัมนะ
02:11:30 → 02:11:38 เพราะฉะนั้นเวลาจะกินผักหัวเนี่ยนะก็ต้อง กินในมื้อเย็นนะแล้วก็กินได้ในไปปริมาณนะ
02:11:38 → 02:11:46 ขีดครึ่งถึงไม่เกิน 2 ขีดนะแบบสุกนะฮะแบบ สุกนะก็ได้ปริมาณนึงนะทนี้ผักหัวมีทั้ง
02:11:46 → 02:11:54 หมด 8 กลุ่มเป็นแบบนี้นะนะก็ต้องรู้นะแต่ คนไม่รู้ก็มั่วไปหมดผักไปบผากัวอะไรก็ไม่
02:11:54 → 02:12:02 รู้อ่ะนะนะอ่าส่วนกรณีสีแดงพวกนี้ถ้าคุณ เป็นเบาหวานโดยเฉพาะยังไม่ิักินไม่ได้นะ
02:12:02 → 02:12:10 ฮะตัดอาไปจากชีวิตก่อนเลยให้เบาหวานิั จริงๆแท้ๆแน่ๆก่อนเลยนะฮะอย่าไปยุ่งฮะ
02:12:10 → 02:12:18 อย่าไปยุ่งนะฮะนะในส่วนผลไม้ที่พอจะได้ บ้างได้บ้างนะนะก็จะมีอยู่ 3 ตัวนะก็คือ
02:12:18 → 02:12:25 เนื้อมะพร้าวนะอะโวคาโด แล้วก็มะนาวในขนาดไม่เกิน 1 ลูกต่อวันนะ
02:12:25 → 02:12:32 ครึ่งถึง 1 ลูกต่อวันคือมะนาวก็มีคาฟนะฮะ แม้ว่าเขาจะเปรี้ยวแสนเปรี้ยวนะแล้วคาฟเ
02:12:32 → 02:12:40 เนี่ยสามารถที่จะไปไปยกกำลังนะอินซูลิน ของคุณได้นะนะไม่แน่ใจก็สัตไปก่อนนะอีก
02:12:40 → 02:12:48 ตัวนึงคือมะกอกฝรั่งนะมะกอกดองกินในรูป มะกอกดองนะฮะนะเพราะทั้งมะกอกทั้งเนื้อ
02:12:48 → 02:12:51 มะพร้าวทั้งอโวคาโดเรานับสารอาหาร้วกลุ่ม ไขมัน
02:12:51 → 02:12:59 เราไม่ได้นับคาฟนะแต่มะนาวเนี่ยนะฮะมะนาว นี่เเป็นผลไม้ประเภทคาฟที่ไม่นับพลังงาน
02:12:59 → 02:13:05 ที่ไม่นับพลังงานแต่ถ้ากินเยอะๆมันจะมี คาฟที่ไปกระตุ้นอินซูลินเยอะนะฮะนะเพราะ
02:13:05 → 02:13:12 ฉะนั้นจึงต้องลิมิตกินวันละถ้าลูกใหญ่ๆ ไม่เกินครึ่งลูกถ้าลูกเล็กๆย่อมๆหรือขนาด
02:13:12 → 02:13:20 กลางๆไม่เกิน 1 ลูกอแต่แล้วกินมะนาวไม่ ใช่บีบใส่น้ำนะอย่างงั้นนะฮะนะเราต้องกิน
02:13:20 → 02:13:24 ในอาหารเอามาทำต้มยำอะไรพวก
02:13:25 → 02:13:34 นี้อ่าอันนี้ก็เบาหวานไม่ได้นะฮะนะนะอัน นี้มันได้ในกรณีที่ที่คนที่เป็นเบาหวานิั
02:13:34 → 02:13:42 แล้วนะเี่เข้าวสุก 1 ทัพพีประมาณ 5 ช้อน โต๊ะน้ำหนักก็จะประมาณ 60 กรัมนะจะมีเน็ต
02:13:42 → 02:13:51 คาฟ 18 กรัมมีเน็ตโปรตีน 2 กรัให้พลังงาน นะ 80 กิโลแคลอรี่ต่อ 1 หน่วยหรือ 1 นี่
02:13:51 → 02:13:56 นะอันนี้ก็คือเค้าเรียกว่าคาฟ 1 ส่วนคาฟ 1 ส่วนนะ
02:13:56 → 02:14:07 ฮะก็คือในกรณีที่ยังไม่รัอันนี้กินไม่ได้ แต่ถ้ารัแล้วจะกินได้ในมื้อเย็นนะโดยเป็น
02:14:07 → 02:14:12 ข้าวสุกประมาณประมาณ
02:14:12 → 02:14:21 ถึงไม่เกิน 2 ทัพพีนะแล้วแต่อ้วนแต่ผอม ด้วยนะถ้าอ้วนถ้ายังอ้วนๆน้ำหนักอยู่ใน
02:14:21 → 02:14:30 เกนอิิอยู่ก็ได้ถึง 2 ทับพีนะะต้อง emission จริงๆแล้วนะฮะนะแล้วค่าตัวแลบ
02:14:30 → 02:14:38 มอนิเตอร์อะไรต่างๆอยู่ใน Range นะที่ยอม รับได้แล้วนะแต่ถ้าผอมๆเนี่ยก็ิัแล้วก็
02:14:38 → 02:14:45 ไม่เกิน 1 ทัพ 5 ช้อนโต๊ะนะกินในมื้อเย็น ไม่กินในมื้อแรกนะสำหรับผู้ที่เป็นเบา
02:14:45 → 02:14:52 หวาดนตัวอย่างอาหารเนี่ยก็จะเป็นอย่างง นี้นะฮะนะเนี่ยนะอ่าการเบค Fast หรือ
02:14:52 → 02:15:00 อาหารในมื้อแรกก็คือดนะเนื้อเนื้อไข่นะฮะ อันนี้ก็ถือว่าเป็น the most nutritious
02:15:00 → 02:15:07 นะ Den Food นะ on the Planet นะฮะนะ เนี่ยจะเป็นอย่านี้นะแต่ต้องบอกนิดนึงว่า
02:15:07 → 02:15:14 เรื่องไข่เนี่ยถ้าทำอย่างนี้ไม่ได้นะฮะนะ นะอันนี้กลายเป็นไข่ที่เสียสุขภาพะนะฮะนะ
02:15:14 → 02:15:21 นะพอเป็นการทอดนะด้วยความร้อนไฟแรงไข่แดง ไข่ขาวแตกหมดแล้วนะฮะ
02:15:21 → 02:15:29 นะตัวเสริมนะฮะตัวเสริมเนะก็ไอ้ตัวที่ เสริมจากเนื้อสัตว์ใหญ่เนี่ยนะก็จะมีไข่
02:15:29 → 02:15:37 นะมีแซลมอนก็คือเนื้อปลาทะเลน้ำลึกนะฮะนะ มีตับมีเครื่องในมีเลือดนะฮะสิ่งเหล่านี้
02:15:37 → 02:15:45 ให้วนๆเอามาเสริมเนื้อสัตว์ใหญ่ในมื้อแรก ในมื้อแรกนะฮะนะโดยเฉพาะไข่เนี่ยนะจะเป็น
02:15:45 → 02:15:54 ตัวปิดสวิตช์ของความหิวนะได้นะฮะนะแต่แต่ นะต้องกินให้เป็นนะฮะต้องกินให้เป็นเพราะ
02:15:54 → 02:16:01 ว่าไข่ที่เรายอมรับในการกินเพื่อจะเกิด ภาวะสุขภาพที่ดีนะที่ดีนะฮะโดยเฉพาะยิ่ง
02:16:01 → 02:16:07 เป็นเบาหวานเนี่ยมันยอมรับใน 4 รูปแบบ เท่านั้นนะฮะไม่ใช่ไข่เอามาทำอะไรกินก็
02:16:07 → 02:16:17 ได้ทอดก็ได้นะทำไข่น้ำก็ได้ออมเลตก็ได้ตี แตกก็ได้นะออไม่ได้นะฮะไม่ได้นะฮะสามารถ
02:16:17 → 02:16:25 หมุนเวียนกับพวกปลลาแซลมอนนะฮะนะหมุน เวียนกับตับกับเครื่องในกับเลือดนะอันนี้
02:16:25 → 02:16:33 เวียนได้นะเวียนได้นะเพราะร่างกายชอบการ โตชอบการเ่าเนี่ยสับเปลี่ยนหมุนเวียนนะ
02:16:33 → 02:16:42 เ่อจะได้ไม่เบืองมากนะนะออันนี้ก็เป็นข้อ มูลเอามาให้นะอย่างไข่เนี่ยนะอย่างไข่นะ
02:16:42 → 02:16:50 จะเห็นว่าไข่เนี่ยนะตรงกลางกลางเนี่ยนะฮะ โดยเฉพาะกลางๆคอดมาทางขวาเนะอันนี้จะเป็น
02:16:50 → 02:16:54 ไขที่ค่อนข้างดี
02:16:54 → 02:17:05 นะนะอันนี้เขาบอกว่าีนนะฮะีนเบอินะฮะนะ เพรานั้นถ้าอยากีนนะฮะอยากีนนะฮะก็กินมา
02:17:05 → 02:17:14 ทางฝั่งนี้นะฮะอ่าฝั่งอ่าไข่ขาวหรือว่า ไข่ทั้งฟองนะหรือไข่แบบนะเ่อไข่ออนเซ็น
02:17:14 → 02:17:21 เนี่ยนะหรือไข่ต้มอะไรอย่างเงี้ยนะฮะพอ เริ่มเป็นไข่ดาวนี่ไม่ค่อยดีะนะเนี่ยไอ้
02:17:21 → 02:17:28 ตัวตัวเลขเหล่าเนี้ยนะก็คือคุณค่าทางสาร อาหารอะไรต่างๆนะก็จะเริ่มจะลดลงนะฮะ
02:17:28 → 02:17:36 เริ่มจะลดลงนะถ้าจะให้ดีต้องอยู่ในฝั่ง ทางนี้นะฮะอ่าเขียวๆค่อมาทางข้างขวานะฮะ
02:17:36 → 02:17:41 เนี่ย High Quality นะ Lean physic นะ ฮะ
02:17:41 → 02:17:49 อ่าอันนี้นะฮะอันนี้นะเครื่องหมายถูก เนี่ยนะก็คือเรากินได้ 4 รูปแบบนะฮะสหรับ
02:17:49 → 02:18:01 ไข่นะก็คือคือไข่ลวกอ่าไข่ลวกมีมั้ยในนี้ ไม่มีนะอ่าเป็นไข่ลวกนะฮะไข่ออนเซ็นนะไข่
02:18:01 → 02:18:11 ดาวน้ำแล้วไข่ต้มยางมะตูนะฮะเนี่ยต้มจน กระทั่งไข่แดงแข็งเนี่ยไม่ได้ต้องต้มแล้ว
02:18:11 → 02:18:21 แบบยางประตูไข่ต้มนะฮะนะไข่ดาวน้ำนะฮะไข่ ดาวน้ำไม่ได้ใช้น้ำมันนะฮะนะนะ
02:18:21 → 02:18:30 หรือไข่ลวกไข่ออนเซ็นนะที่ที่ไข่แดงมัน ไม่สุกไม่แข็งยังเหลวๆอยู่นะครับผมอันนี้
02:18:30 → 02:18:38 คือครับผมคุณภาพนะฮะหรือการปรุงไข่ให้สุก นะอย่างมีคุณภาพและจะได้ประโยชน์สูงสุดนะ
02:18:38 → 02:18:45 ฮะแต่ไข่ที่กากบาทสีแดงเหล่านี้นะอันนี้ ไข่เสียคุณภาพหมดแล้วนะฮะอันนี้ก็ยังพอ
02:18:45 → 02:18:52 ได้อยู่ไข่ดาวแบบเนี้ยที่ไข่แดงยังยัง เหลวๆอยู่อนะฮะยังพอได้นะนะแต่ถ้าเป็นไข่
02:18:52 → 02:18:59 เจียวนะนะหรือไข่แบบชนิดที่ใช้ความร้อน เยอะเกินไปหน่อยอะไรอย่างเงี้ยนะหรือไข่
02:18:59 → 02:19:06 ต้มเนี่ยนะที่เกิน 7 นาทีอะไรเงี้ยไม่ได้ แล้วนะฮะนะเพราะว่าคุณค่าสารอาหารจะเสีย
02:19:06 → 02:19:12 ไปเยอะมากนะฮะซึ่งหมอเรียกว่าไข่สนิ่มไข่ สนิ่มก็คือไข่ที่โดนความร้อนมากเกินไปนะ
02:19:12 → 02:19:19 ฮะเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าเราเห็นภาพของการ กินมื้อแรกแล้วสภาพไข่เป็นอย่างเงี้ยก็
02:19:19 → 02:19:26 อันนี้ไม่โอเคนะฮะกลายเป็นไขสนิมนะอ่าผล ประโยชน์ที่จะได้น้อยน้อย
02:19:26 → 02:19:35 นะเอ่าเนี่ยแบบเนี้ยนะฮะผมก็เปรียบเทียบ นะมาให้ดูนะฮะเนี่ยข้อดีของการกินไข่ก็มี
02:19:35 → 02:19:42 เนี่ยๆอย่างไข่ต่างๆเนี่ยนะอย่างออมเลต นี่ไม่ได้แล้วนะนะครับผมนะไม่ได้นะไข่ดาว
02:19:42 → 02:19:48 แบบนี้ก็ไม่ได้ไข่ดาวแบบนี้ไม่ได้นะคือ เกือบๆได้อ่ะนานๆดีไม่เป็นไรนะฮะเนี่ย
02:19:48 → 02:19:56 เนี่ยไข่ดาวน้ำนะฮะนะครับผมไข่ต้มแบบนี้ ไม่ได้แล้วนะฮะนะต้องเป็นต้มแบบเต้มแล้ว
02:19:56 → 02:20:06 นะไข่แดงยังเหลวๆอยู่นะฮะนะส่วน scam นะ ไข่คนนี่ไม่ได้นะ omlet SC อ่าอะไรไข่
02:20:06 → 02:20:12 เจียวไข่ดาวแบบสุกๆไข่แดงสุกอะไรอย่าง เงี้ยอันนี้โน่ไม่ได้นะฮะเพรางั้นคำสั่ง
02:20:12 → 02:20:20 แบบเนี้ยคุณรู้มคุณกำลังทำลายสุขภาพในการ ใช้ไข่เป็นตัวกลางนะฮะกับความร้อนที่ไม่
02:20:20 → 02:20:28 ถูกต้องนะฮะนะมันจะกินให้มีประโยชน์นะกิน เพื่ออ่ากู้ร่างนะเอ่อแล้วก็เอ่อลดโลก
02:20:28 → 02:20:35 อะไรอย่างเงี้ยนะอ่าก็ต้องกินให้เป็นต้อง สั่งให้ถูกต้องทำให้ให้ดีนะฮอันนี้ก็จะ
02:20:35 → 02:20:43 เป็นเรื่องที่เค้ามีงานวิจัยนะฮะเกี่ยว กับเรื่องของน้ำตาลนะฮะหลังการเดินนะฮะนะ
02:20:43 → 02:20:48 อันเนี้ยเค้าจะมีคอร์สในการเดินนะฮะ 1 เดือน 1 เดือนนะอันนี้คือ 18 พฤษภาคมถึง
02:20:48 → 02:20:56 16 มิถุนายนนะฮะเนี่ยผลของคนชื่อเหล่า เนี้ยนะฮะจะเห็นว่าเริ่มต้นเนี่ยเขาเจาะ
02:20:56 → 02:21:04 น้ำตาลในเลือดเนี่ยได้แบบนี้นะฮะน้ำตาล ตอนเช้าเนี่ยนะฮะนะนะแล้วหลังนะจจบการ
02:21:04 → 02:21:14 เดินนะนะหลังมื้ออาหารนะแล้วพอครบนะคอร์ส นึงก็ 1 เดือนเนี่ยนะฮะปรากฏว่าน้ำตาลมัน
02:21:14 → 02:21:21 ก็ลดลงนะฮะซึ่งการเปลี่ยนแปลงเนี่ยนะก็ บางคนลดลงเยอะมากนะฮะนะถ้าถ้าเทียบเป็น
02:21:21 → 02:21:24 เปอร์เซแล้วเนี่ยการลดลงของน้ำตาลอยู่ใน ช่วง 20
02:21:24 → 02:21:32 -30% นะอย่างคนนี้โผล่มาลดลงไว้ตั้ง 39% นะฮะเขน่าจะมีทำอะไรร่วมด้วยนะฮะแต่นี้
02:21:32 → 02:21:39 เป็นงานวิจัยที่เขาจะเปรียบเทียบ ว่าหลังกินอาหารแล้วไปเดินนะฮะนะจะช่วยลด
02:21:39 → 02:21:45 น้ำตาลในเลือดขนาดนนนะเมื่อเวลาผ่านไป ผ่านไปผ่านไปเพราะฉะนั้นถ้าทำเป็นประจำ
02:21:45 → 02:21:50 เนี่ยนะมันก็เหมือนเป็นยาขนานหนึ่งเลยอ่ะ นะฮะที่สามารถช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้โดย
02:21:50 → 02:21:59 เฉพาะในขณะที่เรากำลังจะพยายามรักษาตัว เองจากเบาหวานนะนะเพราะงั้นไดเอตเนี่ยมี
02:21:59 → 02:22:05 ผลเยอะนะฮะนะพวกการเคลื่อนไหวก็ยังมีผล น้อยหน่อยนะฮะ
02:22:05 → 02:22:08 10%
02:22:08 → 02:22:17 เอออย่างอันนี้นะฮะอย่างอันนี้ก็เนี่ยการ กินโปรตีนที่มันแปรรูปนะฮะนะเนี่ย 80%
02:22:17 → 02:22:22 Convert เป็นชูก้านะฮะโดยเฉพาะพวกเ นะ
02:22:22 → 02:22:29 แต่ในเรื่องของโปรตีนที่มันแปรรูปเนี่ย แล้วมันเปลี่ยนเป็นน้ำตาลเนี่ยนะ
02:22:29 → 02:22:39 อ่าปรากฏว่าอย่างดรเบ็กเจะบอกเลยว่านะเ่อ ไม่ต้องไม่ต้องตื่นตระหนกไปนะฮะนะเรารู้
02:22:39 → 02:22:44 ว่าโปรตีนแปรรูปเปลี่ยนเป็นน้ำตาลเนี่ย แต่เจาะน้ำตาลในเลือดมันไม่
02:22:44 → 02:22:52 สูงเพราะอะไรนะเพราะมันไปสปอินซูลินออกมา เยอะแล้วอินซูลินที่สไปออกมาเนี่ยแหละนะ
02:22:52 → 02:22:58 มันมาดำน้ำตาลลงไปเพราะฉะนั้นคุณจะมาตรวจ น้ำตาลไหนล่ะไหนล่ะบอกว่าโอ้โหกินโปรตีน
02:22:58 → 02:23:05 แปรรูปกิินโปรตีนผงกินเวโปรตีนนะเนี่ยเรา ทำให้น้ำตาลเยอะนะฮะนะทำไมเจาะเลือดแล้ว
02:23:05 → 02:23:15 มันไม่เยอะนะฮะมันไม่เยอะเนี่ยก็เพราะว่า อ่อมันไปมีผลต่ออินซูลินนะคือใช่นะมัน
02:23:15 → 02:23:22 เปลี่ยนเป็นน้ำตาลเยอะนะฮะแต่ในช่วงที่ มันเปลี่ยนเป็นน้ำตาลเนี่ยอินซูลินเพุ่ง
02:23:22 → 02:23:28 อย่างรวดเร็วและรุนแรงมาประกบแล้วก็ดัม น้ำตาลลงเร็วมากนะฮะนะเพราะั้นในช่วงการ
02:23:28 → 02:23:36 เจาะนะที่เราจะดูว่าจริงหรอน้ำตาลเยอะๆๆเ ไอ้กินพวกโปรตีนแปรรูปเนี่ยบางทีมันไม่
02:23:36 → 02:23:44 เจอนะฮะนะมันไม่เจอนะเก่งจริงคุณก็ไปเจาะ ในอินซูลินเลเวลสิเนี่ยจะเจอแน่นอนเลยนะ
02:23:44 → 02:23:52 ว่าไอ้กินพวกเนี้ยนะแล้วมันก็ไปกระตุ้น อินซูลินนะเพราะว่าสำคัญที่สุดก็คือเขาไป
02:23:52 → 02:23:59 พุ่งอินซูลินนะฮะโอเจออันนี้เข้า ไป
02:23:59 → 02:24:07 เออมันอาจมันอาจจะไม่ใช่ตัวชี้วัดนะนะแต่ อินซูลินเนี่ยเป็นตัวเพราะอะไรเพราะว่า
02:24:07 → 02:24:14 อินซูลินที่มาในลักษณะนี้ก็เป็นอินซูลิน ดุดันและก้าวร้าวซึ่งเวลาเขามาเนี่ยนะเขา
02:24:14 → 02:24:20 ไม่บอกว่าเออเดี๋ยว 2 ช่วโมงฉันจะไปเ้า ไม่ไปนะฮะนะอินซูลินดูดันก้าว้าเนี่ยเขมา
02:24:20 → 02:24:27 แล้วเจะลอยอยู่อย่างงั้นนะเท้าทายไงนะนะ เนี่ยเพราะฉะนั้นพีคของอินซูลินเนี่ยมัน
02:24:27 → 02:24:33 จะอยู่นานเลยนะกว่ามันจะลงมาได้นะฮะเพราะ อะไรเพราะว่าคุณเริ่มต้นด้วยเรื่องของการ
02:24:33 → 02:24:43 แปรรูปในสิ่งที่เป็นโปรตีนที่ิทุอืคือกิน โครับผมกินโปรตีนผงแล้วไปเจาะอินซูลินดู
02:24:43 → 02:24:48 เลยเออต้องไปจอดอินซูลินไม่ใช่ไปจอดน้ำ ตาลแต่หลายคนก็ไปจอดน้ำตาลแล้วก็มาโวยวาย
02:24:48 → 02:24:57 กันว่าเออไม่เห็นน้ำตาลสูงอะไรเลยนะฮนี่ ต้องอินซูลินนี่แน่นอนนะเราเข้ามาไม่ลง
02:24:57 → 02:25:05 ด้วยนะเรอให้คุณเจาะคุณก็ไม่เจาะเขาอ่ะเ คุณดันไปเจาะผิดตัวนะเพราะว่าการสูงแบบ
02:25:05 → 02:25:10 พีคเหลเเก็ดัมน้ำตาลเร็วมากนะโอมันมี เครื่อง cim มพี่
02:25:10 → 02:25:21 หมอกู contin insulin มิเตอร์ เนี่ยอาจจะมาในระยะต่อไปมั้งเออเพราะว่า
02:25:21 → 02:25:27 มันต้องใช้ไอ้เครื่องวัดอินซูลินจริงๆอนะ พี่หมอนะใช่ๆแค่แค่แค่ตอินซูลินเข้าไปก็
02:25:27 → 02:25:34 ราคาแงตอนแทนไปก่อนอ่าๆๆเพมันวิ่งตรงกัน ข้ามกันเออ
02:25:34 → 02:25:41 เออทีนี้ก็มีเรื่องอันนี้น่ะในเพจเพจนึง นะฮะซึ่งเป็นเพจทางด้านเอ่าทางด้านการออก
02:25:41 → 02:25:50 กำลังกายอ่ะนะฮะอ่าอันนี้เนี่ยนะอ่าเพจ นี้เค้าก็จะอยู่ในแนวทางของการกินแบบโคนะ
02:25:50 → 02:25:56 โลคเลยล่ะนะฮนะแล้วก็มีไโปรตีน High Good F อะไรก็ตามนะอันนี้เอธิบายในเรื่องว่า
02:25:56 → 02:26:03 เนี่ยนะว่าตอนเช้าเนี่ยนะเแนะนำการกิน เบคอนซึ่งเป็นเนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูง
02:26:03 → 02:26:10 เป็นโปรตีนไขมันสูงนะนะเขาบอกว่าเนี่ยมัน มีไขมันเยอะโปรตีนไม่เยอะนะฮะก็คือโปรตีน
02:26:10 → 02:26:17 พอประมาณนั่นแหละนะแล้วก็มีความเค็มนะนะ เค็มเนี่ยคือเกลือเป็นร่ธาตุที่จำเป็น
02:26:17 → 02:26:24 ส่วนไขมันเยอะโปรตีนน้อยนะจะทำให้ความ เป็นโปรตีนเหล่าเนี้ยนะที่ไม่ได้เยอะ
02:26:24 → 02:26:31 เนี่ยนะไม่ได้กลายเป็นน้ำตาลนะฮะนะก็คือ โปรตีนเน็ตอันนี้หมายถึงเน็ตโปรตีน 100
02:26:31 → 02:26:38 กรัมเนี่ยนะฮะนะนะคนบางกลุ่มคนบางคนนะฮะ โดยเฉพาะคนสายแป้งเนี่ยนะร่างกายเนี่ยเขา
02:26:38 → 02:26:47 สามารถจะจัดการโปรตีนเนี่ยได้แค่ได้แค่ 40 กรัม 30 -40 กรัมนะมันเลยเป็นที่มาของ
02:26:47 → 02:26:52 การเผยแพร่บทความนึงน่ะว่าโปรตีนต่อมือ เนี่ยเน็ตโปรตีนเนี่ยนะควรจะอยู่ในช่วง
02:26:52 → 02:26:59 ประมาณ 30 35 หรือไม่เกิน 40 กรัมถ้าตัว ใหญ่ๆนะฮะเพราะฉะนั้นคุณกินเน็ตโปรตีน
02:26:59 → 02:27:04 เป็น 100 กรัมนะนะเป็น 100 กรัมเ 100 กรัมก็เท่ากับกินเนื้อสัตว์น้ำหนักเท่า
02:27:04 → 02:27:13 ไหร่นะน้ำหนักประมาณ 6 ประมาณ 6 ขีดหเป่า นะคือคือเนื้อสัตว์น้ำหนัก 100 กรัมเนี่ย
02:27:13 → 02:27:22 นะมันให้เน็ตโปรตีน 25 กรัมมันประมาณเนี้ยประมาณ 25 กรัมนะฮะนะ
02:27:22 → 02:27:28 เพราะฉะนั้นเนี่ยเน็ดโปรตีน 100 กรัมคุณ ก็กินเนื้อสัตว์ 4 ขีดเออ 4 ขีด
02:27:28 → 02:27:35 นะแต่ 4 ขีดเนี่ยมันได้เน็ตโปรตีน 100 กรัมแต่ร่างกายคุณเนี่ยต่อมื้อเนี่ยคุณ
02:27:35 → 02:27:42 เอาโปรตีนไปใช้ได้แค่ไม่เกิน 40 กรัม เพราะฉะนั้นเน็ตโปรตีนที่เหลือ 60 กรัมนะ
02:27:42 → 02:27:50 จะเป็นไหนอ่ะนะ 1 ก็จะถูกเกิดการเมตาบอล เป็นของเสียเพราะร่างกายไม่เก็บโปรตีนนะ
02:27:50 → 02:27:58 ฮะกับ 2 อีกทิศทางนึงก็คือเน็ตโปรตีน 60 กรัมเนี่ยนะในส่วนซักเประมาณ 20% ของ 60
02:27:58 → 02:28:05 ัเนี่ยก็จะถูกเปลี่ยนแปลงเป็นน้ำตาลกับ เป็นเตี้คีโตนนะฮะเพราะฉะนั้นกินโปรตีน
02:28:05 → 02:28:12 เยอะๆนะแล้วได้เน็ตโปรตีนเยอะๆแต่ศักยภาพ หรือขีดความสามารถของร่างกายนะในการจัด
02:28:12 → 02:28:20 การกับโปรตีนสุทธิต่อมื้อเนี่ยนะมันไม่ ได้เยอะไปด้วยสำหรับคนบางคนนะฮะนะเพรา
02:28:20 → 02:28:26 นั้นโปรตีนที่เหลือมันก็เป็นภาระไหนเป็น ของเสียไหนจะเป็นน้ำตาเนี่ยนะเนี่ยในที่
02:28:26 → 02:28:33 นี้เขาบอกว่าเนี่ยแล้วโปรตีนเน็ตโปรตีน ที่เกิน 40 กรัมต่อครั้งนะไอ้ที่เกิน 40
02:28:33 → 02:28:39 เนี่ยไปเป็นน้ำตานะเพราะฉะนั้นเนี่ยมื้อ แรกเนี่ยก็คือกินแบบ ow C High Good
02:28:39 → 02:28:45 Fat นี่แหละนะฮะนะแล้วก็ไม่ต้องไอไ โปรตีนเยอะแยะอะไรนะอ่าเพราะฉะนั้นกิน
02:28:45 → 02:28:54 เบคอนนะที่มันมีอะไรไขมันสูงโปรตีนน้อยนะ ในตอนเช้าจะดีกว่าอกไก่ที่มันเป็นลีน
02:28:54 → 02:29:01 โปรตีนนะแล้วไม่มีไขมันนะะเนี่ยแล้วการ ได้พลังงานไขมันเป็นพลังงานในเบคอนเนี่ย
02:29:01 → 02:29:08 ก็จะเกิดการบีดนะเพราะได้คีโตนแต่ถ้ากิน อกไก่คุณจะได้โปรตีนอย่างเดียวไม่มีไขมัน
02:29:08 → 02:29:17 กินมากไปโปรตีนที่เกินนะก็จะไปเป็นน้ำตาล แล้วคุณจะเปี้ยเพียร่อยแล้วง่วงนะ
02:29:17 → 02:29:25 อันเนี้ยเราเป็นข้ออธิบายของเนะฮะนะครับ ผมส่วนอันนี้นี้เราพอเข้าใจมยนะฮะนะเก็
02:29:25 → 02:29:31 บอกว่าหลังไมค์มาเนี่ยนะกินคีโตประจำ เดือนไม่มานะพอใส่าฟใส่ของหวานเข้าไป
02:29:31 → 02:29:41 หน่อยนะก่อนนอนมาปกติเลยนะก็เพราะว่าคุณ ทำคีโตผิดนะคีโตก็คือกินไขมันนะฮะนะนะ
02:29:41 → 02:29:47 แล้วก็อ่าโปรตีนเนี่ยกินแบบ moderate คือ ไม่ได้กินโปรตีนเยอะคือคีโมันเน้นไขมัน
02:29:47 → 02:29:54 เยอะอยู่แล้วนะฮะส่วนคาฟมันก็โไว้อยู่ แล้ว 5% นะนะเพราะฉะนั้นถ้าเติมคาฟนะ
02:29:54 → 02:30:01 ฮอร์โมนมันก็เลยปกตินะนะแต่ทีนี้เค้า อธิบายในเรื่องนี้ว่าคุณกินคีโตมาผิดนะฮะ
02:30:01 → 02:30:09 นะก็คือในมื้อคีโตของคุณเนี่ยไม่มีโปรตีน เลยนะฮะก็เลยไม่มีโปรตีนเหลือที่จะกลาย
02:30:09 → 02:30:17 เป็นน้ำตาลมากพอเพราะคุณคีโตนมันกินคาฟ น้อยมากด้วนะฮะนะเนี่ยถ้ามันมีโปรตีน
02:30:17 → 02:30:23 เหลือแล้วโปรตีนที่เหลืออ่ากลายเป็นถูก เปลี่ยนเป็นน้ำตาลพอเป็นน้ำตาลอินซูลิน
02:30:23 → 02:30:31 มันก็จะมานะฮะอินซูลินมันมาเนี่ยมันมามัน ก็จะมาเก็บสารอาหารในกระแสเลือดนะฮะนะเก็
02:30:31 → 02:30:38 จะมาเก็บน้ำตาลเก็บแร่ธาตุอะไรต่างๆนะนะอ เพราะฉะนั้นอินซูลินมันมาเก็บสิ่งเหล่า
02:30:38 → 02:30:44 นี้เนี่ยนะก็จะลากทำให้ระบบฮอร์โมนหรือ ระบบร่างกายของคุณที่จะเป็นมงเป็นเมนน่ะ
02:30:44 → 02:30:50 นะมันก็เป็นไปได้ตามปกตินะเพราะฉะนั้น อินซูลินเเก็บแร่ธาตุนะนะ
02:30:50 → 02:30:56 เ่อถ้าไม่เก็บนะคุณสูญเสียแร่ธาตุเคุณจะ ไม่มีแรงคุณจะมีความเครียดคุณจะนอนไม่
02:30:56 → 02:31:04 หลับอะไรอย่างเงี้ยนะอันนี้ก็เป็นข้อ อธิบายนี่แหละว่านะโปรตีนเนี่ยมันจะต้อง
02:31:04 → 02:31:12 ระดับนึงในกรณีของคีโตเนี่ยนะฮะนะอาจจะ ต้องเพิ่มโปรตีนนะให้ถึงจุดที่โปรตีนจะ
02:31:12 → 02:31:19 ได้กลายเป็นน้ำตาลแล้วกระตุ้นอินซูลินมา ในระดับน้อยๆเพราะถ้าคุณไปฟิกอยู่กับการ
02:31:19 → 02:31:27 กิน High Fat นะอ่าแล้วคุณก็จำกัดโปรตีน ด้วยแล้วคุณก็ตัดคาฟไปด้วยเนี่ยนะฮะนะบาง
02:31:27 → 02:31:33 ทีแล้วเนี่ยมันก็ไม่รู้อว่าจะกระตุ้น อินซูลินมายังไงนะอินซูลินมันก็บอดมันก็
02:31:33 → 02:31:42 ไม่ทำงานมันก็น้อยไปนะซึ่งมันก็ไม่ได้นะ ฮะเราถือว่าสารอาหารหรือพลังงานในแง่ที่
02:31:42 → 02:31:50 จะเป็นคาฟโปรตีนไขมันมันไม่โผล่นะอันนี้ ก็ถือว่าเขมาตอบได้ดีนะฮะได้ดีได้มีได้
02:31:50 → 02:31:58 ได้มีความรู้อ่ะ นะอ่าทีนี้การเป็นเบาหวานเนี่ยนะฮะในคน
02:31:58 → 02:32:06 อ้วนกับคนผอมนะฮะนะนะอย่างอย่าอย่างกรณี คนอ้วนเนี่ยเรารู้ว่าอินซูลินมันเยอะแต่
02:32:06 → 02:32:14 เซลล์เนี่ยมันมันมันไม่ตอบสนองกับการทำ งานของอินซูลินที่ที่เยอะนะคืออินซูลินก็
02:32:14 → 02:32:20 ไม่ได้มีปัญหานะฮะเพราะฉะนั้นหลักการ เนี่ยของคนอ้วนเนี่ยก็คือเนี่ยนะฮะนะก็ก็
02:32:20 → 02:32:28 กินในรูปแบบที่เป็น CD kcd นี่แหละนะนะ เพราะไงอินซูลินเนี่ยมากแล้วทำงานได้ดี
02:32:28 → 02:32:33 อยู่นะเนี่ยเราก็ตัดคาฟนะเพื่อจะได้ลด อินซูลิน
02:32:33 → 02:32:41 อ่าแล้วก็การกินแบบเนื้อสัตว์เป็นหลัก อะไรแบบเนี้ยในฝั่งเนี้ยนะฮะนะก็สามารถ
02:32:41 → 02:32:48 ที่จะทำให้การอดนะฮะเพรานั้นไอ้ไอ้คนอ้วน ๆเนี่ยที่เป็นเบาหวานเนี่ยนะหรือสายนึงนั
02:32:48 → 02:32:57 นะมันก็จะได้ผลดีนะฮะได้ผลดีแต่ในคนฝั่ง ที่ผมผอมหรือเป็นในขั้นที่จะไปเป็นดาร
02:32:57 → 02:33:03 เป็น DM ไทวันนะนะเอ่ออันนี้มันมีมันไม่ ได้มีปัญหาว่าอินซูลิน
02:33:03 → 02:33:10 เยอะและไม่ได้มีปัญหาคือเซลล์มันก็มี ปัญหาว่ามันน่าจะขาดสารอาหารนะเขได้ผอมนะ
02:33:10 → 02:33:16 แต่ตัวอินซูลินเนี่ยมันมีปัญหาในแง่ที่ ว่าคนผอมเนี่ยอินซูลินมันทำงานได้ไม่ดี
02:33:16 → 02:33:23 เพราะว่ามันขาดตัวกระตุ้นนะหรือตัวแวด ล้อมที่จะมาให้เ้าทำงานได้เก่งๆนะฮะเพราะ
02:33:23 → 02:33:29 ฉะนั้นเนี่ย เอ่อตัวกระตุ้นอูนหลักๆเลยเนี่ยก็คือก็
02:33:29 → 02:33:35 คือคฟแต่ต้องเป็นเอ่อ good to Great Car น่ะก็คือต้องเป็นคฟที่ดีค Complex
02:33:35 → 02:33:42 cf ที่มันเต็มไปด้วยพวกอสารปรึกษาเคมี แร่ธาตุวิตามินอะไรต่างๆนะเพราะฉะนั้นใน
02:33:42 → 02:33:49 พีระมิดอาหารของคนที่ผอมแล้วเป็นเบาหวาน แล้วต้องการรีเวสเนี่ยนะฮะนะถ้าเกิดคุณทำ
02:33:49 → 02:33:54 แบบคนอ้วนไม่สำเร็จเนี่ยคุณก็ต้องมา พิจารณาพีรามิดอาหารแบบนี้คือเเรียก
02:33:54 → 02:34:01 เมดิเตอเรเนียนเนะฮะคือจะต้องค่อนข้างมา ทางเป็นเมดิเตอร์เรเนียนเองนะฮะเพราะอะไร
02:34:01 → 02:34:11 เพราะว่าเนี่ยเขาจะมีในเรื่องของ คาฟนะที่ที่เป็นเป็นเป็นพืชผักนะฮะที่
02:34:11 → 02:34:18 เป็นตัวพืชผักต่างๆหรือไฟเบอร์หรือตัวที่ จะมีวิตามินแร่ธาตุและสารพฤกษาเคมีใน
02:34:18 → 02:34:27 ระดับที่จะกระตุ้นอินซูลินออกมาเล็กน้อย นะฮะนะเแล้วก็แล่ธาตุวิตามินสารภษาเคมี
02:34:27 → 02:34:34 รวมทั้งอินซูลินที่เล็กน้อยเหล่าเนี้ยนะ ฮะนะก็จะสามารถพาสารอาหารต่างๆเนี่ยเข้า
02:34:34 → 02:34:41 ไปสู่เซลล์เ่อได้นะเพราะว่าคนผอมเนี่ย ส่วนใหญ่เซลล์มันขาดทั้งพลังงานทั้งสาร
02:34:41 → 02:34:48 อาหารนั่นแหละนะแล้วก็ตัวที่จะพาเข้าไป ได้น่ะคอร์ติซอลมันทำงานพาเข้าไปไม่ได้
02:34:48 → 02:34:54 มันต้องอินซูลินเพรางั้นต้องมีอินซูลินใน ระดับนึงแล้วก็อินซูลินเนี่ยจะต้อง Good
02:34:54 → 02:35:03 ฟังก์ชันนะฮะก็คือต้องทำงานได้ค่อนข้างดี ๆดีๆนะฮะทนี้ดีๆเนี่ยมันก็ต้องมีอ่าสาร
02:35:03 → 02:35:10 บางอย่างที่มาจากพืชโดยเฉพาะนะทั้ง ไฟเบอร์วิตามินแร่ธาตุสารพรึกษาเคมี
02:35:10 → 02:35:17 เอนไซม์นะบางสิ่งบางอย่างนะในพืชเหล่า เนี้ยนะฮะก็จะไปทำให้ฟังก์ชันของอินซูลิน
02:35:17 → 02:35:24 ที่มันไม่ได้เยอะนะแล้วมันเกิดการปลูกกด รดิสฟังก์ชันไปเนี่ยกลับมาเป็นแบบก
02:35:24 → 02:35:30 ฟังก์ชันได้นะนะเพราะฉนั้นรูปแบบของการ กินในคนผอมเนี่ยถึงต้องมีการเติมคาฟที่
02:35:30 → 02:35:39 เป็นผักหัวถึงต้องมีโปรตีนพืชนะมาเสิร์ฟ นะฮะแต่ถ้าเป็นคนอ้วนเนี่ยมัน Animal
02:35:39 → 02:35:45 Base ล้วนๆเลยก็ได้ก็ได้นะฮะนะเพราะ อินซูลินเดีอยู่แล้วแล้วก็เยอะอยู่แล้วนะ
02:35:45 → 02:35:51 เพียงจะเซลล์ไม่ค่อยตอบสนองนะแต่เนี่ย เนี่ยนะมันเป็นปัญหาทั้งตัวอินซูลินด้วย
02:35:51 → 02:35:58 ตัวเซลล์ด้วยนะเพราะฉะนั้นต้องเติมทั้ง พลังงานทั้งสารอาหารนะฮะนะนะแต่ในแง่ของ
02:35:58 → 02:36:05 สิ่งที่เป็นพืชเนี่ยเราไม่โอเคกับเรื่อง ผลไม้นะฮะนะดูดีๆนะรวมทั้งผักหัวที่มี
02:36:05 → 02:36:13 แป้งเยอะๆอันนี้ก็ไม่ได้นะนะแต่ผักหัวใน รูปแบบอื่นๆที่เป็นยอดเป็นก้านเป็นเอ่อ
02:36:13 → 02:36:19 กิ่งเป็นใบเป็นฝักอะไรเงี้ยได้นะร่วมกับ ผักใบนะนะ
02:36:19 → 02:36:25 นั้นก็ต้องเนี่ยต้องกินแบบในในแนวทางที่ เนี่ยเหมือนที่เาแนะนำก็คือ
02:36:25 → 02:36:32 เมดิเตอเรเนียนได้ เอันนี้ลองพิจารณาดูนะแต่ถ้าใครกินมาใน
02:36:32 → 02:36:37 โทนที่เป็นแบบ CD KC แล้วได้ผลเนี่ยก็ก็ ตอบไปได้
02:36:37 → 02:36:44 เลยนะอันนี้เป็นข้ออธิบายเกี่ยวกับ เมดิเตอเรเนียนไดนะนะก็เป็นในอันดับ 1
02:36:44 → 02:36:52 ของโลกนะทีนี้หมอก็เสริมนิดๆหน่อยๆนะฮะนะ ที่ไปดูๆมาเนี่ยนะอ่ะเขาคก็บอกว่า DM
02:36:52 → 02:36:59 type 2 ปัจจุบันก็เป็นคาร์โบไฮเดรต toxicity นะฮะเนี่ยนะแล้วก็ที่สำคัญก็
02:36:59 → 02:37:05 คือ insulin Over Production ให้โฟกัส เรื่องอินซูลินอย่าไปโฟกัสที่น้ำตาลนะ
02:37:05 → 02:37:10 เพราะฉะนั้นจะลด insulin Over Production ได้คุณต้องเปลี่ยนอาหารโดย
02:37:10 → 02:37:14 เฉพาะในกลุ่มคาฟต่างๆ
02:37:14 → 02:37:22 นะหรือในกรณีอย่างเงี้ยนะเวลาเรา low C ไปสัก 2 อาทิตย์เนี่ยนะฮะนะมีความชัดเจน
02:37:22 → 02:37:30 เลยว่านะไขมันไตกีสไลลด 35% นะฮะแล้ว อินซูลิน sensitivity เพิ่มขึ้นถึง 75%
02:37:30 → 02:37:36 ในคนที่อ้วนนะแล้วเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 นะฮะอันนี้อันนี้ก็คือเพื่อคนที่อ้วนเนะ
02:37:36 → 02:37:43 ฮะเราจะเห็นว่าแค่เรา ow คฟนะหรือเรากด คาฟเราตัดคาฟไปแค่ 2 อาทิตย์เนี่ยนะฮะไต
02:37:43 → 02:37:49 กิลก็ลดไปตั้ง 1 ใน 3 แล้วนะฮะแล้วภาวะ insulin sensitivity เนี่ยยังถูก
02:37:49 → 02:37:54 กระตุ้นให้เพิ่มขึ้นมาอีกตั้ง 75% ก็คือ จริงๆเนี่ยก็ตามที่หมอบอกเมื่อกี้นะว่าคน
02:37:54 → 02:37:59 อ้วนแล้วเป็นเบาหวานเนี่ยก็ไม่ได้มีปัญหา อะไรนะที่อินซูลินมันฟังก์ชันหรือมันถูก
02:37:59 → 02:38:07 กดการทำงานนะรวมทั้งปริมาณมันก็ยังเยอะ อยู่นะฮะนะเพราะฉะนั้นยิ่งไปถูกอ่าปรับใน
02:38:07 → 02:38:13 ลักษณะนะตัดคาฟออกไปเหล่าเนี้ยอินซูลิน มันก็ยังที่จะอ่า sensitivity มากขึ้นไป
02:38:13 → 02:38:20 อีกเนี่ยตั้ง 75% นะฮะ อือย่างน้ำผึ้งอย่างเงี้ยนะฮะน้ำผึ้งคือ
02:38:20 → 02:38:30 อะไรน้ำผึ้งก็คือฟุส 40% กลูโคส 35 ซูโคส 99% แล้วก็ชูก้าอื่นๆอีก 16% นะฮะแล้ว
02:38:30 → 02:38:38 ตัวที่ไปสปนะน้ำตาลเนี่ยในเลือดเนี่ยก็ คือกูโคสกับซูโคสนะฮะนะนะแตุ่สเนี่ยมัน
02:38:38 → 02:38:46 ไม่สปน้้ำตาลในเลือดนะฮะแล้วก็ชูก้าในรูป แบบอื่นๆก็ไม่สนะตัวสปเนี่ยก็คือเนี่ยฮะ
02:38:46 → 02:38:53 กูดกับซูดในน้ำผึ้งนะน้ำผึ้งนะเพราะ ฉะนั้นเหมือนกันน่ะฮะนะทั้งฟรุกโตสทั้ง
02:38:53 → 02:39:01 เมื่อกี้โปรตีนเวนะโปรตีนผงอะไรต่างๆนะ คือพวกนี้เนี่ยนะเขาไม่เพิ่มระดับของน้ำ
02:39:01 → 02:39:10 ตาลแต่เขาไปเพิ่มอินซูลินเพราะะนั้นแน่ จริงเจาะค่าอินซูลินนะถ้ากินไปแล้วใจตุ้ม
02:39:10 → 02:39:19 ๆต่อมๆว่าโอไม่โอนะนะแล้วในที่นี้เนี่ย เราจะพูดถึงเรื่องของฟุกโตสนะจากผลมจาก
02:39:19 → 02:39:26 น้ำพงน้ำผึ้งอะไรต่างๆนะนะกับเนี่ย แอลกอฮอล์เนี่ยเาถือว่ามันมีความเลวร้าย
02:39:26 → 02:39:34 พอๆกันนะฮะเนี่ยเขาเรียกว่าไ similar นะ ฮะนะก็คือเท่าเทียมกันแล้วนะฮะในพิษภัย
02:39:34 → 02:39:40 อะไรต่างๆนะของทั้งผลไม้น้ำตาลผลไม้แล้ว ก็แอลกอฮอล์
02:39:40 → 02:39:46 นะ เอนะอันนี้ Vegetable Oil อันนี้ก็รู้
02:39:46 → 02:39:52 อยู่แล้วนะฮะนะอันนี้เป็นน้ำมันแปรรูปที่ โนะฮะแล้วผลิตภัณฑ์ใดๆที่บอกว่า fre Fat
02:39:52 → 02:39:59 low Fat นะอันนี้ให้นึกเลยว่านะมันจะ เต็มไปด้วยสิ่ง Add on ที่เป็นไปในทาง
02:39:59 → 02:40:07 เ้าเรียก Chemical SH stom นะฮะนะก็คือ เป็นสารเคมีในระดับในระดับที่จะทำให้เกิด
02:40:07 → 02:40:16 สตอมหรือเกิดพายุนะทางด้านสุขภาพเลย นะก็ในปัจจุบันนี้เก็ทำสำเร็จกันแล้วนะฮะ
02:40:16 → 02:40:24 นะในเรื่องของวงการค้าอุตสาหกรรมและอาหาร แปรูปนะฮะคือนะเาทำให้ผู้คนเนี่ยเข้าใจ
02:40:24 → 02:40:34 ว่าสิ่งที่ผิดคือสิ่งที่ถูกต้องและอยู่ใน ไลฟ์สไตล์เป็นปกติชีวิตประจำวันนะฮะนะก็
02:40:34 → 02:40:40 คือการโฆษณาประชาสัมพันธ์หรือการให้ข้อ มูลอะไรต่างๆนะฮะเนี่ยเทำให้เราเข้าใจผิด
02:40:40 → 02:40:49 ว่าการกินเนยการกินเนื้อสัตว์เนื้อแดงการ กินนมเต็มลูกการกินไข่ไข่แดงอะไรต่างๆ
02:40:49 → 02:40:56 เนี่ยเป็นของที่มีอันตรายส่อสุขภาพอยากมี สุขภาพดีคุณต้องกินน้ำมันพืชต้องกินแป้ง
02:40:56 → 02:41:06 แปรรูปนะต้องกินอ่าอะไรอ่ะนมแปรรูกนะ เนี่ยต้องกินไอ้พวกอะไรอ่ะพวกอ่าแนเสที่
02:41:06 → 02:41:12 เอามาทำเป็นคล้ายๆกับเนื้อสัตว์อะไรพวก เนี้ยนะฮะคือทุกอย่างพวกนี้ก็คือของแปร
02:41:12 → 02:41:21 รูปของแปรรูปคือของปกติที่เกิดมามนุษย์บน โลกนี้จะต้องกินเป็น 3 มันธรรมชาติไปเลย
02:41:21 → 02:41:26 นะก็คือเาคิดว่าสิ่งเหล่าเคือกินแบบ ธรรมชาติแต่ไอ้กินสิ่งเหล่าเนี้ยคือกิน
02:41:26 → 02:41:34 ผิดธรรมชาติคือกินผิดไปในสิ่งที่จะทำให้ เจ็บป่วยนะแล้วเขาก็พยายามระดมข้อมูลอะไร
02:41:34 → 02:41:42 ต่างๆไม่ให้กินไม่ให้กินให้มากินพวกนี้นะ เนี่ยเนี่ยเขาคิดว่าสิ่งที่ act Healthy
02:41:42 → 02:41:50 เนี่ยคือของพวกเนี้ยนะเป็นของไม่ดีกิน แล้วจะป่วยกินแล้วจะผิดปกตินะฮะนะนะแต่
02:41:50 → 02:42:00 ลวงล่อหลอกบอกว่านะนะของที่จะทำให้สุขภาพ ดีคของพวกนี้นะนะซึ่งเนี่ยมันก็ตรงข้าม
02:42:00 → 02:42:02 กันไปหมด
02:42:04 → 02:42:14 นะทีนี้มาดูว่าเวลาตับเนี่ยที่เา้าอยู่ใน โหมดของการสลายเผาผลาญพลังงานนะแล้วก็
02:42:14 → 02:42:22 สามารถเผาไขมันได้จนกระทั่งถึงจุดที่คี adapted คือคือเผากดไขมันอิากลายเป็น
02:42:22 → 02:42:29 คีโตนแล้วเนี่ยนะฮะนะสิ่งที่ได้รับผล สำคัญที่สุดนะเราก็ทราบแล้วว่าตัวตับ
02:42:29 → 02:42:36 เนี่ยเขาจะต้องเรียก generate หรือว่าส่ง คีโตนต่างๆที่ผลิตเนี่ยส่วนใหญ่ให้ไปที่
02:42:36 → 02:42:42 สมองนะฮะนะเพราะสมองกำลังรอเพราะสมองมีคำ สั่งและรอการใช้พลังงานอยู่เนื่องจากสมอง
02:42:42 → 02:42:51 เนี่ยเใช้พลังงานหลักได้คือคีโตนนะเขาใช้ น้ำตาลได้น้อยมากๆประมาณ 5% นะแล้วเ่อใช้
02:42:51 → 02:42:58 กดไขมันอิสระไม่ได้นะเขาจะรอคีโตนจากตับ อย่างเดียวเพราะงั้นในเมื่อตับนะสามารถ
02:42:58 → 02:43:04 สร้างสรรค์คีโตนได้อย่างสำเร็จแล้วนะต้อง ส่งเกือบจะทั้งหมดมาให้เขาใช้นะฮะแล้ว
02:43:04 → 02:43:12 เวลาสมองใช้คีโตนเนเซลล์เนี่ยนะฮะนะเวลา คีโตนมาที่สมองเนี่ยนะนะเนี่ยก็จะเกิดการ
02:43:12 → 02:43:19 ใช้ถูกใช้เป็นพลังงานเกิดไมคอล biogenesis นะก็คือเซลล์สมองมันจะเกิดการสร้าง
02:43:19 → 02:43:26 ไมโทคอนเดรียเพิ่มขึ้นนะฮะเกิดสารอ่าสื่อ ประสาทนะตัวสำคัญเลยคือ bdnf นะฮะนะแล้ว
02:43:26 → 02:43:32 ก็เกิดตัว Natural antioxidant Production นะนะเนี่ยก็คือเกิดไอ้ตัวสาร
02:43:32 → 02:43:40 ต้านนมูลสลนะฮะนะของเฉพาะสมองเลยนะอันนี้ ก็คือสมองเขานี้คีโตนในลักษณะนี้นอกจาก
02:43:40 → 02:43:48 นี้เนี่ยคีโตนเนี่ยยังมีการเผื่อแผ่นะฮะ อ่าไป signaling ให้กับนี่แหละให้กับ
02:43:48 → 02:43:55 Muscle เนะนะเวลา Muscle Cell ได้รับ คีโตนแล้วเนี่ยนะก็จะเกิด Energy เอ่อ
02:43:55 → 02:44:02 Performance เพิ่มขึ้นนะฮะเกิดเซลล์โกส นะฮะก็คือคีโตนจะเป็นสารในการที่เซลล์ไข
02:44:02 → 02:44:08 เซลล์กล้ามเนื้อจะเอามาสร้างตัวมันใหม่ สร้างมวลใหนะฮะแล้วก็เกิดการสะสมไกลโคเจน
02:44:08 → 02:44:15 ที่มัดกล้ามนี้นะเพราะฉะนั้นเนี่ยยังไงก็ ตามเนี่ยนะต้องไปถึงจุดที่จะสร้างคีโตน
02:44:15 → 02:44:22 ได้เท่านั้นนะนะสมองและกล้ามเนื้อนะมัน ถึงจะจะดีอนะ
02:44:22 → 02:44:30 ฮะซึ่งอันเนี้ยการเกิดคีโตนเนี่ยนะก็จะมี การ resp ทางด้าน parasympathetic นะ
02:44:30 → 02:44:38 เนี่ยมากขึ้นนะฮะนะแล้วก็การ resp ทาง ด้าน sympathetic ลดลงนะก็จะส่งผลให้เกิด
02:44:38 → 02:44:47 การซ่อมนะฮะเนี่ยนะซ่อมในในลักษณะเนี้ยนะ ฮะนะนะแต่ในทางตรงกันข้ามถ้าไม่มีคีโตนนะ
02:44:47 → 02:44:55 ฮะนะนร่างกายเป็น Sugar burner C burner syic โนนะเ่อจะเกิด Hyper reson
02:44:55 → 02:45:03 นะแล้วก็จะเกิดอะไรเนี่ยก็จะเกิดการโสใน ทิศทางไม่ดีนักนะฮะเนี่ยเอ่อเกิดการ
02:45:03 → 02:45:14 กระตุ้นการเเกิดกระบวนการอิชเกิด inflation เกิดโลคนะเกิดโลคนะอันนี้นะ
02:45:14 → 02:45:20 เอออันนี้ความสัมพันธ์อย่างนึงนะของตัว กล้ามเนื้อกับ
02:45:20 → 02:45:27 Exercise Tim LINE นะฮะเนี่ยก็อยากจะ เอามาให้ดูว่าในกระบวนการในการออกแรงออก
02:45:27 → 02:45:33 กำลังออกกำลังกายของคนเราเนี่ยนะฮะนะนะ ตั้งแต่แรกๆไปเรื่อยๆนะจนถึงประมาณ 1 คาบ
02:45:33 → 02:45:41 หรือไม่เกิน 50 นาทีนะฮะร่างกายมีการ เปลี่ยนแปลงอย่างนี้นะแต่ถ้าเกินนะที่ 60
02:45:41 → 02:45:49 นาทีไปแล้วเนี่ยนะฮะนะอันนี้ดูแล้วเนี่ย จะเกิดผลลบมากกว่านะผลไม่ดีมากกว่าแดงไป
02:45:49 → 02:45:54 หมดเลยนะฮะ Decrease T Cell risk of hydration dehydration นะฮะ respiratory
02:45:54 → 02:46:00 Track Infection นะฮะแล้วก็ Short term Reduce immunity นะเพราะฉะนั้นพวก Over
02:46:00 → 02:46:07 Exercise อะไรต่างๆนะแล้วก็เกิด dom effect ก็ดีหรือเกิดเอ่อการมาป่วยเป็น
02:46:07 → 02:46:13 ภูมิแพ้เป็นหวัดเป็นเจ็บพงเจ็บคอเป็นปวด เนื้อปวดตัวอะไรก็ดีเนี่ยนะส่วนใหญ่ก็จะ
02:46:13 → 02:46:20 เป็นผลในลักษณะ นี้นี้ก็เอามาให้ดู
02:46:20 → 02:46:28 อ่ะก็มาดูเคสต่างๆเออตอนนี้เป็นยังไง 1700 นแล้ว
02:46:28 → 02:46:38 นะเออนะยังอยู่ครับยังอยู่เรามาดูเคสสั้น ๆไปอ่ะนะฮะเคสเนี้ยก็ไม่มีผลแลปนะฮะเพียง
02:46:38 → 02:46:44 แต่ให้ดูบางเรื่องบางราวนะฮะนะอย่างคนนี้ เนี่ยเขาคก็เป็นเบาหวานมานานแล้วนะฮะนะ
02:46:44 → 02:46:52 แล้วล่าสุดเนี่ยเมีปัญหาเรื่อง algy นะฮะ เรื่องอที่ลักษณะเนี่ยคล้ายๆเป็นการ relx
02:46:52 → 02:46:59 ของ sle ขึ้นมานะฮะเป็นการ relax ของ sle อ่าก็เป็นปัญหาที่ผื่นผิวหนังพอไปโรง
02:46:59 → 02:47:04 พยาบาลแล้วเนี่ยหลังจากตรวจอะไรต่างๆแล้ว เนี่ยก็ต้อง admit นะฮะต้อง admit นะ
02:47:04 → 02:47:13 เพื่อจะให้สเตียรอยในการกดกดการอ่า recurrent ของภาวะ sle ที่ไปมีผลต่อ
02:47:13 → 02:47:20 เรื่องของผิวหนังนะนะอันนี้เ admit นะแต่ ว่าพื้นฐานเค้าก็เป็นเบาหวานแต่เเรียกว่า
02:47:20 → 02:47:25 คุมน้ำตาลได้ไม่ค่อยจะดีนะนะฮะนะเพราะ เหมือนเขาไม่เก็ทหรือว่าเหมือนกับว่า
02:47:25 → 02:47:32 เหมือนกับทำให้จริงจังอ่ะนะอันนี้ก็ไม่ รู้ล่ะนะฮะนะเขาก็อยากจะดีอยากจะไม่ดี
02:47:32 → 02:47:37 อยากจะหายขนาดไหนนะมันก็แล้วแต่แต่ละ บุคคลแล้วล่ะนะหรืออยากจะใช้เวรใช้คำต่อ
02:47:37 → 02:47:46 ไปนานๆก็แล้วแต่นะก็มาดูนะฮะว่าเนี่ยเก็เ ก็ถ่ายมาให้ดูว่าตอนเนะเขาเป็นคนไข้แล้ว
02:47:46 → 02:47:53 ไปนอนแอดมิที่โรงพยาบาลปปรากฏว่าน้ำตาลไป นิ้วก็ 200 กว่า 300 กว่านะอ่าอยู่ตลอด
02:47:53 → 02:48:02 เลยนะฮะแล้วนี่คือสิ่งที่กินนะฮะสิ่งที่ กินนะนะแล้วก็กินมื้อละ 5-10 คำเท่านั้น
02:48:02 → 02:48:10 แหละนะฮะแต่ว่าอยากจะให้ดูอีกด้านนึงด้าน ว่าคนไข้คนนี้เป็นเบาหวานน้ำตาลระดับนี้
02:48:10 → 02:48:17 นะแล้วก็มีภาวะการกำเลิบของ sle ที่มัน recurrent นะฮะคนไข้จะต้องได้สตรง
02:48:17 → 02:48:23 สเตียรอยด์แต่ตอนนี้เังไม่ได้ฉีดนะฮะนะ ปรากฏว่าอาหารการกินที่โรงพยาบาลจัดอาหาร
02:48:23 → 02:48:28 มาให้นะว่าคนไข้คนเนี้เป็นเบาหวานเจัดมา อย่างเงี้ยอันนี้คือหารใน 1 วัน 3 มื้อ
02:48:28 → 02:48:36 แล้วเบอกเกินไปมื้อละ 5-10 พอเจาะเลือด แล้วมันก็น้ำตาลเด้งนเลยจาก 2 3 3 39
02:48:36 → 02:48:43 ก็ดูแล้วกันน่ะอันนี้ก็คือองค์ความรู้ใน ประเทศไทยอ่ะนะเนี่ยมันจะต้องให้ว่าหรือ
02:48:43 → 02:48:51 จิกด่ากันขนาด ไหนก็ไม่ได้ควบคุมอะไรเลยทั้งหโษเออทั้ง
02:48:51 → 02:48:58 เจ้าหน้าที่ทั้งบุคกรก็คือมันเรียกว่า อะไรอ่ะเอ่อคนไม่รู้ไม่รู้มึงก็ไม่รู้กู
02:48:58 → 02:49:05 ก็ไม่รู้ไม่รู้ไม่รู้ก็มาเจอกันมาอยู่ ด้วยกันนะองค์ความรู้ไม่มีนะอะไรก็ไม่รู้
02:49:05 → 02:49:13 เไม่เข้าใจนะก็กินอย่างเงี้ยนะฮะก็เป็นคน ไทยใช่มยต้องกินข้าวมื้อเช้าก็กินข้าว
02:49:13 → 02:49:20 ข้าวขาวด้วยนะมก็ข้าวๆเงี้ยก็เนี่ยอาหาร ผู้ป่วยเบาหวานในโรงพยาบาลอ่ะจัดกับข้าว
02:49:20 → 02:49:25 มา 3 อย่างแต่คนไข้เบอกว่ากิน 5 ั้ 10 คำ น้ำตาลมันก็เด้งอย่างเงี้ยนะนะแล้วคนนี้
02:49:25 → 02:49:31 ก็เป็นคนอ้วนด้วยเออโอ้โหแล้วมื้อเที่ยง ก็กินอย่างเงี้ฮะนะเอาโปรตีน
02:49:31 → 02:49:41 น้อยเออพลังงานมีผลไม้ตบท้าข้าวต้มเงี้ย โอ้โหอาย Bad าฟมาเต็มๆแล้วเวลาปรุงแบบ
02:49:41 → 02:49:47 เนี้ยแม่กลัวพ่อกลัวเดี๋ยวจะหาว่าเราปัก ปำใส่ความนะคุณใส่สารอะไรไปด้วยหรือเปล่า
02:49:47 → 02:49:56 ผมไม่รู้นะชูรถรถดีนะเยอะแยะนะนะเก่วจะ ไม่อร่อยหวังดีประสงค์ร้ายนะอันนี้มื้อ
02:49:56 → 02:50:02 เย็นกินข้าวต้มกินแก้วมังกรอย่างเงี้ยนะ อันนี้น้ำตาลพุ่งพวดเพราะงั้นคือสิ่ง
02:50:02 → 02:50:08 เหล่านี้เนี่ยคือสิ่งที่เค้าเรียกหวังดี ประสงค์ร้ายคืออะไรฮะนะนะหวังดีก็คือ
02:50:08 → 02:50:16 อร่อยแบนะประสงค์ร้ายก็คือรู้มยว่า อินซูลินเก้าวร้าวนะเขาจะพุ่งขึ้นไปสวิง
02:50:16 → 02:50:24 สวายสวอยไปซะจนแบบน้ำตาลมันไม่มีทางดำ ดิ่งลงมาได้หรอก่ะนะนะแล้วอย่างนี้เนี่ย
02:50:24 → 02:50:32 มันก็ยิ่งอักเสบนะก็ยิ่งเพิ่มสเตียรอยด์ เอ่าเ่อบางคนเนี่ยต้องฉีด dexa เซน 20
02:50:32 → 02:50:40 มิลิกรัมไวนะฮะนะเออ 5 5 มก 10 ใช้ยากด เอานะ
02:50:40 → 02:50:50 ฮะแล้วน้ำตาพุประดุคนไข้นะบอกคนไข้ไม่ เคร่งนะคนไข้กินตามใจอะไรอย่าเงี้ย
02:50:50 → 02:50:54 เออโอาหาร
02:50:55 → 02:51:07 เป็นเออนะอดูแล้วก็อ เวทนาหรืออย่างคนเนี้ยฮะนะทำอาหารเองไม่
02:51:07 → 02:51:16 ทอดไม่มันไม่ทอดไม่มันอ่าเน้นผักนะอ่า แล้วก็เนื้อสัตว์ปรุงด้วยน้ำปลาซอสเขียว
02:51:16 → 02:51:25 นะฮะซอสเขียวคืออะไร นะคือถั่วเหลืองหมักนะฮะนะซึ่งอันนี้อัน
02:51:25 → 02:51:34 นี้มีคาฟนะฮะแล้วก็มีผมันเป็นมันน่าจะ เป็นซีอิ๊วที่มันผสมมครับใช่ครับมันจะทรง
02:51:34 → 02:51:43 เดียวกับพวกแม็กกี้แต่ว่าน้ำตาลมันน่าจะ เยอะกว่ามีน้ำตาลมีผมปรุงรสเอ่อมี ins นะ
02:51:43 → 02:51:53 นะแต่ใส่พอดีถึงจะใส่น้อยๆก็เหอะนะอ่าเขา ไปยกกำลังอินซูลินน่ะนะฮะนะนานไหมเนี่ย
02:51:53 → 02:52:01 กว่าหุ่นจะลดอ่าปริมาณอาหารก็กะกะเอาค่ะ น้ำหนักตัวไม่มากนะ 45 แล้วสูง
02:52:01 → 02:52:09 147 นะเถามว่าแล้วนานมเนี่ยกว่าหุ่นจะ
02:52:09 → 02:52:17 ลดอันนี้ก็คือองค์ความรู้ของผู้คนต่างๆใน สังคมนะฮะนะคือรู้ไม่รู้หรือรู้แค่ไหน
02:52:17 → 02:52:25 หรือทำอะไรถูกผิดอะไรต่างๆเหล่าเนะฮะนะ แล้วเก็มีเมีเอมีจุดประสงค์อะไรต่างๆก็
02:52:25 → 02:52:30 คือขนาดน้ำหนักเท่านี้สูงเท่าเนี้ยก็ยัง อยากจะลดบุญอีกนะฮะอาจจะเป็นแค่ลดสัดส่วน
02:52:30 → 02:52:39 หรือเปล่านะแต่อาหารที่กินๆอย่างเงี้ยนะ ฮะนะไม่ทอดไม่มันนะนะก็คือก็คือ low Fat
02:52:39 → 02:52:48 นะฮะเน้นผักอ่าเน้นผักอีกนะเกกะท้องนาดู นะกับเนื้อสัตว์นะเหมือนคลีนเลยเหมือน
02:52:48 → 02:52:56 คลีนเลยนะแล้วก็ปรุงแค่เนี้ยนะก็คือกิน คลีนนะอยากจะลดหุ่นอ่าปริมาณอาหารก็กะๆ
02:52:56 → 02:53:06 เอาอสำเร็จมก็ไม่สำเร็จ นะเ่าอ่าหรืออีก 2 คนนี้นะฮะเนี่ยเขาบอก
02:53:06 → 02:53:13 ว่าสวัสดีครับผมมือใหม่ขอคำแนะนำด้วยนะ อายุ 36 น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติน้ำหนัก
02:53:13 → 02:53:22 ปกตินะนะแต่มันมีปัญหามีพุงลงพุงมีห่วง ยางนะรอบเอวแล้วมีไขมันในช่องท้องนะ
02:53:22 → 02:53:28 เนื่องจากเมื่อก่อนเนี่ยดื่มเบียร์เป็น ประจำนะก็คือแอลกอฮอล์นะอ่ากำลังจะลองทำ
02:53:28 → 02:53:35 If 16/8 แล้วงดมื้อเช้าองดมื้อเช้าเลย นะฮะแล้วตอนเย็นเนี่ยจะวิ่งออกกำลังกาย
02:53:35 → 02:53:43 ทุกวันเลยขั้นต่ำ 10 กลรวมทั้งจะหาเวมา กินด้วยนะนะแล้วอันนี้จะช่วยให้ไขมันที่
02:53:43 → 02:53:50 พุงยุบม ครับคำตอบก็คือฝันไปเถอะ
02:53:50 → 02:53:58 เออก็ไม่ได้นะนะเออมันไม่ใช่อ่ะนะเออผมก็ ไม่รู้จะพูดว่ายังไงนะก็ต้องหาความรู้
02:53:58 → 02:54:04 เยอะๆอันนี้ไม่ไม่ได้มันมันไม่ไม่ใช่หมด แล้วล่ะนะอะไรก็ไม่รู้เนี่ยนะฮะแล้วก็ 4
02:54:04 → 02:54:15 ความคิดนี่ก็อะไรก็ไม่รู้นะฮะอ่าอ่ะเอออ ก็ก็รู้เร่องออะไรไม่ได้อืนะสวัสดีค่ะ
02:54:15 → 02:54:23 ปกติเวตวันละชั่วโมงนะเออเวทวลชั่วโมงนี่ ไม่มีอาการมืดอะไรเลยนะคือเวทเนี่ยนะฮะ
02:54:23 → 02:54:33 เ่อคนนี้ก็ผอมนะเนี่ยนะเนี่ยสูง 66 น้ำ หนัก 62 นะก็อยู่ในอ่าสัดส่วนพอดีพอดีอ่ะ
02:54:33 → 02:54:41 นะฮะนะนะทีนี้ก็ก็มีการเวทอ่ะเป็นหลัก แล้วล่ะนะนะแล้วก็ไม่มีอาการหน้ามืดกิน
02:54:41 → 02:54:46 ตาม แบบหรือว่ากินตามแบบบนกลุ่มมานะได้ 2
02:54:46 → 02:54:53 เดือนแล้วนะฮะนะ แต่วันเนี้ยหลังหลังเวทเสร็จนะฮะมีอาการ
02:54:53 → 02:55:00 หน้ามืดใจสั่นนะหน้ามืดใจเต้นเร็วเหมือน จะวู่เกิดจากอะไรนะอ่าปกติเกินเนื้อสัตว์
02:55:00 → 02:55:09 วันละ 3-4 3-4 ขีบนะฮะแล้วน้ำหนักส่วนู เท่าเนี้ยนะแนะนำด้วยนะควรจะกินคาฟก่อน
02:55:09 → 02:55:17 ออกกำลังกายดี มนะก็คือมันไม่ใช่นะฮะนะคือเวทน่ะเวทได้
02:55:17 → 02:55:25 นะฮะนะนะแต่ช่วงเวลาในการเวท เ่อก็ปกติไม่ควรเกินนี่แหละนะฮะ 45-50
02:55:25 → 02:55:32 นาทีหรือ 1 าบนะฮนะทีนี้อันตรงเนี้นะฮะก็ คืออยากจะบอกว่าเเทำมาได้ 2 เดือนนะฮะ
02:55:32 → 02:55:39 เป็นคล้ายๆโ C นะฮะแต่เขไไ typ โปรตีนนะ แต่พลังงานไม่ถึงนะฮะพลังงานไม่ถึงนะ
02:55:39 → 02:55:45 เนี่ยความคิดเค้านะหรือความอยากของเขานะ ก็เลยยังคิดว่าเดี๋ยวจะไปออกกำลังกายควร
02:55:45 → 02:55:52 จะกินคาฟไปก่อนนะฮะก็คือยังวนกลับมาที่ ที่คาฟอยู่นะเพราะอะไรเพราะพลังงานไม่ถึง
02:55:52 → 02:55:58 นะนะอยากเติมพลังงานแต่ไปเติมผิดเอยากจะ ไปเติมคาฟนะอันนี้ก็คือพลังงานไม่ถึงไอไซ
02:55:58 → 02:56:05 โปรตีนนะแล้วเมื่อพลังงานไม่ถึงเนี่ยนะ ไอ้ไอการหน้ามืดเนี่ยนะที่จะเกิดขึ้น
02:56:05 → 02:56:12 เนี่ยนะมันก็จะมาในช่วงแรกๆหรือมันจะมาใน ช่วงเวลาไหนก็ได้นะเมื่อเมื่อคุณจัดการ
02:56:12 → 02:56:20 พลังงานไม่ไม่พอนะนะเอนเนอร์ยีอ่า imbalance นะฮะเนี่ยก็คือพลังงานไม่ถึง
02:56:20 → 02:56:27 เพราะอะไรฮะเพราะว่านะไอ้ที่ก้านสมองเรา เนี่ยเรียกว่าพรเนะพรมีส่วนของ
02:56:27 → 02:56:34 ไฮโปทาลามัสอยู่นะฮะนะแล้วส่วนพรเนี่ยนะ มันจะเป็นส่วนที่มีความเชื่อมโยงกับกับ
02:56:34 → 02:56:43 สมองที่จะไปบังคับอวัยวะที่เกี่ยวกับการ ทรงตัวในหูชั้นในหูชั้นในนะฮะหัวชในคนเรา
02:56:43 → 02:56:50 เนี่ยก็จะมีความเชื่อมโยงของเส้นประสาท สมองคู่ที่ 8 นะมากับตำแหน่งส่วนนึงเนี่ย
02:56:50 → 02:56:56 ของพอหรือบริเวณก้านสมองพวกเนี้ยนะแล้ว ปรากฏว่าไอ้โครงสร้างเหล่าเนี้ยโครงสร้าง
02:56:56 → 02:57:03 เนี้ยนะมันเป็นโครงสร้างของสมองที่ได้รับ การพิสูจน์และรายงานแล้วว่ามันเป็นส่วน
02:57:03 → 02:57:10 ที่ไวมากที่สุดต่อการเปลี่ยนแปลง ฮอร์โมนมันเป็นส่วนที่ไวมากที่สุดต่อการ
02:57:10 → 02:57:17 เปลี่ยนแปลงทางด้านฮอร์โมนนะแล้วฮอร์โมน ที่เขาเปลี่ยนแปลมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไว
02:57:17 → 02:57:24 มากที่สุดก็ก็คืออินซูลินกับคอร์ติซอลนะ ฮะคอร์ติซอลนะเพราะฉะนั้นเนี่ยการที่คนๆ
02:57:24 → 02:57:30 นึงมีปัญหาเกี่ยวกับทางด้านหูคอยจมูก เกี่ยวกับการทรงตัวเกี่ยวกับการวิงเวียน
02:57:30 → 02:57:35 เกี่ยวกับการที่มาบอกชอบมาบอกเกิดว่าน้ำ มีหูไม่เท่ากันหินปูนในหูเคลื่อนอะไรต่าง
02:57:35 → 02:57:41 ๆเหล่าเนี้ยนะฮะนะจริงๆแล้วพื้นฐานส่วน หนึ่งเนี่ยนะถ้ามันเป็นปัญหาของหูชั้นใน
02:57:41 → 02:57:50 โดยเฉพาะโดยเฉพาะนะนะอันนั้นก็ต้องทดสอบ และตรวจกับผู้เชี่ยวชาญและมีการปฏิบัติใน
02:57:50 → 02:57:57 การหมุนศีรษะรักษาอะไรต่ออะไรแบบแบบแบบ เ่อทางด้านหูคอจมูกนะแต่ส่วนใหญ่ของคนเรา
02:57:57 → 02:58:07 นะฮะมันเกิดจากการ Energy imbalance นะ ของส่วนเชื่อมต่อระหว่างหูชั้นในกับก้าน
02:58:07 → 02:58:15 สมองส่วนนี้นะฮโดยการทำงานที่เสียสมดุล ของเส้นประสาทสมองคู่ที่ 8 นะฮะคู่ที่ 8
02:58:15 → 02:58:25 นะแล้วก็ตัวกระตุ้นที่สำคัญก็คือการวูบว ของอินซูลินกับคอร์ติซอลนะฮะแล้วโรกพวก
02:58:25 → 02:58:30 เนี้เราจะเห็นว่าเป็นในผู้หญิงมากกว่าผู้ ชายโดยเฉพาะผู้หญิงที่ใกล้หมดประจำเดือน
02:58:30 → 02:58:39 กับหมดประจำเดือนหรือหลังหมดประจำเดือนไป แล้วนะซึ่งอันเนี้ยภาวะที่เค้าถูกถูกอ่า
02:58:39 → 02:58:45 Cut Off ในช่วงการหมดประจำเดือนเนี่ยก็ แปลว่าฮอร์โมนเขาเริ่ม imbalance นะเริ่ม
02:58:45 → 02:58:53 ไม่สมดุลเริ่มมากไปน้อยไปขาดไปอะไรต่างๆ ของไอ้ตัวพวกเอสโตรเจนนะโปรเจสเตอโรนส่วน
02:58:53 → 02:59:01 หนึ่งแล้วนะถ้าเกิดเขายังมีการกินหรือมี การเอ่อใช้ชีวิตไลฟ์สไตล์เนี่ยที่เป็น
02:59:01 → 02:59:08 ชูการเนอรที่มีภาวะอินซูลิน resistance ร่วมด้วยเนะเพราะฉะนั้นก็แน่นอนนะคือเวลา
02:59:08 → 02:59:14 ที่ฮอร์โมนอบานในคนวัยทองเนี่ยนะทั้ง คอร์ติซอลทั้งเอสโตรเจนอะไรต่างๆทั้ง
02:59:14 → 02:59:19 ไทรรอยด์ต่างๆเนี่ยมัน imbalance นะฮะแต่ ถ้าคุณมีภาวะดือินซูลินด้วยเนี่ยนะ
02:59:19 → 02:59:24 อินซูลินก็เข้ามา imbalance กับเด้วย เนี่ยนะเพราะฉะนั้นตามที่บอกนะว่าโครง
02:59:24 → 02:59:32 สร้างสมองและเอ่อระบบการทรงตัวในส่วน เนี้ยนะมันขึ้นอยู่กับการการเปลี่ยนแปลง
02:59:32 → 02:59:40 ของฮอร์โมนนี่แหละนะเพราะฉะนั้นเห็นมคน เนี้ยไม่แปลกนะว่าคุณพลังงาน imbalance
02:59:40 → 02:59:47 นะนะแล้วอะไรก็ไม่รู้แหะนะคุณมาหหงมาเวต มาออกแรงออกกำลังแล้วมาเกิดหน้ามืดวูบ
02:59:47 → 02:59:54 อะไรต่างๆนะเนี่ยเหมือนแพนิคใจสั่นหน้า มืดใจเต้นแงเต้นแวจะวูบเลยเี้ยนะอันนี้ไง
02:59:54 → 02:59:59 ก็คือฮอร์โมน imbalance มันก็เลยทำให้การเสียสมดุลของ
02:59:59 → 03:00:08 เส้นสมองเส้นประสาสมองคู่ที่ 8 ที่มันจะ แสดงออกที่ระบบการทรงตัวเขาถึงได้วูเพราะ
03:00:08 → 03:00:14 งั้นก็ต้องเข้าใจเรื่องเหล่าเแล้วก็ต้อง แก้ในเรื่องของอ่า Energy อนน่ะให้ดีให้
03:00:14 → 03:00:21 ถูกนะอันเนี้ยสำคัญนะเพราะว่าจะมากิน อย่างเงี้ยตามกระแสอะไรต่างๆนะมันก็ไอ้
03:00:21 → 03:00:25 เรื่องเหล่านี้มันก็วนๆอย่า
03:00:28 → 03:00:36 เี้หรืออันนี้นะฮะหรืออันนี้นะอันนี้ เนี่ยก็จะเป็นเรื่องนึงเนี่ยนะฮะนะที่เขา
03:00:36 → 03:00:43 จะเอามาให้ดูนะว่ามันมีค่าแลบนะมันมีการ ตรวจอะไรต่างๆนะฮะอันนี้เป็นการตรวจแบบ
03:00:43 → 03:00:52 อัตซาวไ้เส้นเลือดแดงใหญ่ที่ข้างคอนะ เรียกแิ dux ซานะนะอย่างคนเนี้ยเขาก็ตั้ง
03:00:52 → 03:01:01 โจทย์ว่าเป็นคุณเนี่ยจะยอมทานสตินไนะอัน นี้ผู้ชาย 65 ปีีนแข็งแรงนะน้ำหนัก 60
03:01:01 → 03:01:10 BMI 21 นะออกกำลังกายวันละชั่วโมงครึ่ง นะมันก็คือ Over Over Training นะนะอ่า
03:01:10 → 03:01:18 ไม่ดื่มเหล้าไม่สูบบุหรี่เป็นคนสุขภาพดี มากดูแลตัวเองดีกว่าหมอด้วยนะฮะมีความดัน
03:01:18 → 03:01:25 สูงนิดหน่อยอทานยาชนิดเดียวนะเพื่อคุม ความดันนะในลักษณะนี้ก็น่าจะเป็นเรื่อง
03:01:25 → 03:01:33 ของคอร์ติซอลนะที่จะมีผลนะนะผลเลือด 4 ครั้งดูดีมาตลอดไม่เป็นเบาหวานตับไตปกติ
03:01:33 → 03:01:39 ไรปิดโปรไฟล์ก็ดูดีนะฮะแต่ว่าตัวเลขต่างๆ ที่เขาแชร์มาเนี่ยมันเป็นตัวเลขที่มัน
03:01:39 → 03:01:46 เป็น interval นะฮะนะเ่าทั้ง ldl Total คอสอ hdl ไสไลนอะไรเงี้ยแล้วเขมาดูที่
03:01:46 → 03:01:54 ไกไลหารด้วย hdl เรชเนี่ยล่าสุดก็น้อย กว่า 1 นะเรียกว่าค่าไขมันดีถึงดีมากแต่
03:01:54 → 03:02:01 เอาไปตรวจนะเส้นเลืแดงที่คอนะก็คืออันนี้ ก็เป็นการเช็คอัพสุขภาพตามโปรแกรมนะแล้ว
03:02:01 → 03:02:09 พอเกินได้ได้หลุดไปตรวจเนี่ยไอ้ตัวเนี้ย นะแิ DX ซานะปรากฏว่าไปเจอ
03:02:09 → 03:02:18 รกริผากหรือคราบไขมันนะบนเส้นเลือดแดงที่ ข้างคอทั้ง 2 ข้างนะเนี่ยก็บ่งชี้ว่าว่า
03:02:18 → 03:02:25 นะน่าจะมีภาวะเส้นเลือดแดงอักเสบและเกิด จากความเสื่อมนะทั้งๆที่เ้าดูแลเรื่อง
03:02:25 → 03:02:33 อาหารออกกำลังกายกินยาลดความดงความดันไม่ สูบุหรี่ไตรกีซาไลน์ไม่สูง hdl สูง ldl
03:02:33 → 03:02:40 เล็กน้อยอะไรอย่างเี้นะฮะเนี่ยเาก็มีคำ ถามว่า What Else He can do for
03:02:40 → 03:02:48 Better Health นะฮะนะเนี่ยนะเพื่อลด โอกาสการเกิดโรคหัวใจ svd ลดโอกาสที่จะ
03:02:48 → 03:02:54 เกิดความเสี่ยงต่ออัมภาตและมีชีวิตอยู่ ได้นานขึ้นคำตอบของวงการแพทย์ก็คือกิน
03:02:54 → 03:03:03 อย่าลดไขมันสตินซะนะอ้าหมอใช้เวลา 15 นาทีอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อบอกให้กิน
03:03:03 → 03:03:13 ยาลดไขมันนะเพื่อลดการเกิดโรคและลดโอกาส เสียชีวิตนะโดยตั้งเป้านะที่จะกด ldl ให้
03:03:13 → 03:03:20 ต่ำกว่านะ 70 - 100 คือไม่เกิน 100 นะ ฮะนะแล้วถ้าคุณเป็นคนไข้จะยอมกินยามครับ
03:03:20 → 03:03:28 นะทั้งๆที่ไขมันไม่สูงทุกอย่างปกติดีความ ส่งความเสี่ยงอะไรต่างๆไม่มีข้อบ่งชี้เลย
03:03:28 → 03:03:35 เอ่าลองถามอาจารย์หมอโรคหัวใจโรคสมองของ โรงเรียนแพทย์ไหนๆก็ได้ว่าจะต้องกินสเตต
03:03:35 → 03:03:37 หรือ
03:03:38 → 03:03:48 ไม่ก็คือสรุปก็คือกินยานะแต่ไม่เห็นมีข้อ อธิบายในเรื่องอา
03:03:48 → 03:03:57 นะเพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างเดีหมดแต่อยาก จะถามว่าอาหารดีจริงหรอเนี่ยอาหารเนี่ยดี
03:03:57 → 03:04:06 จริงเหรอนะฮะ what to eat เนี่ย เนี่ยโอเคอย่างอื่นดีหมดนะฮะนะอยากกินยา
03:04:06 → 03:04:13 ลดไขมันกินไปจะกินเพื่อจุดประสงค์ในการ โปรฟิลเลอร์
03:04:13 → 03:04:22 ต้องมาดูไส้ในของอาหารนี่คือคำตอบนะอัน นี้ก็ลอยๆไว้อย่างเงี้ยว่าไปตัดสินใจกัน
03:04:22 → 03:04:31 เองนะฮะอ่าครับผมแต่เห็นว่าทุกๆคนที่เป็น หมอไม่เคยโฟกัสในเรื่องอาหารให้เป็นให้
03:04:31 → 03:04:41 ถูกและให้ดีเลยนะฮะครับก็เฮโรสารพาไปตาม ไกลอ่าครับผมก็ก็ก็ไม่รู้นี่ครับว่าจะแส
03:04:41 → 03:04:49 ในนอาหารเป็นยังไงอ่ะไม่รู้อ่ะก็ใช่นี่ไง แล้วเมื่อไหร่จะรู้ล่ะแล้วยังไงล่ะต้อง
03:04:49 → 03:04:56 ปล่อยแสงกันมปล่อยแสงกันมาภายในครับผม เพราะว่าพอพอพูดถึงเรื่องอาหารก็โยนไปให้
03:04:56 → 03:05:02 นักโภชนาการทั้งนั้นน่ะครับเพราะนัก โภชนาการเก็ไม่ได้รู้อะไรอ่า
03:05:02 → 03:05:10 เอมันก็รู้ได้ยากแล้วถึงจะมีสื่อมีอะไรมา ให้รู้แต่เก็ไม่อยากจะรู้เพะถึงเขมาเสพ
03:05:10 → 03:05:19 สื่อดูจะคิดว่าไงนะไม่จริงหรอกพี่โม้ใครเ บอกไหนมี Reference อะไรงานอใช่งานวิจมี
03:05:19 → 03:05:27 กี่งานนะวิจัยไปถึงเท่าไหร่นะเกิน 10 ปี ือยัง 20 ปีือยังเออโอ้มัวจะถามหาสิ่ง
03:05:27 → 03:05:34 เหล่านี้ก็ไม่จบหรอกฮะผมก็ตบโต๊ะแล้วก็ บอกมึงกินยาไปเถอะเออก็ต้องงงี้แหละ
03:05:34 → 03:05:43 นะพูดมาากไม่เหนื่อยป่านะใช่ๆ ๆเพราะฉะนั้นเนี่ยก็อ่านดูแล้วกันนะฮะ
03:05:43 → 03:05:53 เนี่ยเออนะจะเอายังไงอ่าจะจะไปทางไหนนะฮะ นะอ่าเก็หมดแล้วนะฮะก็คือจบด้วยสไลด์นี่
03:05:53 → 03:05:59 แหละนะฮว่า นะก็ไม่รู้นะว่าใครจะคิดยังไงอ่ะนะฮะว่า
03:05:59 → 03:06:08 ถ้าเกิดว่าเราได้มาอยู่ในในกลุ่มนี้ในเพจ นี้เนี่ยนะฮะนะองค์ความรู้นะหรือการให้
03:06:08 → 03:06:15 รายละเอียดไม่ว่าจะเป็นการไลฟ์หรือการการ แชร์ด้วยแผ่นภาพต่างๆให้อ่านอะไรอย่าง
03:06:15 → 03:06:22 เงี้ยนะฮะก็แล้วแต่แล้วกันว่าใครจะรับได้ แค่ไหนนะฮะนะแล้วก็เป็นเหตุเป็นผลหรือว่า
03:06:22 → 03:06:31 เอ่อเอ่อจะแค่รับข้อมูลจะทำมั้ยจะเอ่อ ประเมินตัวเองไปยังไงอะไรหรือเปล่าอะไร
03:06:31 → 03:06:37 อย่างเงี้ยนะฮะนะเพราะว่าสิ่งสิ่งต่างๆ เหล่าเนี้ยมันฟรีไงแล้วก็แล้วก็ไม่ได้
03:06:37 → 03:06:46 บังคับไม่ได้บังคับนะแต่ว่าถ้ามีการได้นำ ไปใช้ก็เอามาแชร์ได้นะเอามาพูดคุยเอามา
03:06:46 → 03:06:53 อะไรกันคือคือคือเพจเนี่ยก็ไม่ว่าเพจของ เราก็น่าจะครบปีนึงแล้วมั้งนะเกือบๆแล้ว
03:06:53 → 03:06:59 ล่ะจะครบแล้วล่ะฮะนะนะรู้สึกว่าเราเริ่ม เพจมาเมื่อประมาณวันที่ 14 กรกฎาคมนะนะ
03:06:59 → 03:07:05 เพราะฉะนั้น 1 ปีที่ผ่านมาเนี่ยนะก็จะ เห็นว่าสิ่งต่างๆที่เป็นข้อมูลในเพจก็
03:07:05 → 03:07:12 เยอะนะเยอะจนกระทั่งกลัวว่า Facebook เขา จะมาจำกัดการมองเห็นหรือว่าจะมาทำอะไรบาง
03:07:12 → 03:07:18 สิ่งบางอย่างนะ เออก็เอาล่ะนะวันเนี้ยก็เป็นอย่างงนี้นะ
03:07:18 → 03:07:25 ฮะนะแล้ววันนี้เนี่ยก็อยากจะให้คนที่เป็น เบาหวานเนี่ยนะอ่าได้ดูได้ฟังนะแล้วได้นำ
03:07:25 → 03:07:33 ไปคิดไปปฏิบัติครับแล้วก็มาประเมินกันอีก ทีนึงนะทำให้เป็นทำให้ถูกทำให้ได้นะแล้ว
03:07:33 → 03:07:41 ก็เราจะดีนะฮะเราจะดีนะเพราะทุกอย่าง เนี่ยมันเป็นรายละเอียดที่แม้จะยิบย่อยนะ
03:07:41 → 03:07:51 แต่มันมีเหตุผลของมันอยู่นะฮะนะเออลองทำ ดูปฏิบัตินะเหืออื่นใดทั้งสิ้นนะปิด
03:07:51 → 03:07:59 จังต่อตแบได้มั้ยครับดาลแหลมล่าสุดของคุณ หญิงสาวิตีอ่ะครับเอาเลยครับเอาสักหน่อย
03:07:59 → 03:08:07 ได้มั้ยครับเอาเลยครับเอาเลยครับได้ครับ ผมได้เอ่อล่าสุดอ่ะครับของหญิงสาวิตีของ
03:08:07 → 03:08:11 ในกลุ่มถามถามตอบผลแหปอ่ะ
03:08:13 → 03:08:24 ครับคนนี้มันเป็นยังไงหรอครับพี่ไพโรจเผม ดูแล้วผมดูไม่ออกก็เามาเมาทานโโคไ fash
03:08:24 → 03:08:30 ตั้งแต่ต้นปีอ่ะครับแล้วเขาก็มีประวัติ โลกของเมื่อก่อนน่ะเขาเป็นเนื้อเนื้อ
03:08:30 → 03:08:40 เยื่อบุโมดลูกเจริญผิดที่เรักษาด้วยยา วิซาน 3 ปีแล้วก็ผ่าตัดเรียบร้อยแล้วงด
03:08:40 → 03:08:47 ฮอร์โมนไป 89 เดือนแล้วก็ปีที่แล้วก็ทาน เมดิเตอเรเนียน Diet ครับ
03:08:47 → 03:08:55 อืออกกำลังกายน้อยแล้วก็ยังไม่มีอาการผิด ปกติอะไรตอนนี้ครับ
03:08:56 → 03:09:04 อืคนเนี้ยบอ typ น่าจะเป็นสายแป้ง นะแล้วการที่เขาเป็น
03:09:04 → 03:09:13 ดมิเนี่ยนะแสดงว่า 1 เขาต้องมีภาวะดื้อ อินซูลินแล้วภาวะดื้ออินซูลินของเาอ่ะไป
03:09:13 → 03:09:20 มีผลกับกับโปรเจสเตอโรนนะฮะกับตัว โปรเจสเตอโรนนะมันก็เลยทำให้เอสโตรเจน
03:09:20 → 03:09:25 เด่นขึ้นมาแลเอสโตรเจนที่เด่นขึ้นมาเนี่ย มันไปทำให้เกิดการผิด
03:09:25 → 03:09:34 อ่าผิดผิดอะไรผิดรูปแบบที่เป็นโครงสร้าง ของเซลล์เยื่อบุกโพงมลูก่ะนะมันก็เลยเกิด
03:09:34 → 03:09:40 ภาวะอันเนี้ยที่เเรียกว่า osis นะเพราะฉะนั้นคนนี้เนี่ยถ้าประวัติ
03:09:40 → 03:09:49 อย่างเงี้ยนะก็คือ 1 เขาเป็นสายแป้งที่มี ภาวะดื้ออินซูลินนะและมีปัญหากับ
03:09:51 → 03:09:58 เอสโตรเจนทีนี้เค้าอ่ะน่าจะมีแนวโน้มที่ จะมีปัญหากับคอร์ติซอลใช
03:09:58 → 03:10:08 มการที่เไปกินเเตนเนี่ยก็ถือว่าถูกต้องใน ระดับนึงเพราะว่าไงเต้องเติมคาฟแต่ว่า
03:10:08 → 03:10:17 เตนียม di ที่เคกินเนี่ยเจะต้องตัดผลไม้ อ่ะนะก็จะต้องคุมผลไม้ให้ดีนะเพราะเพราะ
03:10:17 → 03:10:25 ว่าจุดออนเมก็คือในกลุ่มคาฟ เนี่ยจุดที่เป็นปัญหาก็คือพวกแป้งสาลี
03:10:25 → 03:10:35 แล้วก็พวกพวกผลไม้เกินไม่ได้เเลือกได้แต่ ผักใบผักหัวครับถ้าเป็นเป็นแนวแบบพาอได้
03:10:35 → 03:10:43 มั้ยครับผมพาอมันก็ได้ครับผมแต่คนสายนี้ เนี่ยมันจะถูกกับโปรตีนที่ย่อยง่ายคือ
03:10:43 → 03:10:51 โปรตีนสัตว์เล็กอสัตว์เล็กเอไม่ค่อยถูก ไม่คถูกกับโปรตีนเนื้อแดงสัตว์ 4 ขา
03:10:51 → 03:11:01 นะมันจะถูกกับโปรตีนจากสัตว์เล็กจากสัตว์ น้ำจับเป็นพวกสิ c18 นะ
03:11:02 → 03:11:05 อื
03:11:11 → 03:11:20 เอ่ออย่าง 18 เลยนะมกราคมใช่มั้ยมกราคม นี่กินอะไรมาผลหลับปีอย่างเงี้ยมกรา
03:11:20 → 03:11:27 เก็ก็ก็เป็นผลหลับของปีที่แล้วที่ว่าเป็น เมดิเตอร์เรเนียนไดเอตอ่ะ
03:11:27 → 03:11:35 ครับก็ก่อนหน้านี้ก็กินเมดิเตอร์เรเนียน แล้วก็ทานก็น่าจะเป็นทอยครับโครับไ fash
03:11:35 → 03:11:43 เนี่ยตั้งแต่ 1 1 มกราคมมาเอ้ยตั้งแต่ 18 มกราคมมาจนถึงที่ผ่านมา
03:11:43 → 03:11:50 ครับใช่ทีนี้ถ้าเราดู 18 มกราคมเนี่ย เนี่ยปรากฏว่าไอ้เมดิเตอเรเนียน di ของ
03:11:50 → 03:11:59 เค้าอ่ะนะน้ำตาลเคฟาติบัตเ 96 แล้ว ไตกีสไลเ 84 พอมาจับแอปเป็น TG index
03:11:59 → 03:12:06 เนี่ยปรากฏว่าเนี่ยมันมีภาวะดื้ออินซูลิน นะฮะก็คือการกินเมดิเตอเรเนียน Diet
03:12:06 → 03:12:12 เนี่ยมันทำให้เา้ายังมีเรื่องของการด้วย อินซูลินอยู่นะโดยเฉพาะเป็นการด้วย
03:12:12 → 03:12:24 อินซูลินของตันะแล้วก็เลนก็เยอะใช่มเนี่ย เลมมันเกินเกินไปใช่ครับ 37 ครับแล้วก็
03:12:24 → 03:12:32 โปรตีนมันเยอะไป นะโปรตีนมันก็เนี่ยติดลบนะโปรตีนมันเรียก
03:12:32 → 03:12:34 ว่ามัน
03:12:36 → 03:12:42 เกิน เอันนี้เนี่ยโปรตีนที่เกินเนี่ยน่าจะเป็น
03:12:42 → 03:12:52 โปรตีนจากสัตว์ใหญ่ยล่ะนะคือเดเนี่ยด้วย ด้วยองค์ความรู้เค้าอ่ะเค้าก็ไม่ได้กิน
03:12:52 → 03:13:00 โปรตีนสัตว์ใหญ่นะนะครับเคมักจะกินโปรตีน จากสัตว์เล็กนะแล้วแต่ว่าเไปกินนมเี่ไป
03:13:00 → 03:13:10 กิน Daily produc นะไปกินนมแล้วไปกิน โปรตีนสัตว์เล็กนะอืแต่ว่าจุดจุดผิดจุด
03:13:10 → 03:13:19 ไม่ดีของ med เนี่ยก็คือพวกแป้งสาลีที่ อยู่ในรูปของขนมปังนะแล้วก็ตัวผลไม้ผลไม้
03:13:19 → 03:13:27 นะก็ไม่รู้ว่าน้ำตาลและ TG index เที่ ยังทำให้ตับเยังดื้ออินซูลินอยู่เนี่ยมัน
03:13:27 → 03:13:34 เป็นปัญหาที่ที่เรื่องของอันนี้หรือเปล่า นะแล้วก็
03:13:34 → 03:13:46 เนี่ยอันนี้ 32 นะ 32 เนี่ยคือถือว่าการกินแบบเนี้ย
03:13:46 → 03:13:56 นะดีในระดับนึงแต่ไม่ดีพอนะพอเอัพ Level มาเป็น low C High f P ใช่มั้ย
03:13:56 → 03:14:08 อันเนี้ยวันที่ 4 มิถุนายน นะตัวน้ำตาลเชูตแต่ไตลเลดเนี่ยไ 63 แล้ว
03:14:08 → 03:14:18 มาเป็น pyg index ก็ดีนะเนี่ยแล้วก็ตับ อ่อนก็ดีกว่าเดิมอีกนะนะ
03:14:18 → 03:14:28 แล้วก็โปรตีนก็พอนะฮะพลังงานก็เนี่ย 29 นะคือยังสูงแต่ว่าแต่ว่าก็ดีขึ้นน่ะคือ
03:14:28 → 03:14:34 ทุกอย่างมันเหมือนมันดีขึ้นหมดเลยนะเนี่ย นะแล้วก็ตับก็ดีขึ้นเห็นมตับมันเคลียร์
03:14:34 → 03:14:41 เลยคือตับมันได้น้ำมันสกัดเย็นได้พลังงาน นะที่มันค่อนข้างจะเป็น Good Fat มาก
03:14:41 → 03:14:49 กว่าเป็นคาเไดอเนี่ยมันยังมันเป็นแค่น้ำ มันมะกะบอกอย่างเดียวอ่ะนะแล้วมันก็ยังมี
03:14:49 → 03:14:56 compex cf อะไรอยู่นะคือทั้งคฟทั้งแฟช ยังมีอยู่นะแต่เนี่ยมันแฟชมากกว่าาเยอะนะ
03:14:56 → 03:15:04 แล้วตับมันก็ดีขึ้น 14 เนี่ยดีหมดนะแต่ ว่าอันเนี้ยทำไมมัน
03:15:05 → 03:15:11 0.56 หรือเ้าเวทเ้าออกกำลังกายเลยมั้ย เพราะ
03:15:11 → 03:15:21 ว่าเออนี่ไงนี่ไร่อ BM มัน 20 20
03:15:21 → 03:15:30 เองผู้หญิงเนี่ย BMI อย่างเงี้ไม่ได้ผู้ หญิงมันต้องมันต้อง 23 25 ครับผมเพราะ
03:15:30 → 03:15:35 ฉะนั้นเออเต้องเวทแล้วก็เติม
03:15:36 → 03:15:44 โปรตีนครับก็ต้องเวทครับต้องเวทสร้าง กล้ามเนื้อก็เติมโปรตีนโปรตีนจากสัตว์
03:15:44 → 03:15:52 ทะเลจากเครื่องในที่มันมีคอลสล่าเยอะๆนะอ เจะได้สร้างกล้ามเนื้อ
03:15:52 → 03:16:02 ได้แล้วก็เอาโปรืมาเบรกหน่อยก็ได้พวกเม้ นัตโตะนะเพราะว่าอันนี้เป็น Fat เนอรนะ
03:16:02 → 03:16:09 แล้วก็ไขมันมัน พุ่งคือดีแล้วนะดีแล้วเอาโปรตีนพืชเนี่ย
03:16:09 → 03:16:15 มาพ่วงเข้าไป หน่อยส่วนโปรตีนที่จะสร้างกล้ามเนื้อก็
03:16:15 → 03:16:22 เป็นโปรตีนสัตว์เล็กอ่ะก็สร้างได้ดีนะโดย เฉพาะโปรตีนจากสัเนโปรตีนจากเอ่อสัตว์ปีก
03:16:22 → 03:16:31 แล้วก็พวกเครื่องในในมื้อเย็นครับแล้วกิน มื้อแรกน้ำสข้อมูลเพิ่มมาก็คือหยุด
03:16:31 → 03:16:37 ฮอร์โมนไป 9 เดือนแล้วก็ปลายเดือนพ 67 ปลายปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาครับเขาก็
03:16:37 → 03:16:48 เอามดลูกออกและท่อนำไข่ออกด้วยด้วยวิธี การผ่าตัด2องกล้องครับฮะและโสโคครับปลาย
03:16:48 → 03:16:58 เดือนพคตัดเอามนุษและทอดน้ำไขออกอืก็ เหมือนกับกับเป็นหัตถการที่ทำให้ผู้หญิง
03:16:58 → 03:17:06 คนนี้เป็นวัยทองไปโดยสมบูรณ์แบบครับผม เพราะว่าตัดทั้งพวงก็คือรังไข่ท่อนำไข่มด
03:17:06 → 03:17:13 ลูกให้มันพ้นๆไป ซะแล้วก็ให้ต่อหมวกไตอ่ะมันมาทำทำงานช่วย
03:17:13 → 03:17:20 ในการสร้างฮอร์โมนครับแล้วที่ แทน
03:17:20 → 03:17:30 เออก็บอกเ้าว่าผลก็ดีขึ้น นะครับก็กินในแนวทางของ low C High
03:17:30 → 03:17:36 Good Fat นี่แหละมันจะดีกว่า เมดิเตอร์เรเนียนนะแต่ว่าให้แอดโปรตีนพืช
03:17:36 → 03:17:44 เพื่อจะได้ลด Total คอเลสตอรอลกับ ldl ซะ หน่อยนึงนะฮะแต่อย่างอื่นก็ไม่มีอะไรแล้ว
03:17:44 → 03:17:50 ก็เวทสร้างกล้ามเนื้อ สร้างในมื้อเย็นก็ได้มื้อเย็นๆสร้างกล้าม
03:17:50 → 03:17:56 เนื้อแล้วก็กินอาหารนะก็คือคอเลสเตอรอล ที่เขาสูงขึ้นกับ ldl ที่ส่งขึ้นนี่มัน
03:17:56 → 03:18:02 เกี่ยวกับการผ่าตัดด้วยหรือเปล่าครับ เกี่ยวด้วยฮะเกี่ยวด้วยเเหมือนเออทำให้
03:18:02 → 03:18:12 เขาอ่ะเป็นใบทองนะซึ่งเขาจะเครียดเพิ่ม ขึ้นนะครับแล้วก็ฮอร์โมนที่ลดลงคือไม่มี
03:18:12 → 03:18:18 ตัวรังไข่มาช่วยในการสร้างเพราะฉะนั้น ต่อมบวกไตมันจะทำานหนักมากขึ้นมีแนวโน้ม
03:18:18 → 03:18:22 จะเกิดภาวะต่อมหมวกไจ
03:18:24 → 03:18:33 ล้าน่าจะเหลือรังไข่อยู่มั้งครับเพราะเขา บอกเอาแค่ท่อนำไข่ออกอ๋อถ้าเหลือรังไข่
03:18:33 → 03:18:39 อยู่ก็ไม่เป็นไรเพราะว่าไอ้ท่อนำไข่กับ ไอ้ตัวมดลูกเนี่ยก็มันมีพญาที่ิสภาพแล้ว
03:18:39 → 03:18:47 ก็เอาออกไปครับเเรียกว่าเรียกว่าทำโตไอ้ เ้าเรียกว่าเอาอันเนี้ยไม่ได้ตดหมดยก
03:18:47 → 03:18:55 เครื่องังไข่อยู่ต่อหมวกใจ อยู่ครับเพราะฉะนั้นผลจากการผ่าตัดละมั้ง
03:18:55 → 03:19:04 ที่เค้ายังเเดรอปลงไปอ่ะกล้ามนงกล้าม เนื้อมันมันลงไปหมดเลยครับผมเนี่ยมก็ลดลง
03:19:04 → 03:19:12 ไปอ่ะผอมไปเลยก็บำรุงแล้วกันบำรุงบำรุง ฟื้นฟูนะครับผมในแนวทางนี่แหละ ow C
03:19:12 → 03:19:16 High Good fat
03:19:18 → 03:19:28 ผเลือดก็ดีขึ้นนะตับก็ดีขึ้น นะไตเนี่ยไม่มีปัญหานะแต่มันเป็นปัญหาที่
03:19:28 → 03:19:33 กล้ามเนื้อมันน้อยแล้วมันก็เลยสะท้อนมา ที่ค่าเีย
03:19:37 → 03:19:45 ทีีแล้วก็เค้ากลัวมล่ะที่ Total คอเลสเตอรอลกับ ldl สูงเพราะเา้าเป็น fat
03:19:45 → 03:19:52 burner เป็น Fat เบอร์เนอร์ที่ดีด้วยไง นะเพราะว่าตับมันก็ดีนะแล้วการที่เป็น Fat
03:19:52 → 03:19:59 burner เป็นหลักเลยเนี่ยนะไม่ต้องมา อาลัยอาวรกับอีพวกอ่าน้ำตรงน้ำตาลหรือคาฟ
03:19:59 → 03:20:06 อะไรมากมายนักนะเพราะว่าไอ้แค่น้ำสลัดทอย นี่ก็คงจะทำให้พลังงานพุ่งหน้าดูครับผม
03:20:06 → 03:20:14 เออก็ไม่แปลกหรอกนะอาจจะเบรกอันนี้นิดนึง โดยการใช้โปรตีนพืชมันลดครับในมื้อเย็น
03:20:14 → 03:20:20 มื้อเย็น โปรตีนพืชโปรตีนสัตว์ขนาดเล็กโปรตีนสัตว์
03:20:20 → 03:20:28 น้ำเครื่องในซึ่งเป็นโปรตีนขนาดไขมันต่ำ แลมีคอเลสเตอรอลเยอะๆเนี่ยพวกนี้มันสร้าง
03:20:28 → 03:20:33 ก้ามได้ดีอยู่แล้วเพราะฉะนั้นเขาก็ต้องไป เตรียมทำลายก้ามมาแล้วเติมอาหารเข้าไป
03:20:33 → 03:20:36 แล้วมันจะได้ไป
03:20:38 → 03:20:45 สร้างเรื่องคาในเมื่อเย็นก็กินได้นะเจะ ได้หลับดีๆนะ
03:20:45 → 03:20:52 เนี่ยก็กินมื้อแรกกับมื้อเย็นให้ถูกแล้ว ก็ออกแรงออก
03:20:52 → 03:20:57 กำลังเหลับดีมไม่
03:20:58 → 03:21:06 รู้น่าจะไม่ค่อยดีเท่าไหรก็ไม่รู้เหมือน กันนะครับไม่ได้ถามตรงนี้ครับเออก็ไม่มี
03:21:06 → 03:21:15 อะไรอ่ะคนนี้สาเวตีครับผมแค่นั้นอืครับ ขอบคุณมากนะครับมีคนถามมาหลังไมค์ครับพี่
03:21:15 → 03:21:25 หมอชนี้ครับครับที่มีปัญหากับคิอนะเาบอก ว่าหลังฟ้า 18 ชมเนี่ยไปเจาะ gki ได้ 0.8
03:21:25 → 03:21:35 อันนี้ถถือว่าปกติดีใช่มยพี่หมออ๋อต่ำกัน 1 เลยเหรอใช่ต่ำกว่า 1 ได้ 0.8 รือว่า
03:21:35 → 03:21:44 คีโตนคีโตนพุ่งไป 6.8 โอเอามาตรวจเอามา คำนวณ gki แล้วได้
03:21:44 → 03:21:52 0.8 อื นะก็คือมันค่อนข้างคือคือมันก็ดีอ่ะมันก็
03:21:52 → 03:22:01 ดีอ่ะต่ำ 1-3 ่ะดีนะอันเนี้ยมันฟามันฟา ยาวไปมั้งคว่า 18 ชั่วโมผมก็ว่าเพราะว่าเ
03:22:01 → 03:22:09 มีปัญหากับกับคอซอมาก่อนคนเนี้ยครับต้อง ลดเหลือ 16 หรือ 14 อืก็ให้เจาะเปรียบ
03:22:09 → 03:22:18 เทียบที่ที่ 14 กับ 16 ดูแล้วกันแล้วก็หา ตัวเลขของค่า gki ที่เหมาะสมอืโอเคครับ
03:22:18 → 03:22:23 ได้ ครับอดู 3 ช่วงนี่แหละแล้วเลือกช้อยส์ที่
03:22:23 → 03:22:31 เหมาะสมที่สุดถ้าค่า gki มันอยู่ในช่วง 1-3 เนี่ยโอเคให้อยู่ใน 1-3 นะฮะ 14 16
03:22:31 → 03:22:39 18 โอเคอืหรือปิ่มๆมาที่ใกล้ๆ 3 อ่ะจะดี ที่สุดอ๋อครับ
03:22:39 → 03:22:47 ๆเพราะว่า gki ไม่ควรเกิน 9 นะเออระดับ 1-3 เนี่ยเป็นระดับที่
03:22:47 → 03:22:56 ที่อะไรอ่ะที่ค่อนข้างจะไปทางใกล้โอโตจี้ แล้วอือืๆๆๆผมไม่มั่นใจเท่าไหร่จำตัวเลข
03:22:56 → 03:23:04 ไม่ค่อยได้เอามาปรึกษาพี่หมอก่อนแต่ก็ไม่ ได้ไม่ได้มีอาการผิดปกติอะไรครับใช่ออก็
03:23:04 → 03:23:13 ลดการฟาลงมาเพราะว่าน่าจะเป็นสายแป้งครับ ว่าวันนี้ฉ่ำๆเลยวันเนี้ยอมันยเยอะวันนี้
03:23:13 → 03:23:17 เนี่ยน่าตัดได้เป็น 10 10 10 ตอนนะพี่ หมอ
03:23:17 → 03:23:23 อื้อหูข้อข้อมูลหมายถึงว่าถ้าเอามาย่อยนะ ครับพี่หมอเพราะว่าข้อมูลดีมากเลย
03:23:23 → 03:23:31 อ่ะรอเออมีคนบอกว่าให้ให้แอดมินแบบขี้ เกียจขึ้นหน่อยเพราะว่าเตามไม่ทันท้องอืด
03:23:31 → 03:23:36 หมด แล้วย่อยๆกันไม่ทันเลยครับผมย่อยกันไม่
03:23:36 → 03:23:42 ทันเลยเคยมีอยู่ครั้งนึงนะสุทัศน์เนี่ย โพสต์ไปเกือบ 20 กระทู้
03:23:42 → 03:23:47 นะเก 20 กระทู้ภายใน 1 วันน่ะนะเบอกเพว่า ผมพี้ยา
03:23:47 → 03:23:55 [เสียงหัวเราะ] วเออเออมีมีเวลาต้องอัดไปก่อนนะพี่
03:23:55 → 03:24:02 หมอโอแต่เมื่อวาน 3A คุณหมอสุดยอดมากเลย นะ
03:24:02 → 03:24:10 ครับ 3A เรื่องการนอนหลับอ่ะผมว่าตอบคำ ถามทุกอย่างได้หมดเลยนะถ้าฟังอ่ะอื
03:24:10 → 03:24:17 [เพลง] อืก็วดีโอนี้ก็เดี๋ยวเดี๋ยวเอาขึ้นพรุ่ง
03:24:17 → 03:24:22 นี้แล้วครับพี่หมอเดี๋ยวตัดต่อตัดต่อวัน นี้แล้วก็ขึ้นพรุ่งนี้ก่อนเป็นเป็นคลิป
03:24:22 → 03:24:28 ยาวๆอ่ะ ครับแล้วที่เราจะตัดต่อเอามาโพสต์เร็วๆ
03:24:28 → 03:24:37 นี้คืออะไรนะคือ 1 เรื่องริน้า 8 พ้อใช่ๆ อินซูลินก้าร้าวก่อนเพราะว่าผมตัดเสร็จ
03:24:37 → 03:24:43 แล้วแล้วหลังจากนั้นเพราะตอนเกำลังกำลัง เป็นเรื่องกระแสอินซูลินอะไรอะไรอยู่
03:24:43 → 03:24:50 เนี่ยอืเอก็จะได้รวบรวมเป็นไปเรื่อง เรื่องเดียวกันไปเลยใช่ครับแล้วหลังจาก
03:24:50 → 03:24:54 นั้นเป็นเรื่องอะไรเรื่องไทรรอยเหรอไม่ ครับก็เรื่องนี้เลยครับเดี๋ยวเอาเอาขิบ
03:24:54 → 03:25:02 ยาวนี้ขึ้นก่อนครับเออเอาเนี่ยอันนี้ขึ้น ก่อนเป็นเป็นเต็มๆเลยแล้วก็เดี๋ยวย่อย
03:25:02 → 03:25:07 ย่อยตก็เกี่ยวกับอนใช่ครับ
03:25:07 → 03:25:15 ใช่เอ๊ลืมเจะพูด อะไรก็คือเหลือที่ต้องซ่อมนั่นแหละว่ายัง
03:25:15 → 03:25:21 ไม่ได้พูดซ่อม ซ่อมคือครั้งที่แรก inulin index อ่ะอ่า
03:25:21 → 03:25:27 อันเนี้ยสำคัญว่ามันขึ้น 2 เท่าเท่า 2 เท่า 3 เท่าอันเนี้ยอยากรู้เพราะว่าคนคน
03:25:27 → 03:25:34 น่ะดูแต่เรื่องของ G เออค่าน้ำตาล GI อย่างเดียวอ่ะครับอ๋อไซ index อะไรพวก
03:25:34 → 03:25:41 เนี้ยเ้ายังไม่เข้าใจอิซูลิน index เท่า ไหร่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงเอ๊เราเคยมีไลฟ์ไป
03:25:41 → 03:25:47 แล้วนะเรื่องอินซูลิน index อ่ะแต่ว่าเรา คุณหมอก็หาไม่เจอแต่ว่ามันเหมือนว่าไม่
03:25:47 → 03:25:53 ได้พูดเป็นเรื่องเดียวๆอ่ะใช่แต่มันพูด ยาวอยู่เรื่องอินกอ่ะมีรูปมีอะไรเยอะเลย
03:25:53 → 03:25:58 เดี๋ยวต้องไปหาไม่ก็อาจจะอยู่เออๆๆเดี๋ยว ต้องลองดูอีกทีครับพี่
03:25:58 → 03:26:06 หมอก็ไม่เป็นไรเอาเรื่องหลักๆพวกนี้ไป ก่อนแล้วก็ไทลอยเนี่ยมาทีเดียวแล้วหายเลย
03:26:06 → 03:26:12 อย่างเงี้ยคนมันก็จะลืมครับไม่ไม่ปลัด แล้วก็ปั่นขึ้นมาใหม่ครับปั่นขึ้นมาใหม่
03:26:12 → 03:26:19 มีคำถามอะไรเพิ่มเติมมครับพี่พี่ๆทุกคน ครับผมก็มีมีคำถามแบบเมื่อเช้าครับที่ผม
03:26:19 → 03:26:26 สังเกตไอ้สูน้ำมันทีออยของเขาจะเน้นเป็น พวกมูฟ่ากับูฟ่าเยอะครับแล้วก็เหพูไม่
03:26:26 → 03:26:35 อิ่มตัวใช่แล้วก็อิ่มตัวมีแค่ 10% ครับอื มันถ้าสูตรพวกนี้มันมันมีผลยังไงบ้างครับ
03:26:35 → 03:26:44 เกี่ยวกับพวกมันก็จะเพี้ยนๆกับเซลล์อ่ะไป นิดนึงไปนิดนึงนะเพี้ยนๆกับสัดส่วนของ
03:26:44 → 03:26:52 เซลล์ไปนิดนึง อืคืออย่างงี้นะเวลาเวลาที่เรากินถูกต้อง
03:26:52 → 03:26:59 เนี่ยอย่างเช่นกินโลค High GR Fat TE Oil อ่ะแล้วพอกินเข้าไปปุ๊บเนี่ยไอ้ไอ TE
03:26:59 → 03:27:08 Oil เนี่ยมันไปทางระบบน้ำเหลืองนะครับ แต่ว่าไอ้พวกโปรตีนกับผักใบผักหัวหรือ
03:27:08 → 03:27:15 อะไรต่างๆเ่ะนะครับผมที่มันเข้าทางระบบ เลือดเี่แล้วอินซูลินก็มาแบบเซอแล้วก็ไป
03:27:15 → 03:27:20 สะสมที่ตักนะเพื่อจะเป็นวัตถุดิบเดี๋ยว คืนนี้กูจะซ่อมกูจะสร้างกล้ามเนื้ออะไอ่า
03:27:20 → 03:27:28 ใช่ครับผมนี้เรามาดูในฝั่งของทีออยอ่ะที่ ไปในระบบน้ำเหลืองเนี่ยนะเขาจะใช้ไรมอนพา
03:27:28 → 03:27:35 ไปแล้วเนี่ยเขาจะใช้วิธีการแพร่ หรือ deion ือเปล่าเรฟเิดการแพร่การแพร่
03:27:35 → 03:27:43 โดยค่อยๆการแพร่เนี่ยครับเออการแพร่เนี่ย มันเกิดขึ้นเพราะอะไรมันเกิดขึ้นเพราะว่า
03:27:43 → 03:27:50 องค์ประกอบของเซลล์ต่างๆเนี่ยที่ต้องการ ไขขมันเป็นพลังงานกับตัวสัดส่วนของน้ำ
03:27:50 → 03:27:58 สลัดทีออยเนี่ยนะมันมันมีมันมีความเค้า เรียกว่ามันมันมี
03:27:58 → 03:28:04 ความมันมีความพอดีกันน่ะคือเรารู้ว่า เซลล์ต่างๆเนี่ยเซลล์ต่างๆของคนเราเนี่ย
03:28:04 → 03:28:08 มันก็ประกอบไปด้วยเยื่อหุ้มเซลล์ซึ่ง เยื่อหุ้มเซลล์เนี่ยมันจะมีคอเลสเตอรอล
03:28:08 → 03:28:16 กับไขมันแล้วไขมันของเยเซลล์มันจะมีสัด ส่วนแบบที่เรากินน้ำสลัดทีออยนี่แหละ
03:28:16 → 03:28:23 เพราะฉะนั้นเราให้สัดส่วนของของไขมันใน รูปของน้ำสลัดจีออยไปพร้อมกับเกลือน้ำส้ม
03:28:23 → 03:28:30 สายชูหรืออะไรที่เป็นสารพรึกษาเคมีเนี่ย นะอ่าครับผมไอไอ้ตัวโครงสร้างของเซลล์
03:28:30 → 03:28:35 หรือเยื่อหุ้มเซลล์เซล์เมมเบรนเนี่ยเขาก็ จะตอบรับกับสัตส่วนอันเนี้ยเพราะฉะนั้น
03:28:35 → 03:28:42 มันเลยเกิดกระบวนการแพร่เข้าไปในเซลล์เลย ไงเข้าไปที่ไมโตคอนเดรียของเซลล์อ่ะนะ
03:28:42 → 03:28:47 แล้วไมโตคอนเดรียก็สามารถเผาได้เซลล์ก็ ชอบไมโตคอนเดรียก็ชอบแล้วกระบวนการเหล่าเ
03:28:47 → 03:28:53 เป็นกระบวนการที่ราบลื่นนะเป็นกระบวนการ ที่ราบลื่นหมายถึงว่าไม่ต้องผ่านฮอร์โมน
03:28:53 → 03:29:02 ไม่ต้องผ่านีตอะไรต่างๆนะครับเนี่ยแต่ นู้นมันต้องแบบผ่านแบบสิ่งสิ่งสิ่งนี้คือ
03:29:02 → 03:29:08 ความหมายที่สำคัญที่สุดว่าอัตราส่วนเนี่ย ควรจะเป็นอย่างนี้นะอ่าครับนะเพราะฉะนั้น
03:29:08 → 03:29:14 คุณไปเพี้ยนอัตราส่วนน่ะหรือคนบางคนเนี่ย เอ่อกูไม่กินอิ่มตัวเพราะมันไปได้จาก
03:29:14 → 03:29:19 อย่างงู้นอย่างงี้แล้วคือคิดไปเองอ่ะนะ คือไม่ได้ทำในเรืองของน้ำสลัดทอยอย่าง
03:29:19 → 03:29:25 เงี้ยครับผมมันก็บอกยากแล้วมันจะเกิดอะไร ขึ้นมันก็เกิดดีอ่ะความดีแต่มันดีไม่ถึง
03:29:25 → 03:29:34 100 อะไรอย่างเงี้ยเท่าๆกับแบบสัดส่วน ไม่สมดุลไม่สมบูรณ์ครับผมเออนะครับผมครับ
03:29:34 → 03:29:43 คือนี่แหละมันก็ทำไม่ะทำไมไม่หาสัดส่วน ที่ที่เป๊ะนักหน่อยล่ะใช่ใช่มผมนะแล้วก็
03:29:43 → 03:29:49 ทำให้มันถูกครับผมก็เห็นเห็นในสัดส่วนที่ เค้าลงแล้วผมก็เอ้ยดูเ้ยทำไมมันต้องไป
03:29:49 → 03:29:58 เน้นฟูฟ่ากับมูฟ่ามากหรือว่าเขาจะเน้นพวก เอ่อฟูฟ่าเพะพวกโอเมก้า 3 เยอะหรือว่าพะ
03:29:58 → 03:30:05 มันมีอะไรสักอย่างนึงหรือเปล่าครับผมใช่ เหมือนกับเยังยังโอเมก้า 3 ที่เเน้นเนี่ย
03:30:05 → 03:30:12 มันก็แค่เป็นพลังงานนะมันไม่ได้เป็นใช่ มันเป็นเป็นเป็นเอาไปสร้างโครงสร้างนะใช่
03:30:12 → 03:30:20 ไม่ๆไม่เหมือนกับโอเมก้า 3 จากพวกสัตว์ ครับผมใช่นะก็มาเรื่องไส้ในคิดว่าเหมือน
03:30:20 → 03:30:31 ผมก็คิดว่าเค้าไม่กล้าใส่ตัวอิ่มตัวมาก เกิน 10% ก็น่าจะเป็นกความไอ้ไขไม่อิ่ม
03:30:31 → 03:30:39 ตัวเนี่ยก็ใส่ตามสูตรออตามสูตรเอ่อตาม สูตรไกล้ลนอ่ะของไกล้ลายของของของของการ
03:30:39 → 03:30:46 รักษาไขมันสูงนี่แหละว่าคุณควรกินไขมัน 1 ตัวได้ไม่เกิน 10% อ่าใช่ถวหนักๆแล้วไม่
03:30:46 → 03:30:54 ควรเกิน 7 5-7 พอแล้วที่เหลือเนี่ย เปลี่ยนมาในกลุ่มของไขมันไม่อิ่มตัวต่างๆ
03:30:54 → 03:31:00 โดยเฉพาะมูฟ่าแทนเพรางั้นที่เนสใช้คำว่าไ ที่เาทำอย่างงี้ผมเดาว่าเน่าจะเพื่อจุด
03:31:00 → 03:31:06 ประสงค์ในการลด ldl Total มันก็ใช่อ๋อ ครับ
03:31:06 → 03:31:12 ผมแต่ไอ้ตัวเซลล์ร่างกายที่มันควรจะได้ พลังงานที่ดีๆอ่ะมันก็จะได้ไม่เต็มเม็ด
03:31:12 → 03:31:20 เต็มหน่วยมันก็ดีอย่างเสียอย่างใช่ครับผม คือผสมเองเราจะสามารถเล่นกับสัดส่วนพวก
03:31:20 → 03:31:26 นี้ได้ อืแต่ถ้ามันเกินนี่จะมีปัญหาอะไรมครับพี่
03:31:26 → 03:31:33 หมอไขมันไม่อิ่มตัวเนี่ยถ้าไขมันไม่อิ่ม ตัวมันเกินเ่ะมันก็ขับทิ้งรึป่ะมูฟ่ามัน
03:31:33 → 03:31:42 จะเปลี่ยนเป็นตัวครับผมอใช่มั้ยอ่ะใช่ใช่ มครับใช่ครับคือถ้าเกินขอให้เกินในส่วน
03:31:42 → 03:31:50 ของมูฟ่าอย่าไปเกินในส่วนของูอ๋อเพราะว่า คูฟ่าเนี่ยถ้ามันเกินเนี่ยร่างกายมักจะ
03:31:50 → 03:31:58 สะสมอ๋อโมีอย่างงี้ด้วยนะากว่ามันเป็นสาย ยาวแต่ถ้ามูฟ่าเนี่ยถ้ามันเกินเนี่ยมัน
03:31:58 → 03:32:03 เปลี่ยนเป็น saturated Fat เพราะเวลา ร่างกายเผาผลานไขมันจะเผาในรูปของ
03:32:03 → 03:32:09 saturated Fat อื้อหือซึ่งมันเป็นไขมัน สายยาวที่สั้น
03:32:09 → 03:32:16 กว่าอแล้วมูฟ่ามันเปลี่ยนเป็น SAT f ได้ แต่พูฟ่าเนี่ยเปลี่ยนไม่ได้เปลี่ยนไม่ได้
03:32:16 → 03:32:25 มันก็สะสมอืสะสมไปสะสมมามันก็เป็นขบวนการ elongation อ๋อแล้วเอ rever ครับเพราะ
03:32:25 → 03:32:34 ฉะนั้น 1 เอ่อถามว่าโอเมก้า 3 โก 6 ที่ เป็นูฟ่าต้องมีมั้ยต้องมีแต่ก็มีในสัด
03:32:34 → 03:32:43 ส่วนที่ไม่เยอะมากพอสมควรคือไม่เกิน 20% น่ะถ้าเกินไปอ่ะไม่ดีแนวโน้มสะสมมากกว่าอ
03:32:43 → 03:32:49 ใช่ๆอืเมื่อเช้าเมื่อเช้าเมื่อเช้าก็ผม เห็นเห็นว่ามีภูฝ้าตั้ง 30% ผมก็เออเอ๊ะ
03:32:49 → 03:32:57 เอะใจขึ้นมาก็เลยตั้งคำถามขึ้นมาครับ ผมว่าในเรื่องของอัตราส่วนไขมันอิ่ม
03:32:57 → 03:33:03 เดี่ยวซ้อนเนี่ยถ้าคุณเกินในเรื่องของ อิ่มกับเดี่ยวเนี่ยเดี่ยวร่างกายจัดการ
03:33:03 → 03:33:11 ได้เผาผ่าานได้อ๋อมันแต่ถ้าคุณไปเกินใน เรื่องของซ้อนเนี่ยเอ่อสะสมเก็บเลยเผาผัก
03:33:11 → 03:33:14 ยากอืครับ
03:33:14 → 03:33:21 อืได้อีกข้อนึงได้เก็บเป็นข้อมูลเลยครับ ผมเออได้อีกนั่นอีกนั่นนึงใช่ๆแล้วอันที่
03:33:21 → 03:33:27 บอกว่าฉะนั้นเนี่ยเอาครับเออต่อครับการ ที่คนเราอ้วนเนี่ยเพราะไปซื้อน้ำมันพืช
03:33:27 → 03:33:35 ที่มีแต่โอเมก้า 6 ที่มีแต่สัดสวนโอเมก้า 6 เยอะไงนะคุณต้องไปเน้นน้ำมันพืชที่มี
03:33:35 → 03:33:43 สัดส่วนของอิ่มตัวกับเชิงเดี่ยวให้เยอะ ร่างกายมันยังพอจะเผาได้นะเพราะฉะนั้น
03:33:43 → 03:33:52 ยี่ห้อน้ำมันกวดเนี่ยนะยี่ห้อไหนอ่ะที่มี โอเมก้า 6 โอเมก้าูไอ้พูฝ้าเยอะเนี่ยพวก
03:33:52 → 03:33:57 นี้กินไปแล้วก็จะอ้วนอ๋อส่วนใหญ่เป็นูฝ้า ท่านั้นครับ
03:33:57 → 03:34:03 ผมแล้วที่บอกว่ามันเผาทิ้งออกไปอย่าง เงี้ยครับพี่หมอไขมันเกินแล้วเผาทิ้ง
03:34:03 → 03:34:09 เนี่ยอันนี่มันเผาในส่วนไหนครับอิ่มตัว หรือว่าผุอะไรพวกนี้ึเปล่าฮะอิ่มตัวถจะ
03:34:09 → 03:34:18 เผาอิ่มตัวเป็นหลักออเไม่เผาไม่อิ่มตัว เชิงซ้อนนะอ๋อเขาอิ่มตัวแล้วเนี่ยร่างกาย
03:34:18 → 03:34:25 ยังมีสัญญาณรับรู้ว่าเฮ้ยไอ้ตัวเดี่ยว เนี่ยมันยังเกินอยู่อืมันก็รีบจัดการ
03:34:25 → 03:34:31 เปลี่ยนอีตัวเดี่ยวเนี่ยมาเป็นอิ่มตัว แล้วก็เผาต่ออ๋อเผาต่อให้มันเป็นคีตงคีน
03:34:31 → 03:34:38 ให้มันออกทางลมหายใจออกทางเหนื่อออกทาง เยี่ยวไปออือ้าแล้วถ้ามันเกินในรูปแบบของ
03:34:38 → 03:34:46 ูฝ้าไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนน่ะทำไงครับกูก็ทำ อะไรไม่ได้ก็เก็บสิไปเอาอเอาอินนช่วยเก็บ
03:34:46 → 03:34:53 ซะว้าเก็บที่ไหนอครับผมโอ้โหเออก็มีที่ ไหนว่างอ่ะเ่าถ้าไม่ว่างก็ไป saturated ะ
03:34:53 → 03:35:03 เอ้ยไปไปไปิริรครับโอ้คำถามพี่เนตนี่ต่อ ยอดได้เยอะเลยนะเนี่ยได้เอกใจเอใจสงสัย
03:35:03 → 03:35:10 อ่าพอดีมีพี่อะไรนะที่เป็นที่ที่อยู่ภาค ใต้อยู่หาดใหญ่เดียวกับพี่เนตอ่ะจริงหรอ
03:35:10 → 03:35:17 เออเถามเถามมาเรื่องเรื่องว่าไขมันไอตัว เนี้ยมันเกินเนี่ยแต่ผมจำไม่ได้ว่ามูฟ่า
03:35:17 → 03:35:22 หรือูฟ่าที่เขาถามอ่ะนะอ่าครับผมเออพอดี มันมันสอดคล้องกับที่พี่เนสถามพอดีก็เลย
03:35:22 → 03:35:30 เออก็เลยเก็ดเลยอ๋อมันเผาไอ้ไม่อิ่มตัว เชิงเดี่ยวกับอิ่มตัวเนาะ 2 อันเอเออไม่
03:35:30 → 03:35:39 อิ่มตัวเชิงซ้อนเนี่ยก็คือเผาไม่ได้ก็ ต้องเก็บใช่อองตไปคือโอ 6 กับโอเมก้า 3
03:35:39 → 03:35:45 ที่อยู่ในน้ำมันสกัดเย็นเนี่ยส่วนใหญ่ เนี่ยร่างกายกินเข้าไปไม่เกิน 20% เว
03:35:45 → 03:35:51 เพื่อหวังไปเป็นโครงสร้างเป็นหลักอ๋อ เพราะฉนั้นโอเมก้า 6 โอเมก้า 3 เนี่ย
03:35:51 → 03:36:01 เอ่อเค้าหวังที่จะเอาไปเป็นโครงสร้างอ่ะ นะเออไม่ได้หวังที่จะเอาไปเป็นพลังงานนะ
03:36:01 → 03:36:09 มันเป็นส่วน 20% เนี่ยที่มันจะเอาไปเป็น โครงสร้างนะแต่อิ่มตัวกับเดี่ยวเนี่ยนะ
03:36:09 → 03:36:14 ซึ่งมันรวมกันแล้วก็จะประมาณ 80% เนี่ย เขาจะเอาไปเป็นพลังงานเป็นหลักโดย
03:36:14 → 03:36:25 ธรรมชาติโดยธรรมชาตินะมันเป็นอย่างนี้ นะเพราะฉะนั้นอย่าให้ไอ้ตัวที่เขาหวังจะ
03:36:25 → 03:36:29 ไปเป็นโครงสร้างน่ะมันเกินเพราะมันเกิน ปุ๊บเนี่ยมันก็
03:36:29 → 03:36:38 สะสมครับนะแล้วมันสลายยากนะแต่โดย ธรรมชาติเนี่ยตัวที่เป็นอิ่มตัวกับตัว
03:36:38 → 03:36:44 เชิงเดี่ยวเนี่ยนะอันนี้โดยธรรมชาติเมี แนวโน้มที่จะเผาผลาญเป็นหลักเผาผลาง่ายใน
03:36:44 → 03:36:49 รูปแบบโครงสร้างอยู่แล้วเนี่ยนะถึงจะเกิน ไปเนี่ยนะก็ไม่เป็นไรเดี๋ยวเค้าก็เผา
03:36:49 → 03:36:57 เพิ่มนะอ่าคุณคุณก็พยายามจัดอย่าอย่าให้ อินซูลินมานั่นแหละเดี๋ยวเ้าก็เผาต่อไป
03:36:57 → 03:37:05 อ่ะอ่าๆๆๆอย่าให้อินซูลินมา้าอินซูลินมา เกิด randle ไซเคิลนะทั้งคาฟทั้งไขมันก็
03:37:05 → 03:37:12 สะสมอ่าอันนี้สะสมหมดเลยล่ะคราวนี้สนุก เลยแต่สะสมเนี่ยเค้าก็จะเปลี่ยนมาเป็น
03:37:12 → 03:37:25 อิ่มตัวแล้วก็สะสมนะครับครับเออเปลี่ยนมา เป็นคิโตอิกนะ 46-1 แล้วก็สะสมไว้
03:37:26 → 03:37:32 ครับกระจ่างครับ กระจ่างคือสูตรที่บอกว่าให้กินคาฟ 20%
03:37:32 → 03:37:37 โปรตีน 20% แล้วไขมัน 60% เนี่ยนะฮะสัด ส่วน
03:37:37 → 03:37:47 เนี้ยมันเป็นสัดส่วนที่ทำให้ตับนะคือมัน เป็นสัดส่วนนะที่ที่ทำให้เกิดความเหมาะสม
03:37:47 → 03:37:53 ที่สุดที่ตับจะเกิดกระบวนการเผาผลาญหรือ ร่างกายเข้าสู่โหมดของการสลายเผาผลาญนะ
03:37:53 → 03:38:01 ถ้าสิ่งต่างๆในอัตราส่วน 20 20 60 เนี่ยเพี้ยนไปผิดไปนะนะเขาจะไม่เข้าปรับ
03:38:01 → 03:38:08 เข้าโหมดการสลายเผาผลาญะนะคืออาจจะมีการ สลายเผาผลาญแต่เป็นการสลายเผาผลาญที่ไม่
03:38:08 → 03:38:16 เต็มเม็ดเต็มหน่วยนะแล้วมันจะมาเข้าโหมด ในฝั่งการสะสมมากขึ้นมากขึ้นโดยเฉพาะถ้า
03:38:16 → 03:38:22 เมื่อไหร่ยิ่งเปอร์เซ็นต์าฟมากขึ้นนะ เพราะว่าอินซูลินมันก็จะพุ่งเยอะขึ้นก็
03:38:22 → 03:38:25 ยิ่งสะสมเยอะ
03:38:27 → 03:38:35 ขึ้นโอนั่นแหลครับเหตุที่ตัวเลขมันเป็น อย่างเงี้ยก็เพราะว่ามันเป็นตัวเลขที่จะ
03:38:35 → 03:38:42 ทำให้เกิดเ่อระบบ metabolism เนี่ยของ ร่างกายโดยเฉพาะตับเนี่ยอยู่ในโหมดของการ
03:38:42 → 03:38:48 สลายเผาผลาญพลังงานเป็นหลักเพราะถ้าตัว เลขไม่ใช่แบบนี้เนี่ยนะความที่มันจะ
03:38:48 → 03:38:58 เปลี่ยนเป็นโหมดของการสะสมมันจะมากขึ้น มากขึ้นก็มีก็มีหลักการมันก็มีแค่เนี้ย
03:39:00 → 03:39:11 นะโอเคครับมีอะไรเพิ่มเติมอีกมั้ย ครับไม่มีโอเคนั้นไปแล้วครับเออครับ
03:39:11 → 03:39:16 ขอบคุณคุณหมอมากครับขอบคุณทุกคนนะครับเจ๋ เจอกันใหม่ครับครับครับครับผมครับสวัสดี
03:39:16 → 03:39:31 ครับสวัสดีครับแ [เพลง]