00:00:00 → 00:00:03 เคยตรวจเชื้อ Hol ถ้าเกิดเป็นโรคกระเพาะ

00:00:03 → 00:00:06 อาหารแล้วมันไม่หายนะอันดับแรกไปหาเชื้อ

00:00:06 → 00:00:09 Hโรไลนในท้องก่อนเลยคือหมายถึงว่าเอาอัน

00:00:09 → 00:00:11 นี้ออกไปก่อนเพราะถ้ามีไอ้นี่อยู่รักษา

00:00:11 → 00:00:13 ยังไงก็รักษาไม่หายเวลาตรวจเราจะตรวจจาก

00:00:13 → 00:00:16 อุจจาระก็คือใช้เทสตรวจตรวจจากเลือดมัน

00:00:16 → 00:00:18 ไม่เวิร์คตรวจได้ 2 อย่าง 1 คือตรวจจาก

00:00:18 → 00:00:21 อุจจาระ 2 คือตรวจจากเป่าลมหายใจเนาะซึ่ง

00:00:21 → 00:00:23 ตรวจอุจจระราคาถูกกว่าแต่มันก็จะอาจจะ

00:00:23 → 00:00:26 ยุ่งยากในการเก็บกว่านิดนึงนะครับต่อมา

00:00:26 → 00:00:28 เรื่องของไอ้จุกท้องเนี่ยนะตั้งต้นจาก

00:00:28 → 00:00:31 เรื่องของนอนไม่ดีก่อนพอนอนไม่ดีปุ๊บก่อ

00:00:31 → 00:00:33 ให้เกิดไมเกรนไมเกรนเสร็จปุ๊บก่อให้เกิด

00:00:33 → 00:00:36 กระเพาะถ้านอนดีได้มันก็จะค่อยๆฟื้นขึ้น

00:00:36 → 00:00:39 นอนดีไมเกรนจะเป็นลดลงแน่นอนพอไมเกรนเป็น

00:00:39 → 00:00:42 ลดลงเราจะตัดยาที่มันแบบไม่จำเป็นออกได้

00:00:42 → 00:00:45 มากขึ้นทีนี้เบื้องต้นแอลกอฮอล์ไม่ดื่ม

00:00:45 → 00:00:48 อยู่แล้วเนาะก็คือแนะนำให้งดชากาแฟโกโก้

00:00:48 → 00:00:51 ต่างๆไปอ่านได้อาหารของกดไหลย้อนน่ะ

00:00:51 → 00:00:53 เบื้องต้นน่ะอยากให้งดพวกเนี้ยกริ๊บเลย

00:00:53 → 00:00:56 แต่ไม่ให้ทานนมวัวผลิตภัณจากนมวัวอยากให้

00:00:56 → 00:01:00 งดเพราะพวกเนี้ยบางทีในคนเอเชียเนาะเรามี

00:01:00 → 00:01:03 น้ำย่อยในการย่อยนมได้ไม่ดีพอเวลามันย่อย

00:01:03 → 00:01:06 ไม่หมดปั๊บอ่ะมันก็ลำบากแหละนะครับการแก้

00:01:06 → 00:01:09 ปัญหาเรื่องของทางเดินอาหารในระยะยาวคือ

00:01:09 → 00:01:12 ทำยังไงก็ได้ให้จุลินทรีย์เค้ากลับมา

00:01:12 → 00:01:14 สมดุลเพราะว่าปัญหาทางเดินอาหารคือปัญหา

00:01:14 → 00:01:17 ที่จุลินทรีย์แต่มันไม่ได้แก้ได้แบบดีด

00:01:17 → 00:01:20 นิ้วคือมันไม่เหมือนยากินไปแล้วหายปวดการ

00:01:20 → 00:01:23 แก้ณต่อจากนี้ไปของเขา้าอ่ะเาต้องทาน

00:01:23 → 00:01:26 พีไบโอติกและโปรไบโอติกไปเรื่อยๆทีหลัก

00:01:26 → 00:01:29 คือทานพีไบโอติกเป็นหลักเพราะปกติแล้ว

00:01:29 → 00:01:31 โปรไบโอติกเนี่ยเวลาได้ไปเนี่ยอยู่ในร่าง

00:01:31 → 00:01:34 กายได้แค่เปอร์เซ็นต์เดียวให้ไป 100 ทิ้ง

00:01:34 → 00:01:37 99นอยู่ได้แค่เปอร์เซ็นต์เดียวแล้วก็สาย

00:01:37 → 00:01:39 พันธุ์ของโปรไบโติกมันไม่หลากหลายสู้สาย

00:01:39 → 00:01:42 พันธุ์ที่อยู่ในทางเดินอาหารเราหรอกในทาง

00:01:42 → 00:01:45 เดินอาหารเราอ่ะมีอาจจะถึง 1,000 สาย

00:01:45 → 00:01:47 พันธุ์เนาะมันมีเยอะมากแต่เชื้อที่เรากิน

00:01:47 → 00:01:50 เข้าไปอย่างมากอย่างเก่งก็แค่ 30 สาย

00:01:50 → 00:01:51 พันธุ์แค่นั้นแหละกีหลักคือต้องทาน

00:01:52 → 00:01:54 พรีไบโอติกพรีไบโอติกก็คือเป็นอาหารของ

00:01:54 → 00:01:56 จุลินทรีย์ที่อยู่ในทางเดินอาหารทานไป

00:01:57 → 00:01:59 เรื่อยๆเพื่อให้จุลินทรีย์ที่อยู่ในทาง

00:01:59 → 00:02:02 เดินอาหารเ้ามันเพิ่มขึ้นเวลาเพิ่มขึ้น

00:02:02 → 00:02:04 แล้วเนี่ยทางเดินอาหารเขาจะแข็งแรงขึ้น

00:02:04 → 00:02:06 แต่มันไม่ได้หายปุ๊บปั๊บต้องบอกก่อน

00:02:06 → 00:02:09 พรีบติกเดี๋ค่อยๆให้ไปเรื่อยๆทีนี้ทุกวัน

00:02:09 → 00:02:11 นี้ทานอาหารกี่มื้อเอ่ย 2 มื้อมีจุกจก

00:02:11 → 00:02:13 มั้ยผมอ่ะไม่ค่อยอยากให้กินจุกจิเท่าไหร

00:02:13 → 00:02:17 นะจริงๆแล้วพอเวลายิ่งกินน่ะกดมันยิ่ง

00:02:17 → 00:02:19 หลังก็อยากให้ทานแบบเป็นมื้อๆนอกมื้อ

00:02:19 → 00:02:22 เนี่ยก็คือกินน้ำหรือน้ำเปล่าอย่างเดียว

00:02:23 → 00:02:26 ในมื้ออาหารอย่ากินน้ำเยอะเพราะว่ามันจะ

00:02:26 → 00:02:29 ย่อยไม่ดีในคนที่เป็นกรดไหลย้อนน่ะจริงๆ

00:02:29 → 00:02:31 แล้วเป็นคนที่ขาดกรดนะพอเวลาขาดกรดปุ๊บ

00:02:32 → 00:02:34 เขาจะย่อยไม่ดีแล้วเราก็ยิ่งไปกินยายับ

00:02:34 → 00:02:36 ยั้งการหลั่งกรดกรดมันก็ยิ่งหลังน้อยหลัง

00:02:36 → 00:02:38 น้อยหลังน้อยหลังน้อยลงเวลากินยายับยั้ง

00:02:38 → 00:02:41 การหลั่งกรดจะเกิดอะไรขึ้นต่อบ้างมันไม่

00:02:41 → 00:02:42 ได้ยับยั้งการหลั่งกรดแค่ที่กระพาะอาหาร

00:02:42 → 00:02:45 มันยับยั้งทั่วร่างกายหน้าที่นึงของไตเรา

00:02:45 → 00:02:47 คือขับกรดส่วนเกินออกจากร่างกายเพราะ

00:02:47 → 00:02:51 ฉะนั้นพอไตขับกรดออกไม่ได้กรดจะคั่งอยู่

00:02:51 → 00:02:53 ในร่างกายพอร่างกายเนี่ยค่อนข้างเป็นกรด

00:02:53 → 00:02:56 เนาะอ่ะ 5.5 ได้เวลาร่างกายเป็นกรดกระดูก

00:02:56 → 00:02:58 จะพยายามแบบบาลาanceซความเป็นกรดด่างของ

00:02:58 → 00:03:00 ร่างกายกระดูกจะสลายแคลเซียมออกมาเพื่อ

00:03:01 → 00:03:02 บาanceซความเป็นกรดด่างของร่างกายเพราะ

00:03:02 → 00:03:05 ฉะนั้นคนที่กินยาพวกยับยั้งการหลั่งกรด

00:03:05 → 00:03:09 นานๆมักจะมีเรื่องของกระดูกปางกระดูกทุน

00:03:09 → 00:03:13 แล้วพอเวลาเป็นกรดมากๆก็จะส่งผลต่อสมอง

00:03:13 → 00:03:15 เพิ่มความเสี่ยงเรื่องของสมองเสื่อมกินยา

00:03:15 → 00:03:18 นอนหลับนานๆยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท

00:03:18 → 00:03:21 ส่วนกลางทั้งหมดที่กดระบบประสาทอ่ะเนาะก็

00:03:21 → 00:03:23 เพิ่มความเสี่ยงของการสมองเสื่อมเวลาที่

00:03:23 → 00:03:26 เราหลับอ่ะสมองเรามันไม่ใช่แบบเหมือนแบบ

00:03:26 → 00:03:29 ชัดดาวไปเนาะสมองเรามันมี process ในการ

00:03:29 → 00:03:32 แบบจัดเก็บระบบความจำมีการจัดการเรื่อง

00:03:32 → 00:03:35 ของอารมณ์อะไรต่างๆเนาะที่มันจะมีเรื่อง

00:03:35 → 00:03:38 ของการหลับลึกการหลับฝันต่างๆ process

00:03:38 → 00:03:41 พวกเนี้ยสมองเราไม่ได้ดับแบบปึ๊กชัดดาว

00:03:41 → 00:03:44 แต่การกินยานอนหลับอ่ะมันเหมือนกดสมอง

00:03:44 → 00:03:47 เหมือนว่าทีวีฉายภาพอยู่กระชากออกเลยดับ

00:03:47 → 00:03:50 ปึ๊บสมองไม่มีการ process ในการ clearing

00:03:50 → 00:03:53 ในการอะไรใดๆเลยนะครับอันนี้คือข้อเสีย

00:03:53 → 00:03:56 ของยามันหลับเนาะ