00:00:00 → 00:00:03 อันแรกภาวะความดันต่ำขณะท่ายืนสาเหตุที่ 2
00:00:03 → 00:00:07 เวสติบูลไมเกรนอันที่ 3 มึนหัวเวียนหัว
00:00:07 → 00:00:09 เหือลังสาเหตุที่ 4 เหมือนเลือดไปเลี้ยง
00:00:09 → 00:00:13 สมองด้านหลังไม่พอสวัสดีค่ะหมอนุ่มนะคะ
00:00:13 → 00:00:16 กลับคุยเรื่องสมองกับหมอนุ่มนะคะวันนี้
00:00:16 → 00:00:19 เรามาชวนคุยกันเรื่อง 4 สาเหตุเวียนหัวนะ
00:00:19 → 00:00:22 คะที่มักถูกมองข้ามนะคะเรื่องเวียนหัว
00:00:22 → 00:00:25 เนี่ยเป็นอะไรที่แบบเจอบ่อยมากๆนะคะแล้ว
00:00:25 → 00:00:28 ก็วันนี้นะคะที่จะพูดถึงก็คือเป็นสาเหตุ
00:00:28 → 00:00:30 ของอาการเวียนหัวที่แบบเป็นำซ้ำแล้วมัน
00:00:30 → 00:00:33 รู้สึกไม่หายสักทีที่เรามักจะมองข้ามไป
00:00:33 → 00:00:35 เพราะฉะนั้นนะคะเราจะไม่พูดถึงสาเหตุ
00:00:35 → 00:00:37 เวียนหัวที่เจอบ่อยเนาะอย่างเช่นเรื่อง
00:00:37 → 00:00:41 ของพวกน้ำในหูไม่เท่ากันหินปูนในหูชั้นใน
00:00:41 → 00:00:43 หลุดอะไรแบบนี้นะคะเพราะว่าหมอเชื่อว่าคน
00:00:43 → 00:00:46 ไข้ส่วนใหญ่ที่เวียนหัวเนี่ยเวลาไปตรวจนะ
00:00:46 → 00:00:48 คะอาจจะไปตรวจหมอหูคอจมูกหรือว่าไปตรวจ
00:00:48 → 00:00:51 หมออายุรกรรมหรือว่าตตรวจหมอสมองอาจจะเคย
00:00:51 → 00:00:54 ได้รับการวินิจฉัยแบบนี้มานะคะว่าเป็นน้ำ
00:00:54 → 00:00:56 ในหูไม่เท่ากันบ้างหรือว่าเกี่ยวกับหู
00:00:56 → 00:00:59 ชั้นในบ้างแล้วก็อาจจะได้ยามาทานนะคะแต่
00:00:59 → 00:01:01 ปัญหาคือว่าว่าเอ๊ะแล้วทำไมมันไม่หาย
00:01:01 → 00:01:04 เวียนหัวสักทีนะคะวันนี้ก็เลยจะมาพูด
00:01:04 → 00:01:07 เรื่องสาเหตุที่มันเจอได้บ่อยเหมือนกันนะ
00:01:07 → 00:01:09 คะแล้วก็มักจะเป็นสาเหตุที่เราอาจจะแบบ
00:01:09 → 00:01:12 มองข้ามไปหรือว่านึกไม่ถึงนะคะที่ทำให้คน
00:01:12 → 00:01:14 ไข้เนี่ยกินยาแก้เวียนหัวแล้วยังไม่ดี
00:01:15 → 00:01:17 ขึ้นนะคะก็ลองฟังกันดูนะคะว่าอาจจะเข้า
00:01:17 → 00:01:20 กับเราหรือเปล่านะคะหรือว่าคนใกล้ตัวเรา
00:01:20 → 00:01:22 อาจจะเข้ากับกลุ่มไหนได้หรือเปล่านะคะ
00:01:22 → 00:01:25 เนาะอันแรกเลยนะคะก็คือที่เจอได้นะคะก็
00:01:25 → 00:01:29 คือเรื่องของภาวะความดันต่ำขณะท่ายืนนะคะ
00:01:29 → 00:01:32 หรือหรือว่าจอช่วงเปลี่ยนท่านะคะหรือที่
00:01:32 → 00:01:34 ถ้าเป็นภาษาแพทย์เราก็เรียกว่าเป็นภาวะ
00:01:34 → 00:01:37 aut static hypertension หรือว่า
00:01:37 → 00:01:40 postural hypertension นะคะอันนี้นะคะ
00:01:40 → 00:01:43 ก็คือคนไข้เนี่ยจะมีอาการเวียนหัวจากการ
00:01:43 → 00:01:47 ที่เวลาเราเปลี่ยนท่านะคะแล้วมีความดันตก
00:01:47 → 00:01:49 ความดันต่ำนะคะเนาะซึ่งอันเนี้ยเป็น
00:01:49 → 00:01:52 สาเหตุที่แบบเจอได้บ่อยนะคะบางทีเวลาเรา
00:01:52 → 00:01:54 แบบไม่ได้วัดความดันตอนที่เรามีอาการอ่ะ
00:01:54 → 00:01:57 ค่ะพอพอเราลองวัดความดันดูก็อ้าเออจริง
00:01:57 → 00:01:59 ด้วยตอนที่เวียนหัวเนี่ยความดันมันดูต่ำ
00:01:59 → 00:02:03 ลงนะคะเนาะสาเหตุนะคะก็คืออันอ่าเรื่อง
00:02:03 → 00:02:05 aut static hypertension นะคะก็จะเป็น
00:02:05 → 00:02:08 อะไรที่แบบเอ่อคนไข้มักจะให้ประวัติมาว่า
00:02:08 → 00:02:12 แบบตอนลุกเปลี่ยนท่าตอนนั่งอยู่แล้วจะลุก
00:02:12 → 00:02:14 ยืนรู้สึกมันวูบๆเวียนๆนะคะหรืออันที่เจอ
00:02:14 → 00:02:17 บ่อยอีกช่วงนึงก็คือแบบนอนตอนกลางคืนมา
00:02:17 → 00:02:20 ค่ะแล้วจังหวะแรกที่จะลุกก้าลุกออกจาก
00:02:20 → 00:02:22 เตียงอ่ะพอแบบเหมือนนอนอยู่แล้วแบบลุก
00:02:22 → 00:02:24 ขึ้นมาเนี่ยก็รู้สึกว่าเวียนหัวเลยนะคะ
00:02:24 → 00:02:27 เนาะเอ่อกลไกเป็นเพราะอะไรนะคะลองดูรูป
00:02:27 → 00:02:31 นี้กันนะคะก็คือกลไกการเ่อปกติของคนเรา
00:02:31 → 00:02:33 อ่ะค่ะเวลาเรานอนอยู่หรือว่าเรานั่งอยู่
00:02:33 → 00:02:36 นานๆอ่ะค่ะมันก็จะมีแบบความดันเราอ่ะก็จะ
00:02:36 → 00:02:38 เป็นความดันค่านึงใช่มั้ยคะมันก็จะมีการ
00:02:38 → 00:02:41 ไหลเวียนเลือดอะไรอย่างเงี้ยอยู่ในเ่อ
00:02:41 → 00:02:43 เกณฑ์ปกติในท่าที่เรานอนอยู่หรือว่าท่า
00:02:43 → 00:02:45 ที่เรานั่งอยู่ทีนี้พอเราสมมุติเรานอน
00:02:45 → 00:02:48 อยู่ปุ๊บแล้วจังหวะที่เราลุกขึ้นยืนขึ้น
00:02:48 → 00:02:51 มานะคะสิ่งที่เกิดขึ้นในคนปกตินะคะก็คือ
00:02:51 → 00:02:53 เลือดจากที่เรานอนอยู่ในท่านอนราบเนี่ยพอ
00:02:54 → 00:02:55 เราลุกขึ้นยืนปุ๊บมันเหมือนเลือดไปกองที่
00:02:55 → 00:02:58 ขานะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยมันเหมือนเลือดที่
00:02:58 → 00:03:01 เราปลั๊มอ่าสูบฉีดเลือดเนี่ยออกจากหัวใจ
00:03:01 → 00:03:03 มันจะเหมือนน้อยลงก็เลยทำให้เหมือนเรา
00:03:03 → 00:03:06 เหมือนแบบเลือดขึ้นอ่าไหลเวียนไปเลี้ยง
00:03:06 → 00:03:09 สมองอะไรอย่างเงี้ยไม่พอนะคะซึ่งตรงกลไก
00:03:09 → 00:03:11 ตรงเนี้ยคนปกติอ่ะค่ะร่างกายเราก็จะตอบ
00:03:11 → 00:03:14 สนองอัตโนมัติเลยพอเวลาจังหวะเราลุกขึ้น
00:03:14 → 00:03:16 ยืนปุ๊บร่างกายก็จะตอบสนองโดยการทำให้
00:03:16 → 00:03:19 ชีพจรเต้นเร็วขึ้นแล้วก็ความดันก็สูงขึ้น
00:03:19 → 00:03:22 เพื่อเหมือนเพิ่มเลือดไปเลี้ยงในอวัยวะ
00:03:22 → 00:03:24 ส่วนต่างๆที่สำคัญโดยเฉพาะสมองอะไรเงี้ย
00:03:24 → 00:03:27 ได้ดีมากยิ่งขึ้นนะคะถ้ากลไกตรงนี้เรา
00:03:27 → 00:03:30 ปกติเราก็จะไม่ค่อยมีปัญหาอะไรแต่คนที่
00:03:30 → 00:03:32 กลไกตรงนี้เสียไปนะคะก็จะทำให้เรารู้สึก
00:03:33 → 00:03:35 ว่าอุ้ยพอลุกปุ๊บแล้วหน้ามืดนะคะซึ่ง
00:03:35 → 00:03:39 สาเหตุที่เจอได้บ่อยๆเลยนะคะของคนที่มี
00:03:39 → 00:03:42 ภาวะความดันต่ำขนาดท่ายืนนะคะก็จะแบ่งออก
00:03:42 → 00:03:45 เป็น 2 กรณีนะคะกรณีแรกก็คือหมอมองว่า
00:03:45 → 00:03:48 เป็นกรณีที่แบบอาจจะชั่วคราวหรือว่าอาจจะ
00:03:48 → 00:03:50 แบบเอ่อไม่ไม่ได้เป็นโรคเรื้อรังมากนะคะ
00:03:50 → 00:03:53 เช่นแบบเ่อช่วงนี้เราอาจจะกินน้ำน้อยเรา
00:03:53 → 00:03:56 ขาดน้ำนะคะหรือเราอาจจะมีสูญเสียการสูญ
00:03:56 → 00:03:59 เสียน้ำไปบางบางบางช่องทางเช่นเราอาจจะ
00:03:59 → 00:04:03 แบบคลื่นไส้อาเจียนถ่ายเหลวนะคะหรือมีการ
00:04:03 → 00:04:05 แบบสมมุติเสียเลือดหรืออะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:04:05 → 00:04:08 ก็พอพอจังหวะช่วงนั้นน่ะค่ะพอเราลุกขึ้น
00:04:08 → 00:04:11 ยืนปุ๊บก็จะรู้สึกว่าเราเวียนหัวได้นะคะ
00:04:11 → 00:04:13 โดยเฉพาะแบบถ้าเกิดเป็นคุณผู้หญิงที่แบบ
00:04:13 → 00:04:17 ตัวเล็กๆแบบความดันตโดยปกติก็อาจจะไม่ได้
00:04:17 → 00:04:19 สูงมากอยู่แล้วแบบเบสไลน์ความดันอาจจะ
00:04:19 → 00:04:21 อยู่ที่ประมาณแบบตัวบน 100 นอะไรอย่าง
00:04:21 → 00:04:23 เงี้ยค่ะแล้วพอช่วงไหนที่เราขาดน้ำหรือ
00:04:24 → 00:04:26 ว่ากินน้ำไม่พอกินน้ำน้อยเนี่ยพอจังวะลุก
00:04:26 → 00:04:28 ยืนปุ๊บก็จะรู้สึกว่าเออมันมีความดันต่ำ
00:04:28 → 00:04:30 แล้วก็ทำให้เรามึนหัวเวียนหัวได้บ่อยๆได้
00:04:30 → 00:04:33 เช่นกันนะคะกับอีกกลุ่มโรคนึงที่คนไข้จะ
00:04:33 → 00:04:37 มีภาวะเอ่ออสิ hypertension อันเนี้ยได้
00:04:37 → 00:04:39 นะคะก็จะคือเป็นกลุ่มโรคที่แบบค่อนข้าง
00:04:39 → 00:04:41 เรื้อรังละอันนี้ก็จะเจอในผู้สูงอายุ
00:04:41 → 00:04:45 หน่อยนะคะเช่นเ่อคนไข้ที่แบบอายุหลัง 60
00:04:45 → 00:04:47 ปีขึ้นไปนะคะก็จะเจอได้ในกลุ่มโรคทางสมอง
00:04:47 → 00:04:50 เราเนี่ยแหละนะคะหรือว่าคนไข้ที่มีเรื่อง
00:04:50 → 00:04:53 ของเป็นโรคพาร์คินสันนะคะหรือเอ่อกลไก
00:04:54 → 00:04:56 หรือว่าคนไข้ที่มีโรคแบบโรคเรือรังอะไร
00:04:56 → 00:04:58 บางอย่างนะคะจะทำให้กลไกตรงเนี้ยมันเสีย
00:04:58 → 00:05:02 ไปนะคะก็จะทำให้เวลาเปลี่ยนท่าลุกโดย
00:05:02 → 00:05:05 เฉพาะนั่งเป็นยืนนอนเป็นยืนนอนเป็นนั่ง
00:05:05 → 00:05:07 นั่งเป็นยืนอะไรอย่างเงี้ยค่ะก็จะทำให้
00:05:07 → 00:05:10 อ่าความดันต่ำได้นะคะทีนี้นะคะใครสงสัย
00:05:11 → 00:05:13 ว่าอุ๊ยเนี่ยเราเวียนหัวแล้วเราเป็นตอน
00:05:13 → 00:05:17 ลุกยืนนะคะถ้ามีเครื่องวัดความดันที่บ้าน
00:05:17 → 00:05:20 นะคะอาจจะลองวัดความดันตัวเองดูก็ได้นะคะ
00:05:20 → 00:05:22 ว่าตอนจังหวะที่เราแบบสมมุติว่าเรานอน
00:05:22 → 00:05:25 อยู่เนี่ยเราก็วัดความดันดูถ้าค่าค่า
00:05:25 → 00:05:28 เบสไลน์ปกติของเราไว้หรือว่าเป็นค่าปกติ
00:05:28 → 00:05:30 ที่ตอนเรานั่งอะไรอย่างเงี้เงี้ยนะคะที
00:05:30 → 00:05:32 นี้วันไหนที่แบบเราลุกขึ้นมาแล้วเรารู้
00:05:32 → 00:05:35 สึกว่าอุ๊ยมันวูบมันเวียนลองเอามาความวัด
00:05:35 → 00:05:40 มาอ่าวัดซ้ำด้วยดูซิว่ามันต่างกันมนะคะคน
00:05:40 → 00:05:42 ปกติเนี่ยพอจังหวะที่เรานอนแล้วเราลุก
00:05:42 → 00:05:45 ขึ้นมาเลยอ่ะค่ะก็ส่วนใหญ่ก็จะต้องแบบ
00:05:45 → 00:05:47 ความดันมันก็จะต้องเพิ่มขึ้นนะคะชีพประจร
00:05:47 → 00:05:49 ก็ต้องเร็วขึ้นเพื่อดันเลือดไปเลี้ยงเนาะ
00:05:50 → 00:05:52 ทีนี้ถ้าเกิดสมมุติว่าคนที่มีปัญหาว่าแบบ
00:05:52 → 00:05:55 อ่ะสมมุติว่านอนอยู่ความดัน 120 ตอนลุก
00:05:55 → 00:05:58 ขึ้นมายืนเนี่ยแทนที่มันจะสูงขึ้นหรือ
00:05:58 → 00:06:01 อย่างน้อยอ่ะเท่าเดิมกับกลายเป็นต่ำลงไป
00:06:01 → 00:06:04 นะคะเช่นวัได้แค่ตัวบนได้แค่ 100 ตัวล่าง
00:06:04 → 00:06:06 ก็ต่ำลงอะไรอย่างเงี้ยก็ให้สงสัยว่าอาจจะ
00:06:06 → 00:06:09 มีภาวะนี้ได้เช่นกันนะคะทีนี้การวัดที่
00:06:09 → 00:06:12 ถูกต้องจริงๆมันอาจจะต้องวัดที่แบบพอนอน
00:06:12 → 00:06:14 ปุ๊บแล้วก็ลุกขึ้นยืนอาจจะวัดที่ 3 นาที 5
00:06:15 → 00:06:17 นาที 10 นาทีนะคะแต่ว่าถ้าเราวัดเองที่
00:06:17 → 00:06:19 บ้านเราอาจจะไม่ได้ต้องวัดละเอียดขนาด
00:06:19 → 00:06:22 นั้นแค่เราดูคร่าวๆก็ได้ว่าเออตอนที่เรา
00:06:22 → 00:06:24 เวียนหัวนั่นน่ะความดำมันต่ำลงหรือเปล่า
00:06:24 → 00:06:27 นะคะถ้าเราเอาตอนเกณฑ์เข้าการวินิจฉัย
00:06:27 → 00:06:29 จริงๆเนี่ยก็คือตัวบนเนี่ยต่ำลงเกิน 20
00:06:29 → 00:06:33 มมปลอดแล้วก็ตัวล่างเต่ำลงเกิน 10 มมปลอด
00:06:33 → 00:06:35 นะคะซึ่งจริงๆแล้วเนี่ยบางทีเราวัดมา
00:06:35 → 00:06:38 เนี่ยอ่าถ้าได้แบบนี้นะคะก็ค่อนข้างชัด
00:06:38 → 00:06:40 เลยว่าน่าจะมีภาวะนี้จริงแต่ถ้าเกิดมัน
00:06:40 → 00:06:43 ไม่ได้ได้แบบนี้ชัดๆนะคะแต่มีอาการตอน
00:06:43 → 00:06:46 เวียนหัวตอนลุกยืนทุกครั้งก็ให้สงสัยนะคะ
00:06:46 → 00:06:49 ซึ่งอาจจะต้องไปทำเทสที่ละเอียดต่อไปคือ
00:06:49 → 00:06:52 อาจจะต้องไปปรึกษาคุณหมอนะคะแล้วก็ตรวจ
00:06:52 → 00:06:54 อย่างละเอียดอีกทีนึงนะคะเนาะหรือเบื้อง
00:06:54 → 00:06:57 ต้นนะคะก็อาจจะแบบลองอ่ากินน้ำเข้าไปเยอะ
00:06:57 → 00:07:00 ๆก่อนดูซิว่าเออเราขาดน้ำอยู่หรือเปล่า
00:07:00 → 00:07:02 อะไรแบบนี้นะคะเนาะอันนี้ก็เป็นสาเหตุที่
00:07:02 → 00:07:05 1 นะคะที่ที่เ่อบางทีเรามักจะถูกมองข้าม
00:07:05 → 00:07:07 ก็คือเป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงของความ
00:07:07 → 00:07:11 ดันนะคะโดยเฉพาะในท่าที่เราเปลี่ยนท่าทาง
00:07:11 → 00:07:15 เร็วๆนะคะเนาะแล้วมีความดันต่ำลงนะคะ
00:07:15 → 00:07:17 สาเหตุที่ 2 นะคะที่เจอได้บ่อยนะคะสำหรับ
00:07:17 → 00:07:20 คนที่แบบเวียนหัวมาแล้วก็แบบกินยามาแล้ว
00:07:20 → 00:07:23 ไม่ดีขึ้นสักทีนะคะเนาะที่หมอเจอบ่อยนะคะ
00:07:23 → 00:07:25 หมอว่าอันอันที่ 2 คือเรื่องของ
00:07:25 → 00:07:28 vestibular ไมเกรนนะคะก็คือเป็นไมเกรน
00:07:28 → 00:07:31 ชนิดนึงนะคะเป็นไมเกรนชนิดที่เป็นเวียน
00:07:31 → 00:07:33 หัวเด่นนะคะอันนี้ก็เจอบ่อยมากเหมือนกัน
00:07:33 → 00:07:37 นะคะโดยเฉพาะเ่อคนในวัยช่วงประมาณสัก 20
00:07:37 → 00:07:40 30 ไปจนถึง 40-50 ปีนะคะเนาะไมเกรนเราก็
00:07:40 → 00:07:43 จะเจอเ่อเยอะในช่วงอายุนี้นะคะเพราะ
00:07:43 → 00:07:46 ฉะนั้นถ้าในกลุ่มอายุเนี้ยเวียนหัวมาแล้ว
00:07:46 → 00:07:50 แบบลองเวียนหัวไม่หายนะคะก็ลองลองลองลอง
00:07:50 → 00:07:53 ถามประวัติเพิ่มนะคะเอ่อ vur ไมเกรนหรือ
00:07:53 → 00:07:56 เป็นไมเกรนที่เป็นชนิดเวียนหัวเด่นนะคะ
00:07:56 → 00:07:58 ชื่อเขาก็บอกละคือคนไข้ต้องเป็นคนไข้
00:07:58 → 00:08:01 ไมเกรนก่อนนะคะไม่ใช่แบบเราเวียนหัวมา
00:08:01 → 00:08:03 แล้วเราไม่เคยมีอาการของไมเกรนเลยหรือไม่
00:08:04 → 00:08:06 ได้มีลักษณะที่สงสัยไมเกรนเลยอันนี้เราก็
00:08:06 → 00:08:08 จะคิดถึงน้อยลงเนาะเพราะฉะนั้นถ้าเราจะ
00:08:08 → 00:08:11 สงสัยโรคเนี้ยภาวะนี้ก็คือจะสงสัยในคนที่
00:08:11 → 00:08:14 มีความคับคล้ายคับคลาวว่าน่าจะเป็นไมเกรน
00:08:14 → 00:08:16 แต่อาจจะไม่ได้จำเป็นจะต้องเป็นปวดหัว
00:08:16 → 00:08:19 เด่นก็ได้นะคะเรามักจะเข้าใจว่าอไมเกรนก็
00:08:19 → 00:08:22 คือต้องแบบปวดหัวข้างเดียวแต่กลุ่มเนี้ย
00:08:22 → 00:08:25 อาจจะเคยมีปวดหัวบ้างไม่มีบ้างแต่มักจะมา
00:08:25 → 00:08:27 ด้วยเรื่องของเวียนหัวนะคะอาจจะบ้านหมุน
00:08:28 → 00:08:30 ไปเลยหรือเป็นแค่เวียนๆก็ได้ได้มากกว่านะ
00:08:30 → 00:08:33 คะแต่จะมีลักษณะที่เป็นลักษณะของไมเกรนก็
00:08:33 → 00:08:36 คืออะไรนะคะก็คืออันแรกนะคะมีลักษณะของ
00:08:36 → 00:08:39 phobia ก็คือกลัวแสงรู้สึกว่าแบบตาสู้
00:08:39 → 00:08:42 แสงจ้าไม่ได้นะคะคนเป็นไมเกรนก็จะรู้เลย
00:08:42 → 00:08:45 ว่าแบบเออไม่ชอบไม่ชอบแสงจ้าไม่ชอบแสงที่
00:08:45 → 00:08:49 เข้าตาตรงๆนะคะเนาะสู้แสงไม่ได้นะคะแล้ว
00:08:49 → 00:08:52 ก็ไม่ชอบเสียงดังด้วยมีโฟเบียคือแบบเวลา
00:08:52 → 00:08:55 สถานการณ์ที่มันแบบวุ่นวายมากๆเสียงดัง
00:08:55 → 00:08:58 มากๆก็จะกระตุ้นอาการให้มันเวียนหัวหรือ
00:08:58 → 00:09:01 ว่าปวดหัวเพิ่มมากมากขึ้นนะคะเนาะซึ่งเรา
00:09:01 → 00:09:04 จะสงสัยภาวะนี้นะคะก็คือคนไข้เนี่ยอาจจะ
00:09:04 → 00:09:07 เคยมีปวดหัวที่ดูเนี่ยเป็นปวดหัวข้าง
00:09:07 → 00:09:11 เดียวคล้ายไมเกรนมีเหมือนแพ้แสงแพ้เสียง
00:09:11 → 00:09:14 นะคะหรือว่ามีตัวกระตุ้นของไมเกรนเช่นแบบ
00:09:14 → 00:09:18 อากาศเปลี่ยนฮอร์โมนอาหารกลิ่นอะไรบาง
00:09:18 → 00:09:21 อย่างแล้วคนไข้ก็มาด้วยเวียนหัวบ่อยๆนะคะ
00:09:21 → 00:09:25 โดยที่แบบเราอาจจะไม่ได้จำเป็นต้องปวดหัว
00:09:25 → 00:09:28 ทุกรอบนะคะเอาเกินสักแบบว่าสมมุติเวียน
00:09:28 → 00:09:30 หัว 10 รอบแล้วเอาเกินไมเกรนเกินแบบปมี
00:09:30 → 00:09:32 ปวดหัวร่วมด้วยซักประมาณ 5 รอบก็ถือว่า
00:09:32 → 00:09:35 ให้สงสัยกลุ่มนี้และนะคะเนาะเพราะว่าความ
00:09:35 → 00:09:37 แตกต่างของคนที่เป็นเสบไมเกรนนะคะถ้าเกิด
00:09:37 → 00:09:39 คนไข้ปวดหัวบ่อยมากๆหรือว่าเวียนหัวบ่อย
00:09:40 → 00:09:43 มากๆแต่ไม่ได้แบบเป็นปวดหัวเด่นเนี่ยการ
00:09:43 → 00:09:45 รักษาหลักมันจะไม่ใช่แค่ใช้ยากลุ่มที่
00:09:45 → 00:09:47 เป็นแก้เวียนหัวบ้านหมุนทั่วไปแต่มันก็
00:09:47 → 00:09:50 ต้องใช้ยาในการรักษาไมเกรนเหมือนกันในยา
00:09:50 → 00:09:52 กลุ่มป้องกันไมเกรนเหมือนกันนะคะอาการ
00:09:52 → 00:09:56 เวียนหัวถึงจะดีขึ้นนะคะเนาะซึ่งเอ่อคน
00:09:56 → 00:09:59 ไข้ไมเกรนนะคะจะรู้ดีเลยว่าอ่าเวียนหัว
00:09:59 → 00:10:01 กับไมเกรนเนี่ยมันเป็นมันค่อนข้างเป็น
00:10:01 → 00:10:04 อะไรที่แบบมาคู่กันน่ะค่ะเนาะแบบบางบางที
00:10:04 → 00:10:06 เวลาเราปวดหัวเราก็มักจะเวียนหัวด้วยหรือ
00:10:06 → 00:10:10 บางทีแบบเอ่อเราแค่ไปคือคนไข้ไมโนจะมี
00:10:10 → 00:10:12 ความไวต่อตัวกระตุ้นใช่มั้ยคะแดดเสียง
00:10:12 → 00:10:14 กลิ่นอาหารอะไรเงี้ยบางทีเราเจอตัว
00:10:14 → 00:10:17 กระตุ้นบางอย่างก็รู้สึกมึนๆเวียนๆละนะคะ
00:10:17 → 00:10:19 เนาะงั้นถ้าเกิดเรามีลักษณะแบบนี้นะคะก็
00:10:19 → 00:10:22 ต้องสงสัยไว้ด้วยว่าเอ๊ะแล้วเราเข้าเกณฑ์
00:10:22 → 00:10:24 ที่จะเป็นแบบเกณฑ์วินิจฉัยไมเกรนชนิด
00:10:24 → 00:10:26 เวียนหัวแล้วหรือเปล่านะคะหรือที่เรียก
00:10:26 → 00:10:28 ว่าเูไมเกรนนะคะเพราะอันนี้ก็เป็นอะไรที่
00:10:28 → 00:10:31 แบบเจอบ่อยมากๆแล้วบางทีเราแบบเอ่อไม่ได้
00:10:31 → 00:10:33 นึกถึงไปนะคะก็แค่ยาเวียนหัวอย่างเดียว
00:10:33 → 00:10:37 มันก็เลยแบบไม่หายสักทีนะคะเนาะอันที่ 3
00:10:37 → 00:10:40 นะคะที่เจอได้บ่อยไม่แพ้กันเลยนะคะเราก็
00:10:40 → 00:10:44 จะเรียกว่าเป็นกลุ่มที่เป็นเมืนวนมึนหัว
00:10:44 → 00:10:47 เวียนหัวเหลือรังนะคะที่ปัญหามาจากต้นคอ
00:10:47 → 00:10:50 นะคะหรือถ้าภาษาอังกฤษก็คือเรียกว่า
00:10:50 → 00:10:53 cervicogenic destin นะคะทำไมปัญหาจาก
00:10:53 → 00:10:57 ต้นคอถึงทำให้เวียนหัวได้นะคะเพราะว่า
00:10:57 → 00:11:00 จริงๆแล้วคือตรงๆตรงกระดูกต้นคอเราอ่ะค่ะ
00:11:00 → 00:11:03 เอ่อมันจะมีหลอดเลือดนะคะที่ที่ไปเลี้ยง
00:11:03 → 00:11:06 สมองหลอดเลือดสมองอ่ามันจะมีสมองคู่หน้า
00:11:06 → 00:11:08 สมองคู่หลังหลอดเลือดคู่หลังอ่ะค่ะที่
00:11:09 → 00:11:10 เป็นหลอดเลือดที่ต้องไปเลี้ยงสมองส่วน
00:11:11 → 00:11:15 ด้านหลังส่วนท้าทอยนะคะอันเนี้ยมาออกออก
00:11:15 → 00:11:18 จากหัวใจปึ๊บมันจะวิ่งผ่านแล้ววิ่งผ่านรู
00:11:18 → 00:11:21 ของกระดูกต้นคอขึ้นไปแล้วก็ไปเลี้ยงที่
00:11:21 → 00:11:25 เอ่อสมองส่วนด้านหลังนะคะที่เป็นอวัยวะ
00:11:25 → 00:11:27 ที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการทรงตัวต่างๆ
00:11:27 → 00:11:29 นะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยคนไข้ที่ที่มีปัญหา
00:11:29 → 00:11:32 เรื่องของกระตูกต้นคอหรือปัญหาต้นคอไม่
00:11:32 → 00:11:36 ว่าจะเป็นจากกระดูกเช่นกระดูกคอเสื่อม
00:11:36 → 00:11:39 หรือกล้ามเนื้อที่ตึงมากๆนะคะก็ได้เหมือน
00:11:39 → 00:11:43 กันนะคะกลุ่มนี้นะคะถ้าคอตึงมากคอเสื่อม
00:11:43 → 00:11:45 จะรู้สึกว่ามีอาการมึนหัวได้ง่ายกว่าคน
00:11:45 → 00:11:48 ปกตินะคะเนาะซึ่งเ่อก็อาจจะเกิดจากการที่
00:11:48 → 00:11:52 แบบบางทีเราแบบเปลี่ยนท่าทางเปลี่ยนแบบ
00:11:52 → 00:11:56 อ่าขยับศีรษะเร็วเกินไปขยับต้นคอเร็วเกิน
00:11:56 → 00:11:58 ไปนะคะคนไข้ก็จะมีประวัติเหมือนแบบหัน
00:11:58 → 00:12:00 ซ้ายปุ๊บแล้วเวียนมึนหรือว่าหันขวาหรือ
00:12:00 → 00:12:03 ว่าแหงนหน้ามองเอ่อเพดานหรือว่าแหงนคอ
00:12:03 → 00:12:06 เยอะๆแล้วก็แบบรู้สึกว่ามันเวียนๆนะคะ
00:12:06 → 00:12:10 เนาะหรือคนที่คอตึงมากๆเป็นกลุ่มพวกไอ
00:12:10 → 00:12:12 facial Pain หรือว่ากลุ่มกล้ามเนื้อตึง
00:12:12 → 00:12:13 เรื้อรังพวก Office syndrome อ่ะค่ะ
00:12:13 → 00:12:16 กลุ่มเนี้ยก็คือคนไข้ก็จะมีอาการตึงกล้าม
00:12:16 → 00:12:19 เนื้อแล้วก็เหมือนแบบรู้สึกว่ามันมึนนะคะ
00:12:20 → 00:12:22 แบบเวียนแบบแต่ไม่ถึงกับบ้านหมุนนะคะแต่
00:12:22 → 00:12:24 รู้สึกว่าหัวมันไม่โล่งนะคะก็จะทำให้
00:12:24 → 00:12:27 เหมือนแบบเรารู้สึกว่าเอ้ยเราเวียนหัวไม่
00:12:27 → 00:12:29 หายสักทีได้เหมือนกันนะคะซึ่งซึ่งวิธีแก้
00:12:29 → 00:12:32 เนี่ยก็คือต้องไปแก้ที่ตัวต้นคอกับกล้าม
00:12:32 → 00:12:35 เนื้อค่ะเนาะถ้าเกิดกดๆกดเจ็บดูแล้วแล้ว
00:12:35 → 00:12:38 เรารู้สึกว่ากล้ามเนื้อเราตึงนะคะหรือมี
00:12:38 → 00:12:41 อาการแบบตอนที่มันขยับเกี่ยวกับขยับต้นคอ
00:12:41 → 00:12:43 ต่างๆก็ลองดูนะคะว่าเออถ้ากล้ามเนื้อเรา
00:12:44 → 00:12:46 ตึงมากเราก็ต้องไปแก้กล้ามเนื้อก่อนนะคะ
00:12:46 → 00:12:48 อาจจะลองไปแบบกายภาพบำบัดยืดกล้ามเนื้อ
00:12:48 → 00:12:51 ด้วยตัวเองหรืออะไรก็เบื้องต้นง่ายๆก่อน
00:12:51 → 00:12:53 ถ้ามืนหัวดีขึ้นก็แสดงว่าเราน่าจะมีปัญหา
00:12:53 → 00:12:56 จากตรงนี้แหละนะคะแล้วถ้าเกิดคนที่มีแบบ
00:12:56 → 00:12:59 เอ่อมีเสียงก๊อบแกบที่คอด้วยแบบบิดคอไป
00:12:59 → 00:13:01 แล้วรู้สึกว่าได้ยินเสียงก๊อบกบบ่อยๆหรือ
00:13:02 → 00:13:04 ว่ากล้ามเนื้อคอมันตึงบ่อยมากๆแบบอ่ะ
00:13:04 → 00:13:07 เพิ่งไปกายภาพมากลับมาตึงอีกละนะคะหรือมี
00:13:07 → 00:13:10 อาการที่ปวดตรงต้นคอมากๆด้วยอันนี้ก็ต้อง
00:13:10 → 00:13:12 ระวังว่าเอออาจจะเริ่มมีกระดูกต้นคอ
00:13:12 → 00:13:15 เสื่อมแล้วด้วยเหมือนกันหรือเปล่านะคะ
00:13:15 → 00:13:17 เนาะซึ่งส่วนใหญ่อ่ะค่ะถ้าเกิดเราแบบอายุ
00:13:17 → 00:13:20 ยังไม่ได้เยอะมากแบบอยู่ในช่วงวัยทำงาน 30
00:13:20 → 00:13:22 40 ปีเนี่ยส่วนใหญ่มักจะเป็นปัญหาที่
00:13:22 → 00:13:24 กล้ามเนื้อเป็นหลักอย่างเดียวนะคะเนาะแต่
00:13:24 → 00:13:27 ว่าถ้าเกิดอายุสัก 4 50 ปีหรือ 60 ปี
00:13:27 → 00:13:29 เป็นต้นไปก็มักจะมีปัญหาหาเรื่องของ
00:13:29 → 00:13:32 กระดูกต้นคอเสื่อมร่วมด้วยนะคะซึ่งการ
00:13:32 → 00:13:35 รักษาตรงนี้เนี่ยก็จะต้องรักษาที่เหตุของ
00:13:35 → 00:13:37 ตัวต้นคอเนาะถ้ามีกล้ามเนื้อตึงก็ต้อง
00:13:37 → 00:13:40 เอ่อแก้กล้ามเนื้อตึงนะคะถ้ามีคอเสื่อมก็
00:13:40 → 00:13:41 ต้องดูว่าเออเราต้องไปรักษาตรงปัญหาตัว
00:13:42 → 00:13:44 กระดูกต้นคอด้วยหรือเปล่านะคะก็จะทำให้
00:13:44 → 00:13:48 อาการเวียนหัวเราดีขึ้นได้นะคะเนาะแล้วก็
00:13:48 → 00:13:51 สาเหตุที่ 4 นะคะที่มักถูกปองข้ามนะคะ
00:13:51 → 00:13:54 อันเนี้ยอาจจะเจอได้แบบไม่ได้บ่อยมากนะคะ
00:13:54 → 00:13:58 แต่ก็เป็นอะไรที่แบบอ่าทางหมอสมองหรือว่า
00:13:58 → 00:14:01 ทางสมองเราเราก็ต้องนึกถึงนะคะไว้นะคะก็
00:14:01 → 00:14:04 คือเป็นภาวะที่เราเรียกว่าเ่อเลือดไป
00:14:04 → 00:14:07 เลี้ยงสมองไม่พอแบบชั่วครู่นะคะหรือว่า
00:14:07 → 00:14:10 เป็นเอ่อเป็นเหมือนเลือดไปเลี้ยงสมองด้าน
00:14:10 → 00:14:12 หลังไม่พอนะคะหรือที่เราเรียกว่า verti
00:14:12 → 00:14:15 billa insufficiency นะคะก็คือเป็นชื่อ
00:14:15 → 00:14:18 ของหลอดเลือดเนาะ verti billa นะคะก็คือ
00:14:18 → 00:14:21 หลอดเลือดนะคะหลอดเลือดด้านหลังเนี่ยค่ะ
00:14:21 → 00:14:23 คู่นี้นะคะจะเป็นหลอดเลือดคือสเอ่อหลอด
00:14:23 → 00:14:26 เลือดเราสมองของเราค่ะจะมีคู่หน้าที่ไป
00:14:26 → 00:14:29 เลี้ยงตรงสมองส่วนหน้านะคะเอ่อก็จะควบคุม
00:14:29 → 00:14:31 เกี่ยวกับพวกความรู้สึกนึกคิดกล้ามเนื้อ
00:14:31 → 00:14:34 ขาแขนอะไรต่างๆนะคะความจงความจำแต่ว่า
00:14:34 → 00:14:36 ส่วนหลังอันเนี้ยค่ะ verti Bill เนี่ย
00:14:36 → 00:14:39 อันเนี้ยจะเลี้ยงสมองส่วนหลังส่วนน้อยนะ
00:14:39 → 00:14:42 คะส่วนที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการทรง
00:14:42 → 00:14:45 ตัวต่างๆนะคะเนาะ insufficiency ก็คือแปล
00:14:45 → 00:14:49 ว่าเลือดมันไปไม่พอนะคะแสดงว่าเอ่อภาวะ
00:14:49 → 00:14:52 เนี้ยนะคะหมอขอเรียก vbi ะกันเนาะสั้นๆ
00:14:52 → 00:14:55 vbi เนี่ยก็คือภาวะที่มันเกิดเหตุการณ์
00:14:55 → 00:14:58 อะไรก็ได้ที่เลือดไปเลี้ยงสมองคู่หลังไม่
00:14:58 → 00:15:01 พอนะคะอันนี้คนไข้หลายคนก็จะถามว่าเวลา
00:15:01 → 00:15:04 เราวูบเวียนเนี่ยสิ่งอันนึงที่คนไข้กลัว
00:15:04 → 00:15:06 นะคะก็คือว่าเลือดมันไปเลี้ยงสมองไม่พอ
00:15:06 → 00:15:08 หรือเปล่าเนาะเช่นเรามีความดันหรือว่าเรา
00:15:08 → 00:15:11 มีไขมันเนี่ยแล้วเราเวียนหัวบ่อยๆอ่ะเส้น
00:15:11 → 00:15:13 เลือดสมองจะตีบมยคะเอ่อเลือดไปเลี้ยงสมอง
00:15:14 → 00:15:15 ไม่พอมั้ยคะอะไรอย่างเงี้ยค่ะซึ่งจริงๆ
00:15:16 → 00:15:18 เนี่ยถ้าเกิดเรามีภาวะเส้นเลือดสมองตีบ
00:15:18 → 00:15:20 หรือว่าเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอที่เป็น
00:15:20 → 00:15:23 อัมพฤตอัมพาชั่วคราวนะคะอันเนี้ยมันจะไม่
00:15:24 → 00:15:26 ได้เป็นสาเหตุของเวียนหัวไม่หายอ่ะค่ะคือ
00:15:26 → 00:15:28 ถ้าเกิดเราเป็นเส้นเลือดตีบหรือว่าเรา
00:15:28 → 00:15:31 เป็นแบบแบบอัมพฤตอัมพาชั่วคราวไปเลยอ่ะ
00:15:31 → 00:15:33 ค่ะอันนั้นน่ะส่วนใหญ่ก็คือเป็นเป็น
00:15:33 → 00:15:35 เรื่องของเส้นเลือกสมองตีบเฉียบพันธไปเลย
00:15:35 → 00:15:37 คืออาการมันจะมาแบบเฉียบพันธุมากแล้วก็
00:15:37 → 00:15:40 อาจจะมีแบบชาแขนขาอ่อนแรงไปนะคะส่วนใหญ่
00:15:40 → 00:15:43 ไปทำ MRI สมองก็มักจะเจอความผิดปกติว่า
00:15:43 → 00:15:45 เออมันมีลักษณะเหมือนหลอดเลือดไปเลี้ยง
00:15:45 → 00:15:48 สมองไม่พอจริงนะคะหรือภาวะเลือดไปเลี้ยง
00:15:48 → 00:15:52 สมองไม่พอชั่วคราวจริงนะคะแต่ในภาวะ vbi
00:15:52 → 00:15:54 เนี่ยก็คือคนไข้มีอาการเหมือนเลือดไป
00:15:54 → 00:15:57 เลี้ยงไม่พอแต่เวลาไปตรวจตรวจกี่ครั้ง
00:15:57 → 00:16:00 แล้วก็คือแบบเอา MRI สมองสมองก็ปกติหลอด
00:16:00 → 00:16:02 เลือดก็ดูเหมือนแบบปกติอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:16:02 → 00:16:05 เนาะแต่มันเป็นภาวะแค่ชั่วคราวนะคะสาเหตุ
00:16:06 → 00:16:09 เนี่ยส่วนใหญ่ก็จะมาจากเอ่อ 2 อย่างหลักๆ
00:16:09 → 00:16:11 นะคะอันแรกเองก็คือหนึ่งจากกระดูกต้นคอ
00:16:12 → 00:16:14 เมื่อกี้แหละก็คือลิงมาจากสาเหตุข้อที่ 3
00:16:14 → 00:16:16 ก็คือปัญหาเรื่องของกระดูกต้นคอคือคนไข้
00:16:16 → 00:16:19 ที่แบบพอคอเสื่อมมากๆอ่ะค่ะแล้วแล้วมันไป
00:16:19 → 00:16:22 กดทับหลอดเลือดเนี่ยบ่อยๆโดยเฉพาะที่ถ่า
00:16:23 → 00:16:27 ทางที่มันสัมพันธ์กับการบิดแหงนคอบางท่า
00:16:27 → 00:16:30 นะคะแล้วคนไข้ก็คือเวียเนวูไปเลยนะคะเอ่อ
00:16:30 → 00:16:33 แต่แต่ vbi ก็คือภาวะที่เลือดไปเลี้ยงไม่
00:16:33 → 00:16:35 พอนี้อันเนี้ยจะซีเรียสกว่าสาเหตุที่ 3
00:16:35 → 00:16:38 สาเหตุที่ 3 มันจะเป็นแค่มืนๆเวียนๆแต่
00:16:38 → 00:16:40 ถ้าเราเลือดไปเลี้ยงไม่พอจริงเราจะมี
00:16:40 → 00:16:42 อาการอื่นๆที่คล้ายเส้นเลือดสมองตีบเฉียบ
00:16:42 → 00:16:47 พันธุร่วมด้วยเช่นอ่าเวียนหัวชาพูดไม่ชัด
00:16:47 → 00:16:50 ลิ้นแข็งตามัวเห็นภาพสอนก็คือเป็นอาการ
00:16:50 → 00:16:52 เหมือนสมองเลยค่ะแต่ว่ามันเป็นแค่ชั่ว
00:16:52 → 00:16:55 คราวนะคะถ้าอันแรกก็เอ่อถ้าเกิดคนไข้มี
00:16:55 → 00:16:57 ภาวะเหมือนกระดูกต้นคอเสื่อมมากๆแล้วเกิด
00:16:57 → 00:17:00 เหตุการณ์แบบนี้บบๆก็ต้องสงสัยภาวะนี้ไว้
00:17:00 → 00:17:02 ด้วยนะคะอีกอันนึงก็คืออาจจะไม่ได้มีคอ
00:17:02 → 00:17:05 เสื่อมแต่คนไข้มีความเสี่ยงที่หลอดเลือด
00:17:05 → 00:17:09 มันตีบนะคะหลอดเลือดตีบเนี่ยก็เอ่อก็จะ
00:17:09 → 00:17:12 สัมพันธ์กับภาวะที่มีเ่อเส้นเลือดตีบได้
00:17:13 → 00:17:17 ง่ายเช่นพวกเบาหวานความดันอ่าไขมันสูงนะ
00:17:17 → 00:17:20 คะอันเนี้ยก็จะมามาหยุดสาเหตุตรงเนี้ยค่ะ
00:17:20 → 00:17:21 ว่าถ้าเกิดคนไข้ที่มีปัจจัยเสี่ยงเหล่า
00:17:22 → 00:17:24 นี้นะคะแล้วเวียนหัวไม่หายบ่อยๆก็ต้อง
00:17:24 → 00:17:27 สงสัยว่าเออมันมีภาวะที่เลือดไปเลี้ยง
00:17:27 → 00:17:29 สมองคู่หลังอันเนี้ยไม่พอหรือเปล่านะคะ
00:17:29 → 00:17:32 เนาะซึ่งอันเนี้ยเป็นอะไรที่แบบเอ่อเป็น
00:17:32 → 00:17:34 การวินิจฉัยที่ค่อนข้างยากนะคะแล้วก็เรา
00:17:34 → 00:17:38 จะต้องอาศัยเอ่อการเ่อสังเกตอ่าจับอาการ
00:17:38 → 00:17:40 แล้วก็ตรวจร่างกายแล้วก็ดูประวัติปัจจัย
00:17:41 → 00:17:44 เสียงของคนไข้นะคะถ้าไปเมทำ MRI ตอนที่มี
00:17:44 → 00:17:47 อาการนะคะบางทีอาจจะโชคดีเห็นว่าแบบเออ
00:17:47 → 00:17:49 หลอดเลือดเนี่ยมันมีเลือดที่เหมือนไป
00:17:49 → 00:17:52 เลี้ยงสมองตรงเนี้ยนะคะเนี่ยคู่คู่ด้าน
00:17:52 → 00:17:54 หลังเนี่ยแล้วก็จะมีบางตำแหน่งที่รู้สึก
00:17:55 → 00:17:57 ว่าเอ้ยเลือดมันหายไปเลย Flow มันหายไป
00:17:57 → 00:18:00 เลยนะคะแต่พอพอแบบช่วงที่กลับมาปกติ Flow
00:18:00 → 00:18:02 ก็กลับไปปกตินะคะอันนี้ก็จะช่วยในการ
00:18:02 → 00:18:06 วินิจฉัยได้นะคะเนาะซึ่งอ่าตัวภาวะเลือด
00:18:06 → 00:18:08 ไปเลี้ยงสมองไม่พอคู่หลังนะคะก็จริงๆก็
00:18:08 → 00:18:11 อาจจะคล้ายๆกับพวกภาวะเลือดเ่ออัมพฤต
00:18:11 → 00:18:14 อัมพาตชั่วคราวหรือว่าที่เราเรียกว่า tia
00:18:14 → 00:18:16 ก็คือทาซ ischemic attack มันจะเป็น
00:18:16 → 00:18:18 กลุ่มอาการที่แบบคาบเกี่ยวกันนะคะแต่จะ
00:18:18 → 00:18:20 เป็นเรื่องของสมองและนะคะอันนี้ก็จะเป็น
00:18:20 → 00:18:24 อะไรที่แบบคนอาจจะมองข้ามไปนะคะเนาะส่วน
00:18:24 → 00:18:27 ใหญ่ก็มักจะต้องเป็นวูบเวียนที่ซีเรียส
00:18:27 → 00:18:30 ระดับนึงอ่ะค่ะมีแบบวูบหมดสติไปเลยหรือ
00:18:30 → 00:18:32 อะไรอย่างเงี้ยหรือว่ามีแบบตามัวเห็นภาพ
00:18:32 → 00:18:35 ซ้อนร่วมด้วยนะคะก็จะค่อยนึกถึงนะคะถ้า
00:18:35 → 00:18:37 ใครมีแบบนี้อันนี้ก็ต้องอาจจะต้องรีบไป
00:18:37 → 00:18:39 ตรวจนิดนึงนะคะเนาะก็คือควรตรวจอย่าง
00:18:40 → 00:18:43 ละเอียดนะคะแต่ 3 สาเหตุที่เจอบ่อยๆกว่า
00:18:43 → 00:18:45 ที่หมอพูดไปก็คือเรื่องของความดันเปลี่ยน
00:18:45 → 00:18:49 ขณะท่ายืนเอ่อหรือความดันต่ำขณะท่ายืน
00:18:49 → 00:18:53 หรือเป็นไมเกรนเวียนหัวหรือเป็นจากปัญหา
00:18:53 → 00:18:55 จากตัวต้นคอหรือกล้ามเนื้อคอตึงเนี่ย
00:18:55 → 00:18:57 อันเนี้ยจะเจอได้บ่อยมากกว่านะคะแล้วก็
00:18:57 → 00:19:01 มักจะเป็นสาหเหตุที่ไปตรวจทุกอย่างมาและ
00:19:01 → 00:19:03 ก็มักจะปกตินะคะคนไข้เวียนหัวยังไงมักจะ
00:19:03 → 00:19:06 เคยไปตรวจหูคอจมูกตรวจการได้ยินตรวจเลือด
00:19:06 → 00:19:10 เบื้องต้นเนาะแล้วก็ตรวจบางคนที่ไม่หาย
00:19:10 → 00:19:12 จริงๆเวียนแบบไม่หายจริงๆก็มักจะได้ MRI
00:19:12 → 00:19:15 มาละซึ่ง 3 สาเหตุที่พูดถึงอันแรกเนี่ย
00:19:15 → 00:19:19 ส่วนใหญ่ตรวจทุกอย่างปกติหมดนะคะเนาะก็จะ
00:19:19 → 00:19:22 ทำให้แบบบางทีเราก็เอ่อพลาดการวินิจฉัยไป
00:19:22 → 00:19:24 หรือว่านึกไม่ถึงไปนะคะเพราะฉนั้นลอง
00:19:24 → 00:19:27 สังเกตอาการตัวเองนะคะว่าเออเราเป็นแบบ
00:19:27 → 00:19:29 ไหนเราเวียนตอนเปลี่ยนท่าทางหรือเปล่านะ
00:19:29 → 00:19:32 คะเราเป็นไมเกรนด้วยมั้ยดูมีแบบบางครั้ง
00:19:32 → 00:19:35 ที่มีปวดหัวร่วมด้วยหรือเปล่านะคะหรือ
00:19:35 → 00:19:39 เอ่อเราคอตึงมากมั้ยมีความเสี่ยงที่แบบดู
00:19:40 → 00:19:43 จะมีปัญหาเรื่องของกล้ามเนื้อคอเอ่อเกรง
00:19:43 → 00:19:45 เป็นออฟฟิ Syndrome หรือมีกระดูกคอเสื่อม
00:19:45 → 00:19:48 หรือเปล่านะคะพวกนี้ก็มาด้วยเวียนหัวไม่
00:19:48 → 00:19:51 หายได้นะคะเนาะนี้เป็น 4 สาเหตุที่เรามัก
00:19:51 → 00:19:54 จะมองข้ามไปนะคะส่วนสาเหตุอื่นๆนะคะจริงๆ
00:19:54 → 00:19:56 คือเรื่องเวียนหัวเนี่ยเป็นอะไรที่แบบน่า
00:19:56 → 00:20:00 เวียนหัวมากนะคะเพราะว่าคนไข้คนนึงเนี่ย
00:20:00 → 00:20:03 มักจะมีเรื่องของเอ่อหลายปัจจัยที่มาทำ
00:20:03 → 00:20:05 ให้เวียนหัวเช่นรอบนี้อาจจะเป็นจากความ
00:20:05 → 00:20:07 ดันต่ำก็ได้เพราะว่ากินน้ำไม่พอกินน้ำ
00:20:07 → 00:20:09 น้อยหรือว่าพึ่งท้องเสียมาหรืออะไรอย่าง
00:20:09 → 00:20:11 เงี้ยนะคะแต่อีกรอบนึงอาจจะไม่เกี่ยวละ
00:20:11 → 00:20:15 อาจจะเป็นจากความเครียดนะคะนอนไม่พอนะคะ
00:20:15 → 00:20:19 อดนอนนะคะหรือบางคนอ่าโดยเฉพาะผู้หญิงใน
00:20:19 → 00:20:21 ช่วงที่แบบช่วงมีประจำเดือนหรืออะไรเงี้ย
00:20:21 → 00:20:24 ค่ะอาจจะมีความเสี่ยงต่อแบบมีภาวะซีดเสีย
00:20:24 → 00:20:27 เลือดไปเยอะนะคะก็ทำให้แบบมึนหัวเวียนหัว
00:20:27 → 00:20:29 ได้นะคะเพราะฉะนั้นคนๆนึงเนี่ยอาจจะมี
00:20:29 → 00:20:32 สาเหตุของเวียนหัวที่เอ่อมีได้หลายอย่าง
00:20:32 → 00:20:34 นะคะเวลาเราเวียนหัวไม่หายเราก็เลยต้อง
00:20:34 → 00:20:37 พยายามหาสาเหตุให้ครอบคลุมทั้งหมดนะคะว่า
00:20:37 → 00:20:40 เราน่าจะเป็นจากอะไรมากที่สุดแล้วเราก็
00:20:40 → 00:20:43 ค่อยๆแก้ไปนะคะถ้าเกิดแก้สิ่งนี้ละแล้ว
00:20:43 → 00:20:45 ยังไม่หายเราก็จะต้องดูด้วยว่าเรามี
00:20:45 → 00:20:48 ปัจจัยร่วมด้วยอย่างอื่นหรือเปล่านะคะอ่า
00:20:48 → 00:20:50 อันอื่นๆที่ก็เจอได้บ่อยไม่แพ้กันก็อาจจะ
00:20:50 → 00:20:53 เป็นเรื่องของพวกความเครียดวิตกกังวลนะคะ
00:20:53 → 00:20:56 เรื่องของการนอนนอนที่ไม่ดีเช่นอาจจะทั้ง
00:20:56 → 00:21:00 นอนไม่พอนะคะอดนอนๆนอนดึกหรือเหมือนนอน
00:21:00 → 00:21:02 เยอะแต่นอนเท่าไหร่ก็ไม่พอเช่นมีภาวะนอน
00:21:02 → 00:21:05 กลนด้วยหรือเปล่านะคะมีภาวะเหมือนภาวะ
00:21:05 → 00:21:08 เอ่อเค้าเรียกว่าหยุดหายใจขณะหลับนะคะก็
00:21:08 → 00:21:11 คือกลนมากๆจนออกซิเจนต่ำนะคะพวกนี้กลุ่ม
00:21:11 → 00:21:13 พวกเนี้ยก็จะตื่นมาแล้วก็รู้สึกว่าแบบมึน
00:21:13 → 00:21:16 หัวเวียนหัวช่วงกลางวันแบบไม่หายสักทีนะ
00:21:16 → 00:21:19 คะหรือภาวะเ่อเลือดอื่นๆนะคะเช่นเรื่อง
00:21:19 → 00:21:23 ของไทรรอยด์ผิดปกตินะคะน้ำตาลที่ผิดปกติ
00:21:23 → 00:21:24 เรื่องซีดเรื่องอะไรเนี่ยอันนี้ก็เป็น
00:21:24 → 00:21:27 สาเหตุของเวียนหัวเรื้อรังได้หมดเลยนะคะ
00:21:27 → 00:21:30 งั้นเราก็ต้องพยายามดูว่าเรามีปัญหาจาก
00:21:30 → 00:21:33 อะไรบ้างแล้วเราก็ค่อยๆแก้ไปนะคะทีนี้นะ
00:21:33 → 00:21:37 คะแบบส่วนใหญ่นะคะเวลาแบบอ่าคนไข้มีปัญหา
00:21:37 → 00:21:39 เรื่องของเวียนหัวเนี่ยไม่ว่าจะเป็นจาก
00:21:39 → 00:21:42 สาเหตุอะไรก็แล้วแต่นะคะเอ่อจริงๆแล้วอ่ะ
00:21:43 → 00:21:46 คือหมอก็จะแทบแนะนำคนไข้ทุกคนเลยว่าเอ่อเ
00:21:46 → 00:21:47 ในเมื่อเรายังไม่สมมุติว่าเรายังไม่รู้
00:21:47 → 00:21:50 ว่าการวินิจฉัยเ่อของเรามีอะไรบ้างกันแน่
00:21:50 → 00:21:52 แต่ว่าเราอ่ะควรทำปฏิบัติตัวยังไงเมื่อ
00:21:52 → 00:21:55 อยู่ที่บ้านนะคะว่าเราอ่ะถ้าเราเวียนหัว
00:21:55 → 00:21:58 เนี่ยเราต้องทำอย่างน้อย 4-5 ข้อเนี่ยให้
00:21:58 → 00:22:00 บบให้ได้ก่อนเพื่อแก้ปัญหาเรื่องเวียนหัว
00:22:01 → 00:22:04 อื่นๆออกไปให้หมดนะคะเนาะอันแรกเลยก็คือ
00:22:04 → 00:22:07 เรื่องของดื่มน้ำนะคะจะเห็นว่าคนไข้ที่มี
00:22:07 → 00:22:10 แบบอาจจะมีความดันต่ำหรืออาจจะไม่ต่ำก็
00:22:10 → 00:22:13 ได้แต่ว่าคเอ่อเราเวียนหัวตอนเปลี่ยนท่า
00:22:13 → 00:22:16 ทางค่ะโดยเฉพาะแบบลุกเร็วๆจากนอนเป็นนั่ง
00:22:16 → 00:22:18 จากนั่งเป็นยืนแล้วแบบลุกปุ๊บเวียนปั๊บ
00:22:18 → 00:22:20 หน้ามืดเหมือนจะเป็นลมแต่ไม่เคยเป็นลม
00:22:20 → 00:22:23 จริงๆสักทีนะคะส่วนใหญ่พวกนี้นะคะก็มักจะ
00:22:23 → 00:22:25 สัมพันธ์กับภาวะขาดน้ำเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:22:25 → 00:22:28 น้ำเป็นอะไรที่เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดนะคะ
00:22:28 → 00:22:31 สำหรับการไหลเวียนเลือดนะคะให้คนไข้เนี่ย
00:22:31 → 00:22:33 เ่าเลือดไหลเวียนได้ปกติเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:22:33 → 00:22:36 คนไข้เวียนหัวยังไงนะคะอันแรกเลยดื่มน้ำ
00:22:36 → 00:22:40 ให้พอนะคะถ้าเป็นแบบเอ่อผู้ใหญ่นะคะแบบ
00:22:40 → 00:22:43 เ่อทั่ว่อผู้ใหญ่สูงอายุหน่อยนะคะอันนี้
00:22:43 → 00:22:45 อาจจะต้องแบบไม่ต้องดื่มแบบถึงขั้นเยอะ
00:22:45 → 00:22:47 มากเพราะว่าที่หมอเจอมาคือส่วนใหญ่พอให้
00:22:47 → 00:22:50 ดื่มอ่าสมมุตลิตร์ครึ่งขึ้นไปเนี่ยบางคน
00:22:50 → 00:22:52 ดื่มไม่ไหวถ้าเป็นแบบผู้สูงอายุมากๆนะคะ
00:22:52 → 00:22:55 ก็คืออย่างน้อยขอประมาณเนี้ยค่ะอ่าถ้าขวด
00:22:55 → 00:22:57 ทั่วไปเนี่ยประมาณ 600 ซีซีก็คือขออย่าง
00:22:57 → 00:22:59 น้อย 3 นะคะ 2 ถึง 3 ขวดนะคะก็เนี่ย
00:22:59 → 00:23:03 ประมาณ 1,200 1,500 นะคะหรือ 1,800 ซซ
00:23:03 → 00:23:06 ต่อวันเนี่ยต้องกินให้ได้นะคะเพราะว่า
00:23:06 → 00:23:08 สังเกตผู้สูงอายุทุกท่านนะคะคือส่วนใหญ่
00:23:08 → 00:23:11 กินน้ำน้อยอยู่ะถามจริงๆเนี่ยส่วนใหญ่จะ
00:23:11 → 00:23:12 ไม่ถึง 1 ลิตรกันเกือบทุกคนเลยแล้วก็จะมา
00:23:12 → 00:23:15 ด้วยมึนหัวเรือล่างนะคะถ้าใครมีแบบผู้สูง
00:23:15 → 00:23:17 อายุที่บ้านแล้วบอกว่าบ่นมึนหัวบ่อยๆนะคะ
00:23:17 → 00:23:20 เรื่องแรกเลยต้องพยายามแก้เรื่องน้ำให้
00:23:20 → 00:23:22 ได้ก่อนนะคะแต่ถ้าเกิดเป็นวัยรุ่นนะคะวัย
00:23:22 → 00:23:25 ทำงานที่แคทีอยู่นะคะแบบเราอาจจะต้องการ
00:23:25 → 00:23:27 ปริมาณมากกว่านั้นเนาะยิ่งถ้าเราไปออก
00:23:27 → 00:23:29 กำลังกายมาหรือว่าเราทำงานกลางแจ้งนะคะ
00:23:29 → 00:23:32 ที่เสียเหงื่อเยอะๆนะคะอาจจะต้องการถึง
00:23:32 → 00:23:34 ประมาณลิตรครึ่ง - 2 ลิตรต่อวันเลยนะคะ
00:23:34 → 00:23:36 วิธีสังเกตง่ายๆว่าเราดื่มน้ำพอแล้วหรือ
00:23:36 → 00:23:39 ยังก็คือดูปากนะคะว่าเราแบบปากแห้งมั้ยนะ
00:23:39 → 00:23:42 คะปัสสาวะออกมาปกติดีหรือเปล่าไม่ใช่แบบ 6
00:23:42 → 00:23:44 ชมงไม่ปัสสาวะเลยนะคะแล้วก็สีที่ออกมา
00:23:44 → 00:23:47 เข้มมากไหมถ้ายังเข้มมากอยู่ก็แสดงว่าเรา
00:23:47 → 00:23:50 ยังไม่พอยังดื่มไม่พอนะคะถ้าเวียนหัวอยู่
00:23:50 → 00:23:52 ก็คือดื่มเพิ่มเลยเนาะก็คือต้องแก้เรื่อง
00:23:52 → 00:23:54 น้ำให้พอก่อนนะคะอันที่ 2 นะคะแก้เรื่อง
00:23:55 → 00:23:57 นอนนะคะการนอนเป็นอะไรที่สำคัญมากๆสำหรับ
00:23:57 → 00:23:59 คนไข้เวียนหัวหัวมึนหัวเหลือลังนะคะถ้า
00:24:00 → 00:24:03 นอนไม่พอนอนดึกอดนอนบ่อยๆนะคะหรือว่านอน
00:24:03 → 00:24:05 ไม่ได้คุณภาพยังไงก็เวียนนะคะเพราะฉะนั้น
00:24:05 → 00:24:07 คือต้องแก้เรื่องนอนถ้าเรารู้ตัวว่าเรา
00:24:07 → 00:24:10 นอนดึกเราต้องพยายามนอนให้พอนะคะเอ่อก็
00:24:10 → 00:24:12 ต้องไปปรับปรับวิถีชีวิตทำยังไงก็ได้ให้
00:24:13 → 00:24:15 เรานอนให้ได้อย่างน้อยซักประมาณ 6-8 ชมนะ
00:24:15 → 00:24:17 คะแต่ถ้าเรารู้สึกว่าเรานอนพอและลอง
00:24:17 → 00:24:21 สังเกตดูซินอนกลนมนะคะถ้านอนกลนอาจจะมี
00:24:21 → 00:24:23 โรคภาวะนอนกลนร่วมด้วยอันนี้ก็ทำให้แบบ
00:24:23 → 00:24:26 มึนหัวไม่หายนะคะเนาะก็แก้ที่การนอนนะคะ
00:24:26 → 00:24:29 อันที่ 3 นะคะแก้ที่เรื่องของอาหารการกิน
00:24:29 → 00:24:32 นะคะคนที่มึนหัวเวียนหัวง่ายนะคะพยายามงด
00:24:32 → 00:24:35 อาหารเค็มนะคะอาหารเค็มจะเป็นตัวหนึ่งใน
00:24:35 → 00:24:38 ตัวกระตุ้นที่เราให้เรามึนหัวได้มากขึ้น
00:24:38 → 00:24:41 นะคะรวมไปถึงอาหารที่ปรุงรสเยอะๆใช้ผง
00:24:41 → 00:24:44 ชูรสต่างๆนะคะเนาะพวกเนี้ยของหมักของดอง
00:24:44 → 00:24:47 อ่ะค่ะปูปลารอะไรจะต้องงดเว้นไปก่อนนะคะ
00:24:47 → 00:24:50 แล้วก็คันที่ 4 นะคะถ้าเราเป็นคนเวียนหัว
00:24:50 → 00:24:53 ง่ายนะคะเปลี่ยนท่าชะเปลี่ยนท่าทางช้าๆนะ
00:24:54 → 00:24:57 คะเวลาจะโดยเฉพาะตอนตื่นนอนตอนเช้านะคะ
00:24:57 → 00:24:59 เวลาเราลุกขึ้นมาเลยเนี่ยอันนี้เป็นท่า
00:24:59 → 00:25:01 ที่แบบคนไข้ส่วนใหญ่มีอาการมากที่สุด
00:25:01 → 00:25:05 เพราะฉะนั้นถ้าเราเวียนหัวนะคะตอนตื่นนอน
00:25:05 → 00:25:09 ลืมตาก่อนดูซิมึนงงมั้ยนะคะลุกนั่งนะคะ
00:25:09 → 00:25:11 ลุกนั่งก่อนอย่าเพิ่งลุกยืนนะคะลุกนั่ง
00:25:11 → 00:25:14 ถ้าไม่มึนไม่งงก็ค่อยลุกยืนนะคะรวมไปถึง
00:25:14 → 00:25:16 ระหว่างวันด้วยถ้าเรานั่งอยู่แล้วเราจะ
00:25:16 → 00:25:19 ลุกนะคะก็ต้องพยายามเปลี่ยนท่าทางช้าๆรวม
00:25:19 → 00:25:22 ไปถึงพวกเอ่อการหันซ้ายหันขวาต่างๆด้วยนะ
00:25:22 → 00:25:25 คะอันนี้ก็ต้องแก้ด้วยนะคะเพราะว่าจะทำ
00:25:25 → 00:25:28 ให้อ่าเวลาเราหันเร็วๆอ่ะค่ะเช่นแบบมีใคร
00:25:28 → 00:25:30 เรียกแล้วก็หันปึ๊บนะคะอันนี้ก็กระตุ้น
00:25:30 → 00:25:32 อาการเวียนหัวได้เหมือนกันนะคะไม่ว่าจะ
00:25:33 → 00:25:35 เป็นจากสาเหตุอะไรก็แล้วแต่เนี่ยอ่าถ้า
00:25:35 → 00:25:37 เราเปลี่ยนท่าทางเร็วๆมาก็มักจะกระตุ้น
00:25:37 → 00:25:40 อาการเวียนหัวให้เป็นมากขึ้นนะคะเนาะสุด
00:25:40 → 00:25:42 ท้ายก็คือก็ต้องแก้เหตุอื่นนะคะที่เจอ
00:25:43 → 00:25:45 บ่อยๆก็คือเรื่องของพวกกล้ามเนื้อตึงนี่
00:25:45 → 00:25:48 แหละความเครียดเอ่ออาจจะตึงที่หัวหรือว่า
00:25:48 → 00:25:50 ตึงที่ต้นคอหรืออะไรพวกนี้นะคะถ้าเรารู้
00:25:50 → 00:25:53 สึกว่ากดไปแล้วเรามีปัญหาเรื่องคอตึง
00:25:53 → 00:25:56 กล้ามเนื้อตึงนะคะแล้วเรามึนเราเวียนนะคะ
00:25:56 → 00:25:59 อันนี้ก็ต้องแบบอ่ะลองไปนุงวดคลายยืด
00:25:59 → 00:26:01 กล้ามเนื้อด้วยตัวเองหรือว่าลองกายภาพ
00:26:01 → 00:26:04 บำบัดดูนะคะพอตรงนี้โล่งๆไปบ้างเก็จะทำ
00:26:04 → 00:26:06 ให้มึนหเวียนหัวดีขึ้นนะคะอันนี้เป็น
00:26:06 → 00:26:10 เทคนิคนะคะง่ายๆที่คนเวียนหัวทุกคนนะคะ
00:26:10 → 00:26:12 ต้องลองทำดูเนาะเพราะว่าไม่ว่าจะเป็น
00:26:12 → 00:26:15 สาเหตุอะไรก็แล้วแต่ที่กล่าวมานะคะส่วน
00:26:15 → 00:26:18 ใหญ่อ่ะก็ต้องปฏิบัติตามนี้ด้วยเพราะว่า
00:26:18 → 00:26:21 ยาก็จะเป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ทำให้ปรับการ
00:26:21 → 00:26:24 ทรงตัวหรือลดอาการนะคะหรือถ้าเกิดใครมี
00:26:24 → 00:26:28 เหตุที่อธิบายได้จากเ่อสาเหตุเวียนเวียน
00:26:28 → 00:26:30 หัวได้จากอะไรก็แล้วแต่เช่นคอเสื่อมเป็น
00:26:30 → 00:26:33 ไมเกรนอันนี้อันนั้นก็ต้องไปรักษาที่ตัว
00:26:33 → 00:26:37 ต้นสาเหตุอีกทีนึงนะคะแต่ว่าเ่อเรื่องของ
00:26:37 → 00:26:38 การปฏิบัติตัวเบื้องต้นเนี่ยอันเนี้ยทำ
00:26:38 → 00:26:41 ทุกคนอยู่ละนะคะส่วนใหญ่มึนหัวเวียนหัวก็
00:26:41 → 00:26:44 จะดีขึ้นได้นะคะเนาะอันนี้ก็เป็น 4
00:26:44 → 00:26:48 สาเหตุนะคะที่หมอสรุปมาให้นะคะว่าแบบส่วน
00:26:48 → 00:26:52 ใหญ่แล้วเนี่ยเอ่อเวียนหัวเนี่ยก็เอ่อคือ
00:26:52 → 00:26:54 คือคนส่วนใหญ่อ่ะเวลาเวียนหัวปึ๊บเนี่ยก็
00:26:54 → 00:26:57 มักจะได้ยาแก้เวียนหัวมาอยู่ละแล้วก็มัก
00:26:57 → 00:26:59 จะได้รับการวินิจฉัยพวกน้ำในหูไม่เท่ากัน
00:26:59 → 00:27:02 หรือว่าพวกเอ่อหปัญหาจากหูชั้นในอะไร
00:27:02 → 00:27:04 อย่างเงี้ยมาก่อนนะคะคือถ้าหายเนี่ยก็คง
00:27:04 → 00:27:07 ไม่ถึงขั้นต้องมาตรวจสาเหตุต่อแต่ถ้าคน
00:27:07 → 00:27:11 ที่รักษาแล้วเราไม่หายสักทีนะคะก็อาจจะ
00:27:11 → 00:27:14 ต้องมาลองไล่ดูว่าเราเข้ากับกลุ่มไหนหรือ
00:27:14 → 00:27:16 เปล่านะคะเนาะสุดท้ายแล้วถ้ามันไม่หาย
00:27:16 → 00:27:19 จริงๆก็ต้องลองไปตรวจอย่างละเอียดอีกที
00:27:19 → 00:27:22 นึงนะคะก็อาจจะต้องมีการทำการตรวจนะคะที่
00:27:22 → 00:27:25 เกี่ยวข้องกับพวกระบบประสาทอัตโนมัติการ
00:27:25 → 00:27:28 ทำ MRI สมองหรืออะไรที่มันเพิ่มมากขึ้นนะ
00:27:28 → 00:27:30 นะคะเพื่อให้วินิจฉัยสาเหตุของเวียนหัว
00:27:30 → 00:27:34 ไม่หายได้อย่างถูกต้องนะคะเนาะก็สำหรับ
00:27:34 → 00:27:40 วันนี้นะคะก็เดี๋ยวดูคำถามกันนิดนึง
00:27:40 → 00:27:44 โคโอเคเคยเป็นคะพอไปทำ MRI สรุปเป็นเส้น
00:27:44 → 00:27:47 เลือดสมองตีบฝั่งซ้ายนะคะอันเนี้ยก็ก็
00:27:47 → 00:27:52 เป็นเป็นเป็นเป็นสาเหตุนะคะที่เอ่อ
00:27:52 → 00:27:55 ต้องต้องต้องเจอเ่อเค้าเรียกว่าอะไรอ่ะ
00:27:55 → 00:27:58 ถ้าเกิดเวียนหัวไม่หายสักทีแล้วแล้วมี
00:27:58 → 00:28:00 ความเสี่ยงของการเป็นเส้นเลือดตีบอยู่
00:28:00 → 00:28:03 แล้วด้วยเช่นเป็นเบาหวานความดันไขมันอัน
00:28:03 → 00:28:05 นี้ต้องระวังเรื่องเส้นเลือดตีบนะคะบางที
00:28:05 → 00:28:07 เราซื้อยาแก้เวียนหัวอย่างเดียวเนี่ยมัน
00:28:07 → 00:28:09 มันไม่ดีขึ้นเนาะก็ต้องไปตรวจละเอียดอีก
00:28:09 → 00:28:12 ทีนึงหรือถ้าเกิดเป็นเวียนหัวที่ที่เคยมี
00:28:12 → 00:28:15 อาการเหมือนเส้นเลือดสมองจะตีบอ่ะค่ะนะคะ
00:28:15 → 00:28:17 ถึงแม้จะเป็นชั่วคราวก็ตามนะไม่กี่วินาที
00:28:17 → 00:28:22 เช่นชาครึ่งซีกลิ้นแข็งพูดไม่ชัดวูบนะคะ
00:28:22 → 00:28:24 เหมือนจะเป็นลมไปเลยหรือบาบางคนก็เหมือน
00:28:24 → 00:28:28 รู้สึกหมดสติปุ๊บนึงไปเลยนะคะหรือแบบเห็น
00:28:28 → 00:28:30 ภาพซ้อนกันนะคะอันเนี้ยเป็นการทำงานของ
00:28:30 → 00:28:33 สมองในส่วนของที่ที่แบบเวลาเจอร่วมกับ
00:28:33 → 00:28:35 เวียนหัวได้บ่อยๆว่าน่าจะมีปัญหานะคะถึง
00:28:35 → 00:28:37 แม้จะเป็นอาการชั่วคราวเช่นเป็น 5 นาที 10
00:28:37 → 00:28:40 นาทีแล้วหายไปแต่สิเป็นอาการที่ซีเรียส
00:28:40 → 00:28:44 ที่ต้องไปตรวจทางสมองก่อนนะคะเนาะ
00:28:44 → 00:28:47 เอ่อไปทำ MRI มาคุณหมอบอกว่าไม่เจอสิ่ง
00:28:47 → 00:28:50 ผิดปกติอะไรแต่ว่ายังมึนหัวเวียนหัวไม่
00:28:50 → 00:28:54 หายค่ะเป็นเป็นหายายตลอดเลยนะคะเอ่อ
00:28:54 → 00:28:57 อันเนี้ยก็จะเจอบ่อยเป็นกรณีที่เจอบ่อยก็
00:28:57 → 00:29:01 คือเอ่อพอ MRI มาปกติแล้วเราเป็นอะไรล่ะ
00:29:01 → 00:29:03 นะคะเนาะก็ส่วนใหญ่นะคะถ้าเป็นคุณผู้หญิง
00:29:03 → 00:29:06 แล้วอายุอยู่ในช่วงประมาณสักวย 30 ถึง 50
00:29:06 → 00:29:09 ปีนะคะที่หมอเจอบ่อยลองดูว่าเรามีไมเกรน
00:29:09 → 00:29:11 ด้วยหรือเปล่านะคะเราปวดหัวด้วยยเนาะบาง
00:29:11 → 00:29:14 ทีมันเป็นกลุ่มไมเกรนเวียนหัวได้นะคะอัน
00:29:14 → 00:29:16 ที่ 2 คือจากกล้ามเนื้อคอนี่แหละนะคะคอ
00:29:16 → 00:29:17 บ่าไหลตึงหรือเริ่มมีปัญหาเรื่องของ
00:29:18 → 00:29:20 กระดูกคอเสื่อมเพราะคนสมัยเนี้ยเราจะก้ม
00:29:20 → 00:29:23 คอกันแบบเยอะอ่ะค่ะใช้ทำงานหน้าคอมเป็น
00:29:23 → 00:29:25 หลักนั่งนานๆเป็นหลักแล้วก็มือถือเนี่ย
00:29:25 → 00:29:27 เวลาเราใช้มือถืออ่ะค่ะเราก็จะก้มคอเป็น
00:29:27 → 00:29:30 หลักนะคะก็จะทำให้เราเสี่ยงต่อการแบบ
00:29:30 → 00:29:32 กระดูกคอเสื่อมได้ง่ายขึ้นนะคะแล้วก็จะทำ
00:29:32 → 00:29:36 ให้เรามึนหัวได้ง่ายนะคะเนาะแล้วก็อ่าลุก
00:29:36 → 00:29:39 เปลี่ยนท่าทางนะคะช้าๆเนาะส่วนใหญ่แบบเ่า
00:29:39 → 00:29:42 บางทีผู้หญิงคนไทยอ่ะค่ะเอ่อเบสไลน์ความ
00:29:42 → 00:29:44 ดันเราไม่ได้สูงมากนะคะแบบส่วนใหญ่ก็
00:29:44 → 00:29:47 ประมาณ 100 น 100 100 ต้นๆอะไรอย่าง
00:29:47 → 00:29:49 เงี้ยค่ะถ้าวันไหนเราแบบพักผ่อนไม่พอดื่ม
00:29:49 → 00:29:51 น้ำน้อยหรือว่าเราเสียน้ำไปทางใดทางนึง
00:29:51 → 00:29:53 เนี่ยก็มักจะมีอาการมึนหัวได้เพราะฉะนั้น
00:29:53 → 00:29:56 ก็ลองดื่มน้ำให้พอนะคะลองแก้ไขดูนะคะว่า
00:29:56 → 00:30:00 เผื่ออาจจะดีขึ้นนะคะเอ่อคุณหมอจ่ายอิทิ
00:30:00 → 00:30:03 ทินกินไปแค่เม็ดเดียวบ้านหมุนวันละ 3 รอบ
00:30:03 → 00:30:05 อยู่ 3 วันอันนี้คือผลข้างเคียงหรือเปล่า
00:30:05 → 00:30:08 คะอ่าอันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุเลยนะคะ
00:30:08 → 00:30:11 ที่เวียนหัวไม่หายแล้วเจอบ่อยนะคะคือ
00:30:11 → 00:30:14 เรื่องของยานะคะเนาะยาหลายตัวเลยนะคะมีผล
00:30:14 → 00:30:17 ข้างเคียงเรื่องทำให้มึนงงได้เวียนหัวได้
00:30:17 → 00:30:20 นะคะอย่างกลุ่มอิิทินเองนะคะก็จะเป็น
00:30:20 → 00:30:22 หนึ่งในยารักษาพวกกล้ามเนื้อตึงรักษา
00:30:22 → 00:30:25 ไมเกรนหรือว่ากลุ่มพวกรักษาเส้นประสาทนะ
00:30:25 → 00:30:27 คะอยู่ในกลุ่มพวกยาคลายเครียดนะคะหลายคน
00:30:27 → 00:30:30 ที่ทำทานแล้วเนี่ยทานแล้วดีทานแล้วหลับ
00:30:30 → 00:30:32 เนี่ยบางทีเวียนหัวก็จะดีขึ้นแต่บางคนที่
00:30:32 → 00:30:35 ทานแล้วรู้สึกมันหลับเยอะเกินไปหรือว่า
00:30:35 → 00:30:38 ค้างมาถึงตอนกลางวันนะคะคือมันจะทำให้
00:30:38 → 00:30:40 ง่วงยาออกฤทธิ์ค่อนข้างยาวค่ะมันจะทำให้
00:30:40 → 00:30:43 ง่วงง่วงนานพอตื่นขึ้นมามันเหมือนยายัง
00:30:43 → 00:30:46 ไม่หมดฤทธิ์ก็ทำให้มีอาการเหมือนเวียนหัว
00:30:46 → 00:30:49 บ้านหมุนได้เหมือนกันถ้ากินยาแล้วเป็นนะ
00:30:49 → 00:30:52 คะแล้วพอหยุดยาแล้วก็หายก็แสดงว่าน่าจะ
00:30:52 → 00:30:54 เป็นผลข้างเคียงจากยาค่ะแต่ถ้าเกิดหยุดยา
00:30:54 → 00:30:56 แล้วก็ยังไม่หายเนี่ย 3 วัน 5 วันไปแล้ว
00:30:56 → 00:30:57 หรือเกินอาทิตย์ไปแล้วแล้วยังไม่หายอัน
00:30:57 → 00:31:00 นี้อาจจะคนละเรื่องกันนะคะเนาะแล้วก็คน
00:31:00 → 00:31:03 ที่เวียนหัวไม่หายอยู่ก็ลองเช็คลิสต์ยา
00:31:03 → 00:31:06 ตัวเองดูก็ได้ค่ะว่าเออเรามียาโรคประจำ
00:31:06 → 00:31:09 ตัวหรือว่ายาอะไรที่ทำให้เราเวียนหัวได้
00:31:09 → 00:31:10 หรือเปล่านะคะน้องส่วนใหญ่ก็จะอยู่ใน
00:31:10 → 00:31:13 กลุ่มพวกเยค่ะยาคายวิตกกังวลหรืออะไรพวก
00:31:13 → 00:31:15 เนี้ยก็จะมีผลข้างเคียงเรื่องพวกเนี้ย
00:31:15 → 00:31:17 เยอะเหมือนกันนะคะ
00:31:17 → 00:31:20 เนาะสอบถามค่ะคุณหมอเวลานอนคว่ำเล่นมือ
00:31:20 → 00:31:23 ถือไปสักพักแล้วก็จะปวดหัวด้านหลังลงมา
00:31:23 → 00:31:26 ต้นคอแล้วก็จะปวดมากจนต้องกินยาพาราถึงจะ
00:31:26 → 00:31:30 หายแต่ถ้ามันนอนคว่ำอีกก็จะปวดอีกแบบนี้
00:31:30 → 00:31:33 เป็นโรคอะไรคะกล้ามเนื้อคอตึงค่ะนะคะ
00:31:33 → 00:31:36 เพราะ่าที่เราก้มคอก้มก้มแเ่านอนเล่นมือ
00:31:36 → 00:31:39 ถือนะคะบนเตียงเนี่ยไหล่เราจะเกร็งมากนะ
00:31:39 → 00:31:42 คะยิ่งโดยเฉพาะถ้าเราถือมือถือไว้เนี่ยคอ
00:31:42 → 00:31:44 มันจะเกร็งเยอะส่วนใหญ่ก็จะเผลอยกไหล่
00:31:44 → 00:31:46 ด้วยนะคะเพราะฉะนั้นกล้ามเนื้อคอบ่าไหล่
00:31:46 → 00:31:49 แล้วก็สะบักเนี่ยจะค่อนข้างเกรงทำให้ปวด
00:31:49 → 00:31:52 ตึงขึ้นไปตรงถึงไททอยหรือบางคนก็คือขึ้น
00:31:52 → 00:31:54 มาขมับแล้วก็มึนได้เหมือนกันพอเปลี่ยนท่า
00:31:54 → 00:31:57 ก็ดีขึ้นนะคะเพราะฉะนั้นเ่อเลี่ยงเลี่ยง
00:31:57 → 00:32:00 ท่าที่ทำให้เป็นนะคะถ้าเกิดจะนอนเล่นมือ
00:32:00 → 00:32:03 ถืออย่างเงี้ยค่ะก็อาจจะแบบเอ่อใช้เอ่อ
00:32:03 → 00:32:06 นอนๆนั่งท่าปกติอ่ะค่ะคืออย่าก้มคอหรือ
00:32:06 → 00:32:10 ว่าเกรงเกงคอลงไปนอนนะคะก็แล้วก็อาจจะใช้
00:32:10 → 00:32:13 ตัวตัวช่วยที่แบบวางมือถือหรืออะไรที่ทำ
00:32:13 → 00:32:16 ให้หน้าศีรษะเราไม่ก้มลงต่ำมากนะคะให้
00:32:16 → 00:32:19 ระดับสายตาอยู่ในระดับหน้าจอปกติก็จะช่วย
00:32:19 → 00:32:22 ได้นะคะสมมุติว่ามีอาการขึ้นมาแล้วแล้ว
00:32:22 → 00:32:24 มันไม่หายนะคะอันนี้ก็ต้องลองดูว่าเออคอ
00:32:24 → 00:32:26 เราตึงมากหรือเปล่านี้อาจจะต้องแบบกินยา
00:32:26 → 00:32:30 คายกล้ามเนื้อหรือว่าแก้ปวดช่วยอ่าชั่ว
00:32:30 → 00:32:32 คราวถ้าไม่หายอีกก็อาจจะต้องไปกายภาพหรือ
00:32:32 → 00:32:37 อะไรแบบนี้นะคะเวียนหัวเฉพาะเวลาเดินแล้ว
00:32:37 → 00:32:40 ก็มีเดินเอียงเล็กๆค่ะถ้านั่งนอนไม่มี
00:32:40 → 00:32:44 อาการเลยนะคะอันนี้อาจจะเอ่อถ้าเป็นเวียน
00:32:44 → 00:32:48 หัวตอนเดินนะคะแล้วมีเดินเซด้วยเ่อถ้าถ้า
00:32:48 → 00:32:51 ถึงขั้นเซนะคะเซแบบเซเลยเช่นโดยเฉพาะแบบ
00:32:51 → 00:32:54 เซแบบเซไปด้านใดด้านนึงนะคะอันนี้อาจเป็น
00:32:54 → 00:32:56 อาการทางสมองได้นะคะโดยเฉพาะถ้ามีแบบพวก
00:32:56 → 00:32:59 เห็นภาพซอ้อนนะคะร่วมด้วยนะคะหรือว่าเรา
00:32:59 → 00:33:02 รู้สึกว่ามีชาหรือว่าแขนขาแรงมันไม่เท่า
00:33:02 → 00:33:05 กันนะคะแต่ถ้าเป็นตอนเวียนหัวเดินแล้วแบบ
00:33:05 → 00:33:08 เป็นแค่แบบความรู้สึกเหมือนโครงเคงโงเๆ
00:33:08 → 00:33:09 อ่ะค่ะอันนี้ก็อาจจะเป็นปัญหาที่เรื่อง
00:33:09 → 00:33:12 ของหูชั้นในได้เหมือนกันนะคะเนาะก็อาจจะ
00:33:12 → 00:33:14 ต้องลองไปตรวจดูอีกทีนึงนะคะอาจจะต้องดู
00:33:14 → 00:33:16 ด้วยว่ามีอาการอื่นๆอะไรที่ร่วมร่วมด้วย
00:33:17 → 00:33:20 หรือเปล่านะคะเวียนหัวตอนเช้าหลังตื่นนอน
00:33:20 → 00:33:23 ค่ะอันนี้ก็จะเป็นจากเอ่อส่วนใหญ่ก็จะ
00:33:23 → 00:33:27 เป็นจากตอนที่เรานอนนอนมานานๆนะคะเนาะอ่า
00:33:27 → 00:33:29 ก็ต้องต้องดูว่าเป็นเป็นเป็นตอนที่เรา
00:33:29 → 00:33:32 ตื่นแบบเราเปลี่ยนท่ามยนะคะถ้าเป็นจากตอน
00:33:32 → 00:33:34 ที่เราเปลี่ยนท่าก็จะเป็นสัมพันธ์กับท่า
00:33:34 → 00:33:37 ทางที่เบานะคะหรืออีกอันนึงที่เจอบ่อยก็
00:33:37 → 00:33:40 จะเป็นเรื่องของพวกเอ่อหูชั้นในอ่ะค่ะ
00:33:40 → 00:33:42 เพราะเวลาเรานอนมาแล้วแบบเวลาเราจะลุก
00:33:42 → 00:33:45 ตื่นนอนปึ๊บเนี่ยเราชอบแบบบางทีเรานอน
00:33:45 → 00:33:48 ตะแคงซ้ายอยู่แล้วเราก็ขยับขวาเร็วๆหรือ
00:33:48 → 00:33:50 ว่าแบบลุกขึ้นเลยอะไรอย่างเงี้ยค่ะลอง
00:33:50 → 00:33:53 สังเกตดูว่าตะแคงข้างไหนแล้วเป็นมากกว่า
00:33:53 → 00:33:55 หรือว่าแบบเอ่อสัมพันธ์กับท่าทางไม้หรือ
00:33:55 → 00:33:58 ถ้าเราลุกช้าๆแล้วยังดีเอ่อดีขึ้นหรือ
00:33:58 → 00:34:00 เปล่าอะไรเงี้ยค่ะอันนี้ก็จะเป็นเกี่ยว
00:34:00 → 00:34:02 กับพวกเอ่อเกี่ยวกับท่าทางเกี่ยวกับหูการ
00:34:02 → 00:34:06 ทำงานของหูชั้นในได้นะคะเนาะหรืออาจจะ
00:34:06 → 00:34:08 เป็นจากตัวคอก็ได้เหมือนกันนะคะบางคนแบบ
00:34:08 → 00:34:11 พอตอนกลางคืนเนี่ยนอนแล้วเกร็งเอ่อปกติ
00:34:12 → 00:34:14 เรานอนท่าเดิมเนี่ยเราก็จะเหมือนแบบเกร็ง
00:34:14 → 00:34:17 ต้นคอหรือว่าหมอนอาจจะไม่เหมาะสมเตียงยุบ
00:34:17 → 00:34:19 เกินไปหรือเปล่าอะไรเงี้ยค่ะทำให้ตื่นมา
00:34:19 → 00:34:22 ก็รู้สึกมึนๆเวียนๆได้เหมือนกันนะคะหรือ
00:34:22 → 00:34:25 ก็ต้องลองดูว่าเอ๊ะเรามีนอนกรนมั้ยนะคะ
00:34:25 → 00:34:28 ถ้าเป็นกลุ่มนอนกรนเนี่ยก็จะชอบมือมึนหัว
00:34:28 → 00:34:30 ตอนหลังตื่นนอนขึ้นมาตอนเช้าได้เหมือนกัน
00:34:30 → 00:34:33 นะคะเนาะหมอคะแล้วเซอร์เมียน 10
00:34:33 → 00:34:35 มิลลิกรัมมีผลข้างเคียงให้เวียนหัวเพิ่ม
00:34:35 → 00:34:38 หรือเปล่าคะเอ่อจริงๆเนี่ยเซอร์เมียนน่ะ
00:34:38 → 00:34:40 ค่ะหรือในเซอร์โรนะคะก็จะเป็นยาในกลุ่ม
00:34:40 → 00:34:43 ที่ใช้รักษาเวียนหัวเรื้อรังได้นะคะเพราะ
00:34:43 → 00:34:45 ฉะนั้นโดยตัวยาเองไม่น่าจะทำให้เวียนหัว
00:34:45 → 00:34:48 เพิ่มมากขึ้นนะคะเนาะแต่ถ้าเกิดรู้สึกว่า
00:34:48 → 00:34:50 กินยาไปแล้วแล้วเราเวียนหัวมากขึ้นแสดง
00:34:50 → 00:34:52 ว่าเราอาจจะไม่ได้เป็นกลุ่มเวียนหัวที่
00:34:52 → 00:34:54 เราต้องใช้ยากลุ่มเนี้ยค่ะนะคะก็อาจจะ
00:34:54 → 00:34:57 เป็นผลข้างเคียงจากยาก็ได้นะคะแต่จริงๆ
00:34:57 → 00:34:59 โดยตัวยาเคอ่ะเป็นตัวยารักษาเรื่องของ
00:34:59 → 00:35:01 อาการหมืนเวียนนะคะทีนี้ถ้าเกิดเรากิน
00:35:01 → 00:35:04 แล้วมันไม่ดีขึ้นแสดงว่าเราอาจจะเป็นจาก
00:35:04 → 00:35:06 สาเหตุอื่นๆเนาะเช่นอ่าสมมุติกลุ่มกล้าม
00:35:06 → 00:35:08 เนื้อคอตึงอ่ะค่ะสมมุติว่าคนไข้เป็นออฟฟิ
00:35:08 → 00:35:10 Syndrome แล้วมึนหัวเวียนหัวไปกินไปทาน
00:35:10 → 00:35:13 เซอร์เมียนอาจจะไม่ได้ช่วยเท่าไหร่ก็คือ
00:35:13 → 00:35:15 ต้องไปแก้ที่กล้ามเนื้อต้นคอนะคะเนาะหรือ
00:35:15 → 00:35:17 คนไข้ไมเกรนเองเหมือนกันสมมุติว่าเป็น
00:35:17 → 00:35:20 ไมเกรนเวียนหัวอย่างเงี้ยค่ะตัวในเซกิก็
00:35:20 → 00:35:22 อาจจะไม่ได้ช่วยมากแต่ว่าต้องไปแก้ที่เ่อ
00:35:22 → 00:35:25 ตัวไมเกรนหรือว่าใช้ยาในการกลุ่มที่เป็น
00:35:25 → 00:35:28 การกลุ่มป้องกันไมเกรนไปด้วยนะคะ
00:35:28 → 00:35:32 เนาะเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะเวียนหัว
00:35:32 → 00:35:36 บ่อยๆคุณหมอจ่ายิทินกินได้ยคะเอ่อจริงๆ
00:35:36 → 00:35:40 อินก็อาจจะมีรายงานว่าอาจจะทำให้หัวใจ
00:35:40 → 00:35:43 เต้นผิดจังหวะได้เล็กน้อยนะคะเนาะแต่เจอ
00:35:43 → 00:35:45 เจอได้น้อยนะคะไม่ได้เป็นสไม่ได้เป็นหัว
00:35:45 → 00:35:47 ข้างเคียงที่เจอบ่อยนะคะทีนี้ถ้าเกิด
00:35:47 → 00:35:50 สมมุติว่าเอ่อเรามีโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ
00:35:50 → 00:35:52 อยู่แล้วอันนี้อาจจะต้องละมันระวังเรื่อง
00:35:52 → 00:35:54 ของการใช้ยาเพิ่มมากขึ้นนะคะแล้วก็ตัว
00:35:54 → 00:35:57 อิทิทรินเองอาจจะไม่ได้แก้เวียนหัวมากนัก
00:35:57 → 00:35:59 นะนะคะอิทิทีนเนี่ยจะเป็นยาในกลุ่มพวก
00:35:59 → 00:36:03 รักษาปลายประสาทแก้ไมเกรนนะคะเรื่องของ
00:36:03 → 00:36:05 กล้ามเนื้อตึงคลายเครียดมากกว่านะคะอาจจะ
00:36:06 → 00:36:08 ไม่ได้ช่วยเรื่องเวียนหัวมากนะคะก็อาจจะ
00:36:08 → 00:36:10 ต้องลองปรึกษาคุณหมาหัวใจก่อนทันยานะคะ
00:36:10 → 00:36:14 เนาะว่าเราสามารถใช้ยากลุ่มนี้ได้ไหมนะคะ
00:36:14 → 00:36:17 เนาะลูกชายอายุ 9 ขวบเวียนหัวเขาบอกว่า
00:36:17 → 00:36:20 เวียนเหมือนปั่นจิ้งหลีดค่ะเป็นอยู่
00:36:20 → 00:36:25 ประมาณ 2-3 วันเป็นเพราะอะไรคะเอ่อต้องดู
00:36:25 → 00:36:28 ว่าตอนที่น้องเค้าเป็นเนี่ยเคเล่นเยอะมย
00:36:28 → 00:36:32 นะคะสมมุติว่าเด็ก 9 ขวบผู้ชายเล่นผาดผน
00:36:32 → 00:36:36 หมุนตัวหมุนๆๆเร็วๆหรือว่ากระโดดไปมาก็
00:36:36 → 00:36:40 อาจจะมีปัญหาเรื่องรู้สึกเหมือนเวียนๆหัว
00:36:40 → 00:36:43 ได้นะคะแต่ถ้าเกิดไม่ได้สัมพันธ์กับการ
00:36:43 → 00:36:46 เล่นหรือว่าท่าทางนะคะการกระโดดอะไรอย่าง
00:36:46 → 00:36:49 เงี้ยค่ะแล้วก็เอ่อมีมีอาการอื่นๆร่วม
00:36:49 → 00:36:52 ด้วยเช่นมีหูอื้อนะคะมีปวดหัวนะคะอนี้อาจ
00:36:52 → 00:36:54 จะต้องไปตรวจอีกทีนึงเพราะว่าสาเหตุใน
00:36:54 → 00:36:57 เด็กจะต่างจากสาเหตุในผู้ใหญ่นะคะเนาะที่
00:36:57 → 00:37:00 หมอพูดมาเรื่องของสาเหตุต่างๆที่เราอาจจะ
00:37:00 → 00:37:02 มองข้ามไปเนี่ยส่วนใหญ่จะเป็นสาเหตุที่
00:37:02 → 00:37:06 เจอในผู้ใหญ่มากกว่านะคะทธายาไทรอยด์ทำ
00:37:06 → 00:37:08 ให้มีอาการเวียนหัวเป็นไปได้ไหคะเอ่อจริง
00:37:08 → 00:37:11 ๆไม่ว่าจะเป็นไทรรอยด์ต่ำไทรรอยด์สูงนะคะ
00:37:11 → 00:37:13 ก็อาจจะทำให้คนไข้มีอาการมึนหัวได้เวียน
00:37:13 → 00:37:16 ศีรษะได้นะคะทีนี้ทานยาไทรรอยด์เนี่ยจริง
00:37:16 → 00:37:19 ๆตัวยาไม่ได้ทำให้เวียนนะคะอ่าแต่ถ้าเกิด
00:37:19 → 00:37:21 สมมุติว่าเราทานยาอยู่เช่นเราเป็นกลุ่ม
00:37:21 → 00:37:25 เอ่อไทรรอยด์สูงนะคะแล้วเรากินยาแล้ว
00:37:25 → 00:37:28 ไทรรอยด์ต่ำมากเกินไปนะะนะคะก็อาจจะทำให้
00:37:28 → 00:37:30 เรามีอาการมินศีรษะหรือว่าเวียนศีรษะได้
00:37:30 → 00:37:33 เพราะฉะนั้นถ้าเกิดทายาอยู่แล้วมีปัญหา
00:37:33 → 00:37:36 อาจจะต้องไปเจาะดูระดับเลือดไทรอยด์ก่อน
00:37:36 → 00:37:39 นะคะว่าตอนนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติดีมสูงไป
00:37:39 → 00:37:42 หรือว่าต่ำไปแล้วหรือเปล่าค่ะเป็นอัมพฤต
00:37:42 → 00:37:46 ด้านขวามือและเท้าอ่อนแรงช่วยเหลือตัวเอง
00:37:46 → 00:37:50 ได้ประมาณ 70% แต่ปวดหลังปวดต้นคอมากทำ
00:37:50 → 00:37:53 ยังไงได้บ้างครับ
00:37:53 → 00:37:58 เอ่อก็เอ่อจริงๆก็คือพอพอเรามีแะแขนขา
00:37:58 → 00:38:02 อ่อนแรงอ่ะค่ะสมมุติว่าตอนนี้เอ่อแรงมี
00:38:02 → 00:38:05 ประมาณ 70% เนี่ยส่วนใหญ่แล้วก็จะทำให้
00:38:05 → 00:38:08 เราอ่ะใช้งานของข้างที่มันยังปกติมากกว่า
00:38:08 → 00:38:11 ปกติออนะคะหมายถึงว่าสมมุติว่าอ่าข้าง
00:38:11 → 00:38:13 ข้างซ้ายอ่อนแรงอ่าสมมุติข้างขวาอ่อนแรง
00:38:13 → 00:38:16 ข้างซ้ายดีเนี่ยบางทีเราก็จะใช้งานข้าง
00:38:16 → 00:38:18 ซ้ายมากนะคะก็ทำให้กล้ามเนื้อบางมัดเนี่ย
00:38:18 → 00:38:21 มีอาการตึงเกร็งมากกว่าปกติได้นะคะส่วน
00:38:21 → 00:38:24 ใหญ่ก็ต้องพยายามเนาะยืดกล้ามเนื้อด้วย
00:38:24 → 00:38:29 ตัวเองนะคะออกกำลังกายนะคะแล้วก็อาจจะถ้า
00:38:29 → 00:38:32 มีอาการปวดมากอาจจะต้องมีแบบให้ไปกายภาพ
00:38:32 → 00:38:40 นะคะหรือว่าทานยาแก้ปวดเป็นค้างาวไปนะ
00:38:40 → 00:38:46 คะการปวดหัวขอน้ำหน่อยได้มั้ยคะการปวดหัว
00:38:46 → 00:38:49 จากกล้ามเนื้อตึงตัวมีตัวกระตุ้นเป็นแสง
00:38:49 → 00:38:53 ได้ไคะขอโทษค่ะ
00:38:53 → 00:38:57 เอ่อกล้ามเนื้อตึงตัวถ้าตัวกระตุ้นเป็น
00:38:57 → 00:39:00 เป็นแสงนะคะรู้สึกว่าเราสู้แสงไม่ได้เรา
00:39:00 → 00:39:03 มีกล้ามเนื้อเก่งๆแล้วมีปวดหัวด้วยระวัง
00:39:03 → 00:39:05 ว่าอาจจะมีไมเกรนร่วมด้วยก็ได้นะคะลอง
00:39:05 → 00:39:07 สังเกตดูว่าเราแบบเป็นปวดหัวที่แบบเป็น
00:39:07 → 00:39:10 ปวดหัวข้างเดียวหรือเปล่าหรือว่ามีความไว
00:39:10 → 00:39:13 แสงมากๆนะคะแล้วก็
00:39:13 → 00:39:17 เอ่อหรือว่าแบบเอ่อมีไวต่อกลิ่นหรือว่าไว
00:39:17 → 00:39:20 ต่อเสียงดังอย่างอื่นร่วมด้วยอันเนี้ยก็
00:39:20 → 00:39:24 จะทำให้สงสัยไมเกรนเพิ่มมากขึ้นนะคะหรือ
00:39:24 → 00:39:26 จริงๆอาจจะไม่มีไมเกรนก็ได้ก็คือเป็น
00:39:26 → 00:39:27 กล้ามเนื้อตึงเลยตึงอย่าอย่างเดียวเลยนะ
00:39:27 → 00:39:30 คะแล้วก็เป็นกลุ่มปวดหัวแบบกลุ่ม tension
00:39:30 → 00:39:33 ท้ากคือกลุ่มที่มีกล้ามเนื้อเอ่อรอบๆสี
00:39:33 → 00:39:37 สระตึงมากๆด้วยนะคะกลุ่มเนี้ยก็จะรู้สึก
00:39:37 → 00:39:40 ว่าวยแสงได้เหมือนกันนะคะแบบดูแสงจ้ามาก
00:39:40 → 00:39:41 ไม่ค่อยได้นะคะขอบคุณ
00:39:41 → 00:39:44 [เพลง]
00:39:44 → 00:39:49 ค่ะ
00:39:49 → 00:39:56 ก็ขออภัยค่ะพูดเยอะไอเลยนะ
00:39:56 → 00:39:58 คะ
00:39:58 → 00:40:03 ถ้ามีอาการเดี๋ยวนะคะคอมเมนต์หายอ่าถึง
00:40:03 → 00:40:04 อันไหน
00:40:04 → 00:40:06 นะ
00:40:06 → 00:40:12 อุ๊ย
00:40:12 → 00:40:15 โอเคสุภาดี
00:40:15 → 00:40:19 โอเคอุ๊ยวันนี้แบบคนเข้ามาถามเยอะดีใจมาก
00:40:19 → 00:40:22 เลยค่ะเหมือนได้ได้มีโอกาสตอบคำถามทาง
00:40:22 → 00:40:25 บ้านด้วยเพราะว่าบางทีแบบเ่อหมอไม่ได้มี
00:40:25 → 00:40:28 เวลาไปตอบคอมเมนต์นะคะพยายามจะแบบรวมอ่อ
00:40:28 → 00:40:30 คำถามที่เจอบ่อยๆหรือว่าสาเหตุที่เจอบ่อย
00:40:30 → 00:40:33 ๆมามาคุยกันเนาะนะคะวันนี้ก็มีคนถามเข้า
00:40:33 → 00:40:36 มาเยอะคิดว่าน่าจะแบบมีอาการที่แบบไปตรง
00:40:36 → 00:40:40 กับใครหลายคนก็น่าจะช่วยตอบได้นะคะถ้ามี
00:40:40 → 00:40:43 อาการบ้านหมุนเวลาหลับตาแต่ต่อมาอาการหาย
00:40:43 → 00:40:47 แล้วเราสามารถไปตรวจตอนไม่มีอาการได้ยคะ
00:40:47 → 00:40:50 จริงๆก็คือถ้าเป็นบ่อยมากๆนะคะเอ่ออาการ
00:40:50 → 00:40:52 บ้านหมุ่นเป็นบ่อยมากๆส่วนใหญ่เนี่ยเราก็
00:40:52 → 00:40:54 ไปตรวจตอนไม่มีอาการได้นะคะแต่ไปตรวจ
00:40:54 → 00:40:57 เนี่ยก็มักจะปกติเนาะคือหลักหลักคือเราไป
00:40:58 → 00:41:00 ตรวจเพื่อเราแยกโรกที่สำคัญออกไปก่อนมาก
00:41:00 → 00:41:03 กว่านะคะเช่นแบบมีเส้นเลือดตีบมั้ยนะคะ
00:41:03 → 00:41:06 แล้วก็อาจจะต้องไปเจาะเลือดนะคะดูว่าเรา
00:41:06 → 00:41:08 มีภาวะอะไรที่มันแก้ไขเรื่องของที่ทำให้
00:41:08 → 00:41:10 เราเวียนหัวไม่หายได้หรือเปล่าเรื่องซีด
00:41:10 → 00:41:12 เรื่องไทรรอยด์เรื่่องเบาหวานอะไรพวก
00:41:12 → 00:41:14 เนี้ยมากกว่านะคะเนาะแต่ถ้าเกิดตรวจทุก
00:41:14 → 00:41:18 อย่างมาแล้วปกติอ่ะก็จะวนกลับไปสาเหตุ
00:41:18 → 00:41:21 อื่นๆที่ที่หมอบอกมาว่าเจอบ่อยแล้วแบบ
00:41:21 → 00:41:23 ตรวจ MRI ตรวจเลือดมันปกติอ่ะค่ะเราก็มา
00:41:23 → 00:41:25 ดูว่าเราเข้ากับอันไหนมากหรือมากมากกว่า
00:41:25 → 00:41:28 กันหรือเปล่านะคะ
00:41:28 → 00:41:31 โลกตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุดทำให้เวียน
00:41:31 → 00:41:34 หัวแล้วใช้เวลาในการรักษานานยคะและมีแนว
00:41:34 → 00:41:37 ทางปฏิบัติตัวอย่างไรคะจริงๆถ้าเกิดเป็น
00:41:37 → 00:41:41 โรคตะกอนในเอ่อหินปูนในหูชะนหลุดนะคะหรือ
00:41:41 → 00:41:45 ว่าที่เราเรียกว่า B ppv เนาะก็คือ b9
00:41:45 → 00:41:47 parim positional vertical คือแปลตรง
00:41:47 → 00:41:50 ตัวก็คือเป็นเวียนหัวที่สัมพันธ์กับท่า
00:41:50 → 00:41:54 ทางที่เกิดจากเอ่อเป็นครั้งเป็นคราวไปนะ
00:41:54 → 00:41:57 คะจริงถามว่ารักษานานมยคือถ้าเป็นเป็น
00:41:57 → 00:42:00 bppv จริงๆอ่ะค่ะแล้วแบบไปตรวจเลยนะจะ
00:42:00 → 00:42:02 หลายคนจะไปตรวจเวียนหัวเนี่ยแล้วจะเคยเจอ
00:42:03 → 00:42:06 คุณหมออ่ะค่ะจับพลิกศีรษะจับตะแคงดูว่า
00:42:06 → 00:42:08 เรามีแบบตากระตุกหรือเปล่านะคะถ้าเกิด
00:42:08 → 00:42:11 สมมุติว่าเป็นจากหินปูนชั้นในหลุดจริงๆนะ
00:42:11 → 00:42:14 คะเราจะตรวจเจอเทสทำเทสแล้วตรวจเจอแล้ว
00:42:14 → 00:42:18 เราใช้การแบบเ่อพลิกกับของศีรษะนะคะบางที
00:42:18 → 00:42:22 นะบางคนน่ะค่ะพลิกปุ๊บนะคะอาจจะเวียนเยอะ
00:42:22 → 00:42:24 หน่อยช่วงที่จังหวะที่เราทำแต่พอแบบวัน
00:42:24 → 00:42:26 รุ่งขึ้นอะไรอย่างเงี้ยก็เริ่มดีขึ้นเลย
00:42:26 → 00:42:29 นะคะแต่ปัญหาคือคือรักษาแต่ละครั้งอไม่
00:42:29 → 00:42:31 ได้นานมากแต่ปัญหาคือมันมีโอกาสกลับมา
00:42:31 → 00:42:34 เป็นซ้ำได้นะคะโดยเฉพาะถ้าเราแบบมีตัว
00:42:34 → 00:42:37 กระตุ้นแบบบ่อยๆเช่นเราลุกเป็นคนทำอะไร
00:42:37 → 00:42:39 เร็วๆเปลี่ยนท่าทางเร็วๆขยับศีรษะบ่อยๆ
00:42:40 → 00:42:42 เร็วๆหรือว่าเราแบบขาดน้ำบ่อยๆอะไรอย่าง
00:42:42 → 00:42:44 เงี้ยค่ะนอนไม่พอพวกนี้ก็จะกระตุ้นพวก
00:42:44 → 00:42:47 อาการพวกนี้ให้มันกลับมาเป็นซ้ำได้นะคะ
00:42:47 → 00:42:50 เนาะหรือบางคนที่เป็นกลุ่มที่เป็นเรือรัง
00:42:50 → 00:42:52 หน่อยก็อาจจะต้องทานยานานมากขึ้นในยาที่
00:42:52 → 00:42:55 เป็นยากลุ่มเกี่ยวกับปรับการทรงตัวนะคะ
00:42:55 → 00:42:57 บางคนแบบหลายคนแบบรู้สึกเอ้ยทานยาไป
00:42:57 → 00:43:00 อาทิตย์ 2 อาทิตย์ไม่ดีขึ้นอก็เลยเลิกทาน
00:43:00 → 00:43:02 ไปแต่จริงๆในในกลุ่มพวกที่เป็นโรคของหู
00:43:02 → 00:43:05 ชั้นในนะคะบางคนต้องทานยาเป็นเดือนๆก็มี
00:43:05 → 00:43:07 นะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าเกิดเราตรวจแล้ว
00:43:07 → 00:43:10 รักษาแล้วเข้ากับการวินิจฉัยได้ก็พยายาม
00:43:10 → 00:43:13 รักษาไปก่อนนะคะอย่าเพิ่งแบบคือเวียนหัว
00:43:13 → 00:43:15 เป็นอะไรที่ค่อนข้างเรื้อรังแล้วก็เป็น
00:43:15 → 00:43:17 กลับมาเป็นซ้ำได้อย่าเพิ่งรีบหยุดรักษาไป
00:43:18 → 00:43:22 นะคะปวดศีรษะข้างขวาปวดออกกระบอกตาเวียน
00:43:22 → 00:43:26 หัวใช่อาการจากไมเกรนยคะเอ่อมีโอกาสเป็น
00:43:26 → 00:43:28 ไปได้ได้นะคะเพราะว่าคนไข้ส่วนใหญ่ถ้าแบบ
00:43:29 → 00:43:32 เป็นปวดหัวมาพร้อมเวียนหัวนะคะเช่นเอ่อ
00:43:32 → 00:43:35 ปวดหัวไม่กี่นาทีหรือว่าเป็นชั่วโมงแล้ว
00:43:35 → 00:43:37 ก็มีเวียนหัวมาพร้อมๆกับปวดหัวนะคะส่วน
00:43:37 → 00:43:40 ใหญ่อันเนี้ยก็จะเป็นอาการร่วมในไมเกรน
00:43:40 → 00:43:43 ได้นะคะก็ลองสังเกตอาการดูนะคะว่าเวียน
00:43:43 → 00:43:46 หัวของเราอ่ะมาพร้อมปวดหัวบ่อยๆมนะคะแล้ว
00:43:46 → 00:43:48 เรามีลักษณะของไมเกรนอื่นๆหรือเปล่าเช่น
00:43:48 → 00:43:52 เรื่องของแพ้แสงไม่ชอบเสียงดังแพรกลิ่น
00:43:52 → 00:43:55 หรือว่าโดนอ่าอดนอนนอนดึกเครียดแล้วก็
00:43:55 → 00:43:58 เป็นมากขึ้นนะคะก็จะมีลักษณะที่แบบสงสัย
00:43:58 → 00:44:02 เป็นไมเกรนมากขึ้นนะคะ
00:44:02 → 00:44:06 เนาะนอนน้อยความดันเลือดต่ำเวียนศีรษะ
00:44:06 → 00:44:09 บ้านหมุนสามารถรักษาได้หรือไม่คะก็ต้อง
00:44:09 → 00:44:12 แก้ที่เหตุก่อนนะคะก็คืออ่ะพยายามนอนให้
00:44:12 → 00:44:15 มากขึ้นนะคะความดันเลือดต่ำนะคะอันเนี้ย
00:44:15 → 00:44:18 ผู้หญิงไทยส่วนใหญ่ความดันต่ำกันเยอะเนาะ
00:44:18 → 00:44:20 เพราะฉะนั้นเนี่ยเราไม่ได้มียาที่ต้องไป
00:44:20 → 00:44:23 เพิ่มแบบความดันนะคะเอ่อเราพยายามดื่มน้ำ
00:44:23 → 00:44:26 เยอะๆให้เลือดไหลเวียนให้ดีก็พอนะคะเนาะ
00:44:26 → 00:44:29 แล้วก็ก็เอ่อถ้าเกิดเรารู้ตัวว่าเป็นคน
00:44:29 → 00:44:31 ความดันต่ำมากๆต้องระมัดระวังมากๆเรื่อง
00:44:31 → 00:44:35 ของการลุกเปลี่ยนท่าทางนะคะต้องค่อยๆช้าๆ
00:44:35 → 00:44:37 นะคะถ้าเราแบบนอนๆอยู่แล้วลุกพรวดปุ๊บ
00:44:37 → 00:44:40 ส่วนใหญ่เวียนหัวเลยค่ะเนาะแล้วก็ยิ่งถ้า
00:44:40 → 00:44:42 เป็นช่วงแบบมีประจำเดือนหรือว่าช่วงที่
00:44:42 → 00:44:46 เราแบบเอ่อมีเแบบสูญเสียเลือดหรือน้ำแบบ
00:44:46 → 00:44:48 อาเจียนท้องเสียอะไรอย่างเงี้ยก็ยิ่งต้อง
00:44:48 → 00:44:50 กินน้ำเพิ่มเข้าไปมากขึ้นนะคะทีนี้ถ้า
00:44:50 → 00:44:53 เกิดมันเป็นความดันต่ำที่เป็นต่ำแบบต่ำ
00:44:53 → 00:44:56 ขณะท่ายืนอย่างเดียวอ่ะค่ะที่เป็นสาเหตุ
00:44:56 → 00:44:58 แรกก็คือคือเรื่องของ aut static
00:44:58 → 00:44:59 hypertension หรือว่า postural
00:44:59 → 00:45:01 hypertension เนี่ยถ้าคนที่แบบลุกปุ๊บ
00:45:01 → 00:45:03 แล้วมีอาการลุกปุ๊บแล้วมีอาการแล้วความ
00:45:03 → 00:45:06 ดันมันต่ำมากๆจริงๆมันก็มียารักษานะคะใน
00:45:06 → 00:45:09 กลุ่มที่เหมือนเพิ่มแรงดันให้เ่อแรงดัน
00:45:09 → 00:45:12 เลือดมันแบบปกติมากขึ้นนะคะแต่ว่าเนี่ย
00:45:12 → 00:45:14 ต้องไปแบบตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดก่อน
00:45:14 → 00:45:16 คือตรวจคอนเฟิร์มยืนยันภาวะนี้ก่อนนะคะ
00:45:16 → 00:45:19 แล้วก็ต้องมีอาการแบบสัมพันธ์กับตอนที่
00:45:19 → 00:45:21 แบบเอ่อความดำมันต่ำตกทุกรอบจริงๆเราถึง
00:45:21 → 00:45:24 จะค่อยคค่อยให้ยาคนไข้นะคะเพราะยามันจะ
00:45:24 → 00:45:28 เป็นคนยาค่อนข้างจำเพาะนะคะเนาะ
00:45:28 → 00:45:30 เวลานอนตะแคงทรายเราชอบเวียนหัวข้างควา
00:45:30 → 00:45:33 ไม่มีอาการครับเอ่อถ้าเกิดนอนตะแคงทราย
00:45:33 → 00:45:35 แล้วเวียนน่ะค่ะแล้วก็สังเกตว่าเออเวียน
00:45:35 → 00:45:37 ซ้ายเวียนซ้ายตลอดอันเนี้ยอาจจะเป็นอาการ
00:45:37 → 00:45:41 ของพวกในหูชั้นในที่มีปัญหานะคะเนาะส่วน
00:45:41 → 00:45:44 ใหญ่นะคะเราจะให้เลี่ยงนะคะก็คือแบบอาจจะ
00:45:44 → 00:45:47 ลองแบบพยายามนอนตะแคงขวาไว้นะคะอ่อพยายาม
00:45:47 → 00:45:49 ให้แบบหรือว่าอย่างแบบตอนกลางคืนเรานอน
00:45:49 → 00:45:51 เราอาจจะไม่รู้ตัวอย่างเงี้ยแต่ว่าตอนลืม
00:45:51 → 00:45:53 ตาขึ้นมาอาจจะให้ลุกลุกจากข้างที่เราไม่
00:45:53 → 00:45:56 มีอาการนะคะแล้วก็ลุกชาๆนะคะก็ช่วยลด
00:45:56 → 00:46:00 อาการได้เหมือนกันนะคะบ้านหมุนเป็นสาเหตุ
00:46:00 → 00:46:02 อื่นได้อีกมคะนอกจากหินปูชหินปูนชั้นใน
00:46:02 → 00:46:05 หลุดเป็นเวียนหัวบ้านหมุนมา 5 เดือนแล้ว
00:46:05 → 00:46:07 ค่ะตอนนี้ยังไม่หายไปตรวจการทำงานของหู
00:46:07 → 00:46:10 ชั้นในมาแล้วปกติดีค่ะคือถ้าเป็นแบบแนว
00:46:10 → 00:46:14 บ้านหมุนเลยนะคะแล้วก็แบบเอ่อคือคืออ่า
00:46:14 → 00:46:16 สาเหตุมันก็เยอะนะคะนอกจากหินปูนชั้นใน
00:46:16 → 00:46:19 หลุดก็มีโรคเ่อมีเนียหรือว่าโรคแบบอ่ะคน
00:46:19 → 00:46:21 ที่เขาบอกกันน้ำในหูไม่เท่ากันนะคะหรือ
00:46:21 → 00:46:24 เป็นพวกเส้นประสาทหูเสื่อมนะคะหรือเป็น
00:46:25 → 00:46:28 ไมเกรนก็ยังได้นะคะเนาะหรือเป็นพวกกลุ่ม
00:46:28 → 00:46:31 กล้ามเนื้อคอบ่าไหลตึงก็ได้นะคะอันเนี้ย
00:46:31 → 00:46:33 เป็นได้หลายอย่างเลยหรืออีกอันนึงเลยนะคะ
00:46:33 → 00:46:35 ที่ช่วงนี้ก็เจอเยอะก็คือเรื่องของความ
00:46:35 → 00:46:38 เครียดเนี่ยแหละค่ะความเครียดวิตกกังวลนะ
00:46:38 → 00:46:41 คะที่เป็นมากๆจนบางทีเราแบบมีอาการเหมือน
00:46:41 → 00:46:43 เป็นแพนิคเล็กๆอ่ะค่ะแพนิคคือเรารู้สึก
00:46:43 → 00:46:45 แบบสมุติเรามีอาการเครียดมากๆขึ้นมาแล้ว
00:46:45 → 00:46:47 เรารู้สึกว่าชีพพจอมันเต้นเร็วหัวใจมัน
00:46:47 → 00:46:49 เต้นเร็วมากอ่ะค่ะแล้วก็รู้สึกเหมือนมัน
00:46:49 → 00:46:52 จะวูบเหมือนจะหวิวนะคะอันเนี้ยคนไข้ก็จะ
00:46:52 → 00:46:54 มาด้วยเหมือนแบบเอ้ยเวียนหัวเช่นขับๆรถ
00:46:54 → 00:46:56 อยู่แล้วรู้สึกกลัวขึ้นมาแล้วก็รู้สึก
00:46:56 → 00:46:58 เวียนหัวขึ้นมาเลยนะคะเนาะช่วงนี้ก็เจอ
00:46:58 → 00:47:01 บ่อยนะคะคือพอซักประวัติไปจริงๆแล้วแบบ
00:47:01 → 00:47:03 เอออาการมันเป็นแบบกลุ่มอาการแพนิคนะคะพอ
00:47:03 → 00:47:06 ให้ยาแพนิคอ่ะเวียนหัวหายโดยที่ไม่ต้อง
00:47:06 → 00:47:08 ให้ยาแก้วเวียนหัวเลยก็มีนะคะเนาะฉะนั้น
00:47:08 → 00:47:11 ลองลองสังเกตอาการตัวเองดูนะคะว่าที่เรา
00:47:11 → 00:47:13 เวียนหัวเราสัมพันธ์กับท่าทางมยมีอาการ
00:47:13 → 00:47:16 ปวดหัวร่วมด้วยหรือเปล่าคอบ่าไหล่เราตึง
00:47:16 → 00:47:20 มยนะคะเรามีความเครียดร่วมด้วยมยนะคะถ้า
00:47:20 → 00:47:22 เกิดเป็นอาการของหูชั้นในนะคะอื่นๆก็มัก
00:47:23 → 00:47:26 จะมีอาการของหูร่วมด้วยเนาะเช่นหูอื้อได้
00:47:26 → 00:47:28 ยินเสียงวิ่งวิงๆเหมือนเสียงจิ้งหรีดในหู
00:47:28 → 00:47:31 อันนี้ก็จะสงสัยอาการของหูชั้นนายนะคะ
00:47:31 → 00:47:34 เนาะแล้วก็ต้องแก้แบบที่เอ่อเหมือนหมอ
00:47:34 → 00:47:37 แจ้งไปนะคะคือต้องพยายามนอนให้พอดื่มน้ำ
00:47:37 → 00:47:41 ให้พองดอาหารเค็มเปลี่ยนท่าทางช้าๆนะคะอย
00:47:41 → 00:47:44 ให้กล้ามเนื้ออะไรมันตึงมากนะคะก็จะช่วย
00:47:44 → 00:47:46 ได้นะคะสุดท้ายถ้าทำทุกอย่างหรือว่าเรา
00:47:46 → 00:47:48 รู้สึกว่าอาการไม่ได้เข้ากับอะไรเลยก็คือ
00:47:48 → 00:47:50 เป็นกลุ่มเวียนหัวบ้านหมุนเรือลังนะคะอัน
00:47:50 → 00:47:53 นี้อาจจะต้องรักษานานหน่อยนะนะคะบางคนแบบ
00:47:53 → 00:47:56 กินยาไปเป็นแบบครึ่งปีปีนึงก็มีเหมือนกัน
00:47:56 → 00:47:59 ค่ะค่ะอย่าเพิ่งรีบหยุดรักษาไปนะ
00:47:59 → 00:48:04 คะโอเคค่ะควเอ่อคำถามน่าจะหมดแล้วนะคะ
00:48:04 → 00:48:07 เนาะไม่เป็นไรอ่าถ้าเกิดใครมีคำถามตอหลัง
00:48:07 → 00:48:11 จากจากนี้นะคะก็ก็อ่าพิมพ์ไว้ได้นะคะเนาะ
00:48:11 → 00:48:14 หมอก็จะพยายามเอ่อมาตอบคำถามให้แล้วก็มา
00:48:14 → 00:48:17 รวบรวมนะคะอย่างเงี้ยเอามาเป็นเอาเป็นมา
00:48:17 → 00:48:19 เอามาเป็น 1 ไลฟ์เรามาคุยกันอะไรประมาณ
00:48:19 → 00:48:22 นี้นะคะเนาะสำหรับวันนี้นะคะก็คิดว่าคงจะ
00:48:22 → 00:48:25 เป็นประโยชน์กับคนที่มีอาการเวียนหัวแล้ว
00:48:25 → 00:48:27 รู้สึกแบบมันไม่หายสักทีแล้วรู้สึกว่าแบบ
00:48:27 → 00:48:29 เอ้ยเราไม่รู้แบบเราเป็นอะไรกันแน่อ่ะค่ะ
00:48:29 → 00:48:32 เพราะว่าส่วนใหญ่ไปตรวจมามันก็ปกตินะคะ
00:48:32 → 00:48:35 เนาะก็ลองดูนะคะว่าอาการเราอ่ะน่าจะเข้า
00:48:35 → 00:48:36 ได้กับกลุ่มไหนแล้วอาจจะไปตรวจเพิ่มเติม
00:48:36 → 00:48:39 หรือว่าไปรักษาเพิ่มเติมต่อนะคะก็วันนี้
00:48:39 → 00:48:46 ขอจบไลฟ์ไปเท่านี้ก่อนนะคะสวัสดี
00:48:46 → 00:48:49 ค่ะ