00:00:00 → 00:00:01 ช่วง
00:00:01 → 00:00:06 เทศกาลกินเจปี 2564 ตรงกับวันที่ 6 ถึง 14
00:00:06 → 00:00:09 ตุลาคมซึ่งเป็นช่วงเวลาประมาณ 10 วันใน
00:00:09 → 00:00:11 การละเว้นเนื้อสัตว์ตามความเชื่อของชาว
00:00:11 → 00:00:14 ไทยเชื้อสายจีนที่ถือปฏิบัติกันมาอย่าง
00:00:14 → 00:00:18 ยาวนานเพื่อสร้างบุญกุศลแต่ในแง่ของการงด
00:00:18 → 00:00:20 เนื้อสัตว์เพื่อสุขภาพไม่ได้มีเพียงแค่
00:00:20 → 00:00:23 การกินเจเท่านั้นแต่ยังมี V แก้มซึ่งมี
00:00:23 → 00:00:26 รูปแบบการกินที่คล้ายกันมากต่างกันที่
00:00:26 → 00:00:29 ความเชื่ออาหารที่กินรวมถึงแนวทางปฏิบัติ
00:00:29 → 00:00:32 การกินเจประเพณีดั้งเดิมของจีนมีขึ้น
00:00:32 → 00:00:35 ระหว่างวันขึ้น 1 ค่ำถึงวันขึ้น 9 ค่ำตาม
00:00:35 → 00:00:38 ปฏิทินจีนของทุกปีเป็นแนวคิดที่มีเรื่อง
00:00:38 → 00:00:41 ศาสนาความเชื่อเข้ามาเกี่ยวข้องจุด
00:00:41 → 00:00:42 ประสงค์หลักเพื่อละเว้นการเบียดเบียน
00:00:42 → 00:00:46 สัตว์คือศีลทำบุญโดยการกินเจห้ามกินเนื้อ
00:00:46 → 00:00:49 สัตว์ผลิตภัณฑ์จากสัตว์และผักกลิ่นฉุนได้
00:00:49 → 00:00:53 แก่กระเทียมหัวหอมต้นหอมหลักเกียวกุยช่าย
00:00:53 → 00:00:56 และใบยาสูบรวมถึงการงดดื่มเครื่องดื่ม
00:00:56 → 00:01:00 แอลกอฮอล์ขณะที่วีแกนเป็นเทรนด์การสิ่ง
00:01:00 → 00:01:02 ที่กำลังมาแรงในยุคปัจจุบันเนื่องจากผู้
00:01:02 → 00:01:05 คนหันมาสนใจดูแลสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมาก
00:01:05 → 00:01:08 ขึ้นโดยเน้นการใช้ชีวิตที่ไม่เบียดเบียน
00:01:08 → 00:01:10 สัตว์ทุกรูปแบบไม่กินเนื้อสัตว์และ
00:01:10 → 00:01:13 ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากสารทุกชนิดรวมถึงน้ำ
00:01:13 → 00:01:17 ผึ้งยีสต์หรืออาหารในกลุ่มเจราตินเพราะทำ
00:01:17 → 00:01:19 มาจากขายของกระดูกสัตว์ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์
00:01:19 → 00:01:24 จากสารทั้งทางตรงและทางอ้อมทั้งสองแนวคิด
00:01:24 → 00:01:26 สิ่งที่เหมือนกันก็คือการงดเว้นเนื้อ
00:01:26 → 00:01:29 สัตว์ซึ่งได้ประโยชน์ต่อสุขภาพเช่นได้
00:01:29 → 00:01:32 วิตามินแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายรวมถึง
00:01:32 → 00:01:35 สารต้านอนุมูลอิสระร่างกายได้รับไฟเบอร์
00:01:35 → 00:01:38 มากขึ้นช่วยเรื่องการขับถ่ายควบคุมน้ำ
00:01:38 → 00:01:40 หนักลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง
00:01:40 → 00:01:43 ต่างๆเช่นเบาหวานความดันไขมันโรคหลอด
00:01:43 → 00:01:46 เลือดและหัวใจเป็นต้นขณะที่แหล่งโปรตีน
00:01:46 → 00:01:50 ส่วนมากมาจากพืชเป็นหลักเช่นเต้าหู้พืช
00:01:50 → 00:01:53 ตระกูลถั่วธัญพืชการงดกินเนื้อสัตว์แม้จะ
00:01:53 → 00:01:56 ดีต่อสุขภาพแต่ต้องกินอาหารให้หลากหลาย
00:01:56 → 00:01:59 เพื่อป้องกันภาวะขาดสารอาหารในร่างกาย
00:01:59 → 00:02:02 ซึ่งมีมีเสียงที่จะขาดวิตามินบี 12 และ
00:02:02 → 00:02:05 ธาตุเหล็กนอกจากนี้การปรุงอาหารควรจะเน้น
00:02:05 → 00:02:08 รูปแบบการต้มนึ่งรถการทอดและระมัดระวัง
00:02:08 → 00:02:11 ปริมาณคาร์โบไฮเดรตไขมันเนื่องจากเป็น
00:02:11 → 00:02:14 กลุ่มที่ให้พลังงานสูงหากกินมากเกินไปอาจ
00:02:14 → 00:02:17 ส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นนำไปสู่โรค
00:02:17 → 00:02:18 อ้วนได้
00:02:18 → 00:02:21 มีการงดรับประทานเนื้อสัตว์ทั้งสองวิธี
00:02:21 → 00:02:24 เป็นอีกทางเลือกในการกินอาหารเพื่อดูแล
00:02:24 → 00:02:27 สุขภาพที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันแต่
00:02:27 → 00:02:29 สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกกินอาหารให้
00:02:29 → 00:02:32 ครบ 5 หมู่ตามหลักโภชนาการเพื่อสร้างคุ้ม
00:02:32 → 00:02:36 กันลดการอักเสบในร่างกาย
00:02:36 → 00:02:40 มีเนื้อซ่าไปแล้วว่าอาหารยังมีผลต่อ
00:02:40 → 00:02:43 เรื่องของระบบคุมการรวมถึงเรื่องของการ
00:02:43 → 00:02:46 อักเสบค่ะทีนี้เรามาดูกันคำว่าการทาน
00:02:46 → 00:02:48 อาหารประเภทไหนทานอย่างไรที่จะช่วยเสริม
00:02:48 → 00:02:51 สร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงยิ่งขึ้น
00:02:51 → 00:02:55 มาดูกันที่ตัวแรกเลยค่ะเขาเรียกว่ามาโคร
00:02:55 → 00:02:57 New เสี้ยนหรือว่าสารอาหารหลักสารอาหาร
00:02:57 → 00:03:00 หลักในที่นี่ก็คงเป็นอาหารที่ให้พลังงาน
00:03:00 → 00:03:03 กับเราเป็นอาหารที่เราต้องการในปริมาณมาก
00:03:03 → 00:03:06 ไม่ว่าจะเป็นคาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันค่ะ
00:03:06 → 00:03:09 ซึ่งโดยทั่วไปแล้วสัดส่วนในการรับประทาน
00:03:09 → 00:03:12 พาโบไฮเดรทเนี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 60
00:03:12 → 00:03:14 เปอร์เซ็นต์ค่ะโปรตีนประมาณ 15-20
00:03:14 → 00:03:17 เปอร์เซ็นต์และไขมันประมาณ 20-30
00:03:17 → 00:03:20 เปอร์เซ็นต์ต่อวันที่นี้ปัจจัยที่กำหนด
00:03:20 → 00:03:24 ว่าใครบ้างที่จะต้องทานอาหารแบบไหนสัด
00:03:24 → 00:03:27 ส่วนเท่าไหร่นะคะขึ้นอยู่กับอายุเพศความ
00:03:27 → 00:03:29 ต้องการพลังงานเนี่ยอาจจะขึ้นอยู่กับ
00:03:29 → 00:03:33 สถานะสภาวะโภชนาการของแต่ละคนนะคะกิจกรรม
00:03:33 → 00:03:36 ทางกายหรือว่าการเคลื่อนไหวการใช้พลังงาน
00:03:36 → 00:03:38 ของแต่ละท่านนี่เป็นตัวที่บอกว่าแต่ละคน
00:03:38 → 00:03:42 เนี่ยได้รับพลังงานต่อวันแตกต่างกันค่ะใน
00:03:42 → 00:03:45 ส่วนของโปรตีนค่ะซึ่งเป็นสารอาหารที่
00:03:45 → 00:03:48 จำเป็นต่อการสร้างเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน
00:03:48 → 00:03:51 การสร้างฮอร์โมนนะคะแล้วก็ซ่อมแซมเนื้อ
00:03:51 → 00:03:54 เยื่อส่วนต่างๆในร่างกายเสริมสร้างกล้าม
00:03:54 → 00:03:57 เนื้อให้แข็งแรงค่ะแหล่งอาหารที่มีโปรตีน
00:03:57 → 00:04:01 มีมากมายส่วนมากพบในเนื้อสัตว์ถั่วนมไข่
00:04:01 → 00:04:04 นะคะความต้องการโปรตีนในแต่ละวันเนี่ย
00:04:04 → 00:04:08 เฉลี่ยประมาณ 0.8 ถึง 1 กรัมต่อน้ำหนัก
00:04:08 → 00:04:11 เป็นกิโลกรัมต่อวันค่ะทีนี้ถ้าทานโปรตีน
00:04:11 → 00:04:15 มากไปเนี่ยอาจจะมีอันตรายต่อตับไตได้นะคะ
00:04:15 → 00:04:17 ก็ควรจะทานในปริมาณที่เหมาะสมแต่ถ้าเกิด
00:04:17 → 00:04:21 ทานน้อยไปเนี่ยก็จะส่งผลต่อภูมิคุ้มกันทำ
00:04:21 → 00:04:23 ให้ร่างกายไม่แข็งแรงเช่นกันค่ะเพราะ
00:04:23 → 00:04:26 ฉะนั้นทานในปริมาณที่เหมาะสมนะคะในส่วน
00:04:26 → 00:04:29 ของไขมันค่ะไขมันเป็นสารอาหารที่จำเป็น
00:04:29 → 00:04:32 ต่อการสร้างฮอร์โมนและการดูดซึมวิตามิน
00:04:32 → 00:04:35 ที่ละลายในไขมันเช่นวิตามินเอวิตามินดี
00:04:35 → 00:04:39 วิตามินอีและวิตามินโอเคค่ะแหล่งอาหารที่
00:04:39 → 00:04:42 ให้พลังงานให้ไขมันกับเรานะคะก็จะมี 2
00:04:42 → 00:04:45 แบบคร่าวๆก็คือไขมันอิ่มตัวและไขมันไม่
00:04:45 → 00:04:49 อิ่มตัวค่ะไขมันอิ่มตัวเนี่ยแนะนำว่าทาน
00:04:49 → 00:04:52 ในปริมาณที่น้อยนะคะพบได้ในจำพวกของเนื้อ
00:04:52 → 00:04:56 สัตว์ไขมันสัตว์เครื่องในนมเนยต่างๆค่ะ
00:04:56 → 00:04:59 ส่วนไขมันไม่อิ่มตัวหมอแนะนำตัวนี้มาก
00:04:59 → 00:05:03 กว่าค่ะเพราะว่าพบโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นสาร
00:05:03 → 00:05:05 อาหารที่จำเป็นต่อการลดการอักเสบในร่าง
00:05:05 → 00:05:09 กายได้ค่ะไขมันไม่อิ่มตัวพบได้ในปลาทะเล
00:05:09 → 00:05:13 เช่นปลาแซลมอนปลาทูปลาทูน่าปลากระพงค่ะ
00:05:13 → 00:05:17 เมล็ดแทกซิสวอนัทค่ะลองไปทานกันดูนะคะพูด
00:05:17 → 00:05:20 ถึงสารอาหารหลักกลุ่มที่ให้พลังงานและก็
00:05:20 → 00:05:23 ร่างกายต้องการปริมาณมากกันไปแล้วนะคะที
00:05:23 → 00:05:26 นี้มาดูในส่วนของสารอาหารรองได้แก่
00:05:26 → 00:05:29 วิตามินและแร่ธาตุค่ะวิตามินและได้ถ้า
00:05:29 → 00:05:32 เนี่ยร่างกายต้องการในปริมาณที่เล็กน้อย
00:05:32 → 00:05:35 แต่ว่ามีความสำคัญมากค่ะถ้าขาดหรือว่า
00:05:35 → 00:05:38 ร่างกายได้รับอามาที่ไม่เพียงพอเนี่ยก็
00:05:38 → 00:05:41 อาจจะส่งผลต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
00:05:41 → 00:05:45 และระบบอื่นๆในร่างกายได้ค่ะมาดูกันที่
00:05:45 → 00:05:48 ตัวแรกค่ะวิตามินเอ Vitamin A เนี่ยจะพบ
00:05:48 → 00:05:52 ในรูปของแคโรทีนและดิน้อยค่ะซึ่งแคโรทีน
00:05:52 → 00:05:56 เนี่ยมากในมันฝรั่งแครอทผักโขมฟักทอง
00:05:56 → 00:06:00 ค่ะส่วนเบลีน้อยเนี่ยพบได้ในไข่นมชิปกุ้ง
00:06:00 → 00:06:02 ความต้องการต่อวันประมาณ 600-700
00:06:02 → 00:06:05 ไมโครกรัมแล้วก็ไม่ควรทานเกิน 3,000 กรัม
00:06:05 → 00:06:08 ต่อวันนะคะเพราะอาจจะมีอันตรายต่อกระดูก
00:06:08 → 00:06:12 ได้มาดูที่วิตามินซีกันบ้างค่ะเป็นตัวยอด
00:06:12 → 00:06:15 ฮิตที่ทุกคนให้ความสนใจกันมากเลยโดยเฉพาะ
00:06:15 → 00:06:19 ช่วงการระบาดของโควิช 19 นี้หลายท่านหา
00:06:19 → 00:06:21 ซื้อวิตามินรับประทานจำนวนมากมาดูการข่าว
00:06:21 → 00:06:24 ว่าวิตามินซีมีความสำคัญยังไงวิตามินซี
00:06:25 → 00:06:27 เนี่ยเป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพ
00:06:27 → 00:06:30 ค่อนข้างสูงมากเลยค่ะส่วนใหญ่เนี่ยจะอยู่
00:06:30 → 00:06:33 ในผักและก็ผลไม้ร่างกายต้องการวิตามินซี
00:06:33 → 00:06:37 ประมาณวันละ 85 ถึง 100 mg ค่ะอีกทีนี้
00:06:37 → 00:06:40 ถ้าบริโภคจากอาหารเสริมหรือว่าแหล่งต่างๆ
00:06:40 → 00:06:43 นะคะก็ไม่ควรบริโภคเกิน 2,000 บาทต่อวัน
00:06:43 → 00:06:47 ค่ะที่นิดผักผลไม้เวลาที่เราจะนำมาประกอบ
00:06:47 → 00:06:50 อาหารค่ะส่วนมากเนี่ยเราจะต้องระวังใน
00:06:50 → 00:06:53 เรื่องของความร้อนและก็การโดนน้ำเพราะว่า
00:06:53 → 00:06:56 วิตามินซีเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำการที่
00:06:56 → 00:06:59 พักโดนความร้อนสูงและก็ใช้เวลานานเนี่ย
00:06:59 → 00:07:03 ค่ะมีส่วนทำให้สูญเสียวิตามินซีได้ค่ะใน
00:07:03 → 00:07:06 ส่วนของวิตามินดีก็เป็นวิตามินที่มีความ
00:07:06 → 00:07:09 สำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันมากๆเช่นกันค่ะ
00:07:09 → 00:07:11 แต่ว่าเป็นวิตามินที่ร่างกายสามารถสร้าง
00:07:11 → 00:07:15 ได้เองด้วยการโดนแสงแดดแต่ว่าคุณจะต้องมี
00:07:15 → 00:07:17 ปริมาณของไขมันโดยเฉพาะคอเลสเตอรอลที่
00:07:17 → 00:07:20 เพียงพอนะคะหมายความว่าถ้าคนที่ทาง
00:07:20 → 00:07:22 คอเลสเตอรอลน้อยไปต้องมีผลต่อการสร้าง
00:07:22 → 00:07:26 วิตามินดีได้เช่นกันวิตามินดีเนี่ยมีความ
00:07:26 → 00:07:29 สำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันแล้วยังมีความ
00:07:29 → 00:07:32 สำคัญต่อการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด
00:07:32 → 00:07:34 ด้วยค่ะมาดูที่วิตามินอีกันบ้างค่ะ
00:07:35 → 00:07:38 วิตามินอีหรือโทฟก็เข้านะคะอาจจะเคยได้
00:07:38 → 00:07:41 ยินตามผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของเจลต่างๆหรือ
00:07:41 → 00:07:43 ว่าในน้ำมันพืชก็มีส่วนประกอบของวิตามิน
00:07:43 → 00:07:47 อีในนั้นค่ะวิตามิน E เนี่ยเป็นแอนไทน์
00:07:47 → 00:07:49 หรือว่าแอนตี้ออกซิแดนท์ในภาษาไทยก็คือ
00:07:49 → 00:07:53 สารต้านอนุมูลอิสระค่ะวิตามินอียังพบมาก
00:07:53 → 00:07:57 ในผักใบเขียวแครอทน้ำมันจมูกข้าวสาลีค่ะ
00:07:57 → 00:08:01 โดยความต้องการของวิตามินอีในแต่ละวัน
00:08:01 → 00:08:04 เนี่ยไม่ควรบริโภคเกิน 1,000 กรรมต่อวัน
00:08:04 → 00:08:07 นะคะมาดูกันที่สั่งจะสีค่ะสังกะสีเนี่ย
00:08:07 → 00:08:10 เป็นหนึ่งในแร่ธาตุที่ค้นหาซื้อมาทานช่วง
00:08:11 → 00:08:13 นี้มากๆเลยนะคะเพราะว่าทราบกันดีว่ามีผล
00:08:13 → 00:08:16 ในการช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่าง
00:08:16 → 00:08:20 กายของเราสังกะสีพบมากนะคะในไข่นมเนื้อ
00:08:20 → 00:08:23 สัตว์เครื่องในหอยนางรมสัตว์ปีกแล้วก็ปลา
00:08:23 → 00:08:26 ค่ะปริมาณที่แนะนำต่อวันประมาณ 10
00:08:26 → 00:08:28 มิลลิกรัมแล้วก็ไม่ควรเกิน 40 mg นะคะ
00:08:28 → 00:08:32 นอกจากนี้ยังมีแหล่งอาหารที่น่าสนใจที่พบ
00:08:32 → 00:08:35 ว่ามีส่วนช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบ
00:08:35 → 00:08:38 ภูมิคุ้มกันที่ดีนะก็คือโพรไบโอติกหรือ
00:08:38 → 00:08:41 ว่าจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ของเราค่ะแหล่ง
00:08:41 → 00:08:45 อาหารที่มีโปรไบโอติกสูงพบได้ในกิมจินม
00:08:45 → 00:08:48 เปรี้ยวโยเกิร์ตค่ะแล้วก็ในส่วนของ
00:08:48 → 00:08:50 พรีไบโอติกพรีไบโอติกเนี่ยเป็นอาหารของ
00:08:50 → 00:08:54 โพรไบโอติกอีกทีนึงนะคะพรีไบโอติกเนี่ยพบ
00:08:54 → 00:08:58 มากในกระเทียมหัวหอมกล้วยเข้าโอ๊ตค่ะนอก
00:08:58 → 00:09:01 จากอาหารที่ช่วยในการเสริมภูมิคุ้มกัน
00:09:01 → 00:09:04 แล้วทีนี้มาดูอาหารที่มีผลต่อการอักเสบ
00:09:04 → 00:09:07 ค่ะอาหารชนิดที่เราควรจะหลีกเลี่ยงเพราะ
00:09:07 → 00:09:10 ว่าส่งผลต่อการอักเสบในร่างกายก็ได้แก่
00:09:10 → 00:09:14 กลุ่มของคาร์โบไฮเดรตเช่นขนมปังขาวน้ำตาล
00:09:14 → 00:09:18 ของหวานต่างๆค่ะ Send File ของทอด Soda
00:09:18 → 00:09:21 นั่งอัดลมน้ำหวานหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำ
00:09:21 → 00:09:24 ตาลสูงรวมถึงเนื้อแดงเนื้อสัตว์แปรรูปมา
00:09:24 → 00:09:27 การีนและก็น้ำมันค่ะซึ่งอาหารเหล่านี้ค่ะ
00:09:27 → 00:09:30 ถ้าทานในปริมาณที่มากเกินไปเกินความ
00:09:30 → 00:09:33 ต้องการของร่างกายค่ะส่งผลให้เกิดการ
00:09:33 → 00:09:36 อักเสบเรื้อรังทำให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ
00:09:36 → 00:09:39 ได้ไม่ว่าจะเป็นโรคหลอดเลือดสมองเบาหวาน
00:09:39 → 00:09:43 หัวใจอัลไซเมอร์โรคข้อเสื่อมค่ะขอบคุณที่
00:09:43 → 00:09:46 ติดตามรับชมเขียน NK Cell นะคะอย่าลืมกด
00:09:46 → 00:09:49 Subscribe กดกระดิ่งกดไลค์กดแชร์ทุกช่อง
00:09:49 → 00:09:52 ทางออนไลน์ของ TNN ช่อง 16 เพื่อที่จะได้
00:09:52 → 00:09:55 ไม่พลาดรับชมรายการสดและคลิปวีดีโออื่นๆ
00:09:55 → 00:10:00 ที่น่าสนใจอีกมากมายค่ะอ่ะ