ทำไมการกินผักโขมดิบจึงอาจทำให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุได้น้อยลง?

4 ผักอันตราย ห้ามกินดิบ! เสี่ยงป่วยหนัก ไตวาย ลำไส้อักเสบ | Podcast สุขภาพ EP.328

จากช่อง : Podcast สุขภาพดี ชีวิตดี สร้างได้


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:04 [เพลง]

00:00:0400:00:06 You're listening to Sad X channel

00:00:0600:00:07 podcast

00:00:0700:00:11 >> สวัสดีครับและนี่คือรายการพcastสุขภาพดี

00:00:1100:00:14 ชีวิตดีสร้างได้พื้นที่เล็กๆสำหรับคนวัย

00:00:1400:00:17 ทำงานรวมถึงผู้ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่วัย

00:00:1700:00:21 เกษียณและผู้สูงวัยทุกท่าน

00:00:2100:00:24 ผู้ฟังครับคุณคิดว่าผักทุกชนิดปลอดภัย

00:00:2400:00:28 เสมอไปหากกินดิบหรือไม่คุณอาจคุ้นเคยกับ

00:00:2800:00:31 การกินผักสดเพื่อให้ได้วิตามครบถ้วนแต่

00:00:3100:00:33 รู้หรือไม่ว่ามีผักบางชนิดที่หากกินดิบ

00:00:3300:00:36 เข้าไปอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพร้ายแรงตั้ง

00:00:3600:00:39 แต่ท้องเสียลำไส้อักเสบไปจนถึงอันตราย

00:00:3900:00:43 ต่อมไทรรอยด์และที่น่าตกใจคือบางชนิดอาจ

00:00:4300:00:47 ถึงขั้นเป็นพิษต่อระบบประสาทและไตวันนี้

00:00:4700:00:49 เราจะมาเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับสผักยอด

00:00:4900:00:52 นิยมที่คนส่วนใหญ่มักกินดิบแต่แท้จริง

00:00:5200:00:55 แล้วกลับแฝงอันตรายซ่อนอยู่อย่าเพิ่งวาง

00:00:5500:00:58 ใจว่าผักที่คุณชอบกินดิบจะปลอดภัยเสมอไป

00:00:5800:01:01 เรามาทำความเข้าใจไปพร้อมกันครับว่าผัก

00:01:0100:01:03 ชนิดใดบ้างที่เราควรหลีกเลี่ยงการบริโภค

00:01:0300:01:06 ดิบและเหตุผลทางวิทยาศาสตร์เบื้องหลังคือ

00:01:0600:01:09 อะไรติดตามฟังให้จบใน 5-10 นาทีนี้ครับ

00:01:0900:01:13 เพื่อชีวิตที่ยืนยาวและแข็งแรงของคุณเอง

00:01:1300:01:17 1 ถั่วงอบระวังภัยจากแบคทีเรียที่มองไม่

00:01:1700:01:21 เห็นถั่วงอบของโปรดของใครหลายคนนิยมใส่ใน

00:01:2100:01:25 ก๊วยเตี๋ยวยำหรือกินคู่กับผัดไทยด้วยความ

00:01:2500:01:28 กรอบอร่อยและสดใหม่แต่แท้จริงแล้วถั่วงอก

00:01:2800:01:30 ดิบมีความเสี่ยงสูงต่อการปนเปื้อน

00:01:3000:01:33 แบคทีเรียที่เป็นอันตรายเช่นเชื้อ

00:01:3300:01:36 อีโคไลด์และแซนโมเนล่าซึ่งเป็นสาเหตุหลัก

00:01:3600:01:39 ของอาการท้องเสียลำไส้อักเสบปวดท้อง

00:01:3900:01:43 รุนแรงและอาเจียนในกระบวนการเพาะถั่วงอก

00:01:4300:01:46 สภาพแวดล้อมที่อุ่นและชื้นนั้นเอื้อต่อ

00:01:4600:01:48 การเจริญเติบโตของเชื้อโรคเหล่านี้เป็น

00:01:4800:01:51 อย่างมากแบคทีเรียเหล่านี้สามารถเพิ่ม

00:01:5100:01:53 จำนวนได้อย่างรวดเร็วในถั่วงอกดิบทำให้

00:01:5300:01:56 แม้การล้างด้วยน้ำสะอาดเพียงอย่างเดียวก็

00:01:5600:01:58 อาจไม่เพียงพอที่จะกำจัดแบคทีเรียออกไป

00:01:5800:02:02 ได้ทั้งหมดดังนั้นเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

00:02:0200:02:05 จึงควรนำถั่วงอกไปลวกหรือทำให้สุกด้วย

00:02:0500:02:08 ความร้อนก่อนบริโภคเพียงการลวกในน้ำเดือด

00:02:0800:02:11 ระยะเวลาสั้นๆก็สามารถช่วยลดความเสี่ยง

00:02:1100:02:13 จากการปนเปื้อนเชื้อโรคได้อย่างมีนัยยะ

00:02:1300:02:16 สำคัญแล้วครับโดยเฉพาะกลุ่มเป่าบางเช่น

00:02:1600:02:19 เด็กเล็กผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีภูมิคุ้ม

00:02:1900:02:22 กันบกพร่องควรหลีกเลี่ยงการบริโภคถั่วงอก

00:02:2200:02:24 ดิบโดยเด็ดขาดครับ

00:02:2400:02:28 2 กะหล่ำปลีและกะหล่ำดอกผัก 2 สหายที่

00:02:2800:02:31 ผู้ป่วยไทรอยด์ควรหลีกเลี่ยงดิบๆกะหล่ำ

00:02:3100:02:33 ปลีและกะหล่ำดอกเป็นผักอีก 2 ชนิดที่ได้

00:02:3300:02:37 รับความนิยมสูงมักถูกนำมาทำสลัดหรือกิน

00:02:3700:02:40 คู่กับน้ำพริกแบบดิบๆอย่างไรก็ตามผัก

00:02:4000:02:43 ตระกูลกะหล่ำเหล่านี้มีสารที่เรียกว่า

00:02:4300:02:45 กลอยโตเจนซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่สามารถ

00:02:4600:02:49 เข้าไปรบกวนการทำงานของต่อมไทรอยด์ได้สาร

00:02:4900:02:52 กลอยโตเจนจะเข้าไปยับยั้งการดูดซึม

00:02:5200:02:55 ไอโอดีนซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ต่อม

00:02:5500:02:58 ไทรรอยด์จำเป็นต้องใช้ในการผลิตฮอร์โมน

00:02:5800:03:01 การบริโภคดิบในปริมาณมากจึงอาจทำให้ภาวะ

00:03:0100:03:04 ไทรอยด์ต่ำแย่ลงไปอีกและสำหรับคนทั่วไป

00:03:0400:03:07 ที่สุขภาพแข็งแรงการกินในปริมาณที่พอ

00:03:0700:03:10 เหมาะอาจไม่เป็นปัญหาแต่การปรุงให้สุก

00:03:1000:03:12 ด้วยความร้อนจะช่วยลดปริมาณสารกลอยโตเจน

00:03:1200:03:15 ลงได้มากเนื่องจากความร้อนจะไปทำลายโครง

00:03:1500:03:18 สร้างของสารเหล่านี้ทำให้ผักเหล่านี้ปลอด

00:03:1800:03:21 ภัยยิ่งขึ้นสำหรับทุกคนครับ

00:03:2100:03:24 3 หน่อไม้และมันสำปะหลังอันตรายร้ายแรง

00:03:2400:03:28 จากไซยานายหน่อไม้และมันสัมปหลังเป็นพืช

00:03:2800:03:30 ที่มีประโยชน์และเป็นส่วนประกอบของอาหาร

00:03:3000:03:33 หลายชนิดแต่ทั้ง 2 ชนิดนี้มีสารพิษตาม

00:03:3300:03:35 ธรรมชาติที่ร้ายแรงมากนั่นคือไฮโดรเจน

00:03:3600:03:38 ไซยานไนายซึ่งเป็นสารพิษที่ออกฤทธิ์ต่อ

00:03:3800:03:40 ระบบประสาทอย่างรุนแรงและอาจเป็นอันตราย

00:03:4000:03:43 ถึงชีวิตได้หากได้รับในปริมาณมากหรือแม้

00:03:4300:03:46 แต่ปริมาณน้อยๆก็อาจทำให้เกิดอาการคลื่น

00:03:4600:03:50 ไส้อาเจียนปวดท้องเวียนศีรษะและในกรณี

00:03:5000:03:53 รุนแรงอาจนำไปสู่ภาวะไตวายเฉียบพลันได้

00:03:5300:03:57 ครับการกำจัดสารพิษนี้สามารถทำได้โดยใช้

00:03:5700:04:00 ความร้อนซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่

00:04:0000:04:03 สุดการต้มหน่อไม้หรือมันสำปะหลังให้สุก

00:04:0300:04:06 นานพออย่างน้อย 10-15 นาทีหรือจนกว่าจะ

00:04:0600:04:09 นิ่มจะเป็นการช่วยสลายสารพิษเหล่านี้ให้

00:04:0900:04:12 หมดไปทำให้เราสามารถบริโภคได้อย่างปลอด

00:04:1200:04:14 ภัยและได้รับประโยชน์จากสารอาหารอื่นๆที่

00:04:1400:04:18 มีอยู่การบริโภคโดยไม่ผ่านการปรุงสุกจึง

00:04:1800:04:21 เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำโดยเด็ดขาดครับ

00:04:2100:04:25 4. ผักโขมลดการดูดซึมแร่ท่าสำคัญหากกิน

00:04:2500:04:28 ดิบผักโขมเป็นผักใบเขียวที่ขึ้นชื่อ

00:04:2800:04:30 เรื่องธาตุเหล็กและแคลเซียมสูงซึ่งหลายคน

00:04:3100:04:34 นิยมนำมาทำสมูทตี้หรือกินในสลัดดิบๆเพื่อ

00:04:3400:04:36 หวังจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่แต่ความ

00:04:3600:04:39 จริงแล้วผักโขมดิบมีสารที่เรียกว่า

00:04:3900:04:42 ออกซิเลตในปริมาณที่สูงมากครับสาร

00:04:4200:04:45 ออกซิเลตนี้มีคุณสมบัติในการจับตัวกับแร่

00:04:4500:04:48 ธาตุสำคัญอย่างแคลเซียมและเหล็กในทางเดิน

00:04:4800:04:51 อาหารทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมแร่ธาตุ

00:04:5100:04:54 เหล่านี้ไปใช้ได้อย่างเต็มที่และอาจนำไป

00:04:5400:04:57 สู่ปัญหาการสะสมของออกซิเลตในไตซึ่งเพิ่ม

00:04:5700:04:59 ความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไตได้ในระยะ

00:04:5900:05:03 ยาวการปรุงผักโขมด้วยความร้อนเช่นการต้ม

00:05:0300:05:06 หรือนึ่งจะช่วยลดปริมาณออกซิเลตลงได้

00:05:0600:05:08 อย่างมากทำให้ร่างกายสามารถดูดซึม

00:05:0800:05:12 แคลเซียมและเหล็กจากผักโขมได้ดีขึ้นและลด

00:05:1200:05:14 ความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพที่เกิดจาก

00:05:1400:05:16 ออกซิเลตสะสมครับการนึ่งหรือลวกเพียงไม่

00:05:1600:05:19 กี่นาทีก็เพียงพอที่จะลดระดับออกซิเลตลง

00:05:1900:05:21 ได้มากแล้ว

00:05:2100:05:24 ท่านผู้ฟังครับการบริโภคผักเป็นสิ่งที่ดี

00:05:2400:05:26 ต่อสุขภาพแต่การรับประทานอย่างถูกวิธี

00:05:2600:05:29 นั้นสำคัญยิ่งกว่าผักทั้ง 4 กลุ่มที่เรา

00:05:2900:05:32 ได้พูดถึงในวันนี้ไม่ว่าจะเป็นถั่วงอบ

00:05:3200:05:34 กะหล่ำปลีและกะหล่ำดอกหน่อไม้และมัน

00:05:3400:05:37 สำปะหลังหรือผักโขมล้วนมีคุณค่าทาง

00:05:3700:05:40 โภชนาการแต่ก็แฝงอันตรายไว้หากบริโภคแบบ

00:05:4000:05:43 ดิบโดยไม่รู้ถึงข้อควรระวังการหลีกเลี่ยง

00:05:4300:05:46 การกินผักเหล่านี้แบบดิบและหันมาปรุงให้

00:05:4600:05:48 สุกด้วยความร้อนที่เหมาะสมไม่ใช่เพียงแค่

00:05:4800:05:51 การป้องกันตัวเองจากสารพิษหรือเชื้อโรค

00:05:5100:05:53 แต่ยังเป็นการช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึม

00:05:5300:05:56 สารอาหารสำคัญได้อย่างเต็มที่อีกด้วยการ

00:05:5600:05:58 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กน้อยนี้จะช่วยให้

00:05:5800:06:01 คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากผักที่คุณรัก

00:06:0100:06:04 และส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงมีสุขภาพที่ดี

00:06:0400:06:07 ในระยะยาวลดความเสี่ยงของอาการป่วยที่อาจ

00:06:0700:06:09 เกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นครับผมหวังเป็น

00:06:0900:06:12 อย่างยิ่งว่าข้อมูลในวันนี้จะเป็น

00:06:1200:06:14 ประโยชน์และเป็นแรงบันดาลใจให้ท่านผู้ฟัง

00:06:1400:06:17 ทุกคนหันมาใส่ใจเรื่องการเตรียมและปรุง

00:06:1700:06:19 อาหารมากยิ่งขึ้นเพื่อสุขภาพที่ดีและ

00:06:1900:06:22 ชีวิตที่เปลี่ยนด้วยพลังหลังนะครับก่อน

00:06:2200:06:25 จากกันในวันนี้ผมอยากชี้แจงให้ทราบว่า

00:06:2500:06:28 เนื้อหาในพcastของเรามีวัตถุประสงค์เพื่อ

00:06:2800:06:31 ให้ข้อมูลและความรู้ทั่วไปเท่านั้นไม่

00:06:3100:06:33 สามารถใช้อ้างอิงหรือทดแทนคำแนะนำจาก

00:06:3300:06:36 แพทย์ได้คุณผู้ฟังควรพิจารณาและใช้

00:06:3600:06:40 วิจารณญาณในการตัดสินใจด้วยตนเองและหากมี

00:06:4000:06:43 ข้อสงสัยเรื่องสุขภาพควรปรึกษาแพทย์หรือ

00:06:4300:06:46 ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เสมอนะครับหากคุณ

00:06:4600:06:50 ชื่นชอบพcสของเราอย่าลืมกดติดตามและแชร์

00:06:5000:06:52 ให้เพื่อนเพื่อนๆหรือคนในครอบครัวที่คุณ

00:06:5200:06:55 รักนะครับเพราะการแบ่งปันความรู้เป็นสิ่ง

00:06:5500:06:58 ที่มีคุณค่าอย่างยิ่งขอบคุณที่รับฟังแล้ว

00:06:5800:07:04 พบกันใหม่ในตอนหน้าสวัสดีครับ