00:00:06 → 00:00:10 มีโรคที่ทำให้เราคลั่งแมวหรือไม่
00:00:10 → 00:00:12 แล้วคุณเป็นโรคนี้อยู่หรือเปล่า
00:00:12 → 00:00:13 ก็อาจจะนะ
00:00:13 → 00:00:16 และมันใกล้ตัวคุณมากกว่าที่คิดเสียอีก
00:00:16 → 00:00:18 เรากำลังพูดถึงโรคทอกโซพลาสโมซิส
00:00:18 → 00:00:22 โรคนี้เกิดจากโปรโตซัว ทอกโซพลาสมา กอนดิอาย
00:00:22 → 00:00:27 เช่นเดียวกับปรสิตทั่วไป ทอกโซพลาสมาอาศัยอยู่ในสัตว์เจ้าบ้าน
00:00:27 → 00:00:30 และใช้มันเป็นที่สืบพันธุ์ให้กำเนิดลูกหลาน
00:00:30 → 00:00:35 เพื่อที่จะสืบเผ่าพันธุ์ เจ้าปรสิตนี้จะเข้าไปควบคุมสมอง
00:00:35 → 00:00:36 ของแมว
00:00:36 → 00:00:37 เหยื่อสัตว์ฟันแทะของมัน
00:00:37 → 00:00:40 และอาจยังรวมถึง นกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่น ๆ
00:00:40 → 00:00:43 ซึ่งก็รวมถึงมนุษย์เราด้วย
00:00:43 → 00:00:47 มีการบันทึกถึงการติดเชื้อชนิดนี้ในมนุษย์ ตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ
00:00:47 → 00:00:50 เราพบตัวอย่างในมัมมี่
00:00:50 → 00:00:54 ทุกวันนี้ประชากรหนึ่งในสามของโลก ติดเชื้อปรสิตนี้
00:00:54 → 00:00:57 และพวกเขาส่วนใหญ่ก็ไม่รู้ตัว
00:00:57 → 00:01:00 ในคนที่สุขภาพดีนั้น มักจะไม่มีการแสดงอาการแต่อย่างใด
00:01:00 → 00:01:04 แต่ถ้ามี อาการนั้นก็แค่คล้ายกับเป็นหวัดอ่อน ๆ
00:01:04 → 00:01:06 แต่นั่นเป็นอาการทางกายภาพเท่านั้น
00:01:06 → 00:01:10 ทอกโซพลาสมายังเข้าไปอาศัยในสมองของเรา
00:01:10 → 00:01:14 และเข้ามาแอบเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเราด้วย
00:01:14 → 00:01:18 เพื่อจะทำความเข้าใจ ว่ามันทำเช่นนั้นไปทำไม เราต้องมาดูกันที่วงจรชีวิตของปรสิตนี้
00:01:18 → 00:01:22 ในขณะที่ปรสิตนี้สามารถเพิ่มจำนวนได้ ในสัตว์เจ้าบ้านหลากหลายประเภท
00:01:22 → 00:01:27 มันสามารถสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ ได้เฉพาะในลำไส้ของแมวเท่านั้น
00:01:27 → 00:01:31 โดยลูกหลานของมันหรือ โอโอซิสต์ จะถูกปล่อยออกมาพร้อมกับมูลของแมว
00:01:31 → 00:01:36 แมวเพียงตัวเดียวสามารถแพร่โอโอซิสต์ ได้ถึงหนึ่งร้อยล้านโอโอซิสต์
00:01:36 → 00:01:40 ถ้ามีสัตว์อื่น เช่น หนู กินโอโอซิสต์นี้ไปโดยไม่ตั้งใจ
00:01:40 → 00:01:45 มันจะเข้าไปยังเนื้อเยื่อของหนู และเจริญเติบโตสร้างถุงน้ำในเนื้อเยื่อ
00:01:45 → 00:01:47 และถ้าหนูตัวนี้ถูกแมวกินเข้าไป
00:01:47 → 00:01:51 ถุงน้ำในเนื้อเยื่อก็จะปล่อยลูก ๆ ของปรสิตออกมา
00:01:51 → 00:01:54 ที่จะผสมพันธ์ุเพื่อสร้างโอโอซิสต์ใหม่
00:01:54 → 00:01:55 เป็นวงจรชีวิตสืบของมัน
00:01:55 → 00:01:56 แต่ปัญหาก็คือ
00:01:56 → 00:02:01 โดยปกติแล้วหนูจะพยายามหลบหลีกแมว ทำให้วงจรนี้ไม่สมบูรณ์
00:02:01 → 00:02:04 ทอกโซพลาสมามีวิธีแก้ปัญหา
00:02:04 → 00:02:10 ปรสิตนี้บุกเข้าไปกับเม็ดเลือดขาว เพื่อไปยังสมองของหนู
00:02:10 → 00:02:14 ซึ่งพวกมันสามารถไปรบกวนสมอง ส่วนที่สร้างความกลัวต่อผู้ล่าตามธรรมชาติ
00:02:14 → 00:02:19 สัตว์ฟันแทะที่ติดเชื้อนี้ จะประมาทมากขึ้น และต่อสนองต่อสิ่งรอบตัวช้ามากขึ้น
00:02:19 → 00:02:24 ที่น่าแปลกที่สุดก็คือ หนูพวกนี้จะชอบฉี่ของแมว
00:02:24 → 00:02:28 ซึ่งทำให้มันมีโอกาส ที่จะเจอกับแมวได้มากขึ้นด้วย
00:02:28 → 00:02:31 และช่วยทำให้วงจรชีวิตของปรสิต ครบวงจรสมบูรณ์
00:02:31 → 00:02:33 แล้วปรสิตนี้ทำเช่นนั้นได้อย่างไร
00:02:33 → 00:02:38 แม้ว่าเรายังไม่ทราบแน่ชัดถึงกลไกที่แท้จริง แต่เหมือนว่าปรสิตจะไปเพิ่มโดปามีน
00:02:38 → 00:02:44 ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทในสมอง ที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการอยากรู้อยากเห็น
00:02:44 → 00:02:48 ดังนั้น แนวคิดหนึ่งที่เป็นไปได้ก็คือ ปรสิตนี้ไปจัดการกับสารสื่อประสาท
00:02:48 → 00:02:52 สัญญาณเคมีต่าง ๆ ที่ควบคุมอารมณ์
00:02:52 → 00:02:53 แล้วผลลัพท์ล่ะคืออะไร
00:02:53 → 00:02:55 มันก็คือการดึงดูดสู่ความตายนั่นเอง
00:02:55 → 00:02:58 แต่หนูก็ไม่ได้เป็นเพียงสัตว์ชนิดเดียว ที่ได้รับผลของปรสิตนี้
00:02:58 → 00:03:03 มนุษย์ และสัตว์อื่น ๆ ก็สามารถติดเชื้อนี้ได้
00:03:03 → 00:03:08 เราอาจบังเอิญกินโอโอซิสต์นี้เข้าไป ผ่านทางน้ำที่มีเชื้อ
00:03:08 → 00:03:10 หรือผักผลไม้ที่ไม่ได้ล้าง
00:03:10 → 00:03:12 หรือจากการเล่นทราย
00:03:12 → 00:03:15 หรือการเปลี่ยนทรายในกะบะของแมว
00:03:15 → 00:03:20 นี่เป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเราจึงไม่ให้คนที่ตั้งครรภ์ เปลี่ยนทรายในกระบะของแมว
00:03:20 → 00:03:23 ทอกโซพลาสมาทำให้ทารกพิการได้
00:03:23 → 00:03:26 เรายังสามารถได้รับเชื้อทอกโซพลาสมา ผ่านการกินเนื้อที่ไม่สุก
00:03:26 → 00:03:30 ที่ได้มาจากสัตว์ ที่ได้รับโอโอซิสต์เข้าไปก่อนหน้านั้น
00:03:30 → 00:03:34 และปรสิตนี้สามารถ เข้าไปป่วนสมองของเราได้เช่นกัน
00:03:34 → 00:03:38 การศึกษาต่าง ๆ ได้พบความสัมพันธ์ ระหว่างทอกโซพลาสมาและโรคจิตเภท
00:03:38 → 00:03:39 โรคอารมณ์สองขั้ว
00:03:39 → 00:03:41 โรคย้ำคิดย้ำทำ
00:03:41 → 00:03:43 และการใช้ความรุนแรง
00:03:43 → 00:03:47 มันยังทำให้การตอบสนองต่อสิ่งรอบข้างช้าลง และสมาธิต่ำลงอีกด้วย
00:03:47 → 00:03:51 นั่นอาจจะเป็นเหตุผลว่าทำไมการศึกษาหนึ่ง จึงพบว่าคนที่มักประสบอุบัติเหตุจราจร
00:03:51 → 00:03:56 มีโอกาสมากกว่าเกือบสามเท่า ที่จะมีเชื้อทอกโซพลาสมาอยู่ในร่างกาย
00:03:56 → 00:04:01 ถ้าอย่างนั้น ปรสิตนี้เข้าควบคุมสมองของเรา ในแบบที่ถือว่าเป็นยุทธศาสตร์ทางวิวัฒนาการ
00:04:01 → 00:04:05 เพื่อทำให้แมวผู้ล่ากินเราอย่างนั้นหรือ
00:04:05 → 00:04:09 หรือว่าสมองของเรานั้น ใกล้เคียงกับสมองของสัตว์ฟันแทะมากพอ
00:04:09 → 00:04:15 จนทำให้วิธีการทางประสาทที่ล่อพวกมันเข้ามา มีผลต่อเราเช่นกัน
00:04:15 → 00:04:21 หรือว่าทอกโซพลาสมาเป็นสาเหตุ ที่ทำให้คนมากมายรักและเลี้ยงเจ้าเหมียว
00:04:21 → 00:04:23 อย่างไรก็ตาม เราก็ยังต้องศึกษากันต่อไป
00:04:23 → 00:04:26 เพราะการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ ยังขัดแย้งกับแนวคิดที่ผ่านมา
00:04:26 → 00:04:31 แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ทอกโซพลาสมาก็ได้ผลประโยชน์จากมนุษย์
00:04:31 → 00:04:34 เพื่อเป็นหนึ่งในปรสิต ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก
00:04:34 → 00:04:38 ไม่ใช่เพียงแค่เรายอมให้เจ้าแมว มาอยู่ร่วมโต๊ะกินข้าว
00:04:38 → 00:04:39 หรืออยู่บนเตียงกับเรา
00:04:39 → 00:04:42 การเลี้ยงปศุสัตว์และสร้างสังคมเมือง ที่ดึงดูดสัตว์ฟันแทะ
00:04:42 → 00:04:45 ได้ทำให้มีสัตว์เจ้าบ้านอีกหลายพันล้านตัว
00:04:45 → 00:04:49 และคุณกับเจ้าแมวของคุณ ก็อาจถูกรวมอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย