00:00:01 → 00:00:03 โน้ท
00:00:03 → 00:00:09 [เพลง]
00:00:09 → 00:00:14 มีคนเป็นมะเร็งห้ามกินน้ำตาลห้ามทานของ
00:00:14 → 00:00:20 หวานจริงหรือไม่เดี๋ยวมาฟังคำตอบกันครับ
00:00:20 → 00:00:21 ม.ค
00:00:21 → 00:00:24 โน้ท
00:00:24 → 00:00:28 ก็สวัสดีครับรู้สู้มะเร็งกับผมหมูนะครับ
00:00:28 → 00:00:32 ผมชื่อว่าหลายๆคนคงเคยอ่านบทความนะครับ
00:00:32 → 00:00:35 หรือแม้แต่การบอกต่อจากเพื่อนๆนะครับที่
00:00:35 → 00:00:39 หวังดีกับท่านนะครับซึ่งก็จะมีบทความที่
00:00:39 → 00:00:44 มักจะพูดถึงว่าการที่เรามีมะเร็งนะครับ
00:00:44 → 00:00:48 ว่ามะเร็งจะเติบโตได้เนี่ยเขาใช้น้ำตาล
00:00:48 → 00:00:51 เป็นหลักนะครับก็อย่างนั้นอยากจะจัดการ
00:00:51 → 00:00:55 กับเนี่ยเราจะต้องตัดตัดไม่กินน้ำตาล
00:00:55 → 00:00:58 เดี๋ยวมะเร็งมันก็จะฝ่อไปเองนะครับหรือ
00:00:58 → 00:01:01 มันก็จะเล็กลงไปอะไรประมาณนั้นนะครับซึ่ง
00:01:01 → 00:01:05 ตรงนี้ต้องบอกก่อนว่า
00:01:05 → 00:01:10 นี่เป็นการจับแพะกับแกะมาชนกันนะครับมัน
00:01:10 → 00:01:12 ไม่สามารถเกิดขึ้นได้นะครับที่จะทำให้
00:01:12 → 00:01:13 มะเร็ง
00:01:13 → 00:01:17 เล็กลงหรือขาดสารอาหารด้วยการไม่รับ
00:01:17 → 00:01:19 ประทานน้ำตาลนะครับเดี๋ยวผมอธิบายให้ฟัง
00:01:19 → 00:01:22 นะครับในเรื่องนี้คงต้องมี 2 ใบเป็นหลักๆ
00:01:22 → 00:01:25 นะครับที่เราคงจะต้องนึกถึงนะครับประเด็น
00:01:25 → 00:01:29 แรกนะครับคือถ้าเรางดกินน้ำตาลแล้วร่าง
00:01:29 → 00:01:32 กายเราขาดน้ำตาลจริงหรือเปล่านะครับคำตอบ
00:01:32 → 00:01:36 ก็คือไม่ใช่ครับถ้าท่านยังทานข้าวอยู่ถ้า
00:01:36 → 00:01:38 ท่านยังทานแป้งอยู่แต่ท่านยังทานอาหารที่
00:01:38 → 00:01:42 มีคาร์โบไฮเดรตนึกถึงอ่ะอาจเวลาต้นที่เรา
00:01:42 → 00:01:44 เรียนสุขศึกษานะครับไม่รู้เดี๋ยวนี้เรียน
00:01:44 → 00:01:47 ศึกษาหรือเปล่านะครับแต่ว่าจะมีเรื่องของ
00:01:47 → 00:01:51 อาหารหลัก 5 หมู่นะครับคาร์โบไฮเดรต
00:01:51 → 00:01:54 ทุกชนิดที่รับประทานเข้าไป
00:01:54 → 00:01:57 แต่หลังจากเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วร่างกาย
00:01:57 → 00:01:59 เราจะย่อยกลายเป็นน้ำตาลเชิงเดียวนะครับ
00:01:59 → 00:02:03 ก็คือเป็นครู Coast แต่ว่าน้ำตาลเป็น
00:02:03 → 00:02:07 หน่วยย่อยในกลุ่มของคาโบไฮเดรตนะครับ
00:02:07 → 00:02:11 เพราะฉะนั้นการไม่ทานน้ำตาลเนี่ยเดียว
00:02:11 → 00:02:16 เราก็ยังได้น้ำตาลจากแหล่งอื่นนะครับ
00:02:16 → 00:02:18 เพราะฉนั้นประเด็นเรื่องว่าไม่ทานน้ำตาล
00:02:18 → 00:02:21 อย่างเดียวละกายเราขาดน้ำตาหรือเปล่าก็คง
00:02:21 → 00:02:24 ไม่ใช่นะครับอันนี้เป็นเรื่องแรกนะครับ
00:02:24 → 00:02:26 เพราะฉะนั้นคนที่บอกว่างดกินแต่น้ำตาล
00:02:26 → 00:02:29 อย่างเดียวก็จะจัดการได้กับกับตัวของ
00:02:29 → 00:02:32 มะเร็งได้อันนี้คงไม่มีความจริงถ้าเรายัง
00:02:32 → 00:02:35 ไม่ขาดคาร์โบไฮเดรตนะครับประเด็นที่สองนะ
00:02:35 → 00:02:39 ครับถ้าสมมติว่าเรางดคาร์โบไฮเดรตได้ทั้ง
00:02:39 → 00:02:43 หมดสมมติว่ามีคนถามอย่างนี้นะครับลงงดได้
00:02:43 → 00:02:46 หมดเลยไม่มีน้ำตาลอยู่ในร่างกายถามว่า
00:02:46 → 00:02:50 แล้วเซลล์มะเร็งมันจะโดนจัดการไปหรือ
00:02:50 → 00:02:52 เปล่ามันจะเล็กลงต่ำจะดีขึ้นหรือเปล่านะ
00:02:52 → 00:02:55 ครับอันนี้ผมเปรียบเทียบให้เอาง่ายๆนะ
00:02:55 → 00:03:00 ครับสมมติว่าท่านมีสวนนะครับซึ่งมีคลอง
00:03:00 → 00:03:03 เป็นน้ำหล่อเลี้ยงฝั่งตรงข้ามท่านก็มี
00:03:03 → 00:03:05 ส่วนเหมือนกันเป็นส่วนของเพื่อนบ้านนะ
00:03:05 → 00:03:07 ครับปรากฏว่าท่านเห็นส่วนของเพื่อนบ้าน
00:03:07 → 00:03:09 นั้น
00:03:09 → 00:03:13 เริ่มต้นไม้ผลไม้ออกรากไม้เจริญเติบโตดี
00:03:13 → 00:03:17 มากๆเลยถ้ารู้สึกอิจฉาท่านอยากจะให้แบบ
00:03:17 → 00:03:21 ต้นไม้พวกนั้นมันเห*่ยวเฉาไปเพราะว่าคิด
00:03:21 → 00:03:23 ว่าเขาได้แหล่งน้ำ
00:03:23 → 00:03:26 a b นะครับซึ่งตรงนี้ถ้าบอกว่าถ้างั้น
00:03:26 → 00:03:28 ก็
00:03:28 → 00:03:30 จะเอาดินไปถมปากคลองเลย
00:03:30 → 00:03:35 อย่าปิดเลยไม่ให้เขาได้รับสารอาหารเลยก็
00:03:35 → 00:03:37 เหมือนกับตอนนี้ที่เรากำลังคิดอยู่ตอน
00:03:37 → 00:03:40 เนี้ยก็คือว่าเอาปิดเลยไม่กิน
00:03:40 → 00:03:46 คาร์โบไฮเดรตเลยจบเซลล์มะเร็งก็ไม่ได้
00:03:46 → 00:03:49 คะแล้วถ้าลืมคิดถึงตัวเองหรือเปล่าครับ
00:03:49 → 00:03:52 ตัวท่านเองก็ขาดสารอาหารไปเหมือนกันแต่
00:03:52 → 00:03:55 ทานชายคลองอันเดียวกันซึ่งมะเร็งก็ได้รับ
00:03:55 → 00:03:59 กับสารอาหารผ่านทางเลือด
00:03:59 → 00:04:01 ก็ผ่านทางหลอดเลือดไปหล่อเลี้ยง
00:04:01 → 00:04:03 เซลล์ของท่าน
00:04:03 → 00:04:08 และก็ได้รับสารอาหารจากเลือดที่ไปหล่อ
00:04:08 → 00:04:12 เลี้ยงถ้าในเลือดไม่มีน้ำตาลตัวท่านก็มี
00:04:12 → 00:04:15 น้ำตาลตัวทางน้ำไม่มีสารอาหาร
00:04:15 → 00:04:18 ก็เพราะฉะนั้นตัวท่านเองก็ขาดสารอาหาร
00:04:18 → 00:04:21 เช่นกันครับแล้วการที่ไม่มี
00:04:21 → 00:04:25 ยังไม่ได้ทานข้าวบอกให้เดชที่สมสุดท้ายจะ
00:04:25 → 00:04:27 เปลี่ยนเป็นน้ำตาลร่างกายต่างก็ต้องการ
00:04:27 → 00:04:30 พลังงานก็ต้องไปดึงมาจากแหล่งอื่นต้องไป
00:04:30 → 00:04:34 ดึงโปรตีนมาถ้าท่านทานโปรตีนไม่พอเขาก็
00:04:34 → 00:04:36 ต้องดึงโปรตีนมาจากในร่างกายในส่วนต่างๆ
00:04:36 → 00:04:40 เช่นกล้ามเนื้อนะครับดึงออกจากไขมันหรือ
00:04:40 → 00:04:43 ไขมันดอกมากมาแปลเปลี่ยนเป็นน้ำตาลซึ่ง
00:04:43 → 00:04:45 กระบวนการนี้ก็ยุ่งยากเหมือนกันแต่ร่าง
00:04:45 → 00:04:49 กายก็จัดการได้แต่ว่ากระบวนการร่างกายจะ
00:04:49 → 00:04:53 รวนหมดเลยนะครับแล้วสุดท้ายผลเสียจะเกิด
00:04:53 → 00:04:56 กับร่างกายของท่านด้วยเช่นกันเพราะฉะนั้น
00:04:56 → 00:05:00 ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยที่ท่านจะงดทาน
00:05:00 → 00:05:03 คาร์โบไฮเดรตนะครับเพราะฉะนั้นบทสรุปอัน
00:05:03 → 00:05:07 นี้นะครับก็คือว่าการทานหรือไม่ทานน้ำตาล
00:05:07 → 00:05:11 ก็แล้วแต่ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องว่าจะทำ
00:05:11 → 00:05:14 ให้มะเร็งมันเล็กมันโตมันใหญ่มันกระจาย
00:05:14 → 00:05:17 มากขึ้นไม่เกี่ยวเลยนะครับ
00:05:17 → 00:05:19 แล้วแต่
00:05:19 → 00:05:25 มีแต่ว่าเราคือผมหมอและทุกๆคนก็ไม่ได้นำ
00:05:25 → 00:05:27 ให้ท่านทะรับประทานอาหารที่มี
00:05:27 → 00:05:31 คาร์โบไฮเดรตสูงๆอาหารที่มีความหวานมากๆ
00:05:31 → 00:05:33 นะครับเพราะนั่นจะทำให้สุขภาพของท่านแย่
00:05:33 → 00:05:37 ลงท่านก็อาจจะเป็นโรคอื่นตามมาเช่นโรคเบา
00:05:37 → 00:05:41 หวานไขมันอุดตันหรืออะไรก็แล้วแต่โรคหัว
00:05:41 → 00:05:43 ใจโรคอะไรนี้เป็นต้นนะครับไม่ใช่มองเฉพาะ
00:05:43 → 00:05:45 แค่เรื่องของโรคมะเร็งอย่างเดียวนะครับ
00:05:45 → 00:05:49 เพราะฉะนั้นสามารถทานได้ในปริมาณที่เหมาะ
00:05:49 → 00:05:52 สมนะครับแล้วก็เพียงพอต่อความต้องการของ
00:05:52 → 00:05:56 ร่างกายเท่านั้นนะครับสำหรับท่านที่ได้
00:05:56 → 00:05:58 รับชมคลิปนี้แล้วรู้สึกว่ามีประโยชน์นะ
00:05:58 → 00:06:02 ครับแล้วก็ก็อยากจะเผยแพร่ต่อให้กับคนที่
00:06:02 → 00:06:05 อาจจะมีความเชื่อเรื่องนี้นะครับซึ่งเป็น
00:06:05 → 00:06:08 ความเชื่อที่ผมเชื่อว่าหลายๆคนจนได้รับมา
00:06:08 → 00:06:11 หมดและได้รับฟังจากเพื่อนรอบข้างและผู้
00:06:11 → 00:06:14 หวังดีมาหมดแล้วท่านก็สามารถจะแบ่งปัน
00:06:14 → 00:06:18 เพื่อให้เขาเข้าใจนะครับว่าความเชื่อนี้
00:06:18 → 00:06:21 อ่ะว่ามันมีข้อเท็จจริงอย่างไรนะครับแล้ว
00:06:21 → 00:06:24 ถ้าใครสนใจก็สามารถติดตามคลิปนี้นะครับ
00:06:24 → 00:06:28 อย่างนี้นะครับได้ทุกวันที่ 1 แล้วก็วัน
00:06:28 → 00:06:31 ที่ 15 นะครับผ่านทางช่องทางด้านล่างที่
00:06:31 → 00:06:33 ผมได้แชร์ไว้นะครับ
00:06:33 → 00:06:36 ค่ะสำหรับวันนี้ผมคงต้องขอลาไปก่อนนะครับ
00:06:36 → 00:06:41 แล้วพบกันใหม่ในคลิปหน้านะครับสวัสดีครับ