00:00:00 → 00:00:03 บโซเชียลแชร์แนวทางการรักษาหัวใจหากตรวจ
00:00:03 → 00:00:06 เจอแคลเซียมหลอดเลือดหัวใจควรต้องไปฉีดสี
00:00:06 → 00:00:12 ทำบอลลูนขยายหลอดเลือดหือชัวร์
00:00:12 → 00:00:15 หรอเรื่องนี้ถ้าจริงก็มีประโยชน์และควร
00:00:15 → 00:00:17 รีบบอกกันครับแต่ก่อนจะแชร์ต่อต้องเช็ค
00:00:17 → 00:00:19 ให้ถูกชัวร์ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์สำนักข่าว
00:00:19 → 00:00:22 ไทยอสมทสอบถามกับอาจารย์แพทย์ที่สาขาวิชา
00:00:22 → 00:00:24 โรคหัวใจและหลอดเลือดภาควิชาอายุรศาสตร์
00:00:24 → 00:00:27 โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์และอดีตนายกสมาคมโรค
00:00:28 → 00:00:30 หัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชอุปถัมภ์
00:00:30 → 00:00:32 ถ้าตรวจเจอแคลเซียมในเส้นเลือดหัวใจต้อง
00:00:32 → 00:00:35 รีบไปฉีดสีทำบัลลูนจริงเหรอครับถ้าคนไข้
00:00:35 → 00:00:38 ไม่มีอาการไปเช็คอัพเฉยๆว่ามีแคลเซียมใน
00:00:38 → 00:00:40 หลอดเลือดเนี่ยไม่ใช่ข้อบ่งชี้ว่าเรา
00:00:40 → 00:00:42 จำเป็นจะต้องไปฉีดสีดูหลอดเลือดหัวใจ
00:00:42 → 00:00:44 อาจารย์อธิบายการตรวจแคลเซียมหลอดเลือด
00:00:44 → 00:00:46 หัวใจการตรวจแคลเซียมเนี่ยมีมาผมว่า
00:00:46 → 00:00:49 ประมาณ 20 ปีได้แคลเซียมเนี่ยก็เป็นความ
00:00:49 → 00:00:51 เสื่อมอันนึงของหลอดเลือดการเสื่อมเนี่ย
00:00:51 → 00:00:54 มันก็จะมีหินปูนมาก่อนปริมาณแคลเซียม
00:00:54 → 00:00:56 เนี่ยสัมพันธ์กับอายุที่เพิ่มขึ้นแล้วก็
00:00:56 → 00:00:58 สัมพันธ์กับความเสี่ยงที่จะเกิดรหลอด
00:00:58 → 00:01:01 เลือดหัวใจในอนาคตได้ตรวจเจอแคลเซียมอาจ
00:01:01 → 00:01:04 เป็นสัญญาณแต่ไม่ใช่ข้อสรุปได้ชัดสมมุติ
00:01:04 → 00:01:06 คนไข้ที่มีแคลเซียมในหลอดเลือดแล้วเนี่ย
00:01:06 → 00:01:08 ผมก็ยังแนะนำว่าก็สามารถใช้ชีวิตตามปกติ
00:01:08 → 00:01:10 ไม่ต้องกังวลเพียงแต่ว่านเรื่องของการ
00:01:10 → 00:01:13 ป้องกันการเกิดโรคในอนาคตไม่ว่าจะเป็นการ
00:01:13 → 00:01:16 ออกกำลังคุมเบาหวานคุมความดันถ้าลมมีงด
00:01:16 → 00:01:18 สู่บุหรี่อันนี้ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงที่
00:01:18 → 00:01:20 สำคัญมากอันนี้ก็ช่วยป้องกันโรคหัวใจใน
00:01:20 → 00:01:23 อนาคตแซมสกอไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกว่าเรา
00:01:23 → 00:01:26 ต้องไปฉีดสีการฉีดสีขึ้นกับอาการของคนไข้
00:01:26 → 00:01:28 เป็นหลักแล้วแคลเซียมที่ตรวจพบเกี่ยวกับ
00:01:28 → 00:01:30 อาหารการกินหรือการกินนนมมั้ยครับจริงๆ
00:01:30 → 00:01:34 ข้อมูลของการกินนมเนี่ยไม่ชัดเจนนะแต่ว่า
00:01:34 → 00:01:37 การได้แคลเซียมเสริมในยาที่เรากิน
00:01:37 → 00:01:40 แคลเซียมเนี่ยมีความสัมพันธ์ที่ทำให้มี
00:01:40 → 00:01:43 แคลเซียมในหลอดเลือดหัวใจหรือแคลเซียมที่
00:01:43 → 00:01:46 อื่นๆเพิ่มขึ้นนะอันนี้มีความเสี่ยงมี
00:01:46 → 00:01:48 ความสัมพันธ์กันชัดเจนว่าถ้าเรากิน
00:01:48 → 00:01:50 แคลเซียมที่มากเกินไปเนี่ยก็มีโอกาสที่จะ
00:01:50 → 00:01:53 เกิดแคลเซียมไปเกาะที่หลอดเลือดได้จริงๆ
00:01:53 → 00:01:56 แล้วเราควรไปขอตรวจแคลเซียมมครับปัจจุบัน
00:01:56 → 00:01:58 เนี่ยมีการตรวจแคลเซียมในหลอดเลือดเนี่ย
00:01:58 → 00:02:00 เป็นเช็คอัพซึ่งอันนี้อาจจะไม่ได้มีความ
00:02:00 → 00:02:02 จำเป็นขนาดนั้นที่เราจะต้องไปตรวจเพราะ
00:02:02 → 00:02:05 ว่าเรามีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆพื้นฐานไม่ว่า
00:02:05 → 00:02:08 จะเรื่องของการตรวจเลือดดูเบาหวานการดูไข
00:02:08 → 00:02:11 มันการวัดความดันโลหิตสูงซึ่งเป็นตัวที่
00:02:11 → 00:02:13 ป้องกันไม่ให้เกิดโรคหัวใจในอนาคตได้แล้ว
00:02:13 → 00:02:15 เราต้องควบคุมตรงนี้มากกว่าอาจารย์ย้ำว่า
00:02:15 → 00:02:17 การตรวจแคลเซียมในหลอดเลือดหัวใจเป็น
00:02:17 → 00:02:20 เพียงส่วนหนึ่งอาจไม่ใช่ตัวชี้ชัดฟันธง
00:02:20 → 00:02:22 ว่าเราจะเป็นหรือไม่เป็นโรคหัวใจถึงแม้
00:02:22 → 00:02:25 เราตรวจเจอแคลเซียมหรือไม่เจอแคลเซียมก็
00:02:25 → 00:02:29 โอกาสที่จะมีโรคหัวใจเกิดขึ้นในอนาคตได้
00:02:29 → 00:02:31 ถึงแม้แคแคลเซียมจะเท่ากับ 0 เลยก็ตาม
00:02:31 → 00:02:34 หรือว่าแคลเซียมอาจจะมากก็ไม่ได้การันตี
00:02:34 → 00:02:37 ว่าอนาคตจะเกิดโรคหัวใจแต่ว่าเราต้องควบ
00:02:37 → 00:02:39 คุมปัจจัยเสี่ยงที่จะนำไปสู่โรคหัวใจมาก
00:02:39 → 00:02:42 กว่าแต่หลายครั้งผลตรวจแคลเซียมถูกตีความ
00:02:43 → 00:02:45 และนำไปสู่การตรวจขั้นถัดไปที่อาจจะไม่
00:02:45 → 00:02:48 จำเป็นสำหรับคนไข้ตราบใดที่เราไม่มีอาการ
00:02:48 → 00:02:50 เนี่ยเราคงยังไม่จำเป็นต้องไปตรวจเพิ่ม
00:02:50 → 00:02:53 เติมไม่ว่าจะไปทำ MRI ดูกล้ามหัวใจขาด
00:02:53 → 00:02:55 เลือดหรือเปล่าหรือไปฉีดสีดูหลอดเลือดหัว
00:02:55 → 00:02:58 ใจซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุแล้วก็
00:02:58 → 00:03:00 ไม่มีความจำเป็นที่ต้องทำแบบนั้นยกเว้น
00:03:00 → 00:03:02 ว่าเราจะมีการเปลี่ยนแปลงเช่นมีอาการเจ็บ
00:03:02 → 00:03:05 แน่นหน้าโกมีอาการเหนื่อยผิดปกติเป็นตัว
00:03:05 → 00:03:07 บ่งบอกว่าเราเริ่มมีอาการอันนั้นจะเป็น
00:03:07 → 00:03:09 สิ่งที่เราจะต้องมีการตรวจเพิ่มเติม
00:03:09 → 00:03:12 อาจารย์เปิดภาพชี้ให้ดูตัวอย่างว่าบาง
00:03:12 → 00:03:14 ครั้งแม้จะตรวจเจอแคลเซียมแต่พอตรวจ
00:03:14 → 00:03:17 ละเอียดขึ้นแคลเซียมเหล่านั้นกลับไม่ได้
00:03:17 → 00:03:19 เป็นปัญหาต่อหลอดเลือดหัวใจเเย
00:03:19 → 00:03:21 คอมพิวเตอร์เราดูแคลเซียมเนี่ยมันก็
00:03:21 → 00:03:23 เหมือนกับว่าเราได้ปริมาณรังสีเข้าไปโดย
00:03:23 → 00:03:27 ไม่จำเป็นยิ่งถ้าบางโปรแกรมมีฉีดสี exr
00:03:27 → 00:03:30 คอมพิวเตอร์ดูหลอดเลือดหัวใจด้วยฉีดสี
00:03:30 → 00:03:32 ด้วยนะครับอันนั้นปริมาณรังสีจะยิ่งมาก
00:03:32 → 00:03:35 กว่าดูแคลเซียมอย่างเดียวซึ่งการฉีดสีก็
00:03:35 → 00:03:38 มีความเสี่ยงด้วยการฉีดสีคุณแข้ต้องนอน
00:03:38 → 00:03:40 โรงพยาบาลเราเจาะใส่สายเข้าไปในหลอดเลือด
00:03:40 → 00:03:43 แดงเนี่ยก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดเลือดออก
00:03:43 → 00:03:45 ได้ง่ายตอนที่เราใส่สายเข้าไปในหลอดเลือด
00:03:45 → 00:03:48 หัวใจก็อาจจะทำให้มีหัวใจเต้นผิดจังหวะ
00:03:48 → 00:03:50 ได้หรือบางครั้งเราไปทำอันตรายต่อหลอด
00:03:51 → 00:03:53 เลือดปกติของเราเนี่ยนะแล้วทำให้หัวใจจไ
00:03:53 → 00:03:56 หลอดเลือดมันอุดตันเฉียบพันขึ้นมาอันนี้
00:03:56 → 00:03:59 ก็ทำให้เกิดความเสี่ยงได้ถึงแม้โอกาสที่
00:03:59 → 00:04:01 จะเกิดมันจะไม่เยอะแต่ว่าถ้ามันเกิดแล้ว
00:04:01 → 00:04:04 บางครั้งมันอันตรายอันนี้เราก็ไม่ควรจะไป
00:04:04 → 00:04:06 เสี่ยงในความไม่จำเป็นนอกจากนี้ยังมี
00:04:06 → 00:04:10 เรื่องของสีที่เพิ่มขึ้นนะทำให้ไตอาจจะมี
00:04:10 → 00:04:13 ปัญหาได้ด้วยโดยะคนไข้สู้สูงอายุเนี่ยไต
00:04:13 → 00:04:16 มักจะมีความเสื่อมบางส่วนอยู่แล้วถ้าฉีด
00:04:16 → 00:04:18 ได้สีเข้าไปเก็จะมีโอกาสที่จะทำให้ไต
00:04:18 → 00:04:21 เสื่อมมากขึ้นได้ดังนั้นสรุปแล้วที่แนะนำ
00:04:21 → 00:04:23 ว่าตรวจพบแคลเซียมหลอดเลือดหัวใจต้องรีบ
00:04:23 → 00:04:25 ไปทำบัลลูนหัวใจนี่เป็นยังไงครับถ้าเรา
00:04:25 → 00:04:28 ไม่มีอาการและตรวจเจอแคลเซียมในหลอดเลือด
00:04:28 → 00:04:30 มีปริมาณสูงไม่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้อง
00:04:30 → 00:04:33 ไปฉีดสีณตอนนั้นเพียงแต่ว่าสิ่งที่สำคัญ
00:04:33 → 00:04:36 คือคุมปัจจัยเสี่ยงที่มีผลให้เกิดหลอด
00:04:36 → 00:04:38 เลือดหัวใจตีบในอนาคตให้ดีอันนี้จะเป็น
00:04:38 → 00:04:40 สิ่งที่มีประโยชน์มากที่สุดเข้าใจข้อเท็จ
00:04:41 → 00:04:43 จริงอย่างถูกต้องป้องกันการตัดสินใจคลาด
00:04:43 → 00:04:45 ได้นะครับท่งเรื่องน่าสงสัยแจ้งเตือนภัย
00:04:45 → 00:04:48 ข้อมูลเท็จเพียงแอด Line ูนชัวร์ก่อนแชร์
00:04:48 → 00:04:51 ไว้นะครับเข้าไปที่เพิ่มเพื่อนะค้นหาชัวแ
00:04:51 → 00:04:53 Share ยังมีอีกหลายเรื่องน่าสงสัยว่า
00:04:53 → 00:04:55 สังคมออนไลน์หากได้รับอะไรมาอย่าเพิ่ง
00:04:55 → 00:04:58 แชร์ต่อร่วมตรวจสอบไปด้วยกันกับชั่วก่อน
00:04:58 → 00:05:02 แชร์ M